วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2568

3 รองผู้ว่าการใหม่ ททท.เริ่ม1 ต.ค.68 ผู้ว่าฯฐาปนีย์นำ8รองผู้ว่าเก่าใหม่ลุย7พันธกิจ

 โฉมหน้าใหม่ 3 รองผู้ว่าการ ททท.ดีเดย์ 1 ต.ค.68

ผู้ว่าฯฐาปนีย์ผนึก 8 รองผู้ว่าเก่าใหม่ลุย 7 พันธกิจ

3 รองผู้ว่าการใหม่ ททท."อัครวิชย์ -ชูวิทย์-ณัฐ" เริ่มปฏิบัติหน้าที่ 1 ต.ค.2568

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #3รองผู้ว่าการใหม่ททท

3 รองผู้ว่าใหม่ ททท. “อัครวิชย์ เทพาสิต”รองฯบริหาร “ชูวิทย์ ศิริเวชกุล” รองฯนโยบายและแผน “ณัฐ ครุฑสูตร” รองฯสินค้าและบริการ เริ่ม 1 ต.ค.68 “ผู้ว่าฯ ฐาปนีย์” ผนึก 8 รองผู้ว่าเก่าใหม่ ลุย 7 พันธกิจ นำท่องเที่ยวไทยโตวันโตคืน

        การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แต่งตั้งผู้บริหารระดับรองผู้ว่าการ จำนวน 3 ตำแหน่ง มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป

 “ผู้บริหารใหม่” ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการอีก 3 ตำแหน่ง ดังนี้

1. นายอัครวิชย์ เทพาสิต                 ดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าการด้านบริหาร

2. นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล                  ดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน

3. นายณัฐ ครุฑสูตร                     ดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว

 

“ผู้บริหารระดับสูงเดิม” ที่ยังคงดำรงตำแหน่งตามปกติ 6 ตำแหน่ง ดังนี้

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์         ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ                 รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ

นายนิธี สีแพร                               รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่       รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้

นางจิระวดี คุณทรัพย์                    รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

นายกิตติพงษ์ ประพัฒน์ทอง            รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา

วิสัยทัศน์ ททท.” มุ่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทยเพื่อสร้างประสบการณ์ทรงคุณค่า และมุ่งสู่ความยั่งยืน” (Strategic Leader in Driven Thailand towards Meaningful and Sustainable Tourism) ภายใต้ “พันธกิจ”

1.ส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์ในการขยายฐานตลาดคุณภาพและสร้างความเชื่อมั่น

2.ส่งมอบคุณค่าและประสบการณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยสร้างสรรค์สินค้าการท่องเที่ยวที่มีมาตรฐาน คุณภาพ และรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

3.เพิ่มมูลค่าการใช้จ่ายนักท่องเที่ยว

4.ขับเคลื่อนระบบนิเวศด้านการท่องเที่ยว (Tourism Ecosystem) ให้พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพอย่างยั่งยืน

5.พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศการตลาดและบริการข้อมูลด้านการตลาดการท่องเที่ยวที่ครบถ้วน เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว

6.เสริมสร้าง ททท. เป็นองค์กรสมรรถนะสูง (High Performance Organization) บนพื้นฐานของนวัตกรรมและธรรมาภิบาล

7.พัฒนาระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศการตลาด และบริหารข้อมูลด้านการตลาดการท่องเที่ยวที่ครบถ้วน ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

 



“รมว.อรรถกร”เร่งหนุนIndiGoอินเดียเพิ่มบินตรงสู่ไทยดันท่องเที่ยวคึกคัก

“รมว.อรรถกร”เร่งหนุนIndiGoอินเดียเพิ่มบินตรงสู่ไทย

เปิดเส้นทางใหม่เมืองหลัก-รองดันเศรษฐกิจท้องถิ่นอู้ฟู่



เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #IndiGoAirlines  

“อรรถกร” รมว.ท่องเที่ยว ลุยสร้างผลงาน หนุน “IndiGo” บิ๊กแอร์ไลน์สอินเดีย เพิ่มเที่ยวบินตรงเข้าไทย กระจายรายได้เมืองหลัก–เมืองน่าเที่ยว ปั๊มตลาดโตกว่า 2 ล้านคน/ปี

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การหารือระหว่างพลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) กับผู้บริหารระดับสูงของสายการบิน IndiGo นำโดย Mr. R. K. Singh ผู้อำนวยการพิเศษ และ Mr. Rajan Malhotra รองประธานฝ่าย Aeropolitical and Industry Affairs ช่วงระหว่างการประชุมสมัชชาองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ครั้งที่ 42 (42nd Session of the ICAO Assembly) เป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทย



เนื่องจากเป็นสายการบินเอกชนรายใหญ่สุดของอินเดียมีฝูงบินกว่า 400 ลำ รวมถึงเครือข่ายเส้นทางบินครอบคลุมในและต่างประเทศ ได้แสดงความสนใจจะขยายเส้นทางบินตรงมายังไทยเพิ่มทั้งเส้นทางหลักอย่างกรุงเทพฯ และภูเก็ต และเมืองน่าเที่ยวสำคัญอื่น ๆ อย่าง อุดรธานีสุราษฎร์ธานี หาดใหญ่ และเชียงราย รวมถึงสนามบินในภูมิภาคอื่น ๆ

การเปิดเส้นทางบินตรงใหม่จะช่วยเพิ่มทางเลือกให้นักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้ามาไทยสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ช่วยกระจายรายได้ตามนโยบายรัฐบาลไปสู่ “เมืองน่าเที่ยว” และยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวลดความหนาแน่นเมืองหลักสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจให้ท้องถิ่นเติบโตอย่างยั่งยืน

ในฐานะที่ผมกำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผมต้องขอขอบคุณ พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ได้สร้างความร่วมมือกับสายการบิน IndiGo ซึ่งถือเป็นพันธมิตรสำคัญของอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวไทย ความร่วมมือนี้ช่วยตอกย้ำความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลก”



นายอรรถกรกล่าวว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี มุ่งผลักดันความร่วมมือด้านการบินพาณิชย์กับสายการบินต่างชาติ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียใต้ ถือเป็นตลาดใหญ่กำลังขยายตัวแบบก้าวกระโดด กลุ่มนักท่องเที่ยวมีคุณภาพใช้จ่ายเงินสูง 

ปี 2568 อินเดียเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยแล้ว 2 ล้านคน/ปี ถือเป็นหนึ่งในตลาดหลักที่มีศักยภาพสูง และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หากอินดิโกเพิ่มเส้นทางบินก็จะช่วยผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นได้อีกปีละหลายแสนคน ส่งผลบวกโดยตรงต่อเศรษฐกิจ กระจายสู่ธุรกิจครบวงจรทั้งโรงแรม ร้านอาหาร การเดินทางท่องเที่ยว และการค้าปลีกชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศด้วย

 

CEOบางจากใช้42Geeksย้ำผู้นำพลังงานสีเขียวเอเชีย

 

CEOบางจากใช้42Geeksย้ำผู้นำพลังงานสีเขียวเอเชีย

ฝ่าความท้าทาย 3 เรื่อง“สร้างสมดุล-ราคา-สิ่งแวดล้อม”

CEO กลุ่มบริษัทบางจากขึ้นเวที 42 Geeks ตอกย้ำบทบาทผู้นำพลังงานสีเขียวแห่งเอเชีย

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #บางจาก #ผู้นำพลังงานสีเขียวแห่งเอเชีย

CEO กลุ่มบางจาก ขึ้นเวที 42Geeks ตอกย้ำผู้นำด้านนวัตกรรมพลังงานสีเขียวแห่งเอเชีย ฝ่าความท้าทายโลก 3 อย่าง “สร้างสมดุลพลังงาน-ราคาเข้าถึงได้-สิ่งแวดล้อมยั่งยืน” โชว์ทศวรรษก่อนเติบโต 5 เท่า ขยายธุรกิจ 4 เรื่อง

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน Thailand Energy & Innovation Session – 42Geeks Southeast Asia 2025 Tour ว่า โลกพลังงานยังคงต้องเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่จาก Energy Trilemma จึงต้องเร่งทำ 3 อย่าง คือ 1.สร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงด้านพลังงาน 2.ราคาเข้าถึงได้ 3.ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สะท้อนเรื่องการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไม่ใช่เพียงการแทนที่พลังงานเดิม แต่คือการสร้างและเพิ่มเติมพลังงานรูปแบบใหม่เข้ามาเพื่อตอบสนองความต้องการบริโภคในแต่ละภาคส่วนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา บางจากฯ ได้พิสูจน์ความสำเร็จด้วยการ “สร้างการเติบโต” มากกว่า 5 เท่า ทำการบุกเบิกและขยายธุรกิจสำคัญไฮไลต์ 4 เรื่อง คือ

เป็นรายแรกในเมืองไทยที่นำไบโอดีเซลและแก๊สโซฮอล์ออกสู่เชิงพาณิชย์ การลงทุนในเหมืองลิเทียมเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า

การขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสหรัฐอเมริกา

ก่อตั้ง Carbon Markets Club เป็นเครือข่ายภาคเอกชนกลุ่มแรกที่ขับเคลื่อนตลาดคาร์บอนในไทย

ผลักดันนวัตกรรมในกลุ่มบริษัทบางจาก เช่น โครงการ Smart City ที่นำร่องการจัดเก็บพลังงานและการซื้อขายไฟฟ้าแบบ P2P



โดยมี “สถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ” (Bangchak Initiative and Innovation Center – BiiC) เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ในฐานะแหล่งบ่มเพาะและสร้างสรรค์เทคโนโลยีพลังงานสะอาดสามารถต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ได้จริง ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางพัฒนานวัตกรรสีเขียว (Green Innovation Hub) ของเอเชียทั้งด้านการยกระดับประสิทธิภาพ เช่น การใช้ AI ใช้ดิจิทัลในโรงกลั่น โรงไฟฟ้า และสถานีบริการ ไปจนถึงการวิจัย Clean Molecules สู่การสร้างพลังงานแห่งอนาคตอย่าง SAF, e-Fuels กรีนแอมโมเนีย และฟิวชัน รวมถึง Synthetic Biology

บางจากฯ ได้ตอกย้ำการขับเคลื่อนพลังงาน ซึ่งเป็นมากกว่าได้ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของโลกพลังงาน แต่ยังเดินหน้าสร้างการ “เปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้” พร้อมขยายผลสู่ระดับภูมิภาคและระดับโลก



เวที 42Geeks เป็นเครือข่ายระดับนานาชาติที่จัดทริป “Geeks Tours” ให้กับนักลงทุน ผู้ก่อตั้งธุรกิจ และผู้บริหารเทคโนโลยี เพื่อสำรวจระบบนิเวศสตาร์ทอัพและเทคโนโลยี ค้นหาโอกาสใหม่ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือ

โดยมี นายชัยวัฒน์ ร่วมกับ Mr. Franck Constant ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Constant Energy และร่วมเสวนาในหัวข้อ “Powering Thailand: The Race to Build a Smarter, Greener Energy Future” โดยมี Mr. Peter Wokwicz ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Positron Capital Management เป็นผู้ดำเนินรายการ งานนี้จัดขึ้นที่ ทรู ดิจิทัล ปาร์ค พร้อมทั้งมีกลุ่มที่ได้รับเชิญโดยเฉพาะคือ กลุ่มนักเทคโนโลยี นักลงทุน Venture Capital และ Family Office

 

บพท.จัดCity Solution Daysพลังพลเมืองแก้โจทย์เมือง 4ยุทธศาสตร์50พื้นที่ต้นแบบ38เมือง

บพท.จัดCity Solution Daysพลังพลเมืองแก้โจทย์เมือง

ชู4ยุทธศาสตร์50พื้นที่ต้นแบบน่าอยู่38เมืองการเรียนรู้

บพท.จัดงาน City Solution Days “เปิดเมือง เปลี่ยนเมือง สู่อนาคตเมืองน่าอยู่” 

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #บพท #CitySolutionDays

บพท. เปิดเวทีใหญ่ City Solution Days ผสานเครือข่าย “เทศบาล-ผู้นำเมือง-นักวิจิย” ผนึกรัฐ เอกชน เครือข่ายนักวิจัย เปิดทางเลือก “แก้โจทย์เมือง” ชู 4 ยุทธศาสตร์  62 กลไก 50 พื้นที่ต้นแบบ ใน 38 เมืองแห่งการเรียนรู้ ลุยทำ “สถาบันความรู้เพื่อการพัฒนาเมือง”


ดร.สีลาภรณ์ บัวสาย ที่ปรึกษาวิทยสถาน “ธัชภูมิ” เพื่อการพัฒนาพื้นที่ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กล่าวในงานใหญ่ City Solution Days “เปิดเมือง เปลี่ยนเมือง สู่อนาคตเมืองน่าอยู่” ว่า บพท.ได้ใช้เวทีสำคัญขับเคลื่อนบทบาทและภารกิจเชิงระบบและกลไกด้านการพัฒนาเชิงพื้นที่ เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ทั้งผู้นำเมือง เทศบาลนครและเทศบาลเมือง ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ประชาคมเครือข่ายนักวิจัย นักวิชาการ และผู้เกี่ยวพันกับการแก้ไขปัญหาเมือง ให้เข้ามามีส่วนร่วมกำหนดทิศทางและตอบโจทย์การพัฒนาเมืองที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ ตรงตามความต้องการของประชาชนที่จะยกระดับคุณภาพชีวิต ด้วยชุดความรู้งานวิจัย ต่อยอดการนำองค์ความรู้ไปใช้ประโยชน์จริงในเชิงพื้นที่ สร้างการเปลี่ยนแปลงเมืองในทุกมิติ


“รศ.ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม” รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กร บพท. กล่าวว่า บพท.ได้ขับเคลื่อนพันธกิจสำคญเรื่อง งานวิจัย และนวัตกรรมเพื่อพัฒนาเมืองน่าอยู่และกระจายศูนย์กลางความเจริญ นอกเหนือจากอีก 4 พันธกิจ คือ 1.แก้ปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ 2.การพัฒนาชุมชนนวัตกรรม 3.การพัฒนาฐานทุนวัฒนธรรม 4.ในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงระหว่างคนกับเมือง ทำให้ “เมืองมีความน่าอยู่” สำหรับทุกคน และสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจให้คนในพื้นที่ ดึงดูดผู้คนที่มีศักยภาพเข้ามาร่วมพัฒนาเมืองหรือชุมชนมากยิ่งขึ้น ด้วยกลไกการพัฒนาที่สำคัญ 4 ด้าน ได้แก่ 1.การพัฒนาความร่วมมือทางสังคม 2.การพัฒนาข้อมูลและองค์ความรู้ของเมือง 3.การพัฒนาเครื่องมือทางการเงินและการจัดการทุนของเมือง และ 4. ด้านนโยบายและแผนพัฒนาของเมือง

ช่วงที่ผ่านมาสามารถผลักดันการลงทุนของเมืองในการบริหารจัดการเมือง (ด้านการแข่งขัน) ระบบการจ้างงาน ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทำให้เมืองเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยรูปธรรมความสำเร็จ 6 เรื่อง คือ



เกิดกลไกแผนงานและแนวทางในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่  62 กลไก มีโครงการนำร่อง 2 ด้าน คือ “Smart Environment” และ “Smart Mobility”

พื้นที่ต้นแบบบนฐานเศรษฐกิจสีเขียวและห่วงโซ่อุปทาน 18 พื้นที่

พื้นที่ต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำ จำนวน 9 พื้นที่

เกิดตัวแบบการจัดการที่อยู่อาศัย  11 พื้นที่

การพัฒนาเมืองศูนย์กลางที่น่าอยู่และชาญฉลาด (Livable and Smart City) ด้วยระบบการจัดการข้อมูลเมือง 12 พื้นที่

เกิดพื้นที่ต้นแบบ Learning City ตามแนวทางปฏิบัติ เกณฑ์และตัวชี้วัดที่สอดคล้องกับแนวทางสากล ผลักดันความร่วมมือระดับนานาชาติ ASEAN+3 Learning Cities Network 38 เมือง

บพท. ได้สร้างฐานข้อมูลเมืองครอบคลุมกว่า 43 มิติ ที่เกี่ยวพันกับวงจรการใช้ชัวิตของคนในพื้นที่ และพัฒนาเครื่องมือนวัตกรรมเพื่อการจัดการเมืองกว่า 36 เครื่องมือ ด้วยระบบ Dashboard และแพลตฟอร์ม Open Data เพื่อประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายของเมือง พร้อมกับสนับสนุนจัดตั้งบริษัทพัฒนาเมืองทั่วประเทศ 20 แห่ง และหลักสูตรนักพัฒนาเมืองระดับสูง (พมส.) เพื่อยกระดับทักษะและศักยภาพของผู้นำท้องถิ่นและผู้เกี่ยวข้องทั่วไทยกว่า 70 แห่ง



ปี 2567 บพท. ริเริ่มตั้ง City Incubator and Accelerator Program (CIAP)” โครงการวิจัยบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งหน้าสู่อนาคตเมืองน่าอยู่ ภายใต้การทำงานร่วมกันของสมาคมเทศบาลนครและเมืองในพื้นที่นำร่อง 18 เมือง กับเครือข่ายมหาวิทยาลัย เพื่อสร้างโครงสร้างองค์ความรู้พื้นฐาน บ่มเพาะและต่อยอดสู่การสร้าง “สถาบันความรู้เพื่อการพัฒนาเมือง”  ด้วยชุดความรู้ที่ออกแบบให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่และบริบทสังคม การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี การเชื่อมโยงเครือข่ายการพัฒนาเมือง โดยยึดหลักการพัฒนาเมืองอย่างสมดุลและยั่งยืน

สำหรับ “โจทย์สำคัญ” ที่พบในการขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเมืองน่าอยู่ฯ คือ “ประสิทธิภาพการลงทุนของท้องถิ่น” ทั้งจากภาครัฐและเอกชน ตามภาวะการณ์เงินปัจจุบันเริ่มส่งสัญญาณไม่เพียงพอ และอีก 5 ปีข้างหน้า จะเห็นเมืองเริ่มถดถอยอย่างมีนัยสำคัญ จำเป็นต้องนำเอาชุดความรู้ไปช่วยยกระดับประสิทธิภาพการลงทุนของเมือง เสริมศักยภาพเข้าถึงแหล่งทุน จำเป็นจะต้องหาผู้ดำเนินการในโครงการที่สำคัญกับเมือง เช่น ขนส่งสาธารณะ การจัดการขยะ และอื่น ๆ 

บพท. จะผลักดันให้เกิดขึ้น ในปีต่อไป จะเน้เมืองมีศักยภาพและมีความคุ้มค่า 4 ยุทธศาสตร์หลัก 

● ยุทธศาสตร์ที่ 1 กลุ่มเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับ การเปลี่ยนผ่านสู่สีเขียว 

ยุทธศาสตร์ที่ 2 กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับทุนวัฒนธรรม-ซอฟท์พาวเวอร์ ทุก ๆ เมืองที่มีศักยภาพสอดรับกับการท่องเที่ยว 

ยุทธศาสตร์ที่ 3 กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเวลเนสธุรกิจทางด้านสุขภาพ เพราะเกือบทุกเมืองเข้าสู่ภาวะเมืองผู้สูงอายุ จะต้องออกแบบรองรับที่ดี 

ยุทธศาสต์ที่ 4 การเปลี่ยนเมืองเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลโดยเร็ว โดยเฉพาะเมืองที่มีมหาวิทยาลัย และคนรุ่นใหม่

ดร.ปุ่น กล่าวว่า นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกเทศมนตรี หรือผู้นำเมืองในยุคใหม่ ควรมีบทบาทสำคัญ ไม่จำกัดอยู่แค่การดูแลระบบสาธารณูปโภคและบริการพื้นฐานเท่านั้น แต่ควรมีวิสัยทัศน์ให้ความสำคัญกับทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจเมือง โดยมุ่งพิจารณาพื้นที่กำลังเติบโตและแนวทางเปลี่ยนแปลง เพื่อท้องถิ่นบริหารจัดการสร้างทั้งความมั่นคงทางเศรษฐกิจและเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีไปด้วยกัน

ททท.นำกระบี่คว้ารางวัล Green Destinations Top100

 ททท.นำกระบี่คว้ารางวัล Green Destinations Top100

ปังสุด!!“คืนบ้านให้ปูเสฉวน”โปรเจกต์ Krabi Prototype

 

ททท.นำกระบี่คว้ารางวัลโลก Green Destinations Top 100 Stories 2025 ที่ฝรั่งเศส 

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #GreenDestinationsTop2025  

ททท.นำทีม “กระบี่” คว้ารางวัลโลก “Green Destinations Top 100 Stories 2025” ที่ฝรั่งเศส ไฮไลต์“คืนบ้านให้ปูเสฉวน” โปรเจกต์ Krabi Prototype ดันไทยผงาดจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวสีเขียวยั่งยืน


 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า  ททท.ผลักดันเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ กระทั่งสามารถคว้ารางวัล Green Destinations Top 100 Stories 2025 เมื่อ 29 กันยายน 2568 ที่เมืองมงต์เปลลิเยร์ ฝรั่งเศส ช่วยยกระดับไทยสู่ประเทศจุดหมายปลายทางยั่งยืนระดับโลก ดึงดูดนักเดินทางจากนานาประเทศสนใจเข้ามาเติบโตเพิ่มกขึ้นในอนาคตระยะยาว

ทีมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และผู้เกี่ยวข้องร่วมพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืน เป็นตัวแทนเดินทางไปรับรางวัลนำโดย

นางสาวเอิบลาภ ศรีภิรมย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว ททท.

            นางศุภิดา  อ่อนบรรจง ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ ททท.

นายเทอดไทย ขวัญทอง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5

นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน




“ความสำเร็จของเกาะลันตา” : สร้างผลงานต่อเนื่องโดยได้รับการยกย่องในโครงการ “คืนบ้านให้ปูเสฉวน” (A Hero’s Tale from Lanta Island) ภายใต้โครงการ Krabi Prototype จากความร่วมมือของ ททท. กับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ ชุมชนท้องถิ่น เชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยว บริจาคเปลือกหอย นำไปใช้ฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่งและสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ให้ปูเสฉวน ช่วยตอกย้ำพลังความร่วมมือด้านการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ

“ประเทศไทยในเวทีโลก” ปี 2568 ประเทศไทยมี 10 แหล่งท่องเที่ยว ที่ได้รับการคัดเลือกเป็น Green Destinations Top 100 Stories เช่น

อุทยานราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่

อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

 เมืองเก่าน่าน

เชียงคาน จ.เลย

ตลาดจีนโบราณชากแง้ว จ.ชลบุรี

 อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง จ.ตราด

สำหรับ “แหล่งท่องเที่ยว” ทั้งหมดที่ได้รับรางวัลทางเจ้าภาพจัดงาน พร้อมจะประชาสัมพันธ์สถานที่ทุกแห่งผ่านเครือข่ายระดับโลก Green Destinations Foundation เนเธอร์แลนด์ โดยมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย

 


นายกฯอนุทินร่วมชมก.ท่องเที่ยว-ททท.บูมไฮซีซั่น2บิ๊กอีเวนต์ “ลอยกระทง"-Vijit Chao Phraya45วันเต็ม

นายกฯอนุทินร่วมชม ก.ท่องเที่ยว-ททท.บูม ไฮซีซั่น2บิ๊กอีเวนต์ “ลอยกระทง”  2  เมืองมรดกโลก- Vijit Chao Phraya 45  วันเต็ม นายอนุทิน ชาญวีรกุ...