ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สมาคมสปาไทยงัดพรบ.คุมมาตรฐานธุรกิจ-ทอท.คิกออฟแผนแม่บทสนามบิน20ปี-ททท.จัดมวยไทยสู่โลก


ไทยงัดพรบ.ใหม่ปรับใหญ่ธุรกิจเวลเนสสปา
จัดระเบียบผุดมาตรฐานทะลุปีละ3หมื่นล้าน
ทอท.คิกออฟแผนแม่บทขยายสนามบิน20ปี
ททท.จัดเดือนท่องเที่ยวกีฬามวยไทย4ภาค



สวัสดีเช้าวันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” (ฟังสดทางได้มือถือเลือก FM 97.0 หรืออ่านได้ทาง www.facebook.com/penroong และ gurutourza.blogspot.com)
นายกรด โรจนเสถียร นายกสมาคมสปาไทย


นายกรด โรจนเสถียร นายกสมาคมสปาไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการปฏิรูปอุตสาหกรรมสุขภาพองค์รวมครั้งใหญ่ในประเทศไทยเป็น Global Trend ที่คนไทยต้องจับตา จะต้องพัฒนาบริการอุตสาหกรรมนี้ได้อย่างหลากหลาย ตามหลักการดูแลสุขภาพจะมีเรื่องกินอาหาร ออกกำลังกาย ฟิตเนส ทุกวันนี้จะพูดถึงเรื่องสปา สุขภาพองค์กร หรือ Holistic เป็นบริการที่ประเทศไทยมีความพร้อมที่จะดึงศักยภาพเหล่านี้ออกมาบริการนักท่องเที่ยวได้

ศักยภาพความพร้อมของผู้ประกอบการไทยมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้น เพราะหลายปีที่ผ่านมาเราได้จัด “มาตรฐาน” สำหรับการให้บริการ ซึ่งมีองค์ประกอบหลายอย่างทางด้านสุขภาพ ที่เอกชนได้เข้าไปมีส่วนร่วม “การปรับแก้กฎหมาย” เพื่อหาทางเปิดประตูให้ผู้ประกอบการก้าวเข้าสู่ความเป็นเทรนด์สากล

กฎหมายดังกล่าวที่จะนำมาเปลี่ยนแปลงให้อุตสาหกรรมเวลเนสสปาดีขึ้น คือ “พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 ที่มีกระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าภาพ สาระสำคัญคือ ระบบมาตรฐานการคุ้มครองผู้บริโภค นิยมที่หมายถึง “นักท่องเที่ยว” ที่เข้ามาใช้บริการ การสร้างกฎหมายเพื่อรองรับและการปรับตัวเป็นการ“เตรียมความพร้อมผู้ประกอบการ”

ส่วนการทำประชาสัมพันธ์กฎหมายฉบับนี้มีผลสมบูรณ์ตั้งแต่ 27 กันยายน 2559 แต่ในกฎหมายก็มีบทเฉพาะกาลยืดเวลาให้ผู้ประกอบการได้ “เตรียมตัว” มากขึ้น ไม่เฉพาะผู้ประกอบการแต่เป็นผู้ออกกฎหมายที่จะต้องเข้าใจด้วยเช่นกัน ภายในระยะ 180 วันนับจากวันที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ซึ่งจะเริ่มมีผลอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนมีนาคม 2560 นี้เป็นต้นไป

นับจากเดือนมีนาคมปีนี้เป็นต้นไปจึงต้องติดตามจับตาดูกันว่า เมื่อนำกฎหมายมาบังคับใช้แล้วจะสามารถสร้างมาตรฐานได้อย่างไรบ้าง

หลัก ๆ แล้วผู้ประกอบการจะเปลี่ยนแปลงไปในทางดีที่ขึ้นเมื่อนำกฎหมายมาบังคับใช้ อย่างแรกคือ “ผู้ให้บริการ” คือ เทอราปิสต์ อาชีพของคนเหล่านี้จะต้องได้รับการเรียนรู้โดยอ้างอิงจาก “หลักสูตรกลาง” ซึ่งจะไปหาได้จากการจัด “ระเบียบสถานศึกษา” ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตบุคลากร โดยจะมีการจัดตั้ง “คณะกรรมการ” ภายใต้กฎหมายฉบับนี้ดูแล กำกับมาตรฐานของสถานศึกษานั้น ๆ เมื่อสถานศึกษามีมาตรฐานคนที่เข้าไปเรียนก็จะได้รับประโยชน์ เมื่อออกมาก็ทำงานด้านการนวดเพื่อสุขภาพให้แก่นักท่องเที่ยวได้อย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ

          ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของโครงสร้างอุตสาหกรรมบริการสุขภาพองค์รวมของประเทศ

          ขณะเดียวกัน “ผู้ให้บริการ” จะต้องเลือกจ้างคนมาทำงานอย่างถูกต้อง ตามกฎหมายฉบับนี้จะกำหนดให้มีการ “ขึ้นทะเบียน” ผู้ประกอบการด้วย เพราะฉะนั้นจะทำให้รู้ “จำนวนผู้ให้บริการ” ผนวกกับ “การจ้างเทอราปิสต์” ก็จะรู้เลยว่าผ่านการอบรมตามหลักสูตรมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข

ข้อดีต่าง ๆ จากการบังคับใช้กฎหมายยังมีอีกหลายส่วน เช่น ใบอนุญาตผู้ประกอบการแต่ละแห่งต่อไปจะต้องแสดงให้โดยนำมาวางในที่ที่ผู้ใช้บริการสามารถมองเห็นด้วย เพื่อยืนยันความถูกต้อง

อันเป็นมาตรฐานของ “ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย” ที่จะได้รับประโยชน์จากการจัดระเบียบ นำกฎหมายมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นระบบกับอุตสาหกรรมบริการเวลเนสสปาของประเทศ

สำหรับ “มูลค่าตลาดเวลเนสสปา” ของประเทศไทย ไม่ได้เฉพาะเจาะจงเพียงแค่สปา ซึ่งรวมถึงการศึกษา มีโรงเรียน สปาโปรดักซ์ สมุนไพร อุปกรณ์ เครื่องแบบ หน่วยบริการให้คำปรึกษา กลายเป็นกระแสสำคัญของโลก มีมูลค่ามหาศาล ซึ่งต้องวางรากฐานบริการเริ่มต้นด้วยกฎหมายตามที่กล่าวมา

เม็ดเงินรายได้จากอุตสาหกรรมสปา ตามสถิติของโกลบอลสปาประเทศไทยมีรายได้หมุนเวียนประมาณปีละ 30,000 ล้านบาท จากทั่วโลกที่มีมากถึง 3.7 ล้านล้านบาท

เมื่อจัดระเบียบปฏิรูปโครงสร้างอุตสาหกรรมเรียบร้อยแล้ว ก็จะทำให้ผู้ใช้บริการมีแรงจูงใจในการกลับมาใช้บริการซ้ำ ๆ ซึ่งจะทำให้ “มูลค่าเพิ่มของรายได้” เพิ่มขึ้น ดังนั้นทุกฝ่ายควรจะต้องช่วยกันอย่างเต็มที่

ส่วนภารกิจของคุณกรด ในฐานะทายาทของผู้นำการบุกเบิกเวลเนสสปาเมืองไทยภายใต้แบรนด์ “ชีวาศรม” ที่ริเริ่มพัฒนารุ่นต่อรุ่นมากว่า 20 ปี จึงพร้อมจะนำร่องผลักดันให้ไทยเป็น “ศูนย์กลางเวลเนสสปาอาเซียน” โดยการใช้องค์ความรู้และความเข้าใจ ด้วยกลยุทธ์การเผยแพร่ทั้งทางด้านการประกอบธุรกิจ การให้บริการสุขภาพองค์รวม ตามคอนเซ็ปต์ที่ต่างชาติหรืออินเตอร์เนชั่นแนลเรียกชีวาศรมว่าเป็น Destination Spa หรือประเทศจุดหมายปลายที่นักเดินทางทั่วโลกต้องการมาใช้บริการ การเรียนรู้บุคลากร องค์ประกอบหลักจะต้องเรียนรู้ในหลายส่วนที่เกิดขึ้น

ในวันนี้ “ชีวาศรม” ได้มอบหมายให้ผมเข้ามาทำงานเพื่อสังคมในตำแหน่ง “นายกสมาคมสปาไทย” ก็เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับทุกฝ่ายได้เข้าใจ ขึ้นอยู่กับผู้ลงทุนด้วย เพราะการลงทุนเดสนิเนชั่นสปาต้องใช้เงินสูงมาก อันเป็นสิ่งที่ตอบโจทก์ผู้ให้บริการ เพราะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มเวลเนสสปา ยอมที่จะ “จ่ายเงินสูงกว่า” นักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ๆ หลายเท่า เพราะเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพ เปลี่ยนแปลงร่างกายในการชะลอวัย รักษาความเป็นหนุ่มสาว

ทางชีวาศรมยินดีต้อนรับผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาเรียนรู้ เพราะเราเองก็มีโรงเรียนสอน “ชีวาศรม อคาเดมี” เปิดมา 10 กว่าปี ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการรับรองหลักสูตรทางด้าน สปา อาหาร อบรม บริหารจัดการเวลเนสสปา รีสอร์ต ผู้ประกอบการสามารถเข้ามาศึกษา เรียนรู้ได้

ปี 2560 จึงเป็นอีกมิติของอุตสาหกรรม “เวลเนสสปา” เมืองไทย ที่จะมีโอกาสนำกฎหมาย “พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559” เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อสร้างกรอบมาตรฐานให้ผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการ พนักงานบริการ และผู้รับบริการ ได้รับประโยชน์จริง ๆ





ฟังข่าวช่วงแรก



ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ปั้นแบรนด์ไทยขยายในดิวตี้ฟรี

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้ตระหนักถึงผลิตภัณฑ์คนไทย จึงได้สร้างสรรค์สินค้าหรูหราของคนไทยขึ้นมาจำหน่าย 2 แบรนด์

แบรนด์แรก “วีอาร์เอช” เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ของที่ระลึก ที่นำแนวความคิดสนุกสนานมาเป็นลูกเล่นสดใหม่ผสานเข้ากับเรื่องราวของวัฒนธรรมสำคัญต่างๆในเอเชีย จนได้เป็นของฝากที่สร้างร้อยยิ้มและความประทับใจทั้งผู้ให้และผู้รับ ทั้งยังได้เผยแพร่เรื่องราวของวัฒนธรรมและสถานที่สำคัญต่างๆ ผ่านลูกเล่นและการใช้งานของสินค้าราวกับผู้รับได้มาเที่ยวด้วยตนเอง

แบรนด์ที่ 2 แฟชั่นฝีมือดีไซน์เนอร์คนไทยอย่าง VS (Voyage of Style) เป็นงานออกแบบภายใต้แนวคิด “แรงบันดาลใจในการเดินทาง” (Inspired Traveling) สร้างสรรค์ผลงานทันสมัยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นได้ออกแบบมาเพื่อนักท่องเที่ยวที่รักและหลงใหลการเดินทางเป็นพิเศษ โดยใส่ใจเรื่องการออกแบบและการใช้วัสดุคุณภาพดีและบางเบา สามารถสวมใส่ได้ง่าย โดยผลิตภัณฑ์ถูกแบ่งออกเป็นสินค้าหลากหลายประเภท อาทิ เสื้อผ้า กระเป๋า ผ้าพันคอ เครื่องประดับ ซึ่งเหมาะจะเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อตอบสนองทุกการใช้งาน



ข่าวที่ 2 “บอร์ดทอท.อนุมัติแผนแม่บท 20 ปีหน้า”


นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่ามติที่ประชุมบอร์ดเดือนกุมภาพันธ์ ได้อนุมัติแผนขยายการใช้งบประมาณลงทุนกว่า 2.2 แสนล้านบาท ในการพัฒนาท่าอากาศยานของ ทอท. ภายใต้แผนแม่บท 20 ปีหน้า ดังนี้

1.การปรับขั้นตอนการดำเนินงานในแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท.ในปีงบประมาณ 2559 คณะกรรมการ ทอท.ได้เห็นชอบแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) และท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) โดยมีกรอบวงเงินลงทุนประมาณ 4 แสนล้านบาท และให้ ทอท. เสนอแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งให้กระทรวงคมนาคม (คค.) พิจารณาความเหมาะสมก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบแนว

ทางการดำเนินการตามแผนแม่บทกำหนดแนวทางการพัฒนาท่าอากาศยานใน 20 ปีข้างหน้า คือในปี 2578

โดยมีการแบ่งการดำเนินการเป็นระยะ ประกอบด้วย กลุ่มงานพัฒนาด้าน Airside ด้านอาคารผู้โดยสารและอาคารสนับสนุน และด้านระบบสาธารณูปโภค โดยมีขั้นตอนหลักคือ งานออกแบบ และงานก่อสร้าง ในการพัฒนา แต่ละระยะ ทอท.จะดำเนินการแยกงานจ้างออกแบบจากโครงการพัฒนาตามแผนแม่บทมาดำเนินการก่อน เมื่อออกแบบแล้วเสร็จ จึงเสนอรายละเอียดโครงการเพื่อขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ทอท.  กระทรวงคมนาคม (คค.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามลำดับต่อไป

สำหรับโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ทสภ. และโครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 สศช.ได้อนุมัติงบประมาณลงทุน (เพิ่มเติม) ประจำปี 2559 สำหรับการดำเนินการจ้างผู้ออกแบบแล้ว

            หลังจากได้รับอนุมัติแผนแม่บทดังกล่าว ปรากฏว่ามีปัจจัยบางประการที่มีผลกระทบต่อแผนการดำเนินงาน ตามโครงการ ประกอบกับปริมาณการจราจรทางอากาศได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่คาดการณ์ไว้ตามแผน ทอท. จึงเห็นควรปรับแผนและจัดลำดับการขออนุมัติโครงการพัฒนาท่าอากาศยานให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ดังนี้

                - ปีงบประมาณ 2560 เสนอโครงการพัฒนาท่าอากาศยานหาดใหญ่และเชียงใหม่ภายในเดือนสิงหาคม 2560

                - ปีงบประมาณ 2560 – 2561 เสนอโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองภายในเดือนพฤศจิกายน 2560

                - ปีงบประมาณ 2561 เสนอโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงรายและภูเก็ตภายในเดือนมิถุนายน 2561

            ทั้งนี้ การปรับแผนการดำเนินงานตามโครงการดังกล่าว ยังเป็นไปตามกรอบวงเงินงบประมาณเดิมที่เคยได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ ทอท. และมีแผนงานการก่อสร้าง ดังนี้

                - โครงการพัฒนาท่าอากาศยานหาดใหญ่ระยะที่ 1 จะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณเดือนตุลาคม 2562 - พฤษภาคม 2567

                - โครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ระยะที่ 1  จะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณเดือนตุลาคม 2562 - มิถุนายน 2568

                - โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองระยะที่ 3  จะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณเดือนมีนาคม 2563 - มิถุนายน 2568

                - โครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงรายระยะที่ 1  จะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณเดือนสิงหาคม 2563 - เมษายน 2565                          

                 - โครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ตระยะที่ 2  จะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณเดือนสิงหาคม 2563 - ตุลาคม 2565

            คณะกรรมการ ทอท.มีมติอนุมัติการปรับขั้นตอนและรายละเอียดการดำเนินงานในแผนแม่บทการพัฒนา  ท่าอากาศยานก่อนเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแนวทางการดำเนินงานตามแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานต่อไป



        2.  การจัดหาผู้รับจ้างสำรวจออกแบบโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

            คณะกรรมการ ทอท.อนุมัติให้ ทอท.ดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างงานจ้างสำรวจออกแบบโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)  โดยวิธีการประกวดแบบ วงเงินงบประมาณในการจัดหาเป็นเงินประมาณ 308,000,000 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม   

            โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ทสภ. ดำเนินการตามแผนแม่บทพัฒนา ทสภ.ระยะสั้น (ปี พ.ศ.2559-2564) ซึ่งมติที่ประชุมคณะกรรมการ ทอท.เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2559 ได้เห็นชอบงบลงทุนเพื่อการดำเนินงานปกติ ประจำปี 2559 (เพิ่มเติม) สำหรับงานจ้างสำรวจออกแบบโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ทสภ.วงเงิน 309.441 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและไม่รวมสำรองราคาร้อยละ 10) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้อนุมัติงบประมาณจ้างออกแบบดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2559



 ข่าวที่ 3 “ททท.จัดเดือนมวยไทยโลกบูมท่องเที่ยวเชิงกีฬา”



นางฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้จัดกิจกรรม “Amazing Fight” เชิญชวนนักท่องเที่ยวที่สนใจมวยไทยเดินทางมาทำกิจกรรมเกี่ยวกับมวยไทย พร้อมกับการเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรม และศิลปโบราณอย่างลึกซึ้งในประเทศไทย 4 ภาค

เพราะขณะนี้มวยไทยเป็นศิลปะและศาสตร์การป้องกันตัวที่ทั่วโลกยอมรับทั้งจากเอเชีย หรือยุโรป อเมริกา อีกทั้งโครงการ Amazing Fightยังได้ “บัวขาว บัญชาเมฆ” นักมวยชื่อดังมาเป็นพรีเซนเตอร์โชว์การออกอาวุธแบบมวยไทยครบเครื่อง กระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงกีฬามวยไทยให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น

การจัด “Amazing Fight” มีไฮไลต์ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้าร่วม 4 กิจกรรม ได้แก่ 1.ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวจากต่างชาติมาเรียนรู้ศาสตร์อย่างใกล้ชิด โดยสัมผัสและฝึกมวยกับ บัวขาว  บัญชาเมฆ จะทำหน้าที่ฝึกให้กัลผู้ที่สนใจ 2.เดินทางไปเรียนรู้มวยไทยโบราณใน 4 ภาค ได้แก่ 1.ภาคเหนือ มวยท่าเสา จ.อุตรดิตถ์ 2.ภาคอีสาน มวยโคราช จ.นครราชสีมา 3.ภาคกลาง มวยลพบุรี จ.ลพบุรี 4. ภาคใต้ มวยไชยา จ.สุราษฎร์ธานี และได้ขึ้นสังเวียนชกมวยไทยจริง

3.ได้ร่วมเป็นหนึ่งในพิธีไหว้ครูมวยไทยโลก ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่นักมวยไทยต้องไม่พลาด 4.เที่ยวเมืองไทยฟรี สำหรับผู้สมัครที่ได้รับคัดเลือกให้ร่วมกิจกรรม 20 คน จะได้เที่ยวฟรี ส่วนผู้ชนะรอบสุดท้าย 4 คน จะได้รับรางวัลชนะเลิศเป็นแพ็กเกจที่พักในไทย

ททท.ได้เปิดให้ผู้สนใจชาวต่างชาติทั้งชายและหญิง เข้ามาร่วมสนุกสมัครทางเว็บไซต์ www.tourismthailand.org/festivalexperience ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม  -  28 กุมภาพันธ์ 2560

โครงการจะแบ่งการแข่งขันเป็น 3 รอบ รอบที่ 1 คัดเลือกผู้ผ่านเข้ารอบ 20 คน จากผู้สมัครทั้งหมด แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ผู้ชาย 10 คน ผู้หญิง 10 คน เดินทางมาเรียนมวยไทย โดยจะประกาศผลผู้ได้เข้ารอบวันที่ 10 มีนาคม 2560 จากนั้นก็จะนำเข้าร่วมงานไหว้ครูมวยไทยกับ บัวขาว บัญชาเมฆ และร่วมโชว์ในงานพิธีไหว้ครูมวยไทยโลก วันที่ 17 มีนาคม 2560 ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา  

ระหว่างที่เดินทางท่องเที่ยวและทำกิจกรรมในประเทศไทย ทางโครงการจะถ่ายทำคลิปอัพโหลดขึ้นเว็บ www.tourismthailand.org/festivalexperience และเปิดให้ผู้ชมร่วมโหวตคนที่ชื่นชอบ ร่วมลุ้นรับรางวัล ซึ่งผู้ที่ได้รับคะแนนโหวตสูงที่สุดจะได้รับรางวัล popular vote เป็นแพ็กเกจที่พัก โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมโหวตให้ผู้แข่งขันที่ชื่นชอบได้ในวันที่ 15 – 24 มีนาคม 2560 เพื่อลุ้นรับรางวัล popular vote และรายชื่อผู้โชคดีภายในวันที่ 25 มีนาคม 2560

รางวัลของผู้เข้าแข่งขัน รางวัลชนะเลิศ แพ็กเกจที่พัก 3 วัน 2 คืน จาก ศรีพันวา ภูเก็ต 4 รางวัล รางวัล popular vote แพ็กเกจที่พัก 3 วัน 2 คืน จากอนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ต 1 รางวัล สำหรับผู้เข้าร่วมโหวต แพ็กเกจที่พัก 3 วัน 2 คืน จากพุทธรักษา หัวหิน รีสอร์ทอีก 20 รางวัล



ข่าวที่ 4 “ปี’60บางจากลุยลงทุน1.85หมื่นล้าน”

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2560 ตั้งเป้าเงินลงทุนไว้ 18,500 ล้านบาท แบ่งเป็น 6 ส่วน ประกอบด้วย งบซ่อมบำรุง 5,000 ล้านบาท งบลงทุนในโครงการต่างๆ 5,000 ล้านบาท งบดำเนินงานธุรกิจไบโอฟูเอล 3,000 ล้านบาท งบดำเนินลงทุนด้านทรัพยากรอื่นๆ เช่น ลิเทียม 4,000 ล้านบาท งบการตลาด เช่น การขยายปั๊ม และธุรกิจนอน-ออยล์ 1,000 ล้านบาท และงบวิจัยและพัฒนาด้านนวัตกรรมอีก 500 ล้านบาท

ธุรกิจโรงกลั่นจะขยายกำลังการกลั่นเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 111,000 บาร์เรลต่อวัน เพราะปีนี้ไม่มีแผนหยุดซ้อมบำรุงโรงกลั่น คาดจะมีค่าการกลั่นอยู่ในระดับ 6-7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ผลิตได้ 101,390 บาร์เรลต่อวัน และมีค่าการกลั่นอยู่ระดับ 5.99 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นประจำปี 45 วัน แต่ยังถือว่ามากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 96,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากมีระบบการจัดการที่ดี

รวมทั้งมีแผนสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานร่วม (โค-เจนเนอเรชั่น) เพิ่มอีก 1 แห่งจากเดิมที่มีอยู่ 2 ที่ซื้อมาจาก บมจ. ปตท. เพื่อใช้ลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำที่เป็นเชื้อเพลิงในธุรกิจได้ประมาณ 20% จะดำเนินการได้ช่วงเมษายน 2560 ส่วนธุรกิจไบโอฟูเอล และธุรกิจไบโอดีเซลจะจำหน่ายเพิ่มขึ้น 20% หากภาครัฐยังคงสัดส่วนการผสมผลิตภัณฑ์ B100 ในน้ำมันดีเซลที่ 5% การทำธุรกิจไบโอฟูเอล จะพิจารณาถึงความเป็นไปได้ปรับโครงสร้างรองรับนโยบายอุตสาหกรรมชีวภาพตามยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล

ปี 2559 บมจ.บางจาก มีรายได้ 144,705 ล้านบาท เติบโต 3% จากปี 2558 มีกำไรสุทธิ 4,700 ล้านบาท เพิ่ม 15% มีส่วนแบ่งการตลาดการค้าน้ำมันอันดับ 2 เพิ่ม 0.1% จากปีก่อนเป็น 15.1% นับเป็นรายเดียวในประเทศที่เติบโตเพิ่มขึ้น ปัจจัยหลักมาจากการขยายธุรกิจนอน-ออยล์ โดยเฉพาะสพาร์ ธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตแบรนด์ชั้นนำจากเนเธอร์แลนด์ สามารถสร้างยอดขายด้านค้าปลีกเติบโตถึง 12.4%



ข่าวที่ 5 “พัฒนาเอกลักษ์ไทยท่าเตียนสู่ตลาดสากล”

เรื่องราวความเป็นมาโครงการ “พัฒนาพื้นที่โดยรอบพระบรมมหาราชวัง” รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ของ “สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์” ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2550 กระทั่งในปี 2560 ยังคงเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้รายงานว่าแนวทาง “พัฒนาพื้นที่โดยรอบพระบรมมหาราชวัง” เป็นโครงการปรับปรุงฟื้นฟูอาคารอนุรักษ์บริเวณรอบพระบรมมหาราชวัง เป็นนโยบายของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่มีมาจากการเห็นความสำคัญของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในพื้นที่กรุงรัตนโกสินทร์ชั้นใน และเป็นการสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เรื่องการอนุรักษ์พื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของกรุงเทพมหานคร

ที่ผ่านมาการดำเนินการเกี่ยวกับการอนุรักษ์ “ชุมชนตึกแถวถนนหน้าพระลาน ท่าช้าง และท่าเตียน” ถือเป็นการบรรเทาปัญหาเฉพาะหน้า เช่น การทาสีอาคาร การปรับปรุงพื้นผิวถนน แต่ยังมิได้ดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว

โดยเฉพาะการบูรณะซ่อมแซมอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ซึ่งจะต้องทำเนื่องจากเป็นอาคารที่ขึ้นทะเบียนโบราณสถานที่เจ้าของหรือผู้ครอบครองมีหน้าที่ต้องทำนุบำรุงและรักษาให้มีสภาพเดิมอยู่เสมอ



          ตลอด 10 ปีที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ดำเนินการพัฒนานั้น ได้ทำอย่างเป็นระบบโดยทำให้อาคาเก่ามีความแตกต่างจากอาคารโดยทั่วไป คือ คุณค่าความสำคัญด้านสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ด้วยการกำหนดขั้นตอนและวิธีการที่มักเรียกกันว่า “กระบวนการวางแผนการอนุรักษ์” เพื่อให้อาคารหน้าพระลาน ท่าช้าง ท่าเตียน ใช้หลักการอนุรักษ์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลมากที่สุด



ช่วงที่ 2 ตาม 70 เส้นทางตามรอยพระบาท ไปชม “ต้นกำเนิดผ้าไหมไทยแพรวา กาฬสินธุ์” พร้อมทั้งมีข้อแนะนำบัณฑิตจบใหม่กับไลฟ์สไตล์การอยู่อย่างมีความสุข และข่าวการบินที่น่าสนใจ



@เที่ยวศูนย์ฯผู้ไทยแหล่งผ้าไหมแพรวาบ้านโพน


ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมผู้ไทย ผ้าไหมแพรว“บ้านโพน ต.บ้านโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เปิดตลอดทั้งปี เข้าชมได้ทุกวัน เวลา 08.30-17.30 น.

สำหรับคนรักผ้าไหมต้องบันทึกลงในสมุดเดินทางส่วนตัวไว้เลยว่า จังหวัดกาฬสินธุ์ มีศูนย์ผลิตผ้าไหมทอมืออันวิจิตรเลื่องชื่อตั้งอยู่ที่ตำบลโพน ในตัวอำเภอคำม่วง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามถิ่นกำเนิดผ้าไหมแพรวา หรือ แพรวาราชินีแห่งไหม โดยมีที่มาจากลวดลายพิเศษบรรจงของแพรวา ซึ่งมีความแตกต่างกันถึง 60 ลาย จากอดีตทอไหมเพียงหน้าแคบและยาว ทว่าปัจจุบันมีการทอไหมหน้ากว้างเพิ่มขึ้น และมีให้เลือกหลากหลายลวดลายและขนาดตามใจชอบ

ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมผู้ไทย ผ้าไหมแพรวา บ้านโพน อยู่ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยริเริ่มโครงการนี้ขึ้นในปี พ.ศ. 2521 ประกอบไปด้วย บ้านเรือนไทยจำนวน 4 หลัง และศูนย์พิพิธภัณฑ์ผู้ไทยผ้าไหมแพรวา ช่วยสร้างรายได้ให้กับชาวผู้ไทย และส่งเสริม วัฒนธรรมการทอผ้าไหมที่มีมาอย่างยาวนานให้คงอยู่ หากได้เข้าไปสัมผัสจะพบว่าชาวบ้านโพนมีชีวิตเรียบง่ายดั้งเดิม สุขสงบ อัธยาศัยไมตรีดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับชาวบ้านโพน ไม่แพ้ฝีมือถักทอไหม ที่ยอดเยี่ยมจนได้รับการยอมรับในวงกว้าง


อาจกล่าวได้ว่านอกจากจะเป็นแหล่งเรียนรู้งานหัตถศิลป์ ที่สืบสานกันมาอย่างยาวนาน บ้านโพนยังเหมาะสำหรับการพักผ่อน นอนโฮมสเตย์สัมผัสวิถีชีวิตชาวผู้ไทยแบบ พอเพียง ฟังเสียงโปงลาง กินอาหารอีสานบ้านๆ ที่ปรุงจากวัตถุดิบท้องถิ่น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวย้อนยุค ที่เหมาะสำหรับคนที่อยากหยุดเวลา หรือชะลอจังหวะชีวิตให้ช้าลง

" ศูนย์ส่งเสริมผ้าไหมทอมือ สร้างอาชีพทอผ้าไหมแพรวาของชาวโพน ให้คงอยู่คู่วัฒนธรรมไทย "

เส้นทางท่องเที่ยว จ.ขอนแก่น-กาฬสินธุ์- ร้อยเอ็ด

วันแรก : ขอนแก่น-กาฬสินธุ์ “ช่วงเช้า” เยี่ยมชมพระธาตุขามแก่น พระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่เมือง “ช่วงกลางวัน” พิพิธภัณฑ์สิรินธร พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่ สมบูรณ์ที่สุดในอาเซียน เยี่ยมชมพระบรมสารีริกธาตุและกราบพระพุทธนิมิตรเหล็กไหลที่วัดพุทธนิมิตร หรือวัดภูค่าว เยี่ยมชมพระบรมสารีริกธาตุที่วัดพุทธนิมิตร “ช่วงบ่าย” เยี่ยมชมพระบรมธาตุเจดีย์ฐิตสีลมหาเถรานุสรณ์ ณ วัดรังสีปาลิวัน ศูนย์วัฒนธรรมผู้ไทย ผ้าไหมแพรวา บ้านโพน

วันที่สอง : กาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด “ช่วงเช้า”เยี่ยมชมพระธาตุยาคู

เมืองไม้บาติก OTOP 5 ดาว ของร้อยเอ็ด “ช่วงบ่าย” เดินทางสู่วัดป่ากุง ชมความงดงามของเจดีย์หินทรายที่จำลองมาจากเจดีย์บรมพุทโธที่อินโดนีเซีย พร้อมเยี่ยมชมเจดีย์มหาวีราจริยา นุสรณ์ เจดีย์กลางน้ำที่ใช้ประกอบพิธีพระราชเพลิงสรีระสังขารของหลวงปู่ศรี มหาวีโร


สถานที่เที่ยวห้ามพลาด บ้านเรือนไทยศูนย์ศิลปวัฒนธรรมผู้ไทย ผ้าไหมแพรวา บ้านโพน เลือกซื้อ ผ้าไหมแพรวา หลายขนาด หลากลวดลายหมู่บ้านท่องเที่ยว OTOPยลถิ่นฐานวัฒนธรรมผู้ไทย วัดป่ารังสีปาลิวันมีพระบรมธาตุเจดีย์ฐิตสีลมหาเถรานุสรณ์วิจิตรงดงาม

กิจกรรมห้ามพลาด  พักผ่อนโฮมสเตย์ สัมผัสวิถีชีวิต ชาวผู้ไทยแบบพอเพียง เรียนรู้การทอผ้าไหมแพรวา ชมงานหัตถศิลป์ที่สืบสานกันมายาวนาน ของชาวผู้ไทยที่บ้านโพน

สนใจท่องเที่ยว ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมผู้ไทยฯ  โทร. 0-4385-6157  www.sdm.dmr.go.th

การเดินทาง  จากตัวเมืองกาฬสินธุ์ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 227 ระยะทาง ประมาณ 70 กม.




@6 ทักษะสำคัญที่บัณฑิตจบใหม่ควรรู้

มีเรื่องราวดี ๆ มาฝากสำหรับบัณฑิตจบใหม่ ในการปรับบุคลิกให้สอดคล้องกับตลาดแรงงานยุคใหม่ ด้วย 6 ทักษะสำคัญ

1.ความสามารถหลากหลาย เพิ่มทักษะให้รอบด้านได้ ด้วยการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ลองเปิดรับโอกาสที่เข้ามา สุดท้ายอาจจะได้พบว่าเราทำอะไรได้อีกมากมายอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน เช่น การเริ่มต้นทำงานในบริษัทเล็กๆ ที่ต้องเริ่มต้นเรียนรู้การทำงานทุกตำแหน่ง อย่ามองว่าเป็นงานหนักและเหนื่อย แต่ให้มองว่าเป็นโอกาสที่ดีจะได้เรียนรู้และฝึกตัวเองให้มีความสามารถรอบด้าน

2.การเข้าสังคม การทำงานร่วมกับคนจำนวนมาก โอกาสที่จะเกิดความขัดแย้ง คิดเห็นไม่ตรงกันก็มีได้บ่อย หากเราเป็นคนปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย ก็ช่วยให้การทำงานร่วมกับผู้อื่นเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไป ลองทำความเข้าใจถึงความต่างของผู้อื่น และรู้จักปล่อยวางกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ บ้าง ก็จะช่วยให้ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างสบายใจ

        3.การปรับใช้ อย่ายึดติดกับการทำงานในรูปแบบเดิมๆ เปิดใจและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ พร้อมรู้จักนำสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่มาปรับใช้พลิกแพลงให้เข้ากับการทำงาน โดยดึงสิ่งที่มีอยู่ทั้งทรัพยากรและความสามารถในตัวบุคคลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โอกาสก้าวหน้าอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

4.การใช้เทคโนโลยี นับเป็นความโชคดีของเด็กรุ่นใหม่ที่เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยี จึงจำเป็นต้องอัพเดทตัวเองให้ทันโลก และพยายามเพิ่มทักษะใหม่ๆ ด้านการใช้โปรแกรมต่างๆ ซึ่งสามารถสร้างอาชีพเสริม หรือเพิ่มรายได้หากรู้จักนำมาใช้ให้ถูกวิธี

5.การคิดวิเคราะห์ ทุกวันนี้เรามีข้อมูลมหาศาลทั้งในโลกออนไลน์ หากรู้ทันข่าวสาร คิดวิเคราหะและมองสถานการณ์ได้อย่างเฉียบขาด จะเป็นประโยชน์ทั้งการทำงานและกับตัวเอง โดยแนะนำให้พยายามฝึกตั้งคำถาม ฝึกคิดอย่างเป็นระบบ และวิเคราะห์อย่างเป็นเหตุเป็นผล

6.ภาษา ยุคนี้ต้องบอกว่าใครภาษาดียิ่งได้เปรียบ โดยเฉพาะการมีภาษาที่ 3 เช่น ภาษาจีน ญี่ปุ่น เกาหลี และสามารถใข้ติดต่อสื่อสารได้ในระดับภาคธุรกิจจะยิ่งสร้างโอกาสในความก้าวหน้า



ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเดินอากาศ พ.ศ....เป็นการปรับปรุงพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พร้อมทั้งยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 พ.ศ.2515 ในส่วนกิจการการเดินอากาศและกำหนดบทบัญญัติเกี่ยวกับการบินพลเรือนขึ้นใหม่ทั้งฉบับ

และช่วงเดือน กรกฎาคม 2560 โครงการตรวจสอบการรักษาความปลอดภัยสากล (Universal Security Audit Programme - USAP)จะเข้ามาตรวจสอบความปลอดภัยสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง

ส่วนรายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.การเดินอากาศฉบับใหม่ ได้กำหนดให้ครอบคลุมถึงกิจการการบินพลเรือนทุกด้านที่รัฐต้องกำกับดูแลตามพันธกรณีที่กำหนดไว้ในอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ กำหนดฐานอำนาจของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินพลเรือน รวมถึงฐานอำนาจของผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และผู้ตรวจสอบด้านการบิน (Aviation Inspector)ในการกำกับดูแลกิจการการบินพลเรือน

และกำหนดบทบัญญัติให้เป็นไปตามที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (The International Civil Aviation Organization - ICAO)ใช้ในการตรวจสอบตามโครงการตรวจสอบการกำกับดูแลความปลอดภัยสากล (Universal Safety Oversight Audit Programme - USOAP) และโครงการตรวจสอบการรักษาความปลอดภัยสากล (Universal Security Audit Programme - USAP) หลังจากนี้จะเสนอพ.ร.บ.ไปยังกฤษฎีกา และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไป



ข่าวที่สอง “ททท.-เมืองไทยประกัน”ผนึกทำสไมลเจอร์นี่”

นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยกระดับการส่งเสริมความรักของสถาบันครอบครัวไทยให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยจัดโครงการ "การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเมืองไทยประกันชีวิต ชวนคุณมาเปิดเส้นทาง Smile Journey ร่วมสัมผัสและเก็บความประทับใจไปกับ 12 เมืองต้องห้าม...พลาด" เริ่มมีนาคม-ธันวาคม 2560

ประชาสัมพันธ์เส้นทางการท่องเที่ยว 12 เมืองต้องห้าม...พลาด แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่

1.Smile Journey สำหรับกลุ่มครอบครัวและผู้สูงอายุ มอบแพ็กเกจท่องเที่ยวให้แก่ผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ภายใต้โครงการ DRTV เช่น โครงการเมืองไทยวัยเก๋าคุ้มทั่วไทย (เพื่อผู้สูงอายุ) ผ่านการจับสลากหาผู้โชคดี

2.Smile Journey สำหรับผู้รักสุขภาพ มอบที่พักสุดหรูให้แก่ผู้ชนะการแข่งขันจากโครงการ MTL Six Packs ซึ่งเป็น Application ที่ช่วยส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพกับเมืองไทยประกันชีวิต

3.Smile Journey สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว มอบตั๋วโดยสารเครื่องบินไป-กลับ ให้แก่ผู้ที่ติดตามเพจของเมืองไทยประกันชีวิตใน Facebook ที่ชนะการประกวดโพสต์ภาพตัวเองในแหล่งท่องเที่ยวไทยที่ชื่นชอบและเขียนข้อความโดนใจ



ข่าวที่สาม “บินไทยงัด4แผนรับมือช่วงซ่อมรันเวย์สุวรรณภูมิ6เดือน”

นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เตรียม 4 แผนรองรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะปิดซ่อมทางวิ่ง (Runway) เป็นบางส่วน 1 ทางวิ่ง (01R/19L) ระหว่าง 3 มีนาคม- 5 พฤษภาคม 2560 ประมาณ 60 วัน

การบินไทยได้จัดเตรียมแผนรองรับโดยคำนึงถึงความปลอดภัยในการปฏิบัติการบินเป็นหลัก 4 เรื่อง คือ 1.พิจารณาเพิ่มปริมาณน้ำมันสำรองในแต่ละเที่ยวบินให้สอดคล้องกับสภาพการจราจรทางอากาศ 2.แผนรองรับกรณีต้องใช้สนามบินสำรอง

3.จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ เพื่อประสานงานและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่อาจเกิดขึ้นได้ 4.การดูแลผู้โดยสารด้วยการเตรียมเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่ต้องต่อเที่ยวบิน และแจ้งเตือนให้เผื่อเวลาในการต่อเที่ยวบิน รวมทั้งดูแลทุกเที่ยวบินให้ได้รับความสะดวกสบายสูงสุด



ฟังข่าวทั้งหมดย้อนหลังได้ทาง www.facebook.com/rauydauykhao , อ่านข้อมูลเพิ่มได้ที่ gurutourza.blogspot.com



 
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คอลัมนิสต์ท่องเที่ยว/การบิน
และเจ้าของรายการข่าวเสาร์-อาทิตย์ FM 97.0 MHz.


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai