ท่องเที่ยวเมืองไทยเก๋ไก๋ในปี’59
ปลุกกำลังซื้อ"คนรวย-คนคุณภาพ"ทั่วโลก
บูมจุดขาย‘24เมืองต้องห้ามพลาดพลัส’
นิทรรศการจำลองสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ในปี 2559 บูมโครงการ "เมืองต้องห้ามพลาดพลัสและเขาเล่าว่า... |
โดยตั้งเป้าหมายปี 2559 การท่องเที่ยวจะทำรายได้เข้าประเทศไทยมูลค่ารวม 2,343,000ล้านบาท
เติบโตเพิ่มขึ้น 8 % จากตลาดต่างประเทศ 1,536,000 ล้านบาท และตลาดในประเทศ 807,000 ล้านบาท
นางจุฑาพร อธิบายถึงแผนการตลาด ททท.ว่า ปีหน้าได้ปรับภาพลักษณ์ทุ่มทำการตลาดท่องเที่ยวโฉมใหม่ทำให้ไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ
หรือ Quality Leisure Destination มุ่งเน้น “การเพิ่มค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยว
โดยใช้วิถีไทยเป็นจุดขาย” รุกเจาะกลุ่มกำลังซื้อสูงเป็นหลัก โดยสร้างสมดุลทุกมิติ ภายใต้จุดขาย
“ท่องเที่ยววิถีไทย” รวมทั้งปรับคอนเซ็ปต์ จาก Value for Money มาเป็น Value for Experience สะท้อนให้เห็นถึงความมีคุณค่าและความน่าสนใจของสินค้าความเป็นไทยที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นกว่านานาประเทศ
โดยททท.ประกาศจะรักษาอันดับรายได้ทางการท่องเที่ยวของไทยให้อยู่ในอันดับ1-3 ของเอเชีย
กลยุทธ์การเจาะตลาด “นักท่องเที่ยวคุณภาพ” ในตลาดต่างประเทศปี 2559 พุ่งเป้า 2 กลยุทธ์ ได้แก่ กลยุทธ์แรก
เพิ่มค่าใช้จ่ายโดยเข้าไปเจาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เริ่มเดินทางครั้งแรก จาก
“พื้นที่ตลาด” เดิมและพื้นที่ “ตลาดใหม่” กลยุทธ์สอง เพิ่มค่าใช้จ่ายด้วยการเจาะตลาดกลุ่มคุณภาพหลัก
ๆ ซึ่งกำลังมาแรง 3 ตลาด ได้แก่ สนใจท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Nich market)
ท่องเที่ยวหรูหรา และ ตลาดสตรี
ซึ่งไทยมีสถานที่ท่องเที่ยว ความพร้อม สิ่งอำนวยความสะดวก
รองรับได้แบบครบวงจร
ขณะเดียวกันก็จะเพิ่มกำลังซื้อตลาดดาวรุ่ง กลุ่มนักท่องเที่ยวมุสลิม
และ การท่องเที่ยวเชื่อมโยงประชาคมอาเซียน (AEC)
นำนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลเดินทางมาประเทศไทยเข้าไปยังประเทศสมาชิกอาเซียน ผนวกกับบุกเจาะพิเศษเป็นเซกเมนต์อย่าง
กอล์ฟ ฮันนีมูน คู่แต่งงาน บริการเพื่อสุขภาพครบวงจร
อานุภาพ ธีรรัฐ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. |
ทางด้าน “อานุภาพ ธีรรัฐ” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ
ททท.ได้ตอกย้ำว่า พ.ศ.2559 จะเป็นปีแห่ง “ท่องเที่ยววิถีไทย
เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร” ที่จะกระตุ้นให้คนท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 150.8 ล้านคนครั้ง
ด้วยโปรดักซ์ไฮไลต์ 5 โครงการ ประกอบด้วย 1.เมืองต้องห้ามพลาด
PLUS จะเพิ่มจาก 12 เป็น 24 เมือง 2. วันธรรมดาน่าเที่ยว
โดยไม่ต้องรอวันหยุดหรือวันนักขัตฤกษ์อีกต่อไปแล้ว และ
ททท.จะเลือกสนับสนุนงบประมาณให้เอกชนเฉพาะผู้ที่คิดสร้างสรรขายแพกเกจเที่ยววันธรรมดาเป็นหลัก
3.เทศกาลเที่ยวเมืองไทย
จะปักหลักใช้สวนลุมพินีจัดอย่างยิ่งใหญ่ระหว่างวันที่ 13-17 มกราคม 2559 นำเอกลักษณ์ความเป็นไทย
4 ภาคมานำเสนอให้ชม
ช็อป ชิม แชะ กันอย่างเต็มที่ 4. “เขาเล่าว่า” เป็นโครงการใหม่ที่
ททท.นำไฮไลต์สถานที่ท่องเที่ยวนำเสนอด้วยวิธีการเรื่องราวของแต่ละสถานที่อย่างเจาะลึกถึงความมหัศจรรย์อันทรงคุณค่าเพื่อเจาะลูกค้าคุณภาพกำลังซื้อสูง
กลุ่มคนรุ่นใหม่เจนวาย สตรี ผู้สูงอายุ และ 5.รวมการท่องเที่ยว Out Door เช่น กอล์ฟ
แคมปิ้ง การผจญภัยต่าง ๆ จัดทำเป็นแพกเกจใหม่ รวมถึงจะจัดมหกรรมขายประจำปี
ระหว่างวันที่ 12-15 พฤษภาคม 2559 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
กระตุ้นให้เกิดการเดินทางในวันธรรมดาและช่วงฤดูฝนไปพร้อม ๆ กัน
นอกจากนี้ ททท.ยังได้ต่อยอด “สร้างความเก๋ไก๋การท่องเที่ยวไทย” เสนอจุดขายในมุมมองใหม่แต่ละภาคเน้นสื่อสารเชิงคุณค่าท่นักท่องเที่ยวจะได้รับจากการเดินทางไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวในแต่ละภาคในธีมใหม่
คือ “ภาคเหนือ : เหนือฝัน ล้านแรงบันดาลใจ” สื่อถึงการเดินทางเพื่อเก็บเกี่ยวแรงบันดาลใจ
“ภาคอีสาน : อีสานแซบนัว” สื่อถึงความเป็นสุดยอดและความสนุกสนาน “ภาคกลาง :สุขกลางใจ
ใกล้แค่เอื้อม” สื่อถึงการท่องเที่ยวใกล้ ๆ สุขใจง่าย ๆ กับสิ่งใกล้ตัว “ภาคตะวันออก”
สื่อถึงการท่องเที่ยวที่เติมความสดใส เพิ่มสีสันให้ชีวิต “ภาคใต้ :ปักษ์ใต้
ปักหมุดหยุดเวลา” สื่อถึงการหยุดพัก หลบเร้นความวุ่นวายไร้กาลเวลา
ศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์-ผอ.ททท.ภูมิภาคเอเชียตะวันออก |
“ศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์” ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก
ททท.บอกว่าในฐานะที่ดูแลตลาดที่ตั้งเป้าเพิ่มรายได้เติบโตมากที่สุดถึง
12 %
จากนักท่องเที่ยว เกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง
ไต้หวัน และ จีน ซึ่งตั้งเป้ารายได้ไว้สูงสุด 14 % นั่นหมายถึงปีหน้านักท่องเที่ยวจากจีนจะมาไทยเกือบ
8 ล้านคน และทำสถิติใช้จ่ายเงินเที่ยวในไทยสูงสุดของเอเชียเฉลี่ย
40,000 บาท/คน/ทริป ททท.จึงได้ทำวิจัยพุ่งเป้าไปยังกลุ่มคุณภาพว่าในพื้นที่เดิมและพื้นที่ใหม่มณฑลใดบ้าง
รวมถึงจะบุกพื้นที่ใหม่เข้าไปเจาะเมืองรองในจีน ฉงชิ่ง อู๋ฮั่น เจิ้นโจว ซีอาน
เซียะเหมิน เมืองเศรษฐกิจดี
เพื่อหานักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ที่เดินทางท่องเที่ยวครั้งแรก และตลาดอินเซ็นทีฟเนื่องจากในจีนมีห้างร้าน
โรงงานธุรกิจขายตรงและความงามจำนวนมากที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล
“จำนวนประชากรจีนเกินกว่าพันล้านคน แต่มีคนอีกจำนวนมากยังไม่เคยท่องเที่ยวนอกประเทศ
จึงเป็นโอกาสของไทยที่อยู่ในระยะทางการบินไม่เกิน 5 ชั่วโมง
หรือบางเมืองบินเข้ามาไทยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง
ตอนนี้จีนไปเกาหลีมากเป็นอันดับหนึ่ง และ มาท่องเที่ยวไทยเป็นอันดับสอง
หลังจากเกาหลีเกิโรคไวรัสเมอร์ส จีนก็หันมาไทยเพิ่มมากขึ้น
แน่นอนคนที่มีกำลังซื้อสูงในจีนนิยมไปท่องเที่ยวระยะไกลด้วยในอเมริกา ยุโรป
ซึ่งอเมริกามีกลยุทธ์ยอำนวยความสะดวกออกวีซ่าจีนได้ตลอด 24 ชั่วโมง”
ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ ผอ.ททท.ภูมิภาคยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง |
“ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ” ผู้อำนวยการภูมิภาค ยุโรป
แอฟริกา ตะวันออกกลาง ททท. ยืนยันว่ายุโรปเป็นลูกค้าสำคัญของไทยมีอยู่ 20 ตลาดหลัก มาพักผ่อนในไทยปีละ 5 ล้านคน พักเฉลี่ย 18 วัน ใช้จ่ายเงิน 5,000 บาท/วัน ดังนั้นการทำตลาดปีหน้าตั้งเป้าเน้นคุณภาพเช่นกันตั้งเป้าเพิ่มรายได้อีก
4 % รายได้รวมประมาณ 5 แสนล้านบาท โดย ททท.ตกลงจับมือกับสายการบินเอทิฮัดซึ่งใหญ่ติด1 ใน 5 ของโลกใช้เงินร่วมกันราว 30 ล้านบาท
ทำแพกเกจโปรโมชั่นกระตุ้นผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวเกรดพรีเมี่ยมจากทั่วยุโรปมาเที่ยวเมืองไทยในโครงการนี้ไม่ต่ำกว่า
8 แสนคน
ทั้งนี้ ททท.ได้วางกลยุทธ์เพิ่มรายได้ตลาดยุโรปแบ่งเป็น 2 แนว แนวแรก (แยกรัสเซียออกไป)
ยึดพื้นที่เดิมเจาะลูกค้ากลุ่มใหม่ใน อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ตุรกี สแกนดิเนเวีย
ซึ่งมีแนวโน้มเป็นบวก 2-8
% และขยายแนวบุกพื้นที่ใหม่เข้าไปยัง
สก็อตแลนด์ ไอร์แลนด์ แอฟริกาใต้ เช่น โจฮันเนสเบอร์ก
แนวทางสอง หาตลาดใหม่ยุโรปตะวันออก
อาทิ ฮังการี โรมาเนีย โปแลนด์ สาธารณรัฐเชค
2 ประเทศหลังนี้เศรษฐกิจโตเกือบ 10 % มีสายการบินนานาชาติในกลุ่มตะวันออกกลางบินบริการเชื่อมโยงจากยุโรปเข้ามายังเอเชียและประเทศไทย
รวมถึงสายการบินภาคีพันธมิตรของการบินไทยซึ่งเป็นสายการบินในเครือสตาร์อัลไลแอนซ์
ซึ่งจะเป็นโอกาสของการบินประจำและเที่ยวบินเช่าเหมาลำในช่วงฤดูหนาว
สุวัฒน์ คุ้มวงศ์ ผอ.ททท.สำนักงานกัวลาลัมเปอร์ |
พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวมาเลเซียตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็น
“กลุ่มครอบครัว” และ “คุณรุ่นใหม่” สัดส่วนชายและหญิงใกล้เคียงกันมากแล้ว และมาเที่ยวเมืองไทยก็เหมือนกับเที่ยวภายในประเทศ
รวมถึง ททท.สื่อสารออกไปว่ามาเมืองไทยเมื่อไรก็ได้ไม่ต้องรอวันหยุดอีกต่อไปแล้ว และเตรียมโปรโมตเจาะระดับกลางขึ้นไปถึงระดับบน
อินเซ็นทีฟ สตรี กอล์ฟ และกลุ่มมุสลิม
ขณะนี้ ททท.ได้เตรียมงบประมาณปี 2559 ร่วมมือกับสมาคมยานยนต์มาเลเซียจัดคาราวานท่องเที่ยวทางรถจากไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
ในกัมพูชา สปป.ลาว เวียดนาม เมียนมาร์ ซึ่งจัดต่อเนื่องมาตลอดปีละ 2 ครั้ง ส่วนการส่งเสริมตลาดแต่ละปีจะแฟมทริปเชิญเอเย่น
สื่อมวลชน จากภูเก็ต กระบี่ หาดใหญ่ เชียงใหม่ กรุงเทพฯ และ จังหวัดใกล้เคียง
มีโอกาสได้พบปะเจรจาธุรกิจกับมาเลเซียปีละกว่า 10 ครั้ง
ไปร่วมงานเทรดแฟร์ 11-12 งาน และกำลังเพิ่มช่องการตลาดออนไลน์
ปี 2559 “ท่องเที่ยววิถีไทย” จะช่วยเติมเต็มเศรษฐกิจชุมชนและสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศคึกคักมีโอกาสได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวคุณภาพกลุ่มคนรวยมีกำลังซื้อสูงขึ้น สร้างเศรษฐกิจไทยเข้มแข็งต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น