สัมภาษณ์ "เจ้าพ่อกาสิโนลาสเวกัส"มองการลงทุนIntigrated Resorts ในไทย

เปิดมุมคิด“เจ้าพ่อลาสเวกัส”ลงทุนกาสิโนไทย

ผ่าทางตันด้วย“Intigrated Resorts”

 

เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน : rakdeethai@gmail.com
(ติดตามอ่่านได้ใน"มติชนสุดสัปดาห์ หน้า 40 ฉบับวันที่ 26 มิ.ย.-2ก.ค.2558)

 

ขณะนี้กระแสตอบโต้กันในสังคมถึงความเหมาะสมหรือไม่ กรณีรัฐบาล “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” จะพิจารณารับ-ไม่รับ ข้อเสนอ “เปิดกาสิโนเสรี” เพื่อทำให้ถูกกฎหมายแล้วนำรายได้มาพัฒนาประเทศในอีกหลาย ๆ ด้าน เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคตทั้งภายในประเทศเองก็มีกาสิโนเปิดบริการผิดกฎหมายและบริเวณรอยต่อชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านสมาชิกอาเซียนขณะนี้ก็เปิดกาสิโนล้อมอยู่ทั่วไปหมดกว่า 100 แห่ง โดยสิงคโปร์และมาเลเซียเข้ามาลงทุนอยู่หลายแห่งด้วยกัน

“ถ้าหากกฎหมายของประเทศและรัฐบาลไทยพร้อมจะเปิดเสรีกาสิโน ทางกลุ่ม ลาสเวกัส แซนด์ส คอร์ป ก็สนใจจะเข้ามาลงทุน เพราะอนาคตตลาดการท่องเที่ยวและตลาดไมซ์ (MICE :meeting-incentive-convention-exhibition) รวมถึงเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศในแถบเอเชียเติบโตอย่างรวดเร็ว ในอนาคตจะกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของโลก ไทยเองเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพสูงในหลาย ๆ ด้าน”

เชลดอน เอเดลสัน ประธานกรรมการและเจ้าของลาสเวกัส

 

“เชลดอน เอเดลสัน” เจ้าพ่อกาสิโนใหญ่ที่สุดของโลก ในฐานะประธานกรรมการ “ลาสเวกัส แซนด์ส คอร์ป” เจ้าของธุรกิจรีสอร์ตบูรณาการแบบครบวงจร (Intigrated Resorts :IR ) เคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ระหว่างการเดินทางมาเป็นประธานเปิดเมกะโปรเจ็กต์ “เวเนเชี่ยน มาเก๊า แบรนด์ เดอะโคไต สทริป (THE COTAI STRIP)” ปี 2550

จนถึงขณะนี้ “เวเนเชี่ยน มาเก๊า แบรนด์ เดอะโคไต สทริป (THE COTAI STRIP)” นับเป็นกาสิโนเอนเตอร์เทนเมนต์โครงการขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียมีมูลค่าการลงทุนมากที่สุดกว่า 562,000 ล้านบาท (ขณะนั้น) และนับเป็นการส่งสัญญาณย้ายเงินทุนจากข้ามทวีปจากลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ข้ามฝั่งมาปักธงขยายอาณาจักรแถบเอเชีย โดยสร้างความสั่นสะเทือนให้เจ้าพ่อกาสิโนเอเชียอย่าง “สแตนลีย์ โฮ” กรรมการผู้จัดการ SOCIEDADE DE JOGOS DE MACAU S.A. (SJM) ผู้ถือครอบครองสัมปทานกาสิโนและกิจการอื่น ๆ เกือบทุกอย่างบนเกาะมาเก๊ามายาวนานกว่า 45 ปี ในฐานะเจ้าของกาสิโนที่คนไทยคุ้นชื่อเป็นอย่างดีคือ ลิสบัว (Lisbao Casino ) และ แกรนด์ ลิสบัว มาเก๊า-Grand Lisboa Macau (ปัจจุบันคนไทยถือหุ้นใหญ่) ต้องปรับกลยุทธ์และเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 2550 เช่นกัน

เชลดอน เอเดลสัน นำชมสถาปัตยกรรม เดอะ เวเนเชี่ยน รีสอร์ต กาสิโน

 

เจ้าพ่อกาสิโนลาสเวกัส “เชลดอน เอเดลสัน” แสดงวิสัยทัศน์ไว้ว่าเมื่อเปิดประชาคมอาเซียน (AEC) พื้นที่รอยต่อตะเข็บชายแดนไทยซึ่งเป็นสมาชิกอาเซียนล้วนมีการลงทุนเปิดเสรีกาสิโนเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว ก็ขึ้นอยู่กับว่าเมื่อเปิดประชาคมอาเซียนแล้วกฎหมายไทยจะเปิดโอกาสให้เข้ามาลงทุนหรือไม่ รวมถึงต้องเคารพการตัดสินใจของรัฐบาลไทยด้วยว่าจะเอาอย่างไร

ในมุมมองของนักพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์ กาสิโนสไตล์ Complex Entertainment และ Intigrated Resorts อย่าง “เชลดอน เอเดลสัน” แล้ว เขาเปิดแนวคิดสะท้อนมุมมองหลายต่อหลายครั้งเรื่องที่สื่อมวลชนตั้งคำถามซ้ำ ๆ ว่าความสนใจจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยหรือไม่

บรรยากาศภายใน เดอะ เวเนเชี่ยน มาเก๊า โคไทสตริป

 

ทุกครั้ง “เชลดอน เอเดลสัน” ตอบด้วยประโยคมาตรฐานว่าตัวเขาเองมอง “การเปลี่ยนแปลงของโลกบนพื้นฐานความเป็นจริง” นั่นคือการพัฒนาธุรกิจกาสิโนก้าวหน้าไปไกลมากแล้ว มีลักษณะการผสมผสานเป็นแหล่งบันเทิง สถานที่พักผ่อน และ ศูนย์กลางการทำกิจกรรม ได้รับการพัฒนานำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้เต็มรูปแบบ ภายใต้การจัดการด้วยระบบ “โซนนิ่งพื้นที่”

 

 ภายในบริเวณโครงการเดียวกัน โดยวิธีแยก “โซนเกม” ซึ่งมีตั้งแต่เครื่องเล่นสล็อตแมชชีน โต๊ะรูเล็ต บัคคาร่า และอื่นๆ  “โซนไมซ์นานาชาติ” ที่มีห้องจัดประชุมสัมมนา จัดนิทรรศการแสดง รองรับ ที่มีบริการตามมาตรฐานสากล

 “โซนเอนเตอร์เทนเมนต์” มีโรงละคร นำการแสดงซึ่งเป็นที่สุดของโลกมาโชว์ให้นักท่องเที่ยวและลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการในรีสอร์ตบูรณาการ ด้วยการตั้งราคาขายตั๋วเข้าชมการแสดงได้ในราคาสูง 

“โซนที่พัก” ซึ่งมีทั้งโรงแรม รีสอร์ต ร้านอาหาร และ “โซนช็อปปิ้ง” สามารถดึงแบรนด์เนมและสินค้าพื้นเมืองเข้ามาวางจำหน่ายได้ เช่นใน เวเนเชี่ยน มาเก๊า มีโรงแรมเชนที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลกเข้ามาเปิดบริการมากถึง 14 โรงแรม มีสินค้าแบรนด์เนมลงทุนเปิดช็อปจำหน่ายและในร้านค้าดิวตี้ ฟรี

เอเดลสันมองว่าการลงทุนพัฒนาธุรกิจนั้น มีรูปแบบที่เรียกว่า “รีสอร์ตบูรณาการแบบครบวงจร” หรือ Intigrated Resorts แต่ละประเทศสามารถแบ่งแยกกลุ่มเป้าหมายจากตลาดทั่วโลกและคนท้องถิ่นที่จะเข้ามาใช้บริการได้อย่างชัดเจนในแต่ละโซน ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ ผู้เข้าร่วมประชุมนานาชาติทุกขนาด เรื่อยไปจนถึงกลุ่มครอบครัวก็เข้ามาเยี่ยมชมได้ในโซนพักผ่อนที่เหมาะกับแต่ละวัย ภายใต้การจัดทำระเบียบกฎหมายของประเทศให้ถูกต้องเหมาะสมสอดคล้องกับหลักปฏิบัติจริง

ปัจจุบัน “ลาสเวกัส แซนด์ส คอร์ป” เป็นเจ้าของและผู้ลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ Intigrated Resorts ในมาเก๊า 2 โครงการใหญ่ ภายใต้แบรนด์ เดอะ แซนด์ส มาเก๊า และ เวเนเชี่ยน มาเก๊า ซึ่งสร้างเป็นเมืองขนาดใหญ่โดยการถมทะเลเพื่อพัฒนาโครงการลงทุนดังกล่าวในพื้นที่กว่า 120 เอเคอร์ และลาสเวกัส  แซนด์ส คอร์ป ยังเป็นเจ้าของเมกะโปรเจ็กต์ “มารีน่า เบย์ แซนด์ สิงคโปร์” ซึ่งมีโรงแรมรูปเรือเป็นสัญลักษณ์ มีพิพิธภัณฑ์นวัตกรรมทางสถาปัตยกรรมวิทยาศาสตร์ และ มีศูนย์กลางการจัดประชุม โซนช็อปปิ้ง และ แหล่งรวมร้านอาหารแบรนด์ดังจากทั่วโลก ซึ่งใช้เป็นแม่เหล็กเพิ่มรายได้ให้สิงคโปร์โดดเด่นด้านเพิ่มขึ้นทั้งการค้าขายและชุมทางนักธุรกิจไปพร้อม ๆ กัน

สำหรับประเทศไทย นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ตั้งเป้าจะมีนักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางเข้ามาสร้างรายได้ตลอดปี 2558 นี้ จำนวน 28 ล้านคน ทำรายได้กว่า 1.2 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้มีนักท่องเที่ยวจากตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีนมากถึง 6 ล้านคน

 ภายในวันที่ 1 มกราคม 2559 เมื่อเปิดประชาคมอาเซียน ตามแผนการตลาดของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตลอดปีหน้าจะนำ “นักท่องเที่ยวต่างประเทศจากทั่วโลก” เข้ามาเที่ยวเมืองไทยให้ได้ตามนโยบายของรัฐบาล 30 ล้านคน สร้างรายได้มากกว่า 1.5 ล้านล้านบาท ตลาดหลักยังคงเป็นนักท่องเที่ยวจากจีนและประเทศในแถบภูมิภาคเอเชีย

ส่วนนโยบายเปิดเสรีกาสิโนเพื่อรองรับการเพิ่มรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศนั้น ต้องขึ้นอยู่กับทิศทางและนโยบายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจากสั่งเบรกยกแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2558 ไปแล้ว ในอนาคตข้างหน้าจะตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดทำ Intigrated Resorts อีกหรือไม่อย่างไร ต้องติดตามกันต่อไป