‘เที่ยววิถีไทยในประเทศ’มาแรงปี’59
ททท.5ภูมิภาคปลุกจุดขาย5บิ๊กโปรเจ็กต์
เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง
ใยสามเสน :rakdeethai@gmail.com (อ่านรายละเอียดได้ใน "หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน" ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม 2558)
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับความท้าทายการทำตลาดเชิงคุณภาพในปี
2559 “ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร” โดยตั้งเป้าหมายรายได้ “ตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศ” ไว้สูงถึง 807,000
ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8 % เน้นเพิ่มกลยุทธ์กระตุ้นการใช้จ่ายเงินจาก
“4 ตลาดศักยภาพ” ได้แก่
กลุ่มสูงวัย (Active Senior) กลุ่มผู้หญิง (Single Living/Women Empower)
กลุ่มคู่รักยุคใหม่ไร้ลูก (DINKs) และ กลุ่มเจนเนอเรชั่นวาย
“นายอานุภาพ ธีรรัฐ”
รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท.
อธิบายว่าได้วางกลยุทธ์การสร้างแม่เหล็กดึงดูดรายได้ปี 2559 เสนอขายสินค้าท่องเที่ยวเพื่อปลุกกำลังซื้อตลอดทั้งปี
5 โครงการหลัก
ประกอบด้วย สินค้าต่อเนื่องมี 3 โครงการ ได้แก่ ท่องเที่ยววิถีไทย
เมืองต้องห้ามพลาด พลัส วันธรรมดาน่าเที่ยว
และสินค้าใหม่อีก 2 โครงการ ได้แก่ เทศกาลท่องเที่ยวกลางแจ้ง (Outdoor Fest)
และ โครงการเขาเล่าว่า...นำเสนอมุมมองในเชิงคุณค่าเพิ่มแรงจูงใจให้เข้าไปค้นหาความแปลกใหม่ตามสถานที่ท่องเที่ยวชุมชน
การทำตลาดเชิงรุกภายในประเทศจะเริ่มตามปีงบประมาณวันที่
1 ตุลาคม 2558-30 กันยายน 2559 โดยการขับเคลื่อนของสำนักงาน
ททท. 5 ภูมิภาค จะต้องสร้างกิจกรรมกระตุ้นรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย 807,000 ล้านบาท
“ททท.ภูมิภาคภาคกลาง” ซึ่งดูแลพื้นที่ตลาดการท่องเที่ยว 20 จังหวัด ได้รับโจทก์ให้ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 1 มูลค่าถึง 384,000 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 6.7 % อันดับ 2 “ททท.ภูมิภาคภาคใต้” ดูแลพื้นที่ตลาดการท่องเที่ยว 14
จังหวัด ต้องทำรายได้ 160,000 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 10 % อันดับ 3 “ททท.ภูมิภาคภาคเหนือ” ดูแลพื้นที่ตลาดการท่องเที่ยว 17 จังหวัด
ต้องทำรายได้ 117,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% อันดับ 4 “ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก” ดูแลพื้นที่ตลาดการท่องเที่ยว 6 จังหวัด
ต้องทำรายได้ 80,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10 % สุดท้าย
อันดับ 5 “ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” ดูแลพื้นที่ตลาดการท่องเที่ยว 20 จังหวัด
ต้องทำรายได้ 63,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10 %
“เนื้อหาจากโครงการใหม่ “เขาเล่าว่า”
โดยสร้างเรื่องราวนำเสนอมุมมองในเชิงคุณค่า
เพื่อเพิ่มแรงจูงใจนักท่องเที่ยวคนไทยเข้าไปค้นหาความแปลกใหม่ ซึ่งจะใช้จุดขายของ 12 เมืองต้องห้ามพลาด
บวกกับเมืองเชื่อมโยงใกล้เคียงที่จะขยายในปีหน้าอีก 12 เมือง รวมเป็น
24 เมือง
เดินเรื่องเขาเล่าว่าโดยลงลึกเรื่องราวความมหัศจรรย์ของแต่ละพื้นที่
โดยใช้การสื่อสารแบบ content marketing ควบคู่กับการสร้างกระแสความภาคภูมิใจในความเป็นไทยโดยคิดสร้างสรรกิจกรรมการมีส่วนร่วมแชร์ประสบการณ์ใหม่
ๆ ดึงดูดคนไทยให้ตัดสินใจเลือกแนวทางแรกคือท่องเที่ยวในประเทศนั่นเอง
เป็นการทำตลาดโดยให้ผู้ใช้บริการเลือกเนื้อหาด้วยตนเอง”
รองผู้ว่าด้านตลาดในประเทศ ททท.กล่าวเพิ่มว่า
แนวทางสร้างสีสันกระตุ้นตลาดในประเทศปี 2559 มี 2 แนวทางหลัก ได้แก่ แนวทางแรก เจาะตลาดศักยภาพที่ใช้จ่ายสูงทุกกลุ่ม
โดยมีกิจกรรมรองรับมีทั้ง อีเวนต์การตลาด งานแฟร์ท่องเที่ยว เทศกาลท่องเที่ยว outdoor Fest
เทศกาลท่องเที่ยวกับผู้มีชื่อเสียงเป็นต้นแบบของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย และ
กิจกรรมโปรโมชั่นร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร ผลิตแพกเกจเด่น ๆ โดยเฉพาะ แยกเป็น “กลุ่มผู้สูงวัย”
จะจัดแพกเกจแซบสนุก สะสมเสบียงบุญ “กลุ่มสตรี” จัดแพกเกหญิงใหญ่
เลดี้แอนด์เดอะแกงค์ เส้นไหม..ใยฝ้าย “กลุ่มฮันนีมูน” จัดแพกเกจ หาดทราย
สายลม สองเรา “กลุ่มเจเนอเรชั่นวาย” จัดแพกเกจเอ็กซ์คลูซีพทริปให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของวัย
แนวทางที่สอง กระตุ้นตลาดด้วยการนำเอกลักษณ์จุดเด่นสื่อสารเข้าถึงแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
(mainstream) เพิ่มนักท่องเที่ยวเพื่อกระจายไปยังพื้นที่ท่องเที่ยวอันดับรอง “24 เมืองต้องห้ามพลาด
พลัส” ขยายการเดินทางท่องเที่ยว “วันธรรมดาน่าเที่ยว” เรื่อยไปจนถึงส่งเสริมการตลาดต้อนรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
(AEC) ที่จะทำให้ไทยเป็นประตูเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน
หรือ ASEAN Connectivity
ซึ่งเน้นความร่วมมือกับภาคเอกชนผลิตแพกเกจพักค้างคืนในประเทศไทยโดยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านได้
แพกเกจที่น่าสนใจซึ่งเริ่มทยอยออกสู่ตลาดบ้างแล้วตามโครงการไทยประตูเชื่อมโยงการท่องเที่ยวอาเซียน
เช่น เส้นทาง “สวัสดีอุตรดิตถ์-สบายดีหลวงพระบาง-คิดฮอดเมืองเลย”
แพกเกจบินไทยขับรถกลับ เส้นทาง “กรุงเทพฯ-สตูล-เกาะลังกาวี” และยังมีอีกหลากหลายเส้นทางที่ภาครัฐและเอกชนจะร่วมกันสร้างสรรเพื่อกระตุ้น
“การท่องเที่ยวภายในประเทศ” เชื่อมโยงเป็นตลาดเดียวกันกับอาเซียน
“นายศุกรีย์ สิทธิวนิช”
รองผู้ว่าด้านสื่อสารการตลาด ททท.กล่าวว่าการส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558 เข้าสู่โค้งสุดท้ายไตรมาส 4 ระหว่างกรกฎาคม-กันยายน นี้ ตลอด 3 เดือน
ได้จัดกิจกรรมยิ่งใหญ่กระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ “เดือนกรกฎาคม” 2558 จัดกิจกรรม "สานศิลป์
แผ่นดินอาเซียน" ต้อนรับการเปิดประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) ซึ่งแต่ละประเทศมีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม
อาหาร ศิลปะดนตรี ประติมากรรม ซึ่งมีรากวัฒนธรรมใกล้เคียงกัน และอีกงานสำคัญคือ “เข้าพรรษา” คือ
เทศกาลเทียนศิลปะนานาชาติ ประเพณีแห่เทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี
"เดือนสิงหาคม" 2558 ททท.เตรียมจับมือกับบริษัทผู้ประกอบการนำเที่ยว
สายการบิน โรงแรมทั่วประเทศ จัดแพ็กเกจ "สิงหาพาแม่เที่ยว" เสนอขายได้ตลอดทั้งเดือน
เพื่อให้ลูกๆ พาแม่ไปทำกิจกรรมได้มากมาย อาทิ ท่องเที่ยว ชมธรรมชาติ บำบัดสปา
เข้าวัดทำบุญ รับประทานอาหาร และช็อปปิ้ง
"เดือนกันยายน" 2558 จะทุ่มทำประชาสัมพันธ์มหกรรมงาน
"อาหารนานาชาติ" ตอกย้ำถึงชื่อเสียงอาหารไทยต้นตำรับครัวไทยสู่ครัวโลก
ปีนี้ในงาน World Expo 2015 เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี
รัฐบาลไทยและหน่วยงานเกี่ยวข้องได้นำอาหารไทยไปเผยแพร่ พร้อมสาธิตการทำเมนูขึ้นชื่อและจำหน่ายให้ผู้ที่เข้าไปร่วมชมงานได้ชิมตลอดทั้ง
6 เดือน ไปจนถึงเดือนตุลาคม
ต่อเนื่องปีงบประมาณ 2559 ไตรมาสแรกปี 2559 ระหว่าง
"เดือนตุลาคม-ธันวาคม" 2558 เริ่มเดือนแรก “ตุลาคม 2558” จะทำโฆษณาประชาสัมพันธ์มหกรรมงานบุญ "ออกพรรษา"
โดย ททท.จะรณรงค์การท่องเที่ยวเยี่ยมชมวิถีชุมชนอนุรักษ์กรรมวิธีการทำต้นเทียนพรรษาตามจังหวัดต่างๆ
และยังเป็นช่วงฤดูเริ่มต้นจัดแข่งขันเรือนานาชาติตามลำน้ำสำคัญๆ จึงเลือกท่องเที่ยวได้หลากหลาย
“เดือนพฤศจิกายน” 2558 ไฮไลต์การจัดมหกรรม "สีสันแห่งสายน้ำ
มหกรรมลอยกระทง" ในพื้นที่หลัก 8 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ตาก สุโขทัย พระนครศรีอยุธยา
สมุทรสงคราม ราชบุรี
แต่ละจังหวัดจะมีเอกลักษณ์การจัดงานลอยกระทงโดดเด่นแตกต่างกันไป
ในกรุงเทพฯ จะใช้แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นไฮไลต์
นำเรือมาตกแต่งประดับไฟฟ้า9 ลำ
พร้อมการแสดงวัฒนธรรมบนเรือให้นักท่องเที่ยวตลอดฝั่งแม่น้ำได้ชมจากสะพานพระราม 8 พระบรมมหาราชวัง วัดโพธิ์
วัดอรุณราชวราราม สะพานพระพุทธยอดฟ้า ไปจนถึงสาทร เอเชียทีค
ไปจนถึงสะพานพระรามเก้า
“เดือนธันวาคม”2558 จัด "เทศกาลแห่งความสุข"
วันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
พระผู้ทรงเป็นพลังแห่งแผ่นดิน วันที่ 30-31 ธันวาคม
เป็นช่วงค่ำคืนสุดท้ายของปีแห่งการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
นับถอยหลังเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่ ทั่วไทยจะพร้อมใจกัน เคาต์ดาวน์ และร่วมกิจกรรม "พิธีสวดมนต์ข้ามปี
วิถีพุทธ"
ทั้งนี้ในปี 2559 ททท.ได้นำเสนอจุดขายในมุมมองใหม่“สร้างความเก๋ไก๋การท่องเที่ยวไทย” แต่ละภาคเน้นสื่อสารเชิงคุณค่าท่นักท่องเที่ยวจะได้รับจากการเดินทางไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวในแต่ละภาคในธีมใหม่
คือ “ภาคเหนือ : เหนือฝัน ล้านแรงบันดาลใจ” สื่อถึงการเดินทางเพื่อเก็บเกี่ยวแรงบันดาลใจ
“ภาคอีสาน : อีสานแซบนัว” สื่อถึงความเป็นสุดยอดและความสนุกสนาน “ภาคกลาง
:สุขกลางใจ ใกล้แค่เอื้อม” สื่อถึงการท่องเที่ยวใกล้
ๆ สุขใจง่าย ๆ กับสิ่งใกล้ตัว “ภาคตะวันออก
:สีสันตะวันออก” สื่อถึงการท่องเที่ยวที่เติมความสดใส
เพิ่มสีสันให้ชีวิต “ภาคใต้ :ปักษ์ใต้ ปักหมุดหยุดเวลา” สื่อถึงการหยุดพัก
หลบเร้นความวุ่นวายไร้กาลเวลา
ออกมาร่วมสร้างประสบการณ์ใหม่ ภาคภูมิใจในความเป็นไทย
โดย “ท่องเที่ยวเมืองไทย เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร” ปลุกกระแสความคึกคัก นำรายได้สู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากกำลังซื้อในประเทศให้ได้ตามเป้าหมายปีหน้ามูลค่ารวม
807,000 ล้านบาท
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น