จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยานำTCEBผนึกผู้นำไมซ์โลกUFI
ปี’68 ยุโรปจ่อเลือกไทยจัด Health Expo-เกมส์เอ็กซิบิชั่น
ปี’69ไทยเจ้าภาพ3งานโลกUFI
Asia-WorldBank-Expoอุดร
คิงเพาเวอร์รางน้ำเปิดHidden Wonders Picnic 22-23ก.พ.
ช้อปโปรปังที่ “คิงเพาเวอร์” แจกสิทธิพิเศษไม่ยั้ง4ดีลฮ็อต
โปรแห่งรักวาเลนไทน์ช้อปสบายคิงเพาเวอร์ 6 สนามบิน
ททท.ชูเทรนด์“Capture
the Moment @ภาคกลาง” 4 จว.
บางจากร่วม FTI
Expo 2025บูม BCG Model สิ่งแวดล้อม
สุขที่เที่ยวมูเตลูตะวันออก3แห่ง “ปราจีนบุรี-ฉะเชิงเทรา”
5 วิธีรักษาอาการไอเรื้อรังให้ได้ผลจริงหายและไปต่อได้
AOT ยิ้มรับ3
เดือนแรกปี’68กำไรสุทธิทะลัก 5,344
ล้าน
ดุสิต-แกรนด์แลนด์อิงค์เปิดใหม่ ASAI Cebu Oslobปี’69
วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB #มูเตลูตะวันออก
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/1AAtgbTpXD/
ช่วงที่ 1 นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ร่วม UFI ประเดิมข่าวดี ก.พ.ปี’68 เจรจาดึงงานแสดงสินค้ายุโรปหันหัวเรือมาไทย 2 งาน “Health
Show” ลัดฟ้ามาดูพื้นที่ในไทย เม.ย.นี้ “งานเกมส์”
จ่อย้ายจากสิงคโปร์มากรุงเทพฯ
ทีเส็บปิ๊งใช้จุดแข็งผลิตคนป้อนบุคลากรไมซ์เข้าไปทำงาน 4 ประเทศดาวรุ่งไมซ์มาแรง
จีน ฮ่องกง อินเดีย และซาอุดิอาระเบีย ปี’69 ไทยจัด 3
งานโลก “UFI Asia-World Bank-World Expo
อุดรธานี”
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ณ อยุธยา
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผย ว่าหลังการเดินทางไปประชุมกับทางสมาคมการแสดงสินค้าโลก (UFI)
โดยมีสมาชิกจากธุรกิจจัดงานและเจ้าของศูนย์ประชุมเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมแสดงสินค้า
(Exhibition) จัดขึ้นเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่เมืองมิลาน อิตาลี พร้อมทั้งมีนางสาวปนิษฐา บุรี
ผู้บริหารนายกสมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) เข้าร่วมประชุมด้วย
เป็นสุภาพสตรีคนแรกจากเอเชียที่ได้รับเลือกเป็นประธาน/President ของ UFI 2569 สะท้อนถึงความสำเร็จของไทย
งานนี้มีข่าวดีในเวทีประกาศศักยภาพไทยโดดเด่น 2 เรื่อง คือ
เรื่องแรก ยกให้เป็นประเทศอันดับ 4 ด้านการจัดงานแสดงสินค้า/Exhibition
ของภูมิภาคเอเชีย เรื่องที่ 2 แต่งตั้งสตรีไทยเป็นประธานคนต่อไป
ส่วนประโยชน์ทางธุรกิจที่ได้รับจากการเข้าร่วมประชุมครั้งนี้
มีโอกาสพบปะเจรจาเตรียมเพื่อดึงงานขนาใหญ่จากยุโรปหันหัวเรือมาจัดในไทย ได้แก่
งานที่
1 Health Show จากยุโรปกำลังจะเดินทางมาไทยเพื่อพูดคุยกันอีกครั้งช่วงเดือนเมษายน 2568
ทางทีเส็บก็จะได้ประสานกับทางกระทรวงสาธารณสุขผู้ดูแลหลัก
เนื่องจากอุตสาหกรรมสุขภาพและเวลเนสของเมืองไทยได้รับความสนใจจากนานาชาติ
แล้วเมื่อ 3 ปีก่อนไทยก็มีประสบการณ์จัดอีเวนต์ใหญ่งาน Health
Expo 2022 ซึ่งสามารถต่อยอดให้กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจเมดิคัล
และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานไทยมีโรงพยาบาล
สถานบริการสุขภาพที่ได้มาตรฐานสากล ผนวกกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้บริการ
ทางผู้จัดงานเฮลท์
โชว์ ยุโรป มีรายชื่อผู้เข้าร่วมงานที่มีศักยภาพอยู่ด้วย เดือนเมษายน นี้
จะได้หารือถึงรายละเอียดกันอีกครั้ง ซึ่งไทยเองก็มีการจัดงานต่อเนื่อง
จากตัวเลขผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าเฮลท์เวลเนสในไทยแต่ละปีตอนนี้ติดอันดับ 6 ของโลกด้วย
การเข้าร่วมประชุมกับ UFI รอบนี้มีประเทศอื่น ๆ ในเอเชียเข้าร่วมด้วยคือ สิงคโปร์ ฮ่องกง ซึ่ง “การแข่งขันทางการตลาดไมซ์” ศักยภาพของไทยทัดเทียมไม่แพ้ชาติใด โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคม 2568 นี้ ศูนย์ประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ประกาศจะเชื่อมบริการรถไฟฟ้าบีทีเอสเข้าสู่อิมแพ็คอย่างเป็นทางการ จึงทำให้ปีนี้ศูนย์ประชุมนานาชาติในกรุงเทพฯ ทั้งหมดมีรถไฟฟ้าเชื่อมเข้าถึงครบทุกแห่งแล้ว จึงเป็นข่าวดีของไทยสามารถเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เตรียมต้อนรับแรกการจัดงานแสดงสินค้า THAIFEX 2025
งานที่
2 งานแสดงสินค้าเกมส์
กำลังเจรจาเพื่อย้ายจากสิงคโปร์มาไทย
ตั้งแต่ปี
2568-2570 จะมีงานแสดงสินค้ามากมายเลือกไทยและภูมิภาคเอเชีย
เป็นจุดหมายปลายทางการจัดงานไมซ์เพิ่มมากขึ้นมาแรงใน 4 ประเทศอย่าง
อินเดีย สาธารณรัฐประชาชนจีน ไทย โดยเฉพาะ ซาอุดิอาระเบีย
นำเสนอแผนการลงทุนสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติพื้นที่จัดประชุมขนาดใหญ่มาก
รองรับการเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Expo 2030 ดังนั้น “ไทย” จะใช้โอกาสนี้ผนึกเป็นพันธมิตรกับ
“ซาอุดิอาระเบีย”ขยายฐานไมซ์นานาชาติ ใช้จุดแข็งทางด้าน “การฝึกอบรมบุคลากรไมซ์”
จากที่ทีเส็บได้สั่งสมประสบการณ์มากว่า 15 ปี
แล้วก็ยังเป็นองค์กรบุกเบิกและผู้นำจัดทำมาตรฐานสถานที่จัดประชุมทั้ง TMVS
:Thailand MICE Venue Standards และ AMVS :ASEAN MICE Venue
Standards จึงสามารถพูดคุยกับสถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมอยู่ในโครงการนี้
พัฒนานักศึกษาสร้างความพร้อมเสริมศักยภาพผลิตบุคลากรป้อนให้ซาอุดิอาระเบียได้ในอนาคตต่อไป
รวมทั้งยังได้พูดคุยกับ
“สาธารณรัฐประชาชนจีน” และฮ่องกงเองก็ตั้งเป้าหมายจะเป็นเจ้าภาพจัดงาน MICE
SHOW ASIA ขึ้นแบบเดียวกันกับทางยุโรป อเมริกา โดยได้เชิญทีเส็บ
จึงน่าจะเป็นความร่วมมือที่ดี
ผอ.จิรุตถ์
กล่าวว่า การประชุม UFI 2025 ได้นำเสนอผลวิจัยถึงทิศทางตลาดอนาคตมุ่งสู่
“เอเชีย” ซึ่งมีสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งมีพลังสูงจากจีดีพีเติบโตเฉลี่ยปีละ 7
% ต่อเนื่องมาหลายปี กำลังขยายตลาดเอ็กซิบิชั่นมากขึ้น ดังนั้น
“ไทย”
จะร่วมขบวนไมซ์เอเชียสร้างพลังทางเศรษฐกิจด้วยการใช้ศักยภาพของบุคลากรที่ผ่านการอบรมขั้นสูงเป็นจำนวนมาก
รวมถึงผู้อำนวยการทีเส็บได้รับเชิญให้ไปรับธงเจ้าภาพจัดงานระหว่างการประชุม
UFI เอเชียแปซิฟิก 2025
ที่เมืองเมลเบิร์น จะจัดขึ้นที่ MCEC ระหว่างวันที่ 13-14
กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อรับไม้ต่อเพราะไทยได้รับเลือกให้เจ้าภาพจัดงานประชุมของสมาคมการแสดงสินค้าโลก
ประจำภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิกปี 2569 หรือ UFI Asia-Pacific Conference 2026 กำหนดจัดในกรุงเทพมหานคร
จะมีผู้นำเอ็กซิบิชั่นทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาเมืองไทย
ไฮไลต์ปี
2569/ค.ศ.2026 ไทยจะมีงานไมซ์นานาชาติขนาดใหญ่หลายงานด้วยกัน
เช่น งานประชุม World Bank 2026 มีผู้เกี่ยวข้องทางการเงินมารวมตัวกัน
งานพืชสวนโลกอุดรธานี 2569 และงานประชุมสมาคมการแสดงสินค้าโลก
ประจำภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิกปี 2569 หรือ UFI Asia-Pacific Conference 2026 จะทำให้ไทยมีโอกาสต้อนรับบุคคลสำคัญในวงการธุรกิจโลกจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน
“ศูนย์ประชุมนานาชาติ” ก็ตื่นตัวพัฒนาการลงทุนสิ่งอำนวยความสะดวก
ระบบเชื่อมต่อโครงข่ายคมนาคมขนส่ง แล้วรัฐบาลไทยเองได้เร่งปรับปรุง
“ศูนย์ประชุมเชียงใหม่ 700 ปี
จะเป็นโอกาสดีที่จะกระจายงานไมซ์จากต่างประเทศไปยังภูมิภาคอื่น ๆ
แทนการกระจุกตัวอยู่เฉพาะในกรุงเทพฯ เท่านั้น
ผอ.จิรุตถ์
กล่าวว่า ปี2568 ทีเส็บกำลังขับเคลื่อนแผนการตลาด ตอนนี้ไมซ์ 2 ประเทศ มีแนวโน้มจะเติบโตเกิน 5 % ได้แก่
สาธารณรัฐประชาชนจีน และอินเดียปี 2567 มีนักเดินทางกลุ่มไมซ์มาไทย
2.4 แสนคน คิดเป็น 10% ของทั้งหมด
ปีนี้ทีเส็บจะขับเคลื่อนตลาดด้วย 3 S ได้แก่ 1.Spend
More : ใช้จ่ายเงินเพิ่ม 2.Stay Longer : พำนักอยู่ในไทยนานวันขึ้น
3.See You Again กลับมาจัดงานไมซ์ในไทยด้วยความถี่และจำนวนซ้ำปีละหลายครั้ง
กระจายจากกรุงเทพฯ ไปยังภาคอื่นอย่าง ภาคเหนือ เชียงใหม่ ภาคใต้ และภาคอื่น ๆ
ที่มีความพร้อม
ปี 2568
ทีเส็บได้รับงบประมาณจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ หรือ
THACCA : Thailand Creative Culture Agency เดินหน้าขับเคลื่อน
2 โครงการ ได้แก่ 1.เทศกาลนานาชาติ/Festival
2.เทศกาลอวดเมือง โดยทำร่วมหอการค้าไทย
ทำให้มีงบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐ และเครือข่ายพันธมิตรเอกชน
ส่วนในประเทศต้องการให้เกิด IP มากขึ้น
โดยเอกชนรวมตัวกันจัดเทศกาลนานาชาติเพิ่มขึ้น ล่าสุดเพิ่งเปิดตัว “Event
Think Tank" เป็นแพลตฟอร์มสร้างคอมมิวนิตี้ออนไลน์แห่งใหม่
ผลักดันไทยสู่การเป็น Festival Country พร้อมสร้างพลังซอฟท์
พาวเวอร์ ให้โดดเด่นด้วยดาต้า เบสต์ สมัครเฟสติวัลแล้วกระจายจัดตามจังหวัดต่าง ๆ
ปีนี้น่าจะเดินหน้าได้พอสมควร
ทีเส็บได้แถลงแผนการตลาดไมซ์ปี 2568 ได้รับแรงสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทุกองค์กรเห็นตรงกันที่จะใช้พลัง “ไมซ์ในประเทศ” และ “นานาชาติ” ขับเคลื่อนฟื้นฟูรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจประเทศ โดยมี Gen Z จากธุรกิจโรงแรม บริษัทจัดงาน ซึ่งทีเส็บพร้อมจะอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือให้การจัดทุกงานรื่นไหลเติบโตอย่างเต็มประสิทธิภาพอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
คิง เพาเวอร์รางน้ำจัด“Rangnam Hidden Wonders Picnic 22-23 ก.พ.เวลา 15.30-19.00 น.ที่ “สวนสันภาพ”
ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์รางน้ำเปิดHidden
Wonders Picnic22-23 ก.พ.
คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เปิดรับสมัครเดือนแห่งความรักด้วยกิจกรรม “Rangnam Hidden Wonders Picnic” วันหยุดเสาร์ 22-อาทิตย์ 23 กุมภาพันธ์ ที่ “สวนสันภาพ” เวลา 15.30-19.00 น.มาเพิ่มประสบการณ์ปิคนิคค้นพบมุมใหม่ ๆ ร่วมทำกิจกรรมท่ามกลางธรรมชาติ คิง เพาเวอร์ เดินหน้าส่งเสริมชุมชนและนักท่องเที่ยวเข้ามามีส่วนร่วมกันสร้างสรรค์เอกลักษณ์ย่านรางน้ำ พบกับ เวิร์คช้อปงานศิลปะจากวัสดุธรรมชาติ ลิ้มรสอาหารหลายสัญชาติจากร้านลับย่านนี้ ควบคู่การอนุรักษ์และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมขยายสู่การท่องเที่ยวระดับประเทศและนานาชาติต่อไป
คิง เพาเวอร์ ร่วมกับเครือข่ายการพัฒนาย่านรางน้ำอย่างมีส่วนร่วม (Rangnam Social Forum) เชิญชวนมาสำรวจ “เสน่ห์ย่านรางน้ำ” นำเสนอกิจกรรมครั้งนี้ เช่น กำหนดจุดเช็คอิน สร้างสัญลักษณ์ มอบของที่ระลึก สร้างการรับรู้ศักยภาพย่านรางน้ำเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและยกระดับความโดดเด่นเป็นจุดหมายปลายทางด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวไทย
ลงทะเบียนร่วมRangnam Hidden Wonders Picnic ที่ https://forms.gle/Enk4udTzE4hgz2ft7 มาทำให้ย่านรางน้ำกลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานครอีกแห่ง สนุกเพลิดเพลินกับกิจกรรมดังนี้
วันเสาร์ที่
22 กุมภาพันธ์ 2568 สนุกกับ จิบชา ชิมอาหาร ออกกำลัง ไฮไลต์ 3 ความสนุก
คือ
• จิบชา : เปิดประสบการณ์การดื่มชาจีนจากผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่นจะพาไปสัมผัสรสชาติพร้อมเรื่องราวเบื้องหลังที่มาของชาแต่ละแบบเชื่อมโยงเข้ากับวัฒนธรรมการดื่มชาในชีวิตประจำวัน
• ชิมอาหารหลากสัญชาติ : ลิ้มรสเมนูอันหลากหลายจากร้านอาหารย่านรางน้ำ
ทั้งร้านอินเดีย เวียดนาม เมียนมา โดยเชฟจะมาสร้างความตื่นเต้นบอกเล่าเรื่องความเป็นมาเมนูแต่ละจานที่ไม่เคยรู้มาก่อน
• แตรฟิต ไทยวง สนุกกับการออกกำลังกาย ผสมผสานระหว่างรำไทยกับดนตรีแตรวง
เพิ่มความสนุกสนานเพิ่มสุขภาพที่ดี
วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 เพลิดเพลินกับอีก 4 ความสนุก คือ
• บอร์ดเกม : เปลี่ยนพื้นที่ในสวนให้กลายเป็นจุดรวมตัวที่เต็มไปด้วยความสนุกและไอเดียสร้างสรรค์ผ่านการเล่นบอร์ดเกมที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วม
พบปะผู้คนใหม่ๆ และสนุกไปกับการเล่นเกมร่วมกัน
• ชิมขนมไทย :ลิ้มรสขนมไทยจากร้านในย่าน
พร้อมฟังเรื่องราวเบื้องหลังการทำขนมแต่ละชนิดจากเจ้าของร้านที่ตั้งใจถ่ายทอดมรดกความหวานมาจนถึงปัจจุบัน
• เวิร์คชอป สิ่งประดิษฐ์จากสวน เคล็ดลับการปลูกต้นไม้ในกระถางพื้นที่จำกัด เพ้นท์กระถางตามสไตล์ที่ชอบของแต่ละคน สร้างพื้นที่สีเขียวส่วนตัวนำกลับไปไว้ที่บ้าน
• แลกรับของที่ระลึกพิเศษจากย่านรางน้ำ
เมื่อทุกคนได้มาร่วมค้นหาเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ในย่านรางน้ำครบทุกมิติ วิถีชีวิต อาหาร
สถาปัตยกรรม และธรรมชาติ
“เพื่อความปลอดภัย” ผู้ที่มีประวัติแพ้อาหารบางชนิด
แนะนำให้หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมกิจกรรมชิมอาหาร หรือต้องระวังด้วย เพราะเมนูต่าง ๆ
ปรุงจากวัตถุดิบหลากหลายชนิด อาจเป็นสารก่อภูมิแพ้ได้
ข่าวที่ 2 -ช้อปโปรปังคิงเพาเวอร์แจกสิทธิพิเศษไม่ยั้ง 4 ดีลฮ็อต
คิง เพาเวอร์ เสิร์ฟของดี ด้วยกิจกรรม 4 ช้อปโปรปัง ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ 2568 คิง เพาเวอร์ คัดพิเศษแบบละลานตามาให้เลือกช้อปรัว ๆ 4 ดีล ดังนี้
• ดีลแรก ดีลเด็ดลดแรงลดรวมสูงสุด 5,000 บาท เมื่อช้อปสินค้า คิง เพาเวอร์ ครบ 12,000 บาทขึ้นไป /ใบเสร็จ รับส่วนลดทันที 2,500 บาท คนละ 2 สิทธิ์/วัน หรือส่วนลดไม่เกิน 5,000 บาท/วัน
• ดีลที่สอง สมาชิก คิง เพาเวอร์ ผู้ถือบัตร CROWN & VEGA รับเพิ่ม! คูปองส่วนลด 8,000 บาท เมื่อช้อปครบ 30,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ คนละ 1 สิทธิ์/วัน
• ดีลที่สาม กะรัตแลกคุ้ม รับสิทธิ์แลก 25 กะรัต = กิฟท์ โวเชอร์หรือบัตรกำนัล ทุก 1 บาทต่อ 25 กะรัต รับได้คนละ 1 สิทธิ์ /วัน
• ดีลที่สี่ สมัครใหม่ได้ 3 ฟรี “สมาชิก คิง เพาเวอร์” บัตร NAVY รับฟรีแรก คูปองส่วนลด 10 % ฟรีที่ 2 กิฟท์ โวเชอร์/บัตรกำนัล 1,000 บาท ฟรีที่ 3 สถานะสมาชิก คิง เพาเวอร์บัตร SCARLET วันถัดไป หากวันสมัครช้อปครบ 20,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) เริ่มวันนี้ -28 กุมภาพันธ์ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี และภูเก็ต
ข่าวที่ 3-โปรแห่งรักวาเลนไทน์ช้อปสบาย ๆ คิงเพาเวอร์ 6
สนามบิน
มีไฟลต์บินแล้วช้อปได้เลย
เผื่อวลาเดินทางไปสนามบิน จะได้เลือกสินค้าแบบฉ่ำ ๆ ตามร้านดิวตี้ฟรี ตอนนี้ เลือกช้อปก่อนได้ทาง คิง เพาเวอร์
ออนไลน์ แล้วไปรับสินค้าขาออก หรือจะไปเดินออนทัวร์ตามร้านเก๋ ๆ ได้ทั้ง 6 สนามบิน กับ 2 กิจกรรม
กิจกรรมที่ 1 MID MONTH DEAL : V-DAY SURPRISE “คิง เพาเวอร์ ออนไลน์” แจกส่วนลดถึง
20 % รับวาเลนไทน์ 13-16 กุมภาพันธ์ 2568
ไม่ต้องมีขั้นต่ำเพียงกดรับรัสหส่วนลด MDFEB25
ก็เติมเต็มความสุขให้ตัวเองหรือคนที่รักได้ด้วยสินค้า “เอ็กซ์คลูซีฟ” ทั้งแฟชั่น
เครื่องสำอาง น้ำหอม ของใช้ในบ้าน แกดเจ็ต และอีกมากมาย
กิจกรรมที่ 2 โปรโมชั่นแห่งรัก 6 สนามบิน ช้อปสะดวก เพลิดเพลิน ได้ทั้งส่วนลด
รับเพิ่มสิทพิเศษ ออนท็อป และสมัครสมาชิกฟรี ดังนี้
• ส่วนลด 30 % ที่ คิง เพาเวอร์ 2 สนามบิน คือ “สุวรรณภูมิและดอนเมือง” แบรนด์ชั้นนำสายบิวตี้ น้ำหอม มอบรักให้นักช้อปทุกคนด้วยดีลพิเศษ!
ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดยาว ไฮไลต์ 12 – 16 ,21 – 23 และ 28 กุมภาพันธ์ 2568
• “รับเพิ่ม! กิฟท์ การ์ด” มูลค่าสูงสุด 5,000
บาท เพียงซื้อบัตรเงินแคช การ์ด ตามยอดที่กำหนดแล้วนำไปช้อปสินค้าแฟชั่น
วันนี้– 28 ก.พ. 2568 ที่ 2
สนามบิน คือ คิง เพาเวอร์ “สุวรรณภูมิและภูเก็ต”
• ช้อปบิวตี้ น้ำหอม! รับส่วนลดออนท็อป วันนี้ -28 กุมภาพันธ์ 2568 ลูกค้าคนไทยรับส่วนลดคุ้มสุด 10% แล้ว “สมาชิก
คิง เพาเวอร์” ยังใช้สิทธิ์เพิ่มออนท็อปลดได้สูงสุดอีก 10% ที่ คิง เพาเวอร์ 4 สนามบิน คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต
• สมัครฟรี หากยังไม่เป็นสมาชิก
บัตร NAVY ปกติต้องเติมเงิน 1,000 บาท
สมัครวันนี้-28 กุมภาพันธ์ ที่ คิง เพาเวอร์ 6 สนามบิน คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่
หาดใหญ่ ภูเก็ต และอู่ตะเภา
ข่าวที่ 4-ททท.เปิด“Capture the Moment @ภาคกลาง”4 จังหวัด
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
เปิดเผยว่า ได้เป็นประธานนำเสนอกิจกรรมโครงการ “Capture
the Moment @ภาคกลาง”
เปิดตัวภายใต้แคมเปญ “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025” โดย
ททท.ชวนคู่รักหรือคู่เพื่อนมาร่วมสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวภาคกลางพร้อมกับทำเวิร์คช้อปแต่งหน้าและถ่ายภาพจากกูรูชื่อดังระดับประเทศ
สร้างความประทับใจทุกการเดินทาง แล้วบันทึกไว้เป็น Grand Moment ครั้งหนึ่งในชีวิต
กิจกรรมนี้
ททท.ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำที่มีชื่อเสียงหลากหลายวงการ อย่าง EVEANDBOY, BIG Camera, DiveHouse แพลตฟอร์มท่องเที่ยว Gother
วางแผนจัด “เอ็กซ์คลูซีฟ เอาท์ดอร์ แฟชั่น โฟโต้กราฟฟี่ ทริป”
กระจายในภาคกลาง 4 เส้นทาง ใน 4
จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ราชบุรี พระนครศรีอยุธยา และประจวบคีรีขันธ์
จัดทริปให้คู่รักหรือคู่เพื่อนเดินทางพร้อมกันไปตามสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อเก็บภาพสวย
ๆ สไตล์จุดหมายที่ซ่อนอยู่หรือ Hidden spot ภาคกลาง
โดยมีกิจกรรมเวิร์คช้อปแต่งหน้ากับ “เมคอัพ อาร์ติสต์” ชื่อดังจากทีมน้องฉัตร
พร้อมทั้ง “การถ่ายภาพ”
กับทีมช่างภาพมือระดับโปรมืออาชีพจะเสริมสร้างองค์ความรู้เทคนิคการถ่ายภาพอย่างมีคุณภาพ
นำเทรนด์ “Fashion & Beauty” ขับเคลื่อนการท่องเที่ยว
จุดประกายให้เกิดไอเดียการท่องเที่ยวมุมมองใหม่ ๆ
สร้างความประทับใจในการเดินทางท่องเทียวเมืองไทย
การจัดกิจกรรม
“Capture the Moment @ภาคกลาง”
จะมีโปรโมชั่นส่วนลดให้นักท่องเที่ยวที่เข้าทริป จองที่พัก ทำกิจกรรม
ใช้บริการรถเช่า ทั่วพื้นที่ภาคกลาง เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม
2568 เป็นต้นไป
• Gother
และ Traveloka มอบคูปองส่วนลด 300 บาท เพียงซื้อสินค้าภายในร้าน EVEANDBOY และ BIG
Camera มูลค่าขั้นต่ำ 500
บาทขึ้นไป/ใบเสร็จรับเงิน แล้วรับ Code ส่วนลดมูลค่า 300 บาท นำไปใช้เป็นส่วนลดผ่านทางเว็บไซต์ https://www.gother.com
• Traveloka
มอบโค้ดส่วนลดพิเศษ 100 บาท ผ่านทางเว็บไซต์ https://www.traveloka.com
• ซื้อแพกเกจทริปการเดินทางในภาคกลางจะได้สิทธิ์ลุ้นรับของรางวัลกว่า
500,000 บาท เช่น กล้องแอคชั่นคาเมร่า DJI Osmo
Action 5 โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว
กิจกรรมท่องเที่ยว โวเชอร์สปา บัตรเติมน้ำมัน
ผู้ว่าฯ
ฐาปนีย์ กล่าวว่า กิจกรรม “Capture the Moment @ภาคกลาง”
จะสามารถกระตุ้นนักท่องเที่ยวออกมาเดินทางเที่ยวในพื้นที่ภาคกลางเพิ่มขึ้น
ช่วยเชื่อมโยงการท่องเที่ยวภายในประเทศได้เป็นอย่างดี
ติดตามกิจกรรมเพิ่มทาง
Page : Capture the Moment หรือ Line OA :
@capturethemoment
ข่าวที่ 5-บางจากร่วมFTI Expo 2025ชู BCG Model สิ่งแวดล้อม
บิ๊กบางจากเปิด
FTI Expo 2025 โชว์ BCG Model จัดนิทรรศการ
“BCG for Climate Action” กระตุ้นธุรกิจ
ผู้บริโภคตื่นตัวลดปล่อยคาร์บอน ด้าน “กลอยตา ณ ถลาง” เดินหน้าขยายฐาน Carbon
Market Club ชูต้นแบบ BCG Economy สร้างการเติบสมดุลเศรษฐกิจ-สิ่งแวดล้อม
นายโชคชัย
อัศวรังสฤษฎ์ Chief Transformation & Synergy Realization Officer บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมพิธีเปิดงาน FTI
Expo 2025
ที่มีบางจากร่วมสนับสนุนเจ้าภาพหลักคือสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดขึ้นระหว่าง 12-15
กุมภาพันธ์ 2568 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ภายใต้แนวคิด Empowering Thai Industry, Elevating Thailand’s Future “เสริมพลังอุตสาหกรรมไทย เพื่ออนาคตไทยที่ยั่งยืน”
บางจากได้จัดแสดงนิทรรศการด้วยแนวคิด “BCG for Climate Action” นำเสนอหลัก BCG Model เพื่อการปรับตัวสู่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เช่น
การเป็นผู้ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) รายแรกและรายเดียวในเมืองไทยที่มีการผลิต SAF บริสุทธิ์
100% จากน้ำมันใช้แล้วจากการปรุงอาหารด้วยหน่วยผลิตเฉพาะ
ผ่านกระบวนการไฮโดรโปรเซสซิ่งตามการรับรองมาตรฐานสากล ISCC-EU/CORSIA/PLUS และการจัดตั้ง Carbon Markets Club เพื่อสร้างความตระหนักรู้เรื่องวิกฤตสภาพภูมิอากาศและสนับสนุนการซื้อขายคาร์บอนเครดิต
“นางกลอยตา
ณ ถลาง” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท
บางจากฯ ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายในงานเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 หัวข้อ “BCG for Climate
Action: Scaling Solutions for a Sustainable Future” นำเสนอการนำแนวคิด
BCG Economy เป็นแนวทางสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจ
และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยยกตัวอย่าง European Green Deal เน้นลดขยะ ส่งเสริมพลังงานสะอาด และใช้วัตถุดิบชีวภาพ
ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และกระตุ้นเศรษฐกิจไปพร้อมกัน
สำหรับไทยมีฐานทางเศรษฐกิจคือเกษตรกรรมและพลังงานสะอาดกำลังเติบโต
ภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ SMEs สามารถนำ BCG Economy มาปรับใช้เพื่อสร้างความยั่งยืน
เช่น การใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเป็นบรรจุภัณฑ์ชีวภาพ
การใช้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อลดของเสีย
และนำพลังงานสะอาดมาใช้เพื่อลดต้นทุนและการปล่อยมลพิษ
นางกลอยตาได้เชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำด้วย
BCG Model นำน้ำมันใช้แล้วจากการปรุงอาหารมาขายเพื่อผลิต
SAF ผ่านโครงการ "ทอดไม่ทิ้ง"
และร่วมเป็นสมาชิกฟรี Carbon Markets Club เพื่อทดลองประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในระดับองค์กรและบุคคล
ช่วงที่ 2 ได้เวลาตั้งเข็มไมล์ไปเที่ยวกัน
สุขทันทีในเส้นทาง “มูเตลูตะวันออกบอกต่อ” ขับรถชิล ๆ ไปเช้ากลับเย็นได้สบาย ใน 3
พิกัด “บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์” เมืองศรีมโหสถ ปราจีนบุรี ต่อด้วย
“วัดเล่งฮกยี่” ขอพรการงาน แวะวัด “หลวงพ่อโสธร” ฉะเชิงเทรา แล้วฟัง “6 วิธี” รักษาอาการไอเรื้อรัง และข่าวปัง ๆ ข่าวแรก “AOTนำ 6 สนามบิน” 3 เดือนแรกปี68
กำไร 5,344 ล้านบาท ข่าวที่สอง
“ดุสิต-แกรนด์แลนด์อิงค์” เปิดใหม่โรงแรมอาศัย เซบูล ออสโลบ ฟิลิปปินส์ ปลายปี 2569
ท่องเที่ยว –สุขที่เที่ยวมูเตลูตะวันออก3แห่ง“ปราจีนบุรี-ฉะเชิงเทรา”
สุขทันทีที่เที่ยว
“มูเตลูตะวันออก” เดินทางไปเช้ากลับเย็นได้สบาย ๆ ไปได้บ่อย ๆ ด้วย
เส้นทางวันเดียวเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ได้ถึง 2 จังหวัด
ที่ปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา เพื่อสักการะขอพรสิ่งศักดิ์เสริมมงคลชีวิตครบ
ออกเดินทางได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เช็คอิน 3 พิกัด ดังนี้
พิกัดที่
1 บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ หน้ารอยพระพุทธบาทคู่ ตั้งอยู่ตรงหมู่ 1 ตำบลโคกไทย อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี “คนนิยมสักการะเสริมมงคล” เป็นบ่อน้ำโบราณ
มีน้ำใสและเย็นหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดทั้งปี ปากบ่อก่อด้วยศิลาแลงเส้นผ่าศูนย์กลาง 120
เซนติเมตร ตั้งอยู่ตรงขอลานวิหารประดิษฐานรอยพระพุทธบาทคู่
ภายในบริเวณนี้พบโบราณวัตถุจำนวนมาก
ได้แก่ เสาแกะสลัก พระพุทธรูปปางสมาธิ พระพุทธรูปนาคปรก คนโท
ชิ้นส่วนสถาปัตยกรรมเมืองโบราณ ทั้งบราลี กระเบื้องเชิงชาย กระเบื้องมุงหลังคา
พิกัดที่
2 วัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่) ตั้งอยู่ตรงถนนศุภกิจ
อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา นักท่องเที่ยวเดินทางมาขอเรื่อง “สติปัญญา”
หนึ่งในวัดสำคัญที่สุดในฉะเชิงเทรา เชื่อกันว่าเป็น 1 ใน 3 วัด ประกอบกันขึ้นเป็น “ตัวมังกร”
โดยวัดแห่งนี้เป็น “ท้องมังกร” ส่วน “หัวมังกร” อยู่ที่วัดเล่งเน่ยยี่
กรุงเทพมหานคร “หางมังกร” อยู่ที่วัดเล่งฮัวยี่ จังหวัดจันทบุรี
ภายใน
“วัดจีนประชาสโมสร/เล่งฮกยี่” มี ท้าวจตุโลกบาลขนาด 4 องค์ พระประธาน 3 องค์ และองค์ 18 อรหันต์ รูปหล่อเทพเจ้าแห่งโชคลาภ (ไฉ่เซ่งเอี้ย)
รวมทั้งมีวิหารศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่ วิหารบูรพาจารย์
วิหารเจ้าแม่กวนอิมแกะสลักจากรากไม้ทั้งต้นอายุราว 100 ปี
วิหารตี่จั๊งอีวง สระนทีสวรรค์ และพญามังกร
“นักท่องเที่ยว”
ที่เดินทางมาถึงวัดนี้จะเริ่มจาก “ลูบหัวมังกรลง” 3 ครั้ง เพื่อขอเรื่องสติปัญญา หน้าที่การงาน “ลูบลำตัวมังกร” ขึ้นตามมังกร
3 ครั้ง แล้วอธิษฐานขอเรื่องสุขภาพร่างกาย ปิดท้ายด้วยการ
“ลูบหางมังกร” ขึ้นตามเกร็ดของมังกรอีก 3 ครั้ง
แล้วอธิษฐานขอเกี่ยวกับอนาคตที่ดีงาม
พิกัดที่
3 หลวงพ่อโสธร
ตั้งอยู่ริมน้ำบางปะกง ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา
ผู้คนหลั่งไหลกันมากราบไหว้ ขอพรจำนวนมาก
“หลวงพ่อโสธร”
เป็นพระพุทธรูปหล่อสำริปางสมาธิ มีรูปทรงสวยงามมาก ได้แสดงปาฏิหารย์ลอยน้ำมา
แล้วมีผู้อัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้
“นักท่องเที่ยว”
เดินทางมาขอพรเรื่องการค้าขาย การงาน สุขภาพ เงินทอง โชคลาภ ความสุขในชีวิต
สุขภาพ –5 วิธีรักษาอาการไอเรื้อรังให้ได้ผลจริงหายและไปต่อได้
ขณะนี้สภาพอากาศในแต่ละจังหวัดต้องเผชิญกับฝุ่น
P.M. 2.5 สร้างปัญหาบั่นทอนสุขภาพ รวมทั้งอีกหลายสาเหตุ
ตามที่วงการแพทย์ยืนยันอาการไอเรื้อรังประมาณ 85 % มักเกิดจากโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
หรือโรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง แล้วมีน้ำมูกไหลลงคอ โรคหืด และโรคกรดไหลย้อน
ผู้ป่วยบางรายอาจมีสาเหตุทำให้เกิดอาการไอเรื้อรังมากกว่าหนึ่งชนิด
การตรวจวินิจฉัยที่อาศัยความร่วมมือจากแพทย์หลายสาขา เช่น แพทย์หู คอ จมูก
อายุรแพทย์โรคภูมิแพ้และโรคปอด อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินอาหาร
จะทำให้ค้นหาสาเหตุของอาการไอได้ง่ายขึ้น
การรักษาอาการไอเรื้อรังสำคัญที่สุด
คือ การหาสาเหตุของอาการไอ และรักษาตามสาเหตุนั้นๆ
รวมทั้งจะต้องปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องในขณะที่มีอาการไอ
จะทำให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้น หรือไม่แย่ลงไปกว่าเดิม
โดยสิ่งที่ผู้ป่วยควรปฏิบัติในขณะที่มีอาการไอ ได้แก่
- 1.หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่จะทำให้ไอมากขึ้น
เช่น สารก่ออาการระคายเคือง ฝุ่น สารเคมี ควันบุหรี่
- 2.หลีกเลี่ยงการสัมผัสอากาศจากเครื่องปรับอากาศหรือพัดลมโดยตรง
เนื่องจากอากาศที่เย็นสามารถกระตุ้นหลอดลมให้เกิดการหดตัว
ทำให้มีอาการไอมากขึ้นได้
- 3.ควรให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายให้เพียงพอขณะนอน
เช่น นอนห่มผ้า
- 4.ผู้ที่สูบบุหรี่ควรหลีกเลี่ยงหรืองดการสูบบุหรี่
- 5.ถ้าหากอาการไอมีไม่มาก
อาจให้การรักษาเบื้องต้นโดยการรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการไอ
กรณีที่มีเสมหะร่วมด้วย ควรได้รับยาละลายเสมหะ
เพื่อให้เสมหะที่เหนียวข้นมากขับออกจากหลอดลมได้ง่ายขึ้น แต่
หากผู้ป่วยได้รับยาดังกล่าวแล้วอาการไม่ดีขึ้นภายใน
1 สัปดาห์
ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาตามการนิจฉัยของแพทย์ต่อไป
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–AOT ยิ้มรับ3 เดือนแรกปี’68กำไรสุทธิทะลัก5,344 ล้าน
ดร.กีรติ
กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (AOT) กล่าวถึงรายงานผลประกอบการงวด 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 ระหว่างเดือนตุลาคม 2567
ถึงเดือนธันวาคม 2567 ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6
แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
(ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.)
ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.)
และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.)
@AOT โชว์3เดือนแรกปี68 ฟันกำไรสุทธิ 5,344 ล้าน
• AOT มี “กำไรสุทธิ” รวมทั้งสิ้น 5,344.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันกับปีก่อน 781.27 ล้านบาท
คิดเป็น 17.12 %
• มีรายได้รวม 17,906.01 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 13.41 % เป็นรายได้จากการขายหรือการให้บริการเพิ่มขึ้น
1,956.27 ล้านบาท คิดเป็น 12.45 % แบ่งเป็น
• รายได้เกี่ยวกับกิจการการบิน 8,804.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,727.76 ล้านบาท คิดเป็น 24.41
% ปัจจัยหลักมาการเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจำนวนเที่ยวบินเพิ่ม 19.05
%และผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 21.52 %
• รายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน 8,859.49
ล้านบาท เพิ่มขึ้น 228.51 ล้านบาท คิดเป็น 2.65
%
• มีค่าใช้จ่ายรวม 10,353.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,086.70 ล้านบาท หรือ 11.73
%
• “ปริมาณการจราจรทางอากาศ” ท่าอากาศยาน AOT ทั้ง 6 แห่ง งวด 3 เดือนแรกปีงบประมาณ
2568 (เดือนตุลาคม-เดือนธันวาคม 2567)
• มีผู้โดยสารมาใช้บริการรวม 33.62 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16.41 % แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ
20.85 ล้านคน ผู้โดยสารภายในประเทศ 12.77 ล้านคน
• มีจำนวนเที่ยวบินรวม 204,549 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.78 % แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ
117,333 เที่ยว และเที่ยวบินภายในประเทศ 87,216 เที่ยว
ดร.กีรติ
กล่าวว่าปัจจัยที่ทำให้ปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเพราะการท่องเที่ยวฟื้นตัวตามนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจภาครัฐ
และวันหยุดยาว (Golden Week) ของนักท่องเที่ยวจีน
ซึ่งส่งผลเพิ่มขึ้นจากทั้งตลาดระยะไกล (Long Haul) และตลาดระยะใกล้
(Short Haul) รวมทั้ง AOT ยังสนับสนุนนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐผ่านโครงการต่าง
ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการส่งเสริมเส้นทางการบินใหม่
โดยลดค่าธรรมเนียมให้สายการบินที่เปิดเส้นทางใหม่
โครงการลดค่าเช่าสายการบินที่ย้ายไปใช้อาคาร SAT-1 และโครงการสนับสนุนการตลาดเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่และเชียงราย
โดยการให้เงินสนับสนุน 300 บาท/ผู้โดยสาร 1 คน กับเที่ยวบินที่เข้าเงื่อนไข
@AOTลั่น5ปีหน้าขึ้นฮับบินติด 1 ใน 20 สนามบินโลก
AOT ตั้งเป้าจะเป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคและเชื่อมโยงการเดินทางทางอากาศแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ตามเป้ารัฐบาลต้องการยกระดับท่าอากาศยานของไทยภายใน 5 ปีหน้า
ต้องขึ้นเป็น 1 ใน 20 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก
และเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าใหญ่ที่สุดเป็น 1 ใน 10
ของโลก สามารถแข่งขันในสากลอย่างยั่งยืน
รวมทั้งมุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานให้บริการทั้ง 6 ท่าอากาศยาน ให้สะดวกสบาย รวดเร็ว ปลอดภัย
พร้อมสนับสนุนการท่องเที่ยวและการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
เช่น โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 (SAT-1) สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น
65 จากปกติ 45 ล้านคน/ปี
การสร้างระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติและทางวิ่งเส้นที่ 3 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น
50 ล้านคน จาก 30 เป็น 50 ล้านคน/ปี รวมถึงโครงการพัฒนาท่าอากาศยาน 3 แห่ง คือ
เชียงใหม่ ภูเก็ต แม่ฟ้าหลวงเชียงราย และหาดใหญ่
ข่าวที่สอง –ดุสิต-แกรนด์แลนด์อิงค์เปิดASAICebuOslobฟิลิปปินส์ปี’69
“ดุสิต
อินเตอร์” ไทย ผนึก “แกรนด์แลนด์ อิงค์” ฟิลิปปินส์ นำร่องเปิด “ASAI
Cebu Oslob” โชว์ศักยภาพแบรนด์อาศัยลงทุนรีสอร์ทหรูริมชายหาดดังแห่งแรกในฟิลิปปินส์
เปิดปลายปี’69
ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า
ในฐานะบริษัทชั้นนำด้านโรงแรมและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยได้ร่วมกับ “แกรนด์แลนด์
อิงค์” บริษัทในเครือของ กลุ่มบริษัท ไกซาโน แกรนด์ ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ในฟิลิปปินส์
ร่วมกันวางศิลาฤกษ์โรงแรม “ASAI Cebu Oslob ถือเป็นการบุกเบิกนำแบรนด์โรงแรมอาศัย
(ASAI Hotels) บุกเข้าไปลงทุนรีสอร์ทริมชายหาดแห่งแรกในฟิลิปปินส์
ตั้งเป้าจะเปิดบริการช่วงปลายปี 2569 ซึ่งจะเปิดตัวเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์นี้ที่ได้ผสานระหว่างการออกแบบสมัยใหม่เข้ากับ
ประสบการณ์ท้องถิ่น และความมีชีวิตชีวา ยกระดับเป็นจุดหมายปลายริมชายฝั่งสวยงามที่สุดอีกแห่ง
@เปิด ASAI Cebu
Oslobเกาะเซบูเมืองท่องเที่ยวทะเลสวย
ASAI
Cebu Oslob ตั้งอยู่ใน Barangay Lagunde เมือง
Oslob จุดหมายการท่องเที่ยวยอดนิยมในฐานะพื้นที่ริมชายฝั่งขึ้นชื่อเรื่องความบริสุทธิ์สวยงาม
มีฉลามวาฬ และความหลากหลายทางชีวภาพอุดมสมบูรณ์ทั้งบนบกและในทะเล พร้อมจะรองรับนักเดินทางตลาดมิลเลนเนียลหรือคนยุคใหม่ที่มีใจรักแสวงหาความเชื่อมโยงและการผจญภัยในท้องถิ่นที่มีความหมายต่อชีวิต
“รีสอร์ท”
แห่งนี้ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ประกอบด้วย “ห้องพัก”ขนาด 98 ห้อง แต่ละส่วนใหญ่มีระเบียงส่วนตัวพร้อมวิวทะเลหรือสระว่ายน้ำอันสวยงาม มี
“พื้นที่ส่วนกลาง” เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์อาศัยที่ผสมผสานแนวคิด Eat/Work/Play
เปิดโล่งแบบยืดหยุ่นได้ เป็นการออกแบบพื้นที่เพื่อประโยชน์ใช้สอยหลายอย่าง
ทั้งสถานที่รับประทานอาหาร สังสรรค์ ทำงานจากระยะไกล
รวมทั้งมี
“บาร์ริมชายหาด” สุดเก๋เสิร์ฟค็อกเทลฝีมือดีและเบียร์ท้องถิ่น “สระว่ายน้ำ” น่าดึงดูดใจพร้อมวิวชายหาด
และประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องถิ่นซึ่งนำเสนออาหารเซบูที่ดีที่สุดด้วย
นักท่องเที่ยวจะได้พบกับ
“ฉลามวาฬ” อันเลื่องชื่อแล้วยังสามารถดื่มด่ำทัศนียภาพเขียวขจีของน้ำตกที่ไหลเอื่อย
และประสบการณ์การท่องเที่ยวตามเกาะต่าง ๆ มากมาย รวมถึงทัวร์ “เกาะซูมิลอน”
เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ทะเลแห่งแรกในเซบู เพื่อยกระดับประสบการณ์ โดยยึดตามปรัชญาของอาศัยโฮเทลส์คือ
“Live Local” ตัวแทนชุมชนของรีสอร์ทได้เตรียมแผนการเดินทางส่วนตัวซึ่งเป็นอัญมณีที่ซ่อนอยู่
ตั้งแต่ “จุดดำน้ำตื้น”ไปจนถึงแหล่ง “มรดกทางวัฒนธรรม”
สำหรับ
“ASAI Cebu Oslob สร้างขึ้นจากความสำเร็จของโรงแรมอาศัยในไทยและญี่ปุ่น
เน้นสร้างประสบการณ์รีสอร์ทเป็นกันเอง เป็นที่พักริมชายฝั่งสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของฟิลิปปินส์”
@2บิ๊ก “อาศัยโฮเทลส์-แกรนด์แลนด์อิงค์”ลั่นทำรีสอร์ตยั่งยืน
ศิรเดช
โทณวณิก รองประธานฝ่ายพัฒนาทั่วโลกและหัวหน้าฝ่ายวัฒนธรรมของ ASAI
Hotels ของดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า
ด้วยความหลากหลายทางชีวภาพที่น่าทึ่ง กับสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ
และมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำลึก ทำให้รีสอร์ทแห่งนี้เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์ริมชายหาดแห่งแรกของแบรนด์อาศัย
มีความโดดเด่นแห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางที่มีชีวิตชีวา ตอบโจทย์นักเดินทางที่มีใจเดียวกันสามารถเชื่อมต่อ
ผ่อนคลาย และสำรวจทุกสิ่งที่มีให้ แล้วก็เพลิดเพลินไปกับสภาพแวดล้อมร่วมสมัยเน้นความยั่งยืนและความล้ำสมัย
“พิธีวางศิลาฤกษ์”
ทำเมื่อ3 กุมภาพันธ์ 2568 มีผู้บริหารระดับสูงจากดุสิต
อินเตอร์เนชั่นแนล และแกรนด์แลนด์ อิงค์
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นเข้าร่วมพร้อมกับเน้นย้ำถึงผลเชิงบวกของโครงการต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเมือง
Oslob และเศรษฐกิจในท้องถิ่นจะเติบโตต่อไป
นายไรอัน
เบอร์นาร์ด โก ประธานบริษัท แกรนด์แลนด์ อิงค์ กล่าวว่า
ความร่วมมือกับดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล สะท้อนให้เห็นวิสัยทัศน์การสร้างประสบการณ์บริการระดับโลกที่เหนือกว่าโรงแรมทั่วไป
ASAI Cebu Oslob จะมอบบริการมาตรฐานสากล
หัวใจหลักเน้นให้ความสำคัญกับชุมชน มอบประสบการณ์ท้องถิ่นที่แท้จริงและมีความหมายให้กับผู้ใช้บริการได้สัมผัสถึงความยั่งยืน
โครงการนี้จะไม่เพียงแต่ยกระดับความน่าดึงดูดใจ หากยังเป็นจุดหมายปลายทางที่พักชายหาดชั้นนำ
ที่สนับสนุนการเติบโตในระยะยาวด้วยการส่งเสริมเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งระหว่างนักเดินทางกับวิถีชีวิตคนในท้องถิ่น
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง
สวท.FM 97.0 MHz.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น