ททท.บูม“เสน่ห์ไทย-ซอฟท์พาวเวอร์”สนั่น
ITB Berlin 2025
พาเหรดอัตลักษณ์สินค้าเมืองน่าเที่ยว5Must Doสู่ตลาดโลก
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT
#เที่ยวกับกู๋
#
อ่านใน ข่าวสดออนไลน์... https://www.khaosod.co.th/pr-news/news_9661957
ททท.นำ “เสน่ห์ไทย-ซอฟท์
พาวเวอร์-เมืองน่าเที่ยว-ทัวร์ยั่งยืน” ดันอัตลักษณ์ไทยสู่เวทีโลกงานใหญ่ ITB Berlin 2025 กรุงเบอร์ลิน เยอรมัน เปิด 5 โซน จัดเต็มสินค้าท้องถิ่นระดับชาติ 5 Must Do in Thailand พาเหรด
“ผ้ามัดย้อม-เครื่องจักรสาน-จิวเวอรี่-งานคราฟ์-เครื่องปั้นเบญจรงค์-ลูกปัดโนราห์-เครื่องหอมไทย”
โชว์เสน่ห์ตลอดงาน
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า ได้รับพระกรุณาธิคุณจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี
เสด็จเข้าร่วมงาน Internationale Tourismus Borse หรือ ITB Berlin
2025 มหกรรมส่งเสริมการขายท่องเที่ยวรายการใหญ่อันดับต้น
ๆ ของโลก จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 มีนาคม 2568
ที่กรุงเบอร์ลิน สาธารณรัฐเยอรมนี เพื่อเยี่ยมชมคูหาประเทศไทยและพระราชทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน
พร้อมทรงสาธิต “การพันผ้าหูกระเป๋าจากผ้าไทย” (Twilly) และทำ “ส้มตำเมนูเด็ดต้องลองชิม : MUST
TASTE” นำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยว 5
MUST DO IN THAILAND บริเวณคูหาประเทศไทย
ปี 2568
ประเทศไทยออกแบบพื้นที่ภายในคูหาโดยให้ความสำคัญเกี่ยวกับการนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวมุมมองใหม่
ภายใต้แนวคิด “Sustainable Thailand Soft Power :
พลังซอฟท์ พาวเวอร์ ประเทศไทยที่ยั่งยืน” โดยสะท้อน “เอกลักษณ์ไทยสู่เวทีโลก : Local Meets
Global” เดินหน้าประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยทำให้ทั่วโลกรู้จักอย่างกว้างขวางและเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางผ่านแบรนด์
Amazing Thailand
ผนวกกับการเปิดปี Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025 ครั้งแรกในตลาดต่างประเทศ สร้างความแปลกใหม่ด้วยการลงทุนจัดพื้นที่แบ่งหลายโซนนำเสนอเมืองไทยครอบคลุมทุกมิติ โดยมีไฮไลต์ ประกอบด้วย
โซนที่ 1 “เมืองน่าเที่ยว : Hidden Gem Cities” จัดสรรพื้นที่ให้ผู้ประกอบการธุรกิจจากทั่วไทย
5 ภูมิภาค 19 เมืองน่าเที่ยวได้นำเสนอสินค้าเด่น ๆ กับคู่ค้าระดับนานาชาติครั้งแรกอย่างเป็นทางการ
โซนที่
2 SANEH
THAI SHOWCASE, SUSTAINABILITY NOW จัดการแสดงสินค้าอัตลักษณ์ไทย
ด้วยการนำเสนอเรื่องราว “เมืองน่าเที่ยว”จากภูมิภาคต่าง ๆ
เป็นแม่เหล็กดึงดูดให้คนเข้ามาเยี่ยมชม คือ 1.วาสนาเครื่องจักสานไม้ไผ่จากเชียงใหม่
2.มีใจสตูดิโอจิวเวลรีจากจันทบุรี 3.ผลิตภัณฑ์จากผ้าย้อมสีธรรมชาติ
สีห้อมจากแพร่คราฟต์ สีบัวแดงจากอุดรธานี 4.เครื่องเงินดอยซิลเวอร์จากน่าน
เครื่องเงินสุโขทัย เครื่องปั้นจากสมุทรสงคราม (เบญจรงค์) เซรามิคธนบดีจากล าปาง
5.ผลิตภัณฑ์จากลูกปัดโนราห์จากสงขลา 6.เครื่องหอมจากกรุงเทพฯ
ระยอง และปราจีนบุรี
รวมทั้งจัดกิจกรรมเวิร์คช็อป
Scents of Thai D.I.Y. นำโดย “Brand Rati” ชวนผู้เข้าเยี่ยมชมลองทำ ถุงเครื่องหอมแบบไทย
จากดอกไม้แห้งและน้ำมันหอมดอกไม้ไทย แล้วยังได้จัดแสดง Thailand Green
Destinations Map นำเสนอสินค้าท่องเที่ยวไทยที่ได้รับมาตรฐานความยั่งยืนทั้งในระดับประเทศและสากล
นำเสนอโมเดลต้นแบบการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของจังหวัดกระบี่ หรือ “Krabi
: Sustainable Tourism Model”
โซนที่
3 SANEH
THAI Café นำเสนอเมนูเครื่องดื่มชา กาแฟ โกโก้
จากแหล่งปลูกในภูมิภาคต่างๆ เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI :
Geographical Indication ควบคู่กับการเสิร์ฟเมนูอาหารว่างรสชาติไทยขึ้นชื่อย่าง
ต้มยำกุ้ง ลาบไก่ ช็อคโกแลตไทย พร้อมกับจำลอง “เมนูของจิ๋ว” จากร้านมิชลินทั่วไทย 17
จังหวัด ที่อยู่ใน Michelin Guide 2025 ทำคอนเทนต์เมนูอาหารไทยยอดนิยมติดอันดับโลกสร้างการรับรู้เพิ่มประสบการณ์
Must Taste ที่ต้องลิ้มลองทุกครั้งที่มาถึงเมืองไทย
โซนที่
4 Travel
Tech ระบบนำร่อง TATAI ครั้งแรกด้วยนวัตกรรมใหม่การท่องเที่ยวด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์
(AI) ของ ททท.ใช้วิธีประมวลผลผ่านตู้ 3D hologram ให้บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวผ่านการสนทนา ผนวกการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยสร้างสรรค์วิดีโอโปรโมทธุรกิจให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้ทั่วโลกเข้าถึงเพิ่มมากขึ้นได้
โซนที่
5 พื้นที่เจรจาธุรกิจของผู้ประกอบการไทย
และพื้นที่หน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ
คาร์ด จำกัด กรมการท่องเที่ยว
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน)
การกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย
สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่
สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด บริษัท
การบินไทย จ ากัด (มหาชน) บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย
(สทอ.)
ขณะที่สถานการณ์ตลาดภาพรวมการท่องเที่ยว
“ตลาดระยะไกล” (Longhaul Market) เดินทางเข้าเมืองไทยต่อเนื่องตั้งแต่ 1
มกราคม - 23 กุมภาพันธ์ 2568 มีจำนวนรวม 2.34 ล้านคน
ประกอบด้วย ภูมิภาคยุโรป 1.85 ล้านคน อเมริกา 310,000
คน ตะวันออกกลาง 152,000 คน แอฟริกา 24,000
คน จากเป้าหมายปี 2568 จะนำนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลเข้ามาเที่ยวเมืองไทยตั้งเป้าสร้างรายได้รวม
869,200 ล้านบาท จากจำนวนรวมทั้งหมด 10.6 ล้านคน แบ่งเป็น ภูมิภาคยุโรป 7.7 ล้านคน อเมริกา 1.6
ล้านคน ตะวันออกกลาง 1.2 ล้านคน แอฟริกา 1.5
แสนคน
สำหรับมหกรรมส่งเสริมการขายท่องเที่ยวรายการใหญ่อันดับต้น
ๆ ของโลก ITB Berlin 2025 ระหว่างวันที่ 4-6 มีนาคม 2568 ที่กรุงเบอร์ลิน เยอรมัน
ททท.นำผู้ประกอบการไทยจากทั่วประเทศ 160 ราย
ร่วมนำเสนอสินค้าและจับคู่เจรจาธุรกิจภายในงาน
ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้ขยายพื้นที่คูหาประเทศไทยไว้ในฮอลล์เดียวกันขนาดใหญ่ 1,820
ตารางเมตร จากเดิมเคยทำเพียง 540 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นเกือบ 4
เท่า เพื่อสร้างความสำเร็จทั้งทางด้านรายได้
สร้างประสบการณ์กับคู่ค้าในตลาดทั่วโลก
ทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวโลก เป็นศูนย์กลางการบินแห่งภูมิภาค
นำไทยก้าวสู่ประเทศท่องเที่ยวที่ยั่งยืนตอบโจทย์ตลาดทั่วโลกในระยะยาว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น