ททท.ตะวันออกงัดMORE FUNปลุกรายได้ปี62
บูมขายท่องเที่ยว9จังหวัด”สนุก-ตื่นเต้น-ท้าทาย”
คิงเพาเวอร์มอบห้องน้ำน่านเมืองทัวร์พุ่งล้านคน
ททท.ปลุกแม่ฮ่องสอนผ่อนคลายโกย5พันล้าน
บางจากจ่อร่วมทุนสหกรณ์ผุด”โรงกลั่นชีวภาพ”
TCEBปั้นเชียงใหม่ไมซ์ซิตี้เปิดจุดขาย6เส้นทาง
เปิดชุมชนบ้านดงบังขอนแก่นรับไมซ์ซิตี้อินเตอร์
ทัวร์เมืองโบราณอู่ทอง-ชมทะเลหมอกหุบเขาวง
แนะเทคนิคการล้างพิษดิจิตอลก่อนสุขภาพพัง
รมว.วีระศักดิ์ยันทัวร์จีนปี61รายได้โตทะลุ15%
จับตานายกฯ ตั้งปลัดใหม่กระทรวงท่องเที่ยว
บางกอกแอร์บินใหม่ญาจางเวียดนาม25มค.62
บินไทยดิ้นเพิ่มรายได้-ขายเบเกอรี่อาหารในปั๊ม
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97
ช่วงที่ 1 ต้องฟังกลยุทธ์ More Fun จาก “คุณวิบูลย์ นิมิตรวานิช” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับการพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยว 9 จังหวัด ให้กลายเป็นเมือง “สนุกกว่า-ตื่นเต้นกว่า-ท้าทายกว่า” ทั้งโซน Active Beach 4 จังหวัดริมทะเลอ่าวไทย 3 จังหวัดซีกใกล้เขาที่พร้อมจะเปิดโลก Adventure และ 2 จังหวัดศูนย์รวมความศรัทธา ของกินอร่อย ตลาดร้อยปีเพียบ เพื่อจะสร้างสีสันทำให้เกิดการกระจายเม็ดเงินสู่ “ชุมชน” มีรายได้เพิ่ม ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความยั่งยืนทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม
นายวิบูลย์ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ปี 2562 จะเดินหน้าด้วยโครงการกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวธีม More Fun ต่อยอดจาก “สีสันตะวันออก” 9 จังหวัด มาท่องเที่ยวแล้วสนุกกว่า ตื่นเต้นกว่า ท้าทายกว่า ประกอบด้วยธีม Active Beach ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ส่วน Adventure เที่ยวเชิงผจญภัย ก็จะเป็น นครนายก ปราจีน สระแก้ว สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา วางกลยุทธ์แบ่งกันชัดเจนทั้งเรื่องธีมและกิจกรรมการท่องเที่ยว
ปี 2562 จะต้องทำการท่องเที่ยวให้ตอบโจทก์ สร้างและกระจายรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่ละปีในปัจจุบันและอนาคต จะต้องเพิ่มจำนวนวันพัก ควบคู่การเปลี่ยนพฤติกรรมให้คนหันมาเพิ่มการท่องเที่ยววันธรรมดา เช่น พัทยา จะปรับให้เป็น Luxprerient สวนนงนุช ซิลเวอร์เลค หรือจะไปทำกิจกรรมในอลาคัมปาณ เก็บไข่ ปลูกต้นไม้ และการล่องเรือยอร์ช กลุ่มผู้ใหญ่ก็ไปออนเซน สปา โอนิมูริ มีสถานที่ใหม่เป็นทางเลือก สามารถเพิ่มค่าใช้จ่ายแต่ละวันต่อทริปได้
ระยอง จัดกิจกรรมชุมชน ชาวประมงทำซั้งเชือก ทำธนาคารปู หรือการไปทุ่งโปรงทอง และพิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง นำบ้านเก่ามาออกแบบจำลองสถานที่ในชุมชนไว้ในบ้าน และสุขทุกวันที่จันทบุรี ซึ่งเป็นเมืองรองมีอาหารการกินดี ชุมชนเป็นเลิศ สวนผลไม้ ทั้งในตัวเมือง อำเภอท่าใหม่มีชุมชนท่าใหม่ ชุมชนเขาบายศรีโด่งดังเรื่องทุเรียนทอด สามารถท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปสู่เส้นทางเฉลิมบูรพาชลทิศ มีหาดเจ้าหลาว สามารถไปทำกิจกรรมสร้างอีเปะบ้านหอยนางรมที่อ่าวคุ้งกระเบน การเพาะพันธุ์ปลาต่าง ๆ หรือจะเป็นตลาดทุบหม้อวัดพลับ ที่บางกะจะ มีความน่าสนใจอย่างมาก เรื่อยไปจนถึงแหล่งกำเนิดการผลิตพลอย
ส่วนอำเภอขลุง ก็มีชุมชนตะปอน เด่นเรื่องการ..พระบาทช่วงสงกรานต์ ภายในบริเวณตลาดขนาดเล็กเปิดขายวันเสาร์ นำพืชผักผลไม้ท้องถิ่นมาจำหน่ายช่วงบ่าย 2 เป็นต้นไป ส่วนอีกแห่งเป็นชุมชนหนองบัวแหล่งขนมแปลก สารพัดอาหาร
จังหวัดตราด เป็นพื้นที่รวมชุมชน เช่น บ้านน้ำเชี่ยว บ้านยายม่อมแหล่งทรายดำ ชุมชนท่าระแนะ พื้นที่ท่องเที่ยวป่าโกงกาง มีหอยพอกหอยตะโก โดยมีการเชื่อมโยงมากขึ้น นอกเหนือจากเกาะช้าง เลี้ยวซ้ายไปยังบ้านสลักคอก ชุมชนน่ารัก ๆ สามารถไปนั่งเรือมาตร ดินเนอร์เก๋ ๆ ทางชุมชนจะมีบริการ ขณะเดียวกันเลี้ยวขวาเป็นแหล่งท่องเที่ยวบันเทิง โรงแรม ที่พักทันสมัย ทำกิจกรรมชายหาดได้
เมื่อไปถึงเมืองตราดสถานที่ต้องห้ามพลาดคือ พิพิธภัณฑ์เมืองตราด ศูนย์รวมข้อมูลทั้งหมด แล้วไปยังตัวเมืองวัดบุปผาราม และวัดต่าง ๆ ต่อเนื่องไปถึงพื้นที่รอยต่อดทางทะเลติดกัมพูชา บริเวณบ้านหาดเล็ก หาดบานชื่น คล้ายบางแสนเมื่อ 20 ปีก่อน ปี 2562 เตรียมขยายการทำกิจกรรม เจาะกลุ่มคอปอเรต สามารถไปจัดประชุม สัมมนา ทำ Outing
แต่ละพื้นที่มีความพร้อม โดยเฉพาะในพัทยาเป็นไมซ์ซิตี้ มีศูนย์ประชุมใหม่ ๆ
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวเชิงผจญภัยในนครนายก ปราจีนบุรี แก่งหินเพลิงล่องแก่งช่วงเดือนสิงหาคม ส่วนปราจีนบุรี จะเน้นเรื่อง Health & Wellness มีโรงพยาบาลอภัยภูเบศร์มีชื่อเสียงทางด้านการพัฒนาสมุนไพรไทยเพื่อสุขภาพ ความงาม มากมาย เป็นบริการระดับพรีเมี่ยม แล้วยังมีบ้านตะเกียง การทำ D.I.Y.สวนมือถือบ้านดงบัง สามารถทำสวนแล้วนำกลับบ้านได้ด้วย ประวัติความเป็นมาของวัดแก้วจิก ขณะเดียวกันมีเรื่องของ ทับลาน เป็นชุมชนสานกระบุง ตะกร้า และ ห้วยโสมงเป็นโครงการพระราชดำริอ่างเก็บน้ำ สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้
จังหวัดสระแก้ว จะมีปราสาทสะด็อกก๊อกธม บูรณะขึ้นมาใหม่อย่างสวยงามอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีโรงเรียนกาสรณ์กสิวิทย์สอนควายให้ไถนา สมเด็จพระนางเจ้าฯ มีดำริให้สร้างโรงเรียนควายไถนา มีกิจกรรมทำนา การทำบ้านดิน อาหารการกิน ใช้เวลาครึ่งวันในกลุ่มเพื่อนฝูงและครอบครัว ภายในโรงเรียนมีกาแฟเด็ดเป็นเอกลักษณ์คือ เมนูควายคะนอง ควายเผือก
จังหวัดฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ เน้นอาหารการกิน บวกกับเส้นทางท่องเที่ยวด้านความศรัทธา พระพุทธโสธร หลวงพ่อโต พระฆิคเนศ มาชมและขอพรได้ อีกทั้งยังมีสวนมะม่วง บางคล้า สวนมะพร้าว และตลาด 100 ปีต่างๆ ได้แก่ ตลาดคลองสวน ตลาดท่าใหม่ ตลาดนครเนื่องเขตต์ รวมกันแล้วเกือบ 400 ปี แล้วยังมีวิถีชีวิตชุมชนริมน้ำบางปะกง ชุมชนบางกะเจ้า ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง อาหารอร่อย ราคาไม่แพง ใกล้กรุงเทพฯ
ส่วนสมุทรปราการมี เมกะบางนา จัดทำกิจกรรมใหม่ ซูเปอร์ฮีโร่ เหมาะกับตลาดเด็กและผู้ใหญ่ที่เป็นแฟนคลับ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางปั่นจักรยานท่องเที่ยวที่สวยงาม
สำหรับช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เหมาะทุกพื้นที่ ชอบทะเลก็ไปทางพัทยา จันทบุรี ระยอง ตราด ผจญภัยไปนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ส่วนเส้นทางอาหารและศรัทธา ต้องแวะฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ หากชื่นชอบความท้าทายต้องไปชมเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ เป็นรัศมีการเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมง
พื้นที่การท่องเที่ยวในภูมิภาคตะวันออกนั้นจะมี More Fun รูปแบบต่าง ๆ เรื่อง สนุกกับการกิน More Play สนุกกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ More Stay พักผ่อนตามที่พักตามชอบในรีสอร์ตหรู ระดับกลาง และการท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งมีความหลากหลายให้เลือกท่องเที่ยวโดยไม่จำเจเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์มอบห้องน้ำจ.น่านเมืองทัวร์ล้านคน
ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การจัดทำโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย สุขา สุขใจ” ระหว่าง กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 ได้ส่งมอบแห่งที่ 3 ในภาคเหนือ ที่สวนสาธารณะศรีเมือง จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวรองที่ได้รับความนิยมสูง จำนวน 6 ห้อง เป็นของขวัญปีใหม่และต้อนรับการเดินทางช่วงหน้าหนาวของนักท่องเที่ยวชื่นชอบเดินมาสัมผัสธรรมชาติ อากาศ และวิถีชีชีวิตชาวล้านนา ทำให้ห้องน้ำเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป รวมทั้งทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยังได้สร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียม ขนาด 7 คน มอบให้ชาวเมืองน่าน เพื่อส่งเสริมทางด้านการกีฬาด้วยเช่นกัน
ขณะนี้น่านเป็นจังหวัดที่ได้รับรางวัลเมืองน่าสะอาดอันดับ 1 ของอาเซียน รวมทั้งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวตลอด 10 เดือน ปี 2561 รวมกว่า 900,000 คน ตลอดปีนี้คาดจะมีจำนวนรวมเกิน 1,000,000 คน เพิ่มเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10 % ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กำลังจะผลักดันให้ขึ้นเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางองค์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ได้เข้ามาวางรากฐานให้แต่ละชุมชนดูแลรักษาวัฒนธรรมอันดีงามไว้อย่างเข้มแข็งสามารถรับมือกับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก ด้วยการดูแลมาตรฐานความเป็นล้านนาและสินค้าชุมชนไว้ เพื่อทำให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
โดยมีสินค้าชุมชนซึ่งเป็นตัวอย่างสำคัญคือ “ผ้าย้อมคราม” หลังจากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำไปผลิตภัณฑ์ของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ก็ทำให้มูลค่าของสินค้าขยับสูงขึ้นสามารถจำหน่ายได้ราคาดีเพิ่มขึ้นเกิน 100 % นับจากนี้เป็นต้นไปกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเข้ามาเสริมความแช็งแกร่งของสินค้าชุมชนเพิ่มขึ้นด้วยการใส่ดีไซน์ในแพกเกจให้เป็นสากล เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนใช้จ่ายเงินซื้อเพิ่มมากขึ้นทุกปี
รวมทั้งน่านได้รับการพัฒนาเส้นทางคมนาคมทางถนนเชื่อมเข้าไปสู่เมืองมรดกโลกหลวงพระบาง สปป.ลาว ซึ่งกำลังขยายการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่าง 2 เมือง 2 ประเทศ อย่างเป็นรูปธรรม สร้างการท่องเที่ยวให้เกิดความคึกคักทำการตลาดสู่นานาชาติที่มีคุณภาพเป็นจุดขายของไทยต่อไป
ระหว่างการทำพิธีส่งมอบ ดร.วีระศักดิ์ ได้ขอให้ผู้เข้าร่วมงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สื่อมวลชน ที่เข้าร่วมงานส่งมอบห้องน้ำ ณ สวนสาธารณะศรีเมือง จ.น่าน ร่วมกันยืนไว้อาลัยให้แก่ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะในโครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย มาตลอดกว่า 20 ปี
ทางด้าน “นางเนตรชนก ทวีศรี” ที่ปรึกษากลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่าทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มุ่งพัฒนาโครงการคืนประโยชน์สู่สังคม (CSR) โดยได้จัดทำกิจกรรมภายใต้ KING POWER THAI POWER พลังคนไทย ส่งเสริมสนับสนุนชุมชนไทยให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ผนวกกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีนโยบายส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของแหล่งท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สนับสนุนการยกระดับมาตรฐานห้องน้ำในแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ทางกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ จึงได้เข้าร่วมมือก่อสร้างทั่วประเทศ 10 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท เน้นรูปแบบสากล ‘Universal Design’ มีทางลาดสำหรับผู้พิการ ประตูถูกออกแบบเป็นบานเลื่อนเพื่อตอบโจทย์ สำหรับเด็ก คนชรา รวมถึงผู้พิการ สามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัยทั้ง ชาย หญิง ผู้สูงวัย ผู้พิการ เหมาะเป็นห้องน้ำของทุกคน มีความสะอาด สะดวก ปลอดภัย ได้เอกลักษณ์และยั่งยืน และเมื่อสร้างเสร็จส่งมอบเรียบร้อยจะให้ทางชุมชนแต่ละพื้นที่เป็นผู้ดูแล
นายนิวัฒน์ งามธุระ ปลัดจังหวัดน่าน กล่าวว่า สวนสาธารณะศรีเมือง แต่ละปีมีผู้ใช้บริการเป็นกลุ่มคนท้องถิ่น เด็ก คนชรา และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก รวมทั้งเป็นสถานที่ออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจของคนทั้งจังหวัด การมีห้องน้ำที่มีความสะดวกสบาย และการออกแบบที่เป็นสากล จะสร้างความพึงพอใจและประทับใจแก่นักท่องเที่ยว ในฐานะตัวแทนชาวน่านขอขอบคุณกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่นำโครงการดีเช่นนี้คือ ‘พลังคนไทย สุขา สุขใจ’ ช่วยสร้างประโยชน์ สร้างความสุขให้ชุมชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จะเป็นส่วนหนึ่งทำให้กลับมาเยือนเมืองน่านอีกครั้ง
ทั้งนี้การจัดทำโครงการส่งมอบห้องน้ำตามจังหวัดต่าง ๆ ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานั้น มีเป้าหมายเพื่อต้องการยกระดับคุณภาพสาธารณูปโภค และสร้างมาตรฐานด้านความสะอาดของห้องน้ำในแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ ให้ทัดเทียมระดับสากล ช่วงปี 2561 ลงทุนก่อสร้างและส่งไปเรียบร้อยแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ แห่งที่ 1 สุขา สุขใจ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ส่งมอบเมื่อ 26 เมษายน แห่งที่ 2 สุขา สุขใจ สวนสาธารณะทุ่งศรีเมือง จ. อุบลราชธานี ส่งมอบเมื่อ เมื่อวันที่ 20 กรกฏาคม แห่งที่ 3 คือ สวนสาธารณะศรีเมือง จ.น่าน ส่งมอบเมื่อ 29 พฤศจิกายน จากนั้นในปี 2562 จะทยอยก่อสร้างให้แล้วเสร็จและส่งมอบตามจังหวัดท่องเที่ยวทั่วประเทศให้ครบ 10 แห่ง
ข่าวที่ 2 “ททท.ดันแม่ฮ่องสอนผ่อนคลายโกย5พันล้าน”
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อ านวยการฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ส่งมอบโครงการ “แม่ฮ่องสอน ผ่อนคลาย - Relaxing Mae Hong Son” ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนนำไปต่อยอดด้วยจุดขายที่ ททท.ประชาสัมพันธ์เผยแพร่อย่างกว้างขวาง เพราะตามคาดการณ์ปี 2561 แม่ฮ่องสอนจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวปีชาวไทย โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y และกลุ่มศักยภาพ เดินทางเข้ามา และมีเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท
ดังนั้นจึงได้จัดทำโครงการภายใต้ธีม “แม่ฮ่องสอน ผ่อนคลาย” เน้นจุดขายเด่น ๆ 5 อา ได้แก่ อากาศ อาหาร อาราม อารมณ์ และอายุวัฒนะ เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวใน 55 จังหวัดเมืองรอง ในโครงการ “ชุมชนเติบใหญ่ เมืองไทยเติบโต -Amazing Thailand Go Local” เพื่อยกระดับความเป็นอยู่คนท้องถิ่นให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นปลุกกระแสการท่องเที่ยวชุมชนผสมผสานภูมิปัญญาที่ได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น และการต่อยอดเรื่องราววัฒนธรรมประเพณีให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและมีจุดเด่นดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ
โครงการนี้ ททท.ได้จัดทำข้อมูลสินค้าการท่องเที่ยวและออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อส่งเสริมศักยภาพด้านการตลาดการท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมทั้งยังแนะนำผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์จาก 3 ชุมชน ได้แก่ ถั่วลายเสือ ถั่วคั่ว งาคั่ว บ้านผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน กาแฟดูลาเปอร์ จากวิสาหกิจชุมชนดูลาเปอร์ อ.แม่ลาน้อย และของที่ระลึก เสื้อไตบ้านเมืองปอน อ.ขุนยวม ส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นให้มี มูลค่าและสร้างรายได้เพื่อสร้างความเข้มแข็งสู่ชุมชน พร้อมจัดทำคู่มือแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวเลือกเดินทางได้สอดคล้องกับตัวเอง เช่น Fly & Drive จากเชียงใหม่และตากมายังแม่ฮ่องสอน เชื่อมโยงเมืองหลักและเมืองรองเข้าด้วยกัน
ข่าวที่ 3 “รีบเที่ยว55เมืองก่อน31ธ.ค.ลดภาษีได้หมื่นห้า”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ชวนคนไทยออกไป “เที่ยวเมืองรอง ลดหย่อนภาษีได้” ถึง 15,000 บาท ออกไปเที่ยวกันได้ตั้งแต่วันนี้-31 ธันวาคม 2561 กับ 3 ขั้นตอนง่าย ๆ
ขั้นตอนแรก รีบเข้าไปจองซื้อแพกเกจทัวร์หรือออกเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองรองภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2561
ขั้นตอนที่ 2 ขอใบกำกับภาษี หรือ ใบเสร็จรับเงิน ค่าที่พัก จากโรงแรม โฮมสเตย์ เรียกว่า ค่าบริการนำเที่ยว จากผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมาย จะต้องตรวจความถูกต้องในใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินให้ถูกต้อง ว่าเขียนรายละเอียดครบถ้วนชัดเจน ทั้ง ชื่อ นามสกุล ของผู้เสียภาษี จำนวนเงิน วัน-เดือน-ปี ที่จ่ายเงินจริง
ขั้นตอนที่ 3 นำเอกสาร ใบกำกับภาษี หรือ ใบเสร็จรับเงิน ค่าที่พัก จากโรงแรม โฮมสเตย์ ไปยื่นลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 2561
สามารถเข้าไปค้นหารายชื่อเมืองท่องเที่ยวรองทั่วประเทศทั้ง 55 จังหวัดได้ที่ www.tourismthailand.org/global ไดตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวที่ 4 “บางจากจ่อปี62ร่วมทุนสหกรณ์ตั้งโรงกลั่นชีวภาพ”
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2562 จะมุ่งพัฒนาความร่วมมือกับสหกรณ์การเกษตรทั่วประเทศเพื่อสร้างโรงกลั่นชีวภาพกระจายทั่วทุกภาคจองประเทศ โดยขณะนี้ทางกลุ่มบางจากเห็นความชัดเจนของการตั้งโรงกลั่นชีวภาพได้ในปีหน้า จากปัจจุบันเข้าไปศึกษาค่อนข้างมากแล้ว ทั้งเรื่องตลาด ผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาต่อยอด จากผลิตชานอ้อย น้ำตาล มันสำปะหลัง ปาล์ม สาหร่าย เศษไม้ยางพารา
รูปแบบการลงทุนเบื้องต้นกำลังพิจารณาใช้แนวทางการร่วมลงทุนกับสหรกณ์การเกษตรสร้างโรงงานขนาดที่ไม่ใหญ่ตามพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อสกัดวัตถุดิบป้อนโรงกลั่นชีวภาพในพื้นที่เขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) แล้วต่อยอดไปใช้ผลิตผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้ เช่น ไบโอพลาสติก
ครงการโรงกลั่นชีวภาพคาดจะใช้เงินลงทุน 4,000-5,000 ล้านบาท รวมอยู่กับแผนการดำเนินงาน 4 ปี ระหว่างปี 2562-2565 ที่ได้ตั้งงบลงทุนรวมไว้ 77,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาและขยายธุรกิจกลุ่มบางจาก หรืออาจจะใช้เงินที่ได้จากการระดมทุน (IPO) ของ บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพกำลังอยู่ในขั้นตอนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปีหน้า ส่วนเวลาการก่อสร้างโรงกลั่นชีวภาพจะประมาณ 3-4 ปี
ข่าวที่ 5 “TCEBดันเชียงใหม่ไมซ์ซิตี้เปิดขาย6เส้นทางปีหน้า”
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า “TCEB” เปิดเผยว่า ปี 2562 ได้วางแนวนโยบายอุตสาหกรรมไมซ์ด้วยแนวทางการผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และชุมชน เพื่อให้อุตสาหกรรมไมซ์เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจและช่วยกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นตามนโยบายรัฐบาล สอดคล้องตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ.2561-2564) ในยุทธศาสตร์ที่ 9 การพัฒนาภาคเมือง และพื้นที่เศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคเหนือตั้งเป้าวางรากฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์มูลค่าสูง โดยตั้งเป้าจะทำให้เชียงใหม่เป็น “ไมซ์ ซิตี้ เต็มรูปแบบครบวงจร” ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป
หลังจากเมื่อปี 2559 เชียงใหม่มีการจัดประชุมนานาชาติเป็นอันดับที่ 2 รวมทั้งหมด 20 ครั้ง ปี 2560 มีจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์และรายได้ไมซ์จากตลาดต่างประเทศ 50,881 คน สร้างรายได้ 4,700.38 ล้านบาท และไมซ์ในประเทศไทยเข้าร่วม 2,210,000 คน สร้างรายได้ 4,914.53 ล้านบาท
นายจิรุตถ์กล่าวว่าล่าสุดระหว่าง 28-29 พฤศจิกายน 2561 ได้นำทีมสื่อและผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่ทำกิจกรรมแนะนำเผยแพร่ไมซ์ ในเชียงใหม่ และชุมชนต้นแบบชุมชนบ้านออนใต้ ต้นแบบโครงการหมู่บ้าน CIV พร้อมกับตอกย้ำถึงตัวอย่างความร่วมมือกับชุมชนสหกรณ์ทั่วประเทศ 35 แห่ง พัฒนาศักยภาพเพื่อให้เป็นจุดหมายปลายทางใหม่รองรับการจัดงานไมซ์รูปแบบใหม่ ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาค สนับสนุนให้ชุมชนท้องถิ่นที่มีความพร้อมสู่การรองรับธุรกิจการจัดงานไมซ์ โดยเฉพาะในเรื่องการเป็นสถานที่ศึกษาดูงาน กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับชุมชน หรือจัดกิจกรรมพิเศษตามวาระโอกาสขององค์กรธุรกิจต่าง ๆ ด้วยจุดแข็งด้านความคิดสร้างสรรค์บนพื้นฐานทรัพยากรและอัตลักษณ์ของแต่ละชุมชน ซึ่งจะสามารถเป็นช่องทางใหม่ด้านรายได้แก่สหกรณ์ได้ ซึ่งเชียงใหม่มีสหกรณ์ที่มีความพร้อมดำเนินงานดังกล่าว ได้แก่ สหกรณ์นิคมแม่แตงจำกัด และสหกรณ์การเกษตรดอยสะเก็ดพัฒนา จำกัด ที่จะเป็นพื้นที่นำร่องในการนำเอางานเพื่อสังคมของภาคเอกชนเข้าไปจัดกิจกรรมได้
“การส่งเสริมให้เกิดการศึกษาดูงานในชุมชน นับเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะสร้างรายได้ให้กับชุมชน โดยมีสหกรณ์การเกษตรเป็นศูนย์กลางของชุมชน เป็นตัวกลางประสานงานรวบรวมสินค้าพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ทั้งสินค้าประเภทอาหาร ขนมพื้นบ้าน สินค้าเกษตรแปรรูปและอื่น ๆ ที่ชุมชนภาคภูมิใจมาเล่าสู่ผู้ที่เข้าไปศึกษาดูงาน ขณะเดียวกันจากการมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างแข็งแกร่ง เป็นการส่งเสริมให้การพัฒนาเชียงใหม่เป็นเมืองไมซ์ซิตี้ศูนย์กลางของภาคเหนืออย่างเต็มรูปแบบ สร้างการมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ”
นายจิรุตถ์กล่าวเพิ่มว่า ได้เปิดจุดขายไมซ์เชียงใหม่เพื่อปลุกกำลังซื้อ องค์กร หน่วยงาน ทั้งภาครัฐ เอกชน นำทีมไปจัดกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ด้วยการสร้างโปรแกรมหลังการประชุมที่เป็นมาตรฐาน ตลอดจนการพัฒนากิจกรรมและการบริการที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ ถือเป็นรูปแบบสำคัญในการขับเคลื่อนเพื่อให้เป้าหมายการกระจายรายได้ผ่านอุตสาหกรรมไมซ์บรรลุผล เนื่องจากเชียงใหม่ได้พัฒนาสินค้าและบริการใหม่ในโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไมซ์ใหม่ในพื้นที่เมืองไมซ์ใน 6 เส้นทางหลัก ได้แก่
1. เส้นทางกิจกรรม CSR และการประชุมเชิงอนุรักษ์ อาทิ สหกรณ์นิคมแม่แตงจำกัด อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก และการเปิดประสบการณ์ผู้เข้าร่วมประชุมให้ได้สัมผัสกับวิถีชุมชนท้องถิ่น ณ ชุมชนบ้านออนใต้ ซึ่งได้รับการพัฒนาให้เป็น “ต้นแบบโครงการหมู่บ้าน CIV” ถือว่าเป็นการนำทุนวัฒนธรรม วิถีชีวิตดั้งเดิม มาผนวกกับความคิดสร้างสรรค์ โดยการออกแบบ สร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ตลอดจนบริการต่าง ๆ ในชุมชน ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมจะได้เรียนรู้ ชมการสาธิตขั้นตอนการสร้างสรรค์ชิ้นงานต่างๆ และทดลองลงมือทำด้วยตนเอง
2.เส้นทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม การเยี่ยมชมสถานที่ที่มีประวัติความเป็นมาและมีความผูกพันทางจิตใจของคนรุ่นหลัง อาทิ บ้านถวาย กิจกรรรมบวชต้นยางนา อ. สารภี ซึ่งเป็นประเพณีโบราณของชาวจังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันเหลือต้นยางนาตั้งแต่เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ไปถึงบ้านปากกองประมาณ 900 กว่าต้นเท่านั้น และการประดิษฐ์โคมและทดลองประดิษฐ์โคมโดยปราชญ์ชาวบ้าน “แม่ครูโคมล้านนา” หรือ“แม่ครูบัวไหล คณะปัญญา” แห่งชุมชนเมืองสาตรหลวง ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มงานหัตถกรรมการทำโคมล้านนาโดยประดิษฐ์ขึ้นจากวัสดุพื้นบ้าน
3.เส้นทางการสร้างทีมเวิร์ค ผ่านกิจกรรมที่ระดมความคิด แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน อาทิ ศูนย์ศึกษาพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า และปันผลฟาร์ม
4.เส้นทางการผจญภัย ที่มีกิจกรรมทางกายภาพ สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ อาทิ อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก
5.เส้นทางกิจกรรมนำเสนออาหารไทย ในทุกการจัดงานที่หลากหลาย เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเดินทาง อาทิ บ้านหัวฝาย ชุมชนบ้านดงบัง เป็นต้น
6.เส้นทางการจัดงานและกิจกรรมหรูหรามีระดับ ซึ่งเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้นในระยะหลังเพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษในกับนักเดินทางกลุ่มไมซ์
ข่าวที่ 6 “TCEBดันดงบังหมู่บ้านผ้ารับไมซ์อินเตอร์"
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ในระหว่างการจัดงานไมซ์นานาชาติ PATA Destination Marketing Forum 2018 ที่ขอนแก่น 1 ใน 5 เมืองไมซ์ ซิตี้ ได้จัดโปรแกรมเชิญหน่วยงานต่าง ๆ ลงสัมผัสกับชุมชนเพื่อเปิดจุดขาย Area Base Tourism ที่บ้านดงบัง ตำบลเขาสวนกวาง ซึ่งเป็นแหล่งวัฒนธรรมผลิตไหมมัดหมี่ วิถีชุมชน อันเป็นภูมิปัญญาทำสืบต่อกันมาหลายร้อยปี
ดงบังเป็นหมู่บ้านชุมชนท่องเที่ยวโอท็อปนวัตวิถีดีเด่นระดับประเทศ ประจำปี 2561ที่ผู้คนใช้ชีวิตอยู่กันอย่างสงบ ผู้ชายทำไร่ ทำนา ผู้หญิงทอผ้าไหม ผ้าฝ้าย เลี้ยงหนอนไหม ทอผ้า ปัจจุบันเปิดรับคณะประชุมดูงานด้วยการนำเสนอเสน่ห์ผ้าทอ ผลิตภัณฑ์จักสาน พร้อมบริการอาหารประจำถิ่นอย่าง ต้มไก่ใบหม่อน ดักแด้ทอดสมุนไพร ปลานึ่งสมุนไพร และปิดท้ายด้วยข้าวต้มหัวหงอก
ทั้งนี้ TCEB ได้ร่วมทำงานกับบ้านดงบังแบบครบวงจร ร่วมพัฒนากิจกรรมของชุมชนดึงเสน่ห์ซึ่งเป็นจุดขายน่าสนใจมาเชิญชวนกลุ่มนักเดินทางไมซ์เข้าไปใช้จ่ายเงิน โดยได้ให้องค์ความรู้ด้านการพัฒนามาตรฐาน ส่งเสริมการขาย ผ่านคู่มือกิจกรรม ไอเดียสร้างสรรค์เส้นทางสายไมซ์ 7-theme เพื่อขยายการรับรู้สู่ตลาดกลุ่มประชุมในประเทศ และต่างประเทศในอนาคตต่อไป
ช่วงที่ 2 เที่ยวเมืองโบราณใกล้กรุงในสุพรรณบุรี เปิดประวัติศาสตร์ “เมืองอู่ทอง” กรุพระดัง แล้วไปนอนชมทะเลหมอกเขาวง สูดโอโซนบริสุทธิ์อุทยานพุเตย แล้วป้องกันภัย “ล้างพิษดิจิตอล” ด้วย 5 วิธี ง่าย ๆ แล้วฟังข่าว “รัฐมนตรีวีระศักดิ์” ยืนยันอย่าตื่นตระหนกทัวร์จีนปี’61โตทั้งรายได้และจำนวน 10-15 % “บางกอกแอร์” เปิดบินใหม่เพิ่มอีก 1 เส้นทาง กรุงเทพฯ-ญาจาง (เวียดนาม) 25 มกราคม 2562 เป็นต้นไป เข้าไปดูตั๋วโปรแรง ไป-กลับ เริ่ม 5,000 บาท และการบินไทย ดิ้นทุกทางเพิ่มรายได้ หันเปิดสำนักงานในสต็อกโฮมอีกครั้ง และจับมืออะเมซอน ปตท.ผลิตเบเกอรี่อาหารพร้อมรับประทานขายทั่วกรุง
@ชมเมืองเก่าอู่ทอง-ทะเลหมอกพุเตย” สุพรรณบุรี
ชวนไปเปิดเมืองรองท่องเที่ยวเมืองใกล้กรุง กันที่ “อู่ทอง” จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อครั้งอดีตเมืองนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ที่ยังปรากฏร่องรอยให้เห็น สัมผัสได้ผ่านโบราณสถานสำคัญในปัจจุบันนี้ เริ่มจาก “ผังเมืองรูปวงรี” มีคูคันดินล้อมรอบ พร้อมกับหลักฐานจากบรรพบุรุษไทยส่งต่อกันมาเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้อย่าง ขวาน หินขัด ลูกปัด ภาชนะดินเผา สำริด
ในเมืองอู่ทองยุคนี้มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ “หลวงพ่ออู่ทอง” ที่นักท่องเที่ยวต้องสักการะสักครั้ง แกะสลักอยู่บนหน้าผาขนาดใหญ่สุดในโลก หรือจะไปชม “วัดเขาทำเทียบ” สันนิษฐานว่าเป็นวัดแรกที่สร้างในเมืองไทยก่อตั้งจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานได้ 300 ปี “วัดเขาถ้ำเสือ” เป็นอีกแห่งที่บรรดาเซียนพระทั่วฟ้าเมืองไทยกล่าวขวัญถึงอย่างมาก
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติในสุพรรณบุรี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แนะนำให้ไปชม “อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง” เป็นทะเลสาบกลางหุบเขา ช่วงหน้าหนาวจะสวยมากเพราะมีทะเลหมอกมาหยอกเย้าทุกเช้ามืด จนได้ชื่อว่าเป็นปางอุ๋งแห่งเมืองสุพรรณบุรี เมื่อไปถึงนักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมกับชุมชน หรือพายเรือคายัคสูดโอโซนธรรมชาติ หรือจะพกเบ็ดไปตกปลาเพลิน ๆ ก็ได้
หรือจะไป “อุทยานแห่งชาติพุเตย” เป็นแหล่งธรรมชาติเหมาะท่องเที่ยวหน้าหนาวอีกแห่ง สามารถไปกางเต็นต์ท่ามกลางป่าสนสองใบ ฟังเสียงน้ำในลำธารไหลริน และดูวิถีชีวิตชาวกระเหรี่ยงตะเพิ่นคี่ ก็ได้ความสุขสดชื่นอีกแบบ
ถ้าชอบพิพิธภัณฑ์ก็แวะไปได้ที่ “พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร” ในอุทยานมังกรสวรรค์ สร้างขึ้นฉลองความสัมพันธ์ทางการฑูตของไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน สามารถเดินไปสักการะศาลหลักเมือง ชมหมู่บ้านมังกรสวรรค์ ได้ในบรรยากาศสบาย ๆ
เที่ยวใกล้กรุงจากเมืองโบราณอู่ทอง ไหว้พระ พักแรมกลางหุบเขา เรื่อยไปจนถึงดื่มด่ำวัฒนธรรมความสัมพันธ์อันดีงามในพิพิธภัณฑ์ เท่านี้ก็สุขใจแล้ว ออกไปท่องเที่ยวเมืองรอง นำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษีกันได้ก่อน 31 ธันวาคม นี้
@วิธีล้างพิษดิจิตอลในยุคสังคมสื่อสารสุดไฮเทค
ทุกวันนี้เครื่องมือดิจิทัลนั้นมีประโยชน์แต่ถ้าใช้มากเกินไป อาจเกิดผลเสียต่อร่างกายและจิตใจได้ จึงควรหาเวลาคืนสมดุลสู่ชีวิตด้วยการใช้เครื่องมือดิจิทัลให้น้อยลง แล้วออกไปทำกิจกรรมอื่นๆ ให้มากขึ้น ดังนี้
1.ทำงานอดิเรกให้มือไม่ว่าง วาดรูป เย็บปักถักร้อย ทำงานช่าง หรืองานฝีมือต่างๆ
2.ปลอดดิจิทัลก่อนนอน ปิดมือถือ แท็ปเล็ต หรือเครื่องมือดิจิทัลทุกชนิดก่อนนอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ยิ่งปิดได้นานเท่าไหร่ยิ่งช่วยให้นอนหลับสบายยิ่งขึ้น
3.ทำกิจกรรมกลางแจ้ง ออกไปเดินหรือวิ่งในสวน ออกไปปิคนิคในสวนกับครอบครัว พาน้องหมาไปเดินเล่น พาลูกๆ ออกไปวิ่งเล่นในหมู่บ้าน
4.ชั่วโมงปลอดดิจิทัล กำหนดเวลาวันละอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง หยุดใช้เครื่องมือดิจิทัลทุกอย่าง
5.วันปลอดดิจิทัล ในรอบ 1 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน ให้มี 1 วันที่ปลอดจากมือถือและเครื่องมือดิจิทัลทุกชนิด
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “รมว.วีระศักดิ์คุยเอกชนจีนโต-รอนายกตั้งปลัดใหม่”
ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้สรุปสถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวจีนตลอด 10 เดือน มกราคม-ตุลาคม 2561 มีจำนวนเกือบ 10 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10 % ส่วนรายได้เพิ่มถึง 15 % จึงมีความมั่นใจโดยภาพรวมตลอดทั้งปีสามารถรักษาความเป็นประเทศยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีนไว้ได้ โดยเฉพาะช่วง 2 เดือนหลัง พฤศจิกายน-ธันวาคม นี้ เป็นช่วงฤดูกาลเดินทางนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นกว่าทุกเดือน
ล่าสุดได้หารือกับผู้ประกอบการภาคเอกชนท่องเที่ยว ประเมินสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทย ยังมีศักยภาพมีตลาดกลุ่มกำลังซื้อสูงเดินทางอิสระ (F.I.T.) ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงตามที่หลายฝ่ายวิตกกังวล
ส่วนเรื่องที่นายพงศ์ภาณุ เศวตนันท์ ยื่นใบลาออกโดยมีผลวันที่ 9 ธันวาคม 2561 หลังจากนั้นก็จะต้องรอนายกรัฐมนตรีพิจารณาผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้ามานั่งเป็นปลัดคนต่อไป เนื่องจากการแต่งตั้งข้าราชการ ซี 11 นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไม่มีอำนาจ ตามระเบียบจะต้องพิจารณาแต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรีเท่านั้น
และเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ยังได้หารือกับหน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคมทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ในเรื่องการบริหารตารางเครื่องบินเข้า การบริหารหลุมจอด, การคิดค่าเครื่องบินขึ้นลง เรื่องใบอนุญาตขับขี่ชั่วคราวที่นักท่องเที่ยวยื่นขอได้ การลงโทษเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถและมอเตอร์ไซค์ที่ยินยอมให้ผู้ไม่มีใบอนุญาตขับขี่นำไปขับ มีโทษปรับสองพันบาท ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ 2522 ม.56 การดำเนินการเรื่องขนส่งทางน้ำ และการกู้เรือและส่งมอบเรือฟีนิกซ์ การจัดระบบท่าเรือโดยสารและการจดทะเบียนเรือโดยสารประจำทาง เพื่อนำไปปรับปรุงการทำงานร่วมกันให้เกิดประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ทำให้เมืองไทยได้รับความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ
ข่าวที่สอง “บางกอกแอร์บินใหม่ญาจางเวียดนาม25มค.62”
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กล่าวว่า ได้เปิดเส้นทางบินใหม่ กรุงเทพฯ-ญาจางเมืองตากอากาศชายทะเลตั้งอยู่ทางภาคกลางของเวียดนาม มีแบรนด์โรงแรมระดับ 5 หรือ 6 ดาว บริการอยู่และมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต จึงเชื่อมั่นจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของทั่วโลก
จึงได้เปิดบินตรง เริ่ม 25 มกราคม 2562 เป็นต้นไป สัปดาห์ละ 4 เที่ยว ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์ ด้วยเครื่องบินแอร์บัส A319 ขนาด 144 ที่นั่ง โดยเที่ยวบินขาไป PG993 ออกจากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) เวลา 10.20น. ถึงญาจาง เวลา 12.05น. เที่ยวบินขากลับ PG994 ออกจากญาจาง เวลา 12.55น. ถึงกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) เวลา 14.40น.
ช่วงเริ่มต้นบินระห่างนี้ได้จัดทำตั๋วโดยสารราคาโปรโมชั่น ไป-กลับ กรุงเทพฯ-ญาจาง เริ่มต้นเพียง 5,915 บาท สำรองที่นั่งได้ที่ www.bangkokair.com หรือโทร. 1771
ข่าวที่สาม “บินไทยเปิดสต็อกโฮม-ลุยขายอาหารในอเมซอนปตท.”
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ได้เปิดสำนักงานแห่งใหม่ ในเมืองสตอกโฮล์ม สวีเดน ซึ่งทำการตลาดบินมา 32 ปี โดยทำการบินครั้งแรกเมื่อ 30 ตุลาคม 2529 และการกลับมาเปิดสำนักงานอีกครั้งก็เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของการบินไทยให้มีความทันสมัย โดยมีสถานที่ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟใจกลางเมือง จึงมีความสะดวกสบายในการเดินทางมาติดต่อด้วย
ทางด้าน นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามเอ็มโอยูกับจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (PTTOR) ทำโครงการนำเบเกอรี่จากครัวการบินไปวางจำหน่ายในร้าน Café Amazon ของ ปตท.ภายในปี 2561 จะขยายให้ครบ 17 สาขา จากนั้นปี 2562 จะทยอยวางในกรุงเทพฯ ให้ครบ 70 สาขา
สินค้าการบินไทยที่นำไปวางขายเป็นประเภท แซนวิช เบเกอรี่ สลัด และอาหารพร้อมทานกว่า 20 ชนิด ภายใต้แบรนด์ “ THAI Catering” ตามร้าน Café Amazon ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ย่านถนนวิภาวดีรังสิต ดอนเมือง และถนนพหลโยธิน
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.97.0 MHz.
บูมขายท่องเที่ยว9จังหวัด”สนุก-ตื่นเต้น-ท้าทาย”
คิงเพาเวอร์มอบห้องน้ำน่านเมืองทัวร์พุ่งล้านคน
ททท.ปลุกแม่ฮ่องสอนผ่อนคลายโกย5พันล้าน
บางจากจ่อร่วมทุนสหกรณ์ผุด”โรงกลั่นชีวภาพ”
TCEBปั้นเชียงใหม่ไมซ์ซิตี้เปิดจุดขาย6เส้นทาง
เปิดชุมชนบ้านดงบังขอนแก่นรับไมซ์ซิตี้อินเตอร์
ทัวร์เมืองโบราณอู่ทอง-ชมทะเลหมอกหุบเขาวง
แนะเทคนิคการล้างพิษดิจิตอลก่อนสุขภาพพัง
รมว.วีระศักดิ์ยันทัวร์จีนปี61รายได้โตทะลุ15%
จับตานายกฯ ตั้งปลัดใหม่กระทรวงท่องเที่ยว
บางกอกแอร์บินใหม่ญาจางเวียดนาม25มค.62
บินไทยดิ้นเพิ่มรายได้-ขายเบเกอรี่อาหารในปั๊ม
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97
ช่วงที่ 1 ต้องฟังกลยุทธ์ More Fun จาก “คุณวิบูลย์ นิมิตรวานิช” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับการพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยว 9 จังหวัด ให้กลายเป็นเมือง “สนุกกว่า-ตื่นเต้นกว่า-ท้าทายกว่า” ทั้งโซน Active Beach 4 จังหวัดริมทะเลอ่าวไทย 3 จังหวัดซีกใกล้เขาที่พร้อมจะเปิดโลก Adventure และ 2 จังหวัดศูนย์รวมความศรัทธา ของกินอร่อย ตลาดร้อยปีเพียบ เพื่อจะสร้างสีสันทำให้เกิดการกระจายเม็ดเงินสู่ “ชุมชน” มีรายได้เพิ่ม ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความยั่งยืนทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม
วิบูลย์ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการ ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก |
ปี 2562 จะต้องทำการท่องเที่ยวให้ตอบโจทก์ สร้างและกระจายรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่ละปีในปัจจุบันและอนาคต จะต้องเพิ่มจำนวนวันพัก ควบคู่การเปลี่ยนพฤติกรรมให้คนหันมาเพิ่มการท่องเที่ยววันธรรมดา เช่น พัทยา จะปรับให้เป็น Luxprerient สวนนงนุช ซิลเวอร์เลค หรือจะไปทำกิจกรรมในอลาคัมปาณ เก็บไข่ ปลูกต้นไม้ และการล่องเรือยอร์ช กลุ่มผู้ใหญ่ก็ไปออนเซน สปา โอนิมูริ มีสถานที่ใหม่เป็นทางเลือก สามารถเพิ่มค่าใช้จ่ายแต่ละวันต่อทริปได้
ระยอง จัดกิจกรรมชุมชน ชาวประมงทำซั้งเชือก ทำธนาคารปู หรือการไปทุ่งโปรงทอง และพิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง นำบ้านเก่ามาออกแบบจำลองสถานที่ในชุมชนไว้ในบ้าน และสุขทุกวันที่จันทบุรี ซึ่งเป็นเมืองรองมีอาหารการกินดี ชุมชนเป็นเลิศ สวนผลไม้ ทั้งในตัวเมือง อำเภอท่าใหม่มีชุมชนท่าใหม่ ชุมชนเขาบายศรีโด่งดังเรื่องทุเรียนทอด สามารถท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปสู่เส้นทางเฉลิมบูรพาชลทิศ มีหาดเจ้าหลาว สามารถไปทำกิจกรรมสร้างอีเปะบ้านหอยนางรมที่อ่าวคุ้งกระเบน การเพาะพันธุ์ปลาต่าง ๆ หรือจะเป็นตลาดทุบหม้อวัดพลับ ที่บางกะจะ มีความน่าสนใจอย่างมาก เรื่อยไปจนถึงแหล่งกำเนิดการผลิตพลอย
ส่วนอำเภอขลุง ก็มีชุมชนตะปอน เด่นเรื่องการ..พระบาทช่วงสงกรานต์ ภายในบริเวณตลาดขนาดเล็กเปิดขายวันเสาร์ นำพืชผักผลไม้ท้องถิ่นมาจำหน่ายช่วงบ่าย 2 เป็นต้นไป ส่วนอีกแห่งเป็นชุมชนหนองบัวแหล่งขนมแปลก สารพัดอาหาร
จังหวัดตราด เป็นพื้นที่รวมชุมชน เช่น บ้านน้ำเชี่ยว บ้านยายม่อมแหล่งทรายดำ ชุมชนท่าระแนะ พื้นที่ท่องเที่ยวป่าโกงกาง มีหอยพอกหอยตะโก โดยมีการเชื่อมโยงมากขึ้น นอกเหนือจากเกาะช้าง เลี้ยวซ้ายไปยังบ้านสลักคอก ชุมชนน่ารัก ๆ สามารถไปนั่งเรือมาตร ดินเนอร์เก๋ ๆ ทางชุมชนจะมีบริการ ขณะเดียวกันเลี้ยวขวาเป็นแหล่งท่องเที่ยวบันเทิง โรงแรม ที่พักทันสมัย ทำกิจกรรมชายหาดได้
เมื่อไปถึงเมืองตราดสถานที่ต้องห้ามพลาดคือ พิพิธภัณฑ์เมืองตราด ศูนย์รวมข้อมูลทั้งหมด แล้วไปยังตัวเมืองวัดบุปผาราม และวัดต่าง ๆ ต่อเนื่องไปถึงพื้นที่รอยต่อดทางทะเลติดกัมพูชา บริเวณบ้านหาดเล็ก หาดบานชื่น คล้ายบางแสนเมื่อ 20 ปีก่อน ปี 2562 เตรียมขยายการทำกิจกรรม เจาะกลุ่มคอปอเรต สามารถไปจัดประชุม สัมมนา ทำ Outing
แต่ละพื้นที่มีความพร้อม โดยเฉพาะในพัทยาเป็นไมซ์ซิตี้ มีศูนย์ประชุมใหม่ ๆ
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวเชิงผจญภัยในนครนายก ปราจีนบุรี แก่งหินเพลิงล่องแก่งช่วงเดือนสิงหาคม ส่วนปราจีนบุรี จะเน้นเรื่อง Health & Wellness มีโรงพยาบาลอภัยภูเบศร์มีชื่อเสียงทางด้านการพัฒนาสมุนไพรไทยเพื่อสุขภาพ ความงาม มากมาย เป็นบริการระดับพรีเมี่ยม แล้วยังมีบ้านตะเกียง การทำ D.I.Y.สวนมือถือบ้านดงบัง สามารถทำสวนแล้วนำกลับบ้านได้ด้วย ประวัติความเป็นมาของวัดแก้วจิก ขณะเดียวกันมีเรื่องของ ทับลาน เป็นชุมชนสานกระบุง ตะกร้า และ ห้วยโสมงเป็นโครงการพระราชดำริอ่างเก็บน้ำ สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้
จังหวัดสระแก้ว จะมีปราสาทสะด็อกก๊อกธม บูรณะขึ้นมาใหม่อย่างสวยงามอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีโรงเรียนกาสรณ์กสิวิทย์สอนควายให้ไถนา สมเด็จพระนางเจ้าฯ มีดำริให้สร้างโรงเรียนควายไถนา มีกิจกรรมทำนา การทำบ้านดิน อาหารการกิน ใช้เวลาครึ่งวันในกลุ่มเพื่อนฝูงและครอบครัว ภายในโรงเรียนมีกาแฟเด็ดเป็นเอกลักษณ์คือ เมนูควายคะนอง ควายเผือก
จังหวัดฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ เน้นอาหารการกิน บวกกับเส้นทางท่องเที่ยวด้านความศรัทธา พระพุทธโสธร หลวงพ่อโต พระฆิคเนศ มาชมและขอพรได้ อีกทั้งยังมีสวนมะม่วง บางคล้า สวนมะพร้าว และตลาด 100 ปีต่างๆ ได้แก่ ตลาดคลองสวน ตลาดท่าใหม่ ตลาดนครเนื่องเขตต์ รวมกันแล้วเกือบ 400 ปี แล้วยังมีวิถีชีวิตชุมชนริมน้ำบางปะกง ชุมชนบางกะเจ้า ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง อาหารอร่อย ราคาไม่แพง ใกล้กรุงเทพฯ
ส่วนสมุทรปราการมี เมกะบางนา จัดทำกิจกรรมใหม่ ซูเปอร์ฮีโร่ เหมาะกับตลาดเด็กและผู้ใหญ่ที่เป็นแฟนคลับ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางปั่นจักรยานท่องเที่ยวที่สวยงาม
สำหรับช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เหมาะทุกพื้นที่ ชอบทะเลก็ไปทางพัทยา จันทบุรี ระยอง ตราด ผจญภัยไปนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ส่วนเส้นทางอาหารและศรัทธา ต้องแวะฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ หากชื่นชอบความท้าทายต้องไปชมเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ เป็นรัศมีการเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมง
พื้นที่การท่องเที่ยวในภูมิภาคตะวันออกนั้นจะมี More Fun รูปแบบต่าง ๆ เรื่อง สนุกกับการกิน More Play สนุกกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ More Stay พักผ่อนตามที่พักตามชอบในรีสอร์ตหรู ระดับกลาง และการท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งมีความหลากหลายให้เลือกท่องเที่ยวโดยไม่จำเจเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์มอบห้องน้ำจ.น่านเมืองทัวร์ล้านคน
ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การจัดทำโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย สุขา สุขใจ” ระหว่าง กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 ได้ส่งมอบแห่งที่ 3 ในภาคเหนือ ที่สวนสาธารณะศรีเมือง จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวรองที่ได้รับความนิยมสูง จำนวน 6 ห้อง เป็นของขวัญปีใหม่และต้อนรับการเดินทางช่วงหน้าหนาวของนักท่องเที่ยวชื่นชอบเดินมาสัมผัสธรรมชาติ อากาศ และวิถีชีชีวิตชาวล้านนา ทำให้ห้องน้ำเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป รวมทั้งทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยังได้สร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียม ขนาด 7 คน มอบให้ชาวเมืองน่าน เพื่อส่งเสริมทางด้านการกีฬาด้วยเช่นกัน
ขณะนี้น่านเป็นจังหวัดที่ได้รับรางวัลเมืองน่าสะอาดอันดับ 1 ของอาเซียน รวมทั้งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวตลอด 10 เดือน ปี 2561 รวมกว่า 900,000 คน ตลอดปีนี้คาดจะมีจำนวนรวมเกิน 1,000,000 คน เพิ่มเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10 % ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กำลังจะผลักดันให้ขึ้นเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางองค์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ได้เข้ามาวางรากฐานให้แต่ละชุมชนดูแลรักษาวัฒนธรรมอันดีงามไว้อย่างเข้มแข็งสามารถรับมือกับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก ด้วยการดูแลมาตรฐานความเป็นล้านนาและสินค้าชุมชนไว้ เพื่อทำให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
