ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กองพลฯที่1ต่อยอด“สวนป่าเฉลิมพระเกียรติฯสวนผึ้ง”5.2แสนไร่  ชูแหล่งผลิตอาหาร-อาชีพสู่การท่องเที่ยวชุมชนเชิงอนุรักษ์ยั่งยืน -More Fun บ้านทุ่งนามุ้ย ภูกระเหรี่ยง นครนายก

กองพลฯที่1ต่อยอด“สวนป่าเฉลิมพระเกียรติฯสวนผึ้ง”5.2แสนไร่
 ชูแหล่งผลิตอาหาร-อาชีพสู่การท่องเที่ยวชุมชนเชิงอนุรักษ์ยั่งยืน
คิงเพาเวอร์จัดเต็มฟรี/ดินเนอร์วันแม่”มหานครแบงค็อกสกายบาร์”
สมาชิกคิงเพาเวอร์กินร้านดังชั้น3รางน้ำลดสุด ๆ 15% ถึงธ.ค.นี้
ททท.ใช้TGTM2019นำไทยผงาดฮับกอล์ฟโลกงัด4Gเพิ่มรายได้
24สตาร์ตอัพไทยได้แรงหนุนททท.ชิมลางเจาะทัวร์คุณภาพนอร์ดิก
บางจากครึ่งปีแรกธุรกิจดีโกยกำไรพันล้านทำรายได้เฉียดแสนล้าน
TCEBผนึก2พันธมิตรขยายผลไมซ์สร้างสรรค์พร้อมผงาดอินเตอร์
MoreFun!!“บ้านนามุ้ย-ภูกระเหรี่ยง”เมืองรองต้องไปนครนายก
ปลุกคนไทยป้องกันแก้โรคหลอดเลือดสมองหันมาออกกำลังกาย
 การบินไทยงัดแต้มROPแลกตั๋วลด50%บินรอบโลก13 เส้นทาง
 ไทยสไมล์ผุดWeblogขานรับนักเดินทางพันธุ์ใหม่ในโลกโซเชียล
สุวรรณภูมิใจป้ำเปิดฟรีลานจอดรถพร้อมชัตเตอร์บัสถึง13ส.ค.

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen ติดตามในบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าว #เที่ยวกับกู๋ #สวนป่าเฉลิมพระเกียรติสวนผึ้ง # # 

ช่วงที่ 1 บุกป่าไปเจาะลึก “พันเอกวณัฐ ลักษณสิริ” ผู้บังคับการกรมพัฒนาที่ 1 กองพลที่ 1  เล่าถึงการดูแลรับผิดชอบ พัฒนา ต่อยอด “โครงการสวนป่าเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี กว่า 520,000 ไร่ แหล่งผลิตอาหาร การฟื้นฟูธรรมชาติ ฝึกชาวบ้านเข้าสู่อาชีพด้านงานศิลป์สาขาต่าง ๆ ทั้งปักทอไหม-ฝ้ายจก ทำเครื่องปั้นดินเผา จักสานไม้ไผ่ละเอียด เรื่อยไปจนถึง “ยามชายแดน” อาสาสมัคร รักษาผืนป่าให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ตลอดจนถึงเปิดโซน “การท่องเที่ยวชุมชนเชิงอนุรักษ์” เชิญชวนไปเยี่ยมชม ศึกษาเรียนรู้ กิจกรรมโครงการต่าง ๆ แล้วอุดหนุนผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ทำให้ชาวบ้านมีรายได้จากการท่องเที่ยวและขายสินค้าอย่างมั่นคงเข้มแข็งตลอดไป

พันเอกวณัฐ ลักษณสิริ ผู้บังคับการกรมพัฒนาที่ 1กองพลที่ 1  เปิดเผยว่า ในฐานะกองพลที่ 1 รับผิดชอบดูแลโครงการสวนป่าเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เกิดขึ้นจากพระราชปนิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงต้องการฟื้นฟูผืนป่าเสื่อมโทรมโดยรวบรวมพันธุ์ไม้ป่าเพื่อศึกษาและขยายพันธุ์เพื่อจะได้ไม่สูญพันธุ์รวมทั้งฟื้นฟูรักษาสภาพป่าเดิมที่ยังคงเหลืออยู่ในภาคตะวันตกของไทย ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ เมื่อปี 2535 ที่ผ่านมา พสกนิกรร่วมกับมูลนิธิศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดราชบุรี กองทัพบก คณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานงานโครงการพระราชดำริ โดยมีท่านผู้หญิงสุประภาดา เกษมสันต์ อดีตผู้อำนวยการกอง กองเลขานุการในพระองค์ เป็นประธานการดำเนินงาน ได้ร่วมกันจัดสร้างโครงการสวนป่าเฉลิมพระเกียรติฯ ด้วยความจงรักดีเพื่อถวายแด่พระองค์ท่าน เมื่อปี 2532 ได้เริ่มดำเนินโครงการ โดยในวันที่ 10 สิงหาคม 2533 จึงเปิดโครงการอย่างเป็นทางการพร้อมทั้งได้รับพระราชทานนามว่า “สวนป่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ภาคกลาง” ต่อมาเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2534 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร ได้ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานพิธีปลูกป่าเป็นปฐมฤกษ์เนื้อที่ 100 ไร่ ทรงปลูกต้นพยุงบริเวณแก่งส้มแมว ต่อมาได้ปลูกป่าต่อเนื่องเต็มพื้นที่ 3,000 ไร่ จากนั้นในปีเดียวกัน 2534 คณะทำงานฯ ได้สำรวจพบป่าสงวนแห่งชาติบริเวณฝั่งซ้ายของแม่น้ำภาชี และป่าพรุยาง พรุสามซ้อน อำเภอปากท่อ มีพื้นที่กว่า 136,200 ไร่ มีสภาพป่าสมบูรณ์ควรค่าแก่การอนุรักษ์จึงได้จัดสร้าง “อุทยานเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน” เมื่อ 11 มกราคม 2536 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินทรงรับการถวายอุทยานเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ณ ศูนย์ศึกษาพันธุ์ไม้ป่า ปี 2536 คณะทำงานฯ สำรวจพบว่ายังมีผืนป่าในป่าสงวนแห่งชาติฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชีมีความอุดมสมบูรณ์อีก 3 แห่ง พื้นที่รวม 79,746 ไร่ บริเวณอำเภอสวนผึ้ง ทางกรมป่าไม้ขอรับเป็นหน่วยดำเนินการสนองงานในโครงการสวนป่าเฉลิมพระเกียรติฯ ต่อมาคณะทำงานฯ ทั้งหมดได้ผนวกรวมพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชแม่น้ำภาชี รวม 305,820 ไร่ เข้าเป็นพื้นที่สวนป่า สรุปรวมแล้วขณะนี้มีพื้นที่กว่า 520,000 ไร่ ครอบคลุม 25 หมู่บ้าน 3 ตำบล ในอำเภอสวนผึ้ง อำเภอปากท่อ และอำเภอบ้านคา พันเอกวณัฐกล่าวว่าขณะนี้ได้ดำเนินการพัฒนาเป็นไปตามแนวทางของกองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 1 แยกปฏิบัติภารกิจเป็น 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านที่ 1 การพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนในพื้นที่ ด้านที่ 2 ความมั่นคง เกี่ยวข้องกับบริเวณชายแดน ด้านที่ 3 การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงนี้เป็นการให้ความรู้ เชิญชวนให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมและสำคัญคือประชาชนในพื้นที่ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ในส่วนของกองพลพัฒนาที่ 1 มีแนวคิดเสริมได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อพัฒนาป่าทั้งหมดทำให้โครงสร้างการปฏิบัติมีความชัดเจน โดยมีคณะทำงาน 5 ชุด ได้แก่ พัฒนาที่ดิน พัฒนาแหล่งน้ำ พัฒนาป่า พัฒนามนุษย์ พัฒนาความมั่นคง ภายใต้ 3 แนวคิด ประกอบด้วย ความมั่นคง คุณภาพชีวิต และทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ส่วนการพลิกชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนคนในพื้นที่อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต โครงการพระราชดำริทั้งหมด ตามศาสตร์พระราชารัชกาลที่ 9 เป็นโครงการที่ดีทั้งหมด ประชาชนได้ประโยชน์ โดยนับรวมโครงการสวนป่าเฉลิมพระเกียรติฯ ตั้งแต่เริ่มโครงการปี 2532 มาจนถึง 2562 รวม 30 ปี ตั้งแต่เริ่มวันที่ 10 เมษายน 2534 ที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นประธานปลูกป่าปฐมฤกษ์ นับระยะเวลา 28 ปี ต้นไม้ที่ปลูกฟื้นผืนป่าเสื่อมโทรมได้ 3,000 ไร่ เพราะการต่อยอดของประชาชน เอกชน กระทั่งปัจจุบันลำต้นไม้มีขนาดสูงใหญ่มาก จากที่คนในพื้นที่ได้ช่วยกันดูแล ส่วนราชการเข้ามาบริหารจัดการ ทำให้ผืนป่าทั้งหมดมีความอุดมสมบูรณ์ขึ้นอย่างมากรักษาผืนป่าไว้ได้ ในพื้นที่ส่วนขยายกว่า 520,000 ไร่ นั้น ก็มีส่วนปลุกจิตสำนึกประชาชน โดยมี “ยามชายแดน” และ “ราษฎรอาสาสมัคร” ติดตามดูแลอย่างต่อเนื่อง มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ เพราะฉนั้นปัจจุบันโครงการสวนป่าเฉลิมพระเกียรติฯ สามารถเป็นป่าต้นน้ำที่อุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำภาชี หล่อเลี้ยงชุมชนสองข้างทางได้ตลอดทั้งปีเพียงพอต่อครอบครัวตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง อนาคตจะต่อยอดโครงการพระราชดำริ เพื่อให้ประชาชนได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและที่อยู่อาศัยได้ อีกทั้งชาวชุมชนชาติพันธุ์ต่าง ๆ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจัดให้มีการสอนอาชีพงานศิลป์เป็นรายได้เสริมให้แก่ครอบครัว สอนทางด้าน งานเครื่องปั้นดินเผา งานทอและปักผ้าไหม ผ้าจก งานจักสานไม้ไผ่ละเอียด ปลูกหม่อนเลี้ยงและสาวไหม ซึ่งเดิมคนในชุมชนทำอาชีพรับจ้างรายวันไม่ค่อยรู้จักการทำงานศิลป์ ส่งผลให้ปัจจุบันชาวบ้านเป็นศิลปาชีพเต็มตัว มีรายได้จากการเข้าฝึกเป็นประจำ มีชิ้นงานรังสรรค์รวบรวมส่งกองศิลปาชีพ พิจารณาจากชิ้นงานแล้วมอบเงินให้ตามศักยภาพความสามารถ แล้วนำออกแสดง จำหน่าย ตามงานต่าง ๆ เช่น งานศิลป์แผ่นดิน หรืองานเสด็จพระราชดำเนินต่างประเทศ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เคยตรัสเสมอว่า “การขาดทุน คือกำไร” ทรงมีพระราชดำรัสพระราชทานไว้ว่า “ขาดทุนคือกำไร การเสียคือการได้” ประเทศชาติจะก้าวหน้า การที่คนอยู่ดีมีสุข เป็นมูลค่าที่นับเป็นเงินไม่ได้ จากพระราชดำรัสดังกล่าวคือหลักการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยเรื่องการให้และเสียสละ เป็นการกระทำอันมีผลเป็นกำไรคือความอยู่ดีมีสุขของราษฎรนั่นเอง พันเอกวณัฐกล่าวว่า ตามยุทธศาสตร์ในพื้นที่โครงการสวนป่าเฉลิมพระเกียรติฯ มีทั้ง “แหล่งผลิตอาหาร-และวนเกษตรบ้านหนองตาดั้ง” ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งธนาคารควาย-โรงเรียนสอนควาย” เพื่อทำการเกษตรปลูกข้าว พืชไร่ โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องจักร รวมทั้งมีฟาร์มตัวอย่าง โดยสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ที่มีอยู่ในโครงการสวนป่าเฉลิมพระเกียรติดังกล่าว ทางผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีจึงเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดราชบุรี รวมทั้งเชื่อมโยงไปยังศูนย์ศิลปาชีพแก่งส้มแมว บ้านพุระกำ (หมู่บ้านชายแดนสุดท้ายติดเทือกเขาตะนาวศรี แนวเขตกั้นชายแดนไทย-เมียนมา) ด้วย เป็นการโซนนิ่งพื้นที่ท่องเที่ยว โดยไม่ได้จำกัดขอบเขต ต้องการให้นักท่องเที่ยวเข้ามา “ท่องเที่ยวเพื่อชุมชน” สร้างรายได้จับจ่ายใช้สอยจากการอุดหนุนสินค้าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เนื่องจากเป็นพื้นที่ชายแดนจึงมีกองกำลังดูเป็นปกติ ส่วนมากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจะเป็น “กลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์” มีทัศนคติที่ดีต่อการดูแลทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมภายในพื้นที่ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่แต่ละฝ่ายดูแลอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี พันเอกวณัฐกล่าวตอนท้ายว่า คนไทยสามารถมีส่วนร่วมดูแลพื้นที่ป่าและคนในชุมชนรอบผืนป่า ตามศาสตร์พระราชา ตามแนวทางของพระองค์ท่านคือ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” เป็นสิ่งเริ่มต้นสำคัญที่จะนำมาขยายความ เพื่อให้ทุกส่วนได้ทราบถึงความเป็นจริง แล้วก็มีความรู้ ความเข้าใจ อย่างถ่องแท้ เพื่อให้คนไทยทั้งหมดเห็นถึงความสำคัญ โดยเฉพาะคนในพื้นที่จะมีส่วนร่วมหวงแหนแผ่นดินและใช้ชีวิตในแผ่นดินเกิดได้ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้าใจก่อน แล้วจึงรักษาและต่อยอดโครงการพระราชดำริ โดยเฉพาะโครงการในความรับผิดชอบของกองพลพัฒนาที่ 1 กรมพัฒนาที่ 1 ได้ดำเนินการอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ที่จะขอให้ประชาชนช่วยกันต่อไป ฟังข่าวต้นชั่วโมง ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์จัดเต็มฟรี&โปรมื้อค่ำ”มหานครสกายบาร์” คิง เพาเวอร์ จัดแคมเปญสุดพิเศษตลอดเดือนแห่งวันแม่ เปิดให้พาแม่ชมฟรี “มหานคร สกาย วอร์ค” ชั้น 78 พร้อมโปรโมชั่นดินเนอร์สุดหรูที่ “มหานคร แบงคอก สกายบาร์” 12 ส.ค.นี้ ส่วน “คิง เพาเวอร์ รางน้ำ” จัดเต็มสมาชิกบัตรรับส่วนลดในร้านอาหารดังชั้น 3 สูงสุดถึง 15 % กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เชิญชวนทุกครอบครัวร่วมสร้างความสุขตลอดเดือนแห่งวันแม่ สิงหาคม 2562 เริ่มจาก “คิง เพาเวอร์ มหานคร” มอบโปรโมชั่นพิเศษในโอกาส “วันแม่แห่งชาติ -12 สิงหาคม 2562” จูงมือคุณแม่ ได้เปิดให้พาคุณแม่ขึ้นไปชมฟรี “มหานคร สกาย วอล์ค * เมื่อซื้อบัตรขึ้นชมบริเวณชั้น 78 อย่างน้อย 1 ใบ (เด็ก / ผู้ใหญ่ / ผู้สูงอายุ) สามารถเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์อันงดงามของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นจุดชมวิวชั้นดาดฟ้าแบบ 360 องศา และรูฟท็อปบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทยบนความสูง 314 เมตร ณ รวมถึงตื่นตาตื่นใจไปกับพื้นกระจกลอยฟ้าขนาดใหญ่ เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมกับจัดดินเนอร์มื้อค่ำวันที่ 12 สิงหาคม นี้ ราคาสุดพิเศษ ณ “มหานคร แบงค็อก สกายบาร์” มีบริการห้องอาหารและบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ได้จัดโปรโมชั่นมอบแด่คุณแม่ด้วยชุดอาหารค่ำ “Mothers Adore Seafood” อิ่มอร่อยในบรรยากาศเลิศหรู ราคาสุทธิเพียงคนละ 3,400 บาทเท่านั้น กับอาหารทะเล 4 คอร์ส ได้แก่ หอยนางรมจากแคว้นนอร์มังดี พานาคอตต้าไข่หอยเม่นฮอกไกโด กุ้งแม่น้ำอยุธยาเผาเสิร์ฟคู่กับแครอทและหน่อไม้ฝรั่ง ปิดท้ายด้วยเมนูของหวานมื้อค่ำล้ำค่ากับเมนูชอคโกแลตทาร์ต สำรองที่นั่งพร้อมจองโปรโมชั่นล่วงหน้าได้ที่ มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ โทร. 02-677-8722 หรือ www.mahanakhonbangkokskybar.com และติดตามโปรโมชั่นต่าง ๆ ของ มหานคร สกายวอล์ค และมหานคร แบงค็อก สกายบาร์ ได้ที่ www.facebook.com/KingPowerMahanakhon และ www.facebook.com/MahanakhonBangkokSkyBar ข่าวที่ 2 “สมาชิกคิงเพาเวอร์กินร้านยอดนิยมรางน้ำลดสุดๆ15%ถึงธ.ค.62” ขณะที่ “คิง เพาเวอร์ รางน้ำ” ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกบัตรประเภท NAVY, SCARLET และ ONYX รับส่วนลดในช่วงเดือนแห่งวันแม่ สิงหาคมต่อเนื่องไปจนถึง 31 ธันวาคม 2562 ที่ร้านอาหารยอดนิยมบริเวณชั้น 3 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ลดสูงสุดถึง 15 % ประกอบด้วย ส่วนลด 5 % ที่ร้าน Make Me Mango ร้าน Pinkberry ส่วนบัตร CROWN และ VEGA รับส่วนลด 10 % ที่ QQ Taiwanese Dessert สมาชิกแต่ละครอบครัวสามารถพาคุณแม่มาใช้สิทธิ์ดังกล่าวได้ตลอดทุกวันในเดือนสิงหาคมนี้ และชวนทุก ๆ คนไปรับประทานอาหารร้านดัง ๆ ได้จนถึงสิ้นปี 2562 เพียงแค่แสดงบัตรสมาชิก คิง เพาเวอร์ หรือแสดง Cardless รับสิทธิ์ใช้บริการที่ร้านอาหารดังกล่าว ข่าวที่ 3 “ททท.จัดTGTM2019ดันไทยฮับกอล์ฟโลกชูพ่วงขาย4Gโกย800ล้าน” นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้จัดมหกรรม Thailand Golf Travel Mart (TGTM) 2019 ให้ภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเจรจาซื้อขายการท่องเที่ยวระหว่างกลุ่มธุรกิจคนไทยกับทั่วโลก ขึ้นระหว่างวันที่ 6 - 9 สิงหาคม 2562 ณ โรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่ ได้เชิญผู้ซื้อ (Buyer) นานาชาติ 115 ราย ร่วมพบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ขาย (Seller) ซึ่งมาจากผู้ประกอบการไทย 97 หน่วยงาน ตั้งเป้าหมายเจาะกลุ่มเซ็กเมนต์ตลาดคุณภาพที่พร้อมใช้จ่ายเงินสูงและสามารถขยายฐานผลักดันให้ไทยเป็นประเทศศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟ (sport tourism Hub) ที่จะเพิ่มรายได้จากต่างชาติเพิ่มขึ้น เนื่องจากกอล์ฟเป็นตลาดความสนใจเฉพาะ สามารถต่อยอดการขายสินค้าท่องเที่ยวอื่น ๆ พ่วงเข้าไปได้อย่างหลากหลาย ขณะนี้ไทยเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวกอล์ฟติดอันดับ 3 ของโลก ปีละประมาณ 700,000-1,000,000 คน มีสนามกอล์ฟให้เลือกเล่นได้ตามความชอบครอบคลุมทั่วประเทศ 300 แห่ง ปี 2561 สร้างรายนักกอล์ฟที่เดินทางเข้ามาเล่นกอล์ฟสูงถึง 3,300 ล้านบาท ปี 2562 จะขยายรายได้เพิ่มขึ้นขั้นต่ำอีก 3 % นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท.กล่าวว่า การจัดงาน Thailand Golf Travel Mart (TGTM) 2019 ครั้งนี้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ตั้งเป้าการเจรจาธุรกิจตลอดงานจะสร้างรายได้ถึง 800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาราว 8-10 % เพราะโดยศักยภาพแล้วตลาดนักกอล์ฟเป็นกลุ่มที่มีความพร้อมใช้จ่ายเงินสูงมากเฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท/คน/วัน เฉลี่ยทริปละประมาณ 30,000-50,000 บาท/คน/ทริป จึงได้วางกลยุทธ์ใช้เวทีการจัดงานครั้งนี้ต่อยอดสื่อสารตลาดการขายท่องเที่ยวตั้งแต่ปลายปี 2562 เป็นต้นไป รวมถึงจะเร่งกระตุ้นการใช้จ่ายเพิ่มจากนักท่องเที่ยวกลุ่มกอล์ฟทั่วโลกที่เดินทางเข้ามาไทยด้วยธีม 4 G ประกอบด้วย G1-Golf สร้างมุมใหม่ให้นักกอล์ฟนานาชาติเข้ามาเล่นในไทย G2 -Game เป็นการละเล่นที่เติมเต็มสามารถสร้างความสุขและสร้างความสนุกสนานที่แตกต่างจากประเทศอื่น ๆ G 3-Goodtime มีช่วงเวลาดีแห่งความทรงจำที่ดีตลอดการเดินทางมาพักผ่อนในเมืองไทย และ G 4 Gastronomy โฆษณาประชาสัมพันธ์ให้นักกอล์ฟรับประทานอาหารถิ่นและอาหารยอดนิยมของไทย สำหรับนักกอล์ฟที่นิยมเดินทางเข้ามาใช้จ่ายเงินในไทยกลุ่มหลัก ๆ ยังคงเป็น จีน มีประมาณ 5-10 % ของนักท่องเที่ยวจีนรวมแต่ละปีที่เข้ามาไทยประมาณ 10 ล้านคน และเอเชียอย่าง เกาหลี ญี่ปุ่น อาเซียน ส่วนยุโรปก็มีบางกลุ่มประเทศเช่นกัน ระหว่างการจัดงาน Thailand Golf Travel Mart (TGTM) 2019 ทาง ททท.สำนักงานต่างประเทศทั่วโลกได้นำตัวแทนผู้ประกอบการกอล์ฟเดินทางเข้ามาพร้อมกับการขายแพกเกจนำกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มกอล์ฟเข้ามาด้วย นางอัญชลี คุ้มวงษ์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานปักกิ่ง กล่าวว่า ได้นำผู้ประกอบการกอล์ฟจากจีนกว่า 10 ราย พร้อมด้วยนักกอล์ฟที่ซื้อแพกเกจราคาคนละกว่า 30,000 บาท/คน เดินทางเข้ามาพร้อมกันเป็นหมู่คณะเพื่อมาเล่นกอล์ฟในไทยจำนวนกว่า 100 คน นางสาวเอิบลาภ ศรีภิรมย์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานสต็อกโฮม สวีเดน กล่าวว่า ได้จัดทำโครงการ 24 Start up Nordic เป็นกลุ่มนักธุรกิจไทยรุ่นใหม่ให้บุกเจาะเซกเมนต์ตลาดท่องเที่ยวในตลาดสแกนดิเนเวียกลุ่มกอล์ฟและกลุ่มที่พร้อมใช้จ่ายเงินด้วยคุณภาพสูง ระหว่างงานนี้ได้นำผู้ซื้อรายใหญ่ผู้นำตลาดจากสวีเดน 3-4 รายเข้ามาเจรจากับผู้ขายในงาน เนื่องจากนักท่องเที่ยวสวีเดนนิยมซื้อแพกเกจกอล์ฟมาเล่นในไทยใช้จ่ายเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท/คน/ทริป นายภูริต มาศวงศ์ศา ผู้จัดการทั่วไป ป่าตองรีสอร์ต จ.ภูเก็ต กล่าวว่าในฐานะเอกชนที่มีสนามกอล์ฟ Loch Palm Red Mountain Golf Club เข้าร่วมขายในงาน Thailand Golf Travel Mart (TGTM) 2019 ซึ่งเล็งเห็นถึงศักยภาพของกลุ่มผู้ซื้อรวมถึงกอล์ฟเป็นตลาดที่สามารถสร้างรายได้สูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไทย 2-3 เท่า ขณะนี้ทางโรงแรมได้ผนวกขายแพกเกจห้องพักรวมแพกเกจกอล์ฟเฉลี่ยประมาณ 20,000-30,000 บาท/คน/ทริป ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเล่นกอล์ฟจากตลาดเอเชีย ทั้งจีน เกาหลี ญี่ปุ่น อาเซียน ส่วนยุโรปมีบ้างประปราย ซึ่งการรุกเจาะเซ็กเมนต์ท่องเที่ยวกลุ่มตลาดกอล์ฟจะเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มรายได้เข้าภูเก็ต โดยเฉพาะช่วงนอกฤดูกาล (low season) ได้เป็นอย่างดี ขณะนี้ในภูเก็ตมีสนามกอล์ฟที่ได้มาตรฐานสากล 5 แห่ง และยังมีสนามกอล์ฟในพื้นที่จังหวัดใกล้เชียงอย่างพังงา กระบี่ รวม ๆ อีก 6 แห่ง ได้รับความนิยมจากนักกอล์ฟต่างประเทศเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ตลาดนี้จะเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปเนื่องจากสนใจเดินทางกลุ่มเฉพาะหรือ Niche market ข่าวที่ 4 “ททท.คัด24 สตาร์ทอัพไทยนำร่องเจาะตลาดนอร์ดิกปี’63” ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ททท. ได้จัดทำโครงการ Bringing the New Shades of Thailand to Nordic Travelers โดยคัดเลือกผู้ประกอบการกลุ่มสตาร์ทอัพ 24 ราย จากผู้สมัคร 92 ราย ที่เปิดรับสมัครเมื่อช่วงมิถุนายน-กรกฎาคม 2562 แล้วคัดผู้ผ่านเข้ารอบเข้ามานำร่องรุกทำตลาดกลุ่มประเทศนอร์ดิก ทั้ง สวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก และฟินแลนด์ ในปีงบประมาณ 2563 โดยจะทำครอบคลุมสินค้าและบริการรูปแบบต่าง ๆ ทั้งไลฟ์สไตล์ อาหาร สปาและเวลเนส กีฬา การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ การท่องเที่ยวเพื่อชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และบริการรับจองแบบ one stop services ทั้งนี้นักท่องเที่ยวนอร์ดิกเป็นตลาดคุณภาพจากฝั่งยุโรปเหนือ แต่ละปีมาเที่ยวประเทศไทยกว่า 7 แสนคน สร้างรายได้กว่า 64,000 ล้านบาท ใช้เวลาพักครั้งละกว่า 2 สัปดาห์/คน/ทริป จึงคาดหวังว่าสินค้าและบริการมุมมองใหม่นี้จะเป็นทางเลือกสร้างประสบการณ์ที่ดี และเพิ่มการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริปของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้อีกราว 5-10 % จากเดิมซึ่งมีการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริป 87,452 บาท ข่าวที่ 5 “บางจากโชว์ผลงานครึ่งปีแรกกำไรพันล้านรายได้เฉียดแสนล้าน นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรก 2562 บางจากฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 93,861 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5 % ทำกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อม (EBITDA) 4,147 ล้านบาท สร้างกำไรสุทธิ 1,070 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 742 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.54 บาท ส่วนผลประกอบการไตรมาส 2 ปี (เม.ย.-มิ.ย.2562) บริษัท บางจากฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 48,326 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6 % EBITDA 2,189 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 675 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 528 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.38 บาท โดยมาจากธุรกิจแต่ละประเภท ได้แก่ 1.โรงกลั่นและการค้าน้ำมัน มี EBITDA 650 ล้านบาท ทำอัตราการผลิตเฉลี่ย 112,670 บาร์เรลต่อวัน 2.กลุ่มธุรกิจการตลาด มี EBITDA 630 ล้านบาท มีปริมาณการจำหน่ายรวม 1,543 ล้านลิตร โดยผลการดำเนินงานดีขึ้นตามค่าการตลาดที่ปรับเพิ่มขึ้นและปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นจากการขยายฐานลูกค้า รวมทั้งการเปิดจำหน่ายน้ำมันดีเซล B20 ในโครงการ “บางจาก B20 เพื่อรถดีเซล ลดฝุ่น ประหยัดเงิน” เพื่อสนับสนุนนโยบายของกระทรวงพลังงาน และต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ “ไฮดีเซล B20s” รวมทั้งขยายการจำหน่ายในปั๊มครอบคลุมทุกภูมิภาค กว่า 400 แห่ง โดยบริษัท บางจากฯ ยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 2 ของประเทศไว้ได้เป็นอย่างมี มีส่วนแบ่งการตลาดสะสมเดือนมกราคม – มิถุนายน 15.8% จากการขยายสถานีบริการมาตรฐานบนพื้นที่ที่มีศักยภาพ และรักษามาตรฐานการบริการ ในรูปแบบ Greenovative Experience สิ้นไตรมาส 2 มีสถานีบริการรวมทั้งสิ้น 1,185 สาขา ขณะที่ธุรกิจ Non-Oil ทั้งร้านสะดวกซื้อ SPAR และร้านกาแฟอินทนิล ภายใต้การดูแลของบริษัท ได้แก่ 1.บางจาก รีเทล จำกัด ยังคงมีการพัฒนาการบริหารจัดการให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ มุ่งเน้นความเป็น Eco Brand โดยยกระดับร้านกาแฟอินทนิลที่มีการใช้ไบโอพลาสติกมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในไทย พร้อมขยายสาขาให้รองรับและเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น สิ้นไตรมาส 2 มีร้าน SPAR 46 สาขา และร้านกาแฟอินทนิล 541 สาขา 2.กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้าภายใต้การดำเนินงานของบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) บริษัทย่อยของบริษัท บางจากฯ มี EBITDA 721 ล้านบาท มีปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้ารวม 81.25 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง ผลิตไฟฟ้าในประเทศมีปริมาณจำหน่ายเพิ่มขึ้น 10 % ส่วนโครงการผลิตไฟฟ้าในไทยโครงการ “ลมลิกอร์” กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 8.965 เมกกะวัตต์ (กำลังการผลิตติดตั้ง 10 เมกกะวัตต์) ที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2562 โดยมีปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้า 2.5 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง 3.โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานทางเลือก จากเซลล์แสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น จำหน่ายไฟฟ้าลดลง 64 % รวมทั้งยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน 62 ล้านบาทของธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ ในอินโดนีเซีย และธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานลม ในฟิลิปปินส์ 4.ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพภายใต้การดำเนินงานของบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) บริษัทย่อยของบริษัท บางจากฯ มี EBITDA รวม 136 ล้านบาท 5.ธุรกิจผลิตเอทานอล มีปริมาณการผลิตและจำหน่ายเพิ่มขึ้น จากการขยายกำลังการผลิตของโรงงานผลิตเอทานอลของบริษัท เคเอสแอล กรีน อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) เป็น 300,000 ลิตรต่อวัน และบริษัท บางจากไบโอเอทานอล (ฉะเชิงเทรา) จำกัด มีการปรับปรุงประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น โดยรวมสามารถผลิตและจำหน่ายเอทานอลมีรายได้ 1,002 ล้านบาท 6.กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ มี EBITDA 145 ล้านบาท ช่วงครึ่งปีหลังบางจากฯ และบริษัทในกลุ่ม จะเดินหน้ามุ่งสร้างการเติบโตให้ธุรกิจในระยะยาวตามกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตทั้งกลุ่ม ตามแนวทางที่ดำเนินอยู่บนความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคมเพื่อสร้างความสมดุลอย่างยั่งยืน ซึ่งทำมากว่า 35 ปี ข่าวที่ 6 “TCEBผนึก2องค์กรปั้นไมซ์สร้างสรรค์สู่สากล” นางจารุวรรณ สุวรรณศาสน์ ผู้อำนวยการฝ่าย ไมซ์ อินเทลลิเจนซ์ และนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมกัน 3 พันธมิตร มี TCEB สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) จัดทำโครงการ“การพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์” (MICE) ของประเทศไทย ผ่าน 3 กิจกรรมหลัก มุ่งบ่มเพาะผู้ประกอบการ นักสร้างสรรค์ และวิสาหกิจเริ่มต้นของไทยให้มีศักยภาพทัดเทียมนานาประเทศ พร้อมก้าวสู่เวทีสากล รวมทั้งส่งเสริมการลงทุนและสร้างระบบนิเวศในสาขาวิสาหกิจเริ่มต้นด้านดนตรี ศิลปะ และกิจกรรมนันทนาการของไทยให้อยู่ในระดับมาตรฐานโลก โครงการนี้จะเพื่อช่วยเติมเต็มศักยภาพของผู้ประกอบการธุรกิจไมซ์ และวิสาหกิจเริ่มต้นในด้านดนตรี ศิลปะ และธุรกิจบันเทิงและการสร้างสรรจุดขายประเทศไทยในเชิง ที่จะกระตุ้นการลงทุนจากนักธุรกิจต่างชาติ และอนาคตจะขยายเวลาพำนักของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก่อให้เกิดมูลค่ารวมทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้อุตสาหกรรมไมซ์ของไทย ได้รับการจัดอันดับด้านการประชุมนานาชาติ จากสมาคมการประชุมนานาชาติระดับโลกปี 2561 อยู่ในอันดับ 4 ของเอเชีย รองจากญี่ปุ่น จีน และเกาหลี และครองอันดับ 1 อาเซียน ขณะที่ “กรุงเทพ” ติดอันดับ 2 ของโลกด้านการประชุมนานาชาติระดับเมือง ส่วนทีเส็บ ยังคงเดินหน้าปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้เชื่อมโยงทุกความสำเร็จ ทุก ๆ ด้าน เพื่อรองรับนโยบายเศรษฐกิจไทยแลนด์ 4.0 ตามเป้าหมาย 10 อุตสาหกรรม ช่วงที่ 2 ชวนไป More Fun “บ้านทุ่งนามุ้ย” อำเภอบ้านนา นครนายก กับการเช็คอินเดินบนสะพานไม้ไผ่ลัดเลาะท้องทุ่ง แวะเที่ยว “ภูกระเหรี่ยง” อุดหนุนชุมชน เที่ยวน้ำตก ส่วนการดูแลสุขภาพ “ปลุกคนไทยรุกป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง” และข่าวต้องฟัง “การบินไทยงัดโปรใช้แต้ม ROP” แลกตั๋วลด 50 % บินทั่วโลก 13 เมือง “ไทยสไมล์ผุดWeblog” เอาใจคนรุ่นใหม่ “สุวรรณภูมิใจป้ำ” เปิดลานจอดโซน C ให้นักท่องเที่ยวนำมารถมาจอดฟรีได้ถึง 13 ส.ค.นี้ @ More Fun มันสุดๆเที่ยวธรรมชาติทุ่งนามุ้ย นครนายก การได้เที่ยวแต่ละครั้งถือเป็นประสบการณ์ที่ได้เห็นสิ่งแปลกใหม่ ในความธรรมดาที่ไม่ธรรมดาของ “บ้านทุ่งนามุ้ย” อำเภอบ้านนา นครนายก เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวความสนุก More Fun อันน่าค้นหา ด้วยภาพจำสะพานไม้ไผ่ทอดยาวอยู่กลางทุ่งนาคดเคี้ยวรูปตัวเอสกลางท้องนาเขียวขจี เป็นจุดเช็คอิน ถ่ายรูปเก๋ ๆ มาชวนกันไปท่องเที่ยว แต่ละฤดูรอบบริเวณแห่งนี้ก็มีความแปลกแตกต่างกันไป บางช่วงสามารถปั่นจักรยานสูดโอโซนได้ตลอดเส้นทางช่วงเช้าและเย็น ทุกวันอาทิตย์ต้นเดือนจะมีกิจกรรมตักบาตรยามเช้ากลางทุ่งนาได้อารมณ์ในอีกบรรยากาศ ส่วนฤดูฝนก็ยังมีกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และผจญภัย ทั้ง การล่องแก่ง และปีนป่านเขาหล่น และกิจกรรมอีกสารพัดอย่างรอบพื้นที่ทุ่งนามุ้ย นครนายก สถานที่ท่องเที่ยวที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ก็มี “อุทยานวังตะไคร้” เป็นแหล่งล่องแก่งด้วยห่วงยาง และศูนย์รวมบัวกว่า 200 สายพันธุ์ เรื่อยไปจนถึงการกระโดดหออย่างท้าทาย หรือไปดื่มด่ำชมธรรมชาติสวนดอกไม้สวย ๆ ก็ได้เช่นกัน ต่อด้วย “น้ำตกนางรอง” แต่ละชั้นไม่สูงนักจะมีแอ่งให้ลงไปแช่น้ำเย็น ๆ ได้ รวมถึงมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ลดหลั่นกันไป ท่ามกลางป่าเขียวขจี หรือจะไปชม “ภูกระเหรี่ยง” แหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่ราว 50 ไร่ มีทั้งไร่สวนผลไม้ บ่อน้ำ นาข้าว มีจุดแลนด์มาร์กไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวได้เดินเลือกมุมถ่ายรูป อย่าง สะพานพราวภูฟ้า ที่ทอดยาวอยู่กลางทุ่งนา ภายในมีร้านกาแฟเก๋ ๆ ร้านอาหารบรรยากาศชีล ๆ และ ร้านขายของฝากของที่ระลึก ความสนุกเหล่านี้อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อยู่ในทุ่งนามุ้ย นครนายก นี่เอง @ปลุกคนไทยป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ขณะนี้มีปัจจัยหลายอย่างที่เราสามารป้องกันการเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้ เช่น ปัจจัยด้านพฤติกรรมการบริโภค ด้านการพักผ่อน ด้านการออกกำลังกาย หรือด้านการทำงาน โดยเฉพาะ การป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ ที่ต้นเหตุ ซึ่งอาจจะทำให้เกิด โรคหลอดเลือดสมองได้ ประกอบด้วย 1.อายุที่มากขึ้น เพราะความเสื่อมของหลอดเลือดสมองมีมากขึ้นตามอายุ 2.โรคความดันโลหิตสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง 3.โรคเบาหวาน เพราะจะทำให้หลอดเลือดสมองแข็งตัว ส่งผลให้หลอดเลือดตีบตัน 4.โรคไขมันในเลือดสูง เพราะระดับไขมันในเลือดที่สูงจะส่งผลให้หลอดเลือดแข็งตัวและเกิดการตีบ 5.สูบบุหรี่เป็นประจำ 6.โรคหัวใจในผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจผิดปกติและหัวใจเต้นผิดจังหวะ ทำให้มีลิ่มเลือดไปอุดตันหลอดเลือดสมองได้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงรองอื่นๆ ที่สามารถทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ เช่น 1.โรคอ้วน 2.โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด 3.การขาดการออกกำลังกาย 4.ความเครียด 5.ยาคุมกำเนิด 6.การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 7.เคยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง 8.ครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดสมอง 9.นอนกรนร่วมกับการหยุดหายใจ ปัจจัยเหล่านี้หากรู้ต้องเริ่มป้องกันและแก้ไขโดยด่วน ฟังข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “การบินไทยงัดโปรROPแลกตั๋วลด50%บินทั่วโลก13เส้นทาง นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้จัดทำแคมเปญสิทธิประโยชน์ให้สมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัส (ROP) รับส่วนลด 50% โดยใช้ไมล์สะสมแลกรางวัลตั๋วโดยสารทุกชั้นทั้งประหยัดและธุรกิจตามเมืองน่าเที่ยว 13 เส้นทาง ตั้งแต่วันนี้ -30 กันยายน 2562 ด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 65,000 ไมล์ เส้นทางไป - กลับ ระหว่าง กรุงเทพฯ สู่ปลายทาง คุนหมิง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว เฉิงตู เซี่ยเหมิน ฮ่องกง โคลัมโบ ดูไบ ปักกิ่ง ฟุกุโอกะ มอสโก โคเปนเฮเกน สตอกโฮล์ม สำรองที่นั่งและออกตั๋วโดยสารได้ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2562 เดินทางได้ตั้งแต่วันนี้ -31 ตุลาคม 2562 ดูได้ที่ thaiairways.com/rop หรือ โทร. (02) 356-1111 ตลอด 24 ชั่วโมง ข่าวที่สอง “ไทยสไมล์เปิดWeblogกระตุ้นแฟนคลับเปิดมุมเที่ยวใหม่ๆ ไทยสมายล์ รายงานว่า เตรียมเปิด WEblog จะเริ่ม13 สิงหาคม 2562 ผ่านทางเฟสบุ๊ค THAI Smile Airways เพื่อโพสต์สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ต่อเนื่องตลอด 4 วัน พร้อมนำเสนอคอนเทนต์น่าประทับใจเป็นประจำทุกเดือน และจะเปลี่ยน Destination ไปในแต่ละเดือน โดยนำร่องเดือนแรกพร้อมให้ทุกคนเดินทางด้วยรอยยิ้มกับ #VisitPhnomPenh (พนมเปญ) เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ที่ยากจะลืม แนะนำการเตรียมตัวเที่ยวพนมเปญ กัมพูชา ในหลากหลายมิติ ทั้ง SmileJourney ที่เที่ยวแลนมาร์คสำคัญหรือจุดเช็คอินแบบอันซีน SmileCafé ร้านอาหารดี ๆ คาเฟ่ชิคๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในพนมเปญ SmileGroove ท่องเที่ยวแบบคนพื้นถิ่น ลัดเลาะรอบเมืองสำรวจทุกซอกมุม ข่าวที่สาม “สุวรรณภูมิใจป้ำให้จอดฟรีในลานโซนCวันนี้-13 ส.ค.นี้ นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า สนามบินสุวรรณภูมิเปิดลานจอดระยะยาวให้นักท่องเที่ยวและผู้โดยสารนำรถมาจอดรถในช่วงวันหยุดชดเชย วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ระหว่างวันนี้ - 13 สิงหาคม 2562 พร้อมทั้งจัดรถ Shuttle Bus สาย A บริการฟรี วิ่งรับ - ส่งผู้โดยสารจากศูนย์ขนส่งสาธารณะ (Bus Terminal) ไปยังลานจอดรถระยะยาว โซน C เพื่อรับผู้โดยสารไปส่งยังอาคาร ชั้น 1 ประตู 3 ประตู 8 และวนขึ้นไปชั้น 2 ประตู 5 ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai