เปิดใจ“วิชัย-อัยยวัฒน์” ศรีวัฒนประภา
นำเลสเตอร์ซิตี้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ
พลัง“Fearless”ปลุกนักเตะคึกเหนือปาฎิหารย์ผ้ายันต์
เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน :rakdeethai@gmail.com
(อ่านได้ใน มติชนสุดสัปดาห์ หน้า 40 ฉบับ13-19 พ.ค.2559)
ภายในเวลาเพียง 4 ปีเศษ นักธุรกิจสองพ่อลูก “วิชัยและอัยยวัฒน์”
ศรีวัฒนประภา เจ้าของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และ เจ้าของสโมสรฟุตบอล “เลสเตอร์ซิตี้”
ฉายา “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” ในประเทศอังกฤษ
และ “จิ้งจอกสยาม” ในประเทศไทย ก็สามารถเปลี่ยนประวัติศาสตร์หน้าใหม่จนกลายเป็นเทพนิยายในวงการลูกหนังด้วยการผงาดคว้าแชมป์
“พรีเมียร์ลีกอังกฤษ” ฤดูกาล 2015-2016 ” สร้างชื่อเสียง “ประเทศไทย” เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
สองพ่อลูก
“วิชัย-อัยยวัฒน์”
ประธานและรองประธานสโมสรเลสเตอร์ฯ ผู้สร้างเทพนิยายลูกหนัง เปิดเผยถึง
“เบื้องหลังความสำเร็จ”
แบบสายฟ้าแลบว่า ปัจจัยสำคัญมาจากการใช้เคล็ดลับพลัง Fearless ที่เหนือกว่าปาฏิหาริย์ใด ๆ
เริ่มจากเจ้าของทุ่มเทลงไปใช้ชีวิตคลุกคลี “ปรับทัศนคตินักเตะและทีม” พร้อม ๆ กันทั้ง
2 เรื่อง คือ
เรื่องแรก
“ใจ” ทำการล้าง “ความกลัว” แปรเปลี่ยนให้เป็น “พลังฮึกเหิม” โดยได้เขียนเป็นคติประจำทีมว่า
Fearless รวมถึงนำวัฒนธรรมใหม่ใน “การเป็นเจ้าของ” ด้วยสไตล์ “คนไทยแบบชาวตะวันออก”
สร้างกลยุทธ์ East meet West ลงไปพูดคุยทำตัวใกล้ชิดกับนักเตะและทีมงานในสโมสรทุกคนมายาวนานกว่า
4 ปี จนเกิดเป็นปรากฎการณ์ “ไว้ใจ-มั่นใจ-เชื่อใจ-ศรัทธา”
แตกต่างจากที่ผ่านมาสโมสรตั้งขึ้นมา 132 ปี เจ้าของส่วนใหญ่บริหารสไตล์ตะวันตกจะไม่เน้นลงไปคลุกวงในเหมือนคนไทย
เรื่องที่สอง
“กาย” ได้ทุ่มลงทุนทางด้าน “วิทยาศาสตร์การกีฬา” จำนวนนับพันล้านบาท เพื่อ นำมาใช้พัฒนาสมรรถภาพของนักเตะทุกคนตั้งแต่แรกเริ่มซื้อสโมสรเลสเตอร์ซิตี้
ทั้งเรื่องอุปกรณ์เทคโนโลยีสมัยใหม่ครบวงจร การจ้างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเข้ามาดูแลโดยตรงพร้อมกับวางระบบสร้าง
“วินัย” การฝึกตามโครงสร้างความพร้อมทางพัฒนาการของนักเตะแต่ละคน
ซึ่งจะแตกต่างกันไป
วิชัย ศรีวัฒนประภา ในวันประวัติศาสตร์ 7 พฤษภาคม 2559 ณ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เลสเตอร์ ซิตี้ |
“วิชัย”
ยืนยันว่าพลังฮึกเหิมของนักเตะและทุกคนที่เกี่ยวข้องในทีมจะเกิดขึ้นได้ “ใจและกาย” สำคัญมาก
ส่วนปัจจัยสีสันสร้างความฮือฮาที่กำลังกล่าวฝันถึงอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับ “ผ้ายันต์และการทำพิธีกรรมทางศาสนา”
นั้นตนเองและลูกชายไม่ต้องการหยิบยก “ปาฎิหารย์” หรือ “มนต์ขลัง”
ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้อง เหตุผลหลักในการทำพิธีแต่ละครั้งเพียงเพราะในฐานะชาวพุทธที่
“ศรัทธาการทำบุญไหว้พระตามประเพณีปฏิบัติที่มีมาอย่างยาวนาน”
จึงได้นำมาให้คนตะวันตกร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ไปด้วยกัน
ประธานสโมสรเลสเตอร์
ซิตี้ อธิบายว่า หัวใจของความสำเร็จในการคว้าแชมป์ “พรีเมียร์ลีกอังกฤษ” ฤดูกาล
2015-2016 มาจาก “ความสามารถ” ของนักเตะ ผู้จัดการทีม และทุกคนที่เกี่ยวข้องในทีมเลสเตอร์หลอมรวมพลังเป็นหนึ่งเดียวกัน
ขจัดความกลัวได้จนหมดสิ้น
ผนวกกับการพัฒนาโครงสร้างของร่างกายนักเตะด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬาจนแกร่งถึงจุดที่พร้อมจะดวลแข้งกับทุกทีมได้อย่างไร้ข้อจำกัด
จนสามารถลบล้างคำสบประมาทได้ทุกเรื่องราว
ตั้งแต่เรื่อง “ราคาต่อรอง”
ของทีมเลสเตอร์ซิตี้ 5000/1
การตัดสินใจเลือก “กุนซือ” อย่าง "เคลาดิโอ
รานิเอรี่" ชาวอิตาเลี่ยนผู้ซึ่งถูกมองว่าไม่เคยทำทีมใดประสบความสำเร็จมาก่อน
หรือ “การซื้อนักเตะ” ตัวชูเกมอย่าง "Jamie
Vardy" อดีตกองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์เคยอยู่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ซึ่งได้รับการบันทึกสถิติโลกจาก
“กินเนสส์ บุ๊ค” ในฐานะเป็นผู้ยิงประตูต่อเนื่องนานที่สุดถึง
11 เกม ในการเล่นให้กับเลสเตอร์ ซิตี้ ที่เปิดบ้านเสมอ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2558
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ทำหน้าที่แถลงข่าวกับสื่อ วันที่ 5 พฤษภาคม 2559 |
ขณะที่ “อัยยวัฒน์”
รองประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้
สะท้อนมุมมองในฐานะนักบริหารรุ่นใหม่ว่า ช่วง 3 ปีแรกทุ่มเทหนักมาก
บุกเบิกสร้างทุกอย่างทั้งสนาม อะคาเดมี กุนซือ นักเตะ
พอเข้ามาอยู่ในพรีเมียร์ลีกได้ก็เดินหน้าพัฒนานักเตะ การลงทุน
การทำทีมอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ ปีนี้สามารถตอบได้เลยว่าเลสเตอร์ ซิตี้
เป็นทีมที่แข็งแกร่งสุด เช่นเดียวกับทีมอื่น ๆ ก็แข็งแกร่งพอกันกัน
เพียงแต่จุดแข็งของเราเหนือกว่าคู่แข่งกว่าอีกหลายทีมที่นำมาใช้ คือ
ความมุ่งมั่นพยายาม ทีมสปิริต การเข้าใจเข้าถึงกัน
การเชื่อมโยงกันระหว่างแฟนบอลในอังกฤษและทั่วโลก
ซึ่งพูดกันมาตลอดเมื่อจบฤดูกาลนี้เลสเตสเตอร์ฯ จะไปอยู่ตรงไหน
เสียงสะท้อนทั้งหมดจากทุกมุมโลกโดยทั่วไปอาจจะมองเป็น
“แรงกดดัน” แต่สำหรับ “นักเตะเลสเตอร์ซิตี้” กลับแปรเปลี่ยนเป็น “แรงพลัง”
ที่จะพิสูจน์ให้โลกเห็นความสามารถที่แท้จริง ผมกับคุณพ่อบอกกับนักเตะในทีมทุกคนให้ทำจนถึงที่สุด
แต่ต้องทำออกมาให้เห็นเท่านั้น ไม่จำเป็นที่จะต้อง “ได้แชมป์”
“จุดเปลี่ยน”
ที่เป็นแรงส่งให้ทีมก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จนั้นในวงการกีฬาต้องพึ่งสิ่งสำคัญ 4 อย่าง
คือ สต๊าฟ นักเตะ ทีมสปิริต ร่างกาย และโดยเฉพาะ “เจ้าของ” ต้องมี
“เป้าหมายชัดเจน”
เพราะนักเตะก็เปรียบเสมือนนักรบของพวกเราจะวางยุทธศาสตร์การรบแบบไหนจึงจะชนะคู่แข่งในเกม
ทางเราได้สร้าง Welling mentality หมายถึง
“ความกระหายอยากชนะ” ตอนเริ่มเราใช้คติแค่
“เราจะไม่ยอมแพ้” จนกระทั่งต้องเพิ่มคำใหม่คือ Fearless :จะไม่มีความกลัวใด ๆ
ยิ่งในการแข่งขัน “พรีเมียร์ลีก” ด้วยแล้ว
ไม่ยอมแพ้อย่างเดียวคงไม่ได้ จึงต้องเพิ่มคำว่า “ไม่กลัว” ผนวกกับ “สู้ไม่หยุด”
เพื่อให้ทั้งเจ้าของ ผู้จัดการทีม นักเตะ แฟนบอล รู้ที่จะไปถึงหมายด้วยกันทั้งหมด
จึงเกิดปรากฎการณ์แฟนเลสเตอร์สนับสนุนทีมและนักเตะเองก็รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังการสนับสนุนบ้าง
เครดิตจึงเป็นของทุกคนตั้งแต่ พ่อครัว คนซักเสื้อผ้า เรื่อยไปจนถึงแถวหน้าของสโมสร
ต่างฝ่ายต่างช่วยกันแก้ปัญหาเป็น “ครอบครัวเดียวกัน”
เมื่อแผนกไหนล้มก็ฉุดกันลุกขึ้น
สำหรับ “นักเตะ” ต้องให้เครดิตมากที่สุดซึ่งในสโมสรเลสเตอร์
ซิตี้ มุ่งมั่นจะทำเพื่อ “ครอบครัว” ทั้งครอบครัวตัวเองและครอบครัวของคนทั้งโลก
เช่นเดียวกับ “ผู้จัดการทีม” คนปัจจุบันทางเราเลือกตั้งแต่แรก ๆ มีความสามารถโดดเด่นในการ “บริหารแรงกดดันได้ดีมาก”
มีทัศนคติที่จะเปลี่ยนความกดดันเป็นเรื่องโจ๊กซึ่งมีไอเดียและส่งผลแรงเชิงบวกกับทีมได้ดีมาก
ทุกส่วนผสมที่ลงตัวของ “เลสเตอร์ ซิตี้” ในฤดูกาลนี้มาจาก
"ใจ" ซึ่งอยู่เหนือปาฎิหารย์ด้วยการ
"การลงมือทำ" อย่างตั้งใจ มุ่งมั่น ทุ่มเท จึงเกิดเรื่องราวดั่งเทพนิยาย
"พลังศรัทธา" ปลุกความฮึกเหิมกระหายจนคว้าชัยชนะครั้งนี้มาได้ ส่งผลให้
“ประเทศไทย”
ได้รับการจดจำบนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการลูกหนังโลกด้วยฝีมือสองพ่อลูกนักลงทุนคนไทย
ในวันที่
18-19 พฤษภาคม 2559 “วิชัย-อัยยวัฒน์”
และ "เคลาดิโอ รานิเอรี่" จะนำนักเตะเลสเตอร์ซิตี้ บินมาขอบคุณคนไทยทั้งประเทศที่ร่วมเป็นกำลังใจสนับสนุนอย่างเต็มที่มาตลอดจนมีวันแห่งปาฎิหารย์และเทพนิยายลูกหนังโลก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น