ททท.อุบลนำท่องเที่ยวอีสาน3จังหวัดปี68โตฉลุย3-6% ลุยขายทัวร์ออกพรรษา

 ธนภร พูลเพิ่ม ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุบลราชธานี

ททท.อุบลนำท่องเที่ยวอีสาน3จังหวัดเศรษฐกิจปี’68โตดี 6%

จัดกระหึ่มบุญออกพรรษาชวนสายศรัทธาเที่ยวตลอดต.ค.นี้

“อุบล”ไหลเรือไฟ+ไหว้5พระแก้ว “ยโสธร”ตื่นตาไฟตูมกาโลก

หนาวนี้เปิดจุดขาย6เส้นทางฮ็อต “อุบล-ยโธสร-อำนาจเจริญ”

คิง เพาเวอร์36ปีเปิดPOWER PASS+DELIGHTSแจก3.3 ล้าน

1 ปีมี1ครั้งช้อปคิงเพาเวอร์สนามบินทั่วไทยรับคูปองลด36%

ททท.รับนโยบาย“รมว.อรรถกร”Big Impact Act Fast 4 เรื่อง

บางจาก-TGO-TCNNถกเครือข่ายพุ่งเป้าลดคาร์บอนเป็นศูนย์

TCEBเสนอคู่มือครองตลาดไมซ์อนาคตGen Z เเละMillennials

สุขทันทีเที่ยวปลายฝนต้นหนาวใน“ทุ่งแสลงหลวง”เพชรบูรณ์

11 อ.หลักของผู้สูงวัยนำไปใช้ในชีวิตจริงดูแลสุขภาพกายใจ

“นกแอร์”เปิดเลาจน์ฟรี2โปรเอาใจลูกค้าไฮซีซั่นตลอดต.ค68

AOTร่วม“Routes World 2025”รุกทำตลาดดึงแอร์ไลน์สมาไทย

วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก  #เที่ยวทุ่งแสลงหลวง

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/1A9N6xYq1x/

 

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! “ธนภร พูลเพิ่ม” ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุบลราชธานี นำ 3 จังหวัดอีสาน เศรษฐกิจท่องเที่ยวปี’68 คึกคัก จำนวนและรายได้โต 3-6 % ลุยกระตุ้นเที่ยวไทยปลายปี ต.ค.-ธ.ค.นี้ ไฮไลต์ 2 โครงการ “ทัวร์บุญออกพรรษา” 3 จังหวัด “อุบล” ชมไหลเรือไฟแม่น้ำมูล ไหว้พระแก้ว 5 วัด “ยโสธร” ชมประเพณีไฟตูมกา สุดอลังการ “อำนาจเจริญ” ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 5 อำนาจ จัดเต็ม “เที่ยวปลายฝนต้นหนาว” 6 เส้นทางฮ็อต “เที่ยวริมโขง บ้านคันท่าเกวียน-นั่งสามล้อชมย่านเมืองเก่า-สโลว์ไลฟ์หนองเม็กโมเดล-โฮมสเตย์บ้านนาภูคำ-เดินสะพานกลางทุ่งขัวน้อยบ้านชีทวน-อาบแสงแรกก่อนใครที่ผาชนะได”

นางธนภร พูลเพิ่ม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุบลราชธานี เปิดเผยว่า พื้นที่การท่องเที่ยวของ ททท.อุบลราชธานี ดูแลยโสธร อำนาจเจริญ ตลอดปีงบประมาณ 2568 เติบโตดีต่อเนื่อง ระหว่างเดือนมกราคม-สิงหาคม 2568 เปรียบเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือน 2.8 ล้านคน เพิ่มกว่า 6 % ทำรายได้เพิ่มขึ้น 3 % ปลายปีนี้เข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว “ราคาห้องพัก”จะประมาณ 800-2,200 บาท/ห้อง/คืน หรือหากเป็นห้องสวีท 4,500 บาท/ห้อง/คืน

โดยมี “5 สายการบิน” บินตรง ไป-กลับ 34 เที่ยว/วัน จากกรุงเทพฯ สู่อุบลราชธานี ได้แก่ การบินไทย ไทยแอร์เอเชีย ไทยไลออนแอร์ นกแอร์ เวียตเจ็ทไทยแลนด์ ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยว การกระตุ้นเศรษฐกิจภายในพื้นที่คึกคักตลอดทั้งปีประเมินจากจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้เติบโตต่อเนื่องมาตลอด

ขณะนี้พร้อมเดินหน้าเสนอขายการท่องเที่ยวต้อนรับปลายปี เริ่มต้นงานใหญ่ต้อนรับนักเดินทาง

ไหลเรือไฟแม่น้ำมูล งานประเพณีออกพรรษา อุบลราชธานี

โครงการที่ 1 ทัวร์บุญออกพรรษา กระตุ้นนักท่องเที่ยวสายศรัทธา สายบุญ เที่ยวงานออกพรรษาตุลาคม 2568 ครอบคลุมทั้ง 3 จังหวัด คือ  

“จังหวัดอุบลราชธานี” เป็นจังหวัดจุดหมายปลายทางเมืองธรรม มีวัดศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากสามารถไหว้ได้ตลอดทั้งเดือน  ซึ่งแต่ละวัดมีเรื่องราว ความเป็นมาน่าสนใจ โดยเฉพาะ “ช่วงออกพรรษา”  ประชาชน นักท่องเที่ยวทั่วไป นิยมมาไหว้พระ แล้วทางเทศบาลเมืองอุบลราชธานีจัดงาน “ไหลเรือไฟแม่น้ำมูล” พิธีจะเริ่มคืนวันออกพรรษา 7 ตุลาคม พร้อมประกวดหนูน้อยนพมาศ จากนั้นเช้าวันที่ 8 ตุลาคม ชวนนักท่องเที่ยวร่วมงานบุญตักบาตรเทโวโรหณะด้วยกัน

