ททท.งัดสูตรใหม่พลิกรายได้เที่ยวไทยติดอาวุธ3แผนทัวร์ไตรมาส1ปี65 ชูเที่ยวสงบสยบโควิด-เทศกาลเที่ยวเมืองไทย-โหมวันธรรมดาทัวร์5ภาค

 ททท.งัดสูตรใหม่พลิกรายได้เที่ยวไทยติดอาวุธ3แผนทัวร์ไตรมาส1ปี65

ชูเที่ยวสงบสยบโควิด-เทศกาลเที่ยวเมืองไทย-โหมวันธรรมดาทัวร์5ภาค

คิงเพาเวอร์ชวนรับตั๋วฟรีทัวร์วันเด็กเสาร์นี้ที่มหานครสกายวอล์คชั้น78

ลงทะเบียนก่อนช้อปคิงเพาเวอร์4แห่งรับเลยช้อปคุ้มคูปอง+กิฟท์การ์ด

คิงเพาเวอร์จัดชุดใหญ่“ONLINE BEST PRICE”ลด 30%วันนี้-31ม.ค.65

ททท.ปลุกเที่ยวทุ่งทานตะวันเขาวงกตลพบุรีอ.พัฒนานิคมเริ่ม8ม.ค.65

บางจากทุ่ม1,600ล้านขยายธุรกิจน้ำมันทางท่อลุยลดคาร์บอนเป็นศูนย์

ล่องใต้ไป“ตรัง”ดำน้ำเกาะเหลาเหลียงเช็คอินกินเที่ยวสุดหรอยรับปีเสือ

“4เทคนิค”จะกินหวานอย่างไรให้พอดี กินอย่างถูกวิธีรับรองดีต่อสุขภาพ

“ไลม์ไลท์เด็กเดย์”ภูเก็ตจัดวันเด็กออนไลน์ชวนสนุกกับกิจกรรมรับรางวัล

ไปรษณีย์เปิดสแตมป์ใหม่วันเด็กซีรีย์กีฬา-ชวนทำคลิปชิงรางวัลถึง16ม.ค.

อุทยานผาแดงเชียงใหม่เปิดทัวร์ดอยค้ำฟ้าดูดอกพญาเสือโคร่งเริ่ม14ม.ค.

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ 

รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.)

 วันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #OnlineBestPrice #TAT   #บางจาก  #สูตรเที่ยวสงบสยบโควิด

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้

ช่วงที่ 1 ต้อนรับศักราชใหม่ กับ “นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) เปลี่ยนสูตรใหม่ “เที่ยวไทย-เที่ยวสงบสยบโควิด” ไตรมาส 1 “มกราคม-มีนาคม”  บุกตลุยขายทัวร์ประสบการณ์ 3 แผนงาน แผนแรก-คัดสินค้าขายด่วน 6 โปรเจ็กต์  แผนสอง-พลิกโฉมเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2022 ดัน 5 ภาคบูม “อินเลิฟถิ่นอีสาน-วันวานเมืองเหนือ-อร่อยเหลือลงใต้-สบาย ๆ ตะวันออก-มีสไตล์ภาคกลาง” 19-23 ม.ค.นี้ เนรมิตสวนลุม 5 หมื่นตารางเมตร ชวนสัมผัส แหล่งเที่ยว อาหาร วัฒนธรรม ประเพณี ของดีชุมชน ทดลองแจกเหรียญโทเค่นผนวกเทรนด์ Metaverse สอนภาคธุรกิจและนักท่องเที่ยวเตรียมสู่โลกใหม่ แผนสาม-ขายวันธรรมดากระแสมาแรง workation+Freedive งัดกลยุทธ์มัดรวมทุกสินค้าชูราคาล่อใจเพิ่มยอดวันพัก/รายได้ โตวันโตคืน

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เริ่มเปิดศักราชใหม่ 2565 การทำตลาดในประเทศเชิงรุกไตรมาส 1-2 จะได้เห็นความชัดเจนมากขึ้นโดยเฉพาะแนวคิด BCG กับ Happy โมเดล มาปรับใช้กับการท่องเที่ยว ททท.ให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์เดินทางท่องเที่ยว” จึงได้นำมากำหนดธีม “เที่ยวเมืองไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม” เที่ยวทุกจังหวัดก็ยิ่งอะเมซิ่ง ซึ่งแต่ละจังหวัดจะต้องตอบโจทย์ 2 ตลาดเป้าหมาย กลุ่มแรก คนไทย (domestic) และกลุ่มสองชาวต่างชาติพำนักในไทย (expat)

แผนงานที่ 1  คัดและจัดทำโครงการขายสินค้าท่องเที่ยวตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายเที่ยวไทยด้วยไฮไลต์ 6  โครงการหลัก ได้แก่ โครงการแรก “Unseen New Series” ทุกอาทิตย์จะทำเป็นปฏิทินเที่ยวต่อเนื่อง ตัวอย่าง สัปดาห์นี้จะไปเปิด “ชุมชนท่องเที่ยวเขายายเที่ยง” เป็นอันซีน นิว ซีรีย์ส จับมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โครงการที่ 2 เที่ยววันธรรมดา โครงการที่ 3 เที่ยวเมืองรอง ที่ต้องลอง โครงการที่ 4  ท่องเที่ยวชุมชนสร้างสรรค์ 5 ภูมิภาค โครงการที่ 5 Workation Thailand ทำงานเที่ยวได้ โครงการที่ 6  Thailand Premium รุกเจาะตลาดท่องเที่ยวคุณภาพ ซึ่งจะทยอยเปิดตัวแล้วก็จะได้เห็นแน่ ๆ ในช่วงไตรมาส 1-2 ระหว่างมกราคม-มิถุนายน 2565

 

รูปแบบการนำเสนอสินค้าบวกกับแรงจูงใจเพื่อกระตุ้นให้คนออกเดินทางท่องเที่ยวตามใน 6 โครงการ นั้น ตัวอย่าง การเจาะ “ตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ” จะประกอบด้วย 1.เส้นทางท่องเที่ยว จะเสนอขาย ชุมชนเชิงสร้างสรรค์ การท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ ยอร์ช ซูเปอร์ยอร์ช เที่ยวหรูด้วยเครื่องบินส่วนตัว (Private Jet)  ตอนนี้ได้รับความนิยมสูงมาก 2.แหล่งกิน จะแนะนำร้านอาหารมิชลินสตาร์  3.ช้อปปิ้ง ดึงร้านอัญมณี เครื่องประดับ เข้ามาร่วมมากขึ้น และ 4.ที่พัก เน้นได้ตราสัญลักษณ์ความปลอดภัย SHA , SHA PLUS แต่ละภูมิภาคก็จะมีความโดดเด่นแตกต่างกันไป

 

สำหรับ “วิธีขาย” ททท.จับมือกับบริษัทตัวแทนนำเที่ยว ทำโครงการนำร่อง “ทัวร์ประสบการณ์” เพราะพฤติกรรมปกติคนไทยอาจจะไม่ค่อยได้ใช้บริการบริษัททัวร์ แต่ตอนนี้ก็ ททท.ทำโมเดลขายผ่านช่องทาง “ออฟไลน์” ร่วมกับบริษัททัวร์เน้นดีไซน์โปรแกรมทัวร์เพิ่มประสบการณ์ กำลังเตรียมเปิดตัว 2 โปรแกรม 1.ทัวร์แก้ชงปีเสือ 2.ทัวร์คนโสด

ควบคู่การเดินหน้าทำ 3.โปรแกรม “Workation Chill Out Thailand” เป็นผลมาจากสัญญาณการระบาดของโควิดโอไมครอน ทำให้คนอาจจะต้องทำงานอยู่กับบ้าน หรือเลือกบางแห่งเป็นสถานที่ทำงาน หรือบางพื้นที่อาจจะเลือกสถานที่ทำงานเพื่อคลายเครียด ถ้าจำเป็นต้องทำงานในสถานที่ใดที่หนึ่ง ททท.จะตอบโจทย์โดยนำโรงแรมมานำเสนอตลาดที่ต้องการ work from home , work from anywhere

ต่อเนื่องในโปรแกรมที่ 4  “การท่องเที่ยวชุมชนสร้างสรรค์” หลายแหล่งมีความพร้อม ททท.เดินหน้าเปิดสถานที่ภายในปีนี้ 25 ชุมชน รองรับการท่องเที่ยวสไตล์ work from anywhere นี้ด้วย ชุมชนที่มีคุณสมบัติสามารถเข้าร่วมขายในตลาดนี้ได้ ขณะนี้ทุกแห่งต้องมีองค์ประกอบสำคัญอย่างเข้มข้นมาก คือมาตรฐานได้รับตราสัญลักษณ์ SHA, SHA PLUS, SHA EXTRA PLUS  รวมทั้งการทำ COVID FEE SETING เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวแล้ว ททท.ก็จะนำรายชื่อชุมชนดังกล่าวไปเสนอขายแก่นักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายอย่างเต็มที่

 

น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า ททท.เริ่มเปิดตัวชุมชนท่องเที่ยวสร้างสรรค์ 25 แห่ง 5 ภูมิภาค ไปบ้างแล้ว ปี 2565 จะนำร่องทำเพิ่มโดยจับมือกับบริษัททัวร์เปิด “ตลาดนัดออนไลน์” ตอนนี้อยู่ในกระบวนการเตรียมเริ่มดำเนินการตั้งแต่ต้นปี เช่น “ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” เปิดการขาย “ชุมชนเขายายเที่ยง” จ.นครราชสีมา “ชุมชนบ้านชีทวน” จ.อุบลราชธานี “ชุมชนภูป่าเปาะ” จ.เลย “ชุมชนบ้านเดื่อ” จ.หนองคาย สามารถเลือกซื้อท่องเที่ยวทางออนไลน์ได้แล้ว

 

แผนงานที่ 2 การเตรียมจัดงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม ประจำปี 2565 : THAILAND TOURISM FESTIVAL 2022” จัดระหว่างวันที่ 19-23 มกราคม 2565 จับมือกับทางกรุงเทพมหานคร ใช้พื้นที่สวนสาธารณะ ณ สวนลุมพินี จัดงานไม่ต่ำกว่า 50,000 ตารางเมตร รองรับนักท่องเที่ยวภายใต้มาตราการเข้มข้นการใช้ระบบมาตรฐานการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เข้มข้น ได้เฉลี่ยวันละประมาณวันละ 10,000 คน

“ธีมการขาย” การท่องเที่ยวในประเทศ 5 ภูมิภาค จะสร้างความฮือฮาด้วยคอนเซ็ปต์หลักดังนี้ “เที่ยวอินเลิฟถิ่นอีสาน-เที่ยววันวานเมืองเหนือ-เที่ยวอร่อยเหลือลงใต้-เที่ยวสบาย ๆ ตะวันออก-เที่ยวมีสไตล์ภาคกลาง”

รวมทั้งในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2565” ถือเป็นอีกโมเดลในการจัดงาน “ท่องเที่ยววิถีใหม่สไตล์ New Normal” มีองค์ประกอบสำคัญ 3 ส่วน คือ

ส่วนที่  1 มาตการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 “ปลอดภัย-ปลอดโปร่ง-ไม่แออัด” ปลอดปัญหา ตามแผนจะจัดให้มี “เจ้าหน้าที่ประจำทุกจุด” บวกกับมีแผนบริหารจัดการความเสี่ยงในทุกพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ส่วนที่ 2 วิธีการท่องเที่ยวแบบใหม่ ททท.จะเปิดภาพลักษณ์การท่องเที่ยวสไตล์ New Normal 2565 อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม แต่ละภูมิภาคจะนำเสนอสินค้าใหม่ ๆ ตามคอนเซ็ปต์การขาย Amazing New Chapter ททท.ทั้ง 5 ภูมิภาคจะต้องโชว์ถึงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการท่องเที่ยวแนวใหม่อาศัยเทคโนโลยี Block Chain จะเริ่มต้นแบบไหน มีรูปแบบดำเนินการอย่างไร มางานนี้จะได้เห็นสิ่งแปลกใหม่ทั้งหมด

 

การสร้างจุดขายในงาน ททท.แต่ละภาคส่วนสำคัญจะมีกิมมิกนำไปสู่ Capter ใหม่ ๆ ด้วยธีมจัดงานทำเป็นโซนหมู่บ้านดังนี้

1.ภาคตะวันออก ชื่อหมู่บ้าน “เที่ยวสบาย  ๆ สไตล์ตะวันออก” ในธีม-สีสันตะวันออก นำเสนอความสุขเรื่องอาหารการกิน เพื่อสุขภาพที่ดี หรือ food health วัฒนธรรม ประเพณี  กิจกรรมต่าง  ๆ

2.ภาคกลาง ชื่อหมู่บ้าน “เที่ยวแบบมีสไตล์ สไตล์ภาคกลาง” ในธีม-เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย สไตล์ภาคกลาง นำเสนอ 3 แนวคิดหลัก 1.เที่ยง่ายสไตล์ย้อนยุค 2.เที่ยวง่ายสไตล์ชุมชน 3.เที่ยวง่ายวิถีใหม่ โดยมีเรื่องอาหารการกิน วัฒนธรรม ประเพณี ครบถ้ว 

3.ภาคเหนือ ชื่อหมู่บ้าน “ย้อนวันวาน :Nostalgia Festival” ในธีม-เที่ยววันวานเมืองเหนือ นำเสนอ ความสวย ความงาม ความสนุก ของภาคเหนือ ผสมผสานกับวิถีชีวิต วัฒนธรรม ธรรมชาติ ออกแบบประสบการณ์คนที่เข้ามาชมงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 

4.ภาคใต้ ชื่อหมู่บ้าน “ ในธีม-เที่ยวอร่อยเหลือลงใต้ นำเสนอเรื่อง อาหาร สู่มิชลินสตาร์ ศิลปะแม่สีสู่สถาปัตยกรรมต่าง ๆ 

5.ภาคอีสาน ชื่อหมู่บ้าน “Cool ISAN” ในธีม “เที่ยวอินเลิฟถิ่นอีสาน” นำเสนอความเป็นภาคที่มีความคูล หรือดินแดนของแฟนคลับที่หลงรักอีสาน อาหารถิ่นแซ่บ ทัศนียภาพท้องถิ่น ดินแดนแห่งการเชื่อมโยง ธรรมมะกับธรรมชาติเข้าด้วยกัน

 

ส่วนที่ 3 โชว์นวัตกรรมใหม่สุดว้าวในยุคดิจิตัล ภายในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2565 นอกจากเทรนด์ Metaverse แล้ว ผู้เข้าชมงานยังจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่อยากให้ทุกคนมาชม ททท.จะนำระบบ “สังคมไร้สัมผัส หรือ touchless Society” เช่น นำเทคโนโลยีมาใช้ในการจ่ายเงินซื้อสินค้าภายในงาน สำคัญที่สุด “มาตรการด้านสาธารณสุข” คนเข้างานอาจจะต้องตรวจ ATK พร้อมกับฉีดวัคซีนแล้ว 2 เข็ม เนื่องจากมาตรการของ “ศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.)” หากการจัดงานมีรวมตัวกันครั้งละมากกว่า 1,000 คน จะต้องตรวจเข้มสุด ๆ

 

สำหรับแฟนคลับของ “งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย” ชื่นชอบการจับจ่ายซื้อของกิน ของใช้ ราคาพิเศษ ผลิตภัณฑ์สวยงามมาก แต่ละชุมชนมีความตั้งใจจะนำสินค้าชุมชนมาขายในงานนี้อย่างมาก จึงเชิญชวนให้แฟนคลับมาชม ช้อป ชิม ใช้จ่ายเงิน ภายใต้การป้องกันดูแลตนเองร่วมมือปฏิบัติตามข้อกำหนดการรักษาความปลอดภัยด้านสุขอนามัยอย่าการ์ดตกโดยเด็ดขาด

 

นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า การคัดเลือก “ผู้ประกอบการท่องเที่ยว” เข้ามาร่วมขายในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2565” หลังจากงดจัดเพราะโควิดไป 2 ปี ปี 2565 เพิ่งกลับมาจัดงานใหม่อีกครั้ง ดังนั้นจึงให้ ททท.แต่ละภูมิภาค ทำหน้าที่คัดเลือกผู้ประกอบการในพื้นที่ ต้องมีความพร้อมที่ดีจะมาร่วมงาน และสินค้าต่าง ๆ ก็ต้องเป็นสินค้าคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการนักท่องเที่ยว เช่น สินค้าผ้าไหม ตกแต่งเสื้อผ้าอาภรณ์ หรืองานคราฟท์ งานศิลปะ สินค้าอัตลักษณ์ชุมชนแปลกใหม่ มุมมองใหม่ ๆ สินค้าดีไซน์สร้างสรรค์ ถูกใจ มีชื่อเสียงบนออนไลน์ ทุกอย่างที่กล่าวมาจะมารวมตัวกันขายอยู่ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยปี 2565

 

ขณะที่สินค้าทางนวัตกรรมอย่าง Block Chain และเทรนด์ Metaverse/จักรวาลนฤมิตร ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยจะเน้น สร้างการรับรู้ให้คนไทยได้เตรียมความพร้อม ซึ่งจะเป็นโปรเจ็กต์นำร่องเปิดให้เห็นถึงการเดินทางบนโลกเสมือนจริงนั้นสามารถทำได้ มีประโยชน์จริงกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ในงานจะนำเสนอ 2 ส่วน คือ

 

ส่วนที่ 1 เตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวหรือซัพพลายเชน ได้รับรู้และเข้าใจถึง Metaverse เพื่อวางแผนเตรียมความพร้อมอย่างไร เล็งเจาะลูกค้ากลุ่มไหนได้บ้าง

ส่วนที่ 2 นำเสนอประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยวหรือดีมานต์ไซซ์ ถึงโปรแกรมท่องเที่ยวแบบ Metaverse เพื่อให้รู้ว่าการท่องเที่ยวที่นำเทคโนโลยีมาใช้ร่วมสร้างประสบการณ์เดินทางสามารถซื้อขายได้จริง ทำออนไลน์ได้ด้วย 

 

อีกทั้งภายในงาน อาจจะเริ่มทดลองแจก “เหรียญโทเค่น” ซึ่งอาจจะยังไม่ใช่การใช้ TAT COIN เพราะตามจริงแล้ว ทางผู้ประกอบการบางรายก็ใช้ “Utility Token หรือ เหรียญที่เอาไว้ใช้เพื่อแลกกับบริการ หรือการใช้งานในแต่ละระบบที่กำหนดขึ้นมา” ซึ่งในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยสามารถจะทดลองใช้เหรียญได้ เพื่อเป็นการซื้อขายแลกเปลี่ยนล่วงหน้า หมายถึงให้นักท่องเที่ยว “ซื้อสินค้ากับบริการไว้ก่อนล่วงหน้า” จากในงาน แล้วจะนำไปใช้จริงเมื่อไรก็ได้

 

ซึ่งอาจมีความเป็นไปได้ในการจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2565 ททท.จะเปิดช่องให้ผู้ที่มีทรัพย์สิน Utility Asset นำมาใช้แลกเปลี่ยนกันในงานได้

 

แผนงานที่ 3 การโหมโรงเชิงรุกขาย “ท่องเที่ยววันธรรมดา” ตอนนี้ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ตามปกติคนส่วนใหญ่ยังคงเดินทางเที่ยวช่วงวันหยุดเป็นหลัก ปี 2565 ททท.จึงต้องสร้างกลยุทธ์ใหม่  ดังนี้

ส่วนที่ 1 หาช่องทางทำให้วันธรรมดา “ไปเที่ยวได้ง่าย สะดวก ปลอดภัย”  ทำงานก็ไปเที่ยวได้ หรือใช้วันธรรมดาทำงานแล้วเที่ยวในท้องถิ่นได้ เราอาจจะใช้วันธรรมดา เช่น กลุ่มประชุมสัมมนา วัยทำงาน วัยเก๋า โดยเฉพาะ “กลุ่มอาชีพอิสระ” จะสามารถมาเติมเต็มการท่องเที่ยววันธรรมดาได้ดีมาก ๆ

 

ส่วนที่ 2 เพิ่มกิจกรรมใหม่ ๆ เพื่อต่อยอดประสบการณ์ท่องเที่ยว เพื่อให้การท่องเที่ยววันธรรมดาสนุกมากยิ่งขึ้น ทาง ททท.จะคัดเลือกสินค้าและกิจกรรมทำให้เกิดความอยากเดินทางเพิ่มขึ้น ตอนนี้เทรนด์เป็นกระแสมาแรงมาก ได้แก่ “Freediving” เป็นกิจกรรมกีฬาเช่นเดียวกับการดำน้ำ ใช้การเก็บลมหายใจครั้งเดียว ไม่ใช้อุปกรณ์ในการช่วยหายใจใด ๆ อาจจะมีแค่หน้ากากสน็อกเกิล กับชุดดำน้ำแบบ wet suit หรือ Fin ตอนนี้ทะเลทางภาคใต้ ภาคตะวันออก กำลังเป็นที่เลื่องลือมีนักท่องเที่ยวแห่กันไปทำ freediving จำนวนมากขึ้น เช่น ทะเลตรัง บริเวณเกาะรอก เป็นสวรรค์ของนักดำน้ำ เป็นการสร้างกิจกรรมเพื่อตอบโจทย์การเพิ่มยอดพักท่องเที่ยววันธรรมดาในประเทศปี 2565

 

สำหรับ “การกระตุ้นยอดวันพัก-ความถี่-รายได้” ท่องเที่ยววันธรรมดา คือ 1.ยังคงต้องใช้ Force Move Tourism พลังหรืออิทธิพลผลักดันทำให้เกิดการเดินทาง 1.โครงการเราเที่ยวด้วยกัน จะขยายระยะเวลาจาก 31 มกราคม เป็น เมษายน 2565 นี้ 2.นโยบายการจัดประชุม สัมมนา ผสมผสานเข้ากับกิจกรรม work from anywhere , workation ตามสถานที่มีความปลอดภัย และความพร้อมด้านสาธารณสุข 3.การใช้ราคาตอบโจทย์ผ่านสินค้าและบริการท่องเที่ยวที่มีความแตกต่าง ดึงให้คนออกมาเที่ยววันธรรมดา เป็นกลยุทธ์ “มัดรวมสินค้าที่มีคุณค่าบวกประสบการณ์” เพิ่มยอดขายได้มากขึ้น

 

กลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้ “การท่องเที่ยววันธรรมดา ปี 2565” เติบโตได้ บวกกับจะต้องใช้เครื่องมือทางนวัตกรรม ดิจิทัล รวมทั้ง Utility Token ก็เป็นส่วนหนึ่งด้วย ที่เข้ามาช่วยเสริมให้นักท่องเที่ยวเข้าถึง จับจ่ายใช้เงินเพิ่มขึ้นได้

 

นางสาวฐาปนีย์กล่าวทิ้งท้ายว่า ท่ามกลางสถานการณ์ขับเคลื่อนท่องเที่ยวภายใต้การอยู่กับโควิด-19 นั้น “ผู้ประกอบการท่องเที่ยว” จะต้องไปต่อ Move on เพราะฉนั้น “นักท่องเที่ยวอย่างเรา”  คงต้องแบบไม่ประมาท หรือ “ท่องเที่ยวแบบสงบเพื่อสยบโควิด”

 

เที่ยวแบบ “สงบ” นั่นก็คือไม่ได้เน้นความหวือหวา หากจะต้องตั้งการ์ด ไม่ประมาท มีมาตรฐานสาธารณสุข ถ้าช่วยกันทำแบบนี้การท่องเที่ยวจะดีขึ้นอย่างแน่นอน ส่วน “ผู้ประกอบการ” เองก็จะฟื้นตัวขึ้นอย่างช้า ๆ มั่นใจ มาร่วมกันท่องเที่ยวแบบสงบเพื่อสยบโควิดกันตลอดปี 2565

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1  คิงเพาเวอร์ชวนรับตั๋วฟรีทัวร์วันเด็กเสาร์นี้ที่มหานครสกายวอล์คชั้น78

คิง เพาเวอร์ ชวนครอบครัวพาน้อง ๆ หนู ๆ มาร่วมสนุกวันเด็ก ที่ “มหานคร สกายวอล์ค” บนชั้น 78 คิง เพาเวอร์ มหานคร ในวันเด็ก เสาร์ที่ 8 มกราคม 2565 ตั้งแต่ 12.00-19.00 น. เมื่อซื้อบัตรขึ้นชม 1 ใบ ฟรีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี พร้อมรับฟรีลูกโป่ง และป๊อปคอร์น

สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนยืนยันถึงอายุต่ำกว่า 15 ปี เพื่อรับสิทธิ์ฟรีขึ้นชมสกายวอล์ควันเด็ก

จากนั้นก็รอติดตามเซอร์ไพรส์เร็ว ๆ นี้ที่“มหานคร แบงก์ค็อก สกาย บาร์” ห้องอาหารหรูเรียบใน คิง เพาเวอร์ มหานคร เตรียมเนรมิตความสุข ด้วยคอนเซ็ปต์ใหม่ไม่เหมือนใคร โดยพร้อมจะยกระดับห้องอาหารและบาร์ในกรุงเทพฯ เพิ่มเติมคือสุดยอดเชฟที่จะมาสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยเมนูแปลกใหม่สุดน่าลิ้มลอง รอติดตามเซอร์ไพรส์ได้เลย  เหล่านักชิมเตรียมตัวให้พร้อม และติดตามอัพเดตการพลิกโฉมนี้ได้ที่ @Ojobangkok

 

ข่าวที่ 2 ลงทะเบียนก่อนช้อปคิงเพาเวอร์4แห่งรับช้อปคุ้มคูปอง+กิฟท์การ์ด

ช้อปฉลองต้อนรับปีใหม่ต่อเนื่องกับโปรโมชั่น “ช้อปคุ้ม” เพียงแค่ ลงทะเบียนก่อนช้อป เพื่อเลือกซื้อสินค้าได้ที่ คิง เพาเวอร์ 4 แห่ง คือรางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต ส่วนคิง เพาเวอร์ ศรีวารี เปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ โดยมีโปรดึงดูดใจดังนี้

1.รับฟรี คูปองส่วนลด 1,000 บาท นำไปช้อป 5,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ คนละ 1 สิทธิ์/วัน

2.ช้อปคุ้มกว่าด้วยบัตรเงินสดหรือ  CASH CARD  เมื่อซื้อบัตรราคา10,000 บาท รับเพิ่มฟรีทันที GIFT CARD 3,000 บาท

3.ช้อปคุ้มด้วยบัตรเงินสดหรือ  CASH CARD  เมื่อซื้อบัตรราคา 25,000 บาท รับฟรีเพิ่มทันที GIFT CARD 10,000 บาท

4.สมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ SCARLET กับโปรโมชั่น “ใหม่ ได้แล้ว ได้อีก” ระหว่างตลอดอายุสมาชิก 4 มกราคม-28 กุมภาพันธ์ 2565 เพียงเติมเงินเข้าบัญชีสมาชิก 6,000 บาท รับเพิ่ม 1,500 บาท พร้อมรับส่วนลด 10% ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3mboLds

ข่าวที่ 3 คิงเพาเวอร์จัดชุดใหญ่“ONLINE BEST PRICE”ลด30%ถึง31ม.ค.65

คิง เพาเวอร์ จัดชุดใหญ่ “ONLINE BEST PRICE”  กับมหกรรมเลือกซื้อสินค้าออนไลน์นับหมื่นรายการส่งบ้านราคาดิวตี้ฟรี ลดสูงสุด 30% ช้อปเลย ไม่ต้องห้ามใจ!

พบกับทัพสินค้าราคาสุดคุ้มเกินห้ามใจ สั่งซื้อง่าย ช้อปได้ทุกที่ผ่านช่องทาง คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ www.kingpower.ocm เพียงใส่รหัสส่วนลด OBPJAN ระหว่างวันนี้ - 31 ม.ค. 2565 เมื่อช้อปครบ 699 บาท/ครั้ง รับสิทธิ์บริการส่งฟรี! ทั่วประเทศ ช้อปเลยที่ - https://bit.ly/3sx3YoQ

 

ข่าวที่ 4 ททท.ปลุกเที่ยวทุ่งทานตะวันเขาวงกตลพบุรีอ.พัฒนานิคมเริ่ม8ม.ค.65

น.ส.จุฑาทิพย์ เจริญลาภ ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ทาง ททท.สำนักงานลพบุรีชวนไปสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวทุ่งทานตะวันลพบุรี ที่ได้เปลี่ยนโฉมเป็น “SUNFLOWER AMAZE : เขาวงกตในทุ่งทานตะวัน” นำร่องเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ 8 - 9 มกราคม 2565 ณ ทุ่งทานตะวันไร่คุณรำยอง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี

งานนักท่องเที่ยวจะได้รับประสบการณ์ความสุขท่ามกลางความงดงามทางธรรมชาติ โดยมีหลากหลายกิจกรรมให้เข้าร่วมสนุก ได้แก่ 1.เส้นทางเขาวงกตในทุ่งทานตะวัน 2.การทำ D.I.Y ปั้นลิง ปั้นทานตะวัน 3.ร่วมเก็บขยะแลกของที่ระลึกเป็นหนึ่งในการบำเพ็ญประโยชน์ท่องเที่ยวสไตล์ CSR 4.ชม ช็อป ของที่ระลึก และสินค้าโอท็อปเมืองลพบุรี

รวมทั้งห้ามพลาดหามุมเหมาะหลากหลายมุมถ่ายภาพสวย ๆ ที่จัดเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชีลเพื่อแชะแล้วแชร์ส่งต่อ เพื่อชวนคนมาเที่ยวในโอกาสต่อไป

ภายในทุ่งทานตะวันแห่งนี้ ททท.และภาคเออกชน จัดขึ้นภายใต้มาตรการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข สอบถามเพิ่มได้ที่ ททท.ลพบุรี โทร. 036-770096-7

 

ข่าวที่ 5 บางจากทุ่ม1,600ล้านขยายธุรกิจน้ำมันทางท่อลดคาร์บอนเป็นศูนย์

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น  เปิดเผยว่า กลุ่มบางจากใช้งบลงทุน 1,600 ล้านบาท เดินหน้าขยายธุรกิจเข้าสู่ระบบขนส่งน้ำมันทางท่อ เสริมความแข็งแกร่งและความมั่นคงให้กับธุรกิจของกลุ่ม ผ่านการได้สิทธิการบริหารระบบขนส่งน้ำมันทางท่อความยาวท่อรวม 99 กิโลเมตร จากบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) เป็นการลงทุนผ่านบริษัท กรุงเทพขนส่งเชื้อเพลิงทางท่อ และโลจิสติกส์ จำกัด (BFPL) ซึ่งตั้งขึ้นในปีนี้ โดยมี บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 100%

โดยได้สิทธิบริหารระบบท่อขนส่งน้ำมันที่ BFPL เข้าไปดำเนินการ คือ เส้นทางกรุงเทพฯ-คลังน้ำมันบางปะอิน ความยาว 99 กิโลเมตร (ความยาวช่วงกรุงเทพ-บางปะอิน 69 กิโลเมตร และท่อน้ำมันอากาศยาน 30 กิโลเมตร) ครอบคลุมระบบท่อส่งน้ำมันเบนซินและดีเซลระหว่างโรงกลั่นน้ำมันบางจาก คลังน้ำมันอื่น ๆ  และคลังน้ำมันบางปะอิน ระบบท่อส่งน้ำมันอากาศยานเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง รวมถึงท่อก๊าซธรรมชาติ เข้าสู่ บริษัท บางจาก ไบโอฟูเอล จำกัด (ตั้งอยู่ที่อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) รวมระยะเวลา 20 ปี เริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 - 31 ธันวาคม 2584

นายชัยวัฒน์กล่าวว่า การลงทุนขยายธุรกิจเข้าสู่ระบบโลจิสติกส์ครั้งนี้จะช่วยต่อยอดสร้างโอกาสที่ดีได้อีกมาก ด้วยศักยภาพด้านการค้าแล้ว จะช่วยลดต้นทุนการขนส่งน้ำมัน ลดการสูญเสียระหว่างจากการขนส่ง  สามารถคำนวณและควบคุมระยะเวลาขนส่งได้ดีกว่าทางรถ อีกทั้งเป็นช่องทางสร้างรายได้เพิ่ม

 

รวมทั้งยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่งทางรถและโอกาสเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน สอดคล้องกับพันธกิจองค์กรของบางจากฯ ที่มุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและสังคม เป็นการตอบโจทย์การมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ของกลุ่มบางจากฯ ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ตามเป้าหมาย 

            ช่วงที่ 2 ออกเที่ยวล่องใต้ไป “ตรัง” กันเถอะ ธรรมชาติใต้ทะเลรอเหล่าเลิฟเวอร์ Freedive มาชมความงาม และชวนนักชิมที่ชื่นชอบ ติ่มซำ หมูย่าง วิถีชีวิตยามเช้า หาดทรายชายทะเลคลื่นลมสงบยามเย็น มาได้เลย ตอนนี้ทุกอย่างสวย งดงาม อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม และขอบอกวัยเก๋าทั้งหลายฟังดี  ๆ มี “4เทคนิค กินหวานอย่างไรให้พอดี” มาบอกให้ลองทำ ส่วนข่าวเสาร์นี้ ข่าวแรก “ไลม์ไลน์เด็กเดย์” ภูเก็ต จัดวันเด็กออนไลน์ให้ร่วมสนุกลุ้นรับรางวัลมากมาย ข่าวที่สอง “ไปรษณีย์ไทย” ออกสแสตมป์ใหม่วันเด็กชุดซีรีย์กีฬาซื้อได้ในราคาเพียง 16 บาท ข่าวที่สาม “อุทยานแห่งชาติผาแดง” เชียงใหม่ พร้อมเปิดให้ขึ้นไปสัมผัสความสุขบนดอยค้ำฟ้าและชมทุ่งดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งเริ่ม 14 ม.ค.2565

 

พาเที่ยว-ล่องใต้ไป “ตรัง” ดำน้ำเกาะเหลาเหลียงเช็คอินกินเที่ยวสุดหรอยปีเสือ

 

ได้เวลาล่องใต้ไปทักทาย “ทะเลตรัง” จังหวัดตรัง ในช่วงกระแสการท่องเที่ยวดำน้ำสไตล์ Freedive กำลังมาแรง ดำน้ำโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ เป้าหมายการเช็คอินยัง “เกาะเหลาเหลียง” ตอนนี้นักท่องเที่ยวเบาบาง เหมาะมาก ๆ ที่จะทำให้กลายเป็นเกาะส่วนตัว เต็มไปด้วยหาดทรายละเอียดดุจแป้ง น้ำทะเลสวยใส

“เหลาเหลียง” เป็นเกาะสวยติดอันดับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดตรัง ที่ชวนให้เหล่าสาวกคนรักทะเลหลงไหล ทุกครั้งเมื่อมีโอกาสก็จะชวนกันไปพักผ่อน ณ สถานที่แห่งนี้ ซึ่งใช้เวลานั่งเรือจากฝั่งไปยังเกาะเหลาเหลียงราว ชั่วโมงครึ่ง

 

                สัญลักษณ์โดดเด่นของเกาะเหลาเหลียงคือ “ภูเขาหินปูน” สองลูกตั้งอยู่กลางน้ำทะเลรายล้อมด้วยน้ำสีฟ้าหรือบางครั้งก็เห็นสีเขียวมรกต แถมมีมุมสงบ ให้นั่งชมวิว หรือพักผ่อน และทำกิจกรรมผ่อนคลายบนหาดทรายนุ่ม ๆ ได้ตลอดทั้งวัน

                นอกจากการพักผ่อน หรือทำดำน้ำตื้น น้ำลึก บริเวณ เกาะเหลาเหลียง แล้ว จังหวัดตรัง ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ ด้วยการจัดโปรแกรมนั่งเครื่องไปพักผ่อนสัก 3 วัน 2 คืน ก็ได้

               

                พอไปถึง “ตรัง” สิ่งที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่รู้สึกได้ถึงประสบการณ์แรกคือ “เมนูอาหารถิ่น” กับ “สถานที่ท่องเที่ยววิถีท้องถิ่น”  ทุกเช้ามักจะได้เห็น “ติ่มซำ” เมนูเด็ดบอกเลยว่าต้องชิมสักครั้ง ก่อนเช่ารถตะลอนชมเมือง ให้ครบสัก 3 จุด

 

เช็คอินจุดแรก “หอนาฬิกาตรัง” สถาปัตยกรรมเก่าแก่ประจำจังหวัดและสูงที่สุดในประเทศไทย

 

เช็คอินจุดที่ 2 ไปที่ “วงเวียนพะยูน” สัตว์น้ำพันธุ์อนุรักษ์เป็นสัญลักษณ์เมืองตรัง มาถึงแล้วก็ต้องลงเดินชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่อย่าง “วิหารคริสตจักรตรัง” โบสถ์สีเหลืองทรงเก่า ในย่าน “ตึกเก่าเมืองตรังสไตล์ชิโน-โปรตุกีส ผสมผสานจีนโบราณ

เช็คอินจุดที่ 3  “ศาลเจ้าท่ามก๋งเยี่ย” ศาลเจ้าเก่าแก่ดังเรื่องความศักดิ์สิทธิ์และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนเมืองตรัง

ชม “อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี” เดินชมสวนสาธารณะ เรียนรู้ถึงความเป็นมาบุคคลสำคัญของจังหวัด

เช้าวันต่อมา ต้องลองชิม “หมูย่าง”  อาหารเลื่องชื่อตรังเสิร์ฟพร้อมติ่มซำ แล้วก็เดินชมตลาดเช้า สัมผัสวิถีชีวิตผู้คนท้องถิ่น เดินไปจนถึง “สถานีรถไฟกันตัง” ที่นี่ได้รักษาอัตลักษณ์ความเก่าแก่ของอาคารไม้ชั้นเดียว ยุคบุกเบิกสร้างสถานีรถไฟสุดท้ายลงมายังภาคใต้ในฝั่งทะเลอันดามัน ชมเสร็จก็สั่งมาแฟจากร้าน “สถานีรัก” มาจิบอย่างสบายใจ

 

สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดตรังยังมี  “พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี” มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป้นบ้านเรือนไม้ 2 ชั้น จัดแสดงรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้ง พร้อมเครื่องใช้ยุคอดีตไว้ได้เป็นอย่างดี

 

พอบ่ายคล้อยมุ่งหน้าไปเพิ่มประสบการณ์เที่ยวชายหาดได้ที่ “อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม” รับลมทะเลเย็น ๆ แล้วก็แวะเข้าตัวเมืองไปที่ร้าน “มหาสมุทรคาเฟ่” กินดินเนอร์อาหารทะเลสด ปรุงจานเด็ดได้หลากหลายเมนู สั่งได้ตามที่อยากชิม

 

วันสุดท้ายเที่ยวใกล้ในเมืองในแหล่งท่องเที่ยวอะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิมอีกแห่งคือ “ถ้ำเลเขากอบ” ล่องเรือชมธรรมชาติ ลอดท้องมังกร และชมความสวยงามในถ้ำ แล้วไปจบที่ “วัดเขาพระยอด” สักการะพระธาตุ กับรอยพระพุทธบาท น้อมนำความเป็นศิริมงคลเข้าตัว แล้วก่อนกลับต้องแวะอุดหนุน “เค้กเมืองตรัง” ของหวานที่ไปถึงแล้วควรซื้อกลับมาฝากครอบครัว เพื่อนฝูง ให้ลองชิมกัน แล้วลองประเมินว่าเค้กยุคนี้อร่อยไม่เปลี่ยนแปลง

 

เที่ยวตรัง เที่ยวได้ เที่ยวสบาย อร่อยเหลือ สนุกล้ำ อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม อย่างแน่นอน

 

สุขภาพ - 4 เทคนิคกินหวานอย่างไรให้พอดี กินอย่างถูกวิธี ดีต่อสุขภาพ

‘รสหวาน’ มักจะโดนใจวัยเก๋าหลายคนโปรดปราน เพราะเป็นรสที่กินง่าย ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูของว่างรับประทานร่วมเครื่องดื่มแสนอร่อย แต่ “ความหวานจากน้ำตาล” ถึงแม้จะเป็นแหล่งพลังงาน แต่ทุกวันนี้กินมากเกินไปอาจกลายเป็นอันตรายได้ง่ายมากเช่นกัน

 

ผู้สูงวัยหรือวัยเก๋าทั้งหลายจึงควรกินในปริมาณที่เหมาะสม ไม่เกินวันละ 4-6 ช้อนชา เพราะหากกินมากไป ร่างกายจะได้รับพลังงานเกิน จนสะสมเป็นไขมัน อาจทำให้อ้วนและนำไปสู่สารพัดโรคได้ จึงมีคำแนะนำมาบอกถึง “4 เทคนิค ลดน้ำตาล กินหวานอย่างไรให้พอดี กินอย่างถูกวิธี ดีต่อสุขภาพ” หากยังติดรสหวานอยู่ ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้คือ

เทคนิคแรก - เลือกเครื่องดื่ม สั่งหวานน้อย เพราะเครื่องดื่มในปัจจุบันมีน้ำตาลมาก ควรสั่งแบบลดระดับความหวานให้เหลือ 0-50 %

เทคนิคที่ 2 -อ่านฉลากโภชนาการ ตรวจสอบว่าอาหารและเครื่องดื่มมีปริมาณมากน้อยแค่ไหน เพื่อเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลมาก

เทคนิคที่ 3  -เลือกผลไม้หวานน้อย กินผลไม้แทนขนมหรืออาหารว่าง เช่น แอปเปิลเขียว ฝรั่ง กล้วย แก้วมังกร หรือเบอร์รี

เทคนิคที่ 4  มองหาสัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพ ที่ช่วยบอกว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผ่านการตรวจสอบปริมาณน้ำตาล ไขมัน โซเดียม ว่าอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม

วัยเก๋าทั้งหลายรู้อย่างนี้แล้วต้องไม่ลืมให้ความสำคัญกับการเลือกกินอาหารและเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสม หวานแบบพอดี สุขภาพแข็งแรง ห่างไกลจากโรคร้ายแน่นอน

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก “ไลม์ไลท์เด็กเดย์”ภูเก็ตจัดวันเด็กออนไลน์ชวนสนุกกับกิจกรรมรับรางวัล

 

ไลม์ไลท์ อเวนิว ภูเก็ตจัดงาน “ไลม์ไลท์เด็กเดย์” แบบออนไลน์ ชม Live สด ผ่านทางเพจ:Limelight Avenue Phuket ในวันเด็กแห่งชาติ วันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2565 เวลา 11.00-12.00 น.

เชิญชวนเด็ก ๆ ร่วมสนุกเล่นเกมกับดีเจแมน  แล้วลุ้นรับรางวัลจักรยานจากสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และเอส.ยู.ซูซุกิ ภูเก็ต  บัตรชมโชว์โลมาภูเก็ต  เที่ยวสวนน้ำบลูทรี เที่ยวหนุมานเวิร์ล ของที่ระลึกจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต พร้อมคูปองเงินสดจากไลม์ไลท์ อเวนิว ภูเก็ต มูลค่ารวมกว่า 3,000 บาท

สามารถลุ้นรับรางวัลได้ตั้งแต่แชร์แบนเนอร์วันเด็กทางหน้าเพจ:Limelight Avenue Phuket ได้เลย โทร.076 682900 หรือโทร. 092 1295468 Line/FB/IG :@limelightphuket

ข่าวที่สอง ไปรษณีย์เปิดสแตมป์ใหม่วันเด็กซีรีย์กีฬา-ชวนทำคลิปชิงรางวัลถึง16ม.ค.นี้

บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด รายงานว่า วันที่ 8 มกราคม 2565 ได้เปิดตัวแสตมป์ที่ระลึกต้อนรับวันเด็ก ปี2565 กับแสตมป์ชุดวันเด็กแห่งชาติ 2565 ให้เลือกซื้อสแตมป์ภาพการ์ตูนลายเส้นและกราฟฟิกสีสันสดใสเด็กเล่นกีฬา 4 ชนิด ได้แก่ ฟุตบอล วอลเลย์บอล บาสเก็ตบอล และกอล์ฟ กีฬายอดนิยมของคนไทย ราคาชุดละ 16 บาท ใน 1 ชุดมี 4 ดวง พร้อมซองวันแรกขายชุดละ 28 บาท ที่ไปรษณีย์ทั่วประเทศ และเว็บไซต์ www.thailandpostmart.com สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายบริหารลูกค้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการไปรษณีย์ โทร. 02 -573 5480, 02-573 5463

 

อีกทั้งไปรษณีย์ไทย เชิญชวนเด็กไทยลุ้นรับของที่ระลึกจากไปรษณีย์ไทย และรับสิทธิ์เป็นสมาชิกสะสมแสตมป์ฟรี เพียงแค่ร่วมกิจกรรม "กีฬามันส์ วันเด็ก" โดยส่งคลิปวิดีโอขณะเล่นกีฬา หรือออกกำลังกาย พร้อมพูดเชิญชวนให้เพื่อน ๆ มาออกกำลังกาย ด้วยความยาวคลิปไม่เกิน 2 นาที เพื่อลุ้นรับของรางวัลดังกล่าว ผู้ที่สนใจสามารถร่วมสนุกได้ที่เฟซบุ๊ก Thai Stamp Museum ได้ตั้งแต่วันนี้ - 16 มกราคม 2565

 

ข่าวที่สาม อุทยานผาแดงเชียงใหม่เปิดทัวร์ดอยค้ำฟ้าดูดอกพญาเสือโคร่งเริ่ม14ม.ค.65

 

อุทยานแห่งชาติผาแดง จังหวัดเชียงใหม่ รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2565 เป็นต้นไป เตรียมเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้าไปชมธรรมชาติแบบไปเช้าเย็นกลับ ในบรรยากาศดอกยค้ำฟ้า และทุ่งดอกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทย บริเวณหน่วยงานต้นน้ำแม่งาย (สำนักงานเก่า) ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติผาแดง

 

นักท่องเที่ยวที่จะต้อง “จองคิว” ทั้งการขึ้นดอยค้ำฟ้า และเข้าชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ลานนางพญาเสือโคร่ง ได้ที่ Facebook: อุทยานแห่งชาติผาแดhttps://www.facebook.com/PhadangNationalpark/inbox

 

สอบถามรายละเอียด ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติผาแดง  โทร.053-046370, 097-9433525 ทุกวันจันทร์-วันอาทิตย์  08.30-16.30 น.

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.