ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.นำทัพแก้โจทย์หินฟื้นท่องเที่ยวงัด“5พลังเสริม”พยุงธุรกิจ-จ้างงาน เที่ยวไทยรอกลางมิ.ย.-ต่างชาติขายทัวร์คุณภาพ2แสน-เปิดไทม์ไลน์ฟื้น3เฟส

 บิ๊กททท.นำทัพแก้โจทย์หินฟื้นท่องเที่ยวงัด“5พลังเสริม”พยุงธุรกิจ-จ้างงาน

เที่ยวไทยรอกลางมิ.ย.-ต่างชาติขายทัวร์คุณภาพ2แสน-เปิดไทม์ไลน์ฟื้น3เฟส

คิงเพาเวอร์เพิ่มพลังช้อปโปรใหญ่ MAY MEGA BONUSลด60%ถึง20พ.ค.นี้

ช้อปคุ้มI Summer You คิงเพาเวอร์4สาขารับกิฟท์การ์ด8,000บาทถึง20มิ.ย.

พูลแมนคิงเพาเวอร์เสิร์ฟออนไลน์ข้าวกล่องดงบุริส่งถึงบ้าน8เมนูเริ่ม190.

ททท.ถกแอร์ไลน์สแจกตั๋วบินฟรี1แสนใบดึงต่างชาติเที่ยวยาวต่อจากภูเก็ต

ททท.ตราดหนุนมหาโปร11สวนผลไม้ขายออนไลน์สั่ง400ลดทันที100บาท

“TCEB”นำเอกชนไทยจับคู่เจรจาTIME2021ยอดสถิติทะลุเป้า800นัดหมาย

กรมอนามัยชวนคนไทยเลือกกินอาหาร7เมนูเสริมภูมิคุ้มกันต้านโควิด-19

เล่าเรื่องเที่ยว“หลงรักนา”เช็คอินฟินท้องนากินของอร่อยอ.ท่ายาง เพชรบุรี

ร้านอาหาร-สมาคมศูนย์การค้าไทยเฮศบค.เปิด6จังหวัดนั่งกินที่ร้านได้3ทุ่ม

การบินไทย!!ลุ้นตัวโก่งเจ้าหนี้โหวตแผนฟื้นฟูผ่านหรือไม่ผ่าน 19 พ.ค. 64

 


ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม 2564 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #ททท  #Kingpower #KingpowerMayMegaBonus

            ช่วงที่ 1 ผ่าทางแก้โจทย์สุดหินท่องเที่ยวกับ “ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ส่งพลังฝาวิกฤตโควิดถึงเอกชนกับชุมชน 5 เรื่อง “SOSขอตัวช่วยจากรัฐ-รอใช้4โครงการกระตุ้นเที่ยวไทย-ดันภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ถึงฝั่งฝันโมเดลดึงเงินต่างชาติ-โหมสื่อสารสร้างความเชื่อมั่น-วางรากฐานยุทธศาสตร์โมเดล” หวัง “ตลาดในประเทศ” ขยับได้กลางเดือน มิ.ย.64 ส่วน “ต่างประเทศ” ผนึกเอเย่นต์ปูพรมขายแล้วแพกเกจทัวร์คุณภาพสูงทริปละ 8 วัน 2 แสนบาท หวังโกยลูกค้าซัมเมอร์ ยุโรป อเมริกา เปิดไทม์ไลน์ฟื้นท่องเที่ยว 3 ระยะ “เฟสเร่งด่วนไตรมาส3-4ปี64-เฟส 2แผนฉุกเฉินสภาพัฒน์-เฟส3ทะลุปี’70” เร่งช่วยเอกชน แรงงาน คืนชีพแข่งกับนานาชาติได้

 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ประเมินสถานการณ์ท่องเที่ยวในประเทศที่จะกลับมาอีกครั้งได้ต้องขึ้นอยู่กับการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบ 3 หากย้อนไปช่วงระบาดรอบ 1 สั่งล็อกดาวน์แล้วกลับมาช่วงกรกฎาคม 2563 ก่อนเจอรอบ 2 ที่ภาคเหนือกับสมุทรสาคร เมื่อเกิดเหตุการณ์สิ่งที่ได้รับผลกระทบทันทีคือ 1.การเดินทาง 2.การเคลื่อนย้ายคนจำนวนมาก หลังเหตุการณ์ระบาดทั้งสองครั้งจบลง ต้องใช้เวลาประมาณ 14-28 วัน ทำให้คนออกมาท่องเที่ยวอีกครั้ง

ททท.จึงขอส่งกำลังใจให้ทุกคนร่วมมือกันทำให้การแพร่ระบาดครั้งนี้ยุติโดยเร็ว เพื่อให้การเดินทางเที่ยวในประเทศกลับมาอีกครั้งภายในกลางเดือนมิถุนายน 2564 พร้อมทั้งได้จัดทำโครงการสร้างกำลังใจให้ทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฝ่าวิกฤตโควิดไปด้วยกัน 5 เรื่อง ได้แก่

1.ส่งสัญญาณ SOS ขอความช่วยเหลือไปยังรัฐบาลเข้ามาดูแลผู้ประกอบการท่องเที่ยว ตลอดจนชุมชนซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของประเทศ 2.กระตุ้นตลาดในประเทศ 4 โครงการ ของภาครัฐ 2 โครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3+ทัวร์เที่ยวไทย และ ททท.ทำเองโครงการ Unseen New Series+WAT 3.ทยอยเปิดประเทศตามโครงการภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์ นำร่องที่ภูเก็ตและจังหวัดอื่น ๆ ตามเป้าหมาย  4.การสร้างความเชื่อมั่นด้วยกลยุทธ์สื่อสารการตลาดให้ไทยยังคงเป็นประเทศแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม Top of Mind ของคนในประเทศและทั่วโลกต่อไป 5.วางรากฐานตามโมเดลยุทธศาสตร์ของรัฐบาล

เมื่อ ททท.ดำเนินการไปแล้ว ก็ต้องให้ความช่วยเหลือ โดยเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นจากเดิมอาจโฟกัสกลุ่มพี่น้องประชาชนนักท่องเที่ยวเป็นหลัก ต่อไปจะ “ประสานตรง” ความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการ และชุมชนต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

ส่วนการทำแผนตลาดท่องเที่ยวในประเทศเพื่อรอให้คนออกเดินทางอีกครั้งเมื่อการแพร่ระบาดสงบนั้น ระหว่างการหยุดทำงานอยู่บ้านตามนโยบายรัฐบาล ททท.ทำงานทุกวันทุกสำนักงานในประเทศทั้ง 45 แห่ง และ ททท.ต่างประเทศด้วย นำแผนมากางแล้วช่วยกันวางกลยุทธ์ไว้ให้พร้อม โดยเฉพาะรอรับการท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งยังมี 2 โครงการใหญ่รออยู่ คือ

1.เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ที่รัฐบาลใส่งบประมาณอุดหนุนค่าห้องพัก 40 % ผู้ประกอบการโรงแรมทั่วประเทศ ขายห้องพักเพิ่ม 2 ล้านคืนพัก 2.ทัวร์เที่ยวไทย ตามนโยบายนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา น่าจะกลับมาเปิดให้ซื้อแพกเกจท่องเที่ยวจากบริษัทนำเที่ยวไทยได้ภายในปลายเดือนมิถุนายน หรือต้นเดือนกรกฎาคม นี้

ทั้ง 2 โครงการ น่าจะกระตุ้นการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี 2564 ให้เกิดการเดินทางของคนไทยรวมแล้วไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาคือ 90 ล้านคน-ครั้ง

สำหรับการขับเคลื่อน “โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” รายละเอียดดังนี้

1.ขยับวันสิ้นสุดโครงการจาก 31 สิงหาคม เป็น 31 ตุลาคม 2564 เพื่อให้มีเวลาเบิกจ่ายและปิดงบประมาณได้ทันภายในปีนี้ 2.เพิ่มเงื่อนไขจะต้องเดินทางข้ามภูมิลำเนาตามบัตรประชาชน ซึ่งเดิมให้เที่ยวภายในภูมิลำเนาแล้วเกิดเหตุการณ์ส่อไปในทางทุจริตจำนวนมากเกิดขึ้น 3.เปลี่ยนช่วงการจองห้องพักโรงแรมล่วงหน้าจากเดิม 3 วัน เป็น 7 วัน  4.เปลี่ยนแปลงเติมเงิน E-Voucher จะให้เท่ากันหมด 600 บาท/คน/วัน (เดิมวันธรรมดา จันทร์-พฤหัสบดี ให้ 900 บาท/คน/วัน) 5.เพิ่มวิธีเช็คอินใหม่โดยจะต้องสแกนใบหน้าซึ่งทางธนาคารกรุงไทยได้จัดทำระบบใหม่ให้แล้ว

6.ต้องจองผ่านระบบแอพลิเคชั่น “เป๋าตัง” จึงจะสามารถซื้อห้องพักผ่านออนไลน์ได้ 7.สิทธิประโยชน์ของนักท่องเที่ยวที่ตกค้าง เฟส 1-2 คนละ 15 สิทธิ์ สามารถมาใช้ได้ตามปกติในเฟส3 8.จะมีคณะกรรมการสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด กับ ททท.สำนักงานประจำพื้นที่ รวมทั้ง ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกันสุ่มตรวจ  เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ามีการเข้าพักจริงตามที่จอง 9.ตั๋วโดยสารเครื่องบินก็ได้รับสิทธิ์สนับสนุนเงินตามสิทธิ์เที่ยวจังหวัดทั่วไปรับ 2,000 บาท/คน จังหวัดท่องเที่ยวหลักรับ 3,000 บาท/คน

รายละเอียดการขับเคลื่อน “โครงการทัวร์เที่ยวไทย” รายละเอียดดังนี้

1.เปิดรับสมัครบริษัทนำเที่ยวผ่านทางออนไลน์ ต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียน ก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เพื่อยืนยันว่าได้รับผลกระทบจากโควิดจริง ได้สิทธิ์ขายแพกเกจให้นักท่องเที่ยวไม่เกิน 1,000 คน/บริษัท ผลิตการท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 15 รายการ/บริษัท ผู้ประกอบการจะต้องมีแอพลิเคชั่น “ถุงเงิน” ให้ตรวจเช็ครายการนำเที่ยวตามที่ระบุไว้ รวมทั้งจะมีคณะกรรมการตรวจสอบความคุ้มค่าสร้างความมั่นใจว่าราคาขายแพกเกจจะเกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย และตรวจสอบเรื่องแต่ละกรุ๊ปออกเดินทางท่องเที่ยวจริงหรือไม่ ตอกย้ำเรื่องความคุ้มค่าเรื่องการใช้งบประมาณ

ส่วนนโยบายที่จะเน้นให้ ททท.ทั้ง 5 ภูมิภาค คือ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ทำเองด้วยอีกทางโดยย้ำเน้นมาตรการป้องกันความปลอดภัยด้านสุขอนามัยและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด ภายใต้การเที่ยววิถีใหม่ New Normal ซึ่ง ททท.ทำเพิ่มเติมเข้าไป ก็จะประกอบด้วย 1.โครงการตามแผนฟื้นฟู Phonex Plan 2.โครงการปรับใช้งบประมาณตามนโยบายของคณะกรรมการท่องเที่ยวแห่งชาติ ใช้งบบางส่วนจากตลาดต่างประเทศมาทำตลาดในประเทศมากขึ้น เช่น 1.โครงการ Unseen New Series ซึ่งจะเปิดตัวหลังโควิดคลี่คลายลง 2.โครงการ Warship Activity Traditional :ศรัทธานำทาง เส้นทางนำเที่ยว โดยความร่วมมือกัน 3 ฝ่าย ได้แก่ ททท.กระทรวงวัฒนธรรม และ สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี จะเร่งรัดภายในปีงบประมาณ 2564

ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือ กลุ่มที่ 1 ผู้ประกอบการ ซึ่งต้องการความชัดเจนเรื่องการเปิดประเทศ ในกลุ่มต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ส่วนตลาดในประเทศต้องดูนโยบาย ตราบเท่าที่ยังห้ามเดินทางข้ามจังหวัดเพื่อช่วยกันควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด  ก็ยังต้องรอเวลาจนกว่าการฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่จะทำได้ครบ การเดินทางจะกลับมาเพิ่มขึ้นได้  

กลุ่มที่ 2 การช่วยเหลือแรงงานท่องเที่ยว เมื่อคนเดินทางเพิ่ม บริษัท ห้างร้าน ต่าง ๆ ก็จะเรียกคนกลับเข้าทำงาน ระหว่างรอทางรัฐมนตรีพิพัฒน์ รัชกิจประการ ให้นโยบาย ททท.เร่งเพิ่มทักษะเพราะหลังโควิดรูปแบบการท่องเที่ยวจะเปลี่ยนไป ททท.จะร่วมมือกับสมาคมท่องเที่ยวทั้งหมด หาวิธีทำให้แรงงานสามารถปฏิบัติได้เท่าทันรูปแบบใหม่รวมทั้งมีทักษะที่ดีขึ้นด้วย

ขณะเดียวกัน ททท.ได้ใช้ช่วงเวลาหยุดทำงานอยู่บ้านตามนโยบายรัฐบาล ประชุมออนไลน์ แลกเปลี่ยนข้อมูลกับทุกภาคส่วน เพื่อตอกย้ำนโยบายต่าง ๆ ล่าสุดประชุมกับทางสมาคมท่องเที่ยวในประเทศ (สทน.) วางแผนขับเคลื่อนการตลาด และจะกระจายประชุมร่วมกับทุกสมาคม ไม่ว่าจะเป็นสมาคมโรงแรมไทย สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (แอตต้า) มุ่งสู่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นจากโควิด โดยพยายามสื่อสารให้เข้าใจตรงกันถึงทิศทางต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องการตลาด

ปัจจุบัน ททท.แบ่งไทม์ไลน์การทำงานออกเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วย “ระยะเร่งด่วน” ไตรมาส 3-4 จะเกิดอะไรขึ้นบ้างกับตลาดในประเทศและต่างประเทศ “ระยะที่ 2 ปี 2564-2565 แผนฉุกเฉินสอดคล้องกับแผนแม่บทของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ “ระยะที่ 3 ปี 2566-2570 เมื่อมีไทม์ไลน์ชัดเจนแบบนี้ภาคเอกชนก็จะต้องนำมาทาบแผนดังกล่าวลงไป แล้วลงมือทำให้ตรงกัน

ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวต่อถึงเรื่องโครงการ “ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์” เป็นตามนโยบายศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยมีมติเมื่อ 19 มีนาคม 2564 ระบุไตรมาส 4 ปีนี้จะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้วโดยกักตัวในบางพื้นที่ 14  วัน จากนั้น 26 มีนาคม 2564 ทาง ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) เห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเรื่องการกักไม่ตัวบางพื้นที่ พร้อมกำหนดเป็น 6 พื้นที่ ภูเก็ต สมุย พังงา กระบี่ พัทยา เชียงใหม่ ต่อมาเพิ่มอีก 4 พื้นที่ กรุงเทพฯ หัวหิน ชะอำ บุรีรัมย์ จนครบ 10 พื้นที่ ซึ่งคุณสมบัติกำหนดพื้นที่ 1.เป็นที่รู้จักของต่างประเทศ 2.เป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่พึ่งพาการท่องเที่ยวต่างประเทศระดับสูงและได้รับผลกระทบจากโควิด

ทาง ททท.เองก็ได้ทำสำรวจหลังจากหลายประเทศ ตัวอย่าง อังกฤษ อนุญาตให้คนเริ่มเดินทางออกต่างประเทศได้ จึงเกิดโครงการ “ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์” โดยนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ททท.ลงพื้นที่ภูเก็ตไปเรียบร้อยแล้ว คุยกับชาวภูเก็ตเห็นตรงกันทำโมเดลเป็นแม่บทเปิดประเทศรับต่างชาติโดยไม่กักตัว

การดำเนินงานขณะนี้ 1.รัฐหาวัคซีนส่งให้ภูเก็ตซึ่งมีความต้องการประมาณ 9.2 แสนโด๊ส (ปัจจุบันได้รับวัคซีนไปแล้ว 2 แสนโด๊ส มิ.ย.จะได้อีก 2 แสนโด๊ส ต่อเนื่องไปจนครบ)  แลกกับภูเก็ตที่จะได้รับวัคซีน จะต้องเปลี่ยนแปลงภูเก็ตไปในทางที่ดีขึ้นด้วย โดยเสนอทำ Better Phuket Innitiative เน้นพัฒนาทัศนียภาพ มาตรฐานความปลอดภัย ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้”นักท่องเที่ยวคุณภาพสูง” ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น 2.ทำการตลาดเชิงรุกโดยตั้งเป้าจะนำเข้าต่างชาติมาเที่ยวภูเก็ตหลังโควิดให้ได้ไม่น้อยกว่า 1.29 แสนคน 

 ส่วนความเป็นไปได้ของตลาดระยะเริ่มต้นที่ ททท.ในต่างประเทศได้ขานรับนโยบายของ รมว.พิพัฒน์ ให้เป็นไปได้ที่จะเชิญชวนคนเข้ามาเที่ยว เพราะตอนนี้ข่าวเรื่องโควิดของไทยโดนในอินเดียกลบกระแส อีกทั้งเอเย่นต์ให้ความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัย คงมีเรื่องที่กังวลคือจะเลื่อนการเปิดประเทศเพื่อรับต่างชาติหรือไม่ ทาง ททท.ยืนยันไปแล้วว่า ณ เวลานี้รัฐบาลยืนยันจะเปิดตามกำหนดเดิมเริ่ม 1 กรกฎาคม 2564 ผนวกการกับสื่อสารเรื่องภูเก็ตได้พัฒนาเมืองในเชิง initiative การกระจายฉีดวัคซีนครบโด๊สตามเป้าหมายคุ้มกันหมู่ สร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวภูเก็ตในพื้นที่

ดร.ยุทธศักดิ์ ย้ำว่า ททท.สำนักงานต่างประเทศร่วมกับเอเย่นต์ในตลาดระยะไกล นำเสนอขายแพกเกจบ้างแล้วเน้นราคาสูง 150,000-200,000 บาท/คน/แพกเกจ ระยะการพำนัก 7-8 วัน/แพกเกจ เพื่อขายช่วงตรงกับเทศกาลหยุดหน้าร้อน เดิมเคยเที่ยวใกล้ ๆ หันมาลองเที่ยวเมืองไทย เฉลี่ยช่วงนำร่องเปิดประเทศเดือนละประมาณ 30,000-40,000 คน/เดือน อาจจะไม่ได้สูงมากนัก แต่คาดหวังจะทำเป็นโมเดลภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์ เพื่อขยายต้นแบบไปยังพื้นที่อื่น ๆ อีก 9 แห่ง ได้นำไปเรียนรู้ประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดต่อไปในอนาคตได้ด้วย

ฟังข่าวต้นชั่วโมง


ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์เพิ่มพลังช้อปโปรใหญ่ MAY MEGA BONUSลด60%ถึง20พ.ค.

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดฤดูกาลแห่งการช้อปมาถึงแล้วที่คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ www.kingpower.com และแอพลิเคชั่น คิง เพาเวอร์ ชวนนักช้อปทุกคนคลิกเข้ามาเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมของแท้ ในราคาดิวตี้ฟรี ที่ไม่ต้องแย่งกับใครเป็นโบนัสให้กับตัวเองส่งท้ายฤดูร้อน กับมหกรรมลดครั้งใหญ่ โปรโมชั่นพิเศษ May Mege Bonus ตั้งแต่วันนี้ – 20 พฤษภาคม 2564 ลดสูงสุด 60% และลดเพิ่มอีก 10% เมื่อช้อปครบตามกำหนด ไม่ว่าจะ Work From Home หรือจะนั่งทำงานอยู่ไหน ๆ ก็ช้อปได้ตลอด พร้อมบริการ Home Delivery จัดส่งสินค้าฟรีทั่วประเทศ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 699 บาทขึ้นไป

MAY MEGA BONUS ช้อปสนุก รับส่วนลดสุดคุ้ม ได้ดังนี้

รับส่วนลดสูงสุด 60% เมื่อช้อปครบ 3,000 บาท ใส่โค้ด MEGA

+ ลดเพิ่ม 5% เมื่อช้อปครบ 5,000.- ใส่โค้ด MEGA5

+ ลดเพิ่ม 7% เมื่อช้อปครบ 7,000.- ใส่โค้ด MEGA7

+ ลดเพิ่ม 10% เมื่อช้อปครบ 9,000.- ใส่โค้ด MEGA10

1.แบ่งชำระ 0%* นานสูงสุดถึง 10 เดือน 2.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 600.-* > http://bit.ly/2OzUV1k

3.ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง > http://bit.ly/31yjocR  4.รับเลย! ส่วนลด 200 บาทเมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ > http://bit.ly/2S4uJyi  5.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000.- (สุทธิ) > https://bit.ly/2H3hwDb


ข่าวที่ 2 ช้อปคุ้ม I Summer You คิงเพาเวอร์4สาขารับกิฟท์การ์ด8000บาทถึง20มิ.ย.นี้

คิง เพาเวอร์ ให้บริการด้วยมาตรการสุขอนามัย โดยขอให้ผู้มาใช้บริการทุกท่านสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาในทุกพื้นที่ และรักษาระยะห่างทางสังคมตามมาตรการ Social distancing แล้วก็เลือกช้อปโปรโมชั่น “I Summer You” มอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกได้ช้อปพร้อมรับเงินคืน ระหว่างวันนี้- 20 มิ.ย. 64 รับข้อเสนอสุดพิเศษ! Gift Card มูลค่า 8,000 บาท เมื่อซื้อ Cash Card มูลค่า 50,000 บาท ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มหานคร พัทยา และภูเก็ต

แถมปลดล็อกความกังวลให้นักช้อปด้วยความสุดพิเศษจากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ผ่อน 0 % นาน 10 เดือน

 การใช้ Cash Card

  • เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ ตรวจสอบสินค้าร่วมรายการเพิ่มเติม ณ จุดขาย
  • Cash Card สามารถใช้กับสินค้าดิวตี้ ฟรี, สินค้าป้ายฟ้า และสินค้า Home Delivery
  • Cash Card สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดสมาชิก คิง เพาเวอร์ กรณีซื้อสินค้าดิวตี้ ฟรี สินค้าป้ายฟ้า
  • Cash Card สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดสินค้า Home Delivery
  • ผ่อนชําระ 0% สามารถร่วมรายการ
  • Cash Card สามารถนํามาใช้ได้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มหานคร พัทยา และภูเก็ต และหมดอายุวันที่ 31 พฤษภาคม 2564
  • Cash Card ไม่สามารถแลกคืนหรือทอนเป็นเงินสด
  • Cash Card สามารถเปลี่ยนมือได้
  • ไม่สามารถยกเลิก หรือคืน Cash Card

 


ข่าวที่ 3 พูลแมนคิงเพาเวอร์เสิร์ฟออนไลน์ข้าวกล่องดงบุริส่งถึงบ้าน8เมนูเริ่มที่190บาท

โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ในเครือกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนสัมผัสอาหารเมนูเลิศรสของข้าวกล่อง “ดงบุริ” ของห้องอาหาร “เท็นชิโนะ” เพียงแค่คลิกสั่งอาหารญี่ปุ่นทางออนไลน์กลับบ้านในช่วงทำงานอยู่บ้านได้ตลอดทุกวัน เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.00 – 21.00 น.

พิเศษ!! สมาชิกบัตร คิง เพาเวอร์ และบัตร แอคคอร์พลัส รับทันทีส่วนลด 25%

มีเมนูข้าวกล่องดงบุรีแบบพรีเมี่ยม ให้เลือกได้ตามความชอบมีถึง 8 หน้าด้วยกัน ราคาเริ่มต้นเพียง 190 บาทสุทธิ คลิกสั่งออนไลน์ได้ทาง https://bit.ly/3o43PF9

1.ข้าวหน้าหมูมิโซะ ราคา 190 บาทสุทธิ 2.ข้าวหน้าไก่ ราคา 270 บาทสุทธิ 3.สลัดซีฟู้ด ราคา 330 บาทสุทธิ 4.หน้าปลาไหล ราคา 350 บาทสุทธิ 5. ข้าวหน้าสเต๊กเนื้อ ราคา 355 บาทสุทธิ 6.ข้าวหน้ากุ้งทอด ราคา 355 บาทสุทธิ 7.ข้าวหน้าปลาแซลมอนย่าง ราคา 425 บาทสุทธิ 8.ข้าวหมูอิเบอริโกกับไข่ออนเซน ราคา 465 บาทสุทธิ

ราคาข้างต้นไม่รวมค่าบริการจัดส่ง หรือมารับได้ด้วยต้นเองที่ชั้นล็อบบี้ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ หรือสั่งผ่าน #Lineman  โทร.สอบถามที่ 02 680 9999

ขณะที่ Thai Taste Hub @ Srivaree โซนอาหารสตรีทฟู้ดแถวหน้าของเมืองไทย ที่ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี ก็เปิดให้บริการเฉพาะซื้อกลับบ้านเท่านั้น (ย่านบางนา-ลาดกระบัง) โดยมีเมนูอร่อยรสจัดจ้านจากสตรีตฟู้ดร้านดังรวมไว้ให้กลับไปอร่อยได้ที่บ้าน เปิดบริการ ตั้งแต่เวลา 11.00 - 19.30 น.

ทั้งนี้ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา เน้นปฏิบัติมาตรการดูแลป้องกันตามที่ภาครัฐกำหนดอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด และเน้นย้ำกำกับใช้มาตรการ D-M-H-T-T เพื่อการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด

ข่าวที่ 4 ททท.ถกแอร์ไลน์สแจกตั๋วบินฟรี1แสนใบดึงต่างชาติเที่ยวยาวต่อจากภูเก็ต

 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ล่าสุดได้หารือกับสายการบินเตรียมร่วมมือกันทำโปรโมชั่นสร้างแรงจูงใจนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวเมืองไทยพื้นที่ต่าง ๆ ที่ทางศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 อนุญาตให้ดำเนินการได้ช่วงไตรมาส 3 จึงจะวางแผนขยายพื้นที่เที่ยวหลังจากนักท่องเที่ยวอยู่ภูเก็ตจนครบ 7 คืนแล้ว จะใช้โครงการ “แจกตั๋ว เที่ยวเดียว” หรือสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินเดินทางจากภูเก็ตไปเที่ยวจังหวัดอื่น ๆ คนละ 1,000-2,000 บาท  เบื้องต้น 1 แสนใบ

ตลาดเป้าหมายหลัก แนวโน้มจะเป็นยุโรป ซึ่งคนส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนแล้วจำนวนมาก โดยเฉพาะสหราชอาณาจักร เตรียมประกาศอนุญาตให้คนออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศได้ตั้งแต่ 17 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป  ขณะเดียวกัน ททท.ก็จะติดตามดูแต่ละประเทศมีระดับความปลอดภัยตามสัญลักษณ์สีแดง สีเหลือง และสีเขียว ด้วย

ดร.ยุทธศักดิ์ยืนยันว่า ล่าสุดได้หารือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” ถึงสถานการณ์เที่ยวบินตรงจากต่างประเทศเข้าภูเก็ต ซึ่งพร้อมร่วมมือแยกพื้นที่อาคารผู้โดยสารในสุวรรณภูมิบริเวณโซน E9 เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติจากนานาประเทศเปลี่ยนเที่ยวบินเดินทางต่อไปภูเก็ต

ทั้งนี้ ททท. คาดการณ์ไตรมาส 4 ปี 2564 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบแล้วจะเดินทางเที่ยวไทยแบบไม่กักตัวมากขึ้นเข้ามาไทยในพื้นที่นำร่องตามที่รัฐบาลอนุมัติ 10 จังหวัด แบ่งเป็น เริ่ม 1 กรกฎาคม 2564 รวม 6 จังหวัด คือ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี (สมุย-พะงัน-เต่า) ชลบุรี (พัทยา) เชียงใหม่ และเริ่ม 1 ตุลาคม 2564 อีก 4 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และบุรีรัมย์

 

ข่าวที่ 5 ททท.ตราดหนุนมหาโปร11สวนผลไม้ขายออนไลน์สั่ง400ลดทันที100บาท

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตราด รายงานว่า ได้ให้การสนับสนุนเจ้าของสวนผลไม้ซึ่งเคยเป็นแหล่งท่องเที่ยว โปรโมชั่นเด็ด : “ลดยกก๊วน ช้อปสวนออนไลน์” ครั้งที่ 2 เมื่อแฟนคลับทั่วไทยสั่งซื้อผลไม้ทางออนไลน์ครบ 400 บาทขึ้นไป รับส่วนลดทันที 100 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2564

            สั่งซื้อผลไม้ออนไลน์จากสวนชาวตราด ตามขั้นตอนง่าย ๆ ครบ 400 บาท รับส่วนลดทันที 100 บาท คนละ 1 สิทธิ์ ต่อ 1 ใบเสร็จ   โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการโปรโมชั่น เบื้องต้น 11 สวนผลไม้ ดังนี้

1. สวนไพฑูรย์ : 086-006-0132 (คุณไพฑูรย์ วานิชศรี)

2. สวนผลอำไพ : 081-656-3841 (คุณชัยวัฒน์ ปริ่มผล)

3. สวนนายอำเภอ: 081-996-8308 (คุณศักดิ์ประเสริฐ เจริญประสิทธิ์)

4. สวนหนอนบุ้ง : 087-141-3923 (คุณภิญโญ ถนอมศักดิ์)

5. สวนสละสมโภชน์: 081-438-2015 , 081-942-9695 (คุณจันทรชา ตรีวงษ์)

6.สวนคุณปู่ (เกาะช้าง): 092-260-8517 (คุณอัตถสิทธิ์ ครุพานิช)

7. สวนสมโภชน์ (เกาะช้าง) : 086-022-6346 (คุณเฉลิมพล ทัศมากร)

8.สวนเกษตรแปลงใหญ่ ท่ากุ่ม-เนินทราย : 062-559-9363 (คุณรังสิมา ศรีนาราง)

9. สวนลุงหวัง (เกาะช้าง) : 086-835-2840 , 090-736-4130 (คุณสมหวัง ภรินทนันท์)

10. สวนลุงยาว (เกาะช้าง): 084-919-1368 (คุณไพลิน กรัญญิรัตน์)

11. สวนนายอาร์ท : 092-371-6063 (คุณกิตติวัฒน์ ทิพย์วัลย์)

นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ ททท.ตราด  โทร.039-597-259 และทางเพจ Facebook: ททท. สำนักงานตราด

 ข่าวที่ 6 TCEB”นำเอกชนไทยจับคู่เจรจาTIME2021ยอดสถิติทะลุเป้า800นัดหมาย

 

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB เปิดเผยว่าทางฝ่ายส่งเสริมการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลของทีเส็บ เดินหน้ารักษาฐานลูกค้าไมซ์ในตลาดเอเชียแปซิฟิกโดยจัดออนไลน์งาน TIME 2021 Business Exchange – Asia-Pacific Market เปิดมหกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างตัวแทนผู้ขายของไทยกับผู้ซื้อต่างประเทศ ซึ่งสามารถทำนัดหมายแบบตัวต่อตัวได้มากถึง 800 นัดหมาย ตลอดการจัดงานดังกล่าวซึ่งจัดต่อเนื่อง 3 วัน ระหว่าง 27-29 เมษายน 2564

โดยฝ่ายส่งเสริมการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลของทีเส็บ ได้นำผู้ประกอบการไมซ์ไทย 32 คน จับคู่เจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการตัวแทนผู้ขายประเทศหลัก ๆ ได้แก่ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ อินเดีย ญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ 66 คน  

เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล ตอกย้ำความพร้อมของไทยในสถานการณ์ New Normal ให้ลูกค้าวางแผนเลือกไทยเป็นสถานที่จัดงานในอนาคต  

งาน TIME 2021 Business Exchange ครั้งต่อไปจะเป็น Chinese Speaking Market ระหว่างวันที่ 22-23 มิถุนายน 2564 ติดต่อและลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ miregistration@tceb.or.th

                ช่วงที่ 2 เรื่องเล่าถึงแหล่งท่องเที่ยวเมืองไทย มีอีกหลากหลายมุม วันนี้มีแลนด์มาร์คธรรมชาติ “หลงรักนา” อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี มาบอกกัน ดีทั้งสถานที่พักผ่อน ศูนย์เรียนรู้ การทำกิจกรรม และมุมชีลแชะแชร์รูปสวย ๆ จากนั้นฟังอธิบดีกรมควบคุมโรคแนะคนไทย “กินอาหาร7เมนูเสริมภูมิคุ้มกันโควิด” และข่าวปลดล็อก “ร้านอาหารพื้นที่สีแดง 6 จังหวัด” เปิดให้ลูกค้านั่งกินที่ร้านได้แล้ว สมาคมศูนย์การค้าไทยเฮรับพร้อมเข้ม 5 มาตรการ ปิดท้าย “การบินไทย” ลุ้น “19 พ.ค.64” เจ้าหนี้จะโหวตให้ผ่านแผนฟื้นฟูกิจการหรือไม่ ต้องห้ามกระพริบตา



เล่าเรื่อง “หลงรักนา”เช็คอินฟินท้องนากินของอร่อยอ.ท่ายางเพชรบุรี


“เพชรบุรี” พื้นที่มีเรื่องเล่าถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ นอกจากท้องทะเลสวย แสงแดดใส ๆ แล้ว ตอนนี้มีอีกหนึ่งแลนด์มาร์คให้เช็คอินที่ “หลงรักนา” อยู่ในตำบลท่ายาง อำเภอท่ายาง ห้อมล้อมไปด้วยอาณาจักรแห่งทุ่งนาสวยเขียวขจี สามารถเที่ยวแบบวันสต็อปทั้งเรื่องท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ที่จะสร้างประสบการณ์ดี ๆ ให้เราได้รู้จักธรรมชาติมากยิ่งขึ้น  

เสน่ห์ดึงดูดใจคือ ทุ่งนาให้คุณได้นั่งชีล ๆ พักผ่อนหย่อนใจชิล เข้าไปถึงก็สะดุดตากับกิจกรรม พายเรือ ปั่นเรือเป็ดเล่นเพลิน ๆ  หรือจะทำขนม เรียนรู้วิธีเลี้ยงกุ้ง ปลูกข้าว และพื้นที่รอบ ๆ ก็มีจุดให้ถ่ายรูปกับตัวการ์ตูนน่ารัก ๆ ทำพร็อพไว้ให้ได้แชะเก็บบันทึกภาพสวย ๆ อย่างที่เราชอบ

หากมาเป็นครอบครัว ก็ชวนกันไปลงมือทำของอร่อย ๆ กับทีมงานซึ่งจัดพื้นที่ “ศูนย์การเรียนรู้” ชวนนักท่องเที่ยวมาลองทำ “น้ำตาลโตนด” เป็นวิถีวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวเมืองเพชร ซึ่งปลูกตาลมายาวนานจนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต สร้างชื่อเสียงของน้ำตาลโตนดที่นำมาทำขนมอร่อย ๆ ได้มากมาย

หรือจะชมการสาธิต เลี้ยงกุ้งกราม กับการปลูกข้าวออแกนิค ที่ใครได้เรียนก็ต้องบอกว่าเพลิดเพลิน เพราะเป็นการสอนที่สนุกสนาน และได้ความรู้กลับบ้าน ใครที่ชอบออกแรง หลงรักนา ยังมีให้

 

ระหว่างพักผ่อนหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ทาง “หลงรักนา” มีบริการอาหารและเครื่องดื่ม ลองสั่งมาชิมได้ทั้ง อาหารไทยโมเดิร์น ไทยโบราณ ไทยออแกนิก ห้ามพลาดสั่งเมนู!! ขนมจีนทอดมัน แกงหัวตาลและเมี่ยงปลากุเลา เพราะเป็นอาหารขึ้นชื่อของเพชรบุรี

รักเธอนะ...เมืองไทย ห่างไกลกันสัก เมื่อโควิดจางหาย ออกมาเที่ยวเมืองไทย ให้หายคิดถึง แล้วจะได้พบกับความสวยงาม สุดอะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม

ดูรายละเอียดเพิ่มทางเพจหลัก – https://www.facebook.com/LongRakNaBotanic/  หรือโทร. 081-8567-598

กรมอนามัยชวนคนไทยกินอาหาร7เมนูเสริมภูมิคุ้มกันต้านโควิด-19

 

นายแพทย์สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ชวนคนไทยหันมาสร้างภูมิคุ้มกันต้านไวรัสโควิด- 19 ด้วยการเลือกกินอาหาร 7 เมนู ได้แก่ 

เมนูที่ 1 ไข่ยัดไส้ กินมะเขือเทศและแครอทให้ได้อย่างละ ½ ทัพพี จะได้รับวิตามินซี 42 เปอร์เซ็นต์ และวิตามินเอ 43 เปอร์เซ็นต์ 

เมนูที่ 2 ต้มเลือดหมู กินผักกาดหอม ½ ทัพพี ตับหมู 1 ช้อนโต๊ะ เลือดหมู 1 ชิ้นและหมูสับ 1 ช้อนโต๊ะ จะได้รับธาตุเหล็ก 45 เปอร์เซ็นต์  

เมนูที่ 3 ต้มยำปลาทู มีมะเขือเทศและน้ำมะนาวเป็นส่วนประกอบ จะได้รับวิตามินซี 42 เปอร์เซ็นต์ 

เมนูที่ 4 ต้มจืดตำลึงเต้าหู้ไข่ มีส่วนผสมของแครอท ½ ทัพพี และตำลึง 2 ทัพพี จะได้รับวิตามินเอ 42 เปอร์เซ็นต์ 

เมนูที่ ปลานึ่งขิง หากใช้ปลาทับทิมเป็นส่วนประกอบ จะได้รับวิตามินดี 20 เปอร์เซ็นต์ 

เมนูที่ 6   ปลาผัดเปรี้ยวหวาน มีส่วนผสมของมะเขือเทศ ½ ทัพพีและพริกหวาน 1 ลูก จะได้รับวิตามินซีเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย

เมนูที่ 7 ข้าวผัดหอยลาย มีส่วนผสมของเนื้อหอยลาย ได้รับธาตุเหล็ก 33 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน

สำหรับการปรุงประกอบอาหาร ควรเลือกวัตถุดิบที่สด สะอาด และปรุงอาหารให้สุกใหม่ทุกครั้ง ลดกินหวาน  มัน เค็ม นอกจากนี้ ควรมีกิจกรรมทางกายที่เหมาะสมเพื่อเผาผลาญพลังงานในแต่ละวัน เช่น ทำงานบ้าน เต้นแอโรบิกในบ้าน หรือมีกิจกรรมผ่อนคลายเพื่อลดภาวะเครียด เช่น การสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน ฟังเพลง อ่านหนังสือ ดูหนังออนไลน์ เล่นเกม รวมทั้งดื่มน้ำสะอาด 1.5 – 2 ลิตรต่อวัน และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7 – 9 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรง มีสุขภาพดีในระยะยาว

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 ร้านอาหาร-สมาคมศูนย์การค้าไทยเฮศบค.เปิด6จังหวัดนั่งกินที่ร้านได้ถึง3ทุ่ม

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ได้แถลงมติผ่อนปรนมาตรการให้ร้านอาหารในพื้นที่ที่ได้รับการประกาศให้เป็นสีแดงเข้มเนื่องจากมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จำนวนมาก 6 จังหวัด  กรุงเทพฯ  ชลบุรี  เชียงใหม่ ปทุมธานี และสมุทรปราการ สามารถเปิดให้ลูกค้านั่งรับประทานได้แล้วตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป แต่กำหนดเวลาในแต่ละวัน นั่งรับประทานที่ร้านได้ไม่เกิน 21.00 น. และซื้อกลับบ้านได้ไม่เกิน 23.00 น.

นายนพพร วิฑูรชาติ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย เปิดเผยว่า ได้ทำจดหมายส่งถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ยกระดับมาตรการทำเชิงรุกขั้นสูงสุดด้านสุขอนามัยในร้านอาหารเพิ่มมากกว่าปกติ ครอบคลุมร้านทั้งภายในและภายนอกศูนย์การค้าสามารถปฏิบัติได้ 5 มาตรการ ประกอบด้วย

1. นั่งทานอาหารมีระยะห่างและฉากกั้น (Social Distancing) นั่งได้ไม่เกินโตละ 4 คน และเว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะไม่ต่ำกว่า 1-2 เมตร หากใช้หม้อต้ม ปิ้งย่าง และอุปกรณ์ ต้องแยกใช้เฉพาะต่อคน ๆ ละ 1 ชุด

2. การทำความสะอาดร้านอาหารในโรงพยาบาล (Deep Cleaning) และร้านต่าง ๆ ต้องเพิ่มในระดับสูงสุดด้วยการเช็ดและฆ่าเชื้อโต๊ะเก้าอี้ใช้น้ำยาประสิทธิภาพสูง เช็ดก่อนลูกค้านั่ง หลังลูกค้าใช้บริการ พนักงานต้องล้างมือด้วยสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์เข้มข้นอย่างน้อย 70 % ทั้งก่อนเตรียมอาหาร และก่อน-หลังให้บริการลูกค้า พนักงานต้องสวมถุงมือขณะให้บริการและเปลี่ยนถุงมือทุกๆ 1 ชั่วโมง

3. คัดกรองเข้มงวดสูงสุด (Extra Screening) ทั้งลูกค้าและพนักงานทุกคนที่เดินเข้า-ออก ร้านต้องล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และตรวจวัดอุณหภูมิทุกครั้ง และพนักงานจะต้องป้องกัน 2 ชั้น โดยใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น หรือใส่หน้ากากอนามัย 1 ชั้น และสวม Face shield ตลอดเวลาที่ให้บริการ

4. ตรวจสอบพนักงานเคร่งครัด ระบุที่มาที่ไปได้ (Safety Tracking) โดยพนักงานร้านค้าทั้งหมดต้องระบุ Timeline ในการเดินทางและตอบแบบสอบถาม ก่อนเข้างานทุกวัน และจัดเก็บประวัติที่พักอาศัยของพนักงานทุกคนในศูนย์การค้า ส่วนลูกค้าให้ลงทะเบียนห้ามละเลยโดยเด็ดขาด

5. ส่งเสริมสังคมไร้สัมผัส (Touchless Experience) ด้วย Touchless เมนู และ e-Payment และหากมีการทอนเป็นเงินสด ต้องป้องกันการสัมผัส

ข่าวที่สอง การบินไทยลุ้นตัวโก่งเจ้าหนี้โหวตแผนฟื้นฟูผ่านหรือไม่ผ่าน19พ.ค.64

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วันที่ 19 พฤษภาคม 2564 จะจัดประชุมเจ้าหนี้ทางออนไลน์ E-meeting เพื่อโหวตแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทย ครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรกยังไม่สามารถโหวตได้เนื่องจากมีเจ้าหนี้บางรายขอนำเอกสารซึ่งมีเป็นจำนวนมากกลับไปพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้ง

สำหรับ การจัดประชุมพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Meeting) เป็นไปตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดประชุมเจ้าหนี้ในคดีฟื้นฟูกิจการของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กำหนดนัดแรกเมื่อ 12 พฤษภาคม 2564 เวลา 09.00 น. หลังจากวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 ผู้ทำแผนและเจ้าหนี้หลายรายยื่นคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รวม 15 ฉบับ

 ส่วนสถานการณ์ในที่ประชุมครั้งที่  1 ผู้ทำแผนได้ชี้แจงหลักการชำระหนี้ตามแผน และรายละเอียดการขอแก้ไขแผน และเจ้าหนี้ที่ยื่นคำร้องขอแก้ไขแผนแต่ละรายก็ได้ชี้แจงรายละเอียดในการขอแก้ไขแผนต่อที่ประชุมเจ้าหนี้ พร้อมเปิดโอกาสให้เจ้าหนี้ในที่ประชุมสอบถามคำถามและให้ผู้ทำแผนตอบข้อสงสัยในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างการประชุมปรากฏว่ามีเจ้าหนี้ที่เข้าประชุม 20 รายมีจำนวนหนี้ตามมาตรา 90/47 แห่ง พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 ได้ขอเลื่อนการประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนออกไป 

 

ดังนั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มีคำสั่งให้เลื่อนการประชุมเจ้าหนี้ออกไปตามคำขอของเจ้าหนี้ดังกล่าว และกำหนดวันนัดประชุมใหม่ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 เวลา 09.00 น. ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Meeting) 

 

การประชุมที่เลื่อนออกไปเจ้าหนี้จะสามารถใช้สิทธิลงมติเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูกิจการและการขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการ 

ทั้งนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้แจ้งกำหนดนัดใหม่ให้ที่ประชุมเจ้าหนี้ทราบ และให้ถือว่าเจ้าหนี้ทุกรายที่เข้าร่วมประชุมและไม่ได้เข้าประชุมได้รับทราบแล้ว

 

            ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai