“TCEB”ปลุก14ประเทศตลุยแฟมทริปไมซ์กทม.+ภูเก็ตคึกคักปี;65
ปลื้ม!!อินเซ็นทีฟ-คอนเว็นชั่นจ่อเลือกไทยจัด57งานโกย1.9พันล้าน
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TCEB #แฟมทริปไมซ์กรุงเทพภูเก็ต
TCEB จัดครั้งแรกในรอบ 2
ปี “แฟมทริปไมซ์ต่างชาติ” นำตัวแทนธุรกิจ14 ประเทศ
15 ตลาด 43 ราย บุกสำรวจทำกิจกรรมในกรุงเทพฯ กับภูเก็ต หลังจบงานลูกค้าประสานเสียงพร้อมนำงานมาจัดในไทย
“อินเซ็นทีฟ-ประชุม 57 งาน โกยรายได้ 1,901.34
ล้านบาท ชมเปาะ ไทยโดดเด่น 3 เรื่อง “คุณภาพมาตรฐานบริการ-ทำงานยืดหยุ่น-มีหลากหลายเส้นทางและกิจกรรม”
โดนใจไมซ์ทั่วโลก
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผย ทีเส็บเดินหน้ากระตุ้นตลาดต่างประเทศทันที ขานรับนโยบายรัฐบาลเปิดประเทศ นำร่องรุกทำตลาดที่มีโอกาสฟื้นตัวเร็ว 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก การจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (incentive) กับ กลุ่มที่ 2 ตลาดงานประชุมนานาชาติ จะต้องวางแผนระยะยาว
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม -1 เมษายน 2565 ทีเส็บได้จัดงาน 2022 Thailand
MICE Familiarization Trip ขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี เดินทางสำรวจพื้นที่จัดงานและทำกิจกรรม
กรุงเทพ – ภูเก็ต โดยนำตัวแทนตลาดไมซ์อินเตอร์ 14 ประเทศ 15 ตลาด 43 ราย จากบริษัทตัวแทนการเดินทางไมซ์
(MICE Agent) บริษัทผู้ให้บริการจัดงานอีเวนต์ (Event Planner) นักวางแผนการจัดประชุม (Meeting Planner) ผู้แทนจากองค์กรธุรกิจ
(Corporate) และกลุ่มบริษัทผู้ให้บริการด้านบริหารจัดงานประชุม (Professional Conference Organizer - PCO)
ประกอบด้วย ตัวแทนจาก ออสเตรเลีย เบลเยียม บัลแกเรีย แคนาดา ฝรั่งเศส
อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ โปรตุเกส สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร
สหรัฐอเมริกา และ 1 เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
นายจิรุตถ์กล่าว
เป้าหมายการจัดทริปให้ตัวแทนตลาดต่างประเทศครั้งนี้ มุ่งสร้างประสบการณ์ตรงจากการเข้ามาศึกษาเส้นทางดูความพร้อมและศักยภาพของไทย
ทางด้านการจัดงานประชุม การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล
การจัดประชุมวิชาชีพระดับนานาชาติ ที่จะได้เห็นสถานที่จัดงาน โรงแรมที่พัก
รูปแบบกิจกรรมต่าง ๆ พร้อมวิธีการเดินทางเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวก
ตลอดจนแนวปฏิบัติด้านสุขอนามัยในการจัดงาน จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการไมซ์ในต่างประเทศให้ตัดสินใจเลือกไทยเป็นสถานที่จัดงาน
ทีเส็บจัดกิจกรรมแฟมทริปรวม
7 วัน และคืนสุดท้ายจัดงานเลี้ยงขอบคุณผู้ร่วมทริป The Embrace of Thai Night โดยบริหารจัดการงานทั้งหมดให้เห็นถึงการจัดไมซ์แบบลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ถึง
6,603.19 kgCO2e เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้
400 ต้น และวัสดุต่าง ๆ
ที่ใช้ในงานจะนำกลับมาใช้ใหม่ในงานอื่นต่อไป
ส่วนการพบเจรจากับผู้ประกอบการไทย
ทั้งศูนย์ประชุมนานาชาติและโรงแรมต่าง ๆ
เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ของการนำงานมาจัดในไทย สามารถคาดการณ์จำนวนงานจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
(lead) จากผู้ร่วมทริปเด่น ๆ 2 กลุ่มตลาด
รวม 57 งาน คาดจะสร้างรายได้เข้าประเทศรวมทั้งหมด1,901,340,000
บาท ดังนี้
กลุ่มตลาดที่ 1 จัดประชุมนานาชาติ (Convention) จะเลือกมาไทยทั้งหมด 6 งาน จำนวนนักเดินทาง 14,600
คน สร้างรายได้ 919,800,000 บาท
กลุ่มตลาดที่ 2 การประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล
จะได้ทั้งหมด 51 งาน จำนวนนักเดินทาง 15,580 คน สร้างรายได้ 981,540,000 บาท
ขณะที่ “ผู้ประกอบการจากต่างประเทศ” ที่ร่วมทริปครั้งนี้ สะท้อนมุมมองเรื่อง “ความพร้อมในประเทศไทย” โดยกล่าวถึง มาตรฐาน คุณภาพ ความยืดหยุ่นในการปรับตัว เอกลักษณ์ด้านบริการ อาหาร เป็นจุดขายของประเทศไทยในการรองรับการจัดงานไมซ์นานาชาติได้เป็นอย่างดี
Mr. Werner Van Cleemputte เจ้าของบริษัท Medicongress กล่าวในฐานะตัวแทนบริษัทผู้ให้บริการด้านบริหารจัดงานประชุม (Professional Conference Organizer - PCO) จากเบลเยียม ว่า ทริปนี้สร้างความประทับใจที่เห็นกรุงเทพฯ พัฒนาที่ดีมากขึ้น มีมาตรฐานสูงอยู่ในระดับสากล เหมาะจัดงานประชุมนานาชาติ เป็นจิตวิญญาณสำคัญให้กลับมาจัดงานประชุมแบบพบปะหน้าตากันโดยตรงอีกครั้งในเมืองไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีความโดดเด่น 3 เรื่องหลัก 1.การทำงานมีความยืดหยุ่นตามสถานการณ์ 2.เทคโนโลยีพร้อมรองรับการจัดงาน 3.การให้บริการที่มีเอกลักษณ์
Ms. Alexandra Goodsell, Head of Customer Success บริษัท Power2Motivate บริษัทผู้ให้บริการจัดงานอีเวนต์ (Event Planner) จากออสเตรเลีย กล่าวว่า เข้าร่วมทริปนี้แล้วทำให้เห็นว่าไทยมีอะไรมากกว่าการเป็นจุดหมายของการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล รวมถึงไม่แปลกใจที่ไทยคือตัวเลือกโดดเด่น เพราะมีผลิตภัณฑ์ตอบสนองกลุ่มนักเดินทางไมซ์ได้หลากหลายรูปแบบ
ทั้งคุณภาพ โรงแรม มาตรฐานด้านอาหารที่ดียิ่งขึ้น ประเภทของโรงแรมที่พัก สถานที่จัดงานจัดกิจกรรม สถานที่พักผ่อนต่าง ๆ ล้วนเป็นทางเลือกที่ดีมากของนักเดินทางไมซ์ โดยเฉพาะกลุ่มไมซ์หนุ่มสาว และกลุ่มธุรกิจสายเทคโนโลยี
Mr. Mark Cochrane, Regional Director
Asia-Pacific
จากสมาคมแสดงสินค้าโลก หรือ UFI (The Global Association of the
Exhibition Industry) กล่าวว่า ช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด
19 ประเทศไทยได้พัฒนาการบริการต่าง ๆ ให้ดีมากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมาผู้จัดงานต้องจัดระบบระเบียบต่าง ๆ
เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดจากสถานการณ์โควิด 19 ปัจจุบันไทยมีระบบบริหารจัดการ
ได้ตามความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก (Customer-Oriented) เช่น ระบบ Thailand Pass ถือเป็นการเสริมต่อจุดแข็งด้านการบริการที่มีประสิทธิภาพ
ช่วยให้ผู้จัดงานสะดวกสบายเป็นประโยชน์ในการจัดงาน
ซึ่งเป็นหัวใจหลักทำให้การจัดงานแสดงสินค้าประสบความสำเร็จ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น