Ep.2 More Fun!! อันซีนเทรนด์เที่ยวใหม่ “ปราจีนบุรี” กาแฟบนยอดไม้On the Tree-ทุ่งดอกไม้7สีนานาคาเฟ่-นอนมัลดีฟปราจีน

Ep.2 More Fun!! อันซีนเทรนด์เที่ยวใหม่ “ปราจีนบุรี”

กาแฟบนยอดไม้On the Tree-ทุ่งดอกไม้7สีนานาคาเฟ่-นอนมัลดีฟปราจีน

 เรื่องและภาพโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #OntheTree #นานาคาเฟ่เรสเตอร์รองส์ปราจีนบุรี

ทริปตะลอนเที่ยว Ep.1 ได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของ ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก ใน “ปราจีนบุรี” ไปแล้ว 2 แห่ง คือ “สตาร์ แคคตัส” ศูนย์รวมตะบองเพ็ดสายพันธุ์เด็ด ๆ กิจการในครอบครัวสร้างรายได้เดือนละหลายแสน ต่อด้วย “มาชิมกัญ” ที่ร้านอาหาร “บ้านเล่าเรือง”  มีสารพัดเมนูผสมกัญชา ทั้งเครื่องดื่ม อาหาร คุ้กกี้ เค้ก

Ep.2 พาตะลอนท่องเที่ยวต่อไปตามจุดเช็คอินใหม่ ๆ ของคนวัยมันส์ สนุกแบบ More Fun!! ต่อเนื่อง

เช็คอินดื่มกาแฟบนยอดไม้กันที่ “On the Tree Cafe” ของ “คุณแอ้ม-ธนพล” เจ้าของเป็นคนออกแบบและสร้างซิปไลน์ (สะพานห้อยโหนบนต้นไม้สุดหวาดเสียว) มาแล้วทั่วประเทศ ทั้งที่ดอยตุง เกาะช้าง ตราด พัทยา หัวหิน ล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2563 ขยายมาสร้างแห่งใหม่กลางสวนผลไม้ สวนกระท้อนกับมะยงชิด ปราจีนบุรี ในพื้นที่รวม 18 ไร่ แต่บังเอิญเจอโควิดระลอกใหม่จึงเงียบเหงาอยู่พักใหญ่

ตั้งแต่มีนาคม 2564 เป็นต้นไป “On the Tree Cafe” เริ่มกลับมาเปิดให้บริการแล้ว แวะมาเช็คอินอุดหนุนกันได้ ภายในจะมีไฮไลต์คือ “ซิปไลน์” บนต้นไม้ชวนให้ลองปีนสักครั้ง ตอนนี้มีโปรโมชั่น คนละ 100 บาท ซื้อ 2 แถม 1 ด้านล่างสร้างซุ้มนั่งชีล ๆ พร้อมเสิร์ฟกาแฟสูตรเก๋ ๆ ซิกเนเจอร์คือ “อเมริกาโน่ออเรนจ์” ของรับประทานหลักคือ “เฟรนซ์ฟราย” เป็นเมนูยอดฮิตของเด็ก ๆ ที่พ่อแม่พามากับครอบครัว กับ “ส้มตำ” ที่คนท้องถิ่นแถบนี้นิยมสั่ง

“แอ้ม” บอกว่าอนาคตจะขยายเพิ่มให้ได้ตามมาตรฐานบริการของซิปไลน์สไตล์ On the Tree ตอนนี้ขอดูกระแสตอบรับของตลาด ปัจจุบันยังเป็นลูกค้าในพื้นที่ กลุ่มครอบครัว กับข้าราชการ จึงกำลังเชื่อมโยงการขายเพิ่มกลุ่มเอาท์บาวนด์เศรษฐีที่เคยเที่ยวนอกหันมารวมตัวกัน “ปั่นจักรยานท่องเที่ยวชุมชน“ ระยะทางรอบปราจีนบุรีประมาณ 30 กม. เริ่มมีกลุ่มนักปั่นซึ่งเคยเป็นลูกค้าเก่าซึ่งเคยซื้อทัวร์ไปปั่นจักรยานในต่างประเทศเข้ามาร่วมปั่นอุดหนุนธุรกิจท้องถิ่นในปราจีนบุรี

 

ดินเนอร์ทุ่งดอกไม้7สีนานาคาเฟ่ แอนด์ เรสเตอรองส์เมืองปราจีน

เช็คอินจุดที่ 2 “นานา คาเฟ่ แอนด์ เรสเตอรองส์ ประจันตคาม” ดินเนอร์ท่ามกลางบรรยากาศกลางท้องทุ่งกว้างเมืองดอกไม้ 7 สี แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของปราจีนบุรี เปลี่ยนฉากธรรมชาติไปตามฤดูกาล

ภายใน “นา นา คาเฟ่ แอนด์ เรสเตอรองส์” นำที่ดินติดท้องนาพื้นที่ 8 ไร่ แบ่งเป็น 4 ส่วนหลัก คือ 2 ส่วน แบ่งเป็น ส่วนที่ 1 ร้านอาหารและคาเฟ่สไตล์ชิค ๆ มีเรือนนั่งเปิดโล่งด้านข้างกระจายเป็นรูปตัวยูรายล้อมทะเลสาบสีฟ้า มีอยู่ประมาณ 20 หลัง แต่ละหลังรองรับได้ 8-12 คน ส่วนที่ 2 ด้านข้างล้อมรั้วสีขาวเป็นโซน “ดอกไม้ 7 สี” ที่นำหญ้าขนาด 2 ตัน มาย้อมเป็นสีต่าง ๆ เพื่อให้คนถ่ายรูป ตกแต่งด้วยดอกไม้สวยงาม เก็บบัตรเข้าชมคนละ 40 บาท ส่วนที่ 3 ท้องนา มีสะพานไม้ทอดยาวไปยืนถ่ายรูปกับหัวใจกลางทุ่งนา ส่วนที่ 4 คลองน้ำขนาดเล็ก ต่อไปจะพัฒนาขยายเป็นลานกางเตนท์แทนการสร้างรีสอร์ต

“ปุ้ย-สุจิตรา ทองประเสริฐ” เจ้าของกิจการวัย 36 ปี มีเรื่องเล่าร้านที่ควักเงิน 10 ล้านบาท ลงทุนทั้งหมดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 ช่วงโควิดระลอกใหม่เริ่มกลับมาอีกครั้ง แต่ นานา คาเฟ่ฯ แห่งนี้กลับเติบโตสวนทางวิกฤต เพราะคนอัดอั้นอยากออกมานั่งชีล ดื่มกาแฟ กินอาหาร ถ่ายรูปกับสถานที่เก๋ ๆ สถิติสูงสุดบางวันจึงมีนักท่องเที่ยวแวะเข้ามาชมมากที่สุดถึง 3,000 คน แต่ช่วงนี้จำนวนลดลงแล้ว จะมากเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ มีเฉลี่ยวันละเกิน 1,200 คน วันธรรมดาเฉลี่ยเกือบ 1,000 คน

“ราคาอาหาร” เน้นขายไม่แพงมากนักเริ่มต้นเมนูละ 70 บาท เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มซ้ำเข้ามาใช้บริการได้บ่อย ๆ หลายครั้ง ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพนักงานบริษัทต่าง ๆ จากโรงงานแถบปราจีนบุรี และจังหวัดใกล้เคียง เช่น จันทบุรี ระยอง นครนายก สระแก้ว กรุงเทพฯ ดูเพจแล้วเจาะจงมากินอาหารร้านนี้เป็นผลวพวงจากการเข้าไปอ่านรีวิว

ความต้องการสูงสุดที่สัมผัสได้จากนักท่องเที่ยวคือ “ตอนนี้คนโหยหาธรรมชาติสุด ๆ” จึงพากันดั้นด้นเดินทางเข้ามายัง “นานา คาเฟ่ฯ” ซึ่งอยู่ห่างจากถนนใหญ่เกือบ 3 กม.สิ่งสำคัญต้องขับรถลัดเลาะไปตามเส้นทางวกวนบนถนนแคบ ๆ ผ่านกลางทุ่ง ผ่าทะลุวัด กว่าจะไปพบอาณาจักรความสุขแห่งนี้ แต่คนจำนวนนับพันคนในแต่ละวันก็เลือกที่จะมาใช้บริการ

เมื่อมาถึง “อาหาร” จานหลักคืออาหารไทย เมนูยอดนิยมก็มี ส้มตำถาดนาระเบิด หมูคั่วเกลือ แกงสายบัวผัดกระปิกุ้ง ปีกไก่ทอด และมีอีกหลากหลายเมนูแม้กระทั่งกุ้งแม่น้ำตัวโต ๆ เต็มจาน ความพึงพอใจที่มีมากกว่าอาหารคือ “บรรยากาศกลางทุ่งนาโล่ง” กับการเปลตาข่ายที่ยื่นลงไปริมทะเลสาบสีฟ้า และการได้เดินไปเลือกมุมถ่ายรูปกับดอกไม้ 7 สี

เมื่อคุยกันไปว่าทำไมปุ้ยถึง “กล้า” ใช้เงินส่วนตัวลงทุนมากถึง 10 ล้านบาท ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตโควิด เธอตอบด้วยแววตาแสดงเชื่อมั่นพร้อมน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ความมั่นใจ” ในปราจีนบุรีมีสถานที่แบบนี้เพียงแห่งเดียว เงินที่นำมาลงก็ไม่ได้กู้มาจากการขายตรงเครื่องสำอางทางออนไลน์มาอย่างยาวนาน สะสมไว้แล้วทยอยนำมาซื้อที่ดินเก็บไว้ กระทั่งได้ไอเดียอยากทำคาเฟ่เก๋ ๆ กับร้านอาหาร เดือนแรกก็ประสบปัญหาหลายอย่างเพราะไม่เคยมีความรู้มาก่อน แต่ก็สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้นั่นคือ เรื่อง “การจ้างงาน” เลือกคนในพื้นที่เข้ามาเสิร์ฟจ้างแบบประจำ 40 คน และพาร์ทไทม์บางส่วนซึ่งเป็นนักศึกษา แต่สิ่งที่เจอคือแรงงานมักจะหยุดงานโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ขณะที่ลูกค้ายังเข้ามาเป็นจำนวนมากเหมือนเดิม

“ปุ้ย”บอกว่าตอนนี้ปรับความคิดให้ยอมรับสภาพเรื่องคนได้แล้ว และต้องการเดินหน้าทำตามฝันนั่นก็คือ “ทำให้คนในบ้านเกิดของตนเอง” มีงานทำ มีรายได้ มีอาชีพ อย่างมั่นคง ไม่ใช่อยู่บ้านเฉย ๆ แบบเมื่อก่อน ส่วนจุดเช็คอินแฮงเอาท์ “นานา คาเฟ่ฯ” แห่งนี้ จากเดิมประเมินจะถึงจุดคุ้มทุนต้องใช้เวลาเกินกว่า 2 ปี ปัจจุบันกระแสตอบรับดีเกินคาดจึงน่าจะคุ้มทุนเร็วขึ้นได้ภายในเวลาปีเศษเท่านั้น

เช็คอินจุดที่ 3 นอนหลับพักผ่อนที่ “เดอะ มัลดีฟ ปราจีน” รีสอร์ตสไตล์แคมป์ที่นำตู้คอนเทนเนอร์ กับรถตู้นอนมือสองนำมาออกแบบเป็นห้องพักตั้งอยู่ริมทะเลสาบริมน้ำ ภายในห้องมีแอร์เย็นฉ่ำเผื่อคนขี้ร้อนไว้ด้วย พร้อมกับมีสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตรฐานรีสอร์ต ไฮไลต์ด้านหน้าห้องพักจะมีระเบียงยื่นไปกลางน้ำ รวมทั้งมีเตียงตาข่ายให้นอนรับลมเย็น ๆ นั่งหรือเอนหลังชมวิวได้จากบนเตียงนอน มองเห็นวิวธรรมชาติทะลุผ่านทะเลสาบไปสุดลูกหูลูกตา

รอบ  ๆ ที่พัก มีจุดเก๋ ๆ ให้เดินเก็บภาพ แต่ละมุม ตามไอเดียแปลกแตกต่างกันไป

สำหรับอาหารเช้าฟรีคิดรวมอยู่ในค่าห้องพักเรียบร้อยแล้ว คืนละ 12,00 บาทขึ้นไป/ห้อง เมนูหลักจะเสิร์ฟ “ข้าวต้ม” กับ “แซนด์วิช” พร้อมเครื่องดื่ม น้ำผลไม้ ส่วน “ชา-กาแฟ” ต้องจ่ายเพิ่มตามชนิดที่สั่ง ไม่ได้แพงสักเท่าไร เริ่มต้นแก้วละ 45 บาท

           

“ปราจีนบุรี” มีดีอย่างที่เล่าหรือไม่ ฟังหรืออ่านอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องออกมาสัมผัสประสบการณ์ตรงด้วยตัวเอง...ไม่ต้องเดี๋ยว ออกมาเที่ยวเมืองไทย กันดีกว่า แล้วจะได้เห็นความอะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม