ททท.แจกข่าวดี!!เทรดโชว์ต้นปี67กวาดยุโรปเข้าไทยได้เพียบ
“ไอเบอโร่+7แอร์ไลน์ใหม่”จ่อบินตรงข้ามทวีปเข้าไทยมิ.ย.67
ททท.ยุโรปจัดครั้งแรก“Airmazing Airlines Fam Trip”เม.ย.67
คิงเพาเวอร์เปิดV-DAY GIFT GUIDEรับฟรีเดือนแห่งรัก&มั่งมี
สายมูช้อปคิงเพาเวอร์รับฟรีทุกสัปดาห์วอลเปเปอร์เสริมโชค
อัยยวัฒน์ซีอีโอคิงเพาเวอร์นำทีมไทยแชมป์AllAsiaCup2024
ททท.-บอร์ดอิสลามนำร่องบูมเที่ยวMosqueTourกทม.10แห่ง
บางจากซื้อหอมแดงเหนือ-อีสานแจกตามปั๊มกทม./ใกล้กรุง
“เกาะเกร็ด”เที่ยวได้365วันดินแดนเมืองวิถีหัตถศิลป์นนทบุรี
5 วิธีดูแลสุขภาพสมองสร้างความจำที่ดีลดโรคสมองเสื่อม
ตรุษจีนไทยโกยต่างชาติเฉียดล้าน-42วันตุนได้4.38ล้านคน
การบินไทยเล่ายาวแผนจัดหาฝูงบินใหม่45ลำพร้อมโตปี’76
วันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #TCEB #บางจาก #KoKretInterFestival2024 #ศิริปกรณ์เชี่ยวสมุทร
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...ฟังสดจากลิงค์นี้...https://fb.watch/qfWWRbCtXX/?mibextid=UyTHkb
ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ “นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร” รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โหมโรงปี’67 ประเดิมขายเที่ยวไทยในตลาดโลก FITUR สเปน ได้ผลทันที 3 เรื่อง “ตลาดใหม่-ปูพรมสินค้าเด่น-ไอเบอโร่เจ็ต” จ่อเปิดบินตรง แมดริด-กรุงเทพฯ มิ.ย.นี้ เร่งกลยุทธ์ Airlines Focus เพิ่มใหม่ได้แล้ว 7 แอร์ไลน์ส งัดโปรเจกต์จัดครั้งแรก “Airmazing Airlines Fam Trip” เม.ย.67 ระดมทุกหน่วยงานบินของไทยปักหมุดใช้ 4 สนามบินใหญ่ “เชียงใหม่-สุราษฎร์ธานี-กระบี่-อู่ตะเภา” เดินหน้าโปรโมทต่อในเทรดโลก ITB เบอร์ลิน มี.ค.นี้ กับ TTM Plus 2024 มิ.ย.67
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 ททท.นำเอกชนเร่งเดินทางทำโร้ดโชว์ เทรดโชว์ กับคู่ค้าทั่วโลก งานแรก เข้าร่วมจับคู่ซื้อขายใน FITUR : Feria International de Tourismo 2024 ที่กรุงเมดริด ประเทศสเปน ซึ่งเป็นตลาดท่องเที่ยวขนาดใหญ่ใช้ภาษาสเปนมีตลาดหลากหลายจากทั่วอเมริกาใต้ กำลังซื้อสูง ปีนี้เอกชนท่องเที่ยวของไทยยืนยันหลังโควิดคู่ค้านิยมซื้อท่องเที่ยวไทยเติบโตดีกว่าสถานการณ์ปกติปี 2562 คูหาท่องเที่ยวของเมืองไทยแน่นและเต็มทุกวัน ตลอดการจัด 5 วัน แบ่งเป็น ภาคธุรกิจท่องเที่ยวจับคู่เจรจาซื้อขายท่องเที่ยว (B2B) 3 วันแรก และ 2 วันหลัง เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาเดินชมบูธเพื่อเลือกดูโปรแกรมท่องเที่ยวของแต่ละประเทศรวมทั้งไทยด้วย
ทำให้การท่องเที่ยวของไทยได้รับประโยชน์โดยตรงจากการเข้าร่วมงาน
FITUR 2024 ครบทั้ง 3
ด้าน ได้แก่ ด้านที่ 1 มีกระแสตอบรับจากตลาดสเปนและนานาชาติเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ด้านที่ 2 ททท.กับผู้ประกอบการโรงแรม
บริษัทนำเที่ยวของไทย มีโอกาสนำเสนอสินค้าใหม่ ๆ เข้าถึงตลาดคุณภาพกำลังซื้อสูง
ด้านที่ 3 สายการบินนานาชาติให้ความสนใจเตรียมเปิดบินตรงมายังไทยมากขึ้น
ททท.จึงทำหน้าที่ประสานตามกลยุทธ์ Airlines Focus ได้หารือกับบริษัทขนาดใหญ่อย่าง “ไอเบอโร่ เจ็ต”
ซึ่งดูแลธุรกิจครบวงจรทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และสายการบินในสเปน
ตามข้อตกลงเบื้องต้นยืนยันจะเปิดบินตรง ไป-กลับ แมดริด (สเปน) -กรุงเทพฯ (ไทย)
อย่างแน่นอนตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน 2567 เป็นต้นไป
ระหว่างนี้อยู่ในขั้นตอนการต่อรองเจรจากันบางเรื่องเพื่อนำเครื่องมาลงในไทย
สำหรับนักท่องเที่ยวตลาดสเปน
ปี 2566 เดินทางมาไทยรวมเกือบ
300,000 คน
และเดือนมกราคม 2567 เข้ามาแล้วกว่า
10,000 คน ข้อดีของตลาดสเปนจะเริ่มเดินทางมาเที่ยวจำนวนมากช่วงตรงกับฤดูฝนของไทยคือมิถุนายนของแต่ละปี
โดยเฉพาะปี 2567 เป็นจังหวะเหมาะเมื่อทางเบอโร่
เจ็ต จะเปิดบินตรงเข้ามาไทยพอดี
แล้วยังสามารถจะเป็นฮับให้ผู้โดยสารจากแถบตลาดอเมริกาใต้เดินทางมาขึ้นเครื่องที่เมืองแมดริดบินต่อเข้ามาเที่ยวเมืองไทยได้ด้วย
ททท.สามารถเปิดศักราชได้ค่อนข้างดีพอสมควร
นายศิริปกรณ์
กล่าวว่า ตามกลยุทธ์ Airlines Focus ของ
ททท.ได้ทำหน้าที่ประสานการสร้างเครือข่ายเที่ยวบินระยะไกลข้ามทวีปทยอยเปิดบินตรงต่อเนื่องอย่างน้อย
7 แอร์ไลน์ส
โดยมี 3 รูปแบบ
ประกอบด้วย รูปแบบแรก เปิดบินตรงแล้ว 4 สายการบิน
ได้แก่ 1.แอร์ แคนาดา บริการบินตรงแบบไม่แวะพัก Non Stop ไป-กลับ แวนคูเวอร์-สุวรรณภูมิ(กรุงเทพฯ) 2.สแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ส หรือ SAS บินตรง ไป-กลับ โคเปนเฮเก้น(เดนมาร์ก)
-สุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ/ไทย) เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ที่หยุดบินไปถึงหนึ่งทศวรรษ
แล้วยังเป็นผู้บุกเบิกก่อตั้งสมาชิกสตาร์ อัลไลแอนซ์ ให้การบินไทย ด้วย 3.นอร์ธ แอตแลนติก บินตรง ออสโลว์
(นอร์เวย์)-สุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ) 4.แอร์อาระเบีย
ตะวันออกกลาง บินตรง ไป-กลับ กรุงซาร์จาห์ เมืองใหญ่อันดับ 3 ของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์/UAE บินมายัง กรุงเทพฯ และภูเก็ต
รูปแบบที่สอง
กำลังจะเปิดบินใหม่ 2 สายการบิน
ได้แก่ 1.ไอเบอโร่ เจ็ต
สเปน ตกลงจะบินตรง ไป-กลับ แมดริด-สุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ) 2.คอนดอร์แอร์ไลน์ส ช่วงตารางบินฤดูหนาว
เริ่มปลายตุลาคม 2567 จาก แฟรงเฟิร์ต
เยอรมันี สู่ไทย 2 จังหวัด
กรุงเทพฯ กับภูเก็ต
เสริมจากปัจจุบันนี้มีสายการบินลุฟท์ฮันซ่าซึ่งบินประจำอยู่แล้ว
รูปแบบที่สาม
กำลังเจรจาเพิ่มอีก 1 สายการบิน ได้แก่ บริติชแอร์เวย์ส (BA) สหราชอาณาจักร/อังกฤษ
กำลังพูดคุยเพื่อกลับมาเปิดเส้นทางบินสู่เมืองไทย
เพราะมีสมาชิกไมล์ที่มีคะแนนสะสมต้องการจะแลกตั๋วโดยสารบินมาไทย
โดยมีกระแสตอบรับจากลูกค้าทุกระดับจากชั้นประหยัดไปจนถึงพรีเมี่ยมพร้อมเดินทางอย่างแน่นอน
นายศิริปกรณ์
กล่าวว่า ขณะนี้นักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลข้ามทวีป หรือ longhaul มีดีมานต์ความต้องการเดินทางมาไทย
แต่ตอนนี้ยังขาดจำนวนที่นั่งเที่ยวบินบริการมีไม่เพียงพอ
ซึ่งผู้ประกอบการสายการบินต้องมีความมั่นใจเรื่องผู้โดยสารต้องการบินจริงและมีฝูงบินพร้อม
แต่ตอนนี้ยังขาด 3 เรื่อง คือ
เรื่องที่ 1 ตารางเวลาการบิน/slot เรื่องที่ 2 เมื่อตัดสินใจเปิดบินแล้วธุรกิจจะต้องดำรงอยู่ได้ในระยะยาว
ทาง
ททท.จึงวางแผนช่วยทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดด้วยโปรโมชั่นร่วมกันเพื่อช่วยทำให้สายการบินมีอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย
80 % สถานการณ์ขณะนี้แม้ตั๋วโดยสารเครื่องบินจะแพง
ค่าน้ำมันการบินสูง แต่สายการบินต่าง ๆ ก็ยังสามารถทำอัตราการบรรทุกเฉลี่ยได้เกิน 90
% เรื่องที่ 3 ททท.จะเข้าไปช่วยให้เกิด Ease of
travelling & Business ทำให้การเดินทางง่าย
ธุรกิจเติบโตได้ตามเป้าหมาย
ขณะเดียวกัน
ปี 2567 ททท.เร่งทำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง
โดยจะทำโครงการ “Airlines Fam Trip”
จัดครั้งแรกภายใต้ชื่อ “Airmazing
Fam Trip”
นำตัวแทนสายการบินเข้ามาสำรวจพื้นที่และเส้นทาง
ช่วยอำนวยความสะดวกให้สายการบินนานาชาติ สามารถเปิดเส้นทางบินที่ต้องการมาลงตามจังหวัดท่องเที่ยวต่าง
ๆ ในไทยได้ โครงการนี้จะเชิญหน่วยงานการบินของไทยที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมด้วย
ททท.ได้หารือแล้วกับทาง สถาบันการบินแห่งประเทศไทย กรมท่าอากาศยาน บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT/ทอท.”
กองทัพเรือซึ่งดูแลสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา
ทุกวันนี้สนามบินนานาชาติหลักของไทย
3 แห่ง คือ
สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต
ตารางเวลาทำการบินขึ้น-ลง/เข้าออกค่อนข้างหนาแน่นจนถึงค่อนข้างขั้นเต็มแล้ว
แต่ยังมีสนามบินอื่น ๆ ที่ยังมีสล็อตเวลาว่างอยู่ เช่น ภาคเหนือ ได้แก่
สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ภาคตะวันออก สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ภาคใต้
สนามบินนานาชาติสุราษฎร์ธานี และกระบี่ ได้ปรับปรุงรันเวย์ แท็กซี่เวย์ ดังนั้น
ททท.จะใช้โครงการนี้นำตัวแทนสายการบินนานาชาติทั้งที่อยู่ในเมืองไทยและต่างประเทศเดินทางไปด้วยกันเพื่อเยี่ยมชมสถานที่จริง
รับฟังข้อมูลทั้งหมด น่าจะจัดได้ประมาณเดือนเมษายน 2567 เพื่อให้ทันซัมเมอร์ ยุโรป อเมริกา
จะเริ่มกรกฎาคม-สิงหาคม นี้ ต่อเนื่องไปถึงฤดูหนาวตุลาคม 2567-มีนาคม 2568
นายศิริปกรณ์
กล่าวว่า ททท.เน้นการทำบทบาทเป็น “โซ่ข้อกลาง”
บูรณาการทำงานกับหน่วยงานกำกับดูแลการบินของเมืองไทย รวมถึงสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ
(IATA :International Air Transport Association) ดูแลสมาชิกสายการบินทั่วโลก
โดยเชื่อมข้อมูลให้ถึงกันและกันเพื่อจะได้ประโยชน์ร่วมกัน
ส่วนการวางแผนนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยเข้าร่วมมหกรรมซื้อขายท่องเที่ยวใหญ่สุดของโลก
“ITB :International Travel Berlin 2024”
ตามแผน ททท.จะเน้น 4 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 ตกแต่งคูหาประเทศไทยจากโครงสร้างเดิมเน้นการใช้วัสดุซ้ำเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม
ส่วนที่ 2 เติมเทคโนโลยีเข้ามาช่วยประหยัดพลังงาน
ส่วนที่ 3 รับสมัครผู้ประกอบการไทยคัดเลือกธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
เข้าร่วมคาร์บอนเครดิต ดูแลชุมชนท้องถิ่น ส่วนที่ 4 จัดกิจกรรมเสริมเปิดพื้นที่ทำ “MINI MART” รูปแบบใหม่ขยายโอกาสอย่างเต็มที่โดยมอบหมายให้
ททท.สำนักงานยุโรปทั้ง 9 แห่ง เชิญประเทศรอบนอกที่ไม่ใช่เยอรมัน จะเป็น
ออสเตรีย สวิสเซอร์แลนด์ และอื่น ๆ เข้ามาร่วมเจรจาซื้อการท่องเที่ยวกับเอกชนไทย
นายศิริปกรณ์
กล่าวว่า ททท.ยังได้วางกลยุทธ์นำเสนอขายท่องเที่ยว 55 เมืองรอง โดยใช้ “ยุทธศาสตร์ MOVE” กลยุทธ์แรก Airmazing Airlines Fam Trip
ใน 4 สนามบินนานาชาติ เชียงใหม่ กระบี่ สุราษฎร์ธานี
อู่ตะเภา โดยใช้โมเดลแบบเดียวกับกรุงเทพฯ
เป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างประเทศกระจายไปยังอีสานด้วยรถยนต์ผ่านมอเตอร์เวย์
ทำตามรูปแบบ Fly and Drive เช่น
บินลงเชียงใหม่แล้วนั่งรถไปเที่ยวต่อเมืองรองขยายไปยังพื้นที่ขาย
ส่วนอู่ตะเภาต่อไปยัง ระยอง ตราด หรือไปลงสุราษฎร์ธานี ก็ไปต่อระนอง และไปลงกระบี่
ก็ต่อไปยัง พัทลุง นครศรีธรรมราช
ฉนั้นคอนเซ็ปต์ต้องทำให้มีเที่ยวบินไปลงแต่ละสนามบินหลักแต่ละภาคก่อนแล้วก็ขยายการเดินทางทางบกเพื่อเพิ่มกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรองสะดวกสบายมากขึ้น
ทาง ททท.นำเสนอแล้วในโบชัวร์แต่ละตลาดต่างประเทศปี 2567 เป็นต้นไป
นอกจากนี้
ททท.ยังขอเชิญชวนคนไทยร่วมสนับสนุน ททท.จัดงาน Thailand Travel Mart Plus
2024 ที่จังหวัดพังงา
จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 21 หรือก้าวสู่ทศวรรษที่
3 ช่วง 20
ปีที่ผ่านมางานนี้จัดอยู่ในกรุงเทพฯ
พัทยา ชลบุรี หัวหิน/ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจัดได้ค่อนข้างปี นับจากปี 2567 มองหาพื้นที่ใหม่ในภาคใต้พังงา
เพื่อยกระดับตามคอนเซ็ปต์ “เสริมจุดแข็ง สร้างจุดขาย ภายใต้เสน่ห์อันดามัน” แนะนำให้ “เอกชน” มีจุดแข็งเด่น ๆ
ให้ยกไปตั้งขายในพังงา ซึ่ง
ททท.จะเชิญตัวแทนผู้ซื้อจากทั่วโลกเข้าร่วมมากกว่าทุกปีประมาณ 420 ราย สื่อมวลชนในและต่างประเทศอีก 100 ราย มาพบเจรจากับตัวแทนผู้ขายในเมืองไทย 430
ราย โดยสามารถสร้างจุดขายได้หลายมิติ
เช่น ผนวกเส้นทางท่องเที่ยว เสนอสินค้าใหม่ และด้วยบรรยากาศสถานที่ในอ้อมกอดอันดามัน
ททท.ได้จัดสำรวจพื้นที่ก่อนและหลัง Pre-Post Tour TTM +2024 ลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมงานพร้อมจ่ายเงินภายใน 22 กุมภาพันธ์ 2567 ได้ส่วนลดค่าพื้นที่สูงสุด 20 %
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์เปิดV-DAY GIFT GUIDEรับฟรีเดือนแห่งรัก&มั่งมี
คิงเพาเวอร์
จัดเต็ม V-DAY GIFT GUIDE ต้อนรับ “ทริปวาเลนไทน์”
ตลอดเดือนแห่งความรัก วันนี้ – 29 กุมภาพันธ์ 2567 ให้ทุกคนได้ช้อปไอเทมหรูยกขบวนชวนซื้อให้ตัวเองหรือคนรักก็ไม่ติด
รีบอัพเดทไอเทมบิวตี้ สกินแคร์ แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ก่อนใคร
แค่เข้ามาส่องและกดช้อปได้เลย มีไฟลต์บินแล้วหรือยัง ถ้ามี...กดช้อปด่วน!!
และรอรับของที่สนามบินได้ รับของได้ทั้งขาเข้าและขาออก รับ 2 Special Deal ดี
1.Special
Gift For You คัดสรรของขวัญให้คนพิเศษของทุกคนครบจบที่เดียวทั้ง กระเป๋า
แว่นตา นาฬิกา น้ำหอม เครื่องสำอาง ก็มีให้ช้อปแบบจุใจ แบรนด์โลกทั้ง GUCCI,
L'OCCITANE, MICHAEL KORS, MCM, TISSOT, SWAROVSKI, PRADA, COACH, ESTÉE LAUDER,
AUGUSTINUS BADER และอื่น ๆ อีกเพียบ อย่ารอช้าจนดีลพิเศษหายไป
กดช้อปและรอรับของที่สนามบิน
2.Special
Offer ผนวกเทศกาลปังสุดๆ ตรุษจีนนี้!! เดือนแห่งความมั่งคั่งมั่งมี
รับ 3 ฟรี
Free 1 ! แผ่นทองมงคล เรียกทรัพย์ จากวัดแชกงหมิว 1,000 ออเดอร์แรก วันนี้- 29 ก.พ. 67 นี้เท่านั้น!
เมื่อลูกค้าช้อปครบ
2,500 บาทขึ้นไป
Free 2 ! SMS ANG BAO มูลค่า 800 บาท
ทุกออเดอร์ เก็บไว้ใช้ช้อปออนไลน์ในครั้งถัดไป
Free
3 ! แจก Wallpaper ทุกสัปดาห์ เสริมโชคลาภ
รับปีมังกร เพื่อชาวมูตลอดทั้งเดือน
ทั้งด้าน WEALTH / LOVE / LUCK / HEALTH
ข่าวที่ 2 สายมูช้อปคิงเพาเวอร์รับฟรีทุกสัปดาห์วอลเปเปอร์เสริมโชค
คิง
เพาเวอร์ ออนไลน์ เอาใจ “นักช้อปสายมู” แจกฟรีทุกสัปดาห์ FREE!
WEEKLY GIVEAWAY MOBILE WALLPAPER กดรับไว้เสริมโชคลาภปีมังกร
แค่เข้ามากดรับวอลเปเปอร์เสริมดวง รับไปเลยฟรี ๆ รู้แบบนี้แล้วก็อย่าลืมเด็ดขาด
จะช้อปผ่านเว็บไซต์
www.kingpower.com หรือ Kingpower Application ก็สะดวกสบายมาก
แค่มีไฟลต์บินอยู่ในมือ!! กดช้อปไอเทมฮิตแบรนด์ดังด่วนและรอรับของที่สนามบิน
จะรับที่ขาเข้าหรือขาออกนอกประเทศก็ได้หมด แล้วรับทันที 1.LUCK ดวงเฮง! วันนี้- 21
กุมภาพันธ์ และ 2.HEALTH สุขภาพปัง! 22
- 29 กุมภาพันธ์ นี้
สินค้า
Duty Free สุดฮอต มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย!
รับสินค้าที่สนามบิน ช้อปได้ทั้งขาเข้า-ขาออก
พร้อมใช้สิทธิ์ 1.แบ่งชำระ 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือน 2.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 11,000 บาท 3.ฟรี!
ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง (ของแถมมีจำนวนจำกัดและอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า) 4.รับเลย! ส่วนลด 200.- เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ 5.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก
คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท (สุทธิ)
ข่าวที่
3 อัยยวัฒน์ซีอีโอคิงเพาเวอร์นำทีมไทยแชมป์AllAsiaCup2024
นายกนกศักดิ์
ปิ่นแสง นายกสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย
ประเดิมจัดการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการแรกของปี 2567 "All Asia Cup
2024" โดยไทยนำทีมคว้าแชมป์รอบชิงชนะเลิศเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์
2567 เป็นการพบกันระหว่าง
ทีมชาติไทย นำโดย “อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ กับทีมชาติบรูไน ที่สนาม วี
เอส สปอร์ตคลับ แอนด์ สยาม โปโล ปาร์ค อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ จัดอย่างยิ่งใหญ่ในโอกาสเฉลิมฉลองสมาคมครบรอบ
20 ปี ภายใต้แนวคิด" THE LIGHT OF
ASIAN UNITY " ภายในงานเปิดให้ชมนิทรรศการแสดง 2
ทศวรรษ บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์และเหตุการณ์สำคัญ
รวมถึงจัดแสดงถ้วยรางวัลอันทรงเกียรติด้วย
เนื่องจากการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ
All Asia Cup เป็นหนึ่งในรายการแข่งขันสุดยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาคเอเชีย
ล่าสุดจัดเป็นครั้งที่ 6 ตามเจตนารมณ์ของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา
เพื่อพัฒนาศักยภาพนักกีฬาขี่ม้าโปโลไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
และต้องการให้กีฬาขี่ม้าโปโลเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ปี 2567 ได้รับความสนใจเข้าร่วมการแข่งขันรวม
5 ประเทศ ได้แก่ บรูไน จีน ฟิลิปปินส์ มองโกเลีย
และไทย โดยนักกีฬาขี่ม้าโปโลกิตติมศักดิ์ให้เกียรติลงสนามแข่งขันด้วย ได้แก่
เจ้าชายอับดุล มาทีน อิ๊บนี ซัลทัน ฮัสซานัล โบลเกียห์, เจ้าหญิงอาเซมะห์
นิ มาตุล โบลเกียห์, เจ้าชายเจฟรี โบลเกียห์, เจ้าชายบาฮาร์
เจฟรี โบลเกียห์ เสด็จเข้าร่วมการแข่งขันในฐานะนักกีฬาทีมชาติบรูไน
คู่ชิงชนะเลิศ “ทีมชาติไทย”
สามารถเอาชนะทีมชาติบรูไน 6 ต่อ 3
คะแนน คว้าถ้วย All Asia Cup 2024 ครั้งนี้ไปครองได้สำเร็จ
คุณเอมอร ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ให้เกียรติมอบรางวัลให้แก่ทีมชนะเลิศ พร้อมผู้สนับสนุนอย่าง
ดร. ยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wealth
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมมอบรางวัล BEST PONY
AWARD คุณภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด มอบรางวัล MVP AWARD หรือรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าประจำการแข่งขันครั้งนี้
ตกเป็นของ คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา
ภายในงานได้เนรมิตสถานที่สุดอลังการโดยเปิดแข่งขันด้วยการแสดงสะท้อนแนวคิด
"THE LIGHT OF ASIAN UNITY" เปิดให้แขกผู้มีเกียรติยังได้ร่วมสนุกกับการแต่งกายภายใต้คอนเซ็ปต์ “Colourful Oriental Vibe” เพื่อลุ้นรางวัลประกวดการแต่งกายยอดเยี่ยมรางวัล
Best Dressed Awards สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษที่แต่งกายโดดเด่นและเข้าคอนเซ็ปต์มากที่สุด
ฝ่ายหญิง ได้แก่ คุณวรรณพร อัญชลีวิวัฒน์ ส่วนฝ่ายชาย ได้แก่ พล.ต.อ.จักรทิพย์
ชัยจินดา ต่อด้วยรางวัล Most Stylish ซึ่งมอบให้แก่ผู้ที่แต่งกายได้มีสไตล์โดดเด่นมากที่สุด
รางวัลฝ่ายหญิง ได้แก่ คุณซอนย่า คูลลิ่ง และ รางวัลฝ่ายชาย ได้แก่ Mr.Christopher
Gierk ในส่วนของรางวัลขวัญใจช่างภาพ (Best
Photogenic) ผู้ที่ได้รับรางวัลนี้คือ คุณพลอย ปิ่นแสง
ในโอกาสสมาคมขี่ม้าโปโลครบรอบ 20 ปี
ได้จัดแสดงนิทรรศการ 2 ทศวรรษ
เพื่อบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาความสำเร็จ และเป้าหมายในอนาคต
ที่ยังคงสืบต่อเจตนารมณ์ของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ผู้ก่อตั้ง และอดีตนายกสมาคมคนแรก
ต่อเนื่องด้วยการแสดงโชว์ม้าสุดตระการตาในชื่อชุด The Symphony of Light สร้างความตื่นตาตื่นใจสนุกสนานตลอดงานที่เสร็จสิ้นลงอย่างสวยงามอีกปี
ข่าวที่
4 ททท.-บอร์ดอิสลามนำร่องบูมเที่ยวMosqueTourกทม.10แห่ง
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า ได้ต้อนรับอิหม่ามธนารัช วัชระพิสุทธิ์ มิหม่ามประจำมัสยิดฮารูน
และคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางเข้าพบกันเมื่อเร็วที่
ททท.สำนักงานใหญ่ โดยมี 2 รองผู้ว่าฯ ททท. เข้าร่วมด้วย คือ นายศิริปกรณ์
เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา
นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้
ทั้งหมดได้หารือแลกเปลี่ยนแนวทางประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอิสลาม
เนื่องจากปัจจุบันในกรุงเทพมหานครมีมัสยิดสร้างด้วยสถาปัตยกรรมอันสวยงาม
สามารถนำเสนอเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ (Mosque Tour) ได้
เบื้องต้นกำหนดเส้นทางนำร่องคือ “มัสยิดฮารูน” และอื่น ๆ รวม 10 แห่ง
โครงการนี้
ททท.และทางคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร พร้อมจะร่วมมือกันภายใต้เกณฑ์มาตรฐานการบริการตามคอนเซ็ปต์
MFT : Muslim Friendly Tourism และ MFTH :
Muslim Friendly Tourism and Hospitality โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับประเทศไทยให้ได้มาตรฐานดัชนีสากลหรือ
GMTI : Global Muslim Tourism Index เทียบเท่าระดับโลก
เคียงข้างกับการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวมุสลิมเดินทางเข้ามายังไทยช่วงเทศกาลรอมฎอนแต่ละปีอย่างสะดวกปลอดภัยตามมาตรฐานสากล
ผู้ว่าฐาปนีย์
กล่าวว่า กลยุทธ์ขับเคลื่อนโครงการ Mosque Tour เปิดให้ชาวมุสลิมเข้ามาท่องเที่ยวตามสถานที่นำร่องในกรุงเทพมหานคร
ททท.จัดทำปฏิทินนำไปประชาสัมพันธ์ใน 2 งานแรก ได้แก่
งานแรก
ในมหกรรมส่งเสริมการขายท่องเที่ยวอินเตอร์เนชั่นแนล แทรเวล เบอร์ลิน 2567
(ITB Berlin 2024) ระหว่างวันที่ 5-7 มีนาคม
2567 ที่กรุงเบอร์ลิน สหพันธรัฐเยอรมนี
งานที่สอง
Thailand Travel Mart Plus (TTM+2024) ททท.เป็นเจ้าภาพจัดระหว่างวันที่ 5-7 มิถุนายน 2567
ที่จังหวัดพังงา หลังเสร็จสิ้นงานดังกล่าว
ททท.จะทำโพสต์ทัวร์เชิญชวนผู้ประกอบการนานาชาติที่สนใจร่วมลงพื้นที่สำรวจเส้นทางและสถานที่ท่องเที่ยว
Mosque Tour ในเมืองไทย
เพื่อประกอบการตัดสินใจที่จะนำไปเสนอกับนักท่องเที่ยวตลาดมุสลิมที่สนใจต่อไปในอนาคต
ข่าวที่ 5 บางจากซื้อหอมแดงเหนือ-อีสานแจกตามปั๊มกทม./รอบกรุง
บริษัท บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า บางจากฯ ร่วมกับกรมการค้าภายใน
กระทรวงพาณิชย์ ทำโครงการสนับสนุนการสร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกหอมแดงโดยลงทุนเปิดสถานีบริการน้ำมันของบางจากเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้าในการเข้าไปรับซื้อหอมแดงจากเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดง
2 ภาคหลัก ได้แก่ ภาคเหนือเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นำมาสมนาคุณลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเติมน้ำมัน โดยให้สิทธิ์ “สมาชิกบางจากกรีนไมลส์”
เติมน้ำมันทุกชนิดตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป รับฟรีหอมแดง 1 มัด ขนาด 250 กรัมมูลค่า
20 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 - 18 กุมภาพันธ์ 2567 หรือจนกว่าของจะหมด
สมาชิกที่เติมน้ำมันขอ
“รับหอมแดง” ของเกษตรกรได้ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากและสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่เดิม
ครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ที่ร่วมรายการ หาข้อมูลก่อนเติมน้ำมันได้ที่เว็บไซต์
www.bcpgreenmiles.com
บางจากฯ
มีเป้าหมายชัดเจนในการจัดทำโครงการร่วมช่วยเหลือชุมชนเกษตรกรมาต่อเนื่อง ด้วยการคัดสรรผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผลผลิตทางการเกษตร เช่น กล้วยหอมทองกวน เผือกอบกรอบ
ลูกหยีกวน กล้วยอบกรอบ ลูกไหนอบแห้ง อื่น ๆ และร่วมมือกับกรมการค้าภายใน
กระทรวงพาณิชย์ รับซื้อผลผลิตที่ออกมาพร้อมกันจำนวนมากตามฤดูกาล เช่น ส้ม มะนาว
ไข่ไก่ มังคุด สับปะรด ลำไย มะม่วง
เพื่อร่วมดูดซับผลผลิตและพยุงราคา โดยนำผลิตภัณฑ์ทั้งหมดข้างต้นมาเป็นของสมนาคุณแจกลูกค้าเป็นประจำ
โครงการนี้นอกจากบางจากฯ จะได้ช่วยสร้างงานและรายได้ให้ชุมชนเกษตรกรแล้ว ยังสามารถช่วยค่าครองชีพให้ผู้บริโภคได้อีกทางด้วย ด้วยวิธีดำเนินงานไปพร้อมกับดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม
ภายใต้แนวคิด Greenovative Destination ของสถานีบริการน้ำมันบางจากที่มีเป้าหมายให้ผู้บริโภคได้ใช้พลังงานคุณภาพสูงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ตอบโจทย์ความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน
เป็นจุดหมายของการแบ่งปันและสร้างสรรค์สังคมไทยที่น่าอยู่อย่างยั่งยืนทั้งปัจจุบันและอนาคต
ช่วงที่ 2 สุขทันทีเที่ยวเมืองไทย ไปชมเทศกาล “Ko Kret International Arts
and Crafts” 17-18 ก.พ.นี้
ปูพรมไว้เที่ยวดินแดนหัตถศิลป์นนทบุรีได้ทั้งปี 365 วัน
ต่อด้วย “5วิธีดูแลสุขภาพสมองกันความจำเสื่อม” และข่าวฮ็อต
ข่าวแรก “การบินไทยเล่ายาวฝูงบินใหม่45ลำ” พร้อมกลับมาโตปี’76
ข่าวที่สอง “ตรุษจีนไทยโกยต่างชาติ” เฉียดล้านคน
ท่องเที่ยว –“เกาะเกร็ด”เที่ยวได้365วันดินแดนหัตถศิลป์นนทบุรี
เที่ยวเมืองไทยใกล้กรุง
ชวนไปเช็คอิน ซอฟท์ พาวเวอร์ เที่ยวงาน “Ko
Kret International Arts and Crafts Festival 2024” ที่ “วัดปรมัยยิกาวาส”
เกาะเกร็ด กลางแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พื้นที่พักผ่อนได้สบาย
ๆ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกรุงเทพมหานคร กับพันธมิตร
ร่วมกันทำโมเดล 365 วันเมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน และสุขทันทีที่เกาะเกร็ดได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
“เกาะเกร็ด”
เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของนนทบุรี
มีอัตลักาณ์โดดเด่นด้านวัฒนธรรม ชาติพันธุ์ ธรรมชาติแวดล้อมรอบพื้นที่
พร้อมเรื่องราวน่าสนใจทางประวัติศาสตร์ โบราณสถาน มีธุรกิจบริการเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวอยู่จำนวนมาก
โดดเด่นมีชื่อเสียงเรื่อง
“วิถีชุมชนทำเครื่องปั้นดินเผา” สืบทอดกันมานาน ด้วยฝีมือการทำอันประณีต
เห็นได้จากพิพิธภัณฑ์วัดปรมัยยิกาวาสนำมาจัดแสดงเรื่องราวงานหัตถศิลป์ของท้องถิ่น
กระทั่งกลายเป็นสินค้าชุมชนแล้วนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์
ผนวกกับการออกแบบกิจกรรม D.I.Y. เป็นอีกส่วนที่สามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ
ให้นักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
แล้วยังมีงานคราฟท์เกาะเกร็ดที่ทรงคุณค่าอีกหลายผลิตภัณฑ์ เช่น การทำผ้าบาติก
การเขียนสีหัวโขน และอื่น ๆ
17-18 กุมภาพันธ์ นี้
ไปเที่ยวงาน Ko Kret International Arts and Crafts Festival 2024 ดื่มด่ำงานศิลปะ Art and Craft ของศิลปินไทยและต่างชาติกว่า
80 คน ภายในงานได้จัดแสดงผลงานศิลปะกับงานคราฟท์ในรูปแบบงานเซรามิค
มีกิจกรรม Workshop ถ่ายทอดศาสตร์และองค์ความรู้จากศิลปินที่มาร่วมงาน
สู่เยาวชนทั้งจากมหาวิทยาลัยและนักเรียนใกล้พื้นที่
แล้วยังเปิด
“Craft Clinic” ให้แลกเปลี่ยนเรียนรู้
ผสมผสานองค์ความรู้กับความชำนาญเข้ากับภูมิปัญญาท้องถิ่น พัฒนาทักษะศิลปะ
หัตถกรรมท้องถิ่น ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม ต่อยอดเป็นซอฟท์ พาวเวอร์ นำเสนอภายใต้แนวคิด
“จากตัวตนที่เรามี ให้โลกรู้ว่าเรามีตัวตน : From Local To Global” ชวนนักท่องเที่ยวชมได้ 3 กลุ่มกิจกรรมหลัก
กลุ่มที่ 1 ผลงานศิลปะ จากศิลปินแห่งชาติ
ศิลปินไทย และศิลปินนานาชาติที่เข้าร่วมงานธีมปีนี้เน้นจัดแสดงงาน Ceramic
กลุ่มที่ 2 การทำ Work
Shop ต่างๆ
เพื่อถ่ายทอดและพัฒนาองค์ความรู้ให้แก่นักเรียนและนักศึกษาในท้องถิ่น เช่น การทำผ้าบาติกด้วยเจลเย็น
ทำเครื่องประดับจากเครื่องปั้นดินเผา โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
พระนครเหนือ ทำกระถางจากเศษวัสดุโดยเกษตรนนทบุรี
กลุ่มที่ 3 การถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านศิลปะให้แก่ชุมชนท้องถิ่น
หรือ Craft Clinic พัฒนางานและเรียนรู้ ซึมซับองค์ความรู้ใหม่ ๆ เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้
สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างมหาวิทยาลัยกับชุมชนท้องถิ่น รังสรรค์สินค้าหัตถกรรมของท้องถิ่นเชิงรูปแบบและคุณภาพ
สร้างรายได้และกระจายโอกาสได้
ปี 2567
จังหวัดนนทบุรีชูนโยบาย “นนทบุรี 6 ดี
สู่เมืองน่าอยู่ : Livable City” ได้แก่
เศรษฐกิจดี สะดวกดี สะอาดดี
ปลอดภัยดี สิ่งแวดล้อมดี และคุณภาพชีวิตดี
พร้อมทั้งได้นำเสนอจุดขายการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม วิถีชีวิตริมสายน้ำ
ชนบทติดเมือง ที่มีเสน่ห์และเป็นธรรมชาติ ตลอดริมแม่น้ำเจ้าพระยาและลำคลองหลายสาย
ภายใต้สโลแกน “วิถีน้ำ วิถีนนท์”
สามารถสัมผัสด้านสังคมได้กับความหลากหลายของชาติพันธุ์
ซึ่งสืบทอดวัฒนธรรมอันงดงามตามความแตกต่างผสมกลมกลืนอย่างลงตัว
ดำรงอยู่ร่วมกันอย่างทัดเทียมและเป็นสุข พร้อมสร้างสรรค์งานหัตถศิลป์สืบต่อจากรุ่นสู่รุ่น
เป็นทุนทางวัฒนธรรมช่วยต่อยอดเศรษฐกิจสร้างสรรค์และส่งเสริมการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีทั้งปัจจุบันและอนาคต
ทางจังหวัดนนทบุรีมี
“เกาะเกร็ด”
เป็นโมเดลการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเห็นได้ชัดเจนที่สุดพื้นที่เกาะเกร็ดโอบล้อมด้วยทัศนียภาพแม่น้ำเจ้าพระยา
อันเกิดจากการขุดขึ้นเพื่อเป็นเส้นทางลัด
บนเกาะแห่งนี้มีแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานสำคัญและวัดเก่าแก่ อีกหลายแห่งด้วยกัน
นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมได้ทั้ง
365 วัน เช่น วัดปรมัยยิกาวาส วัดไผ่ล้อม วัดศาลากุน
วัดเสาธงทอง วัดฉิมพลี วัดป่าเลไลยก์
และวิถีชีวิตผู้คนในชุมชนที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดทุกวัน
สุขภาพ –5 วิธีดูแลสุขภาพสมองและความจำลดโรคสมองเสื่อม
มาสนใจการดูแลสุขภาพ “สมองและความจำ” กันตั้งแต่เนิ่น
ๆ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสมองเสื่อมได้ เริ่มทำตั้งแต่วันนี้ได้เลย 5 วิธีดังนี้
1.ออกกำลังกาย: การออกกำลังกายเป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากในการรักษาสุขภาพสมองและความจำ
โดยการออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังสมอง
และช่วยให้สมองได้รับออกซิเจนและสารอาหารอย่างเพียงพอ
2.บำบัดทางร่างกายและจิตใจ: ภาวะจิตตกจะส่งผลต่อการสื่อสารระหว่างเซลล์ประสาท ดังนั้น
การมีสุขภาพใจที่ดีจะช่วยให้มีสุขภาพสมองที่ดีได้ ไม่ควรเครียด หรือทำตัวเศร้าหมอง
เพราะสิ่งเหล่านี้จะบั่นทอนคุณภาพชีวิตและสติปัญญาลง
ควรฝึกทำสมาธิซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้การจัดการเรื่องต่างๆ
มีประสิทธิภาพมากขึ้น
3.การบริหารจัดการความเครียด: ความเครียดสามารถเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อสุขภาพสมอง
และความจำ การเรียนรู้เทคนิคการบริหารจัดการความเครียด เช่น การหายใจลึก ๆ
การฝึกสมาธิ จะช่วยลดความเครียดได้
4.การบำบัดทางสมอง: การเล่นเกมทางสมอง แก้ปัญหาทางตรรกศาสตร์ หรือกิจกรรมที่ใช้ความคิดเพื่อกระตุ้นให้เกิดการแก้ปัญหาทางสมอง
จะสามารถช่วยรักษาระบบความจำได้
5.การรับประทานอาหารที่เหมาะสม: ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันโคเลสเตอรอลสูงและควรควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้
2-6 เท่า ควรใช้วิธีการปรุงอาหารแบบอบหรือย่างแทนการทอด
ใช้น้ำมันที่ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย เช่น น้ำมันมะกอก
พยายามรับประทานผักผลไม้ที่มีสารแอนตีออกซิแดนท์สูง ได้แก่
พวกผักผลไม้ที่มีเปลือกสีเข้ม เช่น กะหล่ำปลีสีเขียวเข้ม ผักโขม
มะเขือยาวสีม่วงเข้ม พืชตระกูลถั่ว ลูกพรุน เบอรีต่างๆ ส้ม และองุ่นแดง
และอาหารที่มีกรดไขมันโอเมกา 3 สูง เช่น ปลาทู
ตลอดจนเครื่องเทศที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ อย่าง พริก กระเทียม ขิง เป็นต้น
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–การบินไทยเล่ายาวแผนหาฝูงบินใหม่45ลำพร้อมโตปี’76
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ได้ลงนามในสัญญาจัดหาเครื่องบินและเครื่องยนต์
กับบริษัท โบอิ้ง และ บริษัท จีอี แอโรสเปซ จำกัด เพื่อจัดหาเครื่องบินแบบลำตัวกว้างพิสัยกลางและไกลพร้อมเครื่องยนต์จำนวน
45 ลำ พร้อมสิทธิจัดหาเพิ่มเติม (Option Order) อีกจำนวนหนึ่งเพื่อนำเข้าฝูงบินมาใช้ตั้งแต่ปี
2570 – 2576 ตามแผนขยายเครือข่ายเส้นทางบินอนาคต
ซึ่ง บมจ.การบินไทย พร้อมจะเปิดเผยข้อเท็จจริงเกกี่ยวกับรายละเอียดแบบเครื่องบินและเครื่องยนต์ที่กำลังจัดหาครั้งนี้ร่วมกับผู้ผลิตในงาน
Singapore
Airshow ระหว่างวันที่ 20-25 กุมภาพันธ์ 2567
ที่สิงคโปร์
บมจ.การบินไทย ยืนยันว่า ปี 2566 ได้ออกเอกสารเชิญยื่นข้อเสนอราคา (RFP) ไปยังบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินและเครื่องยนต์เพื่อทำตามแผนบริหารเครือข่ายเส้นทางบินและฝูงบินระยะยาว
สร้างความมั่นใจให้การบินไทยที่จะรักษาระดับความสามารถการหารายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายและประมาณการทางการเงินที่จัดทำขึ้น
การจัดหา “เครื่องบิน” ครั้งนี้จะนำมา 1.ทดแทนเครื่องบินจะปลดระวางและทยอยหมดสัญญาเช่าลงตามกรอบระยะเวลาข้างต้น
2.เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดการบินไทยไว้ หลังจาก 10 ปีที่ผ่านมาลดลงอย่างต่อเนื่อง เฉพาะเที่ยวบินที่ขึ้นลงสนามบินสุวรรณภูมิปี
2565 ลดเหลือแค่ 27 % จากปี 2556
มีส่วนแบ่งตลาด 51.3 % เพราะข้อจำกัดส่วนหนึ่งเรื่องฝูงบินมีน้อยทั้งในเชิงปริมาณและประสิทธิภาพของเครื่องที่ให้บริการ
เพราะเมื่อปี 2556 มีเครื่องบินรวม 100 ลำ ช่วงโควิด-19
ผนวกกับการบินไทยเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการ ได้ปลดระวางเครื่องจำนวนหนึ่งที่มีอายุใช้งานนานสิ้นเปลืองค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสูง
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารเสื่อมสภาพ มีค่าซ่อมบำรุงแต่ละปีเพิ่มสูงขึ้น
มีมูลค่าลงทุนสูงและไม่คุ้มค่าที่จะปรับปรุงเพื่อคืนสภาพให้นำกลับมาบินได้ ส่งผลถึงสิ้นปี
2565 ต้องลดฝูงบินเหลือ 64 ลำ ลดจากปี 2556 ถึง 36 %
ระหว่างปี 2565
– 2566 บมจ.การบินไทย จึงได้แก้ไขข้อจำกัดฝูงบินด้วยวิธี “เช่าดำเนินงาน”
(Operating Lease) ใช้รองรับปริมาณความต้องการเดินทางฟื้นตัวต่อเนื่องรวดเร็ว
เป็นเครื่องลำตัวกว้าง 21 ลำ โดยทยอยรับตั้งแต่ไตรมาส 2
ปี 2566 ส่วนใหญ่เป็นเครื่องแอร์บัส A350
ติดตั้งเครื่องยนต์ Rolls-Royce แบบ Trent
XWB เพิ่มจำนวนเครื่องบินเป็น
70 ลำ ปี 2567 จะเพิ่มขึ้นเป็น 79
ลำ และปี
2568 จะมี 90 ลำ ตั้งแต่ไตรมาส 2
ปี 2568 จะเริ่มทยอยรับเครื่องบินลำตัวแคบแอร์บัส
321neo ด้วยเช่นกัน
รวมทั้งได้พิจารณาข้อเท็จจริงเรื่อง “จำนวนเครื่องบิน” ตามแผนจะต้องปลดระวางและสัญญาเช่ากำลังทยอยหมดอายุลง
จึงต้องคำนวณเรื่องระยะเวลาการผลิตของผู้ผลิต กับปริมาณความต้องการเครื่องบินในอุตสาหกรรมปัจจุบันปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
หาก บมจ.การบินไทยไม่เตรียมจัดหาฝูงบินระยะยาวครั้งนี้ จะส่งผลให้ปี 2576 จะมีเครื่องบินเหลือเพียง
51 ลำ หรือน้อยกว่าปี 2556 คิดเป็น 49
% ซึ่งไม่เพียงพอต่อการสร้างรายได้ การรักษาส่วนแบ่งทางตลาด การสร้างขีดความสามารถให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ตลอดจนการชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ
ด้วยเหตุผลดังกล่าวทั้งหมด บมจ.การบินไทยจึงได้ทำแผนจัดหาเพิ่มเติมครั้งนี้ไว้รองรับอนาคตปี
2576
อีก 45 ลำ ซึ่งจะทำให้มีเครื่องบินรวมทั้งสิ้น
96 ลำ แต่ก็ยังน้อยกว่าปี 2556 ซึ่งมีถึง
100 ลำ
ขณะที่ “แผนการเงิน” ที่จะนำมาจ่าย “ค่าเครื่องบินและเครื่องยนต์” ฝูงใหม่ 45 ลำ ขณะนี้
บมจ.การบินไทย บริษัทฯ เตรียมพร้อมโดยคาดการณ์สภาพคล่องในอนาคตมีเงินมากเพียงพอจ่ายค่าเครื่องบินและเครื่องยนต์ตามกรอบเวลานำเข้าฝูงบิน
ส่วนจะทำอย่างเหมาะอีกครั้งเรื่อง “แหล่งเงินทุนและเลือกวิธี” จะขึ้นกับสถานะการเงิน
สภาพคล่องของบริษัทฯ และความคุ้มค่าทางการเงิน ซึ่งจะเปิดกว้างพิจารณาทำแบบ “เช่าดำเนินการและเช่าซื้อเครื่องบิน”
ตามสัดส่วนที่เหมาะสม และการจัดหาเครื่องบินครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อความสามารถชำระหนี้ของการบินไทยตามแผนฟื้นฟูกิจการอย่างแน่นอน
บมจ.การบินไทยได้เดินหน้าจัดหาฝูงบินใหม่ 45 ลำ โดยทำอย่างรอบคอบและให้ความสำคัญกับกระบวนการความโปร่งใส
จัดหาตรงกับบริษัทผู้ผลิตทุกรายโดยไม่ผ่านตัวแทนขาย แล้วอ้างอิงรูปแบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมการบิน
เทียบเคียงสายการบินนานาชาติชั้นนำอื่น ๆ พร้อมมีที่ปรึกษาชั้นนำได้การยอมรับในอุตสาหกรรมการบินระหว่างประเทศร่วมพัฒนา
“แบบจำลอง” ทั้งเครือข่ายเส้นทางบิน ประมาณการทางการเงิน
กำหนดรายละเอียดหลักเกณฑ์การคัดเลือกประเมินผลและการเจรจาต่อรองกับผู้ผลิต
โดยมุ่งเน้นประโยชน์สูงสุดของการบินไทยเป็นสำคัญ ทั้งเรื่องต้นทุนดำเนินการทุกมิติ
เช่น ขีดความสามารถในการแข่งขัน ประสบการณ์และความพึงพอใจของผู้โดยสาร ได้แก่ การตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารในมิติต่างๆ
เกี่ยวกับ ความสะดวกสบาย ที่นั่ง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสาร เรื่อยไปจนถึง
“ภาระต้นทุน” ทั้งการเป็นเจ้าของหรือค่าเช่า การซ่อมบำรุง ความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
ประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ (Reliability) ปฏิบัติการบิน
อีกทั้ง “ความสามารถสร้างรายได้” ต้องเป็นไปตามประมาณการทางการเงินภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ ปริมาณการผลิต
ประสิทธิภาพการจัดการฝูงบินตามแผนเครือข่ายเส้นทางบิน ความสามารถในการแข่งขันด้านราคา
และอื่น ๆ
บมจ.การบินไทย ยืนยันจะยังคงร่วมมือกับผู้ผลิตเครื่องบินและเครื่องยนต์ชั้นนำของโลกพัฒนาฝูงบินต่อเนื่องสร้างความมั่นใจให้ผู้โดยสารทั้งด้านความปลอดภัยในการเดินทาง
คุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการในแต่ละเที่ยวบิน จึงขอให้ความมั่นใจการจัดการหาฝูงบินระยะยาวครั้งนี้
ทำอย่างรอบคอบบนพื้นฐานความจำเป็นเพื่อดำเนินธุรกิจให้บรรลุเป้าหมายและความสำเร็จด้วยกระบวนการและหลักเกณฑ์ที่โปร่งใส
ยึดเอาประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ เป็นหลัก ไม่เพียงแต่ให้บรรลุเป้าหมายฟื้นฟูกิจการ
แต่ยังเดินหน้าเติบโต ทำกำไรทางธุรกิจอย่างยั่งยืนในอนาคต
ก้าวไปสู่ความเป็นสายการบินชั้นนำของโลกทำให้คนไทยภาคภูมิใจ
ข่าวที่สอง
-ตรุษจีนไทยโกยต่างชาติแตะล้าน-42วันตุนได้4.38ล้านคน
นางสาวสุดาวรรณ
หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า
กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ประเมินสถานการณ์เดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลตรุษจีระหว่าง 5-11 กุมภาพันธ์
2567 เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า
มีนักท่องเที่ยวตลาดเอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เลือกมาเมืองไทยในจำนวนมากกว่าทุกครั้ง
นำโดย สาธารณรัฐประชาชนจีน มาเลเซีย ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน เกาหลีใต้ ทำให้มีต่างชาติเที่ยวเมืองไทยสัปดาห์เดียวรวมทั้งสิ้น
872,235 คน เพิ่มขึ้น 102,227 คน หรือเพิ่ม 13.28 % จากช่วงเดียวกันกับสัปดาห์ก่อน เฉลี่ยการเดินทางวันละ 124,605 คน
เฉพาะเทศกาลตรุษจีนปี 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยเปรียบเทียบการเติบโตกับสัปดาห์ก่อนพบ
5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1
สาธารณรัฐประชาชนจีน 194,275 คน เพิ่มขึ้น 12.38
% อันดับ 2 มาเลเซีย 125,686 คน เพิ่มขึ้น 63.64 % อันดับ 3 รัสเซีย 48,826 คน ลดลง 5.60 % อันดับ
4 เกาหลีใต้
48,643 คน เพิ่มขึ้น
10.53 % อันดับ
5 อินเดีย
36,793 คน ลดลง
9.79 %
สำหรับสถิติล่าสุดมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย
ข้อมูลณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพบจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมรวม
42 วัน
เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 11 กุมภาพันธ์ 2567 จำนวนรวมทั้งสิ้น 4,385,390
คน (จากเป้าหมายรวมตลอดปี
2567 ตั้งไว้
35 ล้านคน)
สร้างรายได้ประมาณ 215,147 ล้านบาท (จากเป้าหมายรวมตลอดปี 2567 ตั้งไว้
2-2.5 ล้านล้านบาท)
โดยมียอดนักท่องเที่ยวสะสมสูงสุด 5
อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1
สาธารณรัฐประชาชนจีน 811,853
คน อันดับ 2 มาเลเซีย
503,069 คน อันดับ 3 รัสเซีย 298,203
คน อันดับ 4 เกาหลีใต้ 296,558
คน อันดับ 5 อินเดีย 224,363
คน
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายังได้วิเคราะห์แนวโน้มสัปดาห์ถัดไป
ระหว่างวันที่ 12-18 กุมภาพันธ์ 2567 คาดการณ์จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าเมืองไทยต่อเนื่อง
พร้อมทั้งจะปรับสู่ระดับปกติหลังสิ้นสุดช่วงเทศกาลตรุษจีน เป็นผลมาจากมาตรการส่งเสริมการเดินทางของไทย
2 ปัจจัยหลัก คือ ปัจจัยที่ 1 การลงนามยกเว้นวีซ่าระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน
ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว เพิ่มการอำนวยความสะดวกการเดินทาง
กระตุ้นให้สายการบิน เพิ่มจำนวนเที่ยวบิน ปัจจัยที่ 2 รัฐบาลไทยยกเว้นตรวจลงตราหนังสือเดินทาง
หรือวีซ่าฟรี ให้นักท่องเที่ยวอินเดีย ไต้หวัน คาซัคสถาน
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น