วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2568

บางจากลุยศึกษา e-fuelsญี่ปุ่นย้ำกลยุทธ์Bangchak 100x-อินทนิลผนึกชาดังบูมธุรกิจNon Oil

บางจากลุยศึกษา e-fuelsญี่ปุ่นย้ำกลยุทธ์Bangchak 100x

รุกพลังงานอนาคต-นำอินทนิลผนึกชาดังบูมธุรกิจNon Oil

ซีอีโอบางจากนำทีมลุยญี่ปุ่นศึกษา e-fuels พลังงานอนาคตพร้อมดูไร่ชาที่ใช้ในร้านอินทนิล

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #บางจาก #AcceleratingBangchak100x

บางจากฯ มุ่งกลยุทธ์ “Accelerating Bangchak 100x” ปี’71 EBIDA โตเพิ่ม 100 % ลุยดูโมเดลญี่ปุ่นศึกษา e-fuels เชื้อเพลิงสังเคราะห์ ลุยพัฒนาพลังงานอนาคต นำแบรนด์อินทนิลผนึกชาดังเสริมแกร่งธุรกิจการตลาดหรือ Non Oil สร้างเศรษฐกิจพลังงานโตแบบสมดุล


บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เร่งกลยุทธ์ “Accelerating Bangchak 100x: Pivoting toward Energy Security and Sustainability” ให้สอดคล้องปี 2571 ตามที่ได้ประกาศไปเมื่อเร็ว ๆ  4 แกนยุทธศาสตร์ 1.ตั้งเป้าหมายใหม่ที่ท้าทายทำ EBITDA เติบโตเพิ่มขึ้น 100% พร้อมเสริมสร้างศักยภาพองค์กรและตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน 2. การขับเคลื่อนสู่ความมั่นคงทางพลังงานและความยั่งยืน 3.การยกระดับศักยภาพธุรกิจผ่านการปรับโครงสร้าง 4.สร้างคุณค่าแก่ผู้ถือหุ้นผ่านโครงการซื้อหุ้นคืนระยะ 3 ปี เพื่อเสริมความเชื่อมั่นต่อศักยภาพการเติบโตระยะยาว

ทางคณะผู้บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก นำโดย “นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แสดงให้เห็นถึงการเร่งเครื่องกลยุทธ์ดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อ 29 กันยายน 2568 ได้ไปเยี่ยมชมศูนย์วิจัยเทคนิคกลางที่เมืองโยโกฮาม่า ของ ENEOS Holdings  ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่สุดของญี่ปุ่น โดยมี ดร. ยูอิชิโร ฟูจิยาม่า Chief Technology Officer ของ ENEOS Holdings คณะผู้บริหารและทีมงานร่วมต้อนรับ   กิจกรรมนี้บางจากมุ่งเสริมองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี สร้างความแข็งแกร่งก้าวสู่ความมั่นคงทางพลังงาน ความยั่งยืน และการพัฒนาพลังงานแห่งอนาคต


“ศูนย์วิจัยเทคนิคกลางของ ENEOS ได้จัดตั้งโรงงานสาธิตผลิต e-Fuels หรือเชื้อเพลิงสังเคราะห์มาตั้งแต่ปี 2567 โดยใช้กระบวนการแปรรูป “ไฮโดรเจน” แยกโมเลกุลน้ำ และดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ นำไปผ่านกระบวนการผลิตเป็น “ไฮโดรคาร์บอนสังเคราะห์” สามารถใช้แทนน้ำมันจากฟอสซิลได้ทันที (drop-in fuels) โดยไม่ต้องเปลี่ยนเทคโนโลยีเครื่องยนต์ โครงสร้างพื้นฐาน หรือระบบนิเวศน์ใด ๆ ช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงดั้งเดิมและเป็นคำตอบเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด

โรงงานสาธิตนี้มีกำลังผลิตเริ่มต้น 1 บาร์เรลต่อวัน ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้สนับสนุนจากหน่วยงานวิจัยและพัฒนา New Energy and Industrial Technology Development Organization (NEDO) ภายใต้กองทุน Green Innovation Fund โดยนำผลงานไปจัดแสดงแล้วใน “โอซาก้า เอ็กซ์โป 2025 

            ในยุคที่โลกก้าวเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านพลังงาน และมีแนวโน้มใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น แต่ “ไฮโดรคาร์บอน” จะยังมีบทบาทสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกเติบโต โดยเฉพาะเชื้อเพลิงในกลุ่มโมเลกุลสะอาด (Clean Molecules) มีจุดเด่นความหนาแน่นพลังงานสูง การขนส่งสะดวก จัดเก็บง่าย ตอบโจทย์การใช้งานในหลายภาคส่วนของโลกยุคเปลี่ยนผ่าน



“แนวโน้มตลาดโลก” ก็สะท้อนภาพนี้ชัดเจน ข้อมูลปัจจุบันปี 2568 อุตสาหกรรม e-Fuels มีมูลค่าประมาณ 11,700 ล้านเหรียญสหรัฐ Fortune Business Insights (2024) คาดภายในปี 2575 จะขยายตัวเกือบ 88,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

            “นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีรถยนต์กว่า 1,500 ล้านคัน วิ่งอยู่บนท้องถนนทั่วโลก การเปลี่ยนทั้งตัวรถ โครงสร้างพื้นฐาน และระบบนิเวศน์การผลิตรถ ย่อมสิ้นเปลืองมหาศาล ดังนั้น e-Fuels เป็นอีกทางเลือกใช้เชื้อเพลิงสังเคราะห์จากการกักเก็บคาร์บอน (CCUS) และไฮโดรเจนสะอาด สามารถใช้แทนน้ำมันเชื้อเพลิงปกติได้ทันทีในเครื่องยนต์สันดาป (ICE) โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนใด ๆ บนรถยนต์ (drop-in) หรือระบบนิเวศน์ โครงสร้างพื้นฐาน และไม่เพิ่มภาระการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จึงเป็นพลังงานหมุนเวียนช่วยเร่งการก้าวสู่อนาคตพลังงานสะอาดหรือ Net Zero อย่างเป็นรูปธรรม

            บางจากฯ มีศักยภาพผลิตเชื้อเพลิงสะอาดยุคใหม่จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว ครอบคลุมการเดินทาง การขนส่งทั้ง 1.ทางอากาศด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) 2.ทางบกด้วย Renewable Diesel (HVO) และ 3.ทางน้ำด้วย B24 Marine Biofuels จึงมุ่งให้ความสำคัญกับการติดตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี e-Fuels อย่างใกล้ชิด ในฐานะพลังงานเชื่อมโลกปัจจุบันกับโลกพลังงานสะอาด เป็นสะพานเปลี่ยนผ่านที่จับต้องได้ และตอกย้ำบทบาทผู้นำพลังงานแห่งอนาคต


            คณะของบางจากได้เข้าเยี่ยมชม “ไร่ชาเขียวมัตซึดะ เอ็น” (Matsuda-en) จังหวัดชิซุโอกะ แหล่งผลิตมัตฉะคุณภาพสูง ทาง “อินทนิล” แบรนด์เครื่องดื่มภายใต้การบริหารของบริษัท บางจาก รีเทล จำกัด (BCR) ในกลุ่มบริษัทบางจาก ได้นำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในเมนูมัตฉะหลากหลายชนิด เพื่อส่งมอบรสชาติและคุณภาพต้นตำรับจากญี่ปุ่นให้ลูกค้า

“มิสเตอร์สึโยมิ มัตซึดะ” เป็นผู้ดำเนินกิจการไร่ชาและผู้ผลิตชาญี่ปุ่นที่มีประวัติยาวนานกว่า 150 ปี เริ่มส่งออกตั้งแต่ปี 2534 ปัจจุบันจำหน่ายทั่วโลกกว่า 20 ประเทศ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติหลายรายการ รวมถึง รางวัลถ้วยจักรพรรดิ (The Emperor’s Cup) ด้วยการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ Matsuda-en เป็นชาเขียวญี่ปุ่นที่สากลยอมรับ


            ด้าน “บางจาก รีเทล” มุ่งมั่นพัฒนาและส่งเสริมกาแฟไทย ด้วยเมนูพิเศษ “กาแฟพ่อหลวง Single Origin” จากดอยแม่สลอง ซึ่งใช้เมล็ดกาแฟอาราบิก้าคุณภาพสูงจากโครงการในพระราชดำริ ผลิตเครื่องดื่มคุณภาพอื่น ๆ จากวัตถุกดิบที่ได้คัดสรรอย่างดีที่สุด ผสมผสานระหว่างวัตถุดิบต่างประเทศระดับโลกและผลผลิตคุณภาพสูงของไทย สะท้อนการพัฒนาธุรกิจ Non-Oil ของบางจากฯ ที่ให้ความสำคัญกับ คุณภาพ ความหลากหลาย ความยั่งยืน พร้อมยกระดับมาตรฐานสู่ระดับสากล เป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนบางจากสร้างการเติบโตอย่างสมดุล



 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ไทยใช้Green Productionกับกองถ่ายหนังต่างชาติในไทย กรมท่องเที่ยวชูมาตรฐานสากลยั่งยืน

  ไทยใช้ Green Production กับกองถ่ายหนังต่างชาติในไทย กรมท่องเที่ยวชูมาตรฐานสากลยั่งยืนให้อุตฯโลกยอมรับ   เรื่องโดย... # เพ็ญรุ่งใยสาม...