ผู้นำสภาฯท่องเที่ยววอนรัฐทำด่วน3ตัวช่วยพยุงเอกชนทั้งประเทศรับโควิด3 ชี้“ตั้งกองทุนฟื้นฟูท่องเที่ยว-อัดซอฟท์โลน-พยุงจ้างงาน”ก่อนเศรษฐกิจเยิน
ผู้นำสภาฯท่องเที่ยววอนรัฐทำด่วน3ตัวช่วยพยุงเอกชนทั้งประเทศรับโควิด3
ชี้“ตั้งกองทุนฟื้นฟูท่องเที่ยว-อัดซอฟท์โลน-พยุงจ้างงาน”ก่อนเศรษฐกิจเยิน
“คิง เพาเวอร์”หนุนสำนักปลัดฯเปิดประกวด“เด็ก(อวด)ทำดี”ถึง30เม.ย.64
คิงเพาวอร์ชวนช้อปI SUMMER YOUตลุยสาดโปร#สาดส่วนลดยกทั้งห้าง
ททท.หนุนจัดเสน่ห์สีสันผ้าเมืองลำพูน3กิจกรรม6ครั้งปลายเม.ย.-มิ.ย.นี้
“TCEB”รุกภาคเหนือดันเชียงใหม่ไมซ์ซิตี้ขึ้นชั้นอินเตอร์รอตลาดต่างชาติ
อันซีนใหม่ไป“หุบผาสวรรค์”รับพลังศรัทธานำทางเที่ยวอ.ปากท่อ
ราชบุรี
ชวนทำ4กิจกรรมลดความเบื่อหน่ายช่วงอยู่บ้านช่วยชาติหยุดเชื้อโควิด19
ทอท.เปิดธุรกิจร่วมทุนศูนย์คาร์โก้เอเชียรอข่าวดีธุรกิจสนามบินฟื้นปี’66
บางกอกแอร์ปิดเคาน์เตอร์ออกตั๋ว3แห่งเปิดจองผ่านคอลเซนเตอร์1771
ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2564 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง
ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.
ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋
#สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย #KingPower #เด็กอวดทำดี
ฟัง Liveสดจากลิงค์นี้ https://www.facebook.com/watch/?v=184381050191429
ช่วงที่ 1 ธุรกิจเอกชนทั้งอุตสาหกรรมตะโกนดัง ๆ ผ่าน “นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์” ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทั้งประเทศขอตัวช่วยด่วน 3 เรื่อง “ซอฟท์โลนพยุงจ้างงาน-กองทุนฟื้นฟูท่องเที่ยว-วัคซีนเสริมทัพโมเดลแซนบ็อกซ์” วอนรัฐสั่งเดินหน้า “ทัวร์เที่ยวไทย-เราเที่ยวด้วยกันเฟส3” อย่ากังวลเรื่องคนโกง ลั่นพร้อมนำลุยซ้อมแผน เตรียมความพร้อมรับ “เศรษฐีต่างชาติ” ไตรมาส 3 ปี64 ท่องเที่ยวต้องทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น
นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ภาพรวมของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตลอดช่วงสงกรานต์ปี 2564 รัฐบาลและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้การสนับสนุนอย่างดีเยี่ยม แต่กลับเป็นฝันสลายของผู้ประกอบการเมื่อเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ขึ้นระลอก 3 นักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางทันที 20-30 % หากยิ่งเผชิญปัญหานานวันขึ้นผู้ประกอบการจะต้องประเมินตัวเองกันอีกครั้งว่าจะพยุงธุรกิจให้ยืนอยู่ได้อย่างไร
ขณะนี้สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ ได้ประเมินสถานการณ์ไว้ 2 แนวทาง คือ แนวทางที่ 1 เดินหน้าเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก แนวทางที่ 2 กระตุ้นคนไทยเที่ยวไทย กระแสตอบรับดีพอสมควร เร็ว ๆ นี้รัฐบาลเตรียมสนับสนุนเงินภาคเอกชนท่องเที่ยวอีก 2 โครงการ คือ ทัวร์เที่ยวไทย กับเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 แต่ยังคงเป็นห่วงเรื่องการระบาดรอบ 3 เมื่อเมษายนนี้ อาจต้องเลื่อนเปิดโครงการหรือไม่ แต่เอกชนเตรียมตัวเดินหน้าอยู่ตลอดเวลา และยอมรับได้หากจะต้องดึงเวลาหรือเลื่อนออกไป ภายใต้การเตรียมความพร้อมเชิงรุกรับมือได้ทันที
ปัจจุบันมีหลายจังหวัดต้องพึ่งพา “ตลาดต่างประเทศ” เข้ามาเยียวยาเพราะลำพังไทยเที่ยวไทยอย่างเดียวไม่สามารถช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ ดังนั้นการทำงานภายใต้สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งมีเครือข่ายสมาชิกธุรกิจ 13 สาขา ทั้ง โรงแรม บริษัทตัวแทนนำเที่ยวในประเทศ นำเข้านักท่องเที่ยวต่างประเทศ รถเช่า มัคคุเทศก์ และอื่น ๆ ซึ่งเห็นพ้องกันจำเป็นจะต้อง “พลิกโดยเปิดประเทศ” ก่อนหน้านี้มีสัญญาณสดใสเมื่อนายกรัฐมนตรีให้การบ้านมาคิดทำโมเดลโดยใช้ต้นแบบ “Phuket Sand Box”
โดยทางสภาท่องเที่ยวก็ได้ลงพื้นที่ร่วมกับนายสุพัฒนพงศ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี เลขาธิการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้ว่าการ ททท.และทีมงานเกี่ยวข้องทั้งหมด ไปตรวจความพร้อมและแลกเปลี่ยนความเห็นกับเอกชน และประชาชนชาวภูเก็ต ซึ่งได้คำตอบที่ดีมาก จนนำมาสู่การเสนอเรื่องนี้ในที่ประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (ศบศ.)
