ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ชำแหละ!!รัฐใช้งบหลักพันล้านฝันฟื้นรายได้ท่องเที่ยว1.5ล้านล้าน ไทยปิดจ็อบยุทธศาสตร์ชาติเฟส1ปี65เผชิญโลกเปลี่ยน8ปัจจัยเสี่ยง

ชำแหละ!!รัฐใช้งบหลักพันล้านฝันฟื้นรายได้ท่องเที่ยว1.5ล้านล้าน

ไทยปิดจ็อบยุทธศาสตร์ชาติเฟส1ปี65เผชิญโลกเปลี่ยน8ปัจจัยเสี่ยง

ช้อปคิงเพาเวอร์จ่ายสบายแบ่งชำระ0% 6-10เดือนได้ตลอดปีเสือ65

5บัตรสมาชิกคิงเพาเวอร์รับเลยส่วนลดร้านอาหารดังในสุวรรณภูมิ

ททท.เปิดแล้วอันซีนนิวซีรีย์เมืองใต้พิภพ-ลอยฟ้าโรงไฟฟ้าลำตะคอง

บางจากแจกสิทธิ์ใหม่โอนแต้มสะสมบัตรสมาชิกให้หมายเลขอื่นได้

ราชบุรีเที่ยวใกล้ไปง่าย2แห่งใหม่ “อลังการการ์เด้น-บ้านห้วยน้ำใส”

7 วิธีนอนอย่างมีคุณภาพเริ่มลงมือทำวันนี้ช่วยให้สุขภาพดีแน่นอน

“OKMD”เปิดปฏิทินเที่ยว12เดือน12สุดยอดแหล่งเรียนรู้สร้างสรรค์

จุฬาระดมดีไซเนอร์เปิด3เส้นทางเที่ยวภูษาจรผ้าถิ่นน่าน8คลัสเตอร์

 


 วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #บัตรคิงเพาเวอร์รับส่วนลดร้านดังในสุวรรณภูมิ #TAT   #อลังการการ์เด้น #บ้านห้วยน้ำใสสวนผึ้งราชบุรี

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้

 

 

ชำแหละ!! “ยุทธศาสตร์ท่องเที่ยวชาติ” ปี’65 รัฐบาลเทหน้าตักแค่หลักพันล้านให้ “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” แชร์ใช้เงินร่วมกับอีก 10 กระทรวง 21 หน่วยงาน  หวังผลสูงที่จะฟื้นเศรษฐกิจโกยรายได้ 1.5 ล้านล้านบาท ปิดจ็อบท่องเที่ยวเฟสแรกแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เปลี่ยนเส้นทางใหม่เน้นภารกิจเดียว “วางรากฐานเพื่อรองรับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่” นโยบายย้อนแย้งสั่ง “เพิ่ม” การลงทุนในอุตสาหกรรมและบริการท่องเที่ยวโต 10 % ท้าความเสี่ยงวิถีใหม่ “เปลี่ยนโลก” ชุดใหญ่ 8 ปัจจัย “วิกฤตเศรษฐกิจโลก-เศรษฐกิจตกต่ำ-กระแสดิจิทัล-สภาพภูมิอากาศวิปริต-สงครามการค้า-ผู้สูงวัยทะลัก-สิ่งแวดล้อมเสื่อม-ช่องว่างความเหลื่อมล้ำใหญ่ขึ้น” ท่องเที่ยวยังต้องเดินหน้าขายสินค้า 6 หมวดหลัก “เที่ยวสร้างสรรค์/ไมซ์/สุขภาพ/เชื่อมโยงอาเซียน/สำราญทางน้ำ/เที่ยวอย่างรับผิดชอบสิ่งแวดล้อม

 

รัฐบาล “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ประกาศ “แผนยุทธศาสตร์ 20 ปี” ไว้เมื่อ 4 ปีก่อนเริ่มตั้งแต่ปี 2561 ให้ทุกภาคส่วนเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ 2580 : ประเทศไทย มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” โดยชู “6 แผนยุทธศาสตร์ชาติ 23 แผนแม่บท” พร้อมกับให้ความสำคัญเรื่อง “การท่องเที่ยว” ไว้ลำดับที่ 5 โดยมี “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” เป็นเจ้าภาพ ทำงานเชิงบูรณาการร่วมกับ 10 กระทรวง 21 หน่วยงาน 2 รัฐวิสาหกิจ

 

ปี 2565 รัฐบาลได้เฉือนงบประมาณท่องเที่ยวทิ้งไปกว่า 40 % ทั้ง ๆ ที่กำหนดให้ท่องเที่ยวเป็น 1 ใน 12 เป้าหมายของประเทศ

 

รัฐบาล “ลงทุนน้อย” แค่หลักพันล้าน แต่ “ตั้งเป้าหวังผลไว้สูงลิบ” จาก “รายได้ท่องเที่ยว” ทั้งปีก้อนโตรวมกว่า 1.5 ล้านล้านบาท ควบคู่กับต้องหาวิธี “เพิ่มการลงทุนในอุตสาหกรรมและบริการท่องเที่ยว” ขยายตัวขึ้นไม่ต่ำกว่า 10 %  หลังจากการอนุมัติเป็น “งบประมาณตามแผนงานบูรณาการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว” ให้ใช้ร่วมกันรวม 4,653.8 ล้านบาท คิดเป็น 0.2 % ของงบประมาณรวมของประเทศ  

 

เสมือนเป็นนโยบาย “ย้อนแย้งกัน” อย่างชัดเจน ในการใช้เงินเพื่อรักษาขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศไทยทั้งทางด้าน การพัฒนาและการฟื้นฟูสินค้า การกระตุ้นตลาดในประเทศและทั่วโลก

 

ตลอดปี 2565 “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) ได้ส่วนแบ่งงบบูรณาการเพียง 1,164.1 ล้านบาท ที่จะต้องนำไป “ฟื้นฟูตลาดทั้งในประเทศและทั่วโลก” หาเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจประเทศให้ได้ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านล้านบาท ท่ามกลางสถานการณ์การปิด ๆ เปิด ๆ ประเทศ ตามจังหวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดกลายพันธุ์ซึ่งยังระอุเป็นวงกว้างทั้งในและต่างประเทศ

 

โจทย์ใหญ่ปี 2565 “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” เองจะต้องเป็นผู้นำบูรณาการทำภารกิจตามนโยบายรัฐบาลปรับใหม่พุ่งทำเป้าหมายเดียวคือ “วางรากฐานเพื่อรองรับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่” กระจายการใช้เงินบูรณาการดังกล่าว ติดอาวุธท่องเที่ยว 4 แนวทาง ประกอบด้วย

 

แนวทางที่ 1  ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ 2,830.1 ล้านบาท คิดเป็น 61 %

 

แนวทางที่ 2 ส่งเสริมให้เกิดการปรับรูปแบบและสร้างมูลค่าเพิ่มแก่การท่องเที่ยว 1,233. ล้านบาท คิดเป็น 27 %

 

แนวทางที่ 3 พัฒนาภาคการท่องเที่ยวทั้งระบบมุ่งเน้นเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณหรือ Creative Tourism 530.3 ล้านบาท คิดเป็น 11 %

 

แนวทางที่ 4 สร้างความหลากหลายให้การท่องเที่ยวเพิ่มมูลค่าแก่สินค้าและบริการทางสุขภาพ 59.6 ล้านบาท คิดเป็น 1 %

 

ทั้ง ๆ ที่ในปี 2564 ก่อนจะเป็นปีสุดท้ายเฟสที่ 1 แผนยุทธศาสตร์ชาติของรัฐบาลที่กำหนดไว้ ระหว่างปี 2561-2565 นั้นรัฐบาลได้ขายฝัน “การท่องเที่ยวประเทศ” ไว้ 3 เรื่องหลัก คือ

 

1.ประเทศจะต้องสร้างจีดีพีท่อเงที่ยวเพิ่มขึ้นรวม 22 %  

 

2.ผู้ประกอบการยุคใหม่จะเข้ามามีบทบาทต่อเศรษฐกิจมากขึ้นโดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม SME จะสร้างจีพีดีรวม 45 %

 

3.คนไทยทุกช่วงวัยมีคุณภาพเพิ่มขึ้นตามดัชนีพัฒนา 0.79 คะแนน

 

จากนั้นจะส่งต่อไปยังแผนยุทธศาสตร์ชาติเฟสที่ 2 ระหว่างปี 2566-2570 ให้มีพลังเพิ่มมากขึ้นต่อทั้ง 3 เรื่อง คือ

1.ประเทศจะต้องสร้างจีดีพีท่องที่ยวเพิ่มขึ้นรวม 25 % เพิ่มขึ้นจากเฟสแรก 3 %

 

2.ผู้ประกอบการยุคใหม่จะเข้ามามีบทบาทต่อเศรษฐกิจมากขึ้นโดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม SME จะสร้างจีพีดีรวม 50 % เพิ่มขึ้นจากเฟสแรก 5 %

 

3.คนไทยทุกช่วงวัยมีคุณภาพเพิ่มขึ้นตามดัชนีพัฒนา 0.82 คะแนน เพิ่มขึ้นจากเฟสแรก 0.03 คะแนน

 

จากนั้นรัฐบาลก็เปลี่ยนโจทย์ใหม่ให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ตามแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี เฟสที่ 1 ที่จะจบในปี 2565 เน้นเฉพาะ “การเพิ่มรายได้และขยายการลงทุน” ปูทางสู่รอยต่อเฟสที่ 2 ปี 2566 โดยยังต้องเคลื่อนทัพต่อท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มตามมาเป็นหางว่าว นอกจากโควิด-19 หรือโรคระบาดและโรคอุบัติใหม่อื่น ๆ แล้ว อุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังมีตัวแปรใหญ่รอรับมือเพื่อปรับตัวให้อยู่รอดได้กับสถานการณ์ “โลกแห่งความปั่นป่วนและการเปลี่ยนแปลง” ที่ผู้นำการขับเคลื่อนประเทศต้องพึงตระหนักกับตัวแปรเปลี่ยนโลกวิถีใหม่จาก 8 ปัจจัย

1.วิกฤตเศรษฐกิจโลก

2.สภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำ

3.การเข้าสู่ยุคดิจิทัล นำไปสู่เศรษฐกิจรูปแบบใหม่แห่งการแบ่งปัน

4.สภาพภูมิอากาศปะทุขึ้นทั้งดิน น้ำ ลม ไฟ ส่งเสียงเรียกร้องให้เกิดกระแสการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พลังงานทางเลือก พลังงานหมุนเวียน ดังขึ้นเรื่อย ๆ

5.สงครามการค้ารุนแรงขึ้น ตามแนวคิดชาตินิยม ส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจของโลก

6.ประชากรโลกและประชากรไทยก็กำลังเดินหน้าเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย

7.สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม การเจริญเติบโตของเมืองก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

8.ช่องว่างความเหลื่อมล้ำทะลักเข้ามาไม่หยุด โดยที่ยังไม่สามารถปลดชนวนปัญหาเก่า แต่ก็ต้องเจอปัญหาใหม่ทับถมเข้ามาเพิ่ม

 

            โจทย์ที่ต้องทำส่งท้ายแผนยุทธศาสตร์เฟส 1 ปี 2565 ในช่วงรอยต่อเฟส 2 ปี 2566 “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” หนีไม่พ้นที่ยังคงต้องให้ “ททท.” งัดขายเทรนด์สินค้าท่องเที่ยว 6 หมวดหลัก ต่อไป ประกอบด้วย

         

“สินค้าท่องเที่ยวที่มองเห็นอนาคต” การเติบโตสามารถไปต่อได้อย่างราบรื่น  6 หมวด คือ

 

หมวดที่ 1 “การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม” ตามเป้าภายในปี 2565 “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” มีความหวังจะสร้างรายได้เติบโตเฉลี่ย 10 % ควบคู่กับขยายเมืองและชุมชนที่มีศักยภาพเพิ่มขึ้นปีละ 5 เมือง โดยมี “กระทรวงพาณิชย์” เข้ามาเสริมทัพรณรงค์นำสินค้าท่องเที่ยวขึ้นทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาให้ได้ราว 5 %

 

ปี 2562 พบว่ารายได้จากการท่องเที่ยวโดยชุมชนนำร่องใน 22 ชุมชน เติบโตเพิ่มอย่างรวดเร็วถึง22.13 % ส่วนเมืองสร้างสรรค์มีเข้ามาใหม่แค่ 2 จังหวัด คือ สุโขทัยกับกรุงเทพฯ ยังห่างจากเป้าหมายที่เคยตั้งไว้เฉลี่ยปีละ 5 เมือง และ “สินค้าท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม” ได้รับการขึ้นทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญากลับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 2561 เพิ่มขึ้นถึง 20 %

 

หมวดที่ 2 การท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ หรือ ไมซ์ “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” ควรจะผลักดันเพิ่มรายได้เติบโต 5 %  ส่วน “สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)” ต้องส่งเสริมให้เป็นจุดหมายปลายทางการจัดประชุมนานาชาติ โดยติด 1 ใน 23  ของโลก

 

ระหว่างปี 2561-2562 พบว่า “รายได้จากไมซ์” ขยายตัวปีละ 212,924 ล้านบาท และ 202,362 ล้านบาท ตามลำดับ ยังคงเพิ่มขึ้น 20.9 % และ 15.9 %  อีกทั้งปี 2561 ไทยเป็นจุดหมายปลายทางจัดการประชุมนานาชาติอันดับ 21 ของโลก และอันดับ 5 ของเอเชีย

 

หมวดที่ 3 การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ความงาม และแพทย์แผนไทย “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” ต้องเพิ่มรายได้ให้เติบโตไม่ต่ำกว่า 5 % และยกระดับให้มีรายได้ขึ้นไปยืนอยู่อันดับที่ 12 ให้ได้ ส่วน “กระทรวงสาธารณสุข” ควรช่วยผลักดัน “สถานประกอบการด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและบริการทางการแพทย์”ได้รับมาตรฐานอีกสัก 5 %

 

ปี 2562 กรมส่งเสริมบริการสุขภาพ ระบุมีสถานประกอบการสปา นวดเพื่อสุขภาพ และความงาม ได้การรับมาตรฐานมากถึง 3,312 แห่ง เติบโตปีละกว่า 37 % ตามรายงานของ Global Wellness Institute ระบุปี 2561 การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทยทำรายได้กว่า 12,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 13 % เป็นโอกาสอย่างมากหลังโควิด-19 การเติบโตจะมากขึ้นอย่างรวดเร็วตามเทรนด์การหันมารักษาสุขภาพ เน้นความสะอาดปลอดภัยด้านสุขอนามัย

 

หมวดที่ 4 การท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูมิภาค ไทยกลุ่มสมาชิกอาเซียน  “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” ตั้งความหวังจะลงทุนเพิ่มจุดเชื่อมต่อการเดินทางท่องเที่ยวสำราญทางน้ำเติบโต 5 %

 

ปี 2562 นักท่องเที่ยวอาเซียนเข้ามาไทยเติบโตเกิน 6.6 % ผ่านเข้ามาทางชายแดนทางบก เพิ่มขึ้น 10 % ทางน้ำ เพิ่มขึ้น 60 % ตอกย้ำถึงความนิยมใช้ช่องทางการเข้าถึงไทยอย่างน่าสนใจในการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการท่องเที่ยวทางน้ำกับอาเซียน

 

          ส่วน “สินค้าการท่องเที่ยว” ที่ยังคงรั้งท้ายจะต้องเร่งเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถทางการแข่งขัน ที่ยังคงต้องทำต่อไปอีก 2 หมวด คือ

 

หมวดที่ การท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” ต้องรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 5 % โดยทำงานเชิงบูรณาการร่วมกับ “กระทรวงคมนาคม” ลงทุนพัฒนาท่าเรือท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 ท่าเรือ จากปัจจุบันไทยมีท่าเรือท่องเที่ยวอยู่ทั่วประเทศเพียง 34 แห่งเท่านั้น ในสองฝั่งทะเล คือ ทะเลอันดามัน และอ่าวไทย ส่วนรายได้การท่องเที่ยวทางน้ำเพิ่มขึ้นเกินสองหลักเฉลี่ยปีละ 12 %

 

หมวดที่ 6 การพัฒนาระบบนิเวศน์การท่องเที่ยวหรือเที่ยวอย่างรับผิดชอบ/CSR ซึ่ง “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” จำเป็นจะต้องเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้มีความปลอดภัยสูงติด 1 ใน 70 ของโลก รวมถึงต้องเร่งรัดเพิ่มกลุ่มการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุดติด 1 ใน 110 ของโลก โดยมีพันธมิตรอย่าง“กระทรวงคมนาคม” ช่วยสนับสนุนเพิ่มมาตรฐานโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการท่องที่ยวคุณภาพสูง ติด 1 ใน 50 ของโลก

           

            ปี 2562 ขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านท่องเที่ยวด้านความมั่นคงปลอดภัยไทยติดอันดับ 111 ของโลก โดยมีโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนการท่องเที่ยวคุณภาพสูงด้านคมนาคมและทางทะเลไทยอยู่อันดับ 72 ของโลก ต่ำกว่าสิงคโปร์และมาเลเซีย และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมไทยก็รั้งท้ายอยู่อันดับ 130 ของโลก อยู่อันดับ 7 ของอาเซียน

 

            จับตาว่าปี 2565 การลงทุนของรัฐบาลด้วยงบรายจ่ายเพียงหลักพันล้าน ด้วยความหวังจะฟื้นฟูเศรษฐกิจและรายได้ท่องเที่ยวให้ได้เป็นกอบกำถึง 1.5 ล้านล้านบาท นั้น คือความฝันหรือความจริง

 

ข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 ช้อปคิงเพาเวอร์จ่ายสบายแบ่งชำระ 0% ยาว6-10เดือนได้ตลอดปีเสือ65

 

“คิง เพาเวอร์” ให้ช้อปแล้วสามารถแบ่งชำระ 0% ได้อย่างสบายใจ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2565 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต และ คิง เพาเวอร์ สนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง

 

1.เมื่อช้อปครบ 20,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) /ใบเสร็จ แบ่งชำระ 0 % ได้นาน 6 เดือน
2.เมื่อช้อปครบ 30,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ แบ่งชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน

 

โดยทำตามกติกาสบาย  ๆ ดังนี้

 

1.รับสิทธิ์ผ่อนชำระ 0% เฉพาะสมาชิก คิง เพาเวอร์ เท่านั้น

 

2.ยอดซื้อสินค้าเพื่อรับสิทธิ์ผ่อนชำระ 0% ต้องเป็นยอดซื้อหลังจากหักส่วนลดต่างๆ (ยอดสุทธิ) ภายในแผนกสินค้าเดียวกัน

 

3.บัตรเครดิตกรุงศรีอยุธยา และบัตรผ่อนชำระในเครือกรุงศรี คอนซูเมอร์ สามารถร่วมรายการได้เฉพาะที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และ คิง เพาเวอร์ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสงวนสิทธิ์การผ่อนชำระสำหรับสินค้าบางประเภทเท่านั้น

 

ข่าวที่ 2 บัตรคิงเพาเวอร์5ประเภทรับเลยส่วนลดร้านอาหารดังในสุวรรณภูมิ

 

“คิง เพาเวอร์” มอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกบัตร 5 ประเภท ทั้ง VEGA, CROWN, ONYX, SCARLET และ NAVY ให้ทุกคนได้เติมเต็มความสดชื่นระหว่างเดินทางไปกับหลากหลายเมนูความอร่อยในราคาพิเศษ ได้ตามร้านดังในสนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เพียงแสดงสถานะสมาชิก คิง เพาเวอร์ เพื่อรับสิทธิ์ใช้บริการได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2565

 

 1.รับส่วนลด 15% ที่ร้าน Gloria Jean’s Coffees

 

2.รับส่วนลด 10% ที่ร้าน One Minute Gourmet พบกับอาหารและเครื่องดื่มปรุงสดใหม่ พร้อมเสิร์ฟให้รับประทานในแบบ Freshly Made to Go  

           

3.รับส่วนลด 10% ที่ร้าน The Villa Halalชั้น 4 Concourse C ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อร่อยเด็ด คุ้มสุดฟินไปกับอาหารไทยฮาลาลแท้ 100% ที่มีให้เลือกรับประทานหลากหลายเมนูในราคาพิเศษ

 

            4.รับส่วนลด 10% ที่ร้าน kanom ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อร่อยฟินไปกับเบเกอรีระดับพรีเมียม เสิร์ฟสดใหม่จากเตาให้สมาชิกฯ ได้ลิ้มลองอย่างจุใจ

            สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ King Power Contact Centre 1631

 

ข่าวที่ 3 ททท.เปิดแล้วทัวร์อันซีนนิวซีรีย์เมืองใต้พิภพ-ลอยฟ้าโรงไฟฟ้าลำตะคอง

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์  รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2565 ได้เป็นประธานเปิดตัวเส้นทางท่องเที่ยว "Unseen New Series " ภาคอีสาน แห่งใหม่ " โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา" อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา โดย ททท.จับมือกับพันธมิตร นายดนุนันท์ ไชยทุม ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าลําตะคองชลภาวัฒนา  นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และผู้บริหารทั้งภาครัฐและเอกชน

 

"โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา กฟผ. " เป็น 1 ใน 5 แหล่งท่องเที่ยวภาคอีสาน ที่ได้รับการคัดสรรเป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Series ตอบโจทย์นโยบายการท่องเที่ยว  BCG & Happy Model อันโดดเด่นของอีสาน รวมทั้งเป็นแหล่งทองเที่ยวใหม่ ที่มีความสวยงามอันโดเด่น ทั้งเมืองใต้พิภพและเมืองลอยฟ้า ที่จะดึงดูดผู้คนเข้ามาท่องเที่ยวตลอดทุกปี คือ

 

            "เมืองลอยฟ้า" อยู่บริเวณ "อ่างพักน้ำบนเขายายเที่ยง" ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นจุดชมวิวหมื่นล้านที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไทย

 

            "เมืองใต้พิภพ" เป็นจุดที่ตั้งของอุโมงค์โรงไฟฟ้าใต้ดิน อยู่ลึกลงไปใต้ดินกว่า 1.5 กิโลเมตร  ใช้เป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้า ด้วยการสูบน้ำจากเขื่อนลำตะคองไปเก็บไว้ที่อ่างพักน้ำบนเขายายเที่ยง

 

จุดเด่นของโรงไฟฟ้าลำตะคองทั้งใต้ดินและบนดิน จึงนับเป็น Unseen จุดเช็คอินที่โดเด่นไม่เหมือนใคร

 

ภายในชุมชนรอบโรงไฟฟ้าลำตะคอง ยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมได้ร่วมลงมือทำมากมาย ทั้ง วัฒนธรรม ชุมชนคนหลังเขายายเที่ยง  สินค้า อาหารถิ่น มีการแฟดิฟ “ร้านกาแฟขี้คุย” ใช้หวดจิ๋ว มากรอง ผสมกาแฟสดดงมะไฟโคราช รสเลิศ   

 

โรงไฟฟ้าลำตะคอง โคราช เป็นจุดเช็คอินและจุดนัดพบ 1 ใน 25 Unseen New Series แห่งปีเสือ 2565 ที่จะต้องชวนกันมาชมสักครั้ง มาเที่ยวกันเถอะ คนโคราชคิดถึงนักท่องเที่ยวทุกคน

 

ข่าวที่ 4 บางจากแจกสิทธิ์ใหม่โอนแต้มสะสมบัตรสมาชิกให้หมายเลขอื่นได้แล้ว

 

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แจ้งสิทธิพิเศษ สำหรับ “สมาชิกบางจาก” สามารถโอนคะแนนสะสมให้สมาชิกบางจากหมายเลขอื่นได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2565 ผ่าน 2 ช่องทางหลัก คือ 1.Bangchak Mobile Application และ 2.เว็บไซต์ http://www.bcpgreenmiles.com

โดยจำกัดการโอนคะแนนสมาชิกบางจาก สูงสุด 20,000  คะแนน / วัน  และไม่เกิน 50,000 คะแนน / เดือน  คลิกโอนคะแนน https://bit.ly/3i7Zdfa

วิธีโอนคะแนนไปยังหมายเลขอื่นมีดังนี้

1. สิทธิพิเศษของสมาชิกบางจากโอนคะแนนให้กันได้ ผ่าน Bangchak Mobile Application และ เว็ปไซต์ http://www.bcpgreenmiles.com 2. โอนขั้นต่ำ 1 คะแนน  3. จำกัดการโอนคะแนนไปหมายเลขสมาชิกอื่นสูงสุด 20,000 คะแนน/หมายเลขสมาชิก/วัน  และไม่เกิน 50,000 คะแนน / หมายเลขสมาชิก / เดือน 

4. คะแนนบางจากจะถูกตัดทันทีหลังจากทำรายการเสร็จสมบูรณ์ และโอนไปยังหมายเลขสมาชิกบางจากที่ท่านต้องการโดยอัตโนมัติ หลังจากทำการโอนคะแนนทันที 5. ไม่สามารถโอน/ เปลี่ยน/ แลก / ทอนเป็นเงินสดได้  6. หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือพบปัญหาการใช้งานโอนคะแนน ติดต่อ บางจาก คอล เซนเตอร์1651 กด 4

ช่วงที่ 2 เที่ยวไทย เที่ยวง่าย ไปกันเถอะเมืองโอ่ง “ราชบุรี” ตอนนี้เปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่อีกแล้ว 2 แห่ง ออกไปเช็คอินด่วน ๆ ที่ “อลังการการ์เด้น” อำเภอเมือง แปลงโฉมศูนย์ไม้ดอกไม้ประดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวครบวงจร กับ “บ้านห้วยน้ำใส” วิถีชาวมอญ สวนผึ้ง ถ้าเรื่องสุขภาพรีบทำเลย “7 วิธีนอนอย่างมีคุณภาพ” ทำแล้วดีแน่นอน ปิดท้ายด้วยข่าวฮ็อตแห่งสัปดาห์ ข่าวแรก “OKMDลุยเปิดปฏิทินเที่ยว” 12 เดือน 12สุดยอดแหล่งเรียนรู้สร้างสรรค์ ข่าวที่สอง “จุฬาฯระดมดีไซเนอร์” เปิด 3 เส้นทางทัวร์ภูษาจร 8 คลัสเตอร์ผ้าพื้นเมืองน่าน

พาเที่ยว -ราชบุรีเที่ยวใกล้ไปง่าย2แห่งใหม่ “อลังการการ์เด้น-บ้านห้วยน้ำใส”

เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย เที่ยวสบาย ๆ กับการออกไปเติมประสบการณ์ในแหล่งท่องเที่ยวใหม่ 2 แห่ง ใน “ราชบุรี”  ออกเที่ยวกันเถอะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

แห่งแรก “อลังการการ์เด้น” ต.ห้วยไผ่ อ.เมือง จ.ราชบุรี ศูนย์จำหน่ายไม้ดอก ไม้ประดับ ตอนนี้ได้เนรมิตรพื้นที่กว่า 100 ไร่ ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ท่ามกลางธรรมชาติรายล้อมด้วยสวนดอกไม้หลากสีสัน เปิดบริการทุกวัน 9:00 - 18:30 น.

พร้อมทั้งการจัดให้มีพื้นที่กางเต็นท์ในโซนป่า ที่จะเป็นแม่เหล็กเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบสายแคมป์มาร่วมประสบการณ์พักค้างแรมท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ๆ เรื่อยไปจนถึงการเห็นดอกไม้สวย ๆ มีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น ถ่ายรูป ปั่นจักรยาน และมุมถ่ายรูปละลานตาให้เหล่าเลิฟเวอร์ สายดอกไม้ สายคาเฟ่ และสายแคมป์ปิ้ง ได้เก็บภาพกันอย่างจุใจ

ภายในอลังการการ์เด้น มีบริการโดน ๆ นักท่องเที่ยวเทรนด์ใหม่ทั้ง บริการอาหาร คาเฟ่ ลานกางเต็นท์ ศูนย์เพาะและขายดอกไม้สายพันธุ์ต่าง ๆ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 5 บาทขึ้นไป พร้อมอุปกรณ์เก๋ ๆ ในการปลูก กับข้อแนะนำดี ๆ จากทางร้านที่อาศัยประสบการณ์มาบอกต่อกัน อีกทั้งยังสามารถเลือกเป็นสถานที่ จัดงานเลี้ยง งานสัมมนา จัดประชุมต่าง ๆ ก็ได้

            “อลังการการ์เด้น” เก็บค่าเข้า ผู้ใหญ่ 20 บาท/คน เด็กความสูง 100 – 130 ซม. 10 บาท/คน และฟรีหากเป้นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กับเด็กส่วนสูงต่ำกว่า 100 ซม.

สอบถามได้ที่โทร. 094-562 2085 , 081-9284518 , 098-4262446  หรือติดตามได้ทาง Facebook : Alungkarn Garden อลังการ การ์เด้น  และ Google Map : https://goo.gl/maps/9BoGN217kfrcU4PX8

แห่งที่  2 “หมู่บ้านมอญห้วยน้ำใส” อ.สวนผึ้ง แหล่งท่องเที่ยวชุมชนเชิงอนุรักษ์แห่งใหม่ กับประสบการณ์แห่งวิถีชาวไทย-รามัญ ท่ามกลางธรรมชาติ หมู่บ้านนี้มีละธารน้ำไหลผ่าน บรรยกาศร่มรื่น อากาศเย็นสดชื่น ไฮไลต์การท่องเที่ยวช่วงวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทางชุมชนมอบความสุขให้นักท่องเที่ยวด้วยกิจกรรม “ตักบาตรวิถีชาวมอญ”  

ตอนเช้าประมาณ 8 โมง ชาวบ้านจะนำเสื่อมาปูตามแนวทางเดิน ให้นักท่องเที่ยวเตรียมนั่งรอพระสงฆ์จาก “สำนักห้วยน้ำใส” จะเดินบินฑบาตร เพื่อให้ผู้คนได้นำอาหารคาวหวาน ร่วมกันตักบาตร สิ้นสุดจากขบวนแถวพระสงฆ์ จะมีหญิงสาวชาวมอญเดินเรียงแถวนำถาดวางสิ่งของ คนโทน้ำ ข้าวปลาอาหารต่าง ๆ เทินไว้บนศรีษา เพื่อจะนำไปถวายพระที่วัด ปิดท้ายขบวนด้วยนางรำชาวมอญ เป็นวิถีชีวิตที่นักท่องเที่ยวพบเห็นแล้วจะต้องประทับใจอย่างแน่นอน

ส่วน “วันธรรมดา” จันทร์-พฤหัสบดี ก็จะเปิดหมู่บ้านให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมได้ทุกวัน รวมทั้งชาวชุมชนจะร่วมกันเปิดตลาดเล็ก ๆ ให้ร้านนำสินค้ามาวางแผงขาย อาหาร ขนมพื้นบ้านของชาวมอญ นักท่องเที่ยวก็เดินชม ชิม อุดหนุนได้ตามที่ชอบและที่ใช่ได้ตามสบาย 

มาเที่ยว “ราชบุรี” กันเถอะ เติมประสบการณ์ความประทับใจ เมืองไทย ยิ่งเที่ยว ยิ่งได้ประโยชน์ในการช่วยฟื้นเศรษฐกิจท้องถิ่นของชาติให้กลับมายืนอย่างแข็งแกร่ง ด้วยพลังคนไทย ช่วยไทย


สุขภาพ – 7 วิธีนอนอย่างมีคุณภาพลงมือทำวันนี้ช่วยให้สุขภาพดีชัวร

เรื่องง่าย ๆ อย่าง “การนอน” หลายคนลืมนึกถึงว่าการนอนนั้นมีความสำคัญต่อชีวิตคนเรา ดังนั้นจึงควรรู้วิธีเพื่อจะสุขภาพที่ดี ไม่มีปัญหาและมีโรคร้ายตามมาได้ในอนาคต ขอแนะนำ “7 วิธีนอนอย่างมีคุณภาพ” ช่วยสุขภาพดีได้แน่นอน ดังนี้

1.พยายามปรับเวลาตื่นและเวลานอนให้สม่ำเสมอเหมือนกันทุกวัน

2.ก่อนนอนให้ทำร่างกายให้ผ่อนคลาย งดดูหนังหรือซีรีส์ที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นหรือเร้าอารมณ์ ลองเปลี่ยนเป็นฟังเพลงเบาๆ หรืออ่านหนังสือหรือทำ to do list เพื่อฝึกการคิดให้เป็นระบบและไม่ฟุ้งซ่านก็ได้

3.ปรับสภาพห้องนอนให้น่านอน เช่น ปิดไฟให้สนิทและป้องกันเสียงรบกวน

4.ระหว่างวันไม่ควรนอนกลางวัน แต่ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็ไม่ควรเกิน 30 นาที

5.ไม่ควรออกกำลังกายหนักๆ เวลาใกล้จะนอน

6.เลี่ยงการกินอาหารมื้อดึกเวลาใกล้นอน

7.เปิดม่านเอาไว้เพื่อให้แสงแดดเข้าในตอนเช้าเป็นการช่วยให้เราตื่นได้เองอัตโนมัติ

 

ส่วนคนที่นอนไม่หลับหรือรู้สึกว่าเวลาชีวิตรวนก็ลองนำ 7 วิธีนี้ ไปทำ แล้วจะรู้สึกสดชื่นทุกเช้าเปลี่ยนชีวิตได้จริง

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก “OKMD”เปิดปฏิทินเที่ยว12เดือน12สุดยอดแหล่งเรียนรู้สร้างสรรค์

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ประธานกรรมการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) : สบร. หรือ OKMD (Office of Knowledge Management and Development: Public Organization) OKMD เปิดเผยว่า ได้จัดทำปฏิทินท่องเที่ยวประจำปี เชิญชวนคนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวแบบใหม่ ที่เรียกว่า ‘การเดินทางเชิงความรู้’ หรือ Knowledge-based Tourism เป็นการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน หย่อนใจ แสวงหา และเรียนรู้ไปตามที่ต่าง ๆ ไปพร้อมกัน

แตกต่างจากการเดินทางท่องเที่ยวแบบเดิมที่คุ้นเคย การท่องเที่ยวเชิงความรู้นั้นเป้าหมายก็เพื่อการพักผ่อน ผ่อนคลาย ในยุโรปได้รับนิยมสูง โดยผู้คนจะออกเดินทางเพื่อเรียนรู้ เติมเต็มประสบการณ์ให้ชีวิต สนุกสนาน ไม่เคร่งเครียด และได้ความรู้ประเภทฝังลึก (Tacit Knowledge) ที่จะอยู่กับแต่ละคนอย่างยาวนาน 

ปี 2565 ทาง OKMD ได้คัดสรร การท่องเที่ยว 12 เดือน 12 สุดยอดแหล่งเเรียนรู้สร้างสรรค์ประจำปีคัดสรร ตามความ เหมาะสมของฤดูกาล สถานที่ตั้ง เทศกาล อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมและเหตุการณ์สำคัญ ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือน มีทั้งแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติวิทยา ประวัติศาสตร์ เกษตรกรรม ชาติพันธุ์วิทยา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เพลินไป กับการเดินทางท่องเที่ยว พร้อมการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และยกคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดียิ่งขึ้น ได้แก่

1.มกราคม : อุทยานธรณี จังหวัดสตูล หนึ่งในอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก (UNESCO Global Geoparks) ที่มีทั้งหมด 120 แห่ง และเป็นแห่งแรกของไทย

2.กุมภาพันธ์ : อุทยานประวัติศาสตร์ ภูพระบาท จังหวัดอุดรธานี เป็นแหล่งโบราณคดีที่แสดง พัฒนาการทางสังคมและศาสนาของมนุษย์ เดือนนี้อากาศเย็นเหมาะกับการเดินทางเที่ยวชม

3.มีนาคม : พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย จังหวัดชลบุรี พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ริมทะเล เหมาะเดินทางเที่ยวทะเลฝั่งอ่าวไทย

4.เมษายน : โฮงเฮียนสืบสานล้านนา จังหวัดเชียงใหม่ เมษายนตรงกับเทศกาลสงกรานต์ ไปแล้วจะได้ทั้งองค์ความรู้จากปราชญ์ชาวบ้านล้านนา พร้อมกับร่วมกิจกรรมพิเศษสงกรานต์ได้ด้วย

5. พฤษภาคม : อุทยานธรรมชาติวิทยาสิริรุกขชาติ และพฤกษาดุริยางค์ (พิพิธภัณฑ์ต้นไม้ดนตรี) เริ่มเข้าฤดูฝน ต้นไม้เขียวขจี สวยงาม แถมยังเป็นแหล่งเรียนรู้สมุนไพรด้วย

6.มิถุนายน : Space Inspirium อุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ จังหวัดชลบุรี เป็นพิพิธภัณฑ์ในร่ม แม้เป็นฤดูฝนก็สามารถเข้าชมได้

7.กรกฎาคม : โครงการชั่งหัวมันตามแนวพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี เป็นเดือนก่อตั้งโครงการนี้ขึ้นกลางหุบเขางดงาม เหมาะไปศึกษาหาความรู้ด้านเกษตรกรรมและพลังงาน

8.สิงหาคม : สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จังหวัดเชียงใหม่ มีทางเดินลอยฟ้าที่ออกแบบ ให้กลมกลืนกับการชมธรรมชาติ มีการจัดกิจกรรมพิเศษเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบรม ราชชนนีพันปีหลวงเดือนนี้ทุกปี

9.กันยายน : อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ เดือนนี้เป็น 1 ใน 4 ช่วง ที่เหมาะชมความมหัศจรรย์ของพระอาทิตย์ขึ้นลอดผ่านช่องในปราสาทพนมรุ้ง

 

10.ตุลาคม : วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กรุงเทพฯ ถือเป็นมหาวิทยาลัยเปิดแห่งแรกของไทย เหมาะกับการศึกษาเรื่องสุขภาวะ และเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวด้วย

 

11.พฤศจิกายน : อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ตรงกับเทศกาลลอยกระทง ซึ่งสุโขทัยถือเป็นต้นกำเนิดเทศกาลนี้ จึงเหมาะไปเยือนอย่างยิ่ง 

 

12.ธันวาคม : หอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ จังหวัดเชียงราย ศูนย์รวมความรู้ ความตื่นเต้น ปลายปีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมไปสัมผัสไอหนาวในภาคเหนือ และหอฝิ่นแห่งนี้

 

ข่าวที่สอง จุฬาระดมดีไซเนอร์เปิด3เส้นทางเที่ยวภูษาจรผ้าเมืองน่าน8คลัสเตอร์

 

ศาสตราจารย์ ดร.พัดชา อุทิศวรรณกุล หัวหน้าหน่วยวิจัยแฟชั่นและนฤมิตศิลป์ ภาควิชานฤมิตศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ได้ระดมพลังอาจารย์นักออกแบบรุ่นใหม่พัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอพื้นเมือง นำการท่องเที่ยวสร้างสรรค์ (Cultural Creative Tourism) ตั้งเป้าหมายจะช่วยให้ชุมชนพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยได้ผนวกเป็นเส้นทาง “ภูษาพาจร” 3 เส้นทางท่องเที่ยวสานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ใน 5 อำเภอ ของจังหวัดน่าน

 

            3 เส้นทางท่องเที่ยวสายผ้าทอ “ภูษาพาจร” พร้อมต้อนรับผู้มาเยือน ประกอบด้วย

 

เส้นทางที่ 1 “ช้อป-ชิม-แชร์ - Shop, Taste,Share  เชิญชวนกลุ่มนักเดินทางทั่วไปที่อยากชิมประสบการณ์ เยี่ยมชมกลุ่มผู้ประกอบการผ้าทอ ซื้อสินค้าของฝากของที่ระลึก และรับประทานอาหาร เครื่องดื่มท้องถิ่น หรือพักแบบโฮมสเตย์  ของกลุ่มทอผ้าบ้านชาวหลวง อำเภอเมือง ร้านฝ้ายเงิน อำเภอเมือง,กลุ่มทอผ้าไทลื้อ บ้านเก็ต อำเภอปัว และร้านวราภรณ์ผ้าทอ อำเภอเวียงสา

 

เส้นทางที่ 2 “สิ่งทอและงานฝีมือ - Textile and CraftDestination เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชอบเรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ทดลองทำงานฝีมืออาทิ ทอผ้าหรือย้อมสีผ้าเป็นของที่ระลึก ของกลุ่มผ้าทอบ้านซาวหลวง อำเภอเมือง ร้านรัตนาภรณ์ผ้าเขียนเทียน อำเภอปัว กลุ่มผ้าทอไทลื้อบ้านเก็ต อำเภอปัวร้านวราภรณ์ผ้าทอ อำเภอเวียงสา ศูนย์ผ้าทอไทลื้อบ้านดอนมูล อำเภอท่าวังผา และร้านมิสเอโปรดักซ์ อำเภอปัว

 

เส้นทางที่ 3 “ต่อยอดเชิงธุรกิจ -Creative EntrepreneurRoute เหมาะกับกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่หรือนักออกแบบ ที่กำลังมองหาวัตถุดิบ แรงบันดาลใจ ได้จากกลุ่มทอผ้าบ้านซาวหลวง อำเภอเมือง ร้านวราภรณ์ผ้าทอ อำเภอเวียงสา ร้านรัตนพรผ้าเขียนเทียน อำเภอปัว ร้านฝ้ายเงิน อำเภอเมือง กลุ่มทอผ้าย้อมสีธรรมชาติบ้านปางกอม อำเภอสองแคว ผ้าไทลื้อบ้านเก็ต อำเภอปัว ศูนย์ผ้าทอไทลื้อบ้านดอนมูล อำเภอท่าวังผา และร้านมิสเอโปรดักซ์ อำเภอปัว

 

            โครงการนี้ได้รีแบรนด์อัตลักษณ์ผ้าทอพื้นเมืองน่านให้มีความน่าสนใจขึ้นมา 8 คลัสเตอร์

1.บ้านซาวหลวง: ประยุกต์ลายน้ำไหลจากชาวไทลื้อโบราณ เน้นผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ตกแต่งภายใน และเฟอร์นิเจอร์

2.ร้านวราภรณ์ผ้าทอ: ลายผ้าเรียบง่าย สีสันสดใสผสมโทนสีเทา มีความเป็นยูนิฟอร์มร่วมสมัย

3.ร้านรัตนพรผ้าเขียนเทียน: พัฒนาลวดลายเดิมด้วยการจัดวางใหม่ จากวัฒนธรรมม้ง เน้นความคล่องตัวใส่สบาย สไตล์มินิมอล

4.ร้านฝ้ายเงิน: ลวดลายวัฒนธรรมไทลื้อ เน้นสีสันสดใส ดีไซน์สนุกกับแนวเสื้อโอเวอร์ไซส์

5.บ้านปางกอม: ลวดลายไทลื้อ ที่มีความเป็นสากล ด้วยเอิร์ทโทน เหมาะกับ Gen Y สายรักษ์โลก

6.โกโก้วัลเล่ย์: กลุ่มทอผ้าไทลื้อ เน้นกลุ่มไลฟ์สไตล์ชอบเที่ยว อินดี้ ไม่เหมือนใคร

7.ไทมูล: ลวดลายท้องถิ่นไทลื้อ เน้นความแปลกตาผสมกับรูปทรงเรขาคณิต อิสระและเรียบง่าย

8.มีสเอ โปรดักส์: ลายไทลื้อที่มีความสตรีทแวร์ สวยสบาย คล่องตัว

 

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai