แอตต้าชูไทยสปริงบอร์ดอาเซียน-บินไทยชะลอซื้อเครื่องบินปี60

ไทยเพิ่มสปริงบอร์ดโกยทัวร์อาเซียนปี60
เอกชนดันสุดตัวSingle Entry VISA
KPGคว้า2รางวัลศักดิ์ศรีธุรกิจไทยปีระกา
ทอท.คว้ายอดเยี่ยมSET Awards2016
ททท.โหม4งานโกยท่องเที่ยว2.77ล้านล้าน

สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2560  เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย” FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” กับข่าวความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ

ช่วงแรกเวลา 11.15 น.

มิ่งขวัญ เมธเมาลี รองประธานด้านการตลาด
สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า)

“คุณมิ่งขวัญ เมธเมาลี” อุปนายกทางด้านการตลาดสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA-แอตต้า) ได้เดินทางไปร่วมอาเซียน Tourism Forum 2017 ที่ผ่านมา โดยจะรณรงค์ให้สมาชิกบริษัทตัวแทนการขายตลาดต่างประเทศเที่ยวเมืองไทย ได้วางแผนในปี 2560 ร่วมกันทำเส้นทางเชื่อมโยงด้วยการใช้ประเทศไทยเป็นสปริงบอร์ดการท่องเที่ยวเข้ากับประเทศกลุ่มอาเซียน อีกทั้งยังเป็นคณะกรรมการในสมาคม ASEANTA ด้วยก็จะใช้เวทีนี้ส่งเสริมด้วย ปีระกานี้ได้ทำแคมเปญ 50 Years Visit ASEAN ทางสมาชิกแอตต้าในฐานะผู้ทำธุรกิจอินบาวนด์ได้ขยายโปรแกรมท่องเที่ยวใหม่ด้วยการเชื่อมการเดินทางท่องเที่ยวมากกว่า 2 ประเทศขึ้นไป

แต่ปีนี้ครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์อาเซียน ผู้ประกอบการภาคเอกชนของประเทศสมาชิกจึงได้รับมอบหมายให้ทำโปรแกรมท่องเที่ยวเชื่อมโยงกันมากกว่า 3 ประเทศขึ้นไป รวมทั้งแอตต้าของไทยด้วย ฉะนั้นแอตต้าจึงเร่งส่งเสริมด้วยเช่นกัน ตามข้อตกลงหลัก ๆ ที่อาเซียนกำลังเพิ่มความเข้มข้นในการร่วมกันทำมี 3 เรื่อง คือ

1.ผลักดันการทำ One Single Entry VISA ที่กำลังอยู่ในกระบวนการให้เกิดเป็นรูปธรรมในรัฐบาลของแต่ละประเทศ ปัจจุบันยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

2.เอกชนลงมือทำโปรแกรมการขายเชื่อมโยงมากกว่า 3 ประเทศขึ้นไป ซึ่งแอตต้าได้กระตุ้นสมาชิกทำเรื่องนี้แล้ว เชียงใหม่ กับ เมียนมา หลวงพระบาง สปป.ลาว หรือจะไป กัมพูชา ต่อเนื่องเป็นวงกลมได้ ภูเก็ต เข้าสิงคโปร์ ออกทางมาเลเซีย หรือจะทำให้มากกว่านั้นก็จะยิ่งมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น

3.สร้างกิจกรรมความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชนในไทยและอาเซียน ปลุกกำลังซื้อของตลาดระยะไกลจากทวีปอื่นเข้ามาท่องเที่ยวในอาเซียนเพิ่มขึ้นเป็นสองหลัก

เนื่องจากสถานการณ์แนวโน้มของ “ตลาดอาเซียน” ที่เดินทางภายในอาเซียนด้วยกันเองซึ่งมีเกือบ 600 ล้านคนนั้น เข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทยเป็นบวกเพิ่มขึ้นทุกปี ขยายมากขึ้นดูได้จากนักท่องเที่ยวผ่านแอตต้ายอดเติบโตกว่า 20 % ตอนนี้ “เวียดนาม” มาแรงแซงโค้งขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาเป็นมาเลเซีย หรือจีนที่ชะลอลงไปก็ได้อาเซียนมาเสริมทัพ

กลยุทธ์การเพิ่ม “รายได้จากนักท่องเที่ยวอาเซียนในประเทศไทย” แอตต้าเน้นเพิ่มความหลากหลายของสินค้าทางการท่องเที่ยวซึ่งขณะนี้เป็นค่านิยมของนักท่องเที่ยวหลายประเทศมองว่าไทยมีสินค้าที่หรูหรามากกว่าและมีความพร้อม ส่วนวัฒนธรรมของชาติอาเซียนคล้ายคลึงกัน เมื่ออีกหลายประเทศได้มากกว่าเที่ยวทะเลหรือธรรมชาติจะมี “ความคุ้มค่าเงิน” และได้พักผ่อนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะกลุ่มตลาดครอบครัวที่ชื่นชอบเดินทางด้วยความถี่บ่อย ๆ

สำหรับการทำความร่วมมือต่อไปที่แอตต้าจะผนึกกำลังกับภาครัฐเพื่อเตรียมความพร้อมที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงาน ASEAN TOURISM FORUM 2018 มีอยู่ 2 เรื่องหลัก ได้แก่

1.ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาทำระบบเก็บสถิติตามมาตรฐานสากล รวบรวมการเดินทางผ่านแดน (border) ทางบก ทางน้ำ จำนวนวันพัก ประเทศใดที่ได้รับความนิยมเข้าไปพักมากที่สุด จากนั้นก็จะนำมาตรฐานการเก็บบันทึกสถิติของ “สหประชาชาติด้านการท่องเที่ยว-UNWTO” มาใช้ เพื่อเป็นข้อมูลวิเคราะห์ทำการตลาดต่อไป

2.One Single Entry VISA จะทดลองนำร่องทำเรื่องแรกก่อนนั้นคือ การจัดทำประกันภัยการเดินทางท่องเที่ยวอาเซียน แต่ก่อนจะทำเฉพาะประเทศ แต่ต่อไปจะซื้อประเทศเดียวคุ้มครองการเดินทางได้ทั้ง 10 ประเทศ

สำหรับการขับเคลื่อนและปลดล็อกอุปสรรคที่ทำให้การเดินหน้า One Single Entry VISA ของอาเซียนไปได้ค่อนข้างช้าทั้ง ๆ ที่เคยหารือกันมานานแล้ว ก็เพราะมีบางประเทศยังต้องการเฝ้าระวัง “มาตรการความมั่นคงและปลอดภัย” มากเป็นพิเศษ จึงต้องใช้เวลาในเรื่องความร่วมมือดังกล่าว จึงขอฝากให้ทุกฝ่ายช่วยกันคิดและทำ

เป้าหมายสำคัญในการทำให้ “ประเทศไทย” เป็น “สปริงบอร์ด” ของอาเซียนนั้น ต้องใช้ศักยภาพของไทยซึ่งเป็นศูนย์กลางเครือข่ายเส้นทางบิน รวมทั้งการเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวเรือสำราญ และความรู้ทางด้านบริการ ไทยเป็นแนวหน้าของสมาชิกอาเซียน ต้องใช้สิ่งเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์ในการเป็นสปริงบอร์ดของอาเซียนได้อย่างแน่นอน

ส่วนแอตต้าซึ่งมีเครือข่ายการแป็นกับสมาคมท่องเที่ยวเอกชนในมาเลเซีย สิงคโปร์ สามารถแลกเปลี่ยนความร่วมมือพัฒนาการตลาดร่วมกันได้ตลอด อีกทั้งในปี 2561 ไทยจะเป็นเจ้าภาพ ATF 2018 แอตต้าในฐานะองค์กรผู้นำภาคเอกชนท่องเที่ยวก็ต้องเตรียมในหลายด้าน เพื่อประชุมป้องกันปัญหาต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความพร้อมในการดูแลนักท่องเที่ยวจากนานาประเทศได้รับความสะดวกทุก ๆ ด้าน เพิ่มรายได้และกระจายสู่ชุมชนทั่วประเทศ

ปัจจุบันสมาชิกแอตต้ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเป็นกรุ๊ปทัวร์ใช้บริการเดินทางเข้าเมืองไทยกว่า 5.5 ล้านคน มาจากอาเซียนประมาณ 4-5 แสนคน เวียดนามเกือบ 2 แสนคน ไทยจึงเป็นผู้นำ แนวโน้มตอนนี้ยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางอิสระเข้ามาจากหลากหลายช่องทางซึ่งมีจำนวนมากกว่า 2-3 เท่าของแอตต้า

สินค้าหลัก ๆ  ที่อาเซียนต้องการคือ ช้อปปิ้ง สวนสนุก บางประเทศในกลุ่ม CLMV จะนิยมมาเที่ยวเมืองไทยเพื่อยืนยันว่าเป็นผู้มีฐานะสามารถพาครอบครัวมาเที่ยวได้ ส่วนทะเลก็สามารถบรรจุขายอาหารทะเลได้ เรื่อยไปจนถึงเที่ยวยามค่ำคืน ทั้งหมดเป็นไฮไลต์การท่องเที่ยวของไทยที่ครองใจตลาดอาเซียนอยู่จนถึงทุกวันนี้และอนาคตแอตต้าก็จะเพิ่มสินค้าให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นตามเทรนด์ของนักท่องเที่ยวทุกประเทศ

เพื่อทำให้ “ประเทศไทย” รักษาแชมป์ความเป็น “ผู้นำตลาดอาเซียน” อย่างยั่งยืน

ฟังข่าวช่วงแรก

ข่าวที่ 1 “KPGกวาด2รางวัลศักดิ์ศรีรับปีระกา”

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ คว้า 2 รางวัลแห่งศักดิ์ศรีต้อนรับปีระกา 2560 รางวัลแรก จากสองพี่น้อง “อัยยวัฒน์ – อภิเชษฐ์” ศรีวัฒนประภา นำทีมคิง เพาเวอร์ คว้าแชมป์รายการ “ไทยแลนด์ โปโล โกลด์ คัพ พรีเซนต์เต็ด บาย เอสซีบี แอนด์ คร๊อคฟอร์ด” สำหรับนัดชิงชนะเลิศนั้นมี เจ้าชายเจฟรี  โบลเกียห์ (HRH Prince Jefri Bolkiah) พระอนุชาในกษัตริย์แห่งบรูไนทรงเข้าร่วมการแข่งขัน โดยมี พลตรีจารึก อารีราชการัณย์ รองประธานกรรมการและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ร่วมมอบถ้วยแชมป์แสดงความยินดี ณ สนาม  วีเอส สปอร์ตคลับ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

รางวัลที่ 2 วิทยา สินทราพรรณทร รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์  เป็นตัวแทนรับมอบรางวัล Superbrands 2016 จาก มร.ไมค์ อิงลิช (ขวา) ผู้อำนวยการสถาบันซุปเปอร์แบรนด์ แห่งประเทศอังกฤษ ให้เป็นสุดยอดแบรนด์ในธุรกิจค้าปลีกของไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ตอกย้ำความสำเร็จในการสร้างแบรนด์คิง เพาเวอร์ ในเป็นที่ยอมรับในหมู่นักเดินทางชาวไทยและต่างประเทศ ณ ลานไลฟ์สไตล์ฮออลล์ สยามพารากอน

ข่าวที่2 “ทอท.ปลื้มรางวัลSET Awards2016”

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทอท.ได้รับรางวัลดีเด่น ประเภทรางวัลบริษัทจดทะเบียนด้านผลการดำเนินงาน (Outstanding Company Performance Awards) ประจำปี 2559 และเป็นบริษัทหนึ่งที่เข้าชิงรางวัลยอดเยี่ยม ประเภทรางวัลบริษัทจดทะเบียนด้านผลการดำเนินงาน (Best Company Performance Awards) ประจำปี 2559 จากการประกาศผลในพิธีมอบรางวัล SET Awards 2016 เมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2560 ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

โดย ทอท.ได้รับรางวัล “ยอดเยี่ยม” ประเภทรางวัลบริษัทจดทะเบียนด้านผลการดำเนินงาน (Best Company Performance Awards) ประจำปี 2559 ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงกว่า 100,000 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานปี 2558 ด้านต่างๆ ได้แก่ การพิจารณาตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่นำข้อมูลเกี่ยวกับผลประกอบการทางธุรกิจ การกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมทั้งการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในประเด็นการเปิดเผยข้อมูล และคุณภาพของงบการเงิน

ข่าวที่ 3 “ททท.โหมตลอดม.ค.4งานดูด2.77ล้านล้าน”

“นายยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)อธิบายว่าตลอดเดือนมกราคม 2560 ได้เดินหน้าทำกิจกรรในและต่างประเทศ 4 งานใหญ่ ประกอบด้วย งานที่ 1 การนำผู้บริหารและภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากไทยเข้าร่วมงาน ASEAN TOURISM FORUM 2017 (ATF) ระหว่างวันที่ 16-20 มกราคม 2560 ณ ประเทศ สิงคโปร์ พร้อมทั้งได้ประกาศเรื่องไทยจะเป็นรับภาพจัดงาน ATF 2018 ระหว่างวันที่ 22-26 มกราคม 2561 ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้เชิญชวนสมาชิกกลุ่มประเทศอาเซียนเดินทางเข้ามาร่วมสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวสไตล์ลึกซึ้งหรือ Local Experienceภายใต้ธีม “วิถีไทยวิถีล้านนา” และการร่วมมือกันวางแผนการท่องเที่ยวเชื่อมโยงไทย-อาเซียน เพิ่มรายได้ให้สมาชิกทุกประเทศเติบโตเฉลี่ยอีกปีละ 6-8 %

ตามสถิติปี 2559 นักท่องเที่ยวตลาดอาเซียนเข้ามาใช้จ่ายเงินในไทยรวมกว่า 2.61 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 13 % ส่วนปี 2560 ททท.ตั้งเป้าจะเพิ่มรายได้ขึ้นอีก 10 % ด้วยกลยุทธ์ขยายฐานนักท่องเที่ยวอิสระ (F.I.T.) เดินทางตลอดทั้งปีด้วยจำนวนความถี่มากขึ้น ควบคู่กับการขยายจุดขายไทยสู่เพื่อนบ้าน ผนวกกับการสร้างเครือข่ายภาคีพันธมิตรร่วมกับสายการบินระหว่างประเทศไปพร้อม ๆ กัน

งานที่ 2 ผนวกรวมจัดมหกรรม 2 งานใหญ่ไว้ในช่วงเดียวกันคือ “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2560-ตรุษจีนวิถีไทยเก๋ไก๋ ปีระกา” ระหว่างวันที่ 25-29 มกราคม 2560 ณ สวนลุมพินี โดยได้ยกของดีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ วัฒนธรรมประเพณี อาหารถิ่น สินค้าโอท็อป และนิทรรศการความรู้ด้านการท่องเที่ยวเทรนด์ใหม่ๆ เรื่อยไปจนถึงนวัตกรรมทางเทคโนโลยีบริการท่องเที่ยว จากทั่วประเทศ 5 ภูมิภาค 77 จังหวัด มาให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาชม ช้อป ชิม แชร์ ตลอด 5 วัน สามารถสร้างรายได้หมุนเวียนกระจายสู่ชุมชนราว 400 ล้านบาท

งานที่ 3 ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสายการบินนานาชาติ 3 สายการบิน ได้แก่ สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส อีวีเอแอร์ (ไต้หวัน) และสายการบินเอทิฮัด (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ผนึกกลยุทธ์กระตุ้นผู้โดยสารและนักเดินทางจากทั่วโลกเข้าเมืองไทยทั้งจากอาเซียน ทวีปไกลแถบอเมริกา และสหภาพยุโรป ตะวันออกกลาง เข้ามาใช้จ่ายเงินในไทยตลอดปีนี้ให้ได้เกือบ 2 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ “ทอท.” รายงานถึงเป้าหมายปี 2560 จะมีผู้โดยสารเดินทางผ่านเข้า-ออก สนามบินนานาชาติที่อยู่ในความดูแลทั้ง 6 แห่ง คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต หาดใหญ่ เชียงใหม่   แม่ฟ้าหลวงเชียงราย จำนวนรวมมากกว่า 120 ล้านคน จึงนับเป็นสัญญาณที่ดีทางด้านการสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศจะเติบโตไปในทิศทางเดียวกันกับที่ ททท.ประเมินสถานการณ์ไว้

งานที่ 4 เปิดหลักสูตร “หลักสูตรการบริหารการท่องเที่ยวสำหรับผู้บริหารระดับสูง" Tourism Management Program  for Executives :TME” รุ่นที่ 1 เป็นครั้งแรกของ ททท.ในรอบ 57 ปี ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์-14 มิถุนายน 2560 โดย ททท.ได้คัดเลือกผู้บริหารภาครัฐ เอกชน สื่อมวลชน จำนวน 88 คน นำประสบการณ์มาเพิ่มศักยภาพทั้งทางด้านทฤษฎีและปฏิบัติเพื่อสร้างโมเดลยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระดับชุมชน จังหวัด คลัสเตอร์ (กลุ่มจังหวัด) และประเทศ แล้วนำแนวคิดดังกล่าวเสนอรัฐบาลเพื่อนำไปปรับใช้หรือบรรจุในแผนยุทธศาสตร์อนาคต 5-10 ปีข้างหน้าต่อไป

ข่าวที่ 4 “สมาชิกบางจากรับฟรี2รายการ”

บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้มอบสิทธิให้สมาชิกบัตรจากได้ใช้บริการที่ ร้าน Mister Donut – 28 กพ. 60 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด โดยใช้คะแนนจากบัตรบางจาก 30 คะแนน รับฟรี โดนัท 2 ชิ้น (ชิ้นละไม่เกิน 15 บาท) เมื่อซื้อโดนัทราคาปกติ 6 ชิ้น ขึ้นไป (ชิ้นละ 15 บาทขึ้นไป)  วิธีรับสิทธิ์กด*766*78*11*หมายเลขบัตร16หลัก#แล้วโทรออก พร้อมทั้งแสดงรหัสก่อนการรับสิทธิ์ สามารถใช้ได้ที่ร้านมิสเตอร์ โดนัท ทุกสาขา ยกเว้นสาขาสุวรรณภูมิ, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช, สยามพารากอน, บิ๊กซี สมุย และ เซ็นทรัลเฟสติวัล สมุย ซึ่งแต่ละเดือนจัดไว้ให้ 2,000 สิทธิ์

            อีกรายการคือ ซื้อ 1  แถม 1 ที่ Wawa Cha ระหว่างวันนี้-31 มีนาคม นี้ เมื่อซื้อเบอร์รี่ โยเกิร์ต ฟิต รับฟรีชาเขียวจัสมิน ขนาด 22 ออนซ์ 1 แก้ว ได้ที่ วาวา ชา ทั้ง 9 สาขา ดูรายละเอียดใน www.wawacha

ข่าวที่ 5 “ททท.ภาคกลางบูมขายอีก3งาน15-19กพ.”

นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้วางกลยุทธ์กระตุ้นตลาดวันธรรมดานาเที่ยวและเที่ยวภาคกลางในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2560 นี้ ด้วยการเตรียมเข้างานส่งเสริมการขายในงานเดียวกัน 3 โครงการ ได้แก่  1.เทศกาล"เที่ยวเมืองต้องห้ามพลาด Plus 5 ภาค" 2.Luxperience@ภาคกลาง 3.เที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก ระหว่างวันที่ 15-19 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 10.00-21.00 น. ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  

ภายในงาน เทศกาล"เที่ยวเมืองต้องห้ามพลาด Plus 5 ภาค" บริเวณโซน A  ททท. ได้ระดมความร่วมมือกับผู้ประกอบการนำแพ็คเกจท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ สินค้า OTOP และอาหารถิ่นทั่วไทย ฯลฯ มานำเสนออีกครั้งของเมืองต้องห้ามพลาด Plus  (24 จังหวัด) ได้แก่ สมุทรสงคราม + นครปฐม , ราชบุรี + สุพรรณบุรี , ลำปาง + ลำพูน , น่าน +  แพร่ , เพชรบูรณ์ + พิษณุโลก , เลย + ชัยภูมิ , บุรีรัมย์ + สุรินทร์ , จันทบุรี + สระแก้ว , ตราด + ระยอง , ชุมพร + ระนอง , ตรัง + สตูล , นครศรีธรรมราช + พัทลุง) สายการบิน&ตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ  การแสดงศิลปวัฒนธรรม 5 ภาค มุมสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวช่วยภัยน้ำท่วมภาคใต้ การให้บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวไทย& ข้อมูลข่าวสาร"70เส้นทางตามรอยพระบาท" ตลอดจนเล่นเกมส์ลุ้นรางวัลของที่ระลึกต่างๆ มากมายจาก ททท. ทุกๆ 1 ชั่วโมง

 

ส่วน "Luxperience@ภาคกลาง" ในโซน A อีกเช่นกันพบกับสินค้าและบริการท่องเที่วหรูระดับไฮเอนด์จากโซนภาคกลาง ที่มีทั้งช้อปปิ้งกันสินค้าโปรโมชั่นสุดพิเศษ เช่นโรงแรม ที่พัก สปา สนามกอล์ฟ แพ็คเกจทัวร์ แหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ

ช่วงที่ 2 เวลา 11.45 น. ตามรอยพ่อไปยังโบราณสถานใกล้กรุงเทพฯ

@ตามรอย่พ่อไป...วัดพระแท่นดงรังวรวิหาร จ.กาญจนบุรี

 

วัดพระแท่นดงรังวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ ม.10 ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี คือ “พระอารามหลวงชั้นตรี ที่ทรงคุณค่า ทางประวัติศาสตร์ ชาติไทย " เป็นวัดโบราณที่ไม่มี การบันทึกไว้ว่าสร้างตั้งแต่ยุคใด แต่เชื่อกันว่าเก่าแก่ นับสองร้อยกว่าปี โดยกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็น โบราณสถานของชาติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 รวมทั้งยังได้รับ พระกรุณาโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยกให้เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515

          ลักษณะเป็น พระแท่นบรรทมหินแท่งทึบหน้าลาดคล้ายเตียงนอน ด้านล่างเป็นปูนปั้นรองแท่น มีหินดูคล้ายหมอน ทุกปีประมาณกลางเดือนเมษายนหรือช่วงสงกรานต์ของทุกปีจะจัดงานนมัสการอย่างยิ่งใหญ่

 

หลังจากกราบไหว้พระประธานที่อุโบสถใหญ่แล้ว ใกล้กันคือวิหารพระแท่น ที่มีโค้งประตูตกแต่งอย่างงดงามด้วยการใช้เครื่องปั้นดินเผามาประดับผนัง ภายในเป็นที่ประดิษฐานของพระแท่น (เตียงนอน) สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นพระแท่น ที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน นอกจากนี้ ที่นี่ ยังเป็นที่ประดิษฐานของ รอยพระพุทธบาทจำลอง ไม้ประดับมุก รอยพระบาทโบราณที่สลักลายมงคล 108 ประการ ที่สร้างตั้งแต่รัชสมัยพระเจ้าบรมโกศแห่งกรุงศรีอยุธยา

ด้วยพื้นที่กว้างใหญ่ ตั้งอยู่ในพื้นที่วนอุทยานที่อุดม สมบูรณ์ไปด้วยป่าเต็งรังธรรมชาติ รอบบริเวณนั้นมีความหลากหลายของสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช นักท่องเที่ยวจึงได้รับอากาศบริสุทธิ์สดชื่น พร้อมเก็บเกี่ยวประสบการณ์ดีๆ จากโบราณสถานใจกลางบรรยากาศร่มเย็นของป่าใหญ่แห่งนี้

            ทริปตัวอย่าง 2 วัน 1 คืนเส้นทางท่องเที่ยว จ.กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี

วันแรก  ช่วงเช้า วัดพระแท่นดงรังวรวิหาร วัดโบราณที่รัชกาลที่ 5 ทรงเคยเสด็จประพาส และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จพระราชดำเนินถึง 2 ครั้ง สุสานสัมพันธมิตร รำลึกถึงทหารผู้วายชนม์จากการก่อสร้างทางรถไฟสายมรณะ และสะพานข้ามแม่น้ำแคว ช่วงบ่าย พร้อมมิตร ฟิล์ม สตูดิโอ สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

 

วันที่สอง  ช่วงเช้า ชมพิพิธภัณฑสถานแห่งความทรงจำ (ช่องเขาขาด) ชมความงดงามของทางรถไฟสายมรณะและ สักการะพระพุทธรูป ณ ถ้ำกระแซ อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ ชมสถาปัตยกรรมแบบขอมอายุกว่า 800 ปี ช่วงบ่าย แวะร้านของฝากชื่อดังในเขตอำเภอท่าม่วงสักการะองค์พระปฐมเจดีย์ เลือกซื้ออาหาร คาวหวาน ณ ตลาดดอหวาย

 

สถานที่เที่ยวห้ามพลาด  ได้แก่ พระอุโบสถ กราบไหว้พระประธาน และชื่นชมจิตรกรรมฝาผนังภาพพระพุทธประวัติโดยรอบบ่อบ้วนพระโอษฐ์ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่มีน้ำตลอดทั้งปี วิหารพระอานนท์ ที่ประดิษฐานของรูปหล่อพระอานนท์

กิจกรรมห้ามพลาด นั่นคือ ต้องเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน ที่จัดแสดงวัตถุโบราณล้ำค่า ที่มารวมกันอยู่ที่นี่ กราบไหว้สักการะหลวงพ่อโต ที่พระวิหารพระสังกัจจายน์

สนใจไปเที่ยว วัดพระแท่นดงรังวรวิหาร โทร. 08-9820-0992, 09-8264-7737

 

การเดินทาง ออกจากตัวเมืองกาญจนบุรีวิ่ง เส้นทางหลวงหมายเลข 324 มุ่งหน้า ถนนอู่ทอง ตรงไปประมาณ 23 กม. เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหมายเลข 346 วิ่งมาอีกประมาณ14.5 กม. จะพบ จุดตรวจพระแท่น ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ ถนนหมายเลข 3081 วัดพระแท่นดงรังวรวิหารจะตั้งอยู่ทางขวามือ

 @กินพริกเพื่อสุขภาพช่วยอารมณ์ดี

            อาหารรสเผ็ดเกี่ยวกับ “พริก” เป็นเรื่องราวดีที่หลายคนที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเหมาะกับคนธาตุไฟผู้มีความกระตือรือร้นและมีความเป็นผู้นำสูงได้แก่ ชาวราศีเมษ ชาวราศีสิงห์ เเละชาวราศีธนู เพราะการรับประทานพริกจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นซึ่งจะช่วยในการเผาผลาญทำให้ไขมันไม่จับตัวกันและทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น เหมาะสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก ลดความดันและลดการอุดตันของหลอด

การกินพริกเป็นประจำจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นลดคอเลสเตอรอล ซึ่งในพริกแคปไซซินช่วยป้องกันไม่ให้ตับสร้างคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีแต่ส่งเสริมสร้างคอเลสเตอรอลชนิดดีทำให้อารมณ์ดี

แคปไซซินช่วยกระตุ้นสมองส่วนกลางให้หลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารสร้างความสุขทำให้เราอารมณ์ดีมากขึ้นถ้ากินพริกต้านมะเร็ง

เจ้าแคปไซซินตัวเดิมนี่เเหละมีสารที่ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็ง แต่ไม่ทำลายเซลล์ดีในร่างกาย 5 ข้อที่บอกมานี้เป็นเพียงแค่ประโยชน์บางส่วนของพริก

การกินเผ็ดนอกจากจะทำ ให้อาหารมีรสชาติแล้ว ถ้าหากกินอย่างพอดีก็ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย ถ้ากินพริกแล้วช่วยต้านโรคภัยไข้เจ็บ แถมยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงเเบบนี้ จะไม่เรียกว่าช่วยเสริมดวงสุขภาพได้

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “รัฐใช้8.9แสนล้านลุยสร้างอินฟราฯปี60”

นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม กล่าวว่า โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เพิ่มเติมอีก 36 โครงการ ใช้เม็ดเงินลงทุนกว่า 8.95 แสนล้านบาท จะอยู่ในแผนปฏิบัติการ ประกอบด้วย รถไฟรางคู่ 10 เส้นทาง รถไฟชานเมือง 2 เส้นทาง รถไฟฟ้าขนส่งมวลชน 6 เส้นทาง ทางหลวงพิเศษ-ชนบท 5 เส้นทาง โครงการสิ่งอำนวยความสะดวกทางถนน 5 โครงการ เช่น จุดพักรถบรรทุก โครงการจัดซื้อรถโดยสารสาธารณะที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 200 คัน ระบบตั๋วร่วม โครงการลงทุนทางน้ำ และโครงการลงทุนทางอากาศ ภายในปีนี้ทำไปบ้างแล้วบางโครงการเริ่มลงนามก่อสร้างได้.

ทางด้านนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง กล่าวว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นัดแรก ปีงบประมาณ 2560 กระทรวงคมนาคมได้เสนอโครงการลงทุนขนาดใหญ่ 28 โครงการ จากเดิมปี 2559 มีเพียง 20 โครงการ วงเงิน 1.4 ล้านล้านบาท ส่งผลให้มีเม็ดเงินลงทุนในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้นเป็น 2.29 ล้านล้านบาท

ข่าวที่สอง “พิษRRทำบอร์ดชะลอบินไทยซื้อฝูงบินใหม่40ลำ”

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า หลังเหตุการณ์โรลส์รอยซ์ (RR) กับการบินไทย กรณีติดสินบนการจัดซื้อเครื่องยนต์ติดตั้งในฝูงบินการบินไทย ระหว่างปี 2535-2548 ส่งผลกระทบที่ทำให้คณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ต้องชะลอการพิจารณาแผนจัดซื้อจัดหาฝูงบินใหม่จำนวนกว่า 40 ลำตามยุทธศาสตร์ 10 ปี ระหว่างปี 2560-2569  ซึ่งเป็นแผนเกี่ยวกับปฏิรูปการบินไทยขั้นที่3 เพื่อให้องค์กรเติบโตอกำไรต่อเนื่องในระยะยาว

สำหรับแผนยุทธศาสตร์ 10 ปีการบินไทย ได้เสนอที่ประชุมบอร์ดต่อเนื่องมาแล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับการพิจารณาทั้ง 2 ครั้ง ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 จากนั้นในเดือนมกราคม 2560 เบื้องต้นมีรายงานว่าที่ประชุมบอร์ดจัดลำดับการพิจารณาเรื่องแผนสร้างรายได้กับแผนการจัดหาเงินทุนก่อน ขั้นตอนต่อจากนั้นจึงจะพิจารณาจำนวนฝูงบินใหม่ที่ควรจะจัดหาเข้ามาเพิ่มสำหรับขยายธุรกิจในอนาคต

 

เพราะบอร์ดเองก็เกรงจะเป็นภาระหนี้สินพอกพูนการบินไทยเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ประเมินแล้วจะมีภาระหนี้จากการซื้อฝูงบินใหม่ไม่ต่ำกว่า 2.6 แสนล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยปีละกว่า 5,000 ล้านบาท

ข่าวที่สาม “ดันอู่ตะเภาเขตเศรษฐกิจพิเศษปั๊มเงิน2ล้านล้าน”

นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ภายในเดือนมีนาคม 2560เตรียมจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณาให้อู่ตะเภาเป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ภายหลังจากลงพื้นที่ไปเมื่อเร็ว ๆ พร้อมทั้งได้ร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ติดตามความคืบหน้าแผนปฏิบัติอีอีซี 5 โครงการหลัก ได้แก่

 สนามบินอู่ตะเภา รถไฟความเร็วสูงและรถไฟรางคู่ ท่าเรือแหลมฉบัง การพัฒนาเมืองใหม่ การลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ อุตสาหกรรมเคมีชีวภาพ รถยนต์ไฟฟ้า ที่ล่าสุดมีการจัดทึมนำบริษัทชั้นนำต่างๆ มาลงทุนในประเทศไทยเพื่อเร่งรัดให้เกิดการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้าจริงโดยเร็ว ทั้งการประกอบรถยนต์ การผลิตชิ้นส่นและแบตเตอรี่

โดยได้คาดการณ์อีก 5 ปีข้างหน้าแผนแม่บทการพัฒนาดังกล่าวจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้ 2 ล้านล้านบาท  ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างน้อยปีละ 5% จากปัจจุบัน 3% ดึงดูดนักท่องเทียวต่างชาติเพิ่มสู่สนามบินอู่ตะเภาได้ปีละ 10 ล้านคนขึ้นไป คิดเป็นรายได้ที่เพิ่มไม่น้อยกว่าปีละ 4.5 แสนล้านบาท ช่วยสร้างฐานภาษีใหม่ไม่น้อยกว่าปีละ 1 แสนล้านบาท ลดต้นทุนระบบโลจิสติกส์ได้อีกปีละ 4 แสนล้านบาท เกิดการจ้างงาน 1 แสนคน  

 พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.

ติดตามฟังรายการย้อนหลังเข้าไปที่ www.facebook.com/rauydauykhao

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คอลัมนิสต์ :การบิน/ท่องเที่ยว
 และเจ้าของรายการ "รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์" สวท.FM97.0 MHz.