เปิดใจ“วิมล
กิจบำรุง”นักธุรกิจไทยในสปป.ลาว
นำ“ท่องเที่ยวพอเพียง”เลี้ยงดูชาวเขา14เผ่า
ขึ้นเหนือเยี่ยมโครงการหลวงตีนจกเชียงใหม่
สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม 2559
เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย” FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ติดตามทุกความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศได้ที่นี่
ช่วงแรกเวลา 11.15 น.
วิมล กิจบำรุง เจ้าของอุทยานบาเจียง สปป.ลาว |
“คุณวิมล กิจบำรุง” เจ้าของอุทยานบาเจียง แขวงจำปาสัก สปป.ลาว ให้สัมภาษณ์พิเศษในรายการ
ว่าเป็นนักธุรกิจคนไทยผู้ทุ่มเทชีวิตมากว่า 20 ปี ตั้งแต่ตอนอายุ 45 ปี
ในการเข้าไปบุกเบิกพัฒนาผืนแผ่นดินกลางหุบเขาโอบล้อมด้วยธรรมชาติร่วมกับชาวเขาในลาวซึ่งตั้งรกรากถิ่นฐานอยู่
14 เผ่า
โดยภาพรวมทางด้านการลงทุน รัฐบาล สปป.ลาวมีกฎหมายดูแลผู้ประกอบการต่างชาติอย่างชัดเจน
มีกฎระเบียบ หากยื่นเสนอขอทำธุรกิจอย่างถูกต้อง
สร้างประโยชน์ต่อสังคมก็มีโอกาสทำได้ไม่ยาก
เพราะขั้นตอนการพิจารณานั้นมีคณะกรรมการพิจารณาเป็นระบบ
หากทำถูกต้องตามกฎหมายก็ลงทุนได้แน่ ที่นี่มีระบบสัมปทานเช่นกัน สิ่งที่ดีคือการใช้ชีวิตอยู่ในบาเจียงแห่งนี้ล้วนสะดวกสบาย
ไม่มีนักเลง ไม่มีเจ้าพ่อเจ้าแม่ ไม่ต้องจ่ายค่าคุ้มครอง
ส่วนอาหารการกินล้วนเป็นพืชผักอุดมสมบูรณ์ คนที่นี่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งน้อยมาก
เมื่อผมเข้ามาพัฒนาธุรกิจ โดยให้ความสำคัญเรื่อง “บุคลากร”
ต้องฝึกและต้องอาศัยความใจเย็น
และขอแนะนำว่าอย่าเปิดโอกาสหรือนำนักการเมืองมาอยู่ในเมืองนี้ไม่เหมาะแน่นอน
เพราะวิถีชีวิตของคนลาวไม่ชอบวิพากษ์วิจารณ์ แต่ชอบนักธุรกิจที่ใจเย็น มีจิตอาสา
มีเมตตา มากกว่าจะอยู่กับพวกเขาได้นาน
น้ำตกผาส่วม ในอุทยานบาเจียง |
ผมทำท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยประกอบธุรกิจร้านอาหาร หมู่บ้านวัฒนธรรมชนเผ่า
พิพิธภัณฑ์ บ้านพัก และน้ำตก 2 แห่ง ชื่อเป็นทางการเต็ม ๆ เรียกว่า
“อุทยานบาเจียง น้ำตกผาส่วม” (ทำร้านอาหารบาเจียง
และได้รับสัมปทานบริหารจัดการน้ำตกผาส้วม (ส่วมในภาษาลาวหมายถึงห้องของ ห้องนอน
ไม่ใช่สุขา) แต่ชาวบ้านเรียกสั้น ๆ ตามที่คนไทยเรียกว่า “ผาส้วม”
สำหรับร้านอาหาร “อุทยานบาเจียง”
เป็นสถานที่หลักของกลุ่มประชุมสัมมนาภาครัฐและเอกชนนิยมเข้ามาใช้บริการสม่ำเสมอ
พนักงานเป็นชนเผ่าชาวเขา 14 เผ่า ทั้งแม่ครัวและพนักงานบริการรวมกันจำนวน 70 ชีวิต
รองรับนักท่องเที่ยวแต่ละวันเคยรับเฉพาะมื้อเที่ยงเคยได้มากถึง 500-600 คน ขนาดเพียง
200-300 คน ถือเป็นงานเล็กสำหรับพวกเรา “เมนูอาหาร”
สไตล์ปลอดสารเคมีเป็นเกษตรอินทรีย์ทั้งหมด สไตล์ “ท้องถิ่น”
อาหารไทยกับลาวใกล้เคียงกันฝรั่งนานาชาติพากันมากินประจำ มีเมนู ลาบ ต้มยำ
หมูทอดสมุนไพร แจ่วน้ำพริกเผาใส่มะเขือเทศ ปลา ยกเว้นอาหารทะเล
และร้านนี้ไม่ขายเครื่องดื่มสุรา
ลูกค้ากลุ่มหลักมาแทบทุกชาติ ที่มีมากสุดคือคนไทย 80 % เพราะคนไทยเดินทางมาจำปาสักตลอดทั้งปี
เนื่องจากผมได้รับสัมปทานจากรัฐบาล สปป.ลาว ดูแลพื้นที่ในอุทยานบาเจียง
แขวงจำปาสัก กว่า 1,000 ไร่ จึงได้จัดเส้นทางการท่องเที่ยวแบบครบวงจร
จากร้านอาหารสามารถเดินไปหมู่บ้านวัฒนธรรม น้ำตกผาส่วม แต่ผมใช้ในเชิงพาณิชย์เพียง
150
ไร่เท่านั้น ในการก่อสร้างร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ ทำหมู่บ้านวัฒนธรรม และทำ“บ้านพัก”
บริการนักท่องเที่ยวเพียง 15 หลัง ราคาห้องพัก 1,000 บาท/ต่อ/คืน
สิ่งที่ทุกคนน่าจะแปลกใจคือทั่วพื้นที่ทั้งอุทยานไม่มียุงเลยทั้งที่ทำเลตั้งอยู่กลางป่า
เขา พนักงานไม่ต้องกางมุ้งนอน เพราะที่นี่ใช้ธรรมชาติจัดการกันเอง โดยปลูกพืชสมุนไพร
ตะไคร้หอม ปล่อยไก่กินยุง กินปลวก ถือว่าเป็นเขตปลอดแมลงและยุง
แตกต่างจากเมื่อครั้งอดีตสมัยปี 2539 ตอนผมเข้ามาแรก ๆ
คนแถบนี้เป็นโรคมาลาเรียเสียชีวิต ปัจจุบันไม่มีแล้ว
แต่บางปีอาจจะมีเป็นไข้เลือดออกเพราะชาวเขาบางคนเข้าไปเก็บพืชผักในป่าลึก ๆ
ชีวิตของนักงานในอุทยานบาเจียงกินอยู่อย่างมีความสุข ยิ้มแย้มแจ่มใสทุกคน
ขณะที่การเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับ สปป.ลาว
ที่ทำได้ในเรื่อง “การท่องเที่ยว” ใน
สปป.ลาวมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติหลากหลายแห่งจำนวนมาก
ส่วนคนลาวก็เริ่มหลั่งไหลไปเมืองไทย ไปเที่ยวทะเล ไปช้อปปิ้ง
ในทางกลับกันคนไทยเองก็มาเที่ยวแขวงจำปาสัก บางคนมาด้วยความถี่ปีละนับ 10 ครั้ง
ขับรถมาเที่ยวกันเป็นครอบครัว หมู่คณะแบบกลุ่มเพื่อนฝูง ความถี่เกิน 5 ครั้ง
มีจำนวนมาก แม่เหล็กดึงดูดคือ “ราคาไม่แพง” ใช้ภาษาคุยกันได้ง่าย ๆ
สะพานข้ามแม่น้ำโขง ในแขวงจำปาสัก สปป.ลาว |
กรณีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) นั้นทาง สปป.ลาว เปิดมาก่อนแล้ว
มีนักลงทุนต่างชาติทยอยเข้ามาเป็นจำนวนมาก
และคนลาวก็มาลงทุนในไทยโดยเป็นหุ้นส่วนกันก็มาก ธุรกิจที่นิยมลงทุนอันดับต้น ๆ ใน
สปป.ลาว คือ การเกษตร ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์มาก ถัดไปเป็นเรื่อง “สุขภาพ”
โมเดลการลงทุนจะไม่ค่อยใหญ่มาก สำหรับ “ธุรกิจบริการ-โรงแรม-อาหาร”
มีช่องทางอีกมาก เพราะ “กำลังซื้อเติบโตเร็ว”
โดยเฉพาะคนลาวที่น่าแปลกใจมากเพราะกล้าใช้เงิน
ตัวอย่างคนลาวไปซื้อสินค้าจากแม็คโคร โลตัส
ที่จังหวัดอุบลราชธานีซื้อของจำนวนมากสร้างความตกใจกับเจ้าของกิจการอยู่เหมือนกัน
ทางด้าน “ค่าจ้างแรงงานใน สปป.ลาว” ยังไม่สูงเท่าประเทศไทย
ตามกฎหมายเดือนละเกือบ 1 ล้านกีบ หรือประมาณ 4,000-5,000 บาทต่อคน
ในบริษัทของผมดูแลพนักงานให้กินอยู่ดีมีความสุขคำนวณค่าใช้จ่ายแล้วแพงกว่าเงินเดือนที่ได้รับด้วยซ้ำ
เพราะลูกน้องหลายคนกินมากกว่า 3 เวลา อารมณ์ดี ยิ้มแย้ม ร้องเพลงเก่ง ทุกคน
ไม่ค่อยมีคดี
เป็นการพัฒนาธุรกิจที่เน้นเรื่อง “ความสุขอย่างพอเพียง”
ที่เกิดขึ้นกับทุกชีวิต เมื่อคนส่วนมากมาอยู่รวมกันแล้วได้ กินดี อยู่ดี ไม่เครียด
“คุณภาพชีวิต” ก็จะดีตามไปด้วย แตกต่างจากเมืองไทยมีความเครียดมาก
การทำธุรกิจด้วยการปฏิบัติจริงสอนชีวิตให้ดำรงตน “อยู่อย่างพอเพียง”
ด้วยการสร้างความสุขให้ชาวเขารอบข้างมากมายถึง 14 เผ่า คือคุณูปการที่คนไทยชื่อ “วิมล กิจบำรุง”
มอบให้กับคนลาวมานานกว่า 2 ทศวรรษนั่นเอง
ข่าวต้นชั่วโมงข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์นำรร.ห่างไกลสักการะพระบรมศพ”
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายอภิเชษฐ์
ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า
ระหว่างวันที่ 28 พ.ย. – 28 ธ.ค. 2559 คิง เพาเวอร์ ร่วมมือกับหม่อมหลวงบวรนวเทพ
เทวกุล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ไทยแอร์เอเชีย จัดกิจกรรม “พาน้องกราบพ่อ
โดย มูลนิธิ คิง เพาเวอร์ และไทยแอร์เอเชีย” นำคณะครูและนักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์
ซึ่งตั้งอยู่ในถิ่นทุรกันดารและขาดแคลนทุนทรัพย์ทั่วประเทศ 3,999 คน
เข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ
พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง สร้างโอกาสให้เยาวชนและครูที่ห่างไกลมีโอกาสร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน
ข่าวที่ 2 อนาคต“ท่าเตียน-ท่าพระจันทร์”10ปีหน้า
สำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ รายงานถึง
แผนพัฒนา “พื้นที่ตลาดท่าเตียน” ในอนาคตจะปรับปรุงโดยยังคงให้เป็นพื้นที่ตลาด
และคงสถาปัตยกรรมโรงตลาดชุดเดิมไว้ แต่จะยกระดับเป็นตลาดให้เหมาะสมกับพื้นที่ โดยออกแบบให้มีฟังชั่นต่างๆ
และปรับปรุงพื้นที่ภายในตลาดใหม่ จัดแผงค้าขาย ตกแต่ง จัดระบบอาคาร
ให้สอดคล้องกับสถาปัตยกรรมเดิมในพื้นที่โดยรอบ โดยแผงเช่าจะออกเป็นห้องขนาด 3 คูณ
2 เมตร ใช้ประกอบการค้าขาย ไม่ให้อยู่อาศัยหรือเก็บสินค้า จำนวน 48-60 แผง และมีส่วนพื้นที่ร้านอาหารเพิ่มเติม ส่วนอาคาร 22
คูหาจะจัดระเบียบรูปแบบอาคารตามแบบใกล้เคียงดั้งเดิม
ตามแผนหลังปี 2561 หลังจากปรับปรุงตลาดท่าเตียนแล้วเสร็จ
ตามแผนต่อเนื่อง 10 ปี จะปรับปรุงกลุ่มอาคารอนุรักษ์ในพื้นที่คือ
กลุ่มอาคารอนุรักษ์ท่าพระจันทร์ โดยจะร่วมหารือกับเจ้าของพื้นที่ คือ วัดมหาธาตุ
และ กทม. เพราะเมื่อประเมิน “เพิ่มมูลค่าด้านการท่องเที่ยว และคุณภาพชีวิต” ของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่
ซึ่งจะได้รับในอนาคตจะให้ผลตอบแทนต่อประเทศในเชิงบวกอีกมากมาย
ข่าวที่ 3 “ร่วมมหกรรมสังคมสุขใจ16-18ธ.ค.นี้”
นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาค ภูมิภาคภาคกลาง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ททท.จับมือกับมูลนิธิสังคมสุขใจ
และภาคีเครือข่ายจัดยิ่งใหญ่ ตามรอยพระบาท..สัมผัสวิถีเกษตรพอเพียงในงาน
"สังคมสุขใจ" ระหว่างวันที่ 16 -
18 ธันวาคม2559 ที่สวนสามพราน จ.นครปฐม ชมฟรีทุกวัน เวลา
09.00 - 17.00 น. วันศุกร์ที่ 16
ธันวาคม เวลา10.30 น.ได้รับเกียรติจาก หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิด
อีกทั้งจะใช้ช่วงเวลา 3 วันนี้ จัดกิจกรรมท้านักท่องเที่ยวจากทุกภูมิภาคให้มาสัมผัสวิถีชีวิตเกษตรพอเพียง
จะได้ชมนิทรรศการท่องเที่ยวตามรอยพระบาท และแนะนำเส้นทางทั่วภาคกลางท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์
เช่น นาบัว@คลองมหาสวัสดิ์ จ.นครปฐม , อุโมงค์ชมพูพันทิพย์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน โดยมีพรีเซนเตอร์ ท้าเที่ยวข้ามภาค “ติ๊ก
เจษฎาภรณ์ ผลดี” มาร่วมแชร์ประสบการณ์และเวิร์คช้อป
ผู้เข้าร่วมชมงานจะได้รับแจกหนังสือคู่มือ 70
เส้นทางตามรอยพระบาทกว่า 20,000 เล่ม ฟังบทเพลงพระราชนิพนธ์จากคุณโก้
มิสเตอร์แซก แมน ร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อป และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย คาดจะมีเงินหมุนเวียนภายในงานกว่า
270 ล้านบาท จากผู้ร่วมงานกว่า 20,000 คน
รูปแบบการจัดงานในปีนี้แบ่งออกเป็น 9 โซนหลัก ในบริเวณงาน ประกอบด้วย
โซน สักการะพระบรมฉายาลักษณ์ :
ร่วมเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมถวายอาลัยและสักการะ
โซน นิทรรศการตามรอยพระบาท :
ททท.จัดนิทรรศการแหล่งท่องเที่ยวตามรอยพระบาท
พร้อมแนะนำแหล่งท่องเที่ยวอีโค่ใกล้เคียงในภูมิภาคภาคกลาง
โซน จุดลงทะเบียน : จุดลงทะเบียนเข้าร่วมงานพร้อมรับหนังสือคู่มือ
70 เส้นทางตามรอยพระบาทจากททท.
โซนเวิร์คช็อป : เปิดบริการคลินิกเกษตรอินทรีย์จอบโจทย์ทุกมิติ ตั้งแต่การเตรียมดิน
คัดเลือกเมล็ดพันธุ์ การปลูก วิธีการดูแล การแปรรูป รวมถึงการทำชีวภัณฑ์ชนิดต่างๆ
เรียน - รู้ –คุณค่า เกษตรอินทรีย์ และยังมีกิจกรรมเสริมความรู้
สาระ บันเทิง อื่นๆ อีกมากมายให้ร่วมสนุก
โซน เวทีกลาง : เปิดเวทีให้คนต้นแบบเกษตรอินทรีย์ที่ประสบความสำเร็จในเปลี่ยนวิถี
จนชีวิตเปลี่ยน มาร่วมแชร์ประสบการณ์ตรง ถ่ายทอดบทเรียน บอกเล่าศรัทธา
ผลความสำเร็จที่ได้ทำ จากนักสร้างแรงบันดาลใจตัวจริง อาทิ คุณโจน จันใด ผู้ก่อตั้ง
พันพรรณ ศูนย์การเรียนรู้พึ่งพาตนเอง และศูนย์เมล็ดพันธุ์ คุณวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ
ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี หรือ ไบโอไทย คุณวิฑูรย์ เรืองเลิศปัญญากุล ผู้อำนวยการ
Greennet
โซน ภาคีขับเคลื่อนโครงการสามพรานโมเดล
: ภาครัฐ เอกชน ภาควิชาการ ภาคชุมชน
และภาคการศึกษา ที่พร้อมใจกันมาร่วมกันจัดงานอย่างคึกคักเป็นพิเศษ อาทิ Farm to Firm โครงการเชื่อมโยงระหว่างเกษตรกรกับผู้บริโภคผ่านเว็บไซต์
โซน ตลาดสุขใจ : ยกร้านค้า
ร้านอาหารในตลาดสุขใจทั้งหมดมาไว้ภายในงาน
โซน ร้านค้าผลิตภัณฑ์อินทรีย์ :
เครือข่ายเกษตรกรและผู้ประกอบการอินทรีย์จากทั่วประเทศและมาชิมอาหารอินทรีย์ตามวิถีคนเมืองที่
โซน Food Truck
สอบถาม โทร 034-322588-93 หรือติดตามที่
Facebook/สามพรานโมเดล
ข่าวที่ 4 “บางจากซื้อข้าวแจกรร.ทำอาหารกลางวัน”
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด
(มหาชน) กล่าวว่าเมื่อเร็ว ๆ นำผู้บริหาร มอบข้าวสารของบางจากฯ ซึ่งรับซื้อจากเกษตรกรเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ชาวนาในภาวะราคาข้าวตกต่ำ โดยจะนำไปมอบให้โรงเรียนในโครงการอาหารกลางวันรอบโรงกลั่นน้ำมันบางจาก
โรงเรียนที่ร่วมทำกิจกรรม บ้านทานตะวัน และมูลนิธิเด็กรวม 20 แห่ง
ซึ่งจะช่วยปลูกฝังเยาวชนเรียนรู้เรื่องข้าวพืชเศรษฐกิจหลักของเมืองไทย
ข่าวที่ 5 “สุวรรณภูมิรับไฮซีซันวันละเกือบ2แสนคน”
นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.”
เปิดเผยว่า เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของไทย (High Season) ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 25 มีนาคม 2560 มีสัญญาณบวกที่จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ
จากการมีผู้โดยสารเดินทางใช้สุวรรณภูมิเฉลี่ยวันละ 173,523 คน
เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน มากถึง 26.40 % ด้วยเที่ยวบินเฉลี่ยวันละ 965 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.52 %
ดังนั้นทาง ทอท.จึงเตรียมพร้อมจัดบริการคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงในระบบภาคพื้นดิน
เพื่อให้ผู้โดยสารสะดวกสบาย หลัก ๆ คือ จัดคิวรถแท็กซี่ รถตู้สาธารณะ
รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงก์ อย่างเพียงพอต่อความต้องการของผู้เดินทางตลอดฤดูท่องเที่ยว
ข่าวที่ 6 “แพกเกจบินเที่ยวปลายปีเริ่มที่2,590บาท”
สายการบิน “ไทย แอร์เอเชีย” ต้อนรับการเดินทางช่วงส่งท้ายปลายปี
ระหว่างวันนี้ - 31 ธ.ค. 59 ให้ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวได้เที่ยวง่ายๆ
ถูกกว่าที่คิด 3 วัน 2 คืน โรงแรม + เที่ยวบิน + ภาษี เริ่มต้นที่ 2,590 บาท/ท่าน ห้องพักโรงแรมเริ่มต้นที่เพียงคืนละ
899บาท เลือกแพกเกจเที่ยวได้ทั้งในไทย สิงคโปร์
ฮ่องกง จีน มาเลเซีย
เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ซื้อแพกเกจแล้วใช้ได้ถึง 31 มี.ค. 2560
ขึ้นเหนือไปยัง “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก
จ.เชียงใหม่” สถานที่ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ทรงพระราชทาน ทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ในการสร้างศูนย์ฯ
เพื่อเสริมความรู้ ทางเกษตรให้กับ ชาวบ้าน ตั้งอยู่ ม. 8
บ้านปางผึ้ง ต.ห้วยแก้ว อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ เข้าชมได้ตลอดทั้งปี ลูกค้าในโครงการ
07.00-20.00 น. ลูกค้าทั่วไป 10.00-16.00 น.
จากที่เคยทำหน้าที่ศูนย์พัฒนาวิจัยพันธุ์พืชแต่เพียงอย่างเดียว
ณ ปัจจุบัน ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก
ได้กลายเป็นอีกหนึ่งปลายทางยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว
ที่แสวงหาความบริสุทธิ์ของธรรมชาติและความอบอุ่น
ในการดูแลต้อนรับขับสู้ของชาวบ้านในท้องถิ่น นอกจากป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้
ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน ลักษณะทางภูมิศาสตร์ ที่มีความลาดชันค่อนข้างสูง
ทำให้เกิดวิวทิวทัศน์ที่ต้องตา ตรึงใจ เหมาะกับการพักผ่อนช่วงวันหยุด
ไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลไหน
ที่นี่เน้นงานวิจัย
ปลูกเห็ดหอมและกาแฟ ภายใน พื้นที่กว่า 4 ไร่
มีการเตรียมเพาะกล้าให้กับเกษตรกร ใครที่ชื่นชอบดอกไม้งามหาชมยาก
ก็สามารถเข้าชมหมู่ไม้กระถางที่จัดให้ชมภายในศูนย์ฯ อาทิ ต้นบีโกเนีย
กล้วยไม้ปีกผีเสื้อและอื่นๆ
เรียงรายอยู่ในเรือนเพาะชำให้ได้ซื้อหาติดไม้ติดมือกลับบ้าน ใครที่ต้องการค้างคืน
โครงการหลวงตีนตกก็มีห้องพักดีไซน์เก๋ ราคากันเอง ไว้บริการอีกด้วย
ทริปตัวอย่าง 3 วัน 2 คืน เส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง
3 จังหวัด ประกอบด้วย
จ.ลำพูน-ลำปาง-เชียงใหม่
วันแรก : เที่ยวลำพูน ช่วงเช้า วัดพระธาตุหริภุญไชย
นั่งรถรางชมเมืองลำพูน ช่วงบ่าย ต้องแวะสถาบันผ้าทอมือหริภุญชัย บ้านดอนหลวง หมู่บ้าน OTOP แหล่งผลิตผ้าฝ้ายทอมือที่ใหญ่ที่สุด
วันที่สอง : ลำปาง-เชียงใหม่ ช่วงเช้า ขึ้นไปชมอุทยานแจ้ซ้อน
แหล่งน้ำพุร้อนเพื่อสุขภาพ หมู่บ้านป่าเหมี้ยง
ชมวิถีการปลูกชาอัสสัม ช่วงบ่าย โครงการหลวงตีนตก ชมเแปลงสาธิตการปลูกพืชผักเมืองหนาว
เช่น วานิลลา มะเขือเทศ
วันที่สาม : เชียงใหม่ ช่วงเช้า
เลือกซื้อของฝากที่สันกำแพง พิพิธภัณฑ์บ้านจ๊างนัก
ชมผลงานรูปช้างแกะสลักมากมาย ช่วงบ่าย หอศิลปวัฒนธรรมเชียงใหม่
ชมวิถีชีวิตชาวเมืองเชียงใหม่ ประเพณีต่างๆ
สถานที่เที่ยวห้ามพลาด วัดคันธาพฤกษา สถาปัตยกรรมแบบล้านนาโบราณ
และโบสถ์ กลางน้ำแสนสวย บ้านแม่กำปอง
หมู่บ้านที่โด่งดังด้านโฮมสเตย์
ไปสัมผัสวิถีชีวิตและประเพณีพื้นบ้านได้อย่างใกล้ชิด Flight of the
Gibbon สนุกสุดเหวี่ยงไปกับซิปไลน์ 5
กม. ที่ขึ้นชื่อว่ายาวที่สุดในเอเซีย
กิจกรรมห้ามพลาด จิบกาแฟเอสเพรสโซ่รสชาติดีเยี่ยมที่ร้านกาแฟของโครงการ เดินป่าขึ้นลงน้ำตก
7 ชั้น ที่น้ำตกแม่กำปอง
โทร.09-3416-7726
www.royalprojectthailand.com/teentok
การเดินทาง จากเชียงใหม่ ประมาณ 55 กม.
ใช้เส้นทางเชียงใหม่-สันกำแพง-แม่ออน ผ่าน้ำพุร้อนสันกำแพงไปทางบ้านแม่กำปอง
ศูนย์ตีนตกจะอยู่ซ้ายมือ ก่อนถึงบ้านแม่กำปอง
รองศาสตราจารย์ วิมล ศรีศุข ภาควิชาอาหารเคมี คณะเภสัชศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหิดล มีคำแนะนำมาฝากสำหรับผู้นิยมบริโภค “อาหารปิ้งย่าง” ที่พบเห็นได้อยู่แทบทุกตรอกซอกซอย
ข้าวเหนียวหมูปิ้ง สเต็กเนื้อย่างเตาถ่าน
มีกลิ่น ควัน และเสียงประกอบคล้ายคลึงกัน
“ของแถม” ที่คนกินปิ้งย่างจะได้รับนอกจากปริมาณคอเลสเตอรอลที่เพิ่มมากขึ้น
ยังมี “สารก่อมะเร็ง” สารประกอบที่เรียกว่า เบนโซ(เอ)ไพรีน (Benzo(a)pyrene) จัดอยู่ในกลุ่ม
โพลีซัยคลิก อโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน (Polycyclic aromatic hydrocarbon, PAH)
และเป็นหนึ่งในสารก่อมะเร็งที่แรงที่สุดในกลุ่มนี้ จากการศึกษาต่างๆ
พบว่าสารประกอบนี้สามารถจับกับเซลของอวัยวะต่างๆจากมากไปหาน้อย คือ แขนงหลอดลม (bronchus)
> หลอดอาหาร(esophagus) > ลำไส้เล็กส่วนต้น (duodenum)
> ลำไส้ใหญ่ส่วนขวาง (transverse colon)
สารประกอบกลุ่ม พีเอเอ็ช (PAH) พบได้ในเนื้อปิ้งย่าง
ผัก น้ำมัน ธัญพืช ผลไม้ ปลารมควันและอาหารทะเลในปริมาณต่ำถึง 0.001 นาโนกรัม
ต่ออาหาร 1 กรัม (เท่ากับ 200 ส่วนในพันล้านส่วน)
ส่วนการปรุงอาหารแบบไหนมีของแถมมากน้อย อันตรายหรือไม่นั้น พบว่าการรับประทานอาหารหลายชนิด
เช่น อาหารปิ้งย่าง ในปริมาณสูง
เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งที่อวัยวะหลายแห่ง เช่น กระเพาะอาหาร
หลอดอาหาร
การเลือกรับประทานอาหารปิ้งย่างแต่ละครั้ง
ต้องระวังเรื่องสุขภาพและโรคที่จะตามมาด้วย
ข่าวแรก“แบงก์ชาติย้ำปราบทัวร์0เหรียญเขย่าเศรษฐกิจจริง”
นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจการเงิน
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน ต.ค.2559
ขยายตัวในอัตราชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน
โดยการใช้จ่ายภาครัฐยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ
ภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศและนักท่องเที่ยวไทย
ส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนในหมวดที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการท่องเที่ยวแผ่วลงด้วย
โดยจำนวนนักท่องเที่ยวหายไปกว่า 10.1% จากเดือนก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมายและการปรับขึ้นค่าธรรมเนียม
visa on
arrival ซึ่งการเดินทางของนักท่องเที่ยวไทยที่ลดลงส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนโดยเฉพาะหมวดที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม
อาทิ โรงแรม ภัตตาคาร การขนส่งผู้โดยสาร และการใช้เชื้อเพลิงชะลอลงด้วย
“การปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ
คาดจะกระทบมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ จากเดิมที่คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะลดลง
200,000 รายในปีนี้
หากผลกระทบยืดเยื้อนานเกิน 3-6
เดือนอาจจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยต่อเนื่องถึงปีหน้า”.
ข่าวที่สอง"แห่โคม
ชมพระฉาย สืบสายศิลป์" พัทยา
สำนักงานพื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง
(อพท.3) องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
(องค์การมหาชน) หรือ อพท. รายงานว่า ได้ร่วมกับมูลนิธิพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์
เทศบาลตำบลเขาชีจรรย์ เชิญเที่ยวงานประเพณี "แห่โคม ชมพระฉาย
สืบสายศิลป์" ถิ่นหนองจับเต่า -เขาชีจรรย์
ครั้งที่ 4 ในวันที่16 ธันวาคม 2559 เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป
ในปีนี้คณะผู้จัดงานได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ณ ลานกิจกรรม พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา (พระพุทธรูปแกะสลักหินประจำรัชกาลที่ 9 ) และการแสดง ‘โขน’ เรื่องรามเกียรติ์ตอน ‘มารชื่อพิเภก’ โดยศิลปินนักแสดงกว่า 100 คน ถือเป็นโขนกลางแปลงที่ยิ่งใหญ่สุดงานหนึ่งในประเทศไทย
เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้
โรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิต เสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษ จองได้ตั้งแต่วันนี้- 15 ธันวาคม 2559 ในการพัก
2 คืน จ่ายแค่ 1 คืน รับส่วนลดค่าอาหารเพิ่ม 15% ที่ดุสิตธานีหัวหิน และดุสิตดีทู
เขาใหญ่ ลูกค้าTrue You และผู้ถือบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำรองห้องพักติดต่อกันอย่างน้อย 2 คืน
ผ่าน www.dusit.com จองราคาพิเศษที่สุดบนหน้าเว็บไซด์ (Best Available Rates) พร้อมระบุรหัสโปรโมชั่นเมื่อทำการจองห้องพัก
จองแล้วเข้าพักได้ถึง 31 มีนาคม 2560
นางสาลินี วังตาล
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า
สสว.มีแผนส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอีในระยะ 5 ปี (2560-2564) ตั้งเป้าปั้น SMEs 4.0 มุ่งเน้นให้ความสำคัญในการยกระดับขีดความสามารถเติบโตเข้มแข็งและสามารถแข่งในระดับสากล นำผู้ประกอบการเข้าในระบบให้ได้ 2.76 ล้านราย
ภายในปี 2564 ต้องสร้างสัดส่วนมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
(GDP) เพิ่มเป็น 50%
ของจีดีพีประเทศ
ปี 2560 สสว.ได้รับอนุมัติงบประมาณในการเสริมสร้างพัฒนาและช่วยเหลือเอสเอ็มอี
วงเงินรวม 3,256 ล้านบาท จะจัดสรรเงิน 1.อุดหนุนเอสเอ็มอีตามมาตรการฟื้นฟูกิจการเอสเอ็มอี
2,000 ล้านบาท กลุ่มเป้าหมายจะเป็นผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาทางการเงิน
ไม่สามารถยืมเงินจากระบบสถาบันการเงินปกติได้ 2. ส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็มอี 1,200
ล้านบาท รวมทั้งเตรียมเงิน 150 ล้านบาท เดินหน้าแผนร่วมมือกับเอกชนจัดทำโครงการอี-คอมเมิร์ซ
ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
ติดตามฟังรายการย้อนหลังเข้าไปที่ www.google.com พิมพ์คำว่า รวยด้วยข่าว97.0 หรือทาง www.facebook.com/rauydauykhao
และวิเคราะห์เจาะลึกทางบล็อกเกอร์ :gurutourza.blogspot.com
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรายการ ขอให้พักผ่อนอย่างมีความสุขตลอดวันหยุด
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน คอลัมนิสต์-การบิน/ท่องเที่ยว และผู้ดำเนินการ สวท.FM 97.0 MHz. |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น