ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ผู้นำททท.ถกเอกชนพลิกท่องเที่ยวแก้ทางโควิดปรับรายได้8แสนล้าน ครึ่งปีหลังลุยทำตามแผนทุกโครงการ”อะเมซิ่ง-อันซีน-ทัวร์เที่ยวไทย”

ผู้นำททท.ถกเอกชนพลิกท่องเที่ยวแก้ทางโควิดปรับรายได้8แสนล้าน

ครึ่งปีหลังลุยทำตามแผนทุกโครงการ”อะเมซิ่ง-อันซีน-ทัวร์เที่ยวไทย”

บัตรคิงเพาเวอร์ช้อปไม่ต้องมีไฟลต์บินรับ4สิทธิ์+เครดิตเงินคืน25%

“คิงเพาเวอร์”เปิดฟรีทดลองเป็นสมาชิกผ่านFreeTrailลดทันที 5 %

ททท.ภาคกลางรุกหลังสงกรานต์ชูเชฟบุ๊คชวนกินเที่ยวผ่านโซเชียล

“TCEB”เริ่มแล้วWFHให้ติดต่องานได้ปกติจะกลับมาทำปกติ5พ.ค.

เที่ยวเมืองไทยในช่วงโควิด-19ระบาดอย่างปลอดภัยกับ5เรื่องดี ๆ

8วิธีดูแลสุขภาพจิตช่วงโควิด-19 ระบาดกับการใช้ชีวิตให้เป็นปกติ

ศบค.-สธ.”เร่งนำเข้าวัคซีน16ล้านโด๊สตั้งเป้าฉีดครบทั่วไทยก.ย.64

กรมฯสุขภาพจิต สธ.ระดมโรงแรมกทม.ปริมณฑลร่วมทำHospitel

เมืองพัทยา”รับมือโควิดใช้โมเดลแซนบ็อกซ์+ฉีดวัคซีนป้องกันหมู่

 


ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 17 เมษายน 2564 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #ทททพลิกท่องเที่ยวแก้โควิดรอบ3  #KingPower #เที่ยวไทยเที่ยวได้  

ช่วงที่ 1 เกาะติดการปรับแผนท่องเที่ยวกับ “ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 21 เม.ย.64 ถกด่วนแผนตลาดในประเทศ ทบทวนเป้าปีฉลูรักษา 8 แสนล้านบาท รอฟังสภาพัฒน์ขยับจีดีพีรอบใหม่ ชู“เครื่องมือหลักมาตรฐานSHA หัวหอกใหญ่ เดินหน้าปรับรูปแบบ 5 โปรเจ็กต์ในประเทศ “อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม+Unseen New Series+lifestyle Travel 5 ภาค+ทัวร์เที่ยวไทย+เราเที่ยวด้วยกันเฟส3” “ลดจำนวนเน้นกลุ่มคุณภาพ” กระตุ้นธุรกิจปรับซัพพลายไซซ์ 2 โปรเจ็กต์รับตลาดอินเตอร์ “ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์โมเดล5จังหวัด+มาตรการSOP” ลั่น ททท.พร้อมหาช่องทางฟื้นเศรษฐกิจลุกกลับมาให้เร็วหลังทั้งประเทศโดนพิษโควิดรอบ3

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การปรับกลยุทธ์ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศให้สอดคล้องหลังโจทย์เปลี่ยนเมื่อเกิดการระบาดระลอก 3 เมษายน 2564 ต่อจากระลอก 2 สมุทรสาครทำให้เทศกาลปีใหม่ชะงักไปชั่วขณะราว 2 เดือน (มกราคม-กุมภาพันธ์ 2564) พอเดือนมีนาคมสัญญาณท่องเที่ยวเริ่มจะดีขึ้น ก็มาเจอเมษายนอีกครั้ง ททท.จึงจะต้องประเมินสถานการณ์ใหม่อีกครั้งถึงผลกระทบดังกล่าว เบื้องต้นกำหนดประชุมตลาดในประเทศในวันที่ 21 เมษายน 2564

รวมทั้งนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมจะนำทีมผู้บริหาร ททท.หารือร่วมกับภาคเอกชนกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งอุตสาหกรรม จากประสบการณ์ที่ผ่านมาแต่ละครั้งที่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ละรอบจะส่งผลให้การท่องเที่ยวชะงักตัวไป 14-28 วัน บวกกับระยะปลอดภัยด้วย ด้วยการพุ่งเป้าทบทวนหลัก ๆ

เรื่องที่ 1 แนวทางสู่เป้าหมายนำการท่องเที่ยวล้มแล้วลุกให้เร็วที่สุด เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ มีช่องทางใดสามารถทำได้บ้าง ซึ่งน่าจะเน้นควบคู่กันสองส่วนแรก คือ “ตลาดในประเทศ+เส้นทางท่องเที่ยวปลอดภัย” คู่ขนานการประมวลไทม์ไลน์การเปิดประเทศรับ “ตลาดต่างประเทศ” จะทำได้อย่างไร ซึ่ง ททท.ยังคงมองโลกแง่ดีว่าจะเปิดจริงช่วงปลายปี 2564 ระหว่างนี้ก็ต้องทำโมเดล “Sand Box” ทดลองเตรียมความพร้อมทั้งหมดไว้ก่อน จึงเป็นที่มาในการหารือร่วมกันกับภาคเอกชน เพื่อผนึกความร่วมมือกันปรับทิศทางฟื้นการท่องเที่ยวอย่างเหมาะสมต่อไป

