ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ตะวันออกอัดแคมเปญสุดฮ็อตเพิ่มรายได้โค้งสุดท้าย9จังหวัด ปลุกขายคิดถึงอ้อมกอดธรรมชาติ6เส้นทางบูมเที่ยววันธรรมดาปี64

 

ททท.ตะวันออกอัดแคมเปญสุดฮ็อตเพิ่มรายได้โค้งสุดท้าย 9 จังหวัด

ปลุกขายคิดถึงอ้อมกอดธรรมชาติ6เส้นทางบูมเที่ยววันธรรมดาปี64

วิบูลย์ นิมิตรวานิช 

ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

“วิบูลย์ นิมิตรวานิช” ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  เร่งเครื่องกระตุ้นท่องเที่ยวส่งท้ายปี’63 อัดแคมเปญชุดใหญ่ใน 9 จังหวัด โหม “เที่ยวเชิงผจญภัย” ในนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว “ตลุยชุมชนเทรนด์ใหม่พายSUB” จันทบุรี จัดเต็ม “คาราวานบิ๊กไบค์” เฮไประยอง เช็คอิน “แหลมมะขาม8ว้าว” ตราด “Hot Deal Pattaya&Chonburi” ปั๊มรายได้พัทยา ชลบุรี “ไหว้พระพิฆเนศ-คิดถึงก๊วนชวนตีกอล์ฟ” ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ เดินหน้าเพิ่มรายได้ส่งท้ายปีด้วยโปรเจ็กต์ “คิดถึงอ้อมกอดธรรมชาติ 6 เส้นทาง” ปลุกกระแสคนทั้งประเทศ แห่เที่ยววันธรรมดาทั่วไทยปี’64

 

นายวิบูลย์ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จัดทำแผนกระตุ้นตลาดโดยมอบหมายให้ 6 สำนักงาน 9 จังหวัด จับมือผู้ประกอบการเร่งขายท่องเที่ยวเชิงรุกช่วงสิงหาคม-กันยายน 2 เดือนสุดท้ายปีงบประมาณ 2563 ปูพรมต่อยอดกิจกรรมต่าง ๆ ไปถึงปีงบประมาณ 2564 ซึ่งจะเริ่มเดือนตุลาคม 2563 นี้เป็นต้นไป ตอนนี้เดินหน้ากลยุทธ์ขายการท่องเที่ยวหน้าฝน (Green Season) เต็มรูปแบบ ประกอบด้วย

 

“นครนายก-ปราจีนบุรี-สระแก้ว” บูมขายการท่องเที่ยวผจญภัยทางธรรมชาติ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวกลุ่มต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกิจกรรมล่องแก่งแม่น้ำนครนครนายก   โดดหอโรยตัว ยิงธนู เล่นเพนต์บอล ที่โรงเรียนนายร้อย จปร. และแก่งหินเพลิง ชมผีเสื้ออุทยานแห่งชาติปางสีดา ปราจีนบุรี


“ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ” ก็มีกิจกรรมให้เลือกหลากหลาย ไฮไลต์คือ 1.เส้นทางไหว้พระพิฆเนศปางต่าง ๆ พร้อมรับพาสปอร์ตคูปองส่วนลด 200 บาท 2.คิดถึงก๊วน...ชวนตีกอล์ฟ 3.ท่องเที่ยวเมืองโบราณ ชมช้างสามเศียร เอราวัณ 4.สนุกกับการเลือกกินอาหารจานโปรด

 

“พัทยา(ชลบุรี)” ททท.พัทยา จับมือกับโรงแรม ร้านอาหาร จัดโปรโมชั่นแคมเปญ “TAT HOT DEAL @PATTAYA & CHONBURI” เฟส 2 กระหน่ำลดราคาห้องพัก อาหาร สปา และอื่น ๆ สูงสุดถึง 50 % เริ่มตั้งแต่วันนี้-15 กันยายน 2563 เข้าไปเลือกช้อปแคมเปญนี้ได้ที่ DEAL NEAR ME แอพลิชั่น shopee  รวมทั้งแคมเปญกระตุ้นท่องเที่ยววันธรรมดา วันหยุด ทะเลพัทยา บางแสน เกาะล้าน ในราคาลดพิเศษสุด ๆ

“ระยอง-จันทบุรี-ตราด” เริ่มจาก “ระยอง” ลุยจัดมหกรรม  Ride to the Beach ชวนกลุ่มบิ๊กไบค์ทั่วประเทศขับรถเที่ยวระยอง เพื่อทำกิจกรรมซีเอสอาร์กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว สภาอุตสาหกรรม ชมรม สมาคมท่องเที่ยว และชุมชน ช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2563 ร่วมปลูกหญ้าทะเลที่ชุมชนปากน้ำประแสร์ แล้วไปชมทุ่งโปรงทอง

 

“จันทบุรี” เปิดไฮไลต์การท่องเที่ยว “พาย SUB ท่องนทีเชื่อมวิถีสองชุมชน” ที่ชุมชนบางสระเก้า-ชุมชนขนมแปลกริมคลองหนองบัว ช่วงริเริ่มนำร่องทำจะรับนักท่องเที่ยวครั้งละจำนวนจำกัด วันที่ 29-30 สิงหาคม นี้ รับ 36 คน และ 12-13 กันยายน นี้ รับแค่ 28 คนเท่านั้น ราคาคนละ 6,400 บาท เรื่อยไปจนถึงกิจกรรมทางน้ำอย่างวินเซิร์ฟ ท่องเที่ยวหาดสวย ๆ เที่ยวน้ำตกเขียวขจีหน้าฝน และธรรมชาติอื่น ๆ

 

“ตราด” ชวนไปเช็คอินที่ “แหลมมะขาม” กับกิจกรรม More Fun สุดว้าว 8 อย่าง คือ 1.งมหอยปากเป็ด/หอยราก 2.นั่งซาเล้งเจอร์ทัวร์รอบชุมชน 3.กินกะพอกสำรับกับข้าวพื้นบ้าน 4.เยี่ยมบ้านหุ่นไม้กระดาน 5.ดูการจักสานคลุ้มใบจาก 6.เที่ยววัดแหลมมะขาม จุดศูนย์รวม 3 ศาสนา 7.ตามรอยเสด็จฯ พระพุทธเจ้าหลวง 8.ร่วมประสบการณ์ชุมชนวิถีใหม่ New Normal

               

ผอ.วิบูลย์กล่าวว่าช่วงปลายเดือนสิงหาคม-กันยายน 2563 ททท.ตะวันออก จับมือกับพันธมิตร 6 ราย จัดคาราวานขับรถท่องเที่ยวกระตุ้นตลาดในประเทศส่งท้ายปีงบประมาณ 2563 โดยจัดทำโครงการ “คิดถึงอ้อมกอดธรรมชาติ 6 เส้นทาง” ประกอบด้วย เส้นทางที่ 1 ร่วมกับนิตยสารแม่บ้าน นำเที่ยว บางแสน จ.ชลบุรี ระหว่าง 29-30 สิงหาคม เส้นทางที่ 2 ร่วมกับซันไชน์ นำเที่ยวนครนายก ระหว่าง 5-6 กันยายน เส้นทางที่ 3 ร่วมกับ SME นำเที่ยวจันทบุรี ระหว่าง 5-6 กันยายน เส้นทางที่ 4 ร่วมกับ FM 99 อสมท.นำเที่ยวจันทบุรี-ตราด ระหว่าง 11-13 กันยายน เส้นทางที่ 5 ร่วมกับเที่ยวไทย และพันธมิตร นำเที่ยว ระยอง-ชลบุรี 12-13 กันยายน เส้นทางที่ 6 ร่วมกับ 108 ทริป นำเที่ยวฉะเชิงเทรา-ปราจีนบุรี ระหว่าง 26-27 กันยายน 2563          

 

สำหรับโครงการ “คิดถึงอ้อมกอดธรรมชาติ 6 เส้นทาง” ททท.ตั้งเป้าหมายเพิ่มการกระจายรายได้ จ้างงาน สร้างอาชีพ เข้าไปยังชุมชนท้องถิ่นมากขึ้น หลังจากธุรกิจขาดรายได้เพราะต้องหยุดชั่วคราวช่วงไวรัสโควิด-19 นานถึง 3 เดือน ระหว่างเมษายน-พฤษภาคม ที่ผ่านมา

                สถานการณ์โดยภาพรวมของการท่องเที่ยวภาคตะวันออกปี 2563 ตอนนี้โรงแรมที่พักทยอยเปิดบริการแล้ว ได้แก่ พัทยา (ชลบุรี) เปิดประมาณ 30 % ยังคงมีโรงแรมบางแห่งที่เคยรับตลาดต่างประเทศรอจังหวะเปิดอีกครั้ง ระยอง จันทบุรี นครนายก เปิดครบ 100 % เช่นเดียวกับฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ ตราด ก็ทยอยกลับมาเปิดเพิ่มขึ้น ประการสำคัญผู้ประกอบการโรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่ง พร้อมใจกันสมัครเข้าร่วมรับตราสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยหรือ Safty and Health Administration : SHA สร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม

 

                ผอ.วิบูลย์กล่าวเพิ่มว่า ขณะนี้ได้วางแผนทำตลาดท่องเที่ยวต่อเนื่องปี 2564 เน้นกระตุ้นการขายโครงการ “วันธรรมดา น่าเที่ยว” ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนเต็มที่ พุ่งเป้ารุกเจาะกลุ่มกำลังซื้อหลัก ได้แก่ นักท่องเที่ยวผู้สูงวัย คนทำงานอาชีพอิสระ ผนวกเข้ากับจุดแข็งของธีม “More Food & Fun ตะวันออก” ควบคู่การระดมความร่วมมือจากพันธมิตรผู้ประกอบการท่องเที่ยวโหมทำแคมเปญ Hot Deal ออกมาเป็นระยะ ๆ ตามฤดูกาล ซึ่งมีทั้งแหล่งท่องเที่ยว อาหารการกิน สวนผลไม้ เดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์อัดโปรแรงเพิ่ม2แคมเปญไม่มีไฟลต์บินก็ช้อปได้

กลุ่มบริษัท คิง เพาแวอร์ กระหน่ำอัดฉีดเพิ่ม2 แคมเปญ ชวนซื้อสินค้าได้เต็มที่ไปกับ“คนไทยไม่มีไฟลต์ก็ช้อปได้”

แคมเปญแรก “รับคูปองส่วนลด 1,500 บาท” ที่คิง เพาเวอร์ พัทยา ระหว่างวันนี้-23 สิงหาคม 2563 โดยเลือกรับฟรีคูปองส่วนลดต่อคนต่อวัน ช้อป 1,000 บาทขึ้นไป รับ 500 บาท ช้อป 2,000 บาทขึ้นไป รับ 1,000 และช้อป 3,000บาทขึ้นไป รับ 1,500 บาท

 

กติกาการรับสิทธิ์ จำกัด 1 สิทธิ์ / คน / วันเฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ ตรวจสินค้าร่วมรายการเพิ่มเติม ณ จุดขายไม่สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดสมาชิก คิง เพาเวอร์คูปองส่วนลดหมดอายุภายในวันที่ทำการแลกรับคูปองนี้ไม่สามารถแลกคืน หรือทอนเป็นเงินสดไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์ Birthday Celebration, ยอดเงินในบัญชีสมาชิก, E-Cash, Gift Card, Gift Voucher, Cash Voucher, รวมถึงคูปองส่วนลดอื่นๆ

 

แคมเปญที่ 2 รับส่วนลดฟรีไม่มีค่าสมัคร เพื่อร่วมช้อป “ไม่ได้ต้องมีไฟลต์บิน ก็ฟินได้” เฉพาะคนไทย รับสิทธิพิเศษ สถานะ Free Trial ระหว่างวันนี้ 31 สิงหาคม 2563 ช้อปปุ๊บครบ 1,000 บาทขึ้นไป ได้สิทธิ์เป็นสมาชิก คิง เพาเวอร์ ปั๊บ เพื่อรับส่วนลด 5 %  แล้วจากนั้นจะต้องเข้าไปลงทะเบียนภายใน 30 วัน ได้ที่คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา หรือลงทะเบียนทาง www.kingpower.com

 

สิทธิ์ที่จะได้รับคือ 1.ส่วนลดสมาชิก Free Trial 5% สามารถใช้ซื้อสินค้า Duty Free และสินค้าป้ายฟ้าได้ (เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ) ยกเว้นแผนกสุรา และบุหรี่ 2.ใช้ได้ที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา (ยกเว้น www.kingpower.com)  3.ลูกค้าที่ลงทะเบียนรับสถานะสมาชิก Free Trial 5% สามารถสะสมยอดซื้อได้ 30 วัน หลังจากวันลงทะเบียน สะสมยอดซื้อครบ 1,000 บาท รับสถานะเป็นสมาชิก NAVY (ส่วนลด 5%), สะสมยอดซื้อครบ 6,000 บาท รับสถานะเป็นสมาชิก SCARLET (ส่วนลด 10%), สะสมยอดซื้อครบ 60,000 บาท รับสถานะเป็นสมาชิก ONYX (ส่วนลด 15%)สถานะสมาชิก คิง เพาเวอร์ ที่ได้รับจากรายการส่งเสริมการขายนี้ มีอายุสมาชิก 1 ปีนับการสะสมยอดซื้อจากการซื้อสินค้าที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา (ไม่รวมยอดซื้อผ่าน www.kingpower.com)

 

ข่าวที่ 2 สมาชิกคิงเพาเวอร์ซื้อบัตรอาหารมหานครสกายบาร์รับคูปองช้อปฟรี

 

สมาชิก คิง เพาเวอร์ อร่อยมื้อพิเศษ พร้อมช้อปแบบไม่ต้องง้อไฟลต์ เมื่อซื้อบัตรรับประทานอาหาร มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ อาคาร คิง เพาเวอร์ มหานคร ตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2563

เริ่มจาก “มื้อกลางวัน Lunch Set  คนละ 2 คอร์ส  มูลค่า 550 บาท จากราคาปกติ 850 ++ บาท รับฟรีคูปองช้อปปิ้งมูลค่า 550 บาท (สำหรับช้อป 6,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ) เปิดทุกวัน 11.30 - 15.00 น.

ต่อด้วย มื้อค่ำ Dinner Set” คนละ 4 คอร์ส  มูลค่า 1,450 บาท จากราคาปกติ 1,800 ++ บาท รับฟรีคูปองช้อปปิ้งมูลค่า 1,450 บาท (สำหรับช้อป 12,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ) เปิดทุกวัน17.00 - 01.00 น.

พร้อมขึ้นชมวิวกรุงเทพฯ แบบ 360 องศา ที่ มหานคร สกาย วอล์ค

วิธีซื้อและใช้บัตรรับประทานอาหาร: 1.สามารถซื้อบัตรรับประทานอาหารได้ที่ จุดบริการสมาชิก ชั้น 1 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และร้านอาหาร มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ คิง เพาเวอร์ มหานคร  2.สำรองที่นั่งล่วงหน้าก่อนใช้บริการได้ที่โทร 02-677-8722 และ 3.รับสิทธิ์ในการขึ้นชม มหานคร สกายวอล์ค ได้

 

ข่าวที่ 3 ททท.เร่งเครื่องต่อยอด”คิดแล้วไปให้ถึง”แจกทัวร์ไทย125คู่5เส้นทาง

 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จับมือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน ) และสายการบินในประเทศ  เปิดตัวแคมเปญ “คิด..แล้วไปให้ถึง” ต่อยอดจากภาพยนตร์โฆษณาท่องเที่ยว ททท.ของดาราคู่ขวัญ "เบลลา-เวียร์" ซึ่งพบกระแสตอบรับดีมาก โดยล่าสุดสามารถสร้างการรับรู้ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียสูงกว่า 15 ล้านวิว  ททท. จึงมีลุยทำแคมเปญสื่อสารต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมสร้างความเชื่อมั่นและสร้างบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ผ่านกลยุทธ์ความร่วมกับพันธมิตร (Strategic Alliance) สายการบินในประเทศ สถานีบริการน้ำมัน เพื่อให้เกิดการเดินทางและการกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างแท้จริง

 

            “ตอนนี้คนไทยยังคงนิยมเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดและวันหยุดยาวเป็นหลัก ททท.จึงเร่งจะหาแนวทางกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว "วันธรรมดา" เพิ่มมากขึ้น โดยจะจัดโปรโมชั่นดึงดูดใจมากขึ้น มุ่งเน้นการเจาะ  3 กลุ่มเป้าหมาย 1.นักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ   ซึ่งมีปีละ 12 ล้านคน 2.กลุ่มต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทย 2 ล้านคน และ 3.กลุ่มจัดประชุมสัมมนา 1 ล้านคน

 

            รวมทั้งจัดกิจกรรม "คิดแล้วไปให้ถึง Exclusive Trip" เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ โดยคัดเลือกผู้โชคดี 125 คู่ ใน 5 เส้นทาง คือ สมุย กาญจนบุรี ระยอง อุบลราชธานี และเชียงใหม่ โดยพันธมิตรร่วมของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ คือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ร่วมสนับสนุนโดยมอบบัตรเติมน้ำมันบางจาก ให้กับผู้โชคดีที่ร่วมเดินทาง   5 เส้นทาง  125 รางวัลๆ ละ 1,000 บาท มูลค่ารวม 125,000 บาท เพื่อต่อยอดให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต 

ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม Exclusive Trip เพียงแค่ร่วมแชร์ Link VDO โฆษณา “คิด...แล้วไปให้ถึง” ความยาว 60 วินาที ไปที่เฟซบุ๊กของตัวเอง ตั้งค่าเป็นสาธารณะ (Public) บรรยายความรู้สึกคิดถึงเมืองไทย   ในแบบของตัวเอง พร้อมติดแฮชแท็ก #คิดแล้วไปให้ถึง และนำ Link ไปใส่ใต้โพสต์เส้นทางที่อยากไปร่วมทริปในครั้งนี้  โดยร่วมกิจกรรมได้ทางเฟซบุ๊กเพจ amazing ไทยเท่ ตั้งแต่วันนี้ถึง 28 สิงหาคม 2563

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : amazing ไทยเท่ หรือ 1672

 

ข่าวที่ 4 ททท.ใต้ผนึกเชฟนิกบูมทัวร์อาหารถิ่นลุยเพิ่มรายได้ชุมชนส่งท้ายปี

 

นายนิธี สีแพร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จัดกิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยวตลาดในประเทศผ่านโครงการเชิญชิมอาหารโดยร่วมมือกับ“เชฟนิก-ณัฏฐพล ภวไพบูลย์” ผู้ก่อตั้ง NEIGHBOUR FOODS ทำแคมเปญชีพจรลง SOUTH เข้าถึง…อาหารใต้” นำร่องชวนไปชิมที่จังหวัดชุมพร เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชน โดยแนะนำอาหารถิ่นส่งตรงถึงบ้าน 5 เมนู ”

โดยใช้กลยุทธ์นำผู้มีอิทธิพลต่อสังคมด้านอาหาร หรือ Influencer ร่วมเดินทางสร้างประสบการณ์แปลกใหม่หลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ชวนคนในประเทศหันมาท่องเที่ยวภาคใต้ ควบคู่กับการเพิ่มมูลค่าอาหารใต้ด้วยวิธีเปิดช่องทางการขายอาหารที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเป็นส่วนประกอบหลักเพื่อกระจายเม็ดเงินสู่ชุมชนให้เข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว สร้างความเข้มแข็งให้ยกระดับเป็นชุมชนพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนในอนาคต

            เชฟนิก-ณัฎฐพล ภวไพบูลย์ เจ้าของ Neighbour Foods ได้จัดเป็นเซ็ทข้าวกล่องชุมพร เปิดให้ผู้ที่ชื่นชอบอาหารรสจัดสามารถสั่งเดลิเวอรี่ได้แล้ว 5 เมนูหลัก ​1.ใบเหลียงสุดจะไข่ 2.ข้าวผัดโคตรจะปู 3.สะตอผัดกุ้ง 4.ปลาทรายทอดขมิ้น 5.แกงใต้ พร้อมยืนยันความมั่นใจทุกคำของความอร่อยมาจากวัตถุดิบส่งตรงจากท้องถิ่น และทุกออเดอร์หมายถึงรายได้ที่จะกลับคืนสู่ชุมชน ตั้งเป้าหลังเปิดแคมเปญภายใน 3 เดือน ระหว่างสิงหาคม-ตุลาคม นี้  จะมีผู้ประกอบการในท้องถิ่นเข้าร่วมกว่า 10 ราย พร้อมจะมีรายได้สู่ชุมชนไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท

            สำหรับ 5 เมนูเด็ด สามารถสั่งเดลิเวอรี่เซ็ท #ข้าวกล่องชุมพร ล่วงหน้า 1 วัน ได้ทาง Line @neighbourfoods โดยเลือกอร่อยได้ 2 แบบ แบบที่ 1 เลือกได้ 2 เมนู (ยกเว้นข้าวผัดโคตรจะปู) ราคา 320 บาท/กล่อง และแบบที่ 2 ข้าวผัดโคตรจะปู+1 เมนู 380 บาท/กล่อง พิเศษ!! 1,000 กล่องแรก รับผ้าคลุมดีไซน์พิเศษลวดลายเกลียวคลื่นชุมพร

ทั้งนี้ ททท.ภูมิภาคภาคใต้ เชิญ “เฟิร์น” ศุภนารี สุทธิวิจิตรวงษ์ เจ้าของเพจ Supanaree story มีผู้ติดตามกว่า 550,000 คน นำร่องทริปแรก 2 วัน 1 คืน ที่ชุมพร ปักหมุดท่องเที่ยวจุดชมวิวบนเขามัทรี ไหว้เจ้าแม่กวนอิม ดื่มกาแฟถ้ำสิงห์ บุกครัวบ้านผู้ใหญ่ ทำผ้าบาติกกับกลุ่มบาติกผาแดง ดำน้ำดูปะการังที่เกาะง่ามน้อย-ง่ามใหญ่ กินปูห้อยขา นั่งเรือออกไดหมึกยามราตรี นอนโฮมสเตย์

ข่าวที่ 5 TAT Hot Deal @ Pattaya & Chonburiเฟส2ลดแรงทางแอพshopee

 

นางปิ่นนาถ เจริญผล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัทยา เปิดเผยว่า ร่วมกับเอกชนท่องเที่ยวในพื้นที่พัทยา ชลบุรี ขยายผลทำแคมเปญ TAT Hot Deal @ Pattaya & Chonburi เฟส 2 ระหว่างวันนี้ -15 กันยายน 2563 เพื่อปลุกกระแสตลาดในประเทศเลือกมาท่องเที่ยวพัทยา และชลบุรี ตามแนววิถีใหม่หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงไปมากแล้ว ตอนนี้ผู้ประกอบการกว่า 120 cแห่ง ทั้งโรงแรมที่พัก ร้านนวดแผนไทย สปา แหล่งกิน แหล่งท่องเที่ยว ร่วมมือกันอัดโปรโมชั่นลดต่อเนื่องสูงสุด 50%

นักท่องเที่ยวที่สามารถเข้ามาช้อปแคมเปญ TAT Hot Deal @ Pattaya & Chonburi  ผ่านช่องทางเฉพาะ”แอพพลิเคชั่น Shopee บนมือถือ ในหมวด "Deals Near Me"  เข้ามาช้อปได้เลยตั้งแต่วันนี้ - 15 ันยา2563 มาด่วน ๆ เลยเพราะเฟสสองจะรับจำนวนจำกัด จองซื้อจ่ายเงินแล้วสามารถเก็บไว้ใช้ได้จนถึง 24 ันวา2563 สิ่งที่จะต้องทำเมื่อซื้อคูปองแล้วนักท่องเที่ยวต้องติดต่อสถานประกอบการเพื่อยืนยันสิทธิ์ให้เรียบร้อยภายใน 7 วัน

สามารถวางแผนชวนเพื่อน คู่รัก ครอบครัว ชวนคนรัก มาร่วมสัมผัสประสบการณ์เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงดังระดับโลกของเมืองไทยได้ที่พัทยา และชลบุรี โปรโมชั่นดี ๆ คุ้มสุด ๆ ขนาดนี้ มีให้ช้อได้ที่ DEALS NEAR ME บนแอพลิเคชั่น Shopee ในมือถือเท่านั้น คลิกเลย!! https://bit.ly/TATHotDeal

 ข่าวที่ 6 บางจากหนุนเที่ยวเมืองไทยใช้บางจากแจกสิทธิ์แบบไม่ยั้ง1-31ธ.ค.นี้

นายชัยวัฒน์  โควาวิสารัช  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า บางจากฯ ร่วมกับ ททท. สนับสนุนการท่องเที่ยวไทยแคมเปญใหม่ล่าสุด “คิด...แล้วไปให้ถึง เที่ยวเมืองไทย ใช้บางจาก” เริ่มตั้งแต่ 1 กันยายน - 31 ธันวาคม 2563 โดยได้จัดเตรียมให้สิทธิประโยชน์มากมาย เพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนหันมาออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศตลอดครึ่งปีหลัง 2563

ตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ทางบางจากได้สนับสนุน ททท.กระตุ้นการท่องเที่ยวต่อเนื่องหลากหลายโครงการ เช่น Amazing Thailand โครงการวันธรรมดาน่าเที่ยว โครงการเที่ยวเมืองรอง  โครงการช่วยลดขยะพลาสติก ลด โลก เลอะ x รักษ์ ปัน สุข เพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว สร้างงาน   สร้างรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น และรักษาสิ่งแวดล้อมให้ยังคงสวยงามน่าเที่ยว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างยั่งยืนไปกับสิ่งแวดล้อมและสังคมของบางจาก

บางจากได้จัดเตรียมสิทธิประโยชน์มอบให้นักท่องเที่ยวที่เลือกเดินทางกับแคมเปญดังกล่าว ประกอบด้วย

1.สมาชิกบางจากเติมน้ำมันและใช้บริการในเครือบางจากแล้วรีบสะสมคะแนนเพื่อแลก Flash Saleเด็ดๆ นับพันรายการ เช่น ที่พักสุดหรูหลักหมื่นราคาหลักร้อย บัตรเติมน้ำมันบางจาก ร้านกาแฟอินทนิล    น้ำมันหล่อลื่น FURiO  บริการล้างรถจากคาร์แคร์ในเครือบางจาก และอื่น ๆ

2.แสดงบัตรบางจากรับส่วนลด เครื่องดื่มอินทนิลแก้วที่สองลด 50% โรงแรมทั่วไทย สถานที่เที่ยว ร้านค้าและบริการต่างๆ อีกมากมาย     

3.พิเศษสุด บางจาก ออกบัตรสมาชิกรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นบายกะปิ (Limited Edition by Kapi) ศิลปินกราฟิกดีไซเนอร์ชื่อดังของเมืองไทย เพื่อใช้บัตรสื่อถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น 4 ภาค สมัครสมาชิกเพื่อรับบัตรรูปแบบใหม่นี้ได้ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากทั่วประเทศ ที่ร่วมรายการ

นายชัยวัฒน์กล่าวเพิ่มว่า บางจากได้ขยายและพัฒนาสถานีบริการน้ำมันต่อเนื่อง ล่าสุดมี 1,212 แห่ง พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่บางจากแก๊สโซฮอล์ S EVO FAMILY  ยกระดับ E20 S EVO เป็นน้ำมันคุณภาพพรีเมียมแต่จำหน่ายราคาเท่าเดิม นำนวัตกรรมระบบ Digital Payment ผ่านเครื่อง Mobile EDC Banking มาให้บริการในการชำระเงินค่าน้ำมันพร้อมกับการสะสมคะแนน ช่วยอำนวยความสะดวกและสอดคล้องวิถีชีวิตของสังคมไร้เงินสดด้วย

ส่วนของธุรกิจ Non-Oil ได้ขยายสาขาร้านกาแฟอินทนิลต่อเนื่องล่าสุดมีรวม 631 สาขา ซึ่งทั้งหมดนี้จะเชื่อมโยงและช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มความปลอดภัยและสร้างความสุขให้กับการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยได้เป็นอย่างดี  ติดตามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ www.bangchakmarketplace.com

ข่าวที่ 7 TCEB ภาคใต้ดึงพันธมิตรร่วมวง"ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า"


นายพัฒนชัย สิงหะวาระ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคใต้ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB  เปิดเผยว่า ได้เปิดตัวโครงการ “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” รณรงค์ให้พันธมิตรธุรกิจไมซ์ในพื้นที่ภาคใต้ ใช้สิทธิขอรับการสนับสนุนเงินเพื่อจัดงานไมซ์ หลังจากต้องเผชิญสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกที่ยังคงรุนแรง ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของนักธุรกิจไมซ์ โดยเฉพาะกลุ่มประชุมสัมมนาจากต่างประเทศไม่สามารถเข้ามาทำกิจกรรมในประเทศไทยได้

ทีเส็บจึงเร่งทำโครงการ “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” ส่งเสริมหน่วยงานรัฐและเอกชนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและกระจายรายได้ไปยังชุมชนในภูมิภาคต่าง ๆ ผ่านการจัดประชุมสัมมนาในประเทศ โดยให้การสนับสนุนงบประมาณการจัดงานแก่องค์กร บริษัท และผู้ประกอบการไมซ์ที่มีแผนจะจัดประชุม (Meetings) การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Incentives) งานสัมมนา (Seminars) การอบรม (Training) กิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) กิจกรรมพนักงานสัมพันธ์ (Outing) หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ใช้สถานที่ในประเทศ โดยภาพรวมตั้งเป้ามีหน่วยงานสมัครเข้าร่วมโครงการ 534 กลุ่ม สร้างรายได้หมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 235 ล้านบาท

 

ทีเส็บภาคใต้ ได้เปิดให้พันธมิตรที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด ขอรับการสนับสนุนได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 ตุลาคม 2563 และจะต้องยื่นขอรับการสนับสนุนล่วงหน้า 10 วัน ก่อนเริ่มทำกิจกรรม และจัดกิจกรรมให้เสร็จสิ้นภายใน 31 ธันวาคม 2563 สามารถสอบถามได้ที่สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคใต้ โทร.089-474-5253 หรือ Call Center 02-021-5515 หรือ www.thaimiceconnect.com

 

โดยได้กำหนดคุณสมบัติของผู้รับการสนับสนุน ประอบด้วย องค์กรเอกชน หรือบริษัทรับจัดการธุรกิจไมซ์ (Destination Management Company - DMC) บริษัทรับจัดประชุม บริษัทนำเที่ยว โรงแรมหรือสถานที่จัดงาน ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมต่างๆ ที่อยู่ภายใต้สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมทั้งโรงแรมหรือสถานที่จัดงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Thailand MICE Venue Standard (TMVS) หรือ ASEAN MICE Venue Standard (AMVS) หรือนิติบุคคลที่จัดตั้งตามกฎหมายไทย เช่น องค์กรและสมาคมที่จดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด และมหาวิทยาลัยเอกชน

 

        แบ่งการสนับสนุนเป็น 2 รูปแบบ คือ 1. สนับสนุนงบประมาณในรูปแบบบัตรกำนัล (Voucher) ไม่เกิน 15,000 บาทต่อกลุ่ม เพื่อจัดกิจกรรมภายใน 1 วัน (ไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง) และ 2. สนับสนุนงบประมาณในรูปแบบบัตรกำนัล (Voucher) ไม่เกิน 30,000 บาทต่อกลุ่ม เพื่อจัดกิจกรรมอย่างน้อย 2 วัน 1 คืน สามารถจัดนอกสถานที่ตั้งขององค์กรภายในจังหวัดหรือข้ามจังหวัด และมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่า 30 คนต่อกลุ่ม

 

                ช่วงที่ 2 ออกเที่ยวใกล้กรุงแบบสบาย ไปปักหมุดหยุดเที่ยวให้หายคิดถึงที่ “พิพิธภัณฑ์ปะพวน ปากพลี” ในวัดฝั่งคลอง อ.เมือง จ.นครนายก ย้อนดูวิถีชาวไทยพวนที่อพยพมาจากอาณาจักรเชียงขวางนับร้อยปี รอบพื้นที่มีบริการจัดนำเที่ยววิถีใหม่ในชุมชน แล้วฟังเรื่องดี ๆ “5 วิธีเลือกกินผักผลไม้ให้ถูกเทศกาล” ส่วนข่าวร้อนในรอบสัปดาห์ “DDการบินไทยยันยังมีเงินสดพอจ่ายเงินเดือน” ได้เกิน ต.ค.2563 “กรมท่าอากาศยาน”ลงพื้นที่ตรวจโปรเจ็กต์ “ขยายอาคารสนามบินนครศรีธรรมราช” หวังแอร์ไลน์แห่บิน โดยเฉพาะ “ไทยสไมล์” รอเปิด สุวรรณภูมิ-นครศรีธรรมราช ก.ย.2563 และ “เลือกแล้ว2นายกสมาคมท่องเที่ยวภูเก็ต” จับตาการโชว์ฝีมือฟื้นอุตสาหรรมพ้นวิกฤตโควิด-19

 

More Fun พิพิธภัณฑ์ปะพวน ปากพลี วัดฝั่งคลอง จ.นครนายก

 

การออกเดินทางไปหาประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ แถมได้ความรู้ ด้วยการ คิดถึงแล้วไปให้ถึง ทริปนี้ ขอแนะนำ เส้นทางท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่ “พิพิธภัณฑ์ปะพวน ปากพลี” ในอำเภอเมือง จังหวัดนครนายก เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในวัดฝั่งคลอง ได้ประยุกต์นำอาคารสองชั้น รวบรวมเรื่องราวของ "ชุมชนชาวพวน" ซึ่งอพยพย้ายถิ่นฐานมาจากอาณาจักรเชียงขวาง เข้ามามาตั้งถิ่นฐานอยู่นครนายกมนานับร้อยปี ตอนนี้ ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก กับ ททท.นครนายก สนับสนุนให้เป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน "ปะพวน ปากพลี" หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวชุมชน 60 เส้นทางความสุข

 

ไฮไลต์ที่เป็นกิมมิกชวนติดตามคือ การออกแบบวิธีเล่าโดยชูความเด่นของตัวละครเอกระหว่าง "เจ้าจอม นางกอย" ผู้ริเริ่มตำนานความรักร้อยเรียงบอกต่อกันมาจนถึงยุคลูกหลานของชาวไทยพวนอยู่จนถึงปัจจุบัน กระจายกันอาศัยอยู่ในไทยถึง 40 จังหวัด

 

ภายในพิพิธภัณฑ์ออกแบบห้องนำเสนอเรื่องราวอยู่ภายในอาคาร 2 ชั้น 

 

“ชั้นล่าง” ออกแบบเป็นอุโมงค์ยาวให้นักท่องเที่ยวเดินลอดโพรงไม้สีเขียว ผ่านเข้าไปจุดแรก จะได้เห็น “ประเพณีการบายศรีสู่ขวัญ”  ก่อนจะเริ่มนำเสนอความเป็นมาของชาวพวนด้วย วิดีโอสารคดีตำนารัก "เจ้าจอม นางกลอย" ไล่เรียงเป็นภาพนิทรรศการบนผนังปูน ร้อยเรื่องวิถีชีวิต อุปกรณ์การจับสัตว์น้ำมาเป็นอาหาร อุปกรณ์ทำครัวสมัยโบราณ ห้องแสดงภาพถ่ายเมนูอาหารถิ่นชาวไทยพวน

 

“ ชั้นสอง” แบ่งเป็น 3 ห้องย่อย “ห้องแรก” นำเสนอข้อมูลทางภูมิศาสตร์สมัยที่ชาวไทยพวนอพยพมาจากเชียงขวาง เมืองหลวงของอาณาจักรพวน และเรื่องราวความเป็นมาทั้งหมด “ห้องที่ 2 จัดแสดงภาชนะเครื่องลายคราม และห้องเจ้าอาวาสผู้ก่อตั้งวัดฝั่งคลอง “ห้องที่ 3 จัดแสดงเส้นทางท่องเที่ยวพร้อมจังหวัดนครนายก

 

                ปัจจุบันชาวไทยพวน 4 ชุมชน รวมตัวกัน จัดส่งเสริมการท่องเที่ยววืถีชีวิต มีกิจกรรมเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาร่วมสร้างประสบการณ์วิถีชีวิตใหม่ มาได้ทุกวัน

                พิพิธภัณฑ์ปะพวน แากพลี เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. ค่าบัตรเข้าชมคนไทยและต่างชาติจ่ายเท่ากัน คนละ 20 บาท สามารถติดต่อเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 081-458-8200 , 086-380-6461

 

5วิธีเลือกกินผักผลไม้ให้ถูกเทศกาลช่วยลดเสี่ยงลดสารเคมี

 

ผักและผลไม้  เป็นอาหาร  2  หมู่ ในอาหารหลัก  5  หมู่ของไทย  การกินผักและผลไม้ถึงจะทำให้ร่างกายได้รับวิตามิน  แร่ธาตุ  ใยอาหาร  ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันโรคและความเสื่อมสภาพของเซลล์  แต่ถ้าจะให้ได้ประโยชน์สูงสุด  ควรจะเลือกรับประทานผักและผลไม้ให้ถูกวิธี  ซึ่งมีสิ่งที่ควรคำนึงถึง  ดังนี้

