วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

AOT ลงนามอิสตันบูลแอร์พอร์ตSAA -Sister Airport Agreement”เชื่อมสนามบินไทย-ยุโรปปี’71ขยาย200ล้านคน

ทอท.ผนึกอิสตันบูลแอร์พอร์ตเชื่อมสนามบินไทย-ยุโรป

งัดกลยุทธ์SAAแลกข้อมูลทำตลาด-ปี’71ขยาย200ล้านคน

 เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TheJournalistclub #AOT #IstanbulAirport #SisterAirportAgreement

 อ่านใน website TheJournalistclub จากลิงค์นี้

 


ทอท.จับมือ อิสตันบูล แอร์พอร์ต ลงนามสนามบินพี่น้อง “SAA -Sister Airport Agreement” เชื่อมเครือข่ายสร้างประโยชน์ 2 ประเทศ 4 ด้าน “ข้อมูล-ทำตลาด-จัดประชุม-พนักงาน” กับสนามบินสุดฮ็อตมีผู้ใช้ในยุโรปคับคั่งมากสุด ปี’71 เตรียมขยายพื้นที่รับผู้โดยสารมากสุดปีละ 200 ล้านคน

            นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท./AOT” เปิดเผยว่า ได้เป็นตัวแทน ทอท.ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสนามบินในโครงการ Sister Airport Agreement กับ และ Mr. Kadri Samsunlu Chief Executive Officer, iGA  สนามบินนานาชาติอิสตันบูล (Istanbul Airport) ประเทศทูร์เคีย (ตุรกี)  ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ

หลังจาก ทอท. หลังทำบันทึกข้อตกลง ซิสเตอร์ แอร์พอร์ต หรือ SAA ครั้งนี้เรียบร้อยแล้ว ก็จะเดินหน้าแลกเปลี่ยนนำข้อมูลมาใช้พัฒนาสนามบิน ทอท. อย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจซึ่งทำได้มากกว่าพัฒนาการบินเพียงอย่างเดียว ทว่ายังสามารถช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงานของสนามบิน และขยายเครือข่ายเส้นทางการบินเพื่อประโยชน์ในการเดินทางทางอากาศของทั้งสองประเทศ รวมถึงส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและทูร์เคีย ตลอดจนส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีแก่ ทอท.ในฐานะผู้บริหารท่าอากาศยานระดับโลกอย่างยั่งยืนต่อไป

และการร่วมลงนามกับอิสตันบูล แอร์พอร์ต ครั้งนี้ ถือเป็นการเพิ่มพันธมิตรซึ่งเป็นทั้งแหล่งเรียนรู้ แลกเปลี่ยนข้อมูลการดำเนินงานในด้านการพัฒนาขีดความสามารถและเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ ความรู้และวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุด โดยมุ่งเน้นในด้านการพัฒนาเส้นทางการบิน และการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสาร

 


รวมทั้งการพัฒนาระบบการขนส่งสินค้าทางอากาศ สามารถทำกิจกรรมความร่วมมือครอบคลุม 4 ด้าน คือ 1.การประชุมร่วมกันเป็นประจำ/Regular Meeting 2.การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร/Exchange of Information 3.การร่วมมือทางด้านการพัฒนาการบินและจุดมุ่งหมายของการส่งเสริมการตลาดร่วมกัน/Joint Aviation Development and Destination Promotion Activities และ 4.กิจกรรมแลกเปลี่ยนพนักงาน/Joint Employee Exchange Activities

สำหรับ “อิสตัลบูล แอร์พอร์ต” เป็นสนามบินนานาชาติหลักเมืองอิสตันบูล สาธารณรัฐทูร์เคีย เติบโตอย่างก้าวกระโดด ปี 2565 มีเที่ยวบินเฉลี่ยวันละ 1,310 เที่ยว เพิ่มขึ้น 34.1% มีผู้โดยสารใช้บริการตลอดทั้งปี 47.6 ล้านคน มีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้ปีละ 90 ล้านคน ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายสนามบินจะแล้วเสร็จปี 2571 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถรองรับเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 200 ล้านคน      

 

อีกทั้งยังเป็นสนามบินที่มีความล้ำสมัย ได้พัฒนาคุณภาพการให้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้โดยสาร นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่เข้ามาสนับสนุนผู้ใช้บริการจนได้รับรางวัลความสำเร็จมากมายจากหลายสถาบัน เช่น Skytrax - The World’s Most Family Friendly Airport 2022 and Best Airport in Southern Europe  และได้รับการจัดอันดับให้เป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการคับคั่งมากที่สุดในยุโรปเมื่อปี 2565 (The Busiest Airport in Europe in 2022)

 


ในพิธีลงนามข้อตกลงระหว่าง ทอท. กับ อิสตันบูล แอร์พอร์ต นั้น มีผู้บริหารระดับสูง AOT และ iGA ร่วมเป็นสักขีพยานด้วย ได้แก่ Mr. Majid Khan Vice ประธานฝ่ายพัฒนาการบิน (President Aviation Development)  Mr. Gokhan Dolek ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาการบิน (Aviation Development Manager) และ Ms. Efsun Tumer ผู้จัดการด้านสื่อสารองค์กร (Corporate Communications A. Manager)
         

ปัจจุบัน AOT จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างท่าอากาศยาน (Sister Airport Agreement) กับบริษัท/องค์กรบริหารท่าอากาศยานระหว่างประเทศ รวม13 บริษัท/องค์กร ครอบคลุมท่าอากาศยานระหว่างประเทศ 17 แห่ง ใน 10 ประเทศ 

วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

TCEBรอบ 2ชิง“Expo 2028” 29 พ.ย.65 เปิดเวทีโชว์พลังคนรุ่นใหม่-วิดีทัศน์นายกฯปลุกเชื่อมั่นไทย

ทีมไทยแลนด์ตีปีกรอบ2ชิงอีเวนต์โลก“Expo 2028

โชว์พลังคนรุ่นใหม่-วิดีทัศน์นายกฯปลุกเชื่อมั่นไทย

 เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TheJournalistclub #Expo2028PhuketThailand #TCEB

 อ่านใน website TheJournalistclub จากลิงค์นี้

 


ทีมไทยแลนด์จัดเต็มรอบ 2 ชิงเจ้าภาพจัด “Expo 2028 Phuket Thailand” เปิดเวทีในฝรั่งเศสให้เยาวชนไทยอายุน้อยสุดวัย 12 ปีโชว์พลังคนรุ่นใหม่ เคียงข้างวิดีทัศน์ “นายกรัฐมนตรี” มัดใจกรรมการ BIE สมาชิก 170 ประเทศ เชื่อมั่นโหวตเลือกไทยจัดอีเวนต์โลก 20 มี.ค.-17 มิ.ย.2571

 

นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ หัวหน้าคณะทีมประเทศไทย เปิดเผยว่า ทีมไทยแลนด์ได้เดินทางไปนำเสนอรายละเอียดความพร้อมครั้งที่ 2 (2nd Country Presentation) ในการแข่งขันเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand ต่อคณะกรรมการองค์การนิทรรศการนานาชาติหรือ BIE -Bureau of International Exposition และสมาชิก BIE 170 ประเทศ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 ที่ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นช่วงระหว่างการประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 171 (171st BIE General Assembly)  ด้วย

 

ทางทีมไทยแลนด์ได้ให้ความมั่นใจในนามรัฐบาลไทยต่อประเทศสมาชิก BIE มอบความไว้วางใจให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัด Expo 2028 Phuket Thailand พร้อมทั้งใช้วีดิทัศน์นำเสนอสาส์นจากนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำความพร้อมของไทยในเวทีโลก (International Platform) ถึงความร่วมมือเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UNSDGs) สอดคล้องกับ BCG Model ผ่านการจัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand

 

เมื่อไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงานจะสร้างประโยชน์เป็นรูปธรรมแก่ประชาคมโลกเพื่อสร้าง 3 ส่วน คือ สร้างการเปลี่ยนแปลง สร้างความร่วมมือระดับนโยบาย และสร้างแรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่

 

พร้อมทั้งมุ่งเน้นจุดยืนของไทยในการสร้างดัชนีชี้วัดมาตรฐานคุณภาพชีวิตให้อยู่ร่วมกันอย่างสมดุล (Harmony Index) และขับเคลื่อนแนวความคิดการดูแลโลกอย่างยั่งยืน ผ่านแคมเปญหลัก คือ Planet Care Practice และ Nature First Mindset เพื่อนำไปสู่การบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืน

 

ครั้งนี้ทีมไทยแลนด์ได้ลงลึกเรื่องรายละเอียดรูปแบบการจัดงานเพิ่มมากขึ้นกว่าครั้งแรก ประกอบด้วย เรื่องแนวคิดแนวทางการมีส่วนร่วมของประเทศต่าง ๆ ที่จะเข้ามาจัดแสดง แนวทางการพัฒนาพื้นที่จัดงาน และมาสเตอร์แพลนการจัดงาน เน้นย้ำทุกมิติอย่างชัดเจน

 

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEBกล่าวว่า เป็นตัวแทนขึ้นเวทีนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเรื่องการจัดงานภายใต้แนวคิด Future of Life: Living in Harmony, Sharing Prosperity สะท้อนนโยบายและเจตนารมณ์ของไทย โดยให้ความสำคัญกับประเด็นปัญหาที่ทั่วโลกเผชิญร่วมกันทุกมิติ โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง People Planet และ Prosperity ซึ่งเป็นปัจจัยจะส่งผลต่อการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน (Sustainable Living) และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนตั้งแต่คนรุ่นใหม่ไปจนถึงผู้คนในชุมชนท้องถิ่นเพื่อขับเคลื่อนแนวคิดนี้ให้เป็นจริง บรรยากาศรอบนี้ประเทศไทยได้รับความสนใจอย่างดีมาก

 

ซึ่งการนำเสนอ Country Presentation รอบที่ 2 วันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 นั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นรอบที่ประเทศไทยจะต้องทำให้สมาชิก BIE ทั่วโลก 170 ประเทศ ออกเสียงโหวตคะแนนภายในเดือนมิถุนายน 2566 ให้ไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัด Expo 2028 Phuket Thailand ระหว่างวันที่ 20 มีนาคม - 17 มิถุนายน 2571 ในพื้นที่ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

 

ประเทศไทยตั้งเป้าหมายตลอดการจัดงานจะสร้างรายได้เข้าประเทศรวมกว่า 48,869 ล้านบาท แบ่งเป็น  1.รายได้ทางตรงที่จะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) 39,357 ล้านบาท 2.รายได้ทางอ้อมรัฐจะจัดเก็บภาษีการประชุมได้อีก 9,512 ล้านบาท 3.เกิดการจ้างงาน 110,000 ตำแหน่ง

 

เด็กหญิง อัญช์ณฎา ลักขณา Phuket Young Ambassador วัย 12 ปี ผู้ร่วมนำเสนอซึ่งมีอายุน้อยที่สุด เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ (Future Generation) ได้ตระหนักถึงปัญหาที่จะเกิดกับโลก จึงต้องการนำพลังของคนรุ่นใหม่เติบโตพร้อมขับเคลื่อนและสร้างประชาคมโลกอย่างยั่งยืนร่วมกัน

 

นายยศพล บุญสม ผู้แทนกลุ่มสถาปนิกที่ออกแบบโครงการ ร่วมนำเสนอแนวคิดและเอกลักษณ์การออกแบบพื้นที่งาน ภายใต้แนวคิด “Flow of Nature”มุ่งรักษาพื้นที่สีเขียวไว้ให้ได้มากที่สุด โดยใช้เทคโนโลยีเป็นมิตรกับธรรมชาติพัฒนาพื้นที่เป้าหมายไปสู่การเป็น Specialised Expo ซึ่งจะเป็นต้นแบบ Carbon Neutral Pilot Project และ “The First Expo in the Forest” การใช้พื้นที่ร่วมกันระหว่างพื้นที่ป่า สายน้ำ และทะเล ตอกย้ำการอยู่ร่วมกันตามแนวคิดการจัดงานที่จะเป็นชีวิตแห่งอนาคต แบ่งปันความรุ่งเรือง อยู่ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว

 

ส่วนขั้นตอนสุดท้ายจะเป็น “การลงคะแนนเสียง” จากสมาชิก BIE  170 ประเทศ โดยจะมี “Thailand Candidature Committee” ร่วมกันหาเสียง นำโดยรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน และหน่วยงานสำคัญร่วมด้วย เช่น กระทรวงสาธารณสุขในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพ จังหวัดภูเก็ตในฐานะเมืองเจ้าภาพ กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีบทบาทนำทีมรณรงค์หาเสียงในนามประเทศไทย กระทรวงพาณิชย์ในฐานะสมาชิกอย่างเป็นทางการของ BIE และทีเส็บในฐานะหน่วยงานประมูลสิทธิ์

 

ทุกหน่วยมีมติเห็นชอบแผนงานการดำเนินการรณรงค์หาเสียงและการจัดกิจกรรมตามข้อกำหนด BIE ร่วมกันจัดทำข้อมูลประกอบการรณรงค์หาเสียงให้ประเทศไทยและเดินหน้าทำอย่างเต็มที่ โดยมีเป้าหมายใหไทยได้รับเสียงสนับสนุนมากที่สุดในการเลือกประเทศเจ้าภาพซึ่งกำหนดจะประกาศผลเดือนมิถุนายน 2565

 

สำหรับประเทศไทยมุ่งมั่นจะเป็นเจ้าภาพ Expo 2028 Phuket Thailand มาจัดในภูเก็ต เนื่องจากพร้อมเป็นต้นแบบเมืองยั่งยืน สร้างประโยชน์ได้ในทุกระดับ รวมทั้งจะเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ที่จะจัดงานมหกรรมระดับโลก สร้างโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานจากนานาประเทศได้เชื่อมโยงภูมิภาคเติบโตอย่างรวดเร็ว หลังเสร็จสิ้นงานเอ็กซโปไทยวางแผนแปลงโฉมพื้นที่จัดงานให้กลายเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพระดับโลกต่อไป 

วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

บินไทยผนึกVFSเปิดขายตั๋วพ่วงวีซ่าออนไลน์e-VOA ดึงจีน/อินเดีย/ไต้หวัน&14ประเทศเข้าไทยง่ายสะดวก

บินไทยผนึกVFSเปิดขายตั๋วพ่วงวีซ่าออนไลน์e-VOA

ดึงจีน/อินเดีย/ไต้หวัน&14ประเทศเข้าไทยง่ายสะดวก

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TheJournalistclub #TG #eVOA #VFS อ่านใน website TheJournalistclub จากลิงค์นี้



 “การบินไทย”จับมือ VFS Global เปิดกลยุทธ์ใหม่กระตุ้นผู้โดยสาร จีน อินเดีย ไต้หวัน และ 14 ประเทศ ซื้อตั๋ว การบินไทย ไทยสมายล์ รับสิทธิ์ทันทีบริการขอวีซ่าออนไลน์ e-Visa On Arrival เข้าไทยได้สะดวกเร็วขึ้น 

 

นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ร่วมลงนามกับ Mr. Kaushik Ghosh, Head – Australasia, VFS Global เปิดให้บริการใหม่ร่วมมือในโครงการ e-VOA : e-Visa On Arrival  เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วโดยสารของทั้งการบินไทย และไทยสมายล์ ผู้ถือหนังสือเดินทางเข้าประเทศไทย ทั้งจากสาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย ไต้หวัน และอีก 14 ประเทศ สามารถยื่นขอวีซ่าออนไลน์โดย e-VOA ซึ่งจะได้รับการพิจารณาอนุมัติสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น  โดยเฉพาะอินเดียปัจจุบันการบินไทยยกให้เป็นผู้โดยสารตลาดหลักที่สร้างผลกำไรปี 2565 อนาคตจะมีศักยภาพเติบโตสูงขึ้น จึงพร้อมเปิดให้ผู้โดยสารสามารถใช้สิทธิประโยชน์ดังกล่าว  

ผู้โดยสารหรือนักท่องเที่ยวจากประเทศดังกล่าวสามารถยื่นขอ e-VOA เข้าประเทศไทยผ่าน 2 ช่องทางหลัก ได้แก่ 1.เว็บไซต์ thaiairways.com หรือ thaismileair.com 2.สมัคร Visa On Arrival ผ่านเว็บไซต์ VFS Global  

 


ส่วนการลงนามเปิดบริการโครงการ e-VOA ของการบินไทยครั้งนี้ มีผู้บริหารหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยานที่สำนักงานใหญ่ การบินไทย ถนนวิภาวดี ประกอบด้วย Mr. Amar Rijhwani, Associate Head – Business Development, Australasia, VFS Global  นายกรกฏ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ การบินไทย และพล.ต.ท. ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

 

สำหรับ e-VOA : e-Visa On Arrival ที่การบินไทยกับไทยสไมล์จัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าซึ่งเป็นผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเครื่องบินจากทั้ง 2 สายการบิน ประแอบด้วย สาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย ไต้หวัน และอีก 14 ประเทศ ได้แก่ บัลแกเรีย ภูฏาน ไซปรัส สหพันธ์สาเอธิโอเปีย ฟิจิ จอร์เจีย คาซัคสถาน มอลตา เม็กซิโก นาอูรู ปาปัวนิวกินี โรมาเนีย อุซเบกิสถาน และวานูอาตู ที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศไทย

 

วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ททท.อีสานเปิดแผนปี’66นำ20จังหวัดทำเงิน9หมื่นล้าน การบินสัญญาณดีเดือนละ2พันเที่ยวกว่า 3.8 แสนที่นั่ง

ททท.อีสานเปิดแผนปี’66นำ20จังหวัดทำเงิน9หมื่นล้าน

การบินสัญญาณดีเดือนละ2พันเที่ยวกว่า 3.8 แสนที่นั่ง

เมืองหลัก/รองชูขายของดี/เฟสติวัล/UnseenNewChapters

FESTIVE BRANDคิงเพาเวอร์ช้อปได้ไม่หยุดคุ้มทุกดีล

คิงเพาเวอร์ร่วมไทยเที่ยวไทย4โปรแรง“ห้อง/อาหาร/สปา”

เลสเตอร์”เปิดขายแล้วชุดแข่งฤดูใหม่รับทีมเยือน2023

ททท.ดันเที่ยวไทยเกินเป้าแล้ว200ล้านคน7.31แสนล้าน

บางจากเปิดยุทธศาสตร์ปี’73นำ5กลุ่มธุรกิจสู่โลกยั่งยืน

เที่ยวงาน“โครงการหลวง”ราชพฤกษ์เชียงใหม่3-7ธ.ค.นี้

7สาเหตุตื่นนอนตอนเช้าแล้วมีเจ็บคอทุกทีรีบแก้ไขด่วน

บินไทยพบบอร์ดชุดรองนายกวิษณุขอเพิ่มทุน/แปลงหนี้”

ทอท.แจงปี’65ขาดทุนลด5.2พันล้านรายได้เพิ่มหมื่นล้าน


น.ส.สรัสวดี อาสาสรรพกิจ 

ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #

 ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...https://fb.watch/h1j_lxsD2U/

ช่วงที่ 1 อีสานพร้อม กับ “น.ส.สรัสวดี อาสาสรรพกิจ” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดทัพปี’66 นำท่องเที่ยว 20 จังหวัด ปั๊มรายได้ 9 หมื่นล้านบาท ขานรับปริมาณเที่ยวบินธ.ค.65 นี้คึกคัก เดือนละ 2,000 เที่ยว กว่า 380,000 ที่นั่ง เมืองใหญ่มาแรง “อุดร” รุกสายมูเที่ยวพญานาค บวก 4 แสง “อุบล” มหาอำนาจเทศกาลเส้น “ขอนแก่น” บูมอาหารพระรอง  “โคราช” จัดเต็มมินิไลฟ์แอนด์ซาวนด์ เมืองรอง “บุรีรัมย์” เที่ยว 356 วัน “สุรินทร์” ระดมFCช้างหลายคนร่วมมีตแอนด์กรี๊ท “เลย” ชวนปีน 20 ภูสวย “นครพนม” ปั่นริมโขง “สกล” แห่ดาว “ชัยภูมิ Dark sky ททท.ภูมิภาคไฮไลต์356 วัน มหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวันจัดกระหึ่ม 2 โปรเจกต์ “เฟสติวัลไลฟ์สไตล์ทั่วอีสาน-Unseen New Chapters

นางสาวสรัสวดี อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ตามแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวภาคอีสานปี 2566 โดยมี 8 สำนักงาน ดูแลพื้นที่ 20 จังหวัด พร้อมจะเสนอขายสินค้าท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นแตกต่างกัน เพื่อทำรายได้ท้าทายอย่างมากตามเป้าหมาย  90,000 ล้านบาท 23 ล้านคน-ครั้ง จากเป้าหมายรวม 135 ล้านคน-ครั้ง พร้อมทั้งจะกระตุ้นให้มีอัตราเข้าพักทั่วอีสานเฉลี่ย (OR-Occupacy Rate) เกิน 60 % เพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว



ปริมาณเที่ยวบินเข้าออกภาคอีสานมีมากกว่า 2,000 เที่ยว/เดือน จำนวนที่นั่งกว่า 380,000 ที่นั่ง/เดือน มีบินข้ามภาค จากขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี ไปยังภาคเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย และภาคใต้ ภูเก็ต หาดใหญ่  เที่ยวบิน 3 อันดับแรก ได้แก่ ไป-กลับ กรุงเทพฯ ปลายทาง อุดรธานี อุบลราชธานี ขอนแก่น 

คาดการณ์แนวโน้มการท่องเที่ยวในอีสานช่วงเดือนธันวาคมนี้จะเพิ่มขึ้นเกินกว่า 20 % ทำให้ภาพรวมแล้วจะทำให้ตลอดปี 2565 ทำได้ถึง 20 ล้านคน เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ ปี 2565 ซึ่ง

ททท.อีสาน ได้รับโจทย์ทำให้ถึง 19.5 ล้านคน-ครั้ง ข้อมูล 9 เดือนแรก มกราคม-กันยายน ปีนี้ทำได้แล้ว 15.6 ล้านคน-ครั้ง แนวโน้มภายในสิ้นปีจบเดือนธันวาคมนี้จะทำได้ถึง 20.3 ล้านคน-ครั้ง ส่วนรายได้ตามเป้าคือ 60,000 ล้านบาท แต่อาจจะทำได้ไม่ถึงเป้าหมาย เพราะ “จำนวนนักท่องเที่ยว” ไม่ได้เป็นปัญหา แต่ “การใช้จ่ายเงินของนักท่องเที่ยวค่อนข้างต่ำ” ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลมาจากค่าครองชีพต่ำ จะต้องเข้าไปดูเรื่องซัพพลายให้ดีขึ้นในระยะยาว

 


ขณะนี้แต่ละจังหวัดได้เตรียมสินค้า กิจกรรม และ จุดขายต่าง ๆ เริ่มวางขายในช่วงต้อนรับปีใหม่ 2566 ดังนี้

 

1.อุดรธานี เตรียมโปรโมทไฮไลต์ 4 แสง  “แสงอรุณแรก” แห่งสยาม ณ ผาชนะได อ.โขงเจียม “แสงธรรม” วัดสิรินธร อ.ภูพร้าว “แสงเทียน” ช่วงแห่เทียนพรรษา “แสงแห่งอาทิตย์” ท่องเที่ยวฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ไฮบริดหรือโซลาร์ฟาร์มขนาดใหญ่สุดที่เขื่อนสิรินธร

 

2.ขอนแก่น ชูขายท่องเที่ยวเชิงอาหารทำโปรเจกต์ “พระรอง” ยกเอกลักษณ์เมนูเลียนแบบได้ยากคัดสรรมาเพียง 5 เมนูเท่านั้นเป็นร้านในตำนานเมืองขอนแก่น เช่น ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเซ่งฮง เปิดมากว่า 60 ปี ร้านอัมพรแหนมเนือง อายุกว่า 50 ปี ร้านประสิทธิ์โภชนา เมนูเสือร้องไห้ เนื้อแดดเดียว แจ่วฮ้อน มีคนเข้าคิวรอหน้าร้านเทียบชั้นได้กับ The Must ของญี่ปุ่น ร้านโรตีขายแบบหมดแล้วหมดเลยวันละไม่เกิน 1,000 แผ่น ร้านบ้านหน้าไม้ จะเปิดวันละ 3 ชั่วโมง

 

 3.อุบลราชธานี เตรียมจัดเทศกาลยิ่งเด็กเส้น เดือนมีนาคม 2566 ในฐานะเมืองที่มีก๋วยจั๊บญวนขึ้นชื่อ

 

4.นครราชสีมา จะจัดช่วง 29 มกราคม 25 กุมภาพันธ์ 2566 จัดยิ่งใหญ่ “มินิ ไลฟ์ แอนด์ ซาวนด์ พิมาย” เปิดให้นักท่องเที่ยวจองตั๋วเข้าชมได้ที่ ททท.นครราชสีมา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แล้วยังมีเทศกาลทุ่งดอกไม้ “เบญจมาศในม่านหมอก วังน้ำเขียว” ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2566

 

5.ชัยภูมิ ชูขายเทรนด์ใหม่ Amazing Camping Dark Sky ททท.ได้ทำลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับองค์กรดาราศาสตร์ ประกาศให้มีจุดชมดาวในรูปแบบ Dark Sky ชัยภูมิไว้ถึง 3 แห่ง ได้แก่ ภูแลนคา ป่าหินงาม ภูเขียว

 

6.นครพนม นำเสนอกิจกรรมไฮไลต์ ปั่นจักรยานสวรรค์ชายโขง สะออนรันเดินวิ่งข้ามโขง นครพนมคำม่วน

 

7.สกลนคร ไฮไลต์เที่ยวงาน “แห่ดาว” ช่วงคริสต์มาส วันที่ 22 ธันวาคม นี้ แห่ดาวทางน้ำ วันที่ 23 ธันวาคม แห่ดาวทางบก

 

8.เลย ชวนไปท่องเที่ยว 20 ภู ดูทะเลหมอก เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 เป็นต้นไป ภูพระ ภูกระดึง ภูทอก ภูบ่อบิด ทุกภูอุณหภูมิจะต่ำกว่า 25 องศาเซียลเซียส

 

9.สุรินทร์ โดดเด่นเรื่องช้าง ปัจจุบันมี FC หรือแฟนคลับหลังเกิดโควิด-19 ทางควาญนำช้างกลับบ้านแล้วเปิดช่องยูทูปให้แฟนคลับได้ติดตาม เช่น พังบัวบานมี FC มากถึง 2 แสนราย เจ้าหญิงกะละมัง FC 1.5 แสนราย จุ๊บแจง FC 1.6 แสนคน ขณะนี้ทาง ททท.สำนักงานสุรินทร์ กำลังหารือกับเจ้าของช้างแต่ละเชือก เพื่อจัดกิจกรรม Meet and Greet เชิญชวนให้บรรดาแฟนคลับช้างไปทำกิจกรรมโฮมสเตย์ หรือตักบาตรกับช้าง กินอาหารถิ่นชุมชน

 

ส่วนการวางกลยุทธ์กระตุ้นการท่องเที่ยวอีสาน ดินแดนแห่งสุดยอด “สายมู สายศรัทธา” ทางนครพนม จัดเส้นทาง “ไหว้พระธาตุประจำวันเกิด” อุดรธานี นำเสนอซอฟท์เพาเวอร์ขานรับที่ประเทศไทยได้รับการประกาศให้นำ “พญานาค” มาเป็นสัญลักษณ์ของสัตว์ในตำนาน จึงจัดทำเส้นทางท่องเที่ยว 2 สไตล์

 

สไตล์แรก “มูให้ปัง มูให้เฮง รับพลังรักษ์โลก” ทำร่วมกับอาจารย์คฑา ชินบัญชร ร่วมสักการะพญานาค @นคราธานี 3 จังหวัด อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ ตลอดการท่องเที่ยวจะเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งจะไม่จุดธูปที่เกิดควันในอากาศ

สไตล์ที่สอง “มูกลางคืนก็ปัง มูกลางวันก็เฮง” สถานที่กราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์โดยไม่รบกวนพระสงฆ์ในวัด เช่น สักการะศาลหลักเมือง กับศาลเจ้า ต้อนรับเทศกาลดีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

 

ผอ.สรัสวดี กล่าวว่า กำลังเดินหน้าขานรับโปรเจกต์ใหญ่ของตลาดในประเทศ “365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน” ภาพใหญ่ ททท.ภูมิภาคภาคอีสานจะเน้นเข้าไปทำ 2 โปรเจกต์สำคัญ ได้แก่ โปรเจกต์แรก  “งานเทศกาล หรือ Festival” เกี่ยวกับ “ไลฟ์สไตล์” เป็นภาคที่มีคนเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวหนาแน่นช่วงงานวัฒนธรรม ประเพณี และงานเกี่ยวเนื่องกับศาสนา จะเป็นฤดูท่องเที่ยว ทัวร์บุญ ร่วมงานใหญ่แห่เทียนพรรษา ซึ่งจะเข้าไปดูเพื่อจัดกิจกรรมเพิ่มรายได้และวันพัก เช่น จ.สกลนคร จะริเริ่มจัด “เทศกาลผ้าคราม” จ.ยโสธร นำร่องกิจกรรม “กินลาบได้ลาภ” ในฐานะของเมืองที่มีร้านลาบเปิดบริการอยู่ทั่วประเทศในชื่อลาบยโสธร นำเสนอเนื้อหา 2 ลาภ คือ 1.ลาภเรื่องสุขภาพดี 2.กำลังเล็งทำเกี่ยวกับการถูกล็อตตารี่

