วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

เอทิฮัดแอร์เวย์สบินตรง“อาบูดาบี-เชียงใหม่”นำตะวันออกกลางใช้เงินทริปละแสนดันเศรษฐกิจภาคเหนือสดใส

ททท.ยิ้มรับเอทิฮัดแอร์เวย์สเปิดบินตรง “อาบูดาบี-เชียงใหม่”

ตะวันออกกลางใช้เงินทริปละแสนดันเศรษฐกิจภาคเหนือรุ่ง

 

เอทิฮัด แอร์เวย์ส เปิดบินตรง "อาบูดาบี-เชียงใหม่" เริ่ม 4 พ.ย.68 รวม 4 เที่ยว/สัปดาห์

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #EthihadAirways #อาบูดาบีสู่เชียงใหม่

 

ททท.ต้อนรับ “เอทิฮัด แอร์เวย์ส” บินปฐมฤกษ์ “อาบูดาบี-เชียงใหม่” เปิดประตูสู่ภาคเหนือไฮซีซั่น ดึงตลาดคุณภาพตะวันออกกลาง พ่วงยุโรป อเมริกา โตตามไปด้วย ไทยได้ประโยชน์เต็มที่ 5 อย่าง ได้ตลาดศักภาพสูง กระตุ้นไฮซีซั่น เพิ่มวันพัก ใช้เงินครั้งทริปละแสนบาท สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ ปี68 ได้ถึง 8.5 แสนคน

 



นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผว่าททท.ได้ต้อนรับเอทิฮัด แอร์เวย์ส เปิดปฐมฤกษ์เที่ยวบิน EY426 ไป-กลับ “อาบูดาบี (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)-เชียงใหม่ เริ่ม 4 พฤศจิกายน 2568 กำหนดให้บริการ 4 เที่ยว/สัปดาห์ เป็นการเดินหน้ากลยุทธ์ Airline Focus เจาะกลุ่มคุณภาพตลาดตะวันออกกลาง เปิดประตูสู่เชียงใหม่ช่วงไฮซีซั่นปลายปี 2568 ช่วยเพิ่มโอกาสขยายนักท่องเที่ยวไปยังเครือข่ายจังหวัดอื่น ๆในภาคเหนือของไทย

โดย เอทิฮัด แอร์เวย์ส ได้ต่อยอดความสำเร็จจากบินตรง กรุงอาบูดาบี-กระบี่ บินปฐมฤกษ์เมื่อ 9 ตุลาคม 2568  เพิ่มทางเลือกใหม่ให้นักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง ควบคู่กับการนำเสนอจุดหมายปลายทางใหม่ที่ตอบโจทย์การเดินทางแบบหลากหลายเส้นทางหรือ Multi-Destination Trip เช่น กระบี่-กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ หรือ เชียงใหม่-ภูเก็ต-ดูไบ เดินทางได้อย่างสะดวกและใช้เวลาน้อยลง แล้วยังเป็นตัวเลือกกับนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลจากภูมิภาคยุโรปและอเมริกาที่มากับเอทิฮัด แอร์เวย์ส ช่วงไฮซีซั่นนี้หลั่งไหลภาคเหนือ



การเปิดเส้นทางบินใหม่ครั้งนี้ไทยได้ประโยชน์โดยตรง 1.ช่วยดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ 2.กระจายใช้จ่ายเงินสูงเข้าสู่เมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ 3.เพิ่มระยะพำนักและค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 4.เน้นสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ (Value over Volume) อย่างเป็นรูปธรรม 5.กระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น

รวมทั้งช่วตอกย้ำ ททท.ทำสำเร็จในการดำเนินนโยบายเชิงรุกสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับพันธมิตรสายการบินระดับนานาชาติ ส่งเสริมภาพลักษณ์ไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและเป็นศูนย์กลางด้านการบินของภูมิภาค



ขณะนี้ไทยมีตลาดนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางเติบโตต่อเนื่อง เป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศในกลุ่มความร่วมมืออ่าวอาหรับหรือ “Gulf Cooperation Council :GCC” ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ คูเวต บาห์เรน และโอมาน ซึ่งมีรายได้ต่อหัวสูง นิยมเดินทางท่องเที่ยวแบบครอบครัว ชื่นชอบการท่องเที่ยวพักผ่อนเชิงสุขภาพและการเข้าพักในที่พักระดับหรู

“สถิติ” ตั้งแต่ 1 มกราคม - 31 ตุลาคม 2568 มีนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางมาท่องไทยแล้ว 679,924 คน วันพักเฉลี่ย 10 วัน ใช้จ่ายเงินเฉลี่ยต่อทริปประมาณ 100,000 บาท ททท.คาดการณ์ภายในสิ้นปี 2568 จะมาไทยรวมกว่า 850,000 คน เมื่อเอทิฮัด แอร์เวย์สเพิ่มเที่ยวบินตรง จะช่วยเพิ่มโอกาสเติบโตตลาดศักยภาพจากตะวันออกกลาง และรองรับความต้องการของภูมิภาคยุโรปและอเมริกาขยายตัวต่อเนื่องด้วย


 

“เอทิฮัด แอร์เวย์ส” กำหนดเปิดให้บริการเส้นทางบินตรง EY426 รวม 4 เที่ยว/สัปดาห์ ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์ ด้วยเครื่องแอร์บัส A321LR ขนาดบรรทุกผู้โดยสาร 160 ที่นั่ง/เที่ยว ออกจากกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อ 3 พฤศจิกายน 2568 21.30 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ 06.05 น.

เส้นทาง “อาบูดาบี-เชียงใหม่” ถือเป็นเส้นทางใหม่บินตรงระยะทางไกลที่สุด 4,612 กิโลเมตร ทำลายสถิติเดิมของเวียตเจ็ท แอร์ไลน์ส (VZ) เส้นทางบิน เชียงใหม่-คันไซ ระยะทาง3,979 กิโลเมตร

 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ททท.นำท่องเที่ยวไทยลุยเทรดโลกWTM2025โชว์สีสันลอยกระทงทำรายได้1,330ล้านบาท

ททท.นำธุรกิจไทยลุยเทรดโลก WTM2025 โชว์สีสันลอยกระทง เปิดคูหาไทยจับคู่เจรจา 1,500 นัดหมายหวังโกย 1,330 ล้านบาท ททท.นำเอกชนร่วมเทรดท่องเที่ย...