ทาง ศบศ.มีมติอนุญาตให้นำวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ไปฉีดให้ “ชาวเกาะภูเก็ต” ได้ คำนวณเบื้องต้นจะใช้ประมาณ 900,000 โด๊ส เพียงพอให้คนในท้องถิ่นกับพนักงานบริการทุกภาคส่วนและแรงงานฉีดได้เกินกว่า 70 % กำหนดนำร่องเดือนกรกฎาคม 2564 แต่พอเกิดการระบาดรอบ 3 ช่วงต้นเดือนเมษายนจนถึงขณะนี้ ต้องรอหารือกันอีกรอบว่าจะเดินหน้าต่ออย่างไรได้บ้าง
นายชำนาญกล่าวว่า
การเดินหน้าแต่ละโครงการโดยเฉพาะ “ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์” คงต้องเดินหน้าต่อไป
เพียงแต่ต้อง “รอจังหวะเวลาเริ่มต้น” อย่างเหมาะสม ดังนั้นช่วงนี้จึงเป็นเรื่องของ
1.การซ้อมแผน 2.การเตรียมความพร้อม
ต่าง ๆ 3.การฉีดวัคซีนไปเรื่อย ๆ
อย่างต่อเนื่องจนครบทั้งเกาะภูเก็ต และในประเทศไทย
เพราะวัคซีนเป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นให้คนมั่นใจที่จะเดินทาง
แม้แต่คนไทยเองถ้าจะออกมาท่องเที่ยวก็ต้องเลือกพื้นที่ที่มีการฉีดวัคซีนแล้วเช่นกัน
ประเมินได้จากช่วงสงกรานต์นักท่องเที่ยวยกเลิกไปพอสมควร
ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต้องการ “วัคซีน” ฉีดให้พื้นที่จังหวัดที่ต้องการนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปพักช่วงไตรมาส 3 ปีนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเป็น ภูเก็ต กระบี่ สมุย พัทยา หัวหิน แต่โดยรวมแล้วทุกจังหวัดต่างก็ต้องการวัคซีนด้วยกันทั้งนั้น
แต่โจทย์วันนี้คือพอจะเริ่มทำโมเดล “ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์” ก็ยังไปไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะโควิด-19 ดันมาเกิดการระบาดรอบ 3 ขึ้น หลายภาคส่วนจึงหันมาส่งเสียงให้รัฐบาลกระจายวัคซีนก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนข้อมูลความต้องการวัคซีนฉีดให้ภาคท่องเที่ยวนั้นจะอิงภาพรวมคือรัฐบาลประกาศจะฉีดให้คนไทยทั้งประเทศเป็นการป้องกันหมู่ต้องฉีดให้ครบ 70 % ของประชากรทั้งหมด
นายชำนาญกล่าวว่าสิ่งที่เป็นห่วงมากสุดขณะนี้ “การพยุงธุรกิจท่องเที่ยวทั้งระบบ” ให้เดินหน้าต่อไปได้ จะมีวิธีหรือช่องทางรอดได้อย่างไร เพราะไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญกับการปิดบริการหรือการชะลอตัวของการเดินทางจากนักท่องเที่ยวอีกกี่เดือน ผลกระทบที่ตามมาต่อจากนี้ไป 1.เลิกจ้างงานเพิ่มขึ้น เพราะเจ้าของกิจการไม่รู้จะต้องปิดอีกนานเท่าไร แต่ตอนนี้ “รัฐ” เป็นองค์กรแข็งแรงมากที่สุดก็ควรเข้ามาช่วยพยุงเอกชนไว้ อย่างแรกอยากให้กำลังใจรัฐบาลควบคุมโควิดรอบ 3 ให้อยู่ก่อน แล้วจากนั้นก็ขอเรียกร้องให้หันมาช่วยเอกชนอย่างจริงจัง
ส่วนโจทย์การแก้ไขปัญหาจากผลกระทบโควิด-19 ต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวเปลี่ยนไปอีกขั้นนั้น
ความต้องการของเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งเดิมเคยขอ 1.เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ Soft Loan 2.ส่งเสริมเงินสนับสนุนช่วยเอกชนจ่ายเงินเดือนพนักงาน
Co-Pay เพื่อรักษาบุคลากรภาคบริการไว้
ทุกอย่างที่ผ่านมาอาจจะไม่ได้การตอบรับอย่างถ่องแท้ เช่น
เงินกู้ซอฟท์โลนรัฐบาลโยนไปให้ธนาคารพาณิชย์รับผิดชอบปล่อยกู้
นำกฎระเบียบปกติมาใช้ปล่อยกู้
ส่งผลให้ธุรกิจรายย่อยไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้เลย
ยกเว้นธุรกิจขนาดใหญ่ซึ่งมีความพร้อมอยู่แล้ว
ขณะนี้ธุรกิจรายย่อยจึงเรียกร้องใหม่อีกครั้งขอให้รัฐบาลพิจารณาจัดตั้ง
“กองทุนฟื้นฟูท่องเที่ยว” ได้หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ธุรกิจขนาดเล็ก 1-2 แสนราย เข้าไม่ถึงแหล่งเงินจริง ๆ
เพราะครั้งใหม่หากยังใช้เงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อแบบเดิม ๆ อย่างไรก็ไม่ได้ผล
ล่าสุดได้ข่าวใหม่ว่ารัฐบาลเตรียมตั้งกองทุนฟื้นฟูท่องเที่ยว
แต่เอกชนยังไม่รู้วิธีการเข้าถึงแหล่งเงินกู้จากกองทุนที่กำลังจะจัดตั้งนั้นจะช่วยได้หรือไม่อย่างไร
เพราะข้อมูลยังมาไม่ถึงภาคเอกชนที่ต้องการความช่วยเหลือ
วันนี้เสียงเรียกร้องเพื่อความอยู่รอดของเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยคือ
1.รัฐบาลต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนไทยให้ครบโดยเร็ว 70
% 2.ต้องมีกองทุนฟื้นฟูท่องเที่ยว เพื่อให้เอกชนมีช่องหายใจได้บ้าง 3.แรงงานถูกเลิกจ้างตกงานต้องหาวิธีเพิ่มทักษะช่วยเหลือให้โอนย้ายไปทำงานในสายอาชีพอื่นได้บ้าง
4.กระตุ้นคนไทยเที่ยวไทยภายใต้มาตรการควบคุมโควิดอย่างรัดกุม
สำหรับตัวผมยังคงมั่นใจในศักยภาพของรัฐบาล เพราะจากประสบการณ์ที่เห็นการแก้ปัญหาการระบาดแต่ละครั้ง สามารถควบคุมจนอยู่ภายในเวลาอันรวดเร็ว เพียงแต่ “ผู้ประกอบการ” เมื่อธุรกิจได้รับผลกระทบถูกลากยืดเยื้อนานเกินไป สายป่านเงินสดหมุนเวียนร่อยหรอใกล้หมด แรงงานก็ต้องถูกเลิกจ้างตกงาน เดือดร้อนกันถ้วนหน้า จึงเป็นเรื่องที่น่าห่วงมากที่สุด
นายชำนาญกล่าวว่า จังหวะที่เหมาะสมหลังสงกรานต์ที่เอกชนจะกลับมากระตุ้นการท่องเที่ยวไทยได้อีกครั้ง จะเป็นวันไหนก็ได้ที่รัฐบาลสามารถควบคุมโควิดรอบใหม่ยุติลงได้ แล้วเอกชนก็ทำกันแบบง่าย ๆ ไม่ต้องคิดให้ซับซ้อนเรื่องจะโดนโกง ตัวอย่างเช่น รัฐบาลควักเงินสนับสนุนรถบัสนำเที่ยวสัก 1,000 คัน หรือสายการบินได้เงินสนับสนุนทำโปรโมชั่นขายใบละ 1,000 บาท บริษัทนำเที่ยวสามารถพาคนออกทัวร์ได้พอสมควร เพื่อกระตุ้นรายได้ไปก่อน ระหว่างรอวัคซีนที่จะฉีดป้องกันได้ครบ 100 %
เรื่องเหล่านี้สามารถทำได้ บวกกับมาตรการที่รัฐประกาศใช้แล้วมีอยู่ปัจจุบันนั้นดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะการกระตุ้นผ่านโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” แต่ละเฟส เพียงแต่ต้องการให้กระชับ เร็วขึ้น วิธีปฏิบัติลูกค้าควรเข้าถึงได้ง่าย ประการสำคัญหน่วยงานรัฐที่จัดทำ “ระบบ” ควรเปิดให้เอกชนซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติเข้าไปร่วมแสดงความเห็นหรืออุดช่องเรื่องการโกงของคนไม่กี่คนบ้างก็จะดี
นายชำนาญกล่าวว่า ทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ต้องการณรงค์ให้คนไทยเที่ยวไทยได้ต่อไป กลุ่มหลัก ๆ 1.เที่ยวกันเองในกลุ่มเฉพาะส่วนตัว กลุ่มครอบครัว เพราะเป็นกลุ่มที่ป้องกันตัวเองได้เป็นอย่างดี สวมหน้ากากอนามัย ใช้เจลล้างมือ รักษาระห่าง ทุกครั้ง ขณะนีที่พบการติดเชื้อแพร่ระบาดส่วนใหญ่เป็นคนเที่ยวผับ บาร์ เกือบทั้งสิ้น ไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย 2.คนไทยอีกหลายกลุ่มยังคงเที่ยวพอสมควร ซึ่งเป็นกลุ่มปฏิบัติด้วยกติกายกการ์ดสูง การ์ดไม่ตก นั่นเอง
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิง เพาเวอร์”หนุนสำนักปลัดฯเปิดประกวด“เด็ก(อวด)ทำดี”ถึง30เม.ย.
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมสนับสนุน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ชวนเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ อายุระหว่าง 15-25 ปี สมัครเข้าร่วมโครงการ “ภายใต้หัวข้อ “เด็กอวด (ทำ)ดี” ร่วมสร้างเด็กและเยาวชนต้นแบบ ให้ รู้ รัก สามัคคี และสำนึกความเป็นไทย มีแรงบันดาลใจ ทำโครงงานเพื่อพัฒนาและสร้างสรรค์สังคม โดยมีเงินสนับสนุนการอวด(ทำ)ดี 30,000 บาท เปิดรับสมัคร ระหว่างวันนี้ -30 เมษายน 2564 ติดตามรายละเอียด ได้ที่ www.เด็กอวดทำดี.com Facebook Twitter Tiktok Youtube : เด็กอวดทำดี และ Instagram : DekshowD
เมื่อสมัครแล้ว เด็กและเยาวชนก็เดินหน้าผลิตเนื้อหาเผยแพร่โดยมีข้อความสำคัญที่จะต้องใส่ลงไป คือ “มีดี...ต้องอวด”อวดพลังสร้างสรรค์ อวดพลังวิชา ถ้าคุณมีดี มาร่วมสร้างสรรค์สังคมไทยด้วยกัน เลือก 3 รูปแบบ1.โพสต์ภาพโฆษณาเชิญชวนให้เข้าร่วมสมัครโครงการฯ พร้อมแนวทางข้อความประชาสัมพันธ์ 2.โพสต์คลิปวิดีโอ ประชาสัมพันธ์โครงการฯ ความยาว 1 นาที พร้อมทั้งใส่ Hashtag #เด็กอวด(ทำ)ดี
โครงการนี้ คิง
เพาเวอร์ มีวัตถุประสงค์และเป้าหมายการจัดทำโครงการนี้ คือการตระหนักถึงความสำคัญของเด็กและเยาวชนไทยซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการสร้างอนาคตของประเทศให้เจริญก้าวหน้า
และมุ่งสืบทอดขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม และเอกลักษณ์ของชาติให้คงอยู่สืบไป
ข่าวที่ 2 คิงเพาวอร์ชวนช้อปI SUMMER YOUสาดโปร#สาดส่วนลดยกทั้งห้าง
คิง เพาเวอร์ ชวนมาพบกับดีลพิเศษ I SUMMER YOU กับเทศกาลสาดโปรฯ #สาดส่วนลดยกทั้งห้าง ยิ่งช้อป ยิ่งลด มาช้อปกันให้สนุก กับโปรโมชั่นสุดคุ้ม ที่คัดสรรมาให้โดยเฉพาะกับสมาชิก คิง เพาเวอร์ วันนี้ – 18 เมษายน 2564 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มหานคร พัทยา และภูเก็ต
เพียงลงทะเบียนก่อนช้อป
รับฟรี! คูปองส่วนลดรวม 22,000 บาท (1 สิทธิ์ / ท่าน / วัน)
คูปองส่วนลด
2,000 บาท สำหรับช้อป 10,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ
คูปองส่วนลด
5,000 บาท สำหรับช้อป 20,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ
คูปองส่วนลด
15,000 บาท สำหรับช้อป 50,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ
รับเพิ่ม! เฉพาะ คิง เพาเวอร์ ภูเก็ตคูปองส่วนลด 1,000 บาท สำหรับช้อป 3,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ
พิเศษ! รับคูปองรับประทานอาหาร 300 บาท ที่ ไทย เทสต์ ฮับ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เมื่อช้อปที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ครบ 5,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ
ช้อปครบ รับเพิ่ม! คูปองส่วนลดสูงสุด 2,500 บาท สำหรับช้อประหว่างวันที่ 19 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2564 ตามกำหนด (1 สิทธิ์ / ท่าน / วัน)
ข่าวที่ 3 ททท.หนุนจัดเสน่ห์สีสันผ้าเมืองลำพูน 3กิจกรรม6ครั้งปลายเม.ย.-มิ.ย.64
การท่องเที่วแห่งประเทศไทย
(ททท.) สำนักงานลำปาง ดูแลพื้นที่ลำปาง ลำพูน รายงานว่า
ร่วมสนับสนุนทางจังหวัดลำพูนจัดกิจกรรมเสน่ห์สีสันผ้าเมืองลำพูน ภายใต้การท่องเที่ยวแบบปลอดภัยวิถีใหม่
New Normal ระหว่างปลายเดือนเมษายน-มิถุนายน
2564 ประกอบด้วย
3 กิจกรรมหลัก
รวม 6 ครั้ง
ได้แก่
กิจกรรมที่ 1 "เสน่ห์สีสันแห่งผ้าเมืองลำพูน" จัด 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 ระหว่าง 30 เมษายน - 2 พฤษภาคม 2564 ครั้งที่ 2 วันที่ 7-9 พฤษภาคม 2564 บริเวณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ต.เวียงยอง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน
ภายในงานมีบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์/สินค้า - ชมนิทรรศการผลงาน "อัตลักษณ์แห่งผืนผ้า ภูมิปัญญาแห่งแผ่นดิน" - แฟชั่นโชว์ผ้าทอและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง - การประกวดธิดาผ้าทอลำพูน - การแสดงและกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย
กิจกรรมที่ 2 "เสน่ห์สีสันเกษตร นวัตกรรม พืชพันธุ์ธัญญาหาร เมืองลำพูน" จัด 1 ครั้ง ระหว่าง 14 - 18 พฤษภาคม 2564 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ต.เวียงยอง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน
ภายในงานพบกับ การประกวดธิดาชาวสวนลำพูน - ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมที่สวยงาม "มนต์เสน่ห์ นครหริภุญชัย" - ชมนิทรรศการเสริมความรู้ด้านเทคโนโลยีและการเกษตร - ชมการจัดแสดงสินค้าการเกษตรต่างๆ - เลือกซื้อสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพได้มาตรฐานและความปลอดภัย และกิจกรรมอื่นๆ
กิจกรรมที่ 3 "เสน่ห์สีสันแห่งวัฒนธรรม ชาติพันธุ์ และวิถีชีวิต ลำพูน" จัด 3 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 ระหว่าง 29 - 30 พฤษภาคม 2564 ครั้งที่ 2 วันที่ 5-6 มิถุนายน 2564 ครั้งที่ 3 วันที่ 12-13 มิถุนายน 2564 ณ ข่วงพันปี@ลำพูน ต.ในเมือง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน
ภายในงานพบกับการแสดงสินค้าทางวัฒนธรรม
การออกบูธแสดงสินค้าและวิถีชีวิตของชาติพันธุ์ต่างๆในจังหวัดลำพูน
การแสดงทางด้านวัฒนธรรมต่างๆ และกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจมากมาย
ข่าวที่ 4 “TCEB”ภาคเหนือดันเชียงใหม่ไมซ์ซิตี้ขึ้นชั้นอินเตอร์รอตลาดต่างชาติ
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ทีเส็บภาคเหนือพร้อมเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์จังหวัดเชียงใหม่ครั้งที่ 2/2564 ซึ่งมีนายสำเริง ไชยเสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์จังหวัดเชียงใหม่ครั้งที่ 2 ปี 2564 โดยจังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศคำสั่งแต่งตั้ง “คณะกรรมการส่งเสริมและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์เพิ่มเติมหน่วยงานด้านวิชาการและท่องเที่ยว”
โดยมีวาระสำคัญเรื่อง “ทบทวนและประเมินศักยภาพเมืองไมซ์ซิตี้ของจังหวัดเชียงใหม่” ซึ่งมีศัยกภาพรองรับตลาด การประชุมวิชาการ งานแสดงสินค้า หรือกิจกรรมงานเทศกาล จากสถิติพบว่าเป็นจังหวัดที่มีนักเดินทางธุรกิจต่างชาติเข้ามาใช้จ่ายต่อหัวสูงกว่าคนในประเทศ จึงสามารถกระตุ้นทำกิจกรรมไมซ์ฟื้นเศรษฐกิจได้มากขึ้นต่อไปในเมืองที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น MICE CITY
ขณะที่ทางผู้แทนสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.) ได้ชี้แจงรายละเอียด ขั้นตอนและ หลักเกณฑ์การประเมินเมืองใน 8 ด้าน กำหนดจะชี้แจงหลักเกณฑ์อย่างละเอียดแก่คณะทำงานอีกครั้งวันที่ 23 เมษายน 2564 ตามที่จังหวัดเชียงใหม่ได้พิจารณาแต่งตั้งคณะทำงานฝ่ายวิชาการสนับสนุนการประเมินเมืองตามหลักเกณฑ์ทั้ง 8 ด้าน และให้ทางอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำหน้าที่รวบรวมเสนอกรรมการผู้พิจารณาอย่างชัดเจนภายในเวลาที่ระบุไว้
ทางด้าน นางจุฑา ธาราไชย ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) ภาคเหนือ กล่าวเพิ่มว่าได้เสนอเพิ่มเติมถึงรายละเอียดการสนับสนุนกิจกรรมไมซ์ในประเทศปีงบประมาณ 2564 และการจัดทำปฏิทินงานไมซ์ทีเส็บภาคเหนือ ไฮไลต์ก็มี งานระดับสากล คือ International Bamboo Architecture and Material Innovation Festival 2023 งานระดับประเทศ คือ Spartan Race Thailand กับกิจกรรมส่วนต่อขยายของเทศกาลเชียงใหม่เบิกบาน แต่ละงานจะเป็นแรงหนุนให้เชียงใหม่เป็นไมซ์ซิตี้แบบครบวงจร ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฟื้นตัวเติบโตได้อนาคตต่อไป
ช่วงที่
2 เมืองไทยอะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม
นำแหล่งท่องเที่ยวอันซีน เที่ยวง่าย ๆ มีระยะห่างปลอดภัย ไปเที่ยว “หุบผาสวรรค์”
อำเภอปากท่อ จ.ราชบุรี จุดนัดพบศรัทธานำทาง เส้นทางนำเที่ยว 3 ศาสนา “พุทธ-คริสต์-ฮินดู” สวยเกินบรรยายต้องลองไปปีนบันไดสวรรค์ 365 ขั้นกันนะ แล้วมาแก้ความเบี่อเมื่อต้องหยุดทำงานอยู่บ้านกับ “4กิจกรรมความสนุก” ทำคอนเทนท์ ทำบล็อกออนไลน์ อ่านอีบุ๊ค
และแชร์เรื่องดี ๆ ส่วนข่าว “ทอท.ยอัพเดทธุรกิจสนามบินฉลุยปี’66” ตั้งแล้วบริษัททำคาร์โก้เอเชีย “บางกอกแอร์”
ปิดเคาน์เตอร์ออกตั๋วชั่วคราว 3 แห่ง กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต
เปิดให้ถามได้ที่คอล เซนเตอร์ 1771
อันซีนใหม่ไป“หุบผาสวรรค์”ศรัทธานำทางเที่ยวอ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
ตอนนี้กระแสการท่องเที่ยววิถีใหม่ มองหาแหล่งท่องเที่ยวอันซีนซีรีย์ ที่มีความอะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม กลายเป็นเทรนด์ของนักท่องเที่ยวในประเทศ ทริปนี้มีหมุดหมายใหม่ชวนไปเช็คอิน ที่ “หุบผาสวรรค์ “ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี บนยอดเขากลางอ้อมกอดธรรมชาติสอดรับกับโครงการ “ศรัทธานำทาง เส้นทางนำเที่ยว” เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปได้ทุกวันตั้งแต่ 05.00 – 17.00 น. ก่อนขึ้นเขาไปท่องเที่ยว ขอความร่วมมือช่วยเข้าไปลงชื่อที่ สถาบันสังฆาธิการ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เพื่อดูแลจำนวนนักท่องเที่ยว รักษาระยะห่างทางสังคม เพื่อความปลอดภัยในช่วงโควิด
แนะนำว่าการมาท่องเที่ยว “หุบผาสวรรค์”
ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสักนิด
ตั้งแต่ชุดแต่งกายควรสวมเสื้อผ้ามิดชิดระบายความร้อนได้ดี สวมรองเท้าผ้าใบคู่โปรด
พกกระบอกน้ำไว้ใกล้ตัว เพราะเราจะต้องเดินจากพื้นราบด้านล่างไต่ขึ้นบันไดสูง 365
ขั้น เพื่อไปสัมผัสสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเกิดจากความศรัทธาในการก่อสร้างประติมากรรมแบบผสมผสานได้อย่างลงตัวของ
3 ศาสนา
ที่ปรากฎออกมาเป็นพุทธสถานตั้งโดดเด่นกลางธรรมชาติ ได้แก่ พุทธ-คริสต์-ฮินดู
สัมผัสความศักดิ์สิทธิ์ไปพร้อม ๆ กับการได้ยืนสูดโอโซน ชมความสวยงามของวิวแบบ 360 องศา ทั่วทั้งอำเภอปากท่อ ในบรรยากาศท้องทุ่งนา ธรรมชาติ สลับด้วยทิวภูเขาไกลสุดหูสุดตา
บรรยากาศบนหุบผาสวรรค์ ช่วง “พระอาทิตย์ขึ้น” ยามเช้า กับ “พระอาทิตย์ตก” ยามเย็น ก็ให้ความรู้สึกถึงความงดงาม ความอบอุ่น มีความสุข แตกต่างกัน
“บนยอดหุบผาสวรรค์” มีเส้นทางเดินเชื่อมโยงต่อกันเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สักการะ
“สันติเจดีย์” รูปปั้นพระเยซู “พระพุทธรูปนิรภัยทุกทิศ
พระพิฆเณศวร พระสังกัจจายน์ เจ้าแม่กวนอิม ตอนนี้กำลังก่อสร้างให้แล้วเสร็จ
ระหว่างทางยังมี ต้นไม้ ดอกไม้แปลก ๆ สีสวยสด ช่วงฤดูร้อนชูช่อช่วยให้ผ่อนคลายได้ตลอดเส้นทาง
แล้วก็มี “ถ้ำลับแล” ให้ลองลอดเข้าไปหลบร้อนชมความงดงามด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่โทร. 032-282260
และ 061-4210661
เมื่อคนไทยในประเทศต้องกลับมาสู่บรรยากาศ WFH : work from home เรียนออนไลน์ (e-learning) พึ่งพาสื่อโซเชียล ใช่วงต้องอยู่บ้านแบบยาว ๆ อีกครั้ง ก็อาจจะเกิดความเบื่อหน่ายกันได้ แต่ก็มีทางออกเพื่อใช้เวลาไปกับการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ได้ ลองดู 4 กิจกรรมดังนี้
กิจกรรมแรก Video streaming หรือการดูเนื้อหาออนไลน์ (content online) มีเรื่องราวมากมายที่น่าสนใจ ได้ความรู้ช่วยพัฒนาตัวเองได้ด้วย ทั้ง การสอนภาษา สอนทำอาหาร สอนออกกำลังกาย สอน DIY สิ่งของ และอื่น ๆ
กิจกรรมที่ 2 เรียนทำ Online blog / online journal เราสามารถฝึกทักษะการเขียนได้โดยการเล่าเรื่องต่างๆ ผ่านตัวหนังสือ อาจจะเป็นการเล่าประสบการณ์ต่างๆ หรือแชร์เรื่องที่เรามีความรู้ให้คนอื่น ๆ ผ่านออนไลน์ได้เหมือนกัน
กิจกรรมที่ 3 Reading พัฒนาทักษะการอ่าน ตอนนี้มีหนังสือ e-book สนุก ๆ ให้เลือกอ่านอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การ์ตูน แฟชั่น และอื่น ๆ เป็นประโยชน์ถ้าหากเลือกใช้อย่างถูกต้อง
กิจกรรมที่ 4 Big cleaning/Donation ทำความสะอาดและจัดระเบียบที่อยู่อาศัย รวมถึงมุมต่างๆ ภายในบ้าน ถือโอกาสทำความสะอาด คัดเลือกสิ่งของที่ไม่ได้ใช้ หรือมีเกินความจำเป็น แล้วนำไปบริจาค ส่งต่อสิ่งดี ๆให้คนอื่นได้ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า แบ่งปันซึ่งกันและกันได้ผ่านช่องทางออนไลน์ https://pankansociety.com/howto/opportunity-donate
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก ทอท.เดินหน้าธุรกิจศูนย์คาร์โก้เอเชียรอข่าวดีธุรกิจสนามบินฟื้นปี’66
ดร.นิตินัย
ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT/ทอท.”เปิดเผยว่า สถานการณ์ทางการเงินของ ทอท.
ตอนเริ่มเกิดวิกฤต 23 มกราคม 2562
มีเงินสด 76,000 ล้านบาท แต่ผ่านมาแล้ว 14 เดือน เหลือเงินสดอยู่ 26,000 ล้านบาท แนวโน้มปีงบประมาณ 2565 คงจะต้องเริ่มกู้เงินราว 25,000 ล้านบาท
ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่จะกู้เงินมาดูแลสภาพคล่องและการลงทุนต่อไป
ปี 2566
ทอท.จะเร่งทำรายได้จากกิจการเชิงพาณิชย์ที่ไม่ได้มาจากการบินโดยตรง
หรือ NON Aero ให้มีสัดส่วน 50
% หลัก ๆ
ได้ทยอยทำโครงการพร้อมเปิดให้บริการแล้ว ได้แก่
1.นำที่ดินข้างสนามบินสุวรรณภูมิขนาดกว่า
400 ไร่
เปิดบริการศูนย์ขนส่งสินค้าทางอากาศภูมิภาคเอเชีย หรือ Cirtifly Cargo Hub ทำเป็นพื้นที่ตลาดกลางเกษตร พืช ผัก ผลไม้
ปศุสัตว์
เปิดให้ทุกพื้นที่มาซื้อขายแล้วนำขึ้นเครื่องได้ล่าสุดจดทะเบียนตั้งบริษัทเรียบร้อยแล้วในชื่อ
บริษัท ออตโต้....เป็นการร่วมทุนกับหอการค้าไทย ถือ 51 % AOT/ทอท. ถือหุ้น 49 %
ถือเป็นก้าวใหม่ของ ทอท.ที่จะทำให้รายได้ของ Non Aero ใกล้เคียงกันกับรายได้จากการบินโดยตรง AERO อีก 50 % ต่อไปจะได้ลดความเสี่ยงลงเมื่อต้องเผชิญปัญหาท้าทายใหม่
สอดคล้องกับสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA :International Air Transport Association) คาดการณ์แนวโน้มอุตสาหกรรมการบินโลกจะเริ่มฟื้นตัวได้ปีช่วงปลายปี 2566-2567 เป็นต้นไป ปริมาณจราจรผู้โดยสารเดินทางระหว่างประเทศจะกลับสู่ปกติเหมือนเดิม ตอกย้ำถึงสนามบินสุวรรณภูมิจะกลับมาคึกคักรองรับได้ปีละกว่า 160 ล้านคน ส่งผลให้ ทอท.จะต้องใช้เวลาช่วงรอสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย เดินหน้าพัฒนาโครงการต่าง ๆ ไว้รองรับตลาดธุรกิจการบินของโลกที่จะกลับมาเติบโตดีอีกครั้งนั่นเอง
ข่าวที่ 2 บางกอกแอร์เปิดเคาน์เตอร์ออกตั๋ว3แห่งเปิดให้จองผ่านคอลเซนเตอร์1771
สายการบิน บางกอกแอร์เวย์ส
ประกาศปิดให้บริการชั่วคราว สำนักงานออกตั๋วเครื่องบิน ระหว่างวันนี้ -25 เมษายน
2564 ทั้ง
4 แห่ง
ได้แก่ 1.สำนักงานใหญ่
ถ.วิภาวดีรังสิต 2.เชียงใหม่
3.ภูเก็ต ผู้โดยสารสามารถติดต่อได้ตามช่องทางต่าง ๆ
ดังนี้
1.คอลเซ็นเตอร์ โทร 1771 และโทร 02-270-6699 ระหว่างเวลา
08.00 น. - 20.00 น.
2.อีเมล Reservation@bangkokair.com
3.PG Live Chat https://bit.ly/PGLiveChatTH
พร้อมปรับเปลี่ยนรูปแบบการปฏิบัติงานของพนักงาน
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยให้พนักงานในหน่วยงานที่ปฏิบัติงานประจำสำนักงาน
จะปฏิบัติงานภายใต้มาตรการการทำงานที่บ้าน (Work from home) ยกเว้นพนักงานในหน่วยงานที่ปฏิบัติงานหน้างาน
เช่น งานบริการผู้โดยสารภาคพื้น งานบริการผู้โดยสารบนเครื่องบิน
งานซ่อมบำรุงอากาศยาน รวมถึงงานที่ต้องใช้ระบบปฏิบัติการ
รวมถึงตอกย้ำพนักงานทุกคนจะปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง และเข้มงวดในการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากากอนามัย ถุงมือ แว่นตา หมั่นล้างมือสม่ำเสมอ เว้นระยะห่างระหว่างกัน รวมถึงการดูแลตนเอง ในกรณีที่เดินทางออกนอกพื้นที่ หรือพบปะกับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่/สถานเสี่ยงของโรคด้วย
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM
97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น