แล้วจากนั้นก็วางแผนเดินทางไปสักการะขอพรจากพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เสริมมงคลชีวิตตามวัดต่าง ๆ ในอุบลราชธานีมีผู้คนศรัทธาไหว้พระแก้ว 5 องค์ ได้แก่ 1.วัดศรีอุบลรัตนาราม (พระแก้วบุษราคัม) 2.วัดมณีวนาราม (พระแก้วโกเมน) 3.วัดหลวง (พระแก้วไพฑูรย์) 4.วัดสุปัฏนารามวรวิหาร (พระแก้วขาวเพชรน้ำค้าง) 5.วัดเลียบ (พระแก้วมรกตและพระแก้วนิลกาฬ) 

ส่วนนักท่องเที่ยว “สายมูสายพญานาค”  ในอุบลราชธานีขึ้นชื่อมากให้เลือกมาบูชาได้ 3 วัด ได้แก่ 1.พระธาตุหนองบัว 2.วัดป่าภูปัง 3.วัดภูยอดรวย 

 

“จังหวัดยโสธร” มีไฮไลต์ให้สายศรัทธาไปชม กิจกรรมที่ 1 “วัดเรืองแสง” อ.สิรินธร นักท่องเที่ยวชื่นชอบไปเที่ยวยามค่ำคืนมีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ จะต้องเดินทางไปถึงวัดก่อน 19.00 น.เพราะตามภูมิปัญญาท้องถิ่นผนังหลังคาโบสถ์จะเก็บพลังแสงอาทิตย์แล้วสะท้อนเรืองแสงสวยงาม สร้างความตื่นตาตื่นใจกับผู้ที่ได้ไปชม

 

 

กิจกรรมที่ 2 ประเพณีจุดไฟตูมกา ยโสธร ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองบั้งไฟโก้”  ชาวบ้านรวมตัวกันจัดงานนี้ขึ้นที่ “วัดทุ่งแต้” ตามแบบวิถีชุมชน ตรงกับวันที่ 7 ตุลาคม นี้ จากนั้นระหว่างวันที่ 27-29 ตุลาคม ทางจังหวัดได้รวบรวมไฟตูมกาจากทุกอำเภอมาจัดแสดงไว้ตรงหน้าอำเภอเมืองยโสธร แต่ละปีจะมีบริษัทนำเที่ยวจัดโปรแกรมพาคนมาชม พร้อมร่วมถวายเป็นพุทธบูชา

 

กิจกรรมที่ 3 ชมความสวยงาม “มาลัยข้าวตอก ดอกมณฑารพ”  ตามความเชื่อมายาวนานว่าเป็นดอกไม้วิเศษจากสวรรค์ที่ถวายพระพุทธเจ้าในวันมาฆบูชา ได้ที่วัดหอก่อง บ้านฟ้าหยาด   อ.มหาชนะชัย  และวัดพระธาตุอานนท์  เมืองเก่าบ้านทิงห์ท่า 

 

กิจกรรมที่ 4 ไปชมพิพิธภัณฑ์พญาคันคาก  กับพิพิธภัณฑ์พญาแถน รับชมรับฟังเรื่องราวความเชื่อ ความศรัทธาของคนอีสาน 

           

“จังหวัดอำนาจเจริญ” โดดเด่นมีชื่อเสียงเป็น “เมืองอำนาจ  เสริมบารมี อำนาจ โชคลาภ ความแคล้วคลาดปลอดภัย” โดยมีไฮไลต์ กิจกรรมไหว้พระสร้างความมั่นคงในชีวิต 5 อำนาจ 5 วัด ได้แก่ พระมงคลมิ่งเมือง  วัดพระศรีเจริญ วัดพระเหลาเทพนิมิตร  วัดสี่แยกแสงเพชร และวัดอำนาจ หากภายในวันเดียวสามารถไหว้ครบเชื่อกันว่าจะเป็นมงคลอย่างยิ่ง

 

ททท.เชิญชวนนักท่องเที่ยว สายบุญ สายมู สายศรัทธา ออกเดินทางมาเที่ยวออกพรรษาร่วม ทำบุญ เวียนเทียนตามวัดต่าง ๆ  โดยสามารถเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงกันเป็นวงกลมได้ครบทั้ง 3 จังหวัด

 

โครงการที่ 2 “การท่องเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาว” พื้นที่ ททท.อุบลราชธานี แนะนำ 6 เส้นทางได้แก่

 

 

 

เส้นทางที่ 1 เที่ยวริมโขง บ้านคันท่าเกวียน ชุมชนสุดท้ายในอำเภอโขงเจียม อุบลราชธานี ตอนนี้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์พากันโปรโมทโฮมสเตย์ “บ้านของฉัน” บรรยากาศการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์ คล้ายได้พักบ้านญาติ เช้าเย็นมีอาหารมาเสิร์ฟ ราคาเข้าถึงได้ ที่พักพร้อมอาหารแต่ละมื้อ เมนูพื้นบ้านสไตล์อีสาน

 

เส้นทางที่ 2 นั่งสามล้อชมเมืองเก่าอุบลราชธานี กำลังริเริ่มโดยสมาคมท่องเที่ยว มูลนิธิต่าง ๆ ร่วมมือกันเปิดพื้นที่ท่องเที่ยว “ย่านเมืองเก่าอุบลราชธานี” จะเริ่มบริการปลายเดือนตุลาคม 2568 เป็นต้นไป โดยมีลูกหลานมารื้อฟื้นเปิดบ้านสมัยปู่ย่าตายายต้อนรับนักท่องเที่ยว นำขนมพื้นเมืองดั้งเดิมอย่าง ขนมรังผึ้ง เค็มบักนัด และอื่น ๆ กลับมาเผยแพร่ โดยใช้การเดินทางด้วยสามล้อแวะตามสถานที่สำคัญอย่างวัดมหาวนาราม วัดหลวง วัดทุ่งศรีเมือง และวัดแจ้ง ชมแหล่งประวัติศาสตร์ ศูนย์รวมวัฒนธรรมสะท้อนรุ่งเรืองในอดีต รวมทั้งเป็นเส้นทางเดียวกันกับไหว้พระแก้ว 5 วัด

 

ตอนนี้มีผู้ประกอบการนำร่องตกแต่งสามล้อประมาณ 10 คัน จัดทำเป็นขบวนบริการนักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่และทั่วประเทศที่ไปเยือน

 

เส้นทางที่ 3 “บ้านหนองเม็ก โมเดล” จังหวัดอำนาจเจริญ การท่องเที่ยวโลว์ คาร์บอน เส้นทางสีเขียว  เป็นหมู่บ้านต้นแบบแห่งแรกของจังหวัดที่ผลิตผักอินทรีย์คุณภาพสูง ได้การรับรองมาตรฐาน Organic Thailand และ IFOAM ช่วยให้เกษตรอินทรีย์มีมาตรฐานสากล สร้างรายได้ให้คนในชุมชน รวมทั้งเป็นแหล่งอาหารสด สะอาด ปลอดภัย มีคุณค่าทางโภชนาการ

 

เส้นทางที่ 4 บ้านนาภูคำ มีโฮมสเตย์ ที่รับผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ หนองเม็กโมเดล นำไปจัดทำเมนูให้นักท่องเที่ยวรับประทาน ไปพร้อมกับการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์

 

เส้นทางที่ 5 ขัวน้อยบ้านชีทวน อำเภอเขื่องใน อุบลราชธานี มีประวัติเกี่ยวข้องกับชาวบ้านในท้องถิ่นบ้านชีทวนมากว่า 200 ปี โดยมีสะพานไม้ทอดยาวไปในทุ่งนาเชื่อมระหว่างบ้านชีทวนไปยังวัดศรีธาตุ จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของตำบลชีทวนด้วย มีโฮมสเตย์ เรียนรู้วิถีชุมชน และไหว้พระ

 

เส้นทางที่ 6 อาบแสงแรกก่อนใครในสยาม เปิด “ผาชนะได” อุทยานแห่งชาติผาแต้ เริ่ม 1 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป ให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมความสวยงาม

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1-คิง เพาเวอร์36ปีเปิดPOWER PASS+DELIGHTSแจก3.3 ล้าน

 

ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิง เพาเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ฉลองครบรอบ 36 ปี โดยได้เปิดตัวระบบสมาชิกแบบใหม่ “POWER PASS” ต้อนรับเดือนเกิดตุลาคม 2568 ภายใต้แนวคิด “MORE IS POSSIBLE” มอบสิทธิประโยชน์แบบ “ยิ่งใช้ ยิ่งได้ และง่ายกว่าเดิม” ยกระดับประสบการณ์ “ช้อปปิงอย่างไร้รอยต่อ” ในเครือ คิง เพาเวอร์ ได้รวมทุกบริการด้วยกลยุทธ์ “THE POWER OF MORE” จับมือพันธมิตรชั้นนำกว่า 120 แบรนด์ เดินหน้าปรับภาพลักษณ์ใหม่ครั้งนี้เพื่อขยายฐานกลุ่มสมาชิกใหม่ได้รวดเร็วขึ้น ตั้งแต่กรกฎาคม 2568 มีสมาชิกใหม่คนไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้นกว่า 40,000 คน โดยเฉพาะต่างชาติมีจำนวนสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย ไต้หวัน

 

ภายในสิ้นปี 2568 ตั้งเป้าจะมีจำนวนสมาชิกใหม่เติบโตเพิ่มขึ้นอีก 17% โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการเดินทาง และพร้อมเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่อยู่เสมอ จึงได้เปิดตัว 2 พรีเซนเตอร์ “เจฟ ซาเตอร์ – อาโป ณัฐวิญญ์” เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ถ่ายทอดประสบการณ์ “เป็น ไป ได้มากกว่าเดิม” ร่วมฉลองเดือนเกิด คิง เพาเวอร์ ตลอดตุลาคมกับ “POWER PASS” สมัครฟรี ง่าย ๆ ได้ตั้งแต่วันนี้ทางเว็บไซต์ powerpass.kingpower.com

 

พร้อมกับเตรียมจัดมหกรรมใหญ่ “KING POWER 36^th ANNIVERSARY DELIGHTS & SURPRISES 2025: MORE POWER MORE POSSIBILITIES WITH POWER PASS  พลังช้อปเหนือขีดจำกัด สู่ทุกความเป็นไปได้” ตลอดเดือนตุลาคม 2568 คิง เพาเวอร์ ได้มอบสิทธิพิเศษ “ON TOP OF THE YEAR” ด้วยโปรโมชั่น ช้อปคุ้ม สมัครคุ้ม แลกคุ้ม และลุ้นรับรางวัลใหญ่ รถยนต์ LEXUS NX 350h มูลค่า 3,310,000 บาท

 

พิเศษ! ระหว่างวันที่ 17-23 ตุลาคม 2568 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พบกับกิจกรรมแบบจัดเต็มและเซอร์ไพรส์จาก “เจฟ ซาเตอร์ และ อาโป ณัฐวิญญ์” และ “POWER PASS” พร้อมมอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกทุกระดับได้ใช้บริการอย่างเต็มที่

 

ดร.นิตินัย กล่าวว่า คิง เพาเวอร์ ในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกเพื่อการท่องเที่ยว ได้ใช้โอกาสพิเศษเดือนเกิดตุลาคมนี้ฉลอง 36 ปี เร่งเสริมทัพด้วยนวัตกรรมบริการส่งเสริมตลาดการขายด้วย “POWER PASS” ภายใต้แนวคิด “MORE IS POSSIBLE : ยิ่งใช้ ยิ่งได้ และง่ายกว่าเดิม” เดินหน้ามอบสิทธิประโยชน์สุดคุ้มค่าให้สมาชิกใช้บริการอย่างมีความสุขครบทั้ง 4 เรื่อง

 

● เรื่องที่ 1 สร้าง ECOSYSTEM เชื่อมต่อทุกบริการในเครือ คิง เพาเวอร์ ให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์จากบริการต่าง ๆ อย่างเต็มที่จาก คิง เพาเวอร์, คิง เพาเวอร์ มหานคร, เฟิร์สเตอร์, โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์, โรงแรมเดอะสแตนดาร์ด มหานคร, ไทยเทสต์ฮับ, มหานครอีเทอรี่ และผลิตภัณฑ์พาสเทล ภายใต้ X8 (MULTIPLY BY EIGHT)

 

● เรื่องที่ 2 ผนึกกับพันธมิตรชั้นนำกว่า 120 แบรนด์ ขยายบริการให้เป็นมากกว่าการช้อปปิงสินค้าดิวตี้ฟรี เพิ่มความพิเศษให้ลูกค้าสามารถขยายสู่โลกแห่งประสบการณ์ด้านไลฟ์สไตล์การค้าปลีก ครอบคลุม 5 แกนหลัก ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม ช้อปปิ้ง ไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวและประสบการณ์ สุขภาพและสุขภาวะกายใจสังคมที่ดี (Health & Wellness)

 

● เรื่องที่ 3 สมัครสมาชิกฟรี ไม่มีวันหมดอายุ มอบความสุขให้สมาชิกทุกคนเพลิดเพลินกับการสะสมยอดและอัปเกรดสิทธิประโยชน์ได้ตลอดเวลา ครบทั้ง 4 ระดับ ได้แก่ 1.NAVY รับส่วนลดสูงสุด 5% 2.SCARLET รับส่วนลดสูงสุด 10% 3.CROWN รับส่วนลดสูงสุด 20% และ 4.VEGA รับส่วนลดสูงสุด 20%

 

● เรื่องที่ 4 ยกระดับสิทธิประโยชน์เหนือกว่าเดิม ตอบโจทย์นักเดินทาง มากถึง 3 ได้ คือ

 

ได้ง่าย..ทุกการช้อปปิง 25 บาท รับ กะรัต/CARAT หรือคะแนนสะสมสูงสุด X3  

 

ได้มาก..รับส่วนลดสูงสุด 20%  ทุกทริปช้อปคิง เพาเวอร์ ทุกสาขาอย่างคุ้มค่า

 

ได้ทุกวัน..รับรางวัลกะรัต หรือ CARAT REWARDS จากเครือ คิง เพาเวอร์ และพันธมิตร พร้อมเอกสิทธิ์พิเศษ เช่น ใช้บริการห้องรับรองของคิง เพาเวอร์ สาขาในเมือง และท่าอากาศยานนานาชาติ รับเงินคืนฉลองวันเกิด (Birthday Cashback) และกิจกรรมสุดเอกซ์คลูซีฟเฉพาะสมาชิก POWER PASS เท่านั้น

 

“POWER PASS” ระบบสมาชิกแนวใหม่ ภายใต้กลยุทธ์ “THE POWER OF MORE” มุ่งยกระดับประสบการณ์ให้ลูกค้าครอบคลุมทุกมิติ ประกอบด้วย

 

● P - PERSONALISATION THAT MATTERS : สร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล ผ่านการให้บริการที่ปรึกษาส่วนตัวและการสรรหาสินค้ารุ่นพิเศษ

 

● O - OPPORTUNITIES TO ELEVATE EVERYDAY LIFE : เติมเต็มทุกวันด้วยดีลและสิทธิพิเศษ

 

● W - WEALTH OF VALUE BEYOND POINTS : รับสิทธิพิเศษได้ด้วยคะแนน CARAT

 

● E - ENGAGEMENT THAT FEELS REWARDING : กิจกรรมเฉพาะสมาชิก อาทิ การเข้าร่วมเวิร์กช็อป

 

● R - RECOGNITION THAT BUILDS BRAND : มอบประสบการณ์เอกซ์คลูซีฟเพื่อสมาชิก เช่น ของขวัญในเทศกาลพิเศษ และอื่น ๆ

 

สมัครฟรี !! สมาชิก “POWER PASS”  คิง เพาเวอร์ สมัครง่ายได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทางเว็บไซต์ powerpass.kingpower.com หรือ LINE Official Account : @kingpower โทร.1631 คลิกตรวจสอบสิทธิประโยชน์ และยอดซื้อสะสมทาง powerpass.kingpower.com

 

ข่าวที่ 2 -1 ปีมี1ครั้งช้อปคิงเพาเวอร์สนามบินทั่วไทยรับคูปองลด36%

โปรสุดคุ้ม !! 1 ปี มี 1 ครั้ง ที่คิง เพาเวอ์ สนามบิน เมื่อมีบินเดือนตุลาคม 2568 ต้องแวะช้อป คิง เพาเวอร์ ก่อนขึ้นเครื่อง 1 ปีมีครั้ง! พร้อมสมัครสมาชิกใหม่ POWER PASS ฟรี

 

คุ้มที่ 1 : รับเงินเข้าบัญชีสมาชิกทันที 100 บาท

คุ้มที่ 2 : รับเซ็ตคูปองพิเศษ 4 ใบ เลือกช้อปได้ทุกที่

 

พิเศษ! คูปองส่วนลด 36% สำหรับช้อปน้ำหอมและเครื่องสำอาง 1 ชิ้นที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานทุกสาขา

 

คุ้มที่ 3 : รับ CASH VOUCHER ทันที 2,000 บาท(เมื่อเติมเงินเข้าบัญชีสมาชิกทุก 20,000 บาท*)ที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต

 

1 ปีมีครั้ง! ส่วนลด ON-TOP  : ที่แผนกน้ำหอม เครื่องสำอาง และแว่นตา ลดสูงสุด 25% มีส่วนลด ON-TOP เพิ่มอีก 10%

 

เฉพาะสมาชิก !! POWER PASS เมื่อช้อปครบ 1,500 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ เฉพาะสินค้าแผนกน้ำหอม เครื่องสำอาง และแว่นตาที่ร่วมรายการที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต

 

1 ปีมีครั้ง! แจก GIFT CARD ฟรี มูลค่ารวมสูงสุด 8,000 บาท ที่แผนกแฟชั่น นาฬิกา และจิวเวลรี ที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

 

● ซื้อ LUXURY CASH CARD 100,000 บาท รับเพิ่ม GIFT CARD 2 ใบ มูลค่ารวม 8,000 บาท “ใบที่ 1” มูลค่า 5,000 บาท “ใบที่ 2” มูลค่า 3,000 บาท

● ซื้อ LUXURY CASH CARD 50,000 บาท รับเพิ่ม GIFT CARD มูลค่า 3,000 บาท หรือซื้อ CASH CARD 10,000 บาท รับเพิ่ม GIFT CARD มูลค่า 4,000 บาท

 

“เซอร์ไพรส์ทุกวันหยุดยาว” เมื่อมีไฟลต์บินออกทางสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ห้ามพลาดเลย! พบกับขบวนพาเหรดแจกของขวัญให้สมาชิก POWER PASS วันที่ 8 – 10 ตุลาคม และ วันที่ 20–23 ตุลาคม 2568

 

ข่าวที่ 3-ททท.รับนโยบาย“รมว.อรรถกร”Big Impact Act Fast 4 เรื่อง

 

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบาย Big Impact Act Fast การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยมีนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. คณะผู้บริหารและพนักงาน ททท. ร่วมให้การต้อนรับ โดยได้เร่งกระตุ้นและเพิ่มมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน มุ่งโฟกัสตลาดหลัก ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างรายได้ เสริมมาตรการสร้างความปลอดภัยด้วยแนวคิด “เที่ยวไทยมั่นใจ ปลอดภัยทุกย่างก้าว” ดูแลนักท่องเที่ยวอย่างเข้มข้น พร้อมรับฟังอุปสรรคและมุ่งขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปัญหา สร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางให้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ภายใต้นโยบาย “Big Impact Act Fast” ประกอบด้วย 4 เรื่อง

 

● เน้นย้ำขับเคลื่อนและส่งเสริมตลาดต่างประเทศ โดยตั้งเป้าหมายความท้าทายทำให้ได้ภายใน 4 เดือน พุ่งเป้าเจาะนักท่องเที่ยวที่มีประสิทธิภาพลำดับแรก 7 ตลาด ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ตะวันออกกลาง อาทิ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยตลาดนักท่องเที่ยวจีนได้กำหนดมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย และเน้นสร้างความสัมพันธ์ไทย-จีน เพื่อกระตุ้นตลาดใหญ่ต่อเนื่องเพราะเป็นฐานการท่องเที่ยวสำคัญของไทย

 

● Travel Safe, Worry Free เสริมความมั่นใจ ปลอดภัยทั่วไทย ด้วยศูนย์รับแจ้งเหตุ 1155 ตลอด 24 ชั่วโมง และแอปพลิเคชัน Thailand Tourist Police รองรับ 8 ภาษา เช่น อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี รัสเซีย โดยมีฟังก์ชันทั้ง การแจ้งเหตุ สอบถามข้อมูล ปุ่ม SOS ที่เชื่อมต่อไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุในทุกจังหวัด

 

● Smart Safety, Smart Tourism ใช้เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย โดยใช้ระบบ AI Detect ช่วยตรวจสอบและสแกนใบหน้า เชื่อมโยงข้อมูลหมายจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเฝ้าระวังบุคคลที่มีพฤติการณ์เสี่ยงก่ออาชญากรรม พร้อมทำประชาสัมพันธ์พื้นที่ปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ต่างชาติและคนไทย

 

● Thailand Together บูรณาการทุกภาคส่วน พร้อมต้อนรับและรองรับท่องเที่ยวช่วงไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ตรงกับช่วงฤดูท่องเที่ยวไฮซีซั่นเดือนธันวาคม 2568 มอบหมายให้ ททท. สนับสนุนประชาสัมพันธ์งาน ผนวกนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงพื้นที่ต่าง ๆ  และให้คนไทยร่วมเป็นเจ้าบ้านและเจ้าภาพที่ดีต้อนรับต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทย

 

ข่าวที่ 4-บางจาก-TGO-TCNNถกเครือข่ายพุ่งเป้าลดคาร์บอนเป็นศูนย์

 

นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประธานอนุกรรมการด้านตลาดคาร์บอน เครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย เป็นประธานการ “ประชุมคณะกรรมการเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (Executive Committee) ครั้งที่ 2/2568” ร่วมกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO และเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (TCNN)   เพื่อผลักดันการลดก๊าซเรือนกระจกสู่เป้าหมาย Net Zero

 

การประชุมครั้งนี้ ได้นำเสนอและสรุปผลการดำเนินงานของเครือข่าย TCNN ระหว่างเดือนเมษายน - กันยายน 2568 และได้จัดทำรายงานข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านการลดก๊าซเรือนกระจกและมุ่งสู่ Net Zero Emissions การพิจารณาผลการประเมินองค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก (Climate Action Leading Organization: CALO) กับพิจารณา (ร่าง) กำหนดการงานสัมมนาประจำปีของเครือข่ายฯ ปี 2568

 

โดยมีตัวแทนองค์กรชั้นนำที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมที่ห้องประชุม 2 TGO อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ และผ่านทางระบบประชุมทางไกล (Video Conference) นำโดย คุณณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ฝ่ายเลขานุการโดย คุณอโณทัย สังข์ทอง ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารและทะเบียนคาร์บอนเครดิต TGO และคณะกรรมการเครือข่ายฯ และองค์กรสมาชิกเครือข่ายฯ อาทิ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (DCCE) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (UNGCNT)

 

ข่าวที่ 5-TCEBเสนอคู่มือครองตลาดไมซ์อนาคตGen Z เเละMillennials

 

ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า หน่วย MICE Intelligence Center ได้ร่วมกับ TrendWatching จัดทำ “คู่มือพิเศษ” เป็นรายงานการถอดรหัสอินไซต์พฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ และแนวโน้มการจัดงานไมซ์กำลังจะเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานให้เป็นประสบการณ์ที่มีพลังและเชื่อมโยงผู้เข้าร่วมงาน โดนใจตลาดไมซ์วัยใหม่ “Gen Z เเละ Millennials” ภายในปี 2578 พลังของคนกลุ่มนี้จะกลายเป็นคนกลุ่มใหญ่ที่สุดในสถานที่ทํางาน ขณะนี้กำลังจะเข้ามาพลิกโฉมธุรกิจไมซ์ ทั้งคนรุ่นนี้และคนรุ่นมิลเลนเนียลเลือกเข้าร่วมงานไมซ์เหมือนกับที่ได้เลือกใช้แบรนด์สินค้าต่าง ๆ

 

ทีเส็บจึงขอเชิญชวนให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับอุตสาหกรรมไมซ์ ศึกษารายงานฉบับนี้ ที่ได้ถอดรหัสเคล็ดลับความสำเร็จที่จะนำไปสู่ผู้นำธุรกิจไมซ์ในอนาคต 3 หัวข้อดังนี้ดังนี้

 

1.เข้าใจแรงขับเคลื่อนของ GEN Z & M (Millenials)

2.รู้ว่าพวกเขาคาดหวังอะไรจากการเข้าร่วมงาน

3.เห็นไอเดียการออกแบบงานที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ประสบการณ์ ความยั่งยืน และความสร้างสรรค์

 

รายละเอียดในเนื้อหารายงานเจาะลึก ครอบคลุมหัวใจสำคัญการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่สอดคล้องกับการปรับตัวทางธุรกิจ 4 เรื่อง ด้วยกัน คือ

● Experience Economy ที่คนรุ่นใหม่ให้คุณค่ากับความทรงจำมากกว่าสิ่งของ

● Co-Creation เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานมีส่วนร่วมออกแบบและสร้างประสบการณ์ไปพร้อมกัน

● Value-driven Participation คนรุ่นใหม่เลือกเข้าร่วมงานที่สะท้อนคุณค่าและตัวตน

● เทรนด์ใหม่ๆ ที่กำลังจะเปลี่ยนวิธีคิดการจัดงาน MICE ในอนาคต

 

“คู่มือสำคัญ” ซึ่งรายงานพิเศษฉบับพิเศษนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการไมซ์มองเห็นโอกาสในการสร้างงานไมซ์ที่โดนใจคนรุ่นใหม่ พร้อมต่อยอดให้ธุรกิจและอุตสาหกรรมไมซ์เติบโตอย่างยั่งยืน

 

ดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มภาษาไทย และภาษาอังกฤษที่ #MICEIntelligenceCenter #TrendWatching

 

          ช่วงที่ 2 ลมหนาวใกล้เข้ามาแล้ว ปักหมุดออกไปฮีลใจในผืนป่าเขียวขจีสูดโอโซนสดชื่นได้ที่ “ทุ่งแสลงหลวง” จ.เพชรบูรณ์ นักเดินทางรุ่นใหม่สายแอดเวนเจอร์ พร้อมแล้วไปเที่ยวกัน ชมทุ่งสะวันนา ดอกไม้ป่า สัตว์นานาชนิด โอบกอดผืนป่าอย่างมีความสุขด้วยกัน แล้วฟัง “11 อ.” หลักของผู้สูงวัยใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย และข่าวดี ๆ ข่าวแรก “นกแอร์” จัด 2 โปรรับไฮซีซั่นเปิดใช้ฟรี “นกแอร์แอร์เลาจน์” ตลอด ต.ค.68 ข่าวที่สอง “AOT” จีบ 13แอร์ไลน์ส และสนามบินโลก เพิ่มเที่ยวบินเข้ามาไทย

 

ท่องเที่ยว –สุขทันทีเที่ยวปลายฝนต้นหนาวใน“ทุ่งแสลงหลวง”เพชรบูรณ์

 

สุขทันทีทีเที่ยว ปลายฝนต้นหนาว ตลุยกอดธรรมชาติเขียวขจีใน “อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง” จังหวัดเพชรบูรณ์ สัมผัสไอหมอกหยอกธรรมชาติ เดินชมทุ่งหญ้าโล่งใหญ่ ป่าสนสองใบ และดอกไม้ป่าแปลกตา ในผืนป่าเขียวสดชื่นครอบคลุมพื้นที่พิษณุโลกและจังหวัดเพชรบูรณ์ มีบริเวณพื้นที่กางเตนท์พักแรมในบรรยากาศสวยงามสายหมอกลอยละล่องจับต้องได้

 

“กิจกรรมไฮไลต์” เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชอบการใช้ชีวิตเดินชมธรรมชาติและปั่นจักรยานเสือภูเขา กับทุ่งหญ้าแบบสะวันนา ป่าสนสองใบกว้างใหญ่ ประมาณ 10 ตารางกิโลเมตร

 

“แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ” ทิวทัศน์สวยงาม ทั้ง เที่ยวถ้ำ ย่ำน้ำตกเย็นฉ่ำ เดินในทุ่งหญ้าโล่งใหญ่พร้อมด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิด โดยมี“ทุ่งหญ้า” นางพญาสลับป่าสนสองใบ ป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง

 

“ดินแดนดอกไม้ป่า” บริเวณทุ่งโนนสน ทุ่งหญ้าสะวันนาสลับกับป่าสนเขา ช่วงปลายฝนต้นหนาวมีดอกไม้สวย ๆ เช่น ดอกดุสิตา เอื้องม้าวิ่ง กระดุมเงิน ยี่โถปีนัง และหม้อข้าวหม้อแกงลิง และช่วงฤดูร้อนก็จะมี ดอกเอื้องชะนี และเอื้องคำปากไก่

 

“แก่งวังน้ำเย็น” แก่งหินขนาดใหญ่ มีแหล่งน้ำลึกระหว่างแก่งที่พบน้ำจืดและแมงกะพรุน กับผีเสื้อป่าสวยงาม เช่น ผีเสื้อถุงทอง และผีเสื้อหนอนคืบสไบแดง

 

สุขภาพ –11 อ.หลักของผู้สูงวัยนำไปใช้ในชีวิตจริงดูแลสุขภาพกายใจ

 

“ผู้สูงวัย” แนะนำให้ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่ในสภาพดีด้วยหลัก 11 อ. ป้องกันสุขภาพกายใจที่ดี ดังนี้

 

1. อาหาร - รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ได้พลังงานเหมาะสมประมาณ 1500 กิโลแคลอรี่ โดยควรหลีกเลี่ยงการรับประทานผักดิบจำนวนมาก เนื่องจากย่อยยาก อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด และควรงดผลไม้ที่หวานจัด 

 

2. อากาศ - การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ได้รับอากาศที่บริสุทธิ์เข้าไปในร่างกายจึงเป็นเรื่องสําคัญ ส่งผลให้อารมณ์แจ่มใส สุขภาพแข็งแรงอายุยืนยาว 

 

3. ออกกำลังกาย - ควรออกกําลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ 3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 30 นาที เช่น ว่ายน้ำ เดินเร็ว ไทเก๊ก โยคะ เป็นต้น จะช่วยชะลอความเสื่อมโทรมของร่างกาย ทำให้กระดูกแข็งแรงมากขึ้น  

 

4. อนามัย - ลด ละ เลิก สิ่ง ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น บุหรี่ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ รักษาความสะอาดของร่างกายอยู่เสมอ และควรได้รับการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี 

 

5. แสงอาทิตย์ - การได้รับแสงแดดอ่อน ๆ ในตอนเช้าอย่างน้อยวันละ 30 นาที จะทําให้ได้รับวิตามินดีที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและ ฟอสฟอรัส สามารถชะลอการเกิดโรคกระดูกพรุนได้ นอกจากนั้น วิตามินดียังช่วยป้องกันโรคซึมเศร้า เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน 

 

6.อารมณ์ - ผู้สูงวัยจะมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย ต้องหาวิธีช่วยควบคุมอารมณ์ ซึ่งมีหลายวิธี เช่น การออกกําลังกาย การทําสมาธิ การศึกษาธรรมะ จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย มีสติมากขึ้น 

 

7.อดิเรก - หางานอดิเรกทําเพื่อช่วยคลายเหงา เช่น การทํางานฝีมือ ปลูกต้นไม้ ทําอาหาร ร้องเพลง เต้นรํา การทํากิจกรรมจิตอาสาต่าง ๆ หรือการเข้าเป็นสมาชิก ชมรมผู้สูงอายุ 

 

8.อบอุ่น - การเป็นบุคคลที่มีบุคลิกโอบอ้อม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้การช่วยเหลือสมาชิกในครอบครัว และบุคคลอื่น ยิ้มแย้มไม่หงุดหงิดง่าย ใจเบาสบาย รักตนเองมากขึ้น ใส่ใจความรู้สึกคนรอบข้างมากขึ้น จะทําให้ลูกหลานรู้สึกอบอุ่น และเป็นที่รักของลูกหลาน 

 

9.อุจจาระ ปัสสาวะ - ป้องกันปัญหาด้วยการออกกําลังกาย กินผัก ผลไม้ และดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย  

 

10.อุบัติเหตุ - จัดสิ่งแวดล้อมภายในบ้านให้เป็นระเบียบ มีแสงสว่างเพียงพอ พื้นไม่ลื่นเกินไป มีเครื่องช่วยพยุง เมื่อต้องการและคอยดูแลประคอง ผู้สูงอายุในการลุกนั่งหรือเดิน 

 

11.อนาคต - ผู้สูงอายุควรคิดถึงอนาคตด้วย และควรพยายามเข้าร่วมในสังคมกลุ่มต่างๆ ตามสมควร การมีเพื่อนรุ่นเดียวกัน หรือต่างรุ่น จะทําให้มีความอบอุ่น และรู้สึกถึงคุณค่าของตน รวมถึงเตรียมเงินและที่อยู่อาศัย เพื่อเป็นหลักประกัน ในการดําเนินชีวิต 

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –“นกแอร์”เปิดเลาจน์ฟรี2โปรเอาใจลูกค้าไฮซีซั่นต.ค.68

 

บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ตลอดเดือนตุลาคม 2568 เข้าสู่ฤดูเดินทางท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่น จึงได้ทำทำแผนกระตุ้นผู้โดยสารทั่วประเทศออกเดินทางเที่ยวเมืองไทยเพื่อสร้างประสบการณ์ความประทับใจด้วย  2 โปรโมชั่น ดังนี้

 

โปรโมชั่นที่ 1 ”นกต่อเครื่อง” เปิดให้ผู้โดยสารที่จองเที่ยวบินต่อเครื่อง (Connecting Flight) ภายในกำหนดการเดินทางเดียวกัน สามารถเข้าใช้บริการฟรี “นกแอร์ เลาจน์”

 

โปรโมชั่นที่ 2  ลด 50 % สมาชิก “นกแฟนคลับ” สามารถใช้คะแนน “นกพอยต์” แลกสิทธิเข้าใช้บริการ “นกแอร์ เลาจน์” เพื่อรับส่วนลดสูงสุดได้ถึง 50% ตามช่วงเวลาแต่ละวัน คือ ระหว่าง 09.00-12.00 น. และ 14.00-17.00 น.

“วิธีแลกคะแนน” ดำเนินการผ่านแพลตฟอร์ม “Nok Deal” เปิดให้แลกคะแนนให้ตนเองและผู้ติดตามได้โดยไม่จำกัดจำนวนผู้ติดตาม

 

“บริการนกแอร์ เลาจน์” ผู้โดยสารที่ใช้บริการห้องรับรองดังกล่าวจะได้รับความสะดวกสบายครบ ทั้ง “อาหาร” มีให้เลือกหลากหลายเมนู “เครื่องดื่ม” คุณภาพ “ที่นั่ง” พักผ่อนพร้อมมุมทำงานในโซนส่วนตัวท สามารช่วยผู้โดยสารเคลียร์งานสำคัญก่อนขึ้นเครื่องได้

 

“เวลาเปิดบริการ-ที่ตั้ง” นกแอร์เลาจน์เปิดให้บริการทุกวัน เวลา04.00-20.00 น. โดยจะเปลี่ยนแปลงตามตารางเที่ยวบินในแต่ละฤดู ตั้งอยู่ในอาคารผู้โดยสารขาออก “ภายในประเทศ” เทอร์มินัล 2  บริเวณทางเชื่อม ประตูหมายเลข 50-56

 

“ผู้โดยสารเดิม” ที่มีสิทธิเข้าใช้บริการ นกแอร์ เลาจน์ ทั้ง 1.ผู้ถือตั๋วโดยสารประเภท Nok MAX 2.ตั๋วโดยสารข้าราชการ 3.สมาชิกนกแฟนคลับระดับ Nok Smile Plus และ 4.Nok Smile (1 ครั้งต่อปี) สามารถใช้บริการห้องรับรองผู้โดยสารได้ตามสิทธิปกติต่อไป

 

ข่าวที่สอง – AOTร่วม“Routes World 2025”รุกทำตลาดดึงแอร์ไลน์สมาไทย

 

            นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ “AOT” เปิดเผยว่า นำทีมผู้บริหารและพนักงาน AOT ร่วมการประชุมเจรจาธุรกิจการบิน “The 30th World Route Development Forum” (Routes World 2025) เมื่อ 24 - 26 กันยายน 2568 ที่ศูนย์ประชุม เอเชีย เวิลด์ เอ็กซโป ฮ่องกง โดพร้อมจะใช้เวทีครั้งนี้ “เพิ่มเส้นทางบินใหม่” จากนานาประเทศ และ “เพิ่มความถี่เที่ยวบิน” เส้นทางบินเดิม เข้ามายังท่าอากาศยานของ AOT ติดตามผลการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาเส้นทางการบิน (Air Service Development (ASD) Feasibility Study Report) ระหว่างท่าอากาศยานของ AOT และท่าอากาศยานต่างประเทศ ตอบโจทย์ผู้โดยสารในการเดินทางเข้าออกเมืองไทย ควบคู่กับเพิ่มโอกาสเป็น “ศูนย์กลางการบินในภูมิภาค” ตามนโยบายรัฐบาล

 

โดย AOT มุ่งทำตลาดเชิงรุกด้วยกลยุทธ์เจรจาธุรกิจกับสายการบินต่าง ๆ เช่น 1.เฟรนซบี ฝรั่งเศส 2.เดลต้าแอร์ไลน์ส และ 3.อเมริกัน แอร์ไลน์ สหรัฐอเมริกา 4.พลัสอัลตร้า สเปน 5.อินดิโก และ 6.แอร์ อินเดีย ประเทศอินเดีย 7.เวอร์จินออสเตรเลียและ 8.เจ็ทสตาร์ ออสเตรเลีย 9.ชางดงและ 10 สปริง สาธารณรัฐประชาชนจีน 11.การูดา อินโดนีเซีย 12.โอมานแอร์ ประเทศโอมาน และ 13.แอร์นิวซีแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์

 

โดยได้นำเสนอข้อมูลประกอบการตัดสินใจแผนเปิดเส้นทางบินใหม่ กับโครงการสนับสนุนการตลาดเพื่อเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศ สายการบินต่าง ๆ ให้ความสนใจโครงการของ AOT ครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

 

ขณะเดียวกัน ผู้บริหาร AOT ยังได้เจรจาธุรกิจกับท่าอากาศยานของประเทศอื่น ๆ  เพื่อส่งเสริมเชื่อมต่อเส้นทางบินกับท่าอากาศยานของ AOT ด้วย เช่น ท่าอากาศยานเพิร์ธ (PER) อิสตันบูล (SAW) เมดาน (KNO) ลอสแองเจลิส (LAX) ซานฟรานซิสโก (SFO) และไท่หยวนวูซู (TYN)

 

สำหรับการประชุม Routes World 2025 มีผู้เข้าร่วมประชุมจากสายการบิน ท่าอากาศยาน และผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการบิน การท่องเที่ยวจากทั่วโลกกว่า 770 หน่วยงาน ทำให้ AOT ซึ่งมีโอกาสเข้าร่วมการประชุม ได้สนับสนุนอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของไทยตามนโยบายรัฐบาล เป็นอีกกลไกลสำคัญช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในประเทศเพิ่มมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ส่งผลด้านการค้าและการลงทุน การสร้างงาน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริมเศรษฐกิจชาติให้มั่นคงยั่งยืนทั้งปัจจุบันและอนาคตต่อไป

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.