ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.แจกข่าวดี!! มิ.ย.66 ต่างชาติเที่ยวไทยเกิน 10 ล้านคน ทุ่มจ้าง4บิ๊กแพลตฟอร์มโปรโมเที่ยวเมืองไทย

ททท.แจกข่าวดี!!เอเชียเที่ยวไทยมิ.ย.66ทะยานเกิน10ล้านคน

ทุ่มจ้างบิ๊กดิจิทัล4แพลตฟอร์ม “Alipay/KLOOK/Agoda-KNA

ปี’67งัดใช้รหัสใหม่5Mores“แอร์ไลน์/พื้นที่/สนง./ประสบการณ์”

คิงเพาเวอร์ส่งท้ายซัมเมอร์คลิกช้อป24ชั่วโมง+2โปรฮ็อต 4 สาขา

เอ็กซคลูซีฟคิงเพาเวอร์GUCCIอาจแชโดว์-Diorหอมทั้งสุวรรณภูมิ

ช้อปคิง เพาเวอร์2ช่องทางสมาชิกลด20%-ลงทะเบียนรับฟรี2พัน

ด่วน!บอร์ดเคาะ“ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์”ผู้ว่าฯททท.คนใหม่1ก.ย.

“บางจาก-การบินไทย”รุกMOUนำฝูงบินศึกษาใช้น้ำมันยั่งยืน SAF

TCEB”นำไมซ์ขายIMEX2023บูม“ยั่งยืน/นวัตกรรม/ซอฟท์เพาเวอร์”

ชวนเที่ยว“มอหินเที่ขาว”ไปจ.ชัยภูมิ หินล้านปีสโตนเฮนจ์เมืองไทย

5 TIPS นำวัยเก๋ารับมือหน้าฝน “ไม่เจ็บ-ไม่ป่วย-ไม่เจออุบัติเหตุ”

ททท.รุกจัด Amazing Film Festivalสานฝันไทยผงาดฮับหนังโลก

งานปัง!เลเจนด์สยามพัทยา-มาริโอ้เปิดเรือนหมอยาทัวร์3ไฮไลต์ 


ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ 
รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 

        วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #เที่ยวมอหินขาวชัยภูมิ  #สโตนเฮนจ์เมืองไทย

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/kNh7UXrV7L/

ททท.แจกข่าวดี มิ.ย.66 ต่างชาติเที่ยวไทยทะลุ 10 ล้านคน เปิดท็อปไฟฟ์ครึ่งปีแรกทัวร์ 5 อันดับทำเงิน มาเลเซีย จีน อินเดีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์/เวียดนาม ครึ่งปีหลังติดอาวุธใหม่ 2 ทาง 1.ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง ทุ่มงบจ้างบิ๊กเอเชีย 6 แพลตฟอร์ม “Alipay-KLOOK-Agoda-KNA-Traveloka- Rakuten” และ OTA ขานรับเที่ยวบินกลับมาบินแล้ว 70-90 % ปี’67 ใส่เกียร์ขาย 5 MoresAlliances/จับมือสายการบินใหม่ๆ-Areas/เพิมพื้นที่ใหม่และเมืองรอง-Nationwide/ร่วมมือตลาดหลายสำนักงาน-Agile/เคลื่อนทั้งองค์กรทำงานตลาดเชิงการขาย-Meaningful/ส่งมอบประสบการณ์ที่มีความหมายและคุณค่า

 


นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ตั้งเป้าหมายปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่น้อยกว่า 25 ล้านคน สร้างรายได้ 2.5 ล้านล้านบาท และในจำนวนยอดรวมทั้งหมดเอเชียจะต้องได้ 18 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 949,418 ล้านบาท ตลอดครึ่งปีแรกภายในเดือนมิถุนายนนี้จำนวนต่างชาติเข้าไทยแตะ 10 ล้านคน มาจาก อันดับ 1 มาเลเซีย ตั้งแต่เมษายนปีนี้ครบ 1 ล้านคนแล้ว ขณะนี้เดินทางเข้ามาต่อเนื่อง 8,000-10,000 คน/วัน อันดับ 2 สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมนี้ 1.1 ล้านคนแล้ว ตอนนี้เข้ามาต่อเนื่อง 10,000 คน/วัน อันดับ 3 อินเดีย มาแล้วกว่า 600,000 คน ภายในมิ.ย.-ก.ค.นี้จะถึง 700,000 คน อย่างแน่นอน

อันดับ 4 เกาหลีใต้ สร้างความตื่นเต้นและปรากฎการณ์ใหม่ 4,000-5,000 คน/วัน ถึงจะจบฤดูหนาวไปแล้วตามปกติจะหนีหนาวมาช่วงตุลาคม-มีนาคม ของทุกปี แต่ปีนี้ยังคงเข้ามาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีเที่ยวบินตรงจากหลายมายังจังหวัดท่องเที่ยวของไทย กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต วิเคราะห์แล้วอาจเป็นผลมาจากการสร้างจุดขายร่วมกันเรื่องพลัง Soft Power วงการบันเทิง จึงทำให้ตลาดกลุ่มมิลเลนเนียล/คนรุ่นใหม่ ต้องการมาไทยมากขึ้น

อันดับ 5 สิงคโปร์ เวียดนาม แต่ละประเทศเกิน 500,000 คน ไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้กำลังเล็ง “ญี่ปุ่น” มาแล้วเกือบ 300,000 คน เพราะภาวะเศรษฐกิจซึมเล็กน้อย ด้วยนิสัยความมีระเบียบวินัยสูง รัฐบาลญี่ปุ่นทำแคมเปญแจกแถมเที่ยวในประเทศ ส่วน “ไต้หวัน” ตลอดปีได้แน่ 400,000 คน


โดยภาพรวมแล้วตลาดระยะใกล้ (shorthaul) กลับมาได้เกินกว่า 50 % ของปี 2562 ปัจจัยสำคัญคือ ความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยวแต่ละประเทศฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ผนวกกับสายการบินเร่งเพิ่มเส้นทางและความถี่เข้ามายังไทย ไม่ว่าจะเป็น การบินไทย ANA แล้วยังมีโลว์คอสต์แอร์ไลน์สอีกเป็นจำนวนมาก ทำโปรโมชั่นไหลออกสู่ตลาดต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา

“อาวุธใหม่” ที่ ททท.พร้อมใช้เพิ่ม ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 งานเข้าร่วมงานเทรดท่องเที่ยว ททท.ได้งบกลางมากระตุ้นท่องเที่ยวครึ่งปีหลัง เริ่มตั้งแต่เมษายน 2566 เป็นต้นมา เน้นทุ่มลงทุน Digital Marketing ได้นำโมเดลจากยุโรปมาประยุกต์ใช้ร่วมกับโฮลเซลส์ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม ออนไลน์ เสิร์ซเอนจิ้น ของค่ายใหญ่ทั่วเอเชียทั้งใน จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ล่าสุด ททท.ใช้งบราว 20 ล้านบาท ทำกับแบรนด์พันธมิตรแถวหน้าของเอเชีย 4 แพลตฟอร์ม ได้แก่

1.Alipay สาธารณรัฐประชาชนจีน ทำแคมเปญ China is Back เริ่มวางขายเที่ยวไทยพฤษภาคม-สิงหาคม นี้ ตั้งเป้าขายให้ครบ 200,000 แพ็ก

2.KLOOK แพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งในสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ฮ่องกง และทั่วเอเชีย

3.Agoda ประเทศไทยเป็นผู้นำตลาดจองห้องพัก ท่องเที่ยวครบวงจร

4.KNA แพลตฟอร์มที่แข็งแรงในเกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน บางแพลตฟอร์มอาจจะทับซ้อนพื้นที่กันบ้าง แต่สามารถช่วย ททท.โปรโมตท่องเที่ยวเมืองไทย เพิ่มจำนวนและรายได้ทุกตลาดให้ประสบความสำเร็จสูงมาก

แล้วกำลังมองเพิ่มไปยังแพลตฟอร์มชั้นนำต่ออีก 2 แบรนด์ 5. Traveloka อินโดนีเซีย 6. Rakuten ในญี่ปุ่น

           

โดยภาพรวมตลาดเอเชียติดอาวุธสำคัญคือการทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม และ OTA :Online Travel Agents บวกกับมีเที่ยวบินกลับมาบินตามปกติเกินกว่า 70 % จีน เกาหลี สิงคโปร์ โดยเฉพาะอินเดีย เป็นผู้เล่นสำคัญ รวมถึง เวียดนาม มีเที่ยวบินสูงถึง 80-90 % เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกให้การเดินทางเข้าถึงเมืองไทยสะดวกสบายมากขึ้น

           

ขณะเดียวกันก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในช่องทาง “ทางบก” มาเลเซีย เป็นตัวอย่างที่ดี เพราะปี 2567 ตั้งเป้ามาไทยเกิน 4 ล้านคน ซึ่งทาง ททท.สำนักงานกัวลาลัมเปอร์ จะต้องหาพันธมิตรใหม่เข้ามเสริมทัพเตรียมพร้อมในปีต่อไป

           

นายธเนศวร์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังทำแผนการตลาดปี 2567 ซึ่งร่วมกันทำได้แล้ว 80 % จากนั้นเดือนกรกฎาคมนี้จะไปคุยส่วนที่เหลืออีก 20 % ให้แล้วเสร็จที่การประชุมแผนการตลาดประจำปีที่เมืองพัทยา ชลบุรี ธีมจุดขายจะพุ่งเป้าเดินหน้าภายใต้ 2 ธีมหลัก คือ ธีมที่ 1 สินค้าท่องเที่ยวมูลค่าสูง -High Value ธีมที่ 2 การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน -Sustainbility สะท้อนนโยบาย BCG และ SDGs ของรัฐบาลด้วย ซึ่งจะเปลี่ยนผ่านธีมไปเป็นแผนการตลาดอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อนำไปขายกับทั่วโลกได้

           

ปี 2567 ททท.เอเชียและแปซิฟิกใต้ จะใส่เกียร์การตลาดภายใต้คอนเซ็ปต์ “MOREs -ทำให้มากขึ้น ดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น” ทั้งหมด 5 Mores ประกอบด้วย 1.More Alliances ทำงานร่วมกับสายการบินใหม่ พันธมิตร OTA 2.More Areas เปิดพื้นที่ตลาดใหม่ เมืองรอง พร้อมเสนอขายเที่ยวเมืองไทยอย่างเป็นรูปธรรม 3.More Agile เคลื่อนตลาดโดยทำงานเชิงการขายกับหน่วยงานใน ททท.ด้วยกันเองทั้งด้านสินค้า ด้านตลาดในประเทศ ด้านอื่น ๆ ครบทุกส่วน 4. More Nationwide ผนึกความร่วมมือกับตลาดที่มีหลายสำนักงาน ทำโครงการร่วมกันให้อิมแพ็คที่ครอบคลุมโดยเน้นแพลตฟอร์มออนไลน์

 

5.More Meaningful ส่งมอบประสบการณ์ใหม่ให้ไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีความหมายและมีมีคุณค่า สะท้อนทางเลือกใหม่ และการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ

 

ปี 2567 ททท.จะต้องสะท้อนทั้งเทคนิคและธีมการตลาดให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างทรงพลัง  ทำโครงการเรียบง่ายมีประสิทธิภาพ (common Project) ตัวอย่าง ปัจจุบัน ททท.มีโครงการมอบรางวัลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว -Thailand Tourism Awards /รางวัลกินรี ซึ่งแต่ละได้รวบรวมรายชื่อสถานที่ประกอบการท่องเที่ยวแต่ละหมวด ที่ได้รับรางวัลการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ช่วยลดโลกร้อน และมีความหมายและคุณค่า ที่ผ่านมา ททท.ให้สิทธิประโยชน์เข้าร่วมงานเทรดส่งเสริมการขายตลาดโลก แต่เมื่อประมวลผลแล้วต้องกลับมาทบทวนใหม่เพราะการจับคู่อาจจะไม่ก่อให้เกิดอิมแพคสูงมากนัก เพราะมีลักษณะการใช้บริการและความต้องการของลูกค้าออาจไม่ตรงกัน

 

ดังนั้นจะเสนอในแผนการตลาด ททท.ปี 2567 พลิกโฉมไปสู่โครงการ “Kinnaree Fly High -รางวัลกินรีต้องบินสูงให้ได้” ตามหลักคิดจะทำในลักษณะ Trade +Showcase คือ จะนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รางวัลกินรี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงแรมที่พักในชุมชน ร้านอาหารดูแลมาตรฐานการลดโลกร้อน แหล่งท่องเที่ยวใส่ใจสิ่งแวดล้อม หรือ Supply site คัดสินค้าเด่น ๆ ทั่วไทยมารวมตัวกัน เพื่อจับคู่กับเจรจากับคู่ค้าที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย แล้วดีไซน์จัดงานเฉพาะขึ้นเป็นแผนประจำปี มอบหมายให้ ททท.เอเชีย แปซิฟิกใต้ ทั้ง 18 สำนักงาน คัดเลือกผู้ซื้อจากต่างประเทศ อาจจะเป็น KOL, Influencer นักเขียน หรือสื่อ ที่ให้ความสนใจสินค้าดังกล่าว เข้ามาเยี่ยมงานเพื่อจะได้เห็น Tourism Green Awards ของแท้

 

หากโครงการนี้ทำสำเร็จ “ไทย” จะเป็นประเทศแรก ๆ ขึ้นผู้นำการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ -Responsible Tourism ซึ่งสามารถสร้างรูปธรรมได้อย่างแท้จริง โดยเปิดโอกาสจัดเวทีให้ผู้ประกอบการกับผู้ที่มีความต้องการเฉพาะมาเลือกสินค้าแล้วไปกระจายข้อมูลอย่างกว้างขวางในตลาดโลกต่อไป

 

นายธเนศวร์ย้ำว่า นักท่องเที่ยวตลาดเอเชีย แปซิฟิกใต้ จะเดินหน้าวาง mindset ใหม่เพิ่มรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะใกล้แถบเอเชียทั้งหมด ปี 2567 จะเห็นความสำคัญของ การท่องเที่ยวใส่ใจสิ่งแวดล้อม กระจายรายได้ไปยังเมืองท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น แล้วจะได้รับการบรรจุไว้ในแผนฉบับใหม่เดือนกรกฎาคม 2566 เพื่อส่งต่อให้เอกชนปรับโมเดลธุรกิจทั้งประเทศให้สอดคล้องกับ ททท.เพื่อเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคตนั่นเอง

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ส่งท้ายซัมเมอร์คลิกช้อป24ชั่วโมง+2โปรฮ็อต4สาขา

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำเสนอธุรกิจโฉมใหม่ต้อนรับปี 2566 ด้วยคอนเซ็ปต์ THE POWER OF POSSIBILITIES ธุรกิจที่เป็นได้มากกว่าผู้นำดิวตี้ฟรี ด้วยพลังความเชื่อว่า “เพราะทุกอย่าง เป็นไปได้” ในสิ่งเหนือความคาดหมาย คิง เพาเวอร์ เชื่อในพลังแห่งความเป็นไปได้ ไป” ในทุกสถานที่ที่อยากไป ได้” ทุกเวลา เมื่อนักเดินทางมีไฟลต์/เที่ยวบินต่างประเทศ และคนในประเทศแต่ไม่มีไฟลต์บินก็ชอปสินค้าโฮม เดลิเวอรี่ อย่างสะดวกสบายทุกช่องทาง ออนไลน์ www.kingpower.com  และออนกราวนด์หรือทางสาขาหน้าร้านในเมือง 4 สาขา ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต กับอีก 5 สนามบินนานาชาติหลักของไทย สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต อู่ตะเภา

 

ไฮไลต์ช้อปส่งท้าย “ซัมเมอร์” สัปดาห์สุดท้ายเดือนนี้ตั้งแต่วันนี้ 31 พฤษภาคม 2566 มีไฟลต์หรือตั๋วเครื่องบินเดินทางต่างประเทศ สามารถเลือกคลิกช้อป ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือจะมาเดินผ่อนคลายชมช้อปใหม่ตามสาขาในเมือง และสนามบินขาเข้าออก

 

            ไฮไลต์ King Power Summer ExplorationExploring New Possibilities ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต ตั้งแต่วันนี้-31 พฤษภาคม 2566 ทำให้ทุกการช้อปเป็นไปได้ส่งท้ายหน้าร้อนกับ 2 โปรโมชั่นสุดฮ็อต

 

ฮ็อต สมาชิก คิง เพาเวอร์ ลดสูงสุด 20% เลือกสินค้าที่เข้าร่วมรายการ และยังมีสินค้าให้เลือกนับหมื่นรายการให้แวะชมเพื่อช้อปในสิ่งที่ใช่และชอบได้ตลอดทุกวัน

 

ฮ็อต ลงทะเบียนก่อนช้อป รับฟรี! คูปองส่วนลด 2,000 บาท สำหรับการช้อป 25,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ)/ใบเสร็จ รับได้ทันทีคนละ 1 สิทธิ์/วัน

 

ทั้ง 2 ฮ็อตโปรโมชั่น สามารถใช้สิทธิ์บัตรสมาชิก คิง เพาเวอร์ NAVY รับส่วนลด 5% บัตร SCARLET รับส่วนลด 10% บัตร ONYX รับส่วนลด 15% และ CROWN และ VEGA รับส่วนลด 20%     

 

วิธีใช้คูปองส่วนลด 2,000 บาท นำไปเลือกซื้อสินค้าที่ร่วมรายการ โดยตรวจสอบสินค้าร่วมรายการเพิ่มเติม ได้คนละ 1 สิทธิ์/วัน โดยนับสิทธิ์รวมทุกสาขาและช่องทางการช้อป แต่ละครั้งสามารถซื้อสินค้าได้ถึง 20 ชิ้น / ใบเสร็จรับเงิน โดยนำคูปองส่วนลดไปใช้ได้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต หรือช่องทาง Call to Shop หรือ Chat to Shop เท่านั้น กับสาขาที่ลงทะเบียนช้อปปิ้งไว้ ซึ่งคูปองส่วนลด 2,000 บาท หมดอายุภายในวันทำการแลกรับ อีกทั้งยังใช้กับ “บัตรเครดิตร่วม คิง เพาเวอร์” ธนาคารไทยพาณิชย์ และกสิกรไทย สอบถามเพื่อเพิ่มเติมได้ที่ 1631

 

ข่าวที่ 2 เอ็กซคลูซีฟคิงเพาเวอร์GUCCIอาจแชโดว์-Diorหอมทั้งสุวรรณภูมิ

 

คิง เพาเวอร์ ร่วมกับแบรนด์พันธมิตร ชวนช้อปสินค้าไอเทมใหม่ในช่วงใกล้เปลี่ยนผ่านฤดูกับเครื่องสำอางค์และสินค้ายอดนิยมแบรนด์ GUCCI และ Dior กับ 2 แคมเปญ ดังนี้

 

แคมเปญที่ 1 ช้อปแบรนด์ดังทางออนไลน์ www.kingpower.com   และทางหน้าร้านสาขาหลัก คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มีไฟลต์บินคลิกช้อปหรือไปเดินชมสินค้าเพื่อเลือกซื้อได้ทันที เพื่อร่วมเปิดประสบการณ์แบรนด์ดังแห่งสีสันและแรงบันดาลใจกับ GUCCI Palette De Beauté Quatuor พาเลตต์อายแชโดว์ใหม่ล่าสุด มีถึง 3 เฉดสี ประกอบด้วย 1.Summerina Brown Eye  2.Rosa Nitida  และ 3.Wild Bouquet พร้อมให้ทุกคนได้ครีเอทลุคการแต่งหน้าหลากหลายสไตล์จาก @GucciBeauty

 

แคมเปญที่ 2 ชม Dior Riviera Pop-Up Store วันนี้ - 31 กรกฎาคม 2566 ที่ คิง เพาเวอร์ สนามบินสุวรรณภูมิ ชวนนักเดินทางเปิดประสบการณ์ใหม่กับกลิ่นหอมของ Miss Dior Blooming Bouquet  ส่งท้ายหน้าร้อนปีนี้ ซึ่งพร้อมจะทำให้นักช้อปได้เพลิดเพลินทุกผลิตภัณฑ์แบรนด์ดิออร์

 

ข่าวที่ 3 ช้อปคิงเพาเวอร์2ช่องทางสมาชิกลด20%-ลงทะเบียนรับฟรี2พัน

 

คิง เพาเวอร์ ย้ำนักเดินทางทุกคนในช่วงออกทริปเดินทางทุกครั้ง ช้อปหนักแค่ไหนก็เป็นไปได้ ระหว่างวันนี้ – 31 พฤษภาคม 2566  ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต รีบคว้าดีลดีและสิทธิประโยชน์ช้อปคุ้มค่าทุกเวลาทุกวัน 2 วิธี

 

1.สมาชิก คิง เพาเวอร์ ลดสูงสุด 20% (เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ) 2.ลงทะเบียนก่อนช้อป รับฟรี! คูปองส่วนลด 2,000 บาท สำหรับช้อป 25,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ)/ใบเสร็จ ให้คนละ 1 สิทธิ์/วัน

 

โดยให้เลือกเฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ ตรวจสอบสินค้าร่วมรายการเพิ่มเติมที่จุดขาย 1.สถานะสมาชิก คิง เพาเวอร์ NAVY รับส่วนลด 5%, SCARLET รับส่วนลด 10%, ONYX รับส่วนลด 15%, CROWN และ VEGA รับส่วนลด 20% 2.โปรดตรวจสอบเพิ่มเติมที่สื่อสิทธิประโยชน์สมาชิก คิง เพาเวอร์

 

ข่าวที่ 4 ด่วน!บอร์ดเคาะ“ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์”ผู้ว่าฯททท.คนใหม่1ก.ย.

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประจำเดือนพฤษภาคม 2566 โดยมี นายโชติ ตราชู เป็นประธานการประชุม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม 2566 มีวาระประชุมลับเพื่อพิจารณารายชื่อผู้ว่าการ ททท.คนใหม่ โดยมติเห็นชอบให้ “นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” เป็นผู้มีความเหมาะสมเพื่อดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยตามที่คณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการเสนอ

 

โดยมีวิสัยทัศน์หลักที่จะนำทัพอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเดินหน้าทั้งระดับประเทศและนานาชาติทั่วโลก เบื้องต้น ประกอบด้วย 3 นโยบาย ได้แก่ 1.นำอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือสร้างสันติภาพ ลดความขัดแย้ง 2.ยกระดับการท่องเที่ยวสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบทันสมัยแข่งขันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในตลาดไร้พรมแดน 3.นำอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยก้าวสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน STGs : Sustainable Tourism Goals และ SDGs :Sustainable Development Goals

 

ขั้นตอนหลังจากนี้ไปให้ ททท. เสนอต่อ “คณะอนุกรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” พิจารณาตามหลักเกณฑ์และแนวทางตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ตั้งแต่สัปดาห์หน้า 29 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป จะเดินหน้าเจรจาต่อรองผลตอบแทนการจ้างตามระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กำหนดไว้ หากสามารถตกลงกันได้ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการนำมาเสนอบอร์ด ททท.รับทราบอีกครั้ง

 

ขั้นตอนสุดท้ายบอร์ดจะนำเสนอรายชื่อผู้ที่ผ่านการสรรหาตามเกณฑ์ครบทุกขั้นตอน จนได้ข้อยุติส่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงนามต่อไป

 

สำหรับ “นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง “รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ” เป็นบุคลากรภายในองค์กร ซึ่งผ่านการสรรหาได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้ว่าการ ททท.คนต่อไป ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ต่อจาก ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.คนปัจจุบัน ซึ่งกำลังจะสิ้นสุดสัญญาจ้างในวันที่ 31 สิงหาคม 2566

 

ข่าวที่ 5 “บางจาก-การบินไทย”MOUนำฝูงบินศึกษาใช้น้ำมันยั่งยืนSAF

 

นายปฏิวัติ ทิวะศะศิธร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ-โรงกลั่น กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เป็นประธานพิธีลงนามข้อตกลง
ความร่วมมือแลกเปลี่ยนความรู้ความเชี่ยวชาญ ด้านเทคนิคการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน
SAF :Sustainable Aviation Feul ระหว่าง บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยมี นายธรรมรัตน์ ประยูรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กับ นายทวิโรจน์ ทรงกำพล ประธานเจ้าหน้าที่สายกลยุทธ์องค์กร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนาม ที่สำนักงานใหญ่ การบินไทย ถนนวิภาวดีรังสิต

 

พร้อมพยานการลงนามครั้งนี้มีทั้ง นายเสรี อนุพันธนันท์ รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจากฯ กับ นายชัยยง รัตนาไพศาลสุข ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาองค์กร บริษัท การบินไทยฯ  

 

นายธรรมรัตน์ ประยูรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจากฯ กล่าวว่า ในฐานะหนึ่งในผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน บางจากฯ มุ่งมั่นดำเนินภารกิจภายใต้วิสัยทัศน์ “รังสรรค์โลกยั่งยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียว” โดยให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างความท้าทายด้านพลังงาน 3 ประการ (Balancing the Energy Trilemma) เพื่อจัดหา
ผลิต และจัดจำหน่ายน้ำมันและเชื้อเพลิงชีวภาพ
SAF ให้พอต่อความต้องการของภาคธุรกิจและประชาชน รวมทั้งพัฒนาและต่อยอดธุรกิจหลักให้เติบโต โดยเร่งขยายการลงทุนสัดส่วนธุรกิจสีเขียวและยั่งยืน เตรียมความพร้อมรองรับเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก

 

 ปี 2565 บางจากฯ ได้ตั้งบริษัทผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนจากน้ำมันใช้แล้ว หรือ SAF เป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ตามแผนงาน BCP 316 NET อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม มุ่งสู่เป้าหมายของบริษัทที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ควบคู่การวางแผนปรับเปลี่ยนโรงกลั่นน้ำมันบางจากเป็นโรงกลั่นชีวภาพ (Biorefinery) ผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ ซึ่งเป็นพลังงานแห่งอนาคตช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคการขนส่ง ซึ่งSAF ไม่เพียงเพิ่มมูลค่าให้กับน้ำมันใช้แล้ว แต่ยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์
ภาคอุตสาหกรรมการบิน ตามแนวโน้มในอุตสาหกรรมการบินทั่วโลกที่กำลังเดินหน้าตามเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ หรือ
FlyNetZero ให้สำเร็จในปี 2593 เช่นกัน

 

ซึ่งบริษัทฯ ยังมีภารกิจอื่น ๆ ที่จะร่วมขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำ เช่น 1.เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาดในสถานีบริการน้ำมันบางจาก เพื่อมุ่งสู่สถานีบริการที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ และร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจติดตั้ง EV Charger ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วไทย การขยายธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง ศึกษาและลงทุนในธุรกิจแบตเตอรี่  2.จัดตั้งแพลตฟอร์มให้เช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Winnonie และ 3.ก่อตั้งเครือข่าย Carbon Markets Club เป็นครั้งแรกในไทย เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องการจัดการคาร์บอนเครดิต เป็นช่องทางซื้อขายคาร์บอนเครดิตในไทย เพิ่มมูลค่าและส่งเสริมการลดคาร์บอน และจัดทำโครงการปลูกป่าเพื่อดูดซับและกักเก็บคาร์บอนโดยธรรมชาติกับหน่วยงานต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กัน

 

บางจากฯ เชื่อมั่นความร่วมมือกับการบินไทยในครั้งนี้ จะส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ สามารถเข้าถึงน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนและมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้

 

นายทวิโรจน์ ทรงกำพล ประธานเจ้าหน้าที่สายกลยุทธ์องค์กร บริษัท การบินไทยฯ กล่าวว่า ในฐานะสายการบินแห่งชาติที่มีธุรกิจหลัก คือเป็นสายการบินให้บริการเต็มรูปแบบ (Full Service Carrier) ทั้งขนส่งผู้โดยสาร สินค้า และไปรษณีย์ภัณฑ์ทางอากาศครบวงจร ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ มีเครือข่ายเส้นทางบินทั่วโลกกว่า 30 ประเทศ ดำเนินธุรกิจมากว่า 63 ปี โดยมุ่งพัฒนาธุรกิจเพื่อส่งเสริมความสมดุลทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล ส่วนบางจากคือกลุ่มบริษัทนวัตกรรมสีเขียวชั้นนำของเอเชีย ได้ลงทุนสร้างหน่วยผลิตน้ำมันอากาศยานแบบยั่งยืนจากน้ำมันใช้แล้ว เพิ่มมูลค่าของของเสียภายในประเทศ และยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ภาคอุตสาหกรรมการบิน

 

ความร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมภาคการบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ได้เติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี  2593 (ค.ศ.2050) ปัจจุบันอุตสาหกรรมการบินปล่อยก๊าซเรือนกระจก คิดเป็น 2 % ของทั้งหมด ในอนาคตมีแนวโน้มการบินจะเติบโตเพิ่มขึ้น จึงปล่อยก๊าซเรือนกระจกย่อมเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

การลงนามครั้งนี้จะร่วมกันแบ่งปัน นำองค์ความรู้ ประสบการณ์ ความความเชี่ยวชาญของ
แต่ละฝ่าย เดินหน้าศึกษาเทคนิคในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน
SAF ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero ปฏิบัติตามมาตรฐานของ 2 หน่วยงาน คือ 1.องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(International Civil Aviation Organization : ICAO) 2.สมาคมการบินระหว่างประเทศ (International Air Transport Association : IATA) อนาคตจะขยายความร่วมมือด้านอื่น ๆ เพื่อเสริมสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ ควบคู่กับการดูแลรักษาสังคมและสิ่งแวดล้อม ก้าวสู่การเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนต่อไป

 

ข่าวที่ 6 TCEB”นำไมซ์ไทยขายIMEXบูม3แนว“ยั่งยืน/นวัตกรรม/ซอฟท์เพาเวอร์”

 

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บเข้าร่วมมหกรรมขายไมซ์รายการระดับโลก IMEX Frankfurt 2023  ระหว่างวันที่ 23-25 พฤษภาคม 2566 ที่ Messe Frankfurt เมืองแฟรงเฟิร์ต เยอรมัน โดยได้นำผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมไมซ์ร่วมเดินทางไปด้วย 29 ราย เพื่อจับคู่เจรจากับตัวแทนผู้ซื้อดึงรายได้ไมซ์จากตลาดยุโรปเข้าไทยให้ได้ตามเป้าหมายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566 ต่อเนื่องปี 2567

 

โดยมีผู้ประกอบการที่จะเป็นตัวแทนผู้ขายไมซ์ไทยเข้าร่วมงาน IMEX Frankfurt 2023 รวม 29 ราย ประกอบด้วย โรงแรม 17 ราย บริษัทตัวแทนจัดการเดินทาง หรือ DMCs (Destination Management Company) 7 ราย สถานที่จัดงาน/Venue 2 ราย สายการบิน/การบินไทย 1 ราย สมาคมส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ (ไทย)หรือ TICA อีก 1 องค์กร ทั้งหมดพร้อมจะพบปะแลกเปลี่ยนตลาดการซื้อขายกับคู่ค้าทั่วโลกที่เดินทางเข้ามาร่วมงานปีนี้มีจำนวนไม่น้อยกว่า 2,500 ราย ตลอดงาน 4 วัน เอกชนและผู้เข้าร่วมงานครั้งนี้ยังสามารถเลือกเข้าร่วมฟังการประชุมทางที่เจ้าภาพจัดไว้ในหัวข้อต่าง ๆ ซึ่งมีให้เลือกถึง 3,000 การประชุม เพื่อจะได้เกาะติดเทรนด์อนาคตซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่จะเป็นประโยชน์กับภาคธุรกิจไมซ์ทั่วโลก

 

ส่วนไฮไลต์ที่ทีเส็บพร้อมนำเสนอในงาน IMEX Frankfurt 2023  ขานรับเทรนด์ การยกระดับจัดงานไมซ์อย่างยั่งยืนในเวทีโลก คือ การลงทุนดีไซน์ Thailand Pavilion” ของประเทศไทย หมายเลขบูธ B150 แสดงศักยภาพความพร้อมและขีดความสามารถที่ไทยมีเป้าหมายนำอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืนหรือ MICE Sustainable ทั้งภายในประเทศและเวทีนานาชาติ

 

Thailand Pavilion” หมายเลข B150 ในงาน IMEX Frankfurt 2023 ทีเส็บได้นำเสนอไมซ์ไทยทำให้ทั่วโลกต้องตื่นตะลึงภายใต้ 3 แนวคิด ประกอบด้วย แนวคิดที่ 1 ความยั่งยืน (Sustainable) แนวคิดที่ 2 นวัตกรรม (MICE INNOVATION แนวคิดที่ 3 ซอฟท์ เพาเวอร์/Soft Power ทางด้านวัฒนธรรมอันงดงาม ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ของเมืองไทยในตลาดไร้พรมแดนบนเวทีระดับโลก

 

ทีเส็บร่วมแรงร่วมใจร่วมลงทุนแสดงศักยภาพ เริ่มต้นจาก แนวคิดที่ 1 “ความยั่งยืน” นำร่องตั้งแต่การออกแบบก่อสร้างเพื่อติดตั้ง Thailand Pavilion ภายในอาคาร ด้วยการเลือกใช้วัสดุ oriented strand board ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นเรื่องการปล่อยสารฟอร์มัลดีไฮด์ปริมาณน้อย เป็นขั้นตอนการผลิตที่สอดคล้องตามมาตรฐานยุโรป ส่วนพรมปูพื้นเลือกใช้ซ้ำได้ รวมถึงยังได้ลดมลภาวะการขนส่งด้วยการเลือกวัสดุอื่น ๆ ทุกชิ้นที่นำมาใช้ประกอบเป็นไทยแลนด์ พาวิลเลียน จะเน้นมีน้ำหนักเบาควบคู่กันไปด้วย 

 

แนวคิดที่ 2 “นวัตกรรม” ทีเส็บได้พัฒนาซอฟท์แวร์ที่นำมาใช้เล่นเกมแบบ interactive เพื่อให้ผู้ร่วมเล่นเกมสามารถถ่ายทอดผลงานผ่านทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งเกมที่เลือกมีเนื้อหาด้านวัฒนธรรมไทยประกอบอยู่ด้วย เมื่อผู้เล่นแชร์ช่วยกันแชร์จะได้เผยแพร่ซอฟท์ เพาเวอร์ ด้านวัฒนธรรมไทย เข้าถึงกลุ่มต่าง ๆ ได้อย่างกว้างขวาง

 

แนวคิดที่ 3 “ซอฟท์พาวเวอร์-พลังวัฒนธรรมไทย” ทีเส็บได้คัดสรรค์ “จัดการแสดงมวยไทย” ทุกวัน เพื่อดึงดูดผู้ร่วมงานจากนานาชาติสนใจเข้ามาเยี่ยมชมพร้อมกับตัดสินใจเลือกเดินทางมาประเทศไทยต่อไปด้วย กิจกรรมนี้ได้ใช้มวยไทยจุดประกายและกระตุ้นตลาดด้วยการพัฒนาเป็นเนื้อหาผนวกรวมอยู่ในอีเวนต์จัดงานไมซ์ในเมืองไทยได้ด้วย

 

นายจิรุตถ์ กล่าวว่า การนำธุรกิจไมซ์ของไทยเข้าร่วมงาน IMEX Frankfurt 2023 ครั้งนี้ จะเป็นอีกเวทีที่สามารถ  ฟื้นฟูตลาดต่างประเทศเข้าไทยเพิ่มมากขึ้นได้ในช่วงครึ่งปีหลัง 2566 ส่งผลดีกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ตลอดปีงบประมาณ 2566 ระหว่าง 1 ตุลาคม 2565-30 กันยายน 2566  จะมีนักเดินทางไมซ์รวมทั้งหมด 18,550,000 คน สร้างรายได้กระจายไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ 109,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่ 1 มาจากตลาด “ไมซ์ต่างชาติ” จำนวน 760,000 คน จะทำเงินรายได้ 50,000 ล้านบาท ส่วนที่ 2 มาจากตลาด “ไมซ์ในประเทศ” จำนวน 17,790,000 คน จะทำเงินรายได้ 59,000 ล้านบาท

 

ขณะเดียวกันทีเส็บยังได้วางกลยุทธ์ไมซ์ตลาดต่างประเทศตลาดระยะไกลในอนาคต 3 ปีหน้า ระหว่าง 2566-2567 มุ่งขยายรายได้และงานจาก 5 ตลาดหลัก ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ รัสเซีย รวมทั้งวางแผนการตลาดเจาะเพิ่ม “ตลาดใหม่” อีก 2 กลุ่ม คือ

 

กลุ่มที่ 1 แยกตัวออกจากรัสเซีย ได้แก่ CIS (ลัทเวีย ลิโทเนีย เอสโทเนีย) อุเบกิซสถาน คาซัคสถาน ตามสถิติมีเที่ยวบินตรงเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภูเก็ตเพิ่มขึ้นทุกปี รวมทั้งมีสัญญาณที่จะนำไมซ์เข้ามาจัดในไทย กลุ่มจัดการประชุม (meeting) และเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (incentive)

 

 

กลุ่มที่ 2 ตะวันออกกลาง ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งรัฐบาลไทยได้ทำสัมพันธ์และสนับสนุนโครงการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการแพทย์ (Medical Tourism) รวมทั้งนักเดินทางกลุ่มคุณภาพไมซ์

 

แนวโน้มตลาดภาพรวมปี 2566 ยังจะมีตลาดไมซ์ทั่วโลกเข้ามาเสริมทัพจัดงานต่าง ๆ ในเมืองไทย ได้แก่ บริษัทหรือองค์กรขนาดใหญ่ (corporate) ได้ผสมผสานส่งเสริมกลุ่มเดินทางเพื่อเป็นรางวัลเข้ามายังเมืองไทยจำนวนหลายกลุ่มโดยใช้จ่ายเฉลี่ยในไทยเริ่มต้นขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 65,000-80,000 บาท/คน/ทริป ส่วนตลาดไกลจากยุโรป อเมริกา จะพักค้างคืนนานกว่า 7 วัน/คน/ทริป แล้วเดินทางต่อไปยังประเทศ CLMV กัมพูชา-สสป.ลาว-เมียนมา-เวียดนาม

 

ช่วงครึ่งปีหลัง 2566 จะมีตลาดไมซ์ต่างประเทศ “กลุ่มขายตรง” ทั้งยุโรปและปรเทศอื่น ๆ ทยอยเข้ามาเป็นจำนวนมาก เช่น “คาซัคสถาน” เป็นกลุ่มธุรกิจ Herbal Life กับแอมเวย์  “ฮ่องกง” เป็นธุรกิจประกัน (insurance) แต่ละกลุ่มจะขนาดใหญ่ประมาณ 3,000-8,000 คน/ทริป “อินเดีย” ตอนนี้เป็นตลาดใหญ่สุดนำไมซ์มาไทยอย่างต่อเนื่อง ช่วงครึ่งปีแรก 2566 เป็นกลุ่มธุรกิจยาเภสัชกรรม รวมทั้งตลาดอินเซนทีฟเติบโตสูงเลือกมาไทยเลือกพื้นที่จัดงานหลักตามเมืองท่องเที่ยว กรุงเทพฯ เชียงราย กระบี่ พัทยา และ “สาธารณรัฐประชาชนจีน” เริ่มทยอยนำไมซ์เดินทางเข้ามาไทยบ้างแล้วและจะเพิ่มขึ้นตามลำดับสอดคล้องกับปริมาณที่นั่งเที่ยวบินที่ให้บริการ

 

          ช่วงที่ 2 ออกเที่ยวกันเถอะ เช็คอิน “มอหินขาว” จ.ชัยภูมิ หินล้านปีสโตนเฮนจ์เมืองไทย สายชีล สายธรรมชาติ สายแคมป์ ชวนกันมาได้เลย “5 TIPs รับมือหน้าฝน” ฟังข่าวฮ็อต ข่าวแรก “ททท.ผนึกสมาพันธ์ภาพยนตร์” ทุ่มจัด Amazing Film Festival ข่าวที่สอง เลเจนด์สยาม-มาริโอเมาเร่อเปิดเรือนหมอยาทัวร์3ไฮไลต์

 

ท่องเที่ยว –เที่ยว“มอหินเที่ขาว”ไป จ.ชัยภูมิ หินล้านปีสโตนเฮนจ์เมืองไทย

 

ชวนกันออกเที่ยว  "มอหินขาว" อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ต้อนรับหน้าฝนปีนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จาก 77 จังหวัดทั่วไทย เลือกแหล่งท่องเที่ยวที่ใช่ เลือกจังหวัดที่ชอบ ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 1 ล้านบาท!!

 

เปิดประตูสู่มอหินขาว ท่องอาณาจักร “สวนหินล้านปี" เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา สิ่งที่สะดุดสายตาผู้คน นั่นคือ เสาหินยักษ์ 5 ก้อน ตั้งเรียงรายกันอย่างโดดเด่นและสวยงามบนเนินเขา คล้ายกับ สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) ในอังกฤษ และทำให้เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ "สโตนเฮนจ์เมืองไทย" ซึ่งมีอายุมากกว่า 175 ล้านปี

 

ความมหัศจรรย์ของ “มอหินขาว” มีกลุ่มหินที่น่าสนใจให้เลือกเดินชมท่ามกลางธรรมชาติอีกมากมาย รูปทรงตามจินตนาการ  อย่าง  หินเจดีย์โขลงช้าง ลานหินต้นไทร และอีกมากมาย

 

สายรักธรรมชาติทั้งหลาย ทางอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ชวนมากางเต๊นท์นอนแคมป์บนดอยสูง ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านอุทยานท้องฟ้ามืด (Dark Sky Park) เหมาะกับการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ รวมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และเชิงดาราศาสตร์อีกด้วย

 

ก่อนออกเดินทางไปเที่ยว “มอหินขาว” ททท. เชิญนักท่องเที่ยว ร่วมกิจกรรม การโหวตทางออนไลน์ www.tourismthailand.org/Unseennewchapters ให้แหล่งท่องเที่ยวชัยภูมิ Unseen new Chapters ลุ้นให้ติด 1 ใน 25 แหล่งท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ เพื่อลุ้นรับรางวัลมากมายรวมมูลค่ากว่า 1,000,000 บาท ทั้งตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ในประเทศ บัตรกำนัลโรงแรมที่พัก ร้านอาหารมิชลิน ไกด์ บัตรเติมน้ำมัน รอลุ้นการจับรางวัลและประกาศผลผู้โชคดีทุกสัปดาห์ ผ่านหน้าเว็บไซต์โครงการฯสอบถามเพิ่มข้อมูลเพิ่มที่ ททท. สำนักงานนครราชสีมา โทร. 044-213666 เพจ Facebook : ททท. สำนักงานนครราชสีมา

 

สุขภาพ – 5 TIPS วัยเก๋ารับมือหน้าฝน ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่เจออุบัติเหตุ

 

เมื่อเข้าหน้าฝน หลายคนๆอาจชอบเพราะจะได้คลายร้อน ชุ่มช่ำ ยิ่งเวลาที่เรานอนฟังเสียงในตกอยู่ในห้องนอนอุ่นๆ ยิ่งทำให้ไม่อยากลุกออกจากเตียงเลยทีเดียวใช่ไหมคะ แต่ก็มีอีกหลายๆคนที่ไม่ชอบหน้าฝน เพราะทำให้เฉอะแฉะ ต้องคอยระมัดระวังเวลาไปไหน เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และที่สำคัญคือ ทำให้เราป่วยง่าย!

 

1. ตรวจเช็คยานพาหนะให้สมบูรณ์ - หากผู้สูงอายุท่านไหนที่ยังเก๋า ยังแข็งแรงพอที่จะไปไหนมาไหนเองได้ ก็ต้องคอยตรวจเช็คสภาพของยานพาหนะเราก่อนที่จะออกจากบ้านทุกครั้ง เช่น รถยนต์ ควรเช็กแต่ละส่วนให้เตรียมพร้อมกับการรับฝนหนัก และหลีกเลี่ยงการไปยังสถานที่ที่น้ำท่วมด้วยนะคะ ยกตัวอย่างใบปัดน้ำฝน ไม่ควรทำให้เกิดเสียงดังขณะปัด ปัดแล้วไม่เกิดคราบน้ำบนกระจก เพราะนั่นจะหมายถึงว่าใบปัดน้ำฝนของเราเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว และจะทำให้เราเห็นทางไม่ชัดเจน ถ้าฝนตกหนักก็จะทำให้เกิดอันตรายได้ ระบบเบรก ต้องตรวจดูว่าผ้าเบรกของรถเราสึกแล้วหรือยัง โดยสังเกตตอนเหยียบเบรกว่ามันจมลึกกว่าปกติหรือเปล่า ส่วนยางรถยนต์ ก็ควรเติมลมยางให้พอดี เพราะมันจะส่งผลเรื่องการเกาะถนนเวลาที่เราขับรถด้วยความเร็วบนถนนที่เปียกลื่น ถ้ายางไม่ดี ก็จะทำให้เกิดอันตรายได้

 

2. อย่าลืมพกร่มทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน -ร่มเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดในหน้าฝน แต่น้องสุขเชื่อว่าก็เป็นสิ่งที่ทุกคนลืมพกอยู่บ่อยครั้งเช่นเดียวกัน ใช่ไหมจ้ะ หน้าฝนแบบนี้ควรมีร่มพกพาแบบดีๆ ใหญ่ๆ สักคัน เอาไว้ติดกระเป๋าก่อนออกไปไหนตลอดเวลา เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะต้องเจอฝนตอนไหน ดังนั้นก็พกไว้ให้เป็นนิสัยไปเลย ไม่เปียกแน่นอนจ้า อีกทั้ง ร่มบางชนิดยังสามารถกันแดดได้อีกด้วย ถ้าจะซื้อทั้งทีแล้ว ตาจ๋ายายจ๋าท่านไหนที่ชอบออกนอกบ้าน ก็ควรเลือกร่มที่ใช้กันแดดในตัวไปด้วยก็ดีนะจ้ะ เพราะถ้าไม่เจอฝน เราก็ยังใช้กันแดด ไม่ต้องเจอกับแดดจ้าๆ เสี่ยงต่อการเป็นลมได้ด้วย

 

3. รองเท้าสำคัญในการเดินบนพื้นหน้าฝน - ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมาก ยิ่งกับผู้สูงอายุที่เสี่ยงต่อการลื่นล้มได้อย่างง่ายๆ ยิ่งต้องดูแลในเรื่องของรองเท้าที่สวมใส่เป็นพิเศษ ควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นรองเท้าที่ทำจากวัสดุคุณภาพดี ในหน้าฝนควรเลือกใส่รองเท้าที่สามารถกันลื่นได้ เช่น วัสดุประเภทยาง ที่จะทำให้การเดินบนพื้นลื่นๆของเรานั้นมั่นคง ไม่ลื่นง่าย เพราะอุบัติเหตุที่เกิดจากการลื่นล้มเป็นเหตุการณ์ที่อันตรายมาก และมีความเสี่ยงถึงชีวิตได้เลยถ้าเราประมาทและไม่ดูแลตัวเอง

 

4. หลีกเลี่ยงการไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนแออัด -หน้าฝนเป็นฤดูที่เชื้อโรคต่างๆ สามารถแพร่กระจายไปได้อย่างง่ายมาก และเราก็ไม่รู้ว่าใครเป็นโรคติดต่อบ้าง ผู้สูงอายุส่วนมากที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้วนั้นเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากที่สุด เช่น โรคปอดบวม ที่จะพบมากในฤดูฝนโรคปอดบวมเกิดจากการติดเชื้อหลายชนิด เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และมักเป็นโรคแทรกซ้อนหลังป่วยไข้หวัด เพื่อป้องกันการเสี่ยงต่อการเป็นโรคปอดบวม ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สวมเสื้อผ้าให้ร่างกายอบอุ่น พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วย และที่สำคัญคือ หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนแออัดจ้า

 

5. โรคไข้หวัดใหญ่ที่มากับฝน - เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เป็นภาวะที่มีความชื้นสูง ซึ่งจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคนานาชนิดได้ง่ายขึ้นกว่าสภาวะปกติ ซึ่งแน่นอนว่าโรคฮิตที่มักพบในฤดูนี้คือโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจอย่างโรคไข้หวัดนี้เอง ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส และเชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่กระจายได้จากการไอและจาม ผู้สูงอายุและเด็กจึงควรได้รับการดูแลเป็นนพิเศษ คอยสังเกตตัวเองและคนใกล้ตัวว่าถ้ามีอาการน้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวก จาม อ่อนเพลีย มีไข้ต่ำๆ หรือไอแห้งๆ ควรพบแพทย์แต่เนิ่นๆ และรับการรักษาโดยเร็ว

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก- ททท.รุกจัดAmazing Film Festivalสานฝันไทยฮับหนังโลก

 

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  เปิดเผยว่า ททท. ร่วมกับสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ จัดงานเทศกาลภาพยนตร์- Amazing Film Festival Experience ระหว่าง 2-4 มิถุนายน 2566 ที่ Wisdom Valley จังหวัดชลบุรี ภายใต้คอนเซปต์งาน World Best Film Destination เดินหน้าส่งเสริมซอฟท์ เพาเวอร์ F/Film ภาพยนตร์ของไทยเชื่อมโยงเทรนด์การท่องเที่ยวตามรอย  ผลักดันไทยขึ้นเป็นประเทศศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับโลก 

 

คาดการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์ Amazing Film Festival Experience ครั้งนี้จะสามารถสร้างเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท และถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการนำ Soft Power (5F) ด้าน Film ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมภาพยนตร์ มาพัฒนาเป็นสินค้าการท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปสู่รูปแบบการท่องเที่ยวต่าง ๆ โดยมีจุดขายเรื่องแหล่งท่องเที่ยวความสวยงามที่ได้รับเลือกประกอบฉากสำคัญของภาพยนตร์ชื่อดังต่าง ๆ ทั้งไทยและต่างประเทศ ดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบภาพยนตร์เดินทางตามรอยสถานที่ดังกล่าวเข้ามาเที่ยวเมืองไทย จนกลายเป็นกระแส Viral ทางโซเชียลมีเดีย

 

ขณะนี้ไทยความพร้อมอำนวยการผลิตสื่อภาพยนตร์ครบวงจร โดยมีบุคคลากรที่มีความรู้และเชี่ยวชาญ และมีสถานที่ถ่ายทำที่หลากหลาย ทำให้การผลิตภาพยนตร์ในไทยทำได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ จึงเป็นโอกาสดีที่จะผลักดันให้เป็นจุดหมายการถ่ายทำภาพยนตร์ระดับนานาชาติ 

 

สำหรับงานเทศกาลภาพยนตร์ Amazing Film Festival Experience จัดภายใต้แนวคิด World Best Film Destination สื่อถึงแนวคิดสร้างสรรค์และการส่งเสริมเอกลักษณ์เพื่อนำประเทศไทยก้าวสู่เมืองแห่งภาพยนตร์ระดับโลกภายในเร็ววันนี้

 

ภายในงานได้จัดกิจกรรมน่าสนใจมากมาย ได้แก่ กิจกรรมที่ 1 จัดนิทรรศการภาพยนตร์ (Film Showcase & Exhibition) โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านภาพยนตร์มาร่วมแชร์ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตผลงาน กิจกรรมที่ 2 การประกวดหนังสั้น (Short Film Events) กิจกรรมที่ 3 การจัดแสดงศิลปะและประติมากรรมภาพยนตร์ (Installation Art Film) กิจกรรมที่ 4 การแสดงภาพยนตร์ (Film Presentation) ทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 20 เรื่อง

 

กิจกรรมที่ 5 ไฮไลท์ ททท. จะพาผู้เข้าร่วมงานสัมผัสประสบการณ์รับชมภาพยนตร์กลางแจ้งมิติใหม่ 4 รูปแบบ คือ 1. ชมภาพยนตร์จอยักษ์ริมทะเลสาบ 2. ชมภาพยนตร์ผ่านจอแนวตั้ง (Vertical Theatre) 3. รับชมการฉายหนังกลางแปลง ย้อนรำลึกวันวาน และ 4. โรงภาพยนตร์ลับในป่า (Forest Theatre) เป็นครั้งแรกในไทย

 

รวมทั้งมีกิจกรรมอีกมากมาย เช่น การถ่ายภาพเช็กอินฉากภาพยนตร์ชื่อดัง การออกบูธอาหารท้องถิ่น พร้อมเพลิดเพลินไปกับบทเพลงชิลล์ ๆ ริมทะเลสาบจากศิลปินยอดนิยม ได้แก่ พลอยชมพู มิว ศุภศิษฎ์ Dept นุนิว ชวรินทร์ เป้ อารักษ์ และวงโลโมโซนิก

 

นายอภิชัยกล่าวว่า การจัดงานเทศกาลภาพยนตร์ครั้งนี้ จะเพิ่มเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้แก่บุคลากรภายในอุตสาหกรรมฯ รวมทั้งเป็นก้าวสำคัญสะท้อนถึงความร่วมมือบูรณาการของ 2 อุตสาหกรรม คือท่องเที่ยวกับภาพยนตร์ รวมพลังส่งเสริมซอฟท์เพาเวอร์ ของไทยสู่สากล ยกระดับมาตรฐานสินค้า และเป็นเครื่องมือพัฒนาระบบเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดเชิงบวกด้านวัฒนธรรม (Cultural Effect) ให้ประเทศได้ด้วย

 

ข่าวที่สอง -งานปัง!เลเจนด์สยามพัทยา-มาริโอ้เปิดเรือนหมอยา3ไฮไลต์

 

เลเจนด์สยาม พัทยา รายงานว่า ในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวแมนเมดชั้นนำเมืองพัทยา ร่วมกับ “มาริโอ เมาเร่อ” จัดกิจกรรมไฮไลต์แรก  เปิดเรือนหมอยา ตามหาหมอทองโอ้  ที่ดีต่อใจ ดีต่อสุขภาพ ให้แฟนคลับร่วมสนุกกันให้หายคิดถึง  นำทีมโดย มาริโอ้ เมาเร่อ จับมือ น้องธาม นรภัทร นาคะดำรงชัย  ผู้เข้าร่วมงานจะได้สนุกกับกิจกรรมมากมาย  ทำให้ทุกคนสุขกาย สบายใจ แถมสุขภาพดี ควบคู่กับจะเปิดให้ร่วมพิธีเบิกเนตร ปู่ชีวกโกมารภัจจ์ บรมครูแพทย์แผนไทย เพื่อคุ้มครองให้สุขภาพดี  และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใน เลเจนด์สยาม ทั้งท้าวเวสสุวรรณ พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ พระพรหม และเจ้าย่านาคิณีศรีปทุมมา เพื่อเป็น  ศิริมงคล เสริมสุขภาพ ความสำเร็จ หน้าที่การงานการเงิน โชคลาภ  

 

ไฮไลต์ที่ 2 ภายในงานจะมีบริการปรึกษาปัญหาสุขภาพต่าง ๆ กับแพทย์แผนไทยฟรีจากโรงพยาบาลพานาซี และชมหัตถการย่ำขาง ภูมิปัญญาไทยสุดอัศจรรย์

ไฮไลต์ที่ 3 ห้ามพลาดกิจกรรม “นุ่งโจง ห่มสไบ ตามหาหมอทองโอ้”  เพื่อลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษ มูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท จากหมอทองโอ้  กิจกรรมให้มาร่วมสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ที่ดี ๆ  

หมอทองโอ้ “มาริโอ้ เมาเร่อ เชิญชวนมาร่วมกิจกรรม พร้อมทำบุญไปด้วยกัน ที่ เลเจนด์ สยาม พัทยา ระหว่าง 3 - 5 มิถุนายน 2566 ขายบัตร คนละ 690-4,990 บาท เพื่อนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายเรียบร้อยแล้วไปมอบให้ “มูลนิธิจิตเมตตา เพื่อผู้ยากไร้” เปิดให้จองบัตรร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันนี้2  มิถุนายน 2566ราคาดี เซฟที่สุด ต้อง SafeT Travel Thailand เตรียมตัวซื้อบัตรแล้วเข้าร่วมสนุกแถมได้บุญด้วยกับ 2 กิจกรรม ดังนี้

กิจกรรมแรก บัตร แชะ แอนด์ แชร์ ราคาเพียงวันละ 690 บาท ทำกิจกรรมวันที่ 34 หรือ 5 มิถุนายน จำกัดเพียงวันละ 250 คน แล้วร่วมแต่งชุดไทยสุดปังตามหาหมอทองโอ้ที่ซ่อนอยู่ทั่ว เลเจนด์ สยาม ในเวลา 2 ชั่วโมง พร้อมรับฟรี ตรวจธาตุเจ้าเรือน วิเคราะห์สุขภาพ

- สำหรับผู้ที่ตามหาหมอทองโอ้ได้มากที่สุด ลุ้นเซลฟี่แบบใกล้ชิดกับมาริโอ้ เมาเร่อ และ ของรางวัลมากมายมูลค่า กว่า 300,000 บาท

กิจกรรมที่ 2 บัตรร่วม Workshop กับมาริโอ้ เมาเร่อ แบบ Exclusive !ราคาเพียง 4,990 บาท ในวันที่ 5 มิถุนายน จำกัดเพียง 90 คนเท่านั้น ร่วมแต่งชุดไทยนุ่งโจงห่มสไบ ทำกิจกรรมตามฐาน  เรียนรู้ศาสตร์แพทย์แผนไทยพร้อมทดลองทำลูกประคบ พร้อมกับมี Cover เป็นหมอไทยเรียนรู้และฝึกทำหัตถการไทย สุดตื่นเต้น สุมยา ย่ำขาง  และทำหัตถการไทยกับหมอทองโอ้ (มาริโอ เมาเร่อ) ปรุงยากันแบบใกล้ชิด จากนั้นรับประทานอาหารได้ที่ธาตุเจ้าเรือน แล้วสามารถถ่ายรูปและร่วมสนุกกับมาริโอ้ เมาเร่อ ตัวจริงเสียงจริง จากละครสุดฮิตแห่งปี

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai