ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ปฏิวัติเที่ยวไทยพลิกโฉมตลาดใหม่3เฟส5โปรเจ็กต์-ผนึก17แอร์ไลน์+รฟท+บขส+โรงแรมขายมหาโปรทั่วไทย

ททท.ปฏิวัติเที่ยวไทยพลิกโฉมตลาดใหม่3เฟส5โปรเจ็กต์ปีขาล

ชูจัดเทศกาลเที่ยวเมืองไทย65ระดมเทรนด์ปังขายยาว77จังหวัด

ดึง17แอร์ไลน์+รฟท.+บขส+โรงแรมลุยขายมหาโปรเที่ยวทั่วไทย

เปิด“อนุสาวรีย์วิชัย ศรีวัฒนประภา”เม.ย.65คนไทยทำดีในเวทีโลก

คิง เพาเวอร์”ชวนช้อปฉลองเดือนแห่งรักมอบสุขx2ถึง20ก.พ.65

ปลุกช้อป!!คิงเพาเวอร์ออนไลน์ใส่โค้ดCRUSHEลดเบิ้มๆ60+25%

ททท.เข้มชม“การแสดงปัง”เทศกาลเที่ยวเมืองไทยปลอดภัย11ข้อ

บางจากปลื้มปี’64ธุรกิจทำกำไรEBITDAทะลุเกิน2.5หมื่นล้านบาท

ไหว้ท้าวเวสสุวรรณ3วัดปังปราจีนฯ-เสริมลาภพุทธสถานนครนายก

เลือกไทยเปิด“ไอบิสแบงคอกทวินทาวเวอร์”โรงแรมใหญ่สุดในโลก

“ไทยสมายล์”บินใหม่“ต่างชาติต่อเครื่อง-เพิ่มดอนเมือง”โปร900บ.

 

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์

รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #เปิดอนุสาวรีย์วิชัยศรีวัฒนประภาเมืองเลสเตอร์  #เทศกาลเที่ยวเมืองไทยสวนลุมพินี #ไหว้ท้าวเวสสุวรรณปราจีนบุรี

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้ https://fb.watch/bgbhmz01xl/

ช่วงที่ 1 ล้วงลึกการพลิกโฉมเที่ยวไทยกับ “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดไทม์ไลน์ 3 เฟส ไฮไลต์ 5 โปรเจ็กต์ไฮไลต์ เฟส 1 ก.พ.ลุย 3 โปรเจ็กต์ จัดกระหึ่ม โปรเจ็กต์แรก โควิดฟีอีเวนต์แรก “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย” ยก 5 ภาค ควง กทม.50 เขต 18-22 ก.พ.ต่อด้วย โปรเจ็กต์ 2  Workation Paradise Thailand ทำงานเที่ยวได้ โปรเจ็กต์ 3 เที่ยวเมืองไทยสะใจยิ่งกว่าเดิม ตามมาด้วย เฟส 2 เริ่ม พ.ค. อัดฉีดต่อโปรเจ็กต์ 4 “ผนึกบก-น้ำ-อากาศ” จับมือ 17 แอร์ไลน์ส รฟท.บขส.รถเช่าแกร็บ และโรงแรม ใส่เกียร์ลุยมหาโปรเที่ยวไทยลดแบบจุก ๆ ผนวก โปรเจ็กต์ 5 รอเสนอรัฐหนุน “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5” ปิดท้ายเฟส 3 เริ่มส.ค.ลุยรักษาสัดส่วน รายได้-การจ้างงาน-ธุรกิจเอกชน และย้ำปี’64 “อีสานควงภาคเหนือ” แชมป์มีคนเที่ยวมากสุด และสถานการณ์ 2เดือนแรกปี65 จังหวัดเที่ยวใกล้กรุงโกยยอดพัก70-90 %

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.พร้อมจัดเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 40 ประจำปี 2565 จัดระหว่างวันที่ 18-22 กุมภาพันธ์ นี้ ใช้พื้นที่กว่า 52,000 ตารางเมตร ในสวนลุมพินี กรุงเทพฯ ถือเป็นงานใหญ่อีเวนต์แรกแห่งปีครั้งแรกภายใต้ปี “ท่องเที่ยวไทย :Visit Thailand Year : Amazing New Chapters” โดยใช้ระบบ Covid Fee เพิ่มความปลอดภัย ไฮไลต์ของงานจะเป็นการ “พลิกโฉม” ตลาดการขายท่องเที่ยวในประเทศไปสู่วิถีใหม่ New Normal สร้างคุณค่า ความประทับใจ ไปท่องเที่ยวแล้วสุขใจมากกว่าเดิม สอดรับกับแคมเปญในประเทศ “เที่ยวเมืองไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม”

 


ตลอดงานได้ออกแบบ “ประสบการณ์ท่องเที่ยววิถีใหม่” โดยนำเอกลักษณ์การท่องเที่ยวทั้ง 5 ภูมิภาค ภาคกลาง-ภาคเหนือ-ภาคอีสาน-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ทั้งมิติ วิถีวัฒนธรรม ภูมิปัญญา แหล่งท่องเที่ยวเทรนด์ใหม่ ๆ ได้แบ่งการจัดงานออกเป็น 9 โซน ประกอบด้วย

 


โซนที่ 1 โฉมใหม่ประเทศไทย Amazing New Chapters ซึ่งจะได้ตื่นตา ตื่นใจ กับนวัตกรรม สมัยใหม่ การท่องเที่ยวรูปแบบต่าง ๆ อย่าง Virtual Reality ด้วยเทคโนโลยี AR, VR, XR และการท่องเที่ยวแนวใหม่กับ Metaverse รวมทั้งไฮไลต์การประกวด TAT Modeling มีแมวมองคอยส่องดูว่าผู้เข้าเยี่ยมชมงานคนใดแต่งตัวสวยงาม โดดเด่น แล้วอาจจะได้เป็น “คนที่ได้ขึ้นปก อสท.” ก็ได้

 

โซนที่ 2 หมู่บ้านภาคตะวันออก จะเป็นการเปิดแคมเปญภายใต้แนวคิด East at Ease :สบ๊าย สบาย สไตล์ตะวันออก แลนด์มาร์กถ่ายภาพสวนลอยฟ้าจำลองของสวนนงนุช กับประภาคารแหลมงอบจังหวัดตราด มีจุดถ่ายภาพกีฬา Subbroad ปีนผา ผจญภัยต่าง ๆ และจำลองบรรยากาศบาย ๆ ในแคมปิ้ง

โซนที่ 3   ภาคกลาง เทรนดี้ C2 ภาคกลาง : 6 พลังบวกในหมู่บ้านภาคกลาง โดดเด่นด้วยแลนด์มาร์คเรือนไทยสีขาวสไตล์โมเดิร์น เป็นการสร้างสรรค์ประสบการณ์ชิคเทรนด์ภาคกลาง

โซนที่ 4 ภาคเหนือ กลิ่นอายเสน่ห์วันวาน...เมืองเหนือ หรือ North Nostalgia ผสมผสานร่วมสมัย กิจกรรมต่าง ๆ แหล่งท่องเที่ยว Unseen New Series จำลองเช็คอินบันไดพญานาคทางขึ้น “วัดขุนอินทรประมูล” จังหวัดเชียงใหม่ และมีอีกมากมาย

โซนที่ 5 ภาคใต้ หรอยแรง แหล่งใต้ : Savory South นำเสนอธีมเซาท์เทิร์น พร้อมการแสดงทางวัฒนธรรม โนราห์ ลิเกฮูลู ซุ้มประตู 3 วัฒนธรรม พร้อม Green Art ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะไปถ่ายรูป

โซนที่ 6 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ISAN IN LOVE :หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน เดินเข้าไปชมแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Series เช่น หอโหวต 101 จ.ร้อย พญานาคสามพิภพ จ.บึงกาฬ หนองคาย นครพนม เมืองลอยฟ้าใต้พิภพ โรงไฟฟ้าลำตะคอง ชุมชนเขายายเที่ยง จ.นคราชสีมา โลกของช้าง จ.สุรินทร์ เชื่อมโยงการแสดงศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งมี “เรื่องเล่า -Story Telling” ที่จะไปตอบโจทย์ “การท่องเที่ยวเพิ่มประสบการณ์จริง”

โซนที่ 7 กทม.50 เขต ต้อนรับสายการกินของดีของอร่อยทั่วกรุงเทพฯ จะจำลอง “สตรีทฟู้ดอาหารเด็ดกรุงเทพฯ 50 ร้าน” เช่น ร้านไอศรีมลืมผัว มีความอร่อยอย่างไรต้องแวะมาทดสอบด้วยตนเอง และอื่น ๆ

โซนที่ 8 เวทีกลาง พบการแสดงอลังการของเหล่าศิลปินชื่อดังจากหลากหลายสาขา เช่น “ลิเกฮีโร่” ต้องมาติดตามชมได้ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย “โนราห์เทพศรัทธา” หรือ “จุลมโหราห์” นั้นมีความมหัศจรรย์อย่างไร กับศิลปิน ปาล์มมี่ อินดิโก้ และอีกมากมาย

โซนที่ 9 เที่ยวไทยแบบใหม่ สไตล์ New Normal จะแนะนำให้ไปดู เรียนรู้ จิกซอร์ การท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย สร้างความยั่งยืน เพราะการจัดงานตามมาตรฐาน Covid Fee

 


อีกทั้งภายในงานยังมี ร้านค้า ร้านรวง ต่าง  ๆ ของทั่วทุกภาคของประเทศ นำสินค้าเด่น ๆ มาร่วมจำหน่ายภายในงาน โดย ททท.จัดเต็มทุกภาค ขอให้นักท่องเที่ยวที่มางานเตรียมเงินมาช้อปของดี ผ้าพื้นเมืองสวย ๆ อาหารอร่อย ของกิน ของใช้ ละลานตา

น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า ภายในงานมีจุดให้คำปรึกษาแนะนำเส้นทางท่องเที่ยว ตอนนี้ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปในเว็บไซต์ www.เพลินไทย.com   จะเห็นไฮไลต์เปิดได้ทางมือถืองานทั้งหมดแต่ละโซนซึ่งเป็นไฮไลต์ พร้อมกับระบุจำนวนความหนาแน่นของคนชมงานตามเกณฑ์สาธารณสุข ตามเกณฑ์จะให้ผู้เข้าชมงานได้รอบละไม่เกิน 10,000 คน  ซึ่งมีไฮไลต์ให้เที่ยวได้ทุกวันทั้งบนเวทีกลาง และเวทีการแสดงย่อยของหมู่บ้านแต่ละภาค

คาดหวังว่างานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2565 จะเกิดขึ้นทั้ง “ทางตรง” จากการจัดงานตลอด 5 วัน เรื่องจำนวนคน วันละประมาณ 10,000-15,000 คน “ทางอ้อม” จะมีไลฟ์สดขายสินค้าเด่น ๆ ที่มีแฟนคลับติดตามช้อปอยู่ด้วย ดังนั้นรายได้จริงอาจจะต้องสรุปหลังเสร็จสิ้นงานอีกครั้ง (สำหรับงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งสุดท้ายปี 2562 มีนักท่องเที่ยวเข้าชมงานรวมประมาณ 600,000 คน)

ททท.ใช้กลยุทธ์บริหารจัดการ 1.การจัดงานเปิดทุกวันตั้งแต่ 11.00-21.00 น.เพื่อทำให้แต่ละรอบมีคนหมุนเวียนเข้ามาเยี่ยมชมอย่างเต็มที่ 2.นำเทคโนโลยีมาตรฐานความปลอดภัยและความเสี่ยงเข้ามาใช้ดูแลด้านสาธารณสุขทั้งเรื่อง แอพลิเคชั่น QQue และเพลินไทย เข้ามาดู ถึงอัตราความหนาแน่นของคนเข้างานได้

 

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า เตรียมแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวต่อเนื่องหลังเทศกาลเที่ยวเมืองไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวในประเทศ 1.เพิ่มวันพักค้างคืน 1.เพิ่มความถี่การออกเดินทางท่องเที่ยว และ 3.การใช้จ่ายเงินแต่ละคน/ทริป ได้แบ่งดำเนินการด้านตลาดในประเทศปี 2565 ออกเป็น 3 ระยะ หรือ 3 เฟส คือ


 

เฟส 1 ระยะสั้น ไตรมาส 1-2 ปีงบประมาณ 2565 (ตุลาคม 2564-มีนาคม 2565) เน้นสร้างความมั่นใจการออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2565 จะเป็นการคลิกออฟสร้างบรรยากาศความมั่นเที่ยวในประเทศ รวมทั้งแคมเปญการตลาดต่าง ๆ กระตุ้นท่องเที่ยว

ตอนนี้เปิดตัวพร้อมขายเรียบร้อยแล้ว โครงการที่ 1 เที่ยวแก้ชงปีขาล 5 ภาค ผนวกการขาย “ศรัทธานำทาง-เที่ยวปีขาล-เที่ยวแก้ชง” รวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน ตอนนี้เป็นกระแสที่ปลุกกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักออกมาเดินทางจำนวนมาก ทั้ง “ผู้สูงวัย-ซีเนียร์ ซิลเวอร์ ” และ “คนรุ่นใหม่วัยมิเลนเนียล” หันมาเที่ยวสายมู สายศรัทธา

โครงการที่ 2 Workation Paradise Thailand ทำงานเที่ยวได้ ททท.มุ่งกระตุ้นต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเดินทางเป็นสวรรค์ของคนทำงาน ทำให้ทุกสถานที่ตอบโจทย์คนทำงานทุกที่ ทุกเวลา แม้แต่การเดินทางไปศึกษาดูงานก็ทำให้มีความสุข สนุกได้ด้วย

โครงการที่ 3 เที่ยวใส่ใจ อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม นำมาตอบโจทย์การท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ Responsible Tourism พร้อมกับจัดการจัดกิจกรรม Thailand Festival Experience กระจายทั่วทุกภาคของไทย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “พื้นที่อันดามัน” ตอบโจทย์ประสบการณ์ความประทับใจ สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวแบบบอกต่อ และการแชร์ อันจะส่งผลกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กำลังจะกลับเข้ามาเมืองไทยในสภาวะปกติ


เฟส 2 ระยะกลาง ไตรมาส 3-4 ปีงบประมาณ 2565 (เมษายน-กันยายน 2565) ททท.วางแผนเดินหน้าดังนี้

ส่วนที่ 1 จะร่วมมือกับพันธมิตรต่าง ๆ ทำกิจกรรมภาคีหลักในกลุ่มคมนาคม ททท.จับมือกับ 17 สายการบิน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) บริการรถ Grab ผู้ให้บริการรถเช่า

ส่วนที่ 2 ทำโปรโมชั่นส่งเสริมการท่องเที่ยววันธรรมดา เพื่อขยายวันพัก ร่วมกับพันธมิตรหลัก ๆ คือ สมาคมโรงแรมไทย สมาคมท่องเที่ยวภายในประเทศ และตัวแทนขายท่องเที่ยวออนไลน์ต่าง ๆ (OTA : Online Travel Agents )

รวมทั้งจะทำการสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงอาหารไทยด้วยรูปแบบต่าง ๆ จะเน้นตอบโจทย์การท่องเที่ยวสไตล์ Gastronomy Tourism  ททท.จะร่วมกับร้านอาหารถิ่น ร้านอาหารดัง  ตอนนี้เริ่มคุยแล้วกับทางกลุ่มผู้ให้บริการส่งอาหารดิลิเวอรี่ เช่น ฟู้ดแพนด้า Grab โรบินฮู้ด

สุดท้ายเสนอรัฐบาลออกนโยบายระดับประเทศกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ อย่างที่เคยทำมาจนถึงขณะนี้คือ 1.“โครงการเราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 4 กำลังจะจบลงในเดือนพฤษภาคม 2565 ททท.กำลังดูว่าหากการเคลื่อนไหวที่ดีก็จะเสนอรัฐบาลทำต่อไป 2.โครงการ Workation Thailand ส่งเสริมให้การเดินทางทำงานไม่ได้เป็นวันลาหยุดอีกต่อไป ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดที่เหมาะสมตามสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วย

 

เฟส 3 แผนระยะยาว ตั้งแต่ปลายปี 2565 เป็นต้นไป การท่องเที่ยวต้องทำให้สอดรับกับการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ GDP ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ให้ได้ 3 เรื่องหลัก คือ 1.รักษาสัดส่วนนักท่องเที่ยวไทย 2.รักษาสัดส่วนอัตราการจ้างแรงงานไทยในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 3.รักษาความต่อเนื่องของภาคธุรกิจเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้ดีขึ้นตามลำดับ

 

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า ขณะนี้สัญญาณการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศกระจายใน 5 ภูมิภาค นั้น ปัจจุบันสถานการณ์เอื้ออำนวยให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเริ่มเปิดอย่างชัดเจนมาตั้งแต่ตุลาคม 2564 จนถึงปัจจุบัน ผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน กับทัวร์เที่ยวไทย พบว่า

1.“อัตราการจองพักหรือ OR : Occupacy Rate” เช่น จังหวัดหัวเมืองหลัก ภูเก็ต หัวหิน ชะอำ เขาใหญ่ มีใช้จ่ายจองพักเกินกว่า 70 % หรือบางพื้นที่ช่วงวันหยุดสูงถึง 80-90 %

2.อัตราการบรรทุกผู้โดยสารของสายการบินในประเทศ (Load Factor) มีอัตราบรรทุกสูงกว่า 75 % หรือวันหยุดเทศกาลขยับเป็น 85-90 % ททท.ได้ประเมินแล้วกระแสการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเริ่มดีขึ้น

3.ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 การจองใช้สิทธิ์โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 ยังครองใจนักท่องเที่ยว รัฐบาลสนับสนุนเปิดให้จองพักเพิ่มได้อีก 2 ล้านสิทธิ์ ผลปรากฎว่าตอนนี้นักท่องเที่ยวโหลดจองห้องพักไปแล้วกว่า 500,000 คืนพัก (roomnight) แล้วก็มีการใช้จริงแล้วเกือบ 200,000 คืนพัก แนวโน้มคงได้รับต่อเนื่องอย่างแน่นอน



 

นางสาวฐาปนีย์ ยืนยันว่า ตลอดปี 2564 นักท่องเที่ยวในประเทศกระจายเดินทางเที่ยวมากที่สุด อันดับ 1 ภาคเหนือกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำได้สูงสุดประมาณ 13 ล้านคน-ครั้ง อาจจะรวมถึงแรงงานย้ายกลับท้องถิ่นด้วย ในส่วนของภาคเหนือเองขณะนี้ เป็นฤดูท่องเที่ยวทุ่งดอกไม้ผลิบาน อากาศหนาว ทำให้การเดินทางค่อนข้างสูง อันดับ 2 ภาคตะวันออก กับภาคกลาง หัวหิน ชะอำ คนนิยมเดินทางระยะใกล้เพิ่มขึ้น

ประเมินแล้วถึงแม้ในไทยจะยังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ได้ปรับพฤติกรรม ผนวกกับผู้ประกอบการรับมาตรฐานตราสัญลักษณ์พร้อมบริการโดยปฏิบัติตามความปลอดภัยด้านสาธารณสุขทั้ง SHA, SHA PLUS, SHA EXTRA PLUS บวกกับบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเริ่มผ่อนคลายสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ และอีกปัจจัยคือ “สายการบิน” เพิ่มเส้นทางการบินใหม่ ๆ มากขึ้นทุกเดือน เช่น สายการบินเปิดจุดบินข้ามภาค ทำให้เกิดการเดินทางเพิ่มขึ้น

ส่วนการเดินทางช่วงปีนี้กระจายไปตามพื้นที่ 1.ใกล้กรุงเทพฯ รอบปริมณฑล ออกเดินทางมากมายด้วยการขับรถเที่ยว ไปยัง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ชะอำ หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ จะเห็นได้ว่าอัตราการเข้าพักสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 2.การท่องเที่ยวตามเมืองหลัก ภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย(สุราษฎร์ธานี) อุดรธานี น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวจะเป็น “กลุ่มคุณภาพ” ใช้จ่ายเงินสูง

 

ททท.เน้นให้ทั้ง 5 ภูมิภาค เร่งบุกทั้งเน้นการเดินทางท่องเที่ยวและพักแบบ Workation +Staycation ตอนนี้ทำอย่างเต็มที่ในทุกภาค กระแสตอบรับดีขึ้นตามลำดับ

 

นางสาวฐาปนีย์ทิ้งท้ายว่า ตั้งแต่กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป เชิญชวน 1.ไปเที่ยวงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2565” ระหว่างวันที่ 18-22 กุมภาพันธ์ 2565 เปิดทุกวัน 11.00-21.00 น.โดยขอให้โหลดเว็บไซต์ www.เพลินไทย.com   แล้วก็แสดงผลตรวจ ATK ภายใน 72 ชั่วโมง 2.เที่ยวเสริมมงคลแก้ชงปีขาล ดูรายละเอียดเส้นทางเสริมมงคล และเส้นทางแก้ปีขงได้ในเว็บไซต์ www.tourismthailand.org/luckytourthailand  จะมีโปรโมชั่นแพกเกจต่าง ๆ ให้เลือกราคาพิเศษ 3.ทำงานเที่ยวได้กับ Workation Thailand ก็มีราคาพิเศษด้วยเช่นกัน

 

ติดตาม ททท.จะนำเสนอกิจกรรมความสนุกสนานทางการท่องเที่ยวต่าง ๆ ต้อนรับหน้าร้อนเดือนเมษายน นี้ต่อไป ช่วงสงกรานต์ ต่อเนื่องถึงเดือนมิถุนายน 2565 ยังมีการท่องเที่ยวเพิ่มประสบการณ์แปลกใหม่ในประเทศอีกมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมเดินทางอย่างมีความสุขตลอดปี

 ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 


ข่าวที่ 1 เปิด“อนุสาวรีย์วิชัย ศรีวัฒนประภา”เม.ย.65คนไทยทำดีในเวทีโลก

ข่าวเตรียมเปิด “อนุสาวรีย์วิชัย ศรีวัฒนประภา” อดีตประธานสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ในเมืองเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ ในเดือนเมษายน 2565 กำหนดจะตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ อันเป็นจุดหลักที่พร้อมต้อนรับแฟนฟุตบอลที่เดินทางมากจากเส้นทางเดินเท้าหลักบนถนน รอว์ ไดค์ส โร้ด เมืองเลสเตอร์ มายังสนามแข่งขันคิง เพาเวอร์สเตเดี้ยม

เรื่องนี้เป็นข่าวดีของคนไทยที่มีผู้นำธุรกิจไปสร้างชื่อเสียงเชิงบวกให้โลกจดจำมาจนถึงทุกวันนี้ ในฐานะผู้สร้างตำนานเปลี่ยนโลกนำทีม “จิ้งจอกสยาม-เลสเตอร์ ซิตี้” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 132 ปีของการก่อตั้งสโมสร คว้าแชมป์ครั้งประวัติศาสตร์ทำให้โลกต้องจารึก ผู้คนต่างจดจำความสำเร็จ ของฤดูกาลพรีเมียร์ลีก 2015/2016 มาตราบจนถึงทุกวันนี้

 

วันนี้ “คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา” ล่วงลับไปแล้ว 4 ปี ทว่า “อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ อังกฤษ ได้สานต่อเจตนารมณ์ตามที่พ่อสอนไว้ โดยความทุ่มเท เสียสละ รักษาชื่อเสียงนักธุรกิจไทยไว้เข้มแข็ง มั่นคง นำสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ เติบโตไปข้างหน้าอย่างมีคุณภาพ รวมทั้งการใช้กีฬาเชื่อมโยง “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” จุดประจายพลังความฝันของเยาวชนไทยโดยได้ทำโครงการ FOX HUNT สนับสนุนทุนการศึกษาคัดเลือกนักกีฬาฟุตบอล ปั้นนักเตะไทยให้กลายเป็นอนาคตของชาติ นำพลังที่ได้รับสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยอย่างยั่งยืน

อีกทั้งปี 2564 “อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ได้รับการโหวตจากแฟนฟุตบอลยุโรปให้เป็น “ประธานสโมสรที่ดีที่สุด” ตอกย้ำความมุ่งมั่นสานต่อเจตนารมณ์ที่พ่อสอนไว้ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ รวมทั้งยังคงเดินหน้านำสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ติดชาร์ตทีมฟุตบอลแถวหน้าพรีเมียร์ ลีก ตลอดมา

“ซูซาน วีแลน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอข่าวนี้กับแฟนบอลของเรา แฟนบอลทั่วโลก และกับเมืองเลสเตอร์ ในฐานะที่คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา เป็นบุคคลสำคัญของสโมสรแห่งนี้ รวมทั้งเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมาย เมื่อครั้งยังมีชีวิตคุณวิชัยมุ่งมั่นและตั้งใจพัฒนาสโมสรและเมืองเลสเตอร์แห่งนี้ ทั้งด้านวิสัยทัศน์ ความเอื้ออาทร ความเชื่อมั่นได้ถูกจารึกไว้ในความทรงจำของทุกคนที่ได้มีโอกาสสัมผัสเรื่องราวจากเรา

 

สำหรับ “อนุสาวรีย์วิชัย ศรีวัฒนประภา” ได้รับอนุมัติเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2563 จากสภาเมืองเลสเตอร์ อนุมัติสร้างประติมากรรมรูปปั้นสัมฤทธิ์ ขนาดความสูง 4.7 เมตร จัดตั้งไว้บริเวณ “มุมสนามคิงพาวเวอร์ สเตเดียม” เป็นอนุสรณ์การรำลึกถึงคุณงามความดีทั้งในฐานะ ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ที่เข้ามาดูแลฟื้นฟูสโมสรมาตั้งแต่ปี 2550 (ค.ศ.2010)

ประการสำคัญได้ใช้เวลาเพียง 5 ปี พาทีมฟุตบอลเลสเตอร์ เเลื่อนชั้นกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ พร้อมกับสร้างปาฏิหารย์ความสำเร็จอย่างมหัศจรรย์ให้คนทั่วโลกต้องตะลึง ด้วยการนำทีมเลสเตอร์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 132 ปี ในฤดูกาลแข่งขันปี 2015/16 (พ.ศ.2558/59)

 

จากนั้นในปี 2560 คุณวิชัยยังได้นำเสนอวิสัยทัศน์และวางแผนพัฒนาสโมสรแบบยั่งยืน หลอมรวมแฟนบอลกับสโมสรเป็นหนึ่งเดียวกัน ควบคู่กับจัดทำโครงการพัฒนาชุมชนเลสเตอร์อย่างต่อเนื่องแบ่งปันความสุขให้ผู้คน  ทั้งโครงการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มอบเงินสนับสนุนโรงพยาบาลเด็กเมืองเลสเตอร์ ส่วนในวันแข่งขันฟุตบอลก็มอบอาหารและเครื่องดื่มให้แฟนบอล เรื่อยไปจนถึงการสร้างศูนย์ฝึกซ้อมฟุตบอลชั้นนำระดับโลกแห่งใหม่ และแผนขยายสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม

จนถึงขณะนี้ “อัยยวัฒน์” ได้เดินหน้าสานต่อทุกโครงการพัฒนาต่อเนื่องไปข้างหน้า ต่อยอดวิสัยทัศน์ของพ่อด้วยหัวใจอันเต็มเปี่ยมไปด้วยการแบ่งปัน ทำให้กีฬาเป็นพลังสร้างสรรค์ชีวิตผู้คนแบบครบวงจร

เมื่อเดือนธันวาคม 2563 “อัยยวัฒน์” ยื่นแผนการลงทุนพัฒนาสนาม “คิง เพาเวอร์ สเตเดียม”เพื่อทำสนามฝึกซ้อมแห่งใหม่ “เลสเตอร์ ซิตี้ เทรนนิ่ง กราวน์” ที่ซีเกรฟ ต่อมาในเดือนพฤษภาคม  2564 ก็นำทีมเลสเตอร์ ซิตี้ คว้า “แชมป์ เอฟเอ คัพ” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรในรอบ 137 ปี พร้อม ๆ กับกล่าวว่านำสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ สร้างความสำเร็จทั้งในและนอกสนามตามเจตนารมณ์ที่พ่อรอคอยได้แล้ว

 

นับจากเมษายน 2565 เป็นต้นไป “อนุสาวรีย์คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา” จะเป็นสถานที่หลอมรวมเรื่องเล่า เรื่องราว ดี ๆ ของคนไทยให้อยู่ในความทรงจำของของคนทั่วโลก เพื่อให้ผู้คนในเมืองเลสเตอร์ แฟนกีฬานานาประเทศ ได้ร่วมรำลึกถึง และร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จในช่วงชีวิตของคุณวิชัยและครอบครัวศรีวัฒนประภา ซึ่งเป็นครอบครัวนักธุรกิจคนไทยที่พร้อมแบ่งปันแก่คนรุ่นหลังได้เรียนรู้เรื่องราวที่มีคุณค่าเหล่านี้อย่างยาวนาน

 


ข่าวที่ 2 คิง เพาเวอร์”ชวนช้อปฉลองเดือนแห่งรักมอบสุขx2ถึง20ก.พ.65

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนมาฉลองเทศกาลวาเลนไทน์กับโปรโมชั่นพิเศษชุดใหญ่ “เติมความสุขให้ x 2 ระหว่าง ได้ที่คิง เพาเวอร์ในเมืองท่องเที่ยว 4 สาขาหลัก 14-20 กุมภาพันธ์ 2565ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา และภูเก็ต และทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี

เมื่อช้อปปิ้ง คิง เพาเวอร์ เลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำ ราคาพิเศษ รูปแบบโฮม เดลิเวอร์รี่ โดยไม่ต้องมีไฟลต์บิน กับความพิเศษเริ่มจาก “ลงทะเบียนช้อปรับทันทีคูปองส่วนลด” มูลค่า 2,000 บาท 2 ใบ เพื่อนำไปใช้ซื้อสินค้าตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไป ต่อด้วย “สมาชิก คิง เพาเวอร์” รับกะรัต รีวอร์ด x 2 รวมเป็น 300 กะรัต เมื่อช้อปครบ 15,000 บาทสุทธิ

 

พิเศษ!! เฉพาะ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และ ศรีวารี เท่านั้นได้จัดเตรียมมอบความสุขเพิ่มดังนี้

“คิง เพาเวอร์ รางน้ำ”  แจกทันทีเมื่อช้อปครบ 10,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ รับฟรีคูปอง 2 ใบ มูลค่ารวม 400 บาท นำไปใรับประทานอาหารที่ไทย เทสต์ ฮับ  : THAI TASTE HUB  และนักช้อป 200 คนแรก ช้อปครบ 5,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) รับทันเช่นกันกระเป๋าแบรนด์ LONGLAI อีกคนละ 1 ใบ

“คิง เพาเวอร์ ศรีวารี” ขณะนี้เปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์   ก็พร้อมมอบทันทีเมื่อช้อปครบ 10,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ คูปองรับประทานอาหาร THAI TASTE HUB 2 ใบ รวมมูลค่า 400 บาท

สรุปฉลองความรักช้อปคิง เพาเวอร์ DOUBLE VALENTINE’S DAY BLISS ช้อปได้ไม่ต้องหยุดกับ 4 ความสุข

ความสุขที่ 1  - ลงทะเบียนก่อนช้อป รับฟรีคูปองส่วนลด 2,000 บาท* สำหรับช้อป 6,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ จำนวน 2 ใบ

ความสุขที่ 2  -รับฟรี CARAT REWARDS x 2 รวมเป็น 300 กะรัต* เมื่อมียอดช้อปครบ 15,000 บาท* (สุทธิ)

ความสุขที่ 3  -รับคูปองรับประทานอาหาร ที่ THAI TASTE HUB มูลค่า 200 บาท* x 2 ใบ (รวมเป็น 400 บาท)

เมื่อมียอดช้อปครบ 10,000 บาท* ขึ้นไป/ใบเสร็จ (สุทธิ) ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และศรีวารี (จำกัด 1 สิทธิ์/คน/วัน)

ความสุขที่ 4 - รับฟรี กระเป๋า LONGLAI เมื่อมียอดช้อปครบ 5,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

(จำกัด 1 สิทธิ์/ท่าน/วัน และจำกัด 200 สิทธิ์แรกเท่านั้น)

ในเดือนแห่งความรักกุมภาพันธ์นี้ คิงเพาเวอร์จัดโปรแกรมช้อปปิ้งรับความสุข x2  หรีอช้อปผ่านช่องทาง Call to Shop 02-338-7870 และ Chat to Shop เพียง Add LINE @KP_ChatToShop ตั้งแต่ 09.00 – 21.00 น.

 


ข่าวที่ 3 คิงเพาเวอร์ปลุกช้อปออนไลน์สินค้าบ้านใส่โค้ดCRUSHEลด60+25%

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เอาใจผู้ที่หลงรักการช้อปอยู่กับบ้านด้วยแคมเปญ HAVE A CRUSH ON HOME & ELECTRONICS ITEMS ลดสูงสุด 60% และลดเพิ่มสูงสุด 25% ลดสุดใจ เพื่อคนรักบ้าน! พบกับเครื่องใช้ภายในบ้านและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ราคาพิเศษที่จะทำให้นักช้อปอดใจไม่ไหว  กดรับรหัสส่วนลด CRUSHE ช้อปเลยที่ – https://bit.ly/33l7nNk    ตั้งแต่วันนี้ -21 กุมภาพันธ์ 2565  

คิง เพาเวอร์มีบริการ 1.ส่งฟรี! ทั่วประเทศ เมื่อช้อปครบ 699.- (สุทธิ) 2.แบ่งชำระ 0%นานสูงสุดถึง 10 เดือน  3.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8,000 บาท  > http://bit.ly/2OzUV1k 4.ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง 5.รับเลย! ส่วนลด 200.- เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ > http://bit.ly/2S4uJyi 6. รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000.- (สุทธิ) > https://bit.ly/3lyQbrs

 


ข่าวที่ 4 ททท.แนะชม“การแสดง”เทศกาลเที่ยวเมืองไทยเข้มปลอดภัย11ข้อ

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย” ครั้งที่ 40 ประจำปี 2565 โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมงาน พร้อมเดินเยี่ยมชมพบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการภายในงาน  เพื่อส่งเสริมการขายท่องเที่ยวระหว่าง 18 - 22 กุมภาพันธ์ 2565 ณ สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร

นักท่องเที่ยวแวะมาเพิ่มประสบการณ์ท่องเที่ยวเมืองไทยจำลองไว้ใน 9 โซนหลัก ได้แก่

โซน 1 พลิกโฉมท่องเที่ยวไทย Amazing New Chapters

โซน 2 หมู่บ้านภาคตะวันออก “สบ๊าย สบาย ภาคตะวันออก – East at Ease”

โซน 3 หมู่บ้านภาคกลาง “เทรนดี้ C2ภาคกลาง – Chic Central”

โซน 4 หมู่บ้านภาคเหนือ “เสน่ห์วันวาน เมืองเหนือ – North Nostalgia”

โซน 5 หมู่บ้านภาคใต้ “หรอยแรงแหล่งใต้ – Savory South”

โซน 6 หมู่บ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน -Isan In Love ”

โซน 7 Street Food กทม.

โซน 8 เวทีกลาง

โซน 9 เที่ยวไทยแบบใหม่ Style New Normal

นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมการแสดง โดยปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยดังนี้

1.ผู้ที่ได้รับบัตรนัดหมายจากแอปพลิเคชั่น QueQ ต้องยืนยันการจองสิทธิ์ระหว่างเวลา 18.30 น. – 19.00 น. (ในรัศมีไม่เกิน 100 เมตรจากโซนกิจกรรม) จึงจะได้รับหมายเลขลำดับการเข้าพื้นที่

2.แสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด - 19 ครบ 2 เข็ม (หรือครบโดส) หรือ เอกสารรับรองผลการตรวจ ATK เป็นลบ ไม่เกิน 72 ชั่วโมง

3.หากยืนยันสิทธิ์เกินจากเวลาที่กำหนด จะมอบสิทธิ์แก่กับผู้ที่ Walk in ตามลำดับ (ทางประตู 1)

4. แสดงหลักฐานยืนยันสิทธิ์ที่ปรากฎหมายเลขลำดับเข้าพื้นที่ผ่านแอปพลิเคชั่น QueQ

5. ไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้แก่ผู้อื่นได้ ทั้งนี้ ไม่รับการแสดงหลักฐานการจองผ่านการ capture หน้าจอ ถ่ายภาพหน้าจอ หรือ ปรินท์หน้าจอ

6.ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดการรับชมการแสดง และปฏิบัติตามมาตรการ DHTTM อย่างเคร่งครัด

7.ขอความร่วมมือไม่นำอุปกรณ์เชียร์ ป้ายไฟทุกชนิด, ที่คาดผมไฟกระพริบทุกชนิด, ป้ายกระดาษ, ผ้าเชียร์ ที่มีขนาดเกินกระดาษ A4 หรือ 21.0 x 29.7 เซนติเมตร เข้าในพื้นที่โซนเข้าชมการแสดงคอนเสิร์ต*ยกเว้นสำหรับแท่งไฟ Official ของศิลปิน

8.ขอความร่วมมือไม่นำเก้าอี้พับ, บันไดขนาดเล็ก, กระบองลม, ลูกโป่ง, ลูกบอล, นกหวีด, วัตถุมีคม หรือวัตถุอันตรายอื่นๆ เข้าในพื้นที่โซนชมการแสดงคอนเสิร์ต

9.ไม่มีบริการจุดรับฝากของขวัญให้ศิลปิน

10.แนะนำให้ผู้เข้าชมการแสดง เตรียมร่มและอุปกรณ์กันฝนส่วนตัว ในกรณีมีฝนตก

11.ผู้เข้าชมการแสดง 1 ท่านต่อ 1 หมายเลขนัดหมาย เท่านั้น

 


ข่าวที่ 5 บางจากปลื้มปี’64ทำกำไรEBITDAทะลุเกิน2.5หมื่นล้านบาท

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทบางจากฯ เปิดเผยว่า ปี 2564 มีผลการดำเนินงานท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รุนแรงและยาวนานตลอดทั้งปี บางจากฯ และบริษัทย่อย สามารถทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เปรียบเทียบกับปี 2563 มีรายละเอียดดังนี้

1.มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 199,417 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46 % คิดเป็นกำไรก่อนหักภาษีและค่าใช้จ่ายหรือ EBITDA 25,818 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 529 %

2.ทำกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 7,624 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14,591 ล้านบาท คิดเป็นกำไร
ต่อหุ้น 5.25 บาท

3.รายได้จากการขายและการให้บริการเฉพาะไตรมาส 4 ปี 2564 มียอดรวม 66,762 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40 % เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลมาจากหลังการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั่วโลกส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกฟื้นตัวและการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันเกิดขึ้น กับสถานการณ์การแพร่ระบาดในหลายประเทศเริ่มคลี่คลายลง

ขณะที่ธุรกิจแต่ละกลุ่มในเครือบางจาก มีผลการดำเนินงานดังนี้

กลุ่มที่ 1 – ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน รายได้เพิ่มขึ้น 11,532 ล้านบาท หลักๆ มาจากปี 2564 มี Inventory Gain 5,966 ล้านบาท ต่างจากปี 2563 มี Inventory Loss และค่าการกลั่นพื้นฐานอยู่ที่ 4.52 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปี 2564 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน 1.31 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

อีกทั้งยังปรับเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการขยายตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์ UCO (Unconverted Oil) ซึ่งช่วยหนุนค่าการกลั่นและลดผลกระทบจากความต้องการใช้น้ำมันในประเทศที่ปรับลดลงแม้ในไตรมาส 1 มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นตามวาระ แต่สามารถทำให้มีอัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 99,000 บาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็น 83% ของกำลังการผลิตรวมของโรงกลั่น และปริมาณการผลิตผลิตภัณฑ์ UCO ปรับเพิ่มเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อน

กลุ่มที่ 2 -ธุรกิจการตลาด ผลการดำเนินงานปรับเพิ่ม 20 % หลักมาจากปี 2564  มี Inventory Gain จากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น ส่วนปริมาณการจำหน่ายรวมของธุรกิจการตลาดปรับลดลง 6 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ยังสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันใสผ่านสถานีบริการน้ำมันในอันดับ 2
ตามข้อมูลของกรมธุรกิจพลังงาน (16.2%) โดย ณ สิ้นปี 2564 มีจำนวนสถานีบริการน้ำมัน 1,277 สถานี

กลุ่มที่ 3 -ธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ผลการดำเนินงานเติบโตขึ้น 15 % จากปี 2563 หลัก ๆ มาจากปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้าโดยรวมเพิ่มขึ้น รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในประเทศไทยใหม่ 4 โครงการและโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ Nam San B ใน สปป.ลาว ที่รับรู้ผลการดำเนินงานเต็มปีและการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ ประเทศอินโดนีเซีย 577 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 344 ล้านบาท เนื่องจากอัตราค่าไฟเพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลง

กลุ่มที่ 4 - ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ มีการรับรู้กำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน ส่งผลให้ผลการดำเนินงานยังคงใกล้เคียงกับปีก่อน แม้จะได้รับผลกระทบจากธุรกิจไบโอดีเซลที่ปริมาณการจำหน่ายปรับลดลงจากสถานการณ์โควิด-19 และมาตการการปรับลดสัดส่วนการผสม B100 เพื่อตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศ และธุรกิจเอทานอลที่มีความต้องการใช้ปรับลดลง

กลุ่มที่ 5-ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ มีผลการดำเนินงานปี 2564 มี EBITDA เพิ่มขึ้น 9,254 ล้านบาท หลัก ๆ ปี 2564 กลุ่มบริษัทฯ เปลี่ยนวิธีการบันทึกเงินลงทุนใน OKEA จากบริษัทร่วมเป็นบริษัทย่อย เปลี่ยนวิธีการรับรู้ผลการดำเนินงานจากวิธีรับรู้ส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) เป็นวิธีการจัดทำงบการเงินรวมตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 และในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2564 มีการรับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุนใน BCPE (สุทธิจากอัตราแลกเปลี่ยน) ประมาณ 120 ล้านบาท ส่งผลให้ปีนี้กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติมี EBITDA เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

โดยมีปัจจัยหลักมาจากราคาขายเฉลี่ยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น 464 % จากความต้องการสูงขึ้นช่วงฤดูหนาวของยุโรป และการผ่อนคลายล็อกดาวน์ในหลายประเทศ ซึ่งยุโรปมีปริมาณก๊าซในคลังสำรองอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ OKEA มีรายได้จากการจำหน่ายน้ำมันและก๊าซสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และการลงทุนใน OKEA นี้ สร้างรายได้จากการขายและการให้บริการคิดเป็นร้อยละ 16 ของรายได้จากการขายและการให้บริการส่วนที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ของกลุ่มบริษัท ในขณะที่ EBITDA ของ OKEA คิดเป็นประมาณ 30 % ของ EBITDA ของกลุ่มบริษัทโดยรวม

 

สำหรับผลกำไรไตรมาส 4 ปี 2564 นั้น สถานการณ์โควิดที่คลี่คลาย ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการเดินทางของประชาชนในประเทศฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ

 

1.มี EBITDA 9,281 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23 %เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 1,756 ล้านบาท ลดลง 4 % เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.20 บาท ภายหลังความต้องการใช้น้ำมันในประเทศที่ปรับลดลงมาโดยตลอดก่อนหน้านี้เริ่มกลับมา ส่งผลให้ยอดจำหน่ายผ่านตลาดค้าปลีกเดือนธันวาคม 2564 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 432 ล้านลิตร/เดือน เป็นปีแรกที่ยอดขายสูงกว่ากำลังการกลั่นของโรงกลั่นบางจาก

2.กลุ่มธุรกิจตลาดผลักดันยอดขายน้ำมันเครื่องอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันหล่อลื่นสำเร็จรูปในประเทศของบริษัทฯ เพิ่มเป็น 9.9 % จาก 9.4 % ของปีก่อน และธุรกิจร้านกาแฟอินทนิลก็สามารถทำยอดจำหน่ายแก้วขายต่อวัน New High ได้เช่นกันในเดือนธันวาคม 2564

 

นายชัยวัฒน์ ย้ำว่า ไม่เพียงแต่ปัจจัยตามสภาวะตลาดเท่านั้นที่หนุนให้รายได้จากการขายและให้บริการดีขึ้น แต่ความสามารถในปรับตัวและเร่งเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการภายในมีส่วนสำคัญช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มกำไรในกลุ่มบางจากฯ อย่างการจัดทำ Business Process Redesign (BPR) เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่าย

 

โดยมีทั้งโครงการที่ทำมาต่อเนื่องและโครงการที่พัฒนาขึ้นใหม่ซึ่งช่วยเพิ่ม EBITDA ให้กับกลุ่มบริษัทฯ มากกว่า 1,600 ล้านบาทในปี 2564 รวมถึงการเร่งผลักดันผลิตภัณฑ์ UCO เพื่อขายทดแทนน้ำมันเครื่องบินที่หยุดชะงัก สะท้อนถึงการปรับตัวภายใต้วิกฤตและพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

 

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2565 กลุ่มบางจากฯ ตั้งเป้าเดินหน้าขยายธุรกิจโดยมุ่งเน้นการลงทุนโดยให้ความสำคัญกับนวัตกรรมสีเขียวเพื่อลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภายใต้เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutral) ในปี ค.ศ. 2030 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ในปี ค.ศ. 2050

ขณะที่ BBGI มีแผนยุทธศาสตร์รุกธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง พร้อมระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วยการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) วันที่ 17 มีนาคม 2565

 

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2565 อนุมัติให้นำเสนอจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดครึ่งปีหลังของปี 2564 อัตรา 1 บาทต่อหุ้น เมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกของปี 2564 ในอัตรา 1 บาทต่อหุ้น จะรวมเป็นเงินปันผลที่จ่ายปี 2564 อัตรา 2 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินรวมประมาณ 2,715 ล้านบาท

 

พร้อมทั้งระบุวันให้สิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อรับสิทธิรับเงินปันผลเป็นวันที่ 3 มีนาคม 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผล 22 เมษายน 2565

                ช่วงที่ 2 ระดมพลคนสายมู ออกเดินทางเที่ยวเมืองไทยใกล้กรุง “ไหว้ท้าวเวสสุวรรณ” 3 วัดดังปังสุด ๆ ใน “ปราจีนบุรี” ต่อด้วยเสริมโชคลาภต่อที่ “พุทธสถานจีเต็กลิ้ม” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่ 250 ไร่ สำรวจสถาปัตยกรรมสองวัฒนธรรมกับวิหารแสนอลังการ แล้วก็ห้ามลืมดูแลสุขภาพ “8อาหารกินแล้วอายุยืน” ปิดท้ายกับข่าวดี ๆ ข่าวแรก “แอคคอร์” เลือกไทยเปิดโรงแรมใหญ่สุดในโลก “ไอบิสแบงคอกทวินทาวเวอร์” เม.ย.นี้ ข่าวที่สอง “ไทยสมายล์” รุกใหญ่เพิ่มอีก 2 บริการ ไฟล์ต่อเครื่องภูเก็ตรับต่างชาติ กับบินเพิ่มที่ดอนเมือง นำร่องบินเชียงใหม่ 25 มี.ค.65

 


พาเที่ยว -ไหว้ท้าวเวสสุวรรณ3วัดปังปราจีนฯ-เสริมมงคลพุทธสถานนครนายก

เที่ยวไทย ไม่ตกเทรนด์ เที่ยวใกล้กรุง กำลังมาแรง ทริปนี้จะชวนนักเดินทางสายมูทั้งลายไป “เพิ่มโชคเติมลาภ เสริมบุญบารมี ปีขาล” ขับรถสบาย ๆ ไป นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว

เดินสาย“ไหว้ท้าวเวสสุวรรณ” วัดดังใน “ปราจีนบุรี” เพื่อโชคลาภ ความมั่งคั่ง ร่ำรวย ตามวัดที่กำลังได้รับความนิยมเช็คอินได้ทุกวันปัง ๆ  3 วัด

เช็คอินจุดแรก “วัดจิกสูง” ตำบลไม้เค็ด อำเภอเมือง  ชาวบ้านให้ความนับถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้าน รวมทั้งมีผู้คนมาขอโชคลาภแบบไม่ขาดสาย

เช็คอินจุดที่ 2 “วัดแจ้ง” (เมืองเก่า) อำเภอประจันตคาม มีท้าวเวสสุวรรณกลางแจ้งองค์ใหญ่ที่สุดในโลกสูงถึง 44 เมตร

เช็คอินจุดที่ 3 “วัดปทุมบูชา” อำเภอศรีมหาโพธิ มีขนาดองค์ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก สูง 12 เมตร ผู้คน

กล่าวถึง “ท้าวเวสสุวรรณ” มีต้นกำเนิดมาจากหลายตำนาน ตามหลักพราหมณ์ เรียก “ท้าวกุเวร” หรือทางพุทธเรียก“ท้าวไพสพ” และรู้จักกันดีในชื่อ “ท้าวเวสสุวรรณ” ท่านมีลักษณะเด่น ๆ เป็นเจ้าหรือนายแห่งภูตผีปีศาจ รวมถึงยักษ์ และอสูรต่าง ๆ มีลักษณะคุ้นชินตา “ยักษ์” ถือตะบองขนาดใหญ่ มีพัสตราภรณ์ และผิวกายสีงามดั่งทองคำ

ประการสำคัญคือ “เป็นเทพที่จิตใจดี” ตามที่ปรากฏใน “อาฏานาฏิยปริตร” กล่าวว่า ท้าวเวสสุวรรณนำบริวารเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ ถวายสัตย์ว่าจะดูแลพระพุทธเจ้าและบรรดาสาวกทั้งหลาย ให้ปลอดภัยจากการถูกบริวารของท้าวเวสสุวรรณรังแก

ส่วนในวรรณคดีเรื่อง “รามเกียรติ์” เล่าว่า ท้าวเวสสุวรรณเป็นพี่ชายต่างมารดากับ “ทศกัณฑ์” มีรูปร่างพิกลพิการ แต่มีผิวขาวและเขียว อีกทั้งยังสูงถึง 8,000 เมตร มีฟันแค่ 8 ซี่ มีขา 3 ขา มักจะถือตะบองเป็นอาวุธค้ำไว้ที่หว่างขา และด้วยความพิการนี้เอง พระพรหมจึงชื่อให้ว่า “ท้าวกุเวร”

อีกตำนานหนึ่งเล่าว่า “ท้าวเวสสุวรรณ” ในอดีตประกอบอาชีพค้าขาย ดังคำว่า “เวส” แปลว่า “พ่อค้า”เป็นพ่อค้ามีทรัพย์สมบัติมากค้าขายรุ่งเรือง แล้วท่านยังมีจิตใจดีคอยบริจาคเงินทองให้แก่ผู้ที่ขัดสนยากไร้ทั้งหลาย พอตายไปแล้วจึงมาเกิดใหม่เป็นเจ้าผู้ครองเมือง “วิสานะนคร” อันเป็นที่มาของชื่อ “เวสาวัณ”

ด้วยบุญกุศลบริจาคของทำบุญตลอดมา จึงทำให้ได้รับพรจากพระพรหม ให้เป็นอมตะ ไม่ตาย และให้เป็นเจ้าของผู้ดูแลทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ทั่วทั้งแผ่นดิน

เหตุนี้เองจึงทำให้ผู้คนมักจะนิยมบูชาท้าวเวสสุวรรณทั้งในด้านการขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และเพื่อเสริมดวงหนุนบารมีให้มีทรัพย์สมบัติมั่งคั่ง เต็มไปด้วยโชคลาภเงินทอง

จากนั้นเดินทางมายัง “นครนายก” แวะ “พุทธสถานีจีเต็กลิ้ม” บ้านบางหอย ต.ศรีจุฬา สักการะ “เทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี้ย-เทพเจ้าแห่งโชคลาภ” ปางมหาเศรษฐีชัมภล หรือที่เรียกว่า “ปางมหาราช” หล่อด้วยโลหะขนาดฐานกว้าง 2 เมตร เพื่อเสริมมงคล มีลักษณะสมบูรณ์น่าเลื่อมใสยิ่งนัก เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 08.00-16.00 น.

ปัจจุบันทางพุทธสถานได้แกะสลักเทพเจ้าแห่งโชคลาภองค์เดียวกันนี้ขึ้นอีกครั้ง โดยใช้ “หยกเขียวน้ำหนักกว่า 1,000 กิโลกรัม” ที่ถือว่าเป็นเทพเจ้าแกะสลักจากหยกเขียวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

ชาวไทยและจีนเชื่อว่าเทพเจ้าองค์นี้ให้คุณด้านโชคลาภ ทรัพย์สมบัติ ผู้ที่ทำกิจการค้าขายต้องไปสักการะสักครั้ง

 

จากนั้นก็เดินชม สถาปัตยกรรมงดงามสองวัฒนธรรมและศิลปไทย-จีน ท่ามกลางธรรมชาติ ชาวพุทธกับจีนมีความเชื่อและศรัทธาจึงได้สร้างพุทธสถานแห่งนี้ไว้บนพื้นที่กว่า 250 ไร่ ดีไซน์สวยงามเป็น ศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา  เพื่อให้คนได้มาสักการะบูชา

รอบบริเวณพุทธสถาน มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สักการะ ทั้งรูปหล่อพระโพธิสัตว์กวนอิม พระศรีอริยเมตตรัย พระอวโลกิเตศวรพันกร เทพเจ้ากวนอูและเทพเจ้าตามคติความเชื่อต่าง ๆ ของชาวจีน ไปพร้อม ๆ กับชมวิหาร สวยงามมีคุณค่าทางใจ คือ

วิหารฟ้าดิน (ทีกง) เพื่อกราบไหว้ฟ้าดิน รำลึกถึงบุญคุณของธรรมชาติ

วิหารเทพเจ้าแห่งโชคลาภ วิหารนพเคราะห์ชันษาไภสัชคุรุราชา

วิหารพระมหาโพธิสัตว์กวนอิม วิหารเทพสถิตย์รวมทั้งลานรับพลังฟ้าดินอันเป็นสถานที่ใช้ประกอบพิธีกรรมสำคัญ

                ออกเดินทางท่องเที่ยวได้แล้วตามเส้นทาง “ไหว้ท้าวเวสสุวรรณ” ปราจีนบุรี กับ “เสริมมงคล” สองวัฒนธรรมไทย-จีน “พุทธสถาน” นครนายก สุขกว่านี้ไม่อีกแล้ว เที่ยวกันเถอะ

 


สุขภาพ – 8อาหารเลือกกินต่อเนื่องตลอดชีวิตอายุยืนยาวแน่นอน

วงการแพทย์ แนะนำอาหารมีส่วนช่วยให้สุขภาพ สร้างเกราะป้องกันโรคให้ร่างกายได้ โดยอาหารทั้ง 8 ชนิด ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกยืนยันและพิสูจน์มาแล้วว่าทำให้ร่างกายดีขึ้นได้จริง เป็น8 อาหารรับประทานทานแล้วอายุยืน ได้แก่

1.ผักและผลไม้หลากสี  -การวิจัยชี้ให้เห็นว่าคนที่ทานผักและผลไม้มีแนวโน้มที่จะมีอายุยืนยาวกว่าผู้ที่ไม่ชอบหรือไม่ทาน เนื่องจากสารอาหารที่มีประโยชน์ในผลไม้และผักทุกชนิดดีต่อร่างกาย  ตัวอย่าง ชาวโอกินาวา ในญี่ปุ่น กินผักสีเขียวผลไม้สีเหลือเป็นหลักผู้คนมีอายุยืนยาวที่สุดในโลก

2.ดาร์กช็อกโกแลต -Dr. Will Clower นักโภชนาการผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนัก ได้อธิบายไว้ว่า ‘การทานดาร์กช็อกโกแลต 20 นาทีก่อนและ 5 นาทีหลังอาหารสามารถช่วยลดความอยากอาหารของคนได้ถึง 50% งานวิจัยจาก Harvard University พบว่าคนกินดาร์กช็อกโกแลตจะมีอายุยืนยาวกว่าคนที่ไม่ได้ทาน และมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรลดลง 36 %

3.  น้ำมันปลา - มีสารอาหารที่สำคัญมากซึ่งร่างกายของคนเราต้องมีอย่างเพียงพอคือ Omega-3 ซึ่งสามารถหาได้จากปลาทะเลเป็นส่วนใหญ่ เช่น ปลาแองโชวี่ ปลาแมคเคอเรล ปลาซาร์ดีน และปลาเทราท์    นักวิทยาศาสตร์ยังค้นพบว่า DHA ในน้ำมันปลาเป็นกุญแจสำคัญต่อสู้กับโรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์ และช่วยบำรุงสมองที่แข็งแรงได้ด้วย

4.ชาเขียว -อุดมไปด้วยฟลาโวนอยด์มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ช่วยควบคุมความดันโลหิต เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง และลดคอเลสเตอรอล  Journal of American Medical Association ได้ทำการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างชาวญี่ปุ่นมากกว่า 40,000 คนเป็นเวลา 11 ปี พบว่าผู้ที่ดื่มชาเขียว 5 ถ้วยขึ้นไป/วัน เสียชีวิตต่ำกว่าดื่มวันละแก้

5. น้ำมันมะกอก -นักวิทยาศาสตร์และนักโภชนการ รวมถึงแพทย์ในต่างประเทศพบว่า การบริโภคน้ำมันมะกอกเป็นประจำสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือดสมองและโรคหัวใจ เนื่องจากในน้ำมันมะกอกมีสารอาหารที่เรียกว่า phenols ในปริมาณสูง ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ ห่างไกลจากโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองมากขึ้นกว่า 20%

6. กระเทียม -ทางการแพทย์พบกว่า สารประกอบที่พบมากกว่า 10 ชนิด ช่วยในการต่อต้านมะเร็ง กระเทียมยังมีสารประกอบเสริมภูมิคุ้มกันที่ช่วยในการสลายสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง

7.  แครนเบอร์รี่ -อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และกระตุ้นภูมิคุ้มกัน อีกทั้งยังเต็มไปด้วยสาร Phytonutrients ยิ่งในร่างกายมีสารชนิดนี้มากก็ยิ่งดีมากเท่านั้น ผลการศึกษาของ Cornell University ในนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา นักวิจัยได้ทดสอบสารสกัดจากแครนเบอร์รี่ในเซลล์มะเร็งเต้านมของมนุษย์พบว่าเซลล์มะเร็งเต้านมชนิดเดียวกันจำนวนมากได้เริ่มตายเมื่อเวลาผ่านไป 4 ชั่วโมง

8.เมล็ดกาแฟ -การศึกษาของ University of Scranton ในเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา พบว่า สารฟลาโวนอยด์ที่อยู่ในกาแฟสามารถป้องกันโรคหัวใจได้ Dr. Joe Vinson เจ้าของงานวิจัยชิ้นนี้กล่าวว่า “สารต้านอนุมูลอิสระเป็นเกราะป้องกันให้กับร่างกายของเราจากอนุมูลอิสระที่เป็นพิษ อันเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรัง” แต่หากจะดื่มกาแฟก็ควรคำนึงถึง ‘คาเฟอีน’ จะไปเพิ่มความดันโลหิต จึงกไม่ควรดื่มมากเกินไป

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง



ข่าวแรก -เลือกไทยเปิด“ไอบิสแบงคอกทวินทาวเวอร์”โรงแรมใหญ่สุดในโลก

แอคคอร์ (Accor) เครือข่ายโรงแรมชั้นนำระดับโลก รายงานว่า ได้ร่วมเซ็นสัญญากับ บริษัท โกลเด้นแอสเซ็ท จำกัด เพื่อเปิดตัวโรงแรมใหม่ถือเป็นแบรนด์ไอบิสสไตล์ใหญ่ที่สุดในโลก คือ “ไอบิส สไตล์ แบงคอก ทวิน ทาวเวอร์ (ibis Styles Bangkok Twin Towers) พร้อมเปิดบริการเฟสแรกช่วงไตรมาส 3 ปี 2565 จากนั้นปี 2567 จะเปิดตัวเต็มรูปแบบมีจำนวนห้องพักทั้งหมด 666 ห้อง   

ทำเลของโรงแรมใหม่ “ไอบิส สไตล์ แบงคอก ทวิน ทาวเวอร์” ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจและแหล่ง ชอปปิ้งชื่อดัง เช่น มาบุญครอง สยามพารากอน และสยามดิสคัฟเวอรี สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายสู่ย่านเมืองเก่า แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมต่าง ๆ รวมถึงสนามบินทั้งสองแห่ง หลังการปรับเปลี่ยนโฉมใหม่ โรงแรมจะให้บริการ 3 ห้องอาหาร ห้องประชุมหลากหลายรูปแบบ สระว่ายน้ำแบบกลางแจ้ง ฟิตเนส และสปา

“นายการ์ธ ซิมมอนส์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอคคอร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ กล่าว กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์กลางยุทธศาสตร์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มายาวนาน และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเดินทางจากทั่วโลก การเซ็นสัญญาเพื่อเปิดตัวโรงแรมไอบิส สไตล์ แบงคอก ทวิน ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นโรงแรมไอบิส สไตล์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้

ช่วยตอกย้ำถึงความมั่นใจและทัศนเชิงบวกของเราต่ออนาคตของการเดินทางท่องเที่ยว และความสำเร็จในระยะยาวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้เพิ่มตัวเลือกประสบการณ์โรงแรมอันทันสมัยแก่กรุงเทพฯ และขยายเครือข่ายแบรนด์ไอบิส สไตล์ ที่มีชื่อเสียงของเชนด้วย


ข่าวที่สอง “ไทยสมายล์”บินใหม่“ต่างชาติต่อเครื่อง-เพิ่มดอนเมือง”โปร900บาท

นายวิเศรษฐ์ สนธิชัย รักษาการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด  เปิดเผยว่าสายการบิน “ไทยสมายล์” เพิ่มบริการใหม่ช่วงตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ 2565 อีก 2 บริการ คือ

บริการที่ 1  “จัดเที่ยวบินพิเศษต่อเครื่อง/เปลี่ยนเครื่อง” อำนวยความสะดวกให้ให้ผู้โดยสารระหว่างประเทศหรือนักเดินทางต่างชาติตามนโยบายภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เส้นทาง “กรุงเทพฯ” ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไปยัง “ภูเก็ต” พื้นที่ Sealed Route วันละ 1 เที่ยวบิน เริ่มตั้งแต่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป

โดยใช้เครื่องบินแอร์บัส A320/A32S รหัสเที่ยวบิน WE8750 ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ  09.00 น. ถึงสนามบินภูเก็ต  10.25 น.  

ผู้โดยสารที่ต้องการใช้บริการ สามารถการสำรองที่นั่งตั๋วโดยสาร โดยใช้เดินทางร่วมกับเที่ยวบินระหว่างประเทศเท่านั้น ทางไทยสมายล์ขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการจองหรือปฏิเสธการขึ้นเครื่องโดยไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ หากไม่ปฏิบัติตามระเบียบการต่อเครื่อง/การเปลี่ยนเครื่องระหว่างประเทศ

บริการที่ 2 ไทยสมายล์ เปิดบริการบินใหม่ที่ “สนามบินดอนเมือง” เพิ่มจากปกติจะใช้สนามบินหลักที่สุวรรณภูมิ ประเดิมเส้นทางแรก ดอนเมือง - เชียงใหม่ เริ่มบินตั้งแต่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป บินทุกวัน วันละ 2 เที่ยว ทำการบินโดยเครื่องบินแอร์บัส A320-200  มีให้เลือก 2 ชั้นที่นั่งโดยสาร ได้แก่ 1.พรีเมี่ยม อีโคโนมี่ หรือ Smile PLUS Class 12 ที่นั่ง 2.ชั้นอีโคโนมี่ หรือ Smile Class 150/156 ที่นั่ง  

“ไทยสมายล์” ได้จัดโปรโมชั่นแนะนำเที่ยวบินราคาเริ่มต้นรวมทุกอย่าง 900 บาท/คน/เที่ยว  ซื้อแล้วใช้ เดินทางได้ตั้งแต่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป จองซื้อตั๋วได้ที่ www.thaismileair.com, ศูนย์บริการลูกค้า (Call Center) โทร. 1181 หรือ 0-2118-8888 ห้องขายบัตรโดยสารไทยสมายล์ (Smile Service Center) และตัวแทนขายทั่วประเทศของไทยสมายล์

            สำหรับเที่ยวบิน ดอนเมือง - เชียงใหม่ ไทยสมายล์ให้บริการแบบฟูลเซอร์วิส เช่น จองตั๋วล่วงหน้า บริการฟรีน้ำหนักกระเป๋าสูงสุด 30 กิโลกรัม ฟรีอาหารบนเที่ยวบินแบบนำกลับ ตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือน สะสมคะแนน Royal Orchid

เที่ยวบินตรง ไป-กลับ ดอนเมือง-เชียงใหม่ ของไทยสมายล์ มีดังนี้

1.เชียงใหม่ – ดอนเมือง WE1175 ทุกวัน ให้บริการ 08:30-09:45

2.ดอนเมือง – เชียงใหม่ WE1176 ทุกวัน ให้บริการ 10:25-11:35

3.เชียงใหม่ – ดอนเมือง WE1173 ทุกวัน ให้บริการ 16:30-17:45

4.ดอนเมือง – เชียงใหม่ WE1174 ทุกวัน ให้บริการ 18:25-19:35

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai