ทอท.-AOT-ฉลอง37ปี-สุวรรณภูมิ หวังฟันกำไร2หมื่นล้าน

ทอท.หวังสร้างสถิติใหม่ปี59ฟันกำไรทะลุ2หมื่นล้าน

ฉลอง37ปีเทหน้าตักขยาย6สนามบินเฉียด2แสนล้าน

จัดCEO AIRPORT FORUMปูพรมผู้นำเวิลด์คลาสเอเชีย

เรื่องและภาพโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน : คอยตามฟังรายละเอียดต่อได้ทาง “สถานีวิทยุแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ในรายการรวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม 59 นี้ เวลา 11.00 น.หรือทางเฟซบุ๊ค www.facebook.com/penroong

สร้างประวัติศาสตร์ปี59หวังกำไร2หมื่นล้าน



นิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.

 

 “ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ” ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ “ทอท.”เปิดเผยว่า ทอท.ได้ฉลองความสำเร็จการดำเนินงานครบ 37 ปี ซึ่งจะเป็นปีแรกของการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในการทำกำไรตลอดทั้งปีใกล้เคียง 20,000 ล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรก (ตุลาคม 2558-มีนาคม 2559) ทำนิวไฮมีกำไรกว่า 10,000 ล้านบาท ช่วงครึ่งปีหลังมีปัจจัยบวกเป็นแรงเสริมช่วงไตรมาสสุดท้าย ระหว่างสิงหาคม-ตุลาคม 2559 นี้ โดยมีปัจจัยหลัก ๆ คือ

ปัจจัยแรก “ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว” เป็นฤดูเดินทางหนาแน่นทั้งคนไทยเดินทางในประเทศและต่างชาติเข้ามาเมืองไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว วัดผลได้จากปริมาณเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารของสายการบินกลุ่มโลว์คอสต์แอร์ไลน์ส และสายการบินนานาชาติ ปัจจุบันถึงแม้จะเป็นช่วงนอกฤดูเดินทางระหว่างพฤษภาคม-กรกฎาคม ยังมีจำนวนผู้โดยสารใช้บริการสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิและดอนเมืองช่วงเบาบางเฉลี่ย 1.2 แสนคน ช่วงหนาแน่น 1.7 แสนคน อีกทั้งอัตราการเติบโตของผู้โดยสาร 6 เดือนแรกขยายเพิ่ม 12.4 % ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ 12.5 %

ปัจจัยที่สอง “เหตุการณ์วิกฤตจากความไม่ปลอดภัยในหลายพื้นที่ของโลก” ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณแล้วว่านักท่องเที่ยวตลาดใหญ่จาก “สาธารณรัฐประชาชนจีน” ไหลบ่ามาเลือกเที่ยวเมืองไทยเพิ่มขึ้นโดยยกเลิกการเดินทางเข้าไปยังกลุ่มประเทศดังกล่าว

ดร.นิตินัย นำทีมบริหาร ทอท.ร่วมฉลองครบรอบ 37 ปี เมื่อ 30 มิ.ย.59 ณ ประตู 5 สนามบินสุวรรณภูมิ

 

ปัจจัยที่สาม  “ทอท.ได้พัฒนาบริการ” ทั้งการเพิ่มขีดความสามารถทางด้านบุคลากร มาตรฐานความปลอดภัย การนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมตั้งแต่ระบบเช็คอิน WiFi อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง เรื่อยไปจนถึงการตรวจหนังสือเดินทางเข้าออกสำหรับคนไทยด้วยกัน และ เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์คอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

ปัจจัยที่สี่ “ผนึกความร่วมมือกับเครือข่ายคู่ค้าและภาคีพันธมิตร” ในการทำงานร่วมกับสายการบินผู้ใช้บริการเต็มประสิทธภิพาในทุกรูปแบบของอุตสาหกรรมการบินโลกยุคใหม่

เส้นชัยสู่“Wolrd Class Airport”

เป้าหมายสำคัญเพื่อนำประเทศไทยเป็นผู้นำความสำเร็จครอบคลุมทั้งทางด้าน การทำประโยชน์เพื่อสังคม การบริการ มาตรฐานความปลอดภัย นวัตกรรมบริการ เพื่อการส่งต่อความยั่งยืนในอนาคตที่จะก้าวขึ้นเป็น “Wolrd Class Airport” ของภูมิภาคเอเชียและของโลก ควบคู่กับการเป็นแพลตฟอร์มสำคัญทางด้านความเป็นมาตรฐานการบินศูนย์กลางเชื่อมโยงเครือข่ายแลกเปลี่ยนบริการระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศ CLMV กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม

เพิ่มขุมสมบัติ5ปีหน้า6สนามบิน

ส่วนในการวางแผนใช้เงินลงทุนครั้งประวัติศาสตร์อีก 5 ปีข้างหน้า คณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.ได้อนุมัติเรียบร้อยแล้วในการทุ่มทุน 1.945 แสนล้านบาท ขยายขีดความสามารถแบบครบวงจรกิจการที่อยู่ในความดูแลทั้ง 6 สนามบิน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่มแรก 3 สนามบินนานาชาติหลัก จะใช้รวมกันกว่า 1.62 แสนล้านบาท ได้แก่  “สุวรรณภูมิ” ใช้ไม่ต่ำกว่า 117,470 ล้านบาท ตามมาด้วย “ดอนเมือง” ใช้เงินราว 31,870  ล้านบาท ในการทยอยทำโครงการคู่ขนานกันทั้งเฟส 2 และ 3  ส่วน “สนามบินนานาชาติเชียงใหม่” จะใช้เงิน  12,780 ล้านบาท เดินหน้าขยายเฟสสองเต็มรูปแบบนั่นเอง

กลุ่มที่สอง จะใช้งบพัฒนารวมกันอีกประมาณ 3.2 หมื่นล้านบาท พัฒนาอีก 3 สนามบินในภูมิภาค ได้แก่ “ภูเก็ต” จะใช้เงิน  12,040 ล้านบาท ปรับปรุงทั้งอาคารผู้โดยสาร ลานจอด สิ่งอำนวยความสะดวกครบ เตรียมพร้อมรองรับผู้โดยสารในปี 2565 ให้ได้ปีละ 18 ล้านคน สำหรับ “หาดใหญ่” จะใช้เงิน 15,000 ล้านบาท ปรับปรุงเช่นเดียวกันกับภูเก็ต เตรียมพร้อมรองรับผู้โดยสารปี 2573 ให้ได้ถึงปีละ 10 ล้านคน ส่วน “แม่ฟ้าหลวงเชียงราย”  จะใช้เงิน 5,000 ล้านบาท ขยายขีดความสามารถทำให้ในปี 2565 เป็นต้นไปจะรองรับผู้โดยสารได้ปีละ 3 ล้านคน

ดร.นิตินัย ยืนยันว่า ภารกิจการลงทุนครั้งนี้มีความท้าทายอย่างมาก เนื่องจากจะเป็นครั้งแรกที่ใช้เงินพัฒนามูลค่าเกือบ 2 แสนล้านบาท สูงกว่าสินทรัพย์ที่มีอยู่ทั้งหมดเพียง 1.6 แสนล้านบาท ดังนั้นในช่วงตั้งแต่นี้ไปจึงมุ่งพัฒนาการลงทุนสถานประกอบการให้มีพื้นที่รองรับอนาคตของนักเดินทางและผู้ใช้บริการ ควบคู่กับการถ่ายโอนภารกิจจากรุ่นสู่คนยุคใหม่ที่จะเข้ามาบริหารในอีก4-5 ปี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันเต็มรูปแบบ

ธงนำรายได้ปี’63พื้นที่เชิงพาณิชย์โตเท่าตัว

ส่วนกลยุทธ์ “การหารายได้” ปัจจุบัน ทอท.มีเงินสดสำรองอยู่ในมือประมาณ 5.5 หมื่นล้านบาท และยังมีรายได้เป็นเงินสดหมุนเข้ามาเติมเข้ามาอย่างต่ำปีละ 25,000 ล้านบาท เมื่อครบ 5 ปี บวกเงินสดตั้งต้นกับรายได้ใหม่ที่เก็บสะสมไว้ก็จะมีเงินอยู่ในกระเป๋าเกือบ 1.8 แสนล้านบาท ใกล้เคียงกับเม็ดเงินลงทุนที่จะใช้เพิ่มศักยภาพสนามบินทั้งหมด

สำหรับ “แหล่งรายได้” ของ ทอท.ภายในปี 2563 จะเร่งปรับสัดส่วนให้ใกล้เคียงกันเป็น 50-50 โดยเฉพาะ ส่วนแรก “การเพิ่มจากธุรกิจพื้นที่ร้านค้าเชิงพาณิชย์ภายในสนามบิน” แต่ละแห่ง (Non Aero) ปัจจุบันยังอยู่ที่ 40 % เนื่องจากในสนาบินหลักสุวรรณภูมิซึ่งมีส่วนแบ่งผู้โดยสารสูงสุดเกินกว่า 65 % ของผู้ใช้บริการรวมในแต่ละปี ปัจจุบันพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทางเดิน จะต้องวางแผนออกแบบใช้พื้นที่ใหม่ให้คุ้มค่าในเชิงพาณิชย์ เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับสนามบินนานาชาติของประเทศอื่นอย่าง ฮ่องกง มีพื้นที่ร้านค้าจำหน่ายสินค้าสูงเกือบที่สุด หรือสิงคโปร์ สาธารณรัฐเกาหลี ก็เช่นกัน ซึ่งประเทศเหล่านี้มีความเป็นมืออาชีพให้บริการแต่ละสนามบินด้วยการบริหารจัดการรายได้จากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาช้อปปิ้งที่ดีจนทำรายได้สูงถึง 10 เท่า แตกต่างจากไทยยังมีรายได้จากส่วนนี้น้อยมาก

แต่ตอนนี้สนามบินดอนเมืองจะเมื่อพัฒนาเฟส 2 และ 3 คู่ขนานกันไปจะมีพื้นที่เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นเท่าตัว จาก 30,000 เป็น 60,000 ตารางเมตร หรือต่อไป ภูเก็ต เชียงใหม่ ก็จะเพิ่มพื้นที่ในลักษณะเดียวกัน

ทั้งนี้ ผู้นำ ทอท.ยังคงมองว่าแนวทางปฏิบัติการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสนามบินยังคงใช้หลักการหารายได้ด้วยวิธีการเปิดประมูลสัมปทานคัดเลือกเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญ ความพร้อมทั้งทางด้านการบริหารจัดการพื้นที่ ผลตอบแทน เครือข่ายการค้า ช่องทางการจัดจำหน่าย ที่สร้างประโยชน์สูงสุดโดยไม่เป็นอุปสรรคต่อมาตรฐานความปลอดภัย และเป็นไปตามหลักสากลการบินนานาชาติ

ส่วนที่สอง “รายได้จากการบิน”  (Aero) ซึ่งจัดเก็บจากค่าบริการจากสายการบินทั้งหมดนั้นควรจะลดลงเพื่อเป็นแม่เหล็กสร้างแรงจูงใจเพิ่มจำนวนและเครือข่ายเส้นทางบินเพื่อทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมการบินภูมิภาคเอเชียอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ทอท.ยังมีการทำความร่วมมือในโครงการ  “สนามบินพี่น้อง-Sister Airport” กับ15 สนามบินนานาชาติ อาทิ ออสติน มิวนิค (เยอรมัน) ญี่ปุ่น และระยะหลังหันเน้นในอาเซียนแถบ CLMV ซึ่งทาง ทอท.จะช่วยทางภูมิภาคเติบโตไปพร้อม ๆ กัน โดยเฉพาะเออีซีทางด้านเหนือ อันจะเป็นโอกาสของ ทอท.ที่จะเติบโตเป็น Global Positioning และ เป็นปีแรกที่ ทอท.เป็นเจ้าภาพจัด CEO Airport Forum ระหว่างวันที่ 6-8 กรกฏาคม 2559 ขึ้นในประเทศไทย โดยเชิญกลุ่มเพื่อนบ้านมาร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

ในหัวข้อ Collabolation : Global Mega Trends  เตรียมก้าวไปข้างหน้ากับโลกที่ก้าวเข้าสู่นวัตกรรมใหม่หรือInnovation หรือยุคแห่งสังคมผู้สูงวัยในการเดินทาง (Senior Society)

6-8เดือนนี้เที่ยวบินทะลุ5แสนผู้โดยสารพุ่ง81ล้านคน

สำหรับผลการดำเนินงานของ ทอท. ครึ่งแรกปีงบประมาณ 2559  ระหว่างตุลาคม 2558-มีนาคม 2559 มีรายได้รวม 25,813 ล้านบาท มีกำไร 10,156 ล้านบาท รายได้มาจาก 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1  รายได้จากการขายหรือการให้บริการ 25,188 ล้านบาท ส่วนที่ 2 รายได้อื่น ๆ 625.06 ล้านบาท มีค่าใช้จ่าย 13,075.84 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 2,581.64 ล้านบาท

ตลอด 8 เดือน ระหว่าง ตุลาคม 2558-พฤษภาคม 2559 มี “ปริมาณจราจรทางอากาศหรือเที่ยวบิน” ขึ้นลง ณ สนามบินนานาชาติทั้ง 6 แห่ง 519,157 เที่ยว เพิ่มขึ้น 10.11 % แบ่งเป็น “เที่ยวบินระหว่างประเทศ” 269,131 เที่ยว จำนวนเที่ยวบินของสายการบินโลว์คอสต์ไทยและจีนบินระหว่างประเทศเพิ่มมากเป็นอันดับต้น ๆ เข้าออกดอนเมืองและเชียงใหม่  ขณะที่ “เที่ยวบินภายในประเทศ” มีจำนวน 250,026 เที่ยว

สำหรับ “จำนวนผู้โดยสาร” มีรวมทั้งสิ้น 81,124,861 ล้านคน เพิ่มขึ้น 12.43 % แบ่งเป็น “ผู้โดยสารระหว่างประเทศ” 46,145,099 คน “ผู้โดยสารในประเทศ” 34,979,762 คน

 

 

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน : คอลัมนิสต์-นักเขียนอิสระ

การบินไทย-สิงคโปร์-นายกฯประยุทธ์

บินไทยสิงคโปร์รุกเปิดเทรนด์เก๋“แทรเวลกรีน”

ตามรอยเสด็จร.5ชมความรุ่งเรืองคมนาคมท่องเที่ยว

นายกฯประยุทธ์สั่งลุยแก้ทัวร์0เหรียญภายใน3เดือน

สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน 2559 เวลา 11.00-12.00 น.พบกันทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย” FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” รู้ทันข่าวและสารคดีท่องเที่ยวอัพเดททุกสถานการณ์

ช่วงแรกเวลา 11.15 น.

กิตติพงษ์ สารสมบูรณ์
ผอ.ประจำภูมิภาคกลุ่มประเทศอาเซียน บมจ.การบินไทย

คุณกิตติพงษ์ สารสมบูรณ์ ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคกลุ่มประเทศ-อาเซียน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)จะมาเล่าให้ฟังถึงการผสมผสานกลยุทธ์การตลาดที่สามารถทำให้โลกสวยด้วยพลัง “Travel Green” ในเส้นทางบินบริการที่ “สายการบินแห่งชาติ”อย่าง “การบินไทย”พร้อมมอบให้กับผู้โดยสารทุกเพศทุกวัยได้การเดินทางอย่างมีความสุขทั้งเพื่อการทำธุรกิจและการท่องเที่ยวตลอดทุกทริประหว่างไทยไปและกลับสิงคโปร์

โดยการบินไทยได้ทำโปรเจ็กต์ไฮไลต์นำ “ช้างอินตัน” ไปมอบให้สวนสัตว์สิงคโปร์ บ่มเพาะความผูกพันให้ครอบครัวชาวสิงคโปร์ทั้งพ่อแม่ลูกทุกครั้งที่แวะเข้าไปชมได้รำลึกถึงความมีเสน่ห์น่ารักของไทยผ่านช้างเจ้าเสน่ห์อินตัน ผนวกกับการเปิดเส้นทางประวัติศาสตร์ตามรอยเสด็จ ร.5 ในช่วงกว่า 150 ปีที่ผ่านมา นับเป็นความภูมิใจที่ต้องห้ามพลาดหากคนไทยมีโอกาสไปเที่ยวสิงคโปร์ ตั้งแต่ท่าเทียบเรือเสด็จขึ้นเกาะสิงคโปร์ สถานที่พัก และเส้นทางมากมายทั้งทางบกและทางน้ำ ล่วงเลยมาถึงปัจจุบันนี้ได้รับการพัฒนาให้เห็นถึงระบบโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมครบลูปเชื่อมโยงสู่การท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ควรค่าที่จะอยู่ในความทรงจำของคนไทยและสิงคโปร์

ฟังแนวคิดและการทำตลาดเชิงรุก “ภาคแรก”ที่น่าสนใจซึ่งมุ่งเน้นการเดินทางเพื่อสร้างประโยชน์สู่สังคมของ “กิตติพงษ์ สารสมบูรณ์” นักการตลาดรุ่นใหม่การบินไทย ได้ในรายการ จากนั้นในสัปดาห์ต่อไปจะมี“ภาคสอง” ให้ติดตามด้วยเช่นกัน

แล้วฟังข่าวต้นชั่วโมงในแวดวงท่องเที่ยวเติมเต็มความรู้ต่ออีก7 เรื่อง

 ข่าวที่1 “วันสต็อปช้อปคิงเพาเวอร์รับส่วนลด50%”

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มอบสิทธิพิเศษ! สำหรับ“สมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์” รับส่วนลด 50% สำหรับอาหารมื้อค่ำ ณ ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก เมื่อทุกท่านจองห้องพักของโรงแรมในช่วง3 เดือนนี้ ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน นี้ โทร. 02 680 9999 www.pullmanbangkokkingpower.com

ในเดือนตุลาคม2559 นี้ คอยพบกันโฉมใหม่ “โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ” ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่เดียวกันกับร้านค้าดิวตี้ฟรี คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ รางน้ำ เป็นบริการแบบวันสต็อป เซอร์วิส มาที่เดียวได้พักผ่อน ท่องเที่ยว ช้อปปิ้ง จากการจองห้องพัก รับส่วนลดตามห้องอาหาร ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย หรือจะไปช้อปสินค้าปลอดอากรและสินค้าโอท็อปคุณภาพเกิน 5 ดาว ที่คัดสรรจากผู้ผลิตตามชุมชนต่าง ๆ กลุ่มขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือ SMEsโดยคิงเพาเวอร์ กระทรวงพาณิชย์ และ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้นำผู้เชี่ยวชาญการออกแบบลงไปให้คำแนะการผลิตกับชุมชนและผู้ประกอบการ SMEs พัฒนาการผลิตให้ได้ตามมาตรฐานสากล รวมถึงการจัดทำแพกเกจหรือบรรจุภัณฑ์ให้สวยงาม ก่อนนำมาจำหน่ายในร้านดิวตี้ฟรีของคิง เพาเวอร์ ทั่วประเทศ

ข่าวที่2 "ทัวร์บุญภาคกลางออนไลน์"ตลอดก.ค.นี้

        

            สำนักงานภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า ตลอดเดือนกรกฎาคม 2559 นี้เน้นสร้างกระแส “เที่ยวตามรอยบุญ” เจาะกลุ่มตลาดผู้สูงอายุ และครอบครัวออกไปเที่ยวในเชิงศาสนาร่วมบุญเทศกาลเข้าพรรษา โดยได้กระตุ้นผู้ประกอบการท่องเที่ยวภาคกลาง19จังหวัด เปิดช่องทางการขายผ่านโครงการวันธรรมดาซูเปอร์ น่าเที่ยว ออนไลน์ @ภาคกลาง พร้อมทั้งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมหลักของ ททท. ได้ด้วยผ่าน 2 ช่องทางได้ง่ายๆ คือ

ร่วมลุ้นรางวัลผ่าน Line Application ทำการเพิ่มเพื่อน หรือ add friend “ไทยเที่ยวไทย” จากการค้นหา ID: @thaitiewthai หรือเพิ่มเพื่อนโดยสแกน QR Code ของกิจกรรมผ่านQR Code Reader ในเว็บไซต์ www.ThailandHero.com

ข่าวที่ 3“มหกรรมเที่ยวหาดขนอมหน้าฝน”

“ลดาวัลย์ ช่วยชาติ”ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครศรีธรรมราช ชวนเที่ยวงานเทศกาลดนตรี "Khanom Festival 2016ครั้ง4" ร้อง เล่น เต้น สนุก คลายร้อนท่ามกลางบรรยากาศแบบทรอปปิคอล ที่ยกขบวนเหล่าศิลปินระดับแนวหน้า อาทิ เบน ชลาทิศ วิน Sqweez Animal Klear 25 Hours Getsunova Potato และDJ Yukie พร้อมชวนให้สวมเสื้อสีขาวมาร่วมงาน เพื่อเติมสีสันให้คุณด้วยกิจกรรมสาดผงสีริมชายหาดครั้งแรก ให้คุณได้พบเทศกาลดนตรีที่แตกต่างไปจากที่เคย ในวันที่ 16กรกฎาคม 2559 ตั้งแต่เวลา 15.30 น.ณ หาดหน้าด่าน อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช มาร่วมสนุกและแชร์ภาพโดนๆ ให้โลกได้รับรู้

สอบถามเพิ่มเติมที่ 089-307-2777 หรือ www.facebook.com/khanomthailandเปิดจำหน่ายบัตร ตั้งแต่วันนี้ถึงวันงานที่ Thaiticket Majorทุกสาขา

ข่าวที่ 4 “ท็อปแวลู่คืนกำไรสมาชิกบางจาก”

บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ร่วมกับพันธมิตรกลุ่ม “ท็อป แวลู่” ให้สมาชิกผู้ถือบัตรบางจาก ได้รับส่วนลด 200 บาท เมื่อสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ 1,000 บาทขึ้นไป ระหว่างวันนี้ –31 ธค 2559 เป็นการช็อปแบบง่ายๆแค่คลิก www.topvalue.com โดยมีขั้นตอนรับสิทธิส่วนลด เริ่มจาก• ใส่รหัส BCPTVแล้วตามด้วยเลขบัตรสมาชิกบางจากหน้าบัตร 4หลักแรก ในหน้า ใส่รหัสคูปอง โดยทางบริษัทขอจำกัดสิทธิ์ไว้ที่2,000 สิทธิ์/เดือน

ข่าวที่ 5 “6 วิธีจัดงานไมซ์อีเว้นท์อย่างยั่งยืน”

อี-แมกกาซีน สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB นำโมเดลตัวอย่างการรักษาสิ่งแวดล้อมในงานไมซ์อีเว้นท์แบบยั่งยืนสำหรับผู้เข้าร่วมงาน1,000 คนในระยะเวลา 3 วันมาเป็นต้นแบบให้ผู้จัดการไมซ์ในประเทศไทยนำไปใช้ปฏิบัติตามได้ง่ายๆ

1. จัดให้มีตัวเลือกการเข้าประชุมทางไกล สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศได้ถึง 100 เมตริกตัน (242,500ปอนด์) ต่อผู้เข้าร่วมงานจำนวน 500 คน

2. อุดหนุนห้องพักในโรงแรมสีเขียวซึ่งมีนโยบายการใช้ผ้าปูที่นอนซ้ำระหว่าง3 คืนที่เข้าพัก ช่วยประหยัดน้ำได้ 15,142 ลิตร (4,000แกลลอน)

3. ใช้แอปพลิเคชันแทนการพิมพ์ด้วยกระดาษ ช่วยลดปริมาณการตัดไม้ได้ 2 ต้น และประหยัดน้ำได้ถึง 196,841 ลิตร (52,000 แกลลอน)

4. ให้บริการจดุ เติมน้ำดื่มและใช้ภาชนะใส่น้ำซ้ำชว่ ยลดปริม าณถ้วยที่ใช้ได้ 6,000 ถ้วย และปริมาณขยะจากถ้วยกาแฟได้ 381 กิโลกรัม (840ปอนด์)

5. ออกแบบเมนูมังสวิรัติ 1 มื้อ ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 2.83เมตริกตัน ซึ่งเท่ากับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่สามารถเก็บกักได้จากการปลูกพืชแบบเพาะเมล็ดเป็นเวลา10 ปี

6. เสิร์ฟเมนูที่ทำจากเนื้อไก่แทนเนื้อวัว1 มื้อ ช่วยลดการใช้น้ำได้1,257,584 ลิตร(332,219 แกลลอน) ซึ่งเท่าปริมาณน้ำครึ่งสระว่ายน้ำขนาดที่ใช้ในกีฬาโอลิมปิกหนึ่งสระ

ข่าวที่ 6 “8เดือนผู้โดยสาร-เที่ยวบินเข้าไทยโต2หลัก”

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.รายงานอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วตลอด 8เดือนปีงบประมาณ 2559 ระหว่าง ตุลาคม 2558-พฤษภาคม 2559ทั้ง “ปริมาณการจราจรทางอากาศและจำนวนผู้โดยสาร” ที่ใช้บริการในสนามบินนานาชาติที่อยู่ในความดูแลทั้ง6 แห่ง

ปริมาณเที่ยวบินมีสูงถึง 519,140 เที่ยว เพิ่มขึ้น 10.10 % ส่วนจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งหมด81.125 ล้านคน เพิ่มขึ้น 12.43 % เปรียบเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนมีปริมาณเที่ยวบินเพียง 471,499 เที่ยว และผู้โดยสารเพียง 72.158 ล้านคน

ผลจากการเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นสองหลักทั้ง “ปริมาณเที่ยวบิน” และ“จำนวนผู้โดยสาร” ส่งผลให้บริษัทวิเคราะห์ในตลาดหลักทรัพย์ยืนยันว่า ราคาหุ้น AOT ในตลาดจะพุ่งสูงถึงราคาหุ้นละ430บาท ผนวกกับมีปัจจัยบวกจาการใช้เงินลงทุนขยายสนามบินในอีก 5-7 ปีข้างหน้า เพื่อรองรับผู้โดยสารให้ได้ถึง 158 ล้านคน

สำหรับ “ปริมาณเที่ยวบินเติบโตเพิ่มสูงสุดไปจนถึงต่ำสุด” เรียงตามลำดับดังนี้ คือ “สนามบินภูเก็ต” เติบโตเพิ่มขึ้น 16.25 % จำนวนรวม 63,984 เที่ยว“ดอนเมือง” เพิ่มขึ้น 12.86 % จำนวนรวม 159,890เที่ยว “เชียงราย” เพิ่มขึ้น 9.97 % จำนวนรวม 9,798เที่ยว “สุวรรณภูมิ” เพิ่มเฉลี่ย 7.76 % จำนวนรวม 223,314 เที่ยว “เชียงใหม่” เพิ่มขึ้น 6.23 % จำนวนรวม 44,876 เที่ยว และ “หาดใหญ่” เพิ่มขึ้น5.39 % จำนวนรวม 17,278 เที่ยว

ขณะที่ “จำนวนผู้โดยสาร-เติบโตเพิ่มสูงสุดไปจนถึงต่ำสุด”เรียงลำดับดังนี้ คือ “ดอนเมือง” เพิ่มขึ้น 22.84 % จำนวนรวม 37.824 ล้านคน“เชียงราย” เพิ่มขึ้น 21.78 % จำนวนรวม 1.361 ล้านคน “ภูเก็ต” เพิ่มขึ้น 16.40 % จำนวนรวม 10.047 ล้านคน“เชียงใหม่” เพิ่มขึ้น 14.43 % จำนวนรวม 6.214 ล้านคน “หาดใหญ่” เพิ่มขึ้น 6.98 % จำนวนรวม 2.557 ล้านคน และ “สุวรรณภูมิ” เพิ่มขึ้นน้อยที่สุด 5.75 % จำนวนรวม 37.824 ล้านคน

ข่าวที่ 7 “ไทยแอร์ฯเอ็กซ์บูมตลาดกีฬาเด็กไทย-เกาหลี”

นัดดา บุรณศิริ ซีอีโอไทย แอร์เอเชียเอ็กซ์

“นัดดา บุรณศิริ”ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ กล่าวว่า ได้นำ “ปาร์ค จี ซอง” นักฟุตบอลชื่อดังซึ่งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของไทยแอร์เอเชียเอ็กว์ในเกาหลีใต้ เดินทางมาไทยเพื่อร่วมร่วมสร้างสีสันในโครงการ “Thai AirAsia X Dream Soccer Match with Ji Sung Park” สานฝันและสร้างแรงบันดาลใจให้นักเตะเยาวชนไทยและเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งที่จะส่งผลดีต่อการพัฒนาตลาดของสายการบินกับผู้โดยสารเยาวชนในอนาคตต่อไป

 ช่วงที่ 2 เวลา 11.45 น.พบกับเรื่องราวดี ๆ เมื่อได้ไปชมโครงการเศรษฐกิจพอเพียง เมืองพิจิตร และแพทย์ขอเตือนผู้หญิงไทยระวังข้อเข่าเสื่อมก่อนวัย พร้อมฟังสรุปข่าวประจำสัปดาห์

 @“ศูนย์ฯสิรินธร”ครบเครื่องเรื่องเกษตร

 

วันธรรมดาน่าไป“โครงการศูนย์ชัยพัฒนาการเกษตรสิรินธร” จ.พิจิตร แหล่งเรียนรู้ “เศรษฐกิจพอเพียง” ในเมืองไทยมีให้เลือกศึกษาและท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี สามารถไปเที่ยวหรือประชุมสัมมนาไปแล้วมีความรู้ได้ช่วยชุมชนไปในตัว เป็นการคืนประโยชน์สู่สังคมได้ด้วย

ภายใน“โครงการศูนย์ชัยพัฒนาการเกษตรสิรินธร” บ้านสะพานยาว อำเภอมูลมาก จังหวัดพิจิตร เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการเกษตรกรรมตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ที่ชาวบ้านน้อมถวายให้แก่มูลนิธิชัยพัฒนา “สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี”ทรงพระราชทานอนุมัติให้มูลนิธินำมาพัฒนาเป็นแปลงสาธิตด้านการเกษตร

เมื่อเข้าไปยังศูนย์แห่งนี้นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับกิจกรรมด้าน “ปศุสัตว์” ไฮไลต์ที่จะได้ชมคือ“กรรมวิธีเลี้ยงโคนม” นำน้ำนมมาแปรรูปเป็น ไอศกรีมนมสด นมพาสเจอร์ไรซ์ และยังมีบ่อเลี้ยงปลานิลการสอนวิธีเคาะไข่ปลาเพื่อนำไปอนุบาลเลี้ยงเอง การเลี้ยงปลากัดในบ่อพลาสติก ปลาสวยสวยงาม กบพันธุ์บลูฟร็อก

กิจกรรมด้าน “พืชพันธุ์ไม้” ภายในศูนย์มีพันธุ์ไม้ผลต่าง ๆ และการจำหน่ายกิ่งพันธุ์ แปลงผักปลอดสารพิษ เพาะเห็ด การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวให้ชาวนานำไปปลูกต่อ หรือแม้แต่สอนการทำปุ๋ยอินทรีย์

หากแจ้งล่วงหน้าทางศูนย์สามารถเตรียมวัตถุดิบมาทำเป็นเครื่องดื่มให้ให้กลุ่มคณะผู้เยี่ยมชมได้ชิม เมนูยอดฮิตคือ น้ำฟักข้าว ที่มีเบตาแคโรทีนและไลโคปีนสูงมาก หรือจะเป็นนำเห็ด ผักสด มาปรุงอาหารให้รับประทาน ในสไตล์ Eat Clean

“โครงการศูนย์ชัยพัฒนาการเกษตรสิรินธร”มีสิ่งอำนวยความสะดวก “ห้องประชุม” ขนาดรองรับได้ราว100-150 คน มีห้องพักค้างคืนเป็นแบบเรือนแถว ติดพัดลม รับได้ประมาณ 40 คน

มาร่วมกัน “รวมใจเที่ยวไทย จัดประชุมช่วยชาติ” สร้างสีสันเศรษฐกิจไทยคึกคักในช่วงวันธรรมดา กันได้ตลอดทุกวัน สอบถามที่ โทร.056-632-333

@เตือนหญิงไทยข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยอันควร

นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิชรองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ อธิบายถึง“โรคข้อเสื่อม” ซึ่งเป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดถึงร้อยละ 50ของจำนวนผู้ป่วยที่ไปพบแพทย์ด้วยอาการปวดข้อที่มีอายุ 50ปีขึ้นไป บางรายพบตั้งแต่อายุ 30 ปี พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และมีอาการปวดรุนแรงมากกว่า ในจำนวนนี้พบว่าเป็นอาการของข้อเข่าเสื่อมและอักเสบถึงร้อยละ 28.34

“สาเหตุ” มาจากข้อที่รับน้ำหนักและใช้งานมาก มีการเสื่อมสภาพของกระดูกข้อเข่า กระดูกอ่อน หมอนรองข้อเข่า เอ็นรอบๆ ข้อเข่า เยื่อบุข้อเข่า น้ำไขข้อน้อยลง เกิดได้จากปัจจัยเสี่ยงหลายสาเหตุ เช่น เสื่อมตามวัย อุบัติเหตุ ติดเชื้อ โรคเกาต์ โรครูมาตอยด์ และเกิดจากการทำงานที่ออกแรงใช้เข่ามาก มีการกระแทกหรืองอเข่าบ่อยๆ เช่น ต้องขึ้นบันไดแบกของหนัก เดินไกลๆ หรือลุกนั่งบ่อยๆ โดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากจะเป็นปัจจัยเสริมให้เป็นข้อเข่าเสื่อมได้เช่นกัน ซึ่งผู้ป่วยในกลุ่มนี้มักมีอายุต่ำกว่า 45 ปี

“อาการข้อเข่าเสื่อม” มักค่อยเป็นค่อยไป อาการปวดจะสัมพันธ์กับงานที่ทำ เมื่อพักการใช้งานเข่าและอยู่ในท่าที่สบายมักจะไม่มีอาการปวดเข่า อาจมีอาการเข่าติด มีความรู้สึกว่าข้อขรุขระเวลาขยับข้อเข่า หากอาการปวดเข่านั้นเป็นมากแม้จะอยู่เฉยๆ รวมทั้งปวดบวมแดงร้อน มีไข้ หรือปวดตอนกลางคืนมาก

“การรักษาข้อเข่าเสื่อม” มีหลายวิธี ได้แก่ การลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น การพักการใช้งานข้อเข่า การลดปวดด้วยการประคบร้อนหรือเย็น การปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน หลีกเลี่ยงกิจกรรมบางอย่าง ได้แก่ การเดินขึ้นลงบันได นั่งพับเพียบ นั่งคุกเข่า นั่งยองๆ นั่งขัดสมาธิเป็นเวลานานๆ การออกกำลังกายและการบริหารกล้ามเนื้อรอบเข่าเป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม ด้วยการเดินช้าๆ การออกกำลังกายในน้ำ ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังชนิดที่มีแรงกระทำต่อข้อมากๆ คือ การวิ่ง การกระโดดเชือก หรือการเต้นแอโรบิกที่มีการกระโดด การใช้อุปกรณ์เครื่องช่วยต่างๆ เช่น การใช้ไม้เท้าหรือร่ม เพื่อช่วยลดแรงกระทำต่อข้อ

ในกรณีที่ปวดมากควรถือไม้เท้าหรือร่มในมือตรงข้ามกับข้างที่ปวด การใช้สนับเข่า การลดน้ำหนัก ส่วนการ “ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม” เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอายุมาก มีอาการข้อเข่าเสื่อมมากและไม่ได้ทำงานหนักสามารถลดอาการปวดได้มาก ไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่มีอายุน้อยและทำงานหนัก เนื่องจากข้อเข่าเทียมมีอายุการใช้งานจำกัดและไม่สามารถทนต่อการทำงานหนักๆ ได้

ฟังสรุปข่าวประจำสัปดาห์

ข่าวแรก“ขอนแก่นลุยสร้างสนามบินเฟส2”



สนามบินนานาชาติขอนแก่น รอขยายเฟส 2 ปี 2561

 

ร.ต.อัธยา ลาภมากผู้อำนวยการท่าอากาศยานจังหวัดขอนแก่น กรมท่าอากาศยาน เปิดเผยว่า หลังจากกระทรวงคมนาคมได้อนุมัติงบประมาณศึกษาสำรวจออกแบบและเตรียม แผนการก่อสร้างและปรับปรุงสนามบินขอนแก่นระยะที่ 2 เพื่อรองรับผู้โดยสารได้มากถึงปีละ 5 ล้านคน ซึ่งขณะนี้มีผู้โดยสารเฉลี่ยปีละไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านคน ตามแผนจะใช้เวลาก่อสร้างภายใน10 ปี จะเริ่มก่อสร้างปี 2561 และแล้วเสร็จปี 2563 โดยเตรียมขยายทางวิ่งเพิ่มอีก 1 เส้น ให้เที่ยวบินขึ้นลงได้ถึงชั่วโมงละ 10 เที่ยว มากกว่าเดิมรับได้เพีย 6 เที่ยวต่อชั่วโมง

เนื่องจากสนามบินขอนแก่นใช้งานมากว่า 20 ปี ปัจจุบันมีสายการบินพาณิชย์ให้บริการ 4 ราย ได้แก่ ไทยสมายล์,ไทยแอร์เอเชีย, นกแอร์ และกานต์แอร์ รวมถึงมีเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำ รวม 36 เที่ยว มีผู้โดยสารใช้บริการทั้งขาเข้าและขาออกรวมวันละกว่า 3,500 คน

ล่าสุดบริษัทฯรับจ้างงานออกแบบได้เสนอการออกแบบอาคารก่อสร้างระยะที่2 รูปแบบใหม่จะเป็น 3 อาคาร แยกเป็น อาคารจอดรถ 7 ชั้น, อาคารสำนักงานและพิธีการบินซึ่งจะเป็นอาคารตรงกลาง ความสูง 3 ชั้น และอาคารผู้โดยสารต่างประเทศ รวมทั้งที่ตั้งของสำนักงานสายการบินและสำนักงานของกรมท่าอากาศยานประจำ จ.ขอนแก่น ซึ่งจะเป็นอาคารที่ตั้งอยู่ติดกัน

ข่าวที่สอง“นายกฯตู่สั่งรื้อทัวร์0เหรียญภายใน3เดือน”

“อิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก”ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ล่าสุดพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายชัดเจนมอบให้กระมาการท่องเที่ยวเร่งแก้ไข “ปัญหาทัวร์จีนที่ขายศูนย์เหรียญ”วางกรอบเวลา 3 เดือน เพื่อจัดระเบียบการควบคุมดูแลการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการนำ เที่ยวให้เป็นไปตามกฎหมาย พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 มาตรา 31ของพ.ร.บ.ดังกล่าวระบุไว้ว่าห้ามไม่ให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจัดบริการนำเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยไม่ได้รับค่าบริการปัจจุบันทัวร์ 0เหรียญสร้างความเสียหายให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยมากมหาศาล

โดยทางสภาฯ ท่องเที่ยวจะเสนอขอให้แก้ไขไปพร้อม ๆ กัน ใน 4 ตลาดหลัก ได้แก่ จีน รัสเซีย เกาหลี ญี่ปุ่น เรื่องการกำหนดมาตรฐานราคาห้องพัก ราคาทัวร์นอกโปรแกรม ซึ่งแต่ละตลาดขายราคาต่างกัน

 ข่าวที่สาม“SPAปักธงสปาไทยแห่งแรกในคุนหมิง”

“วิบูลย์ อุตสาหจิต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สยามเวลเนสกรุ๊ป หรือ SPAผู้ประกอบ กล่าวว่า ล่าสุดได้นำแบรนด์ "Let's Relax Spa บูติคเดย์สปา ชั้นนำของไทย ไปเปิดสาขาแรกที่คุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้แนวคิด "Thai Touches" ตกแต่งแบบไทยร่วมสมัย มีห้องบริการ นวดเเละสปากว่า 10 ห้อง 25 เตียง ห้อง VIP พร้อมอ่างจากุชชี่ ชมวิวเมืองคุนหมิงทั้งกลางวัน และกลางคืน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 600ตารางเมตร ตั้งอยู่ใน Tongde Kunming Plaza (TKP) ชั้น 6 ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานสมัยใหม่สูง 54 ชั้น เชื่อมศูนย์การค้า ใจกลางเมืองคุนหมิงบน Baiyun Street ติดสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน

พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.

ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน และ นฤมล พุกยม

ติดตามฟังรายการย้อนหลังเข้าไปที่ www.google.com พิมพ์คำว่า รวยด้วยข่าว97.0 หรือทาง www.facebook.com/rauydauykhaoและ ข่าววิเคราะห์เจาะลึกทางบล็อกเกอร์:gurutourza.blogspot.com

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน เดินทางไปสัมภาษณ์ "กิตติพงษ์ สารสมบูรณ์" ณ ประเทศสิงคโปร์