ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สภาฯท่องเที่ยวเร่งพลิกเกมธุรกิจจ่อชงรัฐดัน “อบจ./อบต.”เทงบเที่ยวไทยปี’64 โกยเงินเพิ่มวันหยุดเพียบ-วอนผู้ประกอบการดูแลนักท่องเที่ยวดุจญาติมิใช่เหยื่อ

 สภาฯท่องเที่ยวเร่งพลิกเกมธุรกิจจ่อชงรัฐดัน “อบจ./อบต.”เทงบเที่ยวไทยปี’64

โกยเงินเพิ่มวันหยุดเพียบ-วอนผู้ประกอบการดูแลนักท่องเที่ยวดุจญาติมิใช่เหยื่อ

ไทยเทสต์ฮับมหานครคิวบ์จับมือแอพโรบินฮู้ดสั่ง12ร้านดัง200เมนูเสิร์ฟถึงบ้าน

“แบรนด์มหานคร”คิงเพาเวอร์เพิ่มสินค้าใหม่ถุงผ้ารักษ์โลก4สีShopping Bags

ททท.อีสานจัดชุดใหญ่กระพือกิจกรรมการขายไทยเที่ยวไทยตลอด12เดือนปี64

TCEB ย้ำแผนบุกตลาดไมซ์ชูธงหลัก3โปรเจ็กต์ไฮไลต์เร่งพลิกฟื้นปีฉลูโกยรายได้

เที่ยวขอพรเซียนแปะโง้วกิมโยวัดศาลเจ้า ปทุมธานี มั่งมีทำมาค้าดีอายุยืนยาว

ระวัง “นอนเยอะ” เป็นอันตรายต่อสุขภาพแบบคาดไม่ถึงแถมอีกสารพัดโรคร้าย

“กระทรวงเกษตรฯ”ตื่นแล้วเริ่มจัดแถว5กรมเร่งเปิดเส้นทางเที่ยวไทยดันศก.ปีวัว

“บลูทรีภูเก็ต”เปิดฉลองรับท่องเที่ยวปี’64จัดโปรทัวร์ความสนุกเริ่มแค่350บาท

 

นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเทียวแห่งประเทศไทย 

ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม 2564 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #สภาท่องเที่ยวจ่อชงรัฐดึงอบจเทงบเที่ยวไทยปี64  #ไทยเทสต์ฮับมหานครคิวบ์ใช้โรบินฮู้ดเสิร์ฟ200เมนูถึงบ้าน  

ฟังLiveสด จากลิงค์นี้https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1536323859895000&id=100005522016696

ช่วงที่ 1 ต้อนรับปีฉลู 2564 “ชำนาญ ศรีสวัสดิ์” ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดชุดใหญ่พลิกฟื้นธุรกิจท่องเที่ยว “รวมกลุ่มสมาคมกับสมาพันธุ์ท่องเที่ยวภูมิภาค” สร้างยอดขายแพกเกจ “เที่ยวช่วยชาติ” เปิดปีใหม่ลุยถกรัฐบาลขานรับนโยบายเพิ่มวันหยุดราชการ กระตุ้น “อบจ.-อบต.-เทศบาล” ทั่วไทยหลายหมื่นคนควักงบออกมาใช้เดินทาง ดันไตรมาสแรก ม.ค.-มี.ค.คึกคัก ควบเร่งนำเงินค้างท่อหมื่นล้านโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” มาสนับสนุนธุรกิจไตรมาส 2 พร้อมปูพรมสร้างความหวัง ดึงธุรกิจ รถ เรือ ท่องเที่ยวประเภทต่าง ๆ ร่วมรับเค้กเราเที่ยวด้วยกัน ชูจุดขายผลิตแพกเกจ “ราคาถูก” คืนความสุขระดับ 5 ดาว วอนดูแลนักท่องเที่ยวดั่งญาติไม่ใช่เหยื่อ หยุด!!เอาเปรียบลูกค้าทุบหม้อข้าวตัวเองในยามยาก

 

นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนธุรกิจของเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปี 2564 ร่วมหารือกันถึงการรับมือกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงอยู่ โดยเน้นการรณรงค์เรื่องการรักษามาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด ควบคู่กับการพลิกฟื้นตลาดพุ่งเป้าทำโครงการ “ไทยเที่ยวไทย” โดยได้ประชุมร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เรียบร้อยแล้ว ด้วยกลยุทธ์การพึ่งพาภาคีเครือข่ายสมาคมสมาชิกท่องเที่ยวทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (แอตต้า) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.)  สมาคมนำเที่ยวในประเทศ (สนท.) สมาคมส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สธทท.) และสมาพันธุรกิจท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย จับมือกัน “ผลิตแพกเกจ” กระตุ้นคนในประเทศเดินทางท่องเที่ยวอย่างมีความสุข

การผลิตแพกเกจ “ไทยเที่ยวไทย” ออกวางขายนั้น เอกชนก็ยังคงมีความหวังจากการใช้เงินส่วนที่เหลือของรัฐบาลโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ซึ่งค้างท่อจ่ายอยู่ประมาณเกือบหมื่นล้านบาท ออกมารณรงค์กระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 1 ระหว่างมกราคม-มีนาคม  2564 แนวทางการสร้างแพกเกจจะนำร่องสร้างความแตกต่างจากเดิมตามแบบวิถีใหม่ ทุกแพกเกจจะเพิ่มความเข้มข้นเรื่องการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ที่ผ่านมาโครงการเราเที่ยวด้วยกันได้ช่วยเหลือดูแลธุรกิจ โรงแรม ร้านอาหาร แต่ปี 2564 ยังมีผู้ประกอบการอื่น ๆ น่าจะเข้ามามีส่วนร่วมรับรายได้จากโครงการนี้บ้าง ได้แก่ รถ เรือ ยอร์ช ชุมชน ทำให้เข้าถึงโครงการรัฐ

ดังนั้นทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะนำเรื่องการขยายกลุ่มธุรกิจดึงเข้าร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” รถ เรือ ท่องเที่ยวประเภทต่าง ๆ ร่วมหารือกับทาง ททท. กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อกระจายโอกาสให้แก่กลุ่มธุรกิจใหม่ดังกล่าว

ปี 2564 สมาชิกสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเสนอให้โฟกัสตลาดหลัก 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาลเมือง ทั่วไทยมีจำนวนหลายหมื่นคน มีเงินพร้อมเดินทางในจังหวัดใกล้เคียงอยู่แล้ว ถ้าใช้ประโยชน์ก็สามารถดึงไตรมาสแรกได้พอสมควร ทางสภาท่องเที่ยวเตรียมเสนอรัฐบาลช่วงหลังเปิดปีใหม่นี้ 2.นำเงินค้างท่อในโครงการเราเที่ยวด้วยกันมากระจายเพิ่มกลุ่มธุรกิจ เช่น รถ เรือ ท่องเที่ยวประเภทต่าง ๆ น่าจะช่วยไตรมาส 2 ได้ โครงการนี้คุยกันเบื้องต้นบ้างแล้ว 3.ช่วงกลางปี 2564 เริ่มมีวัคซีนทยอยออกมาก็สามารถเริ่มลุยกลุ่มตลาดทั่วไปทำการค้าขายตามปกติ

หากทำได้โดยกระตุ้น องค์กรท้องถิ่น หรือเชิญชวนเศรษฐีเมืองไทยที่เคยเที่ยวนอกมาช่วยกันเที่ยวเมืองไทย ในราคาพิเศษทั้งตั๋วโดยสารเครื่องบิน ห้องพัก โปรแกรมทัวร์ตามสถานที่ท่องเที่ยว ทำโปรแกรมพัก 5 ดาว แล้วเดินกินอาหารถนนคนเดินในตลาดเพื่อช่วยอุดหนุนรายได้ครอบคลุมทุกกลุ่ม



ส่วนการ “กระจายสินค้าท่องเที่ยว” เบื้องต้นอาจจะวิธีเฉลี่ยทุกข์สุข ด้วยการ “นำจำนวนห้องพัก” ของแต่ละจังหวัดแล้วแบ่งงบประมาณผ่านการขายแพกเกจเข้าไปยังจังหวัดนั้น  ๆ ซึ่งการให้ความช่วยเหลือภาคธุรกิจปี 2564 น่าจะต้องทำควบคู่กัน 2 โครงการ คือ 1.รวมกลุ่มสมาคมท่องเที่ยวทั้งหมดช่วยกันผลิตแพเกจขายท่องเที่ยวไทยกันเอง 2.ขอเงินสนับสนุนจากภาครัฐอย่างโครงการเราเที่ยวด้วยกันเข้ามาเสริม เพราะตอนนี้เอกชนค่อนข้างอ่อนแอ จึงน่าจะต้องจับมือกันทำโครงการอย่างเข้มแข็งโดยมีแกนนำคือ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กับ ททท.เป็นหลัก ไปในทิศทางเดียวกัน

เนื่องจาก ททท.ก็ต้องพยายามสำรวจถึงปัญหาความต้องการของเอกชนอยู่แล้ว ส่วนผมในฐานะประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ ก็เข้าไปนั่งเป็น 1 ในกรรมการ (บอร์ด) ททท.แล้วด้วย วางแผนจะนำเสนอที่ประชุมบอร์ด พิจารณาแบ่งเป็นระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว เช่น โครงการแรก “เที่ยววัยเก๋า” เสนอค้างไว้ในยุคที่แล้ว ก็จะสานต่อไป โครงการที่ 2 กลุ่มรถบัสเสนอให้ใช้บริการ จังหวัดละ 40-50 คัน จัดนำเที่ยวข้ามจังหวัดใกล้เคียงกัน เพื่อกระตุ้นการเดินทางใช้จ่ายเงิน ชัดเจนลงมือทำได้ทันที โครงการที่ 3 ผลิตแพกเกจสีสัน เช่น ท่องเที่ยวคนโสด ท่องเที่ยวชุมชน โดยให้กุญแจความสำเร็จอยู่ที่ส่วนกลางทำหน้าที่บริหาร ขณะที่ผู้ประกอบการส่วนภูมิภาคจับมือกันทำราคาขายแพกเกจอย่างเหมาะสม ตอบโจทย์คนไทยเที่ยวแล้วมีความสุขในราคาถูกโดนใจ เพื่อเป็นทางรอดปี 2564



นายชำนาญกล่าวว่าการนำเสนอโครงการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศปี 2564 ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ เอกชนจะต้องคิดแพกเกจท่องเที่ยวให้ตกผลึก แล้วเสนอ ททท.ผ่านไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติสนับสนุนงบประมาณ ตั้งแต่มกราคม 2564 เป็นต้นไป จะเริ่มหารือกันอย่างเป็นรูปธรรม

ส่วนการขานรับนโยบายรัฐบาลประกาศให้มี “วันหยุดราชการ” เพิ่มจำนวนมากปี 2564 นั้นเอกชนต้องขอบคุณ เพราะพฤติกรรมการท่องเที่ยวคนของรัฐเกินกว่า 50 % นิยมออกเดินทางเที่ยวช่วยชาติช่วงวันหยุดก็สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว ทิศทางข้าราชการเดินทางเที่ยวมีสัญญาณที่ดีเพราะ “ราคา” เป็นปัจจัยหลัก ทริปละไม่เกิน 5,000 บาท/คน แล้วทางสภาอุตสหกรรมท่องเที่ยวต้องกำชับทุกสมาคมช่วยกันป้องกันเรื่อง “การเอารัดเอาเปรียบหรือคดโกง” เช่นเดียวกับกรณีที่ผ่านมาโครงการเราเที่ยวด้วยกันตรวจพบผู้ประกอบการเข้าข่ายฉ้อโกง เพื่อเป็นการช่วยกันจัดระเบียบผู้ประกอบการให้เลือกปฏิบัติสิ่งดี ๆ

การดูแลรักษาธุรกิจท่องเที่ยวให้คงอยู่ได้นั้น ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัย 1.หากเร่งกระตุ้นเร็ว โอกาสอยู่รอดก็มีมาก 2.หาช่องนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวเข้าถึงแหล่งทุนอย่างรวดเร็ว ล่าสุดคุยกับทางธนาคารขนาดกลางและขนาดย่อม SME Bank ไม่ใช่เรื่องการแจกเงินแต่เป็นเรื่องการปรับตัวเองตามกติกาการกู้เงินให้ได้ เพื่อป้องกันหากมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นมาอีก

นายชำนาญกล่าวว่าปี 2564 ต้องเรียนพี่น้องชาวไทยในช่วงนี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศกำลังอ่อนแอ จึงอยากให้คนไทยที่พอมีกำลังจ่ายออกมา “เที่ยวช่วยชาติ” มีน้อยก็เดินทางเที่ยวใกล้บ้าน มีมากก็เที่ยวไกลขึ้น ส่วนผู้ประกอบการท่องเที่ยวค่อนข้างลำบากฉนั้นควรร่วมมือกันบริการนักท่องเที่ยว “ดั่งญาติ” ไม่ใช่ “เหยื่อ” หรือพอนักท่องเที่ยวเข้ามาก็ทุบเอาประโยชน์เข้าตัวเอง จึงขอฝากลูกค้าให้บริการทุกคนอย่างดีที่สุดเพื่อให้คนในประเทศได้ออกมาท่องเที่ยวอย่างมีความสุขดตลอดปี 2564

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง



ข่าวที่ 1 ไทยเทสต์ฮับมหานครคิวบ์จับมือแอพโรบินฮู้ดสั่ง12ร้านดัง200เมนูเสิร์ฟถึงบ้าน

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เชิญชวนเติมเต็มความอร่อยที่ “ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์” ศูนย์รวมสตรีตฟู้ดระดับตำนาน ตอนนี้มีบริการใหม่พร้อมเสิร์ฟอาหารจาก 12 ร้านดัง กว่า 200 เมนู ส่งถึงบ้าน ผ่านแอพลิเคชั่น “โรบินฮู้ด” (Robinhood) สัญชาติไทย ในเครือเอสซีบี เท็นเอกซ์เพิ่มโอกาสการขายให้ร้านค้าด้วยการไม่คิดกำไร GP (Gross Profits) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสั่งเมนูจากหลายร้านได้ในครั้งเดียว ในราคาเท่ากันกับหน้าร้านและปริมาณอาหารไม่ลดลง สั่งได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกวันเวลา 10.00-19.30 น.

คิง เพาเวอร์ พร้อมมอบประสบการณ์รับประทานอาหารสตรีตฟู้ดร้านดังโดยไม่ต้องออกจากบ้านและไม่ต้องเข้าแถว ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ ได้ เพียงเข้าไปค้นหาคำว่า Thai Taste Hub Mahanakhon CUBE ก็สามารถพบความอร่อยของเมนูร้านดัง มีทั้ง เผ็ดเผ็ด เฮ่!, คอหมูพระราม 5, ผิน, ก๋วยเตี๋ยวอนามัย, ลิ้ม เหล่า ซา, ชุมพลปาท่องโก๋, ป้าหงษ์ขนมไทย รวมถึงความอร่อยจากมิชลินแนะนำ ได้แก่ ร้าน ยี่ สับ หลก, ผัดไทยไฟทะลุ ก๋วยจั๊บนายเอ็กซ์, สุกี้เมาเวอริค และบุญเลิศ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน โรบินฮู้ด ฟู้ดเดลิเวอรี่ ได้ทั้งบนระบบ iOS และ Android

 


ข่าวที่ 2 แบรนด์มหานครเพิ่มสินค้าใหม่ถุงผ้ารักษ์โลกสุดคูล4สีShopping Bags

มหานคร แบรนด์สินค้าสไตล์สตรีตแฟชั่น ที่วางจำหน่ายในร้าน คิง เพาเวอร์ สาขาต่าง ๆ พร้อมปล่อยเอ็กซ์คลูซีฟคอลเลคชั่นสุดพิเศษส่งท้ายปี 2020 “The Cool Reusable Shopping Bags” (ลิมิเต็ด เอดิชั่น) ถุงผ้ารักษ์โลกสุดคูลที่จะทำให้คุณเลิกคิดถึงถุงพลาสติกไปเลยทีเดียว ถุงผ้าดีไซน์เท่ที่มาพร้อมกับ Quote ความหมายดีๆ เก๋ๆ ผลิตจากผ้าไนลอน น้ำหนักเบา พกพาสะดวก พับเก็บง่าย เสริมเทคนิคอัดยับที่เนื้อผ้า ทำให้ได้ผ้าที่มีลวดลายเท็กเจอร์ที่สวยงาม ออกมาเป็นไอเท็มเด็ด มีให้เลือก 4 สี 4 ลาย ได้แก่

ถุงผ้าสีแดง ปักตัวอักษร Don’t PANIC It’s not Plastic ถุงผ้าสีเทา ปักตัวอักษร Nothing Changes If Nothing Changes ถุงผ้าสีน้ำเงิน ปักตัวอักษร THE FUTURE IS BRIGHT ถุงผ้าสีเหลือง ปักตัวอักษร MAKE TODAY A GOOD DAY

มหานคร พร้อมแล้วที่จะให้คุณเป็นเจ้าของถุงผ้ารักษ์โลกสุดคูล คอลเลคชั่น “The Cool Reusable Shopping Bags” ในราคาเพียงใบละ 290 บาท สไตล์ไหนโดนใจจะซื้อไว้ใช้เอง หรือมอบให้เป็นของขวัญต้อนรับเทศกาลปีใหม่ก็เทรนด์ดี้ ถูกใจทั้งผู้ให้และผู้รับ สินค้ามีจำนวนจำกัด สั่งซื้อสินค้าหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Instagram: @mahanakhonshop_bkk , Facebook: Mahanakhonshop_bkk และ Line: @mahanakhonshop_bkk

 


ข่าวที่ 3 ททท.อีสานจัดชุดใหญ่กระพือกิจกรรมการขายไทยเที่ยวไทยตลอด12เดือนปี64

       นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ปี 2564 เตรียมขับเคลื่อนตลาดท่องเที่ยวอีสาน 20 จังหวัด ภายใต้ธีม Amazingอีสาน พุ่งเป้าทำโครงการ “ไทยเที่ยวไทย” เที่ยววิถีใหม่การ์ดไม่ตก พร้อมมอบระสบการณ์ความทันสมัยทำให้รู้สึก “อีสานเที่ยว : สะดวก สบาย ปลอดภัย ได้มาตรฐาน” กับสินค้าท่องเที่ยวภาคอีสานแนวคิด More ”COOL I-SAN” CONCEPT ประกอบด้วย

C : Cuisine Special เน้นท่องเที่ยวเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารอีสาน Gastronomy) O : Oriental Heritage เน้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอีสาน Event ฮีต12คอง14  O : Outstanding Look เน้นอันซีนสินค้าท่องเที่ยวอีสานมุมมองใหม่ที่แปลกใหม่และใหญ่ดัง) และ L  : Linkage Travel เน้นเดินทางท่องเที่ยวอีสาน เชื่อมโยงเที่ยวข้ามภาค

ผนวกกับท่องเที่ยวอีสาน 7 เส้นทาง Amazing Isan  1. Amazing Isan เที่ยวฟิน (Romantic) 2.Amazing Isan เที่ยวง่าย (Lifestyle) 3.Amazing Isan เที่ยวสบาย (Slow Life) 4. Amazing Isan เที่ยวสายวัฒนธรรม (Culture) 5. Amazing Isan เที่ยวกีฬา&ท้าทาย (Adventure & Sport) 6. Amazing Isan เที่ยวสนุกช้อป (Entertainment & shopping) และ 7.Amazing Isan เที่ยวมุมองใหม่ (Unseen)

                โดยจะนำเสนอกิจกรรมต่อเนื่องตลอด 12 เดือน ปี 2564 ได้แก่ 1.เดือนมกราคม  อะเมซิ่งอีสาน:เที่ยวอีสานมุมมองใหม่ 2.เดือนกุมภาพันธ์   #เที่ยวตัวปลิวชิลอีสาน  : เที่ยวสะดวกสบายปลอดภัยได้มาตรฐาน   3.เดือนมีนาคม #เช็คอินอีสาน...คิดถึงอีสาน เที่ยวเทศกาลบุญผะเหวด 4.เดือนเมษายน  #เที่ยวอีสานแบบCOOLคลู : เทศกาลบุญเดือนห้ามหาสงกรานต์ ชาวอีสาน “ชวนหมู่ยามบ้านสงกรานต์อีสาน20จังหวัดภาคอีสาน” 5.เดือนพฤษภาคม   #อีสานเขียวเที่ยวหน้าฝน เที่ยวเทศกาลบุญบั้งไฟ และ  6.เดือนมิถุนายน  #อีสานเขียวเที่ยวทะเลหมอกหน้าฝน  : อีสานวันธรรมดาน่าเที่ยว

7.เดือนกรกฎาคม    #อีสานเขียวเที่ยวค้นหาความสุข เที่ยวเทศกาลบุญเข้าพรรษา 8.เดือนสิงหาคม #อีสานเขียวเที่ยวเส้นทางสายไหม เที่ยวอีสานสไตล์พรีเมี่ยม 9.เดือนกันยายน  #อีสานเขียวประชุมเที่ยวเรื่องเดียวกัน คาราวานท่องเที่ยวพิชิต20จังหวัดภาคอีสาน  10.เดือนตุลาคม  #เที่ยวอีสานปลายฝนต้นหนาว เทศกาลบุญออกพรรษา 11.เดือนพฤศจิกายน #เที่ยวอีสานทะเลหมอกหน้าหนาว เทศกาลงานบุญกฐิน และ 12.เดือนธันวาคม  #เที่ยวอีสานทะเลดอกไม้หน้าหนาว เที่ยวเทศกาลส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่

 


ข่าวที่ 4 TCEB ย้ำแผนบุกตลาดไมซ์ชูธงหลัก3โปรเจ็กต์ขับเคลื่อนรายได้ปีฉลู64

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่าขณะนี้ทีเส็บวางแผนการตลาดไมซ์เชิงรุกคู่ขนาน โดยเฉพาะไมซ์จากต่างประเทศจะต้องไปข้างหน้าเพราะปัจจุบันยังไม่สามารถเดินทางเข้าไทยได้ต้องขับเคลื่อนตามนโยบายของศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ดังนั้นช่วงต้นปี 2564 ต้องเน้นหนักการทำตลาดไมซ์ในประเทศบุกเจาะตลาดที่มีศักยภาพทั้งคอร์ปอเรตคือบริษัทต่างชาติที่ตั้งอยู่ในไทย (expat) และจับมือกับหอการค้าต่างชาติในไทย เช่น ร่วมกับหอการค้าฝรั่งเศสไปสำรวจพื้นที่ภูเก็ตระหว่างคณะรัฐมนตรีสัญจรเมื่อ 2-3 พฤศจิกายน 2563

การวางแผนเชิงรุกตลาดต่างประเทศมุ่งเรื่องโครงการระยะยาว โดยให้ผู้บริหารพนักงานทีเส็บฝ่ายต่างประเทศติดต่อประสานเจรจากับงานต่าง ๆ ที่เลื่อนการจัดในไทยไปช่วงสถานการณ์โควิด กระทั่งขณะนี้สามารถตอบรับพร้อมจะเดินทางนำงานเข้ามาจัดปี 2565 เป็นต้นไป “สาธารณรัฐประชาชนจีน” เป็นประเทศหลักตามที่ ศบค.กำหนดไว้ให้เป็นประเทศแรกมีโอกาสเข้ามาไทย ต่อด้วย เกาหลีใต้ ไต้หวัน ญี่ปุ่น พร้อมจัดงานในลักษณะอีเวนต์ได้

การขับเคลื่อนเพื่อรักษาความสัมพันธ์ทางการตลาดไมซ์กับคู่ค้าต่างประเทศไว้คือ ทีเส็บยังจัดการประชุมเสมือนจริง (Virtaul meeting) เพื่อประเมินสถานการณ์ร่วมกันแล้วตั้งเป้าเดือนเมษายน 2564 จะเริ่มนำไมซ์ต่างประเทศเข้ามาได้ก่อน ควบคู่กับการ “เข้าร่วมประสิทธิดึงงานนานาชาติมาไทย” โดยเพิ่งจะได้รับข่าวดี World TBEX 2021 เป็นงานประชุมของกลุ่มสมาชิกบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวทั่วโลก มีผู้ติดตามหลาย 10 ล้านคน จะมาจัดในเมืองไทยที่ภูเก็ตช่วงเดือนตุลาคม 2564 ถือเป็นสัญญาณดีงานแรก ๆ ที่สะท้อนถึงความเคลื่อนไหวของตลาดไมซ์ต่างประเทศที่จะมาจัดในไทย เป็นการวัดชีพจรถึงความต้องการของตลาดโลกด้วย

งาน World TBEX 2021 สมาชิกส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มประเทศแถบเอเชีย รวมอยู่บ้าง ทีเส็บเคยเป็นเจ้าภาพจัดงานนี้เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา จำนวน 1,100 คน ส่วนปี 2564 จะมีประมาณ 100 คน โดยจะมีส่วนหนึ่งของงานมาจากยุโรป อเมริกา จะจัดประชุมเสมือนจริง เพราะไม่สามารถเดินทางมาได้

สำหรับการใช้เวทีงาน World TBEX 2021 เพื่อสื่อสารถึงสถานการณ์ภายในประเทศไทยที่พร้อมจะต้อนรับไมซ์นานาชาติ เพราะทางทีเส็บเองก็เข้าไปช่วยหน่วยงานต่าง ๆ เตรียมความพร้อมทุก ๆ ด้าน

ปรากฎการณ์ตลาดไมซ์ต่างประเทศในขณะนี้ต่อเนื่องถึงต้นปี 2564 อยู่ในสถานการณ์ที่ไทยเริ่มคลายล็อกดาวน์ และนโยบายนำเข้าไมซ์ก็ขึ้นอยู่กับ ศบค.ด้วย แต่อย่างน้อยตอนนี้ก็มีสัญญาณที่ดีกับประเทศไทย

นายจิรุตถ์กล่าวว่า ความคืบหน้าแผนรุกตลาดในประเทศ ขณะนี้ลุยทำ 3 เรื่องสำคัญ ประกอบด้วย เรื่องที่ 1 เสนอขอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณเฟส 2 สนับสนุนโครงการ “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” อีกไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท หลังจากเสนอ ศบค.ผ่านเรียบร้อยแล้ว และประสานกับทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เพื่อนำเงินมาอุดหนุนผู้ประกอบการไมซ์ทุกกลุ่มทั้งภาครัฐและเอกชน

เรื่องที่ 2 เดินหน้าโครงการ Festival Economy ทีเส็บจะเข้าไปสนับสนุนแต่ละพื้นที่ยกระดับการจัดงานในท้องถิ่นซึ่งมีจำนวนมากคัดเลือกให้บางงานเป็นงานระดับประเทศ เพื่อกระจายและสร้างรายได้ประจำของพื้นที่ชุมชนท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืน จุดเริ่มของโครงการ Festival Economy เกิดขึ้นจากทีเส็บลงพื้นที่ไปดูการจัดกิจกรรมในท้องถิ่นซึ่งที่ผ่านมาการจัดอีเวนต์ส่วนใหญ่จะจัดครั้งเดียวแล้วก็จบ แต่ทีเส็บเห็นศักยภาพที่จะพัฒนาเป็นอีเวนต์ระดับโลกได้

งานที่จะมามาอยู่ในโครงการ Festival Economy ได้ อย่างแรก ต้องเป็นงานที่มีอัตลักษณ์เฉพาะ เช่น การ Music Festival Hauhin :งานดนตรีหัวหิน ในพื้นที่จะจุดหมายปลายทางกรวมตัวของมหกรรมการแสดงดนตรี ดังนั้นทีเส็บจะดูอัตลักษณ์เมืองแล้วสร้างสรรค์งานขึ้นมาให้เป็น “หัวหินเมืองแห่งดนตรี” กิจกรรมนี้ได้หารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์แล้ว สามารถนำดนตรีตามร้านอาหาร โรงแรม สามารถจัดร่วมกันได้ เพียงแต่ยังไม่เคยร้อยเรียงให้เป็นเรื่องราวแล้วจัดเป็นเมืองดนตรีได้

ที่ผ่านมาก็จัดงานฟินาเลย์ ประติมากรรม แล้วคนไปถ่ายรูป ดังนั้นทางจังหวัดกับเอกชนร่วมมือกันแล้วทำเป็นปฏิทินงานอีเวนต์ประจำปี แก้จุดอ่อนเดิม ๆ ที่เคยจัดแล้วก็จบไปเป็นงาน ๆ โดยไม่ได้กำหนดวัน เวลา แต่ละปีให้ชัดเจน ปี 2564 ทีเส็บจะช่วยขับเคลื่อนทำให้เกิดเป็นงานเทศกาลประจำปี นอกจากหัวหินแล้ว ยังมีกระบี่ จะนำร่องทำเป็นเมืองที่มีสีสันดึงดูดตลาด (attraction) เช่น งานที่ร่วมทำกับไทยเบฟ

จากประสบการณ์ทีเส็บได้ทำเมกะอีเวนต์ต่อเนื่องมาตลอด ก็จะนำมาใช้พัฒนาตลาดไมซ์ในลักษณะอีเวนต์ผ่านโครงการ Festival Economy ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป

เรื่องที่ 3 ขับเคลื่อนโครงการใหม่ Thailand Log-in Events ขณะนี้ทีเส็บร่วมมือกับทางเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor :EEC) เกี่ยวกับการเดินหน้าพัฒนาโลจิสติกส์โครงการขนาดใหญ่ชายฝั่งทะเลตะวันออกด้านโครงสร้างพื้นฐานครบทุกมิติ เนื่องจากเห็นความเป็นไปได้ ทั้งเรื่องการทำสัญญาภายในสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาตอนนี้ขยายการก่อสร้างทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย โครงสร้างต่าง ๆ เกิดขึ้นแล้ว การลงทุนของกลุ่มบริษัทนานาชาติในนิคมอุตสาหกรรมก็ตอบรับเข้าร่วมโครงการแล้ว

                ช่วงที่ 2 เมืองไทยยังเที่ยวได้อย่างรับผิดชอบ ช่วงเข้าสู่เดือนต้อนรับปีใหม่ ขอชวนไป “ท่องเที่ยวศาลเจ้าโรงสี กราบเซียนแปะโงวกิมโคว” อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เสริมบุญ ขอพรทำมาค้าขึ้น มั่งคั่ง ร่ำวย อายุยืนยาว กันได้ทุกวัน แล้วใครที่ “เคยนอนเยอะ” ระวังอัตรายแบบคาดไม่ถึงจากสารพัดโรค ส่วนข่าวใหม่ ๆ “กระทรวงเกษตรตื่นรับปี64” สั่ง 5 กรม รุกจัดแถวเปิดเส้นทางท่องเที่ยว สนับสนุน “ไทยเที่ยวไทย” ฟื้นเศรษฐกิจชาติ และ “บลูทรีภูเก็ต” เปิดต้อนรับปีใหม่ไปสนุกกับสวนสนุก เอนเตอร์เทนเมนต์ครบวงจร จัดโปรราคาเริ่มต้นเพียงคนละ 350 บาทเท่านั้น

 


เที่ยวขอพรเซียนแปะโง้วกิมโยวัดศาลเจ้า​ ปทุมธานี​ มั่งมีทำมาค้าดีอายุยืนยาว

ศาลเจ้าสะอาดเรียบง่าย ติดแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยว “ขอพรปีใหม่” เพื่อความเป็นสิริมงคลชีวิต ชวนมาไว้  "เซียนแปะโรงสี -โง้วกิมโคย” วัดศาลเจ้า อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี  

ตามตำนานเรื่องเล่าต่อกันมานานนับร้อยปีถึงว่า ศาลเจ้าแห่งนี้อยู่ใกล้กับวัดมะขามซึ่งเป็นวัดที่สร้างยุคปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา​ โดยเจ้าน้อยมหาพรหม​ บุตรเจ้าเมืองฝ่ายเหนือที่เป็นผู้มีวิชาไสยศาสตร์แก่กล้า ล่องแพมาตามแม่น้ำเจ้าพระยาจนมาถึงวัดมะขามที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน​ แล้วได้พบกับพระอาจารย์ท่านหนึ่งที่เป็นภิกษุเชื้อสายรามัญ​ ผู้ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้าน ทั้งสองได้ทดสอบวิชาและเกิดความเคารพเลื่อมใส จึงขอสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมา​

"เซียนแปะโรงสี -โง้วกิมโคว"  อพยพมาจากจีนเข้ามาไทย เชื่อกันว่าท่านมีเป็นผู้มีบุญ มีญาณ เป็นผู้ทรงศีลจิตใจดี  มีความเชี่ยวชาญด้านการโหงวเฮ้ง ฮวงจุ้ย คอยช่วยเหลืองานต่าง ๆ ในวัด ช่วยชี้แนะหนทางแห่งประสบความสำเร็จ สร้างพลังศรัทธาในหมู่ลูกศิษย์มากมายที่ได้รับพรแล้วเกิดความเจริญรุ่งเรืองด้านการค้า และการดำเนินชีวิต เมื่อด้านจบชีวิตลงชาวบ้านจึงพากันมาเคารพกราบไหว้อย่างต่อเนื่อง มาจนถึงทุกวันนี้


                ส่วนพื้นที่ติดศาลเจ้าก็มี “ตลาด” ขนาดใหญ่ ค้าขายสิ่งของเครื่องใช้ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กราบไหว้บูชาศาลเจ้า สิ่งศักดิศิทธิ์ และอาหารการกินพื้นบ้าน รสชาติอร่อย ราคาไม่แพง

เริ่มต้นปีใหม่ 2564 ผู้ที่ศรัทธาในพลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์เพื่อ “ความมั่งคั่ง ทำมาค้าขายดี อายุยืนยาว” ก็สามารถแวะมากราบสักการะ “เซียนแปะโรงสี-โง้วกิมโคย” ได้ทุกวัน โดยจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสาธารณสุขรักษาสุขอนามัย สวมหน้ากากอนามัย สแกนคิวอาร์โค้ดแอพลิเคชั่นไทยชนะ ตรววัดอุณหภูมิ เว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อทำให้ชีวิตมีความสุขตลอดปีนี้นั่นเอง

เรื่องที่ต้องระวัง “นอนเยอะ” เป็นอันตรายต่อสุขภาพแบบคาดไม่ถึง

                หลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับความสำคัญของการพักผ่อนอย่างเพียงพอในแต่ละคืน แน่นอนว่าการที่ร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้มีสุขภาพดี แต่ในทางตรงกันข้ามหากนอนเยอะเกินไปก็อาจส่งผลให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพหรือโรคต่าง ๆ ตามมา ในบทความนี้จะมาเล่าถึงสาเหตุของการนอนเยอะเกินไปและความอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

จริง ๆ แล้วจำนวนชั่วโมงของการพักผ่อนที่เหมาะสมจะเปลี่ยนแปลงไปตามวัยและคุณภาพการนอนของแต่ละคน โดยทั่วไปแล้ว เด็กทารกต้องการเวลานอนหลับรวมเวลางีบกลางวันเป็นเวลาประมาณ 12-16 ชั่วโมงต่อวัน เด็กวัยอนุบาลต้องการเวลานอนหลับรวมเวลางีบเป็นเวลาประมาณ 10-13 ชั่วโมงต่อวัน วัยรุ่นต้องการการนอนหลับเป็นเวลาประมาณ 8-10 ชั่วโมงต่อวัน และผู้ใหญ่ต้องการนอนหลับเป็นเวลาประมาณ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน

นอนเยอะเกิดจากอะไรได้บ้าง ?  - นอกเหนือจากพฤติกรรมหรือความเหนื่อยล้าในการทำกิจกรรมแต่ละวัน การนอนเยอะหรือใช้เวลานอนมากเกินไปอาจมีภาวะอื่น ๆ ที่ส่งผลให้รู้สึกอ่อนเพลียแม้จะได้นอนหลับมากกว่าคนทั่วไป เช่น  โรคหยุดหายใจขณะหลับ โดยผู้ป่วยจะหยุดหายใจเป็นเวลาสั้น ๆ ระหว่างนอนหลับ ทำให้ร่างกายต้องการนอนนานขึ้น และวงจรการนอนหลับถูกรบกวน

กลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุข (Restless Legs Syndrome: RLS) เป็นความผิดปกติด้านสมองที่ส่งผลให้เกิดการขยับขาขณะพัก หรือการนอนกัดฟัน (Bruxism) ขณะนอนหลับ เกิดอาการปวดเรื้อรัง (Chronic Pain) เป็นโรคลมหลับ (Narcolepsy) ซึ่งเป็นความผิดปกติของสมองที่ทำให้วงจรการหลับและตื่นแปรปรวนไปจากปกติ  และอาจเป็นโรคซึมเศร้า

สำหรับโรคนอนมากเกินโดยไม่ทราบสาเหตุ (Idiopathic Hypersomnia) โดยจะนอนมากโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนหรือหาสาเหตุไม่ได้ อาจมาจากการใช้ยาบางชนิดหรือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ นอนเยอะอาจเป็นสัญญาณความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ เช่น โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจ โรคอ้วน โรคซึมเศร้า อาการปวดหัว

หากพบว่าตนเองต้องการเวลาในการนอนมากกว่า 8-9 ชั่วโมงต่อคืนเพื่อให้รู้สึกถึงการพักผ่อน สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติที่เกิดขึ้นในร่างกาย การนอนเยอะเกินไปอาจก่อให้เกิดความวิตกกังวล อ่อนล้า ไม่มีแรง มีปัญหาด้านความจำ และอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ เช่น อาการปวดหัว โรคอ้วน โรคหัวใจ เบาหวาน ปวดหลัง ภาวะซึมเศร้า และความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น เป็นต้น

ทั้งนี้การนอนหลับอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายมีน้ำหนักตามเกณฑ์มาตรฐาน ลดความเครียด อารมณ์ดี สมองปลอดโปร่ง รวมไปถึงทำหน้าในชีวิตประจำได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม หากรู้สึกว่าตนเองนอนมากเกินไปหรือรู้สึกอ่อนล้าระหว่างวันแม้ว่าชั่วโมงการนอนเพียงพอแล้ว ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของความผิดปกติและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น โดยแพทย์อาจแนะนำวิธีช่วยให้นอนในระยะเวลาที่เหมาะสม

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “กระทรวงเกษตรฯ”ตื่นแล้วหันจัดแถว5กรมเปิดเส้นทางเที่ยวไทยดันเศรษฐกิจปีวัว

นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ปี 2564 ทางกระทรวงมีนโยบายหันมารณรงค์ “ไทยเที่ยวไทย” ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อสนับสนุนมาตรการรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเน้นการส่งเสริมท่องเที่ยวชุมชน สนับสนุนสินค้าเกษตรและการจัดการทรัพยากรทางการเกษตรในพื้นที่ เพื่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้แก่เกษตรกรและชุมชน รวมทั้งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้ได้มาตรฐานและมีความยั่งยืน

โดยจะกำหนดเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรของหน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่โดดเด่น 5 กรม ดังนี้

1) กรมส่งเสริมการเกษตร มีข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีศักยภาพ มีความโดดเด่น มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม 247 แห่ง แบ่งเป็นของเกษตรกร 226 แห่ง ศูนย์ปฏิบัติการฯ สังกัดกรมฯ 21 ศูนย์

2) กรมวิชาการเกษตร มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรเป็นส่วนราชการ 21 แห่ง มีความโดดเด่นในแบบของตัวเอง มีข้อมูลองค์ความรู้วิชาการเกษตรด้านต่างๆ ที่หลากหลาย

3) กรมประมง มีแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นของกรมประมง คือ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี และโครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เต่ากระอานและเต่าน้ำจืดใกล้สูญพันธุ์ จังหวัดสตูล

4) กรมหม่อนไหม มีศูนย์เรียนรู้ภูมิปัญญาด้านหม่อนไหม 21 แห่ง ได้แก่ การทำผ้าบาติกไหม ผ้าพันคอ หมอนรองคอ และมีกลุ่มหัตถศิลป์ซึ่งทำผลิตภัณฑ์โปรตีนไหม สบู่ ยาสระผม

5) กรมปศุสัตว์ มีศูนย์เรียนรู้ด้านปศุสัตว์ เป็นต้น พร้อมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาเส้นทางและกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ตลอดจนประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาทิ การทำปฏิทินท่องเที่ยวเชิงเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อสร้างการรับรู้และเป็นข้อมูลทางเลือกแก่นักท่องเที่ยว ต่อไป

หลักเกณฑ์การคัดเลือกแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตรได้กำหนดหลักเกณฑ์ ดังนี้ ดำเนินการในรูปวิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรกร ชุมชน มีศักยภาพในการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว มีกิจกรรมการเกษตรที่โดดเด่น หรือมีนวัตกรรมด้านการเกษตรเป็นจุดเด่นสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ คมนาคมสะดวก ใกล้แหล่งท่องเที่ยวหลักหรือท่องเที่ยวธรรมชาติ ชุมชนและนักท่องเที่ยวร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมกันนี้ได้มีแนวทางการดำเนินงานด้านท่องเที่ยวภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) โดยมีมาตรการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด เช่น จุดคัดกรอง จุดตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย การเว้นระยะหาง กำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวให้เหมาะสม เป็นต้น

เส้นทางท่องเที่ยวนำร่อง อาทิ 1) กรุงเทพฯ - มวกเหล็ก - สระบุรี ได้แก่ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย, ฟาร์มสายทอง สาธิตการแปรรูปหม่อน, สวนผักครูสรรเสริญ แหล่งผลิตผักผลอดสารพิษ

2) กรุงเทพ - วังน้ำเขียว - นครราชสีมา ได้แก่ วังน้ำเขียวฟาร์ม ท่องเที่ยวและศึกษาดูงานโรงเพาะเห็ดที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน, รักจัง ฟาร์มเมล่อนวังน้ำเขียว เรียนรู้วิธีการปลูกเมล่อนปลอดสารพิษ, สวนสับปะรดสีบ้านพระอังคาร ชมแหล่งเพาะพันธุ์ต้นสับปะรดสีมากกว่า 200 สายพันธุ์

3) กรุงเทพ - เพชรบุรี - ประจวบคีรีขันธ์ ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนแพปลาชุมชน, วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านทุ่งสะท้อน, มาลัยฟาร์ม ศูนย์การเรียนรู้ด้านปศุสัตว์ 4) เชียงใหม่ ได้แก่ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ (พืชสวนโลก), ศูนย์ผึ้งเชียงใหม่ และ I Love Flower Farm



ข่าวที่สอง “บลูทรีภูเก็ต”เปิดฉลองรับท่องเที่ยวปี’64จัดโปรทัวร์ความสนุกเริ่มต้นแค่350บาท

 

“บลูทรีภูเก็ต”  ศูนย์รวมของความบันเทิง และการพักผ่อนครบวงจรของทุกครอบครัว บนพื้นที่กว่า 140ไร่ รายงานว่า ทางสวนสนุกซึ่งตั้งอยู่บริเวณตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังวหวัดภูเก็ต กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งต้อนรับปีใหม่ ช่วยสืบสานการท่องเที่ยวของภูเก็ตอย่างยั่งยืน พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว กลุ่มเพื่อน และครอบครัว ร่วมประสบการณ์สนุก ๆ  ในโซน ไลฟสไตล์วิลเลจ ศูนย์รวมร้านค้า คาเฟ่ สคูดิโอเกี่ยวกับสุขภาพ โซนเทอเรส และอารีน่า พร้อมเลือกร้านอาหารนานชาติ รับประทานเมนูที่ชอบ และสามารถสนุกกับกิจกรรมตลอดทั้งวัน ห้ามพลาดคือ “บลูทรีคริสตัลลากูน” ทะเลจำลองขนาดใหญ่ 17,000 ตารางเมตร ที่ใช้เทคโนโลยีระดับโลกจากชิลี สะท้อนน้ำเป็นสีฟ้าสดใสที่มาพร้อมความสะอาดปลอดภัย รายล้อมไปด้วยเครื่องเล่นมากมาย ทั้งสไลเดอร์ ซูเปอร์ฟลาย (Super Fly) หน้าผาจำลอง ซิปไลน์ โซนเล่นน้ำ เหมาะกับครอบครัวในธีม Tarzan & Jane และนินจา วอริเออร์ (Ninja Warrior)  เลือกความสนุกได้ตลอดทั้งวัน

 

ราคาเข้าใช้บริการลากูน เพียงคนละ 350 บาท สามารถเล่นเครื่องเล่นได้ทุกชนิด หรือคนละ 650 บาท รับเครดิตค่าอาหารและเครื่องดื่มมูลค่า 350 บาท สามารถเล่นเครื่องเล่นได้ทุกชนิด สำหรับเด็กเข้าฟรี ต้องมีส่วนสูงต่ำกว่า 90 เซนติเมตร พิเศษ!! โปรโมชั่น ซื้อบัตร 3 ใบ แถมฟรี 1 ใบ เปิดทุกวันตั้งแต่ 10:00 - 18:00 น.

โซนของกินต้องที่ ห้องอาหาร ทรีเฮาส์ (Tree House) เบย์กริล (Bay Grill)  และร้านอาหารนานชาติมากมายภายในโครงการ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย ยังสามารถมาใช้บริการลานกีฬา และศูนย์รวมกิจกรรมเพื่อสุขภาพของเราได้ฟรีอีกด้วย

โทร: 076 602 435 อีเมล์: info@bluetree.fun เวปไซต์: www.bluetree.fun 

 

 

 

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai