ทอท.แก้ขโมยทรัพย์สินผู้โดยสารสุวรรณภูมิ-ไหว้ครูมวยไทยโลก-การบินไทย

ทอท.บุกตลาดโลกITB2017จัดเต็มสงกรานต์6สนามบิน

เร่งแก้ปัญหาโจรขโมยทรัพย์สินผู้โดยสารสุวรรณภูมิ

ททท.ก้าวสู่ปีที่58รวมพลังปั๊มรายได้เข้าไทย3ล้านล้าน

ตามรอยพ่อไปทัวร์โครงการประตูระบายน้ำลัดโพธิ์

ไปฟังดนตรีริมหาดสมิหลาเฟสติวัล31มี.ค.-2เม.ย.

บินไทยผนึกPAYPALเพิ่มเค้กก้อนโตขายตั๋วออนไลน์

สวัสดีเช้าวันเสาร์ที่   2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” (ฟังสดทางได้มือถือเลือก FM 97.0 หรืออ่านได้ทาง www.facebook.com/penroong และ gurutourza.blogspot.com หรือฟังyoutube ย้อนหลังทาง www.facebook.com/ruayduaykhao )

ช่วงที่ 1 ฟังสัมภาษณ์เจาะลึกประเด็นร้อน ผ่าปมทรัพย์สินผู้โดยสารหายในสนามบินจะแก้อย่างไร สงกรานต์ปีนี้ 6 สนามบินต้องเตรียมพร้อมเรื่องอะไร และการบุกไปเปิดตลาดในงาน ITB 2017 กรุงเบอร์ลิน รวมทั้งฟังข่าวขององค์กรต่าง ๆ ที่น่าสนใจ

ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ

กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)

“ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ “ทอท.” เปิดเผยว่า ผลสำเร็จจากการนำผู้บริหารเข้าไปร่วมงานในตลาดโลก International Travel Brose 2017 ณ กรุงเบอร์ลิน เยอรมันี และการวางแผนให้ท่าอากาศยานที่อยู่ในความดูแลของ ทอท.ทั้ง 6 แห่ง เตรียมความพร้อมบริการในช่วงเทศกาลเดินทาง “สงกรานต์” เดือนเมษายน นี้

@ยกทีม ทอท.บุกตลาดโลกใน ITB 2017

เริ่มจาก “ประเด็นแรก” การไปเปิดบูธแนะนำภารกิจและการขยายสนามบินของ ทอท.ในงาน ITB 2017 กรุงเบอร์ลิน เมื่อวันที่ 8-12 มีนาคม 2560 เป็นผลสืบเนื่องมาจากที่ ทอท.ทำเอ็มโอยูความร่วมมือกับ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) ระหว่างปี 2560-2562 ตกลงจะช่วยกันส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศเต็มรูปแบบ ดังนั้นจึงได้ไปโปรโมตศักยภาพของสนามบินและท่องเที่ยวภาพรวมในงาน ITB 2017 โดยได้พบปะพูดคุยกับตัวแทนผู้ประกอบการสนามบิน สายการบิน บริษัทนำเที่ยว

โดยมีสายการบินแสดงความสนใจและเข้ามาสอบถามรายละเอียดเรื่องการขยายสนามบินของ ทอท.ทั้งระบบ ที่ได้อธิบายว่าภายใน 10 ปีหน้า เตรียมลงทุนกว่า 200,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นโอกาสให้สายการบินวางแผนเปิดเที่ยวบินเพิ่มเข้ามายังประเทศไทย

@ 6สนามบินเตรียมพร้อมบริการสงกรานต์ปีระกา

         ส่วนการวางแผนให้บริการในช่วงเทศกาลสงกรานต์เดือนเมษายน 2560  นี้สนามบินที่ ทอท.รับผิดชอบทั้ง 6 แห่ง ทั้งสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย หาดใหญ่ ได้เตรียมความพร้อมด้วยการประเมินสถานการณ์ทั้งปริมาณจราจรผู้โดยสารและเที่ยวบิน ซึ่งตามปกติช่วงสงกรานต์การเดินทางทางอากาศมักจะไม่หนาแน่นเหมือนเทศกาลอื่น ๆ ก็ตาม

เริ่มต้นจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สถิติสงกรานต์จะไม่ค่อยหนาแน่นมาก ขณะนี้ได้ปิดซ่อมรันเวย์ 1 เส้น ทว่าขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินทำได้สูงสุด 68 เที่ยวต่อชั่วโมง ปกติหากมีการซ่อมใหญ่ขนาดนี้ขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินจะลดลงไปประมาณ 2 % หรือ 6  เที่ยวบิน ช่วงซ่อมจะรับได้ 60-62 เที่ยวบิน เมื่อปี 2559 ก็เคยปิดซ่อมในช่วงใกล้เคียงกันคือ 3 มีนาคม-2 พฤษภาคม เช่นกัน ในปีที่ผ่านมามีเที่ยวบินมาใช้บริการในชั่วโมงเร่งด่วนดังกล่าวเพียง 58 เที่ยวบินต่อชั่วโมง จึงยังเหลือขีดการรองรับได้

สำหรับสุวรรณภูมิช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งตรงกับเทศกาลตรุษจีนจะมีปริมาณจราจรทางอากาศสูงสุดประมาณ 65 เที่ยวบินต่อชั่วโมง สูงกว่าช่วงสงกรานต์เดือนเมษายน

แต่ “ปัญหาคอขวด” จะอยู่บริเวณ Land side หรือตรงอาคารเคาน์เตอร์เช็คอินผู้โดยสารของสายการบินมากกว่าในส่วน Airside ในรันเวย์ แท็กซี่เวย์ ลานบิน เพราะการให้บริการของสายการบินปัจจุบันสามารถใช้เครื่องลำขนาดใหญ่แต่ละเที่ยวจึงขนส่งผู้โดยสารได้จำนวนมากได้

สำหรับ ทอท.เองก็ได้ทำงานเชิงรุกเพื่อรับมือกับทุกปัญหาในการบริการสนามบิน โดยทุกวันนี้ได้ประชุมกันทุกวันตอน 09.00 น. ร่วมกับสมาคมปฏิบัติการสายการบิน (Airlines Operated Committee :AOC) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด และทุกฝ่ายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

อีกทั้ง ทอท.และสายการบินยังได้จัดอาหารว่างบรรจุกล่อง เพื่อให้ผู้โดยสาร หากเกิดความล่าช้าขึ้น แต่จนถึงขณะนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2560 ที่ประกาศปิดซ่อมรันเวย์สุวรรณภูมิ ยังไม่พบปัญหาเที่ยวบินล่าช้าแต่อย่างใด

ดร.นิตินัยอธิบายถึงเรื่องการเร่งขยายสนามบินทั้ง 6 แห่ง เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการเลื่อนมาหลายครั้ง จากเหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศ จนกระทั่งวันนี้ทำให้ท่าอากาศยานของ ทอท.เกือบทุกแห่งมีผู้โดยสารใช้บริการเกินขีดความสามารถที่จะรองรับได้หรือ Over Capicity  เรื่องของการขยายเคาน์เตอร์ อาคาร และสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมด ในระยะยาว 10 ปีหน้า จึงเป็นเรื่องสำคัญและได้จัดเตรียมไว้แล้ว

สำหรับ “แผนระยะสั้น” เพิ่มเจ้าหน้าที่ตรวจ รถบริการสาธารณะ และการจัดการพื้นที่ให้สอดคล้องกับปริมาณผู้ใช้บริการ ซึ่งสุวรรณภูมิเฟส 2 จะแล้วเสร็จภายในพฤศจิกายน 2562 ระหว่าง 2 ปีนี้จึงต้องดูแลเรื่องบริการ เพราะมีข้อจำกัดตามเหตุผลที่กล่าวไป ส่วนแผนหลัก ๆ จะต้องทำเป็นพิเศษคือช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ซึ่งมีผู้โดยสารเดินทางหนาแน่น

ขณะที่ “ท่าอากาศยานเชียงใหม่และดอนเมือง” ปีนี้ก็เริ่มเดินหน้าก่อสร้างส่วนต่อขยายสนามบินเช่นกัน ก็ต้องวางแผนเหมือนกัน คือ “ดอนเมือง” สามารถเพิ่มพื้นที่โถงผู้โดยสารนั่งรอก่อนขึ้นเครื่องบิน ซึ่งทำได้ดีและบริการด้วยความสะดวกเรียบร้อย แต่ “เชียงใหม่” ต้องยอมรับว่ามีปัญหาเชิงกายภาพ จึงต้องแก้ไขด้วยการเพิ่มบุคลากรเข้ามาอำนวยความสะดวกให้มากขึ้น

ระหว่างเทศกาลสงกรานต์นอกเหนือจากการ “บริการ” ให้ทั้งกลุ่มสายการบิน ผู้โดยสาร และผู้ใช้บริการโดยรวมได้รับความสะดวกอย่างเต็มที่แล้ว ทอท.ยังมีหน้าที่ต้องจัด “กิจกรรมประเพณีวิถีไทย” ต้อนรับนักท่องเที่ยวหรือนักเดินทางที่ผ่านเข้าออกสนามบินแต่ละแห่งด้วยเอกลักษณ์แตกต่างกัน ประกอบด้วย

“ท่าอากาศยานเชียงใหม่” จัดเป็น GATEWAY TO LANNA “ท่าอากาศยานภูเก็ต” เกตเวย์ ทู อันดามัน แต่ด้วยพื้นที่มีจำกัดจึงเน้นการตกแต่งบรรยากาศสไตล์ทะเล ส่วนสนามบินที่มีพื้นที่มาก ๆ อย่าง “ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย” จะจัดให้มีนักเรียน นักศึกษา มาเล่นดนตรีพื้นบ้าน

@ระดมแก้ปัญหาขโมยทรัพย์สินผู้โดยสารสุวรรณภูมิ

ประเด็นไฮไลต์อีกเรื่องคือ “การแก้ไขปัญหาลักโขมยทรัพย์สินในสัมภาระกระเป๋าผู้โดยสาร” ซึ่งทำให้ชื่อเสียงประเทศเสียหายนั้น “ดร.นิตินัย” ย้ำว่า เนื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิเปรียบเสมือนบ้านใหญ่หลังหนึ่งที่มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก ในเรื่องการขนสัมภาระผู้โดยสาร (baggage handing) จากเครื่องบินมายังสายพานลำเลียงดังกล่าวนั้น ทอท.ได้ใช้วิธีจ้างเหมาบริษัทเอกชน 2 ราย ได้แก่ บมจ.การบินไทย กับ บริษัท บีเอฟเอส จำกัด ในเครือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กรณีที่เกิดปัญหาคือ บีเอฟเอส ล่าสุด ทอท.ได้เชิญผู้บริหารของบริษัทดังกล่าวมาพูดคุยพร้อมกำชับหากเกิดปัญหาขึ้นอีก อาจจะต้องทบทวนทำทัณบนหรือเลิกสัญญาจ้าง

 ซึ่งทาง ทอท.ได้กลับไปดูเส้นทางการขนสัมภาระเริ่มจากสายพานในสุวรรณภูมิยาวนับ 10 กม.ใช้เวลา 10 กว่านาที แล้วก็ตรวจสอบรายละเอียดจากสายพานไปถึงขึ้นรถ ในการตรวจข้อมูลจากวิดีโอกล้องวงจรปิดทรัพย์สินหรือของในกระเป๋าไม่ได้สูญหายขณะที่ลำเลียงอยู่บนสายพานและไม่พบการรื้อค้นแต่อย่างใด จึงเข้าใจว่าเหตุอาจเกิดจากเมื่อกระเป๋าพ้นจากสายพานไปขึ้นรถ ซึ่งกำลังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์ พร้อมทั้งส่งกรณีดังกล่าวให้ตำรวจสรุป

ทอท.จึงขออภัยมา ณ ที่นี้ และไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็พยายามแก้ไขแต่ละจุดอย่างเร่งด่วน และเพื่อให้ผู้โดยสารมั่นใจ ดร.นิตินัยยืนยันว่า การขนสัมภาระจากสายพานเป็นระบบปิดและมีกล้องวงจรปิดตรวจสอบทั้งหมด สิ่งที่เป็นห่วงเพราะมีเหตุขึ้นมานั้น เพราะสัมภาระออกจากสายพานขึ้นรถแล้วจะมีการรื้อค้นเกิดขึ้นหรือไม่

และการจ้างบริษัทรับจ้างเหมาขนสัมภาระดังกล่าว ในทางปฎิบัตินั้นก็ควบคุมได้แต่ทางนิติกรรม โดยไม่สามารถเข้าไปถึงเรื่องจิตสำนึกของพนักงานบางกลุ่มได้ ดังนั้นในอนาคตอันใกล้นี้ ทอท.กำลังพิจารณาจัดตั้ง “หน่วยธุรกิจหรือตั้งบริษัทลูก” ขนสัมภาระผู้โดยสารหรือ Ground Handing ดังกล่าวเอง เพื่อคุมนโยบายบริการ และพนักงานในการทำงาน

คำแนะนำผู้โดยสารที่จะมาใช้บริการสนามบิน ทอท.ทั้ง 6 แห่ง ในช่วง 10 ปีข้างหน้า 2560-2569 มูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านบาท ที่จะต้องเดินหน้าขยาย ปรับปรุง ควบคู่กับการให้บริการนั้น การปิดพื้นที่แต่ละส่วนก็จะส่งผลถึงปฏิบัติการทางด้านบริการด้วยเหมือนกัน แต่ ทอท.มีแผนจัดการพอสมควร นับเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติขององค์กร ซึ่งเชื่อว่าบริการที่ไม่สะดวกเหล่านี้ในปี 2560-2561 อาจจะเกิดขึ้นหลายอย่าง แต่หลังจากนั้นไปหลังปี 2562 ความไม่สะดวกคงจะเบาบางลง เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญกับการสร้างไปพร้อม ๆ กับการให้บริการปกติไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ทอท.ขออภัยทางผู้โดยสารมา ณ ที่นี้ เพราะมีความจำเป็นจะต้องขยายให้เพียงพอ แล้วก็ได้ทำอีกเรื่องคือการรับพนักงานใหม่เข้ามาทำหน้าที่ได้จัดหลักสูตรฝึกอบรมขั้นพื้นฐานถึง “ภารกิจ” ที่จะต้องรู้และทำ เพราะต่อไปการก่อสร้างปรับปรุงทางกายภาพและบริการจะได้สมบูรณ์ สร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้ใช้ทุกกลุ่มให้มากที่สุด

ดร.นิตินัย ได้ฉายให้เห็นภาพการทำงานของ ทอท.ที่พยายามจะขับเคลื่อนในทุกมิติ โดยบูรณาการความร่วมมือเพื่อสนับสนุนส่งเสริมการบินกับการท่องเที่ยวของประเทศให้เติบโตไปด้วยกันอย่างสดใสในระยะยาว

ฟังข่าวช่วงแรก

ข่าวที่ 1 “33วันนี้ช้อปคิงเพาเวอร์บินฟรีไม่ต้องลุ้นถึง20เม.ย.”

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ผู้บุกเบิกธุรกิจร้านค้าดิวตี้ฟรีในเมืองไทย จัดแคมเปญฮ็อต ให้นักช้อปภายใน 33 วันนี้ ระหว่างวันนี้-20 เมษายน 2560 ซื้อแคชการ์ดแล้วนำไปซื้อสินค้าในดิวตี้ฟรีคิงเพาเวอร์รับตั๋วบินฟรีทันทีโดยไม่ต้องลุ้น ! สู่ฮ่องกง,ญี่ปุ่น,สิงคโปร์,มาเก๊าและอีกหลายเส้นทางเพียงซื้อ Cash Card ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ,ศรีวารี,พัทยาและภูเก็ต ช็

รับสิทธิ์จากสายการบิน “คาเธย์ แปซิฟิก” เมื่อซื้อแคชการ์ดคิงเพาเวอร์ 25,000 บาท บินฟรี กรุงเทพฯ-ฮ่องกง ซื้อ 50,000 บาท บินฟรีกรุงเทพฯ-ญี่ปุ่น

จากสายการบินแอร์เอเชีย เมื่อซื้อแคชการ์ดคิงเพาเวอร์ 25,000 บาท บินฟรี กรุงเทพฯ- มาเก๊า สิงคโปร์ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา ภูเก็ต ไปยัง ฮ่องกง หรือ กัมพูชา รับโวเชอร์อีก 1,000 บาท ซื้อ 50,000 บาท บินฟรีกรุงเทพฯ-ญี่ปุ่น

และยังมีส่วนลดเพิ่มอีก 12% เมื่อจองห้องพัก และแพ็กเกจท่องเที่ยวผ่าน www.Asiatravel.com

หากช็อป CASH CARD ผ่านบัตรเครดิต SCB Private Banking, FIRST, PRIME, BEYOND และบัตรเครดิตร่วมคิง เพาเวอร์ - ไทยพาณิชย์มูลค่า 25,000 บาท รับเลยคูปองส่วนลด 1,000 บาท โดยจะต้องช็อปสินค้ามูลค่า 2,000 บาทขึ้นไป หรือรับคูปองส่วนลด 500 บาท ในการช็อปสินค้าตั้งแต่ 1,000 บาท

           สอบถามรายละเอียดได้ที่ คอลเซ็นเตอร์ 1631

ข่าวที่ 2 “ปิดรันเวย์2สัปดาห์เครื่องขึ้นลงสุวรรณภูมิฉลุย”

นายศิโรตม์  ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า หลังจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เริ่มการปรับปรุงทางวิ่งฝั่งตะวันออก (บางส่วน) และทางขับเส้น B1 ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลต่อเนื่องตลอด 2 สัปดาห์ ตั้งแต่ 3-17 มีนาคม 2560 ยังไม่พบว่ามีความล่าช้า ทั้งเที่ยวบินในประเทศและระหว่างประเทศ แม้ว่าในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนจะที่มีผู้โดยสารใช้บริการที่ ทสภ. เป็นจำนวนมากก็ตาม โดยจะทำให้แล้วเสร็จตามแผนวันที่ 2 พฤษภาคม นี้ ระหว่างซ่อมรันเวย์ยังคงเหลือระยะทางวิ่งอีก 2,750 เมตร ซึ่งเพียงพอกับการบินขึ้นของอากาศยานทุกขนาด ส่วนทางวิ่งฝั่งตะวันตก อนุญาตให้ทำการบินขึ้น - ลง ได้ตามปกติ  

ขณะนี้ ทสภ. ได้จัด “ตั้งศูนย์ศูนย์ประสานงานอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร”  โดยจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ในการประสานงานและอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ แก่สายการบินและหน่วยงานต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2560 เป็นต้นมา จนกว่าการซ่อมแซมทางวิ่งจะแล้วเสร็จ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้โดยสารและใช้บริการได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

ศูนย์ดังกล่าวจะทำหน้าที่ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงาน เพื่อวางแผน ติดตาม ประสานงาน และร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด สายการบินต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหาการให้บริการระหว่างการปรับปรุงทางวิ่ง เพื่อลดผลกระทบในการให้บริการให้มากที่สุด

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง

 ข่าวที่ 3 “ททท.สู่ปีที่58รวมใจหวังทำเงินเข้าประเทศ3ล้านล้าน”

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560ได้นำฝ่ายบริหารและพนักงาน ททท.จัดงานก้าวเข้าสู่ปีที่ 58 รวมใจกันทำหน้าที่ขององค์กรความเป็นเลิศทางการตลาดท่องเที่ยวถึงศวตรรษที่ 6 แล้วโดยสามารถสร้างเศรษฐกิจนำรายได้จากการท่องเที่ยวเข้ามาหมุนเวียนให้กับประเทศได้ตามเป้าหมายในปี 2560 จะพยายามผลักดันให้ถึง 3 ล้านล้านบาท จากทั้งการกระตุ้นนักท่องเที่ยวในประเทศและทั่วโลกใช้จ่ายเงินเลือกเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทย

ส่วนการสร้างขวัญและกำลังใจภายในองค์กรในวันดังกล่าวยังได้มอบใบประกาศเกียรติคุณแก่พนักงานที่ทำงานครบ 25, 30, 35 ปี ที่มุ่งมั่นทำงานด้านการท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน พร้อมกับการถ่ายทอดองค์ความรู้ไว้ให้แก่พนักงานรุ่นต่อไป

รวมทั้งยังได้ใช้โอกาสวันสถาปนาครบรอบการก้าวเข้าสู่ปี 58 ของ ททท.ทำกิจกรรมโครงการคืนกำไรสู่สังคม รณรงค์ภาคีเครือข่ายพันธมิตรในวงการท่องเที่ยว โดยเชิญชวนร่วมบริจาคเงินสมทบทุน “โรงเรียนบ้านเด็กพิการรามอินทรา” สังกัดมูลนิธิมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขากรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมตามเจตนารมณ์ของโรงเรียนดังกล่าวทางด้านส่งเสริมการศึกษาเด็กตาบอดพิการซ้ำซ้อน และการอบรมเลี้ยงดูพัฒนาเด็กให้ได้เรียนรู้ตามศักยภาพของตนเอง สามารถดำเนินชีวิตในสังคมอย่างมีศักยภาพด้วย

ข่าวที่ 4 “บางจากตั้งบีบีพีโฮลดิ้งคุมผลิตภัณฑ์ชีวภาพ”

บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ “BCP” รายงานในการประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2560 มีมติให้จัดตั้งบริษัทย่อยภายใต้ชื่อบริษัท บีบีพี โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ชีวภาพ และรองรับการปรับโครงสร้างของบริษัท โดยบริษัทจะถือหุ้น 100% มีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 700 ล้านบาท ซึ่งแหล่งเงินลงทุนจะมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท เพื่อวางแนวทางการพัฒนาธุรกิจอย่างเป็นระบบให้เติบโตตามเป้าหมาย

ข่าวที่ 5 “การศึกษาด้านเอกสารการอนุรักษ์ท่าเตียน”

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้อธิบายถึง “กระบวนการอนุรักษ์” อาคารในพื้นที่รอบพระบรมมหาราชวัง ที่กำลังเตรียมปรับปรุงต่อเนื่องในปี 2560 บริเวณ “ท่าเตียน”

ที่จะขออธิบายถึงการทำความเข้าใจว่าด้วยอาคารหรือสถานที่นั้น ๆ นอกจากจะมีคุณค่าความสำคัญแล้ว ในกระบวนการอนุรุกษ์นั้น ยังไม่อาจตัดสินใจด้วยตาเปล่าได้ ในทางปฏิบัติจะต้องศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาและวิวัฒนาการของการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งทำได้หลายวิธีการและหนึ่งในคือ “การศึกษาด้านเอกสาร” ที่มีอยู่หลากหลายกรณีของตึกแถวน้าพระลาน ท่าช้าง ท่าเตียน ได้มีการศึกษาจากแหล่งต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

“สำเนาพระราชหัตถเลขา และหนังสือราชการในรัชกาลที่ 5” ที่เกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่ทั้ง 3 บริเวณ

“สำเนาเอกสารการสั่งซื้อสินค้า ค่าจ้างรับเหมาของกรมพระคลังข้างที่ใบเสร็จรับเงิน” จากบริษัทห้างร้านและบุคคลที่เกี่ยวข้อง

“รายงานการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่” จากสถาบันต่าง ๆ

“หนังสือประวัติสถานที่และบุคคลต่าง ๆ

“เอกสารสิ่งพิมพ์” รวมทั้ง “แผนงาน โครงการ” จากองค์กรภาครัฐ

“แผนที่เก่า” ในที่นี้ใช้แผนที่เก่าที่จัดพิมพ์โดยกรมแผนที่ทหารในช่วงเวลาต่าง ๆ ได้แก่ พ.ศ.2430, 2439, 2450, 2475 และ พ.ศ.2490

ข้อมูลจากเอกสารข้างต้นได้นำมาประมวลและเรียบเรียงตามลำดับ ช่วงเวลาเพื่อให้เห็นถึงวิวัฒนาการของพื้นที่ จากนั้นจึงได้สรุปความให้กระชับ และยังทำให้ทราบด้วยก่อนที่จะมีการสร้างตึกแถวนั้น ได้มีการใช้ประโยชน์อะไรในพื้นที่ รวมทั้งวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างและวัตถุประสงค์ของการสร้างตึกแถวด้วย

นอกจากเอกสารดังกล่าวแล้ว ในการศึกษาเพื่อการอนุรักษ์ในกรณีอื่น ๆ อาจใช้เอกสารและแหล่งข้อมูลอื่น ๆ อีกถ้าสามารถหามาได้ เช่น แบบก่อสร้างอาคาร การทำประวัติศาสตร์บอกเล่าข่าวจากหนังสือพิมพ์ในอดีต ฯลฯ ซึ่งหากมีหลักฐานในเรื่องเดียวกันมากกว่า 2 แห่งขึ้นไป และเป็นข้อมูลที่สอดคล้องกันก็จะช่วยสร้างความมั่นใจในความถูกต้องของเนื้อหาทางประวัติศาสตร์ได้

ช่วงที่ 2 ออกมาเดินตามรอยพ่อไปชม 1 ใน 70 เส้นทางตามรอยพระบาท ณ “โครงการประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์” ต่อด้วยกินปลาช่วยป้องกันและลดโรคเบาหวานได้ และข่าวฮ็อตในรอบสัปดาห์

@โครงการประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์

โครงการประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ ตั้งอยู่ที่ ม.9 ต.ทรงคะนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เดินทางไปชมได้ตลอดทั้งปีเปิดทุกวัน 06.00-20.00 น.

ด้วยสภาพที่คดเคี้ยวของแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณรอบพื้นที่เขตบางกระเจ้านั้นมีความยาวถึง 18 กิโลเมตร การระบายน้ำที่ท่วมขังพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ จึงเป็น ไปได้ช้า จนไม่ทันช่วงเวลาที่น้ำทะเลหนุน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้มีการพัฒนาคลองลัดโพธิ์ให้กลายเป็นทางระบายน้ำ ที่สามารถเปิดประตูระบายน้ำได้ทันทีที่น้ำท่วมขังตัวเมืองในสองฝั่งน้ำ และปิดประตูระบายน้ำเมื่อเกิดน้ำทะเลหนุนสูง

นับเป็น " ประตูระบายน้ำ คลองลัดโพธิ์ ต้นแบบการแก้ปัญหา การระบายน้ำออกจากเมืองหลวง แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของชาวสมุทรปราการ "

ทั้งยังมีการทดลองติดตั้งกังหันทดน้ำแบบหมุนตามแนวแกน (Axial Flow) และแบบหมุนขวางการไหล (Cross Flow) สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้า อันเป็นต้นแบบไปสู่การการผลิตกระแสไฟฟ้าตามประตูระบายน้ำแห่งอื่นต่อไป ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์รวมไปถึงโครงการถนนวงแหวนอุตสาหกรรมอย่าง สะพานภูมิพล 1 และสะพานภูมิพล 2 นั้น ถือเป็นการแก้ปัญหาได้ทั้งเรื่องน้ำท่วมและการจราจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในวันนี้นอกจากโครงการประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ จะเป็นหนทางแก้ไขปัญหาน้ำเอ่อล้นสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพมหานครแล้ว ยังคงทำหน้าที่เป็นแหลงท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งใหม่ของอำเภอพระประแดง

เส้นทางท่องเที่ยว จ.สมุทรปราการ

วันแรก “ช่วงเช้า” เดินทางไปสมุทรปราการเยี่ยมชม โครงการพระราชดำริคลองลัดโพธิ์ ประตูระบายน้ำต้นแบบที่แก้ปัญหาน้ำท่วมให้ชาวสมุทรปราการและพื้นที่ใกล้เคียง ตลาดบางน้ำผึ้ง ช้อป ชิม อาหารอร่อยของท้องถิ่นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน “ช่วงบ่าย” เที่ยวเมืองสมุทรปราการ องค์พระสมุทรเจดีย์ ป้อมพระจุลฯ ป้อมผีเสื้อสมุทร และหาของอร่อยรับประทานในมื้อเย็น

“สถานที่เที่ยวห้ามพลาด” ได้แก่  อาคารพิพิธภัณฑ์โครงการวงแหวนอุตสาหกรรม พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการน่าสนใจเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริฯ และงานก่อสร้างโครงการถนนวงแหวนอุตสาหกรรมฯ

ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง เลือกชิมช็อปกันให้จุใจกับร้านค้าและเรือพายของพ่อค้าแม่ขายสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ หรือ สวนบางกระเจ้า สถานที่พักผ่อนหย่อนใจอันร่มรื่น

“กิจกรรมห้ามพลาด”   ต้อง ถ่ายภาพถนนวงแหวนอุตสาหกรรมในมุมเก๋ๆ เดินเลาะชุมชนคลองบางกระเจ้า สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่ผูกพันกับสายน้ำ

การเดินทาง  จากถนนสุขสวัสดิ์ เลี้ยวเข้าเส้นทางถนนวงแหวนอุตสาหกรรม เบี่ยงซ้ายโดยไม่ต้องขึ้นสะพานภูมิพล มุ่งตรงไปถนนเพชรหึงษ์ พระประแดง

@กินปลาช่วยลดและป้องกันโรคเบาหวาน

          กรมควบคุมโรค แนะกินปลาลดเบาหวาน ป้องกันโรคหัวใจ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการควรควบคุมอาหารและน้ำหนักให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

ตามที่ “กรมควบคุมโรค” อธิบายว่า เบาหวานโรคอันดับต้นๆ ที่คนไทยเป็นกันมาก และเป็นโรคที่ต้องดูแลเอาใจใส่ในเรื่องการบริโภคอาหารเป็นสำคัญ ผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าคนปกติ ต้องควบคุมอาหารและน้ำหนักให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ผู้ป่วยเบาหวาน ควรหันมาให้ความสำคัญกับอาหารประเภท ปลา ซึ่งมีคุณค่าทางอาหารมาก ไม่ทำให้อ้วน และราคาไม่แพงอีกด้วย ปลาเป็นหนึ่งในอาหารที่มีโคเรสโตรอลต่ำ ย่อยง่าย และเนื้อปลาเป็นโปรตีนคุณภาพดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและสมอง

นอกจากเนื้อปลาแล้ว ไขมันปลาก็ยังมีประโยชน์ เป็นแหล่ง โอเมก้า-3 ที่หลายคนคิดว่ามีแต่ในปลาทะเลเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วมีอยู่ทั้งในปลาน้ำจืดและปลาทะเล โดยโอเมก้า-3 จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ที่เป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน การเลือกบริโภคปลาจะต่างจากการเลือกเนื้อสัตว์อื่นๆ โดยการเลือกซื้อเนื้อหมู หรือเนื้อสัตว์อื่นๆ เราจะเลือกที่มีมันน้อยๆ แต่ถ้าเราเลือกปลาเราต้องเลือกที่ตัวใหญ่ๆ มีไขมันมาก เพราะไขมันเหล่านั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น

ส่วนชนิดของปลาที่ให้ประโยชน์มากที่สุด คือ ปลาสวาย มีโอเมก้า 3 สูงถึง 2,570 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม ซึ่งมากกว่าปลาทะเล จึงอยากแนะนำให้หันมาบริโภคปลาน้ำจืดในบ้านเรา เพราะมีราคาถูกแต่มีคุณประโยชน์ที่สูง แถมช่วยลดการบริโภคปลานำเข้า ที่คุณค่าทางอาหารจะลดลงไปเมื่อถูกแช่แข็ง และที่สำคัญยังไม่พบการแพ้ปลาน้ำจืด เหมือนกับปลาทะเลอีกด้วย

สำหรับการปรุงเมนูปลา ที่มีคุณประโยชน์ที่สุดอยู่ที่การต้ม หรือนึ่ง ที่จะทำให้ได้คุณค่าทางอาหารอย่างครบถ้วนที่สุด โดยให้หลีกเลี่ยงเมนูทอดให้มากที่สุด ทั้งนี้ควรมีการบริโภคอาหารที่มีเมนูปลาอย่างน้อย 2 มื้อต่อสัปดาห์ แต่หากบริโภคได้ทุกวันก็จะดีที่สุด

ฟังข่าวฮ็อตในรอบสัปดาห์ช่วงท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “ไหว้ครูมวยไทยโลกกระหึ่มประเทศ”

            นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ตามที่ ททท. ได้กำหนดแผนการส่งเสริมตลาดประจำปี 2560 โดยปรับตำแหน่งทางการตลาดสู่การเป็น “Quality Leisure Destination” มุ่งเจาะตลาดที่มีศักยภาพใช้จ่ายสูง และสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าด้วยคุณค่าเอกลักษณ์ของ “วิถีไทย” ที่แตกต่างและแข่งขันได้ในระดับโลก จึงได้จัดทำโครงการไหว้ครูมวยไทยโลก ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 17-20 มีนาคม 2560 ณ บริเวณวัดมหาธาตุ และวัดหลังคาขาว อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยนำเสนอเอกลักษณ์  “ความเป็นไทย” ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักมวยไทยจากทั่วโลก และผู้เข้าชมงานให้ความชื่นชมกับการจัดงาน ปีนี้การรำไหว้ครูได้รับเกียรติจากนักมวยที่มีชื่อเสียงอย่าง “บัวขาว บัญชาเมฆ”  สามารถ พยัคฆ์อรุณ  อนุวัฒน์ แก้วสัมฤทธิ์ และแสงมณี อุ้มกะต๋องเชียงใหม่ยิม  ขึ้นนำนักมวยไทยทั่วโลกที่เข้าร่วมพิธีรำไหว้ครู

รวมทั้งยังได้จัดกิจกรรมมากมาย อาทิ การแข่งขันชกมวยไทยอาชีพ “ศึกมหัศจรรย์มวยไทย มรดกโลก” พบการแข่งขันชกมวยไทยอาชีพระหว่างนักมวยชาวไทยและนักมวยชาวต่างชาติ การออกร้านของค่ายมวยไทยที่มีชื่อเสียง และสามารถเลือกซื้อสินค้าที่เกี่ยวข้องกับมวยไทย รวมถึงหลักสูตรการเรียนชกมวยไทยที่ค่ายต่างๆ  ซุ้มแสดงศาสตราวุธโบราณ สาธิตการตีมีดและดาบจากบ้านอรัญญิก ซึ่งเป็นวิธีการแบบดั้งเดิม การสักยันต์ และเขียนยันต์ลงบนเสื้อมวย การแสดงศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย ติดตามได้www.tourismthailand.org/festivalexperience

#AmazingThailand #ThailandFestivalExperience #Thaifest #Amazingfight

นางฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม ททท.กล่าวเสริมว่า ททท.และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ต้อนรับคณะสื่อมวลชนจากกลุ่มประเทศมุสลิม 7 ประเทศ ได้แก่ Bahrain, Jordan, Oman, Qatar, Saudi Arabia, Turkey, UAE ณ โรงแรม Nuvo City ให้ความสนใจเข้าร่วมงานไหว้ครูุมวยไทยโลก และพร้อมจะบูรณาการด้านส่งเสริมการท่องเที่ยว เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในกลุ่มตะวันออกกลาง

ข่าวที่สอง “ไปฟังดนตรีสมิหลาฯเฟสติวัล31มี.ค.-1 เม.ย.นี้”

ฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เชิญชวนไปท่องเที่ยวมหกรรมดนตรีสุดไพเราะในงาน “สมิหลา มิวสิค เฟสติวัล” เทศกาลดนตรีที่จะจัดขึ้นในวันที่ 31 มีนาคม - 1 เมษายน 2560 ณ แหลมสมิหลา จังหวัดสงขลา ภายในงานมีศิลปินชื่อดังมากมายมาร่วมสร้างความสุข อาทิ เบน ชลาทิศ วง NUVO The Parkinson วง Mild และศิลปินอีกคับคั่ง ที่พลาดไม่ได้คือการยกครัวมาไว้ในงานกับ “อาหารอร่อยของดีจังหวัดสงขลา” ชมการสาธิตหัตกรรมและวิถีชีวิตท้องถิ่นของคนปักษ์ใต้ งานนี้ฟรี ห้ามพลาด ดูเพิ่มเติมได้ที่ www.tourismthailand.org/thaifest#Amazin

gThailand #ThailandFestivalExperience #Thaifest #SamilaMusicFestival

ข่าวที่สาม “บินไทยผนึกPAYPALปั๊มยอดขายตั๋วออนไลน์”

นายธีรพล โชติชนาภิบาล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ลงนามความร่วมมือกับ Paypal อำนวยความสะดวกช่องทางการชำระเงินทางอิเล็คทรอนิคส์ที่ปลอดภัยและรวดเร็วแก่ผู้โดยสารของการบินไทย เพื่ออำนวยความสะดวกสบายและเพิ่มทางเลือกในการเดินทางของผู้โดยสาร โดย paypalถือเป็นหนึ่งในช่องทางการชำระเงิน (Payment Gateway) ชั้นนำที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานทั่วโลกซึ่งมีสมาชิกทั่วโลกกว่า 200 ล้านคน

สอดคล้องกับกลยุทธ์ส่งเสริมช่องทางการขายของการบินไทยในปี 2560 ตั้งเป้าทำโครงการ “New WEB and Mobile Platform” พัฒนาระบบการซื้อขายบัตรโดยสารผ่านระบบออนไลน์ ทั้งทางเว็บไซต์ และสมาร์ทโฟนให้ความสำคัญกับการให้บริการจำหน่ายบัตรโดยสารผ่านทางเว็บไซต์อย่างมาก โดยมีลูกค้าการบินไทยทั่วโลกปีละกว่า 22 ล้านคน ในจำนวนนี้เกินกว่า 50 % หันมาซื้อตั๋วจองที่นั่งโดยสารผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ www.thaiairways.com

Paypal จึงเปรียบเสมือนตัวกลางในการรับรองความปลอดภัยในการจ่ายเงินช่องทางออนไลน์ที่ลูกค้าให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจว่าเป็นระบบช่องทางการชำระเงินที่มีความปลอดภัยสูงได้มาตรฐานสากล

เพื่อเป็นการขอบคุณและฉลองความร่วมมือระหว่างการบินไทย Paypal ระหว่างวันที่ 16 มีนาคม – 16 เมษายน 2560 ทาง paypal กับการบินไทย จึงมอบไมล์ รอยัล ออร์คิด พลัส จำนวน 1,500 ไมล์ แก่ลูกค้า 1,000 คนแรก ที่จองผ่านระบบดังกล่าวเดินทางในประเทศไทย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม และพิเศษสุดสำหรับผู้ที่สมัครเป็นสมาชิกใหม่กับรอยัล ออร์คิด พลัส ยังจะได้รับโบนัสไมล์สะสมพิเศษ เมื่อบินกับการบินไทยในเที่ยวบินแรกจำนวน 2,500 ไมล์ รวมรับไมล์สะสมพิเศษสูงสุด จำนวน 4,000 ไมล์

สำหรับการบินไทยได้เริ่มใช้การชำระเงินค่าบัตรโดยสารผ่าน Paypal มาตั้งแต่เดือนกันยายน 2559 ทำให้รายได้จากการขายผ่านเว็บไซต์จากทั่วโลกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากชาวยุโรป และอเมริกัน

ขณะที่มิสเตอร์ราหุล ชิงฮาล ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Paypal กล่าวเพิ่มเติมว่า Paypal มีนโยบายคุ้มครองผู้ขาย หรือ Seller Protection เพื่อปกป้องคุ้มครองธุรกิจและผู้ค้าในการทำธุรกรรม และนโยบายคุ้มครองผู้ขายนี้จะช่วยให้ธุรกิจและผู้ประกอบการไทยมีความมั่นใจที่จะทำธุรกิจหรือค้าขาย

ข่าวที่สี่ “ไทยสไมล์ฟุ้ง5ปีหน้าเปิดบินทั่วอาเซียน20จุด”

นายไบรอัน แบนสตัน ผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายขาย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือในการเปิดเส้นทางบินกรุงเทพ-โคตาคินาบาลู ระหว่างการบินไทยและไทยสมายล์ เพื่อขยายเส้นทางบินใหม่และเชื่อมต่อเครือข่ายการบินเต็มรูปแบบ โดยจะให้อยู่ในของระบบการขายและการทำการตลาดของการบินไทย โดยจะนำรูปแบบนี้ไปใช้กับอีกหลายเส้นทางบินในประเทศและต่างประเทศของทั้งการบินไทยและไทยสมายล์

นายวรเนติ หล้าพระบาง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยสมายล์ เปิดเผยว่า เที่ยวบิน ไป-กลับ กรุงเทพ-โคตาคินา จะบริการเที่ยวแรกในวันที่ 26 มี.ค.2560 สัปดาห์ละ 7 เที่ยว ส่วนแผนอนาคตช่วงกรกฎาคมปีนี้ไทยสมายล์สามารถเพิ่มจุดบินในอาเซียนได้ถึง 10 จุด และอีก 5 ปีหน้า คาดจะมีจุดบินทั่วอาเซียนได้ถึง 20 จุด

ข่าวที่ห้า “ไทยแอร์เอเชียเทขายตั๋ว0บาท3ล้านใบ”

นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า สายการบินไทยแอร์เอเชีย และแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ได้จัดโปรโมชั่น ราคาตั๋วโดยสาร 0 บาท บินประหยัด  3 ล้านที่นั่ง วันนี้ – 19 มี.ค. 2560 เพื่อเดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2560 – 5 มิ.ย. 2561 ได้ที่ www.airasia.com พร้อมเชิญชวนให้สมาชิก AirAsia BIG เพื่อรับสิทธิพิเศษมากมาย โดยเฉพาะการเข้าไปจองที่นั่งโปรโมชั่นล่วงหน้า 24 ชั่วโมงก่อนใคร รวมทั้งสามารถวางแผนท่องเที่ยวล่วงหน้าด้วยราคาประหยัด

ระหว่างวันนี้ – 19 มี.ค. 2560 สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ยังมีโปรโมชั่นราคาสุดประหยัด ญี่ปุ่น เกาหลี จีน เริ่มต้นเที่ยวละ 2,990 บาท** ต่อเที่ยว (รวมค่าภาษีสนามบินแล้ว) บินตรงสู่เส้นทางบินยอดฮิตอย่าง โตเกียว โอซาก้า โซล เซียงไฮ้ และราคาพิเศษสำหรับที่นั่ง Premium Flatbed ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 7,990 บาท (รวมค่าภาษีสนามบินแล้ว) จอง ได้ตั้งแต่วันนี้ – 19 มี.ค. 2560 เพื่อเดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2560 – 5 มิ.ย. 2561

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน

คอลัมนิสต์ : การบิน/ท่องเที่ยว, บล็อกเกอร์ gurutourza.blogspot.com