ททท.โหมเที่ยวช่วยไทยปีวอก 8 แสนล้าน

ททท.โหมโปรเจ็กต์เที่ยวช่วยไทย8แสนล้าน

สุวรรณภูมิเฟส2เนื้อหอม”จีน-อินโด”สนงานก่อสร้าง

ตามไปค้นหา”เมืองวรนคร-น่าน”ชมของดีกว่าพันปี

         สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2559   เวลา 11.00-12.00 น.พบกันในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย” FM 97.0 MHz.กับสาระข่าวและสารคดีท่องเที่ยวหลากหลายประเด็นน่ารู้

        ช่วงแรกเวลา 11.15 น. "คุณศุกรีย์ สิทธิวนิช" รองผู้ว่าด้านสื่อสารการตลาดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำโครงการกระตุ้นคนไทยใช้จ่ายเงินเที่ยวในประเทศ จาก โครงการเที่ยวเมืองไทยเก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร โครงการท่องเที่ยวชุมชน และโครงการวันธรรมดาน่าเที่ยว อีกทั้งยังจะใช้ โครงการเที่ยวไทยได้ล้าน ที่กำลังจะเริ่มในเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป มาเป็นแรงจูงใจเพิ่มมากขึ้น

ศุกรีย์ สิทธิวนิช รองผู้ว่าด้านสื่อสารการตลาด ททท.

       ส่วนการท่องเที่ยวประจำเดือนรายการใหญ่มีนาคมนี้ จะมี “มหกรรมไหว้ครูมวยไทย” เชิญชวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาร่วมพิธี และในเดือนเมษายนจะโปรโมตเดือนแห่งมหาสงกรานต์ แต่ละเดือนจะนำงานหลัก ๆ มาปลุกกระแสการเดินทาง

       สำหรับในจันทร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ นี้ “ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ ททท.จะสรุปผลงาน ททท.ตลอด6 เดือนตามปีงบประมาณ 2559 ซึ่งเริ่มลงมือทำตั้งแต่เดือนตุลาคม ปีที่ผ่านมา ซึ่งประสบความสำเร็จจากเทศกาลเที่ยวเมืองไทย และการเตรียมเดินหน้าโครงการที่ได้รับงบประมาณพิเศษจากรัฐบาล 780 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการพัฒนาสถานีบริการริมทางเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่น 200 ล้านบาท 2.โครงการเมกะอีเวนต์ 270 ล้านบาท 3.โครงการสร้างสรรค์แหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่น 100 ล้านบาท 4.โครงการเทศกาลเที่ยวท้องถิ่นไทย 100 ล้านบาท 5.โครงการเที่ยวช่วยไทย 100 ล้านบาท 6.โครงการปักหมุดรอชิม...อาหาร 10 ล้านบาท

 

จากนั้นมาฟังข่าวท้ายชั่วโมงแรก

ข่าวที่ 1 “ใช้สิทธิรับส่วนลด18โรงแรมในเครือเคป”

          ข่าวดี สำหรับสมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ รับสิทธิพิเศษ จองและเข้าพักโรงแรมในเครือของ “เคปและแคนทารีโฮเต็ล” ทั่วประเทศ 18 แห่ง ได้ตั้งแต่วันนี้ - 24 ธันวาคม 2559

           ส่วนลดห้องพักโรงแรมในเครือ “เคป โฮเทล คอลเล็กชั่น”  จำนวน 4 โรงแรม ได้แก่ โรงแรมเคป นิทรา หัวหิน,เคป พันวาภูเก็ต, เคป ราชา ศรีราชาและเคป เฮ้าส์หลังสวนส่วนลด 10% สำหรับห้องพักทุกประเภท รับส่วนลดจากราคาห้องพักที่ดีที่สุด) พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน

          ส่วนลดโรงแรมในเครือแคนทารี โฮเทล คอลเล็กชั่น จำนวน 14 โรงแรม ส่วนลด 10% สำหรับห้องพักทุกประเภทรับส่วนลดจากราคาห้องพักที่ดีที่สุด พร้อมอาหารเช้า สำหรับ 2 ท่าน

          ได้แก่ โรงแรมแคนทารี ฮิลล์ เชียงใหม่, แคนทารี เฮ้าส์ รามคำแหง, แคนทารี เบย์ ระยอง, แคนทารี เบย์ ภูเก็ต, แคนทารี บีช เขาหลัก,แคนทารี 304 ปราจีนบุรี, แคนทารี กบินทร์บุรี ปราจีนบุรี, แคนทารี อยุธยา,แคนทารี เบย์ ศรีราชา, คลาสสิก คามิโอ อยุธยา, คลาสสิก คามิโอ ระยอง, คาราเวล เฮ้าส์ ศรีราชา, คามิโอ เฮ้าส์ ศรีราชา, คามิโอ แกรนด์ ระยอง สอบถามเพิ่มเติม Call Center 1627

ข่าวที่ 2 “เที่ยวงานว่าว(ควาย)เอกลักษณ์เมืองสตูล

ว่าวควาย-เทศกาลว่าวไทย-นานาชาติ จัดทุกปีที่ จ.สตูล

 

         นางสาวกรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการการท่องที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตรัง จับมือกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล ชมรมว่าวจังหวัดสตูล หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่จังหวัดสตูล ชวนไปงาน “มหกรรมว่าวประเพณีและว่าวนานาชาติจังหวัดสตูล ครั้งที่ 36 เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” ในวันที่ 4-6 มีนาคม 2559 ณ สนามบินกองทัพอากาศจังหวัดสตูล ชมการแข่งขันว่าว 8 ประเภท ได้แก่ ประเภทขึ้นสูง ประเภทเสียงกังวาน ประเภทสวยงาม ประเภทความคิดสร้างสรรค์ ประเภทมาราธอน ประเภทว่าวพื้นเมือง (ว่าวควาย) ประเภทระบายสีสร้างสรรค์บนตัวว่าว และประเภทว่าวยักษ์ พร้อมชมการแสดงว่าวนานาชาติ จากนักแสดงว่าวชาวต่างประเทศ จำนวน 37 ประเทศ การสาธิตการทำว่าวไทย จำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าพื้นเมืองและสินค้าโอทอป เทศกาลอาหารสยามอันดามัน การแสดงศิลปวัฒนธรรม การประกวดมิสสตูล และการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินอันตระการตา และการเล่นเกมส์ลุ้นรางวัลเพียบ

 

ข่าวที่ 3 “รับ3โปรบางจากได้ถึงมิ.ย.นี้”

         พิเศษ ! ระหว่างวันนี้ – 30 มิ.ย.59 เมื่อแสดงบัตรสมาชิกแก๊สโซฮอล์คลับและบางจากดีเซลคลับ ในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมทั้งในกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด 3 รายการ ดังนี้

       1.รับส่วนลด 20% สำหรับค่าอาหารและเครื่องดื่มในราคาปกติ จากร้าน แมคโดนัลด์ สาขา ชะอำปาร์ค และ เพชรเกษมขาเข้า กม.61   

       2.ส่วนลด 10 % เมื่อรับประทาน 200 บาทขึ้นไป ที่ร้านแบล็คแคนยอน สาขาพัทยากลาง สามารถลดได้ทั้งค่าอาหารและเครื่องดื่ม

        3.ส่วนลดที่ร้าน เซเว่น เทเบิลส์ บาย วินเทจ ถนนเลียบด่วนรามอินทรา ในซอยร้าน ชิค พับบลิค ซึ่งเป็นร้านอาหารอิตาเลียน-อาหารไทย ยอดนิยม รสชาติดี

         สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการลูกค้าบางจาก 1651 กด 4

 ข่าวที่ 4 “TCEBระดมสถานที่เข้ามาตรฐานไมซ์AEC”

         สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ประกาศเดินหน้าปี 2559 “ ไทยพร้อมเป็นแกนนำสมาชิกประชาคมอาเซียน 9 ประเทศ ปลุกกระแสการใช้มาตรฐานสถานที่จัดงานของประเทศไทย (Thailand MICE Venue Standard) เป็นต้นแบบ ล่าสุดผู้ประกอบการไมซ์100 แห่ง รวม 227 ห้อง ผ่านการรับรองมาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์ไทยเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้เร่งเดินหน้าเปิดเฟส รับรองมาตรฐานสถานที่จัดงานแสดงสินค้าตามแผนแม่บทของทีเส็บ 5 ปี

 ข่าวที่ 5 “จีน-อินโดสนลงทุนเฟส2สุวรรณภูมิ”

สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ

 

       รายงานจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) ระบุว่า การเปิดประมูลก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟส2 ของไทย ได้รับความสนใจจากนักลงทุนประเภทผู้ประกอบวิสาหกิจต่างชาติ 2 ประเทศ ได้แก่ ผู้ประกอบวิสาหกิจจากจีน 2 ราย ปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินก่อสร้างรายใหญ่และมีประสบการณ์ในการก่อสร้างสนามบิน แสดงความสนใจงานก่อสร้างที่เกี่ยวกับอาคาร ส่วนอินโดนีเซีย สนใจงานระบบสาธารณูปโภค โดยทอท.ได้แนะนำว่าจะต้องไปร่วมมือกับบริษัทรับเหมาก่อสร้างของไทย เพราะเงื่อนไขในการยื่นประกวดราคาต้องมีบริษัทของคนไทยจะต้องเป็นผู้นำหลัก

      สำหรับคุณสมบัติการเข้าประกวดราคาขยายสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ 2 สัญญาจ้างก่อสร้าง นั้น ทอท.เปิดกว้างให้ผู้สนใจที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ต้องขึ้นทะเบียนผู้ค้าถูกต้อง มีผลงานด้านโยธา และ อาคาร มาร่วมเสนอตัวได้ ซึ่งเฉพาะที่เคยรับงานของทอท.มาก่อนก็มีกว่า 14 บริษัท

 

ข่าวที่ 7 “บินคุ้มตั๋ว2โปรโมชั่นรับปิดเทอม”

 

         ไทยแอร์เอเชีย จัดมหกรรมขายตั๋วถูกตั้งแต่วันนี้ -6 มีนาคม 2559 ซื้อตั๋วแล้วสามารถนำไปเดินทางได้ตั้งแต่วันนี้-30 มิถุนายน 59 เป็นการเดินทางท่องเที่ยวรับปิดเทอม

        โปรแกรมแรก ทริปสั้น เที่ยวง่าย จ่ายคุ้ม ในราคาเพียง 1,590 บาท ไปยัง เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ พัทยา และ 4 เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมต่างประเทศ มาเก๊า ฮ่องกง เซินเจิน กวางเจา จองได้เลย

        โปรแกรมสอง ตั๋วไปเที่ยวทะเล “ฟินทะเลใต้ บินสบาย...คุ้ม” ราคาเริ่มต้น 590 บาท ไปยัง ภูเก็ต กระบี่ ตรัง หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช

          ช่วงที่ 2 เวลา 11.45 น.ออกไปสัมผัสความสุขกับการเที่ยวเมืองไทยได้หลากหลายบรรยากาศ  ลองฟังว่า “เมืองวรนคร” จังหวัดน่านมีสิ่ง ๆ ดีให้ชมมากมาย ส่วนการดูแลสุขภาพมีข้อแนะนำผู้ที่กินอาหารแช่แข็งมาฝาก และ ข่าวในรอบสัปดาห์ข้อมูลจากกระทรวงการคลังสรุปสถานการณ์เศรษฐกิจต้นปีเดือนแรกมกราคม 2559 อาการน่าเป็นห่วงดัชนีชี้วัดแต่ละตัวร่วงระนาว ยกเว้นการท่องเที่ยวอุตสาหกรรมเดียวที่ยังรอดตัว

@เที่ยวแดนพันปี“วรนคร”เมืองน่าน

วัดพระธาตุแช่แห้ง จ.น่่าน

 

        วันธรรมดาน่าเที่ยว ปีวอก สามารถเที่ยวได้อย่างสบายใจ จะแนะนำ 1 ในเมืองต้องห้ามพลาด...พลัส  “จังหวัดน่าน” ดินแดนแห่งวรนคร (เมืองปัว) ไปไหว้ “พระธาตุเก่าแก่ในล้านนา” อายุกว่า 600 ปี ที่ “พระธาตุแช่แห้ง”

         สมัยพระยาการเมือง แห่งวรนคร หรือเมืองปัว พระองค์ได้รับพระราชทานพระธาตุ 7 องค์ พระพิมพ์ทองคำ 20 องค์ และพระพิมพ์เงิน 20 องค์ จากพระมหาธรรมราชาลิไท เจ้าเมืองสุโขทัย จึงได้คิดสร้าง “วัดพระธาตุแช่แห้ง” ขึ้น เพื่อประดิษฐานพระธาตุและพระพิมพ์ดังกล่าว

         รวมถึงย้ายที่ตั้งเมืองปัวเดิมลงมายังบริเวณวัดพระธาตุแช่แห้ง ตั้งชื่อใหม่ว่า “ภูเพียงแช่แห้ง” มีพระธาตุแช่แห้งเป็นศูนย์กลางเมืองสมัยนั้น ทำให้พุทธศาสนิกชนถือว่าวัดพระธาตุแช่แห้งเป็นปูชนียสถานศักดิสิทธิ์และสำคัญอีกแห่งของประเทศไทย

            ปัจจุบันภายในวัดมีต้นโพธิ์ไม้ใหญ่อายุนับร้อยปีอยู่มากบริเวณหน้าวัด และต้นพิกุลอยู่ใกล้บันไดนาค มีศาลหลวงท้าวขาถ่าน ขุนนางคนสำคัญทางการรบที่ชาวเมืองน่านเคารพ

บรรยากาศชุมชนพระธาตุช่อแห้ง จ.น่าน

 

            ทุกวันี้ชมชน “พระธาตุแช่แห้ง” เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ตั้งอยู่บริเวณบ้านหนองเต่า ต.ม่วงตี๊ด อ.ภูเพียง (ซึ่งในอดีตเป็นที่ตั้งเมืองน่าน) ภายในบริเวณมี “สระน้ำหนองเต่า” ที่เกิดจากการขุดดินมาก่อสร้างภูเพียงแช่แห้ง ทำวัด โบสถ์ วิหาร และ กำแพงเมือง

             การได้ไปใช้ชีวิตช้า ๆ ไหว้พระธาตุ นั่งรถรางไปดูกำแพงและคูเมืองเก่า เมืองน่าน ความยาวหลายกิโลเมตร ล้อมรอบด้วยหนองน้ำและวัดอีก 12 วัด ที่มีประวัติศาสตร์บ่งบอกไว้ว่า “เจ็ดประตู หนึ่งหนอง สิบสองวัด” คำว่า “เจ็ดประตู” หมายถึงกำแพงเมืองแต่ละด้านจะมีประตูให้ประชาชนเข้าออก

          สถานที่ดังกล่าวอยู่กลางชุมชนรายล้อมด้วยสิ่งก่อสร้างบ้านเรือนทรงสูงไม้สักบ้าง ไม้ไผ่ขัดบ้าง เป็นความสุขทุกครั้งที่คนแต่ละวัยได้มาเที่ยวเมืองน่านเหมือนด้วยกัน

@กินอาหารแช่แข็งอย่างฉลาด

          ผศ.ดร.ชาลีดา บรมพิชัยชาติกุล ภาควิชาเทคโนโลยีทางอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แนะนำ ปัจจุบันอาหารง่ายๆ ที่เป็นที่นิยมของผู้บริโภค ที่แช่แข็งเมื่อหิวเมื่อไหร่ก็ส่งอาหารเข้าไมโครเวฟรอไม่เกิน 5 นาทีก็พร้อมรับประทาน ผู้บริโภคควรเข้าใจเก็บรักษา

          อาหารแช่แข็งนั้นผ่านการวิจัยค้นคว้าและพัฒนามาเป็นเวลานาน และมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ในการแช่เยือกแข็งอาหารอยู่เสมอ อาหารแช่เยือกแข็งอาหารแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ อาหารพร้อมปรุง และอาหารพร้อมทาน ที่ต้องใช้วัตถุดิบในการปรุงที่มีคุณภาพดี สด สะอาด เพื่อให้ได้อาหารที่มีรสชาติอร่อยถูกปากผู้บริโภค ก่อนนำเข้าสู่กระบวนการแช่เยือกแข็ง ซึ่งในกระบวนการแช่เยือกแข็งจะใช้ช่วงอุณหภูมิสำหรับเยือกแข็ง ที่ประมาณ -18 ถึง -20 องศาเซลเซียส

         การเก็บรักษาอาหารแช่แข็งอย่างถูกวิธี ก่อนนำมาอุ่นรับประทานนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยแนะนำว่าหากจะซื้ออาหารแช่แข็งจากร้านไปรับประทาน ควรเตรียมกล่องหรือถุงที่สามารถรักษาความเย็นได้มาด้วย โดยต้องเก็บอาหารไว้ทันทีที่ออกจากตู้ จากนั้นเมื่อกลับถึงบ้านต้องรีบนำเข้าตู้เย็นในช่องแช่แข็งที่ตั้งอุณหภูมิ ไว้ต่ำสุด เพื่อรักษาสภาพอาหารไว้

        ควรซื้ออาหารแช่แข็งในปริมาณที่เพียงพอต่อการบริโภค ไม่ควรซื้อกักตุนเอาไว้ทานหลายๆวัน และต้องดูฉลากที่ระบุวันหมดอายุไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้อาหารที่นำมาบริโภคนั้นใหม่ สด และหลีกเลี่ยงการเสื่อมเสียอันเนื่องมาจากการจัดเก็บที่ไม่เหมาะสม

สำหรับข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “สถานการณ์เศรษฐกิจต้นปีอาการน่าเป็นห่วง”

        น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน ม.ค.59 ว่า เศรษฐกิจไทยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายรัฐบาลและภาคการท่องเที่ยวต่างประเทศที่ยังขยายตัวได้ดี แต่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์การใช้จ่ายภาคเอกชนที่มีสัญญาณชะลอลง และการส่งออกสินค้าของไทยที่ยังคงหดตัวต่อเนื่อง

สำหรับการบริโภคภาคเอกชนมีสัญญาณชะลอลง สะท้อนจากยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ หดตัว -1.2% ต่อปี จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าที่ยังคงหดตัวต่อเนื่อง ในขณะที่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากฐานการใช้จ่ายภายในประเทศขยายตัวเล็กน้อย

         1.ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยปรับตัวลดลงในรอบ 4 เดือน มาอยู่ที่ระดับ 64.4 เนื่องจากผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้า และได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอน กอปรกับราคาสินค้าเกษตรที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ

         2.การลงทุนภาคเอกชนมีสัญญาณชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะการลงทุนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่หดตัว -5.6% ต่อปี ส่วนหนึ่งเนื่องจากมีการเร่งโอนไปแล้วในช่วงเวลาก่อนหน้าก่อนที่ราคาประเมินที่ดินใหม่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ม.ค.59 ขณะที่ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์กลับมาหดตัวในรอบ 2 เดือน ที่ -0.3% ต่อปี ในขณะที่ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างที่หดตัวเช่นกันที่ -6.2% ต่อปี

        3.สถานการณ์ด้านการคลัง เน้นการเบิกจ่ายงบประมาณปีปัจจุบันจำนวน 241.0 พันล้านบาท ขยายตัว 21.8% ต่อปี

         -ด้านอุปสงค์จากต่างประเทศผ่านการส่งออกสินค้าหดตัวต่อเนื่อง โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐหดตัว -8.9% ต่อปี ซึ่งเป็นการหดตัวในเกือบทุกกลุ่มสินค้าส่งออก โดยเฉพาะน้ำมันและเชื้อเพลง และกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่ภาพรวมการส่งออกรายตลาดหดตัวเกือบทุกประเทศ โดยเฉพาะคู่ค้าหลัก ได้แก่ อาเซียน-5 ญี่ปุ่น และสหรัฐ เป็นสำคัญ แต่ตลาดส่งออกไปกลุ่มประเทศ ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ และ CLMV ยังขยายตัวเป็นบวก

        4.ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ขยายตัว 2.8% ต่อปี

       5.ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ลดลงในรอบ 5 เดือน มาอยู่ที่ระดับ 86.3 เนื่องจากความกังวลต่อการชะลอตัวของกำลังซื้อภายในประเทศจากการเร่งใช้จ่ายในเดือนก่อนหน้า ปัญหาภัยแล้ง รวมถึงปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน

 

ข่าวที่สอง “SPAทุบสถิติรายได้ปี59ขยายลงทุนเพียบ”

ระรินจินดา สปา ต้นแบบการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ

          วิบูลย์ อุตสาหจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA ผู้นำด้านการให้บริการธุรกิจสปาแบบครบวงจร เปิดเผยว่า “ผลประกอบการปี 2558 ของ SPA รายได้รวมสุทธิ 543 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากรายได้รวมปี 2557 ที่ 343 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 58 ส่วนกำไรสุทธิ รวมทั้งปี 2558 สูงถึง 106 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไรรวมปี 2557 ที่ 33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 220 โดยเน็ตมาร์จิ้นอยู่ที่ร้อยละ 19.97 ของรายได้จากการขายและบริการ ทำให้ภาพรวมของผลประกอบการปี 2558 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งในส่วนของรายได้เเละกำไรสุทธิ นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาการจ่ายเงินปันผลให้แก่ ผู้ถือหุ้นอีก 0.05 บาท หลังจากมีการปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.05 บาท”

       ปี 2559 บริษัทฯ วางงบลงทุนไว้ 500 ล้านบาท โดยครึ่งหนึ่งหรือ 250 ล้านบาท ใช้ในการขยายสาขา เพิ่มเติม จำนวน 10 สาขา เเละอีกครึ่งหนึ่งหรือ 250 ล้านบาทสำหรับเข้าซื้อกิจการที่เกี่ยวเนื่อง  โดยปีนี้ตั้งเป้า รายได้โตไม่ต่ำกว่า 35% พร้อมกับรุกขยายในเออีซี ได้แก่ กัมพูชา, เวียดนาม, พม่า สปป.ลาว สิงคโปร์ มาเลเซีย ขานรับวิสัยทัศน์ปี 2020 ของ SPA ที่ต้องการเป็นผู้นำด้านธุรกิจสปาของเอเชีย โดยมีตราสินค้าที่เป็นยอมรับของภูมิภาคเอเชีย

 

พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.

ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
ติดตามฟังรายการย้อนหลังเข้าไปที่ www.google.com พิมพ์คำว่า รวยด้วยข่าว97.0
หรือทาง www.facebook.com/rauydauykhao

นักบินไทยกับทางออกใหม่ในรัฐบาลลุงตู่

สบพ.ลุยพลิกโอกาสการบินของประเทศ
ห้ามพลาดชมเมือง3พันปีใกล้กรุงที่อู่ทอง

สวัสดีเช้าวันเสาร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 11.00-12.00 น.พบกันในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทาง “สถานีวิทยุแห่งประเทศไทย” FM 97.0 MHz. ฟังสาระข่าวเศรษฐกิจท่องเที่ยวเสาหลักสำคัญของประเทศได้ครอบคลุมหลากหลายเนื้อหา

วรินทร เลี่ยมนาค ผู้อำนวยการ สำนักวิจัยและพัฒนาธุรกิจการบิน สบพ.
 

 

              ช่วงแรกเวลา 11.15 น. “วรินทร เลี่ยมนาค” ผู้อำนวยการ สำนักวิจัยและพัฒนาธุรกิจการบิน สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) อธิบายถึง ทางออกของ “ประเทศไทยในเรื่องการแปรวิกฤตเป็นโอกาสการผลิตนักบิน” ป้อนสายการบินต้นทุนต่ำ หรือ Low cost airline ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว นำนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติเข้าออกปีละกว่า 600 ล้านคน นั้น ปัจจุบัน สบพ.สามารถเป็นสถาบันผลิตนักบินเข้าสู่ตลาดนักบินพาณิชย์ปีละ 100 คน ระดับอนุปริญญา ปริญญาตรี และโท รวมถึงวิศวอากาศยาน ช่างซ่อมเครื่องบิน บุคลากรควบคุมจราจรทางอากาศ ประการสำคัญการเรียนที่ สบพ.เป็นแห่งเดียวเมื่อเรียนจบตามหลักสูตรมาตรฐานแล้วจะได้รับใบอนุญาตนักบินตรีโดยอัตโนมัติ

 

           เนื่องจาก สบพ.เป็นหน่วยงานที่ องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศไทย (ICAO) เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งมา 55 ปี จึงได้วางหลักสูตรมาตรฐานการเรียนนักบินและอาชีพที่เกี่ยวข้องไว้เป็นสากล ส่วนโรงเรียนการบินแห่งอื่นเมื่อเรียนจบแล้วจะต้องสอบใบอนุญาตนักบินที่หน่วยงานใหม่คือ “สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย” (กรมการบินพลเรือน เดิม)

         ขณะนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2559 สบพ.กำลังเปิดรับนักเรียนการบินแบบ A, B ด้วยเช่นกัน ผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้ทางเว็บไซต์ของสถาบันการบินพลเรือนได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

         รวมถึงมีข่าวดีรัฐบาลได้อนุมัติให้ สบพ.ขยายอาคารเรียนการบินที่กรุงเทพฯ เป็นอาคารใหม่กำลังก่อสร้าง 18 ชั้น เตรียมเปิดเร็ว ๆ นี้เช่นกัน สำหรับเครื่องบินฝึกเรียนนั้นจะมีอยู่หลายแห่ง และขณะนี้ก็มีโรงเรียนการบินของภาครัฐและเอกชน

จากนั้นมาฟังข่าวช่วงเบรกแรก

ข่าวที่ 1 “สิทธิพิเศษซื้อทัวร์หลวงพระบาง3วันหมื่นกว่าบาท”

          สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์  แพ็กเกจเที่ยวครบเซ็ต เมืองหลวงพระบาง 3 วัน 2 คืน ราคาเริ่มต้นที่คนละ 13,500 บาท  โดยรวมตั๋วโดยสารเครื่องบินไป - กลับ ทัวร์และโรงแรม โปรแกรมทัวร์ สักการะวัดใหมสุ่วันพุมาราม วัดเชียงทอง วัดวิชุนราช ชมวิวริมฝั่งโขง แม่นํ้าคานและนํ้าตกกวางสี ตักบาตรข้าวเหนียวถนนสายข้าวเหนียว ชมหอพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง

          จองวันนี้และเดินทางวันนี้ - 31 มีนาคม 2559 สอบถามเพิ่มเติมผ่านตัวแทนจำหน่ายสายการบินลาว แอร์ไลน์ โทร. Journey Laos (Land) Call Center 0 2428 6688 หรือ สายการบิน บางกอกแอร์เวย์ส โทร. Bangkok Travel Club Call Center 0 2265 5700

บรรยากาศเมืองมรดกโลก "หลวงพระบาง" สปป.ลาว

 

ข่าวที่ 2 “ชมศิลปะเมืองดอกไม้วังน้ำเขียว”ถึง31มี.ค.นี้

           การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงาน นครราชสีมา ชวนเที่ยวงาน "ฟลอร่า พาร์ค (Flora Park) " ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2559  ไปชมความยิ่งใหญ่งดงามของศิลปะ ไม้ดอก พืชผัก    ณ บริเวณแยกวัดโพธิ์เฉลิมพระเกียรติ ทางหลวง 3052 วังน้ำเขียว-เขาแผงม้า กม.9 อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

         นักท่องเที่ยวจะได้พบกับมหกรรมการแสดงดอกไม้คู่กับงานศิลปะ กว่า 70 ไร่ กุหลาบสายพันธุ์อังกฤษกว่า 2,000 ต้น ตลาดนัด "ฟาร์ม เมอร์ มาร์เก็ต" โครงการปลูกผักอินทรีย์ ไร่กาแฟ 2 สายพันธุ์ ของ "ศูนย์เรียนรู้ฟ้าประทาน" สวนจิตรกรรมธรรมชาติเทคนิค Vertical Garden เขาวงกตดอกไม้กว่า 200,000 กระถาง

         สอบถามเพิ่มเติม :  Florapark Wangnamkeaw โทร. 089 812 8851 , 081 372 8851 และททท.สำนักงานนครราชสีมา โทร. 044 213 666 , 044 213 030  #5042

 

ข่าวที่ 3 “บางจากแจงความคืบหน้าBCPG”

            สุรชัย โฆษิตเสรีวงค์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานด้านบัญชีและการเงิน บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) กล่าวถึง ความคืบหน้าการนำหุ้นบริษัท บีซีพีจี จำกัด (BCPG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ทำธุรกิจไฟฟ้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยคาดว่าจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในช่วงปลายเดือน มี.ค.59 และจะเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) อย่างเร็วที่สุดในไตรมาส 4/59 โดยการเข้าระดมทุนครั้งนี้จะนำไปรองรับการขยายธุรกิจ

        ทั้งนี้ BCPG มีเป้าหมายขยายกำลังการผลิตภายใน 5 ปี (ปี 2559-2563) เป็น 500 เมกะวัตต์ จากสิ้นปีก่อนมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 175 เมกะวัตต์ โดยวางงบลงทุน 5 ปีที่ระดับ 4.5 หมื่นล้านบาท จะเป็นการลงทุนทั้งในญี่ปุ่นและในไทย รวมทั้งมองโอกาสจะขยายการลงทุน พลังงานลมที่เกาหลีใต้ ,ไต้หวัน ,จีน หรือในแถบเอเชีย รวมถึงทวีปยุโรป, สหรัฐ ด้วย เบื้องต้นคาดได้เงินจากการระดมทุนขาย IPO ราว 6-8 พันล้านบาท

 ข่าวที่ 4 “เล็งเสนอทำพ.ร.บ.ไมซ์”

ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์

         ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)หรือ TCEB เปิดเผยว่า ขณะนี้ TCEB กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 8 และอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ จึงมีแนวคิดจะผลักดันให้เกิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เกี่ยวข้องกับ การสัมมนา ประชุมนานาชาติ เดินทางฟรีเพื่อเป็นรางวัลและจัดนิทรรศการหรือ ไมซ์  ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งการดึงงานและรายได้เข้าประเทศ ยังเพิ่มช่องทางและศักยภาพให้ผู้จัดงานของไทย ขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศได้ด้วย

         การจัดทำ พ.ร.บ.ไมซ์ โดยเฉพาะ ขึ้นมานั้นควรทำโครงสร้างองค์กรโดยดูจากโมเดลต้นแบบของ “สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน” (BOI) เพื่อส่งเสริมการจัดงานด้านไมซ์แบบครบวงจรโดยเฉพาะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาได้เต็มที่ เพราะไมซ์สามารถนำรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้ปีละกว่า 1 แสนล้านบาท

          ขณะเดียวกันการมี พ.ร.บ.เฉพาะก็จะสามารถวางกลยุทธ์บริหารจัดการได้แบบ “วันสต็อปเซอร์วิส”  อำนวยความสะดวกเพิ่มจำนวนและคุณภาพการจัดงานไมซ์ในไทยเพิ่มขึ้น และมีหลากหลายขึ้น จ้างงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันนี้มีหลายงานไม่เลือกมาจัดในไทย  ด้วยเหตุผลคือหากลูกค้าต้องจัดงานที่เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ต้องใช้เวลานานหลายเดือนเพื่อติดต่อประสานตามระเบียบขั้นตอนกับแต่ละหน่วยงานดังกล่าว จึงไม่สะดวกเหมือนกับประเทศอื่น ๆ

ข่าวที่ 5 “สุวรรณเฟส2เนื้อหอมจีนอินโดฯสนลงทุน”

        น.ท. สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยว่า ตามขั้นตอนพัฒนาสนามบินนนาชาติสุวรรณภูมิเฟส 2 จะเริ่มทันทีภายในเดือนมีนาคม 2559 นี้ โดยเปิดการประกวดราคาจ้างงานภายใต้กรอบวงเงิน 15,000 ล้านบาท นำร่อง  3 สัญญาแรก จากทั้งหมด 7 สัญญา  จากนั้นในเดือนกรกฎาคม จัดหาผู้รับจ้าง และเดือนสิงหาคม นี้ จึงเริ่มก่อสร้าง ประกอบด้วย

          1. งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคาร เทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานโครงสร้างและงานระบบหลัก)

         2.งานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค ซึ่งทั้ง 2 สัญญาจ้างก่อสร้างนี้ มีกรอบงบประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท         3.งานจัดงานที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง (CSC) เป็นเวลา 38 เดือน วงเงินราว 1,000 ล้านบาท ที่จะนำรายละเอียดงานเสนอ คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายโครงการของรัฐ (คตร.)  พิจารณา

       สำหรับสัญญาที่เหลือยังคงปฏิบัติตามแผนเดิมจะจัดหาผู้รับจ้างและเริ่มงานก่อสร้างได้ในปี2560 เพื่อให้โครงการก่อสร้างทั้งหมดและเปิดใช้งานในปี 2562 อีก 4 งาน ได้แก่ 1.งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น 2-4) และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานระบบย่อย)  2. งานจ้างก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก อาคารสำนักงานสายการบินและที่จอดรถด้านทิศตะวันออก 3.งานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) 4.งานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า (BHS) และระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS) (ขาออก)  

 ข่าวที่ 6 “ซีอีโอไทยแอร์แจงบินไทยไม่ได้ซื้อหุ้น”

         ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชียซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ(Low Cost Airline) เปิดเผยว่าในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด ขอชี้แจงว่าไทยแอร์เอเชียไม่มีการเจรจาซื้อขายหุ้นของบริษัทกับ บมจ.การบินไทย (THAI) แต่อย่างใด ส่วนการเข้าหารือวางแผนกลยุทธ์ สำหรับอุตสาหกรรมการบิน ร่วมกับสายการบินในประเทศไทย ก็ทำไปเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์การคมนาคม และการกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทยเท่านั้น  

        สำหรับที่มาของกระแสข่าวดังกล่าวมาจากความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน จากการอ้างอิงถึงว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เสนอให้บมจ.การบินไทย (THAI) เข้าซื้อหุ้น AAV สัดส่วน 20% ทว่าในความเป็นจริงเป็นเพียงเสนอแนะให้ทุกสายการบินของไทยร่วมมือกันทำให้ไทยเป็นประเทศเกตเวย์เออีซีเท่านั้น โดยเฉพาะเกตเวย์การบินกับกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม

       ทั้งนี้รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ ในไทย แอร์เอเชีย ณ วันที่ 12 มี.ค.58 ได้แก่ นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็บด์ ถือหุ้นสัดส่วน 44% และในวันที่ 29 ม.ค.59 ได้ปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น เป็นนายธรรศพลฐ์ ถือหุ้น 13% นางสาวภัทรี แบเลเว็ลด์ (บุตรยังไม่บรรลุนิติภาวะ) ถือสัดส่วน 19% และนางศิริธร แบเลเว็ลด์(คู่สมรส) ถือ 12% รวมกันเท่ากับ 44%

          ช่วงที่ 2 เวลา 11.45 น. มีความสุขกับการแนะนำแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงอายุกว่า 3,000 ปี และการสังเกตุอาการของร่างกายที่บ่งบอกถึงการจะโรคต่าง ๆ ได้ และ ข่าวท้ายชั่วโมง กับภาพรวมเศรษฐกิจต้นปีเดือนมกราคม 2559 อาการยังน่าเป็นห่วง มีเฉพาะท่องเที่ยวที่เอาตัวรอดได้นั้น นอกนั้นติดลบระนาว

@เที่ยวเมืองโบราณใกล้กรุงที่ “อู่ทอง” สุพรรณบุรี

         ย้อนไปเมื่อ 3,000 ท คงมีไม่กี่แห่งในประเทศไทยหรือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะแสดงถึงอารยธรรมอันเก่าแก่รุ่งเรืองได้มากขนาด “เมืองโบราณอู่ทอง” จังหวัดสุพรรณบุรี ได้ชื่อว่าเป็นขุมทรัพย์แห่งอารยธรรมบรรพบุรุษยุคโบราณของคนไทย

ร่องรอยอารยธรรม3,000 ปีที่ "อู่ทอง" จ.สุพรรณบุรี

        สถาปัตยกรรมที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งอดีตคือ “กำแพงเมืองโบราณ” บนแผ่นดินราบลุ่มแม่น้ำท่าจีน ที่ยังคงมีการค้นพบร่องรอยการใช้ชีวิตของคนยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่เมืองอู่ทอง ทั้งหินที่มากะเทาะทำเครื่องมือเครื่องใช้ สิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน เครื่องปั้นดินเผา และการการก่อกำเนิด “ชุมชนโบราณ” ที่สุดแสนมหัศจรรย์

       วันนี้สามารถพาเพื่อนฝูง ลูกหลาน ครอบครัว ไปย้อนดู “ตำนานลูกปัดทวารวดี” เครื่องประดับทำจากหินสีต่าง ๆ เจาะเป็นรู ร้อยทำสร้อยคอ กำไร ต่างหู เรียกว่าลูกปัดอู่ทอง ที่ทำสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นถึง 3 ยุค จากยุคเหล็ก สู่ฟูนัน และทวารดี นั่นเอง

      “พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอู่ทอง” ซึ่งมีชื่อปรากฏอยู่ในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาว่า พระเจ้าอู่ทองทรงอพยพผู้คนหนีโรคห่า (อหิวาต์) จากเมืองอู่ทองไปสร้างเมืองหลวงใหม่ที่อยุธยา “อู่ทองจึงเป็นอู่อารยธรรมโบราณ” ที่ควรค่าจะเข้าไปเรียนรู้ได้ตลอดทุกวัย

       ภายในบริเวณมีสถานที่ท่องเที่ยวมรดกวัฒนธรรมมากมายให้ชม ได้แก่ สวนหินธรรมชาติ พุหางนาค เป็นสวนป่าไม้อายุนับพันปี “รอยพระพุทธบาท วัดเขาดีสลัก” รอยพระพุทธบาทจำลองสร้างด้วยหินทรายแดง “วัดเขาพระศรีสรรเพชญาราม (เดิมชื่อวัดเขาพระ) สร้างสมัยทวารวดีมีโบราณวัตถุหลายชิ้นให้ชม เช่น พระพุทธไสยาสน์ พระพุทธรูปปางต่าง ๆ “เทวรูปจักรนารายณ์เนื้อหิน” สลักจากเนื้อหินความสูง 175 ซม.กว้าง 97 ซม.
       “ศาลเจ้าพ่อพระยาจักร (ตลาดอู่ทอง)” เป็นเทวรูปศักดิสิทธิ์สมัยทวารวดี นำหินมาแกะสลักลายนูน ตั้งอยู่บริเวณ ริมแม่น้ำจระเข้สามพัน ซึ่งได้อัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานบนแท่นบูชา เพื่อให้ประชาชนได้สักการะ

       การไปเที่ยวเมืองโบราณอู่ทอง ห้ามพลาดอุดหนุนสินค้าชุมชน ของ กลุ่มบ้านหนองเสือ เป็นอาหารสดปรุงสำเร็จทำจากพืชผักปลอดสาร “กลุ่มผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าว” เช่น โคมไฟ ตะเกียบ กระบวย พวงกุญแจ “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนคงเย็นเพื่อนพึ่ง (ภา)”  จำหน่ายสินค้าสุขภาพเกษตรอินทรีย์ “กลุ่มขนมบ้านเขาพระ” ทำทองม้วน ขนมแปรรูป “กลุ่มชมรมนำเที่ยวสำนักสงฆ์พุหางนาค” ผลิตสมุนไพรพื้นบ้านหลายชนิด และ “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนต้นแจงพัฒนา”ผลิตสมุนไพรธรรมชาติขึ้นชื่อ เช่น พิมเสน ยาหม่อง

       สอบถามข้อมูลเพิ่มที่ ชุมชนเมืองโบราณทวารวดี อู่ทอง 081-851-7087

 

@5อาการบ่งบอกโรคที่ต้องระวัง

มารู้ทันร่างกายและสามารถดูแลรักษาได้แต่เนิ่นๆ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องโรคร้ายที่จะถามหาอีกต่อไป กับ 5 สัญญาณ ที่กำลังฟ้องว่า ร่างกายกำลังป่วย เป็นอะไร

           1. ไม่หิวเมื่อถึงเวลาอาหาร เป็นสัญญาณเตือนที่แสดงให้เห็นว่าระบบย่อยและดูดซึมอาหารของร่างกายกำลังมีปัญหา จึงไม่ผลิตน้ำย่อยออกมา ดังนั้นไม่ว่าเราจะทานอาหารดีๆเข้าไปแค่ไหน ร่างกายก็จะไม่สามารถดูดซึมกลับไปใช้ได้เลย เป็นเหตุทำให้ร่ายกายจะค่อยๆขาดสารอาหาร เสื่อมสภาพ ป่วยง่าย จนลุกลามไปถึงโรคร้ายอื่นๆในที่สุด

         2. ไม่ว่าจะดื่มน้ำเท่าไหร่ก็ยังคอแห้ง เกิดจาก 2 ปัจจัยใหญ่ๆ อย่างแรกคือภายในร่างกายมีอาการร้อนใน จึงทำให้ในร่ายกายมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอ กับสาเหตุที่ 2 คือ เลือดหมุนเวียนไม่ดี ทำให้การหมุนเวียนของน้ำในร่างกายมีปัญหาไปด้วย จึงทำให้เรารู้สึกหิวน้ำเวลาที่เลือดไปหล่อเลี้ยงบริเวณลำคอไม่เพียงพอนั่นเอง หากใครพบปัญหานี้ ควรงดน้ำเย็น น้ำแข็ง หรือไอศกรีม เลี่ยงการทานเนื้อไก่และเนื้อวัว ให้ทานเนื้อหมูแทน เพราะว่าถ้าอาการของเรามีสาเหตุมาจากอาการร้อนใน ของเหล่านี้จะยิ่งทำให้ร่างกายเกิดอาการร้อนในเพิ่มมากขึ้น

      3. นอนเท่าไหร่ก็ไม่พอ ไม่ว่าตอนกลางคืนจะนอนไปมากมายแค่ไหน แต่ก็มักจะง่วงตอนกลางวันด้วยตลอด อาการแบบนี้เกิดขึ้นจาก “พลังงานในร่างกายไม่เพียงพอ” มีสาเหตุอันเนื่องมาจากนิสัยการใช้ชิวิตแบบผิดๆ ทั้งเรื่องอาหารการกินและการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอติดต่อกันนาน วิธีแก้ไขก็ง่ายๆ เพียงแค่ทานเนื้อหมูและปลามากๆ เพื่อเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย นอนพักผ่อนให้ครบ 8 ชั่วโมง และหลีกเลี่ยงอาหารเย็น เพราะจะทำลายพลังงานที่ร่างกายสะสมไว้

       4. ลุกเข้าห้องน้ำกลางดึกเป็นประจำ แสดงให้เห็นว่าไตของเราเริ่มมีอาการไม่ค่อยแข็งแรง เพราะไตมีความเชื่อมโยงกับกระดูกภายในร่างกาย เมื่อไตไม่แข็งแรงแคลเซียมที่ควรจะถูกดูดกลบไปใชงานในร่างกายก็จะรั่วออกมาทางน้ำปัสสาวะมากเกินไป หากไม่ทำการรักษาจะส่งผลให้เป็นโรคกระดูกพรุน เข่าเสื่อม และหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมทับเส้นประสาท วิธีการบรรเทาคือการพักผ่อนให้เพียงพอ

       5.ปวดเมื่อยตัวแบบเป็นๆหายๆ อาจจะเกิดจากสาเหตุเพราะเม็ดเลือดหรือน้ำเลือดน้อยเกินไป เลือดข้นหนืดมากเกินไป หรือมีสารพิษตกค้างอยู่ในร่างกาย หากปล่อยไว้นาน จะส่งผลให้หลอดเลือดทั่วร่างกายเกิดอาการตีบตัน วิธีบรรเทาอาการเบื้องต้น สามารถทำได้โดยการทานเนื้อสัตว์ที่เป็นโปรตีนสะอาด เช่นเนื้อปลาและหมู ใช้เครื่องเทศที่มีฤทธิ์ร้อนเป็นเครื่องปรุง เพื่อให้เลือดหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น

 ฟังข่าวในรอบสัปดาห์ที่น่าสนใจตลอดสัปดาห์

ข่าวแรก “นกแอร์ชนวนรื้อใหญ่การบินทั้งระบบ”

       ผลจากสายการบินนกแอร์ สร้างปรากฎการณ์ประกาศหยุดบินประจำเส้นทางในประเทศเป็นว่าเล่นทุกวัน ทำให้ผู้โดยสารส่วนใหญ่กังวลกับความไม่แน่นอนเมื่อซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าไปแล้ว จากการที่ทางสายการบินแก้ปัญหาแบบรายสัปดาห์ ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดปลายทางเริ่มวิตกจริต จะพลอยเสียลูกค้าและรายได้ไปด้วย สำหรับ “กระทรวงคมนาคม” หน่วยงานกำกับดูแลการบินของประเทศ นอกจากจะเคลียร์ปัญหามาตรฐานความปลอดภัยทางการบินให้ได้ตามเกณฑ์ของ ICAO ยังไม่จบ ขณะนี้ต้องลุกขึ้นมาไล่เรียงตั้งแต่ต้นทางใหม่ถึง “โครงสร้างการผลิตนักบิน” ให้เพียงพอกับความต้องการของโลว์คอสต์ซึ่งเป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยว โจทก์นี้ซับซ้อนจนน่าจับตาว่า “รัฐบาลลุงตู่” จะเอาอยู่หรือไม่ ?

 

ข่าวที่สอง “ดันอู่ตะเภาถึงฝันนำเข้าทัวร์สู่ชุมชน3ล้านคน”

     อิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา อธิบายเพิ่มถึงหลังการเปิดใช้สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา พัทยา ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นถึง 40 % และภายใน 3 ปีข้างหน้าเมื่อเปิดบริการเชื่อมสิ่งอำนวยความสะดวกการคมนาคมในสนามบินเต็มรูปแบบจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางด้วยเครื่องบินเข้าพัทยาไม่ต่ำกว่าปีละ 3 ล้านคน จากปีนี้จะมีประมาณ 1.2 ล้านคน ขณะนี้กำลังวางแผนเชื่อมโยงการท่องเที่ยวภาคตะวันออกและพัทยาหรือ Active Beach เข้ากับกลุ่มเมืองมรดกโลกอาเซียน เช่น หลวงพระบาง สปป.ลาว

    อีกทั้งทางเมืองพัทยาได้วางแผนขยายจุดขายทางการท่องเที่ยวภายใต้โลโก้ “พัทยาซิตี้” เปิดแหล่งท่องเที่ยว “ชุมชน” ร่วมกับองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(องค์การมหาชน) หรือ “อพท.” เช่น  “ชุมชนบ้านชากแง้ว” หมู่บ้านดั้งเดิมของชาวไทยเชื้อสายจีนอายุนับร้อยปี “บ้านตะเคียนเตี้ย” ศูนย์รวมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านเก่าแก่ และยังมีการยกระดับอาชีพ “กลุ่มนวดแผนไทย” กลุ่มผลิตสินค้าที่ระลึก” จากชุมชนย่อย 42 แห่ง มานำเสนอเพื่อเพิ่มรายได้กระจายถึงทุกพื้นที่ชุมชน

 

ข่าวที่สาม “กอบกาญจน์โฆษกรายงานสถิติท่องเที่ยว”

“         กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร” รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ข้อมูล ณ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2559 มีตัวเลขนักท่องเที่ยวและก่อให้เกิดรายได้จากท่องเที่ยว 274,763.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.57 %ประกอบด้วยนักท่องเที่ยวในท่าอากาศยานหลัก 5 แห่ง เพิ่มขึ้น 31.39 % ขยายตัวสูงสุดคือ ดอนเมือง เพิ่ม 87.83 %รองลงมาได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต สุวรรณภูมิ และหาดใหญ่

พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.

ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน และ นฤมล พุกยม

ติดตามฟังรายการย้อนหลังเข้าไปที่ www.google.com พิมพ์คำว่า รวยด้วยข่าว97.0
หรือทาง www.facebook.com/rauydauykhao