วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เที่ยวจันทบุรี ชุมชนเด่น อาหารถิ่นดัง


เที่ยวสุขใจในจันทบุรี
ชุมชนเด่นอาหารดัง"บางชัน-คลองหนองบัว"

เรื่องและภาพโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน www.facebook.com/penroongyaisamsaen

การเลือกวันสบาย ๆ ออกไปเที่ยวเมืองต้องห้ามพลาด “จันทบุรี” มีอีกหลายอย่างที่น่าค้นหาทั้งเสน่ห์ชุมชนดั้งเดิม และอาหารถิ่นที่ทำกินกันในชีวิตประจำวันมาอย่างยาวนาน รสชาติเทียบชั้นอาหารเหลาได้ไม่แพ้กัน

ก่อน “กนกกติกา กฤตย์วุฒิกร-หรือเกตุ” ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง (ดูแลพื้นที่ จันทบุรี ระยอง ) จะย้ายไปประจำที่ ททท.สำนักงาน ภูเก็ต ได้มอบหมายให้ “เกตุน์สิริ สมบูรณ์ศิลป์-เจี๊ยบ” ผู้ช่วย ผอ.ททท.สำนักงานระยอง มาแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงในจันทบุรี 2 วัน 1 คืน
กนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร
ผอ.ททท.สำนักงานระยอง
1ส.ค.2560 ย้ายไแเป็น ผอ.ททท.สำนักงานภูเก็ต

ชวนนักท่องเที่ยวคนไทยและนานาชาติไปสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวไทย เก๋ไก๋ สไตล์ลึกซึ้ง ไฮไลต์ที่ “หมู่บ้านไร้แผ่นดิน-บางชัน” ตามไปดู “ลุงชม-ปราชญ์ชุมชนบางชัน” วัย 68 ปี ดำน้ำลึกงมหอยนางรมเลี้ยงชีพอยู่อย่างพอเพียง

แล้วไปชิมอาหารถิ่นแปลก ๆ “คลองหนองบัว” หมู่บ้านอายุกว่า 200 ปี จากนั้นจับมือกันแวะไปขี่โลมาใน “โอเอซีส ซีเวิลด์” ก่อนจะไปป้อนอาหารฉลามที่ “อ่าวคุ้งกระเบน”

ชาวเมืองกรุง (เทพฯ) ตื่นขึ้นมารับประทานมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อย แพ็กกระเป๋าแล้วขับรถไปตามถนนหมายเลข 304 (บ้านบึง-แกลง) ตอนนี้ถนนเส้นนี้ปรับปรุงจนได้มาตรฐานปลอดภัย ปริมาณรถไม่หนาแน่น ขับสบาย ๆ ใช้เวลา 3 ชั่วโมงเศษ ไปถึงก็พอดีได้เวลา “กินมื้อเที่ยง” แนะนำให้แวะร้าน “น้ำพริกข้าวสวย” เพื่อชิมอาหารเลื่องชื่อ “ข้าวคลุกพริกเกลือ” เป็นเมนูประจำถิ่นชาวจันทบุรี ระยอง นำข้าวสวยคลุกเคล้าน้ำจิ้มซีฟู้ดปรุงสุกโปะหน้าด้วยอาหารทะเลตามชอบได้ทั้ง กุ้ง ปู ปลาหมึก หอย
ตลาดในชุมชนคลองหนองบัว อ.เมือง จ.จันทบุรี

ช่วงบ่ายคล้อย ไปเดินชมตลาดกันได้ที่ “ชุมชนขนมแปลก-คลองหนองบัว” เป็นหมู่บ้านอาศัยอยู่กันมานานกว่า 200 ปี ติดแม่น้ำจันทบุรี เมื่อครั้งอดีตชาวจีน เวียดนาม อพยพมาตั้งรกรากผสมกลมกลืนกับคนไทย ทุกวันนี้จึงกลายเป็นหมู่บ้านรวม 3 เชื้อชาติ ซึ่งมีวิถีวัฒนธรรมการทำอาหารคาวและหวานแปลกแตกต่างจากพื้นที่อื่น ๆ
ขนมควงลิง บ้านยายลิ ที่ชุมชนคลองหนองบัว

ของหวานขึ้นชื่อคือ “ขนมควยลิง” ของยายลิ วัย 78 ปี ต้นตำรับการทำขนมด้วยข้าวเหนียวดำปั้นแล้วนำไปต้มในน้ำเดือดพอสุกจะลอยขึ้นมาลักษณะคล้ายอวัยวะเพศลิงก่อนจะขายต้องนำไปคลุกมะพร้าวขูดฝอยกับน้ำตาลทรายขาวผสมงาดำ รสชาติหวานมันเค็ม ถูกปากนักท่องเที่ยวทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทุกวันนี้เมื่อไปถึงชุมชนคลองหนองบัวจะต้องแวะไปเข้าคิวรอซื้อขนมควยลิงของยายลิกันทุกคน
ตลอดสองข้างทางในตลาดชุมชนคลองหนองบัว ซึ่งใช้พื้นที่บริเวณหน้าบ้านพักอาศัยเปิดร้านขายขนมและอาหารแก่นักท่องเที่ยว ขนมขึ้นชื่ออื่น ๆ ก็มี หอยพอกย่าง กุ้งทอดน้ำจิ้มถั่ว หอยหลุม (ทอดมัน) ส่วนของหวาน ยังมี ขนมอี๋น้ำเยี่ยววัว ขนมจ้าง ตังเมโบราณ (ทำจากน้ำตาลอ้อยบรรจุในกระป๋องนม) หมี่กรอบผสมสีพืชผลไม้

ปิดท้ายการท่องเที่ยววันแรกที่ “หมู่บ้านไร้แผ่นดิน-บางชัน” อายุกว่า 100 ปี ตั้งอยู่กลางน้ำ ได้ชื่อว่าเป็นทะเลแหวกแห่งท้องทะเลอ่าวไทย บริเวณโดยรอบยังมีฝูงเหยี่ยวแดงบินโฉบเฉี่ยวอยู่ตามป่าโกงกาง ลุ่มน้ำเวฬุ มีหลายแห่งในตำบลบางชัน และตำบลบ่อ อำเภอขลุง
หมู่บ้านไร้แผ่นดิน บ้านบางชัน

ระหว่างสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวได้มีโอกาสพูดคุยกับ “ลุงชม-บรรทม บุตรฉัยยา” นักงมหอยนางรมวัย 68 ปี” ผู้ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงเลี้ยงชีพด้วยการงมหอยในเขตน้ำกร่อยลึกเกือบ 6 เมตร อาศัยภูมิปัญญาดำลงไปชิมระดับความเค็มของน้ำไปด้วย แหล่งที่ลุงเลี้ยงความเค็มไม่เกิน 30-35 DPT หอยที่งมได้ลุงจะมาเป็นเมนูขายตามร้านอาหาร
หอยนางรม 3 ชนิด ต้นกำเนิดในแม่น้ำจันทบุรีคือ หอยนางรมที่ชาวบ้านเรียกว่า “ตะโกรน” พันธุ์ใหญ่สุดอายุ 8 ปี ราคาตัวละประมาณ 150 บาท รองลงมาเป็น “หอยนางรมตะโกรนกรามดำ” ตัวขนาดกลาง ราคาเฉลี่ยตัวละ 100 บาท และ “หอยนางรมพันธุ์ปากจีบ” ตัวเล็กสุดขายตัวละประมาณ 50 บาท เป็นพันธุ์ที่นักท่องเที่ยวนิยมบริโภคมากที่สุดเพราะตัวขนาดพอคำ สด รสชาติหวาน
ลุงชมชาวบางชันกับภรรยาทำอาชีพขายหอยนางรม มีรายได้หล่อเลี้ยงชีพปีละ 150,000 บาท เพียงพอต่อการใช้ชีวิตอย่างอิสระมีความสุขมากว่า 40 ปี


อีกทั้งลุงชมยังเป็นปราชญ์ชาวบ้านที่ร่วมทำงานวิจัยกับทางมหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี ซึ่งทำสรุปเป็นตำราที่เรียกว่า “เล่างานผ่านกลอน” เนื้อหายาวที่สุดในท้องถิ่น เพื่อศึกษาวงจรชีวิตของหอยนางรมตั้งแต่เกิดจนสิ้นอายุ แล้วนำมาปรับปรุงวิธีเพาะเลี้ยงอย่างถูกวิธีทำให้มีรายได้ ประการสำคัญไม่ต้องใช้ปริมาณพันธุ์หอยจำนวนมากแต่สามารถเลี้ยงให้รอดเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์
ปัจจุบันลุงชม นำแพเปิดเป็นโฮมสเตย์ บริการนักท่องเที่ยวได้ใช้ชีวิตอย่างลึกซึ้งกับชีวิตบนแพ นั่งเรือดำลงงมหอยนางรมถึงใต้แม่น้ำ และกินอาหารถิ่นจันทบุรี รับได้ครั้งละ 10 คน สนใจติดต่อ ได้ที่ โทร.089-803-0020
สำหรับศัตรูตัวร้ายของหอยนางรม คือ เพรียงหัวหอม (จะตายเองช่วงหน้าฝน) สาหร่ายพิษ (จะทำลายหอยนางรมตอนแรกเกิด) และ “หอยดูด” (ไม่รู้วันตาย) ซ่อนตัวอยู่ในธรรมชาติ มีพรสวรรค์เลือกเจาะตรงเอ็นหัวใจหอยนางรมแล้วดูดเฉพาะเอ็นเท่านั้นจากนั้นก็ย้ายไปกินตัวอื่น ๆ ต่อไป

เข้าสู่การท่องเที่ยวจันทบุรีในวันที่สองแบบช้า ๆ หรือสโลไลฟ์ ได้ที่ “โอเอซีส ซีเวิลด์” แหล่งเพาะพันธุ์โลมาแห่งดินแดนตะวันออกของไทย นำโลมา  2สายพันธุ์ คือ “โลมาปากขวดหรือโลมาสีชมพู” กับ “โลมาหัวบาตรหรือโลมาอิระวดี” มาโชว์ความน่ารักให้นักท่องเที่ยวชม

กิจกรรมไฮไลต์คือจะมีบริการพิเศษเปิดให้นักท่องเที่ยวลงไป “เล่นน้ำกับโลมา” ได้อย่างสนุกสนาน
เล่นกับโลมาจนหมดแรงแล้วก็พักรับประทานอาหารเที่ยงภายในโอเอซีส ซีเวิลด์ เพื่อรอเวลาช่วงบ่ายไปชม “หน่วยสาธิตการเลี้ยงสัตว์น้ำภายในอ่าวคุ้งกระเบน” แนะนำให้นักท่องเที่ยวลงมือทำกิจกรรม ให้อาหารปลาฉลาม ทำอีแปะหอยนางรม เขี่ยไข่ปู ทำซั้งบ้านปลา

ก่อนเดินทางกลับห้ามพลาดแวะ “เนินนางพญา” อันเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของถนนเฉลิมบูรพาชลทิต

ความสุขง่าย ๆ เที่ยวเมืองไทย ใกล้แค่เอื้อม  เที่ยวอย่างเก๋ไก๋ ลึกซึ้ง เข้าถึงวิถีชีวิตท้องถิ่น ได้ทุกเวลา ที่เมืองต้องห้ามพลาด จันทบุรี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ททท.เปิดTTE2025นำไทยสู่ Land of Art Toy เที่ยวเชิงสร้างสรรค์

  ททท.เปิดงาน TTE 2025 ดันไทยเมืองท่องเที่ยวสร้างสรรค์ Land of Art Toy ททท.ลั่นใช้ TTE2025 นำไทยสู่ Land of Art Toy ปลุกเทรนด์เที่ยวเชิงสร...