วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

การบินไทย-ททท."ปฎิรูปใหม่โดยเกาไม่ถูกที่คัน


"การบินไทย-ททท.55ปีเจอมรสุมขั้นโคม่า
เส้นทาง ปฏิรูปท่องเที่ยวที่เกาไม่ถูกที่คัน


เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน : rakdeethai@gmail.com (อ่านฉบับเต็มได้ใน “มติชนสุดสัปดาห์” ฉบับวันที่ 31 ก.ค.-6 ส.ค.2558) ติดตามสกู๊ปต่อเนื่องในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์ และโซเชียลมีเดีย www.facebook.com/penroong, blogger :gurutourza.blogspot.com, www.googleplus.com/penroong
เครืองการบินไทย B747-400 จอดที่สนามบินกรุงโรม(29ก.ค.2558)
 

กระแสการปฎิรูป อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบินในรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา  กลายเป็นประเด็นร้อนเขย่าเสาหลักเศรษฐกิจของประเทศที่เหลือเพียงเสาเดียวทันที เมื่อมีการเสนอให้ผ่าโครงสร้าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) และ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)  ซึ่งทั้งสององค์กรเพิ่งฉลองครบรอบ 55 ปีเมื่อกลางปี 2558  แต่ขณะนี้พนักงานรวมกว่า 30,000 คน เกิดอาการช็อกขั้นโคม่า หากต้องถูกผ่าตัดครั้งใหญ่ในเร็ววันนี้ จากเหตุการณ์ 2 เวที

เวทีแรก คณะกรรมาธิการเกษตร อุตสาหกรรม พาณิชย์ การท่องเที่ยวและบริการ เสนอรัฐบาลผ่าโครงสร้างท่องเที่ยวใหม่ทั้งระบบ ด้วยวิธีจัดตั้ง คณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งชาติขึ้นตรงกับ สำนักนายกรัฐมนตรี ควบคู่กับการจัดตั้ง สำนักงานนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ มีฐานะเทียบเท่ากรมหรือกระทรวง รับโอนย้ายทั้งคนและภารกิจ ททท. และ หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องไปรวมอยู่ด้วยกัน ส่วน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายังไม่ชัดเจนว่าจะต้องยุบหรือผ่าเป็นสองเสี่ยง

เวทีที่สอง กรรมการอำนวยการในคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) อนุมัติให้ "ปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศ" เพิ่ม 2 เส้นทางหลัก ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป ได้แก่ เที่ยวบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ-โรม (อิตาลี) และ กรุงเทพฯ-โซล-ลอสแองเจลิส (สหรัฐอเมริกา) เป็นการทยอยประกาศปิดจุดบินต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปีที่การบินไทยหยุดบิน กรุงเทพฯ-มอสโค (รัสเซีย) เมื่อเดือนพฤษภาคม 2558 ต่อด้วย กรุงเทพฯ-แมดริด (สเปน) วันที่ 5 กันยายน 2558 เป็นต้นไป โดยก่อนหน้าก็ยกเลิกบินญี่ปุ่นบางเมืองไปเรียบร้อยแล้ว และอนาคตยังมีอีกหลายเมืองอยู่ระหว่างจ่อหยุดบินเพราะอ้างขาดทุนถึง 50 จุดบิน

การตัดสินใจใช้เหตุผลต้อห้ามเลือด ผลการดำเนินงานที่ขาดทุนด้วยวิธี หยุดบินเส้นทางระหว่างประเทศ มองในมุมกลับสวนทางกัน 3 เรื่อง คือ เรื่องแรก เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2558 การบินไทยเพื่ออนุมัติจ้าง นายเวร์น เพียซ อดีตผู้บริหารสายการบินต่างชาติเข้ามาเป็นที่ปรึกษาด้วยค่าจ้างเดือนละประมาณ 3 ล้านบาท จ่ายค่าจ้างสูงกว่านายจรัมพร โชติเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD)  3.5 เท่า เรื่องที่ 2 การบินไทยยังคงเดินหน้าเตรียมแผนจัดซื้อฝูงบินเพิ่มกว่า 20 ลำ เรื่องที่สาม สวนทางกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกซึ่งตกต่ำถึงขีดสุดไปเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา ขณะนี้ในสหภาพยุโรปหลายประเทศเริ่มดีขึ้นโดยเฉพาะ อิตาลี จีดีพีจากเดิมติดลบ ปีนี้เป็นบวก 0.4 %
หน้าสำนักงานการบินไทย กรุงโรม (เมื่อ27 กรกฎาคม 2558)
 

สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบินเมืองไทย ในส่วนของ ททท.ใช้เวลานานกว่า 30 ปี ต่อสู้เพื่อออกจากระบบราชการเป็นรัฐวิสาหกิจเพื่อให้การทำงานคล่องตัวสง่างามสมฐานะกับบทบาท "องค์กรความเป็นเลิศทางการตลาดด้านท่องเที่ยว  จากจุดเริ่มปีแรก ๆ ทำรายได้จากนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้หลักพันล้านบาท ปี 2558 ทำได้กว่า 1.3 ล้านล้านบาท และยังได้แสดงอย่างมืออาชีพฟื้นฟูกำลังซื้อหลังวิกฤตการเมืองในประเทศ โดยใช้เวลาไม่ถึง 6 เดือนกระตุ้นนักท่องเที่ยวทั่วโลกกลับมาเที่ยวเพิ่มอย่างรวดเร็วกว่า 60 %  

สิ่งที่รัฐควร “ปฎิรูป คือ สร้างกองกำลังหนุนให้ ททท.นำพา อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ของประเทศเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในประชาคมอาเซียน (AEC) และภูมิภาคเอเชียได้ด้วย 3 เรื่องหลัก ๆ คือ

 เรื่องแรก การสนับสนุนงบประมาณ ททท.ทำกิจกรรมการตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพราะทุกวันนี้ทั่วโลกแข่งขันกันสูงมาก เพื่อใช้การท่องเที่ยวเป็นแม่เหล็กดึงดูดรายได้ ขณะนี้ประเทศในยุโรปทยอยประกาศยกเว้นวีซ่าให้นักเดินทางจากกลุ่มตะวันออกลาง สหรัฐอเมริกาอำนวยความสะดวกให้จีนทำวีซ่าตลอด 24 ชั่วโมง ญี่ปุ่นยกเว้นวีซ่าให้อาเซียนและไทย และอีกหลายประเทศหันมาเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ในขณะที่ไทยยังคงปล่อยให้ ททท.ทำไปตามมีตามเกิด เพื่อนำรายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้นปีละ 8-10 % จากปัจจัยเสี่ยงรอบด้านทั้ง สถานการณ์การเมือง เศรษฐกิจโลก การเกิดโรคระบาดใหม่ ๆ ล้วนแล้วแต่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชะลอการเดินทางได้ตลอดเวลา

เรื่องที่ 2 เร่งรัดทุกกระทรวงซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ท่องเที่ยวบูรณาการใช้งบประมาณร่วมกั เพื่อพัฒนาโปรดักซ์ท่องเที่ยวที่อยู่ในความรับผิดชอบให้มีมาตรฐานและยั่งยืน โดยเฉพาะกระทรวงหลัก ๆ อาทิ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงกลาโหม (แหล่งท่องเที่ยวทหาร) ประการสำคัญที่สุดรัฐต้องสร้างกลไกให้องค์กรท้องถิ่นทั่วประเทศใช้งบฯอย่างถูกทาง

เรื่องที่ 3 รื้อโครงสร้างมาตรฐานความปลอดภัย (Safety & Security) นักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาตินานาประเทศให้มีคุณภาพ กำหนดเกณฑ์การปกป้องดูแลและวิธีปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกพื้นที่ทั่วประเทศให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน พร้อมทั้งให้คุณและโทษเจ้าหน้าที่อย่างจริงจัง

 หากจะ ปฏิรูปท่องเที่ยวด้วยวิธีรื้อโครงสร้างหน่วยงาน ททท.กลับไปสู่ยุคเก่า  แต่ไม่ปรับทัศคติวิธีทำงานของกระทรวงใหญ่ๆ ซึ่งเป็นเจ้าภาพหลักมีทั้งอำนาจอยู่เต็มมือให้ลุล่วงแล้ว แก่นแท้ของปัญหาจะยังคงอยู่ ส่วน การปฎิรูปก็เป็นเพียงการประดิษฐ์คำสวย ๆ ขึ้นมาพูดเท่านั้นเอง
เครื่องการบินไทย B747-400 จอดรอผู้โดยสารในโรม (29ก.ค.58)
 

ขณะที่ “การบินไทย” สายการบินแห่งชาติ ต้องฟันฝ่านาน 30 ปีเช่นกัน กว่าจะช่วงชิงตารางเวลาบินในช่วงที่ดีที่สุด (slot  time) จากแต่ละประเทศ มาให้ผู้โดยสารทำรายได้เป็นกอบกำปีละ 2-2.5 แสนล้านบาท เป็นจุดแข็งและจุดขาย และการบินไทยมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศที่บริการบินตรงจากเมืองหลักทั่วโลกเข้าไทยโดยไม่ต้องบินไปแวะพักตามเมืองต่าง ๆ ให้เสียเวลาเหมือนกับสายการบินนานาชาติอื่น ๆ

 
            ส่วนผลการดำเนินงานของเส้นทางบินระหว่างประเทศไม่ทำกำไร และ/หรือ ขาดทุน สวนทางกับสายการบินชั้นนำของโลกและ low cost Airlines นั้น เป็นที่น่าสังเกตอย่างยิ่งว่ามาจาก 5 ตัวแปรหรือไม่ ?

 เรื่องแรก  แข่งขันไม่ได้หรือ ไม่ได้คิดแข่งขัน จึงทำให้ ค่าใช้จ่าย สูงกว่า รายได้และสูญเสีย  ส่วนแบ่งการตลาดการบรรทุกผู้โดยสาร ในยุโรปให้กับสายการบินคู่แข่งไปมากถึง 60 %  ขณะที่สายการบินชั้นนำของโลกยังเติบโตตามปกติ 2-5 %  

เรื่องที่ 2 การจ้างฝ่ายบริหารไปประจำเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก อยู่ดีกินดีแต่ละคนนานนับ 10 ปี มีรายได้และสิทธิพิเศษสูงลิบ ส่วนการทำตลาดปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสต๊าฟท้องถิ่น จึงหนึ่งในสาเหตุทำให้ค่าใช้จ่ายบานปลาย ฐานลูกค้าใหม่ไม่กระเตื้อง

 เรื่องที่ 3 ผลพวงจากรัฐบาลบังคับให้หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจทั้งหมดต้องซื้อตั๋วโดยสารการบินไทยเท่านั้น (ทุกเส้นทางที่การบินไทยมีบริการ) และต้องจ่ายเต็มราคา (IATA Fare) เป็นส่วนทำให้กลายเป็นเสือนอนกิน 

เรื่องที่ 4 วางกลยุทธ์ตั้งราคาขายไม่สอดคล้องกับตลาด ใช้เครื่องบินไม่เหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสาร ทำให้ลูกค้าจึงหันไปซื้อตั๋วจากคู่แข่ง ซึ่งมีฝูงบินทันสมัย มีบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวก ดีกว่าการบินไทย

 เรื่องที่ 5 ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา  ผู้บริหารหลักในสำนักงานใหญ่ โดยเฉพาะฝ่ายการพาณิชน์ ขาดความเป็นมืออาชีพหรือไม่ จึงไม่ตัดสินใจอนุมัติโครงการที่ฝ่ายผู้บริหารประจำสาขาหลายแห่งทั่วโลกเสนอมา การทำกิจกรรมการตลาดร่วมกับภาคีพันธมิตรในประเทศนั้น ๆ จึงหมดโอกาสขยายตลาดใหม่ ๆ

            นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า นักท่องเที่ยวระหว่างประเทศเดินทางเข้าประเทศไทยเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะปี 2558 จะมีจำนวนมากถึง 28 ล้านคน และเป้าหมายปี 2559 ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มเฉลี่ยอีกไม่ต่ำกว่า 8 % จากสายการบินระหว่างประเทศให้บริการบินประจำเข้า มายังสนามบินนานาชาติกรุงเทพฯ ทั้ง 2 แห่ง คือ สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองปีละกว่า 100 แอร์ไลน์ส ตลาดยุโรปเข้ามาเที่ยวเมืองไทยปีละกว่า 5 ล้านคน จากอิตาลีทั้งโรมและมิลานรวมกันปีละกว่า 2 แสนคน
คุณจุฑาพร เริงรณอาษา รักษาการผู้ว่าททท.ลงนามความร่วมมือกับ เชน โอแฮร์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดเอทิฮัด
โดยมีคุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ คุณสุรพิทย์ กรีบุตร เอกอัครราชฑูตไทยประจำโรม
ร่วมเป็นสักขีพยาน(22 ก.ค.58)

 

เชน โอแฮร์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาด สายการบินเอทิฮัด ซึ่งใหญ่อันดับ 1 ใน 5 ของโลก กล่าวว่า ผู้โดยสารในตลาดสหภาพยุโรป ตะวันออกกลาง มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีต่อเนื่องมาตลอดจากปัจจุบันถึงอนาคต ทางเอทิฮัดได้เลือกใช้ประเทศไทยเป็นเกตเวย์บริการนักท่องเที่ยว 2 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ มีบินตรงประจำทุกวัน และต่อเที่ยวบินเข้าไปยังภูเก็ตอีกสัปดาห์ละ 5 เที่ยว รวมสัปดาห์ละ 35 เที่ยว และภายในเดือนตุลาคม 2558 จะเพิ่มเที่ยวบินเข้าภูเก็ตสัปดาห์ละ 7 เที่ยว

ล่าสุดในงาน World Expo 2015 เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2558 “เอทิฮัด ได้ลงนามโครงการความร่วมมือทางการตลาดกับ ททท.ลงขันเงินกันรวม 30 ล้านบาท ตั้งเป้านำนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพในยุโรปกว่า 20 ตลาด และ ตะวันออกกลาง 8 ประเทศ รวม 800,000 คน เลือกเที่ยวในไทยตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2558-30 กันยายน 2559    พร้อมนำรายได้เข้าไทยกว่า 500 ล้านบาท

 ณ ขณะนี้การเสนอแนวทาง“ปฎิรูปท่องเที่ยวด้วยการรื้อโครงสร้าง ททท.ใหม่  และ/หรือ การเลือกใช้วิธีสะดวกให้สายการบินแห่งชาติหยุดบินระหว่างประเทศ ล้วนแล้วแต่เป็นการปฎิรูปโดย เกาไม่ถูกที่คันทั้งสิ้น

 
สกู๊ปปฏิรูปท่องเที่ยว "รื้อโครงสร้าง ททท.-การบินไทยหยุดบินทั่วโลก" ลงมติชนสุดสัปดาห์ หน้า 44 ฉบับ 31ก.ค.-6ส.ค.58

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ททท.เปิดTTE2025นำไทยสู่ Land of Art Toy เที่ยวเชิงสร้างสรรค์

  ททท.เปิดงาน TTE 2025 ดันไทยเมืองท่องเที่ยวสร้างสรรค์ Land of Art Toy ททท.ลั่นใช้ TTE2025 นำไทยสู่ Land of Art Toy ปลุกเทรนด์เที่ยวเชิงสร...