ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการจัด3แคมเปญ "คิดถึงก๊วนชวนตีกอล์ฟ/ไหว้พระพิฆเนศ3ปรางค์แจกไม่ยั้งคูปองพันบาท


เจาะลึกททท.ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการปั๊มท่องเที่ยวครึ่งปีหลังพุ่ง

คิดถึงก๊วนกอล์ฟทำเงินสะพัด-ไหว้3ปรางค์แจกสุดปังคูปองพันบาท


                    อรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานฉะเชิงเทรา

 ททท.ฉะเชิงเทรา เปิดแผนตลาดกระตุ้นท่องเที่ยวเชิงรุกเร็วแรง จังหวัดฉะเชิงเทราบูม “FIN FUN เที่ยววันธรรมดา” ชู 2 แคมเปญเด็ด “คิดถึงก๊วน...ชวนตีกอล์ฟ” เจาะกลุ่มคุณภาพกำลังซื้อสูงคาด 4 เดือนเงินสะพัดหลัก 100 ล้านบาท และ “เที่ยว 8 ริ้ว พลิ้วตามสายน้ำ” เปิดเส้นทางเสริมสิริมงคล  “ไหว้พระ 3 ปรางค์ รับอานิสงดี ๆ ทันที 1,000 บาท” คูปองส่วนลดกินอาหารกันให้พุงแตก ยิ่งมาเป็นครอบครัวยิ่งได้สิทธิ์ทวีคูณ ส่วนสมุทรปราการโหมแคมเปญ “More Fun สมุทรปราการ” และผนึกผู้ประกอบการท่องเที่ยวสร้างแม่เหล็กดึงดูดคนเลือกช้อปแพกเกจ “เราเที่ยวด้วยกัน”

 

นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า การวางกลยุทธ์กระตุ้นตลาดตามนโยบายของผู้ว่าการ ททท.ทุกภูมิภาคทั่วประเทศจะเน้นทำแคมเปญ “คิดถึง...” เป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ ในส่วนของสำนักงาน ททท.ฉะเชิงเทราปรับตามนโยบายภูมิภาคภาคตะวันออก ทำให้จังหวัดที่ตั้งอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ที่จะกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจให้คนออกเดินทางมาใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวในพื้นที่รับผิดชอบ 2 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ ซึ่งคนกรุงเทพฯ สามารถมาท่องเที่ยวได้ทันทีทุกเวลา

 

                แคมเปญยอดนิยม "คิดถึงก๊วน ชวนตีกอล์ฟ ฉะเชิงเทรา" จัด 4 เดือน จะสร้างรายได้รวมกว่า 100 ล้านบาท

                   ก่อนหน้านี้ในร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ดำเนินการซ่อมสร้างปรับปรุงบริการต่าง ๆ ขณะนี้ปรับโครงการเที่ยววันธรรมดาเป็น “FIN FUN วันธรรมดา” ขานรับกับธีมหลัก More Fun ตะวันออก ซึ่งเน้นความสนุกสนาน แต่เรามองการการท่องเที่ยวเชิงกีฬาเพราะมีสนามที่ดีอยู่ไม่ต่ำกว่า 15 สนาม จึงนำร่องทำโครงการ “คิดถึงก๊วน...ชวนตีกอล์ฟ” เพราะเป็นกิจกรรมที่จะสร้างรายได้กระจายไปยังผู้ประกอบการ แคดดี้หรือพนักงานในสนามมีงานทำ เม็ดเงินขับเคลื่อนได้จำนวนมาก 1 คน ใช้จ่ายเฉลี่ย 2,000 บาท คำนวณแล้วเมื่อจัดต่อเนื่อง 4 เดือน ระหว่างกรกฎาคม-กันยายน 2563 จะมีเงินสะพัดหลัก 100 ล้านบาท

                สำหรับกิจกรรม “คิดถึงก๊วน...ชวนตีกอล์ฟ” FIN FUN วันธรรมดา ในจังหวัดฉะเชิงเทรา จะจัดทุกวันอังคาร โดยมีคูปองส่วนลดมอบเป็นค่ากรีนฟี 0 บาท ส่วนสมุทรปราการให้ส่วนลด 300 บาท/ครั้ง

 


                โครงการที่ 2 เที่ยว 8 ริ้ว พลิ้วตามสายน้ำ เดิมชูการนำอาหารถิ่นของดีของเด่นมานำเสนอ แต่ตอนนี้ไม่สามารถจัดในลักษณะดังกล่าวได้ จึงต้องปรับนำเรื่อง “ท่องเที่ยววิถีใหม่ ผ่านพ้นวิกฤตไวรัสโควิด-19 มาแล้ว คนส่วนใหญ่น่าจะอยากแสวงหาความเป็นสิริมงคลเข้าตัว ททท.ฉะเชิงเทราจึงได้จัดแคมเปญ “เที่ยว 8 ริ้ว พลิ้วตามสายน้ำ” โดยใช้ชื่อตอน “ไหว้พระ 3 ปรางค์ รับอานิสงดีๆ ทันที 1,000 บาท” จะทำพาสปอร์ตท่องเที่ยวแจกคนละ 1 เล่ม เมื่อไปกราบพระพิฆเนศปรางค์ใดปรางค์หนึ่งจะได้รับทันที 1,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึง กันยายน 2563

สามารถรับพาสปอร์ตท่องเที่ยวได้ที่ “วัดสมาน” มีพระพิฆเนศปรางค์นอนเสวยสุข “วัดโพรงอากาศ” มีพระพิฆเนศองค์นั่ง และ “อุทยานพระพิฆเนศ” มีองค์ยืน ไปตรงไหนก็ได้เพื่อขอรับพาสปอร์ตดังกล่าว โดยจำกัดจำนวนไว้ 3,000 เล่ม

 

ในพาสปอร์ตท่องเที่ยว ได้จัดทำเป็น “คูปองเงินสด” มูลค่า 200 บาท จำนวน 5 ใบ แต่จะต้องนำคูปองไปใช้ตามสถานที่กำหนดไว้ ได้แก่ “มิมูราห์ฟาร์ม” ความนมควายแห่งแรกของประเทศไทย “สวนปาล์มฟาร์มนก” มีนกสายพันธุ์ต่าง ๆ ให้ชม “สวนมะพร้าวลุงแดง” แหล่งมะพร้าวน้ำหอม หวานหอม ที่สุดของฉะเชิงเทรา “วิมานดิน” ชวนครอบครัวมาดูการปั้นดินให้เป็นดาว ทำกิจกรรม D.I.Y. และ “เดวารีสอร์ต คลองเขื่อน” จะเป็นกิจกรรมกระตุ้นเชิญชวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปรับอานิสงดี ๆ ดังกล่าว

 

กิจกรรมรับพาสปอร์ตท่องเที่ยวฉะเชิงเทรา ตอนช่วงปิดท้ายโครงการจะต่อยอดด้วยการเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาได้เขียนชื่อ ที่อยู่ ไว้ เพื่อลุ้นรับของรางวัลมอบด้วยเช่นกัน เพื่อสร้างการรับรู้การมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งวัดหลวงพ่อโสธร แล้ว ก็ยังสามารถท่องเที่ยวเชื่อมโยงกระจายตัวไปยังพื้นที่อื่น ๆ ทั่วทั้งจังหวัด

                  วัดหลวงพ่อโสธร นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาสักการะจำนวนมากช่วงวันหยุด

ผอ.อรรถพลกล่าวว่า ทั้ง 2 โครงการ “Fin Fun วันธรรมดา :คิดถึงก๊วน...ชวนตีกอล์ฟ” และ “เที่ยว 8 ริ้ว พลิ้วตามสายน้ำ” นอกจากจะได้ความสุขทางกายแล้ว “การแจกคูปองฟรี” จะยิ่งช่วยให้คนตัดสินใจออกมาเที่ยวได้ง่ายขึ้น เพราะทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ต้องวางแผนก่อนออกเดินทางเพื่อทำให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด

 

สถิติที่ผ่านมา ช่วงฤดูฝนตามปกติจะเป็นนอกฤดูเดินทาง เพราะไม่มีไฮไลต์ผลผลิตทางการเกษตร เช่น มะม่วง ผลไม้ชนิดต่างๆ เราจึงเน้นการเล่นกอล์ฟ เพราะทันทีที่เปิดโครงการ“Fin Fun วันธรรมดา :คิดถึงก๊วน...ชวนตีกอล์ฟ” ในฉะเชิงเทราทุกวันอังคาร มียอดจองเต็มทันทีเกือบทุกรอบ ส่งผลให้ประเมินสถานการณ์ได้ว่ากระตุ้นท่องเที่ยวโดยจัดกิจกรรมทั้ง 2 โครงการดังกล่าว จะช่วยทำให้ภาคการเดินทางต่อเนื่องถึงภาคเศรษฐกิจของฉะเชิงเทรากับสมุทรปราการเติบโตเพิ่มทั้งจำนวนคนและรายได้มากขึ้น

 

แต่อย่างไรก็ตาม ยอมรับเรื่องแรงจูงใจในการเดินทางท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เป็นกำลังซื้อทั่วไปยังคงให้ความสำคัญเลือกพื้นที่หาดทราย ชายทะเล และบางส่วนยังชื่นชอบกราบไหว้พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ส่วนนักกอล์ฟซึ่งเป็นตลาดกลุ่มเฉพาะมีกำลังซื้อสูง ททท.มุ่งเจาะขายการท่องเที่ยววันธรรมดาเข้ามาเสริมทัพได้อีกทางด้วย

                   เมืองโบราณ สมุทรปราการ ชวนมาท่องเที่ยวตลอดสิงหาคม 2563 ซื้อบัตร 365 บาท ใช้เข้าชมได้ตลอดทั้งปี 2563

ผอ.อรรถพลกล่าวว่า ได้เร่งกระตุ้น “More Fun สมุทรปราการ” ด้วยเช่นกัน ตั้งแต่กรกฎาคม-ตุลาคม นี้ จะมีงานต่าง ๆ เริ่มจาก “เทศกาลประเพณีรับบัว” ต่อด้วย การดูนกนางนวลย้ายถิ่นมาตามธรรมชาติ จะร่วมกับทางเมืองโบราณและแหล่งท่องเที่ยวในเครือ เช่น ช้างเอราวัณ ช่วงเดือนสิงหาคม 2563 เมื่อเข้ามาร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวก็จะแจกส่วนลดราคาบัตรเข้าชมตลอดเดือนสิงหาคมนี้ ลดเหลือ 365 บาท/คน ใช้บัตรเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เป็นอีกโครงการที่จะช่วยกระตุ้นได้พอสมควร เพื่อรอคนมาเที่ยวต่อเนื่องช่วงปลายปี

 

ส่วน ททท.ฉะเชิงเทราจะเน้น สิงหาพาแม่เที่ยว เข้าชมฟรี ส่วนนักท่องเที่ยวทั่วไปลด 50 % โดยสามารถเพิ่มความถี่การเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ด้วย

สำหรับฉะเชิงเทรามีแหล่งท่องเที่ยวครอบครัว 2-3 แห่ง คือ มิมูราห์ฟาร์ม กับ สวนปาล์มฟาร์มนก ซึ่งบรรจุไว้ในเส้นทาง “เที่ยว 8 ริ้ว พลิ้วตามสายน้ำ” อยู่แล้ว ช่วยผู้ประกอบการบวกกับการแจกคูปองเงินสดเพื่อเป็นแรงจูงใจ

อีกทั้งยังมีโครงการใหญ่ของ ททท. คือ “คิดถึง...อาหารจานโปรด” ก็มีตลาดบ้านใหม่ 100 ปี ฉะเชิงเทรา หรือตลาดน้ำบางผึ้ง อำเภอพระประแดง สมุทรปราการ ที่เลือกไปใช้บริการได้ตลอด

 

ส่วนฉะเชิงเทรากับสมุทรปราการ จะได้อานิสงจากแพกเกจของรัฐบาลหลัก ๆ คือ “กำลังใจ” ซึ่งจัดฟรีที่จะเชิญชวนบริษัทตัวแทนนำเที่ยวพาอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) อาสาสมัครกรุงเทพมหานคร (อสส.) และบุคลการในโรงพยาบาลตำบล (รพ.สต.) ทั่วประเทศ ออกเดินทางเที่ยวไปตามจังหวัดต่าง ๆ ล่าสุดได้จัดประชุมร่วมทุกภาคส่วนในพื้นที่เพื่อมอบสิทธิประโยชน์เป็นเป้าหมายให้กลุ่มนักท่องเที่ยวเลือกเข้ามใช้จ่ายเงิน

ส่วนแพกเกจ “เราเที่ยวด้วยกัน”  ทั้ง 2 จังหวัด อาจจะไม่ได้รับอานิสงมากนัก แต่จะพยายามใช้ “ท่องเที่ยวเพื่อเป็นสิริมงคล” ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปสนใจเข้ามาท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน

 

ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะกับวันหยุดยาวเหมาะกับกลุ่มครอบครัว คือ ไหว้พระ รับประทานอาหาร ซึ่งเป็นความสุขทางใจ ซึ่งมีแคมเปญ ไหว้พระพิฆเนศ 3 ปรางค์ กับ แจกคูปอง 1,000 บาท/คน ถ้ามาครอบครัวละ 3 คน ก็รับได้ทันทีรวมถึง 3,000 บาท

ส่วนการวางแผนเดินทางวันหยุดยาว จะต้องเผื่อเวลา เนื่องจากมีคนมากราบหลวงพ่อโสธรจำนวนมาก มีปริมาณรถหนาแน่น จึงควรจะบริหารเส้นทางการเดินทางไปเที่ยว เช่น ไปไหว้พระพิฆเนศตามวัดต่าง ๆ ก่อนจะมาจบที่วัดหลวงพ่อโสธร รวมทั้งจะต้องยึดหลักปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข คือ สวมหน้ากากอนามัย ใช้เจลล้างมือ เว้นระยะห่างทางสังคม ทุกสถานที่ที่เดินทางไปท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา 038-514-009 หรือเฟซบุค TATChachoengsao

ข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์จัดมิดเยียร์เซลเปิดนาทีทองลดสุดๆ70%


             กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดใหญ่มหกรรมช้อป “Mid Year Sale Up To 70% Off” เพียงเข้าไปดูสินค้าที่ชื่นชอบพร้อมซื้อ แล้วทำตามขั้นตอนข้อกำหนดและเงื่อนไขดังนี้

1.รหัสส่วนลดสามารถใช้ได้ที่ KingPower.com และ King Power Application เท่านั้น ตั้งแต่วันนี้– 31 กรกฎาคม 2563 เท่านั้น 2.ส่วนลดสูงสุด 70% เมื่อช้อปครบ 3,000 บาท (สุทธิ) 3.รายการส่งเสริมการขายนี้เฉพาะสั่งซื้อสินค้า Home Delivery หรือสินค้าส่งถึงบ้าน เฉพาะที่ร่วมรายการเท่านั้น 4.รายการส่งเสริมการขายนี้สามารถใช้ร่วมกับสินค้าราคาพิเศษ, สินค้าลดราคา เฉพาะที่ร่วมรายการเท่านั้น

 

สิทธิเพิ่ม สามารถแบ่งชำระ 0% ได้ดังนี้ 1. นานสูงสุด 10 เดือน เมื่อช้อปครบ 15,000.- (สุทธิ) / 1 รายการสั่งซื้อ 2.นานสูงสุด 6 เดือน เมื่อช้อปครบ 10,000.- (สุทธิ) / 1 รายการสั่งซื้อ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563

 

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์นำสินค้าRoll&Selectionกระหน่ำแจกส่วนลดคุ้มคูณ2

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ขนทัพสินค้ามาเพิ่มสีสันด้วยแคมเปญแรง ๆ ใหม่ล่าสุด “Mid Year Sale Double x 2” ระหว่างวันนี้-31 กรกฎาคม 2563 นักช้อปสามารถรับสิทธิ์ได้แบบคูณ 2 ตัว คูณแรก เมื่อเลือกซื้อสินค้าในกลุ่มขนมไทย ของว่าง/สแน็ก แบรนด์ Kingpower Roll และ Kingpower Selection กว่า 100 ผลิตภัณฑ์ จะช้อปทางออนไลน์หรือแวะเข้าไปเดินชมในร้านที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ก็ได้เช่นกัน 

เพียงแค่กรอกรหัสส่วนลด KPSPECIAL แล้วเลือกช้อปสินค้าแพกเกจยกชุดได้ในราคาซื้อ 1 แถม 1 และซื้อแบบคละรสชาติ ได้ในราคาซื้อ 3 แถม 1 ตัวคูณที่สอง เมื่อซื้อสินค้าที่เข้าร่วมรายการครบ 3,000 บาท ทั้งสินค้าKing Power Roll และ Selection


ข่าวที่ 3 คิงเพาเวอร์จัดคาราวานแจกลูกบอล5ภาคล้านลูกล้านพลัง


กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานการจัดคาราวานแจกลูกฟุตบอลในโครงการ ‘ล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย’ ปีที่ 4 ตอนนี้เด็ก ๆ ตามจังหวัดต่าง ๆ เตรียมตัวรอรับได้เลย รถขนส่งจะนำอุปกรณ์กีฬาไปส่งให้ถึงมือ ตอนนี้เริ่มออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ทุกภูมิภาคแล้ว ระหว่าง13 กรกฎาคม – 14 กันยายน 2563 คือ

 

“ภาคเหนือ” วันที่ 13 กรกฎาคม - วันที่ 7 สิงหาคม WภาคตะวันออกเฉียงเหนือW วันที่ 14 กรกฎาคม – วันที่ 13 สิงหาคม ภาคกลาง” วันที่ 10 สิงหาคม – วันที่ 16 กันยายนภาคตะวันออก” วันที่ 21 สิงหาคม – วันที่ 3 กันยายน และ “ภาคใต้” วันที่ 21 สิงหาคม – วันที่ 14 กันยายน

 

เมื่อได้รับลูกฟุตบอลจากโครงการ ล้านลูก ล้านพลัง สานฝันเด็กไทย แล้ว จะได้นำไปใช้ฝึกฝนพัฒนาทักษะ ตามหาความฝัน สู่เส้นทางนักเตะอย่างที่ตั้งใจไว้ ทางคิง เพาเวอร์ และทีมงานขอเป็นส่วนหนึ่งของพลังเล็ก ๆ ของคนไทย

 

ข่าวที่ 4 ททท.ปลุกเราเที่ยวด้วยกันคนแห่จอง4ล้านแล้วรมว.พิพัฒน์จ่อเปิดเฟส2


นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า พอใจกับกระแสตอบรับของประชาชนที่เข้ามาจองใช้แพกเกจ “เราเที่ยวด้วยกัน” ซึ่งรัฐบาลนำเงินกู้อุดหนุนผู้ประกอบการในอุตสาหรรมท่องเที่ยว 2.24 หมื่นล้านบาท หลังเปิดให้คนเข้ามาจองแพกเกจได้ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 ทางเว็บไซต์ เราเที่ยวด้วยกัน.com จนถึงตอนนี้ยอดทะลุ 3.3 ล้านคน ผ่านการพิจารณาไปแล้วกว่า 2 ล้านคน โดยสิทธิ์ทั้งหมดจะมียอดให้จองใช้ห้องพักได้ทั้งหมด 5 ล้านคืน

                ตามที่ได้มอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทย และผู้ประกอบการท่องเที่ยวในประเทศ ร่วมมือกันสร้างความสำเร็จกระตุ้นรายได้จากการท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจของประเทศตั้งแต่กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป

 

อีกทั้งคนไทยเที่ยวในประเทศปรับตัวดีขึ้นหลังรัฐบาลคลายล็อกดาวน์ ทำให้ตลอดเดือนมิถุนายน 2563 เกิดการเดินทางรวม 4.8 ล้านคน ถือได้ว่าการท่องเที่ยวไทยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว

 

รวมทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเสนอทำแคมเปญ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 2 ต่อเนื่องอีกรอบ โดยจะใช้เงินสนับสนุนผู้ประกอบการท่องเที่ยวและพุ่งเป้าช่วยเหลือกระจายรายได้สู่เมืองรอง 60 % มากกว่าเฟส 1 ที่สนับสนุนเพียง 40 % เท่านั้น

โดยได้ประเมินผลทางเศรษฐกิจทั้ง 2 โครงการก่อให้เกิดรายรับทางเศรษฐกิจ 139,739.58 ล้านบาท และก่อให้เกิดการจ้างงานรวม 262,606 คน ประกอบด้วย 1.โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ก่อให้เกิดรายรับ 123,850.36 ล้านบาท เกิดการจ้างงาน 225,868 คน 2.โครงการกำลังใจก่อให้เกิดรายรับ 15,889.22 ล้านบาท และเกิดการจ้างงาน 36,738

 

นายพิพัฒน์กล่าวว่า เตรียมทำแคมเปญ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 2” เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในโอกาสต่อไป ตามแนวคิดจะขอให้รัฐสนับสนุนเงินค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบการเอกชนท่องเที่ยว 60 % สูงกว่าเฟส 1 ที่อุดหนุนโรงแรมที่พัก ตั๋วเครื่องบิน 40 %

 

ข่าวที่ 5 ททท.บูมขายกิจกรรม60เส้นทางความสุขลุ้นรับรางวัลนับล้าน

 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  เปิดเผย ว่า  ททท. จัดแคมเปญ “Happiness we can share”  รวบรวมเส้นทางท่องเที่ยวที่จะทำให้นักท่องเที่ยวพบกับความสุขจากการเดินทางทำกิจกรรมมากมายที่จะทำให้คุณได้ค้นพบความหมายของ “ความสุขแท้จริง ที่เริ่มต้นจากการแบ่งปัน” และยังมีรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท ให้ร่วมลุ้นรับด้วย ส่วนกิจกรรมความสุขที่ ททท.ทั่วประเทศจัดเตรียมไว้ ได้ที่เว็บไซต์ hellorainy.60เส้นทางความสุข.com/volunteer ได้แก่

 

1.อาสาปลูกป่า ในพื้นที่จังหวัด ชัยภูมิ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครนายก ราชบุรี ลำปาง ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ และ สมุทรสงคราม กิจกรรมอาสาเก็บขยะ ในพื้นที่ ชลบุรี สมุทรปราการ  พระนครศรีอยุธยา

 

2.ครูอาสา  ในพื้นที่จังหวัด เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ อุทัยธานี และ สตูล

กิจกรรมอาสาเพื่อน้องช้าง ในพื้นที่ เชียงใหม่ เชียงราย กาญจนบุรี เพชรบุรี อยุธยา ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี และ ภูเก็ต

3.อาสาปลูกปะการัง และ อนุบาลสัตว์น้ำ ในชลบุรี 4.ท่องเที่ยวชุมชน ในพื้นที่ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน สุโขทัย ลำปาง อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อุดรธานี นครพนม นครนายก เพชรบุรี จันทบุรี ระยอง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร และ พัทลุง

 

ในเดือนกันยายน 2563 ททท. ก็ขอมอบความสุขมากยิ่งขึ้นให้นักเดินทางทุกคนที่ซื้อดีลท่องเที่ยวและจองซื้อตั๋วเครื่องบินผ่านเว็บไซต์กิจกรรม hellorainy.60เส้นทางความสุข.com/volunteer รับสิทธิ์ลุ้นรางวัล ตั๋วเครื่องบิน บัตรกำนัลโรงแรม แพ็กเกจท่องเที่ยว ของพรีเมียมอื่น ๆ กว่า 100 รางวัล มูลค่ารวม 1 ล้านบาท

 

ข่าวที่ 6 เปิดข้อมูลทั่วโลกพึ่งรายได้ท่องเที่ยวโต “ไทย”ติดอันดับ4

 

นางสาวฐาปนีบ์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ "ประเทศต่างๆ" ในโลกนี้ พึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวมากมหาศาล ตามรายละเอียดดังนี้

 

                ประเทศไทยมีขนาดเศรษฐกิจประมาณ 15.9 ล้านล้านบาท ในแต่ละปี จะมีรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ประมาณ 3.0-3.4 ล้านล้านบาท  ตัวเลขดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 18.8 - 21.6% ของขนาดเศรษฐกิจ (GDP)

แบ่งออกเป็น 1.รายได้จากนักท่องเที่ยวมากถึง 1.9 ล้านล้านบาท เป็นอันดับ 4 ของโลก 2.มีเท่ากับว่ารายได้ท่องเที่ยวไทยเกินครึ่งนั้น มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ

 

                เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน พบว่ากัมพูชาเป็นประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยวมากสุดทั้งในและต่างประเทศถึง 32.8% ของ GDP  ส่วนอินโดนีเซียรายได้จากการท่องเที่ยวมีสัดส่วนต่อ GDP น้อยสุดในอาเซียนเพียง 6% เท่านั้น

 

                ทางด้าน “สหรัฐอเมริกา” ครองแชมป์ประเทศที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก ด้วยสถติสูงถึง 49 ล้านล้านบาท  แบ่งเป็น 1.จากนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 6.5 ล้านล้านบาท  2.เฉพาะคนอเมริกันเดินทางท่องเที่ยวในประเทศตัวเอง ก็สามารถก่อให้เกิดรายได้แล้วมากกว่า 42 ล้านล้านบาทแล้ว

 

ส่วนประเทศที่มีสัดส่วนรายได้ท่องเที่ยวต่อ GDP สูงที่สุดในโลกคุณอาจจะไม่เชื่อว่าคือ "เขตบริหารพิเศษมาเก๊า"

และมาเก๊ามีขนาดเศรษฐกิจประมาณ 1.73 ล้านล้านบาท พึ่งพิงรายได้จากการท่องเที่ยวมากถึง 1.24 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 72.2%

 

ข่าวที่ 7 ททท.นครราชสีมารุกจัด“COOL Isan กินแซ่บ Festival”ปลุกเที่ยวโคราช

 

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา รายงานว่า ได้ร่วมกับผู้ประกอบการ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช และโรงแรมพันธมิตร จัดกิจกรรม “COOL Isan กินแซ่บ Festival” ตั้งเป้าฟื้นฟูและส่งเสริมการท่องเที่ยวในนครราชสีมา โดยจะให้สิทธิ์นักท่องเที่ยว 2,000 คนแรก เลือกจองเข้าพักในโรงแรมที่ร่วมรายการ ระหว่างวันนี้-15 กันยายน 2563

 

ได้แก่ โรงแรมแคนทารี่ โคราช โรงแรมไอซาน่าโรงแรมแกรนด์ไอซาน่า โรงแรมลีโอซอ โรงแรมปัญจดารา โรงแรมสีมาธานี โรงแรมดิ อิมพีเรียล โคราช และโรงแรมฟอร์จูน ราชพฤกษ์  

 

นักท่องเที่ยวจะได้รับคูปองอาหารมูลค่า 150 บาท คนละ 1 ใบ ให้นำไปใช้รับประทานอาหารที่ศูนย์อาหาร Pier 21 โคราช ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช

 

ข่าวที่ 8  บางจากลุยโปรเจ็กต์ “วินโนหนี้” กลุ่มสตาร์ตอัพวินมอเตอร์ไซต์


 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดตัว “Winnonie” สตาร์ทอัพภายในกลุ่มบางจากฯ ที่นำนวัตกรรมพลังงานสีเขียวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะนำร่องพื้นที่รอบสำนักงานใหญ่และโรงกลั่นน้ำมันบางจาก 

นับเป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมนวัตกรรมภายในองค์กร “The Intrapreneur - ปั้นคนในให้เป็นเถ้าแก่” สนับสนุนให้พนักงานนำหลัก design thinking มาใช้คิดแนวการทำธุรกิจ จัดขึ้นโดยสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจหรือ BiiC ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่พัฒนา และแสวงหาธุรกิจใหม่ๆ และกิจกรรมงานวิจัยพัฒนา เพื่อใช้นวัตกรรมต่อยอดขยายธุรกิจพลังงานสีเขียวและธุรกิจด้านชีวภาพทั้งในและนอกประเทศ

 

ทางกลุ่มพนักงานที่ริเริ่มโครงการนี้ ได้ศึกษาการประกอบอาชีพและการใช้ชีวิตของผู้ประกอบการรถวินมอเตอร์ไซค์ในบริเวณพื้นที่รอบๆ สำนักงานใหญ่และโรงกลั่นน้ำมันบางจาก เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาคิดเป็นโครงการให้ตอบโจทย์ความต้องการของเขาเหล่านั้น พบว่ามีค่าใช้จ่ายสูงมาก ซึ่งกว่า 60% เป็นค่าใช้จ่ายในการผ่อนรถและเชื้อเพลิง (น้ำมัน) ทำให้คิดว่าถ้าสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับพวกเขา อีกทั้งช่วยดูแลโลกและสิ่งแวดล้อม โดยสามารถเก็บข้อมูลการเดินทางเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป จะเป็นทางออกที่ดี

 

วัตถุประสงค์หลักของ “Winnonie” คือช่วยลดภาระหนี้สินซึ่งถือเป็น pain point ของวินมอเตอร์ไซค์ด้วยการนำมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาให้วินมอเตอร์ไซค์เช่า ลดภาระดอกเบี้ยทบต้นจำนวนมากจากการผ่อนรถที่ต้องซื้อมาประกอบอาชีพ รวมทั้งลดภาระค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิง ซึ่งจากการศึกษาพบว่าการใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าการใช้น้ำมันประมาณ 10 เท่า พร้อมการเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบ swapping เป็นรายแรกในประเทศไทย โดยสามารถนำแบตเตอรี่ไปเปลี่ยนได้ที่ตู้สำหรับแลกเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก

 

Winnonie” เริ่มจากโครงการนำร่อง ทดลองให้ผู้ประกอบอาชีพวินมอเตอร์ไซค์ในพื้นที่รอบสำนักงานใหญ่และโรงกลั่นน้ำมันบางจากเช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าใช้งานเพื่อศึกษาข้อมูลเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา เนื่องจากวินมอเตอร์ไซค์ถือเป็นกลุ่มผู้ใช้งานแบบเคลื่อนที่จากจุดสู่จุด ทำให้สามารถจำกัดวงเพื่อเก็บข้อมูลได้ในลักษณะ microgrid และนำข้อมูลมาใช้ในการ scale up เพื่อให้บริการจำนวนมากขึ้นในพื้นที่กว้างขึ้น เป็นคอมมูนิตี้ที่มีพันธมิตรมาร่วมพัฒนา ecosystem (ระบบนิเวศน์) หลังจากช่วงการศึกษาข้อมูล จะมีผู้ร่วมโครงการในเบื้องต้น ได้แก่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กับธนาคารเกียรตินาคิน และจะขยายเครือข่ายไปยังผู้ผลิตและจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ในอนาคต โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานเขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร กรมการขนส่งทางบก และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง 

 

ข่าวที่ 9 TCEBใช้2โปรเจ็กต์ “VMS-E Learningฟื้นตลาดไมซ์สำเร็จเฟส1-2

 

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “สสปน./TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บมุ่งได้ให้ความรู้และนำเทคโนโลยีทางดิจิทัลมาปรับใช้ทำธุรกิจไมซ์ให้สอดรับกับกระแสโลกยุค New Normal หลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลง มีกระแสตอบรับจากผู้ประกอบการเป็นอย่างดี ในการเข้าร่วม 2 โครงการหลัก คือ 1.โครงการ Virtual Meeting Space (VMS) ส่งเสริมการจัดประชุมและงานแสดงสินค้าออนไลน์ และจัดคอร์สฝึกอบรมออนไลน์ (E-learning)  2.โครงการพัฒนาศูนย์ข้อมูลและนวัตกรรมไมซ์ (MICE Intelligence Center)

 

โดยได้เปิดตัวโครงการ VMS มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563  พร้อมทั้งให้การสนับสนุน 3 รูปแบบ คือ 1.การประชุมสัมมนาเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ (Webinar) 2.จัดแสดงสินค้าผ่านระบบออนไลน์ (Offline to Online - O2O) สนับสนุนการจัดหาและบริหารจัดการแพลทฟอร์มออนไลน์ให้ผู้จัดงานแสดงสินค้า และ 3.สนับสนุนคอร์สฝึกอบรมออนไลน์ (E-learning) แก่ผู้ประกอบการไมซ์

 

ส่งผลทำให้มีงานประชุมและงานแสดงสินค้าออนไลน์ขอรับการสนับสนุน 40 งาน เริ่มทยอยจัดแล้ว 5 งาน ได้แก่ งานแรก Thailand Toy Expo วันที่ 28-31 พฤษภาคม 2563 งานที่สอง Maximizing MICE: Winning the Thai & International MICE Business in a Post COVID-19 World วันที่ 4 มิถุนายน 2563 งานที่สาม สัมมนาออนไลน์ Post COVID-19 ชีวิตวิถีใหม่กับการจัดระเบียบและขับเคลื่อนสร้างความพร้อมกรุงเทพเเละเมืองหลักเพื่อการจัดงาน วันที่ 11 มิถุนายน 2563งานที่สี่ สัมมนาออนไลน์ MICE Clinic หัวข้อ การจัดประชุมแบบ Virtual Meeting อย่างมีประสิทธิภาพและการประชุมปลอดภัยไร้โควิด-19 วันที่ 12 มิถุนายน 2563 และ งานที่ห้า ASEANTA Webinar 2020 “New Normal in Tourism & Creating travel bubble” วันที่ 25 มิถุนายน 2563 โดยมียอดผู้เข้าชมกว่า 80,000 ราย

 

โดยเฉพาะโครงการสนับสนุนคอร์สฝึกอบรมออนไลน์ (E-learning) ต่อเนื่อง 8 เดือน ระหว่างพฤษภาคม – ธันวาคม 2563 นี้ มีผู้ประกอบการไมซ์ได้รับการสนับสนุนและขอใช้สิทธิ์การเข้าอบรมออนไลน์ครบแล้วถึง 250 ราย  เป็นคอร์สพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ต่อยอดการทำงาน ผ่านแพลตฟอร์ม YourNextU จากสถาบัน Southeast Asia Center (SEAC) เน้นการบริหารโครงการ การเพิ่มทักษะระหว่างบุคคล การเพิ่มทักษะความเป็นผู้ประกอบการ การจัดการ การสื่อสาร และการใช้ดิจิทัล  

 

ขณะที่ยังเพิ่มความเข้มข้นด้านองค์ความรู้เพื่อให้ผู้ประกอบการไมซ์นำไปประยุกต์ใช้งานได้ผ่าน 2ช่องทาง ประกอบด้วย

 

ช่องทางแรก ทางเว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลและนวัตกรรมไมซ์ หรือ MICE Intelligence Center ได้ให้ข้อมูลและนำเสนอเนื้อหาบทความอุตสาหกรรมไมซ์ที่สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ให้ผู้ประกอบการไมซ์ทุกสัปดาห์ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2563 ได้รวบรวมความเคลื่อนไหวเป็นรายไตรมาส ทางด้านนโยบาย การสนับสนุน และแผนงานที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมไมซ์ของต่างประเทศ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน มาเก๊า และกลุ่มประเทศ CLMV กัมพูชา-สปป.ลาว-เมียนมา-เวียดนาม และสมาคมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ เช่น ICCA, UFI, SITE, Destination International, PCMA, GBTA, PATA, UNWTO เพื่อให้ผู้ประกอบการไมซ์นำไปประยุกต์ใช้ปรับเปลี่ยนและรับมือกับสถานการณ์ได้  ซึ่งในช่วงมีนาคมจนถึงปัจจุบัน มีจำนวนผู้เข้าศึกษาข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ทั้งกว่า 100,000 ราย

 

ช่องทางที่ 2 จัดทำ MICE Outlook นำเสนอบทความสั้นรายสัปดาห์เพื่ออัปเดตความเคลื่อนไหวเทรนด์ไมซ์ทั่วโลก ควบคู่การทำเนื้อหาตามรูปแบบ Intelligence Talks ผลิตคลิปวีดีโอให้ความรู้และถอดบทเรียนการทำงานของผู้นำในแวดวงอุตสาหกรรมไมซ์ เพื่อให้ผู้ประกอบการไมซ์ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดเข้าถึงข้อมูลความรู้ แล้วสามารถนำไปประยุกต์ใช้ทำงานได้อย่างมืออาชีพ  

          นายจิรุตถ์ กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีหลัง วางทิศทางการดำเนินงานด้านการพัฒนาศูนย์ข้อมูลและนวัตกรรมไมซ์ หลังรัฐบาลผ่อนปรนการจัดงานเต็มรูปแบบ จะเร่งต่อยอดทางเลือกใช้เครื่องมือในโครงการจัดประชุมและงานแสดงสินค้าออนไลน์อย่างต่อเนื่อง มุ่งส่งเสริมการนำเทคโนโลยีมาใช้ผสมผสานจัดงานจริง เริ่มจากการจัดงานไมซ์ในประเทศ เน้นการใช้เทคโนโลยีตรวจวัดความหนาแน่นของผู้เข้าร่วมงานในพื้นที่ต่าง ๆ ในงานประชุมหรืองานแสดงสินค้า หรือ การส่งเสริมการใช้แอพพลิเคชั่นในการจัดงาน ตั้งแต่ก่อนการจัดงาน ระหว่างงานและหลังงาน เช่น การใช้แอพพลิเคชั่น “ไทยชนะ” หรือการลงทะเบียนและการนัดหมายเจรจาธุรกิจล่วงหน้า เพื่อใช้เวลาในการเข้าร่วมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระชับและรวดเร็วขึ้น

 

อีกทั้งยังคงสานต่อโครงการ Thai MICE Connect หรือเว็บไซต์เครือข่ายพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการไมซ์ โดยเปิดให้ผู้ประกอบการโรงแรม สถานที่จัดงาน ผู้จัดงาน สมัครเข้าร่วมและให้ข้อมูลเพื่อประชาสัมพันธ์ธุรกิจและบริการบนเว็บไซต์ฟรี ขณะนี้มีสถานประกอบการทั่วประเทศสมัครเป็นสมาชิกกว่า 7,600 ราย

                ช่วงที่ 2 ไม่ต้องเดี๋ยวออกเที่ยวไทยมุ่งหน้าไปเมืองชายทะเลตะวันออก “ระยอง..ฮิ” ขอบอกว่าจังหวัดนี้มีสถานที่พักผ่อนสโลว์ไลฟ์ กระจายอยู่ทั่วทั้ง 8 อำเภอ ทั้ง หาดทรายสวย น้ำทะเลใส เกาะมหัศจรรย์ ในอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด” รอต้อนรับอย่างปลอดภัย ส่วนข่าวใหม่มาแรง “ไทยแอร์เอเชีย” ยึดหัวหาดสนามบินหัวหิน ขอเปิดบินข้ามภาค จากอุดรธานี และเชียงใหม่ สัปดาห์ละ 2 เที่ยว นำชาวอีสาน และเหนือ มาเที่ยวทะเลอ่าวไทย ขณะที่ “สวนสามพราน” เปิดแล้วท่องเที่ยวเกษตรอินทรีย์รอบหมู่บ้านปฐม วิลเลจ  3 เส้นทาง “ข้าว-กล้วย-สมุนไพรไทย” ชวนกันมาเรียนรู้วิถีใหม่ได้ครอบครัว

 “ระยอง”เปิดทะเลสวยหาดงามเกาะมหัศจรรย์รอคืนความสุขทุกวัน

 

เมื่อธรรมชาติฟื้นฟูตัวเองจนสมบูรณ์เพื่อเปิดประตูต้อนรับผู้คนกลับมาเยือนได้แล้ว วันนี้ “ระยอง” จังหวัดท่องเที่ยวเมืองชายทะเลภาคตะวันออก มีเกาะสวย ๆ หาดทรายงาม ๆ มีขนาดเศรษฐกิจจากผลิตภัณฑ์มวลรวมใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ มีประชากรอยู่อาศัยรวมกันไม่ถึง 1 ล้านคน มีสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนกระจายตัวอยู่ทั่วทั้ง 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองระยอง บ้านฉาง แกลง วังจันทร์ บ้านค่าย ปลวกแดง เขาชะเมา และนิคมพัฒนา

 

“สถานที่ท่องเที่ยว” ในระยองตอนนี้สวยงามมากกว่าเดิมสามารถมาเที่ยวได้ทุกเวลา สวยในมุมแตกต่างกันไป ถึงแม้จะอยู่ในเขตอำเภอเมือง แต่ระยะห่างทางสังคมของทำเลที่ตั้งแหล่งท่องเที่ยวเกาะนั้นอยู่ห่างใจกลางเมืองนับร้อยกิโลเมตร อย่าง อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ไฮไลต์อยู่ตรง “เกาะเสม็ด” เกาะขาม เกาะทะลุ เกาะกุฎี เกาะกรวย เกาะปลาตีน เหมาะกับการพักผ่อนวิถีใหม่แบบสโลว์ไลฟ์ แถมมีกิจกรรม FIN FUN ทางทะเลโดยเฉพาะการดำดิ่งลงสู่ทะเลส่องโลกใต้น้ำลึก ทักทายฝูงปลา ปะการัง หลากสี ชูช่อพลิ้วไหว เป็นความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติพร้อมมอบให้นักท่องเที่ยวทุกคน

 

เพื่อมอบความสุขให้หายคิดถึงตั้งแต่รัฐบาลคลายล็อกดาวน์การเดินทาง “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง” ร่วมมือกับภาคธุรกิจทำแคมเปญ “ดำน้ำ 3 เกาะตามหาผีเสื้อสมุทร” เปิดตัวมาตั้งแต่ 1 กรกฎาคม ไปจนถึง 30 กันยายน 2563 ด้วยโปรโมชั่นแรง ๆ กระตุกต่อมคนอยากเที่ยว “เกาะเสม็ด” โดยร่วมกับมือถือ 2 ค่าย คือ AIS กับ TRUE เชิญชวนรับส่วนลด 2,000 สิทธิ์ ตามร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการกับ ททท. 40 แห่ง เมื่อนักท่องเที่ยวมากินอาหารตามร้านที่ระบุมื้อละ 500 บาทขึ้นไป กดรับรหัสจากค่ายมือค่ายใดค่ายหนึ่งรับส่วนลดทันทีมื้อละ 200 บาท แถมยังให้สิทธิ์รายบุคคลคุ้มสุดคุ้ม เช่น ถ้ามาเที่ยวเป็นครอบครัว 4 คน แล้วกินอาหารรวมมื้อละ 2,000 บาท แต่ละคนสามารถกดรับสิทธิ์ส่วนลดได้คนละ 200 บาท เท่ากับลดไปเลยมื้อเดียวมากถึง 800 บาท

 

ขณะที่ “ราคาห้องพักเกาะเสม็ด” ตอนนี้พักได้กำลังจ่ายมีให้หลากหลายตั้งแต่คืนละ “หลักร้อยบาทไปจนถึงหมื่นบาท” ถ้าเป็นห้องพักไม่ติดทะเลเริ่มที่ราคา 800 บาท/ห้อง/คืน ห้องติดทะเลและหรูหรามาก ๆ ก็จ่ายหลักพันบาท-หมื่นบาทขึ้นไป

 

จากเกาะเสม็ดลองดูข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวแนะนำ “อำเภอแกลง” เที่ยวหาดทรายชายทะเลสงบ เรียบง่าย มีเรื่องราวให้ค้นหาอย่าง “แหลมหรือหาดแม่พิมพ์” มีหาดทรายทอดยาวให้เดินชีล ๆ ถึง 4 กม. ระหว่างทางมี “รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม” ให้สักการะ ปิดท้ายด้วย “ตลาดอาหารทะเลสดริมหาด” ของเหล่าพ่อค้าแม่ขายนำ กุ้ง หอย ปู ปลา หมึก สด ๆ ขึ้นจากท่าเรือมาเสิร์ฟหรือทำเมนูให้ลิ้มรสซีฟู้ดพร้อมน้ำจิ้มรสแซบแบบสุด ๆ กันไปเลย

 

หรือผู้ที่ชอบบรรยากาศวิถีการใช้ชีวิตอย่างช้า ๆ เงียบสงบ ต้องมา “ชุมชนปากน้ำแส” ถิ่นอาศัยของชาวประมงพื้นถิ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ สามารถล่องเรือออกทะเล หรือจะไปชมทุ่งโปรงทองสีเหลืองทองอร่าม เชื่อมต่อไปยังศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และแหล่งท่องเที่ยวใกล้ ๆ ก็มีชายหาดแหลมสน อยู่ด้วย

 

ชาวหาดแม่พิมพ์ ชุมชนคนปากน้ำประแส พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนทุกกลุ่มทุกวัยทุกวันทุกเวลา

 

อีกทั้งยังมีหาดทรายชายทะเลอำเภอต่าง ๆ ปรับตัวปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยสาธารณสุขทุกขั้นตอน เช่น อำเภอบ้านฉาง มีหาดพยูน หาดน้ำริน อำเภอเขาชะเมา ก็มีอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ น้ำตก ป่า ภูเขา ถ้ำต่าง ๆ ทางอำเภอนิคมพัฒนา มีสถานที่ท่องเที่ยวแหล่งเรียนรู้ที่น่าสนใจคือ “สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” หรือวัดศักดิ์สิทธิ์ อย่างวัดเขาโพธิ์ วัดจอมแห ศาลเจ้าหลวงเตี่ย

 

ตลอดการท่องเที่ยวสีเขียว “หน้าฝนหรือกรีนซีซัน” นับจากกรกฎาคมไปจนถึงกันยายน นี้ ททท.สำนักงานระยอง กับกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวระยองเองได้จัดทำปฏิทินคืนความสุขเพื่อให้ได้หายคิดถึง กระทั่งชวนมาให้ถึง ไว้ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม 2563 อีกแคมเปญคือ SEAFOOD MONTH : เทศกาลกินอาหารทะเลอย่างสนุกสนาน” ใช้ได้ทั่วจังหวัดระยอง ระหว่างวันนี้-31 สิงหาคม 2563 เมื่อนักท่องเที่ยวจองพักโรงแรม/รีสอร์ต ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย รับส่วนลดทันที 200 บาท พร้อมคูปองกินอาหารทะเลสดอร่อยมูลค่าอีก 100 บาท/ห้อง

                คิดถึง “ระยอง” วันไหน ออกเดินทางขับรถมาเที่ยวได้ทุกเวลา เลือกแหล่งท่องเที่ยวที่ชอบในพื้นที่ที่ใช่จริตการพักผ่อนของเราในมุมใหม่ทั้ง 8 อำเภอ รอคนไทยมาทักทายในสไตล์ FIN FUN ตะวันออก สะดวกเมื่อใดไม่ต้องเดี๋ยวออกมาเที่ยวได้ทันที

ข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก แอร์เอเชียยึดสนามบินหัวหินเพิ่มบินข้ามภาค2เมืองอุดร/เชียงใหม่

นายทวี เกศิสำอาง อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เปิดเผยว่าสายการบินไทยแอร์เอเชียได้ขอเปิดบินประจำ 2 เส้นทางใหม่ เข้า-ออก สนามบินหัวหิน จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป จากอุดรธานี และเชียงใหม่ เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวควบคู่การอำนวยความสะดวกการเดินทางให้ผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางข้ามภาคได้รับความสะดวกสบายและประหยัดเวลาการเดินทางจากภาคเหนือ ภาคอีสาน มายังภาคใต้  ประกอบด้วยเที่ยวบินดังต่อไปนี้

 

เที่ยวบิน FD3910 หัวหิน – อุดรธานี ออกเวลา 11.30 น. ถึงเวลา 12.55 น. (ศุกร์, อาทิตย์) เที่ยวบิน FD3911 อุดรธานี – หัวหิน ออกเวลา 13.25 น. ถึงเวลา 14.40 น. (ศุกร์, อาทิตย์)

 

เที่ยวบิน FD3900 เชียงใหม่ – หัวหิน ออกเวลา 9.40 น. ถึงเวลา 11.00 น. (ศุกร์, อาทิตย์) เที่ยวบิน FD3901 หัวหิน – เชียงใหม่ ออกเวลา 15.10 น. ถึงเวลา 16.30 น. (ศุกร์, อาทิตย์)

 

ข่าวที่สอง “สวนสามพราน”เปิดแล้วทัวร์เกษตรอินทรีย์3เส้นทาง”ข้าว-กล้วย-สมุนไพร

นายอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สวนสามพราน รีสอร์ต จังหวัดนครปฐม ผู้บุกเบิก “สามพราน โมเดล” เปิดเผยว่า ตั้งแต่กรกฎาคม 2563 ได้กลับมาเปิดบริการท่องเที่ยวเชิงเกษตรอินทรีย์โดยมีกิจกรรมรองรับกลุ่มตลาดครอบครัว สามารถพาลูก ๆ เข้ามาเรียนรู้ได้ในบริเวณปฐม วิลเลจ ตอนนี้เปิดแล้ว 3 เส้นทาง ได้แก่

เส้นทางที่ 1  “ข้าวออร์แกนิก” สามารถปลูกในกระถางได้ผลผลิตมากถึง 1 กก.หรือจะไปทดลองดำนา เกี่ยวข้าว นำมาโม่เป็นแป้งแปรรูป

 

เส้นทางที่ 2  “กล้วยออร์แกนิก” สามารถนำไปแปรรูปได้สารพัด ทั้งรับประทานผล หรือทำน้ำหมัก ใบตอง นำไปห่อขนม ซึ่งมีเส้นทางมาเชื่อมต่อด้วยกัน จะเปลี่ยนตามฤดูกาล

 

เส้นทางที่ 3  “สมุนไพรออร์แกนิก” จะมีแปลงสมุนไพรไทยหลายชนิด สอนทำผลิตภัณฑ์ง่าย ๆ จาก ตะไคร้ ใบเตย มะกรูด และอื่น ๆ นำมาทำเครื่องหอมต่าง 

 

เนื่องจากบริเวณปฐมวิลเลจ เป็นพื้นที่เปิด สามารถพาเด็ก ๆ ในครอบครัวมาทำกิจกรรมเรียนรู้วิถีชีวิตไทยได้

 

ส่วนมาตรการรับมือการกลับมาของไวรัสโควิด-19 รอบสอง ต้องพร้อมจะเผชิญ และต้องหาแนวทาง เพราะรอบแรกยังพอมีเงินเก็บ และภาครัฐสนับสนุนงบประมาณ แต่รอบสองจะทำให้ทุกคนเหนื่อย หวังว่าคนไทยในประเทศยังพึ่งพากันได้ จึงต้องขอให้ทุกคนช่วยกันป้องกัน ดูแล อย่าให้มีรอบสอง

 

สถานการณ์จะมั่นใจได้ต้องมีวัคซีน แล้วจึงค่อยทยอยเปิดรับคู่ท่องเที่ยวจากตลาดต่างประเทศ ตอนนี้ขอให้คนไทยและคนที่เคยเที่ยวต่างประเทศที่มีเงินหันมาเที่ยวเมืองไทยกันก่อน ช่วยดูแลกันเองไปสักระยะจนกว่าสถานการณ์จะดีคลี่คลายจนแน่ใจ เพราะอย่างน้อยไทยยังมีอาหารในประเทศเพียงพอเลี้ยงดูประชากรมากเพียงพอ และการท่องเที่ยววิถีใหม่ การได้เรียนรู้วิถีพอเพียงทางด้านการเกษตรจะยิ่งช่วยทำให้เด็ก ๆ ที่จะเติบโตมาในอนาคตได้เข้าถึงความเรียบง่ายอย่างแท้จริง

 

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai