ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด



ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย4ด่าน

ส.ค.66-ปี’67กระหน่ำขายNew Ways to Amazing to Thailand”

ล็อกเป้าจีน4ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่20จังหวัด

ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%-Firster9หมื่นไอเท็ม

ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ

กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค.66

ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน

กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน

TCEBบุกจีนจัดThailand MICE in China 2023โกยไมซ์990ล้าน

เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช

เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง

บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน

เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้5พ.ย.-5ธ.ค.66

 

วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #วันแม่  #ทททคุนหมิง

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/mmMgGwIKY6/

 

ช่วงที่ 1 จีนบุกอีสานกับ “รุ่งทิพย์ บุกขุนทด” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ททท.โชว์กลยุทธ์ตลาดครึ่งปีหลัง 2566 ดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพจีนตะวันตกเฉียงใต้ 3 มณฑล 137 ล้านคน ทัวร์โอเวอร์แลนด์ทางบก นั่งรถไฟ ขับรถยนต์ ปักหมุดเที่ยวไทยในอีสาน ภาคเหนือ คึกคัก 4 ด่าน หนองคาย-ท่าลี่-ห้วยโก๋น-เชียงของ” ใช้เงินกระจาย 60,000-100,000 บาท/คน/ทริป ดันโครงการ New Ways to Amazing to Thailandปูพรมขาย ส.ค.66 ต่อเนื่องปี’67 ล็อกเป้า 4 ตลาด “ครอบครัว-ทัวร์กีฬากอล์ฟ-กลุ่มรีวิสิต-กลุ่มเฟิร์สวิสิต” ล่าสุดยกอีสาน 20 จังหวัด บุกจัดงาน Thailand Festival ปลุกกำลังซื้อจีนได้เพียบ สร้างการรับรู้ทั่วคุนหมิงกว่า 10 ล้านคน-ครั้ง

 

                นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดเผยว่า วางแผนส่งเสริมตลาดการขายท่องเที่ยวระหว่างสิงหาคม-ธันวาคม 2566  มีพื้นที่ดูแลรวม 3 มณฑล ได้แก่ ยูนนาน กุ้ยโจว กว่างสี มีประชากรรวมกันประมาณ 137 ล้านคน ช่วงครึ่งหลังปี 2566 จะสร้างการรับรู้ต่อด้วยการเดินทางเข้าเมืองไทย คุนหมิงเป็นพื้นที่สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทยได้หลากหลายวิธี ตั้งแต่ 1.การเดินทางทางอากาศโดยเครื่องบิน 2. “ทางบก -overland” ระหว่าง 3 เดือนนี้ สิงหาคม-ตุลาคม 2566 ได้รับโจทย์หลักจาก ททท.สำนักงานใหญ่ให้ช่วยกระตุ้นชาวจีนเข้าเมืองไทยเพิ่มทางบก โดยผ่านจากมลฑลยูนนานบริเวณด่านชายแดนโบฮาข้ามมายังบ่อเต็น (สสป.ลาว) แล้วเข้าประเทศไทยได้ไม่ต่ำกว่า 4 ด่าน 4 จังหวัด คือ ด่านหนองคาย จ.หนองคาย ด่านท่าลี่ จ.เลย ด่านห้วยก๋วน จ.น่าน ด่านเชียงของ จ.เชียงราย

               

                ขณะนี้จีนนิยมท่องเที่ยวทางบกเข้าไทยด้วยรถยนต์และรถไฟความเร็ว โดยเน้นจุดขายโครงการ Amazing Thailand Amazing New Chapters ดังนั้น ททท.คุนหมิง จึงได้ขยายผลทำโครงการ “New Ways to Amazing to Thailand” นำจีนมาท่องเที่ยวไทยช่วงหน้าฝนนอกฤดูเดินทาง (low season) โดยได้ร่วมกับบริษัทนำเที่ยวในยูนนาน 3 บริษัท ทำแพกเกจกระตุ้นตลอดเดือนสิงหาคมนี้ เจาะ 5 ตลาดหลัก

 


ตลาดที่ 1 กลุ่มครอบครัว และผู้สูงวัย หรือ Silver Age ทริปแรกเริ่มเดินทางโดยรถไฟความเร็วสูงเข้าไทยแล้วตั้งแต่ 8 สิงหาคม 2566 มีจำนวน 75 คน พร้อมสื่อมวลชน กับผู้บริหารบริษัทนำเที่ยวจีน ทั้งหมด 86 คน ทริปละ 8-10 วัน ทางผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก ททท.เดินทางไปต้อนรับอย่างอบอุ่น

                พร้อมทั้งเชิญชวนนักท่องเที่ยวจีนร่วมสัมผัสประสบการณ์ “วิถีถิ่นวัฒนธรรมอาหาร” พร้อมการแสดงต่าง ๆ อย่างประทับใจ ต่อจากนั้นจะเร่งกระตุ้นตลาดดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป

                ตลาดที่ 2 นักกอล์ฟส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา หรือ Sport Tourism จัดทำโปรแกรมเสนอขายการเล่นกอล์ฟ และเดินทางไปยังท่องเที่ยวต่าง ๆ ใกล้สนามกอล์ฟแต่ละพื้นที่ได้ด้วย แพกเกจ 8-10 วัน/ทริป เดินทางโดยเครื่องบินตรงเข้ามายังกรุงเทพฯ เลือกเล่นกอล์ฟในกรุงเทพฯ ทำคอร์สสปาเพื่อสุขภาพ แล้วเดินทางไปเล่นกอล์ฟต่อยังภาคตะวันออก พัทยา ชลบุรี ระยอง



                ตลาดที่ 3 กลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางเที่ยวเมืองไทยซ้ำ ๆ หรือ Re-Visit Thailand ผู้บริหาร ททท.คาดหวังโดยตั้งโจทย์ให้ ททท.ในสาธารณรัฐประชาชนจีนทั้ง 5 สำนักงาน ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว เฉินตู และคุนหมิง ร่วมกันนำจีนเที่ยวเมืองไทยตลอดปี 2566 ให้เกิน 5 ล้านคนขึ้นไป ขณะนี้จีนเดินทางเข้าไทยแล้ว มกราคม-ต้นเดือนสิงหาคม นี้ 1.935 ล้านคน ดังนั้นจะร่วมกันนำเข้านักท่องเที่ยวมาไทยให้ได้มากที่สุดล็อกเป้ากลุ่มศักยภาพสูงมาเป็นครอบครัวจะพักในไทย 10-20 วัน/ทริป ใช้จ่ายเฉลี่ย 60,000-100,000 บาท/คน/ทริป จะเน้นความสะดวกสบาย ปลอดภัย แหล่งท่องเที่ยวจุดหมายปลายต้องสร้างประสบการณ์แปลกใหม่มีความหมายและคุณค่า (meaningful travel) โดยเฉพาะสินค้าท่องเที่ยว ซอฟท์ เพาเวอร์ 5F Food อาหาร/Fashion-เครื่องแต่งกายไทย/Fight-กีฬาต่อสู้มวยไทย/Film-พื้นที่ถ่ายทำภาพยนตร์/Festival-เทศกาล”

                ปี 2566 แนวโน้มนักท่องเที่ยวจีนมาไทยจะยังคงเป็นกลุ่มศักยภาพสูงพร้อมใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้น โดยมีแรงกระตุ้นให้ใช้เงินรับประทานอาหารไทย ทำกิจกรรมกับประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ ๆ และช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์สินค้าไทยนำกลับไปฝากญาติพี่น้องในจีน รวมทั้งนักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่ยังได้นำเรื่องราวจากประสบการณ์ตรงไปบอกต่อกับชาวจีนคนอื่น ๆ เช่น ทริปแรกที่เดินทางมากับรถไฟความเร็วสูง ได้ลองรับประทานอาหารถิ่น ร่วมรำเซิ้งสนุกสไตล์อีสาน มีความถ้วนหน้า

 


                ส่วน “เที่ยวบิน” ไป-กลับ หลัก ๆ จะมี 6 สายการบิน ได้แก่ การบินไทย กรุงเทพฯ-คุนหมิง สัปดาห์ละ 2 เที่ยว แอร์เอเชีย คุนหมิงแอร์ไลน์ส ไชน่าอีสเทิร์น และลักกี้แอร์ รวมแล้วจะมีเที่ยวบินจากคุนหมิง หรือยูนนาน ทุกวัน จึงจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางต่อเนื่องได้ทุกวัน  สำหรับการเดินทางช่วง “วันชาติจีน” เดือนตุลาคม นี้ ก็จะมีนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากเข้าไทยอย่างแน่นอน

 

                ผอ.รุ่งทิพย์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวในไทยกับตลาดจีนตามความนิยมปัจจุบัน อันดับ 1 กรุงเทพฯ ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยว บริการ กิจกรรม ตอบโจทย์ครบทุกด้าน อันดับ 2 ภาคตะวันออก พัทยา ชลบุรี ระยอง ภูเก็ต กระบี่ รวมแล้ว 2 อันดับแรก มีส่วนแบ่งตลาดจีนรวมกันมากถึง 70 % อันดับ 3 ภาคอีสาน กำลังเร่งโปรโมทอย่างเต็มที่ ขณะนี้ ททท.คุนหมิง ร่วมกับสถานกงศุลใหญ่ของไทยประจำคุนหมิง จัดเทศกาล Thailand Festival 2023 ระหว่าง 4-8 สิงหาคม 2566 ที่ห้างถงเต๋อ นครคุนหมิง โดยนำเสนอสัญลักษณ์ธีม “ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” ของไทย 20 จังหวัด กับตลาดทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนทั้งหมดได้รู้จักเพิ่มมากขึ้น

 

โดยได้นำการแสดงศิลปะวัฒนธรรมอีสาน ร้านอาหารถิ่นแถบอีสานและทั่วเมืองไทย มาไว้ในงาน Thailand Festival 2023 รวมทั้งได้นำเสนอการเดินทางท่องเที่ยวทางอากาศของสายการบินต่าง ๆ เข้าสู่เมืองไทย ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมตลอดงานมากถึง 300,000 คน สร้างการรับรู้ได้มากกว่า 10 ล้านคน-ครั้ง จึงจะเป็นโอกาสในการสร้างทางเลือกใหม่เที่ยวเมืองไทยในภาคอีสาน จากนั้นจะเพิ่มเส้นทางท่องเที่ยวภาคเหนือของไทยต่อยอดเข้าไปด้วย

 


ปี 2567 ททท.คุนหมิง ยังคงเดินหน้าขยายฐานนักท่องเที่ยวจีนตลาดหลัก 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 นักท่องเที่ยวเดินทางซ้ำ หรือ Re-Visit กลุ่มที่ 2 นักท่องเที่ยวใหม่ที่เพิ่งเลือกเดินทางมาไทยครั้งแรก หรือ First Visit  กลุ่มที่ 3 นักท่องเที่ยวเชิงกีฬา กอล์ฟ ดำน้ำ กลุ่มที่ 4 ครอบครัวขนาดใหญ่

 

ส่วนโครงการที่จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนในพื้นที่คุนหมิง “New Ways to Amazing to Thailand ต่อยอดการท่องเที่ยวทางบก/Overland ทั้งคาราวานรถยนต์และรถไฟความเร็วสูง วางแผนจัดกิจกรรมช่วงเมษายน 2567 เดินทางเที่ยวงานเทศกาลประเพณีขึ้นชื่อของไทย โดยจะนำเข้ามาทั้ง 4 ด่าน ด่านเชียงของ จ.เชียงราย ด่านห้วยก๋วน จ.น่าน ด่านท่าลี่ จ.เลย และด่านหนองคาย จ.หนองคาย ซึ่งจะทำให้เม็ดเงินสะพัดทั่วภาคอีสาน สร้างสีสันเสน่ห์สงกรานต์หนองคาย อุดรธานี ขอนแก่น แล้วยังสามารถเดินทางวนเข้าภาคกลาง กลับไปทางภาคเหนือ ย้อนกลับสู่อีสาน กลับสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ ด้วยการสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าและความหมายอย่างแน่นอน

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 




ข่าวที่ 1 ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%-Firster9หมื่นไอเทม”

 

คิง เพาเวอร์ ชวนมาเลือกช้อป “ของขวัญวันแม่” ทาง King Power Online และหาสินค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ FIRSTER by King Power มีให้เลือกเกือบ 100,000 รายการ กับ 2 โปรโมชั่น ดังนี้

 

โปรโมชั่นที่ 1  KING POWER ONLINE ช้อปทุกที่ เป็น ไป ได้ กับผลิตภัณฑ์ แฟชั่น บิวตี้ ไลฟ์สไตล์ สินค้าดิวตี้ฟรีมีไฟลต์บินช้อปได้เลย  ระหว่างวันนี้ – 24 สิงหาคม 2566 มีโปรโมชั่นดีต้องบอกต่อ เพราะได้เลือกสรร สินค้าคุณภาพดี ช้อปคุ้ม ดีลครบ! ลดสูงสุด 2 แบบ แบบแรก ช้อปครบ 6,000 บาทขึ้นไป รับรหัสเดียว AUG15ลดสูงสุด 15%  แบบสอง ช้อปครบ 10,000 บาท รหัสส่วนลด AUG20  ลดสูงสุด 20%  รอรับสินค้าที่สนามบินนานาชาติของไทยหรือจะช้อปต่อได้ทั้งขาเข้าขาออก

ห้ามพลาด !! Don't Miss! : Top List Fragrances สำหรับไอเทมน้ำหอมขายดี ยอดฮิตที่สุด เช่น แบรนด์ LANCÔME, MONTBLANC , YSL, BURBERRY, LE LABO, JO MALONE LONDON

 

โปรโมชั่นที่ 2 เลือกค้นหาของขวัญให้แม่กับสินค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ FIRSTER by King Power พบกับสินค้ามากมายกว่า 90,000 รายการ ช้อปครบจบที่เดียวทั้ง 2 สาขา คือ คิง เพาเวอร์ มหานคร และสยามสแควร์ซอย 7

 


ข่าวที่ 2 ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมมื้อกลางวัน/ค่ำ

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ พร้อมทำให้ทุกอย่าง “เป็น ไป ได้” ในโอกาสพิเศษต้อนรับ “เทศกาลฉลองวันแม่” เดือนสิงหาคม 2566 ทั้งเรื่อง “กินสุดฟิน” ที่ “โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ (รางน้ำ)” ชวนทุกครอบครัว “ฉลองวันแม่” ที่ห้องอาหาร “ควิซีน อันปลั๊ก” ชั้น 1 ในวันที่ 12 สิงหาคม 2566 เตรียมมื้อค่ำสุดพิเศษเปิดจองทางออนไลน์ให้คุณแม่รับประทานฟรี โดยจะได้อิ่มอร่อยกับบุฟเฟต์ซีฟู้ด และบาร์บีคิวมื้อกลางวันและมื้อค่ำ พาเหรดวัตถุดิบชั้นเลิศทั้งปูอลาสก้า หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยนางรมฝรั่งเศส ไฮไลต์มุมบาร์บีคิว กุ้งแม่น้ำ เนื้อวากิว พร้อมหลากเมนูอาหารนานาชาติ อย่าง พิซซ่าโฮมเมดอบร้อน ๆ จากเตา พาสต้า ติ่มซำ ซูชิ ซุป สลัดออร์แกนิค อาหารไทย พร้อมเมนูของหวานมากมาย โทรจองได้ที่ 026809999 หรือ H6323-FB4@accor.com

 

โดยมี “โปรโมชั่นบุฟเฟต์วันแม่” ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก โรงแรม พูลแมน คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ให้เลือก 2 มื้อ 2 ช่วงเวลา ในราคาสบาย ๆ  ได้แก่ “มื้อบรันช์” ช่วงเที่ยงไปจนถึงบ่าย เวลา 12.00 น. – 15.00 น. ผู้ใหญ่คนละ 2,590 บาท และ มื้อค่ำ” เวลา 18.00 น. – 22.30 น. ผู้ใหญ่คนละ 2,250 บาท ทั้งสองมื้อ มีเครื่องดื่มเสิร์ฟแบบไม่อั้น

 

รับเพิ่ม!! อีก 2 สิทธิพิเศษ  คือ 1.คุณแม่รับประทานฟรี เมื่อสำรองที่นั่งราคาปกติ 1 คน 2.จองออนไลน์ สมาชิกคิง เพาเวอร์ และแอคคอร์ พลัส รับส่วนลด 30% จากราคาปกติแต่จะไม่ร่วมโปรโมชั่นคุณแม่รับประทานฟรี

               

อิ่มอร่อย !! ต่อเนื่องที่ “ห้องควิซีน อันปลั๊ก” อีกรายการกับ “บุฟเฟต์อาหารอินโดเนเซีย” และอาหารทะเลหลากหลาย กิจกรรมนี้ทางเชฟ  Zakaria Arianto และ Sous Chef บินลัดฟ้ามาจากโรงแรมพูลแมน จากาตาร์ อินโดนเซีย เพื่อปรุงเมนูพิเศษระหว่างวันที่ 16 - 27 สิงหาคม  2566 มาแล้วทุกคนได้เพลิดเพลินไปกับรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์พร้อมวัตถุดิบสดใหม่ทุกเมนู

 

ราคา “มื้อกลางวัน” คนละ 1,150 บาท  “มื้อค่ำ” คนละ 2,250 บาทสุทธิ รวมเครื่องดื่มแบบไม่อั้นและเครื่องดื่มสไตล์อินโดนีเซียอีก 2 ดริ๊งค์ สมาชิกคิง เพาเวอร์ ลดสูงสุด 30 % สมาชิกบัตร Accor Plus จองออนไลน์ รับส่วนลดสูงสุดถึง 40 %

ไฮไลต์เฉพาะ!! วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ทางโรงแรม พูลแมน คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เคลียร์พื้นที่ทางเข้าล็อบบี้ของโรงแรมเชิญชวนทุกครอบครัวพาคุณแม่มาฉลองแล้วเพลิดเพลินฟรีชมการแสดงดนตรีสดและฟังบทเพลงอันไพเราะขับกล่อมประสานเสียงจาก 'สุนทราภรณ์' พิเศษเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น ตั้งแต่ 14.00 – 16.00 น.

 


ข่าวที่ 3 กินฟิน!คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค.66

 

“คิง เพาเวอร์ มหานคร” อาคารและจุดชมวิวสูงสุดในเมืองไทย และศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ความสุขทุกรูปแบบย่านใจกลางเมืองบนถนนสาทร-สีลม ควงแขนกันไปรับประทานของอร่อยสุดฟินตลอดเดือนสิงหาคม 2566 ได้ที่ ห้องอาหารและเครื่องดื่มขึ้นชื่อสุดชิค 3 ห้อง ได้แก่

 

ห้องอาหารแรก “Ojo Bangkok ชั้น 76 คิง เพาเวอร์ มหานคร เสิร์ฟเซตเมนูมื้อกลางวันแบบ 2 คอร์ส ตั้งแต่เมนูเรียกน้ำย่อย อาทิ Guacamole Tostadas หรือ Esquites และอื่นๆ โดยเฉพาะ “เมนูจานหลัก” ห้ามพลาดลิ้มรสความอร่อยของPollo & House Mole -ไก่ย่างสไตล์เม็กซิกัน” เข้าคู่กับซอสโมเล่ Oaxacan หรือ Lamb Barbacoa เนื้อแกะที่นำไปปรุงแบบช้า ๆ จนเปื่อยนุ่มลิ้น เสิร์ป “เซตเมนูมื้อกลางวัน” แบบ 2 คอร์ส ราคาเพียง 990++ บาท/เซต/คน ส่วนของหวานจ่ายเพิ่ม คนละ 200++ บาท สำรองที่นั่งมื้อพิเศษได้ที่โทร. 02 0858888  หรือแอดไลน์ OA ที่ @OjoBangkok

 

ห้องอาหารที่ 2  “Mott 32 Bangkok  คัดความพิเศษมาไว้ให้ร่วมฉลองวันแม่ ระหว่าง 12-14 สิงหาคม 2566 เตรียมเครื่องดื่มไว้ให้แม่ทุกคนได้สดชื่นทันทีที่เดินเข้าสู่ร้าน แล้วยังมีของขวัญสุดพิเศษเป็น “ซิ่วท้อไส้พิเศษ”  โทร 020858888  หรือแอดไลน์ @Mott32Bangkok

 

ห้องที่ 3 Tease ชวนกันมาเพิ่มประสบการณ์ตลอดเดือนสิงหาคม-กันยายน 2566 ได้ที่ห้องทีรูมเก๋ ๆ ของโรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร โดยเฉพาะเหล่าสาวกช็อกโกแลตเลิฟเวอร์ ห้ามพลาดการอุ่นเครื่องเติมความหวานจิบชายามบ่ายแบบเบา ๆ กับ “ปรีดีคาเคาเฟเวียร์/ Pridi Cacaofevier  ช็อกโกแลตแบรนด์สัญชาติไทย พร้อมจะเปิดพื้นที่ให้ร่วมคอลแลบเพิ่มความสนุกและแปลกใหม่พิเศษกว่าที่เคยมาก่อนด้วยเมนูชายามบ่าย หรือ Afernoon Tea ราคาเซตละ 980++ บาท/คนโทร 02 0858888 หรือแอดไลน์ OA ที่ @TheStandardBangkok

 

ข่าวที่ 4 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลกWorld Kaphrao 2023”ชิงเงิน1ล้าน

 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.นำทีมผลักดันซอฟท์ เพาเวอร์ เปิดโครงการ “World Kaphrao Thailand Grand Prix 2023” ปลุกกระแสวัฒนธรรมอาหารด้วยเมนู “ผัดกะเพรา” ซึ่งอาหารจานด่วนประจำชาติภูมิปัญญาไทย ภายใต้แนวคิด “The Greatest Kaphrao on Earth” พร้อมกับต่อยอดจัดมหกรรมผัดกะเพราเขย่าโลก “Pad Kaphrao Thailand Championship” เดินหน้าค้นหายอดฝีมือผัดกะเพราชิงแชมป์ประเทศไทย เพื่อชิงเงินรางวัลรวมกว่า 1 ล้านบาท วันที่ 25-27 สิงหาคม 2566 บริเวณคลองผดุงกรุงเกษม (หัวลำโพง) กรุงเทพฯ

 

โดยจะทำให้เมนู “ผัดกะเพรา” เป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติเช่นเดียวกับเมนูอาหารไทยชนิดอื่น ๆ ที่โด่งดังติดอันดับมาแล้วอย่าง แกงพะแนง มัสมั่นไก่ ต้มยำกุ้ง ผัดไทย ข้าวซอย ส้มตำ และจะใช้งานนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักชิมอาหารทั้งคนไทยและต่างชาติเข้างาน ตลอด 3 วัน กว่า 15,000 คน สร้างเงินหมุนเวียนสะพัดได้ถึง 35 ล้านบาท รวมทั้ง ททท.จะศึกษาข้อมูลจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มเติมถึงความนิยมที่มีต่อเมนูอาหารไทย เพื่อใช้จัดงานครั้งต่อไป

 

ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ททท.มุ่งสนองนโยบายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเดินตามแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมปีท่องเที่ยวไทย 2566 ทำให้ไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวและนักชิมทั่วโลก โดยใช้กลไกลสำคัญด้านพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าและสร้างรายได้จากตลาดคุณภาพเชื่อมโยงไปถึงชุมชน  จึงได้นำ “ผัดกะเพรา” ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มทั้งคนไทยและต่างชาติ ด้วยรสชาติกับวัตถุดิบปรับได้ตามความชอบมีกะเพราสมุนไพรไทยเป็นตัวชูโรงช่วยเติมกลิ่น เติมเนื้อสัมผัสช่วยเรื่องระบบทางเดินอาหาร 

 

ดังนั้น ททท.จึงเตรียมจัดมหกรรมงาน “World Kaphrao Thailand Grand Prix 2023” ขึ้นระหว่าง 25-27 สิงหาคม 2566 ตั้งแต่ 15.00 - 22.00 น. ที่บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม (หัวลำโพง) ภายใต้แนวคิด “The Greatest Kaphrao on Earth” หรือที่สุดของกะเพราในโลกนี้ โดยจะนำเสนอเรื่องราวและวัฒนธรรมของเมนูผัดกะเพราทั้งในรูปแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่ เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่ชื่นชอบการกิน (Foodies) ได้ลิ้มรสความอร่อย และรักษาเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ มาตรฐานภูมิปัญญาอาหารไทย ผนวกกับให้ผู้ประกอบการนำสูตรอาหารไปขยายผล สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และเผยแพร่ให้คนรู้จักแพร่หลายในระดับโลกต่อไป

 

ส่วนไฮไลท์งาน World Kaphrao Thailand Grand Prix 2023 จะจัดกิจกรรม “Pad Kaphrao Thailand Championship” แข่งผัดกะเพราชิงแชมป์ประเทศไทย ประเภทผัดกะเพราเนื้อ ภายใต้ธีม “Authentic & Beyond” ผัดกะเพราแท้ดั้งเดิมของไทย และ ผัดกะเพราแบบใหม่ของโลก กำหนดให้ผู้เข้าแข่งขันใช้วัตถุดิบจากในประเทศเน้นจากท้องถิ่นไม่ต่ำกว่า 50% พร้อมกับตกแต่งจานอาหารแสดงถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทย พร้อมกับตั้งชื่อเมนูให้สอดคล้องและสร้างสรรค์

 

สำหรับการแข่งขันจะแบ่งเป็น “ระดับภูมิภาค” คัดเลือกผู้ชนะจาก 5 ภูมิภาค และ 1 พื้นที่ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคใต้ และกรุงเทพฯ จากนั้นจึงนำผู้ชนะมาแข่งขันต่อในรอบสุดท้ายในงาน “World Kaphrao Thailand Grand Prix 2023” ระหว่าง 25-27 สิงหาคม นี้โดยมีเงินรางวัลรวมกว่า 1 ล้านบาท มอบให้ผู้ชนะการแข่งขันที่สามารถสร้างความสำเร็จทำให้ ซอฟท์ เพาเวอร์ วัฒนธรรมอาหารของไทยเป็นที่รู้จักตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

 

            ภายในงานครั้งนี้ ยังจัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) มาร่วมด้วยคือ ร้านกะเพรานานาชาติมาออกร้าน 12 ร้าน ร้านสตรีทฟู้ดระดับตำนานกว่า 20 ร้านดัง ตลาดเพื่อนกะเพราและตลาดสดออร์แกนิกจัดจำหน่ายวัตถุดิบ ผักสด เนื้อสัตว์ และเครื่องปรุงอาหาร นิทรรศการให้ความรู้สวนกะเพราและพืชสมุนไพรไทย การจัดแสดงไฟประดับสวยงามตระการตาบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม และความบันเทิงมากมาย

 

ข่าวที่ 5 กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน

 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2566 ของกลุ่มบริษัทบางจาก ยังสามารถรักษารายได้ไว้รวม 148,403 ล้านบาท มี EBITDA 17,620 ล้านบาท โดยราคาพลังงานที่ปรับลดลงจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ทำให้กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันได้รับปัจจัยกดดัน อย่างไรก็ดี การลงทุนในส่วนอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ เช่น เข้าซื้อเพิ่มสัดส่วนการลงทุน ทั้งในนอร์เวย์ของ OKEA จาก Wintershall Dea การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา 2 แห่ง ช่วยหนุนภาพรวมด้านการขยายธุรกิจและเพิ่มรายได้ ทำให้บริษัทฯมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 3,199 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.16 บาท

 

โดยกลุ่มบริษัทบางจากฯ ต้องเผชิญความท้าทายและผลกระทบของราคาพลังงานผันผวนช่วงครึ่งปีแรก จากราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยครึ่งแรกปี 2566 อยู่ที่ 78.92 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลงจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 102.17 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และInventory Loss จำนวน 2,952 ล้านบาท แต่ก็ยังคงทำรายได้เติบโตมีกำไรเพิ่มขึ้น

 

บางจาก นำ “แต่ละกลุ่มธุรกิจ” สร้างผลการดำเนินครึ่งแรกปี 2566 ตามรายละเอียดดังนี้

 

กลุ่มที่ 1 ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน มี EBITDA รวม 5,402 ล้านบาท จากค่าการกลั่นพื้นฐาน (Operating GRM) ปรับลดลงจาก 15.87 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในครึ่งแรกของปี 2565 มาอยู่ที่ 8.10 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล สาเหตุหลักมาจาก Crack Spread ของทุกผลิตภัณฑ์ปรับลดลงตามภาวะตลาดโลก โดยรับรู้ Inventory Loss 3.23 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หรือเทียบเท่า 2,443 ล้านบาท ตามการปรับลดลงของราคาน้ำมันดิบ ทางโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ยังคงอัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยสูงในระดับ 121,700 บาร์เรลต่อวัน หรือ คิดเป็น 101 % ของกำลังการผลิตรวม

 

กลุ่มที่ 2 ธุรกิจการตลาด มี EBITDA รวม 1,290 ล้านบาท ทำค่าการตลาดรวมสุทธิต่อหน่วย
ปรับเพิ่มขึ้น โดยสามารถปรับราคาขายปลีกให้สอดคล้องกับต้นทุนน้ำมันได้มากขึ้น ส่วนปริมาณ
การจำหน่ายน้ำมันเติบโตสูงกว่าช่วงก่อนโควิดทำได้ 3,191 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 11 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการฟื้นตัวของน้ำมันอากาศยาน กับการผลักดันยอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้น

 

กลุ่มที่ 3 ธุรกิจพลังงานไฟฟ้า มี EBITDA รวม 1,841 ล้านบาท เป็นผลจากการทยอยสิ้นสุด Adder ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ และรับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป. ลาว ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากการหยุดผลิตไฟฟ้าเพื่อเตรียมขายไฟฟ้าไปยังการไฟฟ้าแห่งสาธารณรัฐสังคมเวียดนาม ทำให้ BCPG ในเครือบางจากซึ่งดูแลอยู่ประกาศเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา 4 โครงการ เพิ่มกำลังการผลิตจาก 390.7 เมกะวัตต์ ก้าวกระโดดเป็น 968.7 เมกะวัตต์

 

กลุ่มที่ 4 ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ มี EBITDA รวม 245 ล้านบาท เป็นธุรกิจผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซลมีกำไรขั้นต้นปรับลดลงจากราคาขายไบโอดีเซล กลีเซอรีนดิบและกลีเซอรีนบริสุทธ์ที่อ่อนตัว ส่วนธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอลมีรายได้จากการขายและกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากราคาขายเอทานอลเฉลี่ยเพิ่มขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบ ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง (High Value Products (HVP) มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวกับการดูแลและส่งเสริมสุขภาพภายใต้แบรนด์ B nature+

 

กลุ่มที่ 5 ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ มี EBITDA รวม 9,115 ล้านบาท จาก OKEA ทำปริมาณการขายเพิ่มขึ้นถึง 93 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน ด้วยปริมาณจำหน่ายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหลวเพิ่มขึ้นจากปริมาณการขายมากกว่ากำลังการผลิตตามสัญญาอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 1 ปี 2566 และรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มครึ่งแรกปี 2566 จากแหล่งผลิตที่รับโอนกิจการมาจาก Wintershall Dea ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2565 เป็นต้นมา

 

ขณะที่ “บริษัทฯ และบริษัทย่อย” ไตรมาส 2 ปี 2566 มีรายได้จากการขายและให้บริการ 68,023 ล้านบาท EBITDA 6,628 ล้านบาท ทำกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 458 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.24าท ช่วงไตรมาส 2 มี “ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน” ได้รับปัจจัยกดดันจากราคาน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปรับลดลงต่อเนื่องจากอุปสงค์ทั่วโลกถูกกดดันและมีอุปทานส่วนเกินล้นตลาด ทำให้มี Inventory Loss 1,036 ล้านบาท

 

“ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ” มีปริมาณการผลิตใกล้เคียงกับไตรมาส 1 ปี 2566 แต่ปริมาณขายลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2566 ซึ่งมีปริมาณขายมากกว่ากำลังการผลิตตามสัญญาอย่างมีนัยสำคัญ 

 

“กลุ่มธุรกิจพลังงานสะอาด” โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นมีปริมาณการขายไฟฟ้าสูงขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล และโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศ สปป.ลาว ได้เริ่มดำเนินการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ไปยังเวียดนามตั้งแต่มิถุนายน 2566

 

รวมทั้งกลุ่มบริษัทบางจากได้จัดทำโครงการ “ทอดไม่ทิ้ง” เปิดปั๊มบางจากและจุดต่าง ๆ รับซื้อน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว เพื่อนำมาผลิตเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel) หรือ SAF จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วรายแรกและรายเดียวในไทย ด้วยกำลังการผลิต 1 ล้านลิตร/วัน เป็นอีกหนึ่งก้าวที่สะท้อนรูปธรรมชัดเจนในการดำเนินงานตามแผน BCP 316 NET ก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ได้ให้ในปี 2573 และลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions) ในปี 2593

 

นายชัยวัฒน์ กล่าวเพิ่มว่า ช่วงครึ่งหลังปี 2566 คาดการณ์ราคาน้ำมันจะปรับเพิ่มขึ้นจากสภาวะอุปทานในตลาดดึงตัวและอุปสงค์น้ำมันจากจีนฟื้นตัว จึงคาดไตรมาส 3 ปี 2566 ค่าการกลั่นของโรงกลั่นประเภท Cracking ที่สิงคโปร์ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ตามปัจจัยหนุนของตลาดน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงยังคงต้องดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบระมัดระวังและติดตามและประเมินสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด ควบคู่กับการบริหารจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตและการทำงาน

 

ทั้งนี้บางจากฯ ได้ประกาศเข้าซื้อหุ้น บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จากบริษัท ExxonMobil Asia Holding Pte. Ltd.  ซึ่งขณะนี้ได้รับความเห็นชอบแบบมีเงื่อนไขจากสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าให้รวมธุรกิจเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างพิจารณาเงื่อนไขดังกล่าวเพื่อพิจารณาแนวทางดำเนินการรวมธุรกิจ คาดจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2566 หากการทำธุรกรรมเสร็จสิ้นจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจน้ำมันให้กับกลุ่มบริษัทบางจาก และจะส่งผลดีต่อประเทศ ทั้งการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน  การเข้าถึงพลังงาน ส่งต่อประโยชน์สู่ทั้งคู่ค้าและผู้บริโภค มากขึ้นตามไปด้วย

 

ข่าวที่ 6 TCEBบุกจีนจัดThailand MICE in China 2023โกยไมซ์990ล้าน

 

พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ประธานกรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภา เปิดเผยว่า ประเทศไทยโดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ได้นำคณะผู้เกี่ยวข้องและภาคเอกชนเดินทางไปทำโร้ดโชว์จัดงาน Thailand MICE Roadshow in China 2023” ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่าง 7-9 สิงหาคม 2566 พร้อมทั้งสานความสัมพันธ์ไทย-จีน ครบรอบ 48 ปี เพราะจีนเป็นตลาดหลักที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและไมซ์ของไทยสูงเป็นอันดับต้น ๆ สร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจกับทั้งสองประเทศได้เป็นอย่างดี

 

 เนื่องจากจีนมีความสำคัญและเป็นตลาดใหญ่ลำดับแรกของทั้งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมไมซ์ แนวโน้มปี 2566 นักท่องเที่ยวจีนก็ยังคงครองอันดับสูงสุดเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย 1 ใน 3 ลำดับแรก ช่วง 6 เดือนแรกปีนี้จีนมาไทยแล้วมากถึง 1.38 ล้านคน ตามเป้าหมายของรัฐบาลไทยโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าจะนำเข้านักท่องเที่ยวจีนให้ได้ถึง 5 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 446,000 ล้านบาท ด้วยเที่ยวบินบริการระหว่างกัน รวม 46,175 เที่ยว

 

ขณะนี้รัฐบาลไทยได้ลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่รองรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและไมซ์ ตามแผนยุทธศาสตร์มีโครงการเด่น ๆ คือ แผนขยายสนามบินทั่วประเทศพร้อมรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ขยายเส้นทางรถไฟ พัฒนาท่าเทียบเรือ ขยายเส้นทางถนน เพิ่มช่องทางเดินทางเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวทั้งในกรุงเทพและจังหวัดต่าง ๆ  ได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น

 

พลเอกธนศักดิ์ กล่าวว่า ได้เป็นประธานพิธีเปิดงาน Thailand MICE Roadshow in China 2023” ในกรุงปักกิ่ง ครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นอีกงานสำคัญผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ และนักเดินทางไมซ์ ระหว่างไทยกับตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีนในอนาคตเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนได้แน่นอน

 

โดยทีเส็บตั้งเป้าหมายปีงบประมาณ 2566 (ระหว่างตุลาคม 2565-กันยายน 2566) จะมีนักเดินทางไมซ์ต่างประเทศมาไทย 760,000 คน สร้างรายได้ 50,000 ล้านบาท คาดจะมีไมซ์จีน 50,000 คน สร้างรายได้ 3,300 ล้านบาท

 

ขณะที่ “ดร.อรรชกา สีบุญเรือง” ประธานกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ทีเส็บ กล่าวว่า จีนเป็นตลาดหลักที่มีนักเดินทางไมซ์เข้ามาไทยต่อเนื่องมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ช่วงก่อนโควิด-19 มีจำนวนเฉลี่ยปีละ 200,000 คน ประกอบด้วย กลุ่มหลัก คือ “นักเดินทางเพื่อเป็นรางวัล” (Incentive) เลือกมาไทยสูงปีละ 10,000 คน/กลุ่ม  ดังนั้นจีนจึงเป็นตลาดอุตสาหกรรมไมซ์สำคัญทำรายได้เข้าประเทศ

ส่วนเป้าหมายการจัดงาน Thailand MICE Roadshow in China 2023 ครั้งนี้ สามารถสร้างประโยชน์กับอุตสาหกรรมไมซ์ของเมืองไทยครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน ได้แก่

 

ด้านที่ 1 ตอกย้ำให้ลูกค้าไมซ์เชื่อมั่นศักยภาพไทย ยังให้ความสำคัญกับตลาดจีนสูงมาก

 

ด้านที่ 2 จัดกิจกรรมส่งเสริมการจับคู่เจรจาธุรกิจภาคเอกชนในตลาดไมซ์ไทยและจีน ในระหว่างโร้ดโชว์ทีเส็บได้ให้ผู้ประกอบการไทยพบปะกับตัวแทนธุรกิจไมซ์ในปักกิ่ง พร้อมกับนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ กับคู่ค้าจีน

 

ด้านที่ 3 ทีเส็บมีโอกาสได้ใช้งานนี้แสดงความพร้อมในฐานะหน่วยงานรัฐและพันธมิตร ยินดีสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้กลุ่มนักเดินทางไมซ์จีนเข้ามาไทย พร้อมทั้งสื่อสารประชาสัมพันธ์พัฒนาการความพร้อมใหม่ ๆ ของไทยที่สามารถรองรับการจัดงานระดับโลกและนักเดินทางไมซ์นานาชาติ สร้างความมั่นใจที่จะเลือกไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางการจัดงานไมซ์ต่อไป

 

ดร.อรรชกา ย้ำว่า การจัดไมซ์โรดโชว์ไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนครั้งนี้ ทีเส็บมุ่งเจาะไมซ์จีน 3 ตลาดหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มประชุม (meeting) 2.การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (incentive) 3.จัดงานแสดงสินค้า  (Exhibition)  โดยได้นำเอกชนเข้าร่วมเมื่อ 8-11 สิงหาคม 2566 ที่กรุงปักกิ่งและเมืองกวางโจว ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการไมซ์ไทย 54 ราย จาก 38 บริษัท อาทิ โรงแรม บริษัทบริหารจัดการภาคพื้นดิน สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่จัดงาน และสายการบิน

 

สำหรับผู้ประกอบการไมซ์ไทยได้จับคู่เจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อตลาดจีนทั้ง 2 เมืองใหญ่ รวมทั้งหมดประมาณ 180 ราย จำนวน 152 บริษัท ประกอบด้วย เมืองปักกิ่ง 90 ราย 73 บริษัท และเมืองกวางโจวอีก 90 ราย 62 บริษัท ตั้งเป้าความสำเร็จหลังเสร็จสิ้นโร้ดโชว์แล้วจะทำให้คู่ค้าเลือกนำงานที่มีศักยภาพซึ่งเป็นไปได้ที่จะมาจัดในไทย (Lead) ประมาณ 50 กลุ่ม มีนักเดินทางไมซ์ราว 15,000 คน สร้างรายได้ 990 ล้านบาท

 

ระหว่างโร้ดโชว์ทีเส็บยังได้กิจกรรมสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ ระหว่างผู้ประกอบการไมซ์ไทยและจีน เปิดเวที Business Forum ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสทางการค้าและกลยุทธ์การสนับสนุนของทีเส็บเรื่องการจัดงานแสดงสินค้าในประเทศไทยผ่าน Platform Exhibition มีกิจกรรมพิเศษสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าองค์กรธุรกิจที่มีอำนาจตัดสินใจซื้อและส่งออกนักเดินทางไมซ์มาไทย และนำผู้ประกอบการไทยเข้าพบ China Chamber of International Commerce (CCOIC) เพื่อกระชับความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อหาโอกาสทางการค้าในอนาคตต่อไป

 

ทีเส็บยังได้เปิดตัวแคมเปญ “Thailand MICE to Meet You Year 2023” สู่ตลาดจีน เพื่อสร้างแรงจูงใจและจุดขายใหม่ๆ ของไทย นำเสนอแผนงานสนับสนุนการจัดงานไมซ์ในเมืองไทย 2 แพกเกจเด่น ๆ  คือ

 

แพ็กเกจแรก “M&I Plus” มอบหใกลุ่มการจัดประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล สนับสนุนงบประมาณ 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 การสำรวจสถานที่สูงสุดไม่เกินงานละ 200,000 บาท และ ส่วนที่ 2 ด้านการจัดงานสูงสุดไม่เกินกลุ่มละ 300,000 บาท ภายใต้เงื่อนไขตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ส่วนที่ 3 สนับสนุนรูปแบบอื่น ๆ ได้แก่ ไมซ์เลน บริการช่องทางตรวจคนเข้าเมืองด่วนพิเศษที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ การอำนวยความสะดวกด้านวีซ่า ศุลกากรและการขนส่ง ของที่ระลึก ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นคุณภาพสูงเพื่อทำให้รำลึกเรื่องราวความทรงจำในไทย และการแสดงวัฒนธรรมประเพณีไทย

 

อีกทั้งยังได้จัดแคมเปญร่วมกับห้างสรรพสินค้า ได้แก่ สยามพิวรรธน์ เซ็นทรัล และคิงเพาเวอร์ มอบสิทธิประโยชน์พิเศษให้นักเดินทางไมซ์ต่างประเทศ แจกคูปองต้อนรับ บัตรกำนัล คูปองส่วนลด ของอภินันทนาการ ห้องรับรอง บริการจัดส่งพัสดุ และอื่น ๆ

 

แพ็กเกจที่ 2 สนับสนุนกลุ่มงานแสดงสินค้า 2 แพ็กเกจย่อย ได้แก่ แพเกจแรก New Show Essentials สนับสนุนตั้งแต่ทำวิจัยไปจนถึงผู้จัดงานแสดงสินค้าที่เข้ามาจัดงานแสดงสินค้าในไทย โดยให้เงินสนับสนุนสูงสุด 300,000 บาท กับ แพ็กเกจสอง New & Existing Show Support สนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้าใหม่และงานเดิม ตามขนาดของพื้นที่ที่ใช้จัดงานสูงสุดไม่เกิน 700,000 บาท

 

            ช่วงที่ 2 ฉลองความสุขวันแม่ พาคุณแม่และครอบครัวออกไปเที่ยวเมืองไทยในกทม.และใกล้ ๆ กรุงเทพฯ ไฮไลต์ 5 พิกัด อุทยานเบญจสิริ-ดรีมเวิลด์-วิสดอมฟาร์ม/พิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ-สวนนงนุช/เลเจนด์สยาม พัทยา ต่อด้วย “เคล็ดลับรักษาแผลให้หายเร็ว” ได้ด้วยตัวเอง ฟังข่าวฮ็อต ข่าวแรก “การบินไทยฟื้นเร็ว” ครึ่งปีแรก66 กำไร 329% แถมมีเงินสด 5.1 หมื่นล้าน ข่าวที่สอง “เปิดขายแล้วบัตรชมโขน” ซื้อได้ที่ไทยทิกเกตมาสเตอร์ ตั้งแต่ 12 ส.ค.นี้ เตรียมรอชม 5 พ.ย.-5ธ.ค.66

 

ท่องเที่ยว –เที่ยววันแม่ทั้งใกล้กรุงที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช

 

                การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนทุกครอบครัววางแผนออกไปเที่ยวเมืองไทยต้อนรับ “วันแม่” 12 สิงหาคม นี้ และท่องเที่ยวได้ต่อเนื่องตลอดเดือนสิงหาคม 2566 โดยมีแหล่งพักผ่อนพร้อมกิจกรรมดี ๆ ในกรุงเทพฯ กับจังหวัดใกล้เคียงรอบปริมณฑลอย่าง ปทุมธานี พัทยา จังหวัดชลบุรี มาแนะนำฟินกินเที่ยว 5 พิกัด ออกสตาร์ตกันได้เลย

 

พิกัดที่ 1 พาแม่ไปชมการแสดงม่านน้ำ และน้ำพุเฉลิมพระเกียรติ ใจกลางที่บริเวณ อุทยานเบญจสิริ ถนนสุขุมวิท การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จับมือกับกรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ชวนแต่ละครอบครัวมาท่องเที่ยวความยิ่งใหญ่ต้อนรับวันแม่ซึ่งจะเปิดให้ชมการแสดงฟรีวันละ 3 รอบ เวลา 19:00 น. / 20:00 น. / 21:00 น. เริ่มตั้งแต่วันนี้ -31 สิงหาคม 2566

 

เพลิดเพลินกันความสวยงามการแสดงม่านน้ำและน้ำพุเฉลิมพระเกียรติ “แม่แห่งแผ่นดิน ผู้ทรงพระมหากรุณาธิคุณ” เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 91 พรรษา เริ่มวันที่ 12 สิงหาคม 2566 โดยได้ถ่ายทอดเรื่องราวพระราชประวัติ พระอัจฉริยภาพ และพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มีต่อปวงชนชาวไทยมาอย่างยาวนาน ผ่านแสง สี เสียง สุดตระการตา เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศได้ชื่นชมพระบารมีอย่างเต็มอิ่มตลอดเดือนสิงหาคม

 

พิกัดที่ 2 สวนสนุกดรีมเวิลด์ Dream World จัดให้ฉลองวันแม่กับโปรโมชั่นซื้อบัตรรวมเครื่องเล่น ตลุยเมืองหิมะลดเหลือแค่คนละ 599 บาท จากปกติคนละ 690 บาท ราคารวมค่าผ่านประตู แล้วยังสามารถสนุกกับเครื่องเล่นรอบละกว่า 20 ชนิด ไปพร้อม ๆ กับสัมผัสอากาศหนาวฟิน ฟิน ในเมืองหิมะด้วย อีก 1 รอบ ในบัตรชุดนี้ได้รวมให้พักผ่อนบริเวณสวนน้ำได้ด้วยอีก 1 ชั่วโมง

 

ส่วนโปรโมชั่นบัตรรวมเครื่องเล่น + เข้าเมืองหิมะ 599 บาท  สามารถใช้ผ่านประตูพร้อมเล่นเครื่องเล่นอย่างละ 1 รอบ 20 กว่ารายการ (ตามความสูง) รวมเมืองหิมะ และสวนน้ำแล้ว 1 รอบ ยกเว้น โกคาร์ท เรือบั้ม จักรยานน้ำ

 

พิเศษ !! ครอบครัวที่มีคุณแม่อายุ 30 ปีขึ้นไป แล้วเลือกมาพักผ่อนที่ดรีมเวิลด์ เมื่อซื้อบัตรผ่านประตูจะได้รับส่วนลดทันที 50% โดยจ่ายเพียงคนละ 125 บาทเท่านั้น จากปกติ 250 บาท แสดงบัตรประชาชนของคุณแม่ได้ตรงจุดขายตั๋วหน้าสวนสนุก แล้วเข้าไปพักผ่อน ชมโชว์ ชมโซนต่างๆ พร้อมนั่งเครื่องเล่นฟรี 1 อย่าง เช่น นั่งรถไฟดรีมเวิลด์ หรือโมโนเรล ตลอดเดือนสิงหาคม 2566

 

ช่วงวันหยุดเทศกาลวันแม่ 12-14 สิงหาคม นี้ ทางดรีมเวิลด์ให้เข้าไปพักผ่อนสนุกสนานกับเครื่องเล่นต่าง ๆ ได้ตั้งแต่ 10.00-18.00 น. พร้อมทั้งจัดให้ชมโชว์ฮอลลีวู้ดแอ็คชั่น ไว้ต้อนรับรอบ 13.00 น. ด้วย และสามารถรอชมขบวนพาเหรดดาราการ์ตูน รอบ 15.00 น.ได้ด้วย

 

พิกัดที่ 3  Wisdom Farm จังหวัดปทุมธานี อยู่ในพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติ ริมถนนพหลโยธิน (ตรงข้ามโรงพยาบาลการุญเวช) นวนคร เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 9 โมงเช้า จนถึง 4 โมงเย็น เป็นอีกหนึ่งแหล่งเรียนรู้ใกล้กรุงเทพฯ ภายในได้ร้อยเรื่องราวเศรฐกิจพอเพียงส่งเสริมผู้คนได้ลองมาสัมผัสวิถีชีวิตได้ 2 โซนหลัก  ได้แก่ โซนที่ 1 พิพิธภัณฑ์ในอาคาร และ โซนที่ 2 พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้กลางแจ้ง สามารถเลือกร่วมลงมือทำกิจกรรมที่สนใจด้วยตนเองได้ด้วย

 

พิกัดที่ 4 สวนนงนุช พัทยา ชลบุรี แมนเมดสุดอลังกาในพื้นที่กว่า 1,700 ไร่ มีสวนสวยดีไซน์ศิลปะงดงามอยู่ในบริเวณต่อเนื่องกันกว่า 50 สวน เชิญชวนให้พักผ่อนกับแคมเปญ “12 สิงหา พาแม่เที่ยวฟรี” มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทย และการท่องเที่ยวแบบครอบครัว จึงได้โปรโมชั่นพิเศษวันเดียวเท่านั้น ยกครอบครัวมาเที่ยวด้วยกัน มอบสิทธิพิเศษฟรีให้คุณแม่และครอบครัวไม่ต้องจ่ายบัตรผ่านประตูชมสวน

 

ส่วนการแสดงนงนุชโชว์และช้างแสนรู้จะต้องซื้อบัตรเข้าชมราคาเพียงคนละ 200 บาท  มีวันละ 4 รอบ คือ รอบเช้า 10.30 น. 11.30 น.  และ รอบบ่าย 13.30 น. 15.30 น. ส่วนของโปรโมชั่นพิเศษ บัตรผู้สูงอายุ ตลอดเดือนสิงหาคม ลด 50% ยังคงใช้ได้เหมือนเดิม   ทุกวันศุกร์เข้าชมสวนฟรีทั้งเด็กที่ความสูงไม่เกิน 140 ซม. เข้าฟรีและผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป

 

พิกัดที่ 5 เลเจนด์ สยาม เมืองพัทยา ชวนแต่งไทยพาแม่ย้อนวันวานแต่งชุดไทยนั่งรถไฟย้อนยุค ควงแขนคุณแม่ไปร่วมขบวนบุญสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งเดียวในเมืองไทย 6 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่ 1.ยักษ์คู่ (ทศกัณฐ์และท้าวเวสสุวรรณ) สูงที่สุดในประเทศไทย 2. พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ 3. พระพรหมทรงหงส์ 4. เจ้าย่าศรีปทุมมา 5. พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 6. หมอชีวกโกมารภัจจ์

 

ลูก ๆ และครอบครัวจ่ายค่าเข้าเพียงคนละ 499 บาท ระหว่างวันที่ 12-14 สิงหาคม นี้ จะได้ร่วมขบวนบุญวันละ 2 รอบ รอบที่ 1 เวลา 10:00-12:00 น. รอบที่ 2 เวลา 15:00-17:00 น. โทร. 033 073 333

 

พาคุณแม่และครอบครัวออกไปพักผ่อนตามแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ และใกล้กรุง ได้ตลอดเดือนสิงหาคม 2566

 

สุขภาพ –เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายทำได้เอง

  

อุบัติเหตุจากภายนอกอาจก่อให้เกิดแผลตามร่างกายโดยที่ไม่ทันระวังตัว เช่น รอยถลอก แผลจากของมีคมบาด แผลไฟไหม้ หรือแผลน้ำร้อนลวก เป็นต้น ตามปกติแล้วเราสามารถดูแลแผลจากอุบัติเหตุเล็กน้อยได้ด้วยตนเองที่บ้าน เมื่อเกิดบาดแผลขึ้นบริเวณผิวหนัง โดยธรรมชาติของบาดแผลขนาดเล็กและไม่รุนแรงมักจะตกสะเก็ดและหายได้เองภายใน 2-3 วัน ซึ่งเป็นกลไกปกติที่ช่วยป้องกันสิ่งสกปรกและเชื้อโรคเข้าสู่บาดแผลในขณะที่ร่างกายกำลังสร้างผิวหนังขึ้นมาทดแทน ซึ่งช่วงนี้มักจะมีอาการคันบริเวณแผลขึ้น จึงไม่ควรเกาหรือแกะสะเก็ดจากแผลออกเอง เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการติดเชื้อ รวมทั้งการดูแลบาดแผลจนกว่าจะแห้งและหายสนิทนั้นก็เป็นสิ่งที่ควรให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ

 

มีข้อแนะนำ “การดูแลแผลให้หายเร็วด้วยตัวเอง” โดยผู้ที่มีบาดแผลอาจเลือกใช้ครีมยาทาแผลที่มีส่วนผสมของตัวยาคลอเฮกซิดีน (Chlorhexidine) ซึ่งจะช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียภายในแผล และโปรวิตามินดี 5 (Dexpanthenol) ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างกลไกการสมานผิวตามธรรมชาติ ส่งผลให้แผลที่ผิวหนังสมานกันเร็วขึ้นกว่าเดิม ส่วนผสมทั้ง 2 อย่างนี้มักไม่ทำให้แสบแผล จึงอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปและเด็ก ๆ

 

ขณะที่ร่างกายเป็นแผล เราอาจต้องเสริมโปรตีน แคลอรี่ และสารอาหารต่าง ๆ แก่ร่างกายให้มากขึ้น เพื่อช่วยซ่อมแซมบาดแผลให้หายเป็นปกติ โดยอาจเพิ่มการรับประทานธัญพืช ผักใบเขียว ผลไม้ เนื้อสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์จากนมในอาหารแต่ละมื้อ เพื่อให้ได้สารอาหารอย่างครบถ้วน

 

แม้ว่ารอยขีดข่วน แผลถลอก หรือแผลขนาดเล็กมักจะหายไปได้เองโดยกลไกของร่างกาย แต่การดูแลรักษาแผลให้สะอาดอยู่เสมอก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดอาการติดเชื้อ รวมถึงหลีกเลี่ยงการเกิดบาดแผลให้น้อยที่สุด ทั้งนี้ หากปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นแล้วยังมีอาการรุนแรงขึ้น เช่น แผลเปิดกว้าง เลือดไหลไม่หยุด หรือแผลเกิดการติดเชื้อ ก็ควรไปพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%มีเงินสด5.1หมื่นล้าน

  

นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บมจ.การบินไทย และบริษัทย่อย มีผลการดำเนินงาน 6 เดือน ครึ่งปีแรก 2566 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปี 2565 มี “กำไรจากการดำเนินงาน” สูงถึง 21,609 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 584 % และมี “กำไรสุทธิ”  14,795 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 329 % ต่อเนื่องกัน 4 ไตรมาส และมี “กระแสเงินสด” สิ้นงวด 6 เดือน เมื่อมิถุนายน 2566 รวมทั้งหมด 51,153 ล้านบาท สูงกว่าสถานการณ์ปกติจะมีกระแสเงินสดเพียง 20,000-25,000 ล้านบาท ถึงแม้ขณะนี้จะมีเงินสดสะสมอยู่ในมือจำนวนมากแต่ก็ยังไม่ได้ทยอยจ่ายคืนให้เจ้าหนี้ ตามแผนจะเริ่มจ่ายหนี้ให้แต่ละรายได้ใกล้เคียงกันประมาณกลางปี 2567 วงเงินชำระหนี้ล็อตแรก 10,000 ล้านบาท

 

ขณะเดียวกัน บมจ.การบินไทย และบริษัทย่อย ทำ “รายได้รวม” ครึ่งปีแรก 2566 ได้แล้ว 78,889 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 141 % แต่ใน “ส่วนผู้ถือหุ้น” ยังคงติดลบ 56,253 ล้านบาท

 

ส่วน “ผลการดำเนินงาน” ของ บมจ.การบินไทย และบริษัทย่อย เฉพาะไตรมาส 2 ปี 2566 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปี 2565 มี “กำไรจากการดำเนินงาน” 8,576 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 760 % มี “กำไรสุทธิ” 2,273 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 171 % สูงที่สุดในรอบ 20 ปี เนื่องจากตามปกติจะเป็นช่วงนอกฤดูเดินทาง (low season) ที่ผ่านมาจะทำกำไรได้น้อยกว่านี้มาก และมี“รายได้รวม” 37,381 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74 % ส่วนผู้ถือหุ้น ติดลบ 56,253 ล้านบาท

 

นายชาย กล่าวว่า ผลการดำเนินงานภาพรวมตลอดครึ่งปีแรก และเฉพาะไตรมาส 2 ปี 2566 สะท้อนถึงแผนพัฒนารายได้สะสมทำได้ดีขึ้น เป็นสิ่งยืนยันถึงศักยภาพของการบินไทยสามารถทำได้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ ส่งสัญญาณที่จะทำให้ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้เร็วขึ้นประมาณ 1 ไตรมาส ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2567 จากเดิมตั้งไว้ไตรมาส 4 ปี 2567 โดยได้ขับเคลื่อนดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพครอบคลุมเกือบทุกด้าน 5 เรื่องหลัก ประกอบด้วย

 

                เรื่องที่ 1 “การบริหารความเสี่ยง” ทั้งการเงินและการบริหารจัดการน้ำมันเครื่องบินตามวงเงินที่ธนาคารอนุมัติในการซื้อขาย (credit line) ในช่วงยังต้องอยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการจึงจะต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันสูง ดีที่สุดคือการบินไทยต้องเร่งทำให้สถานะทางการเงินแข็งแรงมีรายได้สูงขึ้น ส่วนตอนนี้ราคาน้ำมันตลาดโลกผันผวนปรับขึ้นลงก็มีผลกับทุกสายการบินเหมือนกันหมดแต่ตอนนี้ยังไม่กระทบการบินไทยมากนัก

 

เรื่องที่ 2 การบริหาร “3 ฝูงบินใหม่” ตามแผนได้เช่าดำเนินการเครื่องบิน 3 แบบ ได้แก่ แอร์บัส A350 จำนวน 11 ลำ A321-Neo จำนวน 12 ลำ จะรับเข้าฝูงครบปี 2569 และ โบอิ้ง B787-9 อีก 1 ลำ ซึ่งจะทำให้การบินไทยมีปริมาณการผลิตที่นั่งเพิ่มขึ้น 30 % ผนวกเข้ากับการนำเครื่องบินของไทยสมายล์ซึ่งกำลังจะครบสัญญาเช่าจากการบินไทยมาใช้งานอีก 10 ลำ

               

                เรื่องที่ 3 แผนควบรวมไทยสมายล์ โอนมารวมเป็นหนึ่งเดียวในการบินไทย ขณะนี้ได้โอนฝูงบินมาแล้ว 4 ลำ ยังเหลืออีก 16 ลำ ภารกิจนี้การบินไทยได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากกระทรวงคมนาคม ทำให้ทุกอย่างราบรื่นเป็นไปตามแผนงานทั้งการโอนฝูงบิน ลูกเรือ และฝูงบิน

 

                ตามแผนจะทยอย “โอนจุดบินไทยสมายล์” ระยะแรกจะเน้นเส้นทางบินในกลุ่มประเทส CLMV ร่างกุ้ง เมียนมา กัมพูชา สสป.ลาว การบินไทยจะบินเองวันละ 2 เที่ยว/เมือง หรือ Double Daily เพื่อรองรับผู้โดยสารตลาดยุโรปซึ่งต้องการจะบินต่อไปยังจุดหมายปลายทาง จากนั้นจะเข้าไปบินโดเมสติกทั้งหมดช่วงฤดูเดินทางปลายปี 2566 อีก 10 เส้นทาง ด้วยการนำเครื่องบินที่เหลือในฝูงบินแอร์บัส A320 มาใช้ประโยชน์เปิดบินสู่เมืองรองในตลาด อินเดีย สาธารณรัฐประชาชนจีน ใช้งานเครื่องลำตัวแคบเกิดประโยชน์ทางรายได้กับการบินไทยให้ได้มากที่สุดต่อไป

 

นายกรกฎ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้ประเมินรายได้การขายตั๋วโดยสารจากยอดจองที่นั่งเที่ยวบินของผู้โดยสารที่เลือกใช้การบินไทยช่วงครึ่งปีหลัง 2566 ยังคงต้องจับตาสถานการณ์เศรษฐกิจในสหภาพยุโรป นักเดินทางทั่วโลกมาลงกรุงเทพฯ บินต่อไปยังจังหวัดอื่น ๆ ดังนั้นจึงได้เตรียมความพร้อมรับฤดูเดินทาง (high season) ปลายปี 2566 เพื่อผลักดันตลาดการขายตั๋วโดยสารเติบโตต่อไป ด้วยวิธีบูรณาการต่อเนื่องกับการบริหารความเสี่ยง บริหารจัดการฝูงบิน เพิ่มอีก 2 เรื่อง คือ

 

เรื่องที่ 4 การวางแผนตลาดการขายของการบินไทย ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2566 อุตสาหกรรมการบินจะได้แรงบวกจาก “ยุโรป” ซึ่งมีส่วนแบ่งรายได้จากการขายตั๋วจากผู้โดยสารตลาดบินระยะไกลข้ามทวีป (longhaul) 37 %  ตามมาด้วย“เอเชีย” พื้นที่ทำรายได้หลัก ได้แก่ เอเชียเหนือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มีส่วนแบ่ง 33 % เอเชียใต้ อินเดีย บังกลาเทศ ปากีสถาน มีส่วนแบ่ง 10 % รวมไปถึงอาเซียนหรือทางตอนใต้ของไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ 7 % เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามแผนจะรุกขยายเที่ยวสู่โอเชเนีย ประเทศออสเตรเลีย เตรียมเปิดบินทุกเมืองด้วยความถี่เที่ยวบินวันละ 1 เที่ยว/เมือง

 

                แนวโน้มไตรมาส 3  ปี 2566 วางกลยุทธ์เพิ่มความถี่และทำโปรโมชั่นร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พันธมิตรบัตรเครดิต ในญี่ปุ่น เกาหลี พอเข้าสู่โลว์ซีซันจะเร่งโปรโมทคนไทยเที่ยวต่างประเทศต้อนรับปิดเทอมนิยมไปญี่ปุ่น เกาหลี จากนั้นช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไป วางแผน “ขายตั๋วโดยสารบินล่วงหน้า” อย่างยุโรป ออสเตรเลีย เพราะหลังปรับโครงสร้างใหม่เป็นหนึ่งเดียวกันรวมการบินไทยกับไทยสมายล์เข้าด้วยกันแล้ว ก็ทำให้การขายตั๋วเส้นทางบินเชื่อมต่อภายในประเทศ กับจุดหมายปลายทางประเทศแถบอินโดจีน และอาเซียน ทำยอดขายไหลเข้าสู่การบินไทยเชิงบวกแน่นอน

 

                เรื่องที่ 5 แผน “เพิ่มเส้นทางบินใหม่” ช่วงที่ผ่านมาการบินไทยพยายามมองโอกาสจากตลาด “สาธารณรัฐประชาชนจีน” แต่จนถึงขณะนี้การเติบโตยังไม่ได้เป็นตามเป้าหมายเปิดเที่ยวบินได้ประมาณ 40-50 % ไปยังเมืองใหญ่ ปักกิ่ง กวางโจว วันละ 1 เที่ยว/เมือง หรือ daily flight แต่จะยังไม่บินเพิ่มเป็น วันละ 2 เที่ยว/เมือง Double Daily เพราะจะต้องรอดูสถานการณ์ปี 2567 อีกครั้ง ขณะที่เส้นทางบินสู่ “ญี่ปุ่น” การบินไทยเพิ่งจะเพิ่มเที่ยวบินตรงสู่ฮอกไกโด เช่นเดียวกับ เกาหลีใต้ และ ไต้หวัน ก็จะเปิดบินในลักษณะเดียวกัน

 

                ตั้งแต่กลางปี 2567 เป็นต้นไป การบินไทยเพิ่มเที่ยวสู่ตลาดยุโรปซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่น มิลาน (อิตาลี) ออสโล (นอร์เวย์) โดยวางแผนนำเครื่องบินซึ่งเดิมวางแผนจะใช้ในตลาดจีนเปลี่ยนมาบินในเส้นทางยุโรปแทน และเมื่อสัปดาห์นี้หลังการบินไทยลงนามความร่วมมือกับเตอร์กีสแอร์ไลน์สแล้วยิ่งเพิ่มโอกาสเชื่อมโยงการขายตั๋วเมืองต่าง ๆ ระหว่าง ตลาดยุโรป ออสเตรเลีย และทั่วโลก เข้าออกเมืองไทยเพิ่มมากขึ้นได้

               

ทั้งนี้ปี 2566 บมจ.การบินไทยมีเป้าหมายจะให้บริการผู้โดยสาร 9 ล้านคน เฉลี่ยเดือนละ 700,000 คน ขณะนี้มีสัญญาณเพิ่มขึ้นทุกเดือน หลังจากปรับฝูงบินในภาพรวมทั้งการนำเข้าเครื่องบินใหม่ แอร์บัส A350 รวม 16 ลำ การโอนเครื่องบินแอร์บัส A320 ของไทยสมายล์เข้าฝูงการบินไทย ก็จะสามารถเพิ่มที่นั่งพร้อมขายได้มากขึ้นทั้งเส้นทางบินในประเทศ และระหว่างประเทศ

 

ข่าวที่สอง -เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้5พ.ย.-5ธ.ค.66

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้เปิดขายบัตรชม “การแสดงโขนสุดยิ่งใหญ่แห่งปี ตอนกุมภกรรณทดน้ำ” แล้วเริ่มตั้งแต่ 12 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป  ซึ่งจัดขึ้นโดย มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  ให้คนทั้งประเทศได้ชมการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ตอนกุมภกรรณทดน้ำ ระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน -5 ธันวาคม 2566 ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยจำหน่ายบัตรแบ่งเป็น 5 ราคา ได้แก่ 2,000 บาท / 1,800 บาท / 1,000 บาท /800 บาท / 600 บาท (รอบนักเรียน ราคา 180 บาท) ซื้อได้ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา โทร. 0-2262-3456

 

ในโอกาสปี 2566 เป็นปีมหามงคลของปวงชนชาวไทยอีกวาระหนึ่ง เนื่องในวันที่ 28 กรกฎาคม 2566 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 71 พรรษา และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ  พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 91 พรรษา มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จึงร่วมเฉลิมฉลองโอกาสมหามงคลนี้ ด้วยการจัดการแสดงโขนตอน “กุมภกรรณทดน้ำ” โดยยึดแนวบทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ซึ่งเป็นบทพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จับตอนตั้งแต่ หลังจากที่กุมภกรรณทำศึกโมกขศักดิ์ กับพระลักษมณ์แต่ไม่สำเร็จ ยังไม่สามารถสังหารพระลักษมณ์ได้ จึงคิดหาวิธีทำกลศึก นิมิตกายลงไปใต้น้ำทำพิธีทดน้ำนอนขวางแม่น้ำไว้ เพื่อขัดขวางกองทัพพระราม ผลการต่อสู้และจุดจบของเรื่องราวกุมภกรรณทดน้ำ จะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามรับชมได้ในการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอน กุมภกรรณทดน้ำ

 

นับเป็นเวลาเกือบ 2 ทศวรรษ โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชนนีพันปีหลวง ได้จัดการแสดงโขนเพื่อการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้ชื่นชมความงดงามของศิลปะดั้งเดิมของไทยหลากหลายแขนงในการแสดงโขน สิ่งที่เป็นขวัญกำลังใจในการดำเนินงานคือ พระราชดำรัสเกี่ยวกับการอนุรักษ์ศิลปะแขนงนี้ว่า “ขาดทุนของฉันคือกำไรของแผ่นดิน” นับเป็นความโชคดีของคนไทยและประเทศไทย ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงส่งเสริมและสนับสนุนการแสดงโขนอย่างเอาพระทัยใส่ทุกมิติ เป็นการธำรงนาฏศิลป์ อันทรงคุณค่าของชาติให้สืบทอดอยู่ อีกนานเท่านาน

 

 นอกจากการแสดงอันวิจิตรงดงามโดยนักแสดงเยาวชนรุ่นใหม่ ผ่านการคัดเลือกและฝึกซ้อมจากครูผู้เชี่ยวชาญด้านนาฏศิลป์ จนมีฝีมือการร่ายรำอันงดงามถูกต้องตามจารีตแล้ว ผู้ชมจะได้รับฟังการบรรเลงดนตรีและขับร้องเพลงไทยอันไพเราะ รับชมความวิจิตรของเครื่องแต่งกายอันประณีต พบกับความพิเศษของสุดยอดฉากการแสดงที่ยิ่งใหญ่ตระการตา ของกุมภกรรณทดน้ำเพื่อไม่ให้ไหลไปสู่พลับพลา ฉากหนุมานแปลงกายเป็นเหยี่ยวใหญ่ ฉากหนุมานดำลงสู่ใต้น้ำและอีกมากมาย

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai