วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2563

ททท.ปลุกทั่วไทยช้อป“ออนไลน์ผลไม้ภาคตะวันออก” ระยองชูโปรแรงซื้อ500ลด100บาท-จันทบุรีบูม13สวน


ททท.ปลุกทั่วไทยช้อป“ออนไลน์ผลไม้ภาคตะวันออก”ระยองชูโปรแรงซื้อ500ลด100บาท-จันทบุรีบูม13สวน

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคตะวันออก
เชิญชวนสนุกกับการช้อปออนไลน์ อุดหนุนเทศกาลผลไม้ชาวสวนระยอง จันทบุรี ระหว่างวันนี้-30 มิ.ย.2563

ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก เชิญชวนแฟนคลับ Fruit Lovers ทั่วฟ้าเมืองไทย ร่วมเติมความสุขต้อนรับเทศกาลผลไม้ ลุยสั่งซื้อผ่านออนไลน์  เฟสบุ๊ค ไลน์ โทรศัพท์สายตรง จากชาวสวน “ระยอง-จันทบุรี” ได้ตั้งแต่วันนี้-30 มิ.ย.63 “ททท.ระยอง” ปิ๊งจัดโปรแรง 40 สวน จ่าย 500 บาท ลดทันที 100 บาท ส่วน “จันทบุรี” ชูทุเรียนเกรดเอ สารพัดผลไม้ บริการเดลิเวอรี่ถึงประตูบ้านทั่วประเทศ

นายวิบูลย์ นิมิตรวานิช
ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคตะวันออก

นายวิบูลย์ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคตะวันออก เปิดเผยว่า มีนโยบายส่งเสริมสำนักงานแต่ละพื้นที่ เดินหน้าสนับสนุนชาวสวนจัดทัพผลไม้นำมาวางขายผ่านช่องทาง “ออนไลน์และโซเชียลมีเดีย” เชิญชวนผู้บริโภคทั่วประเทศสั่งจองซื้ออุดหนุนชาวชุมชนชายฝั่งทะเลตะวันออกใน “ระยอง-จันทบุรี” ระหว่างวันนี้ต่อเนื่องไปจนมิถุนาย 2563 นี้ ห้ามพลาดอิ่มอร่อยกับ ราชาผลไม้อย่าง “ทุเรียน” และราชินีผลไม้อย่าง “มังคุด” รวมทั้งผลไม้ประจำถิ่นอย่าง สละ ลองกอง  มีผลผลิตทยอยออกสู่ตลาดแล้ว
ถึงปีนี้จะไม่ได้เดินทางไปสวนต้องปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่บรรดาแฟนพันธุ์แท้ Fruit Lovers ทั่วฟ้าเมืองไทย  เพียงคลิกผ่านช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย เฟสบุ๊ค ไลน์ หรือจะโทรศัพท์ โดยตรงไปถึงแต่ละสวน เพียงเท่านี้ก็สามารถหาซื้อผลไม้ภาคตะวันออกมารับประทานได้ตามปกติอย่างมีความสุขได้เช่นกัน
นายอัครวิชย์ เทพาสิต
ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง
นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง เปิดเผยว่าตั้งแต่ พฤษภาคม - 30 มิถุนายน 2563 ได้จัดแคมเปญ 60 วัน พรีเมียมทุเรียนระยอง” เชิญชวนผู้บริโภคทั่วประเทศอุดหนุนสวนผลไม้ที่ได้รับรองมาตรฐานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีส่วนต่าง ๆ ให้เลือกซื้อได้ตามความชอบ โดย ททท.เข้าไปช่วยชาวสวนทำโปรโมชั่นตลอดตลอด 2 เดือนนี้ เมื่อสั่งซื้อผลไม้ออนไลน์ของชาวระยองมูลค่า 500 บาทขึ้นไป/ครั้ง รับทันทีส่วนลด 100 บาท มีสวนที่เข้าร่วมโครงการ 40 สวน สามารถเข้าไปดูรายชื่อสวนผลไม้ทางเพจเฟซบุ๊ค ททท.ระยอง หรือสั่งตรงทางโทรศัพท์ Line Facebook ของแต่ละสวนได้ด้วยเช่นกัน
            ผลไม้ไฮไลต์ประจำเทศกาลคือ “ทุเรียน” สารพัดสายพันธุ์ ตอนนี้ผลผลิตทยอยสุกพร้อมเปิดสั่งจองได้แล้ว เช่นเดียวกับผลไม้ชนิดอื่น ๆ ทั้ง เงาะ มังคุด ลองกอง สละ (มีขายตลอดทั้งปี) กระจายตามสวนต่าง ๆ ครอบคลุมใน 4 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอบ้านค่าย อำเภอแกลง อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง ดังนี้

สวนผลไม้ผู้ใหญ่สมควร จ.ระยอง มีทั้งทุเรียน มังคุดร้อยปี
และผลไม้ภาคตะวันออกหลากหลายชนิดให้เลือกสั่งซื้อออนไลน์
“อำเภอเมือง”  มีให้เลือกมากที่สุดถึง 20 สวน ได้แก่  1.สวนลำดวน มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง ชะนี พวงมณี โทร. 08-9933-3798 / facebook : สวนลำดวน 2.สวนผู้ใหญ่สมควร มีทุเรียนหมอนทอง ชะนี นกกระจิบ พวงมณี ก้านยาวและมังคุด โทร. 08-1761-9497, 08-3062-7824 , facebook : สวนผู้ใหญ่สมควร ท่องเที่ยวเชิงเกษตร 3.สวนแสงแดด มีทุเรียนหมอนทอง กับชะนี  โทร. 08-6123-9201, 06-1645-5962  , facebook : สวนแสงแดด 
4.สวนคุณมะปราง มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง ชะนี โทร. 08-6818-6244, 09-4818-5228, Line : @ning 08-6818-6244, facebook : สวนคุณมะปราง-บ้านย่าติ๊ด  5.สวนลุงประเสริฐ มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง ชะนี พวงมณี กระดุม นกกระจิบ ก้านยาว โทร. 08-5277-0684, 08-2858-4402, facebook : สวนลุงประเสริฐ  6.สวนภีมรภัทร มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง โทร. 08-5430-0011, 08-5430-0022 , facebook : สวนภีมรภัทร ระยอง
7.สวนเรไร มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง ชะนี โทร.08-0600-1218, 08-1949-5329, facebook : สวนเรไร  8.สวนมีสบาย มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง  โทร.08-4566-8546, 08-9938-6585, facebook : สวนมีสบาย  9.สวนวรินทร มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง กระดุม ชะนี พวงมณี ก้านยาว โทร. 09-2959-6462 , facebook สวนวรินทร

10.สวนวิเศษ มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง กระดุม ชะนี พวงมณี เรื่อยไปจนถึง เงาะ มังคุด ลองกอง โทร.08-1431-1986 , facebook :Wised Garden 11.สวนนิมิต มีให้เลือกหลายอย่าง ทั้ง หมอนทอง ชะนี เงาะ มังคุด ลองกอง โทร. 09-4484-4175, 08-1985-4513 , facebook :สวนนิมิต ผักปลอดสาร สลัดปลอดภัย  12.สวนธรรมเจริญ มีทั้งทุเรียนหมอนทอง ชะนี เงาะ มังคุด ลองกอง โทร.08-6099-8638, 08-9968-3823 , facebook :สวนธรรมเจริญ
13.สวนปาหนัน มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง ชะนี มังคุด สละ ลองกอง โทร.09-8845-9659 , facebook : สวนปาหนันโฮสเตย์ 14.สวนผู้ใหญ่เสวตร มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง ชะนี มังคุด สละ ลองกอง โทร. 08-4870-8238, 08-6157-3182 ,  facebook : สวนผู้ใหญ่เสวตร  15.สวนงามสุขโฮมสเตย์ มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง ชะนี  โทร. 08-5951-7616, 08-1945-7174 , facebook : สวนงามสุขโฮมสเตย์ 
16.สวนสง่าสินธุ ขายมังคุด โทร. 08-2333-8614 , facebook : สวนสง่าสินธุ 17.สวนมังคุดไทย (สวนคุณปัญญา) มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง ชะนี และมังคุด โทร.08-1694-7527, 08-5912-8627 , Line : 08-1694-7527 , facebook : สวนมังคุดไทย ระยอง 18.มีสุขฟาร์ม มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง ชะนี ก้านยาว เงาะ ลองกอง สละ มะไฟ  โทร. 08-1889-0331, 09-8818-8993, 08-1033-4489 , Line : 08-1889-0331 , facebook : Mesook Farm  

19.สวนสุกัญญา มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง ชะนี กระดุม เงาะ มังคุด ลองกอง โทร.08-9227-0603/ Line : 08-9227-0603 , facebook : บ้านสวนสุกัญญา 20.สวนสวัสดิ์ล้น มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง ก้านยาว กระดุมทอง นกหยิบ หลงลับแล ชะนี มังคุด ลองกอง ขนุน กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า โทร.08-8196-4942 /Line : pat.nisa,  facebook : Sawatlons Orchard สวนสวัสดิ์ล้น 
“อำเภอบ้านค่าย”  3 สวน ได้แก่ 1.บ้านสวนผลไม้ป้าเพียร มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง ชะนี กระดุม และมังคุด โทร.08-9784-7899, facebook : บ้านสวนผลไม้ป้าเพียร 2.สวนสุภัทราแลนด์ มีทุเรียนสายพันธุ์ พวงมณี ชะนี หมอนทอง กระดุม มังคุด เงาะ มะม่วง สละ  โทร. 08-1588-1519, 0-3889-2048, Line : 08-1588-1519 , facebook : สวนสุภัทราแลนด์   3.สวนประสมทรัพย์  มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง ชะนี พวงมณี ก้านยาวเงาะ มังคุด ลองกอง สละ โทร. 08-1481-6598, 08-1377-3056 , Line : 08-1481-6598  
“อำเภอแกลง”  6 สวน ได้แก่ 1.สวนบ้านเรา มีทุเรียนสายพันธุ์ กระดุม พวงมณี หมอนทอง ชะนี จันทบุรี 1-โทร. 08-1804-4169, 08-1864-6533 Line @suanbaanrao , facebook สวนบ้านเรา 2.สวนลุงถิง มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง ชะนี มังคุด ลองกอง กระท้อน โทร.08-3010-4488, 09-7230-4488 3.สวนคุณประยูร มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง ชะนี พวงมณี นวลทองจันท์ ย่ำมะหวาด โทร. 08-8231-8413, 08-2473-2305, 08-7711-8858 , facebook : สวนคุณประยูร 

4.สวนสละคุณพิชัย มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง ชะนี พวงมณี ก้านยาว นกกระจิบ กบชายน้ำ  มังคุด สละ สละลอยแก้ว โทร.08-1782-4645, 08-7686-0418 , Line : 08-1782-4645   5.สวนคุณน้อย มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง พวงมณี นกหยิบ เงาะ มังคุด สละ โทร. 08-9025-5259, 08-1940-4384 , Line :08-1940-4384, facebook : สวนคุณน้อย 6.สวนลุงเสริม มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง ชะนี ก้านยาว นวลทอง ทองกมล แกลง 1 เบอร์ติดต่อ : 08-9833-2880, 08-2220-7277, 08-1850-7631  
“อำเภอวังจันทร์” 2 สวน ได้แก่ 1.บ้านสวนกลชาญ มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง พวงมณี มังคุด เงาะ ลอง กระท้อน ขนุน โทร.09-9154-9024, 09-5226-4978 , facebook : บ้านสวนกลชาญ  2.สวนศิวดุลย์ มีทุเรียนสายพันธุ์ หมอนทอง พวงมณี มังคุด เงาะ ลอง กระท้อน ขนุน  โทร.09-0003-0426 , Line : 09-0003-0426 /facebook : สวนทุเรียนศิวดุลย์ 

ททท.จันทบุรีหนุน13สวนผลไม้ขายออนไลน์4ช่องทาง

นางสาวเสาวนีย์ คนกล้า
ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจันทบุรี
 

นางสาวเสาวนีย์ คนกล้า ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจันทบุรี เปิดเผยว่า ได้ร่วมสนับสนุนเจ้าของสวนผลไม้ เดินหน้าขายออนไลน์ตลอดเทศกาลผลไม้ พร้อมบริการ Delivery ส่งถึงบ้าน นำร่อง 13 สวน สามารถสั่งตรงจากสวนได้ถึง 4 ช่องทาง คือ โทรศัพท์ เฟซบุ๊ค Line และเว็บไซต์ ดังนี้

1.สวนพ่อรวย (Pho Ruay Garden) โทร. 039-471878 , 087-7495667, 08-1295-3149 ID Line : Pattayawadee Facebook : Rich Dad Farm

2.สวนสละเฮียถึก (Sala Heiy Teuk Garden) โทร.081-982-2551, 081-940-1290 Facebook : สวนสละเฮียถึก

3.บ้านสวนอิสรีย์ เกษตรอินทรีย์และฟาร์มม้าเมืองจันท์ (Issaree Organic Orchanic Orchahard&Thai Hores Farm at Chanthaburi) โทร : 089-990-9141, 092-557-4643
Line : rittiyotee Facebook : บ้านสวนอิสรีย์ เกษตรอินทรีย์และฟาร์มม้าเมืองจันท์

สวนทุเรียนในจันทบุรี พร้อมแล้วที่จะเก็บผลผลิตส่งขายออนไลน์ ทั่วประเทศ ระหว่างวันนี้-มิถุนายน 2563

4.สวนป้าแกลบ แอนด์ โอทอป ( Paglaeb Garden and OTOP) โทร. 061-9365446, 098-3574553 เว็บไซต์:  www.pakleb.com ID Line: @Paglaeb Facebook : สวนป้าแกลบ & OTOP

5.สวนตาบุญช่วย โทร. 065-9969655 , 098-6322893 Facebook : สวนตาบุญช่วย

6.สวนรินรดี (Rinradee Garden) โทร.086-0516100 , 081- 5780023 ID Line: @rinradee
Facebook : @rinradeegarden

7.บ้านสวนรัชนาฏ (Baan Suan Ratchanat) ID Line: @rinradee โทร.086 328 6733, 096-2369265 ID Line: baansuanratchanat Facebook : บ้านสวนรัชนาฏ

8.สวนภูทิพย์ธารา (Phuthiptara) โทร.094-239-9445 , 065-3289229 ID Line: @Phuthiptara
Facebook:  สวนภูทิพย์ธารา
9.สวนสาวสุดใจ (Saw Sudjai Garden) โทร. 082-2089596, 081-3773190 Line : sawsudjai
Facebook : สวนสาวสุดใจ
10.สวนลุงฉัตร (Lung Chat Garden) โทร.090-7719101,  Facebook:  สวนลุงฉัตร            
11.สวนเจริญชัย (Charoenchai Garden)   โทร.081-3773558, 099-2178715
Facebook : สวนเจริญชัย 

12.สวน เคพี การ์เด้น จันทบุรี (KP Garden Chanthaburi) โทร.039-323201-05, 086-5662419
ID Line:  @kpgarden Facebook:  Kpgarden Charoenchai Farm

13.สวนรัฐไท (9 สวนอินทรีย์) (Ratthai Organic Garden) โทร.063-2262251,098-5655840,084-9450626 ID Line : 063-2262251 Facebook :   9 สวนอินทรีย์ กลุ่มรัฐไท             

ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก ทั้งสำนักงาน ระยองและจันทบุรี เชิญชวน แฟนพันธุ์แท้ เหล่าสาวก Fruit Lovers ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง สละ และผลไม้แต่ละชนิด รักชอบสวนไหน เลือกช้อปออนไลน์ได้ตามสะดวก ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2563  แล้วห้ามพลาดขอรับโปรโมชั่นแรง ๆ ได้ตลอดเทศกาลปีนี้
เรื่องและภาพโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน บล็อกเกอร์ #gurutourza #ทททบูมออนไลน์เทศกาลผลไม้ระยองจันทบุรี
เปิดออนไลน์ เพจfacebook, Line โทร.ตรง สั่งซื้อผลไม้ชาวสวนระยอง จันทบุรี ด่วน ๆ
แต่ละสวนมีสินค้าเกรดเอ คุณภาพดี บริการส่งทั่วไทยในช่วงเทศกาลผลไม้ปี 2563


วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563

หวยล็อก!!การบินไทยในวัย 60 ปีต้องอยู่รอดเพื่อชาติ เบื้องลึกรัฐบาลกู้ซากผ่าภูมิคุ้มกันบกพร่องยุคไวรัสโควิด

หวยล็อก!!การบินไทยในวัย 60 ปีต้องอยู่รอดเพื่อชาติ
เบื้องลึกรัฐบาลกู้ซากผ่าภูมิคุ้มกันบกพร่องยุคไวรัสโควิด

เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #หวยล็อกฟื้นฟูการบินไทยวัย60ปี

มีคำถามมากมายเกิดขึ้น หลังจาก "ดร.สมคิด จทตุศรีพิทักษ์" รองนายกรัฐมนตรี ยกทีมกระทรวงการคลัง เจ้าของ "การบินไทย" สายการบินแห่งชาติ" หลบม็อบหน้ากระทรวง เดินทางไปนั่งถกกับ "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เจ้ากระทรวงกำกับดูแลการบินไทย คุยเป็นทางการกันมา 2 รอบ แต่ก็ไม่มีข้อสรุปตอบสังคมชัด ๆ

ต้องโยนให้ "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี ผู้นำประเทศ ในฐานะประธาน คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เคาะเองเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2563
ด้วยปัจจัยแวดล้อมตอนนั้นจึงดูเสมือน "หวยจะล็อกมาแล้ว"  คือ


1.อุ้มโดยรัฐอนุมัติเงินสำรองจ่ายค่า Operation cost ช่วง พ.ค.63 ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท

2.กำลังตัดสินใจจะเฉือนเนื้อขายหุ้นในเครือข่ายคลังบางส่วนให้นายทุนใหม่ เพื่อแปลงร่างธุรกิจสู่ Next Normal ใส่กลิ่นเอกชนเข้าไปบ้าง

3.ยกเครื่องเป็นครั้งที่ร้อย เรื่องการปัดฝุ่นทำ Business Unit Model 5 BU เช่น ศูนย์ซ่อม ครัวการบิน Groud Service Handing (GSH ) ตอนนี้จับตาดู AOT ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่แข็งแกร่งสุดในปฐพี AOT เตรียมตั้งบริษัทร่วมทุนธุรกิจพวกนี้ แต่จะร่วมทุนกับ TG หรือเปล่า ต้องถามพ่อใหญ่ กระทรวงการคลัง

4.จะยุบและเลิกจ้าง FAT ทั้งหลายในการบินไทย ไขมันอยู่ตรงไหนเฉือนทิ้งให้เกลี้ยงมากที่สุด เพื่อทำตัว Lean อย่างจริงใจ

5.ทำให้ Good Governance มีตัวตนจับต้องได้จริง ไม่ใช่คำท่องจำเก๋ ๆ แล้วปล่อยให้สังคมสงสัยก่นด่าประนามหยามเหยียดมาตลอด 60 ปี ว่า "การบินไทย" เป็นแดนสนธยา เห็นแต่แสงสีเทาดำ ไม่เคยเห็นแสงสีขาวใส สักที

ทั้งหมดที่อธิบายมานี้...

พูดกันมาประมาณ 15 รัฐบาลแล้ว ตั้งแต่ปี 2533 (ยุคนั้นเริ่มเสนอด้วยคำเก๋ ๆ Re Engineering) จนถึงปี 2563 ยังไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนลงมือทำสักยุค

เพราะถ้าลงมือช่วยกันทำมาตั้งแต่เมื่อ 30 ปีก่อน

"การบินไทย" สายการบินแห่งชาติ คงไม่ป่วยหนักสาหัสกว่าสถานการณ์ติดไวรัสโควิด-19 เหมือนวันนี้

อาการ "ภูมิคุ้มกันบกพร่อง" ของการบินไทย สายการบินแห่งชาติ สั่งสมมายาวนานเพราะใคร 

และ/หรือจะกล่าวโทษกันไปกันมาว่า เป็นเรื่อง "คนการบินไทย" อ่อนแอ และ/หรือ "การเมือง" แซกแซง

คำตอบสุดท้ายวันนี้มีคำเดียวคือ "กิจการยับเยิน" 

จนทำให้คนไทยทุกยุคคุ้นชิ้นกับแนวทางของรัฐบาลใน "การกู้ซากธุรกิจ" เพราะเป็นสมบัติชาติที่ไม่อาจตัดใจโละทิ้งได้

วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2563

รมว.พิพัฒน์กอดคอท่องเที่ยวอาเซียน10ชาติสู้วิกฤตโควิด ไทยจัดหนัก8มาตรการ-ผนึกรัฐมนตรีอาเซียนชู7มาตรการ

รมว.พิพัฒน์กอดคอท่องเที่ยวอาเซียน10ชาติสู้วิกฤตโควิด
ไทยจัดหนัก8มาตรการ-ผนึกรัฐมนตรีอาเซียนชู7มาตรการ

เรื่องโดย..เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #พิพัฒน์กอดคอรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนสู้โควิด7มาตรการ



นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในเช้าวันที่ 29 เมษายน 2563 ได้ร่วมประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนสมัยพิเศษ ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง โดยกล่าวเน้นย้ำประเทศไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียนในการเร่งฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ภายหลังวิกฤติการณ์โควิด-19 โดย Dr. Thong Khon รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา  เป็นประธาน และมีรัฐมนตรีท่องเที่ยวจากทุกประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงรองเลขาธิการอาเซียนด้านเศรษฐกิจ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน



ในที่ประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงมาตรการฟื้นตัวเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภูมิภาคอาเซียนฟื้นตัวให้เร็วที่สุด โเยมุ่งเน้นแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาศัยการดำเนินงานของทีมสื่อสารในภาวะวิกฤติการท่องเที่ยวอาเซียน (ASEAN Tourism Crisis Communications Team : ATCCT) เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่ทันเวลา เชื่อถือได้ 

ตลอดจนแสวงหาความร่วมมือกับคู่เจรจาและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของอาเซียน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในมาตรการสนับสนุนและบรรเทาทุกข์ในภาคการท่องเที่ยว เพื่อรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจอันเป็นผลสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 

รมว.พิพัฒน์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีมาตรการบรรเทา เยียวยา และฟื้นฟูผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการและแรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ตลอดจนการสร้างความเชื่อมั่นด้วยการสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ การพัฒนาเศรษฐกิจ และการกระจายรายได้สู่ชุมชน 

โดยได้ดำเนินการภายในประเทศแบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ 

       ระยะแรก จัดทำ 2 มาตรการ คือ 1.ด้านการเงินและการคลัง 2.ด้านการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ 

ระยะที่สอง จัดทำ  6 มาตรการ  คือ 1.เสริมสร้างและการรักษาขีดความสามารถด้านการท่องเที่ยว 2.การสร้างรายได้แก่สถานประกอบการท่องเที่ยว 3.การพัฒนาทักษะบุคลากรด้านการท่องเที่ยว 4.สร้างมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและด้านสุขอนามัย 5.การช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยว และ6.การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ 

รวมทั้งที่ประชุมยังได้รับรองด้านการแถลงร่วมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนในการเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูการท่องเที่ยวอาเซียน (Joint Statement of the ASEAN Tourism Ministers on Strengthening Cooperation to Revitalise ASEAN Tourism) โดยมีความตกลงร่วมกัน ดังนี้



      🎀 1.สนับสนุนการประสานงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งรัดการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารการเดินทางที่เกี่ยวข้องกับการสาธารณสุข และมาตรการจำเป็นอื่น ๆ ของสมาชิกอาเซียน ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผ่านการดำเนินงานของทีมสื่อสารในภาวะวิกฤติการท่องเที่ยวอาเซียน (ASEAN Tourism Crisis Communication Team : ATCCT) 

      🎀 2.กระชับความร่วมมือระหว่างองค์กรการท่องเที่ยวแห่งชาติ ของประเทศสมาชิกอาเซียน (National Tourism Organisations) กับหน่วยงานอาเซียนอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหุ้นส่วนภายนอกอาเซียน โดยเฉพาะด้านการสาธารณสุข ข้อมูลข่าวสาร การคมนาคมขนส่ง และการเข้าเมือง 

    🎀 3.ส่งเสริมความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนและคู่เจรจาอาเซียน ในการตอบสนองภาวะวิกฤติ ความพร้อมทางด้านการสื่อสาร การประสานความร่วมมือ การบรรเทาสาธารณภัยระดับประเทศ และมาตรการสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว ตลอดจนการเรียนรู้จากประสบการณ์เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือและจัดการกับโรคระบาด หรือภัยคุกคามร้ายแรงอื่นได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต

    🎀 4.ดำเนินนโยบายและมาตรการที่มีความชัดเจนเพื่อเพิ่มความมั่นใจของทั้งนักท่องเที่ยวภายในอาเซียนและนักท่องเที่ยวนานาชาติที่เดินทางมายังอาเซียน รวมทั้งการกำหนดมาตรฐานและแนวปฏิบัติที่ชัดเจนเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่เหมาะสม เพื่อคุ้มครองผู้ปฏิบัติงานและชุมชนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศสมาชิกอาเซียน 

    🎀 5.สนับสนุนการพัฒนาแผนฟื้นฟูภายหลังวิกฤติโควิด-19 และการนำแผนดังกล่าวไปปฏิบัติ อาทิ การเสริมสร้างศักยภาพด้านการท่องเที่ยวอาเซียน การร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสียในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมความมั่นใจของทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว รวมทั้งการตลาดและการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มุ่งเป้าให้อาเซียนเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวร่วม ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน

    🎀 6.ให้ความสำคัญกับนโยบายเศรษฐกิจทั้งระดับจุลภาคและมหภาคเพิ่มมากขึ้น โดยให้การสนับสนุนแก่ผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อาทิ การสนับสนุนทั้งทางเทคนิคและการเงิน การบรรเทาภาษี การยกระดับขีดความสามารถโดยเฉพาะทักษะดิจิทัล 

     🎀 7.แสวงหาความร่วมมือกับคู่เจรจาอาเซียน องค์กรนานาชาติที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้มีส่วนได้เสียในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อเตรียมการให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความพร้อมต่อการจัดการการท่องเที่ยวภายหลังวิกฤติโควิด-19 ได้อย่างยั่งยืน 

วันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2563

เปิดใจ“ชาวชุมชนเกษตรอินทรีย์สามพรานโมเดล”ปลอดโควิด ถอดรหัส“วิถีท่องเที่ยว”รอดได้ด้วยการพึ่งพาเศรษฐกิจพอเพียง

เปิดใจ“ชาวชุมชนเกษตรอินทรีย์สามพรานโมเดล”ปลอดโควิด 

ถอดรหัส“วิถีท่องเที่ยว”รอดได้ด้วยการพึ่งพาเศรษฐกิจพอเพียง 
ช้อปสุดคุ้มที่คิงเพาเวอร์ Super Hot Dealลด45%ผ่อน 0% 
รร.พูลแมนคิงเพาเวอร์เสนอแพกเกจเซฟสุดๆคืนละไม่ถึง2พัน 
ททท.อุดหนุนร้านอาหารถิ่น/มิชลินทำเมนูแจกแพทย์-พยาบาล 
บางจากชวนบริจาคคะแนนมอบมูลนิธิรามาสู้วิกฤตโควิด-19 
9วิธีป้องกันระดับน้ำตาลในเลือดสร้างสุขภาพแข็งแรงยั่งยืน 
ท่องเที่ยวยังต้องรอพิธีกรรมรับเงินกู้ซอฟท์โลน-ประกันสังคม 
หอการค้าไทยเสนอเปิดล็อกธุรกิจแบ่ง3สีเข้มความปลอดภัย 
อดีตบิ๊กบินไทยชี้นกสกู๊ตขอร่วมทุนMROกระทบฟื้นฟูTG 

ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #ชุมชนท่องเที่ยวเกษตรอินทรีย์สามพรานโมเดล #KingpowerSuperHotDeal  #SocialDistancing #ปลดล็อกดาวน์เดือนพฤษภา



 นางประหยัด ปานเจริญ
เจ้าของสวนผลไม้ท่องเที่ยวชุมชนเกษตรอินทรีย์ เครือข่ายสามพรานโมเดล

         ช่วงที่ 1 เปิดยุทธวิธีของชุมชนกับ “ประหยัด ปานเจริญ” เจ้าของสวนผลไม้ท่องเที่ยวเกษตรอินทรีย์ เครือข่ายสามพรานโมเดล และตลาดสุขใจ วิถีชีวิตชาวสวนรอดได้ด้วยการยึดหลัก “เศรษฐกิจพอเพียง” ได้พี่เลี้ยง “มูลนิธิสังคมสุขใจ” ช่วยเต็มที่ดึงลูกค้ารายใหญ่ S&P กับร้านสีฟ้า อุดหนุน สวมหัวใจนักขายรุ่นใหม่หันทำการค้าออนไลน์ใน Organic Platform และยันยันเมื่อไวรัสโควิด-19 สงบลง ทุกสวนในเครือข่ายกว่า 200 ไร่ ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวไปศึกษาดูงาน เยี่ยมชมฟาร์มสุขภาพ พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้แนวใหม่ให้หมดไส้หมดพุง

         นางประหยัด ปานเจริญ เจ้าของสวนผลไม้ท่องเที่ยวชุมชนเกษตรอินทรีย์ เครือข่ายสามพรานโมเดล เปิดเผยว่า ได้ทำสวนผลไม้พื้นที่ 80 ไร่ มีฝรั่งเป็นหลัก 40 ไร่ มะพร้าวน้ำหอม ผสมผสานกับพืชผักสวนครัวบ้างเล็กน้อย ตอนนี้ได้ใบรับรอง Organic Thailand IFORM PGS โดยแต่ละช่วงจะมีผลผลิตออกสู่ตลาด ประกอบด้วย ฝรั่งพันธุ์กิมจูออกทั้งปีมีปริมาณมากช่วงหน้าฝน ใช้กลยุทธ์การจดเป็นเครือข่าย “วิสาหกิจเกษตรอินทรีย์ตำบลบางช้าง” ผลผลิตทั้งหมดจะจดบันทึก เพื่อให้รู้ต้นทุน แล้วกำหนดราคาสินค้าเอง ราคาขายเฉลี่ยตลอดทั้งปีประมาณ 40 บาท/กิโลกรัม แต่ละปีจะตกลงราคากันครั้งเดียวเท่านั้น


      โดยภาพรวมเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนบางช้างจะมีพื้นที่ทำการเกษตรอินทรีย์กว่า 200 ไร่ จะมีผลิตภัณฑ์แตกต่างกันไปตามความถนัดของแต่ละครัวเรือน เช่น ปลูกฝรั่ง มะพร้าวน้ำหอม มะม่วง ข้าว และอื่น ๆ ทำเกษตรครบวงจร

       ส่วนสถานการณ์วิกฤตที่ต้องเผชิญขณะนี้ทั้งภัยแล้งซึ่งเจอเป็นประจำทุกปี แต่ไวรัสโควิด-19 นั้นส่งผลกระทบต่อยอดขายผ่านช่องทางต่าง ๆ ลดลงพอสมควร เพราะเดิมเคยส่งเข้าซูเปอร์ มาร์เก็ต ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ อย่าง TOP ร้านอาหาร โรงแรมต่าง ๆ เพราะหลายกิจการปิดชั่วคราว ร้านอาหารใช้วัตถุดิบน้อยลง ผลกระทบจึงมาถึงเกษตรกรแบบเต็ม ๆ


       นางประหยัดกล่าวว่า เกษตรกรในเครือข่ายได้ปรับตัวอย่างรวดเร็ว โดยขายตรงไปยังผู้บริโภคช่องทางหลัก 1.Organic Thailand Platform และสังคมสุขใจ 2.ออนไลน์ 3.ทางโทรศัพท์มือถือ แต่ประสบปัญหาบ้างเรื่องบริการส่งถึงบ้านผ่าน Kerry แต่ตอนนี้ผู้จัดส่งทำงานหนักเพราะการขายออนไลน์จำนวนมาก แต่ด้วยข้อจำกัดของสินค้าซึ่งเป็นผลไม้เดิมเคยส่งได้ภายในวันเดียว ตอนนี้ต้องใช้เวลา 2-3 วัน ก็เกิดปัญหาผลไม้อาจเน่าเสียได้

        ตามสภาพความเป็นจริงขณะนี้ต้องยอมรับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังเดือดร้อนน้อยกว่าอีกหลายอาชีพ ตอนนี้เป็นฤดูของ “มะม่วง” กำลังมีผลผลิตออกปริมาณมากช่วงเมษายนนี้ ทั้งพันธุ์ มันขุนศรี น้ำดอกไม้ ปลูกหลายสายพันธุ์ หากขายไม่ทันก็แปรรูปเป็นมะม่วงกวน แต่หาทางออกด้วยการแปรรูป ตัวอย่าง ฝรั่ง ทำเป็น “น้ำฝรั่งสด” วิตามินซีสูง ช่วยดูแลสุขภาพ โดนใจตลาดหันมาซื้อดื่มเพิ่มขึ้น ขนาดขวดละ 250 ซีซี ราคาขาย 30 บาท/ขวด จะเน้นขายผ่านทางไลน์แล้วมารับที่บ้าน สามารถ Add ในชื่อ “ประหยัด ปานเจริญ” ได้เลย มีขายสัปดาห์ละ 50-100 ขวด พอได้เงินมาหมุนเวียนภายในครอบครัว ซึ่งมีกลุ่มเครือข่ายทำในลักษณะเดียวกัน รวมทั้งการนำสินค้าไปจำหน่ายยัง “ตลาดสุขใจ” บริเวณด้านหน้า สวนสามพราน รีสอร์ต



       สำหรับ “ตลาดสุขใจ สวนสามพราน” จะมีคู่มือปฏิบัติให้ลูกค้า เริ่มตั้งแต่ 1.การคัดกรองรถและคนเข้าพื้นที่  รวมทั้งลูกค้าและแม่ค้า 2.กำหนดรอบการเดินตลาดโดยมีบัตรคิวครั้งละไม่เกิน 50 คน เพื่อป้องกันความแออัดในการเลือกซื้อสินค้า 3.เข้าไปสั่งซื้อล่วงหน้าจากแพลตฟอร์ม Organic Thailand มีจุดเด่นคือผู้บริโภคสามารถเข้าไปดูการผลิตพืช ผัก ผลไม้ ทุกชนิด ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ถึงปลายน้ำ โดยเห็นเกษตรกรตั้งแต่การปลูก การใช้อินทรีย์ มีบันทึกอย่างละเอียด แต่เป็นช่วงเริ่มต้นซึ่งเกษตรกรยังไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีมากนัก แต่ทุกครัวเรือนก็พยายามทำตามกติกา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคทุกกลุ่ม หรือจะมาเยี่ยมชมแปลงพืช ผัก อินทรีย์ ก็ได้ ถึงขั้นตอน วิธีการ ผลิต เพื่อศึกษาดูงาน สร้างประสบการณ์เรียนรู้ระหว่างกัน

        ส่วนเกษตรกรได้เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีเพื่อบันทึกข้อมูลลงในแพลตฟอร์ม Organic Thailand โดยได้รับการอบรมและถ่ายทอดความรู้จาก “มูลนิธิสังคมสุขใจ” เป็นพี่เลี้ยงมีเจ้าหน้าที่มาช่วยสอน พอถึงคราววิกฤตเกษตรกรต้องเรียนรู้ให้ได้ เพราะต้องยอมรับเกษตรกรก็ยังใช้โทรศัพท์รุ่นเก่า ๆ อาจมีฟังก์ชั่นไม่ครบ ก็ต้องให้ลูกหลานคนรุ่นใหม่มาช่วยทำโปรแกรมบ้าง เพื่อทำข้อมูลให้ผู้บริโภคได้เห็นแต่ละวันถึงการเกษตรของแต่ละสวนว่ามีอะไรบ้าง เป็นการสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคอย่างยั่งยืน โปร่งใส ตรวจสอบได้

      เพราะบางครั้งผู้บริโภคที่อยากซื้อผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ในตลาดทุกวันนี้ อาจจะถูกหลอกก็ได้ เพราะคนขายก็อยากขายโดยโฆษณาว่าเป็นอินทรีย์แต่ฉีดเคมีบ้าง ซึ่งลูกค้าไม่สามารถรู้ได้ แต่เลือกใช้เครือข่าย “เกษตรอินทรีย์บางช้าง เครือข่ายสามพรานโมเดล และตลาดสุขใจ” จะได้เห็นการทำเกษตรของทุกสวน ทุกขั้นตอน การปลูกโดยใช้สมุนไพรทำอย่างไรบ้าง ต่อไปจะพัฒนาองค์ความรู้เรื่อง “สมุนไพร” ที่ใช้เป็นปุ๋ยเกษตรอินทรีย์ทำมาจากอะไรบ้าง ดูแลพืชเรื่องใดบ้าง เช่น มีแมลงมาจะใช้สมุนไพรชนิดใดรักษาแก้อาการต่าง ๆ ของพืช ผัก ผลไม้ ได้

นางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษารัฐบาลเมียนมา พร้อมด้วยภริยาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
เคยมาเยี่ยมชมงานสวนเกษตรอินทรีย์ บางช้าง เครือข่ายสามพรานโมเดล ของคุณประหยัด ปานเจริญ 

        นางประหยัดกล่าวว่าในสถานการณ์ปกติจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมสวน 20-100 คน/วัน สนใจมาศึกษาดูงาน ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ก่อนหน้านี้เคยเปิดเป็นตลาดประชารัฐ แต่ไม่มีความแน่นอนเพราะไม่รู้แต่ละวันจะเก็บเท่าไรมีคนเข้ามามากน้อยขนาดไหน ล่าสุดจึงปรับวิธีให้ผู้เยี่ยมชมถือตะกร้าเข้าไปเก็บเองในสวน และเรียนรู้กับเราด้วยเรื่อง “แหล่งเรียนรู้วิถีเกษตรชุมชนอินทรีย์” มีหน้าที่ทำอะไรก็ทำไปตามปกติ พอมีนักท่องเที่ยวเข้ามาก็พาไปเยี่ยมชมได้ทันที ไม่ได้จัดฉากทำเป็นพร็อบไว้ต้อนรับผู้มาเยือน

       จึงทำให้พอเจอสถานการณ์โควิด-19 อาจจะได้รับผลกระทบเรื่องยอดขายบ้าง แต่โดยภาพรวมด้านการท่องเที่ยวแทบจะไม่ได้รับผลกระทบเท่าไร จากที่เคยมีนักท่องเที่ยวมาจำนวนมากพอสมควร เพราะไม่ได้เน้นการมาถ่ายรูป แต่มุ่งให้องค์ความรู้เรียนรู้วิถีชุมชน มาซื้อสินค้า ถึงความยากลำบากของเกษตรกร ฝรั่งแต่ละลูกกว่าจะได้ผลผลิตมาเป็นอย่างไร ปกติลูกค้าหลักจะมีร้านแบรนด์ใหญ่ ๆ อย่าง S&P ร้านสีฟ้า แต่ละแบรนด์ก่อนสั่งซื้อจะมีพนักงานขายหรืออยู่หน้าร้านลงพื้นที่มาเรียนรู้กับเกษตรกร เป็นการมาร่วมอบรม เรียนรู้ก่อน เพื่อนำเรื่องราวทั้งหมดไปทำตลาดการขายบอกเนื้อหาทั้งหมดแก่ผู้ซื้อได้



        ตัวอย่าง S&P มาซื้อฝรั่งเพื่อไปผลิตน้ำฝรั่ง ต้องมาดูการปลูกแบบอินทรีย์ มีความสด ให้วิตามินซีสูง เมื่อไปผลิตก็สามารถบอกลูกค้าได้อย่างภาคภูมิ ขายในราคาเป็นธรรม สร้างความพึงพอใจแก่ผู้บริโภค ทำให้ยอดขายดีมาก เพราะประสบการณ์ของคนกินอาหารที่มีสารเคมีย่อมมีความรู้สึกที่ไม่ดีแตกต่างจากวัตถุดิบอินทรีย์ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก

        เกษตรกรในพื้นที่ยึดหลักการเพาะปลูกตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 คือ “ปลูกทุกอย่างที่เรากิน กินทุกอย่างที่เราปลูก” เกษตรกรตามตลาดทั่วไปจะไม่กินผลผลิตที่ตัวเองปลูก เพราะรู้ว่ามีสารเคมี ส่วนกลุ่มของเราต้องการปลูกแบบอินทรีย์เพื่อสร้างคุณค่าของสินค้าเกษตร

       นางประหยัดกล่าวว่า หากสถานการณ์โควิด-19 ยุติลง ทางเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ สามพรานโมเดล สามารถเปิดรับผู้เยี่ยมชมได้ทันที เพราะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ตอนนี้ชาวบ้านอยู่ในสวนก็คงไม่เป็นคนแพร่เชื้อ แต่ถ้าตอนนี้ต้องเปิดรับคนจากภายนอกเข้ามาเยี่ยมชมก็อาจจะหวั่นใจกันอยู่บ้าง อาจมีคนนำเชื้อไวรัสเข้ามาติดคนในพื้นที่ได้

       สำหรับภาพรวมยอดขายหมุนเวียนของชาวเกษตรอินทรีย์บางช้างแต่ละปีก็ได้เงินเป็นกอบกำหลักล้านบาทต่อครัวเรือน ยกเว้นบางรายที่ทำ 3-5 ไร่ รายได้ก็ลดหลั่นลงตามลำดับ ซึ่งเกษตรอินทรีย์ของพวกเราอยู่ได้ เพราะเราไม่โลภ ไม่ขึ้นราคาแข่งขันกันแบบตลาดทั่วไป เพราะราคาที่พวกเราที่กำหนดไม่ต้องมานั่งเป็นทุกข์ หรือแข่งขัน ลดความโลภ มีความจริงใจต่อตัวเองและผู้บริโภคอย่างยั่งยืน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

🍎 ข่าวที่ 1“ช้อปสุดคุ้มที่คิงเพาเวอร์ Super Hot Dealลด45%ผ่อน0%”



       กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เชิญชวนเข้ามาช้อปออนไลน์กับแคมเปญแรง “Super Hot Deal” ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ คือ นำรหัสส่วนลดใช้ได้ที่ KingPower.com และ King Power Application ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2563 เท่านั้น โดยมีส่วนลดให้เลือกทั้งสินค้าปกติ 5 - 20% และส่วนลดสินค้าพิเศษลดสูงสุดถึง 45% เมื่อช้อปครบ 3,000 บาทขึ้นไป

      รายการส่งเสริมการขายนี้เฉพาะสั่งซื้อสินค้า BRANDNAME สินค้าแฟชั่น, เครื่องสำอาง เสื้อผ้า เครื่องหนัง และแบรนด์ชั้นนำเฉพาะที่ร่วมรายการในแคมเปญนี้เท่านั้น ส่งตรงถึงบ้าน ในราคา DUTY FREE ส่วนสินค้าที่เข้าร่วมจัดรายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า
สินค้าจัดรายการ Super hot deal จะใช้เวลาจัดเตรียมนานกว่าปกติ ลูกค้าจะได้รับภายใน 5 - 10 วันทำการ

      สิทธิหลัก ๆ คือ ยังคงสามารถแบ่งชำระ 0% ได้ตามปกติ ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 แบ่งเป็น 1.นานสูงสุด 10 เดือน เมื่อช้อปครบ 15,000.- (สุทธิ) / 1 รายการสั่งซื้อ 2.นานสูงสุด 6 เดือน เมื่อช้อปครบ 10,000.- (สุทธิ) / 1 รายการสั่งซื้อ

      แนะนำวิธีการสั่งซื้อออนไลน์และผ่อนชำระ จะต้องทำตามขั้นตอนหลัก ๆ

1.   ลูกค้าต้องสมัครสมาชิกเว็บไซต์ Kingpower.com และทำการล็อคอินก่อนการใช้รหัสส่วนลดนี้ 2.รหัสส่วนลด ไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์ Birthday Celebration, บัตรส่วนลดอื่นๆ E-Purse, E-Cash, Gift Voucher, Cash Voucher ทุกประเภท และโปรโมชั่นอื่นๆ 3.ไม่สามารถใช้ส่วนลดร่วมกับชุดคูปองเงินสด OBS บัตรสมาชิกทุกประเภทและรายการส่งเสริมการขายอื่นๆ 4.รหัสนี้ไม่สามารถแลกเปลี่ยนหรือทอนเป็นเงินสดได้ 5.สมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ ทุกรายการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์สามารถสะสมกะรัตได้

🍎 ข่าวที่ 2 “รร.พูลแมนคิงเพาเวอร์เสนอแพกเกจเซฟสุดๆคืนละไม่ถึง2พัน”



      กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำสิ่งที่ดี ๆ มาคืนกำไรให้คนไทย สนุกไปกับวันหยุดพักผ่อนของคุณและรับสิทธิประโยชน์จากแพ็กเกจห้องพักสุดพิเศษของเราเริ่มต้นที่ 1,999 บาท/ห้อง/คืน หันมาใช้วันหยุดและเติมพลังกับคนที่คุณรักด้วยแพ็กเกจห้องพักที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ ห้องพักรวมอาหารเช้าทุกวัน พร้อมเลือกทานอาหารกลางวัน หรืออาหารเย็นแบบ 3 คอร์สที่ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก ยิ่งกว่ายังสามารถอัพเกรดเป็นห้องดีลักซ์ จองได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2563 แล้วเลือกเข้าพักได้วันนี้ – 15 มิถุนายน 2563

       สิทธิประโยชน์ ประกอบด้วย 1. แพ็กเกจห้องพักสุพีเรียราคา 1,999 บาทสุทธิ/ห้อง/คืน/ 1 คน และ 2,300 บาทสุทธิ/ห้อง/คืน/ 2 คน 2. ฟรีอัพเกรดเป็นห้องดีลักซ์  3. อาหารเช้าทุกวัน ที่ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก ตั้งอยู่ที่ชั้นล็อบบี้ 4. ชุดอาหาร 3 คอร์ส สำหรับมื้อกลางวัน หรือมื้อเย็น ที่ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก ตั้งอยู่ที่ชั้นล็อบบี้ 5. อัตราห้องพักที่ยืดหยุ่น และสามารถทำการยกเลิกภายใน 1 วัน
ทั้งนี้ระหว่างวันนี้-30 เมษายน จะไม่มีบัตรลดราคาซื้อสินค้าที่คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี เพราะปิดชั่วคราวตามนโยบายรัฐบาล

🍎 ข่าวที่ 3 “ททท.เริ่มแล้วทัวร์เสมือนจริงทั่วไทย9 จังหวัด10แห่ง"



         นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา ททท. เปิดเผยว่าได้นำเทคโนโลยี ทัวร์เสมือนจริง (Virtual Tours) ที่สามารถนำเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยว โดยพานักท่องเที่ยวสัมผัสบรรยากาศและกลิ่นอายประสบการณ์เสมือนจริงที่ได้เข้าไปเดินท่องเที่ยวอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวนั้น ๆ ด้วย Virtual Tours to 10 places in 9 provinces นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ 9 จังหวัด 10 แห่ง ประกอบด้วย  

         ภาคเหนือ ได้แก่ วัดศรีชุม จ.สุโขทัย คุ้มเจ้าหลวง จ.แพร่ วัดนันตาราม จ.พะเยา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ปราสาทหินพิมาย จ. นครราชสีมา ภาคตะวันออก ได้แก่ ปราสาทสด๊กก๊อกธม จ.สระแก้ว อ่าวคุ้งกระเบน จ.จันทบุรี ภาคกลาง ได้แก่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ และพระนารายณ์ราชนิเวศน์ จ.ลพบุรี วัดบางกุ้ง จ.สมุทรสงคราม และ ภาคใต้ ได้แก่ วังเจ้าเมืองพัทลุง จ.พัทลุง บ้านท่านขุน วัดมหาธาตุ และบ้านหนังตะลุง จ.นครศรีธรรมราช

         สามารถเข้าชม Virtual Tours to 10 places in 9 provinces ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ 1.เว็บไซต์ www.tourismthailand.org  2.Facebook page : Amazing Thailand 3.Twitter @ThailandFanClub และ @go2Thailand  สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กองสารสนเทศการตลาด ททท. โทร. 02-250-5500 ต่อ 2842

🍎 ข่าวที่ 4 “ททท.อุดหนุนร้านอาหารถิ่น/มิชลินทำเมนูแจกแพทย์-พยาบาล”



        นายกฤษณะ แก้วธำรงค์ ผู้อำนวยฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้ร่วมทำโครงการ “ห่วงใยเมืองไทย ก้าวไปด้วยกัน” เป็นความร่วมมือระหว่าง ททท. กับ มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย จัดส่งอาหารกล่องอร่อยระดับโลกให้โรงพยาบาลต่าง ๆ  เป็นเมนูจากร้านที่ได้รับรางวัลประเภทต่าง ๆ ทั้งรางวัล 2 ดาว 1 ดาวมิชลิน (Michelin Star) รางวัลบิบ กูร์มองด์ (Bib Gourmand) และรางวัลมิชลินเพลท (The Plate Michelin) รวม 19 ร้าน ส่งมอบความอร่อยให้ 9 โรงพยาบาล อาทิ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า รวม 2,000 กล่อง เพื่อแทนคำขอบคุณแด่บุคลากรทางการแพทย์ที่ทุ่มเทปฏิบัติงาน และช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการให้ผ่านช่วงวิกฤตโควิด-19 นี้ไปด้วยกัน

        ทางด้าน นายนิธี สีแพร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ ททท. กล่าวว่า การแสดงความห่วงใยต่อผู้ประกอบการ และบุคลากร ที่ได้รับผลกระทบ จาก covid 19  จึงได้มอบหมายภูมิภาคภาคใต้ นำแนวคิด “ น้ำใจไทย” ไปขยายผล ใน โครงการ “น้ำใจท่องเที่ยวไทย ต้านภัยโควิด” โดยการสนับสนุนผู้ประกอบการ ชมรมร้านอาหาร เพื่อจ้างแรงงาน ในพื้นที่ นำร่องใน 2 พื้นที่ คือ 3 จังหวัดชายแดน และภูเก็ต ให้นำวัตถุดิบจากชุมชน ในท้องถิ่น มาจัดทำอาหารกล่องให้แก่บุคลากร ทางการแพทย์ ซึ่งถือเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพ เพื่อสร้างความผูกพันธ์ ให้การท่องเที่ยวเป็น top of mind และกลับมาเดินทางท่องเที่ยวหลังสถานการณ์คลี่คลาย ต่อไป

        ขณะได้เริ่มดำเนินการส่งอาหารไปยังกลุ่มเป้าหมายแล้ว น้ำใจ เพราะน้ำใจถือเป็นจุดแข็ง อย่างหนึ่งของสังคมไทย  เป็นอานิสงค์ ให้ การท่องเที่ยวไทย เติบใหญ่ มาทุกวันนี้

🍎 ข่าวที่ 5 “บางจากชวนบริจาคคะแนนมอบมูลนิธิรามาสู้วิกฤตโควิด-19”



         บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เชิญชวนสมาชิก ใช้คะแนนร่วมบริจาคมูลนิธิรามาธิบดีใน "โครงการป้องกันและช่วยเหลือสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19" เพื่อสนับสนุนการรักษาพยาบาล และการให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่สังคมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ตลอดจนการเตรียมความพร้อมของบุคลากร เครื่องมือแพทย์ ห้องผู้ป่วยเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคตทั้งระยะสั้นและระยะยาว

        เงื่อนไขการบริจาคคะแนน มีดังนี้ 1. การบริจาคทุก 1 คะแนน มีมูลค่า 20 สตางค์ 2. คะแนนของสมาชิกจะถูกหักจากคะแนนสะสมทันทีเมื่อกดปุ่มยืนยันการบริจาค 3. เมื่อยืนยันการบริจาคแล้วไม่สามารถยกเลิกการบริจาคและคืนคะแนนได้  4. บริษัท บางจากฯ สามารถเปลี่ยนแปลงมูลค่าคะแนนได้โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า 5. บริษัทฯ สามารถเปลี่ยนแปลงรายชื่อองค์กรสาธารณประโยชน์ โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า 6. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่มีการให้บริการออกใบเสร็จสำหรับการแลกคะแนนสะสมเพื่อบริจาค

🍑 ช่วงที่ 2 ฟังคำแนะนำเรื่องสุขภาพกับ “9 วิธีคุมระดับน้ำตาลในเลือด” เลือกกินอย่างมีความรู้เพื่อดูแลชีวิตอยู่อย่างยืนยาว ส่วนข่าวท้ายชั่วโมง “ท่องเที่ยวร้องเพลงรอ” เงินกู้ซอฟท์โลนกับเงินประกันสังคม ต้องผ่านพิธีกรรมอีกเพียบ “สภาหอการค้าไทยชี้เป้าปลดล็อกธุรกิจ” เปิดบริการตามสูตร 3 สี แบ่งโซน จัดหมวดกิจการให้ชัดเจน คุมเข้มความปลอดภัย และ “อดีตบิ๊กบินไทย” ถลกข้อมูล นกสกู๊ตดอดขอตั้งบริษัทร่วมทุนทำศูนย์ซ่อมในดอนเมือง กระทบแผนฟื้นฟูการบินไทยแน่ ๆ 🍊


🍎 9 วิธีควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อสุขภาพดีอย่างยั่งยืน



         ช่วงนี้คนไทยต้องเผชิญกับหลาย ๆ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาน้ำตาลในเลือดสูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน เรามี 9 วิธีง่ายๆ ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่งเสริมให้สุขภาพดีอย่างยั่งยืนหากทำได้ต่อเนื่อง ดังนี้

         1.ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ -หากร่างกายขาดน้ำ จะส่งผลทำให้เลือดข้น และส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้ การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพออย่างน้อย 2 ลิตร/วัน จะช่วยดับกระหาย ลดการดื่มน้ำหวานน้อยลงได้  ส่งผลดีต่อการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้

        2.ถ้าขาดชา กาแฟ ไม่ได้ ให้ชงเองคุมน้ำตาล หรือสั่งหวานน้อยให้ติดปาก พึงระลึกว่าน้ำตาลในเลือดเราสูงอยู่  ควรสั่งให้ติดปากว่า ขอหวานน้อย หรือ ไม่เติมน้ำตาล/นมข้นหวานเพิ่ม

        3.ก่อนซื้อเครื่องดื่ม อ่านฉลากโภชนาการสักนิด สะกิดตัวเองว่าน้ำตาลเกิน ฉลากจะทำให้เรารู้ข้อมูลว่าเครื่องดื่มนั้น มีพลังงาน น้ำตาลหรือโซเดียมมากน้อยแค่ไหน เพื่อช่วยตัดสินใจ ทางที่ดีควรมองหาเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลที่น้อยที่สุด และมีเครื่องหมายทางเลือกสุขภาพ

       4.กินให้ได้สัดส่วน 2:1:1  หรือจำง่ายๆ กินข้าวเท่ากับเนื้อ กินผักมากกว่าข้าว - จานอาหารสุขภาพ 2:1:1 สามารถดูได้ง่ายๆ จากการแบ่งจานอาหารออกเป็น 4 ส่วน คื   เป็นผัก 2 ส่วนหรือผักครึ่งจาน เป็นกลุ่มข้าวแป้ง 1 ส่วนของจาน  และเป็นโปรตีนอีก 1 ส่วน เช่น ปลา หมู ไก่ เต้าหู้ หรือไข่  การกินอาหารตามสัดส่วน 2:1:1 จะช่วยควบคุมให้เราไม่ได้รับอาหารกลุ่มข้าวแป้งในปริมาณที่มากเกินไป และยังช่วยเพิ่มใยอาหารจากผักได้อีกด้วย

      5.มองหาข้าวไม่ขัดสี  ข้าวไม่ขัดสี  เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ดี ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นสูงเร็วมากนัก

     6.กินผลไม้มื้อละ 1 กำปั้นมือ คือ สัดส่วนที่เหมาะสม -ผลไม้ เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตอย่างหนึ่ง ที่คนไทยหลายๆ คนมักกินมากเกินไป คนที่มีปัญหาน้ำตาลในเลือดสูง ควรกินสัดส่วนผลไม้ประมาณ 1 กำปั้น เป็นสัดส่วนที่พอเหมาะทำให้ร่างกายไม่ได้รับน้ำตาลจากผลไม้มากจนเกินไป แนะนำให้กิน แอปเปิ้ลลูกเล็ก 1 ลูก  ฝรั่งครึ่งลูก แก้วมังกรครึ่งลูก  มะละกอ 4-6 ชิ้นคำ

     7.เพิ่มกิจกรรมทางกาย  ทำง่ายๆ ด้วยการเดิน - การเพิ่มกิจกรรมทางกาย ถือว่าเป็นการเพิ่มการใช้พลังงาน ทำให้ร่างกายไม่สะสมพลังงานส่วนเกินที่ได้รับจากการรับประทานอาหารที่มากเกินไป  ทำได้ง่าย ๆ โดยเพิ่มการเดิน เช่น เพิ่มการเดินขึ้นบันได การเดินให้ได้ระยะทางแทนการนั่งมอเตอร์ไซค์  และทำกิจกรรมอย่างอื่น ได้แก่ ทำสวน ทำงานบ้าน ขุดดิน ต่อเนื่องอย่างน้อย 10 นาที

    8.ออกกำลังกายให้ได้ทุกวัน ยืดอายุฉันให้แข็งแรง - การออกกำลังกาย เป็นกิจกรรมที่ช่วยทำให้ผู้ที่มีน้ำตาลในเลือดสูงสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยการออกกำลังกายระดับหนักปานกลาง  วัดง่าย ๆ ได้จากการพูด (Talk test) คือระดับที่เหนื่อยหอบนิด ๆ สามารถพูดได้เป็นประโยคสั้นๆ  สะสมให้ได้อย่างน้อย 150 นาที /สัปดาห์ 

    9.เสริมกล้ามเนื้อ เล่นเวทวันละนิด สร้างความฟิตเพิ่มการเผาผลาญ - ลองออกกำลังกายแบบแรงต้าน เช่น การยกน้ำหนัก ออกกำลังกายด้วยยางยืด ประมาณ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ โดยออกแรงกล้ามเนื้อของขา แขน หลัง และหน้าท้อง

🍉 ข่าวท้ายชั่วโมง

🍎 ข่าวแรก “ท่องเที่ยวยังรอขั้นตอนเงินกู้ซอฟท์โลน-ประกันสังคม”



         นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มีความคืบหน้าเรื่องการให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวขนาดกลางและขนาดย่อม SMEs ยื่นขอกู้เงินใหม่ดอกเบี้ยต่ำ (soft Loan) จากธนาคารออมสิน ตามมติคณะรัฐมนตรีให้จัดสรรกรอบวงเงินเฟสแรกเยียวยาภาคท่องเที่ยว 10,000 ล้านบาท ขณะนี้ธุรกิจ SMEs ท่องเที่ยวได้เข้าไปลงทะเบียนแล้วกว่า 1,000 ราย เพื่อขอกู้รายละ 1-5 ล้านบาท และคาดจะมีกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กผู้สนใจกู้ในโครงการราว 2,500 ราย ซึ่งจะต้องทยอยนำเงินออกมาใช้ซ่อมสร้างกิจการกันต่อไป

         ทางด้านนางพิศมัย นิธิไพบูลย์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ สำนักงานประกันสังคม ในฐานะโฆษกประกันสังคม กล่าวว่า เตรียมความพร้อมได้จ่ายยสิทธิประโยชน์ให้ลูกจ้างในกรณีว่างงานเนื่องจาก “เหตุสุดวิสัย” กลุ่มผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 โดยทางสำนักงานประกันสังคม ได้รับการอนุมัติให้จ่าย “ลูกจ้างกลุ่มแรก” งวดแรกมาตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2563 แล้วตอนนี้ก็มีผู้ยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่า 1.2 ล้านราย ซึ่งทางหน่วยงานจะต้องใช้วิธีทยอยโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ประกันตนโดยเร็วที่สุด

       แต่ต้องขอความร่วมมือจาก “ลูกจ้างผู้ประกันตน” ขึ้นทะเบียนว่างงานผ่าน e-form พร้อมทั้งให้นายจ้างรับรองการหยุดงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย ผ่านทางเว็บไซต์ www.sso.go.th  เมื่อดำเนินการถูกต้องเสร็จเรียบร้อย ทางระบบจะประมวลผลจับคู่ความถูกต้องของข้อมูล จากนั้นจึงจะส่งให้หน่วยงานปฏิบัติวินิจฉัยการว่างงาน ก่อนที่จะตัดจ่ายเงิน และโอนเงิน เข้าบัญชีธนาคารของลูกจ้างผู้ประกันตนภายใน 3 วันทำการ

🍎 ข่าวที่สอง “หอการค้าไทยเสนอเปิดล็อกธุรกิจแบ่ง3สีเข้มความปลอดภัย”




       นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในฐานะประธานกลุ่มมาตรการเพื่อการกลับมาเปิดธุรกิจใหม่ ได้เสนอคณะทำงานศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) พิจารณาให้บางธุรกิจหรือบางกิจการเปิดบริการได้ หลังครบกำหนดประกาศเคอร์ฟิววันที่ 30 เมษายน 2563  ทยอยให้ผู้ประกอบการบางประเภทเปิดบริการได้เริ่มเดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป เพื่อบรรเทาผลกระทบสภาพคล่องและการจ้างงานโดยกำหนดวิธีเลือกให้ชัดเจน 2 แนวทาง คือ 1.กำหนดพื้นที่ที่จะเปิดบริการ 2.กำหนดธุรกิจหรือกิจการ

      การกำหนดพื้นที่ควรแบ่งเป็น 3 พื้นที่ ได้แก่ 1.พื้นที่สีเขียว พิจารณาจังหวัดที่ไม่มีการแพร่ระบาดและไม่มีผู้ติดเชื้อ 2.พื้นที่สีเหลือง เป็นจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนไม่มาก 3.พื้นที่สีแดง เป็นพื้นที่จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และมีแนวโน้มการติดเชื้อเพิ่มขึ้น อาจจะไม่พิจารณาให้เปิดเพราะเสี่ยงสูง
ส่วนจังหวัดที่สามารถเปิดบริการธุรกิจบางประเภทได้ จะกำหนดให้โหลดแอปพลิเคชั่น”หมอชนะ” ซึ่งเป็นระบบเก็บข้อมูลการเดินทางของประชาชน เพื่อให้ผู้ใช้บริการตรวจสอบและประเมินระดับความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 จากสถานที่ต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เพื่อควบคุมป้องกันการคัดกรองความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ

      ระยะเวลาการเปิด ทดลองเปิดก่อน 2 สัปดาห์ได้เสนอนำร่อง สีเขียวกับสีเหลือง รวม 4 จังหวัด สีละ 2 จังหวัด (ยกเว้นสีแดงทำอะไรไม่ได้เลย)  เช่น กรุงเทพฯ หรือในต่างจังหวัดเปิดในบางพื้นที่ทั้งจังหวัด เพราะในอำเภอเล็ก ๆ คงจะไม่มีคนสักเท่าไร

      โดยมี KeyPoint จะต้องมี 2 Application ขณะนี้ทำเสร็จแล้วคือโซนสีของพื้นที่จังหวัด สามารถโหลดจากบ้านได้ทันที ส่วนที่กำลังอยู่ในขั้นตอนทำApplication คือโซนผู้ประกอบการ จะต้องเข้าพื้นที่นั้น ๆ จึงไปโหลดได้ พอเข้าไปจะแสดงผลถึงความปลอดภัย เน้นจะต้องป้องกันเรื่องความหนาแน่น ซึ่งแสดงผล ซึ่งทางรัฐบาลจะต้องเลือกใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน

     ระหว่างนี้ทางสภาหอการค้าไทยกำลังทำคู่มืออยู่ มีข้อมูลมาจาก สนามกอล์ฟ โรงแรม ขณะนี้คณะทำงานของกลุ่มมาตรการเพื่อการกลับมาเปิดธุรกิจใหม่ ได้วางหลักเกณฑ์เบื้องต้น คือ

    1.ต้องบริหารจัดการควบคุมการระบาดได้มีประสิทธิภาพ

    2.มีระบบบริหารพื้นที่เพื่อสร้างระยะห่างได้ โดยเฉพาะศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าต้องควบคุมจำนวนผู้เข้าไปใช้บริการได้

   3.ทุกสถานที่จะต้องมีอุปกรณ์ป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นแอลกอฮอล์ล้างมือ เจลล้างมือ หน้ากากอนามัย
กลุ่มร้านอาหารบางประเภทที่จะเปิดได้ ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดดังนี้

   1.จัดโต๊ะและเก้าอี้ให้มีระยะห่าง  2.ควบคุมจำนวนคนที่จะเข้าไปทานอาหารในร้าน 3.กำหนดเวลารับประทานอาหาร 4.ผู้ปรุงอาหารและบริกรต้องมีอุปกรณ์ป้องกัน

    ส่วนกลุ่มธุรกิจที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมากและหนาแน่นคงต้องปิดไปก่อนเพื่อป้องกันการระบาด เช่น สนามมวย สนามกีฬา

🍎 ข่าวที่สาม “อดีตบิ๊กบินไทยชี้นกสกู๊ตขอร่วมทุนMROกระทบฟื้นฟูTG”


     กัปตันโยธิน ภมรมนตรี อดีตผู้บริหารการบินไทย โพสต์เฟสบุ๊ค กรณี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสนามบินดอนเมืองขอเชิญประชุมด่วนที่สุด เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2563 เพื่อหารือเกี่ยวกับการอนุญาตให้ประกอบกิจการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) สนามบินดอนเมือง เนื่องจาก บริษัท ไลน์ เมนเทนแนนซ์ พาร์ทเนอร์ชิพ (บริษัทร่วมทุน ระหว่าง SIA Engineering Company กับสายการบินนกสกู๊ต) ประสงค์จะจัดตั้งศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานระดับลานจอดเครื่องบินแบบ B777-200

      กัปตันโยธินวิเคราะห์ว่าจุดเริ่มของนกสกู๊ต เป็นสายการบินร่วมทุน ระหว่าง นกแอร์ (ช่วงแรกการบินไทยถือหุ้นอยู่ 39 % ) กับสายการบินสกู๊ต ซึ่งมีสิงคโปร์แอร์ไลน์ถือหุ้น 100% ต่อมาวันที่ 30 ตุลาคม 2556 ผู้บริหารระดับสูงของการบินไทย ไปจดทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ 0105556174767 จัดตั้ง บริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด ตอนนี้ผู้บริหารคคนดังกล่าวพอเกษียณอายุเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2557 จากนั้นเพียงไม่กี่วันก็ไปดำรงตำแหน่งในนกสกู๊ต

      ต่อมา บริษัท นกแอร์ จำกัด ประชุมสามัญประจำปี เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2557 ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ออกเสียง  506 ล้านเสียง ลงมติ เห็นด้วย 458 ล้านเสียง ไม่เห็นด้วย 48 ล้านเสียง ตอนนั้นหากการบินไทยซึ่งถือหุ้นนกแอร์ 39.2% หรือ 245 ล้านเสียง ลงมติไม่เห็นด้วย โครงการนกสกู๊ตก็จะล้มไป แต่กลับลงมติเห็นด้วย

     กัปตันโยธินวิเคราะห์ว่าการลงมติเห็นด้วยครั้งนั้น ผิดจรรยาบรรณการบินไทยข้อ 1.4 (ปกป้องรักษาผลประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัท) เรื่องอยู่ที่ ปปช. รับที่ 6984 วันที่ 1 มีนาคม 2558

     ทำให้นกสกู๊ต ก็ได้รับใบอนุญาตทำการบิน และได้สิทธิการบินเทียบเท่าการบินไทยทุกประการพร้อมกับทับเส้นทางการบินไทยไปเรียบร้อยแล้ว

     ส่วนเรื่องการลงทุนสร้างศูนย์ซ่อมเครื่องบิน สายการบินที่ได้ใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ(AOC) จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ตามขั้นตอน จะต้องระบุแผนเพื่อทำการซ่อมบำรุงเครื่องบินของตนเองในระดับลานจอด (Line Maintenance) ตามข้อกำหนด กพท.ก่อนได้รับใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ หากจะเปลี่ยนแปลงเป็นอื่น ต้องยื่นขออนุมัติจาก กพท.อีกครั้ง ตามที่ฝ่ายซ่อมบำรุงเครื่องบินการบินไทยมีขีดความสามารถที่ให้บริการนี้กับสายการบินของตนแล้ว ยังสามารถให้บริการ และหรือ ขายบริการ แก่สายการบินทุกบริษัท ทั่วราชอาณาจักรไทย ได้ด้วย

     ดังนั้นกกสกู๊ต เมื่อสร้างขีดความสามารถในระดับลานจอด (Line Maintenance) ก็ต้องทำเรื่องขออนุมัติไปยัง กพท.ได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องมาจัดตั้ง บริษัท ร่วมทุน ระหว่าง SIA Engineering company กับ นกสกู๊ต

     กัปตันโยธินตั้งข้อสังเกตุว่า การยื่นขอตั้งบริษัทร่วมทุนครั้งนี้ อาจมีนัยแอบแฝง เอื้อประโยชน์หรือไม่ ? แก่บริษัทซ่อมบำรุงต่างชาติมาแสวงหาประโยชน์ในประเทศไทย เพื่อทำธุรกิจดังกล่าวในสนามดอนเมือง และสนามบินอื่นในประเทศ เพื่อแข่งกับการบินไทย อันจะส่งผลกระทบกับแผนฟื้นฟูการบินไทยโดยตรงชัดเจน

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

จับตา!!ต่างชาติเที่ยวไทยแผ่ว3เดือนแรกไม่ถึง10ล้านคน

  นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 1 ม.ค.-31 มี.ค.2568 ได้แค่ 9.5 ล้านคน จับตา !! ต่างชาติเที่ยวไทยแผ่ว 3 เดือนแรกไม่ถึง 10 ล้านคน เม.ย.นี้ร...