วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

นิตินัย ศิริสมรรถการ ได้ไฟเขียวบอร์ด ต่อสัญญาใหม่นั่งผู้นำ ทอท.เทอมสองปี2562-66

บอร์ดทอท.อนุมัติต่อสัญญา“นิตินัย”ใหม่อีก 4ปี
นั่งกอญ.เทอมสองลุยพัฒนาแผนแม่บท5ปีหน้า
เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #สวท97 #AOT
ขอบคุณภาพจาก...ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กอญ.ทอท.
อ่านได้อีกช่องทางใน matichonsmartbiz

https://www.facebook.com/1614308385547436/posts/2090007881310815/



เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 นางสาวชนาลัย ฉายากุล เลขานุการบริษัท ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง ที่ประชุมคณะกรรมการ ทอท.ครั้งที่ 13/2561 มีมติเมื่อวันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2561 เห็นชอบให้ต่ออายุการจ้าง “นายนิตินัย ศิริสมรรถการ” ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.ต่อไปอีกวาระหนึ่ง มีกำหนด 4 ปี 



โดยนายนิตินัย ศิริสมรรถการ” ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. จะปฏิบัติหน้าที่ผู้นำ ทอท.ต่อเป็นสมัยที่ 2 เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2562 – 19 เมษายน 2566  ซึ่งบอร์ดได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อเจรจาเกี่ยวกับผลประโยชน์ตอบแทนและเงื่อนไขการจ้างต่อไปด้วย

ทั้งนี้ระหว่างปี 2562-2566 ทอท.มีเมกะโปรเจ็กต์การลงทุนตามแผนแม่บท 5-10 ปี ให้แล้วเสร็จ ในการขยาย 6 ท่าอากาศยานนานาชาติทั่วประเทศ ทั้ง สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ แม่ฟ้าหลวงเชียงราย และหาดใหญ่ รวมทั้งการนำอุตสาหกรรมการบินเข้าสู่โลกยุคใหม่ Airport 4.0


วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

คิงเพาเวอร์ผนึกกระทรวงท่องเที่ยวมอบห้องน้ำสวนสาธารณะศรีเมือง จ.น่านหนุนนักท่องเที่ยวทะลุ1ล้านคน

คิงเพาเวอร์ควงกระทรวงท่องเที่ยวฯบูมCSR
มอบห้องน้ำจ.น่าน-ดันตลาดทัวร์พุ่ง1ล้านคน
เรื่องและภาพโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #สวท97 #kingpower
ติดตามอ่านได้ทางขาาวสดอินไลน์และมติชนออนไลน์
https://www.khaosod.co.th/pr-news/news_1891409

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ควงกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โหมโปรเจ็กต์ ““คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย สุขา สุขใจ” ลุยส่งมอบ “ห้องน้ำยูนิเวอร์แซล ดีไซน์” แห่งที่ 3 ณ สวนสาธารณะศรีเมือง จ.น่าน ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติมาใช้บริการอย่างปลอดภัย คาดปี 61 คนแห่เที่ยวทะลุ 1 ล้านคน



ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การจัดทำโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย สุขา สุขใจ” ระหว่าง กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 ได้ส่งมอบแห่งที่ 3 ในภาคเหนือ ที่สวนสาธารณะศรีเมือง จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวรองที่ได้รับความนิยมสูง จำนวน 6 ห้อง เป็นของขวัญปีใหม่และต้อนรับการเดินทางช่วงหน้าหนาวของนักท่องเที่ยวชื่นชอบเดินมาสัมผัสธรรมชาติ อากาศ และวิถีชีชีวิตชาวล้านนา ทำให้ห้องน้ำเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป  รวมทั้งทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยังได้สร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียม ขนาด 7 คน มอบให้ชาวเมืองน่าน เพื่อส่งเสริมทางด้านการกีฬาด้วยเช่นกัน 



ขณะนี้น่านเป็นจังหวัดที่ได้รับรางวัลเมืองน่าสะอาดอันดับ 1 ของอาเซียน รวมทั้งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวตลอด 10 เดือน ปี 2561 รวมกว่า 900,000 คน ตลอดปีนี้คาดจะมีจำนวนรวมเกิน 1,000,000 คน  เพิ่มเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10 % ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กำลังจะผลักดันให้ขึ้นเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางองค์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ได้เข้ามาวางรากฐานให้แต่ละชุมชนดูแลรักษาวัฒนธรรมอันดีงามไว้อย่างเข้มแข็งสามารถรับมือกับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก ด้วยการดูแลมาตรฐานความเป็นล้านนาและสินค้าชุมชนไว้ เพื่อทำให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

โดยมีสินค้าชุมชนซึ่งเป็นตัวอย่างสำคัญคือ “ผ้าย้อมคราม” หลังจากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำไปผลิตภัณฑ์ของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ก็ทำให้มูลค่าของสินค้าขยับสูงขึ้นสามารถจำหน่ายได้ราคาดีเพิ่มขึ้นเกิน 100 % นับจากนี้เป็นต้นไปกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเข้ามาเสริมความแช็งแกร่งของสินค้าชุมชนเพิ่มขึ้นด้วยการใส่ดีไซน์ในแพกเกจให้เป็นสากล เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนใช้จ่ายเงินซื้อเพิ่มมากขึ้นทุกปี

รวมทั้งน่านได้รับการพัฒนาเส้นทางคมนาคมทางถนนเชื่อมเข้าไปสู่เมืองมรดกโลกหลวงพระบาง สปป.ลาว ซึ่งกำลังขยายการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่าง 2 เมือง 2 ประเทศ อย่างเป็นรูปธรรม สร้างการท่องเที่ยวให้เกิดความคึกคักทำการตลาดสู่นานาชาติที่มีคุณภาพเป็นจุดขายของไทยต่อไป
ระหว่างการทำพิธีส่งมอบ ดร.วีระศักดิ์ ได้ขอให้ผู้เข้าร่วมงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สื่อมวลชน ที่เข้าร่วมงานส่งมอบห้องน้ำ ณ สวนสาธารณะศรีเมือง จ.น่าน ร่วมกันยืนไว้อาลัยให้แก่ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะในโครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย มาตลอดกว่า 20 ปี



ทางด้าน “นางเนตรชนก ทวีศรี” ที่ปรึกษากลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่าทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มุ่งพัฒนาโครงการคืนประโยชน์สู่สังคม (CSR) โดยได้จัดทำกิจกรรมภายใต้ KING POWER THAI POWER พลังคนไทย ส่งเสริมสนับสนุนชุมชนไทยให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ผนวกกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีนโยบายส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของแหล่งท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สนับสนุนการยกระดับมาตรฐานห้องน้ำในแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ทางกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ จึงได้เข้าร่วมมือก่อสร้างทั่วประเทศ 10 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท เน้นรูปแบบสากล ‘Universal Design’ มีทางลาดสำหรับผู้พิการ ประตูถูกออกแบบเป็นบานเลื่อนเพื่อตอบโจทย์ สำหรับเด็ก คนชรา รวมถึงผู้พิการ สามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัยทั้ง ชาย หญิง ผู้สูงวัย ผู้พิการ เหมาะเป็นห้องน้ำของทุกคน มีความสะอาด สะดวก ปลอดภัย ได้เอกลักษณ์และยั่งยืน และเมื่อสร้างเสร็จส่งมอบเรียบร้อยจะให้ทางชุมชนแต่ละพื้นที่เป็นผู้ดูแล 

นายนิวัฒน์ งามธุระ ปลัดจังหวัดน่าน กล่าวว่า สวนสาธารณะศรีเมือง แต่ละปีมีผู้ใช้บริการเป็นกลุ่มคนท้องถิ่น เด็ก คนชรา และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก รวมทั้งเป็นสถานที่ออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจของคนทั้งจังหวัด การมีห้องน้ำที่มีความสะดวกสบาย และการออกแบบที่เป็นสากล จะสร้างความพึงพอใจและประทับใจแก่นักท่องเที่ยว ในฐานะตัวแทนชาวน่านขอขอบคุณกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่นำโครงการดีเช่นนี้คือ ‘พลังคนไทย สุขา สุขใจ’ ช่วยสร้างประโยชน์ สร้างความสุขให้ชุมชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จะเป็นส่วนหนึ่งทำให้กลับมาเยือนเมืองน่านอีกครั้ง




ทั้งนี้การจัดทำโครงการส่งมอบห้องน้ำตามจังหวัดต่าง ๆ ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานั้น มีเป้าหมายเพื่อต้องการยกระดับคุณภาพสาธารณูปโภค และสร้างมาตรฐานด้านความสะอาดของห้องน้ำในแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ ให้ทัดเทียมระดับสากล ช่วงปี 2561 ลงทุนก่อสร้างและส่งไปเรียบร้อยแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ แห่งที่ 1 สุขา สุขใจ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ส่งมอบเมื่อ 26 เมษายน แห่งที่ 2 สุขา สุขใจ สวนสาธารณะทุ่งศรีเมือง จ. อุบลราชธานี ส่งมอบเมื่อ เมื่อวันที่ 20 กรกฏาคม แห่งที่ 3 คือ สวนสาธารณะศรีเมือง จ.น่าน ส่งมอบเมื่อ 29 พฤศจิกายน จากนั้นในปี 2562 จะทยอยก่อสร้างให้แล้วเสร็จและส่งมอบตามจังหวัดท่องเที่ยวทั่วประเทศให้ครบ 10 แห่ง

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ททท.ปรับใหญ่ตั้งรองผู้ว่าเพิ่มด้านดิจิทัล เทวินทร์ประเดิมประธานบอร์ดฟันธงครั้งแรก

เทวินทร์ประเดิม"ประธานบอร์ดททท."ปรับใหญ่
ขยับ3รองผู้ว่าฯเพิ่มใหม่ด้านดิจิทัลอีก1ตำแหน่ง
เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน 


นายเทวินทร์ วงศ์วานิชย์ ซีอีโอ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ในฐานะประธานคณะกรรมการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประเดิมการรับตำแหน่งนัดแรก วันที่ 27 พฤศจิกายน 2561  มีมติเห็นชอบตามที่ผู้ว่าการ ททท.เสนอ ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่  โดยเพิ่มรองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา เรียบร้อยแล้ว มีผลตั้งแต่ 1 มดราคม 2562 เป็นต้นไป 
ประกอบด้วย 3 รองผู้ว่าการใหม่และสลับตแหน่งเดิมกันอีกครั้ง ดังนี้
1.นาย ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร เป็น รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา เป็นโครงสร้างใหม่ ใน ททท.
2.นาย จรัญ อ้นมี เป็น รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน
3.นางสาว สมฤดี จิตรจง เป็น รองผู้ว่าการด้านบริหาร

พร้อมแต่งตั้งให้ นางสาว สุกัญญา สิริกาญจนากุล เป็น ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาด้านการท่องเที่ยว เพิ่มอีก 1 ตำแหน่งเช่นกัน

วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

โครงการพระราชดำริฝายบ้านเขาแดงพัฒนา จันทบุรี สร้างจีดีพีชุมชนปีละ350ล้าน-เที่ยวสถาปัตยกรรมสีหวานเมืองแพร่

โครงการพระราชดำริ “ฝายบ้านเขาแดง จันทบุรี”
สายน้ำแห่งความสุขทำชุมชนมีรายได้350ล้าน/ปี
เจาะลึก! คิงเพาเวอร์คว้าสัมปทานดิวตี้ฟรีฮ่องกง
ททท.ฟื้นทัวร์จีน-เอเชียดันรายได้ไฮซีซันปี’62พุ่ง
บางจากชูร้านอินทนิลขึ้นนำEco Brandปีหน้า
เที่ยว”แพร่”ชมสถาปัตยกรรมสวยหวาน-ทัวร์วัด
โปรดฟังด่วน!4โรคที่มากับหน้าหนาวต้องระวัง
บางกอกแอร์จัดพิเศษคริสต์มาส23-25ธ.ค.นี้
KTCออกโปรแรง7บัตรเครดิตบินบางกอกแอร์
ดิโอกุระโรงแรมมิชลินสตาร์เสิร์ฟพิเศษไคเซกิ

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวัน 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen  และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97

ช่วงที่ 1 ติดตามฟัง โครงการพระราชดำริในรัชกาลที่ 10 กับ  “ผู้ใหญ่วินนา ศรีสงคราม”  กับเรื่องราวของ “ฝายบ้านเขาแดงพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ฝายอันเป็นสายน้ำแห่งความสุข ของชาวบ้านกว่า 500 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่การเกษตรและปศุสัตว์กว่า 2,000-3,000 ไร่ ทำให้จีดีพีท้องถิ่นในสหกรณ์โคนมของชุมชนขยายตัวอย่างรวดเร็วจากปีละ 250 เป็น 350 ล้านบาท สร้างอาชีพที่มั่นคงนำมาซึ่งความสุขของทุกคน



นายวินนา ศรีสงคราม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 17 ตำบลทับช้าง บ้านเขาแดงพัฒนา ประธานสหกรณ์โคนมสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ผู้ดูแล ฝายบ้านเขาแดงพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปิดเผยว่า ความเป็นมาเนื่องจากในอดีตหมู่บ้านตำบลทับช้างเป็นพื้นที่แล้งซ้ำซากจนเกิดความเดือดร้อน ถึงแม้จังหวัดจะเข้ามาช่วยแก้ไขแต่ก็ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ดังนั้นจึงมีมติร่วมกันกับชาวบ้านให้นายบุญช่วย โตประเสริฐ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านราษฎรบ้านเขาแดงพัฒนา ทำหนังสือฎีกาขอพระราชทาความช่วยเหลือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงมีพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ทรงรับโครงการฝายบ้านเขาแดงพัฒนาเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2560

ในอดีตที่ผ่านมาชาวบ้านปลูกไร่เลื่อนลอย แต่ปัจจุบันได้ปรับพื้นที่มาทำไม้ยืนต้น ลำไย ทุเรียน ยางพารา กล้วยหอม กล้วยไข่ น้อยหน่า พืชผักสวนครัว เปลี่ยนจากอาชีพเดิมหันสู่อาชีพใหม่เพราะความต้องการใช้น้ำปริมาณมาก จึงขาดแคลน กระทั่งได้รับฝายพระราชทานดังกล่าว โดยทรงให้สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทางกรมชลประทานจังหวัดจันทบุรีได้เข้ามาดำเนินการช่วยเหลือก่อสร้างทดน้ำจนแล้วเสร็จ โดยได้รับเงินสนับสนุนจากกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเพิ่มเติมปีที่ผ่านมาประมาณ 23 ล้านบาท เพื่อสร้างฝายขนาดความยาวสะพาน 24 เมตร



เมื่อได้รับฝายพระราชทานทำให้ชาวบ้านต่างปลาบปลื้มใจในพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้น ซึ่งชาวบ้านได้มีแหล่งน้ำทำการเกษตรและกิจกรรมเลี้ยงโคนมในพื้นที่ได้ทั้งในฤดูฝนและฤดูแล้งปริมาณน้ำใช้มากกว่า 80,000 ลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพื้นที่ชุมชนข้างคลองสองฝั่งรวมกว่า 2,000-3,000 ไร่ ซึ่งเป็นบริเวณพื้นที่ทำการเกษตรสวนไม้ผลทั้งทุเรียน ลำไย และเลี้ยงวัวโคนมจำนวนมาก มีราษฎรไม่ต่ำกว่า 500 ครัวเรือน มีน้ำกินน้ำใช้ปริมาณมากเพราะแต่ละหมู่บ้านมีคลองซอยเพื่อนำน้ำเข้าไปใช้ประโยชน์ได้ แนวโน้มฤดูนี้ตั้งแต่ตอนนี้จะมีน้ำจากฝายใช้ไปได้จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2562

นายวินนากล่าวว่าประโยชน์ที่ชุมชนต่าง ๆ ได้รับจากฝายพระราชทานมีมากมายมหาศาล ประกอบด้วย 1.สามารขุดเจาะน้ำบาดาลขึ้นมาเพิ่มได้เพราะเดิมชุมชนแทบจะไม่มีน้ำใช้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมของทุกปีเป็นต้นไป 2.ราษฎรสามารถประกอบอาชีพมั่นคง สามารถขายสินค้าได้ราคามาตรฐานมากขึ้น เพราะอดีตขาดน้ำใช้ทำการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ก็ทำให้ผลผลิตทั้งผลไม้และน้ำนมวัวได้ปริมาณน้อย แต่พอมีน้ำมาใช้รดตลอดฤดูก็จะช่วยขยายในส่วนของโคนมเห็นผลชัดสุด เพราะต้องใช้น้ำล้างคอก และชำระล้างวัว แถมหน้าแล้งยังนำไปปลูกหญ้าเนเปียเลี้ยงวัวได้ ทำให้ปริมาณน้ำนมวัวเพิ่มขึ้น 3.ทางด้านเศรษฐกิจจะเห็นชัดรายได้ของสหกรณ์โคนมสอยดาวจากเดิมผลิตภัณฑ์รายได้มวลรวมในพื้นที่มีเพียงปีละ 250 ล้านบาท ตอนนี้ขยับสูงถึง 350 ล้านบาท อันเป็นผลมาจากโคนมได้กินหญ้าสดจากการนำน้ำจากฝายมาปลูกและใช้ในการเลี้ยงวัว


สำหรับการวางแผนใช้น้ำในอนาคตจากฝายบ้านเขาแดงพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กำลังหารือขอทางกรมชลประทานจังหวัดจันทบุรีสร้างผนังกั้นเขื่อนให้สูงขึ้นอีก 5 เมตร เพื่อเพิ่มปริมาณการกักเก็บน้ำช่วงหน้าฝนไว้ใช้ได้ต่อเนื่องในฤดูอื่น  ๆ อีกหลายหมื่นลูกบาศก์เมตร เพื่อปล่อยน้ำหน้าแล้งให้ครอบคลุมพื้นที่การใช้น้ำได้อีกมาก สามารถรองรับให้ชุมชนชาวสวนและเจ้าของฟาร์มโคนมได้ถึง 3,000 ไร่ ควบคู่กับการขุดหรือลอกคลองให้ลึกเพื่อกักน้ำได้มากขึ้นด้วย

ขณะนี้ที่ดินการสร้างฝายบ้านเขาแดงพัฒนา ได้รับบริจาคที่ดินริมของฝั่งจากคุณลุงทองคำ และผู้ใหญ่วินนา ศรีสงคราม เจ้าละประมาณ 5 ไร่ จากนี้ไปได้จัดตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำชุมชนขึ้นมาดูแลการใช้น้ำอย่างเป็นธรรม รวมถึงการวางแผนขยายการก่อสร้างพะนังกั้นน้ำ ในอดีตเป็นแค่คลองลำโตนดมีต้นน้ำห่างออกไป 20 กม.มีปริมาณเยอะมากแต่ไหลผ่านไปยังสระแก้ว หรือเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ แต่ไม่ได้คิดวิธีกักเก็บน้ำ กระทั่งมีฝายน้ำพระราชทานเกิดขึ้น จึงทำให้ชาวบ้านอยู่ดีกินดีในช่วงตั้งแต่ระยะเริ่มต้นเปิดใช้มาจนถึงตอนกว่า 2 ปีแล้ว

จึงนับได้ว่าเป็น “สายน้ำแห่งความสุข” ที่ทำให้ครอบครัวกลับมาอยู่รวมกัน มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงโคนมแถมเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำนมวัวได้ด้วย



ส่วนการวางแผนดูแลรักษาแหล่งน้ำในปัจจุบันและอนาคต จะใช้คณะกรรมการบริหารจัดการใช้น้ำฝายบ้านเขาแดง เน้นเรื่องการแบ่งปันกัน ขณะนี้ยังไม่พบปัญหา รวมถึงการวางแผนใช้น้ำเป็นเรื่องสำคัญมาก ทางผมจึงกำหนดให้เจ้าของสวนวางปริมาณการเก็บเกี่ยวผลผลิตไว้ไม่เกินเดือน 15 กุมภาพันธ์ของทุกปี และกลุ่มที่ 2 ผู้หากุ้ง ปู ปลา ที่อยู่ในฝายให้แห อวน ปักเบ็ด ตามธรรมชาติ ห้ามนำไฟฟ้าไปช็อตสัตว์น้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อฝายพระราชทาน อันเนื่องมาจากเป็นแหล่งน้ำสำคัญหล่อเลี้ยงชีวิตชาวชุมชนที่ช่วยสร้างชีวิตครอบครัวให้เกิดความมั่นคง อยู่อย่างมีความสุข และทำให้เกิดวงจรเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืนทั้งพืชและปศุสัตว์ของชาวบ้านเขาแดงพัฒนา จึงต้องรวมพลังกันรักษาไว้เท่าชีวิตของทุกคน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “เจาะลึกกลุ่มร่วมทุนคิงเพาเวอร์คว้าดิวตี้ฟรีฮ่องกง”


นายอันทาเรส เชง กรรมการผู้จัดการ คิง เพาเวอร์ กรุ๊ป ฮ่องกง เปิดเผยว่า  ล่าสุด กลุ่มบริษัท ได้รับความไว้วางใจจากทางการท่าอากาศยานฮ่องกงอนุญาตให้บริหารพื้นที่การจำหน่ายสินค้าดิวตี้ฟรีสินค้า  Luxury Brand ระดับโลก 5 แบรนด์ต่อไปในสนามบินเช็ค แล็ป ก๊อก อันเป็นการตอกย้ำศักยภาพของคิง เพาเวอร์ ด้วย ซึ่งทำโครงการนี้ภายใต้การร่วมทุนกันระหว่าง บริษัท โกลบอล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กับ คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ถึงความเป็นมืออาชีพในด้านการประกอบธุรกิจร้านค้าดิวตี้ฟรี

สินค้าดิวตี้ฟรีที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายแช็ค แล็ป ก๊อก ตั้งแต่กันยายน 2562 เป็นต้นไป ได้แก่ Cartier, IWC, Schaffhausen, Piaget, Panarai และ Jaeger-Le Coultre


ทางด้าน นายมาร์ติน มูดี้ส์ เครือข่ายพันธมิตรร่วมทุนของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยืนยันว่าผลจากการได้รับอนุมัติให้ต่อสัญญาร้านค้าดิวตี้ฟรีในเช็ค แล็ป ก๊อก จะช่วยเปิดสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในการพัฒนาจุดขายของร้านค้าปลีกเพื่อการท่องเที่ยวสินค้าหรูหราให้แข็งแกร่งเป็นแม่เหล็กดึงรายได้จากทั่วโลกเติบโตเป็นโมเดลที่น่าสนใจในภูมิภาคเอเชีย

อย่างไรก็ตามนายอันทาเรส เชง และนายมาร์ติน มูดี้ส เป็นพันธมิตรที่ดีและมีความสัมพันธ์เหนียวแน่นกับนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ โดยทางท่าอากาศยานฮ่องกงเองได้เห็นฝีมือการพัฒนาธุรกิจของผู้ร่วมทุนกลุ่มดังกล่าวต่อเนื่องมาหลายสมัยเช่นกัน สำหรับการได้สิทธิบริหารต่อจึงนับเป็นชัยชนะครั้งสำคัญหลังจากประธานวิชัยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบิน ทว่าธุรกิจของคิง เพาเวอร์ ยังคงเดินหน้าได้ตามปกติทั้งในและต่างประเทศ

ทั้งนี้สนามบิน เช็ค แล็ป ก๊ก เกาะฮ่องกง ได้รับการโหวตให้เป็นสนามบินอินเตอร์เนชั่นแนล ติด 1 ใน 5 ของโลก 8 ปีติดต่อกัน ระหว่าง 2544-2551 มีสายการบินนานาชาติทั่วโลกใช้บริการบินละกว่า 100 สายการบิน สามารถนำผู้โดยสารเดินทางเข้า-ออก ปีละกว่า 90 ล้านคน แต่แยกพื้นที่ร้านค้าดิวตี้ฟรีและเชิงพาณิชย์ออกเป็น 2 อาคาร จึงนับเป็นความท้าทายอย่างมากที่ผู้ประกอบการแต่ละรายที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจจะต้องโชว์ความเป็นมืออาชีพและกลยุทธ์การสร้างรายได้ให้เติบโตต่อเนื่องทุกปี

ข่าวที่ 2 “ททท.แท็กทีมฟื้นจีน-ทั่วโลกดันรายได้ไฮซีซันพุ่ง”


ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ตลอดฤดูท่องเที่ยว 3 เดือนแรกต้อนรับปีงบประมาณ 2561 โดยพุ่งเป้าฟื้นฟูตลาดจีนกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว เพื่อรักษาเป้าหมายไว้ใกล้เคียงปีละ 10 ล้านคน ล่าสุดมอบให้สำนักงาน ททท.ในจีน 5 แห่ง ทั้งปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจ เฉินตู ฉงชิ่ง โหมโปรโมตแคมเปญใหม่ที่รัฐบาลไทยนำมาออกใช้ทั้งการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า การให้ Double Visa ทำครั้งเดียวแต่เดินทางเข้า-ออก ไทยได้ปีละ 2 ครั้ง ผนวกกับต้องใช้พลังปลุกกำลังซื้อตลาดอาเซียน และเอเชียทั้งหมด หลั่งไหลเข้ามาไทย

ส่วนภาพรวมยังคงตั้งความหวังจะมีนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้าเมืองไทยปี 2562 ไม่ต่ำกว่า 38 ล้านคน สร้างรายได้รวม 2.3 ล้านล้าน และตลาดท่องเที่ยวในประเทศตั้งไว้จะต้องทำรายได้เกิน 33 % ขึ้นไป หรือเกินกว่า 1.1 ล้านล้านบาท จากจำนวนเกินกว่า 160 ล้านคน-ครั้ง

ขณะที่ ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เร่งเสริมทัพทางด้านนโยบายภาครัฐด้านมาตรการความปลอดภัยเข้ามายืนยันสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวจีน และนานาชาติ รวมทั้งคนไทย ด้วยการผลักดันทุกมาตรการเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติ และการทำงานเชิงบูรณาการกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นประตูต้อนรับทั่วโลกเพิ่มกลไกสิ่งอำนวยความสะดวก ลดความแออัดการให้บริการนักเดินทางในแต่ละจุด และสร้างความประทับใจทุกรูปแบบ เพื่อสร้างพลังฟื้นความเชื่อมั่นทั้งจากนักท่องเที่ยวจีนและประเทศอื่น ๆ หันมาเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นในปี 2562

ข่าวที่ 3 “บางจากรุกใช้ร้านอินทนิลเพิ่มพลังEco Brandปี’62”



นายชัยวัฒน์  โควาวิสารัช  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ยังคงเดินหน้าโครงการ รณรงค์ผู้บริโภคที่เข้ามาใช้บริการร้านกาแฟ “อินทนิล” ตอกย้ำความเป็นผู้นำ แบรนด์ไทยหัวใจสีเขียว ด้วยกาแฟไทยคุณภาพสูง เกรดพรีเมียม สร้างจุดแข็ง ECO BRAND ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยกลยุทธ์เปลี่ยนฝาใหม่ งดใช้หลอด เปลี่ยนแก้วเมนูร้อนแบบนำกลับหรือไบโอคัพตามแบบแก้วเมนูเย็น ที่ผลิตจากพืช 100% ย่อยสลายได้ภายใน 180 วัน เพื่อปลุกสำนึกรักษ์โลกในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ให้ร่วมดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม

บางจากฯ ตั้งเป้าภายในปี 2562 โครงการดังกล่าวจะสามารถลดการใช้หลอดพลาสติกได้กว่า 25 ล้านหลอด และจากการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ต่อเนื่อง โดยร้านกาแฟอินทนิลได้เปลี่ยนรูปแบบฝาใหม่เป็นแบบยกดื่ม มาตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 นำร่องที่สาขาต่าง ๆ ดังนี้ คือ เอ็มทาวเวอร์ สำนักงานใหญ่ ทำเนียบรัฐบาล ในมหาวิทยาลัย และทยอยทำจนครบทั่วประเทศทุกสาขา
 ด้วยจุดแข็งชูแบรนด์อินทนิลในฐานะผู้นำตลาด ECO BRAND ของไทย เพราะตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน ภายในเวลาเพียง 3 ปี บางจากฯ ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนมาใช้ไบโอคัพลดการใช้พลาสติก ด้วยแก้วย่อยสลายไบโอคัพได้กว่า 60 ล้านใบ

ช่วงที่ 2 หนาวนี้ควงแขนกันไปสัมผัสความสุขที่ “จังหวัดแพร่” ดื่มด่ำกับสถาปัตยกรรมบ้านเรือนสไตล์สวยหวาน พร้อม ๆ  กับทัวร์บุญไหว้พระธาตุช่อแฮ และวัดจอมสวรรค์ จากนั้นโปรดฟังด่วน “4 โรคที่มาพร้อมกับลมหนาวโปรดระวังด้วย” ส่วนข่าวเข้ม ๆ “บางกอกแอร์เวย์ส” กับ เลอ กอร์เดอ เบลอ ดุสิต กอดคอกันทำมาการอง 3 สไตล์ชวนผู้โดยสารฉลองคริสต์มาส ได้ในทุกเลาจน์สนามบิน 23-25 ธันวาคม นี้ “KTC จัดโปรแรง 7 บัตรเครดิตใหม่บินกับบางกอกแอร์” เพิ่มสมาชิกปี 62 อีก 30,000 ราย “ดุสิตอ่าวนาง” ต้อนรับเปิดโรงแรมใหม่ในกระบี่ อัดโปรยาว 5 เดือนให้พักได้ในราคาเริ่มแค่คืนละ 2,200 บาท “พบกับเมนูไคเซกิมิชลินสตาร์” เมนูต้นตำรับราชวังอิมพีเรียลญี่ปุ่นได้ที่ห้องอาหารยามาซาโตะ โรงแรมดิ โอกุระ กรุงเทพฯ

ข่าวที่ 4"3จุดเด่นโครงการพระราชดำริฝายบ้านเขาแดงฯ จันทบุรี"

มูลนิธิปิดทองหลังพระ รายงานว่า ในการนำสื่อมวลชนลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการ “ฝายบ้านเขาแดงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ตำบลทับช้าง อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี เป็นหนึ่งในภาคตะวันออกของประเทศที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระราชโครงการก่อสร้าง



เป็นฝายโครงการพระราชดำริที่มีจุดเด่น เรื่องสำคัญ ได้แก่

เรื่องแรก เป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานราชการและประชาชนในพื้นที่ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงรับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อแก้ปัญหาให้แก่ประชาชนในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม ได้มีแหล่งน้ำเพาะปลูก ทำการเกษตร สร้างผลผลิตอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ส่วนผู้เลี้ยงโคนมก็ใช้น้ำปลูกหญ้าให้วัวกินได้ตลอดทั้งปี ส่งผลให้วัวมีน้ำนมดิบใช้แปรรูปได้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นแก่เกษตรกรและราษฎรในพื้นที่

เรื่องที่สอง เป็นโครงการพระราชดำริโครงการแรกที่แล้วเสร็จหลังจากสเด็จขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ใช้เวลาเพียง เดือนก็แล้วเสร็จสมบูรณ์ ระยะดำเนินการ เริ่ม มิถุนายน 2560 แล้วเสร็จ พฤศจิกายน 2560

เรื่องที่สาม เป็นโครงการที่สร้างความหวังให้กับชาวบ้านในพื้นที่ สามารถวางแผนการเพาะปลูกอย่างเป็นระบบ ส่วนลูกหลานของราษฎรก็หันมาสนใจเริ่มศึกษาด้านเทคโนโลยีการเกษตร เพื่อนำความรู้กลับมาพัฒนาท้องถิ่น อันเนื่องมาจากมีแหล่งน้ำที่สมบูรณ์ทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ได้อย่างมีคุณภาพ

ทั้งนี้ในพื้นที่จันทบุรี ยังมีโครงการพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร อีก โครงการ คือ โครงการก่อสร้างทำนบลดินบ้านไทรนอง ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ทรงรับไว้เป็นโครงการพระราชดำริเมื่อวันที่ พฤษภาคม 2560 เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร ตลอดจนอุปโภคบริโโภคด้วย
@เที่ยวแพร่ชมสถาปัตยกรรมสวยหวาน-ทัวร์วัด"

ความหนาวเริ่มส่งสัญญาณชวนออก Go North ขึ้นเหนือ ไปเมือง “แพร่” กันอีกแล้ว มุมใหม่ ๆ ที่น่าตามร่องรอยไปท่องเที่ยวเรื่อง “ความหวาน” ของสถาปัตยกรรมที่อยู่อาศัย บ้านเรือนผู้คนเมืองนี้นิยมใช้สีอ่อนหวาน ๆ ผสมผสานอย่างลงตัวกับเมืองเลื่องชื่อด้านไม้สัก

บ้านเรือนของผู้คนเมืองแพร่ ตั้งแต่คหบดี เชื้อพระวงศ์ ล้วนแล้วแต่สร้างบ้านเรือนไว้จนกลายเป็นมรดกวัฒนธรรมมาจนถึงทุกวันนี้ กลายเป็นเสน่ห์ที่สร้างความตื่นตาตื่นแก่นักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ


เริ่มจาก “บ้านวงศ์บุรี” มีชื่อเสียงความเก่าแก่เล่ากันมาจากรุ่นสู่รุ่น ของเรือนปั้นหยาประยุกต์เข้ากับทรงยุโรปเก่าแก่ ต่อด้วย “คุ้มเจ้าหลวง” เรือนหลังนี้เมื่อปี 2536 เคยได้รับรางวัลพระรทานสถาปัตยกรรมดีเด่นจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี


 “โรงเรียนนารีรัตน์” มีอาคารน้ำเพชร ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงตรัสชมว่าอาคารไม้เก่าสวยงามและหากยาก

“บ้านวงศ์พระถาง” เมื่อครั้งอดีตเคยตั้งอยู่โดยมีศูนย์การค้ารายล้อม บ่งบอกถึงความรุ่งเรือง ได้รับการสันนิษฐานว่าใช้ช่างไม้ชุดเดียวกับบ้านวงศ์บุรี ปัจจุบันมีผู้อาศัยตามปกติ โดยพร้อมเปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือน


“บ้านขัติยะวรา” เป็นอาคารชั้นเดียว ยกพื้นใต้ถุนสูง สีสวยสดใสคล้ายบ้านขนมปังขิง
“บ้านหลวงศรี” โทนสีบ้านผสมไล่ระสีสวยสะดุด จากสีครีม ชมพู น้ำตาล สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง เจ้าของคือคหบดีชาวจีนฐานะดี

“บ้านเจ้าหนานไชยวงศ์” เป็นบ้านไม้โบราณฉลุลายบ้านแบบขนมปังขิงอีกเช่นกัน ใช้โทนสีไข่ไก่ขลิบแดงทาอย่าง สวยงาม มีห้องน้ำแบบดั้งเดิมเป็นจุดเด่นเรียกนักท่องเที่ยว
“บ้านคุ้มวิชัยราชา” ก็เป็นอาคารทำจากไม้สัก โดยใช้สีเขียวกับครีม ว่ากันว่าจึงช่วยให้รอดพ้นจากการถูกปล้นเมืองแพร่ในสมัยนั้น



นอกจากบ้านเรือนอลังการงานสร้างด้วยสถาปัตยกรรมไม้สักและสีหวาน ๆ แล้ว “แพร่” ยังมีแหล่งท่องเที่ยวแนะนำ คือ “วัดพระธาตุช่อแฮ” เป็นพระธาตุประจำคนเกิดปีขาล เป็นอารามหลวงเก่าแก่ ศักดิ์สิทธิ์ มีเจดีย์ศิลปะเชียงแสน กับประเพณีขึ้นธาตุทุกปี



ส่วนอีกแห่งคือ “วัดจอมสวรรค์” สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 งดงามตามแบบศิลปะพุกาม เป็นวัดที่มีวัตถุทรงคุณค่าหลายอย่าง เช่น ศาลการเปรียญและกุฎิในอาคารเดียวกันกับเจดีย์ทรงเมียนมา พร้อมด้วย พระพุทธรูปงาช้าง คัมภีร์งาช้าง

เตรียมแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวกันดีกว่า...หนาวนี้พบกันที่แพร่ สัมผัสเสน่ห์ล้านนามุมใหม่กันดีกว่า

@โปรดฟังระวังโดยด่วนโรคที่มากับฤดูหนาว

กรมควบคุมโรค พบว่าโรคในฤดูหนาวจะมีผู้ป่วยจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นเชื้อในกลุ่มไวรัส ได้แก่ โรคหัด หัดเยอรมัน คางทูม ไข้สุกใส

โรคหัด เกิดจากเชื้อไวรัส ติดต่อทางลมหายใจ ภาคกลางพบผู้ป่วยมาก  อาการ มีไข้สูง ไอมาก ตาแดง หรือน้ำมูกไหล และมีผื่นแดงตามตัว พบมากช่วงฤดูหนาว เดือนมกราคม-มีนาคมของทุกปี  มักพบในเด็กวัยต่ำกว่า 15 ปี โดยเฉพาะเด็กอายุ 5-9 ขวบ และ ที่พบบ่อยคือกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนป้องกัน หรือได้รับวัคซีนเพียงเข็มเดียว การดูแลรักษาต้องไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา กินยาลดไข้ รักษาตามอาการ
การป้องกัน การฉีดวัคซีนในเด็กวัย 9-12 เดือน และกระตุ้นเมื่ออายุ 6 ขวบ

โรคสุกใส (อีสุกอีใส) เกิดจากเชื้อไวรัส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือพบผู้ป่วยมาก อาการ ไข้ปานกลาง มีตุ่มใส และมีตุ่มหลายระยะ ในเวลาเดียวกัน ขึ้นที่หน้า ลำตัว แขน ขา พบมากช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคมทุกปี พบมากในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี โดยเฉพาะเด็กอายุ 5-9 ขวบ  การดูแลรักษา ให้รักษาตามอาการ

โรคคางทูม เกิดจากเชื้อไวรัส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือพบผู้ป่วยมากที่สุด อาการ มีไข้ปานกลาง ต่อมนำเหลืองหน้ากกหูโต และมักโตทั้ง ๒ ข้าง พบมากที่สุดในฤดูหนาว ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม-มีนาคม พบมากในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี โดยเฉพาะอายุ 5-9 ขวบ การดูแลรักษา ให้รักษาตามอาการ และอาการมักจะไม่รุนแรง แต่ถ้าพบโรคนี้ในเด็กโต อาจจะเกิดภาวะข้างเคียงได้คือ ลูกอัณฑะอักเสบ
การป้องกัน โรคนี้ไม่รุนแรง อาจจะไม่จำเป็นต้องแยกผู้ป่วย แต่ต้องแยกผ้าเช็ดตัว ผ้าห่ม และผ้าเช็ดหน้า

โรคปอดบวม เกิดได้ทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย แต่ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือพบผู้ป่วยมากที่สุด อาการ ไข้ ไอ เสมหะมาก แน่นหน้าอกเหมือนหายใจไม่ออก หอบ หายใจเร็ว มักพบตามหลังไข้หวัดเรื้อรังหรือรุนแรง หรือโรคหลอดลมอักเสบ โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นโรคหอบหืด พบมากในฤดูฝน และฤดูหนาว กลุ่มอายุที่พบมากคือ อายุต่ำกว่า 10 ขวบ โดยเฉพาะเด็กเล็ก อายุต่ำกว่า 5 ขวบ และผู้สูงอายุ การดูแลรักษา ลูกหลานและญาติที่ป่วยเป็นไข้หวัดหรือหลอดลมอักเสบเรื้อรัง โดยไปพบแพทย์ในเบื้องต้น และถ้าอาการยังไม่ทุเลา ก็ควรไปพบแพทย์ซ้ำ เพื่อติดตามการรักษาต่อไป

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก“บางกอกแอร์-เลอกอร์ดองเบลอเสิร์ฟพิเศษ23-25ธ.ค.”



นายทรงกรต ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการส่วนประชาสัมพันธ์องค์กร สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กล่าวว่า ร่วมกับ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต สถาบันสอนและผลิตอาหาร จัดแคมเปญ “Blue Ribbons with a twist - Tie it up for Christmas” ให้บริการพิเศษสร้างความประทับใจแก่ผู้โดยสารต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสเดือนธันวาคม 2561

โดยเชฟเฟรดเดอริค เลอกราส์ เชฟผู้สอนการทำขนมอบขนมหวานของเลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต จะรังสรรค์นำขนมมาการองสูตรพิเศษ 3 รส  ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเส้นทางบินที่มีเอกลักษณ์ของบางกอกแอร์เวย์ส มาบริการระหว่าง 23-25 ธันวาคม นี้ ได้แก่ รสคริสปี้บานาน่า สื่อถึงมัลดีฟส์ รสราสเบอรี่และช็อคโกแลต สื่อถึงเชียงใหม่ และรสมะนาวกับมะพร้าวสื่อถึงเกาะสมุย พร้อมเสิร์ฟในห้องรับรองบูทีคเลาจน์ และบลูริบบอนคลับเลาจน์ ทั้งอาคารผู้โดยสารขาออกภายในประเทศและระหว่างประเทศ สุวรรณภูมิ

นายมิเชล ปีเตอร์ส ผู้อำนวยการกิจการร่วมค้า เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต กล่าวว่า “เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต และบางกอกแอร์เวย์ส พวกเราต่างก็ใช้ริบบิ้นสีน้ำเงินซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อให้เห็นถึงความมีระดับ ความทุ่มเท และคุณภาพอันยอดเยี่ยม แนวคิดนี้จุดประกายให้เรานำริบบิ้นสีน้ำเงินมาผูกกัน นับเป็นหัวใจของการสร้างความร่วมมือระหว่าง เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิตและบางกอกแอร์เวย์ส

ข่าวที่สอง “KTCออก7บัตรร่วมบางกอกแอร์หวังปี’62เพิ่ม3หมื่นราย”



นางพิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร - ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้ร่วมกับบางกอก แอร์เวย์ส สร้างความฮือฮาเจาะลูกค้ากลุ่มใหม่ในโอกาสฉลองความสัมพันธ์การเป็นพันธมิตรกันยาวนาน 13 ปี โดยได้เพิ่มบัตรเครดิตร่วมรูปแบบใหม่จากเดิม 2 เป็น 7 บัตรรวด โดยดีไซน์กลิ่นอายของความเป็นบูธีค และครอบคลุมทุกเครือข่ายพันธมิตรทั้งมาสเตอร์การ์ด วีซ่าและเจซีบี คัดสิทธิประโยชน์โดยเน้นความต้องการและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของสมาชิกบัตร ขยายฐานสมาชิกบัตรปี 2562 ให้ได้อีก 30,000 ราย

โดยมีโปรโมชั่นพิเศษมอบให้ผู้สมัครบัตรเครดิตเคทีซี – บางกอกแอร์เวย์ส ระหว่างวันนี้- 31 ธันวาคม 2562 สามารถรับคะแนนสะสมฟลายเออร์โบนัสพิเศษ 1,000 คะแนน เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรภายใน 90 วัน หลังจากบัตรอนุมัติ ในหมวดค่าบริการของบางกอกแอร์เวย์ส หรือ KTC World Travel Service ที่เกี่ยวข้องกับบริการของบางกอกแอร์เวย์ส

สำหรับบัตรเครดิตภาพลักษณ์ใหม่ 7 บัตร ได้แก่ 1.เคทีซี เอ็กซ์ – บางกอก แอร์เวย์ส เวิลด์ รีวอร์ดส มาสเตอร์การ์ด 2.เคทีซี เอ็กซ์ – บางกอกแอร์เวย์ส วีซ่า ซิกเนเจอร์ 3.เคทีซี – บางกอกแอร์เวย์ส เวิลด์ รีวอร์ดส มาสเตอร์การ์ด 4.เคทีซี – บางกอกแอร์เวย์ส วีซ่า ซิกเนเจอร์ 5.เคทีซี – บางกอกแอร์เวย์ส วีซ่า แพลทินัม 6.เคทีซี – บางกอกแอร์เวย์ส แพลทินัม มาสเตอร์การ์ด และ 7.เคทีซี – บางกอก แอร์เวย์ส เจซีบี แพลทินัม”

 ข่าวที่สาม “ดุสิตอ่าวนางฉลองเปิดใหม่โปรแรง5เดือน-31มี.ค.62”



โรงแรมดุสิตดีทู อ่าวนาง รายงานว่า ในวันที่ 15 ธันวาคม 2561 เตรียมเปิดให้บริการห้องพักแห่งใหม่ จึงได้นำเสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษมอบส่วนลดสูงถึง 40% ด้วยห้องพักเริ่มต้นเพียง 2,220++ บาท พร้อมอาหารเช้า 2 คน จองได้ตลอด 5 เดือน ระหว่าง พฤศจิกายน 2561- 31 มีนาคม 2562 แล้วนำไปใช้พักผ่อนได้ตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2561-15 เมษายน 2562 รวมทั้งให้สิทธิอัพเกรดห้องพักฟรีเมื่อลูกค้าจองพักติดต่อกัน 3 คืน

สมาชิกดุสิตโกลด์ลอยัลตี้โปรแกรม รับไปเลยส่วนลดเพิ่มอีก 10% โดยสามารถสมัครฟรีได้ตั้งแต่ตอนนี้ที่ www.dusitgold.com

สำหรับโรงแรมดุสิตดีทู อ่าวนาง เป็นที่พักสไตล์โมเดิร์นผสมผสานวัฒนธรรมท้องถิ่นในวิวทะเล ภูเขา พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบ มีห้องพัก 173 ห้อง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังชายหาดและหมู่เกาะในอันดามันได้อย่างสะดวก

สอบถามที่ www.dusit.com/dusitd2/krabi  หรือโทร 02 636 3550

ข่าวที่สี่ “ชิมมิชลินสตาร์ไคเซกิที่ยามาซาโตะรร.ดิโอกุระ”



มร. เอ็ดเวิร์ด อี สนุ๊ก (Edward E. Snoeks) ผู้จัดการทั่วไปส่วนภูมิภาคประจำประเทศไทย และโรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ กล่าวว่า ล่าสุดห้องอาหารยามาซาโตะ ได้รับการประกาศให้ในคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พักระดับโลก ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ประจำปี 2019 ฉบับ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และพังงา และได้รับ ‘มิชลิน เพลท’ ซึ่งเชฟชิเงรุ ฮางิวาระ หัวหน้าพ่อครัวประจำห้องอาหารและทีมงานได้รังสรรค์เมนูที่ไม่เพียงแต่มีรสชาติยอดเยี่ยมแล้ว แต่ยังคำนึงองค์ประกอบอื่น ๆ อาทิ สีสัน การจัดวาง และความสวยงาม รวมไปจนถึงคุณค่าทางโภชนาการ

ทางด้าน เชฟ ฮางิวาระ กล่าวว่า ได้ให้ความสำคัญกับการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ รสชาติอาหารแบบดั้งเดิม และการบริการเป็นอย่างมาก ทั้งผมและทีมงานทุกคนจะต้องร่วมกันรักษามาตรฐานอย่างต่อเนื่องต่อไป

โดยได้รังสรรเมนูบริการอาหารญี่ปุ่นรสชาติต้นตำรับหลากหลายรายการ รวมไปถึงอาหารชุดพิเศษมื้อค่ำ “ไคเซกิ เรียวริ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์การบริการอาหารญี่ปุ่นในพระราชวังอิมพีเรียล ตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 ต่อมาพัฒนาจนเป็นหนึ่งในรูปแบบการรับประทานอาหารยอดนิยมมากสุดในโลก จนไคเซกิ เรียวริ กลายเป็นตำนานอาหารญี่ปุ่นชั้นสูงอายุเก่าแก่หลายศตวรรษที่แต่เดิมจะจัดให้มีขึ้นตามงานเลี้ยงสำคัญ ๆ เท่านั้น

ไคเซกิ ประกอบด้วย อาหารที่เสิร์ฟต่อเนื่องกันหลายรายการ ทุก ๆ จานได้รับการปรุงและจัดวางด้วยความบรรจง และคำนึงถึงทุกสีสันและรสสัมผัส รวมทั้งบริการในแบบ เทปันยากิ ซูชิ ซาชิมิ  และอาหารปรุงจากวัตถุดิบตามฤดูกาลในญี่ปุ่น โดยเฉพาะอาหารทะเล มีเมนูพิเศษประจำเทศกาลสำคัญ เสิร์ฟเมนูอาหารชุด และจานเดี่ยว ทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวัน และ มื้อค่ำ

สามารถแวะมาลิ้มลองอาหารมิชลิน เมนูไคเซกิได้ที่ห้องยามาซาโตะ ขั้น 24 โทร. 02 687 9000 หรือดูเพิ่มที่ www.okurabangkok.com

ติดตามฟังรายได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง FM 97.0 MHz.

วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ททท.ถอดรหัสรายได้3เดือนสุดท้ายทัวร์ไทยใช้เงินเข้าเป้า1ล้านล้านบาท-เที่ยวSweet Rockเมืองจัทน์สวยหวานสุดๆ

ททท.ถอดรหัสรายได้3เดือนเข้าเป้า1ล้านล้าน
เพิ่มยาแรงกระตุ้นเที่ยวไทย 3กลุ่มใหญ่ปี’62
คิงเพาเวอร์ประกวดดนตรีอินเตอร์ชิง4.3ล้าน
ททท.บูมงานไหมรับ26ประเทศในเวทีPATA
บางจากจัดใหญ่เศรษฐกิจชีวภาพ27 พ.ย.นี้
TCEBดันPATAขอนแก่น-ไมซ์ชุมชนเชียงใหม่
ศูนย์ไม้ผลพระราชดำริต้นแบบเครือข่ายชุมชน
เที่ยวSweet Rockจันทบุรีผจญภัยสวยหวาน
เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ใหม่ช่วยลดสารพิษตกค้าง
เปิดเบื้องหลังศึกชิงประธานสภาฯท่องเที่ยว
บินไทยยกเลิกบางไฟลต์ภาคเหนือ31ธ.ค.นี้
บอร์ดทอท.ฟิตเดือนพ.ย.ประชุมถี่2ครั้งติด

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen  และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97

ช่วงที่ 1 ตามไปฟัง “ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ถอดรหัสการเพิ่มรายได้ตลาดในประเทศโค้งสุดท้าย 3 เดือน ปี 2561 ต้องได้อีก 2 แสนล้านบาทเข้ามาเติม 9 เดือนแรกตุนไว้แล้ว 800,000 ล้านบาท ปี’62 ขยับฐานคนไทยใช้เงินเที่ยวสัดส่วนทะลุ 33 % ของทั้งหมด เล็ง 3 กลุ่ม “ครอบครัว-สูงวัย-สตรี” เที่ยวแหลก ตลุยแหลก 55 เมืองรอง คาด “วันธรรมดาน่าเที่ยว” จะใช้ยาแรงกระตุ้นสร้างเลือกใหม่กระจายการเดินทางทั่วไทย



นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าช่วงโค้งสุดท้าย 3 เดือน ช่วงฤดูการเดินทางท่องเที่ยวปลายปีนี้ พุ่งเป้าเพิ่มยอดรายได้จากตลาดคนไทย เพราะสถิติภาพรวมการท่องเที่ยวภายในประเทศ 9 เดือนแรกปี 2561 เติบโตเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนคนและรายได้กระจายสู่ท้องถิ่นเฉลี่ยเติบโตสูงขึ้น 9 % ทำรายได้เกิน 800,000 ล้านบาท ช่วงเวลาที่เหลือน่าจะทำได้อีก 200,000 ล้านบาท รวมแล้วเข้าเป้าที่ตั้งไว้ 1 ล้านล้านบาท

ดังนั้น ททท.จึงต้องโหมแคมเปญทุกรูปแบบ ทั้ง ไทยเที่ยวไทย ไทยยั่งยืน การกระตุ้นท่องเที่ยวลดหย่อนภาษีได้ จะเป็นพลังสำคัญในการสร้างเม็ดเงินท่องเที่ยวในประเทศอีก 2 เดือนข้างหน้าทำได้ตามเป้าหมาย

ส่วนแผน ททท.ปี 2562 ได้ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ในประเทศให้ได้ถึง 33 % เพื่อสร้างสมดุลการพึ่งพารายได้ท่องเที่ยวต่างประเทศ อีกทั้งยังจะช่วยกระจายคนไทยเข้าไปท่องเที่ยว 55 เมืองรองด้วย เน้นการเจาะเซ็กเมนต์เฉพาะ ได้แก่ กลุ่มครอบครัว เดินทางวันหยุดต่อเนื่อง มีทั้งพ่อแม่ลูก ปู่ย่าตายาย ป้าน้าอา ดัชนีชี้วัดคือได้แลกเปลี่ยนกับกลุ่มผู้บริหารค่ายรถยนต์ ระบุรถประเภทครอบครัวมียอดขายสูงมาก ททท.จึงจะเข้าไปขับเคลื่อนจัดทำโครงการ “คารานวานท่องเที่ยว”



นายธเนศวร์กล่าวว่า ช่วงปลายปีนี้ ททท.พร้อมใช้เครื่องมือสื่อสารการตลาดปลุกกระแสคนออกมาใช้เงินท่องเที่ยวฤดูหนาวในพื้นที่แนะนำ 55 เมืองรอง ขณะนี้ได้ลงพื้นที่ไปสำรวจสถานการณ์ภาคเหนือ สภาพอากาศกำลังสบาย ในลำพูน เชียงใหม่ รวมทั้งได้ทดลองปั่นจักรยานท่องเที่ยว ซึ่งทั่วประเทศเตรียมร่วมปั่นช่วงงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว ครั้งที่ 2 จะจุดประกายการปั่นจักรยานท่องเที่ยว หลายจังหวัดถือเป็นกิจกรรมที่ดีมาก แต่ละจังหวัดจะมีชมรมจักรยานมีความเข้มแข็งมาก เนื่องจากคนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจสุขภาพ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวรองในลำพูน มีสมาชิกชมรมจักรยานรวมตัวกันได้กว่า 600 คัน

วันที่ 9 ธันวาคม 2561 จัดเป็นวันที่จะมีการปั่นจักรยานระดับชาติเกิดขึ้นนั้นกับงาน อุ่นไอรัก คลายความหนาว แต่ละจังหวัดได้กำหนดเส้นทางปั่นจักรยานท่องเที่ยวออกมาแล้วเช่นกัน ททท.จะได้ถือจังหวะนี้เปิดเส้นทางปั่นท่องเที่ยวเพื่อปูพรมกระตุ้นการท่องเที่ยวเทรนด์มีส่วนร่วมรับผิดชอบ น่าจะใช้จักรยานเสริมแคมเปญดังกล่าว ซึ่งสามารถนำนักท่องเที่ยวสัมผัสชีวิตคนท้องถิ่นได้อย่างใกล้ชิด ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังประหยัดพลังงาน



ส่วนแผนสื่อสารการตลาดท่องเที่ยวช่วง 2 เดือนสุดท้าย ก็จะต้องรุกหนักให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศเพื่อนำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษี โดยยังคงใช้แพกเกจ 4 มหามิตร ททท. การบินไทย ธนาคารกรุงไทย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกันทำ “ไทยเที่ยวไทย ไทยยั่งยืน” เป็นหัวหอกดึงรายได้เพิ่มขึ้น

วางกลยุทธ์บุกเจาะตลาดในประเทศ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่

กลุ่มแรก ครอบครัว ซึ่งมีกำลังซื้อสูง สามารถเดินทางพร้อมกันได้ครั้งละหลาย ๆ คน จะช่วยเพิ่มรายได้กระจายสู่เมืองรองและท้องถิ่นทั่วไทยได้

กลุ่มที่ 2 “ผู้สูงอายุ” หรือ Silver Age เพิ่งเกษียน ถึงแม้อายุ 60-70 ปี  สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้สบาย ๆ ทั้งสุขภาพดีแข็งแรง ไม่มีห่วงเรื่องเวลา และเดินทางได้อย่างสบายใจ สามารถไปยังชุมชนหมู่บ้านหัตถกรรม จับจ่ายได้เต็มที่

กลุ่มที่ 3 กลุ่มนักท่องเที่ยวสตรี Lady Traveller มีหลากหลายวัย หากเป็นวัยรุ่นก็จะไปกับเพื่อนฝูงเป็นกลุ่ม 3-5 คน นิยมเลือกรับประทานอาหารตามร้านเก๋ ๆ หรือชอบช็อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง หมวก กระเป๋า สินค้าโอท็อปนวัตวิถีกำลังตีตลาดมาแรง
นักท่องเที่ยวทั้ง 3 กลุ่ม คือตลาดศักยภาพสูง สามารถที่จะกระจายเพิ่มส่วนแบ่งตลาด “การท่องเที่ยววันธรรมดา” เหมาะสุดคือกลุ่มสูงอายุ ไม่ต้องทำงานมีฐานะทางการเงินมั่นคง ข้อได้เปรียบคือระหว่างการท่องเที่ยวไม่ต้องแย่งกันกินกันใช้เหมือนเที่ยวช่วงวันหยุด

ททท.จะใส่แรงจูงใจในการสร้างสรรค์การผลิตสื่อ โดยจะเลือก “พรีเซ็นเตอร์สูงวัย” ออกมาเดินทางท่องเที่ยว จะเห็นได้จากพัฒนาการ “เที่ยวไทยเท่” ที่จะมีคลิปชวนเที่ยวเก๋ ๆ ออกมากระตุ้นการเดินทาง

ส่วนแพกเกจท่องเที่ยวหน้าหนาวช่วงปลายปีระหว่างส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ขณะนี้ภาคเหนือตามเมืองรอง เช่น ลำพูน ลำปาง เชียงใหม่ ห้องพักเริ่มมียอดจองหนาแน่น หรือเมืองท่องเที่ยวรองอีกหลายภาค นักท่องเที่ยวจะต้องรีบเข้าไปจองที่พักกันแล้ว เพราะมีทั้งนักท่องเที่ยวและการเดินทางกลับบ้าน และอาจมีการพาเพื่อนไปเยี่ยมเยือนด้วย

นายธเนศวร์กล่าวว่า ททท.มั่นใจปลายปีนี้คนจะออกมาท่องเที่ยวฤดูหนาวเติบโตสูงกว่าทุกปี ด้วยแม่เหล็กสำคัญอย่างการเปิดบริการของกลุ่มสตาร์ต อัพ ทำร้านอาหาร ร้านกาแฟ เก๋ โรงแรมบูติกโฮเต็ล มีให้เลือกเป็นดอกเห็ดทำให้การท่องเที่ยวต่างจังหวัดคึกคัก อีกทั้งยังได้พลังของโซเชียล มีเดีย เข้ามาเสริมทัพ จะยิ่งทำให้ปลายปี 2561 การท่องเที่ยวในประเทศจะทำให้เม็ดเงินท่องเที่ยวกระจายสะพัดสู่เศรษฐกิจของทั้งประเทศอย่างแน่นอน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวแรก “คิงเพาเวอร์จัดประกวดดุริยางค์ดนตรีชิง4.3ล้านบาท”



นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า คิง เพาเวอร์ ได้เดินหน้าโครงการเพื่อสังคมภายใต้แนวคิด KING POWER THAI POWER พลังคนไทย ต่อยอดโครงการด้านดนตรี - MUSIC POWER จัดการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติ ประจำปี 2562 ปีที่ 2 โดยได้รับความร่วมมือจาก วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเวทีให้เยาวชนและคนไทยได้แสดงความสามารถด้านดนตรีบนเวทีระดับนานาชาติ รวมทั้งยังมีถ้วยรางวัลและเงินรางวัลรวมมูลค่า 4,330,000 บาท

ล่าสุดร่วมกับ ศาสตราจารย์ นพ.บรรจง มไหสวริยะ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ดร.ณรงค์  ปรางค์เจริญ  คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล อาจารย์ ศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบันวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล คณะกรรมการจัดการประกวด แนะนำการเข้าร่วมโครงการประกวดดังกล่าว ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การจัดประกวดดนตรีเครื่องเป่านานาชาติปีแรก 2560 ประสบความสำเร็จอย่างสูง นานาชาติและประชาชนทั่วไปให้การยอมรับสูงมาก มีโรงเรียนต่าง ๆ  สนใจเข้าร่วมจำนวนมาก และมีนานาประเทศลงแข่งด้วย เช่น ฮ่องกง สเปน สวิตเซอร์แลนด์

สำหรับ ปี 2562  ได้เปิดแข่งขันรุ่นไม่จำกัดอายุ ให้โอกาสบุคคลทั่วไปได้โชว์ฝีมือ พร้อมยกระดับให้วงดุริยางค์เครื่องเป่าไทยได้เข้าร่วมประกวดในระดับนานาชาติมากขึ้น  กระตุ้นบรรยากาศทางด้านศิลปวัฒนธรรมดนตรี ส่งเสริมให้เยาวชนไทยและบุคคลทั่วไปได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ คาดจะมีจำนวนวงเข้าประกวดมากกว่าปีก่อนทั้งวงจากในประเทศ และต่างประเทศ เนื่องจากเป็นเวทีเดียวในแถบอาเซียนที่เปิดรุ่นสำหรับประชาชนทั่วไป ในการแข่งขันแบบเครื่องลม

ประการสำคัญที่สุดในการประกวดครั้งนี้ เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและเพื่อเฉลิมพระเกียรติของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยและชาวโลก ซึ่งแต่ละวงจะต้องบรรเลงเพลงบังคับที่ทางผู้จัดการประกวดได้ระบุไว้ เพื่อเป็นมาตราฐานในเรื่องของเทคนิคการบรรเลง และได้แสดงถึงศักยภาพ คุณภาพ ของวงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น รวมทั้งต้องบรรเลง เพลงประจำชาติ และเพลงเลือกอื่นๆ อีกด้วย

สำหรับการสมัครเข้าประกวดโครงการนี้ เริ่มตั้งแต่วันนี้แล้วจะปิดรับสมัคร วันที่ 29 มกราคม 2562    เวลา 17.00 น. สมัครประกวดได้ที่  www.music.mahidol.ac.th/tiwsc โทร.02-800 2525 ต่อ 3107 ,3109, 3117
 รอบคัดเลือก จะพิจารณาผลงานที่ส่งเข้ามาแข่งขัน วันที่ 12 – 13 กุมภาพันธ์ 2562แล้วประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 ทาง www.music.mahidol.ac.th/tiwsc  และ Facebook : King Power Thai Power  พลังคนไทย ประกอบด้วย รุ่น Class A  และรุ่น Class B  รุ่นละ 10 วง และรุ่น Class C รุ่น Class D  รุ่นละ 16 วง


รอบรองชนะเลิศ  วันที่ 1 – 4  เมษายน 2562  เปิดหอแสดงดนตรีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดลคัดเลือก


รอบชิงชนะเลิศ  วันที่ 6 เมษายน 2562 เปิดพื้นที่ มหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล คัดทุกรุ่นให้เลืออย่างละ 5 วง

ข่าวที่ 2 “ททท.บูมงานไหมขอนแก่นพ่วงขายPATA/เมืองรอง”



นางสาวศิริวรรณ สีหาราช ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานขอนแก่น เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับจังหวัดขอนแก่นและหน่วยงานต่าง ๆ จัดเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี 2561 ระหว่าง 29 พฤศจิกายน -10 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่ขอนแก่นเป็นเจ้าภาพร่วมจัดการประชุมระดับนานาชาติ PATA Destination Marketing Forum 2018 ในระหว่าง 28-30 พฤศจิกายน นี้ เจ้าของงานคือสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (Pacific Asia Travel Association-PATA) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำต่างชาติจาก 26 ประเทศ เข้าร่วมการประชุมกว่า 200 คน ซึ่งสามารถผนวก 2 งานนี้ถือเป็นแม่เหล็กดึงคนเข้าสู่เมืองหลักขอนแก่น เชื่อมโยงไปยังเมืองรอง ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่

โดยกลุ่มสารสนเทศการตลาด ททท. ได้ร่วมออกบูธประชาสัมพันธ์โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยทำ Mobile Application “Trippointz”  นำเสนอข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว เส้นทางการท่องเที่ยว ข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ผ่านระบบจองบัตรโดยสาร ที่พักต่างๆ  และใช้กิจกรรมรับแต้มสะสมแล้วนำคะแนนสะสมไปแลกรับของที่ระลึก หรือตั๋วบินฟรี สร้างความคึกคักทำให้นักท่องเที่ยวรู้จักเมืองท่องเที่ยวหลักและรองมากขึ้น

การจัดงานปีนี้มีความพิเศษเรื่องขอนแก่นได้ประกาศลายผ้าไหมประจำจังหวัดลาย “แคนแก่นคูน” (KAN KAEN KOON) โดยรวบรวมลายผ้าทั้งหมดมาสร้างสีสันตามความหมายโดดเด่นเป็นอัตลักษณ์ 7 ลาย ได้แก่ ลายแคน- สัญลักษณ์แทนความเจริญและสนุกสนาน “ลายดอกคูณ”- ดอกไม้ประจำจังหวัดขอนแก่น “ลายพานบายศรี”-มิตรภาพ ประเพณีการผูกเสี่ยว “ลายขอ” -ความอุดมสมบูรณ์ของขอนแก่น “ลายโคม”-ภูมิปัญญา วัฒนธรรมของชาวขอนแก่น “ลายกง”-อาณาเขตที่ได้รับการรักษาให้มั่นคง ปลอดภัย “ลายหมากจับ”-ความรัก ความสามัคคี ของชาวขอนแก่น

ข่าวที่ 3 “บางจากจัดสัมมนาเปิดมุมใหม่เศรษฐกิจชีวภาพ”



นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เตรียมเปิดสำนักงานใหญ่ จัดสัมมนา "BIO ECONOMY อนาคตใหม่...สู่ความยั่งยืน" ต้อนรับเทรนด์เศรษฐกิจชีวภาพ ในวันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน 2561 เวลา 08.30 - 12.00 น. ณ ชั้น 8 สำนักงานใหญ่ บางจากฯ อาคาร M-Tower  โดยได้เชิญชวนให้ผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ เพราะต้องารถ่ายทอดแนวคิดและทิศทางของเศรษฐกิจชีวภาพ หรือ Bio Economy หนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีศักยภาพขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย จากวิทยากรภาคธุรกิจทั้งไทยและต่างชาติที่จะถกกันใน Panel discussion Bio Economy Global Trend ทิศทางอนาคตใหม่...ขับเคลื่อนโลก จาก Mr.Bas Melssen Director Public Affairs & Sustainability Asia, Novozymes และ Mr.Mukund Rao ที่ปรึกษา บริษัท บีบีจีโอ จำกัด (มหาชน)

ต่อด้วยการเสวนาจากนักธุรกิจภาคเอกชนและนักแสดงผู้มีหัวใจอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม Plenary session Bio Economy Thailand Trend ทิศทางอนคตใหม่...สู่ความยั่งยืน โดย คุณเจริญชัย ประเทืองสุขศรี ประธานคณะทำงานโครงการลงทุน สำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) คุณจุฬารัตน์ นิรัติศยกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจ จากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) และคุณปู-ไปรยา ลุนด์เบิร์ก นักแสดง ดำเนินรายการโดย คุณอาลิซาเบธ แซ๊ดเลอร์

ข่าวที่ 4 “TCEBลุย2งานPATAขอนแก่น-ไมซ์ชุมชนเชียงใหม่”
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ระหว่าง 28-30 พฤศจิกายน 2561 ได้จัดกิจกรรมกระตุ้นตลาดไมซ์ถึง 2 งาน งานแรก  PATA DESTINATION MARKETING FORUM 2018 เป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 28-30 พฤศจิกายน 2561ที่จังหวัดขอนแก่น เมือง 1 ใน 5 ไมซ์ซิตี้ของทีเส็บ โดยมีเจ้าของลิขสิทธิ์คือ สมาคมท่องเที่ยวเอเชีย แปซิฟิก : Pacific Asia Travel Association : PATA แต่ละปีจะจัดงานประชุมประจำปีหลายรูปแบบ ทาง TCEB จึงไปดึงงานนี้เข้ามาจัดในไทยภายใต้ชื่อโครงการ “ประชุมพัฒนาการตลาดแหล่งท่องเที่ยว : Destination Marketing เน้นทั้งการพัฒนาและทำการตลาดให้เป็นที่รู้จักในเวทีโลก เป็นงานที่ยังไม่ค่อยนำเข้ามาจัดในไทย ทว่าภูมิภาคเอเชียสนใจจะมาด้วย โดยได้เสนอจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็น 1 ใน 5 เมือง MICE CITY

งานที่สอง จะนำสื่อมวลชนลงพื้นที่สร้างประสบการณ์ไมซ์ในโครงการ “เชียงใหม่..ไมซ์เพื่อชุมชน” ระหว่าง 29-30 พฤศจิกายน 2561  โดยร่วมกับนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดแผนพัฒนาเชียงใหม่พร้อมก้าวเข้าสู่ไมซ์ ซิตี้ 4.0 ควบคู่กับการเร่งพัฒนาชุมชนบ้านออนใต้ ซึ่งได้รับเลือกให้เป็น “ต้นแบบโครงการหมู่บ้าน CIV : หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์” ตามมาตรฐานของกระทรวงอุตสาหกรรม อันถือเป็นทุนทางวัฒนธรรม วิถีช่วิตดั้งเดิมผสมผสานเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ ด้วยดีไซน์และการสร้างมูลค่าเพิ่มการผลิตสินค้าที่ระลึก ผลิตภัณฑ์บริการเชิงคุณภาพได้เป็นอย่างดี โดยชาวบ้นได้ร่วมกันสร้างสรรค์ชิ้นงานต่าง ๆ ออกมาเป็นสินค้าจำหน่ายกลุ่มตลาดไมซ์ในประเทศและนานาชาติได้อย่างมีคุณค่า รวมถึงมีอาหารถิ่นให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองด้วย

ถือเป็นงานใน 2 จังหวัด ไมซ์ ซิตี้ ที่จะช่วยสร้างความคึกคักให้กับอุตสาหกรรมไมซ์ไทยทั้งในขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงเชียงใหม่ที่จะขยายผลให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมไมซ์ระดับประเทศ เติบโต

ข่าวที่ 5 “ศูนย์ไม้ผลตามพระราชดำริเมืองจันทน์ต้นแบบเครือข่ายชุมชน”

มูลนิธิปิดทองหลังพระ นำสื่อมวลชนลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมชม “โครงการศูนย์พัฒนาไม้ผลตามพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี” ตำบลทุ่งโตนด ตำบลท่าหลวง อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นต้นแบบและตัวอย่างที่ทั่วประเทศเหมาะจะไปศึกษาดูงานการทำเกษตรด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ รวมทั้งได้เห็นหน่วยงานต่าง ๆ ทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการจนกลายเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงเครือข่ายชุมชนที่ประสบความสำเร็จ โดยมีแปลงเกษตร-ผลไม้ตัวอย่าง สามารถต่อยอดการสร้างอาชีพ และรายได้เสริมให้ชุมชนรอบพื้นที่ในหลายส่วนด้วยกัน

นายสุวิวัฒน์ วงษ์สกุลไชยะ เจ้าพนักงานการเกษตรชำนาญงาน หัวหน้างานวิชาการเกษตรศูนย์พัฒนาไม้ผลตามพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี  กล่าวว่าโครงการ “ศูนย์พัฒนาไม้ผลตามพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี” เป็นต้นแบบศาสตร์พระราชา โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานทรัพย์สินส่วนพระองค์ เมื่อปี 2521 จัดซื้อที่ดินสวนผลไม้จำนวน 109.99 ไร่ จัดทำเป็นศูนย์พัฒนาไม้ผล เป็นแหล่งทดลองเรียนรู้ด้านไม้ผลและการเกษตร ตัวอย่างการเพาะปลูก พัฒนาผลผลิตการเกษตรแบบอินทรีย์ ถ่ายทอดให้ราษฎรนำไปปรับใช้ในชีวิตได้ เข้าใจ-เข้าถึง-พัฒนา

ภายในสวนจะมีแปลงทดลองปลูกพืชเศรษฐกิจของภาคตะวันออกครบ โดยมีทั้งทุเรียน ซึ่งต่อยอดเป็นพันธุ์จันทบุรี 1-2-3 ลำไย มังคุด สละ ลองกอง เงาะ โดยมีการนำชันโรงช่วยผสมพันธุ์เกสรธรรมชาติ และบริเวณศูนย์พันธุ์ไม้โบราณหายาก

ตลอด 40 ปี ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านอำเภอท่ามะขาม อยู่ดีกินดีประกอบสัมมาอาชีพสร้างและพัฒนา ครอบครัว ชุมชน จนเกิดความมั่นคงถาวร

“ณัฏฐกฤต ชัยอริยเมธี” อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักศิลปวัฒนธรรมและพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ปี 2560 ได้นำมหาวิทยาลัยรำไพพรรณี เข้ามามีส่วนร่วมกับโครงการฯ เป็นแห่งแรกที่จัดทำหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียงบรรจุไว้ในหลักสูตร พร้อมกับมีรายวิชาใหม่ชื่อ “ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” โดยนำนักศึกษามาใช้สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์เรียนรู้ในที่ดินของพ่อ นำร่องดำนา ปลูกข้าวพันธุ์ “พญาทองดำ” ไว้ ตอนนี้ครบ 120 พร้อมเกี่ยวข้าวสุกที่ปลูกไว้แล้ว 2 แปลง เมื่อวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2561 เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่จะช่วยขยายผลเศรษฐกิจพอเพียงผ่านหลักสูตรการเรียนการสอนในสถาบันศึกษา ขณะนี้มีหลายแห่งกำลังทำในลักษณะเดียวกัน

ส่วนในสวนลำไยภายในศูนย์พัฒนาไม้ผลตามพระราชดำริ มีไฮไลต์คือการทดลองปลูก “ลำไยออกผลนอกฤดู” โดยจะให้ผลผลิตออกในช่วงตรุษจีนปี 2562 จำหน่ายแก่นักท่องเที่ยวเพื่อนำรายได้ทูลเกล้าถวาย

ทั้งนี้ราคาขายลำไยเฉลี่ย 40 บาท/กิโลกรัม ผลผลิตโดยรวมของชาวสวนแถบนี้และที่ศูนย์พัฒนาไม้ผลฯ จะส่งให้ล้งบ้างบางส่วนเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่ทางกรมส่งเสริมการเกษตรจังหวัด จะนำเทคโนโลยีการเกษตรซึ่งเป็นเทคโนโลยีสมัยเน้นเกษตรปลอดภัยเข้ามาใช้ แล้วก็ถ่ายทอดให้ชุมชนที่เข้าร่วมโครงการปีละ 300 รายขึ้นไป

“นางสาวรสริน บุญอาจ” ผู้ใหญ่บ้านสันตอ หมู่ 3 กลุ่มสัมมาชีพบ้านสันตอน้ำพริกเผา สูตรลำไย กล่าวว่า ได้บริหารจัดการแต่ละกลุ่มแยกกันไปทำนำวัตถุดิบปลูกในชุมชนมาปรุงเข้าด้วยกัน ทั้งพริก หอม กระเทียม ลำไย เพื่อผลิตน้ำพริกบรรจุกล่องใช้กินกับผักสดท้องถิ่น โดยทำการตลาดประจำที่ศูนย์ของพ่อ ต้อนรับกลุ่มคณะศึกษาดูงาน และเครือข่ายเชื่อมโยงกลุ่มเทศบาล เรื่อยไปจนถึงเข้าร่วมงานโอท็อประดับประเทศ
หลังจากที่ได้ต่อยอดอาชีพจากสวนผลไม้ ศูนย์ของพ่อ แล้ว ขณะนี้กลุ่มมีรายได้เดือนละประมาณ 10,000 บาท แล้วมาหารเฉลี่ยกันในกลุ่ม 40 คน รวมทั้งได้รับเชิญไปสอนอาชีพตามพื้นที่อื่น ๆ ด้วย บางครั้งผู้บริโภคก็ปากต่อปาก ราคากระปุกละขีดครึ่ง 50 บาท รวมทั้งได้ต่อยอดสัมมาชีพชุมชน มีการอบรมนำมาแลกเปลี่ยนปรับปรุงถ่ายทอด เพื่อสร้างความยั่งยืน

นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า จังหวัดโชคดีมากในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมาดูแล พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสไว้ว่า “จันทบุรีเป็นจังหวัดทำการเพาะปลูกผลไม้ ฝนตกมาก ซึ่งต้องพึ่งพาดินฟ้าอากาศ ต่อไปภายหน้าถ้าไม่ดูแลแหล่งน้ำดี ๆ จะเกิดปัญหา ต่อมาก็เกิดขึ้นจริง” พระองค์ท่านต้องการให้อำเภอมะขาม เป็นแบบอย่าง ลดต้นการผลิต พัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพ มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค รักษาสิ่งแวดล้อม และการสร้างเครือข่ายพัฒนาตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งขณะนี้ก็ชุมชนรอบศูนย์ฯ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงทำให้ชีวิตความเป็นอยู่มีความสุขอยู่จนถึงทุกวันนี้

ช่วงที่ 2 แสวงหามุมใหม่ใน “จันทบุรี” ท่องเที่ยวผจญภัยใน Sweet Rock เขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน แล้วหันมาลองทำให้โลกน่าอยู่กับการ “เปลี่ยนไลฟ์สไตล์เลิกสารพิษตกค้าง” และข่าวมันส์สุดในรอบสัปดาห์ “แฉเบื้องหลังศึกชิงเก้าอี้ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” เหตุใด “ชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร” ต้องขยับขึ้นมาอยู่เบื้องหน้าวงการ “การบินไทย” เตรียมเลิกบินบางไฟลต์ช่วงสิ้นปี 61 “บอร์ด ทอท.” ฟิตจัดเดือนพฤศจิกายนนี้ ประชุมต่อเนื่อง 2 ครั้ง 20 และ30 พ.ย.นี้

@เที่ยวจันทบุรีชมสวีตร็อค-วิถีชีวิตจีน/ญวนริมน้ำ
ความหวานแสนสดใสบนลานหินสีชมพูใน “เขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน” จังหวัดจันทบุรี เป็นอีกแห่งท่องเที่ยวมุมใหม่ ดึงดูความสนใจผู้คน ด้วยธรรมชาติที่ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ เป็นผลพวงของสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นจากหินทรายอาร์โคส ซึ่งเป็นส่วนผสมของแร่เหล็กมากจนหินแปรสภาพเป็นสีชมพูสวยจนได้รับฉายาว่า Sweet Rock

เป็นโลเกชั่นดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มผจญภัย เดินทางเข้ามาถ่ายภาพที่นี่ ด้วยการลัดเลาะเส้นทางกึ่งผจญภัยนิด ๆ ผ่านโขดหินแนวหาดทรายริมชายหาดประมาณ 1 กิโลเมตร  เพื่อไปยืนโชว์ความแกร่งบนลานหินสีชมพูแห่งนี้ เมื่อหันสายตาทอดมองไปทางทิศตะวันออก ก็จะได้เห็นแห่งท่องเที่ยวเจ้าถิ่นในทะเลอ่าวไทยได้ชัดเจน อย่าง เกาะช่องสะบ้า หาดแหลมสิงห์ เกาะเปริด เกาะนมสาว เกาะช้าง

บอกกันไว้ก่อนว่าทุกครั้งที่จะเดินทางไปยังลานหินสีชมพูแห่งนี้ ควรจะตรวจสอบเวลาน้ำขึ้น น้ำลง ด้วย เพื่อความปลอดภัยในการไปเที่ยวอย่างมีความสุข

แหล่งท่องเที่ยวในจันทบุรี ที่ต้องไปให้ถึงอีกหลาย ๆ ก็มี “จุดชมวิวเนินนางพญา” เป็นถนนเลียบทะเลยาวที่สุดในประเทศไทย ไต่ขึ้นไปยังจุดชมวิวอันงดงามที่เรียก “เนินนางพญา” ช่วงแดดอ่อนช่วงเช้าหรือก่อนตะวันลับฟ้าสามารถปั่นจักรยานชมธรรมชาติขึ้นไปนั่งรอชมพระอาทิตย์ขึ้นและลับขอบฟ้าได้ทุกวัน

ส่วน “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” นั้น ขึ้นชื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้คนรู้จักเป็นอย่างดี มีโครงการพัฒนาอาชีพประมงและการเกษตรริมชายฝั่ง ที่น่าศึกษาเรียนรู้ แถมยังสามารถเดินเล่นบนสะพานไม้ระแนงนำทางเข้าไปชมป่าชายเลน ตลอดสองข้างทางมีทั้งสัตว์ทะเล ไม้นานาพันธุ์ และโอโซนบริสุทธิ์ ให้สูดได้แบบเต็มปอด
“ชุมชนเก่าริมน้ำย่านท่าหลวง (ชุมชนริมน้ำจันทบูร)” เป็นรากฐานแห่งต้นแบบวิถีต้นคนเมืองจันทบุรี มีชุมชนเก่าแก่ของชาวจีน คนญวนอพยพมาตั้งรกรากสมัยต้นรัตนโกสินทร์ พื้นที่ชุมชนจึงเต็มไปด้วยตึกแถวโบราณ ตกแต่งด้วยลายไม้งดงาม อย่าง “บ้านหลวงไมตรี” บิดาแห่งยางพาราภาคตะวันออก หรือโรงงานไอศรีมตราจรวด ส่วนนักช้อป ก็มีสินค้าท้องถิ่นให้เดินชมหรือเลือกได้ในตลาดเก่าแก่ริมแม่น้ำ อากาศดีแถมใช้ชีวิตแบบสโลไลฟ์ได้ด้วย

จันทบุรี เป็นอีกเมืองรองต้องลอง ต้องรัก ต้องไป กันให้ได้สักครั้ง

@ลดสารพิษตกค้างด้วยไลฟ์สไตล์แบบใหม่การใช้ชีวิต

วิธีลดการตกค้างของสารพิษในร่างกาย  ด้วยไลฟ์สไตล์แบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  ลดการกินและใช้น้ำยาต่างๆ ที่เต็มไปด้วยสารเคมี  หันมาเรียนรุ้การใช้ประโยชน์จากธรรมชาติให้มากขึ้น

1.กินอาหารคลีน  อาหารสดใหม่ใช้สารปรุงแต่งให้น้อยที่สุด  เลี่ยงอาหารหมักดอง  ใส่สารกันบูด สีผสมอาหาร ผงชูรส และสารเคมีอื่นๆ

2.อาบน้ำแบบไร้สารเคมี  ลดใช้สบู่ให้น้อยที่สุด  อาบน้ำด้วยน้ำเปล่าและใช้ใยบวบถูตัว  บางวันใช้น้ำมะขามเปียกชโลมทั่วตัว  แล้วใช้ใยบวบขัดผิว

3.หน้าสดลดใช้เครื่องสำอาง ไม่แต่งหน้าบ้างในบางวัน  เพื่อให้ผิวได้พักจากสารเคมี

4.เบคกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชู  ใช้ทำความสะอาด ห้องน้ำ ห้องครัว  ขจัดกลิ่น ถูพื้น  ล้างจาน  หรือแก้ปัญหาท่อน้ำตัน

5.ปรนนิบัติผิวด้วยธรรมชาติ  ผลไม้ ช่วยบำรุงผิวให้ใสสะอาดแบบไร้สารเคมี  ลองใช้ส้มเขียวหวานหรือ มะเขือเทศฝานเป็นแว่นบางๆ ถูล้างหน้าตอนเช้าแทนสบู่ แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “ชำแหละศึกชิงประธานสภาท่องเที่ยวสมาชิกเทล้างไพ่เก่า”

กระแสฮือฮาแห่งปีในการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 ต้องใช้เวลาต่อสู้กันนานเกือบ 10 ชั่วโมง สรุปก็ได้ “ชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร” เจ้าของร้านอาหารตำนานป่า และตำนานป่ารีสอร์ต จ.ระยอง นั่งเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  คนที่ 6 ช่วงปี 2561-2562  โดยมีฐานเสียงเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ประกอบการต่างจังหวัดสนับสนุนเต็มที่

ส่วนคู่ต่อสู้ที่ลงสนามแข่งคือนางศิริรัตน์ เด่นวรพงษาสุข เจ้าของโรงแรมอุบลบุรี  ที่แพ้โหวตจากสมาชิกสามัญ 102 ราย มีผู้แทนพื้นที่ 13 เขต ตัวแทนสาขาอาชีพ 13 กลุ่ม และเลือกผู้ทรงคุณวุฒิอีก 8 คนของแต่ละทีม

ขณะที่เบื้องหลังที่ทำให้ “นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร” ได้รับชัยชนะเนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่จากทุกภูมิภาคมีความเห็นตรงกันนั่นคือต้องการล้างไพ่และขั้วอำนาจเก่า ที่ส่งคนเข้ามาบริหารสภาท่องเที่ยวในยุคนายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก อยู่ในตำแหน่ง 2 สมัย แต่โชว์ผลงานไม่เข้าตา ทำให้สมาชิกผู้ประกอบการท่องเที่ยวเทกระดานการเลือกครั้งนี้ให้ประธานคนใหม่ แต่สิ่งที่น่าจับตาในยุคของนายชัยรัตน์คือการประกาศตั้งประธานเขตเข้ามาเป็นรองประธานสภาฯ ท่องเที่ยวมากถึง 13 คน นั้นจะมีความเป็นไปได้จริงหรือไม่

ข่าวที่สอง “การบินไทยยกเลิกบางไฟลต์วันสิ้นปี31ธ.ค.61”
เรืออากาศเอก ปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคงและมาตรฐานการบิน บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่าจะปรับและยกเลิกบางเที่ยวบินในวันที่ 31 ธันวาคม 2561 เพื่อรักษามาตรฐานความปลอดภัย ไป-กลับ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ได้แก่ TG 120  และ 121  พร้อมกับปรับเวลาใหม่ TG 116  เป็นออกจากกรุงเทพฯ เวลา 15.40 น. ถึงเชียงใหม่ เวลา 16.50 น.

โทรศัพท์สอบถามได้ที่  0-2356-1111 ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่สาม “บอร์ดทอท.เดือนพ.ย.มีประชุม2รอบติด ๆ”

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)  “ทอท.”  รายงานว่าในเดือนพฤศจิกายน 2561 คณะกรรมการ (บอร์ด) จะจัดประชุม 2 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ สรุปมติที่ประชุมโครงการไฮไลต์การเดินหน้าขยายการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิหลังที่ 2 เพื่อรอความชัดเจนจากทางอัยยการสูงสุด กรณีที่มีผู้ยื่นคำร้องให้ทบทวนหรือยุติการก่อสร้าง

ส่วนการประชุมบอร์ด ทอท.ครั้งที่ 2 วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน นี้ จะมีการพิจารณาตัวเลขผลประกอบการ เพื่อประกาศผลกำไรในปี 2561 ซึ่งขณะนี้มีรายงานออกมาเป็นระยะ ๆ ว่า ทอท.พร้อมจ่ายโบนัสพนักงานไม่ต่ำกว่า 7 เดือน

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

2นักเตะเลสเตอร์สาธิตทำกระทงชวนคนทั่วโลกเที่ยววิถีประเพณีลอยกระทง22พ.ย.61

มาร์คอัลไบรท์ตัน-คริสเตียนฟุคส์2นักเตะเลสเตอร์
สาธิตทำกระทงชวนร่วมสืบสานวิถีประเพณีไทย


เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #สวท97 #leicester #kingpower
ขอบคุณ...VDO จาก ต็อบ- อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา



มาร์ค อัลไบรท์ตัน กับ คริสเตียน  ฟุคส์ 2 นักเตะสโมสรเลสเตอร์ ที่มีคนไทย กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เป็นเจ้าของ ออกมาร่วมกิจกรรมพิเศษ สาธิตการทำกระทงด้วยใบตอง เพื่อที่จะใช้ลอยตามประเพณีแบบวิถีไทย ในคืนเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 วันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 นี้


ทั้ง 2 นักเตะที่ช่วยเผยแพร่วิถีไทยให้คนทั่วโลกได้รู้จักงานประเพณีอันดีงามของประเทศแห่งสายน้ำ ไทยแลนด์ ชวนทั่วโลกนำเงิสมาเที่ยวเมืองไทยเยอะ ๆ ต่อไป


เทคมีทัวร์สตาร์ตอัพท่องเที่ยวยึดตลาดโลกสำเร็จ-ขึ้นดอยไปดื่มด่ำกาแฟเมืองน่าน

“เทคมีทัวร์”สตาร์ตอัพไทยยึดตลาดโลกสำเร็จ
ผงาดWTMโกยยุโรป/อเมริกาปี’62โต400%
คิงเพาเวอร์เปิดมหานครสกายวอล์คบูมศก.
ททท.ดึงไทย/เทศลอยกระทงทำเงิน5พันล้าน
ลุยจัดอะเมซิ่งมาราธอน62ดึงทัวร์กีฬา500ล.
บางจากเท2พันล้านขยายธุรกิจNonOilพุ่ง
ขึ้นดอยดื่มด่ำเส้นทางทัวร์กาแฟเมืองน่าน
แนะวิธีบริหารสมองป้องกันเสื่อมก่อนวัย
3องค์กรบินอินเตอร์หนุนสร้างสุวรรณภูมิ2
ปทุมจัดใหญ่2งานลอยกระทง 22 พ.ย.นี้
5จังหวัดจัดเจ้าพระยา ณ นนท์23-25พย.
เฟรเซอร์สผุดโรงแรมกีฬาแห่งแรกที่บุรีรัมย์
อินดิโกชวนชิมเห็ดทรัฟเฟิลตลอดพ.ย.นี้

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen  และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97

ช่วงที่ 1 ฟังนักธุรกิจพันธุ์ใหม่ สตาร์ต อัพ ท่องเที่ยว “อมรเชษฐ์ จินดาอภิรักษ์” ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง เทค มี ทัวร์ นำท่องเที่ยวชุมชนไปประกาศความยิ่งใหญ่สร้างความสำเร็จเกินคาดในตลาดโลก WTM 2018 กับโปรเจ็กต์ Local Table ยุโรป อเมริกา อินเดีย แห่อุดหนุนโกยนักท่องเที่ยวหลั่งไหลสู่ 55 เมืองรอง ปี’62 ยอดโต 400 %



อมรเชษฐ์ จินดาอภิรักษ์ ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง เทค มี ทัวร์ เปิดเผยว่า เป็นกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวรุ่นใหม่ 1 ใน 6 บริษัท Start up ที่ได้รับเลือกจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินทางไปร่วมเวทีมหกรรมการขายระดับโลกในงาน World Travel Mart 2018 : WTM ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เป็นการเปิดโลกการค้าใหม่ของกลุ่มสตาร์ตอัพได้เห็นถึงกลยุทธ์ของบริษัทคู่ค้าทั่วโลกนำเสนอโปรดักต์และบริการท่องเที่ยวด้วยบริการอย่างไรบ้าง ส่วนบริษัทเองก็ได้ประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์มากคือได้คู่ค้าทางธุรกิจกลับเมืองไทย ซึ่งมีความต้องการความเป็นท้องถิ่นของไทย แต่ไม่รู้ช่องทาง จึงเป็นโอกาสให้เทค มี ทัวร์ เสนอเป็นตัวกลางนำเสนอแหล่งท่องเที่ยว 55 เมืองรองอย่างเต็มที่

อีกทั้งยังได้รับการแนะนำจากผู้เข้าร่วมชมงานเสนอแนวคิดเพิ่มให้ขยายผลถึงการนำเทรนด์กิจกรรม คู่รัก แต่งงาน ขึ้นในไทย เป็นโจทก์ที่จะนำมาพัฒนาหาแหล่งที่เหมาะสมบรรจุเป็นพื้นที่รองรับตลาดดังกล่าวด้วย โดยเลือกในจังหวัดศักยภาพ

โดยมีกลุ่มประเทศคู่ค้าจากยุโรป อเมริกา แคนาดา อินเดีย โดยสนใจโปรดักซ์ท่องเที่ยวนั้นตามปกตินักท่องเที่ยวที่มาก็คุ้นชินเป็นอย่างดีเพราะส่วนใหญ่เลือกเส้นทางยอดนิยม แต่ปัญหาคือพอนักท่องเที่ยวมาถึงไทยแล้วต้องการหาผู้ให้บริการที่เข้าถึงท้องถิ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่เทคมีทัวร์สามารถตอบสนองได้ ระหว่างการพูดคุยก็ได้ถ่ายทอดข้อมูลให้กับตัวแทนบริษัทคู่ค้าฟังถึงกลยุทธ์แตกต่างจากทั่วไปคือมีเครือข่ายคนท้องถิ่นนั้น ๆ พาท่องเที่ยวได้อย่างมืออาชีพ จึงทำให้คู่ค้าสนใจและพร้อมจะจัดส่งลูกค้าเข้ามาในปี 2562

โปรดักต์ที่นำไปเสนอคือ Local Table เป็นแนวคิดหลักการให้คนในท้องถิ่นเปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาร่วมรับประทานอาหารในบ้านของคนในชุมชนได้ สามารถตอบโจทก์ความต้องการโดนทั้งเรื่อง 1.ประสบการณ์การสัมผัสวิถีชีวิต 2.การท่องเที่ยวอาหารถิ่น หรือ Gastronomy Tourism พื้นที่ท่องเที่ยวเป้าหมายซึ่งทางตลาดยุโรปสนใจมีความหลากหลาย จึงได้เพิ่มความเข้มข้นแนะนำเที่ยว 55 เมืองรอง ด้วยการผนวกกรุงเทพฯ ไปยังสมุทรสงคราม สมุทรสาคร ส่วนภาคเหนือ พอถึงเชียงใหม่ก็ทำโปรแกรมไปเชียงราย แพร่ น่าน ทางคู่ค้าแสดงความสนใจเช่นกัน
ปัจจุบันเทค มี ทัวร์ มีเครือข่ายคนพาเที่ยวเข้ามาลงทะเบียนในระบบกว่า 25,000 ราย จากทั่วประเทศ 55 จังหวัด ปี 2562 วางแผนทำกลยุทธ์จัดบริการท่องเที่ยวชุมชนเติบโตอย่างเข้มแช็ง เรื่องที่ 1 ขยายพื้นที่ท่องเที่ยวชุมชนให้ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด ตอนนี้ยังมีไม่ครบแต่จะพยายามสร้างโอกาสทำให้ครบทั้งหมด เรื่องที่ 2 มีบริการอื่น ๆ ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาแล้วต้องการเพิ่ม ซึ่งจะต้องพัฒนาเพิ่มขึ้น บริการรับส่ง ตั๋วเข้าชมสถานที่ต่าง บริการกระเป๋าเดินทาง

เป้าหมายการท่องเที่ยวชุมชนของบริษัท เทค มี ทัวร์ ปี 2561 เติบโตกว่า 400 % ปี 2562 ก็จะรักษาให้อยู่ในอัตราใกล้เคียงกัน เพราะธุรกิจสตาร์ตอัพ สามารถเคลื่อนที่เปลี่ยนแปลงตัวเองได้เร็ว ก็สามารถขยับปรับแนวให้เข้ากับสถานการณ์ได้ง่าย

ปัจจุบันให้บริการนักท่องเที่ยวปีละกว่าจำนวนหลายพันคน ประมาณ 60 % มาจากตะวันตก อเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย ส่วนเอเชียแปซิฟิกมีประมาณ 20 % จาก สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ฮ่องกง อนาคตปีหน้าจะรุกเจาะไปยังต่างประเทศนับเป็นกลยุทธ์สำคัญ เมื่อมีฐานในไทยแข็งแรงแล้วก็จะนำเทคโนโลยีบุกเข้าไปทำการขายในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศที่มีประสิทธิภาพอันดับต้น ๆ ติดเมืองไทย มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา เพราะสามารถเดินทางได้ค่อนข้างสะดวก อีกทั้งยังสามารถเชื่อมโยงการขายไทยกับเพื่อนบ้านในตลาดยุโรปอื่น ๆ ไปได้ด้วย

นายอมรเชษฐ์กล่าวว่า ในฐานะของกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ ต้องการให้รัฐและหน่วยงานสนับสนุนเช่นเดียวกับ ททท.นำไปพบปะกับคู่ค้าในงาน WTM 2018 ซึ่งเป็นการตอกย้ำภาพความน่าเชื่อถือ เนื่องจากตอนเข้าสู่มาตรฐานบริการจนกระทั่งได้รับคัดเลือกในประเทศ แต่พอก้าวสู่ตลาดนานาชาติ เมื่อได้องค์กรรับรองความน่าเชื่อถือจึงมีน้ำหนักสูงมากในสายตาของคู่ค้าที่จะมาเจรจาธุรกิจด้วย จึงต้องการสนับสนุนช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าว ผลจากเวทีดังกล่าวพันธมิตร

รวมไปถึงใน 6 บริษัทสตาร์ต อัพ หลังจากร่วมทริปไปด้วยกันแล้ว ก็เกิดการแลกเปลี่ยนเชื่อมโยงธุรกิจเข้าด้วยกันคือ เทค มี ทัวร์ หารือแผนธุรกิจเพื่อทำโปรโมชั่นร่วมกันกับ 3 บริษัท ได้แก่ 1.Airportels กลุ่มรับส่งกระเป๋านักท่องเที่ยว สามารถทำได้ทันที เพราะมีนักท่องเที่ยวพร้อมใช้ด้วยวิธีแลกเปลี่ยนบริการ  2.Tuk Tuk Hop ให้บริการท่องเที่ยวแบบ รอบเกาะรัตนโกสินทร์ โดยนักท่องเที่ยวเรียกรถผ่าน Tuk Tuk Hop Application คิดราคา Day Pass ชำระครั้งเดียว ราคาเดียว ท่องเที่ยวได้ทั้งวัน 3. golfdigg ก็ขายร่วมกันได้เลย เพราะชาวต่างชาติอาจชอบเล่นกอล์ฟ ซึ่งกลุ่มนี้มีบริการจองสนามกอล์ฟในไทยผ่านแอพลิเคชั่นตลอด 24 ชั่วโมง ได้ถึง 35 จังหวัด กว่า 120 สนามกอล์ฟ

นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่ได้สร้างโอกาสนำธุรกิจสตาร์ต อัพ ท่องเที่ยว ก้าวไปผงาดอยู่ในเวทีโลก จนกลายเป็นการสร้างห่วงโซ่และเครือข่ายการค้าเฉดใหม่ ๆ ตอบสนองความต้องการของตลาดนานาชาติในปี 2562 เป็นต้นไป

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “อัยยวัฒน์เปิดมหานครสกายวอล์คดึงทัวร์ปั๊มเศรษฐกิจ”

"อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา" ซีอีโอ คิงเพาเวอร์  เปิด "มหานคร สกายวอล์ค" คิง เพาเวอร์ มหานคร วันแรกมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ สื่อ สมาชิก แห่เยี่ยมชมหลายพันคน อัดโปรตั๋วชมวิวพาโนรามากรุงเทพฯ 360 องศา บนความสูงที่สุด 314 เมตร ปลุกท่องเที่ยวปลายปีคึกคัก  มี.ค.62 เตรียมเปิดร้านอาหาร สกาย บาร์ เต็มรูปแบบ

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คิง เพาเวอร์ มหานคร เปิดเผยว่า เริ่มเปิดให้บริการ คิง เพาเวอร์ มหานคร ไฮไลต์แรกด้วยแลนด์มาร์กแห่งใหม่ ‘มหานคร สกายวอล์ค’ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อสร้างแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวคนไทยและนานาชาติที่เดินทางเข้ามามีโอกาสัมผัสความงดงามแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานครริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนชั้นดาดฟ้าจุดชมวิวแบบ 360 องศา และรูฟท็อปบาร์สูงที่สุดในประเทศไทย บนความสูงถึง 314 เมตร  อันเป็นความภาคภูมิใจของธุรกิจกลุ่มพลังคนไทยมุ่งมั่นจะสร้างพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไปพร้อมกับสนับสนุนการท่องเที่ยวนำรายได้จากทั่วโลกเข้าสู่ประเทศเพิ่มขึ้นทุกปี

บรรยากาศการเปิดโครงการวันแรกเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2561 มีผู้เข้าชมหมุนเวียนตั้งแต่ 10 โมงจนถึงเที่ยงคืน จำนวนนับหมื่นคน โดยมีทั้งสมาชิกที่มียอดใช้จ่ายสูงสุด นักท่องเที่ยวต่างประเทศในกลุ่มเอเชีย อาทิ จีน ญี่ปุ่น อาเซียน และกลุ่มยักท่องเที่ยวกลุ่มตะวันตก ซื้อตั๋วขึ้นไปชมวิวชั้น 74, 78 และแวะช็อปปิ้งสินค้าดิวตี้ฟรีและสินค้าแบรนด์ไทยบริเวณตั้งแต่ชั้น 1-2-3-4 ในพื้นที่รวมกว่า 2,000 ตารางเมตร  มีบริการให้เลือกช็อปได้ทั้งสินค้าป้ายขาวดิวตี้ฟรี อาทิ แบรนด์เนม น้ำหอม เครื่องสำอางค์ แฟชั่น รวมทั้งสินค้าป้ายฟ้า ไม่ต้องบินต่างประเทศก็สามารถซื้อแล้วนำกลับบ้านได้เลย อาทิ ผลิตภัณฑ์แบรนด์เลสเตอร์ สปาสุขภาพอัตลักษณ์ไทย สินค้าที่ระลึกฝีมือคนไทยหลากหลายชนิด


นายอัยยวัฒน์กล่าวว่า บริเวณชั้น 78 สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากถึงรอบละกว่า 600 คน ตั้งเป้าจากนี้ไปจะมีนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติเยี่ยมชมวันละหลายพันคน ในอนาคตช่วงเดือนมีนาคม 2562 จะเริ่มบริการร้านอาหารแบรนด์ดังที่ได้นักออกแบบเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นผู้ออกแบบร้านและวาวผังด้านอาหารมาเปิดบริการบริเวณสกาย บาร์ ด้วยเช่นกัน

เพื่อเป็นการแนะนำนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมในช่วงเปิดตัวโครงการ จึงได้จัดกิจกรรมตลอด 3 เดือน ด้วยโปรโมชั่นระหว่างวันนี้ – 31 มกราคม 2562 สามารถซื้อบัตรเข้าชมจุดชมวิวภายใน และภายนอกอาคารได้ในราคาเพียง 765 บาทเท่านั้น จากราคา 1,050 บาท ที่จุดจำหน่ายบัตรเข้าชมมหานคร สกายวอล์ค ชั้น 1 เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 10.00 – 24.00 น. รอบสุดท้าย 23.00 น.

ปกติบัตรเข้าชมจะแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่: ผู้ใหญ่ เด็ก เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีกับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป บัตรจุดชมวิวภายในอาคาร (ชั้น 74) ผู้ใหญ่ 850 บาท เด็ก 250 บาท รูฟท็อปบาร์จุดชมวิวภายในและภายนอกอาคาร ชั้น 74 และชั้น 78 ผู้ใหญ่ 1,050 บาท เด็ก 450 บาท

สำหรับมหานคร สกายวอล์ค เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่มีความโดดเด่นอย่างมาก ตั้งอยู่บน 4 ชั้นหลัก ได้แก่ ชั้น 74, 75 และ 78 ของอาคารคิง เพาเวอร์ มหานครคือ Global Landmark Destination พร้อมจะพลิกโฉมวงการท่องเที่ยวไทยในสู่เวทีโลก โดยมีไฮไลท์อยู่บริเวณชั้นดาดฟ้าทั้งภายในและภายนอกอาคาร สามารถชมวิวพาโนรามา 360 องศา   ตื่นตาตื่นใจไปกับพื้นกระจกลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และรูฟ ท็อปบาร์ พร้อมลิฟท์โดยสารความเร็วสูงมาพร้อมจอแอนิเมชั่นขนาดใหญ่สร้างสีสันได้เป็นอย่างดีด้วยความเร็วเพียง 50 นาที ก็สามารถนำนักท่องเที่ยวขึ้นไปยังจุดชมวิวชั้น 74 ได้
ประกอบด้วย 4 ชั้นเด่น ๆ  ได้แก่ ชั้น 1: ล็อบบี้ ทางเข้าหลักและจุดจำหน่ายบัตรเข้าชมมหานคร สกายวอล์ค ตกแต่งด้วยเรื่องราวของกรุงเทพมหานครตลอดทางเดินก่อนถึงลิฟท์ความเร็วสูงใช้เวลา 50 วินาทีก็นำไปถึงจุดชมวิวชั้น 74 ซึ่งเป็นจุดชมวิวภายในอาคาร (Indoor Observation Deck) มองเห็นทัศนียภาพสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในกรุงเทพมหานครผ่านระบบเทคโนโลยี AR : Augmented Reality) และมีจุดส่งโปสการ์ดจากตู้ไปรษณีย์สูงที่สุด ชั้น 75เป็นบริเวณชั้นลอย ห้องน้ำ และจุดขึ้นลิฟท์แก้ว

ขณะที่ชั้น 78 เป็นดาดฟ้าและจุดชมวิวภายนอกอาคาร (Outdoor Observation Deck) ที่จะสร้างความตื่นเต้นแก่นักท่องเที่ยว มีทั้ง 1.พื้นกระจกลอยฟ้า (Glass Tray) ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สูงเหนือพื้น 310 เมตร 2.จุดชมวิวชั้นดาดฟ้าแบบ 360 องศา ซึ่งเป็นจุดสูงสุดที่ยืนได้ในกรุงเทพฯ หรือ The Peak ที่มีความสูงเหนือพื้นถึง 314 เมตร 3.รูฟท็อปบาร์ พร้อมเครื่องดื่มและค็อกเทลสูตรพิเศษให้เลือกมากมาย

ทั้งนี้ มหานคร สกายวอล์ค เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ‘คิง เพาเวอร์ มหานคร’ มีทั้งหมด 6 ส่วน ได้แก่

1.คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี และร้านค้าปลีก (ชั้น 1-4) ศูนย์รวมสินค้าปลอดภาษีชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และแหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมระดับโลก สินค้าที่ระลึกพิเศษเฉพาะมหานคร  สกายวอล์ค สินค้าภูมิปัญญาไทยคุณภาพระดับสากล พร้อมสินค้าไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายอีกมากมาย

2.โรงแรมคิง เพาเวอร์ (ชั้น 1-18)

3.เดอะ ริทซ์ คาร์ลตัน เรสซิเดนซ์ (ชั้น 23-73) ที่สุดของความหรูหรากับที่อยู่อาศัยฟรีโฮลด์ระดับลักชัวรี่ จำนวน 209 ห้องชุด ด้วยขนาดห้องพักแบบ 2-5 ห้องนอน บนพื้นทีใช้สอยมากถึง 844 ตารางเมตร ด้วยบริการเหนือระดับและสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน

4.มหานคร สกายวอล์ค (ชั้น 1, 74, 75 และ 78) ที่สุดของแลนด์มาร์คแห่งใหม่ในกรุงเทพมหานคร กับจุดชมวิวชั้นดาดฟ้าแบบ 360 องศา ที่สูงที่สุดในประเทศไทยที่ความสูงถึง 314 เมตรเหนือพื้น กับมุมมองกรุงเทพมหานครแบบ 360 องศา และสัมผัสกับการชมวิวน่านฟ้าในรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ตื่นตาตื่นใจกับหนึ่งในพื้นกระจกลอยฟ้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และรูฟท็อป บาร์

5.มหานคร คิวบ์ แหล่งรวมร้านอาหารนานาชาติระดับเวิลด์คลาส สวรรค์ของนักชิมที่ห้ามพลาด อาทิ Dean and Deluca Flagship Store, ร้าน M Krub และ L’Atelier de Joël Robuchon

6.มหานคร สแควร์ พื้นที่กิจกรรมใจกลางกรุงเทพมหานคร สำหรับจัดงานนิทรรศการ การแสดง งานอีเว้นท์ และงานพิเศษต่างๆ กับพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร

ข่าวที่ 2 “ททท.หวังโกยไทย-เทศลอยกระทง5.7พันล้าน”

นางสุจิตรา จงชาณสิทโธ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.สนับสนุนการจัดงานประเพณีสีสันแห่งสายน้ำมหกรรมลอยกระทงทั่วไทย ในวันที่ 22 พฤศจิกายน นี้ รวม 9 พื้นที่ โดยตั้งเป้าจะสร้างเงินสะพัดประมาณ 5,700 ล้านบาท จากคนไทย 1,200 ล้านบาท จำนวนกว่า 4.65 แสนคน และปีนี้จะขยายตลาดดึงนักท่องเที่ยวพื้นที่เชื่อมโยง CLMV กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม เข้ามาเที่ยวด้วย
  โดยมี 9 พื้นที่หลัก ได้แก่ ลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม ยี่เป็ง เชียงใหม่ กระทงไหลประทีป 1,000 ดวง จ.ตาก  เรื่อยไปจนถึง ราชบุรี  ลำปาง  พระนครศรีอยุธยา  ร้อยเอ็ด และกรุงเทพฯ
สำหรับจังหวัดอื่น ๆ ก็มีไฮไลต์จัดงานด้วยเช่นกัน ได้แก่ งานเผาเทียน เล่นไฟ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ จ.สุโขทัย
 ข่าวที่ 3 “ไทยจัดอะเมซิ่งมาราธอนปั๊มทัวร์ต้นปี62”

นางสุจิตรา จงชาณสิทโธ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท.กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ร่วมมือกับหน่วยงานหลัก ๆ ทั้งการกีฬาแห่งประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร และไทยแลนด์ไตรลีก เปิดตัวการแข่งขันวิ่งมาราธอน “วิ่งผ่าเมือง” ระดับเอเชีย ครั้งที่ 2  รายการ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบ็งค็อก 2019 บาย โตโยต้า” โดยตั้งเป้าสร้างกระแสท่องเที่ยวเชิงกีฬาช่วงต้นปี 2562 กระตุ้นนักวิ่งทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมร่วมแข่งขัน 25,000 คน สร้างรายได้กว่า 500 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงพยายามขยายผลให้กลายเป็นมาราธอนแห่งเอเชีย

ส่วน ททท.จะใช้กระแสกีฬาวิ่งกำลังได้รับความนิยมสูงสุด ช่วงไตรมาสแรกปี 2562 ดึงคนเข้าร่วมการแข่งขันเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติกว่า 5,000 คน สร้างรายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมในระบบเศรษฐกิจ
ทั้งนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งเป้าภายใน 3 ปี อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน จะเป็นรายการที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาร่วมมากที่สุดรายการหนึ่งของเอเชีย

ข่าวที่ 4 “บางจากลุยแผนปี’62รุกNon Oil2พันล้าน”

นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2562 เตรียมลงทุนขยายสถานีบริการน้ำมัน และธุรกิจ non-oil ประมาณ 2,000 ล้านบาท เร่งผลักดันปริมาณขายน้ำมันปีหน้าเติบโต 7-8% สูงกว่าปี 2561 ซึ่งมีปริมาณขายอยู่เดือนละ 335 ล้านลิตร เติบโต 6%  ช่วงปี 2561-2562 ปริมาณขายน้ำมันของบางจากสูงกว่าตลาดที่ขยายตัวเพียง 3%

สถานการณ์ 8 เดือนแรก ปี 2561 ยอดขายผ่านปั๊มเติบโต 6% ตลอดทั้งปีตั้งเป้ามีส่วนแบ่งตลาดราว 15% 8 เดือนแรกทำได้ถึง 15.8% เป็นผลมาจากการเพิ่มสถานีบริการต่อเนื่อง 2 ปี  150 แห่ง  ตั้งแต่ปี 2560 เพิ่ม 72 แห่ง สิ้นปี 2561 เปิดใหม่อีก 77 แห่ง  ภายในสิ้นปีนี้จะมีรวม 1,170 แห่ง มากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ

ปี 2562 วางแผนเปิดเปิดร้านกาแฟอินทนิล อีก 200 แห่ง  สิ้นปีนี้มีรวม 550 แห่งกับ ร้านซูเปอร์มาร์เก็ต SPAR จะเปิดอีก 20-30 สาขา สิ้นปีนี้จะมีทั้งหมด 44 สาขา

ช่วงที่ 2 ชวนไปแอ่วเหนือบนดอยสูงที่ “ไร่กาแฟดอยมณีพฤกษ์” สุดยอดเมืองรองที่จังหวัดน่าน พร้อมแนะ “การบริหารสมองป้องกันความจำเสื่อมก่อนวัย” และฟังข่าวเด็ด ๆ ปทุมเปิดเมืองจัด2เทศกาลใหญ่ลอยกระทง 22 พ.ย. ส่วนนนทบุรี ผนึก 5 จังหวัด จัด เจ้าพระยา ณ นนท์ 23-25 พ.ย.ระดมของดีเด่นมาให้นักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจ “3 องค์กรการบินอินเตอร์ หนุนให้เร่งสร้างสุวรรณภูมิหลังที่ 2” ก่อน 82 แอร์ไลน์สจะลดเที่ยวบิน “เฟรเซอร์สผุดโรงแรมในกีฬาแห่งแรกของโลก” ที่จังหวัดบุรีรัมย์ “โรงแรมอินดิโก้ กรุงเทพฯ” จัดฤดูแห่งการกินเมนูเห็ดทรัฟเฟิล ตลอด พ.ย.นี้

@เที่ยวไร่กาแฟน่านที่สุดของเมืองไทย

หนาวนี้ขึ้นเหนือแอ่ว “เมืองน่าน” ตามกลิ่นอโรมาของแหล่งกาแฟขึ้นชื่อ “ไร่กาแฟดอยมณีพฤกษ์” แหล่งท่องเที่ยวเชิงการเกษตรบนที่สูง ศูนย์รวมนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ พากันไปนั่งชีลในบรรยากาศอันอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของโรงคั่วกาแฟยอดนิยมสายพันธุ์ “เกอิชา” ได้ชื่อว่าราคาแพงอันดับต้น ๆ ของโลก

ไร่กาแฟบนดอยสูงแห่งนี้มีวิถีของ “ชาวเขาเผ่าเมี่ยน” ใช้ชีวิตทำการเกษตรปลูกกาแฟอาราบิก้าร์คาร์ติมอร์ ซึ่งมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนในหมู่บ้าน “สันเจริญ” อำเภอบ่อเกลือ นอกจากกาแฟจะอร่อยแล้ว บรรยากาศบนยอดดอยสูงยังแสนจะวิเศษ เหมาะจะกางเต็นท์นอนกลางธรรมชาติ เพื่อชมดาวยามค่ำคืน ตื่นขึ้นมาก็นั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอก ระหว่างนั้นก็นั่งจิบกาแฟเกอิชาไปพลาง ๆ

แหล่งท่องเที่ยวดี ๆ ที่ต้องห้ามพลาดในเมืองน่านมีหลายแห่งควรเที่ยว แห่งแรก “อุทยานแห่งชาติดอยภูคา” แหล่งกำเนิดแม่น้ำสายสำคัญหล่อเลี้ยงชาวน่านาอย่างยาวนาน ทั้งแม่น้ำปิง ลำน้ำปัว แถมยังเป็นแหล่งดูพันธุ์ไม้หายากสุดในโลก “ต้นชมพูภูคา” รายล้อมด้วยป่าปาล์มดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่ละลานตา

แห่งที่สอง “ดอยเสมอดาว” ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน เป็นลานกว้างโค้งไปตามสันเขา เป็นอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวเชิงผจญภัยชอบไปนอนนับดาวอย่างใกล้ชิด และตื่นขึ้นมารับแสงทองของดวงอาทิตย์ หรือรอเก็บตะวันตอนลับขอบฟ้า สวยอย่าบอกใครทีเดียว
บริเวณใกล้กับดอยเสมอดาวมีจุดชมวิวแสนสวยอยู่ด้วยคือ “ผาหัวสิงห์” จินตนาการได้ว่าคล้ายเห็นสิงห์โตนอนหมอบอยู่นั่นเอง

@บริหารสมองป้องกันเสื่อมก่อนวัย

ภาวะสมองเสื่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดขึ้นในวัยชรา แต่ไม่ใช่ผู้สูงอายุทุกคนต้องเป็นภาวะสมองเสื่อม หากเรามีการดูแลและบริหารสมองอย่างสม่ำเสมอ

1.ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายมีส่วนช่วยอย่างมากในการชะลอภาวะสมองเสื่อม และยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองด้วย ควรออกกำลังกายต่อเนื่องอย่างน้อย30 นาทีต่อครั้ง สัปดาห์ละ 3 ครั้ง

2.เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสมอง ได้แก่

ทานอาหารให้ครบ 5  หมู่    หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลสูงให้เน้นรับประทานเนื้อปลา ผัก และผลไม้   อย่าให้ร่างกายขาดวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินบี 1  และบี 12   ที่ทำหน้าที่ช่วยให้การทำงานของเซลล์สมองเป็นไปอย่างปกติ โดยวิตามินบี 1   พบในข้าวซ้อมมือเมล็ดถั่วแห้ง เครื่องในสัตว์ ตับ    ไข่แดง และผักใบเขียว (ผู้ป่วยที่ขาดวิตามินบี 1 มักเป็นผู้ป่วยติดสุราเรื้อรัง) ส่วนวิตามินบี 12   พบในอาหารจากเนื้อสัตว์ (ผู้ป่วยที่ขาดวิตามินบี 12 มักพบในผู้ที่ทานมังสวิรัติเคร่งครัดเป็นเวลานานหลายๆ ปี

3.หลีกเลี่ยงยาหรือสารที่ทำอันตรายสมอง เช่น การดื่มสุราหรือการใช้ยาโดยไม่จำเป็น เป็นต้น

4.หมั่นเข้าสังคมหรือหากิจกรรมทำ โดยเฉพาะผู้สูงอายุวัยเกษียณ แทนการจับเจ่าอยู่กับบ้าน

5.ระมัดระวังอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการลื่นล้มที่จะมีผลกระทบกระเทือนต่อสมองโดยตรง

6.ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะหากมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูงควรต้องติดตามการรักษาและปฏิบัติตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

7.บริหารสมองด้วยการฝึกทำกิจกรรมที่ต้องใช้ความคิดและเพิ่มการทำงานของสมอง เช่น บวกลบคูณหารตัวเลข วาดรูป เล่นเกมเพี่อให้ฝึกใช้ความคิด

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “3องค์กรบินอินเตอร์หนุนสร้างสุวรรณภูมิหลัง2”

นายธีระ บัวศรี ประธานคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินประเทศไทย (Airline Operators Committee Bangkok: AOC) เปิดเผยว่า ล่าสุด 3 องค์กรการบินเอกชน ทั้ง AOC สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) และ คณะกรรมการตัวแทนจากสายการบิน (Board of Airline Representatives: BAR) หารือกันโดยมีความเห็นให้รัฐบาลเดินหน้าก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ด้านทิศตะวันออกของสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อแก้ปัญหาความแออัดของผู้โดยสาร

โดย AOC มีสมาชิกนานาชาติ 82 สายการบิน 82 ราย ประชุมร่วมกันแล้วก็เห็นตรงกันที่จะต้องเร่งขยายอาคารผู้โดยสาร ก่อนที่สายการบินนานาชาติจะลดเที่ยวบินลง เพราะขณะนี้สุวรรณภูมิ มีผู้โดยสารใช้บริการปีละ 62 ล้านคน ทั้ง ๆ ขีดความสามารถในการรองรับมีเพียงปีละ 45 ล้านคน ทำให้เกิดความแออัดสร้างความเดือดร้อนทุกเรื่องทั้งผู้โดยสาร สายการบิน และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เมื่อมีอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ขนาด 5 ชั้น แยกผู้โดยสารออกจากกัน เพิ่มพื้นที่รองรับได้อีกปีละ 30 ล้านคน นอกจากจะทำให้การเช็คอินสะดวก แล้ว ยังเดินไปยังอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 ได้ ทั้งทางเดินเท้า รถไฟขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ

ข่าวที่สอง “ปทุมจัดใหญ่2งานลอยกระทง22พ.ย.”

นายพินิจ  บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด เตรียมจัดงานประเพณีลอยกระทงประจำปี 2561 ในวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน นี้ 2 งานหลัก งานแรก “ปทุมบูชา ตระการตาเพ็ญเดือนสิบสอง” บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด (หลังเก่า) ปทุมธานี งานที่ 2  “ตำนานสายน้ำปทุมธานี วิถีไทยรามัญ” บริเวณวัดสุราษฎร์รังสรรค์ อำเภอสามโคก

เพื่อเล่าขานตำนานดอกบัวแห่งเมืองปทุม และสะท้อนเอกลักษณ์ของชุมชนชาติพันธุ์ไทย-รามัญ พร้อมกิจกรรมมากมาย การประกวดกระทงชิงถ้วยรางวัลจากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี สร้างรายได้กระจายสู่ท้องถิ่นด้วยเทศกาลงานประเพณีที่มีมาอย่างยาวนาน

ข่าวที่สาม“นนท์บูมจัด5จังหวัดเจ้าพระยา23-25พ.ย.”

นายอำพล อังคภากรณ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ จัดมหกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงวัฒนธรรมลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนกลางในชื่อ   “เจ้าพระยา ณ นนท์”  ระหว่าง 23 – 25 พฤศจิกายน 2561  เวลา 16.00 – 22.00  น. บริเวณใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ (ฝั่งศาลหลักเมืองเดิม) อำเภอเมือง จ.นนทบุรี

โดยได้เชื่อมโยงการท่องเที่ยวในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา 5 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และสิงห์บุรี นำของดีมาร่วมมีทั้งศิลปวัฒนธรรม ผลิตภัณฑ์ หัตถกรรม เพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการ โดยกิจกรรมดังนี้

1. การแสดงศิลปวัฒนธรรม ประเพณี และศิลปินชื่อดังของไทยเริ่มช่วง 18.00 – 22.00 น ทุกวัน  วันที่ 23 พ.ย.เริ่มด้วยการแสดงศิลปวัฒนธรรมของปทุมธานีและนนทบุรี และพิธีเปิดงานด้วยเพลงที่ประพันธ์เฉพาะงานนี้คือเพลง เจ้าพระยา ณ นนท์ กับคอนเสิร์ต ไมค์ ภิรมย์พร  วันที่ 24 พ.ย.การแสดงศิลปวัฒนธรรมของพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และนนทบุรี คอนเสิร์ตของแก้ม วิชญาณี-เดอะสตาร์ พร้อมความบันเทิงครบ
  วันที่ 25 พ.ย.ปิดท้ายด้วยการแสดง ศิลปวัฒนธรรมของสิงห์บุรี และพิเศษการแสดงแนวแร็พจากศิลปินแร็พอีสาน ดวลกันกับคอนเสิร์ต ณ นนท์ ของทอดด์ ทองดีและศิลปิน 10 กว่าชีวิต

  2. นิทรรศการ และการสาธิตวิธีการทำเครื่องปั้นดินเผา เครื่องดนตรี และขนมไทย

  3. กิจกรรมสัมมนา การเชื่อมโยงระหว่าง 5 จังหวัด นี้โดยมีวิทยากรที่มีชื่อเสียงในด้านหัตถกรรมการท่องเที่ยวและศิลปวัฒนธรรมมาบันดาลเยาวชนที่มาจาก 5 จังหวัดที่นิยม  ยกหยิบเรื่องราวใกล้ตัวในพื้นถิ่นของเขามาสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นบทกลอน เป็นเพลง เป็นผลิตภัณฑ์ เป็นอาหารเพื่อต่อยอดการเชื่อมโยงกับสะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ เป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมของแม่น้ำกับแผ่นดิน เมืองกับชนบทคนไทยกับชาวต่างชาติและคนเราทุกคนใน 5 จังหวัดลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา

  4. ผลิตภัณฑ์ OTOP อาหาร และร้านค้ากว่า 60 บูธ เช่น อาหาร หัตถกรรมผลิตภัณฑ์คุณภาพ งานโอท็อปนวัตวิถีนนทบุรีอีก 100 บูธ

ข่าวที่สี่ “เฟรเซอร์สผุดโรงแรมสนามกีฬาแรกในโลกที่บุรีรัมย์”

Thonya Klong รองประธานผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Frasers Hospitality กล่าวว่า ได้เลือกเปิดโรงแรมน้องใหม่แบรนด์เฟรเซอร์สขึ้นในจังหวัดบุรีรัมย์เป็นโรงแรมแบรนด์ Modena by Fraser Buriram แห่งแรกในโลกที่เปิดในสนามกีฬา จำนวน   152 ห้อง ซึ่งจะมีบริการฟรี WiFi ระบบความบันเทิงในบ้านสระว่ายน้ำศูนย์ออกกำลังกายตลอด 24 ชั่วโมงห้องประชุมเครื่องซักผ้าและบาร์ภัตตาคาร ผสมผสานเข้ากับความโดดเด่นของพื้นที่ที่มีสนามฟุตบอลมาตรฐานฟีฟ่า ทั้ง ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และช้าง อารีน่า

อีกทั้งบุรีรัมย์ยังมีจุดขายทางด้านการท่องเที่ยว ร่ำรวยด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และอารยธรรมขอมมานานนับพันปีของปราสาทพนมรุ้งที่กำลังจะเสนอชื่อให้เป็นมรดกโลกในอนาคต เชื่อมโยงเข้ากับการเป็นศูนย์กลางกีฬาที่สำคัญในเอเชีย

ข่าวที่ห้า “อินดิโก้จัดเต็มเมนูเห็ดทรัฟเฟิลตลอดพ.ย.นี้”
โรงแรม โฮเต็ล อินดิโก้ กรุงเทพ ถนนวิทยุ และห้องอาหารชาร์ ชวนสัมผัสกับที่สุดแห่งอรรถรสทางอาหารและความอร่อยเลิศ ตลอด พ.ย.2561 โดยได้รังสรรค์จากวัตถุดิบชั้นเลิศระดับโลก เห็ดทรัฟเฟิลอันโด่งดังอิตาลี นำมาปรุงรสชาติและกลิ่นหอมมาปรุงในเมนูจานเดี่ยว ในแบบฉบับของเชฟ นิโคลัส รามิเรซ มีทั้งอาหารเรียกน้ำย่อย เมนูจานหลัก หรือ จะออนท็อปบนของหวานต่าง ๆ ราคาเพียง 400++ บาท ต่อกรัมสำหรับเห็ดทรัฟเฟิลขาว และ 200++ บาท ต่อกรัม สำหรับเห็ดทรัฟเฟิลดำ เชิญชิมได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2561 เวลา 18.00 น. – 24.00 น.

เห็ดทรัฟเฟิลขาวได้ชื่อว่าแพงที่สุดในโลก เป็นเกรดพรีเมี่ยมส่งตรงจากอัลบ้าเมืองทางตอนเหนือของอิตาลี “อัลบ้าไวท์ทรัฟเฟิล” ด้วยความจำกัดของ เห็ดทรัฟเฟิลขาว ที่ขึ้นในช่วงปลายปีเท่านั้น

โทร 02 207 4999 หรือดูเพิ่ม ที่ www.charbangkok.com
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00 -12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0

จับตา!!ต่างชาติเที่ยวไทยแผ่ว3เดือนแรกไม่ถึง10ล้านคน

  นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 1 ม.ค.-31 มี.ค.2568 ได้แค่ 9.5 ล้านคน จับตา !! ต่างชาติเที่ยวไทยแผ่ว 3 เดือนแรกไม่ถึง 10 ล้านคน เม.ย.นี้ร...