ปิดฉาก WTM 2014 ท่องเที่ยวไทยกระหึ่มตลาดโลก
กลุ่มธุรกิจขาใหญ่ต่างชาติขานรับสินค้า“เที่ยววิถีไทย”
ททท.เปิดข้อมูล“เทรนด์นวัตกรรมใหม่”ของนักเดินทาง
: rakdeethai@gmail.com, rakdeefm97.0@gmail.com
Blogger : gurutourza
รมว.กอบกาญจน์ -นายกลินทร์ สารสิน ประธานบอร์ดททท.-ผู้ว่าธวัชชัย อรัญญิก ร่วมภารกิจงาน WTM 2014 |
ภารกิจของ “นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา “นายธวัชชัย อรัญญิก” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) พร้อมทีมบริหาร ททท. โรงแรมและบริษัทนำเที่ยวของไทย สายการบิน 54 หน่วยงาน จับมือกันเดินทางไปเจรจาซื้อขายการท่องเที่ยวกับตลาดทั่วโลกในงาน
World Travel Market 2014 ระหว่างวันที่
3-6 พฤศจิกายน 2557 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร
ผลลัพธ์ที่ประเทศไทยได้รับกลับมาจากการเข้าร่วมงานครั้งนี้
เรื่องแรกได้เปิดตัวโครงการ “2015 Discovet Thainess :ปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558” และสาระประโยชน์ต่อเนื่องน่าสนใจที่จะนำมาถ่ายทอดให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในไทยที่ไม่ได้เข้าไปร่วมงานนี้
สามารถสร้างการขายทำตลาดไปพร้อม ๆ กัน ในปี 2558
โดยมีสัญญาณที่ดีหลายเรื่องเกี่ยวกับ “แนวโน้มทางการท่องเที่ยว” ที่ได้รับจากเวทีการสัมมนาในงาน WTM2014 มีแนวโน้มการท่องเที่ยวโลกที่น่าสนใจ คือ
เรื่องที่ 1 การท่องเที่ยวที่สร้างประสบการณ์
(Experiential Travel) และประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่อื่น
(Authenticity) เป็น 2 เรื่องที่ทำให้เกิดแนวโน้มทางการท่องเที่ยว
และกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดใหม่ ๆ ไปทั่วทุกมุมโลก การปรับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในแต่ละตลาด เช่น
ตลาดอเมริกา : การท่องเที่ยวจักรยาน (Cycling Tourism) มาแรงแซงกอล์ฟ เพราะถูกจริตกับผู้รักสุขภาพ ผู้สูงวัย (Gen X และ Baby-boomer) และต้องการประสบการณ์ที่แตกต่าง ทำให้เกิดกลุ่ม MAMILs (Middle-Aged Men in Lycra)
ตลาดอังกฤษ : ขณะนี้เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว
นักท่องเที่ยวจึงมองหาความหรูหราด้วยการเลือที่พักราคาประหยัดแต่มีสไตล์ให้ประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากโรงแรมทั่วไป
จึงเกิด POSHTEL
สำหรับคนรุ่นใหม่ ทั้งกลุ่มครอบครัวและนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเอง
ตลาดยุโรป : คำว่า
Peer-to-Peer ปลุกเร้าให้
Airbnb ผู้ให้บริการระบบจองออนไลน์ คล้ายAgoda ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นในฐานะการเป็นสื่อกลางด้วยวิธีเปิดแชร์ที่พักกันไปทั่วโลก
ขยายสู่การรับประทานอาหารที่บ้านคนท้องถิ่น
โดยจับคู่นักท่องเที่ยวกับคนท้องถิ่นที่พร้อมจะทำอาหารให้นักท่องเที่ยวรับประทาน
เช่น Eatwith.com และ bookalokal.com
รมว.กอบกาญจน์ เปิดตัวโครงการ "ปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558" กับผู้ประกอบการต่างประเทศในงาน WTM 2014 |
Sleep like a local : พักบ้านแบบสวิส
หรือโรงแรมท้องถิ่นที่ไม่ใช่
Chain Hotel
Travel like a
local : ใช้บริการขนส่งสาธารณะ (Public
Transport )
Be active like a local : เดินป่า ขี่จักรยาน