 

เรื่องที่ 2 “เครื่องมือ” ที่จะนำมาใช้พลิกฟื้นความเชื่อมั่น คือ “มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA : Safety and Health Administration” เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลโดยตรงต่อการท่องเที่ยว ซึ่งจำเป็นต้องเน้น “การรักษาระยะห่างทางสังคม” สิ่งที่ ททท.พยายามทำคือใช้เครื่องมือ “รักษาให้คนยังคงอยากเดินทางท่องเที่ยว” ต่อไป ผนวกกับในต่างประเทศก็ยังต้อง “รักษาให้ไทยเป็นประเทศหนึ่งในดวงใจ” หรือ Top of Mind ให้ได้

 

เรื่องที่ 3 “กิจกรรม” การท่องเที่ยว คงไม่เน้นการรวมพลคนจำนวนมาก แต่จะเน้นนำเสนอ “ท่องเที่ยวเชิงพื้นที่ที่มีความปลอดภัย” เช่นเดียวกับกิจกรรมที่นำมาจัดต้องเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดทุกกิจกรรม

 

เรื่องที่ 4 “โครงการหรือแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยว” ยังคงเดินหน้าทำต่อไป แต่อาจจะปรับปเปลี่ยนรูปแบบให้เป็นไปตามมาตรฐานสาธารณสุข ภายใต้การขับเคลื่อนของ ททท.5 ภูมิภาค ทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคใต้ แคมเปญที่เตรียมพร้อมเปิดตัว ได้แก่ 1.แหล่งท่องเที่ยวอันซีนซีรีย์ใหม่ : Unseen New Series ทั่วประเทศ 25 เส้นทาง กระจาย 5 ภูมิภาค 2.แคมเปญอะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางในประเทศ

ตัวอย่างการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานของ ททท. เช่น การแถลงข่าวแคมเปญตามนโยบายรัฐบาล ประกาศขอความร่วมมือให้ทุกหน่วยราชการหยุดทำงานอยู่บ้าน Work from Home โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการบริการ ก็จะแถลงข่าวแต่ละกิจกรรมผ่านออนไลน์ โดยคงไทม์ไลน์การประชาสัมพันธ์กิจกรรม อีเวนต์ การท่องเที่ยวไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะหน้าที่หลักของ ททท.ต้องเน้นเรื่องสำคัญที่สุดคือ “การให้ข้อมูลข่าวสาร” เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นเรื่องการเดินทางท่องเที่ยว ฉนั้นก็จะต้องปรับรูปแบบวิธีการให้ข้อมูลข่าวสารมาเป็นอันดับแรกเพราะถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ส่วนโครงการหรือแคมเปญต่าง ๆ นั้นก็ต้องเน้นความปลอดภัยด้านสุขอนามัยอย่างเต็มที่

 

เรื่องที่ 5 “การจัดงานเทศกาลท่องเที่ยวช่วงครึ่งปีหลัง” ตามแผนของ ททท.ทั้ง 5 ภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็น เทศกาลท่องเที่ยวสวนผลไม้/อร่อยทุกไร่ชิมไปทุกสวน ซึ่งจะเริ่มปลายเดือนเมษายน 2564 หรือแคมเปญ “Lifestyle Travel” ในแต่ละภาค และโครงการ “วันธรรมดา น่าเที่ยว “ ก็คงจะดำเนินการต่อไป ภายใต้กติกาที่ต้องเพิ่มตามสถานการณ์ ได้แก่

1.ต้องจำกัดจำนวนคนเข้าร่วมกิจกรรมแต่ละครั้ง 2.ต้องลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมล่วงหน้า เพื่อป้องกันการรักษาระยะห่างที่จะป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดใหม่ได้ 3.ไม่เน้นจำนวนคนเข้าพื้นที่ แต่จะเน้นเรื่องความถี่ในการเดินทางเข้าไปใช้จ่ายเงิน 4.เลือกนำเสนอพื้นที่ที่สามารถทำได้ก่อนและเร็วอย่าง เส้นทางท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ สามารถขับรถไปเที่ยวกันเองกับคนในกลุ่มที่มีความมั่นใจว่า เดินทางไปด้วยกันแล้วเกิดความปลอดภัย 5.เน้นเพิ่มการใช้จ่ายเงินเฉลี่ยจากนักท่องเที่ยวแต่ละคนต่อทริปในพื้นที่มากขึ้น

 

อีกทั้งยังมีโครงการที่รัฐบาลให้การสนับสนุนรออยู่ ททท.จะเดินหน้าต่อโดยไม่สะดุดแต่อย่างใดอีก 2 โครงการใหญ่ ได้แก่ โครงการที่ 1 ทัวร์เที่ยวไทย ซึ่งให้บริษัทตัวแทนจัดนำเที่ยวผลิตแพกเกจเที่ยววันธรรมดา วางขาย 3 วัน 2 คืน ราคาสูงสุด 12,500 บาท แล้วรัฐจะช่วยจ่ายเงินอุดหนุนค่าแพกเกจให้บริษัททัวร์ไม่เกิน 5,000 บาท/คน โครงการที่สอง เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 รัฐจ่ายเงินอุดหนุนที่พัก/โรงแรม ทั่วประเทศ 40 % จำนวนเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านคืนพัก

ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า การเดินหน้าโครงการ “Phuket Sand Box” ตามมติศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ระบุไว้ชัดเจนให้เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ไตรมาส 4 จะไม่กักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติในบางพื้นที่ ททท.จึงนำนโยบายดังกล่าวมาปฏิบัติเลือกพื้นที่นำร่องที่ต้องพึ่งพารายได้จากต่างชาติเป็นหลัก เบื้องต้นคัดได้ 6 พื้นที่ คือ ภูเก็ต พังงา กระบี่ สมุย(สุราษฎร์ธานี) พัทยา(ชลบุรี) เชียงใหม่ เป็นการทดลองทำโมเดลเพื่อศึกษาตามที่ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์  รองนายกรัฐมนตรี นำทีมลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตสำรวจการเตรียมความพร้อมทำ “ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์” เริ่มไตรมาส 3 ปี 2564

 

รวมทั้งให้ “ฉีดวัคซีน” แก่คนภูเก็ต เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นมา แต่สิ่งที่คนภูเก็ตจะต้องทำไปพร้อม ๆ กันคือ การพัฒนาอุปสงค์แหล่งท่องเที่ยวหรือ Supply Size เปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว “กลุ่มคุณภาพ” มากขึ้น ตามสถานการณ์ที่ไม่สามารถเน้นปริมาณคนแต่เลือกคุณภาพที่พร้อมใช้จ่ายเงินสูง

 

ดังนั้นภูเก็ตจะต้องปรับกลยุทธ์การท่องเที่ยวไม่ให้เหมือนเดิม แต่จะต้องทำ Sand Box ทั้งเรื่องการเปิดและซัพพลายไซซ์ ดูแลด้านความสะอาด การรักษาสิ่งแวดล้อม การควบคุมมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ทำเพื่อให้พร้อมรองรับ “นักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพใหม่” ที่จะเป็นต้นแบบเข้ามาในไตรมาส 3 นี้เป็นต้นไป

 

สำหรับ ททท.สำนักงานต่างประเทศทั่วโลก  29 สำนักงาน ปฏิบัติตามนโยบายอย่างเคร่งครัดด้วยการรักษาความเชื่อมั่นให้ไทยครองใจแต่ละประเทศไว้ Top of Mind รวมทั้งตอนนี้ก็ร่วมกันนำไทม์ไลน์ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศชัดเจนให้เปิดประเทศนำเข้านักท่องเที่ยวต่างชาติได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2564 เป็นต้นไป

ส่งผลให้ ททท.ทั่วโลกสามารถพูดคุยและเริ่มเปิดการขายกับคู่ค้าในแต่ละตลาดต่างประเทศได้ คาดภายในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถเชิญชวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยเบื้องต้นประมาณ 100,000 คน ซึ่งเป็นตลาดกลุ่มคุณภาพจริง ๆ ภายใต้การปฏิบัติตามข้อตกลง 1.ทุกคนจะต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเรียบร้อยแล้ว 2.ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานกระทรงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ขณะนี้ ททท.ทุกสำนักงานในต่างประเทศทั่วโลก จึงกำหนดแล้วที่จะเลือกตลาดคุณภาพเข้ามาเที่ยว โดยทำงานใกล้ชิดกับทางบริษัทตัวแทนนำเที่ยวนานาชาติ กลุ่มลูกค้าระดับล่าง กลาง บน ก็แล้วแต่ความพร้อมของแต่ละประเทศ ส่วนในไทยก็ต้องทำงานร่วมกับโรงแรมต่าง ๆ

ตลาดศักยภาพกลุ่มแรก ๆ ที่มีสัญญาณความพร้อมแล้ว 1.กลุ่มตะวันออกกลาง ช่วงไตรมาส 3 จะออกจากการรอมดอนและเป็นช่วงปิดเทอม ต้องการเดินทางท่องเที่ยว หาก ททท.ทำงานร่วมกับบริษัททัวร์ โรงแรม และ DMC ก็จะนำเข้ามาได้ก่อนเป็นกลุ่มแรก ๆ โดยเฉพาะชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งฉีดวัคซีนเป็นประเทศแรก ๆ หรือกลุ่มครอบครัว ซึ่งต้องการเดินทางเปลี่ยนบรรยากาศ

สิ่งสำคัญคือไทยจะต้องเร่งทำ “มาตรฐานการปฏิบัติงานอย่างถูกต้อง SOPs : Standard of Procedures” ตอบสนองนักเดินทางได้โดยไม่ต้องเป็นภาระมากนัก โดยต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องคนไทยในพื้นที่ท่องเที่ยวนั้น ๆ จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนเอให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าพักผ่อนได้

กลุ่มที่ 2 ตลาดเอเชีย ททท.พยายามทำคือเริ่มเจรจากับบางประเทศ ซึ่งมีความมั่นใจในศักยภาพการควบคุมดูแลความปลอดภัยของโควิด-19 และต้องดูนโยบายของแต่ละประเทศด้วย ทำในลักษณะ Travel Bubble เป็นช่วงเริ่มคุยบ้างแล้วกับทาง เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฮ่องกง อาจจะต้องใช้เวลาสักระยะ

 

ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ททท.พยายามจะดูแลพยุงความอยู่รอดของเอกชนผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้ได้มากที่สุด เพราะต้องเผชิญวิกฤตมานานกว่า 1 ปีแล้ว ตามเป้าหมายปี 2563 คาดจะมีคนไทยเที่ยวในประเทศ 80-100 ล้านคน-ครั้ง ปี 2564 ขอขยับเป็น 160 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นอีก 60 ล้านคน-ครั้ง แต่พอช่วงต้นปีนี้เจอกับการระบาดของโควิดที่สมุทรสาครตัวเลขชะลอไป 2 เดือน และเมษายนนี้ก็เจอใหม่อีกครั้ง ฉนั้นจึงจะต้องกลับมาทบทวนใหม่อีกครั้ง คือ

 

1.ความถี่อาจจะไม่ได้ตามเป้าหมาย เพราะจำนวนคนหายไปตามสถานการณ์ ทางออกคือ หันไปเพิ่มเรื่องค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปได้หรือไม่ ตามเป้ารายได้ปี 2564 ประมาณ 800,000 ล้านบาท

 

2.โจทย์ที่ทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ให้ ททท.กระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) บวกเพิ่มตลอดปีนี้ 4% แต่การระบาดระลอกใหม่ ททท.ต้องรอสัญญาณสภาพัฒน์ว่าจะให้ตัวเลขใหม่หรือไม่อย่างไร

 

3.สถานการณ์ระบาดครั้งใหม่ ไม่ได้ทำเฉพาะผลกระทบกับการเดินทางของนักท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทุกสาขาทั้งประเทศ ได้รับผลกระทบต่อเนื่องมากกว่า 1 ปีแล้ว ดังนั้น “ทิศทางส่งเสริมการท่องเที่ยวครึ่งปีหลัง” เน้นช่วยเหลือผู้ประกอบการทุกรูปแบบที่สามารถจะทำได้

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 บัตรคิงเพาเวอร์ช้อปไม่ต้องมีไฟลต์บินรับ4สิทธิ์+เครดิตเงินคืน25%

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดมหกรรม ช้อปฉลองวันเกิดให้ผู้ถือบัตรสมาชิก ไม่ต้องมีไฟลต์บินก็รับสิทธิ์เครดิตเงินคืนในวันเกิดได้สูงสุดถึง 25 %

1.BIRTHDAY CELEBRATION รับสิทธิ์เป็นเครดิตเงินคืน 25% จำนวน 2 ชิ้น( สิทธิ์ละ 1 ชิ้น) โดยสมาชิกสามารถแยกใช้สิทธิ์วันเกิด รับเครดิตเงินคืน เข้าบัญชีสมาชิก 25%ของมูลค่าสินค้า เมื่อซื้อสินค้าหนึ่งชิ้นในราคาปกติในเดือนเกิด ถึง 2 สิทธิ์ ในการใช้ซื้อสินค้าที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา

-สามารถใช้กับสินค้าDuty Free, Duty Paid, Home Delivery ยกเว้นแผนกเหล้าและบุหรี่ และสินค้าที่ไม่ร่วมรายการ สิทธิ์ BIRTHDAY CELEBRATION มีอายุ 3 เดือน นับแต่เดือนเกิดของสมาชิก โดยจะได้รับคืนในรูปเครดิตเงินคืนเข้าบัญชีสมาชิกเท่านั้น

2.CARAT Rewards มูลค่ากะรัต(Carat Redemption Rate) 1 กะรัต มีมูลค่าเทียบเท่ากับ 1 บาท ในการซื้อสินค้า ซึ่งสมาชิก คิง เพาเวอร์ จะได้รับทุก 1 กะรัตจากทุกยอดซื้อ 100 บาท  ส่วนแต้มกะรัตคงเหลือจะมีอายุ 1- 2 ปีปฏิทิน นับจากวันที่เกิดยอดซื้อ ( ขึ้นอยู่กับละประเภทบัตร) เพื่อกะรัตคงเหลือไปใช้แทนเงินสดจ่ายค่าสินค้าได้ที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา และหากคืนสินค้าทุกชนิด คิง เพาเวอร์ ขอสงวนสิทธิ์หักกะรัตตามยอดซื้อดังกล่าว

3.KP Lounge รับสิทธิ์ใช้บริการ คิง เพาเวอร์ เลานจ์ จะนับจากการเข้าใช้ทุกครั้ง ทุกสาขา สมาชิกทุกประเภท สูงสุดไม่เกินสิทธิ์/ ครั้ง/ วัน และสามารถให้สิทธิ์ผู้ติดตามเข้าใช้ด้วยได้ครั้งละไม่เกิน 1 สิทธิ์/ ครั้ง/ วัน

4.อายุสมาชิก บัตร NAVY, SCARLET, ONYX และ VEGA 1 ปี บัตร CROWN 2 ปี

 

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์เปิดฟรีทดลองเป็นสมาชิกผ่านFreeTrailลดทันที5%

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มีสิทธิพิเศษ Free Trail ให้ลูกค้าคนไทยได้ทดลองสมัคร “สมาชิก คิง เพาเวอร์” คลิกสมัคร Free Trail ทางออนไลน์ www.kingpower.com  หรือทางแอพลิเคชั่น Line official King Power ระหว่างวันนี้ – 30 กันยายน 2564  รับส่วนลดทันที 5 % โดยไม่มีค่าสมัคร เป็นเพียงการลงทะเบียนทดลองเป็นสมาชิก คิง เพาเวอร์ แล้วสามารถนำสิทธิดังกล่าวไปเลือกซื้อสินค้า โดยไม่ต้องไฟลต์บิน ก็ช้อปได้ ด้วยส่วนลดทันที 5 %

 

             สามารถใช้สิทธิ์ตามกติกาดังนี้

1.สงวนสิทธิ์ให้สถานะสมาชิก Free Trial 5% แก่ผู้ที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก คิง เพาเวอร์ หรือหมดสถานะสมาชิกแล้วเท่านั้น

2.รายการส่งเสริมการขายที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มหานคร ศรีวารี พัทยา และภุเก็ต สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่ วันนี้ - 30 กันยายน 2564

 

3.รายการส่งเสริมการขายที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่ วันนี้ - 30 มิถุนายน 2564

 

4.ส่วนลดสมาชิก Free Trial 5% สามารถใช้ซื้อสินค้า Duty Free และสินค้าป้ายฟ้าได้ (เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ) ยกเว้นแผนกสุรา และบุหรี่ 

5.ส่วนลดสมาชิก Free Trial 5% สามารถใช้ได้ที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา (ยกเว้น www.kingpower.com)

ลูกค้าที่ลงทะเบียนรับสถานะสมาชิก Free Trial 5% เมื่อมียอดซื้อสินค้าครบตามที่กำหนด จะได้รับสถานะเป็นสมาชิก คิง เพาเวอร์ (1สิทธิ์/ท่าน/ตลอดรายการส่งเสริมการขาย) ดังนี้ 1.ยอดซื้อครบ 1,000 บาท รับสถานะเป็นสมาชิก NAVY (ส่วนลด 5%) 2.ยอดซื้อครบ 6,000 บาท รับสถานะเป็นสมาชิก SCARLET (ส่วนลด 10%) 3.ยอดซื้อครบ 60,000 บาท รับสถานะเป็นสมาชิก ONYX (ส่วนลด 15%) โดยมีอายุสมาชิก 1 ปี

 

ข่าวที่ 3 ททท.ภาคกลางปรับแผนหลังสงกรานต์ชูเชฟบุ๊คชวนกินเที่ยวผ่านโซเชียล

 

นางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในช่วงรอยต่อการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รอบที่ 3 ได้นำทีมลงพื้นที่ พร้อมตรวจมาตรการการท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ในภาคกลาง พบว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ดูแลปฏิบัติตามด้านสุขอนามัย สวมหน้ากาก ใช้เจล รักษาระยะห่างทางสังคม ส่วน ร้านอาหาร ร้านค้าต่าง ๆ   ก็มีแอพลิเคชั่น ไทยชนะ วัดอุณหภูมิคนเข้าไปใช้บริการ

 

รวมทั้งได้พบพฤติกรรมการท่องเที่ยวเทรนด์ใหม่ ของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ขับรถท่องเที่ยวกันเป็นกลุ่มที่คุ้นเคย เช่น บ้านน้ำเคียงดิน (อยู่ใกล้บ้านชุมชนทำผักตบชะวา) จ.ชัยนาท มีกลุ่มขี่รถมอเตอร์ไซต์จากอุดรธานีเข้ามาพักค้างแคมป์แห่งนี้ ขับรถท่องเที่ยวจากอีสานลงสู่อีสาน แล้วแวะกางเตนท์ระหว่างทาง เพื่อมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ของไทย

 

ผอ.จุฑาทิพย์ กล่าวว่า แผนงานของภูมิภาคภาคกลาง ช่วงหลังสงกรานต์ จะมีภารกิจหลัก ประกอบด้วย

1.ให้ภูมิภาคกลาง 9 สำนักงาน ทำงานอยู่บ้าน ถึงแม้บางจังหวัดจะยังไม่ได้มีคำสั่งอย่างเป็นทางการก็ต้องปฏิบัติตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยจะต้องติดต่อประสานงานกันตลอดทุกวันทำการ เพื่อลดการเดินทางให้น้อยที่สุด หากต้องไปร่วมประชุม หรือไปทำกิจกรรมที่จำเป็น จะต้องทำหนังสือขออนุญาตมายังรองผู้ว่าการตลาดในประเทศ            

2.โครงการ “เที่ยวเมืองรอง ภาคกลาง ศิวิไลซ์” มีโปรโมชั่นออกวางตลาด กับ “อาหารถิ่นกินที่บ้าน” โดยได้ “เชฟบุ๊ค-บุญสมิทธิ์ พุกกะณะสุต” สอนทำอาหารอยู่บ้าน ด้วยการเน้นวัตถุดิบคัดสรรมาจากทั่วภาคกลางที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับแหล่งผลิตหรือ Geography Index :GI ได้ เช่น 1.ปลาแม่ลา สิงห์บุรี ซื้อมาจำนวน 60 กก.พอทำอาหารแล้วก็ขายสินค้าท้องถิ่นไปด้วย 2.สับปะรด ประจวบคีรีขันธ์ ในช่วงสุดท้ายตอนจบกิจกรรมจะคัดเลือก “นักท่องเที่ยว” มาทำอาหารผ่านเพจ ลุ้นรับรางวัลต่อไป ล่าสุดเป็นการพาไป “ตะลอนชมไร่องุ่น” อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี สามารถนำองุ่นมาทำอาหารได้ทั้งเมนูคาวและหวาน เรียนกับเชฟทางออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย แล้วยังได้เห็นแหล่งท่องเที่ยวด้วย

 

3.อัพเดทแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในความดูแลให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ความเคลื่อนไหว เพราะหลัก ๆ จะทยอยประกาศปิดบริการชั่วคราว ได้แก่ อุทยานแห่งชาติ พิพิธภัณฑ์ ชุมชนบางแห่ง เช่น บ้านดงเย็น สุพรรณบุรี ส่วนวัดทั่วไป ยังเปิดให้คนเข้าทำบุญ ข้อดีคือ การจราจรค่อนข้างสบาย ๆ

 

4.เลื่อนการจัดงานเดิมซึ่งกำหนดจัดในช่วงเมษายน นี้ เช่น โครงการ “ปาท่องโก๋แคมปิ้ง” เลื่อนไปเป็นเดือนมิถุนายน 2564

สำหรับมหาโปร...เที่ยวไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม ทุกวันที่ 5 มีโปรโมชั่นออกมา แต่ขอให้ยืดเวลาออกไปให้นักท่องเที่ยวสัก 5-6 เดือน จองก่อน เที่ยวทีหลัง ขอให้ดูมาตรการสาธารณสุขเป็นหลัก

 

ข่าวที่ 4 TCEB”เริ่มแล้วWFHให้ติดต่องานได้ปกติจะกลับมาทำงานปกติ5พ.ค.64

 

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) TCEB ประกาศเริ่มมาตรการให้บุคลากรปฏิบัติงานจากที่พักอาศัย (Work from Home) ตั้งแต่วันที่ 16 - 30 เมษายน 2564 แล้วจะกลับมาทำงานตามปกติตั้งแต่ 5 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป

 

ระหว่างใช้มาตรการให้พนักงานทั้งหมด Work from Home นั้นทีเส็บยังเปิดให้พันธมิตรต่าง ๆ ติดต่อทีเส็บได้ทางอีเมล์ info@tceb.or.th โทร. 02-694-6000 ในเวลาทำการ จันทร์ถึงศุกร์ 8.30 – 17.30 น.

หรือช่องทางการสื่อสารประจำตัวกับบุคลากรที่เคยประสานงานไว้ www.businesseventsthailand.com

 

                ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยยังเที่ยวได้ เมื่อจะออกเดินทางเที่ยวในประเทศ ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ยังไม่จาง ก็ขอแนะนำ “ท่องเที่ยวปลอดภัยโดยเลือกทำ 5 เรื่องดี ๆ” ต่อด้วย “8วิธีดูแลสุขภาพจิต” ช่วงที่คนไทยกำลังกังวลกับการใช้ชีวิตช่วงโควิดรอบ 3 พร้อมฟังข่าวเจาะลึก “วัคซีนฉีดเข้าไทย16 ล้านโด๊ส” มิ.ย.-ก.ค.64 “เร่งใช้โรงแรมทำ Hospitel” ในกรุงเทพฯและปริมณฑล และ “เมืองพัทยา” ลั่นสร้างความมั่นใจเที่ยวปลอดภัย โดยใช้โมเดลแซนบ็อกซ์ควบคู่ฉีดวัคซีนให้ครบทั้งจังหวัด

 

เที่ยวเมืองไทยในช่วงโควิด-19ระบาดอย่างปลอดภัยกับ5เรื่องดีๆ

 

            เมื่อเมืองไทยต้องปรับรูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดระลอก 3 โดยยังสามารถเลือกไปพักผ่อนตามสถานที่ต่าง ๆ อย่างปลอดภัย ไปพร้อม ๆ กับ 5 เทคนิคดี ๆ 5 เรื่อง

 

เรื่องที่ 1 ปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทั้งการรักษาระยะห่างระหว่างกัน 1- 2 เมตร สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง หมั่นล้างมือด้วยสบู่ล้างมือหรือ หรือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ หลีกเลี่ยงการนำมือสัมผัสใบหน้า และหลีกเลี่ยงใช้สิ่งของส่วนตัว หรือ ภาชนะต่าง ๆ ร่วมกัน เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของตัวเองและคนในครอบครัว

 

เรื่องที่ 2 เลือกเดินทางด้วยรถส่วนตัว สามารถแวะจอดเที่ยวตามสถานที่ซึ่งตรวจสอบแล้วปลอดภัยช่วยลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของโควิด-19 แต่ถ้าจองตั๋วเครื่องบินไว้แล้ว เมื่อไปถึงจุดหมายอาจเลือกให้บริการรถเช่า หรือ เหมารถในพื้นที่ หรือหากจะต้องรถโดยสารสาธารณะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา

 

เรื่องที่ 3  มองหาสถานที่เที่ยวที่ใหม่ ๆ ที่คนยังไม่ค่อยรู้จัด จะได้ไม่แออัดจนเกินไป  ตอนนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แนะนำพื้นที่อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม กับ อันซีน นิว ซีรีย์ ทยอยออกมาบอกกัน ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม หลายแห่งยังคงเปิดต้อนรับ แต่ก็ต้องตรวจสอบข้อมูลล่วงหน้าก่อนเข้าไปเยี่ยมชม เพราะชุมชนหลายพื้นที่ปิดบริการชั่วคราวในช่วงโควิดแพร่ระบาดหนัก

 

เรื่องที่ 4  พร้อมใช้ “ไทยชนะ” เมื่อเข้าไปใช้บริการท่องเที่ยว พักผ่อน ทุกสถานที่ ต้องให้ความร่วมมือใช้แอพลิเคชั่น “ไทยชนะ” เช็กอิน เช็กเอาท์ จะได้ช่วยสอบสวนโรคได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ในกรณีตรวจสอบไทม์ไลน์ย้อนหลังของผู้ติดเชื้อ เพื่อช่วยกันติดตามและควบคุมผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงสูงในการสัมผัสเชื้ออีกด้วย

 

เรื่องที่ 5  เพิ่มทางเลือกใหม่ หันมาซื้อประกันเดินทางในประเทศ ประกันภัยโรคโควิด กำลังมาแรง ดูตามความเหมาะสมและจำเป็น เพื่อความสบายใจในแต่ละครั้งที่ออกเดินทางเที่ยวเมืองไทย

 

8วิธีดูแลสุขภาพจิตช่วงโควิด-19 ระบาดกับการใช้ชีวิตให้เป็นปกติ

 

ทาง “Mental health and psychosocial considerations during COVID-19 outbreak” โดยองค์การอนามัยโลก แนะนำการร่วมด้วยช่วยกันดูแลสุขภาพจิตผู้คนในช่วงการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่กลับมา ด้วยหลักปฏิบัติดังนี้

1.ดูแลตนเองโดยพักผ่อน รับประทานอาหารให้พียงพอและถูกสุขอนามัย ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ติดต่อกับครอบครัวและเพื่อนฝูงอย่างต่อเนื่อง อาจลองทำงานอดิเรกใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำ

 

2.ไม่ตีตราหรือเรียกผู้ป่วยที่เป็นโควิด-19 ด้วยถ้อยคำรุนแรง ช่น “ไอ้โควิด” “ครอบครัวโควิด” หรือ “ตัวเชื้อโรค” พราะเขาเป็นเพียง “คนที่ป่วยด้วยโควิด” เท่านั้น

 

3.ลดการดู การอ่าน หรือการฟังข่าวที่ทำให้รู้สึกวิตกกังวลเกินไป ไม่หลงเชื่อข่าวลือ เลือกรับข้อมูลข่าวสารจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น ช่น องค์กรอนามัยโลก กระทรวงสาธารณสุข ฯลฯ

 

4.อัพดทข้อมูลเกี่ยวกับโรคพียงวันละ 1-2 ครั้ง ไม่ควรดูต่อเนื่องตลอดเวลาจะทำให้ทุกคนรู้สึกกลัวกังวลได้ง่าย การอ่านซ้อมูลจากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ จะช่วยแยกแยะข้อเท็จจริงจากข่าวลือ ช่วยลดความวิตกกังวลได้

 

5.ปฏิบัติตามชั้นตอนเพื่อป้องกันตัวเองและคนที่คุณรักอย่างเคร่งครัด (เช่น ล้างมือบ่อย ๆ ไม่เอามือแตะหน้า ไอจามปิดปาก อยู่บ้าน เว้นระยะห่าง จากผู้อื่น สวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งกักตัวเมื่อเจ็บป่วย) เพื่อเสริมสร้งความเชื่อมั่นของตนเองในการป้องกันโรค

 

6.ปกป้องตนเองและช่วยหลือผู้อื่น แบ่งปันในสิ่งที่ทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุ ผู้พิการ คนไร้บน ผู้บกพร่องทางสติปัญญา

 

7.หาโอกาสในการพูดถึงเรื่องราวในเชิงบวกของผู้ที่เคยป่วยเป็นโควิด-19 เช่น การแชร์เรื่องราวของ ผู้ที่หายป่วย หรือเรื่องราวของผู้ที่เคยดูแลผู้ป่วยจนหายดีแล้ว

 

8.ให้เกียรติผู้ดูแลและผู้ปฏิบัติงานทางสาธารณสุขที่กำลัง รักษาผู้ป่วยและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 “ศบค.-สธ.”เร่งนำเข้าวัคซีน16ล้านโด๊สตั้งเป้าฉีดครบทั่วไทยก.ย.64

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาดรอบ 3 เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนต่อเนื่องถึงสงกรานต์ จนถึงปัจจุบัน กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานเกี่ยวข้องพยายามให้ข้อมูลประชาชนในมิติต่าง ๆ เพื่อร่วมมือกันป้องกัน ควบคุมความเสี่ยงการแพร่ระบาดให้เบาบางลง ตามที่นายกรัฐมนตรีประกาศขอให้หน่วยงานราชการ และบริษัทเอกชน สั่งพนักงานทำงานอยู่บ้านในช่วง 2 สัปดาห์นี้ ระหว่าง 16-30 เมษายน 2564

 

ขณะที่ “ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (ศบค.) และกระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด ณ วันที่ 16 เมษายน 2564 ประกาศ "WFH : ทำงานอยู่บ้าน" ตัวเลขผู้ติดเชื้อหลังจากนี้ 2สัปดาห์ จะลดน้อยลงต่ำกว่าวันละ 1,000 คน

 

พร้อมทั้งนำเสนอความเคลื่อนไหวการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 เข็มที่ 1 ให้คนในประเทศไทย ระหว่าง 28 ก.พ.-15 เม.ย.2564 รวม 5 กลุ่ม ดังนี้

 

1. ฉีดให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงไปแล้ว 40.35 % 2.ฉีดให้บุคลากรสาธารณสุขไปแล้ว 40.41 % 3.ฉีดให้ประชาชนที่มีโรคประจำตัวไปแล้ว 4.42% 4.ฉีดให้คนสูงวัยอายุ 60 ปีไปแล้ว 5.14 % และ 5. ฉีดให้เจ้าหน้าที่อื่น ๆ ไปแล้ว  9.69 %

ทั้งนี้ทางกระทรวงสาธารณสุข รายงานว่า ไทยกำลังเตรียมรับ "วัคซีนป้องกันโควิดล็อตใหญ่" ในอนาคตอันใกล้นี้ 2 เดือน รวม 16 ล้านโด๊ส คือเดือน มิถุนายน 2564 จำนวน    6 ล้านโด๊ส และเดือนกรกฎาคม 2564 จำนวน 10 ล้านโด๊ส

 

และเป้าหมายภายในเดือนกันยายน 2564 กระทรวงสาธารณสุขจะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้คนไทยเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ให้ครบ 70% ของประชากรทั้งประเทศระหว่างนี้!!!  ขอให้ประชาชน ติดตามเฝ้าระวังและทำตามข้อแนะนำของสาธารณสุขด้านสุขอนามัย แล้วก็รอแอพลิเคชั่น "หมอพร้อม" ในเดือนพฤษภาคม 2564 เพื่อลงทะเบียนขอรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดฟรี ตามที่รัฐบาลประกาศไว้

 

ข่าวที่ 2 กรมฯสุขภาพจิต สธ.ระดมโรงแรมกทม.ปริมณฑลทำHospitel

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ประกาศขอความร่วมมือ “ผู้ประกอบการโรงแรม” ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล นำห้องพักมาเข้าร่วมโครงการ Hospitel -เปิดหอผู้ป่วยติดโรคโควิด-19 เฉพาะกิจ”  เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีอาการน้อยหรือไม่รุนแรง  โดยปรับเปลี่ยนโรงแรมให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวังอาการ 

 

โดยปฏิบัติตามขั้นตอนคือ “ผู้ป่วย” จะเข้ารักษาตามอาการหรือรักษาในโรงพยาบาล 2-7 วัน จากนั้นจึงส่งเข้าสังเกตอาการต่อนับจากวันที่มีอาการใน Hospitel จนครบอย่างน้อย 14 วัน เพื่อให้ทางโรงพยาบาลรองรับผู้ป่วยอาการหนักได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

สำหรับคุณสมบัติของโรงแรมที่จะเข้าร่วมโครงการHospitel  จะมีพี่เลี้ยงไปให้คำปรึกษาจากโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชน  เช่น โรงพยาบาลพญาไท โรงพยาบาลเปาโล และ โรงพยาบาลเครือ BDMS  แต่เงื่อนไขสำคัญคือโรงแรมนั้น ๆ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาชนในชุมชนจึงสามารถดำเนินการได้

 

โรงแรมที่จะเข้าร่วมทำเป็น Hospitel ดูรายละเอียดเอกสารแนบนี้ : shorturl.asia/OZAVL

 

1. นำเสนอการเตรียมโรงแรมเพื่อจัดทำหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ COVID-19 (Hospitel)

2. แนบเอกสารประกอบขออนุมัติสถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้น ไม่ต้องอยู่ภายในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลฯ

3. มีหนังสือขอความเห็นขอบจากชุมชนข้างเคียง

 

ขณะที่ สมาคมโรงแรมไทย ก็ได้ประกาศเชิญสมาชิกและผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม เข้าร่วมเป็น “Hospitel”  ช่วยเหลือสังคมในวิฤตครั้งนี้   

 

สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมนำห้องพักมาทำ Hospitel สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับทาง “ดร. สุวภรณ์ แนวจำปา” ผู้อำนวยการ กองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข  โทร. 02 193 7094 และ 087-979-4664

 

ข่าวที่ 3 “เมืองพัทยา”รับมือโควิดใช้โมเดลแซนบ็อกซ์ควบฉีดวัคซีนป้องกันหมู่

 

นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า ขณะนี้วางมาตรการรับมือสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบ 3 เรื่องการดูแลป้องกันด้านการท่องเที่ยว เมืองพัทยาวางแผนทำปฏิทินกิจกรรมรายเดือนแบ่งออก 4 แบบ ได้แก่ 1.จัดเอง 2.จัดกับ ททท.3.จัดกับเอกชน 4.จัดตามสถานการณ์ ได้ทดลองทำบ้างแล้วช่วงสงกรานต์ระหว่าง 8-16 เม.ย.2564 จัดเทศกาลว่าวนานาชาติ จากนี้เป็นต้นไปยังได้ทำงานร่วมกับ ททท.อย่างใกล้ชิดในฐานะองค์กรหัวหอกทางด้านการตลาด เพราะเป้าหมายคือต้องการ “เพิ่มค่าใช้จ่ายต่อหัว” เข้าพัทยา

ขณะเดียวกันกำลังพิจารณานำโมเดล SAND BOX คือการจำกัดพื้นที่นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้ เมื่อเดินทางเข้ามาพักผ่อนแล้วจะให้สวอปต่อเนื่องทุก 3 วัน บวกกับการปรับรูปแบบท่องเที่ยวให้เป็นวิถีใหม่ ด้วยการสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวควบคู่กันทั้งสองเรื่องคือ 1.การจำกัดพื้นที่ทำ SAND BOX และ2.ลุยฉีดวัคซีนให้คนในพื้นที่แบบปูพรมให้ครบ เพื่อสร้างการป้องกันหมู่ไวรัสโควิด-19

 

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai