วันเสาร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ท่องเที่ยวปีจอ2561 ไทยรุ่งสุดๆ-รัฐบาลปลุกเที่ยว55เมืองรองดันเศรษฐกิจชุมชนรวย-เคาน์ดาวภาคกลาง ราชประสงค์อลังการ

จับตาเทรนด์ท่องเที่ยวสู่ทศวรรษที่6ปีจอ 2561
กระจายความรวยสู่เมืองรองลดเหลื่อมล้ำรากหญ้า
คิงเพาเวอร์ดึงรายได้เข้าไทย-CSRสำเร็จเกินร้อย
ททท.ปั้นโมเดล10ชุมชนต้นแบบยั่งยืนโตเท่าตัว
บางจากผนึกเคแบงก์ใช้QRโค้ดช้อปร้านSPAR
ค่ำนี้ตลุยเคาน์ดาวน์ภาคกลางรอบกรุง 7ไฮไลต์
โรงแรมทั่วไทยงัดเมนูเด็ดเสิร์ฟส่งท้ายปีระกา
บางกอกแอร์ให้ใช้ฟรีเลาจน์ใหม่ในสุวรรณภูมิ
บินไทยเสิร์ฟขนมไทยทุกเที่ยวบินปีใหม่1มค.

สวัสดีวันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน คอลัมนิสต์ท่องเที่ยว-การบิน
 ผู้ดำเนินรายการ ข่าวเสาร์-อาทิตย์


ช่วงที่ 1 “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ผู้ดำเนินรายการ จะวิเคราะห์ให้ฟังถึงภาพรวมอุตสาหกรรม “ท่องเที่ยวทศวรรษที่ 6 ปีจอ 2561 รัฐบาลเร่งกระจายความรวยสู่เมืองรองและชุมชน” ขานรับกระแสโหรเศรษฐกิจระดับโลกอย่าง เวิลด์แบงก์-ไอเอ็มเอฟ และสถาบันชั้นนำในไทย พยากรณ์ไปในทางเดียวกันว่าเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ยุคขาขึ้น แนะรัฐบาลรุกหนักในการผลักดันท่องเที่ยวเป็นทัพหน้าโกยรายได้ให้มากกว่าปีละ 3 ล้านล้านบาท เคียงข้างแผนขยายการลงทุนสร้างสนามบิน เขตเศรษฐกิจ แอร์ไลน์สจีนและทั่วโลกทะลักเข้าไทย

ตลอดปีระกา 2560 ต่อเนื่องถึงปีจอ 2561 “อุตสาหกรรมท่องเที่ยว” ยังคงครองตำแหน่ง “ปีทอง” เป็นภาคบริการที่สามารถนำเข้ารายได้ประเทศทะลุเป้าหมาย 2.77-3.0 ล้านล้านบาท

ความสำเร็จที่ปรากฏเป็นรูปธรรมจากองค์กรผู้นำความเป็นเลิศทางการตลาดอย่าง “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) เล่นบทเดินหน้าประสานสิบทิศกับเอกชนและหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในประเทศและทั่วโลก พร้อมทั้งร่วมมือกับสายการบินระดับแถวหน้าของประเทศและนานาชาตินำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาใช้จ่ายเงินในไทยตลอดปีระกาที่มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวคนที่ 35 ล้าน สูงกว่าเป้าหมายปกติตั้งไว้เพียง 33 ล้านคนเท่านั้น ส่วนรายได้ก็ทะลุเกินเป้าหมาย 2.77 ล้านล้านบาท คนไทยเที่ยวในประเทศแตะ 148 ล้านคนครั้ง ทำรายได้เกิน 9 แสนล้านคน

ส่งผลไปถึงปีจอ 2561 คนไทยทั้งประเทศอาจจะได้ฟังข่าวดีจาก “รายได้” การนำเข้าภาคบริการเพิ่มสูงขึ้น จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.1 ล้านล้านบาท และคนไทย 1 ล้านล้านบาท อาจจะเกินเป้าหมาย 3.1 ล้านล้านบาท

หลังจากเมื่อเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ปรับคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งชุดใหม่เป็นชุดที่ 5 เข้ามาขับเคลื่อนนโยบายในจังหวะที่โหรเศรษฐกิจทั้งไทยและเทศพยากรณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่า ในปี 2561 ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วง “เศรษฐกิจขาขึ้น” โดยเฉพาะอุตสาหกรรม “ท่องเที่ยว” จะเป็นแม่เหล็กขั้วใหญ่ดึงเม็ดเงินต่างชาติเข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 2.1 ล้านล้านบาท

วีระศักดิ์ โควสุรัตน์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ใน ครม.5 


“ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาใน ครม. ชุดใหม่ ประกาศพร้อมแสดงฝีมือผลักดันพลังท่องเที่ยวจุดพลุขาย “การท่องเที่ยวเมืองรอง” ควบคู่กับการ “กระจายรายได้สู่ชุมชนท่องเที่ยวโดยตรง” รวมไปถึงจะต้องรักษา “อัตลักษณ์แห่งวิถีชีวิตไทย” และ “คงความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติไว้” ท่ามกลางคลื่นมนุษย์นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติถาโถมเข้าไปเที่ยวตลอดทั้งปี

จึงนับเป็นความท้าทายในการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่การก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 6 (รัฐบาลพลเอกสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้นำร่องการท่องเที่ยวไว้ตั้งแต่ปี 2503)  นำพาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย ก้าวไปสู่ “จุดเปลี่ยน” ครั้งสำคัญ นั่นคือ สร้างความมั่งคั่ง ยั่งยืน “กระจายความร่ำรวย” ขจัด “ความยากจนทุกหย่อมหญ้า” ทำให้เกิดปรากฏการณ์ “ลดความเหลื่อมล้ำ”  ชีวิตความเป็นอยู่ของสังคมไทยที่ถูกกล่าวถึงมาตลอดเกี่ยวกับรวยกระจุกจนกระจาย

ปี 2561 การท่องเที่ยวถือเป็นส่วน “ทัพหน้า”ของรัฐบาลในการเดินหน้า “คืนความสุข” ของรัฐบาล ทำให้เศรษฐกิจไทยอยู่ดีมีสุขอย่างเท่าเทียมตามสูตร ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน คืนความสุขจริง ๆ ให้ครบทั้ง 3 ขา นั่นคือ เศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม” ก่อนการนำประเทศไทยเข้าสู่สนามเลือกตั้งที่จะต้องเกิดขึ้นในปีใดปีหนึ่งข้างหน้า



สอดคล้องกับการพยากรณ์ของ “โหรเศรษฐกิจระดับโลก” 2 ค่ายใหญ่ ได้แก่ World Bank เผยแพร่รายงานเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก (World Bank East Asia and Pacific Economic Update) ขณะที่ “กองทุนการเงินระหว่างประเทศ” หรือ International Monetary Fund (IMF) จะเผยแพร่รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ได้อัพเดทข้อมูลมาตลอดปีนี้และปี 2561 ถึงอนาคตทางเศรษฐกิจประเทศไทย ยังคงติดอันดับ 1 ใน 5 เสือเศรษฐกิจอาเซียน

ในรายงานจาก IMF ปี 2560 ต่อเนื่องปี 2561 ได้ย้ำถึงตัวชี้วัดสำคัญที่น่าสนใจคือดุลบัญชีเดินสะพัด (Current Account -CA) คือ “ผลรวมสุทธิของดุลการค้า” ในเรื่อง (การส่งออก-นำเข้า) ดุลบริการ รายได้ปฐมภูมิ (ผลตอบแทนการจ้างงานและรายได้จากการลงทุน) และรายได้ทุติยภูมิ (เงินโอน) ถ้าเงินจากต่างประเทศเข้าประเทศ มากกว่าเงินไหลออก เช่น ถ้าส่งออกได้มากกว่านำเข้า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศมาก จะเรียกว่าเกินดุลบัญชีเดินสะพัด (Surplus) ถ้าเงินเข้าน้อยกว่าเงินออก จะเรียกว่าดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล (Deficit) โดยดุลบัญชีเดินสะพัดจะเปลี่ยนแปลงอย่างช้า ๆ

IMF ยังระบุถึงไทยซึ่งเป็น1  5 ประเทศอาเซียนที่มีแนวโน้มเศรษฐกิจเกินดุลบัญชีเดินสะพัดค่อนข้างมากและมีแนวโน้มเกินดุลต่อเนื่อง 2560 อัตราร้อยละ 7.7 ของ GDP เช่นเดียวกับปี 2561


สำหรับความเคลื่อนไหวมีสัญญาณดี ๆ เป็นปัจจัยบวกสำหรับการท่องเที่ยวปีทอง 2561 จากตลาดต่างประเทศทางด้าน “ผู้บริโภค” หรือ Demand Size” โดยเฉพาะ “นักท่องเที่ยวจีน” เป็นดาวรุ่งแรงต่อเนื่องพร้อมจะทะลักเข้ามาท่องเที่ยวตลอดทั้งปีหน้าตามคาดการณ์กว่า 12 ล้านคน ผนวกกับตลาดอาเซียน 9 ประเทศ ยังคงเป็นกำลังซื้อรายใหญ่กลุ่มมาแรง รวมทั้งต้องยกกลุ่ม CLMV ได้แก่ สปป.ลาว เวียดนาม เมียนมา กัมพูชา ที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 2 หลัก เป็นกลุ่มคุณภาพนิยมใช้จ่ายเงินดูแลสุขภาพ ช้อปปิ้ง และรับประทานอาหารหรูหราบนเรือสำราญ พักโรงแรมเกรดเอ

ส่วนตลาดเอเชีย ซึ่งนำรายได้เข้าไทยสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 60  % ของแต่ละปี ปี 2561 ดาวเด่นที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นแชมป์เที่ยวเมืองไทยประเทศละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ยังคงเหนียวแน่นทั้ง เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ทางตลาดระยะไกลข้ามทวีป “อเมริกา” มาเที่ยวเมืองไทยครบ 1 ล้านคนไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2560 แนวโน้มปีหน้ายังคงสดใส เช่นเดียวกับแคนาดา ททท.ได้เข้าไปเปิดสำนักงาน ททท.โตรอนโต แล้วอยู่ระหว่างเร่งหาตลาดเข้ามาเติมเต็มปีต่อไป “สหภาพยุโรป” ทางฝั่งยุโรปใหม่ด้านตะวันออก จากสาธารณรัฐเช็ค โปแลนด์ มาแรงมาก ส่วนรัสเซียเป็นแฟนพันธุ์แท้เข้ามาเที่ยวทะลุปีละล้านคนกำลังก้าวทุบสถิติใหม่จะไปให้ถึงปีละ 1.5 ล้านคน



ขณะที่ “โลจิสติกส์” การคมนาคมขนส่ง “ไทย-จีน” การแข่งขันร้อนแรงสุด ๆ เนื่องจาก  “สายการบิน” ทั้ง การบินไทย ไทยสไมล์ ไทยแอร์เอเชีย นกแอร์ และสายการบินจากหลากหลายมณฑล แข่งกันแห่เปิดจุดบินรายวัน เพื่อช่วงชิงผู้โดยสารตามเส้นทาง ไป-กลับ ตรงเข้ากรุงเทพฯ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง อู่ตะเภา ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย ส่วนยุโรปและบินข้ามทวีปก็มีสายการบินนานาชาติกลุ่มตะวันออกกลาง 3 ดาวเด่น ได้แก่ “กาตาร์แอร์เวย์ส” ที่ SKY TRAX มอบให้เป็นแชมป์สายการบินบริการดีที่สุดประจำปี 2560 เปิดแนวรุกทุกเส้นทางเชื่อม 3 ทวีป ไทย(เอเชียตะวันออกเฉียงใต้)-ตะวันออกกลาง-ยุโรป เรื่อยไปจนถึงยักษ์ใหญ่อีก 2 สายการบิน ได้แก่ สายการบินเอมิเรตส์ และเอทิฮัด เจ้าตลาดการขนส่งทางอากาศ



ส่วนสายการบินในประเทศ ก็มีบรรดาสายการบินพรีเมี่ยมแอร์ไลน์ อย่าง บางกอกแอร์เวย์ส เป็นหัวหอกบุกทะลวงการขายเชื่อมโยงด้วยกลยุทธ์ Codeshare จับมือกับสายการบินทั่วโลกกว่า 30 แอร์ไลน์ส ส่งต่อผู้โดยสารจากนานาประเทศที่เข้ามาเที่ยวเมืองไทยใช้บริการบางกอกแอร์เวย์ส และบรรดาสายการบินต้นทุนต่ำอย่าง เวียดเจ็ตแอร์ นิวเจนแอร์เวย์ส ไทยแอร์เอเชีย และอีกหลายสายการบินร่วมกันบริการไปยังเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองรองทั่วไทย

ทางด้าน “ท่าอากาศยานหรือสนามบินในประเทศ” ซึ่งอยู่ในความดูแลของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เป็นประตูต้อนรับระดับอินเตอร์เนชั่นแนลที่มีระบบมาตรฐานครบตามกฎองค์การการบินเรือนระหว่างประเทศ เป็น Custom Airport สมบูรณ์แบบทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต หาดใหญ่ เชียงใหม่ เชียงราย พร้อมรับผู้โดยสารผ่านเข้า-ออก ขณะนี้ปีละกว่า 100 ล้านคนขึ้นไป พร้อมทั้งอยู่ระหว่างการขยายพื้นที่รองรับภายในปี 2565 จะรับได้ปีละเกินกว่า 180 ล้านคน



ส่วน “กรมท่าอากาศยานไทย” กระทรวงคมนาคม องค์กรกำกับดูแลท่าอากาศยานภูมิภาคทั่วประเทศ 29 แห่ง (รวมสนามบินใหม่เบตง) กำลังเร่งปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถขยายอาคารพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกบริการในและรอบสนามบินทุกแห่งให้มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งยังได้นำร่องบุกเบิกสนามบินท่องเที่ยวตามแนวทาง Tourist Airport ท่าอากาศยาน ระนอง น่าน บุรีรัมย์

พร้อมกับเดินหน้าเสนอของบประมาณจัดทำแผนปรับปรุงพัฒนาการลงทุนท่าอากาศยานภูมิภาคใหม่ 10 ปีหน้าอีก 30,000-40,000 ล้านบาท ยกระดับแผนพัฒนาเป็นศูนย์กลางของแต่ละภาคโดยจัดทำเป็น “คลัสเตอร์-ฮับ การบินภาค” ประกอบด้วย “ภาคอีสาน” มี อุดรธานี อุบลราชธานี โดยเฉพาะ “ขอนแก่น” เป็นจุดตัดของ GMS รถไฟไทย-จีน ถนนมิตรภาพสู่หนองคาย จึงมีศักยภาพการเติบโตสูงมาก ทางจังหวัดจึงทำระบบโครงข่ายการขนส่งรอบรับ แต่โดยรวมขอนแก่นก็มีข้อจำกัดถูกเมืองล้อมสนามบิน ส่วนอุดรธานี รับผู้โดยสารจาก สปป.ลาว และอุบลราชธานีดูแลการกระจายตัวทางอีสานใต้

ประเมินปัจจัยบวกจากการขยายสนามบินของ ทอท.และกรมท่าอากาศยาน ในอีก 5 ปีข้างหน้า ถือเป็น “จุดเปลี่ยนประเทศไทย” สะท้อนถึง “อนาคตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการเดินทาง” ของไทยจะยังสดใสต่อไปเรื่อย  ๆ

เมื่อหันกลับมาดูสถานการณ์ภายในประเทศทางด้าน “กลุ่มผู้ผลิต-Supply Size” ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา ททท.ได้ประกาศจัดทำโครงการ “เมืองต้องห้ามพลาด 12 จังหวัด” ต่อมาได้ขยายเป็น “เมืองต้องห้ามพลาด...พลัส” เพิ่มเป็น 24 จังหวัด กระทั่งในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2560 มติที่ประชุม ครม. ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน อนุมัติให้ใช้เครื่องมือใหม่เรื่อง “มาตรการท่องเที่ยว 55 เมืองรองนำไปใช้ลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้ในปี 2561” เป็นยาสามัญประจำบ้านอีกขนานในการกระตุ้นท่องเที่ยวปีจอ

จึงกลายเป็น “โจทก์ใหม่” ที่น่าจับตามากยิ่งขึ้น หลังจากรัฐบาลไฟเขียวพร้อมทั้งติดอาวุธใหม่ให้การท่องเที่ยวเมืองรองแล้ว องค์กรภาครัฐและเอกชนจะเดินหน้าต่อให้เกิดกระแสการใช้เงินเพิ่มขึ้นได้อย่างไร

ทันทีที่รัฐบาลมีนโยบายชัดเจน “ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ ททท.ก็ระดมพลเปิดเวทีหารือระหว่างภาครัฐกับเอกชนทันที เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2560 พร้อมทั้งกำหนดจะประกาศอย่างเป็นทางการถึงโครงการกิจกรรมท่องเที่ยวของรัฐกับเอกชนที่จะเพิ่มพลังการกระจายเม็ดเงินท่องเที่ยวสู่เมืองรอง และชุมชนต้นแบบการท่องเที่ยว

หัวใจสำคัญคือ “ความพร้อม” ของเมืองท่องเที่ยวรองในแต่ละจังหวัด กับ “ท่องเที่ยวโดยชุมชน” พื้นที่ที่มีความพร้อมตามที่ “องค์การบริหารการพฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(องค์การมหาชน)” หรือ “อพท.” ใช้เวลากว่า 12 ปี ทำต้นแบบไว้ได้แล้ว 14 ชุมชน ประกอบด้วย

 “ภาคตะวันออก” 4 ชุมชน คือ จังหวัดตราด 2 ชุมชน คือ แหลมกลัด บ้านน้ำเชี่ยว จังหวัดชลบุรี 2 ชุมชน คือ ชากแง้ว และตะเคียนเตี้ย

“ภาคเหนือ” 7 ชุมชน  คือ จังหวัดกำแพงเพชร คือ ชุมชนนครชุม จังหวัดสุโขทัย 2 ชุมชน ชุมชนบ้านคุกพัฒนา และชุมชนเมืองเก่าสุโขทัย จังหวัดน่าน 2 ชุมชน คือ บ่อสวก และในเวียง จังหวัดเชียงใหม่ 2 ชุมชน คือ สันลมจอย และบ้านไร่กองขิง

“ภาคอีสาน” 2 ชุมชน คือ จังหวัดเลย 2 ชุมชน คือ ปลาบ่า และกกสะทอน

“ภาคกลาง” 1 ชุมชน คือ ชุมชนเมืองโบราณอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี

ช่วงปี 2560 ททท.ได้จัดทำโครงการ Village Tourism 4.0 ภายใต้แคมเปญ Village to The World อีก 10 ชุมชน

ภาคเหนือ คือ ชุมชนดอยปู่หมื่น จ.เชียงใหม่ และชุมชนตำบลบ้านแซว จ.เชียงราย

          ภาคใต้ ชุมชนแหลมสัก จ.กระบี่  และชุมชนบ้านลำขนุน จ.ตรัง
   
         ภาคตะวันออก ชุมชนรักษ์เขาบายศรี จ.จันทบุรี   และชุมชนบ้านแหลมมะขาม จ.ตราด

           ภาคกลาง ชุมชนตำบลบ้านแหลม จ.สุพรรณบุรี  และชุมชนตำบลหนองโรง จ.กาญจนบุรี

         ภาคอีสาน ชุมชนบ้านสนวนนอก จ.บุรีรัมย์ และชุมชนบ้านสนวนนอก อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์

ประเทศไทยเริ่มมีโมเดล “ชุมชนท่องเที่ยวต้นแบบ” เริ่มเห็นสัญญาณความพร้อมขั้นพื้นฐานที่จะกระจายความมั่งคั่งลงสู่ท้องถิ่นได้บ้าง

ในขณะที่ “ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย” ชี้ว่าปี 2561 เศรษฐกิจไทยจะได้รับแรงหนุนจากปัจจัยบวกหลัก ๆ ประกอบด้วย การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเด่นชัดขึ้นจะส่งผลดีต่อการส่งออกและการท่องเที่ยวของไทย การลงทุนของภาครัฐขนาดใหญ่โดยเฉพาะเมกะโปรเจ็กต์ และการลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายฝั่งตะวันออก (EEC) การเมืองไทยมีเสถียรภาพ อีกทั้งจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ส่วนอัตราดอกเบี้ยไทยและโลกยังทรงตัวระดับต่ำ ราคาน้ำมันยังคงใกล้เคียงระดับปัจจุบันคือไม่เกิน 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

แต่ก็ยังคงมี “ปัจจัยลบ” ต้องช่วยกันระวังรวมอยู่ด้วย เช่น เศรษฐกิจโลกมีปัญหาและชะลอตัวลงอีกครั้ง การเกิดสงครามระหว่างประเทศ  การก่อการร้ายขนาดใหญ่ที่สร้างความกลัวต่อคนทั้งโลก ภัยพิบัติธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับประเทศชั้นนำทางเศรษฐกิจของโลก และราคาพืชผลทางการเกษตรทรุดตัวต่ำลง

ทางศูนย์พยากรณ์ฯ ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ย้ำว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2561 หน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจในไทยได้มองเหมือนๆ กันว่าเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่าปีนี้ โดยแยกเป็น 2 กลุ่ม คือ

 กลุ่มที่เห็นว่าเศรษฐกิจไทยจะมีอัตราการขยายตัวเท่ากับปีนี้  หรือสูงกว่าเล็กน้อยประมาณ 3.8%-4.0% เพราะยังเห็นว่าความเสี่ยงและความไม่แน่นอนในระบบเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยยังมีอยู่มาก

ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มที่เห็นว่าเศรษฐกิจไทยจะมีอัตราการขยายตัวสูงกว่าปีนี้อย่างชัดเจนโดยขยายตัวประมาณ 4.1%-4.5% เพราะเชื่อว่าความเสี่ยงมีโอกาสเกิดขึ้นได้ยาก

เมื่อบวกลบคูณหารหักกลบลบหนี้แล้วเศรษฐกิจไทยในปี 2561 น่าจะเติบโตได้ดีกว่าปีนี้ คาดจะขยายตัวอยู่ในระดับ 4.2%-4.5% และจะเป็นปีเริ่มต้นของความรุ่งเรืองของเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง

ทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ยังได้จัดธุรกิจ 10 อันดับ ประกอบด้วย
ธุรกิจดาวรุ่ง 10 อันดับ ได้แก่

อันดับ 1 ธุรกิจการให้บริการด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร และอุปกรณ์ (ผู้ให้บริการโครงข่าย)

อันดับ 2 ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม

อันดับ 3 ธุรกิจ e-commerce

อันดับ 4 ธุรกิจเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว

อันดับ 5 ได้คะแนนเท่ากัน 2 กลุ่ม คือ ธุรกิจด้านปิโตรเคมีและพลาสติก และธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์

อันดับ 6 ได้คะแนนเท่ากัน 3 กลุ่ม คือ ธุรกิจ Modern Trade, ธุรกิจบริการทางด้านการเงิน, ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

อันดับ 7 ธุรกิจร้านขายยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์

อันดับ 8 ได้คะแนนเท่ากัน 2 กลุ่ม คือ ธุรกิจด้านการศึกษา และธุรกิจด้านการท่องเที่ยว

อันดับ 9 ได้คะแนนเท่ากัน 3 กลุ่ม คือ ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บ้านเช่า ห้องเช่า, ธุรกิจด้านความเชื่อ โหราศาสตร์ เครื่องรางของขลัง

อันดับ 10 ได้คะแนนเท่ากัน 2 กุล่ม คือ ธุรกิจวัสดุก่อสร้างและรับเหมา, ธุรกิจร้านเสริมสวย

ส่วนธุรกิจดาวร่วง  10 อันดับ ได้แก่
อันดับ 1 ธุรกิจหัตถกรรม  อันดับ 2 ธุรกิจด้ารการผลิตเหมืองแร่  อันดับ 3 ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ นิตยสาร วารสาร และการเช่าหนังสือ อันดับ 4 ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องเล่น DVD, CD อันดับ 5 ได้คะแนนเท่ากัน 2 กลุ่ม คือ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายแผ่น DVD, CD และธุรกิจให้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน  อันดับ 6 ธุรกิจเคเบิลทีวี   อันดับ 7 ธุรกิจการผลิตสินค้าเกษตร เช่น ยาง ปาล์ม ข้าว อันดับ 8 ธุรกิจร้านขายโทรศัพท์มือถือมือสอง อันดับ 9 ธุรกิจร้านค้าแบบดั้งเดิม และอันดับ 10 ธุรกิจร้านอินเทอร์เน็ต

ปี 2561 จึงน่าจับตาว่าจะเป็น “ปีทองของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย” ที่รัฐบาลจะคืนความสุขให้คนไทยด้วยการ “กระจายรายได้สู่เมืองรองและชุมชนท่องเที่ยว” ส่วนจะไปถึงฝั่งฝันได้มากขนาดไหนจะต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไป

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ธุรกิจเข้าเป้า-CSRสำเร็จเกินร้อย”



นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ตลอดปี 2560 ได้ทุ่มเทความร่วมมือกับเครือข่ายผู้ประกอบการนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาใช้จ่ายเงินช้อปปิ้งในร้านค้าดิวตี้ฟรีของคิง เพาเวอร์ สาขาในเมืองตามจังหวัดท่องเที่ยวหลัก กรุงเทพฯ ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และศรีวารี ภูเก็ต พัทยา และในสนามบินที่ได้รับสัมปทานให้ดำเนินการทั้งสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต หาดใหญ่ เชียงใหม่ เพื่อทำให้ยอดขายหมุนเวียนเป็นไปตามเป้า โดยภาพรวมของธุรกิจในเครือทั้งหมดทำยอดปีนี้ได้กว่า 90,000 ล้านบาท โดยมีทั้งสินค้าดิวตี้ฟรี และเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ไทยได้เกือบ 20 % ทั้งอาหารแปรรูป ของรับประทานเล่น แฟชั่นผ้า สมุนไพรไทย ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน

ส่วนไฮไลต์อีกกิจกรรมที่เพิ่งจะสิ้นสุดลงในการเข้าร่วมสนับสนุนเงินประมาณร้อยล้านบาทให้โครงการ “ก้าวคนละก้าว” ของ “ตูน บอดี้สแลม-อทิวราห์ คงมาลัย” การวิ่งจากใต้สู่เหนือสุด เพื่อรณรงค์การบริจาคเงินจัดหาอุปกรณ์การแพทย์ 11 โรงพยาบาล พร้อมกับได้นำโครงการ “ล้านลูก ล้านพลัง” มอบลูกฟุตบอลให้คุณตูนนำไปแจกในโครงการก้าวคนละก้าว ให้แก่เยาวชนตามโรงเรียนต่าง ๆ ในเส้นทางวิ่งผ่านตลอดโครงการ แจกไปทั้งหมด 41 โรงเรียน จำนวน 10,000 ลูก ส่วนยอดรวมของโครงการล้านลูกล้านพลัง ตลอดปีนี้ คิง เพาเวอร์ แจกลูกฟุตบอลไปยังจำนวน 70 ชุมชน เรียบร้อยแล้ว 1,614 โรงเรียน รวม 41,000 ลูก

  สำหรับในค่ำคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ช่วงเวลาตั้งแต่ 20.00 – 22.00 น. คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ชวนสัมผัสประสบการณ์ความสุขที่ไม่สิ้นสุด กับเทศกาลส่งท้ายปี ในงาน “Explore Endless Celebration2018”  กับเทศกาลแห่งความสุขไม่สิ้นสุดส่งท้ายปี จุดเช็คอินแห่งใหม่ของนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ พร้อมทั้งร่วมมีตแอนด์กรี๊ดกับทีมนักแสดงจากซีรีย์ดัง 2 Moons The Series และสนุกสุดมันไปกับมินิคอนเสิร์ตจาก โพลีแคท และ อะตอม ชนกันต์  และนับถอยหลังเคาท์ดาวน์ส่งท้ายปี 2560 เข้าสู่ปีใหม่ 2561


ข่าวที่ 2 “ททท.ชูโมเดล10ชุมชนเที่ยวยั่งยืนรายได้โตเท่าตัว”



นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่ากาา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดดเผยว่าในปี 2561 เตรียมกระจายรายได้ตลอดทั้งปีตามเป้าหมาย 3 ล้านล้านบาท ในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวลงสู่ชุมชน โดยจะต่อยอดกิจกกรมที่ประสบความสำเร็จคือ Village Tourism 4.0 ซึ่งจัดทำภายใต้โครงการ Village To The World 4.0 นับสนุนและเพิ่มรายได้ให้กับคนในชุมชนโดยตรง  ในปี 2560 ได้สร้างชุมชนต้นแบบท่องเที่ยวเข้มแข็งไว้แล้ว 10 ชุมชน  และสามารถทำรายได้เติบโตแบบก้าวกระโดดในทุกภาคของประเทศ ดังนั้น ททท.จะใช้โมลเดลดังกล่าวนำไปพัฒนาชุมชนที่มีความพร้อมต่อไป

          ททท.ได้พัฒนา 10 ชุมชนต้นแบบปี 2560 พร้อมจะเป็นโมเดลการท่องเที่ยวชุมชนต่อเนื่องในพื้นที่อื่น ๆ ปี 2561 ภาคละ 2 ชุมชนขึ้นไป ได้แก่



          ภาคเหนือ คือ ชุมชนดอยปู่หมื่น จ.เชียงใหม่ โดดเด่นเรื่องชาอัสสัมสำเร็จรูปและอื่น มีแพกเกจท่องเที่ยวขาย แบบเหมา 1 วัน เที่ยวเป็นกลุ่ม 6 – 8 ท่าน คนละเพียง 670 บาท และ2 วัน 1 คืนพร้อมโฮมสเตย์ คนละ 1,020 บาท สร้างรายได้ปีเพิ่มขึ้นปีละ 4.82 %   นักท่องเที่ยวเติบโตกว่า 50%

          ส่วนชุมชนตำบลบ้านแซว จ.เชียงราย ชูจุดขายคอนเซ็ปต์ Harmonious Mekong มีทั้งอาหารถิ่นแบบขันโตก 5 ชนเผ่า วิถีชีวิต  ปั่นจักรยาน ชมสวนเกษตรปลอดสารเคมี พักโฮมสเตย์ริมแม่น้ำโขง มีแพกเกจ 2 วัน 1 คืน ขายคนละ 1,490 บาท  มีรายได้เพิ่มขึ้น 48.26% นักท่องเที่ยวต่อปี 45.95%

          ภาคใต้ ชุมชนแหลมสัก จ.กระบี่ ชูคอนเซ็ปต์ Variety for all พายเรือคายัค ล่องเรือรอบอุทยานทางทะเลอ่าวลึก ชมกระชังสาหร่ายพวงองุ่น และปลาทะเล ทานข้าวคลุกกะปิจากกุ้งเคยฝีมือชาวบ้าน ชมกรรมวิธีการทำกะปิ ร่วมปลูกกล้วยไม้ มีแพ็คเกจ 1 วัน และ 2 วัน เริ่มต้นเพียงคนละ  2,000 บาท มีรายได้เพิ่มขึ้น 37.90% นักท่องเที่ยวเติบโตปีละ 20 %

         ส่วนชุมชนบ้านลำขนุน จ.ตรัง ชูคอนเซ็ปต์ Pure nature with the southern touch เที่ยวผจญภัยพายเรือคายัค 5 ลำคลอง ชมศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น การแกะสลักหนังตะลุง วิถีชีวิตเกษตร พักโฮมสเตย์ มีแพกเกจเริ่มต้นคนละ 1,100 บาท สร้างรายได้เพิ่มขึ้น 40.40% นักท่องเที่ยวเติบโตปีละ 35.20%

   
         ภาคตะวันออก ชุมชนรักษ์เขาบายศรี จ.จันทบุรี  ชูคอนเซ็ปต์ Gastro Paradiso สวรรค์ของนักกิน มีแพกเกจทัวร์สวนผลไม้ เดินชม ดูการสาธิตและเก็บผลไม้ด้วยตัวเอง  อาทิ สวนระกำ ปั่นจักรยานท่องเที่ยวในชุมชน มีของฝากขึ้นชื่ออย่าง ทุเรียนทอด ทุเรียนกวน น้ำมังคุด พักโฮมสเตย์ มีแพกเกจเริ่มต้นคนละ 890 บาท สร้างรายได้เพิ่มขึ้น 32.53%


          ส่วนชุมชนบ้านแหลมมะขาม จ.ตราด ชูคอนเซ็ปต์ Magical Mangroves นั่งรถซาเล้งชมศูนย์เรียนรู้ ภูมิปัญญาจักสาน ชมบ้านหุ่นไม้กระดาน นั่งเรือศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนวิถีประมง สักการะเจ้าแม่ปากคลอง ดูเหยี่ยวแดง จับหอยปากเป็ด ชมโต๊ะวาลี แลแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ ร.5 บ้าน อาจารย์สมโภชน์  วาสุกรี  มีแพกเกจเริ่มต้นคนละ 1,300 บาท สร้างรายได้เพิ่มขึ้น 29.79% นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นปีละ 25%


           ภาคกลาง ชุมชนตำบลบ้านแหลม จ.สุพรรณบุรี ชูคอนเซ็ปต์ Royal Excursion ที่กลุ่มท่องเที่ยวชุมชน ตำบลบ้านแหลม จ.สุพรรณบุรี ล่องเรือรับประทานอาหาร ตามรอยเส้นทางประพาสต้น ร.5 นวดสปาบนเรือ ไหว้พระวัดดังในบางปลาม้า ชมการสาธิตวิธีการทำขนมไทยโบราณ ชมสาธิตการทำน้ำพริกเผาโบราณ จักสานจากผักตบชวา จัดเป็นกรุ๊ป 20 คนขึ้นไป จะได้ในราคาพิเศษคนละ 650 บาทต่อคน  สร้างรายได้เพิ่มขึ้น 32.55% นักท่องเที่ยวเติบโตเพิ่มปีละ 20%


           ส่วนชุมชนตำบลหนองโรง จ.กาญจนบุรี ชูคอนเซ็ปต์ Living Forest นั่งรถชมป่า เรียนรู้ฐานในป่าชุมชน จำนวน 35 ฐาน ชมกิจกรรมสาธิตแปรรูปผลิภัณฑ์จากต้นตาล ชมสวนผสมตามแนวพระราชดำริ ชมการสาธิตทอผ้าข้าวม้า และทำแหวนจากต้นเถาวัลย์ทอง แพกเกจเริ่มต้นทคนละ 600 บาท สร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น 97.77% นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นปีละ 27.77%

         ภาคอีสาน ชุมชนบ้านสนวนนอก จ.บุรีรัมย์ ชูคอนเซ็ปต์ Weaving Town ชมศูนย์การเรียนรู้การย้อมผ้าไหม ด้วยสีธรรมชาติ ตลาดผ้าไหมใต้ถุนเรือน ของช่างทอในชุมชน ชมโรงงานผ้าไหมชุมชน “อุตมะไหมไทย” ผ้าไหมแห่งละคร นาคี ล่องเรือชมลำน้ำชี ชมวิถีคนเลี้ยงวัว ชมพระอาทิตย์ตกที่เขาสวาย มีแพกเกจเริ่มต้นคนละ 1,400 บาท สร้างรายได้เพิ่มขึ้น  38.28 %  นักท่องเที่ยวเติบโตปีละ 300 %

            ส่วนชุมชนบ้านสนวนนอก อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ชูคอนเซ็ปต์ Thai Silk Full Circle ร่วมกิจกรรมฐานการเรียนรู้กระบวนการผลิตผ้าไหม ปลูกหม่อน เลี้ยงไหม สาวไหม ทอผ้าไหม เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เกษตรอินทรีย์ การจักสาน และนกกะลามะพร้าว ชมการแสดงพื้นบ้าน บายศรีสู่ขวัญ รำตรด กันตรึม นั่งรถกระสวย ชมท้องนาและหมู่บ้าน ทำอาหารพื้นเมือง เข่น แกงกล้วย ขนมตดหมา มีแพกเกจ1 วัน เริ่มต้นคนละ 980 บาท สร้างรายได้เพิ่มขึ้น 30.95%

ข่าวที่ 3 “บางจากผนึกเคแบงก์ใช้QRโค้ดช้อปในSPAR”

นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด เปิดเผยว่า ร่วมกับผู้บริหาร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผนึกความร่วมมือกับ นายอมร สุวจิตตานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เชิญชวนลูกค้าใช้บริการชำระเงินด้วย QR Code เพื่อสนับสนุนนโยบายNational e-Payment ของรัฐบาล และตอบสนองวิถีชีวิตคนไทยยุคใหม่ ให้ได้รับความสะดวกรวดเร็วในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น ซึ่งใช้ได้จริงแล้ววันนี้ ที่ SPAR ซูเปอร์มาร์เก็ต, อินทนิล การ์เด้น และอินทนิล คอฟฟี่ ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก 15 สาขา และจะเพิ่มเป็นกว่า 70 สาขา ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 เป็นต้นไป

ช่วงที่ 2 ค่ำคืนนี้ออกไปเคาน์ดาวน์กันได้ทั่วภาคกลางตามจังหวัดรอบกรุงมีให้เลือกถึง 7 ไฮไลต์ ในอยุธยา สระบุรี ลพบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และห้ามพลาด @ราชประสงค์ กรุงเทพฯ ส่วนการดูแลสุขภาพตลอดปีใหม่ต้องป้องกันเรื่องอาหารเป็นพิษ และข่าวส่งท้ายปีโรงแรมทั่วไทยเปิดห้องอาหารเสิร์ฟเมนูอร่อย ๆ เพียบ ส่วนหลายแห่งเปิดฟรีเป็นของขวัญปีใหม่ อย่างบางกอกแอร์ถือโอกาสดีเปิดเลาจน์ใหม่ในสุวรรณภูมิบริการฟรี มิวเซียมสยามเปิดให้เข้าชมฟรี และการบินไทยเสิร์ฟเมนูขนมไทยรับปีใหม่

@ภาคกลางชวนเคาน์ดาวน์รอบกรุง 7 ไฮไลต์แห่งปี


ชาวพระนครศรีอยุธยา ทำบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ เช้าของวันที่  1 มกราคม 2561 ชวนนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปได้เที่ยวเส้นทางบุญด้วยการใส่บาตรทำบุญวันขึ้นปีใหม่ด้านหน้าวิหารพระมงคลบพิตรและวัดพนัญเชิงวรวิหาร


จังหวัดสระบุรี งานสืบสานประเพณีตักบาตรข้าวหลามจี่ เดือนยี่ ตลอด 3 วัน 30 ธันวาคม – 1 มกราคม 2560 ที่วัดหนองโน อำเภอเมือง ร่วมสัมผัสบรรยากาศงานวัดย้อนยุค เครื่องเล่นต่างๆ และรำวงย้อนยุคจากวงดนตรี ชมการแสดง แสง เสียง ความเป็นตำนานชาวไทยวนสระบุรี การแห่และประกวดเกวียนโบราณและการตกแต่งต้นสลากภัตตามประเพณีชาวไทยวน ประกวดข้ามหลามอร่อย สามารถเลือกซื้อข้าวหลาม สินค้า OTOP ราคาถูกจาก 13 อำเภอ

จังหวัดสมุทรสงคราม งาน COUNTDOWN "อัมพวารื่นเริงเถลิงศกใหม่ 2561" 31 ธันวาคม 2560 - 1 มกราคม  2561 บริเวณริมเขื่อนหน้าที่ว่าการอำเภออัมพวา  ภายในงานนักท่องเที่ยวจะได้ฟังเพลง รำวง ลีลาศ และนับถอยหลังร้องเพลงสวัสดีปีใหม่ กับวงสุนทราภรณ์ และร่วมทำบุญตักบาตรในวันรุ่งขึ้น เนื่องในวารดิถีขึ้นปีใหม่

จังหวัดสมุทรสาคร จัดยิ่งใหญ่สวดมนต์ข้ามปีค่ำคืนที่ 31  ธันวาคม  2560 ร่วมสวดมนต์ข้ามปีสวดนพเคราะห์ เริ่มเวลา 20.00-24.00 น. เจริญจิตภาวนาและเจริญพระพุทธมนต์ ณ วัดเจษฎาราม อำเภอเมือง



จังหวัดลพบุรี  ชวนให้ไปชีลกับ “เทศกาลทุ่งทานตะวันบานลพบุรี” ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงเดือนมกราคม ใน 3 อำเภอเมือง อำเภอหนองม่วง อำเภอพัฒนานิคม อำเภอโคกสำโรง   แล้วบันทึกภาพความทรงจำกับทุ่งดอกไม้เหลืองอร่าม หรืจะเดิน ชมวิว นั่งรถราง ปั่นจักรยานชมทุ่งทานตะวัน ภายในบรรยากาศหุบเขาทานตะวัน จำหน่ายสินค้า OTOP และร่วมกิจกรรมทางทหาร และศึกษาการดำรงชีพในป่า

กรุงเทพมหานคร สัมผัสความงดงามแห่งแสงไฟระยับใน งาน Amazing Thailand  Lighting Festival 2017 @Ratchaprasong การประดับไฟฟ้า เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่ จัดมาตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2560 เรื่อยไปจนถึง 5 มกราคม 2561 บริเวณ Skywalk Façade, Skywalk, Under Skywalk  และ Boulevard ถนนพระราม 1
 ไฮไลต์อีกเทศกาลต้องแวะไปเติมเต็มความสุขในงาน AIS Bangkok Countdown 2018 @ CentralWorld ค่ำคืนที่ 31   ธันวาคม  2560 บริเวณลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และบริเวณถนนราชดำริ การแสดงดนตรี BANG CONCERT  การแสดง Super Sonic  กิจกรรมช็อปปิ้ง ถูกสุด ๆ ข้ามปีจนถึงตีสอง ในวันเดียว กิจกรรม Galaxy Parade : Grow up drum parade to stageกิจกรรม Special Show Anti gravity Carnival Show  กิจกรรม Warp Wristband Green Light และการแจกของรางวัล  ร่วมนับถอยหลังสู่ปีใหม่นำสิ่งที่ดี ๆ สู่ชีวิต

@ช่วงเทศกาลเตรียมป้องกันอาหารเป็นพิษ

การป้องกันโรคอาหารเป็นพิษ ขอแนะนำให้ใช้กฏหลัก 10 ประการ การเตรียมอาหารที่ปลอดภัย ได้แก่

1.อาหารที่สะอาด ผ่านการเตรียมเป็นอย่างดี 2.ปรุงอาหารให้สุกทั่วถึงก่อนรับประทาน 3.ควรกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ 4.ระมัดระวังอาหารที่ปรุงสุกแล้วอย่าให้มีการปนเปื้อน หากมีความจำเป็นต้องเก็บอาหารที่ปรุงสุกไว้นานกว่า 4 ชั่วโมง ควรเก็บไว้ในตู้เย็น ส่วนอาหารสำหรับทารกไม่ควรเก็บไว้ข้ามมื้อ 5.อาหารที่ค้างมื้อต้องอุ่นให้ร้อนก่อนรับประทาน

6.แยกอาหารดิบและอาหารสุกให้ระมัดระวังการปนเปื้อน 7.ล้างมือให้สะอาดทั้งก่อนปรุงอาหาร  ก่อนรับประทานอาหารโดยเฉพาะหลังเข้าห้องน้ำ 8.ให้พิถีพิถันเรื่องความสะอาดของห้องครัว 9.เก็บอาหารให้ปลอดภัยจากแมลง หนู หรือสัตว์อื่นๆ 10.ใช้น้ำสะอาดในการปรุงอาหารและควรระวังเป็นพิเศษในการใช้น้ำเพื่อเตรียมอาหารเด็กทารก

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “โรงแรมทั่วไทยงัดเมนูเด็ดเสิร์ฟความสุขส่งท้ายปี”

ตลอดค่ำคืนส่งท้ายวันที่ 31 ธันวาคม 2560 โรงแรมต่าง ๆ มีเมนูมานำเสนอตามความชอบดังนี้

ดินเนอร์หรูที่นัมเบอร์ 43 เคปเฮ้าส์ กรุงเทพฯ

เคปเฮ้าส์ กรุงเทพฯ เปิดห้องห้องอาหารนัมเบอร์ 43 ต้อนรับตั้งแต่ 18.00-24.00 น. ให้อิ่มหนำกับเซตมื้อค่ำสุดพิเศษ ในราคาเพียงท่านละ 1,900++บาท ด้วยหลากหลายเมนูแสนอร่อยสไตล์อิตาเลียน เริ่มต้นด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยอย่างหอยเชลล์เสียบไม้ย่างเสิร์ฟกับผักซูกินี ต่อด้วยเมนูข้าวริซอตโต้กับผักอาร์ติโช๊คในครีมมันฝรั่งและเบคอนกรอบ เมนูพิเศษจานหลักที่ทางห้องอาหารภูมิใจนำเสนอคือ ปลาแซลมอนจากทะเลแอตแลนติกเหนือในซอสส้ม หรือ เนื้อลูกวัวอบยัดไส้เห็ดพอร์ชินี่และผักโขม ราดซอสขิงและแซฟฟรอน

ปิดท้ายด้วยของหวาน คือ มูสชีสริคอตต้าและชีสมาสคาโปน เสิร์ฟพร้อมผลบลูเบอร์รี่และราสพ์เบอร์รี่ ซึ่งปรุงอย่างพิถีพิถันโดยเชฟมืออาชีพ จากวัตถุดิบที่บรรจงคัดสรรมาอย่างดี

โทร. 02-658-7444 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.capecollection.com

สุขใจรับปีใหม่ที่โรงแรมเคป นิทรา หัวหิน

โรงแรมเคป นิทรา หัวหิน ขอเชิญทุกท่านมาสุขใจรับปีใหม่ตั้งแต่ 19.00 น. เป็นต้นไป พบกับอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ อาหารทะเลคัดสรรมาอย่างดี สลัดบาร์ บาร์บีคิว ของหวานแสนอร่อย พร้อมดนตรีบรรเลงสดตลอดงาน การแสดงโชว์สุดประทับใจ ลุ้นรางวัล Lucky Draw ในราคาสุทธิเพียงคนละ 3,900 บาท (รวมสปาร์กลิ้งไวน์) เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีลดครึ่งราคา  โทร. 032-516-600 ต่อ 444 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.capecollection.com

ต้อนรับปีใหมริมทะเลสุดหรูที่เคปพันวา ภูเก็ต

โรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต เนรมิตบรรยากาศริมทะเลสุดหรูต้อนรับตั้งแต่ 19.00 น. เป็นต้นไป ด้วยค็อกเทล ต่อด้วยเต็มอิ่มไปกับบุฟเฟ่ต์นานาชาติมื้อค่ำสุดพิเศษ ในราคาสุทธิเพียงคนละ 6,200 บาท ชมการแสดงระบำโพลีนีเชียน ควงกระบองไฟ โชว์ฮูล่าฮูปประกอบไฟ LED ดนตรีบรรเลงสดตลาดงาน พลาดไม่ได้กับการร่วมลุ้นรางวัล Lucky Draw และเคาท์ดาวน์ไปพร้อมๆกับการจุดพลุฉลองต้อนรับปีใหม่ ปิดท้ายด้วยแดนซ์สุดมันส์กับดีเจมืออาชีพ  โทร. 076-391-123 ต่อ 196 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.capecollection.com

ข่าวที่สอง “บางกอกแอร์เปิดเลาจน์ใหม่สุวรรณภูมิให้ใช้ฟรี”

บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส รายงาน พร้อมต้อนรับปีใหม่ผู้โดยสารด้วยการ เปิดให้บริการห้องรับรองผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศแห่งใหม่ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อยู่บริเวณชั้น 3 Concourse D ตรงข้ามกับประตูขึ้นเครื่องหมายเลข D7 ผู้โดยสารบางกอกแอร์เวย์สสามารถเข้าใช้บริการฟรีได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ห้องรับรองผู้โดยสารแห่งใหม่นี้ตกแต่งสวยงามและมีเอกลักษณ์สะท้อนความเป็น “บูทีค” ด้วยพื้นที่บริการขนาด 450 ตารางเมตร แบ่งเป็น บูทีคเลาจน์  รองรับผู้โดยสารได้ 120 คน และ บลูริบบ้อนคลับเลาจน์ รองรับได้ 50 คน

ห้องรับรองผู้โดยสารระหว่างประเทศแห่งใหม่เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 04.30น.–22.00น. ซึ่งผู้โดยสารสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.bangkokair.com หรือที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า โทร.1771 ตลอด 24ชั่วโมง



ข่าวที่สาม “บินไทยปักหลักเสิร์ฟของหวานไทยรับตะวันใหม่”

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จัดรายการขนมหวานจานพิเศษเพื่อมอบเป็นของขวัญในช่วงเวลาแห่งความสุข นำมาให้บริการผู้โดยสารบนเครื่องบินทุกชั้นบริการของการบินไทย ในวันที่ 1 มกราคม 2561

- เส้นทางภายในประเทศ ทุกเที่ยวบินขาออกจากกรุงเทพฯ และทุกเที่ยวบินขาเข้าจากต่างจังหวัดมายังกรุงเทพฯ (ยกเว้น TG207 เส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต, TG208 และ TG226 เส้นทางภูเก็ต- กรุงเทพฯ, TG613 เส้นทางเชียงใหม่-กรุงเทพฯ) โดยมีขนมมงคลของไทยบรรจุในถุงของขวัญ ได้แก่ ขนมกลีบลำดวน และขนมสัมปันนี มอบให้กับผู้โดยสารชั้นธุรกิจ และชั้นประหยัด
- เส้นทางระหว่างประเทศ มื้อกลางวัน หรือ มื้อเย็น ทุกเที่ยวบินขาออกจากกรุงเทพฯ (ยกเว้นเที่ยวบินไปยังตะวันออกกลาง และ เอเชียใต้บางเส้นทาง) ที่นั่งชั้นหนึ่งมี เค้กผลไม้ เสิร์ฟพร้อม ไอศกรีมฮันนี่ซินนามอน และฮันนีวิปปิ้งครีม ชั้นธุรกิจมีคัพเค้กผลไม้ เสิร์ฟพร้อม ฮันนีวิปปิ้งครีม และชั้นประหยัดเสิร์ฟเค้กผลไม้

ข่าวที่สี่ “มิวเซียมสยามเปิดฟรีให้ชม31ธค./2ม.ค.61”

มิวเซียมสยาม รายงานว่าช่วงวันหยุดปีใหม่เปิดตามปกติ และจะเปิดให้ชมฟรี วันที่ 31 ธันวาคม 2560 และ 2 มกราคม 2561 ตั้งแต่ 10.00 – 18.00 น. ในโซนที่เปิดให้บริการ อาทิ ส่วนจัดแสดงนิทรรศการถาวรชุดล่าสุด “ถอดรหัสไทย” ร้านขายของที่ระลึก Muse Shop ร้านอาหาร Muse Kitchen by Elefin Coffee และมุมเครื่องดื่ม Muse Café by D’Oro ทั้งนี้ทางพิพิธภัณฑ์ปกติเปิดทุกวันอังคาร – วันอาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) โทร. 02-225-2777 หรือ ติดตามปฏิทินกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ www.facebook.com/museumsiamfan

ทางรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ขออวยพรให้ผู้ฟังทุกท่านประสบความสุข ความสำเร็จ ตลอดปี 2561



วันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ททท.โหม Amazing Thailand Countdown2018 ทั่วไทยใน5 ภูมิภาค

ห้ามพลาดอะเมซิ่งเคาน์ดาวน์ทั่วไทยสนุกทุกแห่ง
ตะวันออก-ระยองจัดครั้งแรกกับ7ชิลล์ลุ้นรับโชค
ล่องใต้อันดามัน4จังหวัดประชันจัดNewShades
ภาคกลางไฮไลต์เมืองเก่ารอบกรุงยิ่งใหญ่อลังการ
ภาคอีสานรับตะวันใหม่2แผ่นดินแห่งแรกในสยาม
ภาคเหนือจัดเต็ม17จังหวัดโชว์มุมใหม่26กิจกรรม



ปีแห่งความสุข 2560 กำลังจะผ่านไป เพื่อต้อนรับสิ่งใหม่ดี ๆ ปี 2561 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนคนไทยและนักท่องเที่ยวนานาชาติร่วมนับถอยหลังเพื่อก้าวสู่อีกหนึ่งปีทองเลือกไป Amazing Thailand Countdown 2018 เลือกตามที่ชอบไปตามที่ใช่ใน 5 ภูมิภาค

@เคาน์ดาวน์“ภาคตะวันออก” 7ชิลล์ลุ้นโชค




จังหวัดระยอง เป็นครั้งแรกที่เริ่มจัด Amazing Thailand Countdown 2018 เมืองท่องเที่ยวรองริมชายฝั่งทะเลตะวันออกด้วยงาน “ท่องเที่ยวสุขใจรับปีใหม่เก๋ไก๋ที่ระยอง” บริเวณท่าเทียบเรือบ้านเพ อำเภอเมือง โดยได้ออกแบบนำเรือไดหมึกจำนวนกว่าร้อยลำใช้แสงไฟสีเขียวมรกตระยิบระยับของเรืออันสว่างไสวเต็มท้องทะเลเป็นวิถีชีวิตชาวประมงมาสร้างสีสันให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมกันนับถอยหลังช่วงค่ำคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2560 เข้าสู่เช้าวันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคม 2561

ระหว่างวันที่ 30-31 ธันวาคม 2560 นี้ ททท.ร่วมกับทุกภาคส่วนในระยอง จัดกิจกรรมเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมเคาน์ดาวน์ไปกับ 7 ชิลล์ ได้แก่ 1.ชิลล์ชิลล์...สนุกกับดนตรี 2 Gen ทั้ง เพลย์กราวนด์ คาวบอย ไมค์ภิรมย์พร และดนตรี EDM ดนตรีตื๊ด ๆ สไตล์วัยรุ่น 2.ชิลล์ชิม...กับอาหารถิ่นหลากเมนู นำทีมโดยเชฟชุมชนนำวัตถุดิบในท้องถิ่นมาปรุงอาหารพื้นบ้านออกแบบหน้าตาสวยงามและรสชาติอร่อย อาทิ  เมนูเส้นแกลงผัดกุ้งนุ่ม  ทะเลขึ้นบก จัดบุฟเฟต์ชิมอาหารทะเลคิดราคาเพียงคนละ 200 บาทเท่านั้น และอาหารฟู้ดทรัคมากมาย 3.ชิลล์ช้อป... ร้านค้าชุมชนพร้อมนำของดีเมืองระยองมาจำหน่ายตลอดงาน

 4.ชิลล์ชิค...ทางสวนพฤกษ์ศาสตร์และสวนป่า ระยอง ยกทีมมาสอนทำกิจกรรม DIY ให้นำกลับไปเป็นของที่ระลึกส่งท้ายปี 5.ชิลล์เอ๊าท์...ยกนวดไทยมาไว้ริมทะเล และจัดทีมนวดแต่งกายผีเสื้อสมุทรของแท้มาบริการ 6.ชิลล์แชะแชร์ รับโชค...เชิญชวนนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมงานได้แชร์ผ่าน facebook, Instragram ติด #เที่ยวสุขใจรับปีใหม่เก๋ไก๋ที่ระยอง ลุ้นรับทองคำ หรือแพกเกจท่องเที่ยว ได้ทันที ในค่ำคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2560

7.ชิลล์ช่วย...เป็นการช่วยกันทำความดีเพื่อสังคมในเช้าวันที่ 1 มกราคม 2561  ด้วยการเก็บขยะหลังเสร็จงานเคาน์ดาวน์ฉลองต้อนรับปีใหม่

จังหวัดชลบุรี เนรมิตท่าเทียบเรือท่องเที่ยว (แหลมบาลีฮาย) ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย “เทศกาลปีใหม่พัทยา 2560 Pattaya Countdown  2017” วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เฉลิมฉลองอย่างจุใจ ตระการตากับการแสดงพลุที่ยิ่งใหญ่อลังการ พร้อมรับชมคอนเสิร์ต        จากศิลปินชั้นนำของเมืองไทย

จังหวัดจันทบุรี     ก็จัดงานวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชรำลึก และงานกาชาดจังหวัด  ในช่วงเดียวกันกับระยองเริ่มมาตั้งแต่ 28 ธันวาคม 2560 - 3 มกราคม 2561 ไปพบกับได้ที่สนามกีฬาจังหวัดจันทบุรี / สวนสาธารณะทุ่งนาเชย ชมนิทรรศการของหน่วยงานราชการและการออกร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองของจันทบุรี ปิดท้ายด้วยการนั่งชมสาวงามจากประกวดนางสาวจันทบูร ดินแดนแห่งวิถีชีวิตชุมชนที่มีความอุดมสมบูรณ์โรแมนติกอีกแห่งของอ่าวไทย

@ล่องใต้ไปเคาน์ดาวน์ “ภูเก็ต-หาดใหญ่-นคร-ตรัง”

ภาคใต้ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2560 – 2561 ใน 4 จังหวัดยอดนิยม



“ภูเก็ต” ชาวชุมชนสะพานหิน ชวนไปร่วมนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ งานของดีและกาชาดจังหวัดภูเก็ต โดยเปิดพื้นที่สะพานหิน อำเภอเมือง นำทัพศิลปินดัง ๆ มาเติมเต็มความสุขให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและทั่วโลก ไปพร้อม ๆ กับคัดสรรอาหารถิ่นมาให้ชิมช้อปอาหารพื้นเมือง สินค้าโอทอป กันอย่างคึกคักข้ามคืนแห่งความสุข 31 ธันวาคม 2560 – 1 มกราคม 2561

ส่วนวัดตามหาดต่าง ๆ ทั้ง วัดหลังศาล  วัดท่าเรือ  วัดพระใหญ่  วัดม่าหนิก วัดวิชิตสังฆาราม  วัดเก็ตโฮ่   สวนสาธารณะลานกีฬาอำเภอกะทู้ ชวนร่วม “สวดมนต์ข้ามปี” วันที่ 31 ธันวาคม 2560 – 1 มกราคม 2561
 
  ล่องใต้สู่จังหวัดสงขลา ตระการตากับการท่องเที่ยว “ไนท์พาราไดส์หาดใหญ่เคาท์ดาวน์  Night Paradise Hatyai Countdown” ก็เป็นอีกทางเลือกของนักท่องเที่ยว ทุกปีจะเปิดพื้นที่กลางเมืองหาดใหญ่ ให้นักท่องเที่ยวร่วมเคาน์ดาวน์ปีนี้พิเศษตรงที่อากาศเย็นสบายกว่าหลายปีที่ผ่านมา จึงได้เนรมิตค่ำคืนแห่งไนต์พาราไดซ์หาดใหญ่ไว้ต้อนรับ 31 ธันวาคม 2560 – 1 มกราคม 2561

ฝั่ง “เมืองคอน-นครศรีธรรมราช” มีมุมใหม่ให้นักท่องเที่ยวสัมผัสความลึกซึ้งกับการร่วม “สวดมนต์ข้ามปีบูชาพระบรมธาตุบุญให้ทานไฟเมืองนคร” เปิดสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านเมือง วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร  อำเภอเมือง วันที่ 31  ธันวาคม 2560 - 1  มกราคม  2561 จุดเทียนเดินสมาธิรอบองค์พระบรมธาตุ สวดมนต์ข้ามปีรับพรปีใหม่  วิ่งข้ามปี  การทำบุญให้ทานไฟ ถวายความอบอุ่นแด่พระภิกษุสงฆ์การทำขนมถวายพระเป็นขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมเบื้อง ขนมครก ฯลฯ ตักบาตรปีใหม่

ขณะที่ “จังหวัดตรัง” เมืองทะเลสงบร่มเย็น นำการแสดงทางวัฒนธรรม และ กิจกรรม Countdown ร่วมนับถอยหลังประชันจัดอลังการตรงหน้าสำนักงานเทศบาลนครตรัง (สี่แยกหอนาฬิกา) 31  ธันวาคม 2560 - 1  มกราคม  2561

@ภาคกลางชวนเคาน์ดาวน์รอบกรุง 7 ไฮไลต์แห่งปี


ชาวพระนครศรีอยุธยา ทำบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ เช้าของวันที่  1 มกราคม 2561 ชวนนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปได้เที่ยวเส้นทางบุญด้วยการใส่บาตรทำบุญวันขึ้นปีใหม่ด้านหน้าวิหารพระมงคลบพิตรและวัดพนัญเชิงวรวิหาร

จังหวัดสระบุรี งานสืบสานประเพณีตักบาตรข้าวหลามจี่ เดือนยี่ ตลอด 3 วัน 30 ธันวาคม – 1 มกราคม 2560 ที่วัดหนองโน อำเภอเมือง ร่วมสัมผัสบรรยากาศงานวัดย้อนยุค เครื่องเล่นต่างๆ และรำวงย้อนยุคจากวงดนตรี ชมการแสดง แสง เสียง ความเป็นตำนานชาวไทยวนสระบุรี การแห่และประกวดเกวียนโบราณและการตกแต่งต้นสลากภัตตามประเพณีชาวไทยวน ประกวดข้ามหลามอร่อย สามารถเลือกซื้อข้าวหลาม สินค้า OTOP ราคาถูกจาก 13 อำเภอ

จังหวัดสมุทรสงคราม งาน COUNTDOWN "อัมพวารื่นเริงเถลิงศกใหม่ 2561" 31 ธันวาคม 2560 - 1 มกราคม  2561 บริเวณริมเขื่อนหน้าที่ว่าการอำเภออัมพวา  ภายในงานนักท่องเที่ยวจะได้ฟังเพลง รำวง ลีลาศ และนับถอยหลังร้องเพลงสวัสดีปีใหม่ กับวงสุนทราภรณ์ และร่วมทำบุญตักบาตรในวันรุ่งขึ้น เนื่องในวารดิถีขึ้นปีใหม่

จังหวัดสมุทรสาคร จัดยิ่งใหญ่สวดมนต์ข้ามปีค่ำคืนที่ 31  ธันวาคม  2560 ร่วมสวดมนต์ข้ามปีสวดนพเคราะห์ เริ่มเวลา 20.00-24.00 น. เจริญจิตภาวนาและเจริญพระพุทธมนต์ ณ วัดเจษฎาราม อำเภอเมือง

จังหวัดลพบุรี  ชวนให้ไปชีลกับ “เทศกาลทุ่งทานตะวันบานลพบุรี” ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงเดือนมกราคม ใน 3 อำเภอเมือง อำเภอหนองม่วง อำเภอพัฒนานิคม อำเภอโคกสำโรง   แล้วบันทึกภาพความทรงจำกับทุ่งดอกไม้เหลืองอร่าม หรืจะเดิน ชมวิว นั่งรถราง ปั่นจักรยานชมทุ่งทานตะวัน ภายในบรรยากาศหุบเขาทานตะวัน จำหน่ายสินค้า OTOP และร่วมกิจกรรมทางทหาร และศึกษาการดำรงชีพในป่า

กรุงเทพมหานคร สัมผัสความงดงามแห่งแสงไฟระยับใน งาน Amazing Thailand  Lighting Festival 2017 @Ratchaprasong การประดับไฟฟ้า เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่ จัดมาตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2560 เรื่อยไปจนถึง 5 มกราคม 2561 บริเวณ Skywalk Façade, Skywalk, Under Skywalk  และ Boulevard ถนนพระราม 1
 ไฮไลต์อีกเทศกาลต้องแวะไปเติมเต็มความสุขในงาน AIS Bangkok Countdown 2018 @ CentralWorld ค่ำคืนที่ 31   ธันวาคม  2560 บริเวณลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และบริเวณถนนราชดำริ การแสดงดนตรี BANG CONCERT  การแสดง Super Sonic  กิจกรรมช็อปปิ้ง ถูกสุด ๆ ข้ามปีจนถึงตีสอง ในวันเดียว กิจกรรม Galaxy Parade : Grow up drum parade to stageกิจกรรม Special Show Anti gravity Carnival Show  กิจกรรม Warp Wristband Green Light และการแจกของรางวัล  ร่วมนับถอยหลังสู่ปีใหม่นำสิ่งที่ดี ๆ สู่ชีวิต

@อีสานชวนเคาน์ดาวน์ธรรมชาติ-ทัวร์บุญ-รับตะวันใหม่


เตรียมตัวออกเดินทางไปสัมผัสไอหนาวในอีกบรรยากาศทาง “ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2560 – 2561
ไปชม เซลฟีแชร์ภาพสวย ๆ กันใน งานแสดงดอกไม้ 100 ไร่ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา วันนี้ถึง 15 มกราคม 2561 ที่ศูนย์ฝึกอบรมและวิจัยทางการเกษตร (100 ไร่) มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา ต.ไชยมงคล  อ.เมือง จ.นครราชสีมา (ติดกับสวนสัตว์นครราชสีมา) ภายในงานจะได้ชมดอกไม้ที่สวยงามชนิดต่างๆ และกิจกรรมที่นาสนใจ อาทิ แปลงดอกทานตะวัน   ทุ่งคอสมอส นิทรรศการเทิดพระเกียรติฯ และกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เป็นต้น

งานจิมทอมป์สันฟาร์มทัวร์ เปิดให้ชมถึง 7 มกราคม 2561ทั่วไร่จิมทอมป์สันฟาร์ม 622 ม.1 ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย  จ.นครราชสีมา พบกับธรรมชาติ ทุ่งปอเทือง ทุ่งดอกคอสมอสและแปลงผักปลอดสารพิษหมู่บ้านอีสาน และวัฒนธรรมอีสาน

หรือจะไป Cowboys – Indiansthai Festival Khaoyai 26 ธันวาคม 2560 – 1 มกราคม 2561
เปิดพื้นที่ริมถนนธนะรัชต์ กิโลเมตรที่ 21 (ทางขึ้นอุทยานฯเขาใหญ่) อ.ปากช่อง  จ.นครราชสีมา ให้ร่วมสนุกกับดนตรีสไตล์คันทรี่ การแสดงรอบกองไฟตามแบบของชาวอินเดียนและคาวบอยตะวันตก การออกร้านนิทรรศการหลากหลายประเภท ร้านค้าในสไตล์ตะวันตก อาหารอร่อยบรรยากาศคาวบอย และ งาน Countdown โคราช ใต้แสงจันทร์ในค่ำคืน 31 ธันวาคม 2560 - 1 มกราคม 2561 ที่ลานอนุสาวรีท้าวสุรนารี  สวนอนุสรณ์สถานสวนเมืองทอง อ.เมือง มีทั้งดนตรี อาหารถิ่นชื่อดัง แจกรางวัล จุดพลุนับถอยหลังเข้าสู่ปีจอด้วยกัน

เทศกาลเคาน์ดาวน์มันสุดเหวี่ยงต้องที่ “ขอนแก่น Countdown 2018” 25 – 31  ธันวาคม 2560
เปิดพื้นที่บริเวณประตูเมือง อ.เมือง ประดับตกแต่งด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ และคอนเสิร์ตสุดมันส์


นักท่องเที่ยวสายบุญต้องห้ามพลาดไป “สกลนคร” งานแห่ดาววิถีคริสต์และงานวิถีพุทธนมัสการพระธาตุเชิงชุม

ชมความงดงามของชุมชนใน “เทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส ประจำปี 2560 ที่โบสถ์อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล  บ้านท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร 23 -24 ธ.ค. 60 ณ อัครสังฆ-มณฑลท่าแร่ ในเขตเทศบาลนครสกลนคร  ในวันที่ 25 ธ.ค. นี้  ชุมชนชาวไทยเชื้อสายเวียดนามชวนไปร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส ที่จัดมายาวนานนับร้อยปี มีขบวนรถแห่ดาวคริสต์มาสอันตระการตากว่า 200 คัน ขบวนซานต้า นางฟ้าเทวดา ร่วมพิธีมิสซา แห่ดาวมือถือรอบโบสถ์ ชมการแสดงละครเวทีประสูติองค์พระเยซูเจ้า การร้องเพลงประสานเสียง ซุ้มสาธิตการประดิษฐ์ดาวมือถือ นั่งรถรางเที่ยวชุมชนท่าแร่ ชมอาคารบ้านเรือนเก่าสไตล์โคโรเนียล รูปทรงสถาปัตยกรรมอิทธิพลของฝรั่งเศส

และงานตามวิถีพุทธ “งานนมัสการพระธาตุเชิงชุม ประจำปี 2561” 26 ธันวาคม 2560 - 1 มกราคม 2561 ที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร จ.สกลนคร  ไปนมัสการหลวงพ่อองค์แสน ที่เชื่อกันว่าให้พรในด้านโชคลาภ มีเงินทองนับหมื่นนับแสน มีความมั่งมีศรีสุขในชีวิต ร่วมพิธีสรงน้ำองค์พระธาตุ ชมการแสดงแสงเสียงตำนานความเชื่อพื้นเมืองอันตระการตา และร่วมแห่โคมไฟบูชาองค์พระธาตุในช่วงกลางคืน (วันขึ้น 9 ค่ำ ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่)

หรือจะไปชมสถาปัตยกรรมธรรมชาติจังหวัดชัยภูมิใน “งานมหัศจรรย์มอหินขาว โต้ลมหนาวที่ชัยภูมิ & งานส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่” ตั้งแต่ 30 ธันวาคม 2560 – 1 มกราคม 2561 เดินชมกลุ่มหินต่างๆ และจุดชมวิวผาหัวนาก, กิจกรรมการปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ, การวาดและถ่ายภาพ,การแสดงดนตรี,กิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่และการตักบาตร ต่อด้วย “Countdown ชัยภูมิ” 31 ธันวาคม 2560 – 1 มกราคม 2561 ทั้งที่เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ และบ้านไร่อิงดอย อ.เทพสถิต มีอาหารถิ่นขึ้นชื่อมาให้ชิม ตลอดการนับถอยหลังสู่ปีใหม่

ร่วมดื่มด่ำกับสีสันงานเทศกาลไม้ดอกไม้เมืองหนาว อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย ต่อเนื่อง 29  ธันวาคม 2560 – 2 มกราคม 2561 มีกิจกรรมออกร้านแสดงพันธุ์ไม้เมืองหนาวนานาชนิด, การแสดงดนตรี, การจำหน่ายสินค้า OTOP มากมาย

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบอากาศที่สูง แนะนำไป “อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ผาชะนะได” อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เพื่อร่วม “รับตะวันใหม่ก่อนใครในสยาม” ปักหลักเที่ยวกันได้ตั้งแต่ 30 ธันวาคม 2560 – 2 มกราคม 2561 ร่วมนับถอยหลังแล้วรอชมพระอาทิตย์ขึ้นรับตะวันแรกของปีใหม่ก่อนใครในสยาม แสงสีทองฉาบขอบฟ้าบนผาสูงอันงดงามเป็นสัญลักษณ์ของเมืองไทย

และ “อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร” จังหวัดศรีสะเกษ ชวนไปท่องเที่ยว “รับตะวันสามแผ่นดิน” ชมพระอาทิตย์ขึ้นจากสามผ่านดิน ( ไทย- สปป.ลาว – กัมพูชา) ท่องเที่ยวรับอากาศหนาวเย็น ได้ตั้งแต่ 28 ธันวาคม 2560 – 2 มกราคม 2561

นักท่องเที่ยวสายบุญต้องไป “งานนมัสการพระธาตุเชิงชุม ประจำปี 2561” 26 ธันวาคม 2560 - 1 มกราคม 2561 ที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร จ.สกลนคร  ไปนมัสการหลวงพ่อองค์แสน ที่เชื่อกันว่าให้พรในด้านโชคลาภ มีเงินทองนับหมื่นนับแสน มีความมั่งมีศรีสุขในชีวิต ร่วมพิธีสรงน้ำองค์พระธาตุ ชมการแสดงแสงเสียงตำนานความเชื่อพื้นเมืองอันตระการตา และร่วมแห่โคมไฟบูชาองค์พระธาตุในช่วงกลางคืน (วันขึ้น 9 ค่ำ ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่)

@ภาคเหนือ17จังหวัดจัดเคาน์ดาวน์26กิจกรรม

ภาคเหนืออ 17 จังหวัด ได้จัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและนานาชาติมากถึง 26 กิจกรรมด้วยกัน

จังหวัดเชียงรายมีให้เลือกท่องเที่ยวได้ 6 งาน ได้แก่

1. งานสีสันดอยตุง วันนี้ – ต้นเดือนมกราคม 2561 โครงการพัฒนาดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง พบกับการออกร้านจำหน่ายสินค้า อาหารของชุนชน การแสดงทางวัฒนธรรม ชมสวนแม่ฟ้าหลวง และหอแห่งแรงบันดาลใจ

2. งานเทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม 28 ธันวาคม 2560 - 31 มกราคม 2561 ณ สวนตุงและโคม อำเภอเมือง เชียงราย ชมสวนไม้ดอกเมืองหนาว การแสดงดนตรีในสวน ถนนคนเดิน และเทศกาลอาหาร

3. งานมหกรรมไม้ดอกอาเซียน เชียงราย วันนี้- 8 มกราคม 2561 ณ สวนไม้งามริมน้ำกก อำเภอเมือง ชมแสดงสวนไม้ดอกเมืองหนาว การแสดงทางวัฒนธรรม การจำลองหมู่บ้านชนชาติพันธุ์การออกร้านของหน่วยงานราชการ และการออกร้านจำหน่ายสินค้า OTOP

4. งานเทศกาลชิมชา ซากุระบาน วัฒนธรรมดอยแม่สลอง 28 ธันวาคม 2560 - 2 มกราคม 2561 ณ ลานโรงเรียนสันติคีรีวิทยาคม  ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง ภายในงานมีร้านจำหน่ายชา และร้านจำหน่ายสินค้าชุมชน การแสดงทางวัฒนธรรมมากมายมาต้อนรับนักท่องเที่ยว

5. งานส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 31 ธันวาคม 2560 - 1 มกราคม 2561 เปิดลานกว้างหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเมือง  เปิดถนนคนเดิน การแสดงดนตรี กิจกรรมส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

6. งาน Countdown สามแผ่นดิน แม่สาย 31 ธันวาคม 2560 - 1 มกราคม 2561 ณ ด่านพรมแดนแม่สาย อำเภอแม่สาย ฟังการแสดงคอนเสิร์ต  กิจกรรม Countdown กิจกรรมทำบุญใส่บาตรขึ้นปีใหม่

จังหวัดเชียงใหม่เที่ยว 4 กิจกรรมรับลมหนาวส่งท้ายปี ได้แก่

1. งาน Botanic Festival 2018 วันนี้– 2  มกราคม  2561 ที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอแม่ริม
จัดงาน Colourful Garden อัศจรรย์พันธุ์ไม้หลากสี Wonderful Orchid สีสันพรรณกล้วยไม้ Cactus Lover รวมพลคนรักกระบองเพชร Tropical Rain Forest ตะลุยป่าหรรษา Lotus and Waterlily ราชินีแห่งพรรณไม้น้ำ Rose Garden สวนแห่งรัก Carnivorous Plant มหัศจรรย์พรรณไม้กินแมลง Herbal with Healthy สมุนไพรเพื่อสุขภาพ Bromeliads เส้นสายใบสับปะรดสี Cool Chic Music บรรเลงบทเพลงในสวน Food Market หยุดชิมชวนลิ้มลอง Shop & Chill สินค้าชุมชน สินค้าของที่ระลึก พรรณไม้ และกิจกรรมตามนิทรรศการ

2. งานย่านการค้าพาณิชย์บ้านถวาย หมู่บ้านสร้างสรรค์ ครั้งที่ 8 วันที่ 28 ธันวาคม 2560 – 2 มกราคม 2561ที่หมู่บ้านถวาย อำเภอหางดง ได้การออกบูธสินค้าของบ้านถวายและเครือข่ายของดีเชียงใหม่

3. งานฤดูหนาว งานโอทอปของดีเมืองเชียงใหม่ 28 ธันวาคม 2560 – 8 มกราคม 2561 จัดบริเวณด้านหลังศาลากลาง การประกวดนางสาวเชียงใหม่ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น

4. เทศกาลเคาท์ดาวน์เชียงใหม่ 2018 วันที่ 31 ธันวาคม 2560 – 1 มกราคม 2561 ณ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ อำเภอเมือง มีกิจกรรมออกร้านจำหน่ายอาหารและสินค้าหัตถกรรมจากร้านค้าต่างๆ  การแสดงศิลปวัฒนธรรมล้านนา การแสดงดนตรี จากศิลปินนักร้องที่มีชื่อเสียง

 สำหรับจังหวัดอื่น ๆ มีสวดมนต์ข้ามปี 31 ธันวาคม 2560 - 1 มกราคม 2561 ได้แก่

จังหวัดพิษณุโลก เชิญชวนร่วม “ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ พ.ศ.2560” (เจริญพระพุทธมนต์ข้ามปี) ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) เพื่อเป็นสิริมงคล

จังหวัดเพชรบูรณ์ สวดมนต์ข้ามปี “ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ และวิถีธรรม 4 ศาสนา 2560” ณ วัดมหาธาตุ (พระอารามหลวง) อำเภอเมือง  มีพิธีร่วมเจริญพระพุทธมนต์ข้ามปี พร้อมทั้งร่วมพิธีปล่อยโคมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

นอกจากนี้เพชรบูรณ์ยังจัด “งาน Mulberry Festival 2017” วันนี้- 31 มกราคม 2561 ที่ไร่กำนันจุล ตำบลวังชมภู  อำเภอเมือง  ร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงเกษตร : มัลเบอร์รี่พาทัวร์ ในสวนมัลเบอร์รี่ ชมและสัมผัสกับบรรยากาศในไร่ ชมแปลง มัลเบอร์รี่ขนาดใหญ่ ชิมมัลเบอร์รี่สดๆ จากต้น สัมผัสกับทุ่งทานตะวันที่เหลืองอร่ามสวยงาม การจำหน่ายสินค้าแปรรูปจากการเกษตร สินค้าจากร้านค้าไร่กำนันจุล และสินค้า OTOP  “งานเส็งกลอง ล่องโคมไฟ ไหว้พ่อขุนผาเมือง ประจำปี 2560 วันที่ 29 ธันวาคม 2560 -  2 มกราคม 2561บริเวณลานอนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง อำเภอหล่มสัก
โดยจะมีพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณของพ่อขุนผาเมือง การแข่งขันเส็งกลอง การรับประทานอาหารตามประเพณีพาข้าวหย่อง พร้อมชมการแสดงแสงเสียงเทิดพระเกียรติพ่อขุนผาเมือง การออกร้านจำหน่ายสินค้า และอาหารอร่อยอำเภอหล่มสัก และการแสดงมหรสพสมโภชตลอดงาน

จังหวัดพิจิตร จัดงาน “ประเพณีล่องเรือลอดโบสถ์  30 – 31 ธันวาคม 2560 ที่วัดห้วยน้ำโจน ตำบลห้วยร่วม อำเภอดงเจริญ   เปิดให้นักท่องเที่ยวลอดทะลุช่องอุโมงค์ใต้อุโบสถยาว 100 เมตร ซึ่งด้านในปูกระเบื้อง และติดไฟส่องสว่างไว้เป็นอย่างดี  พิธีล่องเรือท้าบุญสะเดาะเคราะห์

จังหวัดตาก ชวนนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานแห่งปี “งานตากสินมหาราชานุสรณ์ ประจำปี 2560 วันที่ 28  ธันวาคม ถึง 3 มกราคม ของทุกปี ณ ศาลตากสิน อำเภอเมืองตาก  ทำพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช การแสดงแสงเสียง เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช การออกร้านนิทรรศการของส่วนราชการต่างๆ  การออกร้านของเหล่ากาชาด  “งานปีใหม่ชนเผ่าม้ง อำเภอพบพระ” จัดช่วงเดือนธันวาคมและเดือนมกราคม ของทุกปี  ที่ลานหมู่บ้านม้ง หมู่7,8,10 บ้านรวมไทยพัฒนา ตำบลรวมไทยพัฒนา อำเภอพบพระ ชมนิทรรศการของชนเผ่าต่างๆ การแสดงชนเผ่า ระบำชาวเขา รำดงเต้นจิกิริ  ชมแปลงผัก      ชิมอาหารชนเผ่า  การประกวดพืชทางการเกษตร

จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดยิ่งใหญ่งาน “ปีใหม่สากล ชุมชนทุกเผ่า ชาวแม่ฮ่องสอน ปี 2561” วันที่ 31 ธันวาคม 2560 - 1  มกราคม  2561 ณ สวนสาธารณะหนองจองคำ อำเภอเมือง  ร่วมงานตามแบบที่เป็นสากลของชนเผ่าด้วยความรู้สึกแห่งมิตรภาพ ความอบอุ่น บนพื้นฐานของความหลากหลายทางวัฒนธรรมและประเพณี ความเชื่อของผู้คนในท้องถิ่น ภายในงานจัดให้มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมของแต่ละ  ชนเผ่า การจำหน่ายสินค้าของชนเผ่า เช่น กะเหรี่ยง ม้ง มูเซอ ลีซอ ไทใหญ่ ปะโอ ลัวะ และ   จีนยูนนาน โดยจะมีการจุดพลุฉลองปีศักราชใหม่ จากนั้นในช่วงเช้าของปีใหม่จะมีการทำ      บุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์จำนวน 99 รูป

จังหวัดแพร่ จัด “งานประเพณีตากธัมม์ ตานข้าวใหม่ หิงไฟพระเจ้า” ต้อนรับนักท่องเที่ยว  วันที่ 30 ธันวาคม 2560 -  1 มกราคม 2561 ณ วัดสูงเม่น อำเภอสูงเม่น  ชวนร่วมทำบุญตักบาตร  พิธี“บวงสรวงเทพยดารักษาธัมม์” หน้ามณฑปเจดีย์ ครูบามหาเถร ขบวนแห่ประเพณีตากธัมม์ ตานข้าวใหม่หิงไฟพระเจ้า  ตานธัมม์วันเกิด เวียนธัมม์ อธิษฐานจิต 3 หอ  ตักบาตรคัมภีร์ หลวงปู่ครูบามหาเถร ปีจอ  พิธีหิงไฟพระเจ้าและตากธัมม์ และ งาน “ลานศิลปวัฒนธรรม สืบสานตำนานรักพระลอ ขอพรปู่เจ้าสมิงพราย” ปลายเดือนธันวาคม 2560 ณ อุทยานลิลิตพระลอ อำเภอสอง ตื่นตากับ
พิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การแสดงฟ้อนรำ ชุดยอยศพระลอ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านและภูมิปัญญาท้องถิ่น การแสดงและจำหน่ายสินค้าชุมชนท้องถิ่น  ลานกีฬาพื้นบ้าน ประกวดไก่พระลอ ไก่ชน กาดหมั้วครัวแลง

แล้วไปร่วมส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ ในค่ำคืน 31 ธันวาคม 2560  –  2  มกราคม  2561             ณ วัดพระธาตุช่อแฮพระอารามหลวง  อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ จัดให้มีการแสดงพระธรรมเทศนา การเจริญพระพุทธมนต์ 12 ตำนาน ทำตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พร้อมทั้งร่วม “สวดมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล” ณวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร  อำเภอเมือง ฟังการแสดงพระธรรมเทศนา พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์เจริญชัยมงคลคาถา เจริญจิตภาวนา                                  

จังหวัดน่าน จัด “พิธีสวดมนต์ข้ามปีฮับโจกฮับจัยปี๋ใหม่ วันที่ 31  ธันวาคม 2560  – 1  มกราคม  2561        ณ มณฑลพิธีลานศรีมหาโพธิ์  วัดพระธาตุแช่แห้งพระอารามหลวง ทำพิธีสืบชาตาหลวง  ชมลานวัฒนธรรมและซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชน  ฟังพระธรรมเทศนา พิธีสวดเบิก พิธีเจริญพระพุทธมนต์ข้ามปี โดย 29 พระครูบา  พิธีไถ่โค - กระบือ  พิธีทำบุญตักบาตร

ขอให้ทุกท่านมีความสุขตลอดเทศกาล Amazing Thailand Countdown 2018  ทั่วไทย ร่วมกันทำสิ่งดี ๆ รับปีพุทธศักราชใหม่ 2561



ทอท.สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ปี2561โดกยรายได้สนามบินเพียบ-คิงเพาเวอร์ดึง ณเดช คูกมิยะ มอบความส่งท้ายปีที่ซอยรางน้ำ

ทอท.ลุยสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่รับปีจอ2561
ดอนเมืองส้มหล่นผู้โดยสารเพิ่ม47%โกยเงินPSCอื้อ
คิงเพาเวอร์ดึง”ณเดช”เคาน์ดาวน์รางน้ำ30-31ธค.
ททท.ปลุกเอกชนผลิตทัวร์55เมืองรองลดภาษีปี61
บางจากแจกของขวัญปีใหม่ตรึงน้ำมัน-เช็ครถฟรี
เคาน์ดาวน์ภาคตะวันออกที่ระยองกับ7ชิลล์ลุ้นโชค
7วิธีการขับขี่อย่างมีสติเพิ่มปลอดภัยในช่วงปีใหม่
ธรรฐพลซื้อคืนหุ้นAAVลั่นลุยเพิ่มลูกค้า22ล้านคน
ทางหลวงแนะเส้นทางลัด4ภาคขับรถสบายปลายปี
นครพนมจัดอลังการเคาน์ดาวน์2แผ่นดินไทย-ลาว

สวัสดีวันเสาร์ที่ 30 ธันวาคม 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen

ช่วงที่ 1 “นิตินัย ศิริสมรรถการ” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” ให้สัมภาษณ์ส่งท้ายปี ที่จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่รับปีจอ 2561 โดยประมาณการณ์“รายได้ใหม่” ยกแผงหลังจากสายการบินนานาชาติแห่บินเข้าดอนเมืองทำให้ยอดค่าธรรมเนียมต่างชาติพุ่งจากการเพิ่มของผู้โดยสารอีก 47% และในช่วงต้นปีหน้า ทอท.รอรัฐบาลฟันธงให้เข้าบริหารสนามบินภูมิภาคของกรมท่าอากาศยานไทย 15 แห่ง ยึดหัวหาดสร้างเทรนด์การบินใหม่เป็นวงแหวน “คลัสเตอร์ แอร์พอร์ต” ขานรับนโยบายกระจายท่องเที่ยว 55 เมืองรอง ขณะที่ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่จัดทัพเสริมทุกเรื่องอำนวยความสะดวกทุกช่องทาง


นิตินัย ศิริสมรรถการ
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) 


“นิตินัย ศิริสมรรถการ” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่าไฮไลต์ล่าสุดมติที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.เห็นชอบให้เสนอแผนเข้าบริหารสนามบินภูมิภาคของกรมท่าอากาศยานไทย กระทรวงคมนาคม รวม 15 สนามบิน ซึ่งจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายในต้นปีหน้าแล้วจะรู้คำตอบอย่างชัดเจน รัฐบาลจะให้ ทอท.เข้าบริหารสนามบินของกรมท่าอากาศยานไทยแห่งใดบ้าง เพื่อจะได้รุกทำแผนแม่บทการรับมอบสนามบินที่จะต้องเข้าไปบริหาร

ตามหลักการจะแบ่งตามศักยภาพเชื่อมโยงกับ สนามบิน ทอท.ที่มีฐานการบินอยู่ทางภาคเหนือและภาคใต้ มีดอนเมืองกับสุวรรณภูมิอยู่ตรงกลางการเชื่อมตะวันตกกับตะวันออก ดังนั้นในภาคอีสานจึงเสนอเข้าบริหารสนามบินอุบลราชธานี หรืออุดรธานี มีความพร้อมจะเป็นศูนย์กลางการบิน หรือ HUB ต่อจากฮับแล้วต้องพิจารณาถึง ทางวิ่งเครื่องบิน เครื่องเอ็กซเรย์ ได้ตามมาตรฐานเที่ยวบินจากสหภาพยุโรป ตามหลักการลงทุนต้องใช้งบประมาณสูง แตกต่างจาก “สนามบินเครือข่ายเส้นทางรอง” หรือ SPOKE อาจจะไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก เพื่อรับเที่ยวบินจากจีนและอื่น ๆ



แนวทางการเสนอเข้าบริหารสนามบินภูมิภาคของกรมท่าอากาศยานไทย ทอท.เน้นการทำเป็น “Cluster Airport” มีสนามบินเมืองหลัก เมืองรอง เมืองย่อย เชื่อมโยงเส้นทางบริการเข้าหากันได้โดยตรง เพราะคงไม่สามารถลงทุนเทียบชั้นสุวรรณภูมิหรือดอนเมืองได้ โดยสรุปในภาคอีสานจะมี 1 HUB 1-2 SPOKE ส่วนทางเหนือและใต้ ทอท.มีฮับอยู่แล้วในภูเก็ตกับเชียงใหม่ จึงเสนอเฉพาะ SPOKE เพิ่มเข้าไป เป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลเตรียมกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรองอย่างเต็มที่

ขณะนี้ ทอท.ได้ส่งรายละเอียดไปยังกระทรวงคมนาคม โดยมี สนข.เป็นศูนย์กลางการจัดทำข้อมูล จะเพิ่มหรือไม่อย่างไร แล้วสรุปออกมาเป็นแนวทาง
 ส่วนที่สอง การพัฒนาเชิงพาณิชย์ ได้คุยกับทางกรมธนารักษ์เรื่องจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนตามมูลค่าทรัพย์สิน เพื่อใช้ที่ดินรอบสนามบินที่มีอยู่ทั้งหมด

ดร.นิตินัย ย้ำว่าเรื่อง “รายได้” ตลอดปีงบประมาณ 2560 มีปัจจัยเหนือความคาดหมายประมาณการณ์การเติบโตของรายได้สนามบินเกิดขึ้น หลังปีใหม่จะต้องปรับประมาณการณ์ตัวเลขใหม่ ซึ่งจะขยายตัวช่วงปีใหม่ แต่ก่อนหน้านี้การเติบโตแบบเซอร์ไพรส์มีสายการบินจีนที่ขอมาขึ้นลงสุวรรณภูมิได้ยกเลิกตารางบิน (time slot) จึงถูกแทนที่ด้วยสายการบินจากรัสเซีย และจีนรายใหญ่ เข้ามาใช้ในช่วงเช้าหนาแน่นพลิกสถานการณ์จาก off peak หรือการเดินทางน้อยกลับกลายเป็น peak มีคนเดินทางหนาแน่นช่วงตีสองถึงแปดโมงเช้าเพิ่มขึ้น

ส่วนดอนเมืองตารางบินเต็มพอสมควร ในช่วงที่ ICAO ปลดธงแดง ทำให้มีสายการบินสามารถเปิดเที่ยวบินข้ามประเทศเพิ่มขึ้นได้ สวนทางกับจำนวนเที่ยวบินภายในประเทศลดลงแต่ระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเติบโตถึง 26-27 % ผู้โดยสารเติบโต 47 % เป็นผลมาจากสายการบินเปลี่ยนขนาดฝูงบินให้ใหญ่มีความจุแต่ละเที่ยวเพิ่มขึ้น



จึงผลต่อการ “รายได้” จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมภาษีสนามบิน Passenger Service Charge :PSC ที่เปลี่ยนจากผู้โดยสารในประเทศซึ่งจ่ายเพียงครั้งละ 100 บาทต่อคน เป็นมีนักเดินทางต่างประเทศเพิ่มซึ่งจ่ายค่าธรรมเนียมดังกล่าวครั้งละ 700 บาทต่อคน ดังนั้นช่วงต้นปี 2561 จึงต้องปรับประมาณการณ์รายได้ซึ่งมีสัญญาณเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

ส่วนในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ได้ร่วมกับทุกฝ่ายวางแผนดูแลผู้โดยสารทุกสนามบินซึ่งเริ่มเดินทางมาตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2560 – 3 มกราคม 2561 รวมกว่า 2.94 ล้านคน เฉลี่ยวันละ 4.2 แสนคน จำนวนกว่า 17,500  เที่ยวบิน จะหนาแน่นอยู่บริเวณ ส่วน “ดอนเมือง” 8.8 แสนคน และ “สุวรรณภูมิ” รวมกว่า1.3 ล้านคน เกือบครึ่งหนึ่งของผู้โดยสารเดินทางตลอดเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่คริสต์มาสทั้งสองสนามบินก็ทำสถิติไฮสุด ๆ วันละกว่า 1.9 แสนคน แต่ก็ยังไม่ทำลายสถิติเดิมเมื่อกุมภาพันธ์ปีนี้ทำไว้เกินวันละ 2  แสนคน แต่ก็ต้องจับตาพอเข้าเทศกาลปีใหม่จริงจะเกินกว่าที่ตั้งไว้แน่นอน

ดังนั้น ทอท.จึงได้วางแผนร่วมกับทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบอยู่ภายในสนามบินทุกแห่ง ทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หน่วยบริการสัมภาระกระเป๋าผู้โดยสาร และอื่น ๆ ไฮไลต์คือ “จัดตั้งศูนย์อำนวยการการเดินทาง” ประจำแต่ละสนามบิน ภายในสุวรรณภูมิ อยู่ตรงห้อง CIP ชั้น 3  ดอนเมือง อยู่ตรงรอยต่อระหว่างท่าอากาศยานผู้โดยสารหลังเก่าและใหม่ ชั้น 3 ส่วนสนามบินอื่น ๆ ก็เปิดเช่นเดียวกัน เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถไปพบเจ้าหน้าที่สอบถามเส้นทาง แจ้งของหาย และทั่วไป เปิดตั้งแต่ 28 ธันวาคม 2560 – 3 มกราคม 2561

ขณะเดียวกันก็เดียวกันก็ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจมาตรฐานความปลอดภัยทุกวงรอบ จัดเตรียมแม่บ้านทำความสะอาดห้องน้ำให้เพียงพอต่อปริมาณการใช้อยู่ตลอดเวลา

ส่วนกิจกรรมต้อนรับปีเก่าต้อนรับปีใหม่ก็มีของขวัญ ยกเว้นบริการค่าจอดรถ “สุวรรณภูมิ” วันนี้- 2 มกราคม 2561 บริเวณลานจอดระยะยาว (longterm parking ) โซนซี จะมีรถชัตเติ้ลบัสหมุนเวียนรับฟรีมายังสนามบิน จอดได้ 700 คัน “ดอนเมือง” วันนี้- 4 มกราคม 2561 เปิดลานจอด 6 พื้นที่ ได้แก่ อาคาร 5 ชั้น คลังสินค้า ลานจอดด้านข้างคลังสินค้า รองรับได้ 1,000 คัน โดยมีรถบัสรับส่งทุก 15 นาที

สำหรับแผนรองรับการระบายผู้โดยสารออกจากเคาน์เตอร์เช็คอิน เคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทาง ได้ประเมินสถานการณ์จะแออัดพอสมควร จึงต้องจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนั่งทุกเคาน์เตอร์ พร้อมทั้งจ้างพนักงานพิเศษเพิ่มคอยทำหน้าที่เดินตรวจเอกสารเข้าเมืองของชาวต่างชาติ ส่วนคนไทยยกเลิกโดยไม่ต้องกรอกใบ ตม.6 แล้ว มั่นใจจะมีเจ้าหน้าที่เพียงพอเพราะได้จ้างเพิ่มทั้งจำนวนคนและรอบพิเศษ

สำหรับผู้โดยสารที่ใช้สนามบินดอนเมืองต้องเผื่อเวลาพิเศษกว่าปกติ เนื่องจากบริเวณวิภาวดีด้านหน้าสนามบินกำลังซ่อมอยู่การจราจรจะหนาแน่นมากกว่าปกติ

ดร.นิตินัย กล่าวว่าในปี 2561 วางแผนเดินหน้าลุยพัฒนาแยกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก งานภาครัฐในฐานะผู้ให้บริการ การลงทุนขยายสนามบิน โดย ทอท.ทำแผนแม่บทเมกะโปรเจ็กต์ 10 ปีข้างหน้า เริ่มจากต้นปี 2559 จะใช้เงินพัฒนา 2.2 แสนล้านบาท เพื่อขยายศักยภาพ 6 สนามบิน ให้รองรับการเดินทางเข้า-ออกได้ถึงปีละ 184 ล้านคน จากปัจจุบันรับได้ปีละ 83 ล้านคน

นับจากปีที่ผ่านมา ทอท.ต้องวางกลยุทธ์เพิ่มการรองรับเป็น 100 ล้านคน ซึ่งในปี 2560 ก็สามารถทำได้แล้ว เห็นได้จากท่าอากาศยานดอนเมือง มีอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศเปิดบริการหลังใหม่ ปี 2561 ได้ทุบอาคารบริเวณคาร์โก้หมดแล้ว ปรับเป็นลานจอดรถจากเหนือจดใต้ ทำโรงจอดรถหัวท้าย โดยจะมี “รถไฟฟ้าอัตโนมัติ” จะแล้วเสร็จกลางปีหน้าเช่นกัน

ปี 2561 ยังคงเดินหน้าต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตอนนี้กำลังก่อสร้างอาคารหลังใหม่จะแล้วเสร็จประมาณพฤศจิกายน 2562 ใช้เวลากว่าปีครึ่งน่าจะแล้วเสร็จใช้งานได้ ท่าอากาศยานภูเก็ต ต่อเติมปรับปรุงเหลืออีกครึ่งหนึ่งจะแล้วเสร็จภายในมิถุนายน 2561 จากนั้นจะสามารถลดความแออัดลงได้มาก ศักยภาพรองรับได้เต็ม 12 ล้านคน

ปี 2561 จะเป็นอีกก้าวความสำเร็จของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ในการเป็นห่วงโซ่ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ เดินทางเข้าสู่เมืองท่องเที่ยวหลักและท่องเที่ยวรองอย่างเต็มศักยภาพ ด้วยแผนแม่บทการขยายสนามบินเพิ่มปริมาณการต้อนรับนักท่

ข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ “คิง เพาเวอร์ดึงณเดชส่งความสุขที่รางน้ำถึง-31ธ.ค.นี้”




คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ชวนสัมผัสประสบการณ์ความสุขที่ไม่สิ้นสุด กับเทศกาลส่งท้ายปี ในงาน “Explore Endless Celebration2018”  กับเทศกาลแห่งความสุขไม่สิ้นสุดส่งท้ายปี ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและจากทั่วทุกมุมโลก มาร่วมสัมผัสกับประสบการณ์สุดพิเศษ ระหว่าง 29 - 31 ธันวาคม 2560 ช่วงเวลาตั้งแต่ 20.00 – 22.00 น.  โดยได้เนรมิตพื้นที่ทั้งภายในและภายนอกอาคารให้โดดเด่น สวยงาม ด้วยต้นคริสมาสขนาดใหญ่พร้อมด้วยการประดับประดาไฟให้สวยงาม เพื่อให้เป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ของนักท่องเที่ยวผู้มีไลฟ์สไตล์ไม่ซ้ำใคร



นักท่องเที่ยวจะได้กระทบไหล่ดาราศิลปินดังแถวหน้าของเมืองแบบใกล้ชิด อาทิ ณเดชน์ คุกิมิยะ เจมส์ มาร์  และมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินนักร้องชื่อดัง เช่น นิว-จิ๋ว ดา เอนโดฟิน และในวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ร่วมมีตแอนด์กรี๊ดกับทีมนักแสดงจากซีรีย์ดัง 2 Moons The Series และสนุกสุดมันไปกับมินิคอนเสิร์ตจาก โพลีแคท และ อะตอม ชนกันต์


พร้อมเคาท์ดาวน์ส่งท้ายปี 2560 ส่งผ่านช่วงเวลาที่ดีด้วยการนับถอยหลังก้าวเข้าสู่ปีใหม่ 2561 นอกจากนี้ยังสามารถร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ จัดเตรียมไว้ต้อนรับแบบเต็มพิกัด เพื่อการสร้างประสบการณ์ที่ครบถ้วนให้กับผู้มาเยือนอย่างแท้จริง และสามารถร่วมสนุกกับกิจกรรมความบันเทิงต่าง ๆ อีกมากมายที่จัดไว้ต้อนรับ อาทิ บูธถ่ายภาพ (Photo Booth) ที่สามารถรับภาพถ่ายในรูปแบบโพรารอยด์ และสามารถแชร์ภาพไปยัง Facebook และ Instagram ได้ทันที บูธเพ้นท์ Glitter Tattoo

นอกจากนี้ยังได้นำอาหารดังมารวมไว้ในรูปแบบ Food Truck อาทิ บาร์บีคิวรสเด็ดจากAAH.AAM Kitchen พิซซ่าสไตล์อิตาเลียนจาก BabyPizza ผัดไทยหนักเครื่องบายเชฟดรีม ไอติมดีไซน์เก๋ Annette Itim TukTukและพบซุ้มขนมสายไหมและป๊อบคอร์นที่มาคอยให้บริการ พร้อมด้วยเครื่องดื่มหลากหลายรูปแบบที่มีให้เลือกดื่มตลอดทั้งงาน

  กิจกรรมสุดพิเศษต่าง ๆ ที่ คิง เพาเวอร์ ได้เตรียมไว้ต้อนรับลูกค้านักเดินทาง จัดขึ้นระหว่าง 29 - 31 ธันวาคม 2560 นี้ โดยมีเหล่าเซเลบริตี้และกองทัพดารามาร่วมสร้างสีสัน พร้อมด้วยศิลปินนักร้องชื่อดังมากมายที่มาสร้างความบันเทิง สนุกสนาน อย่างเต็มพิกัด โดยมีตารางกิจกรรมในงาน “Explore Endless Celebration 2018” ดังนี้    

วันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม 2560 เวลา 20.15 น. ร่วมกระทบไหล่แบบใกล้ชิดกับ ณเดชน์ คุกิมิยะ และสนุกสุดมันไปกับมินิคอนเสิร์ตจากนักร้องดูโอขวัญใจคนไทยอย่าง นิว-จิ๋ว เวลา 22.10 น.

วันเสาร์ที่ 30 ธันวาคม 2560 เวลา 20.15 น. มีตแอนด์กรี๊ดไปกับ เจมส์ มาร์ และเพลิดเพลินไปกับมินิคอนเสิร์ตจากนักร้องดีว่าสาวเสียงทรงพลังของไทย ดา เอนโดฟิน เวลา 22.00 น.

วันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2560 เวลา 20.10 น. ใกล้ชิดกับทีมนักแสดงจากซีรีย์ดัง 2 Moons The Seriesในระยะประชิดตัว  และสนุกสุดเหวี่ยงแบบไร้ขีดจำกัดกับมินิคอนเสิร์ตจาก Polycatเวลา 22.00 น. จากนั้นพบกับมินิคอนเสิร์ตจาก อะตอม- ชนกันต์ รัตนอุดม เวลา 23.00 น. ปิดท้ายด้วยการนับถอยหลังเคาท์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่า 2560 และร่วมต้อนรับปีใหม่ 2561ไป พร้อมกันอย่างมีความสุข

ติดตามข้อมูลเพิ่มได้ที่ www.kingpower.com หรือ โทร 1631

ข่าวที่ 2 “ททท.ปลุกเอกชนปั้นโปรแกรม55เมืองรองลดภาษีปี’61”

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2560 เป็นของขวัญปีใหม่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังให้ใช้มาตรการให้นักท่องเที่ยวเดินทางในประเทศสามารถนำใบเสร็จค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองรองระหว่าง 55 จังหวัด จากที่ ททท.เสนอกระทรวงการคลังไปทั้งหมด 61 จังหวัด แต่พิจารณาแล้วถูกตัดออกเนื่องจากประเมินสถิติแล้วมีจำนวนนักท่องเที่ยวใกล้เคียงเมืองท่องเที่ยวหลักมี 7 จังหวัด ได้แก่ นครปฐม ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี สุราษฎร์ธานี (แผ่นดิน) สมุทรสาคร

มาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวดังกล่าวนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 61-31 ธ.ค. 2561 และคาดการณ์จะช่วยกระตุ้นคนไทยออกมาเดินทางท่องเที่ยวโดยใช้สิทธิลดหย่อนภาษีไม่ต่ำกว่าเดิม 200,000 คนขึ้นไป เป็นสถิติเดิมที่รัฐบาลเคยใช้มาตรการท่องเที่ยวลดหย่อนภาษีเมื่อปี 2559

สำหรับปี 2561 ขณะนี้ทางกระทรวงการคลังได้จัดทำร่างกฎกระทรวง ฉบับที่..(พ.ศ...) ออกกตามประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ฉบับใหม่ขึ้นมาเพื่อรองรับโครงการมาตรการท่องเที่ยวเมืองรองลดหย่อนภาษีปีหน้า โดยมีสาระสำคัญการนำมาหักลดหย่อนคือเงินที่จ่ายเป็นค่าบริการแก่ผู้ประกอบการตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ในการท่องเที่ยวจังหวัดรอง และที่ไม่ใช่จังหวัดท่องเที่ยวรองตามกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับรอง เงินที่จ่ายค่าที่พักโรงแรมให้แก่ผู้ประกอบการตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม หรือจ่ายค่าที่พักโฮมสเตย์ พร้อมทั้งได้กำหนดคำจำกัดความเมืองรองไว้ในกฎกระทรวงฉบับใหม่นี้

ทั้งนี้มีรายงานว่ารัฐบาลตั้งเป้าหมายจากมาตรการดังกล่าวจะช่วยกระจายรายได้จากนักท่องเที่ยวในประเทศทำให้เกิดการใช้จ่ายเงินซื้อผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชนเพิ่มขึ้นจากที่ผ่านมา ซึ่งสามารถขายสินค้าให้นักท่องเที่ยวได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 3 แสนล้านบาท



นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท.กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2560 ได้จัดประชุมกับทุกสมาคมท่องเที่ยวในประเทศเพื่อหารือและให้โจทก์การทำโปรแกรมทัวร์รองรับมาตรการท่องเที่ยว 55 เมืองรองลดหย่อนภาษี โดยให้จัดทำเป็น 3 ประเภท คือ 1.เที่ยวเมืองหลักเชื่อมเมืองรอง 2.เที่ยวเมืองรองเชื่อมเมืองรอง และ 3.เที่ยวเมืองรองผนวกชุมชนต้นแบบ

จากนั้นภายในวันที่ 9 มกราคม 2561 จะสรุปรายละเอียดของโปรแกรมที่สมาคมท่องเที่ยวในประเทศไปจัดทำมาเพื่อพิจารณาแล้วนำไปบรรจุทำประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง โดยจะเปลี่ยนโปรแกรมให้สอดคล้องกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่ม รวมทั้งตรงตามฤดูกาลด้วย
ทั้งนี้ในวันที่ 4 มกราคม 2561 นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.จะร่วมกันแถลงข่าวเพื่อทำความเข้าใจในรายละเอียดการเดินหน้าโครงการท่องเที่ยว 55 เมืองรองลดภาษีตลอดปี 2561

ข่าวที่ 3 “บางจากฯ ตรึ่งราคาน้ำมันเป็นของขวัญปีใหม่วันนี้-3มค.61”

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ บริษัท บางจากฯ ไม่ปรับขึ้นราคาน้ำมันระหว่างวันนี้ – 3 ม.ค. 61 รวม 7 วัน มอบของขวัญและแทนคำขอบคุณแก่คนไทย และให้บริการตรวจเช็คสภาพรถฟรี 11 รายการ ส่งเสริมการขับขี่อย่างปลอดภัย พร้อมมอบสิทธิพิเศษแก่สมาชิกบัตรบางจากหลายรายการ เพื่อเติมเต็มความสุขให้คนไทยที่เดินทางไปพักผ่อน เยี่ยมครอบครัวญาติมิตร

รวมทั้งยังได้ร่วมกับกรมการขนส่งทางบกจัดโครงการ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” เพื่อเตรียมความพร้อมสภาพรถก่อนเดินทาง และรณรงค์การขับขี่อย่างปลอดภัยตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยให้บริการตรวจเช็คสภาพรถฟรี 11 รายการ เช่น น้ำมันเบรคและคลัทช์ น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย ก้านปัดน้ำฝน และน้ำฉีดกระจก เป็นต้น ณ ศูนย์บริการ Green Serve และ Wash Pro ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก 25 สาขา ทั่วประเทศ ตั้งแต่ 15 ธ.ค. 60 – 15 ม.ค. 61 สามารถตรวจสอบรายชื่อสถานีบริการได้ทางwww.bcpcarcare.com

ทางบางจากได้เตรียมสำรองน้ำมันทั้งที่สถานีบริการ คลังน้ำมันบางจากทุกภูมิภาค และเพิ่มจำนวนรถขนส่ง เพื่อให้ประชาชนที่เดินทางมีน้ำมันใช้อย่างเพียงพอ พร้อมเพิ่มทีมบริการเสริมเพื่อความรวดเร็ว และดูแลการจราจรภายในสถานีบริการน้ำมัน มีห้องน้ำสะอาด ตู้ ATM ธุรกิจเสริม ร้านกาแฟอินทนิล SPAR ซูเปอร์มาร์เก็ต ใบจาก บิ๊กซี มินิ ที่พร้อมให้บริการเครื่องดื่ม อาหารว่าง สินค้าอุปโภคบริโภค สำหรับผู้เดินทางได้แวะพักเติมน้ำมัน ซื้อหาอาหาร ของใช้จำเป็น และในสถานีบริการบางแห่งให้บริการสปาเท้า สปาเกลือ และสปาหิน เพื่อให้ผู้เดินทางได้และผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการขับขี่หรือนั่งรถเป็นเวลานาน

พร้อมทั้งจัดกิจกรรมสมนาคุณพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรแก๊สโซฮอล์คลับและดีเซลคลับ โดยมอบคะแนนสะสมเพิ่ม เมื่อเติมบางจากแก๊สโซฮอล์ 91S, 95S, E20S, E85S และไฮดีเซล S เพื่อใช้รับส่วนลดในการเติมน้ำมันและสิทธิประโยชน์อื่นๆ และให้สมาชิกแลกคะแนนทางเว็บไซต์เพียง 500 คะแนนเพื่อรับกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุมูลค่าสูงสุดถึง 100,000 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากทั่วประเทศ ศูนย์บริการลูกค้าโทร.1651 กด 4 หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.bcpgreenclub.com


ช่วงที่ 2 อออกไปเคาน์ดาวน์มุมใหม่ในภาคตะวันออก ปีนี้ "จังหวัดระยอง" เปิดท่าเทียบเรือบ้านเพ อำเภอเมือง เป็นครั้งแรก ที่จะระดมเรือไดหมึกแสงสีเขียวมรกตมาเป็นแสงแห่งการร่วมนับถอยหลังเข้าสู่วันใหม่ ที่จะสร้างความตื่นตาแก่นักท่องเที่ยว ส่วนการดูแลสุขภาพห้ามพลาด 7 วิธีขับขี่ปลอดภัย และข่าวช่วงท้ายชั่วโมง ร้อนแรงสุดส่งท้ายปีเมื่อ "เสี่ยธรรฐพล แบเลเว็ลด์" ทุ่มเงินกว่า 8,200 ล้านบาท ซื้อหุ้น AAVไทยแอร์เอเชียคืนจาก้จ้าสัววิชัย รวมไปถึงข่าวกรมทางหลวงแนะเส้นทางลัด4ภาคเดินทางช่วงเชียงใหม่ หรือจะไปเคาน์ดาวน์ 2 แผ่นดินที่นครพนม

@เคาน์ดาวน์ภาคตะวันออกระยองจัดใหญ่7ชิลล์ลุ้นโชค

ออกมาร่วมเคาน์ดาวน์ส่งท้ายปีในอีกบรรยากาศแถบจังหวัดริมฝั่งทะเลอ่าวไทย “ภาคตะวันออก”



จังหวัดระยอง เป็นครั้งแรกที่เริ่มจัด Amazing Thailand Countdown 2018 เมืองท่องเที่ยวรองริมชายฝั่งทะเลตะวันออกด้วยงาน “ท่องเที่ยวสุขใจรับปีใหม่เก๋ไก๋ที่ระยอง” บริเวณท่าเทียบเรือบ้านเพ อำเภอเมือง โดยได้ออกแบบนำเรือไดหมึกจำนวนกว่าร้อยลำใช้แสงไฟสีเขียวมรกตระยิบระยับของเรืออันสว่างไสวเต็มท้องทะเลเป็นวิถีชีวิตชาวประมงมาสร้างสีสันให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมกันนับถอยหลังช่วงค่ำคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2560 เข้าสู่เช้าวันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคม 2561

ระหว่างวันที่ 30-31 ธันวาคม 2560 นี้ ททท.ร่วมกับทุกภาคส่วนในระยอง จัดกิจกรรมเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมเคาน์ดาวน์ไปกับ 7 ชิลล์ ได้แก่ 1.ชิลล์ชิลล์...สนุกกับดนตรี 2 Gen ทั้ง เพลย์กราวนด์ คาวบอย ไมค์ภิรมย์พร และดนตรี EDM ดนตรีตื๊ด ๆ สไตล์วัยรุ่น 2.ชิลล์ชิม...กับอาหารถิ่นหลากเมนู นำทีมโดยเชฟชุมชนนำวัตถุดิบในท้องถิ่นมาปรุงอาหารพื้นบ้านออกแบบหน้าตาสวยงามและรสชาติอร่อย อาทิ  เมนูเส้นแกลงผัดกุ้งนุ่ม  ทะเลขึ้นบก จัดบุฟเฟต์ชิมอาหารทะเลคิดราคาเพียงคนละ 200 บาทเท่านั้น และอาหารฟู้ดทรัคมากมาย 3.ชิลล์ช้อป... ร้านค้าชุมชนพร้อมนำของดีเมืองระยองมาจำหน่ายตลอดงาน



 4.ชิลล์ชิค...ทางสวนพฤกษ์ศาสตร์และสวนป่า ระยอง ยกทีมมาสอนทำกิจกรรม DIY ให้นำกลับไปเป็นของที่ระลึกส่งท้ายปี 5.ชิลล์เอ๊าท์...ยกนวดไทยมาไว้ริมทะเล และจัดทีมนวดแต่งกายผีเสื้อสมุทรของแท้มาบริการ 6.ชิลล์แชะแชร์ รับโชค...เชิญชวนนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมงานได้แชร์ผ่าน facebook, Instragram ติด #เที่ยวสุขใจรับปีใหม่เก๋ไก๋ที่ระยอง ลุ้นรับทองคำ หรือแพกเกจท่องเที่ยว ได้ทันที ในค่ำคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2560

7.ชิลล์ช่วย...เป็นการช่วยกันทำความดีเพื่อสังคมในเช้าวันที่ 1 มกราคม 2561  ด้วยการเก็บขยะหลังเสร็จงานเคาน์ดาวน์ฉลองต้อนรับปีใหม่



จังหวัดชลบุรี เนรมิตท่าเทียบเรือท่องเที่ยว (แหลมบาลีฮาย) ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย “เทศกาลปีใหม่พัทยา 2560 Pattaya Countdown  2017” วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เฉลิมฉลองอย่างจุใจ ตระการตากับการแสดงพลุที่ยิ่งใหญ่อลังการ พร้อมรับชมคอนเสิร์ต        จากศิลปินชั้นนำของเมืองไทย

จังหวัดจันทบุรี     ก็จัดงานวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชรำลึก และงานกาชาดจังหวัด  ในช่วงเดียวกันกับระยองเริ่มมาตั้งแต่ 28 ธันวาคม 2560 - 3 มกราคม 2561 ไปพบกับได้ที่สนามกีฬาจังหวัดจันทบุรี / สวนสาธารณะทุ่งนาเชย ชมนิทรรศการของหน่วยงานราชการและการออกร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองของจันทบุรี ปิดท้ายด้วยการนั่งชมสาวงามจากประกวดนางสาวจันทบูร ดินแดนแห่งวิถีชีวิตชุมชนที่มีความอุดมสมบูรณ์โรแมนติกอีกแห่งของอ่าวไทย

เที่ยวเมืองไทย สนุกครบทุกอรรถรสทั้งเก๋ไก๋ ลึกซึ้ง ในหลากหลายเฉด หลายมิติ รอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ทุกแห่ง

@7เทคนิคขับรถปลอดภัยตลอดช่วงปีใหม่

ช่วงเทศกาลการเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือออกท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และสิ่งสำคัญสำหรับการเดินทางทุกครั้งคือเรื่อง “ความปลอดภัย” ใครที่ต้องขับรถเดินทางไกลๆ หรือต้องผ่านเส้นทางที่เสี่ยงอันตรายโค้งเยอะๆ ไม่ชำนาญเส้นทางห้ามประมาทโดยเด็ดขาด เพราะอุบัติเหตุส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นล้วนมาจากความประมาทของผู้ใช้รถใช้ถนน
           
  ประเทศไทยเป็นหนึ่งในหลายๆ ประเทศที่มีแนวโน้มการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นอันดับต้นๆ เมื่อเทียบจากข่าวหรือสื่อออนไลน์ที่นำเสนออยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสาเหตุหลักมาจาก “พฤติกรรมการหลับในและการขับรถเร็ว” ถือเป็น 2 พฤติกรรมเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมา ทั้งนี้ยังมีสถานการณ์อุบัติเหตุอันตรายข้างทางที่เกิดขึ้นในประเทศไทยโดยเฉลี่ยที่รวบรวมได้ 510 ข้อมูลในช่วงปี พ.ศ. 2556-2560 พบว่ามีผู้ประสบเหตุเสียชีวิตโดยประมาณ 784 คน และบาดเจ็บสาหัสโดยประมาณ 994 คน การหลับในขณะขับขี่ พบที่ร้อยละ 30 ขับรถเร็ว พบที่ร้อยละ 25  ดังนั้นการปฏิบัติตามกฏจราจรสามารถช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้ คำว่า " ปลอดภัยไว้ก่อน " กลายมาเป็นเทคนิคในการขับรถให้ปลอดภัย

สิ่งที่ผู้ขับขี่ไม่ควรลืมในการขับขี่อย่างปลอดภัย
1.คาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง หรือสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง
2.ควรหยุดพักรถเป็นระยะ หากต้องเดินทางไกล
3.เคารพกฎจราจร ไม่ฝ่าไฟแดง ไม่ขับรถย้อนศร
4.เตรียมร่างกายให้พร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการง่วงหรือหลับใน
5.เมาไม่ขับ
6.ไม่ขับรถเร็ว
7.งดการใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “ธรรฐพลลั่นซื้อหุ้นAAVคืนไทยแอร์พร้อมโต22ล้านคน”



นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ได้ประกาศซื้อหุ้น บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น “AAV”  จากนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และครอบครัว รวม 36.3 % ในราคาหุ้นละ  4.70 บาท จำนวนรวมกว่า 1,761 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 8,279 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ถือหุ้นอยู่เพียง 5 % แต่หลังการซื้อขายเสร็จเรียบร้อยจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ AAV มากถึง 41.3 %

นายธรรศพลฐ์ ย้ำว่าเมื่อซื้อหุ้นกลับคืนมาแล้วตนและทีมงานผู้บริหารสายการบินที่ร่วมก่อตั้งจะเดินหน้าพัฒนารับเครื่องบินใหม่ 7 ลำ ควบคู่เพิ่มยอดผู้โดยสารเติบโตตามแผนปี 2561 จะทำให้ได้ถึง 22 ล้านคน โดยจะพุ่งเป้ารุกทำตลาดอาเซียน จีน และอินเดีย รวมทั้งยังคงรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคิง เพาเวอร์ ไว้เหมือนเดิม จะไม่กระทบต่อความร่วมมือทางการตลาดแต่อย่างใด

ทั้งนี้ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้เป็นผู้สนับสนุนเงินทุนให้นายธรรฐพลเข้าซื้อหุ้นคืนจากครอบครัววัฒนประภา ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือครองหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ จะต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของกิจการ (Mandatory Tender Offer) กำหนดจะยื่นคำเสนอซื้อวันที่ 8 มกราคม 2561 เพื่อเสนอซื้อหุ้นส่วนที่เหลือจากผู้ถือหุ้นอื่น ๆ 58.7 % ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ AAV ที่ราคาเสนอซื้อหุ้นละ 4.70 บาท

ข่าวที่สอง “ทางหลวงเปิดเส้นทางลัด4ภาคให้คนเที่ยวปีใหม่”



นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ระหว่างวันที่ 30 ธ.ค.60 – 2 มกราคม 2561 คาดว่าจะมีประชาชนใช้บริการทางหลวงสายหลักจำนวนมาก เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าว กรมทางหลวงจึงแนะนำเส้นทางเลือกในการเดินทางสู่จังหวัดทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยบูรณาการร่วมกับตำรวจทางหลวง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “เดินทางอุ่นใจ ปลอดภัยไปกับกรมทางหลวง” เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้ทางได้รับความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัย รวมทั้งเป็นข้อมูลศึกษาเส้นทางซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดและลดระยะเวลาในการเดินทาง


ภาคเหนือ
เส้นทางที่ 1 ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – จ.อยุธยา – จ.อ่างทอง – จ.สิงห์บุรี (ทางหลวงหมายเลข 32 ถนนสายเอเชีย) – อ.มโนรมย์ (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์

เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯ ไป จ.นนทบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง – สุพรรณฯ) –จ.สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 สุพรรณฯ – ชัยนาท) – จ.ชัยนาท (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์

เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯ ไปรังสิต – อ.วังน้อย – จ.สระบุรี – จ.ลพบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – อ.ตากฟ้า (ทางหลวงหมายเลข 11) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดพิษณุ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ ไป จ.สระบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – อ.ม่วงค่อม (ทางหลวงหมายเลข 205) – อ.ท่าหลวง (ทางหลวงหมายเลข 2256) – อ.ด่านขุนทด (ทางหลวงหมายเลข 2148) – อ.ขามทะเลสอ (ทางหลวงหมายเลข 2068) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯ ไป อ.วังน้อย (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – จ.สระบุรี – อ.ปากช่อง – อ.สีคิ้ว (ทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯ ไป จ.นครนายก (ทางหลวงหมายเลข 305) – อ.บ้านนา (ทางหลวงหมายเลข 3051, 33) – อ.แก่งคอย (ทางหลวงหมายเลข 3222) – อ.ปากช่อง (ทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

เส้นทางที่ 4 จากกรุงเทพฯ ไป จ.ฉะเชิงเทรา (ทางหลวงหมายเลข 314) – อ.พนมสารคาม – อ.กบินทร์บุรี – อ.วังน้ำเขียว – อ.ปักธงชัย (ทางหลวงหมายเลข 304) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

ภาคตะวันออก



เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯไป จ.ชลบุรี (ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 หรือมอเตอร์เวย์)

เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป อ.บางปะกง (ทางหลวงหมายเลข 34 ถนนบางนา-ตราด) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดชลบุรี โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 3 ถนนสุขุมวิท
 เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯ ไป อ.พนัสนิคม – จ.ชลบุรี (ทางหลวงหมายเลข 304)

ภาคใต้

เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯไป จ.สมุทรสาคร – จ.สมุทรสงคราม (ทางหลวงหมายเลข 35) – แยกวังมะนาว – จ.เพชรบุรี (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป อ.สามพราน – อ.นครชัยศรี – จ.นครปฐม – จ.ราชบุรี – แยกวังมะนาว – จ.เพชรบุรี (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป ถนนบรมราชชนนี (ทางหลวงหมายเลข 338 ปิ่นเกล้า – นครชัยศรี) – อ.นครชัยศรี –จ.นครปฐม – จ.ราชบุรี – แยกวังมะนาว – จ.เพชรบุรี (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ใช้ทางขับรถช้า เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัด และปฏิบัติตามกฎจราจร ป้ายเตือน คำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด สอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มหรือแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายระหว่างการเดินทาง ได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 ศูนย์บริการข้อมูลทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) 1586 กด 7 และตำรวจทางหลวง 1193 .

ข่าวที่สาม “นครพนมจัดอลังการเคาน์ดาวน์2แผ่นดิน”

นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จังหวัดนครพนม โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนม ร่วมกับ เทศบาลเมืองนครพนม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กำหนดจัดกิจกรรม “นครพนม ไทย-ลาว Countdown สองแผ่นดิน 2561” ภายใต้ โครงการส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดนครพนมเพื่อเชื่อมโยง GMS โดยเป็นการจัดงานแบบบูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนเพื่อเป็นการเปิดตัวแคมเปญ “นครพนม...พร้อม” ซึ่งแสดงถึงจังหวัดนครพนมมีความพร้อมในทุกด้านเพื่อร่วมส่งเสริมความก้าวหน้าเจริญเติบโตทั้งด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การค้า การลงทุน และการเกษตร มุ่งก่อให้เกิดรายได้กระจายสู่ชุมชนอย่างทั่วถึง และสร้างความสุขให้กับประชาชนในท้องถิ่นและผู้มาเยี่ยมเยือนจังหวัดนครพนม

ทั้งนี้การจัดงานครั้งนี้นอกจากหน่วยงานหลักแล้วยังได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน อันได้แก่ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครพนม สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนม สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม วัฒนธรรมจังหวัดนครพนม ภาคเอกชนโดย หอการค้าจังหวัดนครพนม         สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครพนม และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครพนม ในการร่วมจัดนิทรรศการแสดงวิสัยทัศน์ แนวทางการดำเนินงานในปี 2561 และนโยบายต่างๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในทุกมิติของจังหวัดนครพนมในการร่วมบูรณาการส่งเสริมให้จังหวัดนครพนมมีความเจริญเติบโต ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน และได้เชิญหน่วยงานท่องเที่ยวของแขวงคำม่วน และแขวงสะหวันนะเขต เข้าร่วมงานเพื่อประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวลาว 2018” ด้วยเช่นกัน

ขอให้ทุกท่านมีความสุขตลอดเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
ผู้ดำเนินรายการ รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์ และบล็อกเกิร์ท่องเที่ยว-การบิน


จับตา!!ต่างชาติเที่ยวไทยแผ่ว3เดือนแรกไม่ถึง10ล้านคน

  นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 1 ม.ค.-31 มี.ค.2568 ได้แค่ 9.5 ล้านคน จับตา !! ต่างชาติเที่ยวไทยแผ่ว 3 เดือนแรกไม่ถึง 10 ล้านคน เม.ย.นี้ร...