 

ขณะเดียวกันก็มีจังหวัด “บุรีรัมย์” เป็นพื้นที่มีความโดดเด่นมากที่สุดในอีสาน สามารถสร้างจุดขาย ล็อกอินเข้าไปใน facebook TAT Surin จะมีปฏิทินท่องเที่ยวแต่ละวัน เช่น โปรแกรมดูแลสุขภาพ การบวงสรวงเขาพนมรุ้ง การชิมอาหารถิ่นเขียงนาสไตล์เชฟเทเบิ้ล รวมถึงเส้นทางท่องเที่ยวมหานครแห่งกีฬา และอีเวนต์

 

โปรเจกต์ที่ 2 Unseen New Chapters ต่อยอดจาก Unseen New Series ประสบความสำเร็จค่อนข้างมาก จึงจะขยายผลต่อขณะนี้ยังเป็นแนวคิดกับร่วมประสานกับหน่วยงานเกี่ยวข้องในท้องถิ่น ประกอบด้วย 1.สร้างสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ  เช่น ผาโศก หินโลมา น้ำตกกินรี 2.สร้างคอนเทนท์ใหม่ ๆ ในสถานที่คุ้นเคยอยู่แล้ว เช่น ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมขึ้นชื่อของจังหวัด สร้างสินค้าเฉพาะกลุ่ม เพื่อดึงดูดคนเข้าไปเที่ยวได้บ่อยครั้ง มากขึ้น หรืออาหารถิ่น เช่น จ.ขอนแก่น จะชูขายเมนูพระรอง จ.อุบลราชธานี รวมแหล่งอาหารเส้นต่าง ๆ

 

ผลักดันการขายท่องเที่ยวภาพรวมให้สอดคล้องกับธีม “ISAN IN LOVE -หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน” จะทำให้คนหลงรักในมุมใดได้บ้าง กำลังวางกลยุทธ์จัดเทศกาลอาหาร Food Festival และลดการสร้างขยะอาหาร Food Waste ควบคู่ไปด้วยเพื่อการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 FESTIVE BRAND SALEBRATION ช้อปคุ้มทุกดีล

 

คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ ส่งสัญญาณแจ้งโปรโมชั่นพิเศษในเดือนธันวาคม 2565  นี้ กับแคมเปญพิเศษ FESTIVE BRAND SALEBRATION ช้อปไม่หยุดคุ้มสุดทุกดีล เปิด 3 ดีลพิเศษ ให้คุณช้อปสินค้าแบรนด์เนม อาทิ น้ำหอม เครื่องสำอาง สินค้าแฟชั่น และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน มอบส่วนลดสินค้าจุใจลดสูงสุดถึง 70% ช้อปได้ตั้งแต่วันที่ 13 - 31 ธันวาคม 2565

 

เตรียมเปิดประสบการณ์ช้อปออนไลน์กับ คิง เพาเวอร์ แบบไม่ต้องมีไฟลต์บิน แม้จะอยู่บ้านก็สนุกกับการช้อปสินค้าราคาดิวตี้ฟรี ได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการ Home Delivery จัดส่งฟรีถึงบ้านทั่วประเทศ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 699 บาทที่ เว็บไซต์ คิง เพาเวอร์ และคิง เพาเวอร์ แอปพลิเคชัน

 

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์ร่วมไทยเที่ยวไทย4โปร“ห้อง/อาหาร/สปา”

 

คิง เพาเวอร์ ร่วมโปรโมชั่นในงาน  #ไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 64 พบกันที่บูธ H11 ตั้งแต่วันนี้ – 27 พ.ย.นี้ 1.รับคูปองเริ่มต้น 900 บาทสุทธิ  2.สมาชิกคิง เพาเวอร์ ลดเพิ่ม 10% 3.ซื้อคูปองแล้วเก็บไว้ใช้ได้ถึง 31 พ.ค.66  4.ซื้อออนไลน์ คลิก  https://bit.ly/30RLm7D   เลือกได้ 4 โปรโมชั่น ดังนี้

 

1.ห้องพักซูพีเรีย ราคา 3,600 บาทสุทธิ รวมอาหารเช้า 2 ท่าน ฟรีชุดน้ำชายามบ่าย

 

2.ซื้อ 10 แถม 1 บุฟเฟต์ซีฟู้ดบาร์บีคิวมื้อค่ำ 18.00 – 22.30 น.ที่ ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ วันจันทร์ - วันพุธ ราคาคนละ 900 บาทสุทธิ จากปกติ 1,350 บาท) วันพฤหัสบดี - วันอาทิตย์ ราคา 1,200 บาทสุทธิ จากปกติ 1,850 บาท

 

            รับ E-voucher ใช้ได้ภายในวันที่  31 พฤษภาคม 2566 (ยกเว้น 24-25 และ 31 ธันวาคม 2565

) เพื่อรับประทานบุฟเฟต์ซีฟู้ดมื้อค่ำ 1 คน รวมน้ำดื่ม 1 ขวด โดยจะต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนเข้าใช้บัตรกำนัล โทร. 02 680 9999 หรืออีเมลล์ H6323-FB4@accor.com

 

รับส่วนลดเพิ่มอีก 10% เมื่อชำระเงิน บัตรสมาชิก คิง เพาเวอร์  ใส่รหัส  “KP10” บัตรแอคคอร์ พลัส ใส่รหัส  “AP10” พร้อมทั้งแสดงบัตรสมาชิกก่อนเช็คอิน และชื่อบนบัตรต้องตรงตามชื่อผู้จองด้วย

 

 

3.ซื้อ 5 แถม 1 นวดผ่อนคลาย 60 นาที ณ เลอ สปา ราคา 990 บาทสุทธิ เลือกระหว่าง นวดน้ำมันอโรม่า หรือ นวดไทย คลิก bit.ly/3gy2ZAW

 

4.คอร์สโอมากาเสะ มื้อกลางวัน ราคา 1,500 บาทสุทธิ ที่ห้องอาหารเท็นโกะ โทร 02 680 9999

 

ข่าวที่ 3 “เลสเตอร์”เปิดขายแล้วชุดแข่งฤดูใหม่รับทีมเยือน2023

 

คิง เพาเวอร์ เจ้าของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ต้อนรับฤดูการใหม่ ชุดแข่งทีมเยือนฤดูกาล 2022/23 สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้แนวคิด “CREATE ICONIC” หรือ การสร้างเอกลักษณ์เพื่อเฉลิมฉลองช่วงเวลาที่ดีที่สุดของสโมสร ให้อยู่ในความทรงจำของแฟนบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ทุกคนตลอดไป

 

ช้อปได้ทันทีเสื้อชุดแข่งทีมเยือนฤดูกาล 2022/23 เปิดตัวแล้วด้วยดีไซน์ “สีดำ” ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยไฮไลต์สีมินต์ ตกแต่งที่ไหล่ด้วยลายทางสามแถบสีขาวอันเป็นเอกลักษณ์ของอาดิดาส คอปกและปลายแขนเสื้อตกแต่งด้วยลวดลายกระดานหมากรุกสีขาวดูโฉบเฉี่ยวและทรงพลัง ตราสโมสรเป็นสีขาวตัดกับพื้นสีดำดูโดดเด่นสวยงาม ตัวเสื้อมาพร้อมเทคโนโลยี AEROREADY

 

LCFC AWAY SHIRT 2022/23 มีทั้งหมด 6 SIZE ได้แก่ XS S M L XL และ XXL ราคา 2,750 บาท พร้อมให้ทุกคนเป็นเจ้าของแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

สั่งซื้อได้ 4 ช่องทาง 1.Instagram: @leicestershop_th 2.Facebook: leicestershop_th

3.Line Official: @leicestershop_th หรือคลิก https://rb.gy/s2tgcy

 

ข่าวที่ 4 ททท.ดันเที่ยวไทยเกินเป้าแล้ว200ล้านคน7.31แสนล้าน

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้เป็นประธานมอบนโยบายแนวทางขับเคลื่อนแผนส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวภาคใต้ ปี 2566 เพื่อวางทิศทางการดำเนินงานในภาคใต้ที่มีนายสมชาย ชมภูน้อย เป็นผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคใต้ ททท.ดูแล ททท.พื้นที่ 11 สำนักงาน ร่วมแลกเปลี่ยนนำเสนอแผนตลาดและรูปแบบการท่องเที่ยว 14 สไตล์ เที่ยวใต้ได้ทั้ง 365 วัน ระหว่างมอบนโยบายแผนตลาดการท่องเที่ยวในประเทศ ภูมิภาคภาคใต้ ททท.ได้นำเสนอความคืบหน้าสถานการณ์ภาพรวมตลาดการท่องเที่ยวภายในประเทศ 10 เดือนแรกปีนี้ สามารถทำทั้ง “รายได้และจำนวน” เกินเป้าหมายปีนี้และใกล้เคียงปีหน้าไปเรียบร้อยแล้ว จากสถิติระหว่าง 10 เดือนแรก ระหว่างมกราคม-ตุลาคม 2565 ทำรายได้มากถึง 731,674.58 ล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวรวม 200.704 ล้านคน-ครั้ง  ซึ่งยังเหลือเวลาที่จะทำรายได้ในช่วงฤดูท่องเที่ยวปลายปีนี้อีกถึง 2 เดือน

 

เมื่อเปรียบเทียบแล้ว 10 เดือนแรกปีนี้ ททท.ในประเทศ ทำยอดได้สูงเกินกว่าคาดการณ์เดิมตลอดปี 2565 ตามที่ททท.ตั้งไว้ นั่นคือ ปัจจุบัน “รายได้” สูงกว่าเป้าหมายเดิมถึง 75,674.58 ล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ 656,000 ล้านบาท เช่นเดียวกับ “จำนวนนักท่องเที่ยว” ก็สูงกว่าเป้าหมายประมาณ 40.704 ล้านคน-ครั้ง จากเดิมตั้งไว้  160 ล้านคน-ครั้ง

 

อีกทั้งสถิติรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศ 10 เดือนแรก ปี 2565 ยังใกล้เคียงกับเป้าหมายใหม่ตามแผนของ ททท.ตลอดปี 2566  วางแผนจะฟื้นฟูกลับมาให้ได้ 80 % ของปี 2562

 

ททท.ตั้งเป้าหมายจาก “ตลาดในประเทศ” ปี 2566 โดยแบ่งเป็น

 

กรณีที่ 1  บนพื้นฐานของสถานการณ์ท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างเป็นไปได้ หรือ Base Case Scenario จะต้องทำให้ได้ 760,000 ล้านบาท 

กรณีที่ 2 ภายใต้สถานการณ์ท่องเที่ยวเอื้ออำนวยในทุกด้าน หรือ Best Case Scenario จะทำให้ได้ 880,000 ล้านบาท

 

แต่ช่วง 10 เดือนแรกปีนี้ ระหว่างมกราคม-ตุลาคม 2565 ทำไปได้แล้วถึง 731,674.58 ล้านบาท ห่างจากคาดการณ์ในกรณีที่ 1 เพียง 28,325.42 ล้านบาท และห่างจากคาดการณ์กรณีที่ 2 ประมาณ 148,325.42 ล้านบาทเท่านั้น

               

สำหรับสถิติ สถานการณ์ปกติ ปี 2562 การท่องเที่ยวตลาดในประเทศ ทำ “รายได้” 1,081,759.09 ล้านบาท “จำนวนนักท่องเที่ยว” 229,748,960 คน-ครั้ง ปี 2563 ช่วงเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ทำ “รายได้ 482,468.09 ล้านบาท “จำนวนนักท่องเที่ยว” 123,214,821 คน-ครั้ง ปี 2564 สถานการณ์แพร่ระบาดต่อเนื่องของโควิด-19 ทำ “รายได้ 216,375.92 ล้านบาท “จำนวนนักท่องเที่ยว” 71,882,281 ล้านบาท

 

ข่าวที่ 5 บางจากเปิดยุทธศาสตร์ปี’73นำ5กลุ่มธุรกิจสู่โลกยั่งยืน

 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าบริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทบางจากกำลังมุ่งสู่ช่วงเวลาสำคัญครั้งใหม่ที่ท้าทาย ภายใต้เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ในปี 2593 (ค.ศ. 2050) โดยมีเป้าหมายแรกคือความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2573 (ค.ศ. 2030) บริษัทฯ จึงเดินหน้าปรับพันธกิจองค์กรสู่วิสัยทัศน์ใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘รังสรรค์โลกยั่งยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียว’ และกำหนดยุทธศาสตร์การเติบโตอนาคต 8 ปีหน้า ตั้งแต่ปี 2565 ถึงปี 2573 (ค.ศ. 2030) ของทั้ง 5 กลุ่มธุรกิจ ให้สอดรับกับแนวทางของแผนงาน BCP 316 NET เพื่อรองรับเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

 

การปรับครั้งนี้เป็นผลมาจากวิกฤติโควิด-19 เริ่มต้นเมื่อต้นปี 2563 กลุ่มบริษัทบางจากได้ปรับองค์กรเพื่อความยั่งยืนผ่านแนวคิด 3Rs  ประกอบด้วย 1.Refocus -เร่งสร้างความมั่นคงด้านพลังงานควบคู่กันกับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด 2.Restructure -ปรับองค์กรเพื่อสร้างช่องทางเข้าถึงตลาดและลูกค้า และ 3.Reimagine -ใช้โอกาสและเครื่องมือในการลงทุนที่เหมาะสมเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท ส่งผลให้สามารถออกจากโควิด-19 ได้ โดยมีผลการดำเนินงานดีต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2564 ถึงล่าสุดผลเดือนแรกปี 2565 ทำรายได้ก่อนหักภาษีต่างๆ หรือ EBITDA สูงถึง 37,773 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยรากฐานที่มั่นคง ยืดหยุ่นสูง ด้วยศักยภาพการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนไปและเติบโตจากการขยายธุรกิจด้านต่าง ๆ ต่อเนื่อง พร้อมจะปรับวิสัยทัศน์ใหม่ใน 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่

 

กลุ่มที่ 1 ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน มุ่งต่อยอดการเติบโตจากศักยภาพใหม่ ๆ นอกจากการกลั่นและการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตแล้ว ยังเน้นการผลิตผลิตภัณฑ์นอกเหนือจากน้ำมันยานยนต์และเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพตามความต้องการของตลาดหรือลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (Niche Products Refinery) เช่น Unconverted Oil กับเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel หรือ SAF) โดยตั้งเป้าภายในปี 2573 จะเพิ่มสัดส่วน EBITDA ของกลุ่มธุรกิจเชื้อเพลิงนอกยานยนต์เป็นกว่า 60%

 

กลุ่มที่ 2 ธุรกิจการตลาด เร่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ครบครัน เพื่อเป็นมากกว่าสถานที่เติมน้ำมัน ตอบโจทย์คนทุกวัยภายใต้แนวคิด “YOUR” Greenovative Destination for Intergeneration ผ่านการเติบโตจากธุรกิจ Non-Oil โดยเฉพาะ อาหารและเครื่องดื่ม กับ EV Charger ของรถยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนร่วมมือกับคู่ค้าและรายได้จากแฟรนไชส์ ภายในปี 2573 ตั้งเป้าขยายทั่วประเทศ ได้แก่ เครือข่ายสถานีบริการบางจากให้ได้ถึง 1,900 แห่ง กับร้านกาแฟอินทนิล 3,000 แห่ง

 

กลุ่มที่ 3 ธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ดำเนินงานโดย บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) วางเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 6,800 GWh โดยมีสัดส่วนหลักจากการเติบโตในกลุ่มธุรกิจพลังงานสีเขียว ทั้งโครงการในประเทศ จากแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของไทยฉบับใหม่ (PDP 2022 ระหว่างปี 2565-2580 และในต่างประเทศตามการเปลี่ยนผ่านพลังงานของโลกสู่พลังงานสะอาด เสริมด้วยธุรกิจที่มีศักยภาพในอนาคต เช่น ธุรกิจแบตเตอรี่และการกักเก็บพลังงาน การให้บริการด้านเทคโนโลยีพลังงาน พลังงานรูปแบบใหม่และธุรกิจคาร์บอนต่ำอื่น ๆ

 

กลุ่มที่ 4 ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ดำเนินงานโดย บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) ได้กำหนดแนวทางและเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนธุรกิจหลักกว่า 70% ของ EBITDA ให้มาจากผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง เน้นรุกขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ซึ่งพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีชีววิทยาสังเคราะห์ หรือ SynBio -Synthetic Biology นำมาใช้ออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติตรงตามต้องการ โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพและความงามของผู้บริโภคสอดรับกับเทรนด์โลก เช่น good health and well–being 

 

รวมทั้งยังมีแผนต่อยอดการเติบโตในกลุ่มธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพ หลัก ๆ คือ เชื้อเพลิงอากาศชีวภาพแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel -SAF) รองรับตลาดอุตสาหกรรมการบินด้วย

 

กลุ่มที่ 5 ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและธุรกิจใหม่ เน้นเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานผ่านการขยายธุรกิจในกลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ ในส่วนธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมนั้น ภายในปี 2573 ตั้งเป้าหมายการผลิตให้ได้มากกว่า 100,000 boepd (บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันจากแหล่งปิโตรเลียมในประเทศนอร์เวย์ผ่านบริษัทฯ OKEA ASA ปัจจุบันกลุ่มบริษัทบางจากเป็นผู้ถือหุ้นหลักในปัจจุบัน

 

                ช่วงที่ 2 ได้เวลาออกเที่ยวงาน “โครงการหลวง 25655 วัน 3-7 ธ.ค.นี้ ที่อุทยานราชพฤกษ์ เชียงใหม่ จบครบทุกสิ่ง สุขภาพดี ชีวีสุขสันต์ พบกับพืชผักคุณภาพดีของเกษตรที่สูงปลูกโดยฝีมือเกษตรกรชาวเขากว่า 800 รายการ พร้อมชมนิทรรศการความรู้ ชมทุ่งดอกไม้ กิจกรรมมากมาย ฟังเรื่องสุขภาพ “7สาเหตุตื่นนอนตอนเช้าแล้วเจ็บคอ” ฟังข่าวฮ็อต ข่าวแรก “บินไทย” พบบอร์ดชุด “ดร.วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันเพิ่มทุนแปลงหนี้ ข่าวที่สอง “ทอท.”แจ้งปี’65 ขาดทุนลด 5.2 พันล้านรายได้เพิ่มหมื่นล้าน

 

ท่องเที่ยว -เที่ยวงาน“โครงการหลวง”ราชพฤกษ์เชียงใหม่3-7ธ.ค.นี้

 

เดือนธันวาคม นี้ สายสุขภาพต้องชอบแน่นอน เที่ยวครบจบในงานเดียว ถึงเวลาที่รอคอยแล้วกับการปักหมุดเที่ยวงาน “โครงการหลวง 2565”  ระหว่างวันที่  3-7 ธันวาคม 2565 ที่อุทยานราชพฤกษ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มาในธีม “สุขภาพดี ชีวี สุขสันต์ กับผลิตภัณฑ์โครงการ

 

ตลอด 5 วัน ปักหลักเที่ยวครบจบที่เดียวกับกิจกรรมพิเศษมากกว่าทุกปี  เปิดโลกความสุขกับนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “ถอดรหัส จากเขา สู่เรา” ชมผลงานที่ได้จากการวิจัย ผลผลิต ผลิตภัณฑ์ และ นวัตกรรมใหม่ ได้แก่ พันธุ์พืชใหม่ ๆ เช่น เบบี้คอสแดง กาแฟพันธุ์ใหม่ สมาร์ทฟาร์ม การเลี้ยงปลาเรนโบว์เทร้าต์ ปลาสเตอร์เจียน การปลูกพืชในระบบวนเกษตร การจำลองบรรยากาศสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ทึ่งกับพีชพืชต้นกำเนิดโครงการหลวง งานหัตถกกรรมพื้นที่สูง และเดินช้อปได้ไม่หยุดสินค้ามากมาย

 

ตื่นตากับการยกทุ่งดอกเอเดลไวส์ ดอกไม้สายใยรัก มาให้ชมเต็มคาราเบล หรือฟินไปกับไร่ชาโดยไม่ต้องนั่งรถขึ้นไปถึงยอดดอย

 

เพลิดเพลินกับกิจกรรม ประกวด Tik Tok “สุขภาพดี ชีวีสุขสันต์ กับผลิตภัณฑ์โครงการหลวง”  เชียร์การแข่งขันเชฟกระทะเล็กของ แฟมิลี่ คุ้กกิ้ง ร่วมแบ่งปันความรู้คุณค่าอาหาร ฟังเสวนาเด็กดอย “บ้านสุขสันต์ ในฝันของฉัน” กับเดี่ยวไมค์กลุ่มผู้นำชุมชน การแสดงดนตรี และการแสดงของชนเผ่าต่าง ๆ  ช้อปหัตถกรรมผ้าแต่ละชนเผ่านับวันจะหากได้ยากขึ้นทุกที

 

ช้อปสนุกกับ ผลิตผล ผลิตภัณฑ์โครงการหลวง โครงการส่วนพระองค์ ผลิตภัณฑ์ดอยคำ ปีนี้มีมากกว่า 800 รายการ มีสินค้าใหม่มาแนะนำ คือ เมล่อนไต้หวัน 101 มะเขือเทศเชอร์รีเหลืองหวาน  ชาหมักคอมบูชะ (Kombucha) คาเทชิน เฟเซียล เซรั่ม พลัส เฮมพ์ ซีด ออยล์ ชุดขวัญข้าว ประกอบด้วย ข้าวกล้องเหลือง  ข้าวดอยซ้อมมือ และข้าวกล้องไก่ป่า ผงโรยข้าวสูตรผักครบเครื่อง

 

วางแผนเที่ยวทริปนี้ ดีต่อใจ ต่อสุขภาพ แล้วยังได้ร่วมสนับสนุนอาชีพเกษตรบนพื้นที่สูงซึ่งมีความมั่นคง โดยเกษตรกรชาวเขาเห็นถึงความสำคัญการผลิตพืชผลคุณภาพในมาตรฐานความปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งทำให้การท่องเที่ยวเป็นพลังฟื้นเศรษฐกิจไทย

 

สุขภาพ -7 สาเหตุตื่นนอนตอนเช้าแล้วมีอาการเจ็บคอทุกที

 

อาการเจ็บคอทุกเช้า ไม่ได้หมายถึงเป็นหวัดเพียงอย่างเดียว สัญญาณบ่งบอกถึงอาการไม่ปกติ ต้องรีบแก้ไข เพื่อสุขภาพที่ดีชีวิตยืนยาว จาก 7 สาเหตุ ดังนี้

1.มีปัญหานอนกรน เพราะช่วงเวลานอนหายใจเข้าทางปาก ทำให้คอแห้ง เมื่อตื่นปุ๊บก็ให้ดื่มน้ำทันที

 

2.เกิดภาวะขาดน้ำ เพราะตอนนอนหลับ 8-9 ชั่วโมง ไม่ได้เติมน้ำเข้าร่างกาย ขณะที่ร่างกายต้องดูดซึมไปใช้เรื่อย ๆ จึงแสบคอ เมื่อตื่นเช้าแนะนำให้ดื่มน้ำทันที 1-2 แก้ว

 

3.อากาศในห้องแห้งเกินไป โดยเฉพาะห้องที่เปิดแอร์ วิธีง่าย ๆ ทำให้อากาศมีความชื้นด้วยเครื่องพ่น ลดการเจ็บคอ

 

4.เป็นภูมิแพ้อากาศ ยังอาจมีปัญหาการไอหรือจาม ตามมาด้วย ควรกินอาหารวิตามินซีสูง ระงับยับยั้งอาการให้ได้มากที่สุด ก่อนจะไปปรึกษาแพทย์

 

5.ปัญหากรดไหลย้อน เพราะกรดที่อยู่ในกะเพาะไหลขึ้นมาในหลอดอาหาร อาจจะไม่เฉพาะตอนตื่นนอนเท่านั้น ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารช่วงใกล้เข้านอน ต้องกินก่อนจะนอนสักประมาณ 3-4 ชั่วโมง

 

6.สูบบุหรี่จัด กระทบกับทางเดินหายใจส่วนบน และส่งผลอาการข้างเคียง ไอ หายไม่ออก ด้วย

 

7.การติดเชื้อไวรัส ซึ่งไม่ใช่แค่เป็นหวัดอย่างเดียว มีอีกหลายโรคที่ส่งผลกับการเจ็บคอ คันคอ เวลาพูดหรือกินอาหาร ต่อมทอมซินบวม เสียงแหบ ต้องกลั้วคอด้วยน้ำเกลือจะบรรเทาได้

               

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก -“บินไทย”พบบอร์ดชุดรองนายกวิษณุขอเพิ่มทุน/แปลงหนี้”

 

นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน การประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 3/2565 เมื่อเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 โดยมีผู้นำเข้าร่วมทั้ง นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนกิจการการบินไทย และกรรมการทั้งนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร นายพรชัย ฐีระเวช พร้อมด้วยนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยขอให้เสนอรัฐบาลสนับสนุน “เพิ่มทุนและการแปลงหนี้เป็นทุน” ในช่วงเวลาที่เหมาะสม พร้อมรายงานความคืบหน้าการดำเนินธุรกิจของบริษัทการบินไทย

 

เบื้องต้นแนวทางการ “เพิ่มทุน” 25,000 ล้านบาท นั้นให้เป็นไปตามแผนฟื้นฟูที่ศาลล้มละลายกลางเห็นชอบเรียบร้อยแล้ว และการเพิ่มทุนหรือแปลงทุนอย่างไร รัฐยังคงถือหุ้นไม่น้อยกว่า 40 % ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ผลการดำเนินงานของการบินไทยไตรมาส 3 ปี 2565 ดีขึ้นมาก รวมทั้งมีสภาพคล่องเงินสดหมุนเวียนที่ดี จึงไม่จำเป็นต้องกู้ก็ได้ ผนวกกับหากทิศทางการบินและการท่องเที่ยวมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง การบินไทยก็มีโอกาสออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้เร็วขึ้นกว่าแผนเดิมกำหนดไว้ช่วงปลายปี 2568 ก็เป็นได้

 

ข่าวที่สอง -ทอท.แจงตลาดปี’65ขาดทุนลด5.2พันล้านรายได้เพิ่มหมื่นล้าน

 

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท. /AOT แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รายงานผลประกอบการประจำปี 2565  สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน ปีนี้ บริษัทฯ และบริษัทย่อย ขาดทุนสุทธิ 11,087 ล้านบาท  ลดลง 5,234 ล้านบาท เปรียบเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนขาดทุนมากถึง 16,322,014 ล้านบาท ตามรายละเอียดดังนี้

 

ทำรายได้รวม 17,891 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,347 ล้านบาท คิดเป็น 137.17 % แต่ยังคงขาดทุนจากปัจจัยหลักเพราะมีต้นทุนสูงเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายพนักงาน ส่วนการบินกลับมามีรายได้เพิ่มมากขึ้น ตามปริมาณของเที่ยวบินและผู้โดยสารเติบโตขึ้นต่อเนื่อง

 

โดยมีรายได้แต่ละส่วนปี 2565 เปรียบเทียบช่วงเดียวกันกับปี 2564 มีดังนี้ 1.รายได้เกี่ยวกับการบิน (Aero) 7,290 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,961 ล้านบาท บวก 213.05 %   2.รายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน (Non Aero)  9,269 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,513 ล้านบาท บวก 94.87%  3.รายได้อื่น 1,331 ล้านบาท เพิ่มขึ้น873 ล้านบาท บวก 190.56% ส่วนใหญ่เป็นกำไรอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ

 

มีปริมาณการจราจรทางอากาศของ 6 สนามบิน เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน จำนวนเที่ยวบินรวม 394,469 เที่ยว เพิ่มขึ้น 60.84% และผู้โดยสาร 46.69 ล้านคน เพิ่มขึ้น 133.35%

 

มี “ค่าใช้จ่ายรวม” 28,825 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,709 ล้านบาท บวก 14.77% ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายพนักงาน 7,782 ล้านบาท ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายราว 8,931 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายอื่น 1,632 ล้านบาท เป็นค่าชำระให้กับผู้ฟ้องคดีประเด็นข้อพิพาทสัญญาจ้างบริหารและจัดการด้านขนส่นสินค้าภายในเขตปลอดอากร สนามบินสุวรรณภูมิ

 

ณ วันที่ 30 กันยายน 2565  เปรียบเทียบกับ 30 กันยายน 2564 ทอท.มีสินทรัพย์รวม 183,812 ล้านบาท ลดลง 5.78% มีหนี้สินรวม 81,294 ล้านบาท ลดลง 0.45%

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

  

จับตา!!ต่างชาติเที่ยวไทยแผ่ว3เดือนแรกไม่ถึง10ล้านคน

  นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 1 ม.ค.-31 มี.ค.2568 ได้แค่ 9.5 ล้านคน จับตา !! ต่างชาติเที่ยวไทยแผ่ว 3 เดือนแรกไม่ถึง 10 ล้านคน เม.ย.นี้ร...