วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2568

“เวียตเจ็ทไทย”เปิดแผนธุรกิจบินอนาคตปี68-71สั่งฝูงบินใหม่50ลำผงาดFly Green

 “เวียตเจ็ทไทย”แผนธุรกิจบินอนาคตปี68-71ผงาดFly Green

สั่งฝูงบินใหม่50ลำลุยตลาดญี่ปุ่น/เกาหลี/อินเดีย/เวียดนาม

 

เวียตเจ็ทไทยแลนด์เดินหน้าแผนธุรกิจอนาคตปี68-71 สั่งฝูงบินใหม่ 50 ลำ ก้าวสู่ Fly Green

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #เวียตเจ็ทไทยแลนด์ #FlyGreen

เวียตเจ็ทไทยแลนด์ เปิดแผนอนาคตปี 68-71 มุ่งสู่ “Fly Green” นำธุรกิจเติบโตมั่นคงและยั่งยืน ลงทุนขยายฝูงบินใหม่ 50 ลำ รุกเปิดเส้นทางยอดนิยม ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย เวียดนาม ชูจุดแข็ง “ราคาเข้าถึงง่าย” บริการตรงเวลาติดอันดับ 4 เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมขบวนใช้น้ำมัน SAF

นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เวียตเจ็ทไทยแลนด์ เปิดเผยว่า สายการบินเวียตเจ็ทไทยแลนด์ พร้อมเปิดกลยุทธ์เชิงรุกสร้างการเติบโตอนาคตปี 2568–2571 ผลักดันไทยเป็น “ศูนย์กลางการบินและการท่องเที่ยว” ในภูมิภาคอาเซียนมุ่งสู่ความยั่งยืนเพิ่มประสบการณ์ให้ผู้โดยสารด้วย 3 กลยุทธ์ คือ 1.เดินหน้าขยายฝูงบินขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายเตรียมรับมอบฝูงบินใหม่โบอิ้ง B737-8 เพิ่ม 50 ลำ ทยอยรับลำแรกเดือนตุลาคม 2568 เป็นต้นไป  2.เพิ่มเครือข่ายเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าเชื่อมต่อเมืองหลัก-เมืองรองในไทยกับเมืองสำคัญทั่วเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย และเวียดนาม และ 3.ลงทุนด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ ขานรับนโยบาย “Fly Green”การบินลดผลกระทบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

“แผนขยายฝูงบินครั้งนี้” มุ่งยกระดับศักยภาพไทยในฐานะศูนย์กลางการบินและการท่องเที่ยวในภูมิภาค ทางเวียตเจ็ทไทยแลนด์นำธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง ทั้งรายได้ ปริมาณผู้โดยสาร เครือข่ายเส้นทางบิน สะท้อนถึงการดำเนินงานอันแข็งแกร่งและความเชื่อมั่นจากผู้โดยสารกับคู่ค้า มุ่งนำเสนอการเดินทางอย่างสะดวกสบาย ราคาคุ้มค่า และตรงเวลา


“เตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่” ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ จากการขยายฝูงบินระยะสั้นและกลาง เพื่อรองรับบริการสายการบินเติบโตดี จะช่วยให้เวียตเจ็ทไทยแลนด์เพิ่มขีดความสามารถในตลาดโลว์คอสต์ซึ่งแข่งขันกันรุนแรง และสร้างความพร้อมให้ไทยเป็นฮับการบินในภูมิภาค โดยเฉพาะการสร้างงานกว่า 4,000 - 5,000 ตำแหน่ง ครอบคลุมนักบิน พนักงานต้อนรับ พนักงานภาคพื้นดิน ฝ่ายวิศวกรรม ควบคู่การยกระดับด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม

นายวรเนติ กล่าวว่าในฐานะสายการบินยุคใหม่ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากร เปิดโอกาสให้ทั้งบัณฑิตจบใหม่ ผู้มีประสบการณ์ทำงาน ผู้ที่มีความมุ่งมั่นในสายอาชีพด้านการบินได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร

“ปิ่นยศ พิบูลสงคราม” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการพาณิชย์ กล่าวว่าตลอดปี 2568 เวียตเจ็ทไทยแลนด์ทำให้ผู้โดยสารเติบโตต่อเนื่องโดยใช้” ราคา” เป็นจุดแข็งเข้าถึงง่าย และตอบสนองความต้องการของนักเดินทางยุคใหม่ โดยสามารถรักษาผู้โดยสารเติบโตได้ต่อเนื่อง แม้ต้องเผชิญการแข่งขันรุนแรง ด้วยจุดแข็งที่ได้มอบบริการคุณภาพใน “ราคาที่เข้าถึงได้” จึงมีฐานลูกค้าเหนียวแน่นและขยายตลาดใหม่ได้อย่างมั่นคง

“เปิดเส้นทางบินใหม่” เวียตเจ็ทไทยแลนด์เตรียมเปิด 1.กรุงเทพฯ–โซล เดือนตุลาคม 2.กรุงเทพฯ–โกลกาตา เดือนพฤศจิกายน 3.กรุงเทพฯ–โตเกียว (นาริตะ) 4.กรุงเทพฯ–โอซาก้า (คันไซ)  และ5.กรุงเทพฯ–อาห์เมดาบัด จะเปิดพร้อมกันเดือนธันวาคม 2568 เพื่อตอบสนองตลาดมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นในเกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทางเวียตเจ็ทไทยยังเตรียมมอบประสบการณ์การบินอันน่าประทับใจด้วยบริการด้านความบันเทิงบนเที่ยวบิน (In-Flight Entertainment) สุดประทับใจ

“ความตรงต่อเวลา” เวียตเจ็ทไทยพัฒนาอย่างต่อเนื่องปัจจุบันก้าวสู่อันดับ 4 ของสายการบินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นความสำเร็จที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นเรื่องการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและมอบบริการเป็นเลิศให้ผู้โดยสารทุกคน


“สญาดา เบญจกุล” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ กล่าวว่าเวียตเจ็ทไทยแลนด์ให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญทั้งเชิงเศรษฐกิจ และต้องการสร้างสมดุลไปพร้อมกับสิ่งแวดล้อมและสังคม เป็นแรงผลักดันสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพ โดยให้ความสำคัญเรื่องสร้างภาพลักษณ์องค์กรอย่างโปร่งใสและมีความรับผิดชอบต่อสังคม เดินหน้าจัดกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติและเพื่อสังคมต่อเนื่องตลอด ทั้งโครงการด้านสิ่งแวดล้อม การศึกษา สนับสนุนชุมชนท้องถิ่น ร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนในการส่งเสริมการท่องเที่ยว

ทั้งหมดนี้สอดคล้องตามนโยบาย “Fly Green” มุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเวียตเจ็ทไทยแลน์ มุ่งเน้นสร้างวัฒนธรรมองค์กรสีเขียว และส่งเสริมการมีส่วนร่วมใดูแลโลกอย่างยั่งยืนควบคู่กันไปด้วย พร้อมกับประกาศตอกย้ำพันธกิจด้านความยั่งยืน เดินหน้าศึกษาและส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงอากาศที่ยั่งยืนหรือ SAF :Sustainable Aviation Fuel ควบคู่dkiนำเครื่องบินรุ่นใหม่ที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น A321neo และ Boeing 737-8 เทียบกับเครื่องรุ่นเดิมแล้วจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ถึง 15–20%


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ผู้นำใหม่ TCEBเปิด 4 พันธกิจ BIG CHANGE

ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB"   “ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์”ผู้นำใหม่ T...