เจาะลึกTCEBเปิดโลกใหม่ไมซ์โมเดลปี’62
นำMTEXหัวหอกกระจายเอ็กซิบิชั่นทั่วไทย
คิงเพาเวอร์ลุยคืนประโยชน์3Powerปี’61
ททท.เปิดฟูกูโอกะหวังปี63โกย9หมื่นล้าน
บางจากแจกสมาชิก4สิทธิ์ใหญ่ช่วงปีใหม่
TCEBนำPATAแจ้งเกิดขอนแก่นในเวทีโลก
ทัวร์บึงกาฬรับลมหนาวเมืองสวยแดนอีสาน
แพทย์แนะเลิกอ้วนลงพุงลดเสี่ยงโรคหัวใจ
มหกรรมสังคมสุขใจทั่วไทยแห่ร่วม300บูธ
ททท.จัดใหญ่ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก
กฟน.เปิดแล้วลงทะเบียนใช้ไฟฟรีถึงปี’62
ชมสุดยอดพิพิธภัณฑ์กลางคืน14-16ธ.ค.
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97
ช่วงที่ 1 เจาะลึก “จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา” ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” จะมาเปิดโลกใหม่ของ MICE MODEL ในอุตสาหกรรมไมซ์ปี 2562 ด้วย AREA BASE จัดทัพคลัสเตอร์ไมซ์ ซิตี้ สู่ตลาดสากล นำ MTEX ชูศักยภาพกระจายงานเอ็กซิบิชั่นยกระดับท้องถิ่นสู่อินเตอร์
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่าตลอดปี 2561 ประสบความสำเร็จในการเร่งเครื่องทำตลาดกระจายรายได้จากอุตสาหกรรมไมซ์สู่ชุมชน การร่วมมือกับทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ นำกลุ่มผู้ประชุมได้ไปใช้สหกรณ์ชุมชนจัดไมซ์แล้วไม่ต่ำกว่า 90 กรุ๊ป ๆ ละ 30-40 คน ขณะนี้ได้วางกลยุทธ์เพิ่มความเข้มข้นจัดการประชุมระดับภาค เพื่อนำบริษัทคอร์ปอเรต ห้างร้าน ลงพื้นที่ไปประชุมตามสหกรณ์ชุมชน ขนาดครั้งละ 30 คนขึ้นไป/กรุ๊ป ตั้งเป้าภายในเมษายน 2562 จะขยายพื้นที่รองรับการจัดประชุมทั่วประเทศให้ได้ถึง 100 สหกรณ์ชุมชน โดยจะทำอย่างต่อเนื่องชนิดเข้มข้น
ปี 2562 แนวทางการขยายลูกค้าคอร์ปอเรตจะเพิ่มภาคีเครือข่ายก็คงทำในส่วนตลาดในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ผลิตแพกเกจเจาะเข้าไปยังสมาคมทรัพยากรบุคคล ซีเอสอาร์ สมาคมทางการแพทย์ นอกเหนือจากสมาคมตลาดหลักทรัพย์ไทย ส่วนกลุ่มพื้นที่ในฐานะผู้ผลิตในชุมชนเจ้าของสถานที่ประเมินผลทางด้านรายได้จะเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วจะเป็นการ “ต่อยอดผลิตภัณฑ์ชุมชน” ซึ่งทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ยืนยันว่าโครงการ “ไมซ์เพื่อชุมชน” มีผลดีอย่างยิ่งเรื่องการเปิดบ้านของกรมฯ เพื่อชุมชนหรือสมาชิกต่าง ๆ ของสหกรณ์เป็นกลุ่มชาวบ้านที่รวมตัวกันจะได้สร้างมาตรฐานสินค้าเข้าสู่ตลาดสากล โดยมีรายได้ทางอ้อมเกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าผสมเข้าไปด้วย
นายจิรุตถ์กล่าวว่า ปี 2562 พุ่งเป้าการพัฒนา AREA BASE เป็นการพัฒนาพื้นที่รองรับการประชุมไมซ์ สร้างตื่นตัวเพิ่มมากขึ้นด้วยการทำกลยุทธ์สร้างความพร้อมให้แต่ละจังหวัด นำร่องการจัดงาน PATA DESTINATION MARKETING FORUM 2018 งานไมซ์ระดับนานาชาติที่เลือกจัดครั้งแรกในภูมิภาคที่จังหวัดขอนแก่น 1 ใน 5 เมืองไมซ์ ซิตี้ ของ TCEB (กรุงเทพฯ ขอนแก่น เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา) โดยได้เชิญเมืองที่มีศักยภาพซึ่งพร้อมจะยกระดับเป็นไมซ์ ซิตี้ ในอนาคตเข้าร่วมสังเกตุการณ์งานนี้ด้วย ได้แก่ เชียงราย พิษณุโลก อุดรธานี นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา ล้วนแล้วแต่มีโอกาสจะเข้าสู่มาตรฐานไมซ์ เพราะแต่ละเมืองมีพื้นที่และการลงทุนศูนย์ประชุมนานาชาติได้ อีกทั้งยังเริ่มรับเป็นสถานที่จัดงานไมซ์ต่างประเทศบ้างแล้ว สำหรับเชียงรายมีแนวโน้มจะเป็นสถานที่จัดงานใหญ่ เช่นกัน
ดังนั้นในส่วนของ AREA BASE ทาง TCEB ได้จัดทำผลศึกษาโครงสร้างเพื่อเป็นโมเดลของแต่ละเมือง รวมทั้งจะส่งคนเข้าไปประจำพื้นที่ หรือใช้สถานที่ตามมหาวิทยาลัย หรือพัทยาก็เตรียมตั้งศูนย์ไมซ์เมืองขึ้นมาแล้ว เช่นเดียวกับเชียงใหม่ ทาง TCEB จะมีเจ้าหน้าที่ไม่ใช่แค่ประสานงานแต่จะทำหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาในฐานะผู้เชี่ยวชาญ 3 เรื่องหลัก ๆ ได้แก่ 1.การพัฒนาเมือง ร่วมกับทางมหาวิทยาลัย ได้ลงนามแล้วทั่วประเทศ เดินหน้าภายใต้ MICE Capility ประกอบด้วย
ส่วนที่ 1 จัดการอบรม สัมมา ความรู้เชิงไมซ์ ให้แก่ทางผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัย ตามพื้นที่ต่าง ๆ และนักเรียน นักศึกษา
ส่วนที่ 2 ทำการตลาด จับมือกับสมาคมโรงแรมแต่ละภาค ทำมาตรฐานห้องประชุม กระจายตามพื้นที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
ส่วนที่ 3 การสร้างนวัตกรรมการจัดงานไมซ์ ทางด้านศักยภาพการจัดประชุมให้ทันสมัยมากขึ้น
รวมทั้งจะกระจายการจัดเอ็กซิบิชั่น โดยใช้ M POWER Thailand Exhibition : MTEX เป็นศูนย์กลาง จากเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2561 TCEB ได้ลงนามความร่วมมือขับเคลื่อนร่วมกับ 11 องค์กร ตั้งเป้ากระจายงานเอ็กซิบิชั่นระดับประเทศไปจัดตามจังหวัดต่าง ๆ โครงการแรก งานข้าวโลก จังหวัดร้อยเอ็ด จัดไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ต่อด้วย งานเอ็กซิบิชั่นเทคโนโลยี จังหวัดนครราชสีมา จากนั้นก็จะมีงาน OTOP CITY ระดับประเทศ และงาน TEX ควบควมงานโชว์โรบ็อต โดยได้ทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่าง TCEB กับสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ปี 2562 การกระจายงานเอ็กซิบิชั่นที่จะกระจายไปจัดยังจังหวัดต่าง ๆ อย่างเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะการประชุมร่วมใน MTEX แต่ละฝ่ายได้แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างชัดเจน ด้วยการใช้งบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยขอให้ทางสมาคมจัดนิทรรศการแสดงสินค้า (TEA) ร่วมกับสภาหอการค้าไทย คัดเลือกงานสำคัญ ๆ ทเป็นคลัสเตอร์ รวมงานย่อยทำเป็นงานใหญ่ระดับประเทศประจำปีสัก 1 งาน เช่น งานผ้าไหมขอนแก่น เป็นโมเดลความสำเร็จ ประกาศเป็นงาน “ขอนแก่นเมืองมัดหมี่โลก” ต่อไปจะบูมเป็นงานอินเตอร์เนชั่นแนลได้
อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับคลัสเตอร์ของภาครัฐด้วย ตัวอย่าง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัล ก็เข้ามาร่วมกับทางสภาหอการค้าไทย และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เต็มที่ตลอดไปในอนาคต
นายจิรุตถ์กล่าวถึงการวางกลยุทธ์ไมซ์ตลาดต่างประเทศ ปี 2562 TCEB ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องไปประมูลชนะจนได้งานโลกมาจัดในประเทศไทย ทางด้านตลาด Meeting Incentive : MI คือ งานที่ 1 SITE GLOBAL CONFERENCE 2019 รวมผู้จัดงานกลุ่มออร์แกไนเซอร์แถวหน้าของโลกซึ่งเป็นเจ้าของการการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (incentive) กว่า 400 ราย ระหว่าง 11-13 มกราคม 2562 มาประชุมร่วมกันที่โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ งานที่ 2 UFI 2019 ครั้งที่ 86 เป็นศูนย์รวมของผู้นำการจัดงานประชุมและออร์แกไนเซอร์ระดับโลกทั้งหมด เป็นกลุ่มที่จะได้เห็นสถานที่จัดงานใหม่ ๆ ในไทยมีความพร้อม เพราะงานเอ็กซิบิชั่นขนาดนี้หากได้รับเลือกเป็นสถานที่จัดงานแล้วก็จะจัดประจำโดยไม่ย้ายไปประเทศอื่น เช่น งานแสดงอุตสาหกรรมเครื่องจักร METELEX และงานใหม่ที่ไทยได้รับมางาน FUTURE ENERGY 2018 มีคนเข้าร่วมกว่า 8,000 คน ส่วนใหญ่งานที่ผ่านมาไทยจะได้เฉพาะงานอาหารและเครื่องดื่ม แต่ทางด้านพลังงานเริ่มไหลบ่าเข้ามาแล้ว
เมื่อสำรวจงานตลอดปี 2561 จำนวนกว่า 400 งาน กว่า 217 งาน เป็นงานไมซ์ของตลาด S-CURVE หรืออุตสาหกรรมดาวรุ่งแทบทั้งสิ้น อย่าง อิเลคทรอนิกส์ สตาร์ตอัพ ไบโอเทคโนโลยีการเกษตร หรือเมเทเล็กซ์ ล่าสุดก็ปิดฮอลล์เป็นโชว์โรโบติกทั้งหมด ซึ่งรัฐบาลพยายามสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยได้มาจัดแสดงแลกเปลี่ยนกับนานาประเทศ โดยเฉพาะงานทางด้านพลังงาน ก็มีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สถาบันการศึกษา ที่ช่วยกันทำจนได้งาน FUTURE ENERGY 2018 มาจัดปีหน้าช่วง 29 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคม 2562 นอกจากนี้ยังมีงานเกี่ยวกับการแพทย์ จนปัจจุบันและอนาคตประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการประชุมนานาชาติแห่งอาเซียนไปเรียบร้อยแล้ว
ขณะเดียวกัน TCEB ได้ตระหนักถึงการพัฒนาตลาดไมซ์ควบคู่กับการรักษาใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยใช้ MICE Capibility มีโปรแกรมสร้างมาตรฐานเป็นหัวหอกวางกฎระเบียบมาตรฐานห้องประชุม MVTS ร่วมกับโรงแรม สถานที่จัดประชุม รวมถึงการสร้างความยั่งยืน เช่น Food Waste คือบริหารจัดการวัตถุดิบผลิตอาหารให้เพียงพอในแต่ละประชุม คำนวณการใช้วัตถุดิบ ISO ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ทำลายสิ่งแวดล้อม หรือ Carbon FootPrint เบื้องต้นได้ 14 งาน โดย TCEB ให้การสนับสนุนเต็มที่ เริ่มทำมาแล้ว 2 ปี สอดคล้องกับกระแสโลกและต้องขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโดยคำนึงถึงการรับผิดชอบต่อสังคมควบคู่กันไปด้วย
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ขับเคลื่อน3พลังการให้แห่งปี61”
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ตลอดปี 2561 ได้ทุ่มเททำโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” โดยเฉพาะ SPORT POWER การแจกลูกฟุตบอลให้ปีละ 200,000 ลูก โดยตั้งเป้าแจกจนครบ 1 ล้านลูก ภายในเวลา 5 ปี เช่นเดียวกับการก่อสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียมปีละ 20 สนาม ให้ครบ 100 สนาม
ปี 2561 มีความคืบหน้าในการแจกลูกฟุตบอลและก่อสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียม ครอบคลุมพื้นที่ทุกภาคของประเทศ โดยตั้งเป้าเปิดโอกาสให้เยาวชนตามพื้นที่ต่าง ๆ ได้นำลูกฟุตบอลไปฝึกทักษะได้ทุกที่ทุกเวลา ทั้งที่บ้านและโรงเรียน ตามความฝันของเด็กไทยที่มุ่งหวังจะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับประเทศในอนาคตต่อไป
ขณะเดียวกันได้เดินหน้าโครงการ Community Power ลงทุนสร้างห้องน้ำมอบให้จังหวัดท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองรองร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขณะนี้ส่งมอบเรียบร้อยแล้ว 3 แห่ง 3 จังหวัด 2 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ เชียงใหม่ น่าน และภาคอีสาน อุบลราชธานี ปี 2562 จะทยอยทำให้ครบ 10 จังหวัด โดยมีจังหวัดหนองคาย อยู่ระหว่างการก่อสร้างจะทยอยส่งมอบได้ช่วงต้นปี 2562
ส่วน Music Power : พลังทางด้านดนตรี ล่าสุดได้เปิดรับสมัครเยาวชน ประชาชน ทั้งคนไทยและนานาชาติเข้าร่วมโครงการ “ร่วมกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติ ประจำปี 2562 หรือ Thailand International Wind Symphony Competition 2019 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ขณะนี้กำลังเปิดรับสมัคร และจะปิดรับสมัคร วันที่ 29 มกราคม 2562 เวลา 17.00 น.
ผู้ที่สนใจสมัครประกวดได้ที่ www.music.mahidol.ac.th/tiwsc ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ tiwsc.info@gmail.com โทร. +66 2800 2525 ต่อ 3107 ,3109, 3117
จากนั้นทางคณะกรรมการและผู้เกี่ยวข้องจะดำเนินการ ตั้งแต่ รอบคัดเลือก คัดเลือกจากผลงานที่ส่งเข้ามาแข่งขัน วันที่ 12 – 13 กุมภาพันธ์ 2562 ประกาศผลผู้ที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 ทางเว็บไซต์ www.music.mahidol.ac.th/tiwsc และ Facebook : King Power Thai Power พลังคนไทย สำหรับรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 6 เมษายน 2562 ณ มหิดล
ข่าวที่ 2 “ททท.ชูเปิดฟูกูโอกะตั้งเป้าปี’63ดึงรายได้9หมื่นล้าน”
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เป้าหมายการเปิดสำนักงาน ททท.แห่งใหม่ในเมืองฟูกูโอกะ ก็เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการรุกเจาะตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นภายในอีก 2 ปีหน้า ภายในปี 2563 จะกระตุ้นการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยให้ได้ปีละ 2 ล้านคนขึ้นไป สร้างรายได้ปีละกว่า 90,000 ล้านบาท
ระหว่างนี้ก็ได้โครงการ My First Thailand เชิญชวนกลุ่มญี่ปุ่นเดินทางมาเที่ยวไทยครั้งแรกที่ไม่เคยไปท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาเที่ยว เนื่องจากบริเวณเกาะคิวชูครอบคลุมพื้นที่ 12 จังหวัด มีผู้ถือพาสปอร์ต 10% ของประชากรทั้งหมด และยังไม่ค่อยได้เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ไทยจึงเป็นทางเลือกที่ดีทั้งปัจจุบันและอนาคตต่อไป
สำหรับสถิติภาพรวมปี 2561 จะมีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาไทย 1.63 คน เพิ่ม 7.52% สร้างรายได้ 73,370 ล้านบาท เพิ่มเฉลี่ย 9.01% ปี 2562 ตั้งเป้าไว้ 1.68 คน ปี 2563 จะต้องทำได้ถึง 2 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 90,000 ล้านบาท
ข่าวที่ 3 “บางจากแจกสมาชิก4สิทธิ์เดินทางช่วงปีใหม่”
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รณรงค์ให้สมาชิกผู้ถือบัตรบางจากแต่ละประเภท เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนออกเดินทางปีใหม่ ปลอดภัยทุกระยะทาง โดยได้เตรียมมอบสิทธิประโยชน์หลัก 4 เรื่อง ให้สมาชิกบัตรบางจากรับสิทธิ์ดังนี้
1.การให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชม. ลงทะเบียนรับสิทธิ์ 6-25 ธ.ค. 61 คลิกดูรายละเอียด https://goo.gl/omPfQX
2.ทุนประกันภัยคุ้มครอง 100,000 บาท (ใช้ 9 คะแนนเพื่อรับสิทธิ์) ลงทะเบียนรับสิทธิ์ 6-25 ธ.ค. 61 คลิกดูรายละเอียด https://goo.gl/tSJP1x
3.เช็ครถก่อนเดินทาง ตรวจเช็คฟรี 11 รายการ มูลค่าเริ่มต้น 500 บาท/ครั้ง (15 ธ.ค. 61 – 31 ม.ค. 62) ที่ FURiO Care และ Wash Pro สาขาที่ร่วมรายการ คลิกดูรายละเอียด https://goo.gl/Fu2vs2
4.ส่วนลดสูงสุด 20% เมื่อซื้อน้ำมันหล่อลื่น FURiO ฟรีไส้กรองน้ำมันเครื่อง (15 ธ.ค. 61 – 31 ม.ค. 62) ที่ FURiO Care และ Wash Pro สาขาที่ร่วมรายการ คลิกดูรายละเอียด https://goo.gl/n8UEfd
ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.bcpgreenmiles.com
ฟังข่าวที่ 4 “TCEBปลื้มงานPATAทำไมซ์ขอนแก่นดังกระหึ่มโลก”
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” กล่าวว่า สรุปการนำงาน PATA Destination Marketing Forum 2018 หรือ PDMF 2018 จัดในไมซ์ ซิตี้ จังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นการเปิดเมืองภูมิภาคในต่างจังหวัดสู่เวทีนานาชาตินั้น มีกระแสตอบรับเชิงบวกจากผู้เข้าร่วมงานทั้งทางด้านการทำให้นานาชาติและคนไทยทั้งกลุ่มตัวแทนบริษัทผู้ประกอบการ (Travel Agents) สื่อมวลชน และผู้เกี่ยวข้อง รู้จักการท่องเที่ยวและไมซ์ขอนแก่นมากขึ้น โดยมีผู้บริหารราชการจาก13 จังหวัดศักยภาพในไทยเข้าร่วมสังเกตุการณ์ด้วย
ขณะเดียวกันก็ได้เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานไปสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นในหมู่บ้านผลิตผ้าไหม และกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ งานประเพณีผูกเสี่ยว งานกาชาด งานไหมนานาชาติ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้แก่ต่างชาติ 26ประเทศ กว่า 300 คน ควบคู่กับการนำเสอนเนื้อหาการท่องเที่ยวชุมชนหรือ community based tourism และการสร้างประสบการณ์ กับเทคนิคการจัดทำท่องเที่ยว และวิธีจัดงานเพื่อรองรับในสไตล์ความสนุกสนาน เสิร์ฟอาหารพื้นเมือง
สำหรับการจัดงาน PATA Destination Marketing Forum 2018 หรือ PDMF 2018 นั้น TCEB ได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทางจังหวัดขอนแก่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศ และอื่น ๆ
ช่วงที่ 2 หนาวนี้มีอีกเมืองในอีสานมาแนะนำให้สัมผัส “บึงกาฬ” ชมหินกว่า 75 ล้านปี คล้ายวาฬพ่อแม่ลูก บนยอดเขาในอำเภอภูสิงห์ จุดชมวิว สูดโอโซนบริสุทธิ์ฟอกปอด และมุมแชะรูปแชร์ถึงเพื่อน ๆ ในช่วงอาทิตย์ขึ้นยามเช้าตกยามเย็น แล้วฟังหมอแนะนำ “วิธีลดอ้วนลงพุงเลี่ยงโรคหัวใจ” ส่วนข่าวท้ายชั่วโมง “สามพรานโมเดล” เปิดงาน “สังคมสุขใจ เท่นอกกรอบ” เที่ยวงานเกษตรอินทรีย์กับผลิตภัณฑ์ปลอดสารเคมียกทั่วไทยกว่า 300 แห่ง มาไว้ในสามพราน ริเวอร์ไซด์ “ททท.” จัดเต็มงานแสงสีเสียแห่งปี ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก “กฟน.” เปิดให้ทั่วประเทศลงทะเบียนใช้ไฟฟ้าฟรีถึงปี 2562 และ “มิวเซียมสยาม” โชว์ท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์กลางคืนร่วมย้อนยุคซิกตี้ 60s
@บึงกาฬเมืองเที่ยวหน้าหนาวแห่งใหม่ในอีสาน
มหัศจรรย์เมืองไทยใน “บึงกาฬ” จังหวัดที่แยกตัวออกไปจากหนองคายใกล้ฝั่งโขง ที่ได้ความเขียวของผืนป่าในเขตพื้นที่อนุรักษ์ป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าดงดิบกะลา-ป่าภูสิงห์-ป่าดงสีชมพู” ในอำเภอภูสิงห์ เป็นซิกเนเจอร์สร้างพลังดูดนักท่องเที่ยว ด้วยบริเวณนี้มีหินยักษ์ 3 ก้อนอายุกว่า 75 ล้านปี เรียงรายอย่างลงตัวตามจินตนาการคล้าย “วาฬ พ่อ-แม่-ลูก” ตั้งโดดเด่นอยู่บนชะง่อนผา เป็นจุดสูดโอโซน ยืนชมวิว ได้ทุกวันสวยสุด ๆ ในช่วงดวงอาทิตย์สีแดงระเรื่อโผล่พ้นขอบฟ้าและลับลงดิน
ความใฝ่ฝันของนักท่องเที่ยวเมื่อไปถึง “ภูสิงห์” แล้วก็คือ การได้ขึ้นไปยืนบนหินวาฬแล้วเก็บภาพแชร์โซเชียล เก็บความทรงจำดี ๆ นี้ไว้ กับผืนป่าอุดมสมบูรณ์เขียวขจี มองเห็นสุดลูกหูลูกตารอบบริเวณป่าภูวัว ห้วยบังบาตร แก่งสะดอก มองเห็นวิวพาโนรามาทอดยาวข้ามประเทศ ไปถึง หาดทรายแม่น้ำโขง กับภูเขาเมืองปากกระดิ่ง สปป.ลาว
ดื่มด่ำกับจุดไฮไลต์บึงกาฬแล้ว ก็ลงสู่แหล่งท่องเที่ยวพื้นที่ราบ “บึงโขงหลง” ทุกปีช่วงฤดูหนาวจะมีนกอพยพมาอาศัยอยู่กว่า 30 ชนิด ตอนนี้ก็เริ่มโบยบินกันละลานตาแล้ว เพราะรอบพื้นที่มีพืชพรรณไม้เป็นที่อาศัยของสัตว์ชนิดต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นแหล่งชุ่มน้ำติดอันดับโลกที่มีทัศนียภาพงดงามอย่างมาก
หรือจะไป “วัดเจติยาคีรีวิหาร” อยู่ในภูทอกที่นักท่องเที่ยวคุ้นหูกับโฆษณาของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มาตลอด นับเป็น 1 ใน Unseen Thailand ด้วยการเดินบนสะพานไม้เล็ก ๆ ชื่นชมความสวยงามสัมผัสไอหนาวบนยอดภูทอกได้จนถึงต้นปีหน้า
ลองเปิดโลกกับการเที่ยวเมืองไทย ต้องไปให้รู้ว่าสุดแดนสยามในอีสานมีเสน่ห์สุด ๆ เช่นกัน
ครั้งหนึ่งในชีวิตในสุดสยามที่อีสาน แนะนำว่าต้องไป
@หมอเตือนคนไทยอย่าอ้วนลงพุงอันตรายต่อหัวใจ
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า กลุ่มโรคหลอดเลือดหัวใจเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยและของโลก พบว่าคนไทยเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจเฉลี่ย ชั่วโมงละ 2 คน โรคหัวใจและหลอดเลือดเกิดจากภาวะหลอดเลือดแข็งตัว ซึ่งกระบวนการนี้จะเริ่มต้นและค่อยๆ เสื่อมจนทำให้เกิดอาการในระยะต่อมา หากพบว่าเป็นโรคดังกล่าวแล้วผู้ป่วยจะต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ตลอดชีวิต สาเหตุที่สำคัญของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด คือ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภาวะไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย และภาวะน้ำหนักเกินจนเกิดโรคอ้วนลงพุง
นพ.สมศักดิ์กล่าวต่อว่า ประชาชนควรตระหนักและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองโดยเริ่มต้นจากการควบคุมและการเลือกบริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์และเหมาะสม เพื่อลดปัจจัยเสี่ยง ส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีห่างไกลจากการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
พญ.วิพรรณ สังคหะพงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กล่าวว่า ภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนลงพุง เป็น 1 ในสาเหตุที่สำคัญของโรคดังกล่าว เกิดจากการมีไขมันสะสมในช่องท้องหรืออวัยวะภายในช่องท้องมากเกินควร ส่งผลให้พุงยื่นออกมาอย่างชัดเจน สามารถเกิดขึ้นได้ในเพศชายที่มีเส้นรอบเอวเกินกว่า 36 นิ้ว หรือ 90 ซ.ม.และเพศหญิงที่มีเส้นรอบเอวเกินกว่า 32 นิ้ว หรือ 80 ซ.ม. ร่วมกับการมีดัชนีมวลกายเกินเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้คือ 18.5-24.9 โดยสามารถคำนวณหาค่า ดัชนีมวลกาย = น้ำหนัก (กิโลกรัม) / ส่วนสูง (เมตร) 2 หากพบว่าร่างกายของตนเองมีภาวะเสี่ยงดังกล่าว อาจส่งผลต่อการเพิ่มโอกาสเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
ดังนั้นควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองเพื่อไม่ให้เกิดภาวะอ้วนลงพุง สามารถทำได้ด้วยการลดน้ำหนักโดยออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที สัปดาห์ละ 3-4 วัน เพื่อควบคุมน้ำหนักตัวและเส้นรอบเอว การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ทั้งยังช่วยลดความอ้วน ช่วยในการควบคุมเบาหวานและความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ต่อผู้ป่วย โรคอื่นๆ เช่น ภาวะไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน อีกทั้งการเลือกบริโภคอาหารที่เหมาะสมยังเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย จึงควรเลือกบริโภคอาหารจำพวก ผัก ผลไม้ ถั่ว ธัญพืช และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม เพื่อช่วยให้ห่างไกลจากโรคอ้วนลงพุง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “เที่ยวมุมใหม่สังคมสุขใจเกษตรอินทรีย์”
หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิดงานสังคมสุขใจ ว่า ตลอดการจัดงานระหว่าง 7-9 ธันวาคม 2561 ณ สามพราน ริเวอร์ ไซด์ นั้นดีใจที่ได้เห็นทุกภาคส่วนมาร่วมขับเคลื่อนงานด้านเกษตรอินทรีย์ โดยกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง เพื่อมุ่งไปสู่การสร้างระบบอาหารสมดุลและยั่งยืนร่วมกัน นำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ ในส่วนของทางรัฐบาล มีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนภาคการเกษตรมาตลอด เพราะภาคเกษตรเป็นกำลังและรายได้หลักที่จะสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับประเทศ ซึ่งสิ่งที่ทางสามพรานโมเดลได้ขับเคลื่อน และมีการเชื่อมโยงความร่วมมือแบบบูรณาการให้เกิดขึ้นในสังคมอย่างแท้จริงนั้น นับว่าสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ ที่มุ่งสนับสนุนให้เกิดความยั่งยืน สามารถขยายผลไปได้อย่างเป็นวงกว้างในภูมิสังคมอื่น ๆ
นายอรุษ นวราช เลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ ผู้ริเริ่มการขับเคลื่อนสามพรานโมเดล และประธาน จัดงานสังคมสุขใจครั้งที่ 5 เปิดเผยว่า ภูมิใจที่ งานสังคมสุขใจ ได้รับการตอบรับจากประชาชนคนไทยทั้งในกรุงเทพ นครปฐม และจังหวัดใกล้เคียงจำนวนมาก ซึ่งปีนี้นับว่ามีความคึกคักมากกว่าทุกปี อันเป็นผลมาจากความตื่นตัวเรื่องสุขภาพ การส่งเสริมและการกระตุ้นจากภาครัฐ กระแสการบริโภคอาหารอินทรีย์ การท่องเที่ยวนอกกรอบ รวมถึงความตื่นตัวเรื่องการช่วยเหลือเกษตรกรอินทรีย์ ชุมชน ปัญหาการระบบนิเวศน์จากการใช้สารเคมีในการทำเกษตร ตลอดจนความต้องการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้เกษตรอินทรีย์และสิ่งแวดล้อม อยากมีแรงบันดาลใจทำในสิ่งที่แตกต่างที่มีคุณค่าต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น และอยากมามีส่วนร่วมขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์เพื่อสร้างระบบอาหารที่สมดุลกับสามพรานโมเดล
ภายในงานสังคมสุขใจครั้งที่ 5 ภายใต้คอนเซปต์ “เท่นอกกรอบ...ขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์สู่ชีวิตที่สมดุล” จัดโดย สามพรานโมเดล และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ระหว่างวันที่ 7-9 ธันวาคม พ.ศ. 2561 ที่สวนสามพราน จ. นครปฐม โดยมีผู้สนใจมาร่วมงานอย่างล้นหลาม เพื่อซื้อพืชผักและสินค้าอินทรีย์ตรงจากเกษตรกรในเครือข่ายสามพรานโมเดล และเครือข่ายจากทั่วประเทศเกือบ 300 ราย รวมถึงช้อปความรู้และแรงบันดาลใจ กระบวนการทำฟาร์มเกษตรอินทรีย์ทั้งเรื่องการปลูก การตลาดและมาตรฐานอินทรีย์ การจัดการเรื่องท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ และการสร้างผู้นำร่วมเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ระบบอาหาร รวมถึงการขับเคลื่อนสามพรานโมเดล โดยไฮไลท์ ที่ได้รับความสนใจอย่างสูงในปีนี้ คือ การเปิดตัวสามพรานโมเดล อะคาเดมี่ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และเผยแพร่องค์ความรู้ระบบอาหารอินทรีย์ และการเปิดรับสมัคร นักขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์สู่ชีวิตที่สมดุล รวมถึงการร่วมใส่ใจสิ่งแวดล้อม Go Green ในงานนี้ด้วย
ด้าน คุณอภิรตี สีบุญเรือง รองผู้อำนวยการกองสร้างสรรค์กิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยินดีที่ได้เห็นการเติบโตของการสามพรานโมเดลซึ่งขับเคลื่อนมาแล้ว 8 ปี โดยถือเป็นต้นแบบการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ทั้งในระดับท้องถิ่นและในภูมิสังคมอื่นๆ และรู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนร่วมจัดงานสังคมสุขใจ ซึ่งเป็นงานที่มีคุณค่าและมีความหมาย คือไม่เพียงแต่กระตุ้นเรื่องสุขภาพ การท่องเที่ยวเท่านั้น ยังเป็นการยกระดับคุณค่าทางจิตใจ สร้างสรรค์เพื่อส่วนรวม ขยายองค์ความรู้เพื่อการพัฒนา เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นในชุมชน อันจะเป็นการสร้างรายได้กระจายไปสู่ท้องถิ่น และส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม อีกทั้งเปิดมิติใหม่ของการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นในประเทศ เน้นการท่องเที่ยวไปพร้อมกับการเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง
ข่าวที่สอง “ททท.ชวนเที่ยวงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยาถึง16ธค.นี้”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพระนครศรีอยุธยา ขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” ประจำปี 2561 ในระหว่างวันที่ 7 - 16 ธันวาคม 2561
กิจกรรมภายในงานพบกับ
1.การแสดง แสง เสียง ในชื่อชุด “อโยธยาแผ่นดินนี้ไม่สิ้นคนดี” จัดแสดง ณ วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
2.ตลาดย้อนยุค ณ วัดหลังคาขาว และซุ้มไก่ชน ถนนคนเดิน , การแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรวิถีไทย
3.การจัดแสดง และจำหน่ายสินค้าเกษตร, นิทรรศการ TV True การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) จากกลุ่มผู้ผลิต/ผู้ประกอบการ OTOP ทั้ง 16 อำเภอ
4.การสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่น ,การจัดแสดงผลสำเร็จการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP นำเสนอผลงานสุดยอดภูมิปัญญา OTOP
5.Food Street (ร้านอาหารจากโรงแรมและภาคเอกชนต่างๆ , ถนนกินเส้น/กินกุ้ง)
6.การออกร้านกาชาด (มัจฉากาชาด) เพื่อจัดหารายได้ช่วยเหลือกิจการสาธารณกุศลและกิจกรรมของเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ณ สนามวัดพระราม (หลังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา)
7. กิจกรรมเวทีกลาง เป็นการประกวดความสามารถทางด้านดนตรี และประกวด Miss Ayutthaya
สอบถามรายละเอียดได้ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โทร. 0 3533 5665 ต่อ 26 ททท. สำนักงานพระนครศรีอยุธยา โทร.0 3524 6076-7 , www.เที่ยวภาคกลาง.com
ข่าวที่สาม “กฟน.เปิดให้ทั่วไทยลงทะเบียนใช้ไฟฟรีถึงปี62”
นางสาวผาสุก สัมปุณณะโชติ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เปิดเผยว่า กฟน. เร่งขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล จึงเปิดลงทะเบียนสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อรับสิทธิบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าของประชาชนในกรณีที่มียอดค่าไฟฟ้าไม่เกิน 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม 2561 ถึง กันยายน 2562 (ผู้รับสิทธิจะได้รับการโอนเงินค่าไฟฟ้าคืนครั้งแรกผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ภายในเดือน กุมภาพันธ์ 2562 โดยสามารถลงทะเบียนได้แล้ววันนี้ ผ่านทางเว็บไซต์ กฟน. www.mea.or.th/content/detail/87/4173/ หรือ MEA Smart Life Application ดาวน์โหลดฟรีได้ที่ http://is.gd/KlyQKF
ข่าวที่สี่ “มิวเซี่ยมสยามจัดใหญ่พิพิธภัณฑ์กลางคืน14-16ธ.ค.”
สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ หรือมิวเซียมสยาม รายงานว่า ได้จัดเทศกาลต้อนรับส่งท้ายปีด้วยโครงการ Night at The Museum เที่ยวพิพิธภัณฑ์กลางคืน Night at The Museum 8 ตอน Night Club (ไนต์คลับ) ณ มิวเซียมสยาม ระหว่างวันที่ 14 - 16 ธันวาคม 2561 เวลา 16.00 – 22.00 น ณ มิวเซียมสยาม เพื่อจะพานักท่องเที่ยวย้อนเวลาไปสู่ความโก้เก๋ แพรวพราวแห่งยุค 60’s หรือช่วงปี พ.ศ. 2500 ภายในงานจะได้พบกับกิจกรรมมากมาย ได้แก่
1.ปาร์ตี้ไนต์คลับ ฟังดนตรีสนุกสนานเป็นเอกลักษณ์และแสงไฟวิบวับเจิดจ้า ฟลอร์เต้นรำที่จำลองจากไนต์คลับดังแห่งยุคหลากหลายเวทีที่คุณจะมันส์กันตลอดคืน 60’s ผู้เข้าร่วมงานจะได้ดิ้นกันในสไตล์จิ๊กโก๋จิ๊กกี๋สุดเปรี้ยวไปกับบทเพลงของ King of 60’s เอลวิส เพรสลี่ย์ ที่ทำเอา ร๊อค แอนด์ โรล (Rock & Roll)
2.กิจกรรมฉายหนังกลางแปลง ที่คุณจะได้เพลิดเพลินกับภาพยนตร์ย้อนยุคสุดคลาสสิคที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ของยุค 60’s ทั้งภาพยนตร์ ฮอลลีวูด และภาพยนตร์ไทยมาให้ชมกันเพียบ โดยมีเรื่องราวของพระเอกตลอดกาล มิตร ชัยบัญชา
3.ไฮไลท์วัฒนธรรมอาหารอเมริกัน อย่าง ฟ๊าสฟู๊ด และน้ำซ่าส์รสถูกอกถูกใจหนุ่มสาวยุคซิกซ์ตี้ ที่ได้เข้ามาวางจำหน่ายให้ชาวบางกอกได้ลิ้มชิมรส เป็นครั้งแรก ขบวนรถยนต์คลาสสิคหลากหลายรุ่นที่หาดูได้ยาก และชมแฟชั่นยุค Mod Style ไม่ว่าจะเป็นขาบานสุดเปรี้ยว เสื้อผ้าสีสันคัลเลอร์ฟูล มินิสเกิร์ต ถุงน่องหลากสี เป็นภาพความทรงจำดี ๆ ที่จะนำมาให้ย้อนยุคกันตลอดงาน
นำMTEXหัวหอกกระจายเอ็กซิบิชั่นทั่วไทย
คิงเพาเวอร์ลุยคืนประโยชน์3Powerปี’61
ททท.เปิดฟูกูโอกะหวังปี63โกย9หมื่นล้าน
บางจากแจกสมาชิก4สิทธิ์ใหญ่ช่วงปีใหม่
TCEBนำPATAแจ้งเกิดขอนแก่นในเวทีโลก
ทัวร์บึงกาฬรับลมหนาวเมืองสวยแดนอีสาน
แพทย์แนะเลิกอ้วนลงพุงลดเสี่ยงโรคหัวใจ
มหกรรมสังคมสุขใจทั่วไทยแห่ร่วม300บูธ
ททท.จัดใหญ่ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก
กฟน.เปิดแล้วลงทะเบียนใช้ไฟฟรีถึงปี’62
ชมสุดยอดพิพิธภัณฑ์กลางคืน14-16ธ.ค.
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97
ช่วงที่ 1 เจาะลึก “จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา” ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” จะมาเปิดโลกใหม่ของ MICE MODEL ในอุตสาหกรรมไมซ์ปี 2562 ด้วย AREA BASE จัดทัพคลัสเตอร์ไมซ์ ซิตี้ สู่ตลาดสากล นำ MTEX ชูศักยภาพกระจายงานเอ็กซิบิชั่นยกระดับท้องถิ่นสู่อินเตอร์
จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” |
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่าตลอดปี 2561 ประสบความสำเร็จในการเร่งเครื่องทำตลาดกระจายรายได้จากอุตสาหกรรมไมซ์สู่ชุมชน การร่วมมือกับทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ นำกลุ่มผู้ประชุมได้ไปใช้สหกรณ์ชุมชนจัดไมซ์แล้วไม่ต่ำกว่า 90 กรุ๊ป ๆ ละ 30-40 คน ขณะนี้ได้วางกลยุทธ์เพิ่มความเข้มข้นจัดการประชุมระดับภาค เพื่อนำบริษัทคอร์ปอเรต ห้างร้าน ลงพื้นที่ไปประชุมตามสหกรณ์ชุมชน ขนาดครั้งละ 30 คนขึ้นไป/กรุ๊ป ตั้งเป้าภายในเมษายน 2562 จะขยายพื้นที่รองรับการจัดประชุมทั่วประเทศให้ได้ถึง 100 สหกรณ์ชุมชน โดยจะทำอย่างต่อเนื่องชนิดเข้มข้น
ปี 2562 แนวทางการขยายลูกค้าคอร์ปอเรตจะเพิ่มภาคีเครือข่ายก็คงทำในส่วนตลาดในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ผลิตแพกเกจเจาะเข้าไปยังสมาคมทรัพยากรบุคคล ซีเอสอาร์ สมาคมทางการแพทย์ นอกเหนือจากสมาคมตลาดหลักทรัพย์ไทย ส่วนกลุ่มพื้นที่ในฐานะผู้ผลิตในชุมชนเจ้าของสถานที่ประเมินผลทางด้านรายได้จะเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วจะเป็นการ “ต่อยอดผลิตภัณฑ์ชุมชน” ซึ่งทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ยืนยันว่าโครงการ “ไมซ์เพื่อชุมชน” มีผลดีอย่างยิ่งเรื่องการเปิดบ้านของกรมฯ เพื่อชุมชนหรือสมาชิกต่าง ๆ ของสหกรณ์เป็นกลุ่มชาวบ้านที่รวมตัวกันจะได้สร้างมาตรฐานสินค้าเข้าสู่ตลาดสากล โดยมีรายได้ทางอ้อมเกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าผสมเข้าไปด้วย
นายจิรุตถ์กล่าวว่า ปี 2562 พุ่งเป้าการพัฒนา AREA BASE เป็นการพัฒนาพื้นที่รองรับการประชุมไมซ์ สร้างตื่นตัวเพิ่มมากขึ้นด้วยการทำกลยุทธ์สร้างความพร้อมให้แต่ละจังหวัด นำร่องการจัดงาน PATA DESTINATION MARKETING FORUM 2018 งานไมซ์ระดับนานาชาติที่เลือกจัดครั้งแรกในภูมิภาคที่จังหวัดขอนแก่น 1 ใน 5 เมืองไมซ์ ซิตี้ ของ TCEB (กรุงเทพฯ ขอนแก่น เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา) โดยได้เชิญเมืองที่มีศักยภาพซึ่งพร้อมจะยกระดับเป็นไมซ์ ซิตี้ ในอนาคตเข้าร่วมสังเกตุการณ์งานนี้ด้วย ได้แก่ เชียงราย พิษณุโลก อุดรธานี นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา ล้วนแล้วแต่มีโอกาสจะเข้าสู่มาตรฐานไมซ์ เพราะแต่ละเมืองมีพื้นที่และการลงทุนศูนย์ประชุมนานาชาติได้ อีกทั้งยังเริ่มรับเป็นสถานที่จัดงานไมซ์ต่างประเทศบ้างแล้ว สำหรับเชียงรายมีแนวโน้มจะเป็นสถานที่จัดงานใหญ่ เช่นกัน
ดังนั้นในส่วนของ AREA BASE ทาง TCEB ได้จัดทำผลศึกษาโครงสร้างเพื่อเป็นโมเดลของแต่ละเมือง รวมทั้งจะส่งคนเข้าไปประจำพื้นที่ หรือใช้สถานที่ตามมหาวิทยาลัย หรือพัทยาก็เตรียมตั้งศูนย์ไมซ์เมืองขึ้นมาแล้ว เช่นเดียวกับเชียงใหม่ ทาง TCEB จะมีเจ้าหน้าที่ไม่ใช่แค่ประสานงานแต่จะทำหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาในฐานะผู้เชี่ยวชาญ 3 เรื่องหลัก ๆ ได้แก่ 1.การพัฒนาเมือง ร่วมกับทางมหาวิทยาลัย ได้ลงนามแล้วทั่วประเทศ เดินหน้าภายใต้ MICE Capility ประกอบด้วย
ส่วนที่ 1 จัดการอบรม สัมมา ความรู้เชิงไมซ์ ให้แก่ทางผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัย ตามพื้นที่ต่าง ๆ และนักเรียน นักศึกษา
ส่วนที่ 2 ทำการตลาด จับมือกับสมาคมโรงแรมแต่ละภาค ทำมาตรฐานห้องประชุม กระจายตามพื้นที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
ส่วนที่ 3 การสร้างนวัตกรรมการจัดงานไมซ์ ทางด้านศักยภาพการจัดประชุมให้ทันสมัยมากขึ้น
รวมทั้งจะกระจายการจัดเอ็กซิบิชั่น โดยใช้ M POWER Thailand Exhibition : MTEX เป็นศูนย์กลาง จากเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2561 TCEB ได้ลงนามความร่วมมือขับเคลื่อนร่วมกับ 11 องค์กร ตั้งเป้ากระจายงานเอ็กซิบิชั่นระดับประเทศไปจัดตามจังหวัดต่าง ๆ โครงการแรก งานข้าวโลก จังหวัดร้อยเอ็ด จัดไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ต่อด้วย งานเอ็กซิบิชั่นเทคโนโลยี จังหวัดนครราชสีมา จากนั้นก็จะมีงาน OTOP CITY ระดับประเทศ และงาน TEX ควบควมงานโชว์โรบ็อต โดยได้ทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่าง TCEB กับสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ปี 2562 การกระจายงานเอ็กซิบิชั่นที่จะกระจายไปจัดยังจังหวัดต่าง ๆ อย่างเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะการประชุมร่วมใน MTEX แต่ละฝ่ายได้แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างชัดเจน ด้วยการใช้งบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยขอให้ทางสมาคมจัดนิทรรศการแสดงสินค้า (TEA) ร่วมกับสภาหอการค้าไทย คัดเลือกงานสำคัญ ๆ ทเป็นคลัสเตอร์ รวมงานย่อยทำเป็นงานใหญ่ระดับประเทศประจำปีสัก 1 งาน เช่น งานผ้าไหมขอนแก่น เป็นโมเดลความสำเร็จ ประกาศเป็นงาน “ขอนแก่นเมืองมัดหมี่โลก” ต่อไปจะบูมเป็นงานอินเตอร์เนชั่นแนลได้
อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับคลัสเตอร์ของภาครัฐด้วย ตัวอย่าง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัล ก็เข้ามาร่วมกับทางสภาหอการค้าไทย และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เต็มที่ตลอดไปในอนาคต
นายจิรุตถ์กล่าวถึงการวางกลยุทธ์ไมซ์ตลาดต่างประเทศ ปี 2562 TCEB ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องไปประมูลชนะจนได้งานโลกมาจัดในประเทศไทย ทางด้านตลาด Meeting Incentive : MI คือ งานที่ 1 SITE GLOBAL CONFERENCE 2019 รวมผู้จัดงานกลุ่มออร์แกไนเซอร์แถวหน้าของโลกซึ่งเป็นเจ้าของการการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (incentive) กว่า 400 ราย ระหว่าง 11-13 มกราคม 2562 มาประชุมร่วมกันที่โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ งานที่ 2 UFI 2019 ครั้งที่ 86 เป็นศูนย์รวมของผู้นำการจัดงานประชุมและออร์แกไนเซอร์ระดับโลกทั้งหมด เป็นกลุ่มที่จะได้เห็นสถานที่จัดงานใหม่ ๆ ในไทยมีความพร้อม เพราะงานเอ็กซิบิชั่นขนาดนี้หากได้รับเลือกเป็นสถานที่จัดงานแล้วก็จะจัดประจำโดยไม่ย้ายไปประเทศอื่น เช่น งานแสดงอุตสาหกรรมเครื่องจักร METELEX และงานใหม่ที่ไทยได้รับมางาน FUTURE ENERGY 2018 มีคนเข้าร่วมกว่า 8,000 คน ส่วนใหญ่งานที่ผ่านมาไทยจะได้เฉพาะงานอาหารและเครื่องดื่ม แต่ทางด้านพลังงานเริ่มไหลบ่าเข้ามาแล้ว
เมื่อสำรวจงานตลอดปี 2561 จำนวนกว่า 400 งาน กว่า 217 งาน เป็นงานไมซ์ของตลาด S-CURVE หรืออุตสาหกรรมดาวรุ่งแทบทั้งสิ้น อย่าง อิเลคทรอนิกส์ สตาร์ตอัพ ไบโอเทคโนโลยีการเกษตร หรือเมเทเล็กซ์ ล่าสุดก็ปิดฮอลล์เป็นโชว์โรโบติกทั้งหมด ซึ่งรัฐบาลพยายามสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยได้มาจัดแสดงแลกเปลี่ยนกับนานาประเทศ โดยเฉพาะงานทางด้านพลังงาน ก็มีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สถาบันการศึกษา ที่ช่วยกันทำจนได้งาน FUTURE ENERGY 2018 มาจัดปีหน้าช่วง 29 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคม 2562 นอกจากนี้ยังมีงานเกี่ยวกับการแพทย์ จนปัจจุบันและอนาคตประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการประชุมนานาชาติแห่งอาเซียนไปเรียบร้อยแล้ว
ขณะเดียวกัน TCEB ได้ตระหนักถึงการพัฒนาตลาดไมซ์ควบคู่กับการรักษาใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยใช้ MICE Capibility มีโปรแกรมสร้างมาตรฐานเป็นหัวหอกวางกฎระเบียบมาตรฐานห้องประชุม MVTS ร่วมกับโรงแรม สถานที่จัดประชุม รวมถึงการสร้างความยั่งยืน เช่น Food Waste คือบริหารจัดการวัตถุดิบผลิตอาหารให้เพียงพอในแต่ละประชุม คำนวณการใช้วัตถุดิบ ISO ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ทำลายสิ่งแวดล้อม หรือ Carbon FootPrint เบื้องต้นได้ 14 งาน โดย TCEB ให้การสนับสนุนเต็มที่ เริ่มทำมาแล้ว 2 ปี สอดคล้องกับกระแสโลกและต้องขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโดยคำนึงถึงการรับผิดชอบต่อสังคมควบคู่กันไปด้วย
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ขับเคลื่อน3พลังการให้แห่งปี61”
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ตลอดปี 2561 ได้ทุ่มเททำโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” โดยเฉพาะ SPORT POWER การแจกลูกฟุตบอลให้ปีละ 200,000 ลูก โดยตั้งเป้าแจกจนครบ 1 ล้านลูก ภายในเวลา 5 ปี เช่นเดียวกับการก่อสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียมปีละ 20 สนาม ให้ครบ 100 สนาม
ปี 2561 มีความคืบหน้าในการแจกลูกฟุตบอลและก่อสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียม ครอบคลุมพื้นที่ทุกภาคของประเทศ โดยตั้งเป้าเปิดโอกาสให้เยาวชนตามพื้นที่ต่าง ๆ ได้นำลูกฟุตบอลไปฝึกทักษะได้ทุกที่ทุกเวลา ทั้งที่บ้านและโรงเรียน ตามความฝันของเด็กไทยที่มุ่งหวังจะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับประเทศในอนาคตต่อไป
ขณะเดียวกันได้เดินหน้าโครงการ Community Power ลงทุนสร้างห้องน้ำมอบให้จังหวัดท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองรองร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขณะนี้ส่งมอบเรียบร้อยแล้ว 3 แห่ง 3 จังหวัด 2 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ เชียงใหม่ น่าน และภาคอีสาน อุบลราชธานี ปี 2562 จะทยอยทำให้ครบ 10 จังหวัด โดยมีจังหวัดหนองคาย อยู่ระหว่างการก่อสร้างจะทยอยส่งมอบได้ช่วงต้นปี 2562
ส่วน Music Power : พลังทางด้านดนตรี ล่าสุดได้เปิดรับสมัครเยาวชน ประชาชน ทั้งคนไทยและนานาชาติเข้าร่วมโครงการ “ร่วมกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติ ประจำปี 2562 หรือ Thailand International Wind Symphony Competition 2019 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ขณะนี้กำลังเปิดรับสมัคร และจะปิดรับสมัคร วันที่ 29 มกราคม 2562 เวลา 17.00 น.
ผู้ที่สนใจสมัครประกวดได้ที่ www.music.mahidol.ac.th/tiwsc ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ tiwsc.info@gmail.com โทร. +66 2800 2525 ต่อ 3107 ,3109, 3117
จากนั้นทางคณะกรรมการและผู้เกี่ยวข้องจะดำเนินการ ตั้งแต่ รอบคัดเลือก คัดเลือกจากผลงานที่ส่งเข้ามาแข่งขัน วันที่ 12 – 13 กุมภาพันธ์ 2562 ประกาศผลผู้ที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 ทางเว็บไซต์ www.music.mahidol.ac.th/tiwsc และ Facebook : King Power Thai Power พลังคนไทย สำหรับรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 6 เมษายน 2562 ณ มหิดล
ข่าวที่ 2 “ททท.ชูเปิดฟูกูโอกะตั้งเป้าปี’63ดึงรายได้9หมื่นล้าน”
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เป้าหมายการเปิดสำนักงาน ททท.แห่งใหม่ในเมืองฟูกูโอกะ ก็เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการรุกเจาะตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นภายในอีก 2 ปีหน้า ภายในปี 2563 จะกระตุ้นการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยให้ได้ปีละ 2 ล้านคนขึ้นไป สร้างรายได้ปีละกว่า 90,000 ล้านบาท
ระหว่างนี้ก็ได้โครงการ My First Thailand เชิญชวนกลุ่มญี่ปุ่นเดินทางมาเที่ยวไทยครั้งแรกที่ไม่เคยไปท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาเที่ยว เนื่องจากบริเวณเกาะคิวชูครอบคลุมพื้นที่ 12 จังหวัด มีผู้ถือพาสปอร์ต 10% ของประชากรทั้งหมด และยังไม่ค่อยได้เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ไทยจึงเป็นทางเลือกที่ดีทั้งปัจจุบันและอนาคตต่อไป
สำหรับสถิติภาพรวมปี 2561 จะมีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาไทย 1.63 คน เพิ่ม 7.52% สร้างรายได้ 73,370 ล้านบาท เพิ่มเฉลี่ย 9.01% ปี 2562 ตั้งเป้าไว้ 1.68 คน ปี 2563 จะต้องทำได้ถึง 2 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 90,000 ล้านบาท
ข่าวที่ 3 “บางจากแจกสมาชิก4สิทธิ์เดินทางช่วงปีใหม่”
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รณรงค์ให้สมาชิกผู้ถือบัตรบางจากแต่ละประเภท เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนออกเดินทางปีใหม่ ปลอดภัยทุกระยะทาง โดยได้เตรียมมอบสิทธิประโยชน์หลัก 4 เรื่อง ให้สมาชิกบัตรบางจากรับสิทธิ์ดังนี้
1.การให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชม. ลงทะเบียนรับสิทธิ์ 6-25 ธ.ค. 61 คลิกดูรายละเอียด https://goo.gl/omPfQX
2.ทุนประกันภัยคุ้มครอง 100,000 บาท (ใช้ 9 คะแนนเพื่อรับสิทธิ์) ลงทะเบียนรับสิทธิ์ 6-25 ธ.ค. 61 คลิกดูรายละเอียด https://goo.gl/tSJP1x
3.เช็ครถก่อนเดินทาง ตรวจเช็คฟรี 11 รายการ มูลค่าเริ่มต้น 500 บาท/ครั้ง (15 ธ.ค. 61 – 31 ม.ค. 62) ที่ FURiO Care และ Wash Pro สาขาที่ร่วมรายการ คลิกดูรายละเอียด https://goo.gl/Fu2vs2
4.ส่วนลดสูงสุด 20% เมื่อซื้อน้ำมันหล่อลื่น FURiO ฟรีไส้กรองน้ำมันเครื่อง (15 ธ.ค. 61 – 31 ม.ค. 62) ที่ FURiO Care และ Wash Pro สาขาที่ร่วมรายการ คลิกดูรายละเอียด https://goo.gl/n8UEfd
ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.bcpgreenmiles.com
ฟังข่าวที่ 4 “TCEBปลื้มงานPATAทำไมซ์ขอนแก่นดังกระหึ่มโลก”
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” กล่าวว่า สรุปการนำงาน PATA Destination Marketing Forum 2018 หรือ PDMF 2018 จัดในไมซ์ ซิตี้ จังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นการเปิดเมืองภูมิภาคในต่างจังหวัดสู่เวทีนานาชาตินั้น มีกระแสตอบรับเชิงบวกจากผู้เข้าร่วมงานทั้งทางด้านการทำให้นานาชาติและคนไทยทั้งกลุ่มตัวแทนบริษัทผู้ประกอบการ (Travel Agents) สื่อมวลชน และผู้เกี่ยวข้อง รู้จักการท่องเที่ยวและไมซ์ขอนแก่นมากขึ้น โดยมีผู้บริหารราชการจาก13 จังหวัดศักยภาพในไทยเข้าร่วมสังเกตุการณ์ด้วย
ขณะเดียวกันก็ได้เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานไปสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นในหมู่บ้านผลิตผ้าไหม และกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ งานประเพณีผูกเสี่ยว งานกาชาด งานไหมนานาชาติ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้แก่ต่างชาติ 26ประเทศ กว่า 300 คน ควบคู่กับการนำเสอนเนื้อหาการท่องเที่ยวชุมชนหรือ community based tourism และการสร้างประสบการณ์ กับเทคนิคการจัดทำท่องเที่ยว และวิธีจัดงานเพื่อรองรับในสไตล์ความสนุกสนาน เสิร์ฟอาหารพื้นเมือง
สำหรับการจัดงาน PATA Destination Marketing Forum 2018 หรือ PDMF 2018 นั้น TCEB ได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทางจังหวัดขอนแก่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศ และอื่น ๆ
ช่วงที่ 2 หนาวนี้มีอีกเมืองในอีสานมาแนะนำให้สัมผัส “บึงกาฬ” ชมหินกว่า 75 ล้านปี คล้ายวาฬพ่อแม่ลูก บนยอดเขาในอำเภอภูสิงห์ จุดชมวิว สูดโอโซนบริสุทธิ์ฟอกปอด และมุมแชะรูปแชร์ถึงเพื่อน ๆ ในช่วงอาทิตย์ขึ้นยามเช้าตกยามเย็น แล้วฟังหมอแนะนำ “วิธีลดอ้วนลงพุงเลี่ยงโรคหัวใจ” ส่วนข่าวท้ายชั่วโมง “สามพรานโมเดล” เปิดงาน “สังคมสุขใจ เท่นอกกรอบ” เที่ยวงานเกษตรอินทรีย์กับผลิตภัณฑ์ปลอดสารเคมียกทั่วไทยกว่า 300 แห่ง มาไว้ในสามพราน ริเวอร์ไซด์ “ททท.” จัดเต็มงานแสงสีเสียแห่งปี ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก “กฟน.” เปิดให้ทั่วประเทศลงทะเบียนใช้ไฟฟ้าฟรีถึงปี 2562 และ “มิวเซียมสยาม” โชว์ท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์กลางคืนร่วมย้อนยุคซิกตี้ 60s
@บึงกาฬเมืองเที่ยวหน้าหนาวแห่งใหม่ในอีสาน
มหัศจรรย์เมืองไทยใน “บึงกาฬ” จังหวัดที่แยกตัวออกไปจากหนองคายใกล้ฝั่งโขง ที่ได้ความเขียวของผืนป่าในเขตพื้นที่อนุรักษ์ป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าดงดิบกะลา-ป่าภูสิงห์-ป่าดงสีชมพู” ในอำเภอภูสิงห์ เป็นซิกเนเจอร์สร้างพลังดูดนักท่องเที่ยว ด้วยบริเวณนี้มีหินยักษ์ 3 ก้อนอายุกว่า 75 ล้านปี เรียงรายอย่างลงตัวตามจินตนาการคล้าย “วาฬ พ่อ-แม่-ลูก” ตั้งโดดเด่นอยู่บนชะง่อนผา เป็นจุดสูดโอโซน ยืนชมวิว ได้ทุกวันสวยสุด ๆ ในช่วงดวงอาทิตย์สีแดงระเรื่อโผล่พ้นขอบฟ้าและลับลงดิน
ความใฝ่ฝันของนักท่องเที่ยวเมื่อไปถึง “ภูสิงห์” แล้วก็คือ การได้ขึ้นไปยืนบนหินวาฬแล้วเก็บภาพแชร์โซเชียล เก็บความทรงจำดี ๆ นี้ไว้ กับผืนป่าอุดมสมบูรณ์เขียวขจี มองเห็นสุดลูกหูลูกตารอบบริเวณป่าภูวัว ห้วยบังบาตร แก่งสะดอก มองเห็นวิวพาโนรามาทอดยาวข้ามประเทศ ไปถึง หาดทรายแม่น้ำโขง กับภูเขาเมืองปากกระดิ่ง สปป.ลาว
ดื่มด่ำกับจุดไฮไลต์บึงกาฬแล้ว ก็ลงสู่แหล่งท่องเที่ยวพื้นที่ราบ “บึงโขงหลง” ทุกปีช่วงฤดูหนาวจะมีนกอพยพมาอาศัยอยู่กว่า 30 ชนิด ตอนนี้ก็เริ่มโบยบินกันละลานตาแล้ว เพราะรอบพื้นที่มีพืชพรรณไม้เป็นที่อาศัยของสัตว์ชนิดต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นแหล่งชุ่มน้ำติดอันดับโลกที่มีทัศนียภาพงดงามอย่างมาก
หรือจะไป “วัดเจติยาคีรีวิหาร” อยู่ในภูทอกที่นักท่องเที่ยวคุ้นหูกับโฆษณาของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มาตลอด นับเป็น 1 ใน Unseen Thailand ด้วยการเดินบนสะพานไม้เล็ก ๆ ชื่นชมความสวยงามสัมผัสไอหนาวบนยอดภูทอกได้จนถึงต้นปีหน้า
ลองเปิดโลกกับการเที่ยวเมืองไทย ต้องไปให้รู้ว่าสุดแดนสยามในอีสานมีเสน่ห์สุด ๆ เช่นกัน
ครั้งหนึ่งในชีวิตในสุดสยามที่อีสาน แนะนำว่าต้องไป
@หมอเตือนคนไทยอย่าอ้วนลงพุงอันตรายต่อหัวใจ
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า กลุ่มโรคหลอดเลือดหัวใจเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยและของโลก พบว่าคนไทยเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจเฉลี่ย ชั่วโมงละ 2 คน โรคหัวใจและหลอดเลือดเกิดจากภาวะหลอดเลือดแข็งตัว ซึ่งกระบวนการนี้จะเริ่มต้นและค่อยๆ เสื่อมจนทำให้เกิดอาการในระยะต่อมา หากพบว่าเป็นโรคดังกล่าวแล้วผู้ป่วยจะต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ตลอดชีวิต สาเหตุที่สำคัญของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด คือ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภาวะไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย และภาวะน้ำหนักเกินจนเกิดโรคอ้วนลงพุง
นพ.สมศักดิ์กล่าวต่อว่า ประชาชนควรตระหนักและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองโดยเริ่มต้นจากการควบคุมและการเลือกบริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์และเหมาะสม เพื่อลดปัจจัยเสี่ยง ส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีห่างไกลจากการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
พญ.วิพรรณ สังคหะพงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กล่าวว่า ภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนลงพุง เป็น 1 ในสาเหตุที่สำคัญของโรคดังกล่าว เกิดจากการมีไขมันสะสมในช่องท้องหรืออวัยวะภายในช่องท้องมากเกินควร ส่งผลให้พุงยื่นออกมาอย่างชัดเจน สามารถเกิดขึ้นได้ในเพศชายที่มีเส้นรอบเอวเกินกว่า 36 นิ้ว หรือ 90 ซ.ม.และเพศหญิงที่มีเส้นรอบเอวเกินกว่า 32 นิ้ว หรือ 80 ซ.ม. ร่วมกับการมีดัชนีมวลกายเกินเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้คือ 18.5-24.9 โดยสามารถคำนวณหาค่า ดัชนีมวลกาย = น้ำหนัก (กิโลกรัม) / ส่วนสูง (เมตร) 2 หากพบว่าร่างกายของตนเองมีภาวะเสี่ยงดังกล่าว อาจส่งผลต่อการเพิ่มโอกาสเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
ดังนั้นควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองเพื่อไม่ให้เกิดภาวะอ้วนลงพุง สามารถทำได้ด้วยการลดน้ำหนักโดยออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที สัปดาห์ละ 3-4 วัน เพื่อควบคุมน้ำหนักตัวและเส้นรอบเอว การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ทั้งยังช่วยลดความอ้วน ช่วยในการควบคุมเบาหวานและความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ต่อผู้ป่วย โรคอื่นๆ เช่น ภาวะไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน อีกทั้งการเลือกบริโภคอาหารที่เหมาะสมยังเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย จึงควรเลือกบริโภคอาหารจำพวก ผัก ผลไม้ ถั่ว ธัญพืช และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม เพื่อช่วยให้ห่างไกลจากโรคอ้วนลงพุง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “เที่ยวมุมใหม่สังคมสุขใจเกษตรอินทรีย์”
หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิดงานสังคมสุขใจ ว่า ตลอดการจัดงานระหว่าง 7-9 ธันวาคม 2561 ณ สามพราน ริเวอร์ ไซด์ นั้นดีใจที่ได้เห็นทุกภาคส่วนมาร่วมขับเคลื่อนงานด้านเกษตรอินทรีย์ โดยกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง เพื่อมุ่งไปสู่การสร้างระบบอาหารสมดุลและยั่งยืนร่วมกัน นำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ ในส่วนของทางรัฐบาล มีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนภาคการเกษตรมาตลอด เพราะภาคเกษตรเป็นกำลังและรายได้หลักที่จะสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับประเทศ ซึ่งสิ่งที่ทางสามพรานโมเดลได้ขับเคลื่อน และมีการเชื่อมโยงความร่วมมือแบบบูรณาการให้เกิดขึ้นในสังคมอย่างแท้จริงนั้น นับว่าสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ ที่มุ่งสนับสนุนให้เกิดความยั่งยืน สามารถขยายผลไปได้อย่างเป็นวงกว้างในภูมิสังคมอื่น ๆ
นายอรุษ นวราช เลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ ผู้ริเริ่มการขับเคลื่อนสามพรานโมเดล และประธาน จัดงานสังคมสุขใจครั้งที่ 5 เปิดเผยว่า ภูมิใจที่ งานสังคมสุขใจ ได้รับการตอบรับจากประชาชนคนไทยทั้งในกรุงเทพ นครปฐม และจังหวัดใกล้เคียงจำนวนมาก ซึ่งปีนี้นับว่ามีความคึกคักมากกว่าทุกปี อันเป็นผลมาจากความตื่นตัวเรื่องสุขภาพ การส่งเสริมและการกระตุ้นจากภาครัฐ กระแสการบริโภคอาหารอินทรีย์ การท่องเที่ยวนอกกรอบ รวมถึงความตื่นตัวเรื่องการช่วยเหลือเกษตรกรอินทรีย์ ชุมชน ปัญหาการระบบนิเวศน์จากการใช้สารเคมีในการทำเกษตร ตลอดจนความต้องการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้เกษตรอินทรีย์และสิ่งแวดล้อม อยากมีแรงบันดาลใจทำในสิ่งที่แตกต่างที่มีคุณค่าต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น และอยากมามีส่วนร่วมขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์เพื่อสร้างระบบอาหารที่สมดุลกับสามพรานโมเดล
ภายในงานสังคมสุขใจครั้งที่ 5 ภายใต้คอนเซปต์ “เท่นอกกรอบ...ขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์สู่ชีวิตที่สมดุล” จัดโดย สามพรานโมเดล และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ระหว่างวันที่ 7-9 ธันวาคม พ.ศ. 2561 ที่สวนสามพราน จ. นครปฐม โดยมีผู้สนใจมาร่วมงานอย่างล้นหลาม เพื่อซื้อพืชผักและสินค้าอินทรีย์ตรงจากเกษตรกรในเครือข่ายสามพรานโมเดล และเครือข่ายจากทั่วประเทศเกือบ 300 ราย รวมถึงช้อปความรู้และแรงบันดาลใจ กระบวนการทำฟาร์มเกษตรอินทรีย์ทั้งเรื่องการปลูก การตลาดและมาตรฐานอินทรีย์ การจัดการเรื่องท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ และการสร้างผู้นำร่วมเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ระบบอาหาร รวมถึงการขับเคลื่อนสามพรานโมเดล โดยไฮไลท์ ที่ได้รับความสนใจอย่างสูงในปีนี้ คือ การเปิดตัวสามพรานโมเดล อะคาเดมี่ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และเผยแพร่องค์ความรู้ระบบอาหารอินทรีย์ และการเปิดรับสมัคร นักขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์สู่ชีวิตที่สมดุล รวมถึงการร่วมใส่ใจสิ่งแวดล้อม Go Green ในงานนี้ด้วย
ด้าน คุณอภิรตี สีบุญเรือง รองผู้อำนวยการกองสร้างสรรค์กิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยินดีที่ได้เห็นการเติบโตของการสามพรานโมเดลซึ่งขับเคลื่อนมาแล้ว 8 ปี โดยถือเป็นต้นแบบการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ทั้งในระดับท้องถิ่นและในภูมิสังคมอื่นๆ และรู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนร่วมจัดงานสังคมสุขใจ ซึ่งเป็นงานที่มีคุณค่าและมีความหมาย คือไม่เพียงแต่กระตุ้นเรื่องสุขภาพ การท่องเที่ยวเท่านั้น ยังเป็นการยกระดับคุณค่าทางจิตใจ สร้างสรรค์เพื่อส่วนรวม ขยายองค์ความรู้เพื่อการพัฒนา เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นในชุมชน อันจะเป็นการสร้างรายได้กระจายไปสู่ท้องถิ่น และส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม อีกทั้งเปิดมิติใหม่ของการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นในประเทศ เน้นการท่องเที่ยวไปพร้อมกับการเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง
ข่าวที่สอง “ททท.ชวนเที่ยวงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยาถึง16ธค.นี้”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพระนครศรีอยุธยา ขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” ประจำปี 2561 ในระหว่างวันที่ 7 - 16 ธันวาคม 2561
กิจกรรมภายในงานพบกับ
1.การแสดง แสง เสียง ในชื่อชุด “อโยธยาแผ่นดินนี้ไม่สิ้นคนดี” จัดแสดง ณ วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
2.ตลาดย้อนยุค ณ วัดหลังคาขาว และซุ้มไก่ชน ถนนคนเดิน , การแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรวิถีไทย
3.การจัดแสดง และจำหน่ายสินค้าเกษตร, นิทรรศการ TV True การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) จากกลุ่มผู้ผลิต/ผู้ประกอบการ OTOP ทั้ง 16 อำเภอ
4.การสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่น ,การจัดแสดงผลสำเร็จการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP นำเสนอผลงานสุดยอดภูมิปัญญา OTOP
5.Food Street (ร้านอาหารจากโรงแรมและภาคเอกชนต่างๆ , ถนนกินเส้น/กินกุ้ง)
6.การออกร้านกาชาด (มัจฉากาชาด) เพื่อจัดหารายได้ช่วยเหลือกิจการสาธารณกุศลและกิจกรรมของเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ณ สนามวัดพระราม (หลังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา)
7. กิจกรรมเวทีกลาง เป็นการประกวดความสามารถทางด้านดนตรี และประกวด Miss Ayutthaya
สอบถามรายละเอียดได้ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โทร. 0 3533 5665 ต่อ 26 ททท. สำนักงานพระนครศรีอยุธยา โทร.0 3524 6076-7 , www.เที่ยวภาคกลาง.com
ข่าวที่สาม “กฟน.เปิดให้ทั่วไทยลงทะเบียนใช้ไฟฟรีถึงปี62”
นางสาวผาสุก สัมปุณณะโชติ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เปิดเผยว่า กฟน. เร่งขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล จึงเปิดลงทะเบียนสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อรับสิทธิบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าของประชาชนในกรณีที่มียอดค่าไฟฟ้าไม่เกิน 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม 2561 ถึง กันยายน 2562 (ผู้รับสิทธิจะได้รับการโอนเงินค่าไฟฟ้าคืนครั้งแรกผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ภายในเดือน กุมภาพันธ์ 2562 โดยสามารถลงทะเบียนได้แล้ววันนี้ ผ่านทางเว็บไซต์ กฟน. www.mea.or.th/content/detail/87/4173/ หรือ MEA Smart Life Application ดาวน์โหลดฟรีได้ที่ http://is.gd/KlyQKF
ข่าวที่สี่ “มิวเซี่ยมสยามจัดใหญ่พิพิธภัณฑ์กลางคืน14-16ธ.ค.”
สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ หรือมิวเซียมสยาม รายงานว่า ได้จัดเทศกาลต้อนรับส่งท้ายปีด้วยโครงการ Night at The Museum เที่ยวพิพิธภัณฑ์กลางคืน Night at The Museum 8 ตอน Night Club (ไนต์คลับ) ณ มิวเซียมสยาม ระหว่างวันที่ 14 - 16 ธันวาคม 2561 เวลา 16.00 – 22.00 น ณ มิวเซียมสยาม เพื่อจะพานักท่องเที่ยวย้อนเวลาไปสู่ความโก้เก๋ แพรวพราวแห่งยุค 60’s หรือช่วงปี พ.ศ. 2500 ภายในงานจะได้พบกับกิจกรรมมากมาย ได้แก่
1.ปาร์ตี้ไนต์คลับ ฟังดนตรีสนุกสนานเป็นเอกลักษณ์และแสงไฟวิบวับเจิดจ้า ฟลอร์เต้นรำที่จำลองจากไนต์คลับดังแห่งยุคหลากหลายเวทีที่คุณจะมันส์กันตลอดคืน 60’s ผู้เข้าร่วมงานจะได้ดิ้นกันในสไตล์จิ๊กโก๋จิ๊กกี๋สุดเปรี้ยวไปกับบทเพลงของ King of 60’s เอลวิส เพรสลี่ย์ ที่ทำเอา ร๊อค แอนด์ โรล (Rock & Roll)
2.กิจกรรมฉายหนังกลางแปลง ที่คุณจะได้เพลิดเพลินกับภาพยนตร์ย้อนยุคสุดคลาสสิคที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ของยุค 60’s ทั้งภาพยนตร์ ฮอลลีวูด และภาพยนตร์ไทยมาให้ชมกันเพียบ โดยมีเรื่องราวของพระเอกตลอดกาล มิตร ชัยบัญชา
3.ไฮไลท์วัฒนธรรมอาหารอเมริกัน อย่าง ฟ๊าสฟู๊ด และน้ำซ่าส์รสถูกอกถูกใจหนุ่มสาวยุคซิกซ์ตี้ ที่ได้เข้ามาวางจำหน่ายให้ชาวบางกอกได้ลิ้มชิมรส เป็นครั้งแรก ขบวนรถยนต์คลาสสิคหลากหลายรุ่นที่หาดูได้ยาก และชมแฟชั่นยุค Mod Style ไม่ว่าจะเป็นขาบานสุดเปรี้ยว เสื้อผ้าสีสันคัลเลอร์ฟูล มินิสเกิร์ต ถุงน่องหลากสี เป็นภาพความทรงจำดี ๆ ที่จะนำมาให้ย้อนยุคกันตลอดงาน
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน คอลัมนิสต์และเจ้าของผู้ดำเนินรายการ |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น