คิงเพาเวอร์"วิชัย-อัยยวัฒน์"2พ่อลูกนำเลสเตอร์คว้าแชมป์

วิชัย-อัยยวัฒน์ 2พ่อลูกเปิดสูตรความสำเร็จปั้นเลสเตอร์
ต่อยอด "ท่องเที่ยว-อาหาร-วัฒนธรรมไทย"ในเวทีโลก

วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม 2559  เวลา 11.00-12.00 น.พบกันทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย” FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” รู้ทันข่าวและสารคดีท่องเที่ยวอัพเดททุกสถานการณ์



วิชัย-อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา 2 พ่อลูก เจ้าของคิงเพาเวอร์ผู้สร้างเลสเตอร์ขึ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก

ช่วงแรกเวลา 11.15 น. ฟังเรื่องราวจาก 2 พ่อลูก “วิชัยกับอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” เจ้าของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ในฐานะประธานและรองประธานสโมสรเลสเตอร์ คนไทยผู้ประสบความสำเร็จในการสร้างปาฏิหาริย์ทั้งในเกมกีฬาและธุรกิจทำให้ชื่อเสียง “ประเทศไทย” โด่งดังไปทั่วโลก ได้เปิดโรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ ถอดรหัสให้สื่อมวลชนไทยและนานาประเทศได้รับรู้ถึง “เส้นทางสู่ความสำเร็จ” จากอดีตสู่ปัจจุบัน

และแผนงานอนาคตอีก 5-10 ปีข้างหน้า เขาทั้งสองพ่อลูกพร้อมจะสร้างโอกาสนำพาชื่อของ“ประเทศไทย” ก้าวไปข้างหน้าเพื่อพิสูจน์ให้โลกรู้ว่า “คนไทยทำได้ไม่แพ้ชาติใดในโลก” ครอบคลุมในหลายเรื่อง ๆ คือ 

1.การพัฒนา“นักเตะเยาวชนไทย” ปีละ 10 คน จำนวนไม่ต่ำกว่า 100 คน เดินเข้าสู่สังเวียนลูกหนังโลก และนำ “สโมสรเลสเตอร์ซิตี้” ผงาดขึ้นเป็นทีมที่ไม่เป็นไม่รองยักษ์ใหญ่ทีมไหน ๆ ด้วยพลังจากหน่วยเล็ก ๆ ซึ่งใช้ใจหลอมรวมเป็นครอบครัวเดียวกันผสมผสานการศึกษาเทคนิคความรู้มาสร้างความสำเร็จ

 2.ต่อยอดแบรนด์ “Amazing Thailand” การท่องเที่ยวของประเทศไทย วิถีวัฒนธรรม อาหาร ผลไม้ และหลากหลายสิ่งดี ๆ ที่มากคุณค่าที่มีอยู่ในเมืองไทย เป็นแม่เหล็กดึงดูดทั่วโลกผ่านการถ่ายทอดสดการแข่งขันแมชสำคัญระดับโลกทุกฤดูกาลแข่งขัน

ติดตามฟังเสียง 2 พ่อลูกได้ทางรายการ วันเสาร์ที่ 21 พ.ค.นี้ เวลา 11.15-11.30 น.

จากนั้นฟังข่าวที่น่าสนใจของวงการท่องเที่ยวในหลากหลายเนื้อหา

 

ข่าวที่ 1 “ททท.ชูนักเตะเลสเตอร์โปรโมตทั่วโลกเที่ยวไทย”

“ศุกรีย์ สิทธิวณิช” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.กับทางเจ้าของคนไทยกลุ่มคิง เพาเวอร์ หารือร่วมกันที่จะดึงนักฟุตบอลสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ มาแสดง “คลิปโปรโมต ท้าทายคนไทยให้เดินทางเที่ยวในประเทศ ภายใต้แคมเปญรวมใจเที่ยวไทย”

 

โดยวางแผนนำคลิปนักเตะนำเสนอผ่านช่องทางการประชาสัมพันธ์

1.คลิปแชร์ทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก (ไวรัลคลิป) ปลุกกระแสความสนใจนักท่องเที่ยวไทยกลุ่มวัยทำงาน และกลุ่มแฟนคลับของทีมฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ หันมาเที่ยวในประเทศขึ้น คาดว่าการจัดทำไวรัลคลิปครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้เกิดการกระตุ้นการเดินทางในโครงการรวมใจเที่ยวไทย เกิดเงินหมุนเวียนในประเทศ 42,960 ล้านบาท

 2.จะให้ทีมนักเตะเลสเตอร์ ซิตี้ ทำการเผยแพร่ วัฒนธรรมไทย ที่เป็นจุดเด่นรู้จักไปทั่วโลก เช่น การทำอาหารไทย การรับประทานอาหารไทยชื่อดัง เช่น ผัดไทย เพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวตามรอยนักเตะเลสเตอร์ ซิตี้ ช่วยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้จักประเทศไทยมากขึ้น ในฐานะแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สร้างความตำนานดังเทพนิยายอีกทั้งมีมีความสด ซึ่งมีเจ้าของทีมเป็นคนไทย

 

 ข่าวที่ 2 “4สนามบินมอบแคชการ์ดช้อปคิงเพาเวอร์”

 

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มอบความสุขให้นักเดินทางด้วยการออกแคมเปญ Airport Cash Card รับฟรี Gift Card รุ่น Limited Leicester City Gift Card Collection สูงสุด 15,000 บาท สามารถซื้อแอร์พอร์ต แคช การ์ด ได้ที่สนามบิน 4 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต ระหว่างวันนี้ – 31 พ.ค.นี้ ซื้อแล้วสามารถใช้นำไปช้อปสินค้าดิวตี้ฟรีได้ทันที หรือเก็บไว้ใช้ได้จนถึงวัน 15 มิ.ย. นี้  จัดเตรียมไว้ให้เลือก 3 ราคา 1.ราคา 25,000 บาท รับฟรีกิฟท์การ์ดมูลค่า 2,500 บาท  2.ราคา 60,000 บาท รับฟรีกิฟท์การ์ดมูลค่า 6,000 บาท 3.ราคา 100,000 บาท รับฟรีกิฟท์การ์ดมูลค่าสูงสุด 10,000 บาท ดูเงื่อนไขและรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ www.kingpower.com หรือคอลเซ็นเตอร์ 1631

 ข่าวที่ 3 “วันธรรมดาน่าเที่ยวยอดขายเกินเป้า100ล้าน”

“ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การจัดงานวันธรรมดาน่าเที่ยว และ งานเอาท์ดอร์ เฟส 2016 ระหว่างวันที่ 12-15 พ.ค.ที่ผ่านมา ประสบควมสำเร็จเกินเป้าหมายในการขับเคลื่อนการตลาด “รวมใจเที่ยวไทย” เนื่องจากมียอดเงินสะพัดภายในงานมากถึง 308 ล้านบาท สูงกว่าเป้าเกือบ 100 ล้านบาท โดยก่อนจัดงานตั้งเป้าไว้เพียง 220 ล้านบาท ตลอดการจัดงาน 4 วันมีผู้เข้าร่วมชมกว่า 208,000 คน พร้อมกันนั้นยังมีผู้ใช้สิทธิ์ซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวภายในงานกว่า 12 ล้านบาทได้ลุ้นรางวัลจากแคมเปญรวมใจเที่ยวไทยได้โชค สำหรับแนวโน้มช่วงไตรมาสที่ 3 ปีนี้ เป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวพร้อมกระตุ้นทำให้มีรายได้รวมทำได้ถึงสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 2.12 แสนล้านบาท เติบโตขึ้น 5.92%  

 ข่าวที่ 4 “บางจากลงทุนเอทานอลเพิ่ม1แห่ง”

“สุรชัย โฆษิตเสรีวงศ์” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านบัญชีและการเงิน บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) กล่าวว่า บริษัทมีแผนลงทุนขยายธุรกิจโรงงานผลิตเอทานอลเพิ่มในปี 2559 อีก 1 แห่ง และขยายสถานีบริการน้ำมันบางจากเพิ่มขึ้นอีก 60 แห่ง ตลอดไตรมาสแรกได้ดำเนินการไปแล้ว 10 แห่ง ทำให้ปัจจุบันมีสถานีบริการรวมทั้งหมด 1,078 แห่ง ส่วนการเดินหน้าธุรกิจบริษัทย่อย บมจ.บีซีพีจี (BCPG) ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า จากพลังงานหมุนเวียน คาดจะไตรมาส 3 ปีนี้จะเข้านำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามเป้าหมาย BCPG มีกำลังการผลิตไฟฟ้าปี 2563 รวมกว่า 500 เมกะวัตต์

ข่าวที่ 5 “ทีเส็บผนึกโพลียูฮ่องกงปั้นไมซ์ด้านการศึกษา”

“นพรัตน์ เมธาวีกุลชัย” ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ ได้จับมือเป็นครั้งแรกกับสถาบัน School of Hotel & Tourism Management, The Hong Kong Polytechnic University (PolyU) ลงนามความร่วมมือภายใต้โครงการ Academic Exchange Programme (AEP) ต่อยอดกิจกรรมแลกเปลี่ยนและขยายเครือข่ายด้านการศึกษาไมซ์ในต่างประเทศ พร้อมทั้งนำสถาบันการศึกษาไทยกว่า 8 แห่ง ร่วมงานเผยแพร่งานวิจัยด้านไมซ์ในงาน 2nd Global Tourism & Hospitality Conference and 15th Asia Pacific Forum for Graduate Students Research in Tourism (Hong Kong 2016) ระหว่างวันที่ 16-18 พฤษภาคม 2559 โดยเน้นกิจกรรมด้านการศึกษา เช่น การแลกเปลี่ยนนักศึกษา บุคคลากรด้านศึกษา งานวิจัยและองค์ความรู้ การให้ทุนการศึกษา การพัฒนาหลักสูตร การจัดงานประชุมทางวิชาการ กิจกกรรมด้านต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อภาคการศึกษาไมซ์

 ข่าวที่ 6 “ทอท.6เดือนแรกกำไรทะลุหมื่นล้าน”

“พูลศิริ ริโรจนาภา” รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานบัญชีแลการเงิน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ได้รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีงบประมาณ 2559 (ระหว่างตุลาคม 2558-มีนาคม 2559) สามารถกำไรสุทธิ 10,192 ล้านบาท เติบโต 15.7 % เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมาทำกำไร 8,803 ล้านบาท ปีนี้กำไรเพิ่มจากปัจจัยยอดผู้โดยสาร 6 เดือน ใช้บริการมากถึง 61.25 ล้านคน เพิ่มขึ้น 12.7 % แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 34.85 ล้านคน ผู้โดยสารในประเทศ 26.40 ล้านคน จากเที่ยวบินรวมทั้งหมด 389,272 เที่ยว เพิ่มขึ้น 10.66 % แบ่งเป็น เที่ยวบินระหว่างประเทศ 202,387 เที่ยว ภายในประเทศ 186,855 เที่ยว

ข่าวที่ 7 ไทยแอร์ฯเอ็กซ์บุกตะวันออกกลางเปิดบิน“อิหร่าน-โอมาน”

“นัดดา บุรณศิริ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการ บินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ในกลุ่มไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ได้เปิดเส้นทางการบินใหม่รุกขยายสู่ตลาดตะวันออกกลางอีก 2 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ -กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เริ่มตั้งแต่ 22 มิ.ย.59 นี้เป็นต้นไป สัปดาห์ละ 3 เที่ยว และกรุงเทพฯ-กรุงมัสกัต ประเทศโอมาน เริ่มตั้งแต่ 28 มิ.ย.นี้ เป็นต้นไป สัปดาห์ละ 3 เที่ยว   ทั้ง 2 เส้นทาง ทำราคาโปรโมชั่นตั๋วโดยสารเริ่มต้นที่ 2,990 บาท ราคานี้จองได้ตั้งแต่วันนี้- 29 พ.ค.59

สถิตินักท่องเที่ยวปี 2558 อิหร่านเดินทางเข้ามาไทย 88,000  คน ปีนี้คาดจะเพิ่มเป็น 220,000 คน ส่วนโอมานเดินทางเข้ามา 130,000 คน และปีนี้คาดจะเพิ่มขึ้น 10-15%

 

ช่วงที่ 2 เวลา 11.45 น.ฟังถึงยุค “ผู้หญิง” ผู้นำเทรนด์เดินทางเที่ยว พาไปไร้แผ่นดิน

โฮมสเตย์ "บ้านบางชัน" อ.ขลุง จันทบุรี-แหล่งท่องเที่ยวชุมชนคนไร้แผ่นดิน

 

@ดื่มด่ำกับชุมชนไร้แผ่นดินคนบางชัน จันทบุรี

กระแส Women Jouney ในเมืองไทยกำลังมาแรง พูดง่าย ๆ คือ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับผู้หญิง วันนี้จะพาซอกแซกไปดู “วิถีไทยในชุมชนคนไร้แผ่นดิน” ย้อนภาพอดีต “เมืองท่าบ้านบางชัน” อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ช่วงเวลากว่า 100 ปีที่ผ่านมา คนไทยและชาวจีนอพยพมาจากอำเภอแหลมสิงห์ อำเภอเมือง มาปักหลักยึดพื้นที่ “บ้านบางชัน” ประกอบอาชีพประมง

หมู่บ้านแห่งนี้จึงเป็นทางผ่าน “เรือเมล์” การสัญจรของชาวกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดตราและจันทบุรี “บางชัน” จึงกลายเป็น “จุดพักเรือ” มีของทะเลสดลำเลียงไปแหล่งต่าง ๆ ต่อมาในปี พ.ศ.2490 จึงเริ่มมีถนนตัดเข้าสู่กรุงเทพฯ การคมนาคมทางเรือจึงเริ่มซบเซาลง

 ทว่าเสน่ห์บางวันทุกวันนี้คงมีร่องรอยให้เห็นถึง “วิถีชีวิต” ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ ทั้ง การทำอาชีพประมงตามแหล่งน้ำธรรมชาติ การเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชังเป็นรายได้เสริม การสัญจรทางน้ำภายในพื้นที่ และเป็นหมู่บ้านที่เปิดประตูบ้านรอรับนักท่องเที่ยวให้เข้าไปเรียนรู้วิถีวัฒนธรรมได้ตลอดเวลา สอบถามได้ที่ อบต.บางชัน  039- 326-590

 สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรี มีให้เลือกมากมาย ในอำเภอขลุง ยังมี “ฟาร์มปูนิ่ม” ต.เกวียนหัก เป็นทั้งฟาร์มและร้านอาหารโอบล้อมด้วยป่าโกงกาง เมนูจัดจ้านจัดเต็มก็มี ปูนิ่มทอดกระเทียม ปูนิ่มผัดพริกไทยดำ อย่างอื่นก็มี หอยนางรมยำ ไข่เจียวกุ้งสับ ปลาหมึกนึ่งมะนาว

ตลาดน้ำพุ ต.วัดใหม่

 

ส่วนใน “อำเภอเมือง” ต้องห้ามพลาดแวะ “ตลาดน้ำพุ” ต.วัดใหม่ เป็นตลาดเช้าและค่ำในตัวเมือง เปิดตั้งแต่ตี 5-11 โมง และ 5 โมงเย็น-4 ทุ่ม จำหน่ายสินค้าพื้นเมืองราคาสบายกระเป๋า ของกินขึ้นชื่อคือ ปลาหมึกย่าง ข้าวคลุกน้ำพริกเกลือ คลุกเคล้าน้ำจิ้มซีฟู้ด เครื่องดื่มยอดฮิตคือ “น้ำอัดลมจรวด” หรือของหวานอย่าง “เต้าฮวย”

 

สถานที่พักค้างก็มีให้เลือกมากมายตั้งแต่โฮมสเตย์เรื่อยไปจนถึงรีสอร์ตหรูทั้งมีแบรนด์และแบบต้นตำรับไทย บริการตามมาตรฐานการท่องเที่ยว สอบถามเพิ่มได้ที่เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย 1672

@ต้องระวังโรคที่มากับคลื่นความร้อน

ปรากฎการณ์ “คลื่นความร้อน” (Heat Wave) มากกว่าปกติ ส่งผลทำให้เหงื่อไม่ระเหยพาความร้อนออกจากร่างกายไม่ได้และรู้สึกอบอ้าวจนระบบเผาผลาญในร่างกายล้มเหลวถึงขั้นเสียชีวิตได้ วงการแพทย์แนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ ผู้เชี่ยวชาญด้านโลกร้อนเตือนว่า ไทยเสี่ยงต่อปรากฏการณ์ “คลื่นความร้อน” มีแนวโน้มสูงที่จะเกิดขึ้นความร้อนพุ่งทะลุ 40 องศาเซลเซียส

ภัยที่มาพร้อมคลื่นความร้อน

1.โรคลมแดด (Heat Stroke) เกิดจากการที่ร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป จนทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส สังเกตอาการเบื้องต้น ได้แก่ เมื่อยล้า อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน วิตกกังวล ปวดศีรษะ ความดันต่ำหน้ามืด ไวต่อสิ่งเร้าได้ง่าย และยังอาจมีผลต่อระบบไหลเวียนเลือด ในบางรายมีภาวะขาดน้ำ เพ้อ ชัก ไม่รู้ตัว เซลล์ตับตาย หายใจเร็ว ปอดบวม มีการคั่งของของเหลว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ช็อก

2.โรคเพลียแดด (Heat Exhaustion) เกิดขึ้นเมื่อออกแรงทำงานหนักหรือออกกำลังกายในที่มีอากาศร้อนและชื้น ทำให้ของเหลวในร่างกายสูญเสียไปในรูปของเหงื่อ ของเหลวที่ร่างกายสูญเสีย เป็นสาเหตุให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อที่สำคัญไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการช็อก

การช่วยเหลือผู้ป่วย

1.ในเบื้องต้น ให้นำผู้ป่วยเข้าที่ร่ม นอนราบ โดยยกเท้าให้สูงทั้งสองข้าง

2.ถอดเสื้อผ้าออก นำผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามซอกตัว คอ รักแร้ เชิงกราน ศีรษะ ร่วมกับการใช้พัดลมเป่าระบายความร้อน หรือเทน้ำเย็นราดลงบนตัว เพื่อลดอุณหภูมิร่างกายให้ต่ำลงโดยเร็วที่สุด

3.รีบนำส่งโรงพยาบาล

ป้องกันความร้อนได้อย่างไร

1.เตรียมร่างกายให้พร้อมด้วยการออกกำลังกายกลางแจ้งอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพและเคยชินกับอากาศร้อน

2.หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดในวันที่อากาศร้อนจัด โดยเฉพาะช่วงเวลา 10.00-15.00 น.

3.ก่อนออกจากบ้านไม่ลืมดื่มน้ำ 1-2 แก้ว หากต้องอยู่ท่ามกลางแจ้งร้อนควรดื่มน้ำชั่วโมงละ 1 ลิตร

ฟังสรุปข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

ข่าวแรก “นกแอร์กอดคอ8แอร์ไลน์ตั้งValue Alliance”

รายงานข่าวหลังการประชุมสายการบินภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ระบุ 8 สายการบิน ซึ่งมีกลุ่มนกแอร์ ได้ร่วมกับพันธมิตรจัดตั้ง “Value Alliance”  เดินหน้ากลยุทธ์แบ่งปันเครือข่ายเส้นทางการบินภายในกลุ่มสร้างโอกาสธุรกิจและรายได้ของสายการบินจะขยายตามเป้า10-25 % โดยทาง สายการบินนกแอร์ นกสกู๊ต สายการบินสกู๊ต ซึ่งบินระยะไกล เริ่มให้บริการพร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายการบินเข้าไว้ด้วยกัน ให้บริการจองบัตรโดยสารผ่านระบบที่เรียกว่า Air Black Box หรือ ABB แล้ว และภายในเร็ว ๆ นี้สายการบินอื่นในกลุ่มพันธมิตรจะสามารถใช้ระบบนี้ได้ ซึ่งผู้โดยสารจะสามารถเลือกเที่ยวบินและสำรองบัตรโดยสารได้โดยตรงจากเว็บไซต์ของแต่ละสายการบิน และสำรองที่นั่งจากสายการบินหนึ่งไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆ ของสายการบินในกลุ่มพันธมิตรได้ ระบบจะเลือกเที่ยวบินที่ดีสุดจากทุกสายการบิน เชื่อมโยงเข้าด้วยกันโดยทำรายการเพียงครั้งเดียว ช่วยเพิ่มตัวเลือกเส้นทางบินไปยังจุดหมายต่างๆ ได้มากขึ้น

สำหรับ 8 สายการบินที่รวมกลุ่มกันทำกลยุทธ์ “แวลู อัลไลแอนซ์” ได้แก่  เซบูแปซิฟิก(ฟิลิปปินส์” สายการบินเจจูแอร์(เกาหลี) นกแอร์ นกสกู๊ต สายการบินสกู๊ต ของไทย ไทเกอร์แอร์ สิงค์โปร์ ไทเกอร์แอร์ ออสเตรเลีย และสายการบินวานิลลาแอร์ เชื่อมโยงเส้นทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียเหนือ รวมถึงการเชื่อมโยงเส้นทางกับทวีปออสเตรเลีย

 

ข่าวที่สอง “ 1ก.ค.นี้เอมิเรตส์เพิ่มบินตรงดูไบ-กรุงเทพฯวันละ7เที่ยว”

 สายการบินเอมิเรตส์ ประกาศว่า 1 ก.ค.นี้ พร้อมเปิดบินตรง “ดูไบ-กรุงเทพฯ วันละ 7 เที่ยว โยเที่ยวบินเปิดใหม่ที่ 7 จะให้บริการด้วยฝูงบินโบอิ้ง 777-300ER วางกลยุทธ์เชื่อมเครือข่ายเที่ยวบินจากคูเวตและโดฮา (ประเทศการ์ตา) เข้ามาประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันบริการตรง ดูไบ-กรุงเทพฯ อยู่แล้วด้วยฝูงบินซูเปอร์จัมโบ้แอร์บัส 380 และ โบอิ้ง 777

 

เมื่อเพิ่มเที่ยวบิน ดูไบ-กรุงเทพฯ เป็นวันละ 7 เที่ยวแล้ว จะทำให้มีเที่ยวบินรองรับผู้โดยสารมากถึงสัปดาห์ละ 49 เที่ยว ด้วยจำนวนที่นั่งมากถึง 2,520 ที่ และบรรทุกสินค้าคาร์โก้ได้มากถึง 134 ตัน

สำหรับเที่ยวบินใหม่ รหัส EK 350 จะออกจากดูไบ เวลา 19.30 น.มาถึงสุวรรณภูมิ 05.00 น.และ เที่ยวบินออกจากกรุงเทพ รหัส EK 351 เวลา 09.00 น.เพื่อบินนำผู้โดยสารต่อเชื่อมจากเส้นทางดูไบเข้า-ออก ยุโรป อาทิ ลอนดอน แฟรงเฟิร์ต ลิสบอน อิสตันบุล แมดริด (สเปน)  บาร์เซโลน่า เป็นต้น

 

พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.

ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน และ นฤมล พุกยม

ติดตามฟังรายการย้อนหลังเข้าไปที่ www.google.com พิมพ์คำว่า รวยด้วยข่าว97.0 หรือทาง www.facebook.com/rauydauykhao และ ข่าววิเคราะห์เจาะลึกทางบล็อกเกอร์ :gurutourza.blogspot.com

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรายการ ขอให้พักผ่อนอย่างมีความสุขตลอดวันหยุด