ททท.ลุยจัดทัพสินค้าท่องเที่ยวซีซัน2โชว์4โปรเจ็กต์ทำเงินครึ่งปีหลัง พ.ค.64รุกขาย “WATศรัทธานำทาง-Workation2”ดันSHAขึ้นชั้นโลก
ททท.ลุยจัดทัพสินค้าท่องเที่ยวซีซัน2โชว์4โปรเจ็กต์ทำเงินครึ่งปีหลัง
พ.ค.64รุกขาย “WATศรัทธานำทาง-Workation2”ดันSHAขึ้นชั้นโลก
“คิง เพาเวอร์”อัดฉีดI SUMMER YOUรับรหัสช้อปลด40%ถึง18เม.ย.
คิงเพาเวอร์เสริมทัพชวนช้อป I Summer Youแจกเพิ่มอีก2Giftเด็ด
ททท.ภาคเหนือชูขายจุดกางเต็นท์ไลฟ์สไตล์@นอร์ธ6จังหวัด6แคมป์
ททท.เลยแจกคูปองลดห้องพักปลุกเที่ยวเลยวันธรรมดาเม.ย-พ.ค.64
TCEBร่วมกรมอนามัยลุยภูเก็ตปูพรมพร้อมรับไมซ์ต่างชาติครึ่งปีหลัง
เช็คอินคาเฟ่เทรนด์นครปฐม”ชะตา-ปฐมออร์แกนิก-AfterTheRain”
เคล็ดวิธีกินตามสูตร 2-1-1
ลดความอ้วนและลดพุงสำเร็จได้อย่างไร
“ม.หอค้าไทย”โชว์ดัชนีชี้เป้าท่องเที่ยว+เกษตรเฉาแนะรัฐเร่งฟื้นQ3
2โรงแรม“เดอะเซนต์รีจิส-อินเตอร์คอน”ชูสงกรานต์ข้าวแช่-บุฟเฟต์
ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 10 เมษายน 2564 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋ #สงกรานต์รินรดพรมไม่สาดน้ำ #ใส่หน้ากากพกเจลล้างมือถือระยะห่าง #KingPower
#ISummerYou
ฟัง Liveสดจากลิงค์นี้ https://www.facebook.com/watch/?v=501846760831455
รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ช่วงที่ 1 ถอดรหัสสินค้าท่องเที่ยว ททท.ซีซัน2 กับ “นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) งัด 4 โปรเจ็กต์ใหญ่ขายแหลก 2 ร่มใหญ่ “ไฮยีนกับเที่ยวอย่างรับผิดชอบ” เป็นหัวหอกกระตุ้นรายได้ครึ่งปีหลัง 2564 โหม “Workation Thailand :Work from Anywhere” บิ๊กเกมการตลาดหลังซีซันแรกโกยไป 150 ล้าน “WAT ศรัทธานำทาง เส้นทางท่องเที่ยว” รวมพลัง 3 กระทรวง ผนึกเอกชนแห่ขายเชื่อมโยงทั่วไทย10 เส้นทาง “ห้าง ททท.ออนไลน์” สภาท่องเที่ยวจัดแถวธุรกิจเข้าร่วมคับคั่ง “ทัวร์เที่ยวไทย” โครงการรัฐแจกใหญ่รายละ 5,000 บาท ในประเทศเจาะคนรวยทุกกลุ่ม “วัยเก๋า-มิลเลนเนียล-คนโสด-ครอบครัว”
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ได้ปรับแผนสนับสนุนการท่องเที่ยววันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ต่อเนื่อง 6 วัน หลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 กลับมาระลอกสามตามข้อมูลจริงที่เปิดเผยปรากฎต่อสาธารณะ
เมื่อเดินทางกลับบ้านหรือภูมิลำเนาต้องห้ามการ์ดตก ไปเยี่ยมญาติอย่างระมัดระวัง
ตามที่ผู้ว่าการ ททท.แจกคาถานักเดินทาง
“ใส่หน้ากาก-การ์ดไม่ตก-พกเจลล้างมือ-ถือระยะห่าง”ควบคู่การมีสติในการทำกิจกรรมต่าง
ๆ “รด-ริน-พรม-ไม่สาดน้ำ”
ส่วนกรุงเทพฯ
ททท.ประกาศงดจัดสงกรานต์บริเวณแอร์พอร์ต ลิงค์ มักกะสัน เรียบร้อยแล้ว
เดิมตั้งใจจัดเพื่อช่วยผู้ประกอบการขายสินค้าท่องเที่ยว ของที่ระลึก ต่าง ๆ
แต่พอเกิดโควิดระบาดมากขึ้นก็ต้องงดจัด เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
ขณะที่สงกรานต์ต่างจังหวัดก็ขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด
ซึ่งคงต้องเน้นมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยขั้นสูงสุด
มาตรการจะใช้ได้ผลต้องได้รับ “ความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วน” ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขประกาศนโยบายรักษาระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะตลอดเวลา การล้างมือบ่อย ๆ เป็นความจำเป็นที่ทุกคนต้องทำ เพื่อตอกย้ำว่าสถานการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นประเทศไทยสามารถควบคุมอยู่ แต่จะเกิดขึ้นได้ทุกคนต้องมีส่วนร่วมช่วยกัน โดยเฉพาะนักเดินทางไม่ต้องบริกรรมแต่ต้องทำทุกครั้งคือ “ใส่หน้ากาก-การ์ดไม่ตก-พกเจลล้างมือ-ถือระยะห่าง” เพื่อท่องเที่ยวกันอย่างปลอดภัย
พร้อมทั้งมีข่าวดี
ขณะนี้ทางสมัชชาการท่องเที่ยว World Travel andTourism Organization
: WTTC ให้การรับรองยกให้ มาตรฐานตราสัญลักษณ์ SHA :Amazing
Thailand Safety and Health Administration
เป็นมาตรฐานนานาชาติที่ใช้ในการเดินทางระดับสากล ดังนั้น ททท.จะใช้องค์ประกอบซึ่งเป็นหลักปฏิบัติที่บังคับใช้กับครอบคลุมในธุรกิจท่องเที่ยว
10 ประเภท มาปรับใช้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
เพราะทุก ๆ เซ็ตติ้งของมาตรฐาน SHA มีจุดแข็งที่ดีอยู่แล้ว
จากนี้เป็นต้นไปคือการเพิ่มความเข้มข้นแบบครบวงจร กับห่วงโซ่ที่เกี่ยวข้องทั้ง 3
ส่วนคือ 1.สถานประกอบการทุกแห่ง 2.ผู้ให้บริการหรือพนักงานทุกคน 3.ผู้รับบริการ ทั้งหมดจะต้องทำตามเซ็ตติ้งที่ระบุไว้ในมาตรฐาน
SHA ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางด้านสุขอนามัย
เมื่อทุกฝ่ายทุกกลุ่มทำได้ทั้งหมด การดูแลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็จะสามารถควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดได้
ปี 2564 ททท.ยังได้พันธมิตรระดับโลกเข้ามาร่วมด้วย ล่าสุดคือผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เดทตอล ทำความสะอาดสุขอนามัยเป็นแบรนด์มีชื่อเสียงพร้อมจะขยายผลให้ได้ใช้ในทั่วโลก ตอกย้ำถึงมาตรฐานการดูแลรักษาความสะอาดสุขอนามัยอย่างเข้มข้นของไทย โดยให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงสุขอนามัย มอบให้สถานประกอบการถึง 200,000 ชุด โดย ททท.ร่วมนำมาแจกกระจายพื้นที่ไปยังชุมชน ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ผ่านหน่วยงานรัฐซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ เช่น องค์การพัฒนาพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ตำรวจท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และอื่น ๆ
รวมทั้งยังมีอีกหลายภาคีพันธมิตรจะเข้าร่วมมาตรฐานตราสัญลักษณ์
SHA มีผู้สมัครเข้าร่วมเกินกว่า 15,000 ราย ผ่านการตรวจประเมินเรียบร้อยแล้วกว่า 9,000 ราย
ตอนนี้กำลังเข้าสู่เฟส 2 การทำ SHA TRAVEL VOICE
AWARDS และ THE BEST OF SHA มอบรางวัลให้แก่ผู้ประกอบการทุกรายที่สามารถรักษาแนวทางปฏิบัติทุกข้อได้ตามมาตรฐาน
SHA จนได้รับการ่ส่งเสียงโหวตจากผู้ใช้บริการถึงการรักษามาตรฐานไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากนั้นก็จะจัดพิธีมอบรางวัลให้สถานประกอบการทั้งหมดที่ได้รับการโหวตในวันการท่องเที่ยวโลก
27 กันยายน 2564
แต่ถ้ามีสถานประกอบการที่โดนโหวตว่าไม่สามารถทำตามข้อปฏิบัติตามเกณฑ์มาตรฐาน SHA ได้ ทาง ททท.ก็จะส่งทีมพี่เลี้ยงเข้าไปให้คำแนะนำพัฒนาและปรับปรุง เพื่อยกระดับกลับสู่มาตรฐานให้เร็วที่สุด
นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า
ภารกิจการนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวหลังสงกรานต์ ก็ยังคงต้องเดินหน้าทำต่อเนื่อง
แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มแรก
“ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ”
ตามนโยบายรัฐบาลให้เริ่มทดลองเปิดรับด้วยการนำเกณฑ์มาตรฐานอย่างเข้มข้นควบคุมให้ได้
ตอนนี้เริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์บ้างแล้ว
จากกระแสตอบรับของนักท่องเที่ยวที่พร้อมเข้าร่วม “SAND BOX MODEL” นำร่องที่ภูเก็ต ทางสายการบินนานาชาติ
ขานรับที่จะเปิดเที่ยวบินแบบประจำเชิงพาณิชย์
นำชาวต่างชาติมาภูเก็ตก่อนเป็นพื้นที่ต้นแบบลำดับแรก ๆ
ก่อนจะขยายโดยนำไปใช้ยังพื้นที่ท่องเที่ยวจังหวัดอื่น ๆ
กลุ่มสอง “ตลาดนักท่องเที่ยวในประเทศ” ช่วยเติมเต็มเม็ดเงินรายได้ที่หายไปเพราะต่างชาติยังเดินทางเข้ามาเที่ยวไม่ได้ช่วงครึ่งปีแรก 2564 กลยุทธ์หลักต้องทำ 3 อย่าง “เพิ่มความถี่การเดินทาง-เพิ่มวันพักเฉลี่ย-เพิ่มการใช้จ่ายเงินแต่ละคนแต่ละทริป” เข้าสู่สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ จึงต้องหันมาเน้น “คัดสรรสินค้าและกิจกรรมโครงการ”
ครึ่งปีหลัง
ททท.จะเดินหน้าเชิงรุกใช้ 3 โครงการ เป็นหัวหอกสร้างรายได้ คือ
ททท.วางแผนเริ่มการขาย Workation Thailand ใน Season 2 ภายใต้ธีม “Work from Anywhere” จะมีแพกเกจวางตลาดได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป เน้นช่วยกลุ่มผู้ประกอบการโฮมลอร์จ โฮมสเตย์ หรือสเตย์เคชั่นแบบหรูหรา พยายามจะกระตุ้นกลุ่มผู้ซื้อซึ่งเป็นพนักงาน บริษัทขนาดใหญ่ และหน่วยงานรัฐ ออกเดินทางไปใช้ที่พักดังกล่าว โดยยิงปืนนัดเดียวได้ประโยชน์ถึง 2 เรื่อง ทั้งทำงานกระจายเม็ดเงินช่วยผู้ประกอบการแถมยังได้ความสุขจากท่องเที่ยวไปพร้อม ๆ กันด้วย
โครงการที่
2 WAT :Warship Activities Traditional :ศรัทธานำทาง
เส้นทางนำเที่ยว ซีซัน 2
กำลังวางกลยุทธ์ทำต่อเนื่อง WAT SEASON 2 จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่มิถุนายน
2564 เป็นต้นไป อันเกิดจากความร่วมมือของ 3 กระทรวง 3 รัฐมนตรี คือ นายอนุชา นาคาศรัย
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ดูแลสำนักพระพุทธศาสนา) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายอิทธิพล คุณปลื้ม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
หารือร่วมกันเพื่อดำเนินการจัดแพกเกจท่องเที่ยวด้านศาสนา ศรัทธา วัฒนธรรม
ยอดขายดีมาก โดยได้เปิดนำร่องขายท่องเที่ยว 10 เส้นทาง 10 จังหวัด
ล่าสุดนายชำนาญ
ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
รายงานผลตอบรับหลังจากให้สมาชิกสภาฯนำแพกเกจไปกระจายวางขายในตลาดเริ่มมีความต้องการจากนักท่องเที่ยวให้ผูกเส้นทาง
“ศรัทธานำทางเข้ากับแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ” เป็นอีกโครงการที่ได้รับความสนใจอย่างมาก
โครงการที่
3 “ห้างสรรพสินค้า ททท.: TAT Department Store”
ททท.ลงนามเอ็มโอยูความร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจสื่อสาร TRUE และธุรกิจบัตรเครดิต
KTC จะพยายาม “รวบรวมสินค้าท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ” แยกตามประเภท
ร้านอาหาร โรงแรม สายการบิน แพกเกจท่องเที่ยว นำมาวางขายบนห้างออนไลน์ของ
ททท.ในราคาโปรโมชั่น ที่สำคัญจะการันตีความพึงพอใจ โดยใช้กลไกของเอกชนกลุ่ม TRUE
กับ KTC สร้างแรงดึงดูดคนเข้ามาช้อป
ตอนนี้เริ่มขายตั้งแต่เมษายนนี้เป็นต้นไป แต่ดีลพิเศษ (Special deal) ต่าง ๆ จะเริ่มขายเต็มรูปแบบตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป
เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาช้อปท่องเที่ยวราคาพิเศษจากห้างสรรพสินค้าออนไลน์ ททท.ค้นหาได้จาก google พิมพ์คำว่า “tourism departmentstore” หรือ www.tourismthailand.org/tourismdepartmentstore มีสินค้าให้เลือกช้อปหลากหลายทั้งแบบ การท่องเที่ยวแบบความสนใจพิเศษ (Special interest) เล่นเสิร์ฟประเภทต่าง ๆ สปา เฮลท์ เวลเนส และการท่องเที่ยวแบบหรูหรา (luxury) ซึ่งมียอดขายดี ทัวร์ยอร์ช การท่องเที่ยวทางน้ำ กระแสดีมาก บริเวณภาคใต้หรือตะวันออก ซึ่งท้องทะเลสวยงาม
ห้างสรรพสินค้า ททท.ตั้งเป้าช่วยเหลือ 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ผู้ประกอบการที่เป็นกลุ่มให้บริการนำเที่ยว (Tour Operator) เพราะตามปกติกลุ่มนี้พึ่งพาลูกค้าต่างชาติแต่พอต้องปิดน่านฟ้าชั่วคราวต้องหันมาหารายได้จากตลาดในประเทศแทน จึงต้องผลักดันให้คนไทยมาใช้บริการบ้าง โดย ททท.ทำงานร่วมกับสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (แอตต้า) ไทยบริการการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) หาสินค้าท่องเที่ยวเทรนด์ใหม่ ๆ มาดึงความสนใจ เพื่อให้เป็นหนึ่งในเส้นทางการขาย ตัวอย่าง แหล่งท่องเที่ยวเทรนด์ใหม่ ไฮไลต์ 1.ท่องเที่ยวดูดาว เดือนพฤษภาคมนี้จะทำปฏิทินแนะนำ 50 สถานที่ 2.แหล่งท่องเที่ยวอันซีนใหม่ : Unseen New Series อีก 25 สถานที่ จาก 5 ภูมิภาค
นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า
การนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวเพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปผนวกขายในโครงการ
“ทัวร์เที่ยวไทย”
ซึ่งรัฐบาลให้การสนับสนุนงบประมาณเพื่อให้บริษัทตัวแทนจัดนำเที่ยวผลิตแพกเกจขายแล้วรัฐให้เงินสมทบคนละ
5,000 บาท ไม่เกินบริษัทละ 1,000 คน
นั้น ทางบริษัทนำเที่ยวมีเส้นทางคลาสสิกหลัก ๆ วางขายอยู่แล้ว จะให้บวกเส้นทางของ
ททท.ซึ่งเหมาะกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่
1.เส้นทางศรัทธานำทาง เส้นทางนำเที่ยว เจาะขายกลุ่มวัยเก๋า 2.เส้นทาง Work from Anywhere อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้
นำเสนอขายกลุ่มวัยรุ่น 3.เส้นทางเที่ยวคนเดียวอย่าง Solo
travellers, เส้นทางคนโสด เจาะขายนักท่องเที่ยวกลุ่มมิลเลนเนียล
และคนรุ่นใหม่ 4.เส้นทางท่องเที่ยวแบบหรูหรา
ขายกลุ่มครอบครัว การท่องเที่ยวเรือยอร์ช เที่ยวเชิงกีฬา และเที่ยวทะเล
ไฮไลต์ตลอดปี 2564 ททท.ตั้งเป้า 2 ไฮไลต์ใหญ่ คือ 1.การท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยถูกสุขอนามัย หรือ Hygene 2.การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible tourism :RT) สามารถตอบโจทย์นายกรัฐมนตรีมีนโยบายให้ทำนโยบายแห่งชาติ BCG :Bio Circulation Green พุ่งเป้าไปสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน บวกเข้ากับสถานการณ์ที่ต้องอยู่กับไวรัสโควิด-19 ให้ได้ จึงต้องทำส่วนผสมให้อยู่ในสินค้าท่องเที่ยวและบริการให้ได้ต่อไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิง เพาเวอร์”อัดฉีดI SUMMER YOUรับรหัสช้อปลด40%ถึง18เม.ย.
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
อัดแคมเปญ “I SUMMER YOU” พบกับ SUMMSER SALE ดีลดีดับร้อนตลอด 11 วัน” ระหว่าง 8-18 เมษายน 2564 นี้ มอบส่วนลดสูงสุดถึง
40% เมื่อช้อปครบ 6,000 บาท เพียงใส่รหัสส่วนลด
“SUMMER5” คลิกเข้ามาช้อปได้เลยที่ https://bit.ly/3fnFmbl
พิเศษยิ่งขึ้น!! ทุกการสั่งซื้อสินค้าจากแคมเปญ I
SUMMER YOU นักช้อปสามารถรับ SMS รหัสส่วนลดเพื่อนำไปใช้ช้อปสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ได้ที่ “คิง เพาเวอร์
ออนไลน์” www.kingpower.com พร้อมทั้งมีบริการส่งสินค้าตรงถึงบ้าน
(Home Delivery) เมื่อช้อปขั้นต่ำ 699 บาทจัดส่งสินค้าฟรีทั่วประเทศ
โดยนักช้อปที่ร่วมเลือกซื้อสินค้าแคมเปญ
I SUMMER YOU ตลอดเมษายน 2564 สามารถรับสิทธิประโยชน์มากมายดังต่อไปนี้
1.แบ่งชำระ 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือน
2.รับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด
100%* > http://bit.ly/2OzUV1k
3.ฟรี!
ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง >
http://bit.ly/31yjocR มาก่อนได้รับของสมนาคุณก่อน
เนื่องจากของแถมจะมีจำนวนจำกัด และอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
4.รับเลย! ส่วนลด 200.- เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ > http://bit.ly/2S4uJyi
5.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง
เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000.- (สุทธิ) > https://bit.ly/3lyQbrs
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/Kingpowerofficial
ข่าวที่ 2
คิงเพาเวอร์เสริมชวนช้อป
I Summer Youแจกเพิ่มอีก2Giftเด็ด
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เพิ่มสีสันความเข้มข้นให้นักช้อปได้จ่ายแบบสบายกระเป๋าในช่วง I Summer You เพิ่มอีก 2 ดีล เข้ามาเลือกซื้อสินค้าเพื่อรับทั้งกิฟท์โชเวอร์และกิฟท์การ์ดดังนี้
ดีลที่ 1 สุดค้มรับเพิ่มบัตรกำนัล หรือ Gift Voucher มูลค่าสูงสุด 14,000
บาท
เป็นดีลพิเศษซัมเมอร์นี้
เพื่อให้ช้อปกันอย่างสนุกกับโปรโมชั่นสุดคุ้ม พร้อมเพลิดเพลินไปกับดีลเด็ด
ที่ได้คัดสรรมาโดยเฉพาะ ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2564 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มหานคร พัทยา
และภูเก็ต
พิเศษ! เพียงสะสมยอดช้อปครบตามที่กำหนด
รับเพิ่ม! Gift Voucher สูงสุด 14,000 บาท ดังนี้ 1.ช้อปครบ 10,000 บาท รับเพิ่ม Gift Voucher 800 บาท 2.ช้อปครบ 50,000 บาท รับเพิ่ม Gift Voucher 6,000 บาท และ 3.ช้อปครบ 100,000 บาท รับเพิ่ม Gift Voucher 14,000 บาท
ห้ามพลาดอิ่มฟรี! ที่ ไทย เทสต์ ฮับ คิง
เพาเวอร์ รางน้ำ ทุก ๆ ยอดช้อปครบ 5,000 บาทขึ้นไป(สุทธิ)/ใบเสร็จรับเงิน
รับคูปองรับประทานอาหารฟรีมูลค่า 300 บาท
ดีลที่ 2 “ดีลคุ้มเพื่อคุณ” รับบัตรกำนัลสุดคุ้ม Gift Card ระหว่างวันนี้- 20 เมษายน 2564 เมื่อคลิกเพื่อซื้อบัตรเงินสด Cash Card มูลค่า 50,000 บาท ผ่านช่องทางคิง เพาเวอร์ ออนไลน์ รับทันทีบัตรเงินเพิ่ม 8,000 บาท แถมปลดล็อกให้เหล่านักช้อปคลายความกังวลด้วยการแบ่งชำระได้นานสูงสุดถึง 10 เดือน
นางสาวสรัสวดี อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
วางกลยุทธ์เพิ่มจุดขายการจัดกิจกรรม Amazing
Northern Campsite ชวนท่องเที่ยวภาคเหนือ 6 พื้นที่ 6 จังหวัด 6 จุดกางเตนท์ ได้แก่
เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ตาก กำแพงเพชร และอุตรดิตถ์
นำเสนอความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อาหารท้องถิ่น
และกิจกรรมที่น่าประทับใจ อาทิ ฟังดนตรี ดูดาว เดินสำรวจธรรมชาติ กิจกรรม CSR ฯลฯ
เพื่อสร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวตามความชื่นชอบ
โดยเฉพาะกระตุ้นการเดินทางในช่วง Green
Season ซึ่งถือเป็นฤดูกาลที่ธรรมชาติสมบูรณ์
สวยงามที่สุด อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการกระจายรายได้สู่ฐานราก
ช่วยเหลือผู้ประกอบการ เสริมสภาพคล่องทางธุรกิจให้กลับมาฟื้นตัวและแข็งแกร่ง
ครั้งที่ 1 กับกิจกรรม Amazing Northern Campsite : ChaingMai @Lanna Rock
Garden ระหว่างวันที่ 10-11 เมษายน 2564 ณ Lanna Rock Garden หางดง เชียงใหม่
เปิดประสบการณ์ใหม่ของการตั้งแคมป์ พร้อมชิลไปกับศิลปินวง Plastic Plastic ,พี่ชา ฮาโม,
สายป่าน สนุกกับกิจกรรมทำเทียนหอม Sweet candles และกิจกรรม Find new
Friendship ฟินกับกิจกรรมกางเต็นท์ มากกว่า 20 ไร่
และเต็มอิ่มกับอาหารร้านดังจากเชียงใหม่ยกไว้ภายในงาน อาทิ Moritora cafe ลูกชิ้นเห็ดหอม แม่ท่าช้างกางโต้ง ปงอินรักษ์ ฟาร์ม Twister bike blender
สำหรับอีก 5 จังหวัด 5 แห่ง ได้ทยอยจัดในแต่ละเดือนดังนี้
กางเตนท์ริมน้ำปาย แม่ฮ่องสอน วันที่ 1-2
พฤษภาคม 2564
อ่างเก็บน้ำแม่เมย จ.ลำพูน วันที่ 22-23
พฤษภาคม 2564
กางเตนท์ดอยผาแดง จ.ตาก วันที่ 29-30 พฤษภาคม
2564
ริมปิงการ์เด้นแคมป์ จ.กำแพงเพชร วันที่ 5-6 มิถุนายน 2564
บ้านสวนอิสระ จ.อุตรดิตถ์ วันที่ 3-4 กรกฎาคม
2564
นักท่องเที่ยวซื้อบัตรเข้างานได้ที่ https://shop.line.me/@mobsater หรือสอบถามรายละเอียดงานได้ทางเฟสบุ๊ค Amazing Northern Campsite /Line@mobsater : https://lin.ee/14jsAQYbB
ข่าวที่ 4 ททท.เลยแจกคูปองลดห้องพักปลุกเที่ยวเลยวันธรรมดาเม.ย-พ.ค.64
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) สำนักงานจังหวัดเลย ชวนเดินทางท่องเที่ยววันธรรมดา จันทร์-พฤหัสบดี
ของแต่ละสัปดาห์ ระหว่างเดือนเมษายน
- มิถุนายน 2564 แจกพิเศษคูปองส่วนลดรับค่าที่พักคนละ
100 บาท จำกัดจำนวนแจก 1,000 คน เท่านั้น รีบมาท่องเที่ยวทุกอำเภอในจังหวัดเลยได้ช่วงวันธรรมดา
คุ้มค่า คุ้มเวลา สะดวกสบาย ไม่แออัด ไม่หนาแน่นด้วย
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดเลย
ช่วงเมษายน-พฤษภาคม 2564
ไปร่วมสร้างประสบการณ์ 1.อำเภอเชียงคาน
ชวนตักบาตรข้าวเหนียว ถนนคนเดิน
หรือไปผจญภัยปีนขึ้นสกายวอร์ลคท่าดีหมี
ชมความงดงามวิวพาโนรามาเชียงคาน 2.อำเภอหนองหิน
จัดโปรแกรมนั่งรถอีแต็กบริการขึ้นไปชมธรรมชาติ วิถีชีวิตชุมชน
สัมผัสบรรยากาศฟูจิเมืองเลยสุดงดงามก่อนพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้ทุกวัน 3.อำเภอภูเรือ
ดินแดนแห่งทะเลหมอกสวยสุดช่วงหน้าฝน 4.อำเภอด่านซ้าย เชิญไปชมทะเลหมอกยามเช้าภูอีเลิศ อันซีนที่น่าลอง
สอบถามเพิ่มเติม ททท.สำนักงานเลย โทร.042 812 812 ได้ในวันจันทร์ - ศุกร์ 08:30 - 16:40 น. หรือทางข้อความเพจ ททท.สำนักงานเลย:TAT Loei Office
ข่าวที่ 5 TCEBร่วมกรมอนามัยลุยภูเก็ตปูพรมความพร้อมรับไมซ์ต่างชาติครึ่งปีหลัง
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมอนามัย ร่วมเยี่ยมชมสถานประกอบการไมซ์ จังหวัดภูเก็ต สอดรับกับโครงการเตรียม “เปิดเมืองปลอดภัย จัดงานไมซ์ มั่นใจด้วยมาตรฐาน” โดยได้รับฟังมาตรการด้านสุขอนามัยและการป้องกันโรคไวรัสโควิด-19 จากผู้ให้บริการและสถานประกอบการรองรับการจัดกิจกรรมไมซ์ จัดงานอย่างปลอดภัยตามแบบวิถีใหม่ กระตุ้นเศรษฐกิจไมซ์ช่วงครึ่งหลังปี 2564 ตามนโยบายรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายรับตลาดต่างประเทศได้
นายแพทย์ดนัย ธีวันดา
รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE)
จังหวัดภูเก็ต กับหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรส่วนท้องถิ่น
และเครือข่ายภาคเอกชน เพื่อร่วมหารือเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพการจัดงานระดับโลก เพื่อทำให้ไมซ์เป็นอุตสหกรรมหลักกระตุ้นเศรษฐกิจ
จากการเชิญชวนให้หน่วยงานต่าง ๆ ในประเทศและนานาชาติเลือกมาจัดประชุม สัมมนา อย่างปลอดภัยได้มาตรฐานและยั่งยืน
ช่วงที่ 2 ออกเดินทางผ่อนคลายใกล้กรุง
เช็คอินคาเฟ่เทรนด์ใหม่กลางท้องทุ่งแนบชิดธรรมชาติในจังหวัดนครปฐม กับ 3 คาเฟ่เทรนด์
“ชะตาธรรมชาติ-ปฐมออร์แกนิก-After The Rain Coffee & Gallory”
รับรองชีลแน่นอน ควบคู่การดูแลสุขภาพกับ “เคล็ดวิธีกินตามสูตร 2-1-1”
ลดพุงลดอ้วนสำเร็จได้ต้องทำอย่างไร พร้อมเกาะติดข่าว “มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย”
ชี้เป้าดัชนีคนไทยทั่วประเทศยืนยันอนาคตอีก 6 เดือนหน้า “ท่องเที่ยว-เกษตร”
ยังน่าเป็นห่วง และ 2
โรงแรมกลางกรุง “เดอะ เซนต์ รีจิส” กับ “อินเตอร์คอนติเนนตัล” ต้อนรับสงกรานต์
กินข้าวแช่และบุฟเฟต์มื้อกลางวันและค่ำแบบสบายใจ สบายกระเป๋า
ฟินเช็คอินคาเฟ่เทรนด์นครปฐม”ชะตา-ปฐมออร์แกนิก-AfterTheRain”
การออกเดินทางช่วงนี้ต้องใช้คาถา
“ใส่หน้าอนามัย พกเจลล้างมือ ถือระยะห่าง” เลือกสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ ๆ กรุงเทพฯ
แนะนำไปเช็คอิน กินฟิน ได้ในจังหวัดนครปฐม มีคาเฟ่กลางท้องทุ่งเก๋ ๆ สวย ๆ
โปร่งโล่ง นั่งรักษาระยะห่างได้แบบสบาย ๆ
คาเฟ่ใหม่มาแรง ต้องที่ “Chata Thammachart : ชะตา ธรรมชาติ" เป็นคาเฟ่ผสมผสานร้านอาหาร
สังเกตุได้ง่ายมาก
เพราะสร้างด้วยสถาปัตยกรรมท้องทุ่งหลังคาเป็นทรงงอบไม้โดดเด่นเห็นแต่ไกล
ตั้งอยู่กลางกลางทุ่งนา ตรงซอยวัดไร่ขิง 26 อำเภอสามพราน เปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ 9 โมงเช้า ไปจนถึง 6 โมงเย็น
แต่อย่าไปวันจันทร์นะเพราะร้านปิด
แล้วโซน
“มอัฒจรรย์” ดีไซน์คล้ายอัศจรรย์เชียร์ตามสนามกีฬา ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งกินลม
ชมวิว ชิลกับการชิมและชมทุ่งนาสีเขียวเลือกสูดโอโซนบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่
เป็นอีกบรรยากาศเที่ยวแบบสบาย ๆ เข้าไปส่องรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/ChataThammachart
หรือ โทร : 061 326 3624
หรือจะเป็น
“ปฐม ออร์แกนิก คาเฟ่ - Patom Organic Cafe @ Suan Sampran” ร้านกาแฟบรรยากาศห้อมล้อมด้วยสวน
อยู่บริเวณด้านหน้า สามพราน รีสอร์ต
ตำบลยายชา อำเภอสามพราน ตอนนี้เปิด 10 โมง
ปิดเร็วนิดนึงตอน 5 โมงเย็น
มานั่งชีลสบาย
ๆ ได้ตลอดทั้งวันในร้านคาเฟ่เก๋เล็กๆ อบอุ่น ดีไซน์ผนังรอบทิศทางเป็นกระจกใสให้มองเห็นธรรมชาติไม้นานาพันธุ์ภายในสวนสามพรานขนาดกว้างใหญ่
เจ้าของมุ่งมั่นปลูกแบบออร์แกนิคแบบเดิมหรือเกษตรอินทรีย์รวมถึงได้นำวัตถุดิบมาปรุงเป็นเมนูเครื่องดื่ม
ขนมไทย สมุนไพรความงาม โลชั่น เซรัม สเปย์ ยาหม่อง และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่ปลอดสารทั้งสิ้น
ภายในสวนสามพราน ยังมี “ปฐม ออร์แกนิก ฟาร์ม” สวนเกษตรอินทรีย์พื้นที่กว่า
40 ไร่ ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมกิจกรรมเรียนรู้ลงมือทำเกษตรอินทรีย์เบื้องต้น
ในฟาร์มที่ได้การรับรองมาตรฐานสากล (IFOAM EU และ CANANDA)
โดยมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ สอนทำเวิร์คช้อปกิจกรรมตามฤดูกาล
และนำผลผลิตจากฟาร์มมาแปรรูปเป็นอาหาร
หรือสินค้าให้เลือกช้อป เช่น ไข่เค็มพอกโคลน คั่วชาสมุนไพร น้ำส้มสายชูจากกล้วย และอื่น
ๆ ก่อนหน้านี้เปิดให้นักท่องเที่ยวทำกิจกรรมเก็บไข่
และวัตถุดิบมาปรุงอาหารเองแบบง่าย ๆ ได้ เปิดให้ร่วมทำได้ช่วงวันธรรมดา
จันทร์-ศุกร์ วันละ 3 รอบ เ10.00 / 14.00 /16.00 น. คิดค่าทำกิจกรรม
สำหรับผู้ใหญ่ 400 บาท/คน
เด็ก 4 – 11 ปี 300 บาท/คน
แต่ตอนนี้ต้องพอดีเกิดไวรัสระบาดรอบใหม่อีกครั้ง
หากนักท่องเที่ยวอยากทำกิจกรรมจะต้องสอบถามก่อนล่วงหน้าที่โทร. 034 322 588
ส่วน “After The Rain Coffee & Gallery” ตั้งอยู่ตรงพุทธมณฑลสาย 5 ทางเข้าวัดดอนหวาย เปิดตั้งแต่ 8.30 น.ปิด 18.30 น. เป็นอีกคาเฟ่ที่แนะนำให้ลองไปเช็คอิน เป็นร้านดีไซน์เป็นเรือนกระจก นั่งทอดอารมณ์จิบกาแฟท่ามกลางลมเย็นๆ พร้อมกับเลือกเมนูขนมไทยมากินคู่กัน ร้านนี้จะมีความโดดเด่นแต่ละวันจะหมุนเวียนเมนูซิกเนเจอร์ขนมไทยใส่ไอศรีมเย็น ๆ รสชาติกลมกล่อม เช่น บัวลอย สาคูอัญชัน และอื่น ๆ ราคาเริ่มต้นที่ 50 บาท โทร : 09-8959-6224 ดูเพิ่มที่ www.facebook.com/aftertherainshop
เคล็ดวิธีกินตามสูตร 2-1-1 ลดความอ้วนและลดพุงสำเร็จได้อย่างไร
การกินแบบใช้สูตร 2 : 1 : 1 คือการกินอาหารตามสูตรกําหนดปริมาณอาหารที่เหมาะสมในแต่ละมื้อ
จึงช่วยลดพุงและลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ ได้โดยแบ่งสัดส่วนของจาน
(เส้นผ่านศูนย์กลาง 9 นิ้ว) ออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน
การกินแบบ
2 : 1 : 1 ใน 1 มื้อ จะให้พลังงานประมาณ 400 กิโลแคลอรี่
ช่วยลดพลังงานในแต่ละวันลงได้ 500 กิโลแคลอรี่ (1 สัปดาห์ ลดน้ำหนักลงได้
ครึ่งกิโลกรัม)
การกินแบบ
2 : 1 : 1 จะได้ปริมาณผักใน 1 มื้อ 100 – 200 กรัม และหากกิน 3 มื้อ
ควบคู่กับผลไม้ จะได้ปริมาณรวมไม่น้อยกว่า 400 กรัม
ตามข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลก ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ได้
ในหนึ่งจาน
4 ส่วน ขอให้มีผัก 2 ส่วน เพราะมีใยอาหารทำให้อยู่ท้อง เพิ่มวิตามินและเกลือแร่ที่ช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง
และทำงานได้อย่างปกติ ข้าวหรือแป้ง 1 ส่วน จะช่วยให้พลังงานที่สำคัญแก่ร่างกาย
แต่ก็ย่อยง่ายย่อยเร็ว ทำให้อิ่มเร็วสักพักต้องหิวอีก จึงต้องกินเนื้อสัตว์ 1ส่วน
เพราะเนื้อสัตว์นั้นย่อยยาก จึงอยู่ในกระเพาะนาน ก็จะหนักกระเพาะกว่า
ทำให้ไม่หิวเร็ว ดังนั้น สัดส่วนที่ควรกินใน 1 จาน จึงเป็น 2 : 1 : 1
ที่ต้องกินในหนึ่งมื้อ
แนะนำควรกินแบบ 2 : 1 : 1 ร่วมกับการมีกิจกรรมทางกาย ที่เพิ่มขึ้นจะช่วยลดพุงได้เร็วขึ้น
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ม.หอค้าไทย”โชว์ดัชนีชี้เป้าท่องเที่ยว+เกษตรยังเฉาแนะรัฐเร่งฟื้นQ3
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์ พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ประจำเดือนมี.ค. 2564 ว่า มีปัจจัยลบส่งผลต่อดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าหลัก ๆ คือ 1.ความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดของไวรัส วิด-19 รอบใหม่ ถึงแม้สถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายลงบ้างแต่ก็ยังไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศกลับสู่ปกติ 2.ความกังกลเรื่องเสถียรภาพทางการเมือง สถานการณ์ทางการเมืองและการชุมนุมทางการเมือง
ส่งผลให้ผู้ตอบแบบสอบถามยังคงกังวล 1.สถานการณ์เศรษฐกิจในจังหวัด 72.8% ตอบว่าเศรษฐกิจของจังหวัดโดยรวมแย่ลง ประกอบด้วย 1.การบริโภคแย่ลง 60 % 2.การลงทุนภาคเอกชนแย่ลง 70.9% 3.การจ้างงานแย่ลง 79.9% 4.การท่องเที่ยวในจังหวัดแย่ลง 94.1% 5.ภาคเกษตรกรรมจังหวัดแย่ลง 61.3%
ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าเดือนมีนาคม
2564 อยู่ที่ระดับ 20.9 ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์เล็กน้อย
ที่อยู่ในระดับ 20.1
ส่วน “ปัจจัยบวกสำคัญ” ก็มี 1.ภาครัฐสนับสนุนเศรษฐกิจกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศปรับตัวดีขึ้นผ่าน
โครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน เราชนะ และเรารักกัน 2.การฉีดวัคซีน ทั่วโลกฉีดรอบแรกแล้วทำให้สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น 3.ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้นหรือทรงตัวระดับที่ดีทำให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น
โดยเฉพาะ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง
จากผลสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยพบสิ่งที่น่าห่วงคือ
1.แต่ละจังหวัดตอบว่าอนาคตอีก 6 เดือนข้างหน้าการท่องเที่ยวในจังหวัดยังคงแย่อยู่ จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบแรงมากจึงยังไม่มีสัญญานฟื้น
2.ภาคเกษตรกรรมภาพรวมแม้ภาพสินค้าหลายตัวปรับราคาดีขึ้น
แต่สถานการณ์อนาคตยังแย่ลงและไม่ได้ปรับตัวดีขึ้น อาจเกิดจากปัญหาภัยแล้งที่แม้ราคาผลผลิตจะดีขึ้นแต่เกษตรกรไม่มีสินค้าในมือ
ทำให้กลุ่มตัวอย่างตอบว่าสถานการณ์ส่วนนี้ยังไม่ปรับตัวดีขึ้น
เมื่อ 2 กลุ่มหลัก คือท่องเที่ยวกับเกษตรกรรม ซึ่งเป็นกลุ่มหลักทั้งการจ้างงานหลักและเป็นกำลังซื้อของต่างจังหวัด
ยังไม่มีแนวโน้มดีขึ้น ก็จะส่งผลให้กำลังซื้อของประเทศไม่สามารถฟื้นตัวได้ในไตรมาส
3
และการระบาดของโควิด-19 รอบล่าสุด ยิ่งตอกย้ำภาคการท่องเที่ยวของไทย จะไม่ใช่ตัวสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยไปจนถึงไตรมาส
3 เช่นกัน ซึ่งเศรษฐกิจไทยยังไม่มีกำลังมากพอจะฟื้นขึ้นมาทำให้ต้องอาศัยการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐต่อไป
รวมทั้งมีข้อเสนอแนะที่กลุ่มตัวอย่างต้องการให้ภาครัฐดำเนินนการเพื่อแก้ไขปัญหา
คือ
1.เร่งพิจารณาแผนการผ่อนคลายภายในประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ พิจารณากฎระเบียบในการเดินทางเข้าออกประเทศ
เช่น การทำวัคซีนพาสปอร์ตมาใช้
2.กำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดภายในประเทศ เร่งกระจายวัคซีนให้ประชาชนทุกภาคอย่างทั่วถึง และออกมาตรการเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินกิจการและจ้างงาน
ข่าวที่สอง 2โรงแรม“เดอะเซนต์รีจิส-อินเตอร์คอน”จัดเต็มข้าวแช่พร้อมบุฟเฟต์สงกรานต์
โรงแรมในกรุงเทพฯ
ชวนไปฉลองสงกรานต์อย่างปลอดภัยกับการรับประทานอาหารอร่อย และเมนูไฮไลต์ “ข้าวแช่”
ระหว่าง 13-15 เมษายน
2564
โรงแรมแรก “เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพ”
ร่วมฉลองเทศกาลสงกรานต์ ที่ห้องอาหารวูว์
วันที่ 14
เมษายน 2564 เวลา 12.00 – 15.00 น.
พบกับบุฟเฟต์มื้อกลางวัน “Songkran Lunch Buffet” ราคา
คนละ 1,288 บาท++
พบกับเมนูไทยและนานาชาติ รังสรรค์มาเป็นพิเศษ พร้อมลิ้มรส “ข้าวแช่”
เมนูคลายร้อนสุดคลาสสิกของเทศกาลสงกรานต์ เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงหลากหลาย อาทิ
ลูกกะปิทอด พริกหยวกสอดไส้ หมูฝอย ไชโป๊ผัดหวาน ผักสดนานาชนิด
ของหวานเสิร์ฟไอศกรีมกะทิสด และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้
พร้อมลุ้นรับบัตรกำนัลจากการจับสลาก lucky draw อาทิ
ดินเนอร์บุฟเฟต์ หรือชุดน้ำชายามบ่าย 2 คน
วันที่ 15
เมษายน 2564 บุฟเฟต์มื้อเย็นถึงค่ำ “Songkran
Barbecue Party” ราคา 699
บาท++ ช่วง 15.00 – 19.00 น. อิ่มอร่อยแบบไม่จำกัดกับบาร์บีคิวริมสระน้ำ
บริเวณชั้น 15 เสิร์ฟบาร์บีคิวไก่ กุ้ง แกะ และเนื้อวัว
และอาหารอื่น ๆ ให้ได้ลิ้มลอง อาทิ ซี่โครงหมูย่างซอสบาร์บีคิวโฮมเมด
มินิเบอร์เกอร์ โฮมเมดไอศกรีม และเวลา 16.00 – 19.00 น.
เพลิดเพลินกับเสียงดนตรีจากดีเจจะมามอบความสุขตลอดมื้อค่ำ
สำรองที่นั่งล่วงหน้าที่
เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ โทร 02 207 7777 อีเมล
fb.bangkok@stregis.
โรงแรมที่ 2 อินเตอร์คอนติเนนตัล
กรุงเทพฯ ชวนไป “ห้องอาหารเอสเพรสโซ่”
ฉลองเทศกาลวันสงกรานต์และวันปีใหม่ไทยพร้อมสมาชิกในครอบครัว 13-15 เมษายนนี้
ด้วยบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันทั้งเมนูคาวและหวาน
ที่ยกขบวนความอร่อยมาให้ได้ลิ้มลองกันอย่างจุใจ
และพลาดไม่ได้กับเมนูพิเศษประจำฤดูกาลอย่าง “ข้าวแช่” หอมกลิ่นน้ำลอยดอกมะลิ
เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงครบครันที่บรรจงรังสรรขึ้นเฉพาะเทศกาลนี้เท่านั้น
ทางเชฟเน้นความพิถีพิถันในการทำเป็นอย่างมาก
ทั้ง ลูกกะปิทอด พริกหยวกยัดไส้ หมูฝอยหวาน หอมแดงยัดไส้
และผักเครื่องเคียงที่แกะสลักอย่างสวยงาม
ที่ห้องอาหารเอสเพรสโซ่ยังมีเมนูอาหารรสเลิศหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลกให้เลือกอิ่มอร่อย
จาก ประเทศจีน ญี่ปุ่น อินเดีย ตะวันตก
และตะวันออกกลาง ขนมอบนานาชนิด ขนมหวานยอดนิยมรับหน้าร้อนอย่างข้าวเหนียวมะม่วง
และอื่น ๆ
สำหรับ“มื้อกลางวัน” บริการตั้งแต่เวลา
12:00 – 14:30 น. ราคาคนละ 999++ บาท
เด็กอายุ 6-12 ปี คนละ 499++ บาท ฟรีเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี สำรองที่นั่ง โทร (+66)0
2 656 0444 หรือ www.bangkok.intercontinental.com
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น