วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2561

ททท.เนรมิตกระบี่เกาะท่องเที่ยวแสนล้าน-สิงคโปร์โชว์เหนือทุ่ม350ล้านดอลล์ทำเตียวนอนในชั้นธุรกิจฝูงบิยลน787-10

ททท.เนรมิตกระบี่เกาะท่องเที่ยวแสนล้าน
อ้าแขนรับทัวร์จีนรุ่นใหม่-ปลุกกระแสกรีน
คิงเพาเวอร์-ก.ท่องเที่ยวผุดห้องน้ำ10ล้าน
เที่ยว“เล่าขานตำนานเมืองระยอง”-2เม.ย.
บางจากQ1ยอดขาย-ฐานสมาชิกโตเร็ว
สนามบินภูเก็ตเพิ่มพื้นที่รับมือสงกรานต์
ชีลในเมืองรองหลากชาติพันธุ์ทองผาภูมิ
7อาหารอุ่นบ่อยระวังเป็นพิษต่อร่างกาย
คนแห่ซื้อตั๋วออนไลน์รักคุณเท่าฟ้า2561
ไทยสไมล์บินเพิ่มเชียงใหม่ช่วงสงกรานต์
สิงคโปร์แอร์โชว์เตียงนอนชั้นธุรกิจ787
ดิโอกุระนำเมนูใบไม้ผลิมาไทย เม.ย.นี้

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน 2561 เวลา 11.00-12.00 น.กับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังมือถือและอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen    และบล็อกเกอร์ #gurutourza

ช่วงที่ 1 ติดตามฟัง “อภิชัย อรัญญิก” ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกระบี่ เนรมิตเมืองเกาะให้กลายเป็นขุมทรัพย์การท่องเที่ยวแสนล้าน ชิมลางแคมเปญ “เที่ยวกระบี่อีกครั้ง” 5 เส้นทาง เชื่อมโยงเมืองหลักสู่เมืองรองทั่วอันดามัน เปิดชุมชนสู่โลกใหม่ด้วยความหรูไฮไลต์ “สปา ทาวน์” น้ำพุร้อน คลองท่อม ที่ได้เจ้าตำรับจากเมือง นูมาตะ ญี่ปุ่น ร่วมสร้างจุดขาย แถมได้แรงหนุนเทรนด์อินเตอร์ “กระบี่ ฮาล์ฟ มาราธอน” เสริมทัพ สร้างแม่เหล็กขั้วใหญ่ดึงคนไหลเข้าท้องถิ่นทุกฤดู พร้อมอ้าแขนรับนักท่องเที่ยวจีนพันธุ์ใหม่ที่กำลังมาเข้ามาแทนที่ชาวสแกนดิเนเวีย ปลุกนักรักสิ่งแวดล้อมสานฝันสร้างกระบี่สู่การท่องเที่ยวยั่งยืน

นายอภิชัย อรัญญิก
 ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)


นายอภิชัย อรัญญิก ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีหลังการเชื่อมโยงท่องเที่ยวเมืองรอง ชุมชน และอาหารถิ่น เป็นไปตามนโยบายโดยได้ทำเส้นทางกับพันธมิตร ไปยังจังหวัดฝั่งอันดามัน ชุมพร ตรัง ระนอง สตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส เดินทางโดยทางบกชมธรรมชาติความสวยงาม ขณะนี้ได้ทำ 5 เส้นทาง เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยว ภายใต้แคมเปญ “กระบี่อีกครั้ง -Krabi Once” และอาหารถิ่น Shades of Cruisine ทำในเชิงประชาสัมพันธ์ผ่านเครือข่ายสื่อต่าง ๆ


ททท.กระบี่ดูแลประมาณ 154 เกาะ โดยมีเกาะศักยภาพทางการท่องเที่ยวระดับนานาชาติหรือโลก ได้แก่ เกาะพีพี เกาะลันตา แหล่งท่องเที่ยวชายหาด อ่าวนาง ไร่เลย์ หาดนพรัตน์ธารา เป็นต้น เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของกระบี่ โดยเชื่อมโยงเข้ากับ “กระบี่อีกครั้ง -Krabi Once” ททท.ร่วมสำรวจกับบริษัท Local Alike ผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาท่องเที่ยวชุมชน นักท่องเที่ยววัย 35 ปีขึ้นไป มากระบี่เฉลี่ย 3-4 ครั้ง จึงเป็นที่มาของการทำแคมเปญ “กระบี่อีกครั้ง-Krabi Once Again” จัดทำขึ้นเพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มให้บริษัททัวร์หรือนักท่องเที่ยวเดินทางอิสระมาได้ด้วย 5 เส้นทาง


 1.กระบี่อีกครั้งก็ยังโรแมนติก บริเวณแหลมสัก อ.อ่าวลึก เป็นหาดทรายชายทะเล แหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ มีพันธุ์กล้วยไม้ เหลืองกระบี่ วิถีชีวิตครบวงจร หรือจะเดินทางไปยังหาดทรายเล็ก ๆ สุดโรแมนติก มีหมู่บ้านประมง นำกุ้งเคยมาทำกะปิ


2.กระบี่อีกครั้งก็ยังมีเสน่ห์ ที่เกาะกลาง ทองประสงค์ ใกล้ตัวเมืองจุดเด่นเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางไปจะเห็นวิถีที่แตกต่างจากเมืองของชาวชุมชนเกาะกลาง มีอาหารทะเล ในบรรยากาศของธรรมชาติป่าโกงกาง

3.กระบี่อีกครั้ง ก็ยังเป็นสุข เที่ยวท่องล่องป่าชายเลนกับวิถีชาวเกาะทุ่งหยีเป็ง



4.กระบี่อีกครั้ง ก็ยังสนุก เส้นทางอยู่ในอำเภออ่าวลึก มีพื้นที่ป่าชุมชนพัฒนาเป็นการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยในลักษณะ Tree Top การเดินบนสลิงเพื่อชมธรรมชาติบนที่สูง



5.กระบี่อีกครั้ง ก็ยังผ่อนคลาย อำเภอคลองท่อม มีน้ำแร่รองรับ ซึ่งเป็นคลองท่อม เมืองสปา เป็นแหล่งใหม่จะสร้างสีสันช่วงฤดูฝน โดยการลงนามข้อตกลงความใจเบื้องต้นระหว่าง ททท.กับเมืองนูมาตะ ประเทศญี่ปุ่น จะมาร่วมกันใช้ประโยชน์จากน้ำแร่คลองท่อม ซึ่งมีทั้งน้ำแร่ร้อนเค็มและน้ำแร่ปกติ เป็นจุดหมายปลายใหม่ของกระบี่ช่วยให้การท่องเที่ยวบรรยากาศฟ้าหลังฝนมีชีวิตชีวามากขึ้น ขณะนี้มีเอกชนได้เข้ามาลงทุนเรื่องเมืองน้ำแร่บ้างแล้ว เช่น กลุ่มวารีรักษ์ เป็นโปรดักซ์ไฮเอนด์


สำหรับรายละเอียดการทำข้อตกลงความร่วมมือเพื่อสร้าง SPA TOWN ทั้งหมด 8 อำเภอ ระหว่าง ททท.กับนูมาตะ ทางกรมท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้จัดทำแผนแม่บทเส้นทางการลงทุนพัฒนาเป็นวงแหวนครบวงจร โดยมีบางส่วนทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคือ องค์การบริหารส่วนตำบลจะต้องใช้เงินสร้างถนนเชื่อมโยง หรือบางพื้นที่ต้องกันไว้ เอกชนจะลงทุนได้ในบริเวณใดบ้าง มีแผนแม่บทเขียนไว้ชัดเจน งบประมาณหลักจะมากรมท่องเที่ยว ส่วน ททท.จะช่วยทำการตลาดและเป็นหนึ่งในคณะกรรมการจัดทำแผนดังกล่าว เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาทางนายอำเภอคลองท่อมเดินทางไปเมืองนูมาตะเพื่อลงนามการทำเมืองสปาน้ำแร่





ผอ.อภิชัย ย้ำว่าในช่วงการท่องเที่ยวซัมเมอร์และหน้าฝน ทั้ง 5 เส้นทาง สามารถตอบสนองได้ทุกกลุ่ม ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวกลุ่มมาแรงคือ เจนวาย กับกลุ่มเก๋าแต่ไม่แก่ ซึ่ง ททท.หารือกับตัวแทนนำเที่ยวเพื่อตอบโจทก์ความต้องการนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย

อีกครั้งเร็ว ๆ นี้ ททท.จับมือกับบางกอก แอร์เวย์ส จัดทำบิ๊กโปรเจ็กต์ “มินิ ฮาล์ฟ มาราธอน กระบี่ 2018” วันที่ 6 พฤษภาคม 2561 เป็นการจัดครั้งแรกซึ่งจะเข้ามาเสริมการท่องเที่ยวหน้าร้อนต่อไปถึงหน้าฝน เพราะกระบี่มีเส้นทางโรแมนติก จากตัวเมืองเลาะแม่น้ำผ่านสวนปาล์ม สวนยาง อุทยานหาดนพรัตน์ธารา เส้นทางสวยมาก การกำหนดช่วงเวลาวิ่งจะเริ่มประมาณตี 5 บรรยากาศดี แยกเป็น นักวิ่งมืออาชีพจะมุ่งสู่จุดหมาย ส่วนกลุ่มที่สมัครเล่นก็จะแวะชิมอาหารถิ่น โรตี และอื่น ๆ

ระหว่าง 4-7 พฤษภาคม 2561 เทศกาลกีฬาทางน้ำในชื่อ Krabi Water Festival จัดเป็นครั้งที่ 5 พัฒนามาจากงาน Sea Kayak โดยสมาคมเรือพายแห่งประเทศไทยกับมูลนิธิเอ็นไลฟ์ จัดในจังหวัดกระบี่ แบ่งการแข่งขันเป็นหลายประเภท วันที่ 5 พฤษภาคม ให้นักท่องเที่ยวแข่งขัน วันที่ 6 พฤษภาคม ประเภทมืออาชีพลงแข่งขัน วันที่ 7 พฤษภาคม ประเภทเยาวชนซึ่งแม่น้ำกระบี่เป็นแหล่งเฟ้นหานักกีฬาเรือพายเยาวชนเข้าสู่เวทีระดับประเทศ ทางจังหวัดจึงใช้กีฬาให้เป็นประโยชน์ทางด้านการท่องเที่ยวจึงจัดเทศกาลกีฬาทางน้ำเป็นปฏิทินงานประจำปีต่อเนื่องในระยะยาว ต่อไปจะบรรจุกิจกรรมทางน้ำอื่น ๆ เข้ามารวมอยู่ด้วย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในช่วงฤดูฝน

ส่วนค่าใช้จ่ายโดยรวมของการไปท่องเที่ยวกระบี่ เนื่องจากทุกวันนี้ตลาดเป็นของผู้ซื้อ ประกอบกับสนามบินกระบี่เป็นนานาชาติ มีทางเลือกจากสายการบินราคาประหยัด แบบฟูลเซอร์วิส อีกทั้งตอนนี้มีแอร์ไลน์จากมาเลเซีย หรือกาตาร์แอร์เวย์ส ตะวันออกกลาง หลั่งไหลเปิดเที่ยวบินนำคนเข้ามาต่อเนื่อง เรื่อยไปจนถึง “โรงแรมห้องพัก” มีความหลากหลายเริ่มตั้งแต่หลักพันบาทไปจนถึงหรูหรา แม้แต่ “อาหารการกิน” มีทั้งสตรีทฟู้ด ร้านแบรนด์เนมก็มีให้เลือกตามไลฟ์สไตล์ แต่ละคนมีเงินประมาณ 4,000 บาท ก็มาเที่ยวกระบี่แบบสบาย ๆ ได้เลย


จุดแข็งสำคัญคือ “กระบี่เป็นเมืองสีเขียว” อนุรักษ์ใส่ใจสิ่งแวดล้อม นักท่องเที่ยวที่มีใจรักษ์ธรรมชาติ เรื่องเงินจึงไม่ใช่อุปสรรคหากคิดว่ากระบี่คือแหล่งท่องเที่ยวใช่โดนใจทุกคน

สำหรับเป้าหมายรายได้การท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ ปี 2560 สร้างรายได้ประมาณ 80,000 ล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 6 ล้านคน เติบโต 9 % สูงกว่าเป้าหมายที่ได้รับมอบให้ขยายตัวเพียง 6 % แนวโน้มปี 2561 โดยรวมตั้งเป้ารายได้โตเฉลี่ย 8 % กระบี่มีแนวโน้มอาจจะทำได้สูงกว่าเกณฑ์ชี้วัดดังกล่าวเช่นกัน

กุญแจแห่งความสำเร็จจะไม่ได้อยู่ที่การทำงานของ ททท.เพียงองค์กรเดียวซึ่งเป็นเสมือนปลายทางที่มาสนับสนุน ทว่าได้รับแรงสนับสนุนจากหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งทางจังหวัดกระบี่ พี่น้องในพื้นที่ ซึ่งเล็งเห็นถึงความสำคัญของการดูแลสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ อีกทั้งประชากรกระบี่เป็นมุสลิมเกินกว่า 50 % ดังนั้นจึงมีกลุ่มกระบี่ฮาลาลพยายามดูแลด้านซัพพลาย เรื่องร้านอาหาร ที่พัก มุสลิมที่ผ่านการรับรองตราฮาลาล ซึ่งตอนนี้ได้ขยายไปสู่เรื่องสุขภาพด้วย โดยการสื่อสารจนกลายเป็น Halal for All เป็นฮาลาลสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน

ผอ.อภิชัยกล่าวว่าปัจจุบันกระบี่ก็มีปัญหาความแออัดในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวเหมือนกัน เพราะคนจะกระจุกเที่ยวอยู่ในอ่าวมาหยา แต่ต้องพยายามกระจายไปยังแหล่งชุมชน และเกาะใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนไม่ได้เน้นปริมาณมาก ๆ แต่จะมีกลุ่มเดินทางอิสระ (F.I.T.) กลุ่มคนหนุ่มสาว คนรุ่นใหม่ จะเพิ่มขึ้น แนวโน้มจะเข้ามาแทนที่กลุ่มนักท่องเที่ยวสแกนดิเนเวีย หรือคนไทยจากกรุงเทพฯ ภาคเหนือ มีเที่ยวบินข้ามภาค ของนกแอร์ บางกอกแอร์เวย์ส บริการ สามารถกระจายนักท่องเที่ยวกระบี่ไหลไปยัง พังงา ตรัง เป็นจิ๊กซอร์การท่องเที่ยวเชื่อมโยงที่กำลังเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ควงก.ท่องเที่ยวทุ่ม10ล้านทำห้องน้ำรับทัวร์”



นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่าเตรียมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผนึกพลังกันสร้างห้องน้ำตามแหล่งท่องเที่ยวในรูปแบบพิเศษ Universal Design ครอบคลุมหลายพื้นที่กว่า 10 แห่ง มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 10 ล้านบาท

โดยกลุ่มคิง เพาเวอร์ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าไปมีส่วนร่วมกับภาครัฐสร้างเสริมสาธารณูปโภคโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น รองรับนักท่องเที่ยวได้ทุกกลุ่มทั้งกลุ่มครอบครัว ผู้สูงวัย และผู้บกพร่องทางร่างกายในลักษณะต่าง ๆ สามารถเดินทางได้ท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก

สำหรับการลงนามทำ MOU ระหว่างกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กำหนดขึ้นในวันที่  2 เมษายน 2561 ณ ห้องอีเทอนิตี้ บอลรูม โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ ภายในงานจะมีดารานักแสดงนักเดินทางท่องเที่ยวเชิงผจญภัยแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง “ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี” จะมาร่วมให้ข้อมูลถึงไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว รวมถึงความประทับใจในแหล่งท่องเที่ยวไทย

ข่าวที่ 2 “ททท.ชวนเที่ยงานตำนานเมืองระยอง”

นายอุทิศ ลิ่มสกุล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง กล่าวว่า ได้จัด "มหกรรมเล่าขาน ตำนานเมืองระยอง"  จัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปีเพื่อชวนไปเที่ยวระหว่าง 31 มีนาคม - 2 เมษายน 2561 ณ บริเวณถนนยมจินดา ตลาดเมืองเก่า อำเภอเมือง ระยอง โดยร่วมกับ จังหวัด หน่วยงานวัฒนธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเฉลิมพระเกียรติ 63 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย จังหวัดระยอง ประจำปี 2561

เนื่องจากวันที่ 2 เมษายน 2561 เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 63 พรรษา รวมทั้งทางรัฐบาลไทยประกาศให้วันที่ 2 เมษายน ของทุกปี เป็น “วันอนุรักษ์มรดกไทย” ในฐานะที่ท่านทรงอุปถัมภ์บำรุงและสืบสานมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ ประกอบกับสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินมายังจังหวัดระยองหลายครั้ง

ทางระยองได้ส่งเสริมมรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรมและเสน่ห์วัฒนธรรมไทย ให้ปรากฏอัตลักษณ์เด่นชัดบนถนนเมืองเก่า “ยมจินดา” อดีตเป็นย่านการค้าขายสำคัญ และชาวระยองมีพื้นถิ่นมีวิถีชีวิตผูกพันกับแม่น้ำระยอง ทางจังหวัดจึงจัดงาน “มหกรรมเล่าขาน ตำนานเมืองระยอง เฉลิมพระเกียรติ 63 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย จังหวัดระยอง ประจำปี 2561” ขึ้น ในวันที่ 31 มีนาคม ถึง 2 เมษายน 2561 ณ บริเวณถนนยมจินดา ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมือง

ตลอดงานนักท่องเที่ยวจะได้ ชม ชิม ช็อป แชร์ ช่วย เสน่ห์วัฒนธรรม นำความเป็นไทย “เที่ยวท้องถิ่นไทย ชุมชนเติบใหญ่ เมืองไทยเติบโต”  พร้อมกิจกรรมไฮไลต์วิถีถิ่น การล่องเรือชมวิถีชาวบ้านเลียบแม่น้ำระยอง ไหว้พระหลวงพ่อขาว ไหว้คารวะอดีตเจ้าเมืองระยองต้นตระกูล “ยมจินดา” ขบวนแห่ “พลังวัฒนธรรม” ของแต่ละอำเภอ การแสดงแสง สี เสียง สื่อผสม การแสดงวิถีชุมชน และกิจกรรมการแข่งขัน การสาธิตของดีบ้านฉัน นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ และพิพิธภัณฑ์เมืองเก่าระยอง มุมถ่ายภาพ บริเวณถนนยมจินดา

ข่าวที่ 3 “บางจากQ1สดใสทั้งยอดขายน้ำมัน-ฐานสมาชิก”

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2561 ยังอยู่ในระดับค่อนข้างดี โดยค่าการกลั่น (GRM) เฉลี่ย 6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันทรงตัวเมื่อเปรียเทียบกับไตรมาสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 1.1 แสนบาร์เรล/วัน และปริมาณการขายน้ำมันผ่านสถานีบริการดีขึ้น เดือนมกราคมปีนี้มีส่วนแบ่งตลาด15.8% เติบโตต่อเนื่องกันตั้งแต่พฤศจิกายน 2560 และถึงแม้ราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ไม่กระทบต่อผลกำไรจากสต็อกน้ำมันในช่วงไตรมาสแรกปีนี้

นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด ของ BCP กล่าวว่า บางจากตั้งเป้าปริมาณขายน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมันตลอดปี 2561 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 6% เมื่อปีที่ผ่านมาทำไว้เดือนละ 320 ล้านลิตร การขยายตัวปีนี้จะสอดคล้องกับการเปิดสถานีบริการน้ำมันใหม่ เมื่อปี 2560 จำนวน 62 แห่ง ปี 2561 จะเปิดอีก 80 แห่ง ส่วนใหญ่จะเน้นรูปแบบทันสมัย มีร้านค้าสะดวกซื้อ ร้านกาแฟ รวมถึงการเพิ่มฐานสมาชิกบัตรแก๊สโซฮอล์คลับและดีเซลคลับ ปีละกว่า 6 แสนราย ขณะนี้จึงมีฐานสมาชิกบัตรรวม 2.8 ล้านราย

สถานการณ์ช่วงไตรมาสแรกปีนี้ คาดปริมาณขายน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมันจะเติบโต 6% มีส่วนแบ่งการตลาด อยู่ที่ 15.8% เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 15.4% ปีนี้มีโอกาสจะเป็นแรงผลักดันส่วนแบ่งตลาดได้มากกว่าเป้าหมายกว่า 15.6%

นายสมชัย กล่าวว่า การที่ปริมาณขายน้ำมันผ่านสถานีบริการของบางจากเติบโตเพิ่มขึ้น ทำให้มีเป้าหมายจะทยอยลดการขายส่งให้ผู้ค้าน้ำมันอื่น ๆ  (จ็อบเบอร์) จะหมดไปได้ภายในปี 2565 จากปัจจุบันปริมาณการขายน้ำมันของบางจากอยู่ที่ 500 ล้านลิตร/เดือน แบ่งเป็นการขายผ่านสถานีบริการน้ำมัน 330-340 ล้านลิตร/เดือน ขายให้กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมและน้ำมันอากาศยาน 120 ล้านลิตร/เดือน ส่วนที่เหลือขายให้จ็อบเบอร์อีก 40 ล้านลิตร/เดือน

ข่าวที่ 4 “สนามบินภูเก็ตเพิ่มพื้นที่รับมือสงกรานต์ปีจอ”


นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ปี 2561 จะเร่งให้ท่าอากาศยานภูเก็ตของ ทอท.เปิดให้บริการพื้นที่ห้องโถงพักคอยผู้โดยสารขาออกภายในประเทศทางด้านทิศเหนือ เตรียมรับมือคลื่นการเดินทางของนักท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ โดยจะเพิ่มพื้นที่อีกประมาณ 3,000 ตารางเมตร และพื้นที่บริเวณสายพานรับสัมภาระผู้โดยสารขาเข้า เพิ่มสายพานรับสัมภาระอีก 2 เส้น พื้นที่ประมาณ 4,200 ตารางเมตร เพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่เดินทางมาท่องเที่ยวได้รับความสะดวกในช่วงเทศกาล

เนื่องจากปัจจุบัน ทอท.ได้ดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) อยู่ระหว่างการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ  2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ด้านทิศใต้ เปิดให้บริการแล้วตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน 2560 ระยะที่ 2 ปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ด้านทิศเหนือ คาดจะแล้วเสร็จสมบูรณ์เปิดให้บริการเป็นทางการได้ช่วงเดือนมิถุนายน 2561 เป็นต้นไป

ช่วงที่ 2 เตรียมวางแผนหนีออกการใช้ชีวิตเร่งรีบในเมืองใหญ่หลบไปเสพสุขแบบสโลไลฟ์ในเมืองรองที่ “ชุมชนทองผาภูมิ” กาญจนบุรี ดื่มด่ำกับวิถีบ้าน ๆ ของคนหลากชาติพันธุ์ที่อยู่รวมกันด้วยรอยยิ้มท่ามกลางอุ่นไอรักของธรรมชาติ สัมผัสเรื่องราวของ วัด บาตร ดอกไม้ แหล่งปลาน้ำจืด และร่องรอยความมั่งคั่งของชุมชนเหมืองแร่ แล้วมาดูว่า “7อาหารอุ่นบ่อยเป็นพิษต่อสุขภาพ” และข่าวแรง ๆ ในรอบสัปดาห์ 1 เมษายน นี้ วันสุดท้ายในมหกรรม “การบินไทย รักคุณเท่าฟ้า 2561” ที่พารากอน คนแห่ซื้อตั๋วผ่านออนไลน์ยอดกระฉูด “ไทยสไมล์” อาสาเพิ่มเที่ยวบินเส้นทางฮ็อตช่วงสงกรานต์ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ “สิงคโปร์แอร์ไลน์ส” โชว์ความเหนือคู่แข่งทุ่มกว่า 350 ล้านเหรียญสหรัฐ สั่งฝูงบินใหม่โบอิ้ง 787-10 ติดตั้งเตียงนอนในชั้นธุรกิจ มาบริการทั่วเอเชีย ส่วน “โรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ” ยกเมนูหวาน ๆ ช่วงฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่นมาไว้เมืองไทย ตลอดเดือนเมษายนนี้

@เที่ยวชุมชนเมืองรองทองผาภูมิ กาญจนบุรี



การท่องเที่ยวแบบสโลไลฟ์ใน “ทองผาภูมิ” จังหวัดกาญจนบุรี เริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ใน “ตลาดทองผาภูมิ” ที่มีผู้คนออกมาเดินซื้อข้าวของไปปรุงอาหาร มีของหลากหลายวางขายโดยเฉพาะปลาน้ำจืดที่มาจากเขื่อนเขาแหลม เป็นปลาชนิดต่าง ๆ  ทั้งปลาคลัง ปลากด ประหลาดนิล ปลายี่สก ปลาบึก สด ๆ ที่พ่อค้าแม่ขาย นำมาวางเรียงรายอยู่ในกะละมังขนาดใหญ่ให้เลือกนำไปปรุงเป็นเมนูพื้นบ้าน ทั้ง ทอดกรอบ ต้มยำรสแซบ และอื่น ๆ

แล้วยังมีชาวเมียนมาทาหน้าด้วยแป้งทานาคาแก้มเหลืองตากลมดำ ขายผัก และดอกไม้ถวายพระ เพื่อรอให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านซื้อไปใส่บาตรพระตอนเช้า รวมไปถึงจะได้สัมผัสกับความหลากหลายของชาวไทย มอญ เมียนมา เดินกวักไกว่อยู่ในตลาดแห่งนี้



เมื่อเสร็จภารกิจจากตลาด นักท่องเที่ยวสามารถเลือกไปชมสถานที่ชอบ อย่าง “สะพานข้ามแม่น้ำแควน้อย” เพื่อชมวิวพาโนรามาของภูเขาหินปูน หรือจะขึ้นไปสักการะ “องค์พระเจดีย์บนยอดเขาวัดท่าขุน” เพื่อชมภาพพาโนรามาแบบเต็ม ๆ 360 องศา หรือจะมุ่งหน้าสู่ “เขื่อนเขาแหลม” เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกอันงดงาม



ส่วน “บ้านอีต่อง” ชุมชนคนเหมืองในอดีตเป็นอีกแหล่งความท้าทายเพราะต้องนั่งรถขึ้นไปตามทางคดเคี้ยวท่ามกลางธรรมชาติงดงาม ชาวบ้านแถบนี้ยังคงใช้ชีวิตอยู่กันอย่างเรียบง่ายคงไว้ซึ่งร่องรอยของการทำเหมืองแร่ หลังจากการท่องเที่ยววบูมชาวบ้านก็หันมาเปิดโฮมสเตย์รองรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น

หากไปเที่ยวช่วงหน้าฝนแนะนำให้ไปยัง “จุดชมวิวเนินกูดดออย” เพื่อจับทะเลหมอกยอกเย้าธรรมชาติของเมฆสีขาวโพลนที่ “เขาช้างเผือก” พร้อม ๆ กับการชมทิวเขาสังขละบุรี และทะเลสาบเขาแหลมที่มองเห็นสุดลูกหูลูกตา

“ทองผาภูมิ” กาญจนบุรี เป็นมุมใหม่ในการท่องเที่ยวอันน่าค้นหาความสงบด้วยการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ไปกับธรรมชาติและชุมชน ซึ่งจับต้องสัมผัสได้ถึงความสุขทุกเวลา

@ 7 อาหารอุ่นบ่อยเป็นพิษต่อร่างกาย

เว็บไซต์มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.) เชื่อว่าหลายๆคนนั้นทำอาหารที่บ้านแล้วจะทำให้เป็นหม้อใหญ่ๆ ไว้รับประทานได้หลายมื้อ แต่รู้หรือไม่ว่าอาหารบางชนิดหากอุ่นบ่อยๆเข้าความร้อนจะเข้าไปทำปฏิกริยาทำให้เป็นพิษต่อร่างกายของมนุษย์ได้ วันนี้จึงเสนอเรื่องอาหาร 7 อย่าง หากอุ่นบ่อยๆแล้วเป็นพิษต่อร่างกาย

1.คื่นช่าย หรือ คื่นฉ่าย โดยหากนำคื่นฉ่ายไปใส่ในซุป แล้วเราอุ่นซุปนั้นอยู่บ่อย ๆ สารไนเตรทที่อยู่ในคื่นฉ่ายความร้อนจะทำให้มันเป็นพิษ

2.ไข่ต้ม หรือ ไข่กวน หากเราอุ่น 2 สิ่งนี้บ่อย ๆ จะทำให้โปรตีนในอาหารเปลี่ยนซึ่งไม่ดีต่อร่างกาย

3.ผักโขม สำหรับผักโขมเป็นกรณีเดียวกับคื่นช่าย แต่ที่ร้ายแรงกว่าคือมันสามารถก่อมะเร็งได้

4.เห็ด เห็ดมีประโยชน์กับเรามาก ๆ แต่หากอุ่นบ่อย ๆ นาน ๆจะไม่ดีเพราะโปรตีนในเห็ดจะเปลี่ยนซึ่งไม่ดีต่อร่างกายเรา

5.มันฝรั่ง หากเราทำให้มันสุก และ ตั้งไว้ในอุณหภูมิห้องเป็นเวลานานเมื่อนำมาอุ่นมันจะมีสารโบทูลินัมออกมา ซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย

6.เนื้อไก่ หากเราทำให้มันสุกแล้วเอาไปแช่เย็นเมื่อนำมาอุ่นใหม่โปรตีนจะแปรสภาพ ซึ่งหากกินจะมีผลต่อระบบทางเดินอาหาร สามารถอุ่นได้แต่อย่าอุ่นบ่อยจนเกินไป

7.ข้าว จริง ๆ แล้วการอุ่นข้าวไม่มีอันตรายถ้าหากข้าวสะอาด แต่หากในข้าวมันมีสารสปอร์ถึงแม้ว่าเราจะหุงแต่ความร้อนไม่สามารถฆ่าเชื้อ นี้ได้หมด และ เมื่อเราตั้งทิ้งไว้ให้เย็นแล้วนำมาอุ่นใหม่เชื้อจะเจริญเติบโต และ สามารถทำให้เราท้องเสียได้

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “คนแห่ซื้อออนไลน์บินไทยรักคุณเท่าฟ้า'



นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่า การบินไทยได้จัดกิจกรรม “รักคุณเท่าฟ้า 2561” ขอบคุณลูกค้าในโอกาสครบ 58 ปี ระหว่าง 29 มีนาคม – 1 เมษายน 2561 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน  ระหว่างเวลา 10.00 - 20.00 น. ได้จัดกิจกรรมพิเศษสุดตลอดทั้ง 4 วัน ได้แก่ จำหน่ายบัตรโดยสารราคาโปรโมชั่นสุดพิเศษทุกเส้นทางทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ทั้งของการบินไทย ไทยสมายล์ พร้อมชุดตั๋วโดยสารภายในประเทศ ราคาโปรโมชั่น THAI Domestic Value Pack แพ็คเกจทัวร์เอื้องหลวงราคาพิเศษ อาทิ แพ็คเกจห้องพักพร้อมสิทธิประโยชน์ต่างๆ แพ็คเกจเพื่อสุขภาพราคาพิเศษ แพ็คเกจทัวร์ฮ่องกงพร้อมโปรโมชั่นรถรับ-ส่ง หรือแพ็คเกจทัวร์โตเกียว รวมทั้งแพ็คเกจอื่นๆ ที่มีสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อภายในงานเท่านั้น

โดยลูกค้าที่สนใจซื้อตั๋วการบินไทยในโครงการ “รักคุณเท่าฟ้า 2561” ผ่านเว็บไซต์ thaiairways.com หรือโทร. THAI Contact Center 02-356-1111



นางสาวปริยา จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายฝ่ายการพานิชย์ดิจิตอลและรายได้เสริมองค์กร การบินไทย กล่าวเสริมว่า ได้เปิดขายแคมเปญ "รักคุณเท่าฟ้า 2561" ผ่านช่องทางออนไลน์ทาง www.thaiairways.com มีกระแสตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าเข้ามาจองซื้อตั๋วโดยสารราคาพิเศษทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยอดขายวันแรก 29 มีนาคม 2561 เริ่ม 08.00-17.00 น. แนวโน้มตลอดงานจะสดใสสูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา

นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ การบินไทย กล่าวว่า ตลอดงานยังมีสินค้าที่ระลึก THAI Shop ราคาพิเศษ โดยลูกค้าที่ซื้อบัตรโดยสาร แพ็คเกจทัวร์เอื้องหลวง สินค้าที่ระลึก THAI Shop ตั้งแต่ 58,000 บาทขึ้นไป (รวมใบเสร็จภายในวันเดียวกัน) จะมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลบัตรโดยสารฟรีของการบินไทย เส้นทางระหว่างประเทศ  65 รางวัล และรางวัลบัตรโดยสารจากไทยสมายล์ เฉพาะเส้นทางภายในประเทศตลอดงาน 10 รางวัล  เป็นตั๋วโดยสารชั้นธุรกิจและชั้นประหยัด ไป-กลับ กรุงเทพฯ สู่เมืองต่างๆ อาทิ มิลาน มอสโก เวียนนา สิงคโปร์ ฮ่องกง ไทเป บริสเบน โอ๊กแลนด์ ดูไบ  ฯลฯ และของรางวัลอื่น ๆ มากมาย ซึ่งลูกค้าจะต้องนำรหัสการสำรองที่นั่งดังกล่าว หรือหลักฐานการออกตั๋วโดยสารที่มียอดซื้อตั้งแต่ 58,000 บาทขึ้นไป (รวมใบเสร็จภายในวันเดียวกัน) มาออกตั๋วหรือออกใบเสร็จที่บูธการบินไทยในงานรักคุณเท่าฟ้า ณ ลานแฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อลุ้นรับรางวัลได้

ทั้งนี้มีรายงานว่ายอดขายรักคุณเท่าฟ้าของการบินไทย เมื่อปีที่ผ่านมามีผู้สนใจซื้อตั๋วโดยสารการบินไทยผ่านทางออนไลน์สูงเกินกว่า 300 ล้านบาท



อีกทั้งการบินไทยได้อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าภายในงานจองตั๋วชำระเงินผ่านระบบ Digital Sales Service การรับสมัครสมาชิกใหม่ และแลกรางวัลสินค้าที่ระลึก รวมถึงกิจกรรมพิเศษจากรอยัล ออร์คิด พลัส ถ้าลูกค้าสมัครเป็นสมาชิกภายในงานจะได้รับโบนัสพิเศษ 2,500 ไมล์ เมื่อเดินทางกับการบินไทยในเที่ยวบินแรก

ตลอดงาน รักคุณเท่าฟ้าได้จัดให้มีกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ อาทิ ความบันเทิงจากศิลปินนักแสดงชื่อดัง จะหมุนเวียนมาร่วมงานทั้ง 4 วัน อาทิ นาย ณภัทร เสียงสมบุญ ปราง กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล หรือแม่หญิงจันทร์วาด จากละครบุพเพสันนิวาส อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ รวมทั้งนักร้องและวงดนตรีชื่อดัง ธนชัย อุชชิน หรือ ป๊อด โมเดิร์นด็อก วี วิโอเลต วอเทียร์ และ Room 39

ข่าวที่สอง “ไทยสไมล์เพิ่มเที่ยวบินสงกรานต์สู่เชียงใหม่”

สายการบินไทยสมายล์ ประกาศเพิ่มเที่ยวบินพิเศษ กรุงเทพ (สุวรรณภูมิ)-เชียงใหม่ และเชียงใหม่-กรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) อีกวันละ 1 เที่ยวบินในช่วงเทศกาลสงกรานต์เฉพาะวันที่ 10,11,12,16,17 เมษายน 2561 จากเดิมให้บริการ วันละ 5 เที่ยวบิน เพิ่มเป็นวันละ 6 เที่ยวบิน โดยเที่ยวบินที่เพิ่มเป็นกรณีพิเศษได้แก่ WE 8732 กรุงเทพ (สุวรรณภูมิ)-เชียงใหม่ ออกเดินทางเวลา 12.00-13.15 น. และ WE 8733 เชียงใหม่-กรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) ออกเดินทางเวลา 13.45-15.10 น.  ดูรายละเอียดเพิ่มเติม www.facebook.com/thaismileairways

ข่าวที่สาม “สิงคโปร์แอร์โชว์เหนือเตียงนอนชั้นธุรกิจ787-10”



Mr Goh Choon Phong ซีอีโอสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ส  (SIA ) กล่าวว่าได้เปิดตัวนวัตกรรมที่นั่งโดยสารใหม่ล่าสุดที่พร้อมสร้างความฮือฮาในภูมิภาคเอเชีย ด้วยโปรดักซ์ใหม่ลงทุน เงินลงทุน 350 ล้านเหรียญสหรัฐ ในฝูงบินใหม่ล่าสุดโบอิ้ง 787-10  จะเป็นฝูงบินติดตั้งที่นั่งแบบเตียงนอนในชั้นธุรกิจ ทางสายการบินมียอดจองไว้รวมกว่า 49 ลำ กำหนดทยอยรับมอบตามคำสั่งซื้อให้ครบภายในปี 2565 วางแผนนำจะนำมาใช้บินในรัศมีไม่เกิน 8 ชั่วโมง โดยทำเป็นห้องโดยสามีเตียงนอนแบนราบในชั้นธุรกิจทุกแบบจัดให้มีพนักพิงด้วยรูปทรงที่ได้รับการออกแบบตามหลักสรีระพร้อมหมอนรองแบบปรับระดับได้หกทิศทางในชั้นประหยัด รวมไปถึงติดตั้งระบบความบันเทิงภายในเครื่องทุกชั้นที่นั่งผ่านโปรแกรม myKrisWorld

ความพิเศษของที่นั่งชั้นธุรกิจแบบเตียงนอนเอนราบความยาว 76 นิ้ว สามารถพักผ่อนได้อย่างสะดวกสบายแม้ในเที่ยวบินที่สั้นที่สุด พร้อมเพลิดเพลินกับหน้าจอสัมผัสขนาด 18 นิ้วความละเอียดสูงที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ eX3 ล่าสุดของพานาโซนิค ส่วนเบาะนั่งมีขนาดประมาณ 26 นิ้ว

โดยได้เปิดตัวอย่างอลังการในสิงคโปร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาในจังหวะการรับฝูงบินใหม่โบอิ้ง 787-10 ลำแรกของโลกจากโรงงานผลิตของโบอิ้ง นอร์ทชาร์ลสตัน เซาท์แคโรไลนา ซึ่งฝูงบินรุ่นนี้มีที่นั่งรวม 337 ที่นั่ง แบ่งเป็นชั้นธุรกิจ 36 ที่นั่ง   ชั้นประหยัด 301 ที่นั่ง ภายในห้องโดยสารสามารถเลือกชมภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ ดนตรี และเกมต่าง ๆ กว่า 1,000 รายการ ผ่าน myKrisWorld

ฝูงบินดังกล่าวสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส จะนำร่องบริการในเส้นทาง บิน โอซาก้า (ญี่ปุ่น) เพิร์ธ (ออสเตรเลีย) เริ่มเดือนพฤษภาคมปีพ. ศ. 2561 เป็นต้นไป จากนั้นจะบินเข้าสู่ กรุงเทพฯ และกัวลาลัมเปอร์

ข่าวที่สี่ “รร.ดิโอกุระยกเมนูหวานใบไม้ผลิญี่ปุ่นมาไทยเม.ย.นี้ ”



โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) เอาใจคนรักขนมหวาน กับเมนูขนมหวานสีชมพูน่ารักสำหรับต้อนรับฤดูใบไม้ผลิที่ประเทศญี่ปุ่น เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ 2 เมษายน ถึง 29 มิถุนายน 2561

เชฟ เซบาสเตียน ฮูแกแวร์ฟ (Sebastiaan Hoogewerf) หัวหน้าพ่อครัวเบเกอร์รี่ คิดค้นเมนูขนมหวานในธีมสีชมพูโดยได้แรงบันดาลใจมาจากดอกซากุระที่กำลังจะบานสะพรั่งที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนอกจากสีที่บ่งบอกความหวานแล้วขนมหวานทุกชิ้นล้วนมีหน้าตาน่ารับประทาน เหมาะสำหรับซื้อเป็นของขวัญ ของฝากสุดประทับใจให้คนที่คุณรักอีกด้วย

ขนมหวานน่ารับประทานสีชมพูน่ารักต้อนรับฤดูใบไม้ผลิที่ประเทศญี่ปุ่น อาทิ พานนาคอตตาที่ทำจากนมฮอกไกโดสลับกับ เจลลีสีชมพูหวาน เค้กมองบลังค์ที่เนื้อครีมทำจากเม็ดเกาลัดเชื่อมแต่งสีชมพูดอกซากุระ ราสเบอร์รี่ชีสเค้กที่ใช้รสเปรี้ยวของแยมรสราสเบอร์รี่มาตัดรสหวานของครีมชีสได้อย่างลงตัว โรลเค้กเนื้อนุ่มไส้แยมสตรอว์เบอร์รี่และครีมส้มยูซุ นอกจากนั้นยังมีขนมหวานให้เลือกซื้ออีกหลายรายการ

เมนูขนมหวานต้อนรับฤดูใบไม้ผลิของศญี่ปุ่น มีจำหน่ายที่ร้านขนม ลา พาทิซเซอร์รี่ ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน ถึง 29 มิถุนายน 2561 ราคาเริ่มต้นที่ชิ้นละ 75 บาท ร้านขนม ลา พาทิซเซอร์รี่ ตั้งอยู่บนชั้น 1 อาคาร ปาร์ค เวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ เปิดให้บริการวันจันทร์ ถึง วันศุกร์ เวลา 7.00 น. – 19.00 น.








วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2561

วีระศักดิ์ ผ่าจุดขายท่องเที่ยวเมืองรองชุมชนสู่BB-INN ปฎิรูปกระทรวงท่องเที่ยวแล้วจ่อโอน2หน่วยให้ ก.วัฒนธรรม-พานิชย์

รมว.วีระศักดิ์”ผ่าจุดขายเมืองรองชุมชนสู่BB-INN
ปฏิรูปท่องเที่ยวโอน2หน่วยให้วัฒนธรรม-พานิชย์
ครั้งแรกสงกรานต์ไทยป็อบคิงเพาเวอร์10-15เมย.
ททท.งัดรางวัลแจกเที่ยวGo Localเพิ่ม10ล้านคน
บางจากเพิ่มกระแสอนุรักษ์แต่งไทยใช้บริการปั๊ม
ผู้นำบางจากคว้ารางวัลดีเด่นตอกย้ำคุณภาพคน
ทอท.ลั่นเปิดสัมปทานดิวตี้ฟรียึดแนวยุโรป-เอเชีย
ทัวร์สงขลาย่านเมืองเก่าแหล่งอาหารถิ่นสุดอร่อย
ทาครีมกันแดดอย่างไรให้ผิวไม่ระคายแสงร้อนฉ่า
ประธานบอร์ดนกแอร์ไฟแรงลุยแก้ทุกมรสุมใหญ่
คนไทยใจชื้นรัฐเริ่มรถไฟความเร็วสูง3สนามบิน
เจ้าท่าตื่นแล้วทำฮับทางน้ำอันดามัน5โปรเจ็กต์

ต้อนรับวันเสาร์ที่ 2561 ในสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.กับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”  ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (สวท)FM 97.0 MHz. ฟังทางมือถือ หรืออ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen    และบล็อกเกอร์ #gurutourza

ช่วงที่ 1 “วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เร่งเครื่องยนต์ทุกตัวในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ ขับเคลื่อนอย่างถูกทิศทาง ทั้ง 1.การสร้างความเข้าใจท่องเที่ยวเมืองรอง-ชุมชน ระหว่างท้องถิ่นกับนักท่องเที่ยวยอมรับแล้วเที่ยวให้เป็นโดยไม่เข้าไปเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ท้องถิ่นเพื่อความยั่งยืน 2.จุดประกายท้องถิ่นใช้ความเป็นตัวตนเปิดโลกสู่เทรนด์โลก Bed & Breakfast หรือ B &Bและ INN จัดที่พัก อาหาร ให้คนเดินทางอยู่ร่วมบ้านได้โดยไม่ผิดกฎหมาย พรบ.ธุรกิจโรงแรม 3.ดึงธุรกิจขนาดใหญ่ภาคประชารัฐ บริษัทชั้นนำ เข้ามาเป็นพลังหนุนชุมชนไปด้วยกัน 4.ผ่าโครงสร้างกระทรวงนำไปสู่การปฏิรูปด้วยการนำร่องโอนภารกิจงานที่ไม่จำเป็นต้องแบกไว้ไปให้กระทรวงที่เชี่ยวชาญกว่าทั้ง งานรับดูแลกองถ่ายทำภาพยนตร์นานาชาติ จดทะเบียนบริษัทนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ และการจัดทำร่างกฎหมายฉบับใหม่ พระราชบัญญัตินำเที่ยวและมัคคุเทศก์

วีระศักดิ์ โควสุรัตน์
 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา


        นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การใช้งบประมาณรายจ่ายกลางปี จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก งบในส่วนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ไปทำเรื่องหยิบของดีเมืองรองขึ้นมาโชว์ บางเมืองเดินทางสะดวกและบางเมืองไม่สะดวก โดยไปผูกไว้กับงบบูรณาการของมหาดไทยและคมนาคม วัฒนธรรม ซึ่งมาทำในเรื่องที่สอดคล้องกับการท่องเที่ยวหลายเรื่องยื่นเรื่องผ่านมายังกระทรวงการท่องเที่ยวเสนอขอไปยังสำนักงบประมาณ

แยกกันของบแล้วมาใช้ประโยชน์ร่วมกัน สิ่งแรกคือ 1.ชักชวนคนไปเที่ยวเมืองรองที่ไหนบ้าง แล้วนักท่องเที่ยวเองต้องทำใจอย่างแรกคือเมืองอาจจะคล้ายฟุตบอลดิวิชั่น A-B-C-D ตามระดับความสามารถของพื้นที่ 2.ไปแล้วมีโครงสร้างพื้นฐานเพียงพอหรือยัง เช่น ห้องน้ำ ทางลาด 1.ไปเมืองรองได้ที่ไหนบ้าง 2.พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน ห้องน้ำ ป้ายบอกทาง ทางลาด ราวกันตก เป็นบูรณาการใช้งบผูกพันให้สิ้นสุดภายในกันยายน นี้

โดยได้ประกาศไปเลยว่าไม่ทำเมกะโปรเจ็กต์ แต่จะทำให้เมืองรองมีชีวิตชีวามากขึ้น นอกจากจะทำเรื่องพื้นฐานแล้ว ยังจะทำแคมเปญควบคู่กันไปด้วยคือ “เที่ยวเมืองรอง คัดกรองเข้าชุมชน” พาเที่ยวเมืองรองกว่าจะสำลักจำนวนนักท่องเที่ยวก็ยังมีอีกหลายเมืองยังรับนักท่องเที่ยวได้ ทุกวันนี้เมืองรองจะมีนักท่องเที่ยวกระจุกตัวเฉพาะเทศกาล จึงต้องหาวิธีกระจายเฉลี่ยให้เที่ยวทั้งปี



ส่วนแคมเปญชุมชนต้องไปเที่ยวโดยทำความเข้าใจแจ้งจองล่วงหน้าทั้งจำนวนคนและวันเวลาที่จะเดินทางไปในฐานะที่เป็นแขกเดินทางไปเยี่ยมญาติ ซึ่งเงินไม่ใช่พระเจ้าแต่ความเกรงใจเป็นเสน่ห แล้วต้องคำนึงถึงขีดความสามารถของชุมชนมีจำกัดในการรองรับทั้งเรื่องจำนวนคน ขยะ ลานจอดรถ

จึงขอให้นักท่องเที่ยวตั้งหลักอย่างเข้าใจก่อนเที่ยวเมืองรองว่ามีแต่ละดิวิชั่น 2-3-4 ต่างกันไป จะไปคาดหวังต้องมีเครื่องทำน้ำอุ่นอาบ หรือสปาสบาย ๆ นั้นคงยาก แต่จะได้สัมผัสบรรยากาศใหม่เมืองไทยมีมุมเก๋ ๆ ด้วย อย่างได้รับประทานอาหารอร่อย ได้คุยกับคน หากไปชุมชนก็คิดเสมือน “ไปเยี่ยมญาติ” ได้พูดคุยเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เมื่อคิดได้ก็จะทำให้เกิดวัฒนธรรมอย่างรับผิดชอบ

ดังนั้นงบประมาณรายจ่ายกลางปีที่จะรับมา จึงจะนำไปพัฒนาเมืองรองและชุมชน ก็เพื่อให้เกิด “วัฒนธรรมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบเพื่อให้เกิดความยั่งยืน”

ขณะนี้ทำความร่วมมือเพื่อทำฐานข้อมูลความพร้อมและการพัฒนา กับองค์กรและสถาบันพัฒนาชุมชน ของกระทรวงความมั่นคงของมนุษย์ และ อพท.เพื่อคุยกันเหมือนญาติมิตรให้บอกความต้องการที่จะเข้าร่วมเป็น “ชุมชนท่องเที่ยว” โดยจะติ๊กข้อมูลถึงความพร้อมของแต่ละชุมชน เนื่องจากต้องยืนหลักการเดียวกันคือ “ท่องเที่ยวชุมชนคือรายได้เสริม” ทุกวันนี้เริ่มมีคลิปยูทูปบางชุมชนแนะนำสู่สาธารณะบ้างแล้ว อีกทั้งจะได้ชวนกันไปเรียนรู้วิถีชีวิต อาหารถิ่น ที่ต้องฝึกให้เที่ยวชุมชนเป็นและถูกที่ถูกทาง ตอนนี้ในกรุงเทพฯ หลายแห่งก็เปิดตรอกซอกซอยให้ท่องเที่ยว

การท่องเที่ยวชุมชนจึงเป็นปฐมบทซึ่งไม่ได้คำนึงถึงเงินที่หลั่งไหลเข้าไป พวกเขาจะเน้นความสุข และวัฒนธรรมการพึ่งพา ให้อยู่ร่วมกันได้ จึงกลายเป็นชุมชนที่รักษาความยั่งยืนไว้ได้ด้วยความเกรงใจ เข้าใจ กัน จึงไม่ใช่ระบบเถ้าแก่ที่จะมาบริการนักท่องเที่ยว แต่จะเป็นการเสพความสุขด้วยการไปเยี่ยมญาต ดังนั้นการบริการจึงไม่ได้ปรนเปรอด้วยสิ่งต่าง ๆ ที่โรงแรมรีสอร์ต แต่ให้ด้วยรอยยิ้มและราคาต้นทุนตามค่าครอชีพจริง เพราะต้นทุนการใช้วัตถุดิบทำอาหารและเครื่องใช้ต่าง ๆ ไม่ได้สูงมากนัก การต้อนรับจึงทำเพื่อสร้างรายได้เสริมเท่านั้น



ประการสำคัญปรากฎการณ์ใหม่ที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในประเทศไทยคือ Bed & Breakfast และ INN ซึ่งเป็นที่หลับนอนสามารถจัดให้ได้ เหมือนในเหมือนในอเมริกาหรือทวีปแถบตะวันตก ซึ่งจัดอาหารเช้ากับเตียงไว้ให้เท่านั้น เพราะเมื่อชุมชนและนักท่องเที่ยวเข้าใจวิธีการเที่ยวอย่างถูกทาง ต่อไปบ้านแต่ละหลังซึ่งมีห้องว่างก็สามารถเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแชร์พักค้างคืนได้ แต่ผู้พักแรมจะต้องใช้ชีวิตตามแบบของเจ้าของบ้านนั้น ๆ โดยกินอยู่เหมือนกับเขา เช่น อาหารแต่ละบ้านที่ใช้เลี้ยงครอบครัวก็ให้นักท่องเที่ยวกินแบบเดียวกัน

ต่อไปเมื่อการสร้างความรู้ความเข้าใจก้าวไปถึงจุดหนึ่งแล้ว “ชุมชนในเมืองไทย” จะไปต่อได้ Bed & Breakfast และ INN ซึ่งตามกฎหมายโรงแรมประเทศไทย ระบุว่า “ผู้ประกอบการใดที่มีห้องให้คนพักไม่เกิน 4 คน ไม่เกิน 20 คน ไม่ต้องขออนุญาตตาม พ.ร.บ.โรงแรม แต่ต้องไปจดแจ้งกับทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” เป็นอีกทางเลือกสามารถทำได้

นายวีระศักดิ์ กล่าวว่าหลังจากลงพื้นที่ทั่วประเทศต่อเนื่องมากว่า 3 เดือน พบว่า ท่องเที่ยวชุมชนสามารถรายได้จากการขายของที่ระลึกซึ่งเป็นของใช้ ของฝาก ของกิน ได้เม็ดเงินสูงกว่าการเปิดโฮมสเตย์ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวได้เริ่มทำแล้วคือ 1.จ้างสถาบันการศึกษาคณะพานิชยศาสตร์ คณะออกแบบ ศิลปกรรม ไปฝังตัวอยู่ในพื้นที่นำร่องภาคเหนือ 8 จังหวัด 48 ชุมชน โดยนักเขียนแบบไปต่อยอดลายผ้าที่นำมาออกแบบเป็นกระเป๋าใส่มือถือ แตกต่างจากผ้าผืนหรือ ซึ่งเป็นสไตล์แฟชั่นและของใช้เพิ่มมูลค่าได้มากขึ้นตรงกับจริตนักท่องเที่ยว แล้วทดลองนำชุมชนมาเปิดขายสินค้าที่ เซ็นทรัล เวิลด์ กระแสตอบรับดีมากมีผู้สั่งซื้อจำนวนมาก แต่ทางชุมชนขอผลิตตามกำลังที่ทำได้ เพื่อรักษาความสุขของวิถีชีวิตไว้ ซึ่งเป็นรายได้เสริมที่ดี แล้วต้องระวังไม่กลายเป็นรายได้หลัก ซึ่งอาจจะเกิดความทุกข์ได้ เพราะเป็นท่องเที่ยวชุมชน เหมือนญี่ปุ่นซึ่งรักษาเอกลักษณ์ของสินค้าจะไม่ขายเขตชุมชน เป็นต้น แต่เมืองไทยยังต้องแก้ไขเพราะการทำเป็นอุตสาหกรรมข้ามเขตจึงทำให้ขาดกลิ่นอายสินค้าพื้นถิ่นที่แท้จริง

การเข้าไปพัฒนาแบบดีไซน์ให้ชุมชนปกติถือเป็นลิขสิทธิ์ของรัฐ แต่เราก็เปลี่ยนวิธีโดยนำดีไซน์เหล่านี้ไปมอบเป็นทางการให้ชุมชนเพื่อไว้ทำมาหากิน แต่ห้ามนำดีไซน์ดังกล่าวซึ่งรัฐจ้างทีมมาคิดค้นไปขายต่อในเชิงธุรกิจ

ส่วนช่องทางการนำสินค้าชุมชนขยายผลผ่านทางพลังประชารัฐ เพราะมีภาคธุรกิจรวมอยู่กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งรู้และเข้าใจฟังเรื่องราวแล้วอยากช่วย เรียนรู้ และการทำให้ประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ มีความเป็นอยู่ดีขึ้น ก็จะทำให้กำลังซื้อดีขึ้น ทำให้เกิด วิน วิน ทุกฝ่าย ประชารัฐจึงตอบสนองยุทธศาสตร์ เมืองรองและชุมชน

กลุ่มแรกคือสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประกาศนโยบาย 1 หอการค้า 1 ชุมชน โดยมาปรึกษากับผมจึงให้คำแนะนำทางหอการค้าอย่าเดินเข้าไปในชุมชนแบบ “เถ้าแก่” แต่ขอให้ไปเรียนรู้จากชุมชนโดยจะต้องฟังเสียงชาวบ้านให้ดี ๆ เมื่อศึกษาดูใจกันแล้ว ส่วนชาวบ้านจะทำตามหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง ต้องดูความสมัครใจ

กลุ่มที่สอง เป็นบริษัทขนาดใหญ่เครือ “โตโยต้า” ขอเข้ามาช่วยส่งเสริมการขับรถท่องเที่ยวเมืองรอง ได้ทำคาราวานและเส้นทางเที่ยว ชักชวนลูกค้าไปซื้อรถโตโยต้าจัดทัวร์พาเที่ยว ชิมอาหาร กิจกรรมในชุมชนเชิงซีเอสอาร์ ขณะนี้มีหลายบริษัทเข้าคิวจะช่วยทำท่องเที่ยวชุมชนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก

กลุ่มที่สาม ท่องเที่ยวจิตอาสา กลุ่มใหม่คือผู้สูงวัย นัดกันไปเมืองรอง ไปกินอาหาร แล้วนำของไปบริจาค ช่วยชุมชนทำความสะอาดสถานที่ จัดห้องสมุดชุมชนเรียบเรียงตามหมวด

ทำให้เกิดมุมมองใหม่ในการท่องเที่ยวแตกต่างจากเดิม ซึ่งเน้น “การให้” โดยไม่ได้ไปเสพสุขจากชุมชนเพียงอย่างเดียว

อีกทั้งตอนนี้กลุ่มสมาคม วิ่ง ว่าย พาย ถีบ หรือ Sport Tourism-กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว เฉพาะที่กระทรวงการท่องเที่ยวไปเกี่ยวข้องด้วยมีมากถึง 600 รายการ พฤติกรรมของนักกีฬาที่เข้าร่วมกิจกรรมจะเพิ่ม การแวะเก็บขยะ หรือตอนนี้ในต่างประเทศเรียกว่า Progging หรือพายแคนูเก็บขยะ แล้วตอนนี้มาใหม่อีกอย่าง ชาวชุมชนหัวตะเข้ ออกแบบขวดจากขยะนำมาทากาวร้อยด้วยลวดทำเป็นเรือพายในคลองเพื่อให้คนรุ่นใหม่พายเก็บขยะต่อไป

ส่วนการปฏิรูปกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อให้ทีมในแต่ละพื้นที่เข้าถึงนักท่องเที่ยวและประชาชนทั้งทางด้านการให้ข้อมูล บริการ และอื่น ๆ นั้น ตอนนี้เริ่มแล้วคือเปิด Application โดยใส่ข้อมูลที่เจ้าของชุมชนแหล่งท่องเที่ยวเขียนส่งเข้ามาให้นับเป็นพัฒนาการใหม่ ส่วนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภารกิจงานเรื่องใหญ่ ๆ ที่เกิดขึ้นแล้วมี 3 เรื่อง ได้แก่ 1.งานส่งเสริมการดึงดูดกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศจะโอนไปให้กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งมีคณะกรรมการภาพยนตร์และวิดีทัศน์แห่งชาติ โดยนำเรียน ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และ กพร.หน่วยงานกำกับดูแลระบบราชการ รับทราบร่วมกันเรียบร้อยแล้ว ระหว่างนี้อยู่ในขั้นตอนการร่างกฎกระทรวงถึงการโอนภารกิจดังกล่าว แล้วให้กรมการท่องเที่ยวซึ่งมีเจ้าหน้าที่อยู่ทั่วประเทศเพียง 130 คน แต่ต้องดูแลพื้นที่ท่องเที่ยวทั่วไทยกว่า 4,800 แห่ง จะได้นำเวลาทั้งหมดไปส่งเสริมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างจริงจังเป็นรูปธรรม

2.โอนย้ายงานจดทะเบียนบริษัทท่องเที่ยวและมัคคุเทศก์ไปอยู่กับกระทรวงพานิชย์ หลังจากได้หารือกับทางรองปลัดกระทรวงพานิชย์ยินดีรับทำ เพราะปัจจุบันจดทะเบียนบริษัทอยู่แล้ว มีระบบโครงสร้างใหญ่ทางเทคโนโลยี บุคลากรเพียงพอรองรับบริการได้ดีกว่ามาก

3.การยกร่างพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ซึ่งที่ผ่านมามีความเข้าใจผิด ๆ ในทางกฎหมาย เช่น การจับกุมไกด์โดยอ้างว่าไม่ได้รับลูกค้าผ่านบริษัทนำเที่ยว ทั้งที่ความจริงแล้วไกด์สามารถรับงานอิสระนำท่องเที่ยวได้ เพียงแต่เข้าใจกันคาดเคลื่อน กฎหมายใหม่ไกด์จะรับงานเองได้แล้วตำรวจท่องเที่ยวก็นำเวลาไปพัฒนาช่วยเหลือนักท่องเที่ยวด้านอื่น ๆ ที่ถูกต้องตามจริง

“วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ย้ำด้วยเสียงหนักแน่นว่าพร้อมทุ่มเทพลังกายและใจปูพรมสร้าง Big Change อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยก้าวสู่ยุค New Shade ในเชิงนโยบายรัฐที่จะนำไปสู่ภาคปฏิบัติได้จริงในอนาคตอันใกล้นี้ ให้สมกับที่ประเทศไทยคือดาวรุ่งท่องเที่ยวแห่งอาเซียน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “สงกรานต์ไทยป๊อบ5สไตล์ที่คิงเพาเวอร์”


   
 ครั้งแรก !!  ที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดกิจกรรมต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ ภายใต้งาน  “คิง เพาเวอร์ สงกรานต์รางน้ำนครา” ชวนนักท่องเที่ยวคนไทยและนานาชาติร่วมงานประเพณีเย็นทั่วหล้าระหว่าง 10 – 15 เมษายน 2561 โดยได้จำลองวิถีไทยสมัยก่อนเพื่อสะท้อนอัตลักษณ์ และคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมไทย นำเสนอในรูปแบบที่ทันสมัย แบ่งเป็น 5 โซน คือ โซนวัด โซนบ้าน โซนทุ่ง โซนตลาด และโซนสวน โดยภายในงาน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสประเพณีสงกรานต์ไทยในบรรยากาศสไตล์ Thai Pop เพื่อให้ได้เติมความสุขกันครบทุกรสคือ

ห้ามพลาด!! ชมการเนรมิต ตลาดน้ำ ใจกลางกรุงเทพพร้อมอิ่มอร่อยไปกับอาหารไทยจากร้านอาหารชื่อดังระดับตำนาน ในบรรยากาศตลาดบก-ตลาดน้ำโบราณ

สรงน้ำพระพุทธรูปปางสมาธิประจำวัดอภัยทายารามที่มีอายุร่วมกว่าสองร้อยปี

 ตื่นตาตื่นใจไปกับขบวนพาเหรดนางสงกรานต์ “มโหธรเทวี” อันยิ่งใหญ่  กับเหล่านางเอกแถวหน้าเมืองไทย ตลอด  6 วัน

สนุกสนานไปกับการแสดงทางวัฒนธรรม และเสียงเพลงจากศิลปินชื่อดังตัวแทนทุกภาคทั่วไทย บันเทิงกันแบบต็มอิ่มทุกวัน

ข่าวที่ 2 “ททท.งัดรางวัลแจกทัวร์Go Localเมืองรอง”



นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้โปรโมตกิจกรรม “Enjoy Local โดยจับมือพันธมิตรชวนเที่ยวเมืองรองได้ลุ้นได้แต้ม ภายใต้แคมเปญ “Amazing Thailand Go Local - เที่ยวท้องถิ่นไทย ชุมชนเติบใหญ่ เมืองไทยเติบโต”  เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มนักท่องเที่ยวขึ้นอย่างน้อย 20% สู่เมืองรองและชุมชนให้เกิน 10 ล้านคน กระจายรายได้ราว 10,000 ล้านบาท

กิจกรรม Enjoy Local เที่ยวชุมชนได้ลุ้นได้แต้ม ททท.จะนำเสนอผ่านช่องทางออนไลน์ทำเป็น Mobile Application “Trippointz” นำเสนอข้อมูลท่องเที่ยวทั่วประเทศไทย โดยนักท่องเที่ยววางแผนเลือกสถานที่น่าสนใจในจังหวัดต่างๆ พร้อมกับแนะนำสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเบ็ดเสร็จในแอพพลิเคชั่นเดียว โดยจะอิงฐานข้อมูลที่มีอยู่ใน EDT Guide โดยฐานข้อมูลแนะนำเรื่องการท่องเที่ยวใหญ่ๆ แบ่งเป็น 3 หมวด ได้แก่ สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารและที่พักระหว่างทาง และโรงแรมต่างๆ ซึ่งแอพพลิเคชั่นทริปพ๊อยท์สใช้เวลาออกแบบทริปเพียงไม่เกิน 5 นาที



  นักท่องเที่ยวสามารถเก็บคะแนนสะสมจากการท่องเที่ยว (TAT Point) โดยวิธีสแกนคิวอาร์โค้ดตามจุดท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหารต่าง ๆ ในจังหวัดรอง 12 เมืองต้องห้ามพลาด (ลำปาง เพชรบูรณ์ น่าน บุรีรัมย์ เลย สมุทรสงคราม ราชบุรี ตราด จันทบุรี ตรัง ชุมพร และนครศรีธรรมราช) เพื่อนำเอาคะแนนที่ได้จากการสแกนคิวอาร์โค้ดมาใช้แลกของรางวัลจาก ททท.

กิจกรรมนี้ ททท.ได้รับการสนับสนุนมากมาย เช่น บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด มหาชน (มหาชน) บริษัท วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) บริษัท อาร์ต อินสไปร์ จำกัด บริษัท ไอฟลิกซ์ (ประเทศไทย) และ บริษัท เทคมี ทัวร์ จำกัด
 

ข่าวที่ 3 “ร่วมเติมน้ำมันบางจากปั๊มอนุรักษ์ไทย”


บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ได้จัดกิจกรรมสนับสนุนการแสดงออกถึงความเป็นไทย โดยส่งเสริมให้พนักงานบริการหน้าลานของสถานีบริการน้ำมันบางจากในสาขาหัวเมืองใหญ่ บนเส้นทางสายหลัก และแหล่งท่องเที่ยวกว่า 50 แห่ง แต่งกายด้วยชุดไทยท้องถิ่นทั้ง 4 ภูมิภาค ประกอบด้วย

ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ที่มีเอกลักษณ์ ความสวยงามแตกต่างกันไป พร้อมให้บริการแก่ผู้บริโภคด้วยรอยยิ้ม เพื่อเป็นส่วนหนี่งของการอนุรักษ์วิถีไทยผ่านเครื่องแต่งกาย รณรงค์ให้คนไทยเห็นคุณค่าและภูมิใจในการแต่งกายแบบไทย

ล่าสุด นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จากัด (มหาชน) ยังได้รับรางวัล “นักบริหารดีเด่นแห่งปี” Executive Of The Year 2018 พุทธศักราช ๒๕๖๑ ในโครงการหนึ่งล้านกล้าความดีตอบแทนคุณแผ่นดิน ในฐานะที่เป็นบุคคลผู้ประกอบคุณงามความดี อุทิศตนเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และประเทศชาติ ร่วมสร้างสรรค์สังคมไทยให้น่าอยู่และนาพาองค์กรสู่ความสาเร็จ จัดโดยมูลนิธิเพื่อสังคมไทย ร่วมกับรางวัลไทย และสถาบันพัฒนาศักยภาพท้องถิ่น

ข่าวที่ 4 “ ทอท.เปิดสัมปทานดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิยึดหลักสากล ”



นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่า ตามที่มีนักวิชาการได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับการให้สัมปทานร้านค้าปลอดอากร และการให้สัมปทานจุดส่งมอบสินค้าปลอดอากร (Pick up Counter) ภายในท่าอากาศยานของ ทอท. โดยได้ให้ข้อมูลว่าในท่าอากาศยานทั่วโลกมีรูปแบบการให้สัมปทานร้านค้าปลอดอากร 4 รูปแบบ ได้แก่

สัมปทานรายใหญ่รายเดียว (Master Concessions) สัมปทานตามที่ตั้ง (Multiple concessions by location) สัมปทานตามกลุ่มสินค้า (Multiple concessions by category) และสัมปทานตามกลุ่มสินค้าและตามที่ตั้ง (Multiple concessions by category and by location) ซึ่งแต่ละรูปแบบมีความสอดคล้องและเหมาะสมในด้านต่างๆ แตกต่างกันออกไป

ส่วน ทอท.ปัจจุบันใช้รูปแบบการให้สัมปทานรายเดียวเช่นเดียวกับท่าอากาศยาน Heathrow สหราชอาณาจักร ท่าอากาศยาน Shanghai Pudong International Airport สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งสัญญาร้านค้าปลอดอากรกับผู้ประกอบการปัจจุบัน ณ ทสภ.จะสิ้นสุดลงในเดือนกันยายน 2563 และเป็นช่วงที่จะมีการเปิดอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ตามโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ระยะ 2 ซึ่งจะต้องมีการเปิดประมูลได้ผู้ประกอบการล่วงหน้า 2 ปี เพื่อให้การประกอบกิจการเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง และผู้ประกอบการสามารถเตรียมการในการจัดหาสินค้า การอบรมบุคลากร ตลอดจนการติดต่อกับร้านค้าชั้นนำต่างๆ นั้น



ขณะนี้ ทอท.อยู่ระหว่างการศึกษาและวิเคราะห์โครงการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานของ ทอท. และข้อดีข้อเสียในการให้สัมปทานแต่ละรูปแบบ โดย ทอท.ได้ให้ที่ปรึกษาดำเนินการ ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ) โดย ทอท.ได้กำชับให้ที่ปรึกษานำข้อเสนอแนะของทุกฝ่ายมาพิจารณาประกอบการศึกษาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ดีที่สุด โดยการคัดเลือกผู้ประกอบการจะเน้นความโปร่งใส ยุติธรรม และตรวจสอบได้ รวมทั้งรูปแบบการให้สัมปทานต้องเป็นรูปแบบที่มีการใช้ในท่าอากาศยานทั่วโลก อีกทั้งจะต้องเหมาะสมกับกายภาพของอาคารผู้โดยสารของ ทอท. การบริหารจัดการในเขตการบินที่ไม่ส่งผลกระทบต่อเส้นทางการเดินของผู้โดยสาร (Passenger Flow) เนื่องจาก ทอท.ยังมีการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน และประตูเทียบอาคารผู้โดยสารที่อาจกระทบต่อการจัดสรรพื้นที่ในการวางที่ตั้งร้านค้า และสอดคล้องกับมาตรฐานด้านการรักษาความปลอดภัยด้วย

นายนิตินัย กล่าวว่า ทอท.มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบภายใต้หลักธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของรัฐให้ได้สูงสุด และประโยชน์ของผู้ถือหุ้นตลอดมา เพื่อให้ ทอท.สามารถดำเนินธุรกิจเคียงข้างสังคมไทยและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้กรณีที่มีความเคลื่อนไหวในการร้องเรียนของกลุ่มภาคเอกชนบางกลุ่มกับตัวแทนรัฐบาลถึงรูปแบบการให้สัมปทานพื้นที่ปลอดอากรในสนามบินสุวรรณภูมิอย่างไม่เป็นธรรมหรือไม่นั้น

มีรายงานว่าสัญญาสัมปทานที่ ทอท.ดำเนินการให้แก่ผู้ชนะการประมูลอย่างโปร่งใส โดยผ่านกระบวนการถูกต้องตามขั้นตอนจากกรรมการพิจารณาที่ได้รับการแต่งตั้งจากหน่วยงานรัฐอย่างถูกต้องตามระเบียบของ ทอท.

ประกอบกับในช่วงระยะกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศระหว่างการต่อสู้กันทางความคิดทางการเมืองของแต่ละสี จนเป็นเหตุให้มีกรณีการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ต่อมารัฐบาลขณะนั้นได้มีนโยบายให้ ทอท.เยียวยาผู้ประกอบการในสนามบินทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน จึงเป็นที่มาของการอนุญาตให้เอกชนดำเนินธุรกิจดิวตี้ฟรีอยู่ในสุวรรณภูมิตามเงื่อนไขของรัฐบาลดังกล่าวไปจนกว่าจะหมดสัญญาในปี 2563 และ/หรือไม่ได้มีความเกี่ยวกับเรื่องประโยชน์จากสาเหตุอื่น ๆ แต่อย่างใด รวมถึง ทอท.ยืนยันมาตลอดว่าในฐานะเจ้าของพื้นที่และผู้ให้สัมปทาน พร้อมจะยึดหลักปฏิบัติโดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดมาตลอดทั้งของประเทศ ประชาชน และผู้ถือหุ้น ทอท.ซึ่งมีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่รวมอยู่ด้วย ทุกฝ่ายต่างต้องระมัดระวังเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่

ช่วงที่ 2 เที่ยวเมืองไทยสนุกทุกที่ เก๋ไก๋ทุกเมือง ลองตามเราไปยัง “สงขลาเมืองแห่งความประทับใจ แหล่งอาหารถิ่นวิถีไทยย่านเมืองเก่า” ระหว่างการเดินทางต้องเจอแสงแดดแรง ๆ จึงได้นำวิธี “ทาครีมกันแดดให้เพียงพอต่อการต้านไวโอเรต” แล้วเสิร์ฟตามด้วยข่าวแรง ๆ ในรอบสัปดาห์ ฮือฮาเมื่อนกแอร์ได้ประธานบอร์ดใหม่เข้าพลิกสถานการณ์ฝุ่นตลบทั้งเรื่องขาดทุนและบริการดีเลย์ไม่เลิก ฝั่งรัฐบาลเคาะยกแรกโปรเจ็กต์สร้างรถไฟฟ้าความเร็วเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ส่วนกรมเจ้าท่าได้ฤกษ์จัดแถวใหม่พัฒนาฮับทางน้ำรอบอันดามัน 5 โปรเจ็กต์

@สงขลามีดีย่านเมืองเก่าอาหารถิ่นสุดอร่อย

เที่ยวเมืองไทยมุมใหม่ด้วยความน่ารัก ๆ ของภาคใต้ใน “สงขลา” กลางวันมีอาหารรสเลิศ กลางคืนมีความสนุกสนานของแหล่งท่องเที่ยวยามย่ำคืน



แหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์ใน “ย่านเมืองเก่าสงขลา” อายุกว่า 200 ปี เป็นย่านการค้าของชาวจีนที่ดาดดื่นตาด้วยตึกรามเก่าแก่ด้วยสถาปัตยกรรมชิโนโปตุกีสสุดยอดความเก๋และคลาสสิกแห่งยุคใหม่ ที่มีทั้งห้องแถวแบบเก๋งจีนเรียงรายกันให้เดินชมตลอดสองฝากถนนนครนอก ถนนในอันงดงามทั้ง ถนน ยะหริ่ง หนองจอก รามัญ ปัตตานี ยะลา พัทลุง ที่หลอมรวมความกลมเกลียวของคนจีนและชาวมุสลิม



อีกทั้งยังเป็นย่านที่ต้องห้ามพลาดชิมอาหารถิ่นอร่อย ๆ ตื่นเช้าขึ้นมา ก็เดินเข้าร้านกาแฟ อย่างร้าน “ขนมบอก” สภากาแฟที่มีกลิ่นอายอันอบอวลของวัฒนธรรมพื้นถิ่นปักษ์ใต้ เริ่มด้วยอาหารออเดิร์ฟเบา ๆ ในร้านโพยมอย่าง “แต่เตี้ยม” เป็นติ่มซำจานขนาดเล็กรองท้อง จากนั้นก็ทยอยตลุยชิมเมนูหลัก “ก๋วยจั๊บ” ร้านเจ๊น้อย “โจ๊กเกาะไทย”



ส่วนอาหารท้องถิ่นดั้งเดิมต้นตำรับสงขลาต้องเมนู ข้าวสตูชื่อดังร้าน “เกียวฟั่ง(เก้าห้อง)” ร้านกาแฟร้อยปีฮับเซ่ง (เจ๊บ๊วย)


จากนั้นก็ไปเล่นชมบรรยากาศเมืองเก่า รอเลือกร้านอร่อยสำหรับ “มื้อกลางวัน” ทั้งก๋วยเตี๋ยวหางหมู หารับประทานยาก หรือ ก๋วยเตี๋ยวป้ารุ่งใต้โรงงิ้ว ซึ่งต้องเดินมุดเข้าไปใต้ถุน ก๋วยเตี๋ยวคั่วของป้าอร่อยสมคำร่ำลือ เรื่อยไปจนถึง “สุกี้นครใน” และย่ำเท้าต่อไปยังภัตตาคารหน่ำเต่า แหล่ง ข้าวหมูแดง ข้าวมันไก่ และไส้กรอกตับ ต้นตำรับ ล้วนแล้วแต่อยู่ในบริเวณนี้

ถ้าเป็นเมนูอาหารหวาน ต้องชิมไอศรีมหวานมันเย็นชื่นใจแปลกแตกต่างทั่วไทยให้เลือกชิม อาทิ ร้านไอศรีมยิง ร้านฮะเฮียงเป็นไอศรีมโอ่ง ร้านบันหลีเฮง และที่ต้องห้ามพลาดอีกอย่างคือ “กล้วยปิ้ง” ถนนนครใน” อายุกว่า 40 ปี ใช้กล้วยนางทองหวานอร่อยมีแห่งเดียวที่นี่เท่านั้น

สำหรับอาหารมุสลิมก็มีให้เลือกหลากหลายทั้งที่ ร้านกะฟะห์ ร้านสุดา ร้านดาหวัน ร้านอัสมา ทุกร้าจะมีเมนูหลักอย่าง ซุป ข้าวหมกไก่ รสเด็ด



เมื่อไปถึงย่านเมืองเก่าสงขลาแล้ว ต้องชิมชัวร์  ๆ คือเมนู ก๋วยเตี๋ยวเสี่ยงโชค “หมี่ผัดวัดดวง” กระทะใหญ่ นักท่องเที่ยวมักจะต้องลุ้นว่าในกระทะจะได้หมูสักกี่ชิน หรือจะเป็นข้าวต้มปลาเจ๊นิท ปลาลวกจิ้ม กับลูกชิ้นปลา

บริเวณตึกเก่าถนนสีเหลือตรงหัวมุมถนนนครใน ก็มีร้านเก๋ ๆ อย่างร้านกาแฟเฮียบฮวด ตกแต่งสไตล์โบราณ ร้านขนมไทยขึ้นชื่อ “ไทยสอง-แสน” ของป้าแดง ข้าวฟ่างกวนคุณยาย ขนมค้างคาว ใกล้ศาลเจ้าพ่อกวนอู ขนมกะลอจี๊เยื้องศาลหลักเมือง



สงขลาเป็นแหล่งรวมอาหาถิ่นขึ้นชื่อ ซึ่งมีวัฒนธรรมการกินที่น่าสนใจอย่างมาก ที่นักท่องเที่ยวต้องห้ามพลาด

@ครีมกันแดด" ควรทาแค่ไหนถึงจะพอ?

มูลนิธิหมอชาวบ้าน บอกเล่าถึงหนึ่งในการป้องกันผิวสวยจากแสงแดด ต้นเหตุความหมองหม่นบนผิวสวย และริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย คือการทาครีมกันแดด โดยเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง

ดังนั้นเราควรทาครีมกันแดดมากแค่ไหน และทาซ้ำบ่อยเพียงใด

นั่นก็คือปริมาณครีมกันแดดที่เพียงพอสำหรับทาผิวหน้า แขน ขา และลำตัวด้านบนอย่างทั่วถึง คือประมาณ  1 ฝ่ามือ ควรทาครีมกันแดดให้ทั่วทุกตำแหน่งที่สัมผัสแสงแดด ต้องทาล่วงหน้า 30-60 นาที ก่อนออกไปสัมผัสแสงแดด และควรทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง แต่ถ้าว่ายน้ำ เล่นกีฬาทางน้ำ หรือเหงื่อออกมาก ก็ต้องทาครีมกันแดดซ้ำบ่อยขึ้น เช่น ทุก 1 ชั่วโมง และควรเลือกครีมกันแดดชนิดที่กันน้ำ

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “ประเสริฐประธานไฟแรงลั่นปรับนกแอร์ปี61”



นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ อดีตมือผู้นำ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าหลังเข้ารับตำแหน่ง ประธานกรรมการ (บอร์ด) บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) โดยพร้อมจะคลี่คลายปัญหาต่าง ๆ ที่ผู้โดยสารร้องเรียนโดยหารือร่วมกับฝ่ายบริหารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างจริงจัง พร้อมทั้งจัดทำบริการเที่ยวให้ตรงเวลาตามตารางที่กำหนดไว้ รวมถึงปรับปรุงการสื่อสารกับผู้โดยสารขั้นตอนปฏิบัติต่าง ๆ  เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ใช้บริการทุกกลุ่มสอดคล้องกับที่รัฐบาลให้ทุกฝ่ายร่วมกันรักษาภาพลักษณ์ที่ดีในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

ส่วนปัญหาเรื่องการดำเนินงานของนกแอร์ พร้อมสร้างมั่นใจจะต้องดีขึ้น เพราะรู้สาเหตุใหญ่มาจากต้นทุนดำเนินงานสูง แต่การใช้งานเครื่องบินยังไม่เต็มประสิทธิภาพ บอร์ดจะร่วมมือกันทำให้ปี 2561 นี้เปลี่ยนแปลงนกแอร์ด้วยแผนการฟื้นฟูกิจการ นำร่องไปแล้วช่วงแรก 3 เดือน ระหว่าง ธ.ค. 2560 – ก.พ. 2561 แนวโน้มก็จะดีขึ้นอย่างแน่นอน

ข่าวสอง “คลิกออฟรถไฟเร็วสูงเชื่อม3สนามบินในกรุง”

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่27 มี.ค.2561 อนุมัติให้เดินหน้าโครงการลงทุนวงเงิน 2.2  แสนล้านบาท ทำรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ระหว่างดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ระยะทาง 220 กิโลเมตร ในรูปแบบรัฐและเอกชนลงทุนร่วมกัน (PPP) ภาครัฐจะเป็นผู้ลงทุนค่ากรรมสิทธิ์ที่ดิน ส่วนเอกชนลงทุนด้านงานโยธา  ประเภท PPP Net Cost  โดยเอกชน 1 ราย รับงานโครงการไปทั้ง 100% ในการก่อสร้างและเดินรถให้สัมปทาน 50 ปี  แล้วทำหน้าที่ผู้บริหาร จัดเก็บรายได้ และแบ่งผลประโยชน์ให้รัฐ

ส่วนรัฐจะช่วยอุดหนุนโครงการไม่เกินมูลค่างานโยธา 1.6 แสนล้านบาท เมื่อครบสัมปทาน 50 ปีแล้ว จะมีต่อสัญญาต้องโอนคืนรัฐอย่างเดียว  ตามขั้นตอนจากนี้ 1.จัดทำเอกสารเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) เพื่อหาผู้ลงทุน 2.เสนอเข้า ครม.อีกครั้ง รถไฟสายทางนี้จะใช้ความเร็วที่ 250 กม.ต่อชั่วโมง มีทั้งหมด 5 สถานี คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ศรีราชา พัทยา และอู่ตะเภา ค่าโดยสารสูงสุด 330 บาท

ข่าวสาม “เจ้าท่าปรับใหญ่ฮับทางน้ำฝั่งอันดามัน”



นายณัฐ จับใจ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.)  กล่าวว่าได้ร่วมกับประชุมกับทุกภาคส่วนและการเสวนกับคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง "การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ 4 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน" และแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากจังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา และจังหวัดระนอง โดยมีข้อสรุปเรื่องสำคัญต้องเร่งดำเนินการทางน้ำ 5 โครงการ คือ

1. โครงการลงเรือ-ขึ้นเครื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรที่คับคั่งในภูเก็ต

2.โครงข่ายเชื่อมโยงเส้นทางเดินเรือภูเก็ต-พังงา-กระบี่ “วงแหวนแห่งอันดามัน” เพื่อใช้เดินทางทางเรือแก้ปัญหาจราจรทางถนนและนักท่องเที่ยวแออัดสนามบินภูเก็ต ใช้สนามบินคู่ภูเก็ต-กระบี่

3. กำหนดมาตรการและจัดระเบียบความปลอดภัยทางน้ำ ปลอดภัยของเรือ ท่าเรือ และคนประจำเรือ  เพื่อรองรับกิจกรรมทางน้ำรูปแบบต่างๆ โดยบูรณาการร่วมกับจังหวัดเพื่อแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางน้ำ

4.บูรณาร่วมกับจังหวัดภูเก็ต เพื่อบำรุงรักษาระบบของศูนย์ควบคุมการจราจรทางน้ำ (VTS) เพื่อความปลอดภัยและจัดระเบียบการสัญจรทางน้ำ

5. การพัฒนาและแก้ไขข้อจำกัดผลักดันภูเก็ตขึ้นเป็น Marina Hub อย่างสมบูรณ์ โดยพัฒนาท่าเรือ ความลึกของร่องน้ำ เพื่อรองรับเรือขนาดใหญ่ โดยการประชุมเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ 4 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน

ติดตามรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
ผู้ดำเนินรายการ และบล็อกเกอร์ ท่องเที่ยว-การบิน

วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2561

การบินไทยจัดโปรโมชั่นแห่งปี"รักคุณเท่าฟ้า2561"ลดแหลกตั๋ว-ทัวร์-ROP-บัตรกำนัล 29มี.ค.-1เม.ย.61


การบินไทยจัดใหญ่58ปีรักคุณเท่าฟ้า 2561
ลดแจกไม่ยั้ง“ตั๋ว-ทัวร์-ROP”29มี.ค.-1เม.ย.นี้

https://www.matichon.co.th/news/892388

เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza www.facebook.com/penroongyaisamsaen


การบินไทยจัดเต็มมหกรรมขาย “รักคุณเท่าฟ้า 2561” ยึดพื้นที่ห้างหรูใจกลางเมือง “ลานแฟชั่นฮอลล์ สยามพารากอน ชั้น1” 29 มี.ค.- 1 เม.ย.นี้ จัดทัพใหญ่โปรโมชั่นแบบไม่ยั้งฉลอง 58 ปี ทั้ง “ตั๋ว-แพกเกจทัวร์เอื้องหลวง-สปาทรีตเมนต์-สิทธิ์พิเศษ ROP-แจกบัตรกำนัลสูงสุด 4,000 บาท” ชวนเที่ยวในประเทศเมืองยอดฮิตเชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา 3 วัน 2 คืน รวมทุกอย่างแล้วราคาเริ่มต้นแค่ 4,500 บาท และลัดฟ้าพักผ่อนต่างประเทศแบบสบายกระเป๋าเริ่มที่ 12,100 บาท ที่สิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น 3 ไฮไลต์ และนิวซีแลนด์



บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เตรียมจัดมหกรรมการขายโครงการ “รักคุณเท่าฟ้า 2561” ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม -1 เมษายน 2561 เป็นงานออกบูธขายตั๋วโดยสารราคาพิเศษประจำปี ในโอกาสฉลองครบรอบ 58 ปี โดยนางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทย จะนำทีมผู้บริหารพร้อมนายณภัทร เสียงสมบุญ นักแสดงและตัวแทนของลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Y เปิดงานอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 29 มีนาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป ณ ลานแฟชั่นฮอล ชั้น 1 สยามพารากอน

ภายในงาน “รักคุณเท่าฟ้า 2561” มีกิจกรรมมากมายให้แฟนคลับและลูกค้าของการบินไทยร่วมช้อป ตั๋วโดยสารทั้งในและต่างประเทศราคาลดสุด ๆ ในรอบปีจอ พร้อมแพกเกจทัวร์เอื้องหลวงหรือ Oryal Orchid Holidays (ROH) สิทธิพิเศษมากมายในการแลกคะแนนสะสม รอยัล ออร์คิด พลัส (ROP) ทั้งแพกเกจคะแนนโบนัส หรือแลกของรางวัลสินค้าที่ระลึก บริการตรวจสอบบัญชีสะสมไมล์ การแจกบัตรกำนัลเมื่อจ่ายด้วยบัตรมาสเตอร์การ์ดตลอดการช้อปสินค้าการบินไทย และร่วมสนุกกับกิจกรรมมากมายได้ตลอดงานทุกวัน ณ ลานแฟชั่นฮอล ชั้น 1 สยามพารากอน ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.


การบินไทยได้นำโปรโมชั่นมาเสนอตลอดงานด้วยแพกเกจท่องเที่ยวกับ “ทัวร์เอื้องหลวง” เมื่อเดินทางเป็นคู่สำหรับ 2 คน จองซื้อและเดินทางได้ระหว่างวันนี้ – 30 กันยายน 2561 มีให้เลือกทั้งแพกเกจ “ท่องเที่ยวในประเทศ” สู่จังหวัดยอดนิยม แพกเกจละ 3 วัน 2 คืน รวมตั๋วโดยสารการบินไทย ไป-กลับ ชั้น และค่าภาษีกับธรรมเนียม โรงแรมที่พัก (ราคาขึ้นอยู่กับการเลือกระดับโรงแรมพัก) พร้อมอาหารเช้า เริ่มจากแพกเกจท่องเที่ยว “เชียงใหม่” เริ่มต้นที่ 6,600 บาท และ 7,100 บาท ฟรีเซ็ตจิบชายามบ่าย 1 มื้อ “ภูเก็ต” เริ่มต้นที่ 4,700 บาท 5,300 บาท 6,600 บาท และ 8,100 บาท พิเศษคูปองส่วนลดอาหารอีก 500 บาท “กระบี่” เริ่มต้นที่  8,200 บาท “เขาหลัก-พังงา” เริ่มต้นที่ 4,500 บาท และ 5,400 บาท พิเศษฟรีเช็ตชายามบ่าย

สำหรับ โปรโมชั่น สปาและทรีตเมนท์ จากเอื้องหลวง มีโรงแรมแบรนด์ชั้นนำเข้าร่วมทั้ง Amatara, Hyatt Regency, La VALA และ CASSIA นำเสนอแพเกจสปา 3 วัน 2 คืน อาทิ โปรแกรมการทำสปาและทรีตเมนท์ Holistic Anti-aging Treatment ที่ Amatara Wellness Resort จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันนี้ – 30 กันยายน 2561 ราคาเริ่มต้นที่ 48,800 บาท รวมตั๋วโดยสารการบินไทย ไป-กลับ ชั้นประหยัด และภาษีกับค่าธรรมเนียม รถรับส่งระหว่างสนามบิน-โรงแรม  โปรแกรม Anti-aging treatment รวมกิจกรรมตลอดการเข้าพัก และ สปาแพกเกจ 3 วัน 2 คืน ที่ Wareerak Yoga Retret จังหวัดกระบี่ ระหว่าง 1 พฤษภาคม -30 กันยายน 2561 ราคาเริ่มต้นที่ 14,200 บาท รวมตั๋วโดยสารการบินไทย ไป-กลับชั้นประหยัด และค่าภาษีกับธรรมเนียม รถรับส่งสนามบินไป-กลับโรงแรมที่พัก พร้อมอาหารเช้า อาหารกลางวัน 2 มื้อ อาหารเย็น 2 มื้อ โปรแกรมทำสปาและกิจกรรมระหว่างการพัก



ส่วนแพกเกจเอื้องหลวง “เดินทางพักผ่อนต่างประเทศ” รวมตั๋วโดยสารการบินไทย ไป-กลับ ชั้นประหยัด และค่าภาษีกับธรรมเนียม ที่พัก ในแต่ละประเทศ เริ่มจาก “ฮ่องกง” 3 วัน 2 คืน วันนี้ – 30 กันยายน 2561 ราคาเริ่มต้นที่ 12,500 บาท พิเศษ ! หากซื้อตั๋วรถรับส่งสนามบิน-โรงแรม 1 คน แถมฟรี 1 คน และ “ฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์” 2 วัน 1 คืน ระหว่างวันที่ 22 เมษายน – 30 มิถุนายน 2561 ราคาเริ่มต้นที่ 12,100 บาท ที่พัก (ไม่รวมอาหารเช้า) บัตรเข้าสวนสนุกฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ 2 วัน รับฟรีร่ม Iron Man ได้สิทธิ์ลำดับต้น ๆ ในการผ่านเข้าไปชมเครื่องเล่นในสนุกฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ และซิมการ์ดฮ่องกงทัวริสต์

ท่องเที่ยว “สิงคโปร์” สุดชิล 3 วัน 2 คืน กับแพกเกจ Singapore Super Save ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2561 ราคาเริ่มต้นที่ 14,900 บาท รวมตั๋วโดยสารการบินไทยไป-กลับ ชั้นประหยัด ที่พัก รถรับส่งสนามบิน – โรงแรม และเลือกรับฟรีเพียง 1 รายการ คือ บัตรเข้าชม S.E.A.อควอเรียม 1 วัน หรือ บัตรเข้า การ์เด้น บาย เดอะ เบย์ 2 โดม ทั้ง 2 รายการนี้จะไม่รวมรถรับ – ส่ง

ท่องเที่ยว “ญี่ปุ่น” สบาย ๆ กับแพกเกจ Osaka in Your Stlye 4 วัน 3 คืน ระหว่างวันนี้ – 30 มิถุนายน 2561  ราคาเริ่มต้นที่ 22,400 บาท รวมตั๋วโดยสารการบินไทยไป-กลับ ชั้นประหยัด ค่าภาษีและธรรมเนียม ห้องพักรวมอาหารเช้า และรถรับ - ส่ง ฟรี แพกเกจ Tokyo Free and Easy 3 วัน 2 คืน ระหว่างวันนี้ - 30 กันยายน 2561 ราคาเริ่มต้นที่ 23,400 บาท รวมตั๋วโดยสารการบินไทย ไป-กลับ ชั้นประหยัด ฟรีรถรับส่ง สนามบิน – สถานีรถไฟโตเกียว แพกเกจ Sapporo Flight & Rail 3 วัน 2 คืน ระหว่างวันนี้ - 30 กันยายน 2561 ราคาเริ่มต้นที่ 24,200 บาท

ท่องเที่ยว “นิซีแลนด์” แบบสบายกระเป๋า ระหว่างวันนี้ – 30 กันยายน 2561กับแพกเกจ New Zealand Fly & Drive ทัวร์เกาะเหนือ 4 วัน 3 คืน ราคาเริ่มต้นที่ 43,900 บาท และเกาะเหนือ-ใต้ 10 วัน 9 คืน ราคาเริ่มต้นที่ 77,700 บาท รวมตั๋วโดยสารการบินไทยไป – กลับ ชั้นประหยัด รวมค่าภาษีและธรรมเนียม ที่พัก รถเช่าแบบขับเอง

ภายในงาน “รักคุณเท่าฟ้า 2561” การบินไทยยังได้กิจกรรมของ “รอยัล ออร์คิด พลัส หรือ ROP” ให้เลือกตามความชอบถึง 5 สไตล์ ได้แก่ 1.Lifestlye Package Redemtion เปิดให้แลกรางวัลไลฟ์สไตล์แพกเกจสุดคุ้ม 2.Earn 2,500 bonus miles with your 1st THAI flight for online Enrolment รับโบนัส 2,500 ไมล์เมื่อสมัครสมาชิกผ่านระบบออนไลน์และเลือกเดินทางกับการบินไทยเส้นทางในประเทศ 3.Quiz of the day ร่วมสนุกกับกิจกรรมตอบคำถามประจำวัน พร้อมรับรางวัลของที่ระลึก 4.Redeem Miles for Royal Orchid Plus Premium Gift แลกรางวัลสินค้าที่ระลึกได้ตลอดงาน และ 5.Royal Orchid Plus Member Services รับบริการตรวจสอบบัญชีไมล์สะสม และแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลสมาชิกได้จากทีมงานคุณภาพของการบินไทย

สิทธิพิเศษภายในงาน เมื่อนักท่องเที่ยวซื้อตั๋วโดยสารการบินไทย แพกเกจเอื้องหลวง และสินค้าที่ระลึกจากร้าน THAI Shop เพียงแค่ชำระเงินผ่านบัตรมาสเตอร์ การ์ด รับทันที  4 บัตรกำนัล ตามมูลค่ายอดใช้จ่ายตลอดการช้อปภายในงาน “รักคุณเท่าฟ้า 2561” ได้แก่ 1.ระหว่าง 25,000-50,000 บาท รับบัตรกำนัลมูลค่า 1,000 บาท 2.ระหว่าง 50,001-75,000 บาท รับบัตรกำนัลมูลค่า 2,000 บาท 3.ระหว่าง 75,001-100,000 บาท รับบัตรกำนัลมูลค่า 3,000 บาท 4.ระหว่าง 100,001 บาทขึ้นไป รับบัตรกำนัลมูลค่า 4,000 บาทs



พบกับมหกรรม “รักคุณเท่าฟ้า 2561” ของการบินไทยตลอดงาน 4 วัน 29 มีนาคม – 1 เมษายน 2561 ณ แฟชั่นฮอลล์ สยามพารากอน ตั้งแต่ 10.00 -20.00 น.

วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2561

สันธิญารีสอร์ตทุ่มลงทุน4เกาะดึงเงินมหาเศรษฐีโลกไหลเข้าชุมชน-ตามจูลาสสิกดูไดโนเสาร์ยิมที่กาฬสินธุ์

เจาะใจ“แดนนี่”สันธิยารีสอร์ตผู้นำธุรกิจหรู
ลงทุน4เกาะดูดเงินเศรษฐีโลกไหลสู่ชุมชน
พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดทัพซันเดย์บรันซ์ เม.ย.
ททท.เหนือผนึกEECชวนเด็กเที่ยวข้ามภาค
ททท.รุกทำธรรมาภิบาลขึ้นองค์กรดีเด่นปี’64
บางจากลุ้นไบโอดีเซลEBIDAปี’61แตะ400ล.
พระราชทานชื่อลู่ปั่น“เจริญสุขมงคลจิต”ทอท.
ตามรอยจูลาสสิกไดโนเสาร์ยิ้มที่กาฬสินธุ์
ทุกคนผอมได้ต้องหันมาบริโภคอาหารกาก ๆ
บางกอกแอร์เพิ่มบินเวียงจันทน์วันละ2เที่ยว
นกแอร์รื้อแผนใหม่เลิกดีเลย์ช่วงสงกรานต์
คมนาคมให้เดินทางฟรีทุกทาง11-18เม.ย.
เจแปนแอร์ไลน์ชวนร่วมแจกทุนฟรีเด็กไทย
โรงแรมอัมราฯเสิร์ฟข้าวแช่ต้นตำรับเม.ย.นี้

ต้อนรับสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. อ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen  และบล็อกเกอร์ #gurutourza

ช่วงที่ 1 เจาะใจ “กลชัย-แดนนี่ สุโกมล” นักการตลาดมืออาชีพในวงการธุรกิจรีสอร์ตแถวหน้าของเมืองไทย จะมาเปิดเครือข่าย “สันธิญารีสอร์ตแอนด์สปา” โปรเจ็กต์ที่พักหรูหราทำด้วยไม้สักทองทุกโครงการเจ้าเดียวในประเทศทุ่มทำ 4 เกาะ รวมเงินลงทุนมูลค่าค่อนหมื่นล้านบาท โดยทำดีไซน์อนุรักษ์วัฒนธรรมไทยแท้ ปักธงบริการตามเกาะต่าง ๆ ทั่วฝั่งอันดามัน อ่าวไทย พร้อมดูดทรัพย์มหาเศรษฐีทั่วโลก หลั่งไหลเข้าสู่ชุมชนเกาะพะงัน-เกาะยาวใหญ่-เกาะช้าง-พังงา โดยจ้างคนท้องถิ่นทำงานเพียบ แถมอุดหนุนวัตถุดิบชาวเลผลิตอาหาร สร้างต้นแบบซีเอสอาร์ธุรกิจคืนประโยชน์สู่สังคม

กลชัย-แดนนี่ สุโกมล
รองกรรมการผู้จัดการเครือสันธิญา รีสอร์ต แอนด์ สปา


กลชัย-แดนนี่ สุโกมล รองกรรมการผู้จัดการเครือสันธิญา รีสอร์ต แอนด์ สปา เปิดเผยว่าในฐานะผู้พัฒนาการลงทุนรีสอร์ตสไตล์หรูหราสร้างจากไม้สักทองเน้นรักษาธรรมชาติ ความสงบ ทำเลของรีสอร์ตจะกระจายอยู่ตามเกาะต่าง ๆ ทางฝั่งอันดามัน อ่าวไทย เปิดบริการมากว่า 12 ปี 3 โครงการ และกำลังเตรียมเปิดใหม่โครงการที่ 4 ในพังงา ขณะนี้มูลค่ารวมการลงทุนทุกโครงการเกือบครึ่งหมื่นล้านบาท นำร่องจากการพัฒนารีสอร์ตต้นแบบแห่งแรกบนเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เรื่อยไปจนถึงเกาะยาวใหญ่ เกาะช้าง และเกาะในฝั่งจังหวัดพังงา



โครงการแรก “สันธิญา รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะพะงัน” เป็นแม่แบบการก่อสร้างทั้งอาคารทำด้วยไม้สักทองและไม้รีทรีตวู้ดคือไม้ที่นำกลับมาใช้อีกครั้ง เช่น หมอนรางรถไฟ บ้านหรือเรือนโบราณ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวยุโรป อเมริกา รวมปีละกว่า 80 % และมีเซลิบริตี้คนไทยนิยมมาพักผ่อนเช่นกัน ด้วยแม่เหล็กสำคัญคือทำเลที่ตั้งล้อมกรอบด้วยธรรมชาติทางทะเล ตั้งอยู่ระหว่างเกาะสมุย เกาะเต่า



ส่วนการเดินทางต้องนั่งเครื่องบินมาลงสนามบินสมุย ต่อเรือเร็วสปีดโบ๊ต จุดขายที่โดดเด่นเป็นเกาะใหญ่อันดับ 4 ของภูเก็ต ซึ่งมีต้นทุนสูงความนิยจากทั่วโลกสูง คือ 1.ธรรมชาติ 2.งานฟูลมูนปาร์ตี้ คืนวันพระจันทร์เต็มดวง ศูนย์รวมนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แต่สันธิญารีสอร์ตไม่ได้อยู่ใกล้หาดริ้นสักเท่าไร เน้นนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบความเงียบสงบหรูหราท่ามกลางธรรมชาติทางทะเล


ช่วงฤดูการเดินทางไปท่องเที่ยวเกาะพะงันจะแตกต่างจากทะเลอันดามันฝั่งอื่น คือ อากาศจะดีมากเมษายน-กันยายน ของทุกปี ทางโรงแรมรีสอร์ตแถวเกาะพะงัน สมุย เกาะเต่า เดือนราคาห้องพักสูง กรกฎาคม-สิงหาคม ส่วนเดือนอื่น ๆ จะมีโปรโมชั่นและส่วนลดทั้งคนไทยและต่างชาติ ช่วงสงกรานต์ 2561 ชวนกันมาท่องเที่ยวได้ สามารถเดินชมธรรมชาติ


โครงการที่ 2 “สันธิญารีสอร์ต เกาะยาวใหญ่” มีห้องพักเปิดได้กว่า 5 ปี ทำเลโครงการตั้งอยู่ระหว่างภูเก็ต พังงา กระบี่ สามารถใช้วิธีเดินทางได้หลายแบบ ห้องพักยังคงคอนเซ็ปต์เป็นไม้สักทองดีไซน์ไทยแท้ เก็บรักษาไม้ป่า ความร่มรื่น ไว้ครบทุกอย่าง ปลอดจากแหล่งบันเทิงและเสียงอึกทึก เน้นดูแลวัฒนธรรมท้องถิ่น ทำห้องเป็นพูลวิลล่าทุกห้องมีสระว่ายน้ำในตัว พร้อมกับมีบริการถึง 6 ห้องอาหาร เพื่อให้สัมผัสทั้งอาหารถิ่นและอินเตอร์เนชั่นแนล

บริเวณ สันธิญารีสอร์ต เกาะยาว มีทีมถ่ายทำภาพยนตร์ ละคร หลายเรื่องมาใช้สถานที่ ช่วยต่อยอดความเป็นไทยผสมผสานกับวิถีชีวิตการพักผ่อนเมืองทะเลในชุมชน เผยแพร่สู่สังคมภายนอก อีกทั้งเกาะยาวมีชาวมุสลิมอาศัยอยู่ ดำเนินชีวิตเรียบง่าย สงบเงียบ น่าค้นหาในหลากหลายเรื่อง

นักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการจะเป็นตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ทั้งยุโรป อเมริกา ส่วนคนไทยก็มีบ้างที่ชอบความเป็นไทยแท้ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ 5 ดาว เหมาะกับกลุ่มที่ชอบความสงบ



โครงการที่ 3 สันธิญา เกาะช้าง จังหวัดตราด นักท่องเที่ยวคนไทยจะคุ้นเคยเป็นอย่างดีสามารถขับรถจากกรุงเทพฯ ไปได้ หรือจะนั่งเครื่องบินไปลงสนามบินตราด แต่ช่วงวันหยุดระยะยาวคิวรถนำลงเรือเฟอร์รี่จะยาวใช้เวลานาน แต่ถ้าเลือกพัก “สันธิญา เกาะช้าง” บนหาดคลองพร้าว ห้องพักระดับ 4 ดาวครึ่ง เน้นสไตล์ไทยเช่นกัน หาดทรายชายทะเลเงียบสงบสวยงามไม่แพ้เกาะพะงัน

แดนนี่กล่าวว่านโยบายของรัฐบาลที่ใช้มาตรการกระตุ้นคนไทยเที่ยวในประเทศแล้วนำไปใช้ลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้ จึงเป็นอีกพลังที่ช่วยทำให้ยอดจองห้องพักโรงแรมระดับไฮเอนด์ได้อานิสงส์ไปด้วย


โดยภาพรวมราคาห้องพักของเครือ “สันธิญา รีสอร์ต” ในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว เริ่มต้น 3,000 บาท/ห้อง/คืน พร้อมกับโปรโมชั่นแจกแถมแตกต่างกันไปตามช่วงเวลา ยกเว้นช่วงฤดูท่องเที่ยวหรือไฮซีซันราคาจะสูงพอสมควรเพราะมีชาวต่างชาติจองพักจำนวนมาก จองล่วงหน้ายาว 6-7 เดือน ราคาจะขยับเพิ่มเป็น 30-40 % เริ่มต้นขึ้นเป็นตั้งแต่ 8,000 สูงสุดแตะ 50,000 บาท/ห้อง/คืน

ดังนั้นเครือ “สันธิญา รีสอร์ต” ทั้งบนเกาะพะงัน เกาะยาว เกาะช้าง ถือได้ว่าเป็นรีสอร์ตดึงดูดเม็ดเงินจากทั่วโลกหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศปีละหลายพันล้านบาท และสามารถกระจายสู่ท้องถิ่นในชุมชนรอบรีสอร์ต เพราะแต่ละพื้นที่ที่เข้าไปลงทุนเปิดธุรกิจทางเจ้าของมุ่งเน้นปรับตัวให้เข้ากับท้องถิ่นเป็นอันดับแรก เช่น เกาะพะงัน เกาะยาวใหญ่ ทางรีสอร์ตใช้วัตถุดิบจำนวนมากจากท้องถิ่น ทำให้คนในชุมชนเร่งให้เราเปิดบริการเร็ว เพื่อพนักงานจะได้ไม่ต้องข้ามฝั่งไปทำงานบนเกาะภูเก็ต ปัจจุบันสันธิญา เกาะพะงัน จึงมีคนท้องถิ่นทำงานอยู่ด้วยมากถึง 40 % สร้างงานสร้างรายได้ระยะยาว

สำหรับวัตถุดิบอาหารทะเลที่จะนำมาทำอาหารต้อนรับนักท่องเที่ยว ก็รับซื้อจากชาวประมงท้องถิ่น แล้วนำมาปรุงเป็นเมนู Cash of the day นักท่องเที่ยวในใจเป็นอย่างมาก รวมถึงการเข้าไปร่วมสนับสนุนและนำพนักงานไปสนับสนุนการปลูกป่าชายเลน หรือแม้แต่โครงการวิ่งคนละก้าวของ ตูน บอดี้สแลม ทางสันธิญารีสอร์ตก็ส่งทีมไปร่วมกิจกรรมดังกล่าวด้วย

แดนนี่ย้ำว่า เครือสันธิญา รีสอร์ต พร้อมที่จะดำเนินธุรกิจบริการรีสอร์ตสไตล์หรูหราบนเกาะธรรมชาติในฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามันอย่างรับผิดชอบต่อชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม และพร้อมจะทำการตลาดเชิงรุกเพื่อนำรายได้จากตลาดคนรวยทั่วโลกเข้ามากระจายเม็ดเงินลงสู่ท้องถิ่นอย่างยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาลและหน่วยงานที่รวมพลังกันพยายามผลักดันสร้างความเข้มแข็งในระบบเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทย

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดเต็มเดย์บรันซ์เม.ย.-พ.ค.”



โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดทำโปรโมชั่น SUNDAY BRUNCH สุดพิเศษห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก เมื่อจองออนไลน์ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 มิถุนายน 2561 รับไปเลยส่วนลด 30% เพื่อรับประทานบุฟเฟต์มื้อสาย ๆ ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ทุกวันอาทิตย์ เวลา 12.00 – 15.00 น.ซึ่งเสิร์ฟอาหารทะเลชั้นเลิศและอาหารนานาชาติกว่า 50 เมนู พร้อมกิจกรรมสำหรับครอบครัว  ในราคาปกติคนละ 1,750 บาท รวมเครื่องดื่ม เด็กอายุต่ำกว่า 11 ปี รับประทานฟรี 1 คน

สิทธิพิเศษ หากจองออนไลน์ หรือ สมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ รับส่วนลด 30% โดยจ่ายเพียงคนละ 1,225 บาทสุทธิ
สมาชิกบัตรแอคคอร์ พลัส รับส่วนลดตามสิทธิประโยชน์จากราคาปกติเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีรับประทานฟรี อายุ 5-11 ปีรับส่วนลดพิเศษ 50% จากราคาปกติ

ไลน์บุฟเฟต์พร้อมเสิร์ฟความอิ่มอร่อยเต็มที่ด้วยอาหารทะเลสด ๆ อาทิ ปูนานาชาติ ก้ามปูหิมะ ปูสีน้ำตาล ปูม้า หอยนางรมฟิน เดอ แคลร์จากฝรั่งเศส หอยนางรมแปซิฟิก หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กุ้งก้ามแดง กั้ง เนื้อวัวอาซาโด้ย่างสไตล์ลาติน นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา บาร์บีคิวอาหารทะเล เมนูญี่ปุ่น ซาซึมิ เมนูชีส และอาหารจากทั่วโลก คัดสรรอย่างพิถีพิถันโดยหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ ปรุงจากวัตถุดิบออร์แกนิค และโครงการหลวงที่ดีต่อสุขภาพ พร้อมเครื่องดื่มเติมไม่อั้น

เป็นบุฟเฟต์ภายใต้แนวความคิดใหม่ The Facet of Foliage อาหารทุกเมนู ณ ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊กจะปรุงขึ้นโดยใช้วัตถุดิบออร์แกนิคและโครงการหลวง อาทิ ซูชิแซลมอนข้าวไรซ์เบอร์รี่ โยเกิร์ต สลัดออร์แกนิค และมุมดีท็อกซ์ที่เสิร์ฟน้ำผลไม้หลากชนิดตั้งแต่สูตรต้านอนุมูลอิสระไปจนถึงสูตรเสริมสร้างพลังงานซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าทุกเมนูในโปรโมชั่น Sunday Brunch ของเราจะทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพของทุกคน

ข่าวที่ 2 “ททท.เหนือผนึกEECจัดดึงเด็กทัวร์ข้ามภาค”



นางสมฤดี จิตรจง ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า     ททท. จับมือกับศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษาประเทศไทย (Environmental Education Centre Thailand: EEC Thailand)  จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมศึกษากับกิจกรรมของ EEC Thailand 2561 เพื่อส่งเสริมกลุ่มเยาวชน ครอบครัว (MultiGen) และเจนวาย (Gen Y) ท่องเที่ยวด้วยจิตสำนึก ดูแลรักษาและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและบริหารจัดการขยะในแหล่งท่องเที่ยว ตามที่รัฐบาลมีนโยบายผลักดันให้ประเทศไทยยกระดับเศรษฐกิจของประเทศภายใต้นโยบาย “Thailand 4.0” กระตุ้น3 กลุ่มหลัก คือ เยาวชน เจนวาย และครอบครัว ท่องเที่ยวข้ามภาค เที่ยวเมืองรองทั่วประเทศ 55 จังหวัด ชุมชนและสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่น (Go Local) กระจายรายได้เข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวและชุมชน

จากสถิติพบว่านักท่องเที่ยวชาวไทย อายุ 15 ปีขึ้นไป ประมาณ   63.2 % นิยมเที่ยวกับครอบครัวและญาติ แบ่งเป็นนักเรียน/นักศึกษา มากถึง 79.1 % ททท. จึงกับ EEC Thailand หน่วยงานที่ส่งเสริมให้สังคมมีความรู้และความเข้าใจต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ จัดกิจกรรมฯ ขึ้น เพื่อปลุกกระแสท่องเที่ยวข้ามภาคอย่างยั่งยืนแล้วทำให้ตลาดกลุ่มดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการบอกต่อและกระจายข่าวสาร ความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อการท่องเที่ยวไทยต่อไป

นายอเล็กซ์ซานเดอร์ ไซมอน เรนเดลล์ กรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้งศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษาประเทศไทย (EEC Thailand) กล่าวว่าพร้อมร่วมมือกับ ททท.อย่างเต็มที่เพื่อจัดกิจกรรมสร้างจิตสำนึกที่ถูกต้องเรื่องสิ่งแวดล้อม ปลูกฝังให้เยาวชนดูแล รักษา และอนุรักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติ นำเสนอความน่าสนใจด้านการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคต่างๆ พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับคนท้องถิ่นมีบทบาทการจัดการทรัพยากรและการเคารพต่อองค์ความรู้ของชุมชนโดยเฉพาะด้านทรัพยากรธรรมชาติ โดยตัวอย่างกิจกรรมไฮไลต์ดังนี้

การเรียนเรื่องช้างและการอนุรักษ์ช้างไทย จังหวัดนคราชสีมา  การเรียนรู้สายพันธุ์กล้วยไม้ป่า จังหวัดเลย การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล จังหวัดกระบี่ การดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล จังหวัดพังงา


ข่าวที่ 3 “ททท.โหมขึ้นผู้นำธรรมาภิบาลในปี’64”



นายยุทธศักดิ์  สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า  ททท. วางแผนทำโครงการพัฒนาเส้นทางสู่การมีธรรมาภิบาล โปร่งใสรับผิดชอบ เป็นรัฐวิสาหกิจดีเด่นให้สำเร็จภายในปี 2564 ตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และโครงการที่จะพัฒนา ททท. อย่างรอบด้าน โดยจัดกิจกรรมพัฒนาสังคมควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากร และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีภายในองค์กร ทำให้เป็นศูนย์กลางกระจายข้อมูลด้านการท่องเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติมาใช้บริการ ค้นหาข้อมูล หรือสอบถามข้อมูลแบบ 360 องศา และสร้างกิจกรรมเพื่อความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้บริหาร พนักงานในองค์กร พันธมิตร

ซึ่งมีตัวแทนองค์กรร่วมสนับสนุน ได้แก่ นายกลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าแห่งประเทศไทย นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นางสาวศุภวรรณ ถนอมเกียรติ นายกสมาคมโรงแรมไทย นายวิชิต  ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว ผู้แทนจากมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล

ททท. ได้เปิดตัวโครงการ "ขับเคลื่อนนโยบาย 4.0 ด้วยโมเดล TAT360" คือ การรู้รอบตัว ใส่ใจรอบด้าน เพื่อขับเคลื่อนสู่การเป็นรัฐวิสาหกิจชั้นนำ ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล และสอดคล้องกับการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ เปิดโอกาสให้ทุกคนในองค์กรสามารถเสนอความคิดเห็นด้านต่างๆ ค้นหาความคิดใหม่ ๆ เพื่อนำมาปรับปรุงการทำงาน ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายทั้งภายในและภายนอกองค์กร ในระยะเวลา 2 ปีนี้ จึงถือเป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง เพื่อพัฒนาองค์กรให้ไปสู่รางวัลอันทรงเกียรติ  ถือเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานของ ททท.ที่จะสร้างความยั่งยืนแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยแบบครบวงจร

รวมทั้งตระหนักถึงความสำคัญส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมทางสังคม การส่งเสริมภูมิปัญญาชาวบ้าน สร้างความภาคภูมิใจกับฐานทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ผ่านกิจกรรมที่ต่าง เช่น  Amazing Thailand Go Local  ด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองทั่วประเทศ 55 จังหวัด มุ่งสร้างอุปสงค์เพื่อให้เกิดการเดินทางเข้าสู่ชุมชนและเมืองรอง พร้อมด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านอุปทาน และท่องเที่ยวสำหรับทุกคน (Tourism For All) ส่งเสริมการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับกับการเดินทางของนักท่องเที่ยวทุกวัย รวมถึงผู้พิการ และสานต่อตามรอยศาสตร์พระราชา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมกับนำรายได้เข้าสู่ชุมชนเพื่อเป้าหมายการสร้างเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง

อีกทั้งยังได้จัดส่งเสริมการพัฒนาด้านธรรมาภิบาลด้วยกิจกรรม TAT Hero การสร้างเครือข่ายกับองค์กรหรือหน่วยงานภายนอก เปิดโอกาสให้ ททท. ได้รับทราบความคิดเห็นของผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อจะนำข้อมูลเหล่านี้มาสร้างสรรค์และจัดทำแผนบริหารจัดการให้การท่องเที่ยวให้เกิดประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลต่อองค์กรภายนอกและสังคมโดยรวม  รวมถึงกิจกรรม TAT SPIRIT เพื่อส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ของ ททท. มีความเป็นมืออาชีพ มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้

ข่าวที่ 4 “บางจากลุ้นไบโอดีเซลทำEBIDAเข้าเป้า400ล้าน”


นายชัชพล ประสพโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC  กล่าวว่า UAC ถือหุ้นประมาณ 30% ใน บริษัท บางจาก ไบโอฟูเอล จำกัด (ในเครือของ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ) ได้ประเมินผลประกอบการของธุรกิจไบโอดีเซลช่วงไตรมาส 1 ปี 2561 แนวโน้มจะมีสัญญาณดีกว่าปี 2560 จากการเดินเครื่องโรงงาน (Plant Utilization) กว่า 90% ของกำลังผลิตสูงสุดเดือนละ 24 ล้านลิตร จึงคาดการณ์ว่ากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ของธุรกิจนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายปีละ 400 ล้านบาท

รวมถึงสถานการณ์ภาพรวมธุรกิจไบโอดีเซล ปีนี้มีแนวโน้มสดใสมากขึ้น จากนโยบายของภาครัฐหันมาส่งเสริมโดยกำหนดให้ปรับเพิ่มสัดส่วนไบโอดีเซล (B 100) ในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจากเดิม 5% หรือ B5 เป็น 7 % หรือ B7 สำหรับน้ำมันดีเซลในประเทศอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันบริษัทร่วมทุนยังอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ที่จะต่อยอดธุรกิจไบโอดีเซล เพื่อการทำผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มี High Value Added (HVA) Products อาทิ การผลิต Refined Glycerin สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง การทำ Biopolymer เพื่อทดแทนเม็ดพลาสติกต่างๆ ด้วย ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไร (Margin) ในระดับสูง เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ในรูปแบบเดิม

ข่าวที่ 5 “พระราชทานชื่อลู่ปั่นเจริญสุขมงคลจิต”ของทอท.


สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานนามใหม่แก่สนามลู่ปั่นจักรยานในบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า สนามลู่ปั่นจักรยาน “เจริญสุขมงคลจิต” และชื่อภาษาอังกฤษว่า  “HAPPY AND HEALTHY BIKE LANE” ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ตลอดจนพสกนิกรทุกหมู่เหล่าเป็นล้นเกล้าล้นกระหม่อม โดยจะใช้นามพระราชทานนี้ในการสื่อความ และการประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง แทนชื่อเดิม สกายเลน ไทยแลนด์ นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ปัจจุบัน สนามลู่ปั่นจักรยาน “เจริญสุขมงคลจิต” อยู่ระหว่างการทดลองให้บริการ โดยเปิดบริการ                           ทุกวันเสาร์ถึงวันพุธ ตั้งแต่เวลา 06.00 – 19.00 น.โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และหยุดทุกวันพฤหัสบดีและวันศุกร์     เพื่อปรับปรุงโครงสร้างและสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการอย่าง                 เต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้ สำหรับการเข้าปั่นในสนาม นักปั่นจะต้องใช้สายรัดข้อมืออัจฉริยะ SNAP ในการลงทะเบียนเข้า - ออกจากสนาม พร้อมยังสามารถใช้ชำระค่าอาหารและเครื่องดื่มที่จำหน่ายในบริเวณสนามได้อีกด้วย โดยนักปั่นที่ยังไม่มี SNAP สามารถนำบัตรประชาชน และโทรศัพท์มือถือลงทะเบียนรับ  SNAP ได้ฟรีที่สนาม

โครงการสนามลู่ปั่นจักรยาน “เจริญสุขมงคลจิต” มีระยะทางทั้งสิ้น 23.5 ก.ม. เป็นโครงการซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และมุ่งหวังให้เห็นถึงความสำคัญของการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง สนับสนุนกิจกรรมที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นตอบแทนประโยชน์และความสุขต่อประชาชนและสังคม

สอบถามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสนามลู่ปั่นจักรยาน “เจริญสุขมงคลจิต” ได้ทาง Facebook : สนามลู่ปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต

ช่วงที่ 2 ชวนกันไปกระจายรายได้ในดินแดนไดโนเสาร์ยิ้มได้แห่งเดียวในเมืองไทย ที่สหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ แล้วจะรู้ว่าอีสานมีของดีกว่าที่เคยได้ยินอีกหลายมุม ลองไปย้อนความสนุกตามจินตนาการจูลาสสิคปาร์ค กันได้ แล้วจากนั้นก็มาตามติดกับเรื่อง “ทุกคนผอมได้ด้วยการกินอาหารกาก ๆ” ส่วนข่าวสุด ๆ ในรอบสัปดาห์ “บางกอกแอร์” เริ่มแล้ว 25 มีนาคม นี้เป็นต้นไป เพิ่มเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ วันละ 2 เที่ยว “นกแอร์” เคลียร์แผนเลิกดีเดย์ตลอดสงกรานต์ปีนี้ “คมนาคม” เปิดทุกโหมดเดินทางฟรีให้ประชาชนกลับบ้านช่วงสงกรานต์ 11-18 เม.ย.นี้ “โรงแรมอมรา กรุงเทพฯ” นำข้าวแช่สูตรต้นตำรับเสิร์ฟตลอดเม.ย.-พ.ค.นี้ และ

@เที่ยวเมืองไดโนเสาสหัสขันธ์ กาฬสินธุ์


ตามไปดูรอยยิ้มจูลาสสิค “ไดโนเสาร์ สหัสขันธุ์” จังหวัดกาฬสินธุ์ ในมุมใหม่เหนือจินตนาการในโลกแห่งความเป็นจริงที่จับต้องได้ใน “พิพิธภัณฑ์สิรินธร-อุทยานโลกไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว” นับเป็นแหล่งที่สมบูรณ์ใหญ่สุดแห่งเดียวในเมืองไทย



ตามหลักฐานการค้นพบในภูกุ้มข้าว อำเภอสหัสขันธุ์แห่งนี้ เมื่อไปถึงนักท่องเที่ยวจะได้เห็นซากไดโนเสาร์กินพืชพันธุ์ “ซอโรพอดส์” ถึง 7 ตัวนอนเรียงกันตายรวมกันอยู่จนกลายเป็นฟอสซิล บริเวณใกล้กันก็มีซากปลาโบราณสายพันธุ์ใหม่ของโลกอายุกว่า 130 ล้านปี ให้ชมเป็นบุญตาด้วย

แถมรอบสวนสาธารณะในอำเภอสหัสขันธ์ยังได้จำลองเป็นสวนสัตว์ไดโนเสาร์ให้เด็ก ๆ ได้วิ่งเล่นกัน และทางผ่านเชื่อมต่อไปยังภูกุ้มข้าวก็มีประติมกรรรมไดโนเสาร์ปั้นไว้เท่าขนาดของจริงสายพันธุ์ต่าง ๆ  มากมาย แยกเป็นชนิดกินเนื้อทีเร็กซ์ และกินพืชอย่างซอโรพอดส์



สวนสัตว์จำลองไดโนเสาร์ จึงเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมลงไปแชะภาพเพื่อแชร์สู่โลกโซเชียล

เมื่อถึงภูกุ้มข้าวก็จะได้พบกับ “พิพิธภัณฑ์แหล่งขุดค้นภูกุ้มข้าว” ของกรมทรัพยากรธรณี ซึ่งเป็นหลุมขุดภาคสนามที่เจ้าหน้าที่พบซากไดโดเสาร์พันธุ์ซอโรพอดส์สมบูรณ์ที่สุดในเมืองไทย ที่มาของเจ้าซากไดโดเสาร์ที่นอนเรียงกันตาย 7 ตัวนั่นเอง

ไม่ไกลกันนักก็มี “พิพิธภัณฑ์สิรินธร” นำเสนอเรื่องราวไดโดเสาร์ด้วยนิทรรศการเกี่ยวกับธรณีวิทยาและซากดึกดำบรรพ์ ด้วยการเล่าเรื่องวิวัฒนาการต่อเนื่องมาจนถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เหมาะกับจะพาครอบครัวและเด็ก ๆ ไปเที่ยวดูให้เห็นกับตา

นอกจากที่ภูกุ้มข้าวแล้ว ยังมีแหล่งไดโนเสาร์อีกแห่งแต่ขนาดเล็กกว่าอยู่แถว ๆ “อุทยานภูแฝก” มีหลักฐานยืนยันว่าอายุของไดโนเสาร์แถบนี้อายุกว่า 140 ล้านปี

กาฬสินธุ์ในภาพจำท่องเที่ยวมุมใหม่จึงเป็นดินแดนที่น่าสนใจมิใช่น้อย นอกจากในอุทยานและพิพิธภัณฑ์แล้วรอบ ๆ เมืองก็ได้จำลองไดโดเสาร์ให้เด็ก ๆ และผู้ที่ชื่นชอบได้ตื่นตากัน

ก่อนกลับแวะ “วัดสักกะวัน” ไหว้พระแดนอีสาน เพื่อความเป็นสิริมงคล แล้วพบกันที่ดินแดนรอยยิ้มไดโนเสาร์แห่งเดียวของเมืองไทยได้ที่สหัสขันธ์ กาฬสินธุ์

@ทุกคนผอมได้ด้วยการกินอาหารกาก ๆ
เครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย โดย พญ. ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

การลดน้ำหนัก ไม่ใช่การตะบี้ตะบันอดอาหารเพื่อจำกัดแคลอรี่ และการจะหุ่นดีได้ ไม่จำเป็นต้องนั่งนับแต่แคลอรี่เข้า แคลอรี่ออก แต่การลดน้ำหนักเพื่อให้หุ่นดีนั้น ต้องอาศัยการรู้จักเลือกประเภทอาหาร รู้จักเลือกรับประทานแป้งเชิงซ้อน ไขมันดี โปรตีนดี และเลือกรับประทานอาหารกากๆ

อาหารกาก ๆ เริ่มกันตั้งแต่อาหารหลักของคนไทยเราคือ ข้าว แค่เปลี่ยนจากข้าวขาว มาเป็นข้าวกล้อง ก็ช่วยให้เราได้กำไรกากใยมากขึ้น ถัดจากข้าวกล้องแนะนำให้ลองชิม ข้าวโอ๊ตหรือข้าวบาร์เล่ย์ ซึ่งมีเส้นใยอาหารเบต้ากลูแคน ที่มีคุณสมบัติช่วยให้อิ่มท้องนาน

นอกจากข้าวแล้ว ธัญพืชต่างๆไม่ว่าจะเป็นเมล็ดทานตะวัน เม็ดแตงโม เมล็ดฟักทอง หรืออาหารนกอื่นๆ ก็จัดเป็นแหล่งของเส้นใยอาหารที่ดี

กลุ่มสุดท้ายแต่กากมากมายสุดคือ ผักและผลไม้ ควรตั้งเป้ารับประทานให้ได้ 5 กำมือต่อวัน (ผักและผลไม้รวมกัน) ยิ่งผลไม้ที่รับประทานได้ทั้งเปลือกหรือเมล็ด ก็จะยิ่งได้กำไรกากมากขึ้น ที่สำคัญคือ อย่าใช้เครื่องแยกกากทิ้ง แล้วดื่มแต่น้ำ เพราะส่วนกากนี่แหละคือทีเด็ดของผักผลไม้

วันนี้ทุกคนสามารถผอมได้โดยไม่ต้องอด แค่อย่าลืมถามตัวเองทุกวันว่า “วันนี้เรากินอาหารกากๆ พอหรือยัง

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “บางกอกแอร์เพิ่มบินเวียงจันทน์วันละ2เที่ยว”

สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส รายงานว่า ตั้งแต่ 25 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป เพิ่มความถี่เที่ยวบินเส้นทางกรุงเทพฯ – เวียงจันทน์ (สปป.ลาว) เป็นวันละ 2 เที่ยว จากเดิม 1 เที่ยว ด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส เอ319 ขนาด 138 ที่นั่ง รหัส  PG949 ออกจากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)  17:35 น. ถึงเวียงจันทน์ 18:50 น. และ PG940 ออกจากเวียงจันทร์ 19:35 น. ถึงกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)  20:50 น.


สอบถามข้อมูลเพิ่มที่ www.bangkokair.com หรือ Call Center โทร 1771 ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถทำเช็คอินด้วยตนเองล่วงหน้าก่อนเดินทาง 24 ชั่วโมง ที่ www.bangkokair.com/web-check-in หรือบางกอกแอร์เวย์สโมบายแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนทุกเครือข่ายทั้ง iOS และ Android

ข่าวที่สอง “นกแอร์ปรับแผนใหม่เลิกดีเลย์ตลอดสงกรานต์นี้”

นายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ กล่าวว่า วางแผนปรับแผนให้บริการผู้โดยสารเพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาวเรื่องดีเลย์เครื่องออกจากสนามบินล่า โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์เมษายนนี้จะไม่มีเที่ยวบินล่าช้าอย่างแน่นอน ด้วยวิธีนำเครื่องบินทุกลำออกมาให้บริการให้สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น พร้อมกับเลื่อนปลดระวางฝูงบิน 2 ลำ ไปเป็นเดือนพฤษภาคม 61 แต่จะเช่าเครื่องระยะยาว อายุ 5 ปี เข้ามาแทน

ปัจจุบันนกแอร์มีฝูงบิน 29 ลำ แบ่งเป็น โบอิ้ง 737-800, บอมบาดิเอร์ Q400 และเอทีอาร์ 72-500 บินภายในประเทศ 24 เมือง ได้แก่ กรุงเทพฯ กระบี่ ขอนแก่น ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง นครพนม นครศรีธรรมราช น่าน บุรีรัมย์ พิษณุโลก แพร่ ภูเก็ต แม่สอด ร้อยเอ็ด ระนอง ลำปาง เลย สกลนคร สุราษฎร์ธานี หาดใหญ่ อุดรธานี และอุบลราชธานี และบินระหว่างประเทศ แบบประจำ 2 เมือง คือ ย่างกุ้ง (เมียนมาร์) โฮจิมินห์ (เวียดนาม) และแบบเช่าเหมาลำ 9 เมือง คือ เฉิงตู หนานหนิง เจิ้งโจว โฮฮอท หนานทง เหยียนเฉิง ไหโข่ว หยินฉวน และหนานชาง

ข่าวที่สาม “คมนาคมเปิดฟรีทุกโหมดเดินทางช่วงสงกรานต์”

นายสราวุธ ทรงศิวิไล โฆษกกระทรวงคมนาคม กล่าวว่าที่ประชุมแผนอำนวยความสะดวกและปลอดภัยรองรับการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 ของกระทรวงคมนาคม มีมติให้ทุกโหมดการเดินทางระหว่าง 11-18 เม.ย.2561 จัดทำมาตรการอำนวยความสะดวกการเดินทางหลัก ๆ  คือ

1.การให้บริการฟรี ได้แก่ กรมทางหลวง(ทล.) ยกเว้นค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 เส้นทางกรุงเทพฯ-พัทยา และหมายเลข 9 (บางปะอิน-บางพลี)  และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กพท.) ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) เริ่มตั้งแต่ 00.01 น. ของวันที่ 11 เม.ย. ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 18 เม.ย.61

2.บริการฟรีจากรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรียลลิงค์  รถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที 2 สายทางคือ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บางซื่อ-หัวลำโพง (ใต้ดิน) และสายสีม่วง บางใหญ่-เตาปูน

3.บริการฟรีรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) สำหรับบุคคลที่มีอายุตั้งแต่60ปีขึ้นไป ในวันผู้สูงอายุ 13 เม.ย. ตลอดทั้งวัน

ข่าวที่สี่ “เจแปนแอร์ไลน์ชวนสนับสนุนทุนเด็กไทย”

นายฮิโตชิ โมริโมโตะ ผู้จัดการระดับภูมิภาคอินโดจีน เอเชียใต้และทวีปย่อย สายการบินแจแปน แอร์ไลน์ส โดยกล่าวว่า ได้มอบเงินจากการจัดแข่งขันกอล์ฟการกุศล JAL Mileage Bank Charity Golf 2018 ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แก่มูลนิธิ EDF (มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา) เพื่อจัดสรรเป็นทุนการศึกษามอบให้แก่นักเรียนไทยที่ด้อยโอกาสในความดูแลของมูลนิธิ โดยมี นายเรอิจิ อูเอดะ ที่ปรึกษาฝ่ายรณรงค์ทุนมูลนิธิ EDF เป็นผู้แทนรับมอบ

ส่วนหน่วยงานหรือบุคคลที่สนใจสนับสนุนทุนการศึกษา หรือร่วมทำกิจกรรมกับมูลนิธิ EDF ติดต่อได้ที่อีเมล public@edfthai.org โทร.02 579 9209-11 หรือwww.edfthai.org สำหรับการบริจาคหรือทำกิจกรรมผ่านมูลนิธิ EDF สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีตามกฎหมาย

ข่าวที่ห้า “โรงแรมอัมราเสิร์ฟข้าวแช่ต้นตำรับเม.ย.-พ.ค.นี้”

โรงแรมอัมรา กรุงเทพ นำเมนูดับร้อนต้อนรับตลอดเมษายน-พฤษภาคม 2561 ด้วยต้นตำรับข้าวแช่ลอยในน้ำดอกมะลิหอมเย็นชื่นใจ ราคาชุดละ 420 บาท  เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงหลากหลาย อาทิ ลูกกะปิทอด พริกหยวกสอดไส้ เนื้อเค็มฝอยผัดหวาน ผักกาดเค็มผัดหวาน ปลาแห้งผัดหวานรวมไปถึงผักสดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแตงกวา กระชาย มะม่วงดิบ และอื่น ๆ
จองซื้อข้าวแช่ของอัมรา กรุงเทพฯ ได้ทางอีเมล fnb.bangkok@amarahotels.com หรือ โทร 02 021 8888

ข่าวที่หก “ชมนิทรรศการอนาคตระบบราง 28-29มี.ค.นี้”
กระทรวงคมนาคม"และ"กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชวนไปชมความยิ่งใหญ่แห่งอนาคตของระบบรางเมืองไทยในงาน The 4th RISE and Rail Asia Expo 2018 ประชุมวิชาการและแสดงนิทรรศการอุตสาหกรรมระบบขนส่งทางรางไทย ครั้งที่ 4 และ Rail Asia Expo 2018 ระหว่างวันที่ 28-29 มีนาคม บริเวณลานชั้น 2 สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์มักกะสัน กรุงเทพฯ

ประกอบด้วยธีม นวัตกรรมโลก นโยบายชดเชยการจัดซื้อจัดจ้าง และความเชี่ยวชาญไทย มุ่งสู่การพัฒนาระบบรางแห่งภูมิภาคอาเซียนแบบบูรณาการ-ASEAN Integration of Global Innovation, Offset Policy and Thai Expertise in The Development of The Regional Rail Network และ RAIL INDUSTRY กับ JOB FAIR ลงทะเบียนเข้าร่วมงานทางออนไลน์ http://eps.net.my/railasia18/index.asp



ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

จับตา!!ต่างชาติเที่ยวไทยแผ่ว3เดือนแรกไม่ถึง10ล้านคน

  นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 1 ม.ค.-31 มี.ค.2568 ได้แค่ 9.5 ล้านคน จับตา !! ต่างชาติเที่ยวไทยแผ่ว 3 เดือนแรกไม่ถึง 10 ล้านคน เม.ย.นี้ร...