วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

การบินไทยเปิดบริการใหม่ Live TV on Broad ดูข่าวกีฬาโลกแบบเรียลไทม์บนเครื่องทุกเที่ยวบิน เริ่ม 16 มิ.ย.61

การบินไทยชูบริการใหม่LIVE TV on Board
ชมข่าว-กีฬาโลกเรียลไทม์บนเครื่องเริ่ม14มิ.ย.นี้

(อ่านได้ทางเว็บไซต์ มติชนออนไลน์ https://www.matichon.co.th/publicize/news_978348 )

การบินไทยผนึก กสทช.สร้างความฮือฮาด้วยบริการใหม่สุดไฮเทค  “LIVE TV on Board” เปิดให้ชมรายการสดลอยฟ้าบนเครื่องทั้งข่าวและแมทช์กีฬาระดับโลกแบบเรียลไทม์ทันเหตุการณ์ทั้งเที่ยวบินในและต่างประเทศ เริ่ม 14 มิ.ย.2561 เป็นต้นไป



นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าการบินไทยได้รับอนุญาตจากคณะกรรมกากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดบริการใหม่บนเครื่องบิน “LIVE TV on Board” ให้ผู้โดยสารสามารถชมรายการโทรทัศน์สดผ่านจอทีวีบนเครื่องบิน รายการข่าวทันเหตุการณ์ พร้อมแมทช์การแข่งขันกีฬาระดับโลก เพิ่มประสิทธิภาพตามเทรนด์ใหม่ในโลกยุคดิจิทัลทำให้ปัจจุบันเทคโนโลยีและช่องทางการรับรู้ข่าวสารที่ฉับไวมีความจำเป็นอย่างมาก ทันเหตุการณ์พร้อม ๆ กับผู้ชมทั่วโลก และไม่พลาดชมรายการการแข่งขันกีฬาระดับโลกทุกแมทช์ เช่น ฟุตบอล เทนนิส กอล์ฟ เสมือนนั่งชมที่บ้าน

บริการ LIVE TV on Board  ของการบินไทยบริการครั้งนี้การบินไทยเล็งเห็นถึงประโยชน์ที่จะเพิ่มให้แก่ผู้โดยสารได้ความสะดวกเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอย่างฉับไวในขณะแม้กระทั่งระหว่างเดินทางบนเครื่องบิน ใหชมรายการโทรทัศน์สดบนเครื่องบินได้ทั้งหมด 4 ช่อง ได้แก่ CNN BBC NHK และ Sport 24 จะเริ่มให้บริการวันที่ 14 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป โดยจะลงทุนติดตั้งชุดอุปกรณ์รับส่งสัญญาณ LIVE TV ในห้องโดยสาร ได้แก่ เครื่องบินแอร์บัส A350-900 จำนวน 12 ลำ เส้นทางบิน ไป-กลับ อาทิ เชียงใหม่ สิงคโปร์ โซล โตเกียว โอซากา ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ โรม มิลาน และบรัสเซลส์ (เบลเยี่ยม) รวมทั้งในเครื่องโบอิ้ง 787-8 และโบอิ้ง 787-9 รวม 8 ลำ เส้นทางบิน อาทิ โตเกียว ไทเป ดูไบ เวียนนา บริสเบน โอ๊คแลนด์ และมะนิลา



ส่วนการจัดการเชื่อมต่อรับส่งสัญญาณโทรทัศน์ การบินไทยมอบหมายให้ บริษัท Panasonic Avionics เป็นผู้ดำเนินการบริหารจัดการเชื่อมต่อสัญญาณในเครื่องบินผ่านดาวเทียมกับโครงข่ายภาคพื้นอย่างมีประสิทธิภาพทางบริการ

นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า การให้บริการฟรี “LIVE TV On Board” ครั้งนี้แนวโน้มจะได้รับการตอบรับที่ดี และเพิ่มโอกาสจุดแข็งทางการตลาดและเพิ่มช่องทางการขายดึงดูผู้โดยสารมาใช้การบินไทยมากขึ้น ควบคู่ไปกับแคมเปญ “สบายต่างกัน” แล้วยัง “ทันโลกต่างกัน” อีกด้วย รวมทั้งยังเป็นการตอกย้ำจุดยืนของ Premium Airline ในฐานะสายการบินแห่งชาติ ที่ได้นำเทคโนโลยี มาพัฒนา ปรับปรุงการบริการเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความเพลิดเพลินและประสบการณ์ใหม่ๆ เหนือระดับอยู่เสมอ เพื่อรับชมการถ่ายทอดสดทั้งรายการข่าว การแข่งขันกีฬาชั้นนำ ขณะที่บินอยู่บนอากาศ ซึ่งผู้โดยสารสามารถพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินทุกเที่ยวบิน

ทั้งนี้ลูกค้าของการบินไทยสามารถสำรองที่นั่งและออกบัตรโดยสารได้ 4 ช่องทาง ที่  www.thaiairways.com  สำนักงานขายการบินไทย ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือ THAI Contact Center โทร 0-2356-1111 ตลอด 24 ชั่วโมง

วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

UNWTOหนุนไทยขึ้นนำGastronomyเอเชีย "รมว.วีระศักดิ์" ลั่นสร้างบิ๊กเชนจ์ในตลาดโลก

UNWTOหนุนไทยขึ้นนำGastronomyเอเชีย
"รมว.วีระศักดิ์" ลั่นสร้างบิ๊กเชนจ์ในตลาดโลก

อ่านทั้งหมดได้ในมติชนออนไลน์

https://www.matichon.co.th/publicize/news_977650




นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้รับเกียรติจาก Mr.Zurab Pololikashivili เลขาธิการองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) และ Mr.Joxe Mari Aizega ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร Basque Culinary Center ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ((ททท.) นำงานสัมมนา “UNWTO World Forum on Gastronomy Tourism ครั้งที่ 4” ภายใต้แนวคิด “Harnessing the power of technology and new value propositions as drivers for a positive global impact ระหว่าง 30 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2561 ที่โรงแรม InterContinental ราชประสงค์ โดย UNWTO  มุ่งให้สมาชิกนานาชาติท่เข้าร่วมสัมมนากว่า 560 ราย ยกระดับประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารระดับนานาชาติของเอเชีย



ขณะเดียวกันในระดับนโยบายของกนะทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะใช้เวทีนี้จุดประกายสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ (Big Change) ในการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารเพื่อการท่องเที่ยวที่จะก้าวไปเติบโตในตลาดโลก ทั้งทางด้านการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม เข้าไปเสริมสร้างอาหารไทยในเชิงเศรษฐกิจ สังคม สัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม โดยจะเปลี่ยนโมเดลการผลิตอาหารรณรงค์ให้ทุกภมคส่วนหันมาให้ความสำคัญกับการลดขยะจากอาหารตั้งแต่ค้นทางจนถึงปลาย ทาง เรื่อยไปจนถึงการสร้างห่วงโซ่การผลิตเพื่อส่งออกวัตถุดิบอาหารไทยเข้าสู่ตลาดโลกอย่างมีมูลค่าและคุณค่า เพื่อให้เกิดภาพจำเรื่องราวของอาหารแต่ละเมนูล้วนแล้วแต่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ผสมดลมกลืนอย่างลงตัวอยู่ในแต่ละจาน เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาไทยปีละ 35 -38 ล้านคน นำไปบอกต่อจนกลายเป็นวาระแหางโลก ที่ทำให้เกิดการบิโภคอาหารไทยสร้างรายได้เกินกว่าปีละ 350,000 ล้านบาท หรือประมาณ 20-25 %ของรายได้รวมจากการท่องเที่ยว


รวมทั้งจะใช้อาหารเพื่อการท่องเที่ยวเป็นอีกช่องทางในการกระตุ้นการท่องเที่ยวสู่เมืองรอง 55 จังหวัด กระจายรายได้ลดความเหลื่อมล้ำให้แก่ชุมชนเกษตรทั่วประเทศ


Mr.Zurab Pololikashivili เลขาธิการองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO)  กล่าวไทยเป็นประเทศอันซีนทางอาหารที่มีความมหัศจรรย์และเป็นศูนย์กลางความหลากหลายที่สามารถนำอาหารเข้ามาเชื่อมโยงได้ครบวงจร ทั้ง 4 ส่วน คือ เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม ดังนั้นทาง UNWTO และสมาชิกพร้อมให้การสนับสนุนไทยเป็นประเทศศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงอาหารแห่งเอเชีย สามารถเติบโตทั้งทางด้านรายได้และภาพลักษณ์ที่เป็นภาพจำของนักท่องเที่ยวทัาวโลกได้ในระยะยาว

สำหรับในเวทีการเสวนาครั้งนี้ ยังได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนนานาชาติ และสื่อจากสเปน พร้อมจะช่วยเผยแพร่ข้อมูลอาหารไทยสู่นักท่องเที่ยวทัาวโลก รวมถึงในวันเปิดงานสัมมนา ได้จัดเวทีแลกเปลี่ยนความเห็นจากกูรูจากทัาวโลกซึ่งเล็งเห็นถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวเชิงอาหารที่จะเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในแต่ละภูมิภาค


โดยผู้ทรงคุณวุฒิจากนานาประเทศ ได้แก่ นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน ททท.  Ms. Maria Helena de Senna Fernandes, Director of Tourism Office เขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน Hon. Mr. Edmund Bartlett, Minister of Tourism ประเทศจาเมกา  Mr.Shogo Arai, Governor of Nara Prefecture ประเทศญี่ปุ่น  Mr.Denis Itxaso, Deputy for Culture, Tourism, Youth and Sport, Deputacion Floral de Gipuzkoa ราชอาณาจักรสเปน และ Dr. Mario Hardy, CEO สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ประจำประเทศไทย (Pacific Asia Travel Association: PATA Thailand)


 พร้อมกับเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานจากนานาชาติได้เลือกเดินทางสำรวจเส้นทางอาหารผสมผสานกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมจาก 8  เส้นทาง ได้แก่ บางรัก นางเลิ้ง ตรอกข้าวเม่า และพระนคร และเส้นทางอาหารผสมผสานกับวัฒนธรรมและชุมชน ได้แก่ ตลาดพลู ตลาดน้อย กุฎีจีน และ คลองบางหลวง เพื่อเปิดเส้นทางต้นแบบการท่องเที่ยวเชิงอาหารสายใหม่ของประเทศไทยควบคู่กันไป

วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ททท.ชวนร่วมบุญวิสาขบูชา28-29 พ.ค.61 -เดินขึ้นดอยไหว้สาป๋ารมีพระบรมธาตุดอยสุเทพ

ททท.ชวนร่วมบุญ“วิสาขบูชา"28-29พ.ค.นี้
เดินขึ้นดอยไหว้สาป๋ารมีพระธาตุดอยสุเทพ

เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน

ภาพโดย...ผอ.สมฤดี จิตรจง #gonorththailand

(อ่าน "ททท.ชวนเที่ยวบุญวิสาขบูชาทั่วไทยได้ในมติชนออนไลน์ https://www.matichon.co.th/publicize/news_974586

ททท.ชวนท่องเที่ยวเมืองรองงานบุญใหญ่ “วิสาขบูชา” 28-29 พ.ค.2561  “เดินขึ้นดอยไหว้สาป๋ารมีพระบรมธาตุดอยสุเทพ” รณรงค์ช่วยเก็บขยะแหล่งท่องเที่ยว

นางสมฤดี จิตรจง ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้เชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมทัวร์บุญวันวิสาขบูชาในงาน “ประเพณีเดินขึ้นดอย ไหว้สาป๋ารมีพระบรมธาตุดอยสุเทพ ประจำปี 2561” ระหว่างวันที่ 28 -29 พฤษภาคม 2561 ณ ดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ ตามวิถีท้องถิ่นเชื่อว่าหากต้องการได้กุศลแรงจะต้องเดินขึ้นไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 6 เรื่อยไปจนถึงเช้าวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เป็นประเพณีที่ชาวเชียงใหม่ถือปฏิบัติสืบมาเป็นประจำทุกปี เป็นเอกลักษณ์พิเศษของชาวล้านนาที่ดีงาม



โดยมีความเชื่อว่าประเพณีการเดินขึ้นดอยสุเทพเริ่มตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปาฏิหาริย์ตอนองค์พระบรมสารีริกธาตุ วัดสวนดอกแยกออกเป็น 2 องค์ ทำให้พระเจ้ากือนา กษัตริย์ผู้ครองราชย์สมัยนั้น คิดหาสถานที่สร้างวัดขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุอีกองค์หนึ่ง จึงทรงทำการเสี่ยงทายในวันวิสาขบูชา วันเพ็ญเดือน 6 ของปีนั้น ทรงอธิษฐานเสี่ยงช้างมงคล ถ้าช้างไปหยุด ณ จุดใด ก็จะใช้สถานที่นั้น เป็นที่สร้างวัดเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ



ครั้งนั้นช้างเสี่ยงทายเริ่มเดินออกจากวัดสวนดอก บ่ายหน้าขึ้นสู่ดอยสุเทพไปจนถึงยอดชั้นที่ 1 ชื่อดอยหมากขนุน หรือดอยช้างนูน แล้วขึ้นต่อไปถึงยอดชั้นที่ 2 ชื่อดอยสนามยอดหรือดอยสามยอด ระหว่างทางช้างเกิดสั่นและหยุดพักช่วงหนึ่งพระเจ้ากือนาจึงโปรดให้สร้างวัดขึ้น ณ จุดที่ช้างพัก ปัจจุบันคือวัดผาลาด

เมื่อช้างหายเหนื่อยก็ลุกเดินต่อมุ่งหน้าไปจนถึงชั้นที่ 3 ชื่อว่า “ดอยสุเทพ” ขณะนั้นมีฤาษีวาสุเทพนั่งบำเพ็ญเพียรอยู่ในถ้ำ ช้างก็ไปหยุดและตายที่นั่น พระเจ้ากือนาจึงทรงให้สร้างวัดพระธาตุดอยสุเทพ  และเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุเจดีย์ และในปัจจุบันมีการปั้นรูปช้างอยู่ในบริเวณดังกล่าว



จากจุดที่ช้างเดินจากวัดสวนดอกไปเรื่อย ๆ ทำให้เกิดเส้นทางที่เรียกว่า “ด่านช้าง” ภายหลังจากที่สร้างวัดพระธาตุดอยสุเทพเสร็จแล้ว พระเจ้ากือนาก็ทรงใช้เส้นทางดังกล่าวนี้เดินขึ้นไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพ ต่อมาในปี 2477 เมื่อพระครูบาศรีวิชัยร่วมกับชาวล้านนาสร้างถนนขึ้นดอยสุเทพ เพราะเส้นทางเดิมที่ใช้เดินขึ้นดอยระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ลักษณะเป็นทางเดินเท้า ทั้งสูงชันและคับแคบ ดังนั้นเมื่อเดินทางไปก็จะต้องพักแรมอยู่นมัสการอบรมสมโภชเป็นเวลาหลายวันถึงจะเดินทางกลับบ้าน



เส้นทางที่ครูบาศรีวิชัยสร้างขึ้นชื่อว่า “ถนนศรีวิชัย” ในตอนแรกที่ทำถนนเป็นถนนดินลูกรัง ต่อมาปี 2524 ปรับปรุงเป็นถนนลาดยาง เมื่อพระธาตุดอยสุเทพเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เส้นทางตามถนนศรีวิชัย ไปยังวัดพระธาตุดอยสุเทพ พระครูบาศรีวิชัยและชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างวัดขึ้นอีก 3 วัด คือ วัดโสดาบรรณ ปัจจุบันคือวัดศรีโสดา วัดสกินาคามี ปัจจุบันคือวัดผาลาด และวัดอนาคามีปัจจุบันเป็นวัดร้าง

“พระครูบาศรีวิชัย” เปรียบการเดินทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพไว้ว่าเป็นเสมือนการเดินทางไปสู่การตรัสรู้เป็นพระอรหันต์ของพระพุทธเจ้า โดยเปรียบเทียบวัดพระธาตุดอยสุเทพ คือวัดอรหันต์ ลักษณะการเดินทางจะเดินด้วยเท้า ถือประทีป ธูปเทียน เป็นริ้วขบวนประกอบด้วย พระสงฆ์เดินนำหน้าสวดมนต์ และประชาชนเดินตามหลัง โดยเริ่มขบวน ณ วัดศรีโสดา และนมัสการวัดสกินาคามี และวัดอนาคามี เดินทางขึ้นไปนมัสการวัดพระธาตุดอยสุเทพ หลังจากนั้นก็บำเพ็ญศีลวิปัสสนา ทำบุญตักบาตรในเช้าวันรุ่งขึ้น แล้วจึงเดินทางกลับ จึงถือว่าได้อานิสงส์แรง หรือได้ทำบุญมาก

ประเพณีการเดินขึ้นดอยยุคหลังครูบาศรีวิชัยสร้างถนนขึ้นสู่วัดพระธาตุดอยสุเทพ นอกจากจะเป็นการเดินขึ้นไปปฏิบัติธรรม สักการะองค์พระบรมธาตุดอยสุเทพแล้ว ยังเป็นการรำลึกถึงพระคุณแห่งครูบาศรีวิชัย ที่ได้เป็นผู้นำในการสร้างถนนขึ้นดอยแห่งนี้ด้วย



ในโอกาสวันสำคัญทางศาสนา “วิสาขบูชา” ททท.จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนท่องเที่ยวเพื่อสร้างคุณงามความดี แก่ตัวเอง ครอบครัว และประเทศชาติสืบไว้ ร่วอนุรักษ์ประเพณีให้ชาวต่างชาติได้ศึกษาเรียนรู้ประสบการณ์อันทรงคุณค่าให้คงอยู่ต่อไป

วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ททท.บุก3ทวีปเพิ่มรายได้ยุโรป-อเมริกา-ตะวันออกลางปี61-ฟินสุดๆเที่ยวเชียงราย-เชียงตุง

ททท.รุกแนวใหม่เพิ่มรายได้3ทวีปปลายปี’61
บิ๊กเชนจ์งานTTM-ปิดจุดอ่อนแผนตลาดปี’62
4 วิธีช้อปคิงเพาเวอร์ใช้เงินน้อยได้สินค้ามาก
ททท.จัดมาราธอนไทย-เทศบูมเที่ยวหน้าฝน
BCPGเครือบางจากจ่ายปันผล320ล.15มิ.ย.
ทอท.ลั่นเปิดTORประมูลดิวตี้ฟรี มิ.ย./ก.ค.นี้
เที่ยวเหนือสุด 3 จังหวัดข้ามแดนชมเชียงตุง
เตือน ! คนวัยทำงานระวังทั้งโรคอ้วน- ฟันผุ
ภูเก็ตชวนชิมอาหารถิ่น 80 ร้านซิตี้แกสโตรมี
แอโร่ไทยโชว์ผู้นำการบินจัด 4 ประชุมสากล
เปิดพิพิธภัณฑ์ผ้าให้ชมนิทรรศกาลของขวัญ

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen    และบล็อกเกอร์ #gurutourza

ช่วงที่ 1 “ศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์” รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดทัพรุกตลาด 3 ทวีปใหญ่ “ยุโรป-อเมริกา” คึกคักโตทะลุ 15 % ส่วน “ตะวันออกลาง” แก้เกมหันไปพึ่งโอมาน สบช่องพลิกรูปแบบจัดงาน “Thailand Travel Plus 2018” ริมโอเชียน ยอร์ช มารีน่า เปิดจุดขายพัทยาผนวก EEC มุมใหม่ดินแดนแห่งทะเลโรมานซ์ เชื่อมโยงเมืองรอง วิถีกิน วิถีถิ่น ระยอง จันทบุรี ตราด ตอกย้ำหน้าฝนเมืองไทยเที่ยวสนุก มีของอร่อยให้กินเพียบ ส่วนการทำแผนตลาดท่องเที่ยวปี’62 “TATAP 2019” พุ่งเป้าแผน “คมชัดกำจัดทุกจุดอ่อน”ตลาดทั่วโลก


ศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์
รองผู้ว่าการ ททท. ด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา

นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า พร้อมขับเคลื่อนการท่องเที่ยว 3 ทวีป โดยได้วางกลยุทธ์ปลุกตลาดท่องเที่ยวตลาดโลกใน 3 ทวีปหลักช่วง 4 เดือนแรกปี 2561 ล้วนแล้วแต่เติบโตไปแดนบวกน่าพึงพอใจไม่ได้ติดลบ โดยเฉพาะ 2 ทวีปแรก คือ อเมริกาเพิ่มกว่า 15 % ซึ่งมีสัญญาณทางเศรษฐกิจในประเทศ การจ้างงานและค่าจ้างสูงขึ้น เงินเฟ้อลดลง สถิตินักท่องเที่ยวมาเมืองไทยทะลุปีละ 1 ล้านคน เรียบร้อยแล้ว ผนวกกับ ททท.เพิ่งเปิดสำนักงาน ททท.แห่งใหม่ในโต แคนาดา แนวโน้มจะน่าขยายตัว

ส่วนตลาดยุโรปตะวันออกนักท่องเที่ยวเติบโตเพิ่มสองหลัก ฝรั่งเศสฟื้นคืนสู่สภาพปกติ สเปน อิตาลี ภาพรวมดี เช่นเดียวกับเนเธอร์แลนด์ แต่ก็ต้องระวังคู่แข่งล้วนแข็งแรงทั้งสิ้นคือ คิวบา ศรีลังกา อีกทั้งนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยยังเป็นกลุ่มเก่ามาซ้ำ ๆ สูงถึง 85 % การทำตลาดจึงใช้งบประมาณน้อยลง แต่ก็ต้องเร่งเพิ่มฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ (first visit)



จะมีความท้าทายคือ “ตลาดตะวันออกกลาง” ชะลอตัวลงเพราะมีปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ ขณะนี้ยังไม่ติดลบแต่ก็ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะอิหร่านแนวโน้มจะลดลงไปประมาณ 20,000 คน เพราะเศรษฐกิจภายในตกต่ำการแทรกแซงรุนแรงขึ้นตามลำดับ ททท.จึงต้องวางแผนหาตลาดอื่นมาทดแทน ทั้งจากบาเรนห์ โอมาน ส่วนกลุ่มประเทศใน GCC ยังคงมีสัญญาณที่ดีกับไทย

ดังนั้นการใช้แคมเปญ Open to the new shades จึงเป็นเครื่องมือเชิงรุกและแม่เหล็กที่แข็งแรงมากพอจะดึงความสนใจกำลังซื้อใหม่ ๆ ด้วยการเสนอขายเมืองรอง ชุมชน วิถีชีวิต วัฒนธรรม ในเฉดอื่น ๆ แตกต่างจากทั่วไป เป็นทางเลือกใหม่เสนอกับลูกค้าเก่าได้มากขึ้น เฉดการท่องเที่ยวเชิงอาหาร วิถีท้องถิ่นต่าง ๆ ความสวยงามทางธรรมชาติที่เป็นอัญมณีแห่งการท่องเที่ยวที่ซ่อนอยู่ หรือแม้แต่ตลาดกลุ่มใหม่ต้องสร้างภาพจำล้างสิ่งเดิม ๆ ซึ่งเป็นจุดอ่อนอย่างไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเชิงปริมาณ (mass tourism) เป็นประเทศท่องเที่ยวราคาถูก (cheap destination) เป็นภารกิจท้าทายของ ททท.จะต้องนำเสนอจุดขายของแหล่งท่องเที่ยวมุมใหม่ไปเผยแพร่เข้าถึงตลาดยุคปัจจุบันให้ได้มากที่สุด

ขณะนี้เทรนด์การท่องเที่ยวเชิงการค้นหาประสบการณ์ใหม่กำลังมาแรง จากผลสำรวจระดับโลกพยากรณ์อนาคตการท่องเที่ยว 1.เกือบทุกประเทศแทบจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับวัตถุ ที่ชัดมากคือนักท่องเที่ยวแคนาดา ยุโรป ใช้เงินท่องเที่ยวเพื่อซื้อประสบการณ์เป็นหลัก 2.การท่องเที่ยวเชิงอาหาร ซึ่งไทยมีความโดดเด่นที่ขายได้อีกนานเรื่องวิถีกิน วิถีถิ่นไทย ในแบบ gastronomy เป็นความจริงซึ่งเป็นตัวตนตามสภาพความจริง ที่ไทยจะใช้เชิดชูดึงลูกค้า เป็นอาวุธการตลาดสำคัญระยะยาว



นางศรีสุดากล่าวว่า ได้วางกลยุทธ์จัดงาน Thailand Travel Plus 2018 ระหว่างวันที่ 13-15มิถุนายน 2561 ณ โอเชียน มารีน่า ยอร์ช คลับ พัทยา จังหวัดชลบุรี เพื่อเน้นโปรโมตระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Econmic Corridor :EEC) พร้อมทั้งมีอีกหลายปัจจัยที่จะพลิกพัทยาสู่เส้นทางใหม่ 1.ล้างภาพลักษณ์เชิงลบหากนำอีเวนต์ที่ดีไปจัดเพื่อฉายให้เห็นมุมดี ๆ เช่น มีแหล่งท่องเที่ยวเหมาะกับกลุ่มครอบครัวไม่ใช่เป็นจุดดำเหมือนอดีตที่ทั่วโลกเคยรับรู้ ยังมีอื่น ๆ อย่าง นาจอมเทียน สัตหีบ และการจัดงานครั้งนี้ได้เชิญผู้ประกอบการท่องเที่ยวกลุ่มผู้ซื้อเกือบ 300 ราย สื่อมวลชนกว่า 100 คน ที่จะได้มาสัมผัสประสบการณ์จริงในพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยงทั่วภาคตะวันออก 2.เปลี่ยนโฉมการจัดงานเป็นกลางแจ้ง โอเชียน มารีน่า ยอร์ช คลับ เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสถานที่จัดงานสามารถทำได้มากกว่าในโรงแรมหรือห้องประชุม 3.ช่วงมิถุนายนเป็นฤดูฝนจึงต้องการจะพิสูจน์ให้ผู้ประกอบการเข้าใจถึงการท่องเที่ยวหน้าฝนในเมืองไทยนักท่องเที่ยวมาสัมผัสประสบการณ์ตรงได้ เพราะฝนริมทะเลไทยตกแล้วหยุดเร็ว ขณะเดียวกันก็ได้กำหนดธีมเป็น Open to the new shades : Beach of Romance in Pattaya ออกแบบการจัดงานแบบสบายในเต็นต์มาร์คีย์สีขาวริมทะเล ผู้ร่วมงานสวมใส่ทีเชิร์ต สวมขาสั้น สร้างบรรยากาศของคู่เจรจาธุรกิจทั้งผู้ซื้อและผู้ขายผ่อนคลาย กระตุ้นความรู้สึกให้เป็นจุดหมายปลายทางของกลุ่มตลาดคู่รัก ฮันนีมูน หรือจะเป็นครอบครัวก็ได้ ไม่จำเป็นจะต้องมาแต่งงานเพียงอย่างเดียว



การจัดงาน TTM +2018 ครั้งนี้จะใช้ประโยชน์ที่จะเพิ่มจุดขายแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากพัทยา ชลบุรี ไปสู่เมืองรองชายฝั่งทะเลตะวันออก ระยอง จันทบุรี ตราด โดยก่อนและหลังการจัดงานได้จัดโปรแกรมนำผู้ประกอบการจากทั่วโลก สื่อมวลชน ลงสำรวจพื้นที่ท่องเที่ยวใหม่ ประการสำคัญตลอดงานจะนำอาหารถิ่นมาเผยแพร่ให้ลองรับประทาน เช่น ข้าวคลุกพริกเกลือต้องจันทบุรี มัสมั่นทุเรียน-จันทบุรี ก๋วยเตี๋ยวบ้านบึงพัทยา ข้าวหลามช็อต หอยจ๊อ หรือไอศรีมหมูหยอง และอื่น ล้วนเป็นอาหารดัง ๆ ของท้องถิ่นในมุมใหม่ของ New shades of gastronomy พร้อมกับพาไปชมเฉดอื่น ๆ การท่องเที่ยวทะเล เกาะ อ่าวไทย รวมทั้งการรณรงค์เรื่อง Go Green ลดขยะ ภายในงานจะไม่แจกแฟ้ม ขวดพลาสติก แต่ให้ทุกฝ่ายนำถุงผ้ามาเอง เป็นความพยายามช่วยกันตระหนักถึงการดูแลสิ่งแวดล้อม และทำอย่างจริงจังไม่ใช่ทำตามกระแส

ส่วนการเตรียมประชุมแผนตลาดการท่องเที่ยวประจำปีงบประมาณ 2562 (TATAP) ททท.จะต้องแถลงกลยุทธ์ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 2-5 กรกฎาคม 2561 นั้น



นางศรีสุดากล่าวว่าการประชุม TATAP ครั้งนี้จะแตกต่างจากทุกปีเน้นเข้มข้นและคมชัดมากขึ้น 1.จะกางแผนที่ของแต่ละตลาด แต่ละพื้นที่ แต่ละทวีป เพื่อหาจุดอ่อนนำมาหารือกัน หลัก ๆ คือ ภาพลักษณ์ มีแต่ตลาดกลุ่มเก่าเที่ยวซ้ำ ๆ จะใช้วิธีวางรูปแบบการแก้ไขให้ถูกจุดด้วยการคิดโครงการหรือกิจกรรม ควบคู่กับการชำแหละส่วนที่สามารถรับมือได้หรือหากควบคุมไม่ได้ก็ต้องวางมือ แล้วหันไปพัฒนาส่วนที่ทำได้ 2.จะโฟกัสการหาลูกค้าใหม่เพิ่มฐานลูกค้าจากกลุ่มระดับล่าง กลาง ไปสู่ระดับไฮเอนด์ โดยจะต้องหาแนวทางแก้จุดอ่อนให้เหลือน้อยที่สุด ครั้งนี้จึงจะไม่เน้นการสร้างปริมาณนักท่องเที่ยวเป็นโจทก์หลัก

โดยสรุปแล้วการประชุม TATAP 2018 เดือนกรกฎาคม 2561 นี้ ททท.พุ่งเป้าทั้งเรื่องความคมชัด ตรงประเด็น กำจัดจุดอ่อนเสริมสร้างจุดแข็งของการตลาดท่องเที่ยวเชิงรุกอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเป้าหมายของประเทศในระยะยาว

สำหรับแผนพัฒนาตลาดการท่องเที่ยวของ ททท.สำนักงานในอเมริกา ยุโรป ไฮไลต์สำคัญ ๆ ช่วงระหว่างพฤษภาคม-กันยายน 2561 และแนวโน้มเทรนด์การขยายฐานปี 2562 มีดังนี้


ตลาดสหรัฐอเมริกา การจองตั๋วล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 13.2% กลยุทธ์การทำตลาดร่วมกับ 1.สายการบิน อีวีเอ (ไต้หวัน) เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปเส้นทาง ไทเป-เชียงใหม่ 2.กาตาร์แอร์เวย์ส เจาะกลุ่มฮันนีมูน ร่วมกับโรงแรมอนันตราเชียงใหม่ เชียงราย ทำ IMC นำเสนอทาง NCB นิวยอร์ก จะออกอากาศเดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป นำเสนออาหาร ไลฟ์สไตล์ เอนเตอร์เทนเมนท์ ภายใต้แคมเปญ Open to the new shades of romance in Amazing Thailand 3.ร่วมกับโรงแรมพันธมิตรเจาะกลุ่มสุขภาพและเวลเนส เทรนด์อนาคตมาแรงมากจะมีมูลค่าทางการตลาดสูงกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โรงแรมจึงตื่นตัวเพิ่มบริการหมอพยาบาลประจำโรงแรม เทอราปิสต์ นักวิชาการด้านสุขภาพ รวมทั้งจัดกิจกรรมบริการหลัก ๆ สปา โยคะ ฟิตเนส ความงาม ชะลอความแก่ อาหารเพื่อสุขภาพ การรักษาทางเลือก (Alternative medicine) 4.จัดเทรดและโรดโชว์ ระหว่างมิถุนายน-กันยายน 2561 เข้าร่วม 4 งานหลัก ได้แก่ LGBT Symphosium มิถุนายนนี้ งาน Vrituoso Travel Week Global เดือนสิงหาคม งาน PrivatLuxsury Forums America เดือนกันยายน และจัด Sales Blitz ร่วมกับโรงแรม สายการบินในงาน ILTM ช่วงกันยายนนนี้เช่นกัน

แนวโน้มปี 2562 ชาวอเมริกาเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ 82 % โดยเฉพาะกลุ่มมิลเลนเนียลจะใช้เงินมากตามสถิติมีสูงถึง 20.1 % ของครัวเรือนในสหรัฐอเมริกา จุดหมายปลายทางต้องการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อบ่งบอกตัวตนที่แท้จริง มากถึง 27 % โดยใช้โซเชียลมีเดียตัดสินใจเลือกสถานที่ท่องเที่ยวประมาณ 23 % แนวโน้มการใช้อินเตอร์เน็ตดูวิดีโอคลิปมากถึง 80 % ในการเดินทางค้นหาประสบการณ์ใหม่ทางด้านวิถีท้องถิ่น วัฒนธรรม ความเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิม เอ็กโซติก และสนใจท่องเที่ยวเชิงอาหารสูงถึง 79 %

ตลาดยุโรป 4 เดือนแรก มกราคม-เมษายน 2561 เยอรมัน เพิ่มขึ้น 7.73 % สวิสเซอร์แลนด์ 1.29 % ส่วนออสเตรีย 18.70%  หลังจากการบินไทยกลับมาเปิดบินตรง กรุงเทพฯ-เวียนนา เดือนมิถุนายนนี้เน้นทำแคมเปญร่วมกับสายการบินเพื่อกระตุ้นการเติบโตช่วงฤดูฝน ประกอบด้วย

1.จับมือการบินไทยทำตั๋วโดยสารราคาพิเศษเดินทางมาไทยช่วง พฤษภาคม-กรกฎาคม และกันยายน ร่วมกับกาตาร์แอร์เวย์ส เตอร์กิสแอร์ไลน์ส เอทิฮัดส์ ขยายเที่ยวบนตรงสู่ท่าอากาศยาน อู่ตะเภา กระบี่ เชียงใหม่ ภูเก็ต

 2.จับคู่เจรจาธุรกิจ ในงานโร้ดโชว์เมืองรองในเยอรมันอย่าง มิวนิค สตุทการ์ด เนิร์นแบร์ก ฮัมบวร์ก

3.ร่วมกับทัวร์โอเปอเรเตอร์นำคณะตัวแทนขายไปสำรวจพร้อมกับเวิร์คช็อปในไทยปี 2561 อาทิ DERToursitik นำเอเย่นต์มา 85 ราย เมื่อเดือนพฤษภาคม FTI Touristik นำเอเย่นต์มา 80 เดือนกันยายนนี้ Thomas Cook Asutria นำเอเย่นมา 120 ราย ช่วงตุลาคม/พฤศจิกายนนี้

4.ทำกิจกรรมธุรกิจท่องเที่ยวพบผู้บริโภค (Business to Consummer) เช่น กลุ่มการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ทำโปรโมชั่นกับร้านอุปกรณ์กีฬาทั่วเยอรมันตลอดพฤษภาคม จัดกอล์ฟทัวร์นาเมนท์ในเยอรมันและออสเตรีย เข้าร่วมงาน โอเมก้า กอล์ฟ ทัวร์นาเมนท์ ในสวิสเซอร์แลนด์ ทำโปรโมชั่นกับธัญญะปุระ ภูเก็ต และทางด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหาร ร่วมงาน Thailand Festival ช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ในเยอรมัน สวิสเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย เสนอขายไฮไลต์เส้นทางอาหารไทย อาหารถิ่น การท่องเที่ยวชุมชน

สำหรับตลาดในสแกนดิเนเวีย สวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์ส ฟินแลนด์ ช่วงมิถุนายนนี้จัดแคมเปญ Go Local in Bangkok กับสายการบินนำ ได้แก่ การบินไทย กาตาร์แอร์เวย์ส เตอร์กีสแอร์ไลน์ส และผู้ประกอบการ เสนอขายท่องเที่ยวมุมใหม่ foodie tour การทำอาหาร และท่องราตรีไชน่าทาวน์ ช่วงฤดูฝน สิงหาคม-กันยายน นี้ ทำแคมเปญกับการบินไทย สำนักงานตลาดสแกนดิเนเวีย และระหว่าง 17-23 กันยายน นี้ จะจัดกิจกรรมการตลาดทำแผนเชิงรุกเที่ยวช่วงฤดูหนาวปลายปี เน้นการทำเสนอเที่ยวเมืองรองในไทย นครศรีธรรมราช ระยอง ชุมพร ระนอง และแหล่งท่องเที่ยวมุมใหม่ในเมืองหลัก กรุงเทพฯ เชียงใหม่ โดยใช้สื่อดิจิตอลเพื่อให้เกิดการสื่อสารสองทาง

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “4วิธีช็อปดิวตี้ฟรีคิงเพาเวอร์จ่ายน้อยได้สินค้ามาก”



กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ผู้นำการบุกเบิกร้านค้าปลีกเพื่อการท่องเที่ยวแถวหน้าของประเทศไทย เปิดสาขาให้บริการในสนามบินนานาชาติทั้งสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ และดิวตี้ฟรีในเมือง กรุงเทพมหานคร 2 แห่ง ที่ ซอยรางน้ำ ศรีวารี (ใกล้สุวรรณภูมิ) พัทยา ภูเก็ต โดยพร้อมจะให้นักช้อปได้รับความคุ้มค่าการใช้จ่ายเงินน้อยได้สินค้าต่าง ๆ มากขึ้น ด้วย 4 ช่องทาง ดังนี้

1.การช้อปสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ในร้านค้าสาขาต่าง ๆ ของ คิง เพาเวอร์ ซึ่งช่วยให้นักเดินทางสามารถซื้อสินค้าต่างๆ ได้มากขึ้นแต่จ่ายน้อยลง. การซื้อสินค้าปลอดภาษีอากรที่ คิง เพาเวอร์ จะต้องใช้พาสปอร์ตและแจ้งเที่ยวบินเดินทางต่างประเทศ ขาออก/ขาเข้าประเทศไทย

2.สินค้าป้ายฟ้าซื้อหาได้โดยไม่ต้องเดินทาง- พบกับสินค้า Non-Duty Free ที่หลากหลายและตอบโจทย์ทุกไลฟสไตล์ ทุกท่านสามารถเลือกซื้อสินค้า Non-Duty Free ได้โดยสินค้าจะถูกจัดส่งไปตามที่อยู่ที่ท่านแจ้ง (ภายในประเทศไทย)

3.รับสินค้าที่สนามบิน -ช็อปสินค้าปลอดภาษีอากรที่ คิง เพาเวอร์ ดาวน์ทาวน์ หรือ ออนไลน์ คุณสามารถรับสินค้าได้ที่ จุดรับสินค้าที่สนามบินขาออก

4.บริการจัดส่งสินค้า - เมื่อคุณช็อปสินค้า Non-Duty Free โดยสินค้าของคุณจะถูกจัดส่งภายใน 1-7 วัน ในประเทศไทย จัดส่งฟรี เมื่อช็อปครบเพียง 499 บาทเท่านั้น

ดูรายละเอียดเพิ่มที่ www.kingpower.com หรือสอบถามเพิ่มได้ที่ คอลเซ็นเตอร์ 1631

ข่าวที่ 2 “ททท.ชวนร่วม2มาราธอนใหญ่9-10มิ.ย.”



การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า ระหว่างวันที่ 9-10 มิถุนายน 2561 ได้ให้การสนับสนุนการจัดมหกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา 2 รายการใหญ่ที่จะสร้างกระแสระดับนานาชาติ คือ งานแรก ลากูน่า ภูเก็ต มาราธอน 2561 ซึ่งจะนักวิ่งกว่า 8,000 คน จากทั่วโลก 50 ประเทศ ร่วมวิ่งมาราธอนบนเกาะภูเก็ต งานที่ 2 International Angel Challenge 2018 at Suan Phueng มีเหล่านางฟ้าขาปั่น เซลิบริตี้แถวหน้าของไทย มาร่วมแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทั่วเมืองรองจังหวัดราชบุรี

“วิ่งมาราธอนลากูน่า ภูเก็ต” จะจัดขึ้นที่ ลากูน่า ภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต โดยมี โก แอดเวนเจอร์ เอเชีย มืออาชีพในการจัดวิ่งนานาชาติมาอย่างยาวนานร่วมกับสมาคมวิ่งมาราธอนนานาชาติและการแข่งขันทางเรียบ หรือ แอมส์  (The Association of International Marathons and Distance Races:  AIMS)  0yfต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 ซึ่งการแข่งขันที่ใช้เก็บคะแนนเพื่อเข้าร่วมบอสตัน มาราธอน ด้วย
 
แบ่งการแข่งขัน 5 ประเภท ในช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 9 มิ.ย.2561 จัด วิ่งยุวชน (2 กม), วิ่ง 5 กม., วิ่ง 10.5 กม. เช้าวันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน  จัดระยะฮาล์ฟมาราธอน (21.097 กม.) และมาราธอน (42.195 กม.)  โดยจะจับเวลาการแข่งขันทุกประเภท ปีนี้มีไฮไลต์เส้นทางการแข่งขันระยะมาราธอนและฮาร์ฟมาราธอน ให้ดีขึ้นกว่าเดิม และเพิ่ม “การแข่งขันมาราธอนประเภททีม” เป็นครั้งแรก มีผู้แข่งขันทีมละ 4 คน


 นายนพดล  ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า กล่าวว่า จังหวัดราชบุรี สมาคมธุรกิจ ท่องเที่ยวสวนผึ้ง และหน่วยงานต่าง ๆ จัดยิ่งใหญ่กิจกรรม “International Angel Challenge 2018 at Suan Phueng” ในบริเวณ เดอะ ซีนเนอรี่ วินเทจ ฟาร์ม อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในกลุ่มสตรี กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเมืองรอง มีกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การแข่งขันปั่นจักรยานสำหรับผู้หญิงในงาน  International  Angel Challenge ปีที่ 3   เป็นการแข่งขันจักรยานทางเรียบ 2 ประเภท


เพิ่มเติมรุ่น Lady Fun Ride แบบไม่เน้นการแข่งขัน ใช้ระบบชิพจับเวลาอย่างมีมาตรฐานเพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนได้ตรวจสอบเวลาของตนได้ โดยจะมีรุ่นและระยะ ได้แก่ 1. การแข่งขันจักรยานทางเรียบประเภทหญิง Lady Open โดยผู้ชนะจะได้รับถ้วยรางวัล จากรัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ค่าสมัคร 1,000 บาท โดยจะมีช่วงค่าสมัครพิเศษ Early Bird ราคา 700 บาท  2. การแข่งขันจักรยานทางเรียบประเภทรุ่นอายุหญิง Lady Elite 35 ปีขึ้นไป ค่าสมัคร 1,000 บาท  มีช่วงค่าสมัครพิเศษ Early Bird ราคา 700 บาท 3. ประเภท Lady Fun Ride จักรยานทางเรียบ ระยะทาง 30 กม. (สามารถใช้จักรยานได้ทุกประเภท)  ค่าสมัคร 800 บาท โดยจะมีช่วงค่าสมัครพิเศษ Early Bird ในราคา 500 บาท ทั้งนี้ ทุกรุ่นจำกัดผู้เข้าร่วมงานเฉพาะผู้หญิงเท่านั้นรวม 700 ท่าน

สอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวสวนผึ้ง 092-371-7799 และ 081-642-5479 Facebook: International Angel Challenge

ข่าวที่ 3 “BCPGเครือบางจากจ่ายปันผล320ล้าน15มิย.”

บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ในเครือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า         ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม  2561 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 ปี 2561 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ หุ้นละ 0.16 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 320  ล้านบาท กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 มิถุนายน 2561 และจะขึ้นเครื่องหมาย XD (Exclude Dividend) ในวันที่ 5 มิถุนายน 2561  จากนั้นจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 6 มิถุนายน 2561

อีกทั้งที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติอนุมัติการขายสินทรัพย์โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 27.6 เมกะวัตต์  ได้แก่ โครงการนิคาโฮ 13.2 เมกะวัตต์ และนากิ 14.4 เมกะวัตต์ เพื่อเข้ากองทุน Infrastructure Fund หรือกองทุนเพื่อการบริหารสินทรัพย์ที่ญี่ปุ่น

นายบัณฑิต  สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจำหน่ายสินทรัพย์ให้แก่กองทุนฯ ก็เพื่อนำกระแสเงินสดในอนาคตมาใช้ลงทุนโครงการใหม่ รวมถึงเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้น ส่วนการจำหน่ายสินทรัพย์ของโครงการขึ้นกับความสำเร็จของข้อกำหนดเงื่อนไขและราคา หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป

ข่าวที่ 4 “ทอท.ลั่นเปิดTORดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ มิ.ย.-ก.ค.นี้”



นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังคงเดินหน้าจัดทำรายละเอียดในการเปิดประมูลหาเอกชนเข้ามาดำเนินการพื้นที่ร้านค้าปลอดอากร (Duty free) และร้านค้าปลีกในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดประมูลและออกเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) ประมาณเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคม 2561 จากแผนเดิมกำหนดจะเริ่มเปิดเมื่อช่วงต้นปี 2561 แต่ก็ต้องเลื่อนมากว่า 6 เดือน เนื่องจากจะต้องดำเนินการทุกขั้นตอนอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเรื่องการให้ทีมงานเกี่ยวข้องทำการศึกษารับฟังข้อเสนอจากทุกฝ่าย

โดย ทอท.จะยึดมั่นการประมูลที่มีความโปร่งใส มีธรรมาภิบาล เพื่อสรรหาบริษัทเอกชนผู้ชนะการประมูลพื้นที่ร้านค้าปลอดอากรเข้ามาดำเนินการภายในปลายปี 2561 เพราะตามกรอบระยะเวลาจะต้องหาผู้ชนะให้ได้ล่วงหน้าก่อน 2 ปี ก่อนสัมปทานเก่าจะสิ้นสุดปี 2563  ก็เพื่อเข้ามาเตรียมความพร้อมทั้งทางด้านการตกแต่งพื้นที่ร้านค้า การเจรจากับแบรนด์สินค้าที่จะนำเข้ามาวางจำหน่าย เพื่อเป็นแม่เหล็กดึงดูดรายได้จากนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเม็ดเงินให้ ทอท.เพิ่มขึ้นด้วย


ช่วงที่ 2 เลาะขึ้นเหนือ 3 จังหวัด “สุโขทัย-พะเยา-เชียงราย” เที่ยวสบาย ๆ ในช่วงวันวิสาขบูชา ไปชมอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ศรีสัชนาลัย แล้วไปเวียนเทียนกลางกว๊านพะเยาแห่งเดียวในโลก ก่อนมุ่งหน้าเยือนเหนือสุดแห่งสยามเชียงราย แล้วไปเยี่ยมชาวไทยเขิน-ไทยใหญ่ ใน “เชียงตุง” ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเมียนมาร์ แล้วมาดูแลสุขภาพของคนวัยทำงานต้องระวังทั้งโรคอ้วนและฟันผุ ส่วนข่าวร้อนมาแรง  เรื่องแรก ภูเก็ตนำ 80 ร้านดังบูมซิตี้แก๊สโตรโนมี ตามด้วยเรื่อง แอโร่ไทยโชว์เหนือผู้นำจราจรการบินด้วยการเป็นเจ้าภาพจัด 4 ประชุมอินเตอร์ ปิดท้ายด้วยข่าว เปิดพิพิธภัณฑ์ผ้า จัดนิทรรศการของขวัญฉลอง 200 ปีความสัมพันธ์ไทย-อเมริกา

@เที่ยวเหนือ3จังหวัดสู่เชียงตุง เมียนมาร์



การออกเดินทางเพื่อแสวงหาเรื่องราวจากกรุงเทพฯ ลัดเลาะผ่านสุโขทัย เข้าสู่พะเยา สู่เหนือสุดแดนสยามที่ “เชียงราย” จนถึง “เชียงตุง” เมียนมาร์ ดินแดนอารยธรรรมไทยเขินกับไทยใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งวิถีชีวิตเปลี่ยนยุคผ่านสมัยหากยังคงมีเสน่ห์เหมือนเดิม

จากกรุงเทพฯ เราจะนั่งเครื่องบินไปลงสุโขทัย เพื่อย้อนดูอดีตอันรุ่งเรื่องในมรดกโลก “อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย” กับ “อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ผู้ที่ชื่นชอบโบราณสถานสามารถใช้เวลาเดินชมพร้อมกับเก็บภาพแต่ละซอกมุมได้ตลอดทั้งตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนลับขอบฟ้า รอบบริเวณมีวัดมากมายรายล้อมอยู่ทั่วทั้งสองอุทยานฯ วัดที่เป็นไฮไลต์ต้องเที่ยวได้แก่ วัดมหาธาตุ วัดศรีชุม วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วัดช้างล้อม วัดเจดีย์เจ็ดแถว



ส่วนร้านอาหารเก๋ ๆ ตอนนี้เกิดขึ้นมากมาย สามารถเลือกได้ตามใจชอบทั้ง อาหารสไตล์ท้องถิ่น ร้านกาแฟ และมุมพักผ่อนกลางธรรมชาติ

เช้าวันใหม่เดินทางทางรถโยใช้ทางหลวงหมายเลข 101 พอถึงอำเภอร้องกวาง ให้เลี้ยวเข้าถนนหมายเลข 103 มุ่งหน้าสู่เมืองรอง “จังหวัดพะเยา” ตอนนี้มีงานบุญใหญ่วันวิสาขบูชา 28-29 พฤษภาคม 2561 จะมีพิธีเวียนเทียนกลางกว๊านพะเยา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทะเลสาบขนาใดหญ่อันดับ 3 ของเมืองไทย ชมความงามทางน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องแวะนมัสการ “หลวงพ่อศิลา” แห่ง “วัดติโลกอาราม”  ตั้งอยู่บนเกาะกลางน้ำ ก่อนจะไปขึ้นดอยบุษราคัม อุทยานพุทธศาสนา



หลังจากนั้นก็ขับรถไปตามถนนหมายเลข 1 จากพะเยายาวไปถึงจังหวัดเชียงราย ระยะทางราว 375 กิโลเมตร แวะพักค้างคืนที่เชียงราย เติมพลังไว้ให้เต็มเพื่อรับตะวันใหม่ไปเชียงตุง เมียนมาร์



เส้นทางที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้เป็นประตูจากเชียงรายสู่เชียงตุง คือ ด่านอำเภอแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ขับรถไปราว 30 กิโลเมตร ก็จะถึงเขตเมืองเชียงตุง รัฐฉาน ชุมชนของไทยเขินกับไทยใหญ่ มีสถานที่ท่องเที่ยวศักดิ์สิทธิ์ คือ พระธาตุจอมคำ อายุเก่าแก่นับพันปี ยอดพระธาตุเป็นทองคำ ต่อด้วย “วัดมหามัยมุนี” หรืออีก 3 วัดที่มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ก่อสร้างด้วยศิลปะมัณฑะเลย์ละเอียดอ่อนช้อยงดงาม ได้แก่ วัดเจ้าหลวง วัดพระแก้ว วัดราฐานหัวข่วง ในเชียงตุงมีตลาดเช้าที่ขึ้นชื่อด้วยวิถีชีวิตคนท้องถิ่นที่มาเดินซื้ออาหารเช้า



ทั้ง 4 จังหวัด นับเป็นอีกมุมการท่องเที่ยวสองแผ่นดิน ไทย-เมียนมาร์ ที่มีภาพความสัมพันธ์ใกล้ชิดของคนไทยกับชาวเชียงตุงที่อยู่ร่วมกันอย่างสงบ ยิ่งมีนักท่องเที่ยวเข้าไปจะยิ่งเติมสีสันเศรษฐกิจฐานรากให้คึกคักมากขึ้นนั่นเอง

@แนะคนวัยทำงานระวังการกินแล้วอ้วนฟันผุ

ควรรับประทานอาหารตรงเวลา ครบ 5 หมู่ ลดหวานมัน เค็ม งดอาหารทอดหรือผัด เพิ่มผักผลไม้

          นพ.วชิระ  เพ็งจันทร์  อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า วัยทำงานส่วนใหญ่ใช้เวลาในที่ทำงานไม่น้อยกว่า 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์  สุขภาพที่ดีจึงสำคัญ เพราะเมื่อพนักงานสุขภาพดี มีความสุขกาย สบายใจ ทำให้ทำงานมีประสิทธิภาพ จะส่งผลดีต่อสถานประกอบการและเศรษฐกิจประเทศตามมา แต่จากการสำรวจสถานการณ์สุขภาพกลุ่มวัยทำงานจากแหล่งที่เกี่ยวข้อง พบมีภาวะอ้วน ร้อยละ 37.5 กินผักและผลไม้ไม่เพียงพอตามข้อแนะนำ ร้อยละ 74.1  มีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ ร้อยละ57.4 สูบบุหรี่ 19.5 ดื่มแอลกอฮอล์ 38.9 ปัญหาสุขภาพช่องปากพบว่าร้อยละ91.8ฟันผุส่วนมากเป็นผลมาจากทำงานทั้งวัน ทำให้เครียด เหนื่อยล้า จึงมองข้ามไม่ใส่ใจดูแลสุขภาพทั้งๆที่ทำได้ง่ายๆ เริ่มจากรับประทานอาหารให้เหมาะสม เพิ่มกิจกรรมทางกายระหว่างวันให้มากขึ้น

          ทั้งนี้  ควรรับประทานอาหารตรงเวลา ครบ 5 หมู่ ลดหวานมัน เค็ม งดอาหารทอดหรือผัด เพิ่มผักผลไม้ น้ำตาลไม่เกิน 4-6 ช้อนชา เกลือน้อยกว่า 1 ช้อนชาผัก 4-6 ทัพพี มื้อเช้าสำคัญเพราะร่างกายจะขาดน้ำตาล สมองไม่ปลอดโปร่ง อ่อนเพลีย หงุดหงิดและงดกินจุบจิบ ออกกำลังกายปานกลางวันละ 30-60 นาที  อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์เพื่อลดน้ำหนักและพุงลดความเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น ความดันสูง เบาหวาน หัวใจและหลอดเลือด

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “ภูเก็ตจัดใหญ่Gastronomy80 ร้านดัง”

  นายแพทย์ จิรพันธ์ เต้พันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จัดใหญ่มหกรรม “Phuket : City of Gastronomy” ต้อนรับนักท่องเที่ยวมาร่วมแชะ ชิม ชมแชร์ 80 ร้านดังในภูเก็ต ระหว่าง 1-5 มิถุนายน 2561 สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี (ลานมังกร) ถนนถลาง อำเภอเมืองภูเก็ต โดยเปิดให้สถานประกอบการจำหน่ายอาหารแก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติตอกย้ำให้ภูเก็ตเป้น ซิตี้ ออฟ แกสโตรโนมี นอกเหนือจากเมืองทะเลสวยงามแล้วยังมีอาหารอร่อย สด สะอาด ได้มาตรฐาน ขึ้นชื่อ ระดับโลก

ภายในงานจะได้ชิมอาหารเด็ด ๆ  80 ร้านดัง ชมการสาธิตทำอาหาร ลองชิมอาหารฝีมือ ดาราและบุคคลที่มีชื่อเสียงในภูเก็ต อาทิ จ๊ะจ๋า พริมรตา พร้อมกับชมบันเทิง การแสดงมินิคอนเสิร์ตจาศิลปิน อาทิ เก่ง ธชย หรือ พระปีย์ บุพเพสันนิวาส, โทนี่ ผี, พีท พีระ, ติ๊ก เพลย์กราวด์ อร่อย สนุก มีความสุข ตลอดงาน สอบถามเพิ่มได้ที่ 086 9422011

ข่าวที่สอง “แอโร่ไทยจัด4ประชุมการบินอินเตอร์”



นางสาริณี อังศุสิงห์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (แอโร่ไทย) กล่าวว่าในโอกาสฉลอง 70 ปี ที่จะได้แสดงบทบาทในการส่งเสริมและพัฒนา ขีดความสามารถให้บริการขนส่งทางอากาศของประเทศ ทางด้านการบริหารจราจรทางอากาศ (Air Traffic Management: ATM) และทำให้ไทยที่ได้รับการยอมรับและเชื่อถือในระดับสากล รวมทั้งแสดงถึงการมีส่วนร่วมในประชาคมการบินระหว่างประเทศ ในการเป็นเจ้าภาพจัดงานการบินระดับนานาชาติระหว่าง 7 – 14 มิถุนายน 2561 จัด 4 การประชุม คือ 1.CANSO Asia Pacific Conference 2. CANSO Global ATM Summit 3.Annual General Meeting (AGM) และ 4.การประชุมที่เกี่ยวข้อง   ไฮไลต์เรื่อง “Digitisation and Big Data is Everywhere … but Where Exactly in ATM?” โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะเป็นประธานเปิดการประชุม Global ATM Summit วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน 2561 ณ โรงแรม ดิ แอทธินี

ตลอดการประชุมจะมีผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานผู้ให้บริการการเดินอากาศ และหน่วยงานด้านการบริหารจัดการจราจรทางอากาศทั่วโลก 85 หน่วยงานกว่า 250 คน

ข่าวที่สาม “ชมนิทรรศการของขวัญในพิพิธภัณฑ์ผ้า-30มิ.ย.”



มร. ทีบอร์ พานดิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับสถานฑูตสหรัฐอเมริกา เปิดงานนิทรรศการของขวัญแห่งมิตรภาพ หรือ “Great and Good Friends”เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 200 ปี ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและราชอาณาจักรไทย ระหว่างวันนี้ - วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 09.00 – 16.30 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 150 บาท นักเรียน นิสิตนักศึกษาที่แสดงบัตร 50 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีเข้าชมฟรี ณ พิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบรมมหาราชวัง

นิทรรศการดังกล่าวได้จัดแสดงของขวัญพระราชทานจำนวนมาก ซึ่งของขวัญส่วนใหญ่ถูกนำมาจัดแสดงต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก อาทิ พระราชสาส์นในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์ ของขวัญพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และฉลองพระองค์ครุย เสื้อคลุมปักทอง

ดูข้อมูลเพิ่มได้ที่ https://www.greatandgoodfriends.com  หรือ www.citi.co.th  

ติดตามข่าวได้เป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.97.0 MHz.

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
ผู้ดำเนินรายการข่าวและคอลัมนิสต์ท่องเที่ยว-การบิน




วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

วีระศักดิ์ปฎิรูปใหญ่กระทรวงท่องเที่ยวผ่า3ปมใหญ่แก้กฎหมายใหม่5ฉบับ- ลุยกินบุฟเฟต์ระยอง3เดือน3อำเภอ

ไทยใช้UNWTOปลุกโลกทัวร์อุตฯอาหารไทย
‘วีระศักดิ์’ปฏิรูปก.ท่องเที่ยว3ปมกม.ใหม่5ฉบับ
คิงเพาเวอร์บูมเปิดป็อบอัพสโตร์แบรนด์NARs
ททท.ชวนทัวร์งานบุญวิสาขบูชาไฮไลต์3พื้นที่
บางจากอัดแคมเปญเติมปุ๊บรับเน้นๆปั๊บ8 เท่า
ทอท.ผุดใหม่สนามบินแห่งที่2เชียงใหม่/ภูเก็ต
ตะลอนทัวร์กินบุฟเฟต์3เดือน3อำเภอระยอง
แนะเลือกกินอาหารปลอดภัยในการเดินทาง
3กลุ่มทุนใหญ่รอชิงไฮสปีดEEC3สนามบิน
ภูเก็ตชูอันดามันโฮเต็ลเลียร์จัดแถวท่องเที่ยว
รร.ทินิดีฉลองเปิดใหม่ลด30%ยาวถึงต.ค.นี้
อ.ต.ก.บุกเปิดใหม่ในหัวหินชิมลางเมืองทัวร์

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen    และบล็อกเกอร์ #gurutourza

ช่วงที่ 1 เจาะใจ “วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ชิงใช้เวที World Gastronomy ของ UNWTO พลิกครั้งใหญ่ตลาดอาหารไทยในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว พร้อมเปิดแผนผ่าตัดกระทรวงครั้งแรกในรอบ 16 ปี จับเข่าคุย กพร.มิ.ย.นี้ ปลดล็อก 3 ปมใหญ่ “เปิดเสรีย้ายตำแหน่งข้ามองค์กร-ตั้ง800อำเภอดูแลท่องเที่ยว-ปลดล็อก ททท.รับคืนงานและงบพัฒนาแหล่งเที่ยวเริ่มปี’62” ลั่นต้องปฏิรูปให้เสร็จก่อนเลือกตั้งใหม่

วีระศักดิ์ โควสุรัตน์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา


นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า นโยบายการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารผ่านการท่องเที่ยวพร้อมจะใช้กระแสระดับประเทศและนานาชาติ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะร่วมมือกับ United Nation World Tourism Organisation (UNWTO) และ Basque Culinary Center จัดงาน “World Forum on Gastronomy Tourism” นำงานสัมมนาวิชาการด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารมาจัดในไทยเป็นประเทศแรกในเอเชีย ระหว่าง 30 พฤษภาคม -   1 มิถุยายน 2561 ภายใต้แนวคิด “Harnessing the power of technology and new value propositions as drivers for a positive global impact” โดยโดยมีเลขาธิการคนใหม่ ผู้เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการ สื่อ เข้ามาร่วมอย่างคับคั่ง และผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารจากนานาชาติลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมงานแล้วถึง 567 คน

@World Gastronomyปลุกอาหารไทยในอุตทัวร์โลก

เพื่อตอบโจทก์รายได้หมวดอาหารไทยในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งสามารถทำสถิติถึงปีละ 20 % หรือคิดเป็นเงินกว่าปีละ 320,000 ล้านบาท  ระหว่างการเป็นเจ้าภาพงาน World Forum on Gastronomy Tourism ได้ตั้งเป้าเปิดโลกทัศน์ใหม่แก่ผู้เข้าร่วมสัมมนาทั่วโลก 3 เรื่อง ได้แก่



เรื่องที่ 1 สร้างการรับรู้เรื่องเครื่องปรุงอาหารไทยชนิดต่าง ๆ ด้วยการนำผู้เข้าร่วมงานจากนานาชาติลงพื้นที่สำรวจเส้นทางอาหารผสมผสานกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมจาก 4 เส้นทาง ได้แก่ บางรัก นางเลิ้ง ตรอกข้าวเม่า และพระนคร และเส้นทางอาหารผสมผสานกับวัฒนธรรมและชุมชนจาก 4 เส้นทาง ได้แก่ ตลาดพลู ตลาดน้อย กุฎีจีน และคลองบางหลวง แล้วจากนั้นก็จะนำมาพูดคุยกันในห้องสัมมนากันอย่างกว้างขวาง ทำให้เกิดประเด็นอาหารไทยแพร่หลายอย่างกว้างขวาง ทั้งการปรุงดิบ ปรุงสุก เปิดโลกทัศน์ในตลาดทั่วโลกเข้าใจเรื่องอาหารไทยอย่างลึกซึ้งมากเพียงพอ โดยเฉพาะเครื่องเทศซึ่งไทยเป็นหนึ่งในเขตร้อนชื้นที่มีวัตถุดิบดังกล่าวคือสมุนไพรเครื่องปรุงในอาหารไทย เมื่อทุกคนเข้าใจแล้วก็จะทำให้เกิดองค์ความรู้ปูพรมไปสู่ “การส่งออก” อย่างแท้จริงผลที่ตามมาเกษตรกรจะมีรายได้ดีขึ้น



เรื่องที่ 2 นำดอกไม้ไทยซึ่งผสมในอาหารแล้วรับประทานได้จริง เช่น ดอกดาหลา ดอกเข็ม ดอกอัญชัน เพราะฉะนั้นงานนี้นักวิทยาศาสตร์อาหารจะมาช่วยวิเคราะห์ ทำให้อาหารไทยน่าสนใจเพิ่มขึ้น

เรื่องที่ 3 นำผลไม้ไทยซึ่งตามปกติจะส่งออก แต่มีบางชนิดยังมีข้อจำกัดอย่าง ลองกอง ดังนั้นจึงนำผลไม้ชนิดนี้มาวางในงานแล้วระดมความเห็นมาออกแบบให้กลายเป็นมากกว่าผลไม้ หรืออนาคตอาจจะเหมาะกับไวน์ชนิดหนึ่งก็ได้

สถิติปี 2559  นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทยถึง 3.26 แสนล้านบาท หรือ 20 %  ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด ทท.วางแผนต่อยอดความสำเร็จจากการเปิดตัวคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พัก “มิชลิน ไกด์ กรุงเทพฯ” ไปยังจังหวัดปริมณฑล ภูเก็ต พังงา และปริมณฑล เมืองรอง ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 5 ปี เพื่อทีทจะทำให้ไทยเป็น Capital Gastronomy หรือมหานครแห่งอาหารของภูมิภาคเอเชีย



นายวีระศักดิ์ย้ำว่าหลังเสร็จสิ้นการสัมมนาครั้งนี้ จะต่อยอด 1.เร่งสร้างอาหารจะนำไปสู่การท่องเที่ยวชุมชน ดึงดูดนักท่องเที่ยวไปดู ชม ช้อป แชร์ องค์ประกอบอาหารท้องถิ่นจะไปปรากฏต่อสายตานานชาติ 2.กระตุ้นร้านอาหารไทยทั่วโลกทั้งที่มีเจ้าของเป็นคนไทยและชาติอื่น ๆ หาวิธีเชื่อมโยงวิธีปรุงพัฒนาอาหารมีอีกหลายช่องทางนำไปทำได้ ขณะเดียวกันก็จะคัดคนหนุ่มสาวเชฟไทย กับรัฐมนตรีท่องเที่ยวด้านอาหารจัดเชฟต่างชาติ มาประกันชัน แล้วเกิดการซักถามแหล่งที่มาของวัตถุดิบอาหารกับวิทยาศาสตร์ที่นำมาใช้ให้เกิดความแปลกใหม่ รวมถึงเป็นเพื่อนแลกเปลี่ยนความรู้นำเมนูแปลกใหม่ไปปรากฎบนเมนูและเล่าเรื่องราวให้ทั่วโลกได้รับฟัง กระตุ้นการแสวงหาให้นักท่องเที่ยวบินมากินถึงต้นทาง หรือนำวัตถุดิบข้ามทวีปไปปรุงให้รับประทานถึงประเทศนั้น ๆ ที่จะถ่ายทอดวัฒนธรรมการกินแบบสำรับกับข้าวแตกต่างจากอาหารจานเดี่ยวหรือเซ็ตที่รับประทานเฉพาะบุคคลของชาวตะวันตกด้วย

@ปฏิรูปก.ท่องเที่ยว3ปม5กฎกระทรวงใหม่

นายวีระศักดิ์กล่าวว่า การปฏิรูปกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หลังจากก่อตั้งมาแล้ว 16 ปีในจังหวะนั้นเกิดขึ้นด้วยอุบัตเหตุทางการเมืองที่ไม่ได้ศึกษากันมาก่อนเพียงแค่ผสมผสานมาคร่าว ๆ แตกต่างจากขณะนี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลายเป็นแกนสำคัญการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เติบโตมากที่สุด การกระจายรายได้สู่ชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำในชุมชน เมืองรอง

จึงต้องผ่าตัดหลังบ้านโดยได้เดินหน้าแล้ว 3 วิธี คือ วิธีที่ 1ประชุมกับคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้รับรู้ร่วมกันแล้วขอให้บุคลากรที่จะก้าวเข้ามาทำงานกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอให้เปิดกว้างมาจากองค์การมหาชน รัฐวิสาหกิจ สามารถแต่งตั้งมาเติบโตในกระทรวงได้ ในทางกลับกันคนจากกระทรวงก็จะต้องไปเติบโตในหน่วยงานอื่นได้ ทั้งใน ททท. การกีฬาแห่งประเทศไทย องค์การมหาชน ต้องทำได้ด้วยเช่นกัน เพื่อเรียนรู้งานภาคปฏิบัติที่แตกต่างกัน เพราะกระทรวงท่องเที่ยวไม่ได้ลงภาคปฏิบัติเพียงแค่ทำหน้าที่สำคัญขับเคลื่อนนโยบายให้เป็นจริง



ส่วนตำแหน่งกับเงินเดือนจะต้องได้ตามสิทธิ์ที่เคยได้รับ เพียงแต่เมื่อเกษียนหากเป็นราชการต้องได้รับบำนาญ แต่รัฐวิสาหกิจ หรือ องค์กรมหาชน จะไม่ได้รับบำนาญ ซึ่งเป็นแนวทางผสมกลมกลืนคนแล้วทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานของกันและกัน

วิธีที่ 2 เสนอให้นำเจ้าหน้าที่อาสาพัฒนากีฬาซึ่งกรมพลศึกษามีทุกอำเภอ เสนอเปลี่ยนชื่อเป็นอาสาพัฒนาท่องเที่ยวและกีฬา ทั่วประเทศ 800 อำเภอ มีอำเภอละ 2-3 คนอยู่ในท้องถิ่นทำงานร่วมนายอำเภอหันมาทำภารกิจการท่องเที่ยวได้อย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น เรื่องนี้ได้หารือกับทางอธิบดีกรมพลศึกษาและผู้บริหารกระทรวงเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปเดือนมิถุนายนนี้จะนำเข้าที่ประชุม กพร.และคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ อันจะเป็นการผ่าตัดใหญ่ครั้งแรกที่จะยอมให้มีกฎกติกาเกี่ยวข้องท่องเที่ยวซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศได้หรือไม่ ก็ตั้งความหวังจะให้เสร็จก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่

วิธีที่ 3 ปลดล็อก ททท.กลับมาทำเรื่องการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวได้เอง หลังจากที่เคยห้ามทำแล้วโอนงานไปให้กรมการท่องเที่ยวทำ ดังนั้นปีงบประมาณ 2562 ททท.จะเข้ามาทำทั้งงานและการใช้งบประมาณตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ส่วนเรื่องงานทับซ้อนเกี่ยวเนื่องอยู่บ้างคือ งานกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ ได้ลงนามทำหนังสือถึงคณะกรรมการภาพยนตร์แห่งชาติ ที่มี ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เสนอโอนย้ายงานและงบประมาณทั้งหมดไปให้กระทรวงวัฒนธรรม เพราะมีคณะกรรมการภาพยนตร์และวิดีทัศน์รับผิดชอบอยู่แล้ว หลังจากนี้เมื่อไปงานภาพยนตร์เมืองคาน งานเทรดโชว์ ก็จะได้ทำงานเป็นทีมเดียวกัน และเพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองงานภาพยนตร์ควรอยู่กับหน่วยงานตรง แล้วให้กรมการท่องเที่ยวนำคนซึ่งทั่วประเทศมีเพียง 132 คน ไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ออกแบบแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาระบบบริหารจัดการ

รวมถึงได้ลงนามประกาศใช้ “กฎกระทรวง” ใหม่ 5 ฉบับ เพื่อลดขั้นตอนความยุ่งยาก การจดทะเบียนบริษัทนำเที่ยวขอใบอนุญาตมัคคุเทศก์ การขอเอกสารน้อยลงต่ออายุได้สะดวกขึ้น รวมถึงทำให้ขั้นตอนสั้นลง แต่ก็ยังอยู่ในความดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

สำหรับการนำประเทศก้าวเข้าสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ตลอด 40-50 ปีที่ผ่านมา ปัญหามีความซับซ้อนค่อนข้างมาก ตอนนี้สิ่งที่เริ่มทำให้คำว่า GSTC - Global Sustianable Tourism Development Index ได้กลายเป็นคัมภีร์ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แตกต่างจากอดีตที่ไม่ขอบเขต แต่บัดนี้ประเทศจะไม่เน้นเรื่องปริมาณกับรายได้ ซึ่งไม่เคยทำมาก่อนจึงต้องฝึกทำเรื่องความยั่งยืน เริ่มจากคนในหน่วยงานนำร่องทำให้เห็นก่อน รณรงค์กลุ่มจิตอาสา นักเรียน เยาวชน ข้าราชการ ที่จัดเวลาว่างไปเก็บขยะ ตามเกาะแก่ง อุทยาน และกำลังสื่อสารไปยังหน่วยงานบริษัทต่าง ๆ ร่วมมื่อกันทำเรื่องความสะอาด เช่นเดียวกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็เริ่มลงชุมชนทำกิจกรรมจิตอาสาแล้ว ซึ่งจะเป็นต้นแบบปลุกกำลังใจแก่คนท้องถิ่นและอาชีพเก็บขยะ รวมทั้งนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติก็จะได้เข้ามาร่วมด้วย เป็นวัฒนธรรมใหม่ที่จะทำให้คนท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

ตัวอย่างปี 2561 ได้ตกลงกับผู้ผลิตน้ำดื่มรายใหญ่ของประเทศ ไม่ใช้พลาสติกซีลฝาขวดอีกต่อไป จะลดขยะพลาสติกดังกล่าวลงได้ถึงปีละ 420 ตัน เรื่อยไปจนถึงจะรณรงค์ให้ใช้ภาชนะกระทงแทนโฟม ตามแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลซึ่งเป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเลและสิ่งแวดล้อม สถิติไทยเป็นประเทศที่ทิ้งพลาสติกลงทะเลสูงอันดับ 5 ของโลก ถึงเวลาต้องเลิกทำได้แล้ว และกำลังรณรงค์ให้เลิกใช้หลอดพลาสติกหันมาใช้หลอดกระดาษผลิตจากพืชที่ไม่ต้องตัดไม้ หากทำได้ต้นทุนอาจแพงขึ้นแต่สำคัญยิ่งกว่าเมื่อเปลี่ยนนิสัยได้จะทำทั่วโลกชื่นชม เหมือนญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่สะอาดมีวินัยอย่างเข้มข้นเพราะมีเอกลักษณ์เรื่องความสะอาด มีวินัย อาหารโดดเด่น สิ่งที่ประเทศไทยก็ต้องทำให้ได้เช่นเดียวกับญี่ปุ่นในทุก ๆ ด้าน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์เปิดป็อบอัพสโตร์แบรนด์NARs”



นางสาวอรุณรุ่ง ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ นำทีมร่วมงานเปิด เปิดตัว Pop-up Store สุดทันสมัย ของแบรนด์เครื่องสำอาง NARS ที่สาขา คิง เพาเวอร์ รางน้ำ โดยมีนักบริหารรุ่นใหม่ให้การสนับสนุนและร่วมมืออย่างเต็มที่ โดยมี เคนจิ คาลมาโจน ผู้จัดการทั่วไป ชิเซโด้ ทราเวล รีเทล เอเชียแปซิฟิค ร่วมเป็นประธานเปิดตัวป๊อปอัพสโตร์ของแบรนด์นาร์ส (NARS) ภายใต้แคมเปญ “NARS LIPS ICON”

อีกทั้งยังมีซิลิบริตี้แถวหน้าของเมืองไทยในวงการแฟชั่นเข้าร่วมอย่างคับคั่งบริเวณสถานที่จัดงาน คราวน์ เอเทรียม คิง เพาเวอร์ รางน้ำ  โดยมี แพรี่ พาย – อมตา จิตตะเสนีย์ เมกอัพ อาร์ทิสต์ชื่อดัง ร่วมสาธิตการแต่งแต้มสีสันบนเรียวปากในลุคสุดชิคตามแบบฉบับของนาร์ส อีฟลิน รี ไวเนอร์ ผู้อำนวยการสายงานพัฒนาธุรกิจและกลยุทธ์ บริษัท ชิเซโด้ จำกัด และ 2 เซเลบริตี้ชื่อดังของเมืองไทย อรอวรรณ อิงคสิทธิ์ และ พัชทรี ภักดีบุตร ทุกฝ่ายช่วยกันสร้างสีสันกระตุ้นการช้อปสินค้าแบรนด์ใหม่ในร้านค้าดิวตี้ฟรี คิง เพาเวอร์ ให้คึกคักอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงครึ่งปีหลัง 2561


ข่าวที่ 2 “ททท.ชวนเที่ยวบุญวิสาขบูชาไฮไลต์3พื้นที่”

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในโอกาสสำคัญวันวิสาขบูชาทั่วประเทศได้จัดงาน โดยมีไฮไลต์พื้นที่หลัก 1.ประเพณีเดินขึ้นดอยสุเทพในวันวิสาขบูชา วันที่ 28 พฤษภาคม 2561 ณ ดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะเก็บขยะระหว่างทาง ตั้งแต่เวลา 16.00 น. แล้วเดินขึ้นดอยสุเทพเพื่อนมัสการพระบรมธาตุต่อไป



2. เทศกาลวิสาขบูชา สกลนครประจำปี 2561 วันที่ 28 พฤษภาคม 2561ณ วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร และ ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ศาลากลาง  จังหวัดสกลนครชมขบวนแห่โคมบัวบูชาอันตระการตา นิทรรศการวันวิสาขบูชา ร่วมเจริญศีลภาวนา นั่งวิปัสสนากรรมฐาน พิธีเวียนเทียน กิจกรรมวิ่งวิสาขพุทธบูชา และกิจกรรมธรรมทัศนาจร สักการะพระเกจิอาจารย์ในจังหวัดสกลนคร


3.ประเพณีอัฐมีบูชา  หรือ การถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้าจำลอง ในวันที่ 29 พฤษภาคม – 6 มิถุนายน 2561  ณ วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ จัดการแสดงแสง สี เสียง และพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้าจำลองสักการะพระบรมสารีริกธาตุ แห่ผ้าห่มองค์พระบรมธาตุ ใส่บาตรพระอสิติอัครสาวก ( 80 รูป ) กิจกรรมการแสดงบนเวที การจัดมหรสพอื่นๆ การออกร้านค้าและการละเล่น

หรือหากต้องการเวียนเทียนในวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น  เวียนเทียนกลางน้ำ  กว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา เวียนเทียนวัดพระบรมธาตุเชิงชุม จังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศ เพื่อการท่องเที่ยวทางบุญของพุทธศาสนิกชน


ข่าวที่ 3 “บางจากจัดเติมปั๊บรับเน้นๆ8เท่า”

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ชวนเติมน้ำมันบางจากในช่วงที่ราคาพลังงานกำลังขยับตัวสูงขึ้น แต่ระหว่างวันนี้ – 30 มิถุนายน 2561 สามารถเติมผลิตภัณฑ์ Hi Premium Diesel S  รับคะแนนสะสม 8 เท่า คิดเป็นมูลค่าส่วนลดสูงสุด 40 สต./ลิตร


ด้วยกติกาง่าย ๆ ในการรับเน้น ๆ ได้แก่ 1.เติมน้ำมันบางจาก Hi Premium Diesel S รับคะแนนสะสมคูณ 8 จากคะแนนสะสมที่ได้รับปกติ (ปกติเติมน้ำมันดีเซล 4 ลิตร รับคะแนนสะสม 1 คะแนน) 2.การคิดคะแนนสะสมเมื่อเติม Hi Premium Diesel S : จำนวนการเติมน้ำมัน หาร 4(ผลลัพท์ที่ได้เศษปัดทิ้ง) คูณ 8 ตัวอย่าง เติมน้ำมัน 30 ลิตร คะแนนสะสมที่ได้เท่ากับ (30 หาร 4) คูณ 8 คะแนนที่ได้รับ 56 คะแนน 3.สามารถสะสมคะแนนจากการเติมน้ำมันดีเซลสูงสุดไม่เกิน 300 ลิตร/ครั้ง และไม่เกิน 2,000 ลิตร/เดือน 4.บัตรสมาชิก 1 ใบ สะสมได้ไม่เกิน 2 ครั้งต่อวัน สอบถามได้ที่โทร.1651 กด 4

ข่าวที่ 4 “ทอท.ผุดสนามบินแห่ง2แสนล้านเชียงใหม่/ภูเก็ต”



บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” รายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.เมื่อวันพุธที่ 23 พฤษภาคม 2561 มีนายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ ทอท. เป็นประธาน มีมติเห็นชอบให้ ทอท.ขับเคลื่อน 2 โปรเจ็กต์ใหญ่รองรับการบินอนาคต คือ

1.ให้ ทอท.ดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์ตรวจสอบและรับรองคุณภาพสินค้าก่อนส่งออก (Certify Hub) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อบริหารโครงการฯ ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายพัฒนาระบบการขนส่งสินค้าและบริการด้านโลจิสติกส์ เพื่อผลักดันประเทศไทย   สู่การเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาคอาเซียน เชื่อมโยงการประกอบธุรกรรมทางการค้าในรูปแบบพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์   (E-commerce) ส่งเสริมการส่งออกสินค้าภาคเกษตรกรรม ผนวกกับปัจจุบัน ทอท.ได้จัดโครงสร้างการบริหารเขตปลอดอากรและการขนส่งสินค้าทางอากาศใหม่ เพื่อสนองตอบความต้องการในการใช้บริการที่รวดเร็วและปลอดภัยทำให้ยอดการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น 12.45%. อยู่ที่ 1.42 ล้านตันต่อปี

ส่วนการขั้นตอน ทอท.ต้องเสนอแนวทางการดำเนินงานโครงการจัดตั้งศูนย์ตรวจสอบและรับรองคุณภาพสินค้าก่อนส่งออกต่อกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเห็นชอบต่อไป

เบื้องต้น ทอท.ได้ศึกษาข้อมูลกับท่าอากาศยานที่ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างท่าอากาศยาน (Sister Airport Agreement-SAA) กับ ทอท.ได้แก่ สนามบินมิวนิค เยอรมนี  เพื่อพัฒนารูปแบบการขนส่งสินค้าเน่าเสียง่ายและสินค้าเกษตรระหว่างกัน  สนามบินLiege เบลเยี่ยม ที่จัดให้มีโครงการกรีน แชแนลเพื่อตรวจสอบสินค้าเกษตรประเภทไม้ดอกก่อนส่งออกจากประเทศต้นทางคือเอธิโอเปียมายังประเทศปลายทางในเบลเยี่ยม

เรื่องที่ 2 บอร์ดเห็นชอบให้ ทอท.ใช้เงินขยายสนามบินแห่งที่ 2 ทั้ง 2 แห่ง ประมาณ 1.26 แสนล้านบาท ในเชียงใหม่ คือพื้นที่ระหว่างอำเภอสันกำแพง เชียงใหม่ กับอำเภอบ้านธิ ลำพูน ส่วนภูเก็ตคือพื้นที่อำเภอโคกกลอย พังงา เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสาร และลดปัญหาความแออัดของท่าอากาศยาน จากการสำรวจมีความเหมาะสมด้วยปัจจัยหลัก ๆ เช่น ขนาดพื้นที่ ความสะดวกในการเดินทาง ห้วงอากาศไม่ทับซ้อนกับท่าอากาศยานในปัจจุบัน

ช่วงที่ 2 ห้ามพลาดฤดูแห่งการกินบุฟเฟต์สวนผลไม้ พาไปลุยสวนในจังหวัดระยอง ตลอด 3 เดือน พฤษภาคม-กรกฎาคม นี้ ใน 3 อำเภอ ตามด้วยสาระน่ารู้เพื่อสุขภาพเรื่องการกินระหว่างเดินทาง ปิดท้ายด้วยข่าวเด็ด ๆ ของ 3 กลุ่มทุนใหญ่จ่อชิงงานประมูลก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง EEC เชื่อมต่อ 3 สนามบิน “ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา” ภูเก็ตนำทัพจัดเต็ม อันดามัน โฮเต็ลเลียร์ ปลุกมาตรฐานการท่องเที่ยว โรงแรม ส่วนน้องใหม่ “โรงแรมทินิดีฯ” ฉลองเปิดใหม่ให้ส่วนลด 30 % ห้องพัก ห้องอาหาร สปา กอล์ฟ ไปจนถึง ต.ค.นี้ และ อ.ต.ก.บุกไปเปิดแห่งใหม่ในหัวหิน จัดงานกล้วยไม้ชิมลางตลาด ระหว่างวันนี้ – 3 มิ.ย.นี้

@ลุยกินบุฟเฟต์ผลไม้เมืองระยอง3เดือน3อำเภอ



ตลอด 3 เดือนนี้ พฤษภาคม-กรกฎาคม “สวนผลไม้” ชายฝั่งตะวันออกในเมืองรอง “จังหวัดระยอง” พร้อมแล้ว เริ่มที่ อำเภอเมือง แนะนำบุกไป “สวนแสงแดด” ของ “คุณธีทัศน์-แสงแดด พิสดาร” ตำบลตะพง มีผลไม้นานาชนิดให้ชิมกันอย่างจุใจ สนนราคาบุฟเฟต์ผลไม้คนละ 450 บาท สามารถเลือกกินผลได้หลายชนิดไฮไลต์เป็น ทุเรียนหมอนทองกับชะนี เปิดให้กินได้ช่วงวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 8.30 -17.00 น.วันเสาร์อาทิตย์ 10.00-17.30 น. แถมด้วยบุฟเฟต์มื้อกลางวันมีข้าวราดแกงบริการ 3-4 เมนู สามารถตักราดข้าวได้ตามชอบ นักท่องเที่ยวครอบครัวนิยมแวะมากินทุเรียนได้เฉลี่ยคนละ 2-3 กิโลกรัม ตบท้ายด้วยมังคุด เงาะ ลองกอง มะปราง และเครื่องดื่มสมุนไพร



ภายในสวนแสงแดดจัดบรรยากาศแบบง่าย ๆ  ให้นักท่องเที่ยวบริการตัวเอง นำโต๊ะเก้าอี้ไปตั้งวงล้อมใต้ต้นทุเรียน ขนุน มังคุด แล้วนำทุเรียนที่แกะเป็นพลูใส่ตะกร้ามีทั้งสุกกำลังดี สุกมาก หรือแบบกรอบ ให้เลือกได้ตามความชอบของนักท่องเที่ยว เมื่อรับประทานเสร็จเรียบร้อยก็นำเปลือกมาทิ้งในถังขยะสานขนาดใหญ่ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยด้วย

บริเวณใกล้เคียงกันก็มีบุฟเฟต์สวนผลไม้ให้เลือกได้อีก 5 สวน มีทั้ง สวนยายดา สวนลำดวน สวนทองใบ สวนผู้ใหญ่เศวต  แต่ละสวนจะปลูกผลไม้คล้าย ๆ กันหมด พระเอกคือทุเรียนนั่นเอง



อำเภอแกลง ต้องแวะ “สวนละไม” บนถนน บ้านบึง-แกลง ได้ชื่อว่าเป็นสวนขาใหญ่แห่งราชาผลไม้ทุเรียนปลูกอยู่เต็มพื้นที่กว่า 500 ไร่ ในอ้อมกอดขุนเขาและป่าธรรมชาติ อากาศเย็นสบาย ให้ผลผลิต ทุเรียน เงาะ  มังคุด ส้มโอ ชมพู่ ลำไย สละ แก้วมังกร องุ่น และอีกหลากหลายผลไม้เมืองร้อน เป็นการตั้งใจออกแบบวิธีการปลูกสวนผสมมานานนับ 10 ปี เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้กินบุฟเฟต์ชนิดลืมอิ่มกันเลย แต่ละเดือนจะมีผลไม้สลับสับเปลี่ยนกันออกผลให้กินอย่างอิ่มหนำสำราญ สอบถามก่อนไปกินได้ที่ โทร.098-737-4983,  098-737-9484


สวนที่ 2 “สวนบ้านเรา” ปลูกทุเรียนสายพันธุ์ต่าง ๆ ทั้งพื้นเมือง ลูกผสม ไว้ต้อนรับกว่า 1,600 ต้น ในบริเวณที่ดิน 100 ไร่ แยกโซนการปลูกผลไม้ออกเป็น 2 โซน โซนแรกเป็นเขตทุเรียนทุกสายพันธุ์  โซนสอง ปลูกเป็นสวนผสม เงาะ มังคุด ขนุน ลองกอง มีทุเรียนแซมอยู่ด้วย ก่อนจะไปชิมบุฟเฟต์ผลไม้สวนบ้านเรา สอบถามก่อนได้ที่ โทร.081-804-4169



ส่วน “อำเภอบ้านค่าย” ชื่อคุ้นหูมาตลอดคือ “สวนสุภัทราแลนด์” ตำบลหนองละลอก นักท่องเที่ยวชอบเข้าชมตั้งแต่ขั้นตอนการปลิดทุเรียนจากต้น และการเก็บ เงาะ มังคุด ส้มโอ ลองกอง ในสวนสุดลูกหูลูกตากว่า 800 ไร่ จึงต้องจัดโซนบริการบุฟเฟต์ผลไม้ไว้ 3 จุดใหญ่ ให้กินได้แบบไม่อั้น โทร.038-892-2048



สำหรับอีกแห่งคือ “สวนมังคุดไทย” ตำบลหนองตะพาน อำเภอบ้านค่าย มีมังคุดเป็นไฮไลต์ มีรางวัลการันตีจากการคว้าแชมป์ชนะเลิศงานเทศกาลผลไม้และของดีประจำจังหวัดระยองมาแล้ว ภายในมีผลไม้อื่น ๆ ให้เลือกกินได้ด้วยทั้ง มะยงชิด มะม่วง มะพร้าว เงาะ โทร.081-481-1564

ทุกสวนจะขายบุฟเฟต์ผลไม้ให้นักท่องเที่ยวรับประทานแบบไม่อั้น กินได้ทุกชนิด แต่จ่ายเพียงคนละประมาณ 450 บาทเท่านั้น

@การเลือกร้านอาหารระหว่างเดินทาง
เดินทางไปต่างจังหวัดหรือต่างถิ่น การเลือกร้านอาหารนั้นโดยทั่วไปคนจำนวนมากมักยึดถือเรื่อง “ความอร่อย” หรือรสชาติเป็นเกณฑ์ ส่วนปัจจัยอื่นๆ เช่น ราคา ความสะอาด ก็เป็นปัจจัยที่พิจารณาประกอบรองๆลงมา ซึ่งบางครั้งก็อาจต้องประสบปัญหาท้องเสีย หรือเดือดร้อนจากอาหารเป็นพิษ ทำให้การเดินทางไม่ราบรื่นและอาจเสียงานเสียการตามที่ตั้งใจไว้ จึงมีข้อคิดบางประการในการเลือกร้านอาหารต่างถิ่นมาเสนอให้ทราบกัน

วิธีเลือกร้านอาหารขณะเดินทาง

1. ให้ดูสภาพความสะอาดของสถานที่ บริเวณที่ปรุงอาหาร การจัดเก็บอาหาร สภาพภาชนะถ้วยชาม การแต่งเนื้อแต่งตัวของผู้ปรุงอาหารเป็นสำคัญ ถึงแม้ว่าอาหารร้านนั้นอาจจะมีรสชาติธรรมดาๆ แต่ก็ยังดีกว่ากินของอร่อยที่เป็นพิษเป็นภัยกับเราเข้าไป เคยมีคนกล่าวว่า “เวลาไปกินอาหารตามร้าน อย่าเข้าไปดูบริเวณที่ปรุงอาหาร หรือที่ล้างถ้วยล้างชาม เพราะจะกินไม่ลง” ทั้งที่จริงแล้วข้อนี้บางทีก็จำเป็นต้องสังเกตให้ดี เพราะแม้อาหารที่ปรุงจะสะอาด แต่ถ้วยชามสกปรกก็คงไม่ไหวเหมือนกัน

2. ป้ายรับรองคุณภาพต่างๆ เช่น เชลล์ชวนชิม แม่ช้อยนางรำ อาจพอเป็นการรับรองได้คร่าวๆ ถึงความอร่อยของอาหารร้านนั้น แต่บางครั้งก็ไม่แน่เหมือนกัน เพราะบางแหล่ง เช่น แถวหนองมน จังหวัดชลบุรี จะพบว่า แทบทุกร้านมีป้ายรับประกันคุณภาพเหมือนกันหมด ฉะนั้นถ้าจะดูให้ครบถ้วนสมบูรณ์จริงๆ ควรเป็นร้านที่ได้รับการรับรองว่าเป็นร้านอาหารถูกสุขลักษณะของกรมอนามัยดูจะปลอดภัยที่สุด

3. เลือกสั่งอาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ๆ หลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงค้างคืน หรืออาหารที่ไม่มีภาชนะปกปิด มีฝุ่นหรือแมลงวันตอม และควรหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภท เช่น อาหารพวกยำ พล่าทั้งหลาย เพราะมีโอกาสปนเปื้อนสูง หรือ อาหารทะเลที่อาจปรุงไม่สุก เช่น หอยแครงลวก ยำหอยนางรม อาหารสุกๆดิบๆทุกอย่าง
เป็นวิธีง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ในการเดินทางตามพื้นที่ต่าง ๆ แต่ละครั้ง

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “3ค่ายจ่อชิงเค้กไฮสปีดEECเชื่อม3สนามบิน”

ขณะนี้การชิงงานก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เชื่อมโยง 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา มูลค่าการลงทุน 2.15 แสนล้านบาท ได้รับความสนใจจาก 3 กลุ่มทุนใหญ่ในประเทศ ทั้งจากกลุ่มจตุจักร-BTS-BSR กรุ๊ป ที่พร้อมจะเข้าร่วมกับทางด้านของ ปตท. ระหว่างนี้กำลังรอการประกาศซื้อขายทีโออาร์

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด มหาชน (BTS) ยืนยันว่าพร้อมเข้าร่วมประมูลเพราะเนื่องจากเป็นธุรกิจของบริษัทแต่ต้องพิจารณาเงื่อนไขทีโออาร์ก่อน ทั้งเรื่องความคุ้มค่า ความเสี่ยง การดำเนินงานในอนาคต วิธีการของ BTS หากเข้าลงทุนก็จะร่วมกับซิโน-ไทย และราชบุรีโฮลดิ้ง หรือกลุ่มกิจการร่วมค้า BSR

ข่าวที่สอง “ภูเก็ตจัดใหญ่อันดามันโฮเต็ลเลียร์แฟร์22-24มิ.ย.”

นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ร่วมกับ นางกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต และอีกเกือบ 10 หน่วยงาน ร่วมกันจัดงาน Andman Hotelier and Tourism Fair 2018 ระหว่าง 22-24 มิถุนายน 2561 เวลา 10.00-20.00 น. ณ HomeWorks Phuket   เพื่อส่งเสริม และพัฒนาทักษะมาตรฐานฝีมือของบุคลากร ด้านงานบริการโรงแรม และการท่องเที่ยว ไปสู่ระดับมาตรฐานสากล

ปี 2561 ได้จัดกิจกรรมการแข่งขันทักษะในคอนเซปต์ “Green and Innovation” อาทิ การจัดดอกไม้จากสิ่งของรีไซเคิล การจัดดอกไม้ลอยน้ำในสปาแนวรักษ์โลก การจัดเตียงสปา แกะสลักผัก ผลไม้ การปรุงอาหารด้วยวัตถุดิบท้องถิ่น การประกวดผสมเครื่องดื่มค็อกเทล บาร์เทนเดอร์ การแข่งขันชงกาแฟ การแข่งขันสาขาอาชีพวิศวกรรม งานไฟฟ้า ช่างแอร์ ช่างเชื่อม  ช่างไม้ ฟังเรื่องดีๆ ของ Smart City มองหาตำแหน่งงานว่าง และแนะนำหนุ่มสาวแบบไหนที่นายจ้างต้องการ การจำหน่ายแพคเกจ ท่องเที่ยวราคาพิเศษ รวมทั้งประกวด Miss and Mr. Andaman Hotelier 2018 ชิงเงินรางวัลกว่า 1 แสนบาท

โดยมีการออกบู๊ธผู้ประกอบการด้านสินค้า ที่เกี่ยวข้อง กับการโรงแรม การท่องเที่ยว จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม สปา งานแม่บ้าน งานครัว งานวิศวกรรม และสินค้าอื่นๆ ในราคาพิเศษตลอดงาน

ข่าวที่สาม “โรงแรมทินิดีฉลองเปิดใหม่ลด30%ถึงต.ค.นี้”


นายอาทร วนาสันตกุล กรรมการผู้จัดการ เอ็มบีเค โฮเต็ล แอนด์ ทัวร์ริซึ่ม, เอ็มบีเคกรุ๊ป กล่าวว่า โรงแรมทินิดี โฮเต็ล แอท บางกอก กอล์ฟคลับ เพิ่งเปิดบริการที่พักขนาด 128 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งห้องอาหารชั้นเลิศ ฟิตเนสเซ็นเตอร์ และห้องประชุม ได้จัดโปรโมชั่นฉลองเปิดโรงแรมใหม่ ตั้งแต่ 1 มิถุนายน ถึง 31 ตุลาคม 2561 ด้วยส่วนลดพิเศษ 30% (จากราคาในเว็บไซต์) ทั้งห้องพักทุกประเภท ห้องอาหารและเครื่องดื่มที่ คาเฟ่นิดี และ แอท ล็อบบี้ c]tค่ากรีนฟี สนามกอล์ฟทั้ง 2 แห่ง และส่วนลด 20% บริการนวดที่ ดี เฮลท์ มาสสาจ สอบถามเพิ่มโทร. 063-205-7034

ข่าวที่สี่ “อ.ต.ก.รุกเปิดตลาดแห่งใหม่ในหัวหิน”



นายกมลวิศว์ แก้วแฝก ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เปิดเผยว่า  ล่าสุดได้ขยายการเปิดตลาด อ.ต.ก.แห่งใหม่ขึ้นในหัวหิน เพื่อรวบรวมสินค้าทางการเกษตรคุณภาพและได้รับมาตรฐาน  และจัดงานแสดงสินค้าเกษตรคุณภาพและกล้วยไม้งาม กิจกรรมจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร อาทิ พืชผักผลไม้ ผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรแปรรูป เครื่องจักสาน ผ้าไหม ผ้าทอพื้นเมือง กล้วยไม้ ผลิตภัณฑ์จากกล้วยไม้ ไม้ดอกไม้ประดับ ให้แก่เกษตรกรสามารถจำหน่ายสินค้าเกษตรส่งตรงถึงผู้บริโภค เพื่อเป็นการสนับสนุนและเพิ่มช่องทางจำหน่ายผลผลติดทางการเกษตร สร้างมาตรฐานสินค้าและราคาแก่ผู้บริโภค

ระหว่างวันนี้ – 3 มิถุนายน  ตลาด อ.ต.ก. หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดงาน “สินค้าเกษตรคุณภาพและกล้วยไม้งาม อ.ต.ก.” จัดขึ้นในตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป


ติดตามฟังรายการเป็นประจำทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น. ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
ผู้ดำเนินการข่าวและคอลัมนิสต์




ททท.จัด“Maha Songkran World Fest2025”ดันไทยติด1ใน10สุดยอดเฟสติวัลโลก

  ททท.จัดสุดอลังการ“ Maha Songkran WorldFest 2025” ดันไทยติด 1 ใน 10 สุดยอดเฟสติวัลโลก-โกย 2.6 หมื่นล้าน   กระทรวงการท่องเที่ยว กับ ททท...