สุวรรณภูมิรับมือวันหยุดยาว-ผู้โดยสารทะลักสนามบิน2ล้านคน-สกลนครเส้นทางทัวร์บุญ

สุวรรณภูมิเปิดแผนรับมือหยุดยาว12วัน

คลื่นมหาชนแห่ใช้สนามบิน2.1ล้านคน

เส้นทางทัวร์บุญหน้าหนาวในสกลนคร

 สวัสดีเช้าวันเสาร์ที่ 2559  เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย” FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” กับสัมภาษณ์เจาะลึกก่อนใครในแวดวงการบิน ท่องเที่ยว และข่าวเศรษฐกิจที่น่าสนใจ

ช่วงแรกเวลา 11.15 น.

ศิโรตม์ ดวงรัตน์
ผอ.ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ บมจ.ท่าอากาศยานไทย

 

“คุณศิโรตม์ ดวงรัตน์” ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” ให้สัมภาษณ์พิเศษในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ถึงแผนเตรียมความพร้อมรับมือคลื่นมหาชนในช่วงการเดินทางวันหยุดต่อเนื่อง 12 วัน จากเทศกาลคริสต์มาส 24 ธันวาคม 2559 จนถึงช่วง ปีใหม่ วันที่ 4 มกราคม 2560

เริ่มตั้งแต่เทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ อยู่ในช่วงวันที่ 24 ธันวาคม 2559 – 4 มกราคม 2560 รวม 12 วัน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคาดว่าจะมีผู้โดยสารในภาพรวมทั้งสิ้น 2.1 ล้านคน (เฉลี่ยวันละ 178,524 คน) แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 1.7 ล้านคน คิดเป็น 80 % และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 390,000 คน คิดเป็น 20 %   และในส่วนของเที่ยวบินคาดจะมีรวมทั้งสิ้นประมาณ 11,907 เที่ยว หรือเฉลี่ยวันละ 992 เที่ยว

            ตามข้อมูลเบื้องต้นที่สรุป ณ วันที่ 7 ธันวาคม 2559 จะมีสายการบินบริการแบบประจำและเช่าเหมาลำ (charter flight) 13 สายการบิน ซึ่งขอเพิ่มเที่ยวบินพิเศษ (Extra Flight) ประมาณ 234 เที่ยว แบ่งเป็นเที่ยวบินภายในประเทศ 136 เที่ยว และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 98 เที่ยว จะทำให้มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มในช่วงเวลาดังกล่าวอีกกว่า 30,000 คน หรือเฉลี่ยเพิ่มวันละ 2,500 คน

ประกอบด้วยสายการบินที่ขอเพิ่มเที่ยวบินมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ สายการบิน Bangkok Airways จำนวน 132 เที่ยว Royal Flight 20 เที่ยว และ Asia Atlantic Airlines Co. Ltd. 18 เที่ยว

ในการเตรียมความพร้อมรองรับผู้โดยสารผ่านเข้าออก “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ในด้านต่างๆ เริ่มตั้งแต่ผู้โดยสารขาออกจนถึงขาเข้ามี 5 เรื่องดังนี้

 เรื่องที่ 1 การให้บริการที่จอดรถ ทสภ.

มีพื้นที่จอดรถรองรับผู้ใช้บริการได้มากถึงกว่า 8,000 คัน ได้แก่ พื้นที่บริเวณอาคารและลานจอดรถยนต์ 1-4 สามารถรองรับรถยนต์ได้ประมาณ 5,500 คัน พื้นที่จอดรถสำรองบริเวณด้านข้างโรงแรมโนโวเทล รองรับได้ประมาณ 450 คัน และลานจอดรถยนต์ระยะยาว (Long Term Parking) บริเวณโซน A, C และ D ที่อยู่ใกล้กับศูนย์การขนส่งสาธารณะ(Bus Terminal) สามารถจอดรถยนต์ได้ประมาณ 2,154 คัน

นอกจากนี้ ทสภ. ยังได้อำนวยความสะดวกโดยจัดรถ Shuttle Bus สายพิเศษ จำนวน 2 คัน เพื่อให้บริการรับ - ส่งผู้โดยสารระหว่างบริเวณลานจอดรถยนต์ระยะยาวโซน C กับอาคารผู้โดยสารทุกๆ 15 นาที ซึ่งจุดจอดรถ Shuttle Bus จะอยู่ที่อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 5 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

            เรื่องที่ 2 ความพร้อมในอาคารผู้โดยสาร

            ทสภ. จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกการให้บริการผู้โดยสาร ทสภ. หรือ Airport Operation Center : AOPCเพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานงานทั้งด้านการรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆแก่ผู้โดยสารที่มาใช้บริการในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ โดยภายในศูนย์จะมีเจ้าหน้าที่ ทสภ. ประจำตลอด 24 ชั่วโมง หมายเลขโทรศัพท์ 0 2132 9950 ซึ่งหากพบอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกขัดข้องจะแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการแก้ไขให้กลับมาใช้งานได้เป็นปกติโดยเร็ว

เรื่องที่ 3 ตรงจุดเช็คอินและตรวจคนออก-เข้าเมือง

             ทสภ. ได้ประสานไปยังกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ให้จัดเจ้าหน้าที่ประจำเคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมืองให้เพียงพอกับปริมาณผู้โดยสารในแต่ละช่วงเวลา พร้อมทั้งจัดให้มีพนักงานคอยอำนวยความสะดวกและ ตรวจเอกสารก่อนเข้าจุดตรวจหนังสือเดินทาง รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารสัญชาติไทยในการ ใช้เครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Auto Channel) เพื่อให้เกิดความรวดเร็วยิ่งขึ้น

            โดยได้ติดตั้งเครื่อง Information Kiosk เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสาร โดยสามารถแสดงผลข้อมูลต่างๆ เช่น ตารางแสดงเที่ยวบิน แผนผังภายในอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบินพร้อมระบบนำทาง (Navigator) ที่ผู้โดยสารสามารถนำบัตรขึ้นเครื่องบิน (Boarding Pass) มาสแกนแล้วเครื่องจะแสดงระยะทางและระยะเวลาเดินถึงทางออกขึ้นเครื่องได้

            สำหรับบริการในส่วนของ “ผู้โดยสารขาออก” จะมีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์คอยให้คำแนะนำผู้โดยสารในการใช้เครื่องเช็คอินอัตโนมัติ หรือ Common Use Self Service: CUSS ซึ่งรองรับผู้โดยสารของสายการบินจำนวน 15 สายการบิน ได้แก่

1. สายการบิน KLM Royal Dutch Airlines 2. สายการบิน Austrian Airlines 3. สายการบิน Aeroflot Russian Airlines 4. สายการบิน Egyptair 5. สายการบิน Airfrance 6. สายการบิน Delta Airlines 7. สายการบิน El Al Israel Airlines 8. สายการบิน British Airways

9. สายการบิน Cathay Pacific Airways 10. สายการบิน Bangkok Airways 11. สายการบิน Turkish Airlines 12. สายการบิน Philippine Airlines 13. สายการบิน Lufthansa Airlines 14. สายการบิน Eva Airways และ 15. สายการบิน Thai Airways  เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วโดยไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวใช้บริการที่เคาน์เตอร์เช็คอิน

รวมทั้งได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ล่ามแปลภาษา 7 ภาษา มีการอำนวยความสะดวกผู้โดยสารชาวจีน อาทิเช่น การเพิ่มภาษาจีนบนป้ายบอกทางด้วย

เรื่องที่ 4 บริเวณสายพานรับกระเป๋า และอื่นๆ

 การจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ให้พร้อมในการให้บริการ อาทิ ระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า ระบบลิฟท์ บันไดเลื่อน รถเข็นกระเป๋า โดยให้เจ้าหน้าที่มาคอยดูแล เพื่อให้อุปกรณ์ต่างๆ สามารถทำงานได้ เต็มประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดเหตุฉุกเฉิน อุปกรณ์ต่างๆ ขัดข้อง เจ้าหน้าที่ต้องเข้าดำเนินการซ่อมแซมแก้ไขได้ทันที

เรื่องที่ 5 พื้นที่บริเวณให้รถบริการรถแท็กซี่

 - การบริหารจัดการระบบจัดคิวรถแท็กซี่ให้เพียงพอต่อความต้องการ

 - มีการเพิ่มช่องจอดรถแท็กซี่จากเดิม 50 ช่องจอด เป็น 64 ช่องจอด

- มีการเพิ่มการบริการแท็กซี่ระยะสั้นให้บริการไม่เกิน 10 กม. เพื่อป้องกันปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสารที่เดินทางระยะใกล้ๆ สนามบิน

            “ผอ.ศิโรตม์”ฝากข้อแนะนำให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมา ทสภ.ให้เร็วกว่าปกติ โดยหากเดินทางระหว่างประเทศให้เผื่อเวลาล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ก่อนเวลาเครื่องบินออก และการเดินทางด้วยเที่ยวบินภายในประเทศ มาก่อนเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ทั้งนี้หากมาก่อนเวลาล่วงหน้านานกว่านี้แนะนำให้เดินไปชมพิพิธภัณฑ์สุวรรณภูมิ ซึ่งอยู่ตรงบริเวณใกล้เคียงตรงประตู 8 ของสนามบิน

หากผู้โดยสารต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทาง สามารถติดต่อได้ที่ AOT Contact Center โทร 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง

ฟังข่าวช่วงต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “ช้อปช่วยชาติที่คิงเพาเวอร์ลดสนั่น90%”

คิง เพาเวอร์ ชวนพบกับที่สุดของโปรโมชั่นส่งท้ายปีแห่งการช้อปช่วยชาติกับแคมเปญใหญ่ประจำปี “LET’S SALE UP TO 90%” ครั้งแรกในรอบ 27 ปี ตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 มกราคม 2560  ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ชั้น 3 พร้อมรับส่วนลด On-Top 20% เมื่อซื้อสินค้าครบ 3 ชิ้น หรือส่วนลด On-Top 30% เมื่อซื้อสินค้าครบ 5 ชิ้น

สำหรับที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต จัดเต็ม •End of Season Sale แบรนด์เนมลดสูงสุดถึง 60%  สินค้าราคาปกติ ลดสูงสุดถึง 20% ดูรายละเอียดได้ที่ www.kingpower.com

 ข่าวที่ 2 “จีนเที่ยวไทยเริ่มดีหลัง3รองนายกจับเข่าคุย”

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ทุกภาคส่วนได้ร่วมมือกันฟื้นฟูสถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งลดลงต่อเนื่องจากที่ประเทศไทยมีมาตรการปราบปรามทัวร์จีน 0 เหรียญ อย่างเข้มข้นมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2559 จนถึงขณะนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้นำคณะพร้อมด้วยฝ่ายบริหาร ททท.เดินทางไปพูดคุยกับตัวแทนรัฐบาลจีน รวม 3 ครั้ง เริ่มต้นจาก ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ  ไป ปักกิ่ง เฉินตู พลเอกธนะศักดิ์ ปฎิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีกำกับดูแลการท่องเที่ยว ไปเหอหนาน 

ล่าสุด พลเอกประวิทย์ วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง นำทีมไปเหอหนาน เจรจากับตัวแทนรัฐบาลจีน 3 เรื่อง โดยมีการพูดคุยกันเรื่องความร่วมมือทางด้านการท่องเที่ยว เป็นประเด็นแรกในการแก้ปัญหาทัวร์จีน  0 เหรียญ ซึ่งทางรัฐบาลจีนยืนยันว่าให้ไทยเดินหน้าการท่องเที่ยวตามกฎหมายไทย ซึ่งทางจีนพร้อมจะสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อก้าวให้พ้นจากการติดกับดักทัวร์ราคาถูกผ่านไปสู่ทัวร์คุณภาพให้ได้ และทางรัฐบาลจีนต้องการให้ไทยเปิดสำนักงาน ททท.ในมณฑลเหอหนานเพิ่มอีกแห่ง หลังจากปัจจุบันมีอยู่แล้วถึง 5 แห่ง

และในวันที่ 20-21 ธันวาคม 2559  พลเอกธนะศักดิ์ ปฎิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี จะนำทีมเดินทางพร้อมกับผู้บริหาร ททท.ไปยังมณฑลกวางโจว เพื่อพูดคุยถึงแนวทางการแก้ปัญหาทัวร์จีน 0 เหรียญ อีกครั้ง

โดยภาพรวมขณะนี้ราคาแพกเกจทัวร์ที่ขายกันอยู่ในจีนเพื่อมาท่องเที่ยวเมืองไทยปรับตัวดีขึ้น เฉลี่ยอยู่ที่ 400-600 หยวนขึ้นไป

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา ยังมีสายการบิน Spring Airlines จากจีนจัดทำเที่ยวบินเช่าเหมาลำนักท่องเที่ยวเข้ามาไทยเที่ยวละ 157 คน

ข่าวที่ 3 “สนามบินภูเก็ตปรับใหญ่ระบบโหลดกระเป๋า”

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)  “ทอท.” รายงานว่า ทางท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต   ได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนมาตรการการรักษาความปลอดภัยสัมภาระลงทะเบียน (Hold Baggage) ณ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เป็นแบบ Terminal screening เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสาร ผู้ประกอบการ และผู้ที่ไปใช้บริการ  เริ่มใช้ระบบดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2559 เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป

โดยสนามบินนานาชาติภูเก็ตได้ดำเนินการติดตั้งเครื่อง Conventional X-Ray และเครื่อง Walk Through Metal Detector (WTMD) เพิ่มเติม และปรับเปลี่ยนเส้นทางการเข้า – ออก อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ โดยกำหนดจุดติดตั้งเครื่อง X-Ray ไว้ดังต่อไปนี้

1. บริเวณชั้น 3 ประตูหมายเลข 1 (ทิศใต้) จำนวน 2 เครื่อง ประตูหมายเลข 2 จำนวน 1 เครื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการ และประตูหมายเลข 3 (ทิศเหนือ) จำนวน 2 เครื่อง โดยติดตั้งบริเวณก่อนประตูทางเข้า ขาออกอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทภก.

2. บริเวณชั้น 1 ประตูหมายเลข 2 (ทิศใต้) จำนวน 1 เครื่อง และประตูหมายเลข 5 (ทิศเหนือ) จำนวน 1 เครื่อง โดยติดตั้งบริเวณก่อนประตูทางเข้า ขาเข้าอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทภก.

