ททท.ระยองรุก3More Funปี62ดันรายได้ฌตเพิ่ม10% เล่นใหญ่วิวาห์ปู กินทุเรียนก่อนใคร เทรดโชว์ข้ามภาค-ชวนเที่ยวแล่งใหม่ตลาดริมเขื่อนชุมชนยายา ทุ่งธรรมนา สามพราน
ททท.ระยองรุก3More Funตลาดปี’62ดันยอดโต10%
เล่นใหญ่วิวาห์ปู-กินทุเรียนก่อนใคร-เทรดโชว์ข้ามภาค
คิงเพาเวอร์ประเดิมแจกสนาม/ลูกบอลท่าวังผา-50รร.
ททท.งัดหนังซีรีย์ชิงตลาดพรีเมี่ยมทัวร์ไทยGenX/Y
หนุนเที่ยวของดีอ่างทองเชื่อมโยงเส้นทางทัวร์ศาสนา
บางจากชวนเข้าปั๊มเติมดีเซลSลด1บ./ลิตรลดฝุ่นพิษ
จุฬาฯฝึกปกากะยอ “โป่งลึก-บางกลอย”ทำทัวร์ชุมชน
ชวนเที่ยวแห่งใหม่ตลาดยายชา-ทุ่งธรรมนา นครปฐม
ลุยลงมือทำ5วิธีฝึกจิตให้คิดบวกทำชีวิตยืนยาวจริงๆ
บางกอกแอร์บินใหม่2จุดเพิ่มความถี่1แห่งเริ่มมี.ค.นี้
งัด”แควนตัสแชนแนล”พลิกโฉมระบบจองตั๋วบินโลก
พูลแมนสุขุมวิทชวนฉลองวาเลนไทน์ใน 3 ร้านอร่อย
ททท.ทั่วไทยหนุนงานวิวาห์วาเลนไทน์บูมขาย5 ภาค
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าว #เที่ยวกับกู๋
ช่วงที่ 1 เจาะลึกภารกิจใหญ่ของ “อุทิศ ลิ่มสกุล” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง เปิดเกมบุกตลาดปี 2562 ด้วย 3 มหกรรม More Fun ระยอง รับปีหมูทอง 1.“วิวาห์ปูวาเลนไทน์” ชู CSR ปลุกกระแสการขายท่องเที่ยวเชื่อมโยงทั้งจังหวัด 10 เส้นทาง 10 กิจกรรม 2.จัดแคมเปญ “ปีนี้กินทุเรียนก่อนใคร ในระยอง” ตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.นี้ นำร่องไม่ต่ำกว่า 21 สวน และ 3.“รวมพลังเอกชนเดินสายเทรดโชว์ข้ามภาค” ดึงเม็ดเงินรายได้จากคนไทยและต่างชาติไหลมาเทมาถึงมือชาวระยองเพิ่มขึ้นให้ได้ตลอดทั้งปีไม่ต่ำกว่า 10 %
 |
| อุทิศ ลิ่มสกุล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง |
นายอุทิศ ลิ่มสกุล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง เปิดเผยว่า ได้วางกลยุทธ์ทำการตลาดดึงนักท่องเที่ยวเข้าสู่พื้นที่ระยองตลอดปี 2562 จะปลุกกระแสภายใต้ธีม More Fun เที่ยวอย่างสนุกสนานในจังหวัดที่สามารถเข้าถึงอย่างสะดวกไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล ใช้เวลาจากกรุงเทพฯ เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง และยังมีสามารถท่องเที่ยวข้ามภูมิภาคได้ โดยมีเที่ยวบินตรงแบบประจำ ไป-กลับ จากสนามบินอู่ตะเภา จากภาคใต้ คือ หาดใหญ่ ภูเก็ต สมุย ภาคอีสานจาก ขอนแก่น อุดรธานี สู่อู่ตะเภา จังหวัดละ 1 เที่ยวบิน ภาคเหนือ จากเชียงใหม่ มี 2 สายการบิน บริการทุกวัน ตามแผนกลยุทธ์เชิงรุกของ ททท.ที่วางไว้ตามกลยุทธ์ Strategic MOVE ภายใต้ธีม More Fun ในพื้นที่การตลาดท่องเที่ยวระยอง จะสื่อสารและส่งความสุขสนุกสนานไปยังนักท่องเที่ยวด้วยสินค้าซึ่งเป็นแม่เหล็กสำคัญ 6 หมวดหลัก ๆ ได้แก่
1.ท่องเที่ยวสวนผลไม้ 2.ชิมอาหารถิ่น 3.ท่องเที่ยววิถีชุมชน 4.เส้นทางท่องเที่ยวตามศาสตร์พระราชา อาทิ เขาไม้แก้ว อ่างเก็บน้ำดอกลาย 5.เส้นทางท่องเที่ยวเชิงศาสนา เช่น ท่านอนพระนอนตะแคงซ้าย วัดป่าประดู่ หลวงพ่อทิม วัดระหานไร่ 6.เส้นทางตามรอยสม็เด็จพระเจ้าตากสิน
สินค้าทั้งหมด ททท.ได้วางแผนที่จะนำเสนอเป็นแม่เหล็กทางการท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวสร้างรายได้กระจายถึงมือท้องถิ่นทั่วทั้งจังหวัดตลอดปี 2562
สำหรับ “กิจกรรมการท่องเที่ยว” นำโดยแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม “สวนผลไม้” เป็นสินค้าหลักของระยอง ปี 2562 มีข่าวดีที่นักท่องเที่ยวและบริษัทนำเที่ยวต่าง ๆ จะได้วางแผนมาสนุกสนานกับการกิน ซึ่ง ททท.เตรียมการสื่อสารที่จะเผยแพร่เป็นแคมเปญใหม่ออกไปคือ “ปีนี้กินทุเรียนก่อนใคร ในระยอง” หลังการประชุมร่วมกันกับทางเกษตรจังหวัด สมาคมท่องเที่ยวระยอง โรงแรมไทย ปี 2562 ทุเรียนระยองจะออกผลตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป ถือได้ว่าทุเรียนระยองให้ผลผลิตก่อนจังหวัดอื่น ๆ
ขณะนี้มีกลุ่มเจ้าของสวนผลไม้เบื้องต้นหารือกันไปแล้ว และจะประชุมกำหนดแนวทางอย่างชัดเจนกลางเดือนกุมภาพันธ์ นี้ แต่ก็มีสวนซึ่งพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ เป็นฐานเดิมจากปีที่ผ่านมามีไม่ต่ำกว่า 21 สวน แต่นักท่องเที่ยวจะไปหนาแน่นอยู่บริเวณเขายายดา อำเภอเมือง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่าง หาดแม่รำพึง หรือตัวเมืองระยอง ระยะห่างเพียง 10 กม. มีสวนผลไม้ที่จัดกิจกรรมให้บริการตลอดทั้งปี ได้แก่ สวนภัทราแลนด์ กับ สวนละไมซึ่งอยู่วังจันทน์
นักท่องเที่ยวที่ใช้เส้นทาง 344 บ้านบึง อำเภอแกลง- ระยอง ก็จะผ่านสวนนี้ และกลุ่มที่ไปไหว้หลวงปู่ทิม วัดระหานไร่ หรือเที่ยวเรือนจำเขาไม้แก้ว ก็แวะสวนภัทราแลนด์ได้ ส่วนสวนผลไม้ที่ให้บริการช่วงฤดูผลไม้ ระหว่างเมษายน-กรกฎาคม ของทุกปี บริเวณเขายายดา เช่น สวนเจ๊บุญชื่น สวนลุงทองใบ สวนผู้ใหญ่เสวก สวนแสงแดด สวนปาหนัน แต่ละสวนจะมีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวเช่นกัน สวนทุเรียนได้วางแผนภายใต้คอนเซ็ปต์ More Fun นักท่องเที่ยวจะมีส่วนเข้าไปร่วมเก็บเกี่ยวผลทุเรียนจากต้นได้เหมือนกัน หรือนักท่องเที่ยวสนใจเรียนรู้ตั้งแต่เริ่มเป็นตุ่มดอก สามารถเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ตอนนี้ ซึ่งจะเห็นลักษณะของดอกทุเรียน บางสวนก็เปิดให้ทำกิจกรรมด้วย
แต่ถ้าไม่สะดวกจะเดินทางมายังก็มีบริการ “สวนบ้านเรา” นักท่องเที่ยวสามารถสั่งซื้อทุเรียนผ่านช่องทางออนไลน์ส่งไปถึงบ้านให้รับประทานได้ นอกจากสวนทุเรียนแล้ว ยังแนะนำให้เดินทางท่องเที่ยว “สวนผลไม้สละ” ใน “สวนคุณพิชัย” ซึ่งมีการเปิดให้ทำ D.I.Y.ผสมเกสรดอกสละ เขียนชื่อตัวเองไว้ หลังจากนั้น 9 เดือน สละก็จะให้ผลผลิต สวนก็จะติดต่อสื่อสารกันไปยังนักท่องเที่ยวถึงความคืบหน้าเรื่องการเติบโตแต่ละช่วง แล้วเชิญชวนกลับมาเที่ยวเพื่อเก็บผลผลิตลูกที่เกิดจากการผสมเกสรไว้
กิจกรรมนี้สามารถช่วยเรื่อง CRM ได้เป็นอย่างดี ระหว่างสวนผลไม้ระยองกับนักท่องเที่ยว
ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ทางระยองจะมีกิจกรรมดี ๆ ถึงการทำ CSR ซึ่งเป็นไฮไลต์ ได้แก่ กิจกรรมไฮไลต์ต้อนรับเดือนแห่งความรัก คือ “แต่งงานปู” บริเวณสะพานรักษ์แสม อำเภอแกลง จ.ระยอง วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 จะจัดพิธีแต่งงานปู โดยทำกิมมิกนำ “ปูเจ้าบ่าว” มาจากเกาะแต อำเภอสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดย ททท.สำนักงานสมุย นำปูตัวผู้ซึ่งเป็นเจ้าบ่าวขึ้นเครื่องบินบางกอก แอร์เวย์ส จากสนามบินนานาชาติสมุย จำนวน 50 ตัว มาลงยังสนามบินอู่ตะเภา เดินทางเข้าสู่ระยอง แล้วมาทำ “พิธีสู่ขอปูเจ้าสาว” ที่สะพานรักษ์แสม โดยมีขบวนแห่ขันหมากทางน้ำ บรรยากาศแต่งงานปูจะทำทุกขั้นตอนเหมือนแต่งงานคู่บ่าวสาวของคน ในวันดังกล่าวจะมีกิจกรรมตั้งแต่ 9 โมงเช้าไปตลอดทั้งวัน วันที่ 15 กุมภาพันธ์ นี้
 |
| ททท..ระยอง ชวนนักท่องเที่ยวไปร่วมพิธีแต่งงานและรดน้ำสังข์ให้ปู๋เจ้าบ่าว-เจ้าสาว วันที่ 15 ก.พ.2562 ที่สะพานรักษ์แสม อ.แกลง จ.ระยอง แล้วไปเที่ยวเชื่อมโยง10จุด pre Wedding ทำ10กิจกรรมสื่อรัก |
สำหรับช่วง “พิธีแต่งงานปู สะพานรักษ์แสม” ระหว่างวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ นี้ มีบริการฟรีนั่งรถรางชมสถานที่ท่องเที่ยว แล้วพาไปทำซั้งเชือกสร้างบ้านปลา ทำอีแปะสร้างบ้านหอย ผสมเกสร แวะวิทยาลัยบ้านนอกเพื่อเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์ เป็นการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างการเรียนรู้วิถีท่องเที่ยวในระยอง ทาง ททท.ได้สร้างจุดขายเดือนแห่งความรักกุมภาพันธ์ปีนี้ ด้วยการเชื่อมโยงกิจกรรมนำเที่ยวในระยองนำเสนอความสุขสนุกสนานแก่นักท่องเที่ยวต่อเนื่องเพิ่มเข้าไป ประกอบด้วย
 |
| ทุ่งโปรงทอง สถานที่ถ่ายภาพ Pre Wedding ในระยอง |
อย่างแรก 10 สถานที่ถ่ายรูป Pre Wedding สำหรับคู่รักเตรียมแต่งงาน กับ 10 กิจกรรมการท่องเที่ยวของคู่รัก เมื่อมาถึงระยองต้องห้ามพลาดไปลงมือทดลองทำ ไฮไลต์สถานที่ซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปของคู่รัก 10 แห่ง ได้แก่ 1. บริเวณสวนพฤกษศาสตร์ระยอง ภายในสวนสวยงามเป็นแลมซ่าไซซ์ ของป่าเสม็ดขาวอายุมากกว่า 100 ปี บรรยากาศโรแมนติก (โทรล่วงหน้า 084-333-3926) 2. ลานหินขาว อยู่ระหว่างบ้านเพกับหาดแม่รำพึง ถ่ายรูปช่วงพระอาทิตย์ตกสวยงาม 3. Smile Plant สวนหม้อข้าวหม้อแกงลิงกว่า 400 สายพันธุ์ จะคัดเลือกหม้อข้าวหม้อแกงลิงที่เป็นรูปหัวใจมาไว้คู่รักได้ถ่ายรูปด้วย เปิดช่วงเสาร์-อาทิตย์ 4. ทุ่งโปรงทอง
5.จุดชมวิวท้ายเกาะเสม็ด6. ถนนยมจินดา 7.สะพานรักษ์แสม 8. อ่างเก็บน้ำดอกกราย 9. หอชมวิวเฉลิมพระเกียรติ ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำระยอง 10. จุดชมวิวภายในอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด โทร. 038-653-034
พร้อมทั้งดีไซน์กิจกรรมให้คู่รักไว้ด้วยถึง 10 กิจกรรม ได้แก่ 1.เขี่ยดอกสละในสวนคุณพิชัย และสวนยายดา-เจ๊บุญชื่น เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเตรียมผสมเกสรก่อนที่จะมีลูกหรือผลออกมา 2. ชิมอาหารถิ่นเมนูผักกะชับ นำเสนอให้คู่รักทั้ง 2 คน มีความรัก ความผูกพัน กระชับรักตลอดการใช้ชีวิตร่วมกัน 3. ทอเสื่อกระจูด เพื่อให้คู่รักถักทอความรักผ่านวัสดุพื้นบ้าน ทำเป็นผลิตภัณฑ์ของใช้ เช่น กระเป๋าถือ เสื่อ หมวก และเครื่องใช้ภายในบ้าน 4.ล่องเรือชมป่าเสม็ดพันปี ณ สวนพฤษศาสตร์ระยอง ให้รักยืนยาว 5. จับมือกันข้ามสะพานรักษ์แสม ทำให้รักมั่นคงเสมอต้นเสมอปลาย
 |
| ชวนคู่รักไปทำกิจกรรมเขี่ยเกสรดอกสละ ผลไม้ขึ้นชื่อที่ให้ออกลูกผลโดยใช้เวลา 9 เดือน |
6. ทำซั้งเชือกบ้านปลา ร่วมอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำให้อุดมสมบูรณ์ เสมือนการสร้างบ้านให้รากฐานชีวิตมั่นคง 7. ปล่อยปูแสมและปูดำ 8. ล่องเรือชมวิวปากน้ำระยอง 9. ทำเสื้อมัดย้อมโคลนทะเล 10.ล่องเรือชมป่าเสม็ดพันปี ณ สวนพฤษศาสตร์ระยอง ให้รักยืนยาว โดย ททท.ระยอง ได้เตรียมนำมามอบให้คู่รักทั่วไทยและนานาชาติ ที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวตลอดเดือนแห่งความรักและเดือนอื่น ๆ
นายอุทิศกล่าวว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวในระยองจะแบ่งตลาดเป็น 2 กลุ่ม คือ “กลุ่มแรก” ท่องเที่ยววันธรรมดา โดยมี กลุ่มองค์กร บริษัท ห้างร้าน ขนาดใหญ่ มาจัดประชุม สัมมนา จำนวนมากเลือกพักโรงแรมในเมืองเข้าพักอย่างหนาแน่น “กลุ่มที่ 2” ท่องเที่ยววันหยุดสุดสัปดาห์ วันหยุดต่อเนื่อง มักจะอยู่บริเวณตามชายหาดต่าง ๆ คึกคักมาก ทำให้โรงแรมริมทะเลจะมีอัตราการเข้าพักหนาแน่น สำหรับการเร่งขับเคลื่อนตลาดกระตุ้นการท่องเที่ยวเข้าสู่ระยอง
ปี 2562 โดยภาพรวมของ ททท.ตั้งไว้ทั้งการเพิ่มขึ้นของรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวแต่ละส่วนจะต้องทำเพิ่มขึ้นให้ได้ไม่ต่ำกว่า 10 % พื้นที่ระยองจะมีส่วนแบ่งตลาดนักท่องเที่ยวคนไทย 70 % ต่างชาติ 30 % ส่วนใหญ่เป็น จีน รัสเซีย มาเลเซีย เกาหลี ญี่ปุ่น เป็น TOP FIVE ของจังหวัดระยอง
ขณะเดียวกัน ททท.ระยอง ได้นำเอกชนท่องเที่ยวในพื้นที่ร่วมเดินสายไปกับทางพาณิชย์จังหวัดเพื่อทำ Trade Show ในประเทศตามภาคอื่น ๆ
ครั้งแรก ทำ ระยอง เทรด แฟร์ โดย ททท.ร่วมกับพาณิชย์จังหวัดระยอง นำเสนอสินค้าชุมชนต่าง ๆ ปี 2562 นำสินค้าท่องเที่ยวเข้าไปอยู่ในงาน ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2562 ไปจัดในจังหวัดพิษณุโลกมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดีด้วยการซื้อแพกเกจเที่ยวระยองทั้งจากกลุ่มตลาดคอร์ปอเรตและนักเดินทางท่องเที่ยวอิสระ (F.I.T.) มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 100 คน และยังมีกลุ่มรอตัดสินใจซื้อเพิ่มเติม
ครั้งที่ 2 ไปจัดในภาคอีสาน จังหวัดอุดรธานี ระหว่างวันที่ 1-3 กุมภาพันธ์ 2562 มีกรุ๊ปของโรงเรียน กับบริษัทนำเที่ยว จะตัดสินใจมาศึกษาดูงานควบคู่กับการท่องเที่ยว โดยจะผนวกการขายอาหารถิ่นเข้าไปด้วย สินค้ายอดนิยมคืออาหารทะเลกับผลไม้แปรรูป นักท่องเที่ยวภูมิภาคอื่น ๆ สนใจชิมและช้อปเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นมาก
ททท.สำนักงานระยองทุ่มทำการเชิงรุกทุกรูปแบบ เพื่อเพิ่มรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศ ร่วม More Fun ได้ทุกวันอย่างความมีความสุข สนุกสนาน ทั้งการท่องเที่ยวและใช้จ่ายเงินกระจายรายได้ถึงมือชุมชนทั่วทั้งระยองตลอดทั้งปี 2562
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ประเดิมแจกสนาม-ลูกบอลท่าวังผา50รร.เหนือ”
 |
| คุณเอมอร ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กับ ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา บุกไปจแกสนามฟุตบอลหญ้าเทียมคิง เพาเวอร์ ที่โรงเรียนท่าวังผา จ.น่าน พร้อมกับแจกลูกฟุตบอลให้โรงเรียนประถม มัธยม ภาคเหนืออีก 50 แห่ง |
นางเอมอร ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่าได้รับเกียรติจาก ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมลงพื้นที่ในพิธีส่งมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมให้แก่โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ที่ผ่านการคัดเลือกภายใต้โครงการ ‘100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย’ จากโปรเจ็กต์คืนประโยชน์สู่สังคม “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” ซึ่งมีความมุ่งมั่นพัฒนาเยาวชนไทยทั่วประเทศมีโอกาสเล่นฟุตบอลบนในสนามที่ดี ปลอดภัย และมีมาตรฐานระดับโลก ตั้งเป้าภายในปี 2565 จะสร้างสนามฟุตบอลให้โรงเรียนและชุมชนทั่วประเทศจนครบ 100 สนาม
ขณะนี้กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้ดำเนินโครงการสร้างและส่งมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมได้เกินกว่าครึ่งแล้ว โดยส่งเสริมเด็ก เยาวชน และชุมชนได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งเพื่อเป็นสนามฝึกซ้อม หรือเล่นช่วงเวลาว่าง และวันหยุด เสริมสร้างสุขภาพคนไทยแข็งแรง ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า โครงการ ‘100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย’ ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่ทุ่มเทสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียม 7 คน พื้นที่ 33 x 53 เมตร มอบให้เยาวชนเมืองน่านครั้งนี้ เป็นโครงการที่มีคุณค่าช่วยส่งเสริมเด็ก ๆ และคนในพื้นที่ได้รับโอกาสในการพัฒนาทักษะทางด้านกีฬาฟุตบอล โดยรวมกลุ่มกันเพื่อเล่นกีฬาของคนในชุมชนอันนำไปสู่การสร้างความรักสามัคคีและความเข้มแข็งในท้องถิ่นไปพร้อม ๆ กัน
ระหว่างส่งมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียม เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ณ ท่าวังผา จังหวัดน่าน นั้น กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้จัดไฮไลท์พิเศษ จัดการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษ ระหว่าง ทีมคิง เพาเวอร์ โดยมี 2 ดารารับเชิญนำโดย มาริโอ้ เมาเร่อ และอเล็กซ์ เรนเดลล์ กับทีมออลสตาร์ ท่าวังผา เป็นชุดเยาวชนโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคมที่มีนักเตะไฟแรงดวลแข้งด้วยอย่างสนุกสนาน
พร้อมกันนี้ยังได้มอบลูกฟุตบอลให้สถานศึกษาเขตพื้นที่ภาคเหนือรวม 50 แห่ง แบ่งเป็น โรงเรียนมัธยมศึกษา 30 แห่ง และโรงเรียนประถมศึกษาอีก 20 แห่ง รวมทั้งยังได้รับเกียรติจากนายวิบูรณ์ แววบัณฑิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ดร. นภาพร แสงนิล ผู้อำนวยการโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม จังหวัดน่าน และภาคีพันธมิตรทั่วจังหวัดน่านเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง
ส่วนนักเรียนจากโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคมจัดกิจกรรมต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยร่วมแสดงโชว์ตีกลองปูจา และฟ้อนล่องน่าน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวเมืองน่าน นำวัฒนธรรมอันดีงามแห่งล้านนามานำเสนอให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชม อีกทั้งยังสามารถขยายผลสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมเยือนด้วย ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้เดินหน้า โครงการ ‘100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย’ ต่อเนื่องมาตลอด 2 ปีเศษ โดยส่งมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมแล้วทั้งสิ้น 40 แห่ง ปี 2562 เตรียมส่งมอบทั่วประเทศครอบคลุมทุกภาคเพิ่มอีก 20 แห่ง
ข่าวที่ 2 “ททท.สร้างหนังโฆษณารุกโดเมสติกพรีเมี่ยมปี62”
นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้เดินหน้าเปิดทำแคมเปญเชิงรุก “Amazing Thailand Premium” เจาะตลาดในประเทศที่มีกำลังซื้อสูงกลุ่มพรีเมี่ยมทั้งเจนเอ็กซ์ เจนวาย ซึ่งเดิมเคยเลือกเที่ยวต่างประเทศเป็นหลัก ให้หันมาเที่ยวเมืองไทยในเชิงสร้างสรรค์ โดย ททท.พร้อมจะนำเสนอความพิเศษของแหล่งท่องเที่ยวมุมใหม่ ๆ นอกเหนือจากความหรูหราแล้วยังทำให้ครอบคลุมทั้ง 3 E คือ Excellent-ดีเป็นพิเศษ Experience-เพิ่มประสบการณ์ความสนุก และ Exclusive-มีความเฉพาะที่น่าสนใจ
ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ จึงร่วมกับพันธมิตรจัดทำภาพยนตร์ซีรี่ส์ในธีม “once in a life time” ภายใต้ชื่อ “Postcard the series” รวม 6 ตอน นำแสดงโดย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ กับ มิว นิษฐา นำร่องการท่องเที่ยวมุมใหม่ ๆ เบื้องต้น 3 เส้นทาง ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต อยุธยา-กรุงเทพฯ เลือกเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ตั้งเป้าสร้างแรงบันดาลให้นักเดินทางทั้ง 2 เจนลุกขึ้นมาเดินทางเที่ยวในประเทศตลอดทั้งปี รวมทั้ง ททท.เตรียมจัดแคมเปญย่อย “Where in the world?” ขยายผลการท่องเที่ยวมุมแปลกใหม่ซึ่งยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในกลุ่มคนไทยแต่สามารถมองหาได้ในประเทศของเรา
นายนพดลย้ำว่า แผนการเพิ่มความแรงตลาดในประเทศปี 2562 จะทำเชิงรุก4 เรื่อง ประกอบด้วย 1.เพิ่มความเข้มข้นตลาดโดยรวมทั้งหมด 2.เจาะตลาดกลุ่มเป้าหมายระดับพรีเมี่ยม 3.เพิ่มวันพักและการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่ที่มีความหลากหลายมากขึ้น 4.กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติในทุก ๆ สถานที่ เพื่อรักษาไว้ให้อยู่อย่างยั่งยืนตลอดไป
ข่าวที่ 3 “ททท.บิลต์ขายเที่ยวของดีอ่างทองเชื่อมทัวร์ศาสนา”
นางดวงใจ กาญธีรนนท์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ได้ดูแลพื้นที่ตลาดการท่องเที่ยว สุพรรณบุรี อ่างทอง ในช่วงตลอดเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จังหวัดอ่างทองได้กิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวภายใต้โครงการ “ท่องเที่ยวเกษตรและของดีเมืองอ่างทอง ครั้งที่ 7” ระหว่างวันนี้-14 ก.พ.นี้ ณ วัดขุนอินทประมูล
โดยได้นำผลิตภัณฑ์ชุมชนเป็นของดีของจังหวัดมาจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวที่เข้าชมงานตลอด 2 สัปดาห์นี้ ซึ่งมีเทศกาลไฮไลต์ตั้งแต่มหกรรมตรุษจีนต้อนรับปีใหม่ของจีน ต่อเนื่องมาถึงเทศกาลฉลองวันแห่งความรักวาเลนไทน์ 14 ก.พ. อีกทั้งนักท่องเที่ยวจะได้สร้างประสบการณ์เดินทางในอ่างทองกับสถานที่ท่องเที่ยว อะเมซิ่ง ไทยเท่...เมืองไทยสวยทุกที่ เท่ทุกเวลา มีให้เลือกอย่างหลากหลาย
โดยเฉพาะภายในบริเวณวัดขุนอินประมูล มีพระนอนยาวที่สุดในเมืองไทย ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากผู้คนมากราบไหว้ ขอพร เป็นประจำ
ส่วนเทศกาลวาเลนไทน์ก็จัดกิจกรรมงาน “อิ่มบุญ เติมรัก” เพื่อปลุกกระแสให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสความศักดิ์สิทธิ์ ความสวยงาม และกระจายรายได้ให้ถึงมือคนในชุมชน ไปพร้อม ๆ กัน
สำหรับอ่างทอง มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญได้รับความนิยมในเชิงการท่องเที่ยวเชิงศาสนาอย่าง “พระนอน วัดป่าโมก” มีหบวงพ่อสดองค์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกให้สักการะขอพร และก็มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอีกหลายแห่งด้วยกัน สอบถามเพิ่มที่ ททท.สำนักงานสุพรรณบุรี โทร.035-525-880, 035-525-867 หรือ www.tatsuphan.net
ข่าวที่ 4 “บางจากลดเพิ่ม1บาท/ลิตรเติมไฮดีเซลSลดควันพิษ”
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้จัดแคมเปญ ร่วมลดมลภาวะฝุ่นควัน บางจากไฮพรีเมี่ยมดีเซล S ลดพิเศษ 1 บาทต่อลิตร ระหว่างวันนี้ - 28 ก.พ. 2562 ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากทั่วประเทศกว่า 240 แห่ง เพื่อสนับสนุนนโยบายกระทรวงพลังงานในการส่งเสริมการใช้น้ำมันคุณภาพที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อช่วยลดปัญหามลภาวะฝุ่นควัน ด้วยการลดราคาพิเศษน้ำมันบางจากไฮพรีเมี่ยมดีเซล S
สำหรับบางจากไฮพรีเมี่ยมดีเซล S ซึ่งเป็นน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียม มาตรฐานระดับโลก EURO5 ที่มีค่าซีเทนสูงสุดถึง 70ผสมสารเพิ่มคุณภาพ Hi Active Cleansing ช่วยให้หัวฉีดสะอาดขึ้น แรงทุกอัตราเร่งเครื่องยนต์เผาไหม้สมบูรณ์ ลดมลภาวะฝุ่นควัน ลงจากราคาปกติ 1 บาทต่อลิตร
สำหรับผู้ที่เติมน้ำมันบางจากไฮพรีเมียมดีเซล S ครบ 700 บาท ยังได้รับน้ำดื่มขนาด 1.5 ลิตร ฟรี 2 ขวด มูลค่า 30 บาท รับได้ตั้งแต่วันนี้ - 30 เม.ย. 2562 หรือจนกว่าของจะหมด ส่วนสมาชิกบัตรบางจากรับไปได้ทันที คะแนนสะสมเพิ่ม 2 เท่า (มูลค่าส่วนลดสูงสุด 10 สต.ต่อลิตร)
ข่าวที่ 5 “จุฬาฯฝึกปกากะญอโป่งลึก-บางกลอยทำทัวร์ชุมชน”
ผศ.ดร.สุพรรณี บุญเพ็ง (อาจารย์ออฟ) อาจารย์ประจำคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรมหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ในฐานะ 1 ในผู้ดูแล“โครงการวิจัยและพัฒนาแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในชุมชนปะกาเกอะญอ บ้านโป่งลึก-บางกลอย เพชรบุรี บนพื้นฐานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” หลังจากรัฐบาลได้ประกาศจัดระเบียบการพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ส่งผลกระทบมาถึงชาวบ้านที่อยู่บนพื้นที่สูงชาวโป่งลึก-บางกลอย เพื่อป้องกันการบุกรุกผืนป่า จึงต้องวางกลยุทธ์ให้ชาวบ้านมาอยู่ในโซนนิ่งที่อุทยานจัดสรรให้อยู่ร่วมกับป่าโดยไม่เสียหายทั้งสองฝ่าย ด้วยการเดินหน้าสร้างงาน สร้างอาชีพ หาแหล่งน้ำทำการเกษตร ซึ่งมีต้นน้ำเพชรบุรี ต้องเพิ่มการใช้เครื่องสูบน้ำ นำระบบการติดตั้งพลังงานธรรมชาติจากแสงอาทิตย์ (solar cell) เข้ามาให้ชุมชน
จนกระทั่งชุมชนสามารถมีผลผลิตจากสวนกล้วยมาแปรรูปจำหน่าย มีกาแฟ ทุเรียน เพื่อให้ทุกครอบครัวมีกินมีใช้ พร้อมกับมีรายได้เสริมจากการขยายสู่ชุมชนท่องเที่ยว เพื่อให้เห็นถึงวิถีชีวิตชุมให้อยู่ร่วมกับป่าได้อย่างแท้จริง โดยมีสถานที่ท่องเที่ยววิถีชีวิตวัฒนธรรมซึ่งเป็นรากวัฒนธรรมของชาวปกากะญอแห่งเดียวในประเทศไทยที่อยู่ทางฝั่งจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมีความแตกต่างจากปกากะญอในพื้นที่อื่น ๆ
โดยเฉพาะ ความสามารถทางด้านการทำเครื่องจักรสาน การสร้างบ้านจากเรือนไม้ไผ่ โดยไม่ใช้ตะปูแต่ใช้หวายที่นำมาใช้เป็นอุปกรณ์ ภาชนะในครัวเรือน การมุงหลังคาด้วยใบไม้ป่าและหญ้าคา ขณะนี้ทางศูนย์บริการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในฐานะพี่เลี้ยงของชุมชนบ้านโป่งลึก-บางกลอย ได้สร้างเรือนไม้ในแบบ “พิพิธภัณฑ์และศูนย์การเรียนรู้วิถีชีวิตปกากะญอ บ้านโป่งลึก-บางกลอย” อาคารสร้างเสร็จเรียบร้อย เหลือแต่การออกแบบนำผลิตภัณฑ์ชุดแต่งกาย อุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือน มาจำลองจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใจถึงความเป็นอยู่ของคนในชุมชนอย่างแท้จริง
การพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนบ้านโป่งลึก-บางกลอย ตลอดการเตรียมความพร้อมนั้น จุฬาฯ และมูลนิธิปืเทองหลังพระ ได้สร้างการมีส่วนร่วมโดยเชิญชวนเครือข่ายผู้นำหมู่บ้านเข้ามาทำงานด้วยกันอย่างเข้มแข็ง ทั้ง นายนิรันดร์ พรหมเทพ ผู้ใหญ่บ้านบางกลอย จินดารัตน์ คำเวียง -สมาชิก อบต.ห้วยแม่เพรียง แกนนำกลุ่มแม่บ้าน นายจอวะ แฮจี รับผิดชอบการประสานการท่องเที่ยวทุกด้านเพื่อให้ชาวบ้านกับหน่วยงาน อาจารย์ มงคล ชัยรัตน์จงเจริญ เป็นหลานของปู่โจอี้ต้นรากปกาเกอะญอ รวิวรรณ โจโฉ ทั้ง 3 คนอยู่ในพื้นที่เป็นลูกหลานชาวบางกลอย
ช่วงที่ 2 เดินทางเที่ยวใกล้กรุงกับแหล่งใหม่ถอดด้าม “ตลาดริมเขื่อนชุมชนยายชา-ทุ่งธรรมนา” สามพราน นครปฐม มีทั้งวิถีเที่ยวเกษตรอินทรีย์ ของกินท้องถิ่นอร่อยล้ำ บรรยากาศสุดชิลริมเขื่อนแม่น้ำนครชัยศรี ต้องไปแล้วจะรู้ว่าเมืองไทยมีของดีเยอะจริง ๆ ต่อด้วยเรื่องน่ารู้ “5วิธีดูแลจิตให้คิดบวกทำอายุยืนยาว” ก่อนจากกันฟัง 4 ข่าวแจ๋ว ๆ “บางกอกแอร์” ลุยเปิดใหม่ 2 เส้นทาง จากเชียงใหม่ข้ามภาคสู่กระบี่ และหลวงพระบาง กับเพิ่มความถี่ กรุงเทพฯ-ดานัง เริ่ม มี.ค.2562 “สายการบินแควนตัส” ปรับใหญ่ แควนตัส แชนแนล บริการดิจิทัลจองตั๋ว เอเย่นต์ต้องรีบแล้วเข้าไปลงทะเบียนก่อนตกขบวนบริการใหม่ “โรงแรมพูลแมนฯ สุขุมวิท” ชวนฉลองวาเลนไทน์ใน 3 ร้านดัง “ททท.ทั่วไทย” หนุนพันธมิตรโหมขายวันแห่งความรักสูตรพิเศษไฮไลต์ 5 ภูมิภาค
@เที่ยวตลาดริมเขื่อนชุมชนยายชา-ทุ่งธรรมนา นครปฐม
ออกไปเที่ยวใกล้กรุงกันอีกสักทริป ที่ “ตลาดริมเขื่อน ชุมชนคนยายชา” กับ “ทุ่งธรรมนา” ในตำบลยายชา อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เพิ่งเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่หมาด ๆ เชื่อมโยงจากแหล่งธรรมชาติชุมชนเข้ากับแหล่งพักผ่อนของ “ตลาดชุมชนคนยายชากับทุ่งธรรมนา“ ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายของ “สามพรานโมเดล” และ “ตลาดสุขใจ” แหล่งท่องเที่ยวและช้อปปิ้งยอดนิยมช่วงวันหยุด ที่ตั้งอยู่หน้าบริเวณโรงแรมสามพราน ริเวอร์ไซด์
สถานที่ท่องเที่ยวมาที่เดียวครบจบทุกอย่าง มีทั้งแหล่งพักผ่อนโล่งโปร่งสบาย ๆ ริมเขื่อน แม่น้ำนครชัยศรี อาหารท้องถิ่น ทั้งเมนูคาวหวาน ผลิตภัณฑ์โอท็อปปลอดสารมากมาย ที่ผลิตในท้องถิ่น และโฮมสเตย์ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งเกิดจากองค์การส่วนตำบลยายชา อบต.งิ้วลาย อบต.มากแพร กับชุมชนผู้สูงอายุได้ร่วมมือร่วมใจกันทำกิจกรรม และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ พร้อมกับจัดการแสดงในบางช่วง บางเวลา เพื่อนำมาสร้างความสุขแก่นักท่องเที่ยวทุกวัย กลุ่มครอบครัว ได้เดินชม ชิม แชร์ ชีล อย่างเพลิดเพลินในตลาดแห่งนี้
ในตลาดชุมชนคนยายชา มีผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน ร้านอาหาร มีผลไม้จากสวนต่าง ๆ พืช ผัก พื้นบ้าน และมุมถ่ายรูปริมเขื่อน วิวสวย อากาศดี คาดผ้าขาวม้า ถือปิ่นโต เที่ยวโก้อย่างไทย เพื่อร่วมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน
 |
| ผู้ใหญ่ธันฑ์สพัฒน์ ธรรมธรจิตร |
“ธันฑ์สพัฒน์ ธรรมธนจิตร” ผู้ใหญ่บ้านยายชา เปิดพื้นที่หมู่ 6 นำทุ่งนาเขียวขจีพื้นที่กว่า 72 ไร่ แบ่งปันที่ 10 ไร่ แปลงโฉมให้กลายเป็น “ทุ่งธรรมนา” นำร่องทำโครงการ “ศูนย์เรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเกษตรอินทรีย์” ผสมผสานการปลูกพืช ทำสวน เลี้ยงสัตว์ ลานกิจกรรม เหมาะกับกลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่ และนักท่องเที่ยวทั่วไป ผลผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะเน้นปลอดสารเคมี ซึ่งจำหน่ายในโครงการ ในตลาดชุมชนคนยายยา ตลาดสุขใจ และเข้าร่วมเป็นหนึ่งในสามพราน โมเดล ด้วยเช่นกัน
ภายใน “ทุ่งธรรมนา” ได้จำลองวิถีชีวิตชุมชนมาไว้โดยมีการยกร่องทำสวนปลูกผลไม้ถิ่น คือ ฝรั่ง ขุดท้องร่องแล้วเลี้ยงเป็ดไข่ พอมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมฝูงเป็ดก็จะกรูกันมาส่งเสียงทักทายต้อนรับ แล้วก็มีหมูตัวเล็กตัวน้อยในเล้า ถูกปล่อยอิสระให้ออกมาเดินให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปบ้างบางเวลา ระหว่างทางก็จะมีเล้าไก่ไข่ ฟาร์มเพาะเห็ด และฐานทำกิจกรรม อย่างแปลงนา ซึ่งจะมีโปรแกรมให้โรงเรียนจากพื้นที่ใกล้เคียงหรือต่างประเทศนำเยาวชนเดินทางเข้ามาทดลองทำนาด้วยตนเอง
เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนแรก ลงไปปักดำ พอปลูกเสร็จ บางกลุ่มคณะจะทอดเวลาสัก 3-4 เดือน พอถึงกำหนดข้าวออกรวงก็จะยกคณะกลับมาเก็บเกี่ยวข้าวเป็นผลผลิตจากมือซึ่งสามารถนำกลับไปหุงรับประทานอย่างภาคภูมิใจในผลงานของตนเองได้
นอกจากการลงมือทำนา ปลูกข้าว แล้ว ก็ยังมีสอนทำไข่เค็มจากไข่เป็ด เก็บไข่ไก่ในเล้า และอื่น ๆ ที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ และกิจกรรมเล่น “สไลเดอร์ดินโคลน” ซึ่งจัดทำเป็นฐานกิจกรรมกลางแจ้งให้เด็ก ๆ ต่างจังหวัดและคนกรุงได้พาครอบครัวมาเล่นกันอย่างสนุกสนาน นักท่องเที่ยวที่เข้ามาสนุกสนานใน “ทุ่งธรรมนา” ตำบลยายชา นั้น จะมีรถรางของหมู่บ้านบริการ รวมค่าทำกิจกรรม D.I.Y.ตามฐานต่าง ๆ ภายในพื้นที่ จะคิดราคา กิจกรรมละ 100 บาท/คน หรือเหมาจ่ายคนละ 900 บาท สามารถทำกิจกรรมทุกอย่างได้แบบครบวงจร
พอเหนื่อยหรือรู้สึกร้อน ก็ไปนั่งพักเย็น ๆ ได้บริเวณร้านกาแฟในโครงการ มีบริการทั้งอาหารตามสั่ง และกาแฟดิฟให้เลือกชิมได้ตามใจชอบ รวมทั้งมีของฝากเป็นไข่ไก่ ไข่เป็ด สด ไข่เค็ม เห็ดบรรจุถุง และผลิตภัณฑ์แปรรูป ให้ซื้อติดมือกลับไปฝากทางบ้านได้
ในอนาคตจะขยายพื้นที่นำแปลงนาที่เหลือมาพัฒนาเป็น “แปลงสาธิตการปลูกพืชเกษตรอินทรีย์” เพื่อให้เด็ก เยาวชน ครอบครัว มาศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นไทยแบบครบวงจร แวะไปท่องเที่ยว “ทุ่งธรรมนา” แล้วจะรู้ว่าธรรมะจากธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ที่ทำให้ทุกการเดินทางเที่ยวเมืองไทย มีความสุข และให้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง
@5วิธีดูแลจิตให้คิดบวกทำอายุยืนยาว
การดูแลจิตใจเมื่อเผชิญกับความเครียดไม่ได้ใช้การคิดบวกอย่างเดียว แต่ต้องดูแลจิตใจ ซึ่งมีหลายวิธี ดังนี้
1. การทำความสงบในจิตใจ เป็นวิธีที่ไม่ได้ใช้ความคิด แต่เป็นการหยุดคิดบ้าง โดยการทำความสงบในจิตใจ ใช้วิธีการทำสมาธิ คือ นำจิตใจไปจดจ่อที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อเนื่อง เช่น การกำหนดลมหายใจเข้า-ออก การกำหนดอิริยาบถ เช่น การกำหนด กำลังเดิน กำลังยืน เป็นต้น การทำความสงบในจิตใจเป็นสิ่งที่ต้องอาศัยเวลาในการฝึกหัด จึงจะทำได้ชำนาญ
2. การคิดบวก เป็นการมองหาคุณค่าในตนเอง เช่น การชมเชยตนเองว่าทำได้ดีแล้ว ขอบคุณตนเองที่ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งสำเร็จ ชื่นชมตนเองที่อดทนผ่านอุปสรรคมาได้ หรือเป็นการมองไปที่สถานการณ์ทางบวก เช่น โชคดีที่ไม่ได้เกิดสิ่งที่แย่กว่านี้ โชคดีที่ได้มาอยู่จุดนี้ โชคดีที่มีครอบครัวที่ช่วยเหลือ หรือมองว่าปัญหาที่เข้ามาเป็นสิ่งที่จะทำให้เกิดสิ่งที่ดีตามมา เป็นประสบการณ์ที่ทำให้เติบโต เป็นต้น
3. การเบี่ยงเบน เป็นการออกจากความตึงเครียดนั้นชั่วคราว เช่น การทำกิจกรรมที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย การไปท่องเที่ยว การทำงานอดิเรก
4. การมีที่พึ่งทางใจ ในทางศาสนาพุทธเรียกว่า การมีสรณะ การเคารพเลื่อมใส ศรัทธาในสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่บริสุทธิ์ ประเสริฐ การระลึกถึงคำสวดมนต์ คำสรรเสริญคุณของสรณะจะช่วยให้เกิดความอบอุ่น ความสงบในจิตใจ
5. การพูดคุยระบาย การพูดคุยกับคนที่สามารถรับฟังได้ มีความเห็นอกเห็นใจ จะช่วยทำให้ได้ระบายความตึงเครียดไปได้ ความคิด และจิตใจเป็นสิ่งที่สามารถกำหนดการดำเนินชีวิตของเราได้ ถ้าให้ความสนใจเฉพาะด้านที่ไม่ดีจิตใจ การดำเนินชีวิตก็จะไม่ดีไปด้วย การเป็นคนคิดบวกคือคนที่มองทุกอย่างในแบบที่ควรจะเป็น ให้ความสนใจในด้านที่ดี ก็จะทำให้เรามีวิธีคิดและการดำเนินชีวิตที่ดี
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “บางกอกแอร์บิน2เส้นทางใหม่เพิ่มความถี่1จุดเริ่มมี.ค.นี้”
บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เตรียมเปิดใหม่อีก 2 เส้นทาง และเพิ่มความถี่ 1 เส้นทาง ดังนี้
1.เชียงใหม่-กระบี่ (เที่ยวเดียว) สัปดาห์ละ 3 เที่ยว ทุกวันอาทิตย์ อังคาร และพฤหัสบดี เริ่ม 31 มีนาคมนี้ แล้วจะปรับเป็นวันละ 1 เที่ยว เริ่ม 30 เมษายน 2562 เป็นต้นไป ด้วยเครื่องแอร์บัส A319 ขนาด 144 ที่นั่ง รหัส PG 246 ออกจากเชียงใหม่ 12.00 น. ถึงกระบี่ 13.55 น.
2.เชียงใหม่ - หลวงพระบาง สปป.ลาว ไป-กลับ สัปดาห์ละ 3 เที่ยว ทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และเสาร์ ด้วยเครื่องATR 72-600 ขนาด 70 ที่นั่ง รหัส PG983 ออกจากเชียงใหม่ 16.30 น. ถึงหลวงพระบาง 17.45 น. ขากลับ PG984 ออกจากหลวงพระบาง 18.30 น. ถึงเชียงใหม่ 19.45 น. เริ่ม 2 เมษายน 2562 เป็นต้นไป
3.ประกาศเพิ่มความถี่ในเส้นทาง กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) – ดานัง (เวียดนาม) เป็นวันละ 2 เที่ยว จากวันละ 1 เที่ยว เริ่ม 1 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป เพื่อรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก โดยใช้เครื่องแอร์บัส A319 ขนาด 144 ที่นั่ง
สำรองที่นั่งได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปที่ www.bangkokair.com หรือ Call Center โทร. 1771 ตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวที่สอง “เปิดแควนตัสแชนแนลเทรนด์ใหม่จองตั๋ว-บริการส่วนตัว”
นางวาเนสซา ฮัดสัน หัวหน้าฝ่ายบริการลูกค้าสายการบินแควนตัส เปิดเผยว่า แควนตัส ประกาศนำนวัตกรรรมทางเทคโนโลยีการจองตั๋วเครื่องบินเพื่อเพิ่มบริการเป็นส่วนตัวให้ลูกค้าด้วย “แควนตัส แชนแนล-Qantas Channel” เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การนำดิจิทัลเข้ามาใช้ รวมถึงจะเป็นข้อตกลงใหม่ระหว่างสายการบินกับพันธมิตรกลุ่มตัวแทนขายท่องเที่ยว จะเริ่ม 1 สิงหาคม 2562 เพื่อช่วยให้เอเย่นต์เข้าถึงข้อมูลอัตราค่าโดยสาร ผลิตภัณฑ์และข้อมูลของแควนตัสได้มากขึ้น
ประโยชน์ของ แควนตัส แชนแนล จะช่วยให้พันธมิตรการท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจที่สุดของแควนตัส และมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นในแบบที่ลูกค้าต้องการได้ด้วยความเป็นส่วนตัวที่ยืดหยุ่นและราบรื่นไม่ว่าจะจองตั๋วโดยสารด้วยวีธีไหน จองโดยตรงกับสายการบินหรือกับผู้จัดการด้านท่องเที่ยวขององค์กร เอเย่นต์ออนไลน์ หรือตัวแทนเอเย่นต์ท่องเที่ยวในท้องถิ่นก็ตาม
ทั้งนี้เอเย่นต์ไทยและทั่วโลกสามารถเข้าไปลงทะเบียนเพื่อใช้ แควนตัส แชนแนล ได้โดยคลิกเข้าไปดูข้อมูลที่ www.QantasAgencyConnect.com
ข่าวที่สาม “โรงแรมพูลแมนฯชวนฉลองวาเลนไทน์3ร้านอาหาร”
โรงแรมพูลแมน กรุงเทพ แกรนด์สุขุมวิท จัดให้ฉลองวันวาเลนไทน์พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 นี้ ด้วยโปรโมชั่นใน 3 ร้านอาหาร ร้านแรก “บุฟเฟ่ต์” ที่ร้านอเทลิเย่ ราคาคนละ 1,699++ บาท หรือ 1,999 บาทสุทธิ จองล่วงหน้า รับส่วนลดค่าอาหารสูงสุด 20% พิเศษสมาชิกบัตร Accor Plus รับราคาพิเศษทันที 1,455 บาทสุทธิ
ร้านที่ 2 ฉลองมื้อค่ำที่ร้านทาปาสวีโน่ ร้านที่ 3 ปาร์ตี้วาเลนไทน์สนุกสุดเหวี่ยงได้ที่ ร้านอินบลูแบคยาร์ด
ข่าวที่สี่ “ททท.ชวนคู่รักทัวร์จดทะเบียน5ภูมิภาค12-16ก.พ.นี้”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดต่าง ๆ ร่วมกับพันธมิตรกระตุ้นนักท่องเที่ยวไทยและนานาชาติฉลองวาเลนไทน์ไฮไลต์ตามพื้นที่ต่างๆ พร้อมโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวไปด้วยทั้ง 5 ภูมิภาค ระหว่าง 12-16 กุมภาพันธ์ 2562 ได้แก่
ภาคอีสาน – 1.จดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง จ.สุรินทร์ เชิญทุกคู่รักร่วมงาน “แต่งงานและจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง ครั้งที่ 12” วันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ ที่ ศูนย์คชศึกษา หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เพื่อสืบสานประเพณีการแต่งงานแบบดั้งเดิมของชาวกวยใน “พิธีซัตเตและพิธีเรียกขวัญ” โดยเพิ่มสีสันการจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง และร่วมเลี้ยงอาหารช้างเพื่อความเป็นสิริมงคล
2.“งานวิวาห์พาฝัน รับตะวันสามแผ่นดิน จ.ศรีสะเกษ” วันที่ 14 กุมภาพันธ์ นี้ บริเวณผามออีแดง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เชิญชวนให้แต่งกายชุด 4 เผ่าไท เขมร-ส่วย-ลาว-เยอ ของคู่รักในพิธีจดทะเบียนสมรสบนผามออีแดง และร่วมทำบุญตักบาตรกันหน้างาน
ภาคใต้ – 1. “วิวาห์ใต้สมุทร จ.ตรัง” ระหว่าง 12-14 กุมภาพพันธ์ 2562 ด้วยการนำน้ำไปจดทะเบียนสมรสใต้ทะเลตรัง บริเวณหินก้อนเดียว หน้าถ้ำมรกต เกาะมุก
2.“สมิหลาสัญญารัก ครั้งที่ 3 จ.สงขลา” วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เปิดสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณ ศาลาไทย หน้านางเงือกทอง ชวนคู่รักร่วมขบวนแห่ขันหมาก สวมมงคลแฝด พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ จดทะเบียนสมรส แล้วช่วงเย็นก็เข้าร่วมอาฟเตอร์ปาร์ตี้อย่างสนุกสนาน คู่รักที่สนใจเข้าร่วมรีบยื่นเอกสารขอจดทะเบียนสมรสได้ ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองสงขลา ได้จนถึง 10 กุมภาพันธ์ นี้
ภาคเหนือ - 1.“วาเลนไทน์ 4 แผ่นดิน ที่ว่าการอำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย - สำนักทะเบียนอำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย ชวนคู่รักเข้าร่วม “วาเลนไทน์ 4 แผ่นดิน” เปิดให้จดทะเบียนสมรส 14 กุมภาพันธ์ 2562 ด้วยชุดพื้นเมืองล้านนา หรือชุดประจำชนเผ่า
2.“วิวาห์ในเทศกาลบอลลูนนานาชาติ สิงปาร์ค จ.เชียงราย” ชวนคู่รักร่วมได้ในงาน “SinghaPark Chiangrai International Balloon Fiesta 2019” ระหว่าง 13 –17 กุมภาพันธ์ นี้ ตื่นตากับบอลลูนแฟนซีจากทั่วโลกกว่า 30 ลูก จัดทัพมาโชว์แสง สี เสียง เต็มน่านฟ้าเชียงราย พร้อมทั้งได้จัดให้มีกิจกรรม Balloon Love-จดทะเบียนสมรส-บอกรักลอยฟ้า ของผู้โชคดี 14 คู่รัก
ภาคตะวันออก – ชวนร่วมงาน “จดทะเบียนบนหลังช้าง สวนนุช พัทยา” 14 กุมภาพันธ์ นี้ ระหว่าง 08.00 – 16.00 น.เปิดให้เหล่าคู่รักที่สนใจสมัครร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยนำสำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชน ของผู้จดทะเบียน และหลักฐานต่าง ๆ มาให้ครบ พิเศษ 3 กิจกรรม 1.เฉพาะ 9 คู่เเรก จะได้ร่วมขบวนขันหมากยิ่งใหญ่ 2. คู่รัก 25 คู่แรกจะได้ชิมอาหารสุดพิเศษ และ 3. คู่รัก 100 คู่ที่ร่วมจดทะเบียนสมรสรับฟรีของที่ระลึก
ภาคกลาง – จัดยิ่งใหญ่ “วาเลนไทน์@ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี” ระหว่างวันนี้ – 14 กุมภาพันธ์ เปิดสนามที่ว่าการอำเภอด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ให้ร่วมฉลองวาเลนไทน์และลุยช็อปสินค้าโอท็อป ผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน สินค้าจากโรงงานผู้ผลิต ชิมอาหารสุดอร่อย ชมคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง มากมาย ชอบวิวาห์บรรยากาศแบบไหนเลือกได้ทั้ง 5 ภูมิภาค พร้อมใจกันเปิดแหล่งท่องเที่ยวให้ร่วมฉลองความรักกันอย่างคึกคักตลอดเทศกาล
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น