โดยมีสินค้าชุมชนซึ่งเป็นตัวอย่างสำคัญคือ “ผ้าย้อมคราม” หลังจากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำไปผลิตภัณฑ์ของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ก็ทำให้มูลค่าของสินค้าขยับสูงขึ้นสามารถจำหน่ายได้ราคาดีเพิ่มขึ้นเกิน 100 % นับจากนี้เป็นต้นไปกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเข้ามาเสริมความแช็งแกร่งของสินค้าชุมชนเพิ่มขึ้นด้วยการใส่ดีไซน์ในแพกเกจให้เป็นสากล เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนใช้จ่ายเงินซื้อเพิ่มมากขึ้นทุกปี
รวมทั้งน่านได้รับการพัฒนาเส้นทางคมนาคมทางถนนเชื่อมเข้าไปสู่เมืองมรดกโลกหลวงพระบาง สปป.ลาว ซึ่งกำลังขยายการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่าง 2 เมือง 2 ประเทศ อย่างเป็นรูปธรรม สร้างการท่องเที่ยวให้เกิดความคึกคักทำการตลาดสู่นานาชาติที่มีคุณภาพเป็นจุดขายของไทยต่อไป
ระหว่างการทำพิธีส่งมอบ ดร.วีระศักดิ์ ได้ขอให้ผู้เข้าร่วมงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สื่อมวลชน ที่เข้าร่วมงานส่งมอบห้องน้ำ ณ สวนสาธารณะศรีเมือง จ.น่าน ร่วมกันยืนไว้อาลัยให้แก่ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะในโครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย มาตลอดกว่า 20 ปี
ทางด้าน “นางเนตรชนก ทวีศรี” ที่ปรึกษากลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่าทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มุ่งพัฒนาโครงการคืนประโยชน์สู่สังคม (CSR) โดยได้จัดทำกิจกรรมภายใต้ KING POWER THAI POWER พลังคนไทย ส่งเสริมสนับสนุนชุมชนไทยให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ผนวกกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีนโยบายส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของแหล่งท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สนับสนุนการยกระดับมาตรฐานห้องน้ำในแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ทางกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ จึงได้เข้าร่วมมือก่อสร้างทั่วประเทศ 10 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท เน้นรูปแบบสากล ‘Universal Design’ มีทางลาดสำหรับผู้พิการ ประตูถูกออกแบบเป็นบานเลื่อนเพื่อตอบโจทย์ สำหรับเด็ก คนชรา รวมถึงผู้พิการ สามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัยทั้ง ชาย หญิง ผู้สูงวัย ผู้พิการ เหมาะเป็นห้องน้ำของทุกคน มีความสะอาด สะดวก ปลอดภัย ได้เอกลักษณ์และยั่งยืน และเมื่อสร้างเสร็จส่งมอบเรียบร้อยจะให้ทางชุมชนแต่ละพื้นที่เป็นผู้ดูแล
นายนิวัฒน์ งามธุระ ปลัดจังหวัดน่าน กล่าวว่า สวนสาธารณะศรีเมือง แต่ละปีมีผู้ใช้บริการเป็นกลุ่มคนท้องถิ่น เด็ก คนชรา และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก รวมทั้งเป็นสถานที่ออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจของคนทั้งจังหวัด การมีห้องน้ำที่มีความสะดวกสบาย และการออกแบบที่เป็นสากล จะสร้างความพึงพอใจและประทับใจแก่นักท่องเที่ยว ในฐานะตัวแทนชาวน่านขอขอบคุณกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่นำโครงการดีเช่นนี้คือ ‘พลังคนไทย สุขา สุขใจ’ ช่วยสร้างประโยชน์ สร้างความสุขให้ชุมชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จะเป็นส่วนหนึ่งทำให้กลับมาเยือนเมืองน่านอีกครั้ง
ทั้งนี้การจัดทำโครงการส่งมอบห้องน้ำตามจังหวัดต่าง ๆ ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานั้น มีเป้าหมายเพื่อต้องการยกระดับคุณภาพสาธารณูปโภค และสร้างมาตรฐานด้านความสะอาดของห้องน้ำในแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ ให้ทัดเทียมระดับสากล ช่วงปี 2561 ลงทุนก่อสร้างและส่งไปเรียบร้อยแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ แห่งที่ 1 สุขา สุขใจ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ส่งมอบเมื่อ 26 เมษายน แห่งที่ 2 สุขา สุขใจ สวนสาธารณะทุ่งศรีเมือง จ. อุบลราชธานี ส่งมอบเมื่อ เมื่อวันที่ 20 กรกฏาคม แห่งที่ 3 คือ สวนสาธารณะศรีเมือง จ.น่าน ส่งมอบเมื่อ 29 พฤศจิกายน จากนั้นในปี 2562 จะทยอยก่อสร้างให้แล้วเสร็จและส่งมอบตามจังหวัดท่องเที่ยวทั่วประเทศให้ครบ 10 แห่ง
ข่าวที่ 2 “ททท.ดันแม่ฮ่องสอนผ่อนคลายโกย5พันล้าน”
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อ านวยการฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ส่งมอบโครงการ “แม่ฮ่องสอน ผ่อนคลาย - Relaxing Mae Hong Son” ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนนำไปต่อยอดด้วยจุดขายที่ ททท.ประชาสัมพันธ์เผยแพร่อย่างกว้างขวาง เพราะตามคาดการณ์ปี 2561 แม่ฮ่องสอนจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวปีชาวไทย โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y และกลุ่มศักยภาพ เดินทางเข้ามา และมีเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท
ดังนั้นจึงได้จัดทำโครงการภายใต้ธีม “แม่ฮ่องสอน ผ่อนคลาย” เน้นจุดขายเด่น ๆ 5 อา ได้แก่ อากาศ อาหาร อาราม อารมณ์ และอายุวัฒนะ เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวใน 55 จังหวัดเมืองรอง ในโครงการ “ชุมชนเติบใหญ่ เมืองไทยเติบโต -Amazing Thailand Go Local” เพื่อยกระดับความเป็นอยู่คนท้องถิ่นให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นปลุกกระแสการท่องเที่ยวชุมชนผสมผสานภูมิปัญญาที่ได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น และการต่อยอดเรื่องราววัฒนธรรมประเพณีให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและมีจุดเด่นดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ
โครงการนี้ ททท.ได้จัดทำข้อมูลสินค้าการท่องเที่ยวและออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อส่งเสริมศักยภาพด้านการตลาดการท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมทั้งยังแนะนำผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์จาก 3 ชุมชน ได้แก่ ถั่วลายเสือ ถั่วคั่ว งาคั่ว บ้านผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน กาแฟดูลาเปอร์ จากวิสาหกิจชุมชนดูลาเปอร์ อ.แม่ลาน้อย และของที่ระลึก เสื้อไตบ้านเมืองปอน อ.ขุนยวม ส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นให้มี มูลค่าและสร้างรายได้เพื่อสร้างความเข้มแข็งสู่ชุมชน พร้อมจัดทำคู่มือแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวเลือกเดินทางได้สอดคล้องกับตัวเอง เช่น Fly & Drive จากเชียงใหม่และตากมายังแม่ฮ่องสอน เชื่อมโยงเมืองหลักและเมืองรองเข้าด้วยกัน
ข่าวที่ 3 “รีบเที่ยว55เมืองก่อน31ธ.ค.ลดภาษีได้หมื่นห้า”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ชวนคนไทยออกไป “เที่ยวเมืองรอง ลดหย่อนภาษีได้” ถึง 15,000 บาท ออกไปเที่ยวกันได้ตั้งแต่วันนี้-31 ธันวาคม 2561 กับ 3 ขั้นตอนง่าย ๆ
ขั้นตอนแรก รีบเข้าไปจองซื้อแพกเกจทัวร์หรือออกเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองรองภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2561
ขั้นตอนที่ 2 ขอใบกำกับภาษี หรือ ใบเสร็จรับเงิน ค่าที่พัก จากโรงแรม โฮมสเตย์ เรียกว่า ค่าบริการนำเที่ยว จากผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมาย จะต้องตรวจความถูกต้องในใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินให้ถูกต้อง ว่าเขียนรายละเอียดครบถ้วนชัดเจน ทั้ง ชื่อ นามสกุล ของผู้เสียภาษี จำนวนเงิน วัน-เดือน-ปี ที่จ่ายเงินจริง
ขั้นตอนที่ 3 นำเอกสาร ใบกำกับภาษี หรือ ใบเสร็จรับเงิน ค่าที่พัก จากโรงแรม โฮมสเตย์ ไปยื่นลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 2561
สามารถเข้าไปค้นหารายชื่อเมืองท่องเที่ยวรองทั่วประเทศทั้ง 55 จังหวัดได้ที่ www.tourismthailand.org/global ไดตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวที่ 4 “บางจากจ่อปี62ร่วมทุนสหกรณ์ตั้งโรงกลั่นชีวภาพ”
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2562 จะมุ่งพัฒนาความร่วมมือกับสหกรณ์การเกษตรทั่วประเทศเพื่อสร้างโรงกลั่นชีวภาพกระจายทั่วทุกภาคจองประเทศ โดยขณะนี้ทางกลุ่มบางจากเห็นความชัดเจนของการตั้งโรงกลั่นชีวภาพได้ในปีหน้า จากปัจจุบันเข้าไปศึกษาค่อนข้างมากแล้ว ทั้งเรื่องตลาด ผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาต่อยอด จากผลิตชานอ้อย น้ำตาล มันสำปะหลัง ปาล์ม สาหร่าย เศษไม้ยางพารา
รูปแบบการลงทุนเบื้องต้นกำลังพิจารณาใช้แนวทางการร่วมลงทุนกับสหรกณ์การเกษตรสร้างโรงงานขนาดที่ไม่ใหญ่ตามพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อสกัดวัตถุดิบป้อนโรงกลั่นชีวภาพในพื้นที่เขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) แล้วต่อยอดไปใช้ผลิตผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้ เช่น ไบโอพลาสติก
ครงการโรงกลั่นชีวภาพคาดจะใช้เงินลงทุน 4,000-5,000 ล้านบาท รวมอยู่กับแผนการดำเนินงาน 4 ปี ระหว่างปี 2562-2565 ที่ได้ตั้งงบลงทุนรวมไว้ 77,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาและขยายธุรกิจกลุ่มบางจาก หรืออาจจะใช้เงินที่ได้จากการระดมทุน (IPO) ของ บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพกำลังอยู่ในขั้นตอนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปีหน้า ส่วนเวลาการก่อสร้างโรงกลั่นชีวภาพจะประมาณ 3-4 ปี
ข่าวที่ 5 “TCEBดันเชียงใหม่ไมซ์ซิตี้เปิดขาย6เส้นทางปีหน้า”
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า “TCEB” เปิดเผยว่า ปี 2562 ได้วางแนวนโยบายอุตสาหกรรมไมซ์ด้วยแนวทางการผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และชุมชน เพื่อให้อุตสาหกรรมไมซ์เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจและช่วยกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นตามนโยบายรัฐบาล สอดคล้องตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ.2561-2564) ในยุทธศาสตร์ที่ 9 การพัฒนาภาคเมือง และพื้นที่เศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคเหนือตั้งเป้าวางรากฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์มูลค่าสูง โดยตั้งเป้าจะทำให้เชียงใหม่เป็น “ไมซ์ ซิตี้ เต็มรูปแบบครบวงจร” ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป
หลังจากเมื่อปี 2559 เชียงใหม่มีการจัดประชุมนานาชาติเป็นอันดับที่ 2 รวมทั้งหมด 20 ครั้ง ปี 2560 มีจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์และรายได้ไมซ์จากตลาดต่างประเทศ 50,881 คน สร้างรายได้ 4,700.38 ล้านบาท และไมซ์ในประเทศไทยเข้าร่วม 2,210,000 คน สร้างรายได้ 4,914.53 ล้านบาท
นายจิรุตถ์กล่าวว่าล่าสุดระหว่าง 28-29 พฤศจิกายน 2561 ได้นำทีมสื่อและผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่ทำกิจกรรมแนะนำเผยแพร่ไมซ์ ในเชียงใหม่ และชุมชนต้นแบบชุมชนบ้านออนใต้ ต้นแบบโครงการหมู่บ้าน CIV พร้อมกับตอกย้ำถึงตัวอย่างความร่วมมือกับชุมชนสหกรณ์ทั่วประเทศ 35 แห่ง พัฒนาศักยภาพเพื่อให้เป็นจุดหมายปลายทางใหม่รองรับการจัดงานไมซ์รูปแบบใหม่ ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาค สนับสนุนให้ชุมชนท้องถิ่นที่มีความพร้อมสู่การรองรับธุรกิจการจัดงานไมซ์ โดยเฉพาะในเรื่องการเป็นสถานที่ศึกษาดูงาน กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับชุมชน หรือจัดกิจกรรมพิเศษตามวาระโอกาสขององค์กรธุรกิจต่าง ๆ ด้วยจุดแข็งด้านความคิดสร้างสรรค์บนพื้นฐานทรัพยากรและอัตลักษณ์ของแต่ละชุมชน ซึ่งจะสามารถเป็นช่องทางใหม่ด้านรายได้แก่สหกรณ์ได้ ซึ่งเชียงใหม่มีสหกรณ์ที่มีความพร้อมดำเนินงานดังกล่าว ได้แก่ สหกรณ์นิคมแม่แตงจำกัด และสหกรณ์การเกษตรดอยสะเก็ดพัฒนา จำกัด ที่จะเป็นพื้นที่นำร่องในการนำเอางานเพื่อสังคมของภาคเอกชนเข้าไปจัดกิจกรรมได้
“การส่งเสริมให้เกิดการศึกษาดูงานในชุมชน นับเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะสร้างรายได้ให้กับชุมชน โดยมีสหกรณ์การเกษตรเป็นศูนย์กลางของชุมชน เป็นตัวกลางประสานงานรวบรวมสินค้าพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ทั้งสินค้าประเภทอาหาร ขนมพื้นบ้าน สินค้าเกษตรแปรรูปและอื่น ๆ ที่ชุมชนภาคภูมิใจมาเล่าสู่ผู้ที่เข้าไปศึกษาดูงาน ขณะเดียวกันจากการมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างแข็งแกร่ง เป็นการส่งเสริมให้การพัฒนาเชียงใหม่เป็นเมืองไมซ์ซิตี้ศูนย์กลางของภาคเหนืออย่างเต็มรูปแบบ สร้างการมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ”
นายจิรุตถ์กล่าวเพิ่มว่า ได้เปิดจุดขายไมซ์เชียงใหม่เพื่อปลุกกำลังซื้อ องค์กร หน่วยงาน ทั้งภาครัฐ เอกชน นำทีมไปจัดกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ด้วยการสร้างโปรแกรมหลังการประชุมที่เป็นมาตรฐาน ตลอดจนการพัฒนากิจกรรมและการบริการที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ ถือเป็นรูปแบบสำคัญในการขับเคลื่อนเพื่อให้เป้าหมายการกระจายรายได้ผ่านอุตสาหกรรมไมซ์บรรลุผล เนื่องจากเชียงใหม่ได้พัฒนาสินค้าและบริการใหม่ในโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไมซ์ใหม่ในพื้นที่เมืองไมซ์ใน 6 เส้นทางหลัก ได้แก่
1. เส้นทางกิจกรรม CSR และการประชุมเชิงอนุรักษ์ อาทิ สหกรณ์นิคมแม่แตงจำกัด อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก และการเปิดประสบการณ์ผู้เข้าร่วมประชุมให้ได้สัมผัสกับวิถีชุมชนท้องถิ่น ณ ชุมชนบ้านออนใต้ ซึ่งได้รับการพัฒนาให้เป็น “ต้นแบบโครงการหมู่บ้าน CIV” ถือว่าเป็นการนำทุนวัฒนธรรม วิถีชีวิตดั้งเดิม มาผนวกกับความคิดสร้างสรรค์ โดยการออกแบบ สร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ตลอดจนบริการต่าง ๆ ในชุมชน ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมจะได้เรียนรู้ ชมการสาธิตขั้นตอนการสร้างสรรค์ชิ้นงานต่างๆ และทดลองลงมือทำด้วยตนเอง
2.เส้นทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม การเยี่ยมชมสถานที่ที่มีประวัติความเป็นมาและมีความผูกพันทางจิตใจของคนรุ่นหลัง อาทิ บ้านถวาย กิจกรรรมบวชต้นยางนา อ. สารภี ซึ่งเป็นประเพณีโบราณของชาวจังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันเหลือต้นยางนาตั้งแต่เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ไปถึงบ้านปากกองประมาณ 900 กว่าต้นเท่านั้น และการประดิษฐ์โคมและทดลองประดิษฐ์โคมโดยปราชญ์ชาวบ้าน “แม่ครูโคมล้านนา” หรือ“แม่ครูบัวไหล คณะปัญญา” แห่งชุมชนเมืองสาตรหลวง ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มงานหัตถกรรมการทำโคมล้านนาโดยประดิษฐ์ขึ้นจากวัสดุพื้นบ้าน
3.เส้นทางการสร้างทีมเวิร์ค ผ่านกิจกรรมที่ระดมความคิด แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน อาทิ ศูนย์ศึกษาพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า และปันผลฟาร์ม
4.เส้นทางการผจญภัย ที่มีกิจกรรมทางกายภาพ สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ อาทิ อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก
5.เส้นทางกิจกรรมนำเสนออาหารไทย ในทุกการจัดงานที่หลากหลาย เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเดินทาง อาทิ บ้านหัวฝาย ชุมชนบ้านดงบัง เป็นต้น
6.เส้นทางการจัดงานและกิจกรรมหรูหรามีระดับ ซึ่งเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้นในระยะหลังเพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษในกับนักเดินทางกลุ่มไมซ์
ข่าวที่ 6 “TCEBดันดงบังหมู่บ้านผ้ารับไมซ์อินเตอร์"
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ในระหว่างการจัดงานไมซ์นานาชาติ PATA Destination Marketing Forum 2018 ที่ขอนแก่น 1 ใน 5 เมืองไมซ์ ซิตี้ ได้จัดโปรแกรมเชิญหน่วยงานต่าง ๆ ลงสัมผัสกับชุมชนเพื่อเปิดจุดขาย Area Base Tourism ที่บ้านดงบัง ตำบลเขาสวนกวาง ซึ่งเป็นแหล่งวัฒนธรรมผลิตไหมมัดหมี่ วิถีชุมชน อันเป็นภูมิปัญญาทำสืบต่อกันมาหลายร้อยปี
ดงบังเป็นหมู่บ้านชุมชนท่องเที่ยวโอท็อปนวัตวิถีดีเด่นระดับประเทศ ประจำปี 2561ที่ผู้คนใช้ชีวิตอยู่กันอย่างสงบ ผู้ชายทำไร่ ทำนา ผู้หญิงทอผ้าไหม ผ้าฝ้าย เลี้ยงหนอนไหม ทอผ้า ปัจจุบันเปิดรับคณะประชุมดูงานด้วยการนำเสนอเสน่ห์ผ้าทอ ผลิตภัณฑ์จักสาน พร้อมบริการอาหารประจำถิ่นอย่าง ต้มไก่ใบหม่อน ดักแด้ทอดสมุนไพร ปลานึ่งสมุนไพร และปิดท้ายด้วยข้าวต้มหัวหงอก
ทั้งนี้ TCEB ได้ร่วมทำงานกับบ้านดงบังแบบครบวงจร ร่วมพัฒนากิจกรรมของชุมชนดึงเสน่ห์ซึ่งเป็นจุดขายน่าสนใจมาเชิญชวนกลุ่มนักเดินทางไมซ์เข้าไปใช้จ่ายเงิน โดยได้ให้องค์ความรู้ด้านการพัฒนามาตรฐาน ส่งเสริมการขาย ผ่านคู่มือกิจกรรม ไอเดียสร้างสรรค์เส้นทางสายไมซ์ 7-theme เพื่อขยายการรับรู้สู่ตลาดกลุ่มประชุมในประเทศ และต่างประเทศในอนาคตต่อไป
ช่วงที่ 2 เที่ยวเมืองโบราณใกล้กรุงในสุพรรณบุรี เปิดประวัติศาสตร์ “เมืองอู่ทอง” กรุพระดัง แล้วไปนอนชมทะเลหมอกเขาวง สูดโอโซนบริสุทธิ์อุทยานพุเตย แล้วป้องกันภัย “ล้างพิษดิจิตอล” ด้วย 5 วิธี ง่าย ๆ แล้วฟังข่าว “รัฐมนตรีวีระศักดิ์” ยืนยันอย่าตื่นตระหนกทัวร์จีนปี’61โตทั้งรายได้และจำนวน 10-15 % “บางกอกแอร์” เปิดบินใหม่เพิ่มอีก 1 เส้นทาง กรุงเทพฯ-ญาจาง (เวียดนาม) 25 มกราคม 2562 เป็นต้นไป เข้าไปดูตั๋วโปรแรง ไป-กลับ เริ่ม 5,000 บาท และการบินไทย ดิ้นทุกทางเพิ่มรายได้ หันเปิดสำนักงานในสต็อกโฮมอีกครั้ง และจับมืออะเมซอน ปตท.ผลิตเบเกอรี่อาหารพร้อมรับประทานขายทั่วกรุง
@ชมเมืองเก่าอู่ทอง-ทะเลหมอกพุเตย” สุพรรณบุรี
ชวนไปเปิดเมืองรองท่องเที่ยวเมืองใกล้กรุง กันที่ “อู่ทอง” จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อครั้งอดีตเมืองนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ที่ยังปรากฏร่องรอยให้เห็น สัมผัสได้ผ่านโบราณสถานสำคัญในปัจจุบันนี้ เริ่มจาก “ผังเมืองรูปวงรี” มีคูคันดินล้อมรอบ พร้อมกับหลักฐานจากบรรพบุรุษไทยส่งต่อกันมาเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้อย่าง ขวาน หินขัด ลูกปัด ภาชนะดินเผา สำริด
ในเมืองอู่ทองยุคนี้มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ “หลวงพ่ออู่ทอง” ที่นักท่องเที่ยวต้องสักการะสักครั้ง แกะสลักอยู่บนหน้าผาขนาดใหญ่สุดในโลก หรือจะไปชม “วัดเขาทำเทียบ” สันนิษฐานว่าเป็นวัดแรกที่สร้างในเมืองไทยก่อตั้งจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานได้ 300 ปี “วัดเขาถ้ำเสือ” เป็นอีกแห่งที่บรรดาเซียนพระทั่วฟ้าเมืองไทยกล่าวขวัญถึงอย่างมาก
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติในสุพรรณบุรี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แนะนำให้ไปชม “อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง” เป็นทะเลสาบกลางหุบเขา ช่วงหน้าหนาวจะสวยมากเพราะมีทะเลหมอกมาหยอกเย้าทุกเช้ามืด จนได้ชื่อว่าเป็นปางอุ๋งแห่งเมืองสุพรรณบุรี เมื่อไปถึงนักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมกับชุมชน หรือพายเรือคายัคสูดโอโซนธรรมชาติ หรือจะพกเบ็ดไปตกปลาเพลิน ๆ ก็ได้
หรือจะไป “อุทยานแห่งชาติพุเตย” เป็นแหล่งธรรมชาติเหมาะท่องเที่ยวหน้าหนาวอีกแห่ง สามารถไปกางเต็นต์ท่ามกลางป่าสนสองใบ ฟังเสียงน้ำในลำธารไหลริน และดูวิถีชีวิตชาวกระเหรี่ยงตะเพิ่นคี่ ก็ได้ความสุขสดชื่นอีกแบบ
ถ้าชอบพิพิธภัณฑ์ก็แวะไปได้ที่ “พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร” ในอุทยานมังกรสวรรค์ สร้างขึ้นฉลองความสัมพันธ์ทางการฑูตของไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน สามารถเดินไปสักการะศาลหลักเมือง ชมหมู่บ้านมังกรสวรรค์ ได้ในบรรยากาศสบาย ๆ
เที่ยวใกล้กรุงจากเมืองโบราณอู่ทอง ไหว้พระ พักแรมกลางหุบเขา เรื่อยไปจนถึงดื่มด่ำวัฒนธรรมความสัมพันธ์อันดีงามในพิพิธภัณฑ์ เท่านี้ก็สุขใจแล้ว ออกไปท่องเที่ยวเมืองรอง นำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษีกันได้ก่อน 31 ธันวาคม นี้
@วิธีล้างพิษดิจิตอลในยุคสังคมสื่อสารสุดไฮเทค
ทุกวันนี้เครื่องมือดิจิทัลนั้นมีประโยชน์แต่ถ้าใช้มากเกินไป อาจเกิดผลเสียต่อร่างกายและจิตใจได้ จึงควรหาเวลาคืนสมดุลสู่ชีวิตด้วยการใช้เครื่องมือดิจิทัลให้น้อยลง แล้วออกไปทำกิจกรรมอื่นๆ ให้มากขึ้น ดังนี้
1.ทำงานอดิเรกให้มือไม่ว่าง วาดรูป เย็บปักถักร้อย ทำงานช่าง หรืองานฝีมือต่างๆ
2.ปลอดดิจิทัลก่อนนอน ปิดมือถือ แท็ปเล็ต หรือเครื่องมือดิจิทัลทุกชนิดก่อนนอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ยิ่งปิดได้นานเท่าไหร่ยิ่งช่วยให้นอนหลับสบายยิ่งขึ้น
3.ทำกิจกรรมกลางแจ้ง ออกไปเดินหรือวิ่งในสวน ออกไปปิคนิคในสวนกับครอบครัว พาน้องหมาไปเดินเล่น พาลูกๆ ออกไปวิ่งเล่นในหมู่บ้าน
4.ชั่วโมงปลอดดิจิทัล กำหนดเวลาวันละอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง หยุดใช้เครื่องมือดิจิทัลทุกอย่าง
5.วันปลอดดิจิทัล ในรอบ 1 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน ให้มี 1 วันที่ปลอดจากมือถือและเครื่องมือดิจิทัลทุกชนิด
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “รมว.วีระศักดิ์คุยเอกชนจีนโต-รอนายกตั้งปลัดใหม่”
ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้สรุปสถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวจีนตลอด 10 เดือน มกราคม-ตุลาคม 2561 มีจำนวนเกือบ 10 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10 % ส่วนรายได้เพิ่มถึง 15 % จึงมีความมั่นใจโดยภาพรวมตลอดทั้งปีสามารถรักษาความเป็นประเทศยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีนไว้ได้ โดยเฉพาะช่วง 2 เดือนหลัง พฤศจิกายน-ธันวาคม นี้ เป็นช่วงฤดูกาลเดินทางนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นกว่าทุกเดือน
ล่าสุดได้หารือกับผู้ประกอบการภาคเอกชนท่องเที่ยว ประเมินสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทย ยังมีศักยภาพมีตลาดกลุ่มกำลังซื้อสูงเดินทางอิสระ (F.I.T.) ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงตามที่หลายฝ่ายวิตกกังวล
ส่วนเรื่องที่นายพงศ์ภาณุ เศวตนันท์ ยื่นใบลาออกโดยมีผลวันที่ 9 ธันวาคม 2561 หลังจากนั้นก็จะต้องรอนายกรัฐมนตรีพิจารณาผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้ามานั่งเป็นปลัดคนต่อไป เนื่องจากการแต่งตั้งข้าราชการ ซี 11 นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไม่มีอำนาจ ตามระเบียบจะต้องพิจารณาแต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรีเท่านั้น
และเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ยังได้หารือกับหน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคมทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ในเรื่องการบริหารตารางเครื่องบินเข้า การบริหารหลุมจอด, การคิดค่าเครื่องบินขึ้นลง เรื่องใบอนุญาตขับขี่ชั่วคราวที่นักท่องเที่ยวยื่นขอได้ การลงโทษเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถและมอเตอร์ไซค์ที่ยินยอมให้ผู้ไม่มีใบอนุญาตขับขี่นำไปขับ มีโทษปรับสองพันบาท ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ 2522 ม.56 การดำเนินการเรื่องขนส่งทางน้ำ และการกู้เรือและส่งมอบเรือฟีนิกซ์ การจัดระบบท่าเรือโดยสารและการจดทะเบียนเรือโดยสารประจำทาง เพื่อนำไปปรับปรุงการทำงานร่วมกันให้เกิดประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ทำให้เมืองไทยได้รับความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ
ข่าวที่สอง “บางกอกแอร์บินใหม่ญาจางเวียดนาม25มค.62”
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กล่าวว่า ได้เปิดเส้นทางบินใหม่ กรุงเทพฯ-ญาจางเมืองตากอากาศชายทะเลตั้งอยู่ทางภาคกลางของเวียดนาม มีแบรนด์โรงแรมระดับ 5 หรือ 6 ดาว บริการอยู่และมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต จึงเชื่อมั่นจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของทั่วโลก
จึงได้เปิดบินตรง เริ่ม 25 มกราคม 2562 เป็นต้นไป สัปดาห์ละ 4 เที่ยว ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์ ด้วยเครื่องบินแอร์บัส A319 ขนาด 144 ที่นั่ง โดยเที่ยวบินขาไป PG993 ออกจากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) เวลา 10.20น. ถึงญาจาง เวลา 12.05น. เที่ยวบินขากลับ PG994 ออกจากญาจาง เวลา 12.55น. ถึงกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) เวลา 14.40น.
ช่วงเริ่มต้นบินระห่างนี้ได้จัดทำตั๋วโดยสารราคาโปรโมชั่น ไป-กลับ กรุงเทพฯ-ญาจาง เริ่มต้นเพียง 5,915 บาท สำรองที่นั่งได้ที่ www.bangkokair.com หรือโทร. 1771
ข่าวที่สาม “บินไทยเปิดสต็อกโฮม-ลุยขายอาหารในอเมซอนปตท.”
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ได้เปิดสำนักงานแห่งใหม่ ในเมืองสตอกโฮล์ม สวีเดน ซึ่งทำการตลาดบินมา 32 ปี โดยทำการบินครั้งแรกเมื่อ 30 ตุลาคม 2529 และการกลับมาเปิดสำนักงานอีกครั้งก็เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของการบินไทยให้มีความทันสมัย โดยมีสถานที่ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟใจกลางเมือง จึงมีความสะดวกสบายในการเดินทางมาติดต่อด้วย
ทางด้าน นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามเอ็มโอยูกับจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (PTTOR) ทำโครงการนำเบเกอรี่จากครัวการบินไปวางจำหน่ายในร้าน Café Amazon ของ ปตท.ภายในปี 2561 จะขยายให้ครบ 17 สาขา จากนั้นปี 2562 จะทยอยวางในกรุงเทพฯ ให้ครบ 70 สาขา
สินค้าการบินไทยที่นำไปวางขายเป็นประเภท แซนวิช เบเกอรี่ สลัด และอาหารพร้อมทานกว่า 20 ชนิด ภายใต้แบรนด์ “ THAI Catering” ตามร้าน Café Amazon ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ย่านถนนวิภาวดีรังสิต ดอนเมือง และถนนพหลโยธิน
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.97.0 MHz.
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน คอลัมนิสต์และผู้ดำเนินรายการ |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น