Enjoy like a local : เข้าร่วมเทศกาลท้องถิ่น กิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจ
Eat and drink local : กินดื่มอย่างคนท้องถิ่น
เรื่องที่ 3 นวัตกรรมทาง
Technology ที่เกี่ยวข้องกับการขยายช่องทางการตลาดท่องเที่ยว
ไฮไลต์ที่กำลังมาแรงในโลกของนักเดินทาง ประกอบด้วย
Wearable Electronics เช่น Google Glass และ Apple Watch (iWatch) เชื่อมต่อระหว่างผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกับนักท่องเที่ยวติดต่อกันได้รวดเร็วมากขึ้น
Big Data : การเก็บข้อมูลของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก หลายชุดข้อมูล
เพื่อให้เห็นรูปแบบพฤติกรรมและนำมาวิเคราะห์เพื่อตอบสนองความต้องการให้นักท่องเที่ยวแต่ละคน
Travel Booking: การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการท่องเที่ยวผ่านระบบ Instant messaging เช่น We
Chat ในประเทศจีน
เรื่อยไปจนถึงการจองโรงแรมผ่าน Tripadvisor.com
ผู้ว่าฯ ธวัชชัย อรัญญิก นำทีมเยี่ยมชมไทย พาวิลเลี่ยน และ บูธท่องเที่ยวประเทศต่าง ๆ |
เรื่องที่ 4 การแสดงความเห็นของเอกชนท่องเที่ยวไทยที่เข้าร่วมงาน
และ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้าร่วมงาน WTM ที่มีต่อสินค้าท่องเที่ยวของไทย
เริ่มต้นจากเอกชนไทยที่เข้าร่วมงาน WTM 2014 ได้เสนอแนะ
ททท.ในปีต่อไปขอให้จัด Road Show กับ Trade Show ซึ่งมีผลดีอย่างยิ่งต่อการขายท่องเที่ยวในงานหลักจัดประจำตามประเทศต่าง ๆ ได้แก่ ดูไบ สแกนดิเนเวีย อิตาลี แอฟริกาใต้ เยอรมันี
ฝรั่งเศส และ สหราชอาณาจักร
ส่วนผู้ประกอบการจากต่างประเทศ (Trade Visitor) ททท.เปิดรับฟังความเห็นจาก 88
รายใหญ่ ผลปรากฎว่า ผู้ประกอบการจากต่างประเทศ ที่ทำโปรแกรมขายเป็นประจำและกลุ่มที่เพิ่งเริ่มขาย
สินค้าการท่องเที่ยวของประเทศไทย แสดงความสนใจพร้อมขายจังหวัดท่องเที่ยวหลัก ๆ ตามลำดับ
คือ ภูเก็ต, เกาะ สมุย, เชียงใหม่, กระบี่, พัทยา, หัวหิน, พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดพื้นที่รอง
“เมืองต้องห้าม...พลาด” และ "วิถีชุมชนต้นแบบ" ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก คือ สุโขทัย และ น่าน
นอกจากนี้ผู้ประกอบการต่างประเทศยังให้ความเห็นว่า ประเภทสินค้าการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่มีแนวโน้มจะนำเสนอขายได้ในอนาคต จัดเรียงตามลำดับได้แก่
ชายหาด วัฒนธรรม สปา แต่งงาน-ฮันนีมูน ช็อปปิ้ง การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ (Green Tourism) ดำน้ำ อาหารไทย กอล์ฟ
มวยไทย
WTM 2014 จึงนับเป็นเวทีการทำตลาดและการขายเชิงรุกอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย
ที่จะเป็นสปริงบอร์ดให้ภาครัฐและเอกชน นำจุดแข็งของความต้องการสินค้าท่องเที่ยวไปขยายผลอย่างต่อเนื่องรวดเร็วก่อนเปิดประชาคมอาเซียน
(ASEAN ECONOMIC COMMUNITY : AEC) ปี 2558 คู่ขนานกับการ “กำจัดจุดอ่อน” ต่าง ๆ ให้เหลือน้อยที่สุด รวมพลังเป็นหนึ่งเดียวกันสร้างแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้จ่ายเงิน
ทำให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นกลับมา เพื่อความสุข เพื่อประโยชน์ของคนไทยทุกคน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น