วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2564

Ep.1 “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ของผู้นำนะจ๊ะ ชำแหละ!!โอกาส-ความหวัง5ประเด็นร้อนฉ่า1ก.ค.64

Ep.1 “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ของผู้นำนะจ๊ะ

ชำแหละ!!โอกาส-ความหวัง5ประเด็นร้อนฉ่า1ก.ค.64

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #PhuketSandBox #ผู้นำนะจ๊ะ


             ได้ยินได้ฟังการแสดงความเห็น ข้อถกเถียง เสียงวิพากษ์ คำวิจารณ์ รวมไปถึง เสียงก่นด่า ผ่านมาหลากหลายช่องทาง เกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ผู้นำประเทศเจ้าของวลี “นะจ๊ะ” ที่โลกจดจำ ภายใต้คำสั่งประกาศเปิดโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์”

โดยเดินหน้าปักหมุดพื้นที่นำร่องทดลองเลือกทำเลแรก “เกาะภูเก็ต” เริ่มวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 หลักใหญ่คือ “นำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทยโดยไม่กักตัว 14 วัน” ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดของ “ไวรัสโควิด-19” ทั้งในพื้นที่ ในประเทศ และในทั่วโลก

นโยบายที่มาจาก “เสียงเรียกร้อง”  ซึ่งดังระงมจากทั่วสารทิศ ขอให้ “รัฐบาล” หาทาง “คลายล็อกดาวน์ประเทศ” เพราะพิษโควิดดึง “เศรษฐกิจชาติ” ดำดิ่งลงก้นเหว ยิ่งปล่อยเวลาทอดยาวนานวัน สัญญาณ “ใกล้ความตาย” จากความหิวโหย อดอยาก ตกงาน ซึมเศร้า สิ้นเนื้อปะดาตัว เปล่งรัศมีรุนแรงแซงโค้งสูงกว่า “ยอดผู้เสียชีวิต” จากโควิด

“อุตสาหกรรมท่องเที่ยว” ซึ่งเคยทำหน้าที่ผลิตออกซิเจนค้ำยันเศรษฐกิจคิดเป็นปีละ 20-24 %ของผลิตภัณฑ์ผลรวมรายได้ประเทศ (GDP) เสมือนเป็น “คาถามหารวย” เสกเงินได้ในยุครุ่งเรือง เฟื่องฟู แต่พอมี “โควิด” มาเกิดบนโลกใบนี้ ทำให้คาถาบทนี้สิ้นมนต์ขลัง ส่ง “จิตวิญญาณ” ผู้คน ธุรกิจ ที่เคยอู้ฟู่ท้าทายโลกอนาคตด้วยสารพัดเทคโนโลยีล้ำสุด ๆ ถูกแรงดีดกลับไป “ตั้งหลักนับหนึ่งใหม่”

“ประเทศไทย” ก็เป็นหนึ่งใน “กลุ่มสิ่งมีชีวิต” ที่โดนเชื้อโรค “โควิด” บริหารจัดการมายาวนาน 18 เดือน

วันนี้ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ก็เป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือส่องหา “โอกาสรอด-ดิ้นหาแสงสว่าง” ทดลองลงมือทำจริง เริ่มนับหนึ่งอีกครั้ง จะได้รู้ความจริงชัด ๆ กันสักทีว่า 

“ปัญหา” มันซุกอยู่ตรงไหนบ้าง ? แล้ว “กลไกขัดขวาง” การฟื้นฟูประเทศด้วยท่องเที่ยว นับจากนี้เป็นต้นไป ต้อง “กำจัดขยะ” ส่วนใดให้สิ้นซาก

เป็นการ “พิสูจน์”คำพูดของผู้นำคำนิยม “นะจ๊ะ” ว่ารักประเทศไทยแต่ปาก และ/หรือ ตั้งใจช่วยคนในชาติรอดไปด้วยกันจริง ๆ

สำหรับ “ปัญหา” การนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศตามนโยบาย “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ไล่เรียงจากข้อมูลหน้างาน ณ ปัจจุบัน แล้ว มีดังนี้



อันดับ 1 “สายการบิน” ให้บริการขนส่งผู้โดยสาร ส่วนใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นสายการบิน “สัญชาติตะวันออกกลาง” ซึ่งสายป่านยาว ยังมีเงินทุนเพียงพอพร้อมให้บริการจากที่ใดในโลกมาได้หมดก็จริง

แต่ในทางปฏิบัติ “หลายประเทศ” ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของไทยในตลาด ยุโรป อเมริกา จัดให้หลายประเทศในตะวันออกกลาง “เป็นกลุ่มประเทศเสี่ยงโควิด” จึงจัดอยู่ในโทนสีแดง หรือ “Red Listถึงแม้นักท่องเที่ยวยุโรป อเมริกา เดินทางออกเที่ยวต่างประเทศได้

ซึ่งระหว่างบิน “ขามาหรือขากลับ” เครื่องบินจะต้อง “แวะพัก” ยังประเทศแถบตะวันออกกลางซึ่งเป็นเจ้าของสายการบิน (และ/หรือ แวะรับผู้โดยสารจากประเทศเสี่ยงสูงโควิดขึ้นมาด้วย) เรื่องนี้เป็นไปตามกฎสากลการบินระหว่างประเทศ ที่ปฏิบัติกันมาอย่างยาวนานแล้ว

จึงส่งผลให้ “นักท่องเที่ยว” ที่เลือกซื้อตั๋วโดยสารเครื่องบินเที่ยวบินนั้น ๆ เมื่อเดินทางกลับเข้าประเทศของตน จะต้อง “ถูกกักตัวเพิ่มอีก 14 วัน” ตามกฎมาตรการความปลอดภัยด้านการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด


ครั้น!! จะหาตัวช่วยจาก “การบินไทย” ซึ่งสามารถ “บินตรง” จากต้นทางทั่วโลกสู่ปลายทางภูเก็ต แบบไม่แวะพักประเทศใดเลย ก็รู้ ๆ กันอยู่ว่า “การบินไทย” ยังจมน้ำ ช่วยเหลือตัวเองยากลำบาก ติดอยู่ใน “แผนฟื้นฟูกิจการ” ตามคำสั่งศาลล้มละลายกลาง ไม่ได้มี “เงินถุงเงินถัง” มาลงทุนเปิดบินได้ทุกเมืองเหมือนแต่ก่อน จนถึงขณะนี้วิ่งหาเงินเสริมสภาพคล่องเร่งด่วน 50,000 ล้านบาท สำเร็จหรือยังก็ไม่รู้ !? 

อันดับ 2 “การสื่อข้อความของรัฐบาลไทย” กลับไปกลับมา ทั้งสับสน และล่าช้าไม่ทันใจผู้คนบนโลกใบนี้ และ/หรือ อาจจะใส่เกียร์ผิด จาก 5G เหลือไม่ถึง 2G หรือเปล่า คนไทยก็เห็นกันอยู่แล้ว

ทางออก - เมื่อรัฐบาลรู้ว่าพลาดพลั้งไป ก็ใช้ “หน่วยงานรับผิดชอบตรง” ออกมาประกาศแก้ไขตามความจริงให้ถูกต้อง เปลี่ยนจาก “เกียร์ว่าง” ช่วยกัน “ขยับเดินหน้า” ได้แล้วนะจ๊ะ

อันดับ 3 “เครื่องมือสากล” ที่เลือกนำมาใช้ตรวจสอบเอกสารนักท่องเที่ยว ทั่วโลกใช้ “ดิจิทัล” บนแอพลิเคชั่น ส่วนเราเลือกใช้ “แอพลิเคชั่น” แบบไทย  ต้องลุ้นกันจนถึงนาทีสุดท้ายจะลิงค์ข้อมูลกับชาวโลกอย่างไร และ/หรือ ว่า “จะใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ” ได้จริงหรือไม่ ต้องมา “ลุ้นกันหน้างาน” และ “แก้กันแบบประเทศกูมี” เหมือนที่เคยทำมาตลอดแบบไทย ๆ ต่อไป

สำหรับ “ปัญหาทางเทคนิค”  ของบรรดาธุรกิจ “ห้องพัก” โรงแรม “ผู้ขายตั๋วโดยสาร” เอเย่นต์และสายการบิน “โดนยกเลิกฉับพลัน” เงินที่อยู่ตรงหน้ากำลังจะเข้ากระเป๋า ปลิวหลุดลอยไป ทั้งตลาดจึงพากันส่งเสียงก่นด่าอื้ออึง คือ



อันดับ 4 การยื่นขอเอกสารเข้า-ออกประเทศไทย หรือ COE ของนักท่องเที่ยว ในหลายเมือง หลายประเทศ หากหน่วยงาน “ทีม ไทยแลนด์” ยังทำงานได้ดี ช่วยกันแก้ไขจนสามารถออกเอกสารได้ตามระเบียบ ส่วนเมืองไหน ประเทศใด “ทีม ไทยแลนด์” อ่อนแอ ก็ปัญหาเยอะเป็นปกติ ต้องถามทางผู้รับผิดชอบ “กระทรวงการต่างประเทศ (กต.)” ว่า ยังทำงานปกติดีอยู่หรือเปล่า !?

การไม่ส่งเสียงของ กต. ได้ยินแต่เพียงว่า เปิด ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ 1 กรกฎาคม 2564 กต.ทยอยออกเอกสาร COE ไปแล้ว 4,300 คน คำถามคือ “ตอบชาวโลก” ได้ “ตรงประเด็น” หรือ “แก้โจทย์ผิดถูก” อย่างไร ช่วยทำให้เป็น “สากล” ด้วยนะจ๊ะ

อันดับ 5 “ผลักภาระค่าใช้จ่ายสวอปตรวจหาเชื้อ” บวกเพิ่มเข้าไปใน “แพกเกจท่องเที่ยว” หรือให้นักท่องเที่ยวแต่ละคนควักเงินจ่ายเอง สร้างความไม่สบายใจแก่ “ผู้ขายทัวร์ ขายห้องพัก” กับ “ผู้ซื้อคือนักท่องเที่ยว” อันเป็นผลจากเกณฑ์ นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาภูเก็ตแล้ว ได้รับยกเว้นไม่โดนกักตัว 14 วัน 1.ถ้าอยู่ครบ 14 วัน “ต้องตรวจ” วันที่ 1, วันที่ 6-7 และวันที่ 12-13  หรือ 2 ถ้าอยู่ไม่ครบ ก็ตรวจแค่ 2 ครั้ง วันที่มาถึง และวันที่กลับออกไป

ประเด็น “ค่าใช้จ่ายสวอปตรวจหาเชื้อโควิด” ในยุโรป ยกตัวอย่าง อังกฤษ ใช้เกณฑ์นี้เช่นกัน นั่นคือ เมื่อออกไปเที่ยวต่างประเทศ แล้วเดินทางกลับเข้ามา นักท่องเที่ยวคนนั้น ๆ จะต้องจ่ายเงินตรวจหาเชื้อโควิดเอง 2 ครั้ง คนละประมาณ 20 ปอนด์

ปัญหาอื่น ๆ ต้องรอประมวลผลอีกครั้ง หลังเปิด ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ วันที่ 1 กรกฎาคม 2564

เกาะติดกันต่อไปว่า “ผู้นำ นะจ๊ะ” จะทำให้ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” เป็นก้อนอิฐ หรือดอกใจ ในใจประชาชน...ส่วนโอกาส ความหวัง ยามนี้ย้ำว่าตนต้องเป็นที่พึ่งแห่งตน นะจ๊ะ...คนไทย

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2564

"สนามบินภูเก็ตซ้อมเข้ม4ความพร้อมรับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์1ก.ค.64 จัดชุดใหญ่"สถานที่-บุคลากร-มาตรการ-พีอาร์"รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

"สนามบินภูเก็ตซ้อมเข้ม4ความพร้อมรับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์1ก.ค.64
จัดชุดใหญ่"สถานที่-บุคลากร-มาตรการ-พีอาร์"รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #สนามบินภูเก็ต #PhuketSandbox


ว่าที่เรืออากาศตรีธานี ช่วงชู ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า ได้จัดประชุมและฝึกซ้อมการปฏิบัติงานให้พนักงานร้านค้าของ คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต เรื่อยไปจนถึงร้านค้าที่เตรียมเปิดให้บริการ และหน่วยงานในสนามบินภูเก็ตที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อเตรียมต้อนรับการเปิด “ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์” ตามนโยบายรัฐบาล เริ่มวันที่ กรกฎาคม 2564 นี้เป็นต้นไป เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถดำเนิงานได้อย่างเรียบร้อยบรรลุตามเป้าหมาย เพราะสนามบินภูเก็ตเป็นประตูด่านแรกที่จะเปิดรับนักเดินทางที่ผ่านเข้า-ออก ทุกคนจะต้องได้รับความสะดวก ตามมาตรฐานความปลอดภัยทุก ๆ ด้าน จะได้ช่วยประเทศนำเข้านักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาใช้จ่ายเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจภูเก็ตและพื้นที่ใกล้เคียงกลับมาดีขึ้นโดยเร็ว

            ขณะนี้ทาง “คิง เพาเวอร์” ผู้ประกอบการร้านค้าดิวตี้ฟรี ได้เตรียมเข้าตกแต่งร้าน พร้อม ๆ กับ นำสินค้าแบรนด์เนม และผลิตภัณฑ์สินค้าไทย มาจัดวางภายในสนามบินภูเก็ตตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ เพื่อรอเปิดบริการใหม่อีกครั้งในวันที่ 1 กรกฎาคม นี้



            ล่าสุด ทอท.สนามบินภูเก็ต ร่วมมือกับทุกภาคส่วนเตรียมความพร้อมครอบคลุม ด้าน ประกอบด้วย



            ด้านที่ 1 ความพร้อมของสถานที่  จัดเตรียมอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทำความสะอาดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ติดตั้งอุปกรณ์คัดกรองผู้โดยสาร ผู้ให้บริการ จุดให้บริการเจลแอลกอฮอล์รอบอาคาร ติดตั้งแผ่นอะคริลิกใสบริเวณเคาน์เตอร์ต่าง ๆ เพื่อป้องกันสารคัดหลั่ง จัดพื้นที่พักคอยโดยเว้นระห่าง (Social Distancing) มีพื้นที่จัดเก็บขยะติดเชื้อเพื่อรอการทำลาย และกำหนดแนวเขตพื้นที่รับผู้โดยสาร แยกออกจากเส้นทางของผู้ปฎิบัติงาน เพื่อป้องกันและลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคให้ได้มากที่สุด



ด้านที่ 2 ความพร้อมของบุคลากร จัดอบรมและให้ความรู้ด้านการป้องกันการแพร่ระบาด การทำความสะอาด ฝึกซ้อมวิธีปฏิบัติเตรียมให้บริการผู้โดยสาร และตามมาตรการที่กำหนด แก่เจ้าหน้าที่ หน่วยงานราชการ ผู้ปฏิบัติงานภายในสนามบินภูเก็ต ตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด



ด้านที่ 3 ความพร้อมด้านมาตรการ ได้ประชุมทำความเข้าใจกับหน่วยงานราชการ สายการบิน ผู้ประกอบการ เพื่อกำหนดรูปแบบมาตรการรับนักท่องเที่ยว ในส่วนของรับนักท่องเที่ยว ทางสนามบินมีกระบวนการแยกรับนักท่องเที่ยวขาเข้า ขาออก พร้อมทั้งจำลองสถานการณ์เพื่อฝึกปฏิบัติให้เกิดความเข้าใจตรงกัน รวมทั้งหากพบผู้ป่วยทุกฝ่ายต้องทำตามขั้นตอนปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรฐาน DMHTTA ของกระทรวงสาธารณสุข


ด้านที่ 4 ความพร้อมด้านการประชาสัมพันธ์ เปิดช่องทาง “ออนไลน์” ร่วมกับสายการบินนานาชาติ เพื่อสร้างการรับรู้ทั้งแก่ผู้โดยสาร ชุมชนรอบสนามบิน และผู้ปฏิบัติงาน





“คิง เพาเวอร์”พร้อมเปิด“ร้านค้าสนามบินภูเก็ต”รับแซนด์บ็อกซ์1ก.ค.นี้ “ไทยเทสต์ฮับ”รางน้ำ-ศรีวารีปรับเวลา-มหานครคิวบ์ผนึก3 เดลิเวอรี่ดัง

 “คิง เพาเวอร์”พร้อมเปิด“ร้านค้าสนามบินภูเก็ต”รับแซนด์บ็อกซ์1ก.ค.นี้

“ไทยเทสต์ฮับ”รางน้ำ-ศรีวารีปรับเวลา-มหานครคิวบ์ผนึก3 เดลิเวอรี่ดัง

เรื่องและ-ภาพโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #facebook.com/penroongyaisamsaen #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #KingPower #PhuketSandbox


“คิง เพาเวอร์” พร้อมเปิดบริการแล้ว “คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต” โชว์มาตรฐานครบ 3 เรื่อง “SHA PLUS-พนักงานฉีดวัคซีนครบ-เข้มทุกพื้นที่บริการ” ร่วมนำร่องต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” เริ่ม 1 ก.ค.นี้ ขณะที่ผู้นำสนามบินภูเก็ตหนุนเต็มเหนี่ยว 4 ด้าน “สถานที่-บุคลากร-มาตรการ-ประชาสัมพันธ์” ส่วนคิง เพาเวอร์ในกรุงเทพฯ “ไทยเทสต์ฮับ” ศูนย์รวมสตรีทฟู้ดแถวหน้าของเมืองไทย 2 สาขา รางน้ำกับศรีวารีปรับเวลาเปิด-ปิดชั่วคราวเริ่ม11โมง และ “มหานคร คิวบ์” ผนึก 3 ดิเวอรี่ “โรบินฮูด-ไลน์แมน-แกร๊ปฟู้ด” มีโปรโมชั่นค่าส่ง 9 บาท ให้เลือกสั่ง 100 เมนูเสิร์ฟถึงบ้าน

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์  รายงานว่า เตรียมพร้อมเปิด “คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต” อีกครั้ง ขานรับโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บอกซ์ :Phuket Sandbox” ตามนโยบายรัฐบาลไทยประกาศจะขับเคลื่อนในพื้นที่นำร่องจังหวัดภูเก็ตเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม  2564 เป็นต้นไป ขณะนี้ คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต ได้ดำเนินการตามเกณฑ์สากลของจังหวัดภูเก็ตและมาตรการของรัฐบาลครบทั้ง 3 เรื่อง ได้แก่ 1.เป็นร้านค้าปลีกเพื่อการท่องเที่ยวที่ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA Plus 2.พนักงานให้บริการในร้านทั้งหมดรับการฉีดวัคซีน 2 โด๊ส ครบร้อยเปอร์เซนต์ 3.กำหนดมาตรการฉีดพ่นพื้นที่ให้บริการทุกจุดอย่างสม่ำเสมอ ประกอบด้วย

เรื่องที่ 1 ได้การรับรองตราสัญลักษณ์ SHA Plus หรือ Amazing Thailand Safety & Health Administration ตามมาตรฐานการให้บริการของจังหวัดภูเก็ตและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สาขาธุรกิจรีเทลเพื่อการท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก เพื่อสร้างความมั่นใจในระบบสาธารณสุขด้านสุขอนามัยแบบครบวงจร

เรื่องที่ 2 “พนักงาน คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต” ตอนนี้ทุกคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดส เรียบร้อยแล้ว 100 % เพื่อรอปฎิบัติหน้าที่เป็นด่านหน้าให้การต้อนรับและต้องพบปะให้บริการลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไปพร้อม ๆ การร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ฝึกซ้อมขั้นตอนการปฏิบัติด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด


เรื่องที่ 3 “พื้นที่บริการลูกค้าภายในร้านทุกจุด” เน้นดูแลด้านสุขอนามัยเต็มรูปแบบ ทั้งการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ทำความสะอาดผิวสัมผัส สินค้า และอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ

ขณะเดียวกัน “คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต” ได้เตรียมแคมเปญพิเศษไว้มากมาย เพื่อมอบความคุ้มค่าให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในไทย (Expat) และ นักท่องเที่ยวต่างชาติ สามารถเข้ามาเลือกช้อปอย่างสะดวกสบายแบบไร้ข้อจำกัดทั้งทางหน้าร้านสาขา ทางออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย ครบทุกช่องทางทั้ง www.kingpower.com และ King Power Official ได้แก่ Facebook, Instagram, Twitter รวมถึง Line ซึ่งมีสินค้าแบรนด์เนมหลากหลายกว่าสองหมื่นรายการทั้งดิวตี้ฟรี สินค้าไทย


@ไทยเทสต์ฮับคิงเพาเวอร์รางน้ำและศรีวารีปรับเวลาบริการใหม่ชั่วคราว

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ “ไทย เทสต์ ฮับ : Thai Taste Hubศูนย์อาหารสตรีทฟู้ดดังแถวหน้าของเมืองไทยในกรุงเทพฯ ได้ปรับรูปให้บริการชั่วคราวตามมาตรการของภาครัฐ เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะรัฐบาลจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ที่ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ “ไทย เทสต์ ฮับ : Thai Taste Hub” ศูนย์อาหารสตรีทฟู้ดดังแถวหน้าของเมืองไทยในกรุงเทพฯ ได้ปรับรูปให้บริการชั่วคราวตามมาตรการของภาครัฐ เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะรัฐบาลจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ใน 2 สาขาหลัก คือ

1.คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ชั้น 3 เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-20.00 น. และ 2.คิง เพาเวอร์ ศรีวารี ชั้น 1 เปิดบริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-19.30 น. โดยเปิดให้ซื้อกลับบ้านและสั่งผ่านแอปพลิเคชันฟู้ดเดลิเวอรี่ ตามข้อกำหนดของรัฐบาลและกรุงเทพมหานคร


@ไทยเทสต์ฮับมหานครคิวบ์โหม3
ดิลิเวอรี่ “โรบินฮู้ด-ไลน์แมน-แกร๊ปฟู้ด”

                   ส่วน “ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ : Thai Taste Hub Mahanakhon CUBE ในเครือกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์  พร้อมให้บริการแล้ววันนี้เป็นต้นไปทุกวันตั้งแต่10.00-19.30 น.โดยวิธีจัดส่งตรงความอร่อยระดับมิชลินแนะนำจาก 12 ร้านดัง ถึงบ้านในราคาเท่ากันกับหน้าร้าน ผ่าน 3 แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ดัง ได้แก่ 1.โรบินฮู้ด (Robinhood) 2.ไลน์แมน (Lineman) และ 3.แกร๊ปฟูด (Grab Food)

                   เพียงค้นหาคำว่า ‘Thai Taste Hub Mahanakhon CUBE’ บนแอปพลิเคชั่นฟูดเดลิเวอรี ราคาค่าส่งเริ่มต้นเพียง 9 บาท พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ ทุกเมนูรับส่วนลดสูงสุด 10% โดยไม่มีขั้นต่ำเมื่อสั่งผ่านแอปพลิเคชั่น โรบินฮู้ด

                   โดยพร้อมเสิร์ฟกว่า 100 เมนู ถึงบ้านและที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นหม้อไฟสุดอลังการ จากร้านยี่สับหลก เมนูตำหลวงพระบางรสจัดจ้าน จากร้านเผ็ดเผ็ด เฮ่! และสุกี้แห้งปลาแซลม่อนสูตรเด็ด จากร้านสุกี้เมาเวอริค

                   รวมทั้งสามารถสั่งเมนูจาก ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ ล่วงหน้าไว้ผ่านทาง LINE Official Account หรือหน้าร้านได้ จากนั้นเดินทางไปรับได้ด้วยตัวเอง (Self Pick-up) โดยเลือกโปรโมชั่นพิเศษ เมนูสุดคุ้มเต็มอิ่ม “ทุกวันจันทร์” ราคาเพียง 99 บาท ระหว่างวันนี้จันทร์ที่ 27 กันยายน 2564  เพียงแค่คลิกแอดไลน์เป็นเพื่อนกับ Mahanakhon CUBE เพื่อสั่งอาหารและชำระเงินล่วงหน้า ภายในเวลาอย่างน้อย 30 นาที ก็สามารถมารับของที่สั่งไว้ได้ ณ จุดรับอาหาร ชั้น 1 อาคารมหานคร คิวบ์

สำหรับ “กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์” ทุกสาขา ได้ปฏิบัติมาตรการดูแลป้องกันตามที่ภาครัฐกำหนดอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด พร้อมเน้นย้ำกำกับใช้มาตรการ D-M-H-T-T ควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัดทั้งพนักงานและผู้เข้าใช้บริการทุกคน รวมพลังกันช่วยประเทศให้ก้าวพ้นวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน



วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2564

“ชูติวุฒิ สุวานิชย์กุล”มาเจสติกแทรเวลฯชำแหละ5ปมก่อนเปิดภูเก็ต-เปิดประเทศ“นำไทยไปต่อยาว ๆ

 ผู้นำธุรกิจ“ชูติวุฒิ สุวานิชย์กุล”ชำแหละ5ปมก่อนเปิดภูเก็ต-เปิดประเทศ120วัน

“ใช้ดิจิทัลสากลเช็คเอกสาร-ล้างเฟคนิวส์-สื่อให้ตรงเป้า”นำไทยไปต่อยาวๆ

“คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต”รับSHA Plusลุยให้บริการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เริ่ม1ก.ค.นี้

ช้อป”KING POWER MAKES MY DAYทุกวันรับคูปองส่วนลด4,500 บาท

ททท.ลอนดอนลุยจัด”VirtualFram+นำเอเย่นต์”สำรวจภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

ททท.-หอการค้าไทยรุกทำ“ฮักไทย:HUG THAIS”เร่งฟื้นเศรษฐกิจแสนล้าน

TCEBร่วมเสนอแก้“MRAบุคลากรไมซ์ไทย-อาเซียน”ปูพรมทำอาชีพอนาคต

ชวนไปเช็คอินจุดแฮงเอาท์ใหม่“The Harmony Cafe & Tearoom”แก่งคอย

4อาหารรับประทานเล่น”โยเกิร์ต-ฝรั่ง-ทูน่า-อัลมอน”เมนูของว่างดีต่อสุขภาพ

“ดุสิตลากูน่า”แต่งตัวพร้อมเดินหน้า4บริการรอรับการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

ICAO”ประกาศพัฒนาระบบVDSให้การบินทั่วโลกใช้ไฮเทคเช็คเอกสารโควิด

ชูติวุฒิ สุวานิชย์กุล

กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาเจสติก แทรเวล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน 2564 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #ททท #PkuketSandbox #MajesticTravelInternational  

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้

ช่วงที่ 1 ส่องมุมคิดนักธุรกิจ “ชูติวุฒิ สุวานิชย์กุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาเจสติก แทรเวล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้คร่ำหวอดในวงการท่องเที่ยวและตั๋วโดยสารทั้งในประเทศมีคู่ค้าสายการบินอยู่ทั่วโลก ชำแหละ 5 เรื่อง ก่อนเปิด “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์และเปิดประเทศ 120 วัน“ รัฐบาลไทยพร้อมจริงหรือ!? “สร้างความเชื่อมั่น-มาตรการสาธารณสุข-ระบบตรวจเอกสารเข้าเมือง-เครื่องมือไฮเทคสากลเชื่อมโยงข้อมูลทั้งโลก-สื่อสารสร้างการรับรู้นานาประเทศ” เปิดไส้ใน “สมุดเหลือง” วัคซีนพาสปอร์ตตอบโจทย์ชาวโลกได้จริงหรือไม่ แนะใช้แอพสากล IATA TRAVEL PASS, ICAO, WHO ป้องกันเอกสารกระดาษปลอม ล้าง Fake News ข่าวปลอม ลดความสูญเสียโอกาส สามารถนำทัพท่องเที่ยวของประเทศไทยทั้งระบบขับเคลื่อนต่อได้แบบยาว ๆ

 

นายชูติวุฒิ สุวานิชย์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาเจสติก แทรเวล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการค้าตั๋วโดยสารเครื่องบิน (Ticketing Agents) หลังแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ มีความเห็นเกี่ยวกับโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าพื้นที่นำร่องจังหวัดภูเก็ต มุมสำคัญแต่ละด้าน 5 เรื่องหลัก ประกอบด้วย

เรื่องแรก “การสร้างความเชื่อมั่นด้านความพร้อม” ส่วนใหญ่สะท้อนเป็นเสียงเดียวกันด้วยเงื่อนไขกติกาต่าง ๆ ยังไม่พร้อมเท่าที่ควร

เรื่องที่ 2 “มาตรการสร้างความปลอดภัยด้านสาธารณสุข” โดยเฉพาะการปฏิบติตามมาตรการทางกฎหมายหรือข้อบังคับอย่างเคร่งครัด จะต้องบอก “ต่างชาติให้รับรู้” ตั้งแต่ต้นก่อนเข้าเมืองไทยแม้จะฉีดวัคซีนมาแล้วก็ตาม เพื่อเตรียมตัวให้พร้อม เพราะการฉีดวัคซีนครบแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สามารถนำเชื้อเข้ามาแพร่ระบาดได้ โดยเฉพาะกฎการเดินทางวิถีใหม่ในการใช้ชีวิตประจำวันต้องเปลี่ยนแปลงไป เช่น การสวมหน้ากากอนามัยตลอดการอยู่นอกที่พักอาศัยอีกทั้งปัจจุบันเชื้อโควิดมีหลายสายพันธุ์ เพื่อป้องกันสุขภาพของนักท่องเที่ยวและคนไทยในทุกพื้นที่



เรื่องที่ 3 “การตรวจสอบเอกสารเข้าประเทศ” ขณะนี้ทั่วโลกกำลังกังวลปัญหา “การแสดงเอกสารปลอม” ปัจจุบันนานาประเทศยังไม่ได้ทำเอกสารเป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่ว่าจะใช้ในประเทศหรือเดินทางออกต่างประเทศ ดังนั้นประเทศไทยควรหา “มาตรฐานสากล” เพื่อบอกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติให้รู้ถึงเอกสารของไทยที่จะใช้ประกอบการตรวจสอบเพื่อเข้า-ออก เมือง และต้องยืนยันว่าเป็นเอกสารจริงไม่ได้ปลอม ตัวอย่าง ซึ่งต้องระวังคือเอกสารการฉีดวัคซีนปลอม จะเป็นอันตรายต่อคนในประเทศ เพราะอาจจะเข้ามาแพร่เชื้อเนื่องจากไม่ได้ผ่านการตรวจหาเชื้ออย่างถูกต้อง

 


เรื่องที่ 4 “เครื่องมือที่ใช้เชื่อมโยงระบบตรวจสอบข้อมูลนักเดินทาง” อย่างแรก คือ “แอพลิเคชั่น” สากลซึ่งมีอยู่มามมายที่เลือกนำมาใช้ทำ “ใบรับรองดิจิทัล : Digital Certificate” ซึ่งเมืองไทยควรจะต้องมี “ตัวรับข้อมูล” ดังกล่าวได้ตั้งแต่หน้าด่านแรกที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังสนามบิน เตรียมหาเครื่องมือเหล่านี้ไว้รองรับและบริหารจัดการใช้งาน ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขเองก็มีฝ่ายที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอยู่เป็นจำนวนมาก

 


ตอนนี้ทาง “สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ” หรือ IATA : International Air Transport Association ก็มีแอพลิชั่น IATA TRAVEL PASS ให้สายการบินทั่วโลกนำมาใช้งาน แล้วยังมีแอพลิเคชั่นของ “องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ICAO : International Civil Aviation Oganization และองค์การอนามัยโลก (WHO :World Health Oganization) เครื่องมือเหล่านี้รัฐบาลควรพิจารณาคัดเลือกมาใช้งานไปทิศทางเดียวกับมาตรฐานสากล ก่อนจะเปิด ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ และนโยบายเปิดประเทศรับต่างชาติในอีก 120 วันข้างหน้า มากกว่าที่จะไปรับเอกสารกระดาษ เพราะอาจจะไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นของจริงหรือปลอม

โดยสรุปคือ “พิธีการเข้าเมือง” ที่จะต้องนำระบบดิจิทัลตามมาตรฐานสากล แทนกระดาษซึ่งเป็นรูปแบบที่ไม่ค่อยจะสอดคล้องกับสากล

 


ตัวอย่างแอพลิเคชั่น IATA TRAVEL PASS ตอนนี้มีสายการบินนำร่องเริ่มนำมาใช้งานแล้ว เช่น การบินไทย สิงคโปร์แอร์ไลน์ส อนาคตทุกสายการบินนานาชาติต้องใช้อย่างแน่นอน รวมถึงในระบบของไออาต้า (IATA) และไอเคโอ (ICAO) เองก็ต้องให้ทุกสนามบินทั่วโลกซึ่งจัดเป็น Contractless Airport หมายถึงภายในสนามบินจะต้องไม่มีระบบสัมผัสกับแผนกใด ๆ ทั้งนั้น ผู้โดยสารจะต้องใช้ระบบอัตโนมัติเป็นส่วนใหญ่

ดังนั้นอนาคตเรื่องการใช้ดิจิทัลแทนกระดาษต่าง ๆ อย่างแน่นอน เมื่อไทยตั้งเป้าหมายจะเปิดประเทศในอีก 120 วันข้างหน้าอยู่แล้ว ก็ควรจะศึกษาแอพลิเคชั่นสากลดังกล่าว แล้วพัฒนาตัวเชื่อมต่อให้สอดรับทำงานเชื่อมกันได้อย่างราบรื่น ทั้งการใส่ข้อมูล 1.การฉีดวัคซีน 2.การตรวจ RT-PCR 3.ข้อมูลการเดินทาง


นายชูติวุฒิกล่าวว่า จากข้อมูลที่ทราบตอนนี้ไทยเลือกใช้ “สมุดเล่มเหลือง” บันทึกการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด มีคิวอาร์โค้ด (QR CODE) ซึ่งด้านในยังเป็น URL ซึ่งไม่สามารถอ่านค่าอื่นได้ เพราะเป็นระบบที่จะต้องไปผ่านเว็บไซต์ แล้วกรอกข้อมูลเพิ่ม จึงจะใช้งานได้ แตกต่างจากแอพลิเคชั่นสามารถจะอ่านค่าวัคซีนพาสปอร์ตได้ถูกต้องมากกว่า  ตามหลักความเป็นจริงแล้วแทบจะไม่มีผู้โดยสาร หรือนักท่องเที่ยว คนไหน มานั่งกรอกรายละเอียด ในทางปฏิบัติพอสแกนคิวอาร์โค้ดแล้ว สัญลักษณ์ไฟตรวจสอบข้อมูลควรจะขึ้น “เขียว” หรือ “แดง” ไปเลยเพื่อบอกสถานะของนักเดินทางคนนั้น ๆ ว่าเอกสารหรือวัคซีน พาสปอร์ต ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง

อีกทั้งการใช้คิวอาร์โค้ดที่ใส่แต่ URL เข้าไปอย่างเดียว เวลาไป “ต่อเครื่องระหว่างสนามบินหรือ Transfer” ก็ไม่สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้ ส่วนแอพลิเคชั่นไม่ว่าจะเป็นขององค์กรการบินสากลใด ๆ ก็สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่หน่วยงานเกี่ยวข้องหรือรัฐบาลไทยควรจะต้องรีบปรับแก้ไขให้สอดคล้องกับการนำมาใช้งานจริงในการเดินทางระหว่างประเทศตาม New Normal

ส่วน “คิวอาร์โค้ดด้านสุขภาพ” ทางองค์การอนามัยโลก ก็ได้จัดทำใส่ไว้ในแอพลิเคชั่นที่เป็นระบบสากล ดังนั้นประเทศไทยก็ควรจะนำมาใช้ด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวสแกนเข้าเครื่องแล้วผ่านได้เลย หรือห้ามผ่าน เนื่องจากปริมาณคนที่จะผ่านเข้า-ออก สนามบิน มีวันละหลักพันถึงหลักหมื่นคน จึงไม่ควรจะให้มานั่งกรอกเอกสารอื่น ๆ เพิ่มอีกแล้ว

 

เรื่องที่ 5 “การออกนโยบายควรจะต้องมองหลายด้านควบคู่กับมีแผนรองรับชัดเจนด้วยข่าวสารสื่อถึงทุกคนอย่างถูกต้อง” เพื่อทำให้เดินหน้าต่อได้ยาวที่สุด เน้นการสื่อถึงคนไทยและทั่วโลกให้เข้าใจประเด็นตรงกัน เช่นควรจะมีแผน 1-2-3-4 หมายถึงเมื่อเกิดแต่ละเหตุการณ์ไทยยังคงเปิดประเทศได้อยู่ โดยมีนโยบายรองรับปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน

กรณี “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” เป็นตัวอย่างที่ประเมินเบื้องต้นได้ว่า เรายังไม่มีนโยบายชัดเจนเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ช่วงแรกให้ไปเที่ยวพื้นที่เชื่อมโยงได้ ต่อมาปรับเงื่อนไขให้อยู่ได้เฉพาะในจังหวัด หรือในโรงแรมที่พัก สร้างความสับสน นำไปสู่ “การสร้างความไม่มั่นใจ” รวมถึงนโยบายเตรียมเปิดประเทศในอีก 120 วันข้างหน้า แต่พอเปิดไปได้สัก 1-2 เดือน ประกาศให้”เพิ่มเงื่อนไข” ต่าง ๆ เข้าไปอีก หรือปิดชั่วคราว ก็จะส่งผลให้ “นักท่องเที่ยวไม่กล้าตัดสินใจเดินทางเข้ามา”

เมื่อทำให้มี “ข่าวกระเพื่อม” โดยเปลี่ยนเงื่อนไขกลับไปกลับมา เป็นการเปิดช่องทำให้เกิด “ข่าวปลอมหรือ Fake News” ได้ ผ่านทางระบบโซเชียลมีเดีย หรืออินเตอร์เน็ต ยิ่งไปซ้ำเติมให้นักท่องเที่ยวขาดความมั่นใจ


ดังนั้นนโยบายระดับชาติ “ข่าวสาร” ควรจะออกมาจากแหล่งเดียว ไม่ใช่ “รัฐบาลกลาง” บอกอย่าง แต่ “องค์กรท้องถิ่นในภูเก็ต” บอกอีกอย่าง นำไปสู่ความไม่ถูกต้อง และสับสน เมื่อต่างชาติอ่านแล้วก็อาจจะไม่อยากเดินทางเข้ามาอีก

นายชูวุฒิ กล่าวว่า จากประสบการณ์ทำธุรกิจการค้าตั๋วโดยสารเครื่องบินและบริการท่องเที่ยว ที่จะนำโมเดลความสำเร็จจากต้นแบบอื่น ๆ มาประยุกต์ใช้กับบ้านเรา ก็ต้องย้ำว่า “ประเทศไทย” ทำเรื่องการท่องเที่ยวได้ดีประสบความสำเร็จอยู่แล้ว ตราบเท่าที่ทุกองค์กรสามารถทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวก “ชาวต่างชาติ” ก็พร้อมจะมาเที่ยวเมืองไทยอย่างแน่นอนทั้งระยะสั้นและระยะยาว ส่วน “คนไทยเที่ยวต่างประเทศ” ก็คงต้องเป็นไปตามกลไกตลาด ช่วงแรกอาจจะเพิ่มได้แต่อาจไม่มากเหมือนอดีตที่ผ่านมา

เนื่องจากช่วงก่อนหน้านี้อาจเพิ่มเพราะสาเหตุไม่มีมาตรการกักตัวปลอดจากต้องพักอยู่ในสถานที่เลือกเอง Alternative Quarantine หรือรัฐจัดไว้ให้ State Quarantine กาเข้า-ออก ประเทศจึงทำได้ง่ายทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มตลาดระดับบนมีเงินสะสมอยู่พอสมควร ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิดในช่วงเกือบสองปีนี้

แต่ตอนนี้ “นักท่องเที่ยวคนไทย” ระดับล่างถึงระดับกลาง หากจะเดินทางเที่ยวต่างประเทศคงต้องอาศัยเวลาอีกสัก 2 ปีข้างหน้า จึงจะเริ่มเห็นสัญญาณการเติบโต


ขณะที่ “สายการบิน” ต่าง ๆ พร้อมอยู่แล้วที่จะเดินหน้าขายตั๋วโดยสารบริการเที่ยวบิน “ในประเทศ” และ “ต่างประเทศ” โดยเฉพาะการนำชาวต่างชาติเข้าเมืองไทย ปัจจุบันสายการบินก็พอมีลูกค้าอยู่ในมือเดินทางเข้ามาประมาณวันละ 700-800 คน จำนวนน้อยกว่าในอดีต แต่ก็ยังมี “รายได้” จากการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศหรือ Cargo ทำให้สายการบินยังพอดำเนินงานได้

แต่เมื่อไรก็ตามที่ผู้คนทั้งชาวไทยและต่างชาติ สามารถเดินทางเข้า-ออก ประเทศไทย ได้ ณ วันนั้น สถานการณ์ธุรกิจสายการบินทั้งหลายก็คงจะดีขึ้นตามลำดับ เพราะรายได้หลักจะมาจากผู้โดยสาร

นายชูติวุฒิย้ำว่า ขอให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว บริษัทตัวแทนขายตั๋วโดยสารเครื่องบิน อดทนกันไปอีกสักระยะ เพราะถึงแม้จะเปิดประเทศแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิดจะหยุดลง อาจจะมีรอบ 4-5-6 และรอบต่อไป ตามลักษณะการกลายพันธุ์ของไวรัส ดังนั้นจึงต้องทำธุรกิจกันอย่างมีสติ ไม่ประมาท ทุกอย่างอาจจะยังไม่สามารถกลับมาฟื้นเร็วเหมือนอย่างที่ทุกฝ่ายต้องการได้

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 


ข่าวที่ 1 “คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต”รับSHA Plusพร้อมลุยบริการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์1ก.ค.

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงนว่า ได้เตรียมความพร้อมเปิด “คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต” อีกครั้งเพื่อให้บริการและดูแลนักท่องเที่ยวอีกครั้งในโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บอกซ์” เริ่ม 1 กรกฎาคม  2564 เป็นต้นไป ล่าสุดได้รับมาตรฐานตราสัญลักษณ์ SHA Plus ตามมาตรฐานการให้บริการของจังหวัดภูเก็ตและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สาขาธุรกิจรีเทลเพื่อการท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก สร้างความมั่นใจตามมาตรการทางสาธารณสุขแบบครบวงจร

โดยเฉพาะ “พนักงาน” ที่จะต้องพบปะให้บริการลูกค้า ขณะนี้ได้รับวัคซีนครบ2 โดส รวมไปถึงกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติด้านสุขอนามัยโดยเคร่งครัดอีกด้วย ส่วน “พื้นที่บริการลูกค้า” จะดูแลด้านสุขอนามัยอย่างเต็มรูปแบบทั้งการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ทำความสะอาดผิวสัมผัส สินค้า และอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่เสมอ

อีกทั้งคิง เพาเวอร์ ภูเก็ต ยังได้เตรียมมอบความคุ้มค่าให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ ด้วยแคมเปญพิเศษมากมาย เข้ามาเลือกช้อปสินค้าพร้อมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kingpower.com และ King Power Official ได้แก่ Facebook, Instagram, Twitter และ Line

 


ข่าวที่ 2 ช้อปKING POWER MAKES MY DAYทุกวันรับคูปองส่วนลด 4,500 บาท

คิง เพาเวอร์ มอบสิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิก คิง เพาเวอร์ ให้ช้อปตามใจกับโปรโมชั่น KING POWER MAKES MY DAY ได้ทุกวัน ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2564 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มหานคร พัทยา และภูเก็ต

รับฟรี! คูปองส่วนลดรวม 4,500 บาท เพียงลงทะเบียนก่อนช้อป จะได้ 1.ช้อป 6,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ รับคูปองส่วนลด 1,500 บาท  2.ช้อป 10,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ รับคูปองส่วนลด 3,000 บาท

พิเศษ! เมื่อช้อปที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ครบ 5,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ รับฟรีคูปองรับประทานอาหาร มูลค่า 300 บาท นำไปใช้ที่ ไทย เทสต์ ฮับ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

ทั้งนี้ คิง เพาเวอร์ ปฏิบัติมาตรการดูแลป้องกันตามที่ภาครัฐกำหนดอย่างเข้มงวด และเน้นย้ำกำกับใช้มาตรการ D-M-H-T-T เป็นแนวทางปฏิบัติเพื่อการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด  สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ King Power Contact Centre 1631

 

ข่าวที่ 3 ททท.ลอนดอนลุยจัด”VirtualFram+นำเอเย่นต์อังกฤษ”ร่วมภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

 


นางจิระวดี คุณทรัพย์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลอนดอน สหราชอาณาจักร ( UK :United Kingdom) เปิดเผยว่า สถานการณ์ความเคลื่อนไหวในการเดินหน้าทำตลาดท่องเที่ยวของไทยในสหราชอาณาจักรโดยเฉพาะอังกฤษ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่ฉีดวัคซีน ครบแล้ว 2 เข็ม เกินกว่า 60 % และ 1 เข็มอีกกว่า 70 % สร้างความเชื่อมั่นและความตื่นตัวที่จะเดินทางออกต่างประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาลอังกฤษ สอดคล้องกับรัฐบาลไทยประกาศเปิดโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าภูเก็ตโดยไม่กักตัว 14 วัน เริ่ม 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป และเตรียมเปิดประเทศอีก 120 วันข้างหน้า

 

ททท.ลอนดอน ตั้งเป้าจะพยายามนำนักท่องเที่ยวตลาดสหราชอาณาจักรเข้าไทยในช่วงเปิดประเทศครึ่งปีหลัง เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากอังกฤษจัดอยู่ในกลุ่ม Amber list ชาวอังกฤษสามารถมาได้โดยตอนเดินทางกลับเข้าอังกฤษ ไม่จำเป็นต้องกักตัว รวมทั้งจะมีประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมเร็วๆ นี้ คาดเริ่มต้นได้ตั้งแต่ช่วงสิ้นฤดูหน้าร้อนปี 2564 เป็นต้นไป 

ขณะนี้ ททท.ลอนดอน เดินหน้าทำ 2 กิจกรรมหลัก คือ กิจกรรมที่ 1 Virtual Famtrip สร้างความเชื่อมั่นต่อเนื่องในพื้นที่มาตลอด ทำผ่านช่องทางออนไลน์พร้อมคลิปวิดีโอ เชิญชวนบริษัทตัวแทนนำเที่ยว (Agents) บริษัทบริหารจัดการท่องเที่ยว (DMC) มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้ประกอบการโรงแรมในภูเก็ต 40-50 โรงแรม เพื่อนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวที่เหมาะสม ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวอังกฤษได้

กิจกรรมที่ 2 เตรียมนำกลุ่มผู้จัดการสินค้าท่องเที่ยวจากอังกฤษ กลุ่มแรกเดินทางมาร่วมในโครงการ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ระหว่างวันที่ 17-25 กรกฎาคม 2564 เพื่อสำรวจพื้นที่จริง และศึกษาเรียนรู้การใช้ชีวิตท่องเที่ยววิถีใหม่ควบคู่กันไป เพื่อจะได้นำไปเสนอเป็นโปรแกรมท่องเที่ยวเจาะกลุ่มคุณภาพในอนาคตเข้ามายังภูเก็ตและประเทศไทยตามพื้นที่ที่รัฐบาลกำหนด

ผอ.จิระวดี กล่าวว่า ล่าสุดทางสำนักข่าวใหญ่ บีบีซี รายงานว่า รัฐบาลอังกฤษประกาศเพิ่มประเทศเข้า Green & Red list  โดยมีผลบังคับใช้ วันพุธที่ 30 มิ.ย. 64 ตามเวลาท้องถิ่นตั้งแต่ 4:00 น.เป็นต้นไป ประกอบด้วย

1.ประเทศที่ได้รับการขึ้นบัญชีเพิ่มเป็นสีเขียว หรือ Green List 🟢  ได้แก่ AnguillaAntigua and BarbudaThe Balearic Islands (which include Ibiza, Menorca, Majorca and Formentera) BarbadosBermudaBritish Antarctic TerritoryBritish Indian Ocean TerritoryBritish Virgin IslandsCayman IslandsDominicaGrenadaMadeiraMaltaMontserratPitcairn IslandsTurks and Caicos Islands

2.ประเทศใหม่ที่เพิ่มรายชื่ออยู่ในเกณฑ์สีแดง หรือ Red List 🔴 ได้แก่ สาธารณรัฐโดมินิกัน ตูนิเซีย และ อูกันดา

 


ข่าวที่ 4 ททท.-หอการค้าไทยเร่งดัน“ฮักไทย:HUG THAIS”ฟื้นเศรษฐกิจแสนล้าน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการสนับสนุนและขับเคลื่อนโครงการ ฮักไทย (HUG THAIS)”รวมใจ ไทยไม่ทิ้งกัน ระหว่างภาครัฐกับเอกชน นำโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จะผลักดันโดยใช้แนวคิด ภายใต้แนวคิด “ฮักกิน ฮักเที่ยว ฮักใช้”สนับสนุนเศรษฐกิจประเทศ ด้วยการกระตุ้นคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเร่งใช้จ่ายเงิน เริ่มเดือนกรกฎาคม 2564 คาดจะปลุกเม็ดเงินหมุนเวียนได้หลักแสนล้านบาท นำร่องใช้ในโครงการต้นแบบ “ฮักไทย ฮักภูเก็ต : HUG THAIS HUG PHUKET

ซึ่งทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กำหนดนโยบายเพื่อแก้ปัญหาและช่วยเหลือผู้ประกอบการอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็น มาตรการเยียวยา แนวทางจัดสรรวัคซีนให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว รวมถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตามนโยบายการเปิดประเทศ หรือ Phuket Sandbox เริ่มวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ซึ่งอนุญาตให้นักท่องเที่ยวได้รับวัคซีนครบแล้วสามารถเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน แต่ต้องพำนักในที่พักหรือโรงแรมที่ได้รับรองเครื่องหมายSHA+ (SHA Plus) หรือสัญลักษณ์มาตรฐานท่องเที่ยวปลอดภัยด้านสุขอนามัย โดย ททท. และ สธ. เพื่อยืนยันมาตรการด้านความปลอดภัย

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. ยืนยันว่า ททท. พร้อมร่วมสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยสู้กับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน จึงร่วมกับหอการค้าไทยเดินหน้าโครงการ “ฮักไทย : HUG THAIS) ” รวมใจ ไทยไม่ทิ้งกัน กระตุ้นให้คนออกมาใช้จ่ายเงินเพื่อกิน ท่องเที่ยว และจับจ่ายใช้สอย ผลิตภัณฑ์ของไทย วัตถุดิบไทย ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยจ้างงานคนไทย ผ่านความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ภายใต้แนวคิด “ฮักกิน ฮักเที่ยว ฮักใช้” 2 ส่วนหลัก ประกอบด้วย

 

ส่วนที่ 1 Eat More ได้แก่

 

1.1 ฮักกิน ชูอัตลักษณ์ของอาหารถิ่น กระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงอาหารหรือGastronomy Tourism Travel More

1.2 ฮักเที่ยว กระตุ้นการท่องเที่ยวตามจังหวัดต่าง ๆ ด้วยรูปแบบการท่องเที่ยวอันหลากหลาย ร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ แตกต่างอย่างน่าประทับใจ และ

ส่วนที่ 2. Shop More ได้แก่

2.1 ฮักใช้ สนับสนุนอุดหนุนสินค้าท้องถิ่น ส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าของคนไทยในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ที่ได้รับตราสัญลักษณ์ HUG THAIS

2.2 จัดโปรโมชันพิเศษ โดย ททท. จะสนับสนุนด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ วางแผนจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับแบรนด์ Amazing Thailand เพื่อสร้างความมั่นใจและกระตุ้นการใช้จ่ายทั้งของคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

2.3 ให้คำแนะนำการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวแก่ผู้ประกอบการ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวให้มากที่สุด 

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยในฐานะสถาบันหลักทางการค้าและบริการของประเทศ พร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบอย่างต่อเนื่องภายใต้นโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจ Connect the Dots อีกทั้งยังได้ร่วมกับ ททท. เร่งเดินหน้าโครงการ “ฮักไทย (HUG THAIS)” รวมใจ ไทยไม่ทิ้งกัน ปลุกกระแสผู้บริโภคควบคู่การอุดหนุนใช้สินค้าของคนไทยด้วยกัน สร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยทั่วประเทศ

ตั้งเป้าจะช่วยสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยหลักแสนล้านบาท ภายใน 6 เดือน ช่วยเพิ่มโอกาสสร้างงานและจ้างแรงงาน ถือเป็นอีกกลยุทธ์พลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการของไทยกลับมาฟื้นตัวได้โดยเร็วที่สุด พร้อมขับเคลื่อนประเทศให้เป็น “จุดหมายปลายทางแห่งความสุข” เพื่อคืนรอยยิ้มกลับสู่คนไทยอีกครั้ง 

รูปแบบการขับเคลื่อนโครงการ “ฮักไทย ฮักภูเก็ต : HUG THAIS HUG PHUKET” จ.ภูเก็ต เดือนกรกฎาคม 2564 ต้อนรับนโยบยเปิดประเทศ จะเน้นกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ผ่านกิจกรรมแคมเปญ Phuket’s Reopening มอบส่วนลดสูงสุด 10% เมื่อซื้อสินค้าครบ 1,000 บาท จากภาคค้าปลีกในภูเก็ต และมอบคูปองเงินสด 100 บาท ใช้เป็นส่วนลดซื้อสินค้าและบริการตามร้านค้ารายย่อย จ.ภูเก็ต ครั้งถัดไป

ตามแผนทางหอการค้าไทยจะประสานงานกับสมาชิกผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร ศูนย์การค้า สายการบิน บริษัทขนส่ง และอื่น ๆ เข้าร่วมกิจกรรม อีกทั้งสนับสนุนสถานที่จัดแสดง จัดจำหน่ายสินค้า และจัดกิจกรรมทางการตลาดแก่ผู้ประกอบการไทย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างบรรยากาศเชิงบวก ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน

เน้น “เพิ่มช่องทาง” การจำหน่ายสินค้าและบริการให้ผู้ประกอบการไทยในรูปแบบที่หลากหลายทั้งทาง ออฟไลน์ ออนไลน์ และออมนิชาแนล รวมถึงเปิดเวทีจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและประชาสัมพันธ์ของภาครัฐและเอกชน เต็มรูปแบบต่อไป

 


ข่าวที่ 5 TCEBร่วมเสอนแก้MRAบุคลากรไมซ์ไทย-อาเซียนปูพรมอาชีพอนาคต

นางอรชร ว่องพรรณงาม ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB เปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมให้ข้อมูลเรื่อง “พิธีสารแก้ไขข้อตกลงร่วมว่าด้วยการยอมรับคุณสมบัติบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอาเซียน : Protocol to Amend the ASEAN Mutual Recognition Arrangement on Tourism Professional : MRA on TP

ในการแก้ไขข้อตกลงร่วม MRA on TP จะมีประโยชน์ต่อภาพรวมในตลาดการจ้างงานบุคลากรช่วยอำนวยความสะดวกบุคลากรด้านการท่องเที่ยวของไทยและอาเซียน สามารถจะประกอบอาชีพ และแลกเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ระหว่างกันภายในภูมิภาคอาเซียนได้ในอนาคต ทั้งทางด้านจัดการเรียนการสอน ฝึกอบรมบุคลากร เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการ โดยเฉพาะการเพิ่มตำแหน่งงานและบรรจุมาตรฐานสมรรถนะขั้นพื้นฐานของบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอาเซียน ในสาขาไมซ์และการจัดกิจกรรม

ทั้งนี้ทีมงานของทีเส็บได้ร่วมตอบข้อซักถามจากคณะกรรมการวิปฝ่ายค้าน และติดตามสนับสนุนด้านข้อมูลแก่ฝ่ายรัฐบาล โดยกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้เสนอ และนายอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ อธิบดี กรมการท่องเที่ยว เป็นผู้ชี้แจง

ตามผลการลงมติของประชุมรัฐสภาลงมติ 604 ราย ลงคะแนนเห็นด้วย 598 ราย ไม่เห็นด้วย 0 ราย งดออกเสียง 2 ราย ไม่ลงคะแนนเสียง 4 ราย

            ช่วงที่ 2 ระหว่างเดินทางก่อนขึ้นเขาใหญ่ ลองแวะไปเช็คอินจุดแฮงเอาท์แห่งใหม่ “The Harmony Cafe & Tearoom” อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี อยู่ในโรงแรม “เดอะ โซล รีสอร์ต” มองหามุมโปรดเก็บภาพสวย ๆ แล้วลองสั่งเมนูน้ำชายามบ่าย มาเพิ่มสีสันถ่ายภาพงาม ๆ โพสต์บอกเพื่อน ๆ รับรองต้องชอบทั้งบรรยากาศ เครื่องดื่ม อาหาร อย่างแน่นอน มีเรื่องสุขภาพมาบอก “4 อาหารทานเล่นดีต่อสุขภาพ” ทั้งโยเกิร์ต ทูน่า ฝรั่ง อัลมอนด์ กินของอร่อยแถมได้ประโยชน์ด้วย และเสิร์ฟข่าวฮ็อตด้วย “โรงแรมดุสิตลากูน่า ภูเก็ต” พร้อมแล้วรับต่างชาติจากภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ พนักงานฉีดวัคซีนครบ100% ได้ตรา SHA Plus และยึด 4 บริการมัดใจลูกค้า


ชวนไปเช็คอินจุดแฮงเอาท์ใหม่ The Harmony Cafe & Tearoom”แก่งคอย

จุดหมายปลายทางการพักผ่อนในบริเวณ “เขาใหญ่” ตอนนี้มีจุดแฮงเอาท์เปิดบริการใหม่ มาแนะนำThe Harmony Cafe & Tearoom” ร้าน Cafe อยู่ในโรงแรม “เดอะ โซล รีสอร์ต : The Soul Resort” ติดริมเขาขับรถไปทางสระบุรี ก่อนจะถึงเขาใหญ่  ตั้งอยู่ที่ 99/9 หมู่ 10 ตำบล สองคอน อำเภอแก่งคอย เปิดทุกวัน ยกเว้นวันอังคาร เวลา10.00 - 19.00 น. รายล้อมด้วยธรรมชาติ เป็นแหล่งแฮงเอาท์ใหม่สุด ๆ 

โซนห้องพักกำลังจะเปิดบริการปลายปีนี้ เป็นสถานที่พักเชิงดูแลสุขภาพหรือ Luxury Wellness เหมาะกับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่ มาหาความสงบบำบัดใจ หรือ Mind Retreat


ส่วนไฮไลต์ตอนนี้เปิดให้บริการแล้วคือ ร้านนั่งชีล เก๋ ๆ  Harmony Cafe & TeaRoom” คาเฟ่สไตล์ Oriental ถ่ายรูปสวยแบบอลังการ ด้วยการจัดเสิร์ฟเซ็ตชายามบ่าย ที่แนะนำให้สั่งมาลองชิม “Afternoon Tea Set ส่วนพวกเมนูน้ำก็สีสันสวยงามสารพัดให้เลือกทดสอบความอร่อย

ภายในรีสอร์ตแห่งนี้ ยังมีร้านอาหารจัดเต็มชื่อ “พิมพิมาน : Pim-piman” อันหมายถึง “จำลองมาจากสวรรค์” พร้อมเสิร์ฟทั้งอาหารไทย อาหารนานาชาติ ที่เชฟรังสรรความอร่อยไว้แบบเต็มที่ทุกจาน

            บริเวณภายในรีสอร์ต และคาเฟ่ ได้ดีไซน์มุมถ่ายรูปสวย ๆ ไวให้เลือกเยอะมาก บ่งบอกถึง คาเฟ่สไตล์ อลังการ เต็มไปด้วยพลังแห่งสีช่วยเติมเต็มชีวิตได้อย่างมีความสุขในทุก ๆ โมเมนท์

            สำรองที่นั่งหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 099-782-1777 Line : https://lin.ee/ru9bIMw (@the_harmony) และFacebook: The Harmony Cafe & Tearoom พิกัด Google Map: bit.ly/3c3b8rA


4 อาหารทานเล่น”โยเกิร์ต-ฝรั่ง-ทูน่า-อัลมอน”เมนูของว่างดีต่อสุขภาพ

ช่วงเวลาที่ได้อยู่บ้านพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัวแบบนี้ อาหารและขนมนับเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เรามีไอเดียของกินเล่น 4 อย่างที่ควรมีติดบ้านไว้ เพราะนอกจากจะหาได้ง่าย ซื้อเก็บไว้ได้เรื่อย ๆ ทั้งมีประโยชน์และยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงได้อีก หรือหากรู้สึกเบื่อกับการกินแบบเดิมๆ เราก็มีไอเดียเปลี่ยนของกินเล่นเหล่านี้ให้เป็นของว่างที่พิเศษขึ้นได้ ถือเป็นการเพิ่มช่วงเวลาคุณภาพร่วมกันในครอบครัวเพราะสามารถให้ทุกคนในบ้านช่วยกันทำได้ง่าย ๆ ได้ที่บ้าน ดังนี้

1.โยเกิร์ต หรือนมเสริมโพรไบโอติกส์ (Probiotics) หรือจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ ช่วยฟื้นฟูและปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้และระบบย่อยอาหาร เพราะส่วนใหญ่ของเซลล์ที่สร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย อยู่ในระบบทางเดินอาหารถึง 70% นั่นเอง การกินอาหารที่มีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์เป็นประจำ จะช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ระบบทางเดินอาหารสมดุลแข็งแรง ช่วยกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพออกจากร่างกายได้ดีขึ้น

หรือจะลองสร้างสรรค์แปลงร่างโยเกิร์ตเป็นเมนูต่าง ๆ ก็ได้ เช่น ไอศกรีมโยเกิร์ตผลไม้แฟนซี พุดดิ้งโยเกิร์ตผลไม้สด, ไอศกรีมโยเกิร์ตเจลลี่, น้ำสลัดสูตรโยเกิร์ต

“ผู้ใหญ่” ควรเลือกโยเกิร์ตสูตรไขมันต่ำและมีน้ำตาลน้อย “เด็ก” ที่น้ำหนักตัวไม่เกินเกณฑ์ เลือกสูตรปกติหรือเลือกนมที่มีส่วนผสมของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ได้  

2. ฝรั่ง หรือผลไม้รสเปรี้ยว รับความสดชื่นที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดี ที่สำคัญคือหากรับประทานวิตามินซีเป็นประจำทุกวัน จะสามารถช่วยลดความรุนแรงและระยะเวลาของโรคหวัดได้ ร่างกายจะใช้วิตามินซีเป็นตัวช่วยในการสร้างคอลลาเจนที่มีหน้าที่ซ่อมแซมส่วนต่างให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้นอีกด้วย

กินฝรั่งไม่ปลอกเปลือก 1 ผล จะได้วิตามินซีเทียบเท่ากับส้ม 20 ผล ซึ่งเป็นปริมาณที่มากเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน หรืออาจเพิ่มความสดชื่นให้การทานฝรั่งเป็นเมนู สมูตตี้ฝรั่งเม็ดแมงลัก, น้ำฝรั่งปั่น

3. ทูน่า อาหารว่างโดยเฉพาะทูน่ากระป๋องหาได้ง่ายให้ประโยชน์ทั้งโปรตีนและธาตุเหล็ก ซึ่งโปรตีนมีส่วนสำคัญซ่อมแซมร่างกาย และยังใช้สร้างเซลล์ภูมิคุ้มกันต่าง ๆ หากร่างกายขาดโปรตีนจะส่งผลกระทบต่อการผลิตภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดการติดเชื้อง่าย ส่วนธาตุเหล็กก็ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง แถมทูน่ายังมีโอเมก้า-3 กรดไขมันที่ดีต่อการทำงานของสมองและหัวใจอีกด้วย

ลองดัดแปลงทูน่าเป็นของว่างช่วยให้อิ่มท้องช่วงบ่ายได้ เช่น ทูน่าสลัดแครกเกอร์ ปอเปี๊ยะทูน่า 

4. อัลมอนด์ เสริมวิตามินอี สังกะสีและช่วยเพิ่มพลังงานให้ตื่นตัวตลอดวัน อัลมอนด์อัดแน่นไปด้วยวิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องร่างกายจากติดเชื้อต่าง ๆ เป็นแหล่งที่อุดมด้วยสารอาหารสำคัญอื่น ๆ เช่น ไฟเบอร์ แมงกานีส แมกนีเซียม โครเมียม และมีกรดไขมันดี เช่น กรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง จึงช่วยลดระดับโคเลสเตอรอล ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงการเจ็บป่วยอื่น ๆ ได้อีกด้วย

ลองใช้เวลาว่างกับการเตรียมอาหารแบบง่าย ๆ ทำ อัลมอนด์เอนเนอร์จี้บอล อัลมอนด์เคลือบชอกโกแลต

อาหารว่างทั้ง 4 อย่าง มีประโยชน์อย่างมากต่อการสร้างภูมิคุ้มกันและดูแลสุขภาพของทุกคน

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 


ข่าวแรก “ดุสิตลากูน่า”แต่งตัวพร้อมเท4บริการรับการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

 

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ดุสิตธานีพร้อมเปิดต้อนรับ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” โดยได้ปรับปรุงพื้นที่และกิจกรรมต่าง ๆ ในโรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต ทั้งในส่วนที่พักและบุคลากร รวมทั้งได้รับ SHA Plus Certificate  เป็นสถานประกอบการที่มีสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัย SHA ส่วนพนักงานก็ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ครบ 100% เช่นเดียวกับพนักงานใน อีลิธ เฮเวนส์ (Elite Havens) ที่ภูเก็ต สมุย และพังงา ก็ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 100 % 

 

ทางกลุ่มดุสิตธานี ยังได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่ และสร้างสรรกิจกรรมใหม่ๆ ในโรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต โดยยึดแนวคิดของ Dusit Graciousness เป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มเน้นให้ความสำคัญการบริการ 4 แกนหลัก คือ  1.มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า (Service)  2.ตอบสนองการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาวะที่ดีทั้งกายและใจ (Well-being) 3.เข้าถึงและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับชุมชนและคนรอบข้าง (Locality) และ 4.คำนึงถึงสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน (Sustainability)

 

ข่าวที่สอง ICAO”ประกาศพัฒนาระบบVDSให้การบินทั่วโลกใช้เช็คเอกสารโควิด

 

องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO :  International Civil Aviation Organization ประกาศว่า ล่าสุดได้นำระบบ Visible Digital Seal (VDS) เตรียมพร้อมให้ทั่วโลกได้ใช้ เพื่อเป็นมาตรฐานแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนของผู้โดยสารและนักเดินทางที่ขึ้นเครื่องบินและผ่านเข้าออกสนามบินต่าง ๆ โดยมีลักษณะ เป็น 2D QR Code ที่สามารถจัดเก็บข้อมูลการตรวจและการฉีดวัคซีน COVID-19 ได้อย่างสมบูรณ์

 

สำหรับเทคโนโลยี VDS ดังกล่าว จะช่วยลดระยะเวลาในการตรวจสอบเอกสารที่สนามบิน ยากต่อการปลอมแปลงเอกสาร การทำหน้าที่ของ VDS barcode จะใช้หลักการ Public key crytographic เดียวกันกับที่ใช้กับ  E-Passport ที่่มีอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันทั่วโลกมีระบบรองรับอยู่แล้วกว่า 145 ประเทศ ช่วยทำให้ประหยัดเงินลงทุนและไม่สิ้นเปลืองงบประมาณ เพื่อดำเนินงานบริการคนเข้าออกเมืองเมื่อต้องเปิดประเทศ

 

ทั้งนี้ ICAO จะจัด regional webinars เรื่อง VDS อย่างต่อเนื่องในเวลาอันใกล้นี้ เพื่อให้แต่ละประเทศมีความเข้าใจและนำไปใช้จริงต่อไป 

 

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

จับตา!!ต่างชาติเที่ยวไทยแผ่ว3เดือนแรกไม่ถึง10ล้านคน

  นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 1 ม.ค.-31 มี.ค.2568 ได้แค่ 9.5 ล้านคน จับตา !! ต่างชาติเที่ยวไทยแผ่ว 3 เดือนแรกไม่ถึง 10 ล้านคน เม.ย.นี้ร...