วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2559

TCEB-กรอ.ไมซ์-ปฏิรูป


“อรรคพล”นำทีมรัฐ-เอกชนลุยตั้งกรอ.ไมซ์
ชงแผนปฏิรูปจัดระเบียบTCEBใหม่9ภารกิจ
29 มิ.ย.นี้เสนอบอร์ด"ดร.วีระศักดิ์"ลงมติด่วน

เรื่องและภาพโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน :rakdeethai@gmail.com
(ติดตามฟังทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ทุกเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.)


อรรคพล สรสุชาติ

หนุนภาครัฐผนึกเอกชนตั้ง กรอ.ไมซ์ ชุดแรกของประเทศ เดินหน้าขับเคลื่อนโร้ดแมฟพร้อมผุดคัมภีร์ธุรกิจประชุมและแสดงสินค้าครบวงจร นำไทยผงาดเป็นผู้นำAECและเอเชีย นำเข้ารายได้ปีละกว่า 2 แสนล้านบาท พร้อมเสนอปฏิรูปจัดระเบียบ TCEB ใหม่ 9 ภารกิจ

 
นายอรรคพล สรสุชาติ  ประธานอนุกรรมการประสานงานภาครัฐเพื่อการอำนวยความสะดวกทางด้านการค้าและบริการอุตสาหกรรมไมซ์ เปิดเผยว่า ได้จัดสัมมนาเชิงปฎิบัติการ : MICE : NEW CHAPTER : บริบทใหม่อุตสาหกรรมไมซ์  เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2559 ณ โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท โดยมีทั้งหน่วยงานภาครัฐ ผู้นำองค์กรเอกชนในอุตสาหกรรมเกี่ยวข้องและสื่อมวลชน ให้การตอบรับเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นพร้อมกับเห็นชอบสนับสนุนให้นำข้อสรุปจากเวทีสัมมนาครั้งนี้นำเสนอสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศไทย (สปท.)และรัฐบาล อนุมัติให้ประเทศไทยจัดตั้ง คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนไมซ์ หรือ กรอ.ไมซ์ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีเป้าหมายเพื่อร่วมมือกันพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์แบบครบวงจรต่อเนื่องในระยะยาว เร่งเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันยกระดับประเทศไทยผงาดขึ้นเป็นผู้นำไมซ์อาเซียนและเอเชียอย่างแท้จริง

โดยจะได้นำการเสนอจัดตั้งคณะกรรมการภาครัฐและเอกชนไมซ์ ซึ่งจะจัดตั้งขึ้นครั้งแรก บรรจุเป็นวาระเพื่อพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน.ที่มี ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธาน ในวันที่ 29 มิถุนายน 2559

นายอรรคพลกล่าวว่า เพราะไมซ์เป็นอุตสาหกรรมหลักซึ่งสามารถทำรายได้เข้าประเทศปี 2558 มีมูลค่ารวมเกือบ 2 แสนล้านบาท แนวโน้มปี 2559 ตั้งเป้าสร้างรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 8 % จากตลาดการจัดสัมมนา การได้รับรางวัลเดินทาง การประชุมนานาชาติและการจัดแสดงสินค้า (Meeting-Incentive-Convention-Exhibition :MICE) ของกลุ่มลูกค้าในประเทศและต่างประเทศทั่วโลกที่นำงานเข้ามาจัดในเมืองไทย
อรรคพล สรสุชาติ จัดเวทีเวิร์คช็อปภาครัฐและเอกชน
ระดมสมองตั้ง "กรอ.ไมซ์"และเสนอปฏิรูปTCEBภารกิจ
 

ผลจากเวทีสัมมนาเชิงปฏิบัติการครั้งนี้  ได้ข้อสรุปร่วมกันของภาครัฐและเอกชนพร้อมจะจับมือกันจัดแผนแม่บทอุตสาหกรรมไมซ์ให้เกิดรูปธรรมด้วยการขจัดปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ซึ่งเป็นจุดอ่อนของประเทศไทยให้หมดไป เบื้องต้นได้วางกรอบเวลาเร่งลงมือทำ 3 เรื่องหลัก ประกอบด้วย
1.เสนอแผนแม่บทบริบทใหม่อุตสาหกรรมไมซ์ต่อสภาปฎิรูปการขับเคลื่อนประเทศไทย (สปท.) ภายใน 3 เดือนนี้ หรือไม่เกินเดือนสิงหาคม 2559 นี้

 2.ลงมือทำจัดทำคู่มือหรือคัมภีร์อุตสาหกรรมไมซ์ (manual) ให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือนนี้หรือไม่เกินสิ้นปี 2559 

3.จัดตั้ง กรอ.ไมซ์ ผนึกความร่วมมือกันในทุกรูปแบบเพื่อเดินหน้าไปสู่บริบทใหม่อุตสาหกรรมไมซ์เต็มรูปแบบคู่ขนานกันไป

ทั้งนี้ในเวทีสัมมนาเชิงปฏิบัติการของอนุกรรมการประสานงานภาครัฐเพื่อการอำนวยความสะดวกทางด้านการค้าและบริการอุตสาหกรรมไมซ์  เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2559 ประกอบด้วย ตัวแทนภาครัฐ หน่วยงานสำคัญ ๆ ได้แก่ ศุลกากร ผู้อำนวยการสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ท่าเรือแหลมฉบัง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำหรับตัวแทนภาคเอกชน ได้แก่ สมาคมจัดนิทรรศการแสดงสินค้า (TEA) สมาคมส่งเสริมจัดประชุมนานาชาติ(ไทย) สมาคมผู้ประกอบการค้าราชประสงค์ และสมาคมที่เกี่ยวข้องทางด้านการประชุม คอนเว็นชั่น แสดงสินค้า อื่น ๆ

แผนปฏิรูปจัดระเบียบ TCEB ใหม่ 9 ภารกิจ

สำหรับเวิร์คช็อปMICE : NEW CHAPTER : บริบทใหม่อุตสาหกรรมไมซ์” เพื่อร่วมมือกันหาทางออกของปัญหาและลดอุปสรรคในอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศให้หมดไป ทำให้เกิดโลจิสติกส์ไมซ์ที่เป็นรูปธรรม เบื้องต้นได้เสนอหน่วยงานภาครัฐและเอกชนสะท้อนความคิดเห็นร่วมกันผลักดันให้ “สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. หรือ TCEB ปรับบทบาทใหม่ให้สอดคล้องกับอนาคต 9 เรื่องหลัก ดังนี้

1.การกำหนดพื้นที่เฉพาะ : Special Zone พื้นที่จำเพาะของการจัดงาน ทั้งเรื่องคนและสิ่งของ ในภาคอุตสาหกรรมไมซ์ จะต้องกำหนดกติกา เกณฑ์ ขั้นตอนการปฎิบัติ ให้ชัดเจน โดยมีหน่วยงานเกี่ยวข้องโดยตรงคือ สสปน.ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดให้มีฐานะเป็นองค์กรผู้ดูแลการอำนวยความสะดวกในอุตสาหกรรมไมซ์  ทำหน้าที่ประสานกับเอกชนเพื่อให้เกิดขึ้นได้

2.สสปน.มีอำนาจในการรับรอง (Endorsement) งานประชุมและจัดแสดงสินค้าเพื่อพิจารณาขอรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ

3.สสปน.การจัดทำคู่มือ (manaul) เกี่ยวกับการนำเข้าสิ่งของมาใช้ในการประชุมและแสดงสินค้า เช่น กฎ ระเบียบ และ ขั้นตอนการนำเข้า การขอใบอนุญาต ระยะเวลายื่นเอกชน โดยมีเป้าหมายทำให้เป็น คัมภีร์ของภาคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน หากภาครัฐยอมรับและสามารถทำเรื่องนี้สำเร็จได้ ก็จะนำประเทศก้าวไปสู่การมีคู่มือปฏิบัติในระดับสากล เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันที่แข็งแกร่งในเวทีการค้าโลก

 4.กำหนดวัตถุประสงค์ของการนำเข้าของสิ่งของให้มีความชัดเจนว่าจะนำเข้ามาเพื่อใช้ในงานประชุมและงานแสดงสินค้า หรือเพื่อจำหน่าย ลดขั้นตอน และ ระยะเวลา

5.สสปน.จัดระดับความน่าเชื่อถือของกลุ่มผู้ประกอบการด้านไมซ์ โดยแบ่งเระดับเป็น Premuim , Gold, Silver Class เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ตรวจสอบ ในเรื่องการนำเข้าสิ่งให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น

6.สสปน.พัฒนาความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมไมซ์ ให้บุคลากรภาครัฐ และการจัดหลักสูตร เพื่อฝึกอบรมด้านไมซ์โลจิสติกส์แก่บุคลากรภาคเอกชน อันหมายถึงการทำ work flow ให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน แล้วนำไปสู่การใช้คู่มือเดียวกัน ทุกฝ่ายปฎิบัติงานร่วมกันตามขั้นตอนไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อทำให้ไมซ์โลจิสติกส์และซัพพลายเชนเกิดได้จริง

7.จัดระบบการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับกฎ ระเบียบ ขั้นตอน และ การขอใบอนุญาต สำหรับการนำเข้าสินค้าเพื่ออุตสาหกรรมไมซ์ โดยเชื่อมโยงกับระบบสารสนเทศระหว่างหน่วยงานเกี่ยวข้อง โดยจะต้องพิจารณาให้ต้องมีข้อมูลรวมศูนย์เป็น One Stop Service ทั้งเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และข้อมูลการดำเนินงาน ในระยะเวลาซึ่งสามารถระบุกรอบการทำงานของแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับแต่ละการจัดงานได้ชัดเจน โดยสร้างหน่วย MICE Intelligent ขึ้นมาดูแลรับผิดชอบอย่างเป็นระบบ

8.การจัดตั้งคณะทำงานร่วมระหว่าง สสปน.และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เช่น สำนักงาน กสทช. เพื่อปรับปรุงแก้ไขขั้นตอนและแนวทางปฎิบัติ  เพื่ออำนวยความสะดวกและการนำเข้าเครื่องวิทยุคมนาคม และอุปกรณ์ เพื่อใช้แสดงสาธิตในงานแสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติ

9.สสปน.ควรเป็นผู้ประสานงานในการจัดกิจกรรมหรือการประชุมนั้น ๆ และแจ้งให้กระทรวงการต่างประเทศทราบอย่างเป็นทางการล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับประเภทวีซ่าของผู้เดินทางจะต้องแยกให้ชัดเจนว่าเป็น Tourist, Exhibitor หรืออื่น ๆ
ทั้งนี้นายอรรคพล พร้อมอนุกรรมการฯ ชุดดังกล่าว ได้ตกลงกับผู้นำภาคเอกชนในสมาคมเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศ โดยจะเปิดรับฟังข้อเสนอของทุกฝ่ายเป็นระยะ ๆ เพื่อติดตามสถานการณ์ความก้าวหน้าทุก 2-3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2559 เป็นต้นไป


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จับตา!!ต่างชาติเที่ยวไทยแผ่ว3เดือนแรกไม่ถึง10ล้านคน

  นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 1 ม.ค.-31 มี.ค.2568 ได้แค่ 9.5 ล้านคน จับตา !! ต่างชาติเที่ยวไทยแผ่ว 3 เดือนแรกไม่ถึง 10 ล้านคน เม.ย.นี้ร...