3. ปรับเส้นทางของทางเชื่อมระหว่างทางเข้าอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทภก. ชั้น 2 และอาคารจอดรถยนตร์ 5 ชั้น ให้เป็นประตูทางออกจากอาคารผู้โดยสาร

ข่าวที่ 4 “ของขวัญจากบางจากลดค่าที่พักเขาใหญ่”

บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)  มอบของขวัญให้สมาชิกบางจากแก๊สโซฮอล์คลับ หรือ ดีเซลคลับ รับสิทธิ์ ท่องเที่ยวและพักผ่อนช่วงวันหยุดปลายปี วันนี้ – 31ธันวาคม 2559 ในราคาประหยัดกว่าได้ที่ “โรงแรม Khaoyai Panorama Resort”   พร้อมลดค่าห้องพัก รวมอาหารเช้า 2 – 4 ท่าน (ตามประเภทห้อง)  ฟรีมินิบาร์ทุกอย่างในห้องพัก ฟรี สระออนเซ็น ราคาดังกล่าวรวม Service Charge และภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว (ยกเว้นมีจำนวนคนเกินกว่าที่กำหนด)

ส่วนร้านอาหารและเครื่องดื่ม มุมจำหน่ายสินค้าที่ @ Khaoyai Panorama Farm ลด 5 %   

โรงแรมเขาใหญ่พาโนรามารีสอร์ท ตั้งอยู่ที่ 297 หมู่ 6 ถ.ธนะรัชต์ ตั้งอยู่ที่ กม.10.5 ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งบ้านทุกหลังล้วนเป็นชื่อเห็ด ที่พักสามารถมองเห็นวิวของเขาใหญ่ในแบบ 360 องศา รวมทั้งมีสินค้าแปรรูป หลากหลายชนิด อาทิ น้ำเห็ดเจ็ดอย่าง ถั่วลิสงอบกรอบเคลือบเห็ด ไอศกรีมเห็ด หลินจืออบแห้ง  ผงเห็ดโป๊ยเซียน ไส้อั่วเห็ด แหนมเห็ด ฯลฯ เข้าสู่ช่องทางการจัดจำหน่ายทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคที่ห่วงใย สุขภาพได้เลือกซื้ออย่างสะดวก สด ใหม่ อยู่เสมอ

เข้าไปดูเพิ่มที่ www.khaoyaipanoramafarm.com

Facebook : http://www.facebook.com/KhaoyaiPanoramaFarm

โทร : Resort 044-756-321,Farm 044-756-234

 ข่าวที่ 5 “ชีลกับวินเทจที่อีทไซต์สตอรี่ท่าเตียน”

มนต์เสน่ห์ของ “ท่าเตียน” เมืองเก่าที่อยู่ติดพระบรมมหาราชวัง ทางสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มีแผนจะพัฒนาให้มีความสะดวกถูกสุขอนามัยมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันนักท่องเที่ยวนิยมเลือกไปนั่งชมวิวตามร้านอาหารสไตล์ชิค ชิค อย่าง “Eat Sight Story” ก็เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารริมน้ำติดกับโรงแรม Sala Arun อยู่ติดกับถนนมหาราช ท่าเตียน   เปิดทุกวัน 10:00-23:00 น. พื้นที่นี้ในอดีตเคยเป็นท่าเรือแดงมาก่อน ปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมานั่งชมวิว  “วัดอรุณราชวรารามวรวิหาร”

ภายในร้านมีกลิ่นอายสไตล์วินเทจ ตกแต่งด้วยประตูเหล็กและไม้เก่าหลายบานประกอบกันเป็นกำแพง บรรยากาศก็เน้นความเป็นกันเอง แถมราคาอาหารแต่ละเมนูก็สบายกระเป๋า  รสชาติอาหารจัดได้ว่าถูกปากรสกลางไม่ร้อนแรงมากนัก อย่าง “เมนูกระเพรา”  เนื้อกระเพรากรอบ 230 บาท พิซซากระเพราหมู 190 บาท) หรือเมนูฮ็อตฮิต ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ (280 บาท) จะสั่งเบียร์มาจิบชิลๆ หรือค็อกเทล (เริ่มต้น 149 บาท)  โทร.สอบถามได้ที่ 02-622-2163

ข่าวที่  6 “3โปรแรงบินเที่ยวส่งท้ายปีเริ่มที่490บาท”

3 โปรโมชั่นสุดแรงระหว่างวันนี้-18 ธ.ค.59 ของสายการบิน “ไทย แอร์เอเชีย“

โปรโมชั่นแรก “อีสานแลนด์” จองเป็นรู่ เส้นทางบินอีสาน   ลดทันที 20 % ซื้อแล้วบินเลยหรือนำไปใช้ได้จนถึง25 พ.ค.2560

โปรโมชั่นสอง “โปรแรง  2 ต่อ” บินจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) ไปอุบลราชธานี หรือ ภูเก็ต เริ่มต้นด้วยราคา 490 บาท ย่างกุ้ง หรือฮานอย เริ่มต้นที่ 990 บาท ซื้อแล้วบินเลยเช่นกัน หรือนำไปใช้ได้จนถึง 30 เมษายน 2560 ถ้าจ่ายผ่านบัตร Rabbit Line Pay รับฟรีอีก 50 พอยต์

โปรโมชั่นที่ 3 “เที่ยวบินมากสุดไปเชียงใหม่” กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เริ่มต้นที่ 690 บาท  มีเที่ยวบินให้เลือกมากที่สุดถึงวันละ 13 เที่ยว ซื้อเก็บไว้ใช้เดินทาง 23 ธ.ค.2559-25 พ.ค.2560

ดูรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ www.airasia.com

 ช่วงที่ 2 เวลา 11.45 น.ออกไปบินท้าลมหนาวกันที่แดนธรรมะ “สกลนคร” ควบคู่กับการเลือกบริโภคอาหาร 7 อย่างสร้างเสริมสมองใส และรับฟังข่าวทั่วไทย

@เส้นทางทัวร์บุญหน้าหนาวในสกลนคร

อากาศหนาวแผ่กระจายไปทั่วโดยเฉพาะ “ภาคอีสาน” ก็เป็นหนึ่งในพื้นที่อากาศเย็นสบายในช่วงเดือนธันวาคมปีนี้ ครั้งนี้จะชวนไปเที่ยว “จังหวัดสกลนคร”         

 

จุดเริ่มต้นการเดินทางจาก “อำเภอเมืองสกลนคร” เส้นทางทัวร์สายธรรมมะ แห่งแรก ได้แก่ “พระธาตุเชิงชุม” ตามเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่าเป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ ได้มาประชุมรอยพระบาทไว้ ให้เป็นที่สักการะบูชาแก่เหล่าเทวดาและมนุษย์ ครั้งนั้นพระเจ้าสุวรรณภิงคาระ บังเกิดความปิติโสมมนัสจึงถอดมงกุฎของพระองค์สวมบูชารอยพระพุทธบาท แล้วสร้างเจดีย์ครอบไว้ จึงได้ชื่อว่า “พระธาตุเชิงชุม” ตามพงศาวดารลาว สมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งกรุงศรีสัตนาคนหุต ล้านช้าง เรียกพระธาตุเชิงชุมว่า “พระธาตุหนองหาน”

 

สถานที่ตั้ง “พระธาตุเชิงชุม” ปัจจุบันอยู่ริมหนองหาน อ.เมือง จ.สกลนคร

 

 

 

เป็นสถานที่ประดิษฐานองค์พระศักดิ์สิทธิ์ “หลวงพ่อพระองค์แสน” ปางมารวิชัย พระคู่บ้านคู่เมืองสกลนคร รวมทั้งมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ในอดีตเคยผุดขึ้นที่นี่เรียก “ภูน้ำซอด” หรือ “ภูน้ำลอด” ไหลผ่านไปยังสระพังทอง ในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ใกล้ ๆ วัด ตามความศรัทธาเลื่อมใสหากเปล่งวาจาสาธุจะได้

 

 

 

แห่งที่สอง “วัดป่าสุทธาวาส” 

 วัดที่ หลวงปู่เสาร์ กันตสีลเถระ กับ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต  บูรพาจารย์แห่งแดนอีสาน สร้างขึ้น ตั้งอยู่ในตำบลเชิงชุม อำเภอเมือง ห้อมล้อมด้วยป่าธรรมชาติ มีพิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น จันสารเจดีย์ยานุสรณ์ หลวงปู่หลุย จันทสาดร โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระราชกระแสว่า ควรสร้างเจดีย์ไว้ที่วัดป่าสุทธาวาส ด้วยเพราะมีอัฐิของหลวงปู่มั่น ท่านจะได้อยู่ใกล้กัน” และยังทรงโปรดเกล้าฯ ร่างแบบเจดีย์องค์นี้ด้วยพระองค์เอง

 

 

ขณะเดียวกันสกลนครยังเป็นต้นกำเนิดเนื้อตำรับชื่อดัง “โพนยางคำ”

 

ดำเนินการโดย สหกรณ์โพนยางคำ เป็นศูนย์วิจัยและดูแลการสร้างเครือข่ายชุมชนถ่ายทอดการสอนเทคนิคเลี้ยงวัวพันธุ์เนื้อให้ชาวบ้านทำเป็นอาชีพเสริม ปัจจุบันมีกว่า 10,000 ตัว มีเกณฑ์มาตรฐานการเลี้ยงตามหลักสากลทำให้เนื้อที่ได้สามารถนำไปผลิตเป็นอาหารรสชาติดี อีกทั้งเกษตรกรผู้เลี้ยงยังมีรายได้จากการขายวัวตัวละไม่ต่ำกว่า 40,000-50,000 บาท แต่ละบ้านจะเลี้ยงประมาณ 4-5 ตัวต่อครอบครัวเท่านั้น ทำควบคู่กับอาชีพเกษตรกรรม ปลูกข้าว พืชผัก ตามแบบเกษตรอินทรีย์มาอย่างยาวนาน ทำให้ชีวิตมีความสุขดำรงอยู่อย่างพอเพียง

 

ส่วนสถานที่น่าท่องเที่ยวแห่งใหม่ ๆ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของคนรุ่นใหม่ภายใต้ชื่อ “สะ-กะ-ละ”  ศูนย์รวมความคิดผลิตภัณฑ์พื้นถิ่นเชิงสร้างสรรของคนรุ่นใหม่ นำวัตถุดิบในชุมชนมาพัฒนาดีไซน์ให้กลายเป็น “แบรนด์ชุมชน” ที่มีคุณค่าสูง เต็มไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรม ผสมผสานเข้ากับวิถีความเป็นอยู่ ซึ่งนำมาประกอบเข้าด้วยกันเป็น ผลิตภัณฑ์ “สินค้าย้อมคราม” แฟชั่น ของใช้ “ประติมากรรมธรรมชาติ” ภาพพิมพ์และอื่น ๆ “สมุดทำมือ” จากครามและกาบกล้วยย้อมสีธรรมชาติ “เครื่องดื่มจากพืชท้องถิ่นตามฤดูกาล” กาแฟ deep coffee ชงมืออุปกรณ์ต่าง ๆ “เครื่องดื่มสุขภาพ” ทั้งแบบ น้ำผักผลไม้อินทรีย์ตามฤดูกาลบรรจุขวด และน้ำสมุนไพรปั่นสไตล์สมูตี้สูตรดูแลสุขภาพกว่า 30 เมนู รวมถึง “กิจกรรมภาพถ่าย” สไตล์พื้นบ้าน

 

ศิลปินพื้นบ้านงานหัตถศิลป์ “สะ-กะ-ละ” เตรียมจะนำผลผลิตชิ้นงานทั้งหมดรวมตัวกันไปเปิดเป็นมหกรรม “สกล เฮ็ด เฟสติวัล” ระหว่างวันที่ 23-25 ธันวาคม 2559 ในงานแห่ดาวเลื่องชื่อของเมืองไทย ณ บริเวณถนนคนเดิน รอบโบสถ์มิคาเอล บ้านท่าแร่ ในโอกาสเฉลิมฉลองคริสต์มาสงานแห่ดาว ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและนานาชาติเข้าไปร่วมอย่างคับคั่ง

 

 

ในช่วงเทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส อ.ท่าแร่ “พลเอกธนะศักดิ์ ปฎิมาประกร” รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลการท่องเที่ยว จะเดินทางไปร่วมเป็นประธานเปิดงาน และเยี่ยมชมหมู่บ้านแห่ดาวไปพร้อม ๆ กัน ในช่วงวันที่ 23-24 ธันวาคม 2559 ซึ่งชาวท่าแร่ซึ่งมีอยู่ประมาณ 18 ชุมชน จะได้จัดกิจกรรมแห่ดาว โดยการตกแต่งประดับประดาเป็นขบวนรถแห่ดาวไม่ต่ำกว่า 40 คัน พร้อมทั้งจัดการประกวดความสวยงามไปด้วย ส่วนตามหมู่บ้านคริสต์ทั้งตำบลจะประดับไฟในดวงดาวแล้วเปิดอย่างระยิบระยับ ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความงามและร่วมเฉลิมฉลองไปพร้อม ๆ กัน

 

ไฮไลต์ที่ต้องห้ามพลาด เมื่อไปถึง “สกลนคร” นั่นคือ ไปชม “หมู่บ้านทำผ้าย้อมคราม” เป็นหนึ่งเดียวของเมืองไทยในการนำผ้าฝ้ายมาย้อมด้วยสีจากต้นครามกลายเป็นอุตสาหกรรมชุมชนสร้างสินค้าท้องถิ่นโด่งดังไปทั่วประเทศ ขณะนี้ ททท.ภูมิภาคภาคอีสาน จะจุดประกายให้กลายเป็นโอท็อปสากล สไตล์สินค้าแฟชั่น แข่งขันกับผ้าของทุกท้องถิ่นได้ในตลาดอินเตอร์ต่อไป

 

 @เลือกกินอาหาร7ชนิดเพิ่มสมองใส

สำนักงานส่งเสริมสุขภาพหรือ สสส.นำข้อมูลเกี่ยวกับวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้โดยเลือกรับประทานอาหาร7 อย่าง ดังนี้

1. ไข่ เป็นอาหารเบสิกที่ช่วยพัฒนาสมองได้ดี เพราะไข่มีสารโคลินที่ช่วยพัฒนาสมองส่วนความจำ มีงานวิจัยมากมายที่กล่าวตรงกันว่าเด็กทารกที่รับประทานไข่ไก่ที่เพียงพอจะมีความสามารถในด้านความจำที่ดีกว่าเด็กทารกที่รับประทานไข่ไก่น้อย นอกจากนี้ ผู้ใหญ่ที่รับประทานไข่ต้มวันละฟองจะช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกายและช่วยบำรุงสมองได้ดี

2. อาหารเช้า งานวิจัยพบว่าการรับประทานอาหารเช้าจะช่วยให้สมองมีความจำและมีสมาธิที่ดี ผลงานวิจัยกล่าวตรงกันว่านักเรียนที่รับประทานอาหารเช้าจะมีสมาธิในการเรียนดีกว่านักเรียนที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้า อีกทั้งยิ่งถ้ารับประทานอาหารที่มีแคลอรีสูงเช่น นมสด ไข่ ด้วยแล้วก็จะยิ่งช่วยให้สมองดีมีสมาธิมากขึ้น

3. ปลา เป็นอาหารบำรุงสมองที่ดีอันดับต้นๆ เลยทีเดียว เพราะปลามีโอเมก้าสาม และมีไขมันดีที่จะช่วยเพิ่มสมาธิและความจำของสมอง อีกทั้งช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดในสมองในผู้สูงวัยอีกด้วย

4. ถั่ว อาหารจำพวกถั่วและเมล็ดพืชต่างๆ นั้น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านของความจำ เพราะอาหารประเภทถั่วมีวิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยชะลอการเสื่อมของสมองในผู้สูงอายุและช่วยเพิ่มสมาธิในการเรียนรู้ของเด็กได้ดีอีกด้วย

5. อาโวคาโด มีไขมันที่ดีต่อร่างกายและช่วยทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดทำงานอย่างดี ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน นอกจากนี้ อาโวคาโดยังมีสารที่ช่วยทำให้สมองส่วนความจำทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

6. กระเทียม ช่วยกระตุ้นให้สมองสร้างเทโรนินมากขึ้น ซึ่งช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ประสาทอีกทั้งช่วยทำให้สมองมีความจำที่ดี นอกจากนี้ กระเทียมยังมีสารที่ทำให้อารมณ์ดีและช่วยลดความเครียดอีกด้วย แม้ว่าจะกลิ่นแรงก็ตาม

7. รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน เกลือแร่ ไขมัน นอกจากจะให้พลังงานแก่ร่างกายและช่วยซ่อมแซมส่วนต่างๆ ที่สึกหรอของร่างกายแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายในการต้านทานโรคต่างๆ ทำให้เราไม่เป็นคนที่เจ็บป่วยง่าย อีกทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง

หากเราต้องการมีสมองที่แข็งแรงไม่เสื่อมเร็ว เราทุกคนก็ต้องให้ความสำคัญต่อการดูแลสมองให้มากขึ้นด้วยการรับประทานอาหารต่างๆ ดังที่ได้กล่าวไปแล้วนั้น รวมทั้งการดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ การออกกำลังกาย การนอนหลับพักผ่อน ก็จะช่วยทำให้เรามีสมองที่ดีได้ไม่ยากเลย

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก“จัดเต็ม5ชั่วโมง ธ สถิตในดวงใจ”18ธ.ค.นี้

วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2559  “มูลนิธิพิพิธภัณฑ์แม่” เชิญชวนร่วมงานปาฐกถา "ธ สถิตย์ในดวงใจ ตราบนิรันดร์ ปลุกพลังจิตวิญญาณ สืบสานพระราชปณิธาน" แบบจัดเต็ม 5 ชั่วโมง   เวลา 13.00-18.00  น.ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (สี่แยกปทุมวัน) สอบถามได้ที่ โทร. 0-2237-0080 ต่อ 114 หรือ 115 หรือ e-mail: motherspiritualmuseum@gmail.com

ทางมูลนิธิพิพิธภัณฑ์แม่จับมือกับตัวแทนศาสนา และบุคคลผู้เคยถวายงานใต้เบื้องพระยุคลบาท ขอเชิญร่วมสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ในการสร้างเสริมจิตวิญญาณแห่งความรัก ความดี และความงาม ให้ปรากฏงอกงามในสังคมไทยสืบไป

ข่าวที่สอง“กรอ.ไมซ์ดึงโลจิสติกส์-ธค.นี้เร่งเสนอนายกฯ”

นายอรรคพล สรสุชาติ ประธานอนุกรรมการประสานงานภาครัฐและเอกชน เพื่อการลดอุปสรรคและพัฒนาขีดความสามารถอุตสาหกรรมไมซ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2559 ได้จัดประชุมความคืบหน้าการเสนอจัดตั้ง คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนไมซ์ (กรอ.) เพื่อพิจารณาและขอมติเพิ่มเติมเรื่องหลัก คือ “องค์ประกอบของคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมไมซ์” ประกอบด้วย 1.เสนอผู้ทรงคุณวุฒิ กรอ.ไมซ์ จำนวน 3 คน และผู้แทนภาคเอกชนด้านโลจิสติกส์ ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทยมีอยู่กว่า 22 สมาคม และ 2.รายงานความคืบหน้าการศึกษาโครงการนำร่อง (Pilot Project) จำนวน 2 งาน ได้แก่  งาน The Grand Metalex 2016 และงานประชุมนักวิชาการอ้อยและน้ำตาลนานาชาติ ครั้งที่ 29

สำหรับการขับเคลื่อนภารกิจของอนุกรรมการฯ ช่วงเดือนธันวาคม 2559  ภายในสัปดาห์ที่ 1 ของเดือนธันวาคมนี้ ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ สสปน. จะจัดทำหนังสือนำเรียนรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) เพื่อพิจารณานำกราบเรียนนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบและลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่......../........เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมไมซ์

ต่อจากนั้นเมื่อ “นายกรัฐมนตรี” พิจารณาให้ความเห็นชอบและลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่......./........เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมไมซ์ 1  เดือนภายหลังจากนายกรัฐมนตรีลงนามในคำสั่ง จะต้องจัดประชุมเรื่องคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมไมซ์ ครั้งที่ 1 โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย) เป็นประธาน

ทั้งนี้เพื่อให้ กรอ.ไมซ์ เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตามสถิติแล้วไมซ์สามารถสร้างประโยชน์ “โดยตรง”  ในการ “เพิ่มรายได้จากกลุ่มตลาดคุณภาพเชิงธุรกิจ” เข้าประเทศได้มากกว่าการท่องเที่ยวทั่วไปได้ไม่ต่ำกว่า 3 เท่า อีกทั้งยังสร้าง “ผลลัพธ์เชิงบวกทางอ้อม” ทั้งการจ้างงาน การจ่ายภาษีเข้ารัฐ และอื่น ๆ

 ข่าวที่สาม “137พิลลาร์สฯอัดโปรรับเปิดตัว15ก.พ.60”

137 พิลลาร์ส สวีทส แอนด์ เรซิเดนเซส สุขุมวิท 39 กรุงเทพ ฯ รายงานว่าในช่วงต้อนรับการเปิดให้บริการ15 กุมภาพันธ์ 2560 จึงจัดโปรโมชั่นราคาห้องพักสุดพิเศษ  ได้แก่ “ห้องเรซิเดนเซส” เริ่มต้นที่ 4,500 บาทต่อห้องต่อคืน ราคานี้รวมอาหารเช้าและ Wi-Fi ฟรี จองตอนนี้รับสิทธิพิเศษเพิ่มอีกมากมาย http://137pillarsbangkok.com/en/offers/

โดยมีบริการส่วนอื่น ๆ  เช่น ลีโอโนเวนสคลับ, แจ็คเบนสบาร์, ร้านอาหารนิมิต ที่ได้รับการตกแต่งอย่างประณีตงดงามให้บริการอาหารไทยในสไตล์โมเลกูลาร์ รวมไปถึงหลากหลายเมนูอาหารตะวันตกปรุงแต่งอย่างพิถีพิถันโดยเชฟปีเตอร์ มาร์กซ์ ผู้อำนวยการกลุ่มฝ่ายการปรุงอาหารจากประเทศสวีเดน และยังมีร้านแบงค็อค เทรดดิ้ง โพสต์ ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 เป็นร้านอาหารประเภทออลเดย์บิสโทรแอนด์เดลี่ ซึ่งจะเป็นร้านอาหารเทรนดี้ใหม่ล่าสุด

สำหรับ 137 พิลลาร์สฯ ประกอบไปด้วยห้องพักที่ได้รับการตกแต่งอย่างประณีต แบ่งเป็น ห้องสวีท 34 ห้อง และ ห้องไพรเวทเรซิเดนเซส 179 ห้อง ตัวอาคารออกแบบโดยสถาปนิกจาก พาลเมอร์ แอนด์ เทอร์เนอร์ กรุงเทพ ฯ ตกแต่งภายในโดย P49 ดีไซน์ และส่วนภูมิทัศน์ได้รับการออกแบบ โดย Wabi Sabi สตูดิโอ การตกแต่งภายในเน้นการเลือกใช้ โทนสีเข้มที่แลดูอบอุ่น ประสานเข้ากับห้องน้ำหินอ่อนสีขาวเทาที่สวยงามหรูหรา บวกกับการเลือกใช้กระจกและแก้วเป็นวัสดุหลักในการตกแต่งในหลายพื้นที่ภายในห้อง

 พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.

ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน

ติดตามฟังรายการออนไลน์สด ๆ โดยเข้าไปที่ www.google.com พิมพ์ สถานวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เลือก FM 97.0 หรือทาง www.facebook.com/rauydauykhao

 

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คอลัมนิสต์การบิน/ท่องเที่ยว และผู้ดำเนินรายการ