1.กินผักตามฤดูกาล  ช่วยลดเสี่ยงสารเคมี -ธรรมชาติไม่ได้สร้างให้ผักทุกชนิดเติบโตได้ดีตลอดปี  แต่เพื่อตอบสนองต่อการบริโภค  ทำให้มีการปลูกผักนอกฤดู  ซึ่งกระบวนการผลิตมักต้องใช้สารเคมี  ปุ๋ย  ยาฆ่าแมลง  เนื่องจากผักผลไม้ที่ปลูกนอกฤดูมักอ่อนแอ  แต่ถ้าเราหันมากินผักตามฤดูกาล  นอกจากจะได้ประโยชน์จากผักที่เติบโตตามธรรมชาติ  ยังปลอดสารเคมีได้สารอาหารที่แตกต่างกันไปเป็นประโยชน์กับร่างกายอีกด้วย

2.ผักพื้นบ้านกินดีมีประโยชน์  - การกินผักพื้นบ้านที่มีความหลากหลาย  และมักเป็นผักที่แข็งแรง  ไม่ค่อยมีโรคและแมลงรบกวน  ไม่ผ่านกระบวนการผลิตจำนวนมากๆที่ทำให้เราต้องเสี่ยงต่อการใช้สารเคมีในการปลูก  ที่สำคัญคือผักพื้นบ้านของไทยล้วนมีรสชาติอร่อย  มีคุณค่าทางอาหารสูง  หลายชนิดมีสรรพคุณทางยา  ช่วยป้องกันโรคได้  และยังหารับประทานง่ายราคาก็แสนจะถูก  เช่น  กระถิน  กระเจี๊ยบ  ขี้เหล็ก  แค  ตําลึง  ผักหวานบ้าน  เป็นต้น

3.ล้างผักให้เป็นนิสัย – สามารถช่วยลดสารพิษและสิ่งปนเปื้อนต่างๆที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ วิธีง่าย ๆคือ   1.ล้างด้วยน้ำไหล  โดยแช่ในน้ำนาน 15 นาที  จากนั้นเปิดน้ำไหลผ่านและคลี่ใบผักถูไปมานาน 2 นาที หรือ   2. แช่ในน้ำผสมน้ำส้มสายชู 5 เปอร์เซ็นต์  ในอัตราส่วนน้ำส้มสายชู  1  ช้อนโต๊ะต่อน้ำ  4  ลิตร  แช่นาน  15  นาที  จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด  และ    3. คือ การใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต  (เบคกิ้งโซดา)  ครึ่งช้อนโต๊ะผสมน้ำ  10  ลิตร  แช่ทิ้งไว้  15 นาที  จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด    4.  น้ำยาล้างผักที่จำหน่ายโดยทั่วไปนำมาผสมน้ำตามอัตราส่วนที่ระบุในฉลากแช่ทิ้งไว้ประมาณ  3  นาทีแล้วล้างด้วยน้ำสะอาด

4.เลือกซื้อผักจากแหล่งที่ปลอดภัย - ปัจจุบันมีการปลูกผักปลอดสารพิษออกมาจําหน่ายในท้องตลาดมากมาย  เราสามารถเลือกซื้อผักที่ปลอดภัยจากสารพิษจากแหล่งที่ไว้ใจได้  มีเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน  ทราบที่มาของการผลิต  เช่น  ผักอนามัย  รับรองโดยกรมวิชาการเกษตร  ,  ผักเกษตรอินทรีย์  เป็นผักที่ปลูกโดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีป้องกันกําจัดโรคและแมลงเลย  โดยมีสํานักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์เป็นผู้รับรอง  ,  ผักระบบ  CSA  ,  เลือกจากร้าน/ตลาดเขียว  หรือถ้าต้องซื้อผักจากร้านค้าทั่วไป  ควรระวังผักที่มีคราบขาวของสารเคมี  สังเกตตามซอกใบของผักชนิดต่างๆ 

5.ปลูกผักกินเองดีที่สุด - การปลูกผักไว้รับประทานเอง  เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้เราและคนในครอบครัวได้บริโภคผักที่ปลอดจากสารพิษอย่างสิ้นเชิง  แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย  มีกิจกรรมร่วมกันของคนในครอบครัว  ทำให้ที่พักอาศัยดูร่มรื่นน่าอยู่อีกด้วย ผักประเภทที่ใช้ทำครัวบ่อย  อาจจะปลูกในกระถางหรือตะกร้าแขวน  โดยมือใหม่ก็ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากการเพาะเมล็ดพันธุ์ที่ค่อนข้างยาก   เพราะสมัยนี้มีพืชผักสวนครัวที่มีลำต้นสมบูรณ์ทั้งรากและใบวางขายตามตลาดให้เลือกมากมาย  เช่น  มะนาว,  พริก,  กะเพรา,  ต้นหอม,  ผักชี  ล้วนปลูกง่าย  ดูแลง่าย  ปลูกไม่นานก็เก็บกินผลที่น่าภาคภูมิใจได้ด้วย

ข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “DDบินไทยแจงยิบเงินสดมีพอเร่งหารายได้เสริม-รัดเข็มขัดแน่น

หลังจาก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) นำคณะกรรมการฟื้นฟูเข้าพบศาลล้มละลายกลาง ตามคำนัดไต่สวนนัดแรก วันที่ 17 สิงหาคม นัดที่สอง วันที่ 20 สิงหาคม 2563 ก็มีกระแสข่าวสะพัดไปทั่วถึงฐานะเงินสดที่เหลืออยู่จะมีเพียงพอจ่ายเงินเดือนพนักงานทั้งหมดได้ไม่เกินเดือนตุลาคม 2563

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รีบออกมาชี้แจงโดยปฏิเสธว่ากระแสข่าวดังกล่าวคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้บรรยายสรุประหว่างฝ่ายบริหารและพนักงานโดยมีประเด็นเรื่องหากทุกคนไม่ช่วยกันขับเคลื่อนธุรกิจก็จะเหลือเงินเพียงพอจ่ายได้แค่เดือนตุลาคม 2563 แต่ในทางปฏิบัติตอนนี้การบินไทยพยายามหารายได้เสริมจากธุรกิจอื่น ในระหว่างปิดน่านฟ้าเพราะสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ไม่สามารถ[ibdkiบินได้ตามปกติ

โดยการบินไทยตอนนี้มีรายได้เสริมจาก 1.การขนส่งสินค้า ระหว่างมีนาคม – กรกฎาคม 2563 รวม903 เที่ยว บรรทุกสินค้าได้18,165 ตัน 2.จัดเที่ยวบินพิเศษ 46 เที่ยว นำคนไทยที่ตกค้างและประสงค์จะกลับบ้าน  5,488 คน 4.ฝ่ายครัวการบิน ผลิตอาหารขึ้นเครื่องบินขายสายการบินลูกค้าและของบริษัท ระหว่างเดือนมีนาคม – มิถุนายน 2563 ประมาณ 1.1 ล้านชุด รวมทั้งผลิตขนมและเบเกอรี่ของร้าน Puff & Pie กว่า 5.5 ล้านชิ้น

ควบคู่กับการ “ลดค่าใช้จ่าย” อย่างเข้มงวด และเปิดเจรจากับคู่ค้าและเจ้าหนี้ขอพักชำระหนี้ชั่วคราว (Automatic Stay) ระหว่างเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือจากพนักงานเกือบทั้งหมดสมัครใจลดเงินเดือนและค่าตอบแทน ตั้งแต่เมษายน – กรกฎาคม 2563 และพนักงานส่วนมากการสมัครใจลาหยุดงานโดยไม่รับค่าตอบแทน ( Leave Without Pay) ในโครงการ Together We Can ระหว่างสิงหาคม – ธันวาคม 2563 ส่งผลทำให้บริษัทลดค่าใช้จ่ายได้ต่อเนื่องและสามารถรักษาเงินสดได้อย่างเพียงพอเพื่อคงสภาพคล่องให้นานที่สุด จนกว่าจะกลับมาทำการบินตามปกติต่อไป 

ทย.2โปรเจ็กต์ขยายอาคารสนามบินนครศรีฯ”ไทยสไมล์”จ่อบินก.ย.63

นายทวี เกศิสำอาง อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.)กล่าวว่า ได้นำคณะ ลงพื้นที่ติดตามความคีบหน้าโครงการพัฒนาท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ขณะนี้อยู่ในช่วงจัดจ้างบริษัทเข้ามาดำเนินงานขยายพื้นที่ก่อสร้างเพื่อให้แล้วเสร็จ โดยร่วมประชุมรับฟังรายงานภาพรวมโครงการต่างๆ ได้แก่

 

1.โครงการปรับปรุงอาคารที่พักผู้โดยสารและปรับปรุงภูมิทัศน์(ขยายต่อเติมห้องพักผู้โดยสารขาออก) โดยบริษัท  อันนาเทรดดิ้ง จำกัด เริ่มดำเนินการตั้งแต่ 31 มีนาคม 2561 ระยะเวลา 300 วัน งบประมาณการก่อสร้าง 39.95 ล้านบาท  ขณะนี้งานก้าวหน้า 70.04 %  คาดจะแล้วเสร็จ กันยายน 2563 จะช่วยลดความแออัดในอาคารที่พักผู้โดยสารพร้อมรองรับคนได้ 150 คน/ชั่วโมง มีพื้นที่ใช้สอย 720 ตารางเมตร

 

2.โครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 2 โดยบริษัท กิจการร่วมค้าดีดี จำกัด เริ่มดำเนินการ 24 กันยายน 2562  ระยะเวลา 900 วัน ใช้งบประมาณ  1,458.77 ล้านบาท  คาดจะแล้วเสร็จเดือนมีนาคม 2565 รองรับผู้โดยสารได้ 1,600 คน/ชั่วโมง โครงการก้าวหน้า 13.90 %  เมื่อแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มการรองรับผู้โดยสารจากเดิม 450 คน/ชั่วโมง หรือ 1.2 ล้าน คน/ปี เป็น 1,600 คน/ชั่วโมง หรือ 4 ล้านคน/ปี      

ปัจจุบันสนามบินนครศรีธรรมราช มีเที่ยวบินพาณิชย์ ข้อมูล ณ วันที่ 13 สิงหาคม 2563 ไป-กลับ วันละ 32 เที่ยว จาก 4 สายการบิน ได้แก่ นกแอร์ ไทยแอร์เอเชีย ไทยไลอ้อนแอร์ และไทยเวียตเจ็ทแอร์  ส่วนไทยสมายล์มีแผนเปิดเส้นทางใหม่ ไป-กลับ สุวรรณภูมิ- นครศรีธรรมราช วันละ 4 เที่ยว เริ่ม กันยายน 2563

ข่าวที่สาม ภูเก็ตเลือกแล้วนายกฯใหม่2สมาคมโชว์ฝีมือฟื้นวิกฤตท่องเที่ยว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเดือนสิงหาคม 2563 ในจังหวัดภูเก็ต 2 สมาคมท่องเที่ยวภูเก็ต ได้จัดการประชุมประจำปีพร้อมเลือกตั้งนายกสมาคมใหม่ เพื่อเข้ารับตำแหน่งเทอมต่อไประหว่างปี 2563-2565 ผลการเลือกตั้ง “นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม ได้รับเลือกตั้งให้เป็นนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ต่อเป็นสมัยที่ 2  ขณะที่ “นายวิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์” ได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวภูเก็ต

ภารกิจสำคัญของสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวและสมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวภูเก็ต จะต้องนำพาสมาชิกในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งจังหวัดภูเก็ตให้รอดพ้นจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 เนื่องจากตลาดหลักของภูเก็ตจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 80 % ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และรัฐบาลไทยประกาศปิดน่านฟ้าทำให้รายได้ท่องเที่ยวหายไปจากภูเก็ตเกือบทั้งหมด ล่าสุดได้จัดทำโครงการ “ภูเก็ต เด็ดทั้งเกาะ” ปลุกกำลังซื้อตลาดในประเทศให้เลือกเที่ยวภูเก็ตใช้จ่ายเงินสร้างสภาพคล่องในพื้นที่ฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้าง แต่จนถึงขณะนี้โรงแรม รีสอร์ตส่วนใหญ่ก็ยังเปิดบริการไม่ได้เต็มร้อยเปอร์เซนต์

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai