มูลนิธิปิดทองหลัง-อุทยานแกก่งกระจาน เปิดชุมชนท่องเที่ยวน้องใหม่ ฎบ้านโป่งลึก-บางกลอย" ลุ้นชิงมรดกโลก -More Fun ทริปหรูเกาะกูด
ผ่าแผนปฏิบัติการ“โป่งลึก-บางกลอย”ชุมชนทัวร์ใหม่
แก่งกระจาน-มูลนิธิปิดทองฯชูวัฒนธรรมชิงมรดกโลก
คิงเพาเวอร์มหานครแจกอั่งเปาช็อปตรุษจีน1.5 ล้าน
ตลอดก.พ.นี้ช้อปออนไลน์คิงเพาเวอร์ลดทันที50 %
ททท.โหม More Funเทศกาลโคมไฟสมุทรปราการ
บางจากแจกหลอดเซฟไฟLEDเพื่อนบ้านรอบโรงกลั่น
ทอท.เคลียร์6สนามบินอินเตอร์รับตรุษจีน 6 ล้านคน
ชวนMore Funตราดหรูเกาะกูด-กินอร่อยคลองเจ้า
แนะคนไทยเลิกกินตามใจปากสร้างสุขภาพแข็งแรง
บางกอกแอร์-TCEBกอดคอรุกอินเซ็นทีฟไมซ์CLMV
ซื้อตั๋วบางกอกแอร์รับส่วนลด200บาทGrabทุกชนิด
รมว.วีระศักดิ์ชงท่องเที่ยวเลือกตั้งใหม่ไทยเบอร์4โลก
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวัน 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์
ช่วงที่ 1 เกาะติดแผนปฏิบัติการเพื่อชาติของ “มานะ เพิ่มพูน” หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน หนุน “มูลนิธิปิดทองหลังพระ” ทุกรูปแบบ นำชุมชนปกากะญอ “บ้านโป่งลึก-บางกลอย” ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ก้าวข้ามความขัดแย้งขจัดความยากจน กอดคอกันพลิกชีวิตใหม่กลายเป็น “ชุมชนท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์วัฒนธรรม” สอนการอาชีพเกษตร ปศุสัตว์ นำรากวัฒนธรรมดี ๆ มาบอกเล่าและเตรียมความพร้อมเสนอเป็นหนึ่งมรดกโลกในอนาคตอันใกล้นี้
มานะ เพิ่มพูน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี |
นายมานะ เพิ่มพูน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า แผนงานการเดินหน้าโครงการพัฒนาแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในชุมชนปกากะญอ บ้านโป่งลึก-บางกลอย เพชรบุรี บนพื้นฐานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งเป็นหมู่บ้านสุดท้ายตั้งอยู่กลางผืนป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ข้อสำคัญคือเป็นชาวกระเหรี่ยงพื้นเมืองดั้งเดิม ที่ยังรักษาวัฒนธรรมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ซึ่งเคยเขียนไว้ในคู่มือท่องเที่ยวให้เป็น “การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม” โดยทางอุทยานแห่งชาติต้องการให้ทุกฝ่ายทำร่วมกันนั้นยังไม่เคยมีมาก่อน
โครงการนี้จะนำร่องทำร่วมกัน 5 ฝ่าย ได้แก่ มูลนิธิปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพชรบุรี ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และชุมชนโป่งลึก-บางกลอย ซึ่งมีองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ผู้ใหญ่บ้าน รวมอยู่ด้วย ช่วยกันร่วมคิดร่วมทำ ทำให้ชุมชนอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาตนเองได้ โดยการทำท่องเที่ยวชุมชน นำสิ่งที่มีอยู่แล้วของชาวพื้นเมืองกระเหรี่ยงที่มีรากวัฒนธรรมการแต่งกาย บ้านเรือน อาหาร การล่องแพ ท่องเที่ยว ล้วนเป็นเรื่องท้องถิ่นทั้งสิ้น
ทางเราจึงได้ร่วมกันผูกเรื่องซึ่งเป็นจุดเด่นส่งเสริมเป็น “การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และวัฒนธรรม บ้านโป่งลึก-บางกลอย” ตามแผนจะสร้างการท่องเที่ยวให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนโป่งลึก-บางกลอย ตามแนวทางปฏิบัติซึ่งว่าด้วยเรื่องมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อน 30 มิถุนายน 2541 และหลัง 17 มิถุนายน 2557 โดยมติ ครม.ล่าสุด 21 มิถุนายน 2561 ตรงจุดนี้คนที่อยู่ในป่าภายใต้เงื่อนไขการจัดการของรัฐบาลจะได้รับการดูแลจัดการที่ดินเช่นเดียวกับบริเวณโป่งลึก-บางกลอย ยกเว้นพื้นที่ล่อแหลมซึ่งมีอยู่อาศัยป่าลึกเพียงรายเดียวมีสัตว์ป่าอยู่จะไม่ได้รับสิทธิ์ ส่วนผู้ที่ได้รับการจัดสรรที่ดินก็สามารถพัฒนาที่ดินทำกินได้และการสนับสนุนมากขึ้น
สำหรับหมู่บ้านโป่งลึก-บางกลอย ได้รับการพัฒนาโดยมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ มาก่อน ด้วยการพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างงาน สร้างอาชีพ ทำการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ ทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจึงจะได้นำชุมชนดังกล่าวไปนำเสนอสู่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์วัฒนธรรม โดยเฉพาะเป็นพื้นที่เพาะปลูกในหมู่บ้านบางกลอยมีทุเรียนพันธุ์อร่อยที่สุดในประเทศไทย เพราะปลูกป่ากลางป่า อากาศดี รสชาติกลมกล่อม กลิ่นไม่ฉุนจนเกินไป เนื้อทุเรียนไม่ติดเปลือก จนยอมรับกันกว้างขวาง หรือผลิตภัณฑ์กล้วยดิบ สุก แปรรูป การทอเสื้อผ้าชาวเขาซึ่งได้รับการฝึกอบรมเป็นอย่างดีต่อเนื่องมาหลายปีจากศูนย์ศิลปาชีพ คนเหล่านี้มีความชำนาญมากขึ้น
ประกอบกับวิถีชีวิตเดิมมีการถ่อแพขนส่งของป่ามาขาย จึงประยุกต์มาใช้แพบริการนำนักท่องเที่ยวล่องชมธรรมชาติวัฒนธรรม มีจุดขึ้นแพตรงบริเวณสำนักงานทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน หรือ กจ.10 ห้วยแม่เพรียง แล้วล่องมาขึ้นตรงสะพานแขวนในหมู่บ้านแล้วให้นักท่องเที่ยวขึ้นเดินชมหมู่บ้านบางกลอยทำด้วยไม้ไผ่ แวะซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชน หากมีตรงช่วงฤดูทุเรียนก็จะได้ชิมผลิตภัณฑ์อร่อยที่สุด
ขั้นตอนที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามายังชุมชนโป่งลึก-บางกลอย อำเภอห้วยแม่เพรียง จะต้องติดต่อประสานมายังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน สามารถพักค้างในพื้นที่ได้รับอนุญาตให้กางเต็นท์ได้ในบริเวณใกล้ ๆ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กจ.10 แต่จะไม่ให้พักค้างในป่าและในชุมชนด้วยการพักค้างร่วม เพราะต้องช่วยชุมชนดูแลรักษาไม่รบกวนป่าและธรรมชาติ ลดการพึ่งพาให้มาก แต่ใช้วิธีประยุกต์ส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติควบคู่กันไปนั้นทำได้ สร้างความยั่งยืน พัฒนาชุมชนอย่างต่อเนื่อง
ส่วนการวางแผนสร้างกิจกรรมของชุมชนเพื่อให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมนั้น ปี 2562 ทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้รับมอบหมายให้นำชุมชนเข้าไปร่วมจัดการแสดงกิจกรรมพื้นบ้านโป่งลึก-บางกลอย ในงาน “พระนครคีรี” วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 จะทำขบวนแห่โดยนำวัฒนธรรมบ้านโป่งลึก-บางกลอย ซึ่งมีวิถีชีวิตการสร้างบ้านเรือน เพาะปลูก เล่าเรื่องราวของชุมชน ขบวนแห่ทำต่อเนื่องจนได้รางวัลชนะเลิศต่อเนื่องมาแล้ว 2 ครั้ง ทำให้คนทั่วไปเห็นถึงชุมชนในเพชรบุรีมีวิถีการเพาะปลูกที่มีคุณภาพ ชาวชุมชนกระเหรี่ยงในแก่งกระจาน
นอกจากบ้านโป่งลึก-บางกลอย แล้ว ยังมีพื้นที่อื่น ๆ ปกากะญอ ตำบลป่าเด็ง ชุมชนป่าละอูน้อย ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ บ้านห้วยกระซู่ และชุมชนอื่น ๆ อาทิ สาลิกา แม่กำเมย อินช้าง พุน้ำร้อน ท่าเสลา จะขยายผลโดยใช้ต้นแบบความสำเร็จของโป่งลึก-บางกลอย กระจายไปพัฒนาตามชุมชนอื่น ๆ เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดีต่อทุกชุมชน ขณะที่ความพร้อมของพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้าเยี่ยมชม ในช่วงเริ่มต้นเปิดให้บริการยังไม่ประสบปัญหานักท่องเที่ยวมีความแออัด ด้วยการจัดระเบียบจองล่วงหน้ากับศูนย์บริการนักท่องเที่ยว กจ.10 แล้วประสานการแสดงกับชุมชน ที่พักลานกางเต็นท์ รถยนต์บริการเดินทางเข้าถึงชุมชน เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนมีรายได้อย่างสมดุล
สำหรับอุทยานแห่งชาติกระจานได้บริหารจัดการกระจายนักท่องเที่ยวเอง จากริมเขื่อนแก่งกระจาน บ้านกร่าง พะเนินทุ่ง ไปยังแหล่งท่องเที่ยวข้างเคียงใหม่ ๆ รถท่องเที่ยวที่เข้าไปจะได้ไม่แออัด เช่น น้ำตกป่าละอู น้ำตกแม่กระดังงา น้ำตกผาน้ำหยด และชุมชนโป่งลึก-บางกลอย รวมถึงการกระจายนักท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบุรีจากชายฝั่งมีนักท่องเที่ยวประมาณปีละ 5 ล้านคน บริเวณหัวหิน ชะอำ ไปยังชายทะเล ภูเขา ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนดีขึ้นตามลำดับ
นายมานะกล่าวว่า ขณะนี้มีแผนพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานอยู่ 1.8 ล้านไร่ ได้สำรวจที่ดินทั้งหมดในป่า มีคนอยู่ในป่าเท่าไร สำรวจไปแล้ว 39,000 ไร่ พบว่ามีคนอยู่ 4,000 แปลง จะต้องประกาศควบคุมไม่ให้ขยายมากไปกว่านี้ พร้อมกับสร้างกฎกติกาป้องกันชุมชนดูแลรักษา ร่างระเบียบการอาศัยอยู่ร่วมกันเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านต่าง ๆ เรื่อยไปจนถึงการเสนอผืนป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลก ซึ่งเป็นหน้าที่ของอุทยานยืนที่จะต้องเดินหน้าผลักดันต่อไป ด้วยการลดปัญหาความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจของชุมชน โดยเฉพาะปัญหาเรื่องที่ดินทำกินจะได้รับการยอมรับจากหน่วยพิจารณาเข้าเป็นมรดกโลก เพราะทางอุทยานจะนำพาวัฒนธรรมชุมชนไปเผยแพร่ด้วยที่อยู่ร่วมกับหน่วยอื่น ๆ ได้ด้วย อาจจะนำเสนอคล้ายคลึงกับวัฒนธรรมโขน ในเป็นอัตลักษณ์วัฒนธรรมกระเหรี่ยง ซึ่งมีความโดดเด่นสากลอื่น ๆ
นอกเหนือระบบนิเวศน์และความหลากหลายด้านอื่น ๆ ก็มีเรื่องวัฒนธรรมเป็นรากฐานสำคัญของชุมชนมาเป็นองค์ประกอบในการเป็นมรดกโลกไปด้วยกัน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์มหานครชวนไปตรุษจีนแจกอั่งเปาช้อป1.5ล้าน”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดฉลองตรุษจีนให้นักท่องเที่ยวได้มีความสุขกับเทศกาลปีใหม่จีน ในระหว่างวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ 2562 ได้เปิดพื้นที่ในคิง เพาเวอร์ บริเวณมหานคร สกายวอล์ค สถานที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์คใหม่ล่าสุดของไทย นำขบวนเชิดสิงโตตะลุยพื้นที่รอบคิง เพาเวอร์ มหานคร มอบอั่งเปาเที่ยวมหานคร สกายวอล์ค จุดชมวิวดาดฟ้าที่สูงที่สุดในประเทศไทย ฟรี! พร้อมมอบโชคลุ้นรับอังเปาส่วนลดสูงสุด 600 บาท ซึ่งรวมแล้วมีมูลค่ารวมกว่า 1.5 ล้านบาท เพื่อซื้อสินค้าดิวตี้ฟรี ของที่ระลึกมหานคร สกายวอล์ค และสินค้าทั่วไปโดยไม่ต้องมีไฟลท์เดินทาง ระหว่างวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์นี้ ณ คิง เพาเวอร์ มหานคร, ลานมหานคร สแควร์, ย่านสีลม และสาทร
พิเศษ! สำหรับผู้ที่ซื้อบัตรชมมหานคร สกายวอล์ค รับชมการแสดงเชิดสิงโตประกอบแสงสีเสียงสุดอลังการบนพื้นกระจกลอยฟ้าครั้งแรกในประเทศไทย! ในเวลา 19.00-19.30น. และชมฟรีขบวนเชิดสิงโตโชคดีบริเวณลานหน้าคิง เพาเวอร์ มหานคร ช่วงเวลา 17.00 – 18.00 น. ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ Facebook King Power Mahanakhon หรือ www.KingPowerMahanakhon.co.th #KingPowerMahanakhon #MahanakhonSkywalk
ข่าวที่ 2 “คิง เพาเวอร์เปิดออนไลน์ลดกระหน่ำตลอดก.พ.50%”
สำหรับ www.kingpoweronline.com ได้จัดแคมเปญช้อปสินค้าต้อนรับตรุษจีนด้วยเช่นกันกับแคมเปญ “Pick A CHIC FOR CNY19” ลดสูงสุดถึง 50 % ระหว่างวันนี้- 28 กุมภาพันธ์ 2562 มีหมวดสินค้าหลัก ๆ ให้เลือกซื้อกันอย่างเพลิดเพลิน ทั้ง 1.Happy Travel ผลิตภัณฑ์การเดินทางคุณภาพเยี่ยมทั้งหลาย 2.Ultimate Beauty สินค้าเพิ่มความสวยงามครบวงจร 3.Baby Gold 4.Home & Living 5.Glamorous เครื่องหนังที่มีอัตลักษณ์เหมาะสำหรับนักช้อปทุกกลุ่มที่ชื่นชอบดีไซน์และคุณภาพ
ข่าวที่ 3 “ททท.โหมMore Funเทศกาลโคมไฟสมุทรปราการ”
นางสาวบุณยานุช วรรณยิ่ง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับมูลนิธิธรรมกตัญญู (เสียนหลอไต้เทียนกง) จัดต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงเดือนกุมภาพันธ์ นี้เข้าร่วม “งานเทศกาลโคมไฟเฟสติวัลแสงสีแห่งปากน้ำปี 7 “Lantern Festival 2019” ระหว่าง 1 – 24 กุมภาพันธ์ 2562 ณ มูลนิธิธรรมกตัญญู (เสียนหลอไต้เทียนกง) อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสมุทรปราการระหว่างงานเทศกาลตรุษจีนและเทศกาลง่วนเซียว นักท่องเที่ยวจะได้ชมอย่างตระการตาของโคมไฟนำเข้าจากไต้หวันกว่า 5,000 ดวง โดยมีไฮไลต์ 5 จุด ได้แก่
โคมไฟปีกุน โคมไฟเทพเจ้า 5 พระองค์ โคมไฟชุดเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย โคมไฟชุดเจ้าแม่กวนอิม และชุดโคมไฟอาลีซัน (แหล่งท่องเที่ยวของไต้หวัน) พร้อมทั้งชมการแสดงมังกรมงคล และร่วมการสักการะเทพเจ้า 5 พระองค์ ที่เรียกว่า อู๋ฟู่เชียนส้วย (โหงวหวังเอี้ย) ตามความเชื่อจะช่วยคุ้มครองให้มีชีวิตร่มเย็นราบรื่น ประสบแต่ความสุข ความสำเร็จ ปราศจากโรคภัย เรื่อยไปจนถึงศิลปะความงดงามของศาลเจ้าด้วยสถาปัตยกรรมการตกแต่ง การแกะหินสลักและไม้หอมสีทองเหลืองอร่าม
สำหรับกิจกรรมสำคัญ ระหว่าง 1 - 24 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 08.00 – 19.00 น. เพลิดเพลินกับงานเทศกาลโคมไฟเฟสติวัล 2019 ไฮไลต์ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ เวลา 08.00 – 17.00 น. พิธีสะเดาะเคราะห์ , พิธีจุดดวงไฟ วันที่ 19 – 21 กุมภาพันธ์ 2562 พิธีขอเต่า , พิธีขอเงินขวัญถุง นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ ททท.ฉะเชิงเทรา มีของที่ระลึกให้ลุ้นรับมากถึง 20 รางวัล เพียงแค่แชะ แชร์ แล้วติดแฮชแท็ก #งานโคมไฟเฟสติวัล และ #ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา ตลอดงานจากนั้นประกาศผลภายใน 7 วัน ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/tatchachoengsao
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่มูลนิธิธรรมกตัญญู (เสียนหลอไต้เทียนกง) โทร 0 2323 3120-4 เปิดบริการทุกวันเวลา 08.00 – 20.00 น. หรือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานฉะเชิงเทรา โทร 0 3851 4009 เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.30 – 16.30 น. และทางเฟชบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/tatchachoengsao
ข่าวที่ 4 “บางจากทุ่มแจกหลอดเซฟไฟLEDให้เพื่อนบ้านรอบโรงกลั่น”
เมื่อเร็ว ๆ นี้ เพื่อนพนักงานบางจาก ร่วมกิจกรรมมอบหลอดไฟ LED แก่เพื่อนบ้านผู้อาศัยในชุมชนรอบโรงกลั่น โดยตั้งเป้าหมายเมื่อทั้งโครงการแล้วเสร็จกว่า 9,000 หลอด ครอบคลุม 1,000 หลังคาเรือน เพื่อส่งเสริมและรณรงค์ลดการใช้พลังงานด้วยการใช้หลอดประหยัดไฟ ลดภาระค่าใช้จ่าย และช่วยบรรเทาภาวะโลกร้อน ซึ่งการใช้หลอดไฟ LED 1 หลอด ขนาด 10 วัตต์สามารถประหยัดได้ประมาณ 100 บาทต่อเดือน เมื่อเปรียบเทียบกับหลอดฟลูออเรสเซนต์ ขนาด 46 วัตต์ โดยการคำนวณค่าไฟด้วยสูตร (วัตต์ x ชม.การเปิด x 365 วัน x 4.20 บาท/ยูนิต) /1,000 กิโลวัตต์
ข่าวที่ 5 “ทอท.เคลียร์6สนามบินรับตรุษจีนเฉียด6ล้านคน”
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” กล่าวว่า เตรียมความพร้อมรับการเดินทางช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ระหว่าง 30 มกราคม - 11 กุมภาพันธ์ 2562 ทางสายการบินรายงานจะมีเที่ยวบินมาลงสนามบินของ ทอท.ทั้ง 6 แห่ง จำนวน 35,000 เที่ยว เพิ่มขึ้น 7.2 % มีผู้โดยสารทั้งสิ้น 5.93 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.0 % พร้อมกับมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำและเที่ยวบินขอเพิ่มพิเศษอีก 800 เที่ยว มีผู้โดยสารประมาณ 119,000 คน โดยจะมีเที่ยวบินลงมากสุดเรียงตามลำดับ ได้แก่
1.สุวรรณภูมิมีเที่ยวบิน 14,800 เที่ยว เพิ่มขึ้น 9.0 % มีผู้โดยสาร 2.63 ล้านคน เพิ่ม 3.6% มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำและเที่ยวบินขอเพิ่มพิเศษ 300 เที่ยว มีผู้โดยสาร 40,000 คน
2.ดอนเมือมีเที่ยวบิน ง 10,300 เที่ยว เพิ่มขึ้น 6.6 % มีผู้โดยสาร 1.61 ล้านคน เพิ่ม 4.3 % มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำและเที่ยวบินขอเพิ่มพิเศษประมาณ 40 เที่ยว มีผู้โดยสาร 5,500 คน
3.ภูเก็ตมีเที่ยวบิน 4,800 เที่ยว เพิ่ม 0.3 % มีผู้โดยสาร 920,000 คน เพิ่ม 4.1 % มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำและเที่ยวบินขอเพิ่มพิเศษ 300 เที่ยว มีผู้โดยสาร 68,000 คน
4.เชียงใหม่ มีเที่ยวบิน 3,300 เที่ยว เพิ่มขึ้น 13.6 % มีผู้โดยสาร 500,000 คน เพิ่ม 9.4 %
5. เชียงรายมีเที่ยวบิน 800 เที่ยว เพิ่ม13.4 % มีผู้โดยสาร 120,000 คน เพิ่ม 7.4 %
6.หาดใหญ่มีเที่ยวบิน 1,000 เที่ยว ลดลง 2.1 % มีผู้โดยสาร 150,000 คน ลดลง 3.1 %
นายนิตินัย กล่าวว่า ได้รับรายงานคาดการณ์จะมีนักท่องเที่ยวจีนมาไทยช่วงตรุษจีนมากสุด จึงมีนโยบายให้สนามบินทั้ง 6 แห่ง จัดกิจกรรมสร้างความสุข และอวยพรนักท่องเที่ยวชาวจีนเพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 สุวรรณภูมิจัดกิจกรรมต้อนรับผู้โดยสารชาวจีนที่มาเที่ยวบิน CZ 3081 ของสายการบิน China Southern Airline เส้นทาง กวางโจว - กรุงเทพฯ พร้อมจัดการแสดงชุดกลองไทโกะและรำพัดจีน และแจกของที่ระลึก เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวจีนทุกคน
ช่วงที่ 2 สำรวจสัมภาระให้พร้อมเตรียมไป More Fun ภาคตะวันออกเมืองทะเลหรู “จังหวัดตราด” ปักธงกันที่ “เกาะกูด” แสนโรแมนติก แล้วก็ไปชีลกับรสชาติอาหารทะเลสุดแซบแสนอร่อย แล้วต้องไม่ลืมดูแลสุขภาพด้วยการ “เลิกกินตามใจปากแล้วสุขภาพจะแข็งแรง” ส่วนข่าวน่ารู้ต้องยกให้เรื่อง “บางกอกแอร์กับTCEB” กอดคอกันจัดแคมเปญดูดเงินตลาดไมซ์ CLMV “ผู้โดยสารซื้อตั๋วบางกอกแอร์” รับส่วนลด 200 บาทนำไปบริการ Grab ทุกชนิดได้ภายใน มีนาคม นี้ “รมว.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” ส่งมอบท่องเที่ยวหลังประกาศ พรฎ.เลือกตั้ง ย้ำไทยครองแชมป์ทำรายได้สูงอันดับ 4 ของโลก “มูลนิธิ EDF” ชวนวิ่งเสมือนจริง สมัครทางออนไลน์ได้ภายใน 28 ก.พ.นี้ รายได้จะนำไปช่วยการศึกษาเด็กยากไร้ทั่วไทย
@More Funตราดทัวร์หรูเกาะกูดกินอร่อยคลองเจ้า
ทริปสนุก ๆ ยังรออยู่อีกหลายจังหวัดในภาคตะวันออกกับมหกรรม More Fun ตลอดปี 2562 ครั้งนี้จะพาไป “ตราด” เมืองที่มีทั้งเกาะหรูและอาหารทะเลแสนอร่อย เมื่อเดินทางถึงจังหวัดตราด ทีมงานจะจัดเตรียมรถบริการนำคณะไปยังพิพิธภัณฑสถานเมืองตราด เยี่ยมชมห้องจัดแสดงนิทรรศการเรื่องราวความเป็นมาของจังหวัดตราดตั้งแต่อดีต – ปัจจุบัน
พอใกล้เที่ยง แวะกินเติมพลังกลางวันในตัวเมือง ก่อนจะมุ่งหน้าไปยัง “ท่าเรือแหลมศอก” ฝ่าฟองคลื่นไปเกาะกูดแหล่งท่องเที่ยวไฮเอนด์หรู ๆ กัน ด้วยเรือเกาะกูดเอ็กซ์เพรส ถึงเกาะนั่งรถรางสูดโอโซนธรรมชาติไป Check in เข้าที่พัก พักผ่อนหรือจะไปเดินเล่นชายหาดก็ได้
ตกบ่ายคล้อย จะมีบริการ “รถสองแถวท้องถิ่น” นำชม “น้ำตกคลองเจ้า”มีน้ำไหลตลอดทั้งปี แบ่งเป็น 3 ชั้น โดยชั้นล่างเป็นธารจากน้ำตกขนาดใหญ่เหมาะลงไปเล่นน้ำ น้ำตกคลองเจ้า ถือได้ว่าเป็นน้ำตกประวัติศาสตร์ คือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสเมื่อปี พ.ศ.2454 ทรงพระราชทานนามว่า “น้ำตกอนัมก๊ก” เพื่อเป็นที่ระลึกถึงองค์เชียงสือ กษัตริย์ญวณที่เคยเข้ามาลี้ภัยจากการจลาจลในสมัยรัชกาลที่ 1 ทางฝั่งตะวันตกของเกาะนับตั้งแต่อ่าวตาดิ้น หาดคลองระหาน หาดคลองยายกี๋ หาดตาโพธิ์ หาดคลองพร้าว จนสุดปลายแหลมเทียน บริเวณทั้งหมดนี้เป็นหาดทรายที่สวยงาม และน้ำทะเลใสธรรมชาติสงบเงียบ ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าวริมหาด
นอกจากนั้นเกาะกูดยังมีป่าชายเลนที่สมบูรณ์ และแนวปะการังนานาชนิดให้ชมอีกด้วย ชมสถานที่ท่องเที่ยวจนทั่วเกาะแล้ว ก็ได้เวลาดินเนอร์มื้อค่ำ กันที่ “ร้านอาหารริมคลองเจ้า” ดื่มด่ำบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติก ก่อนจะพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวสนุกสนานบนเกาะกูดในวันต่อไป
วันที่ 2 ออกสตาร์ตกันราว 9 โมงครึ่งไป “เกาะแรด” แหล่งดำน้ำดูปะการังสวยงามในเกาะเล็กๆ ที่อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะกูด แล้วก็ขึ้นมากินมื้อบนเกาะหรือบนเรือ จากนั้นก็เลือกพักผ่อนตามอัธยาศรัย วันที่ 3 ตื่นขึ้นมารับประทานอาหารเช้า พร้อมกับ Check Out คณะพร้อมเดินทางออกจากที่พัก มุ่งหน้าสู่แผ่นดินใหญ่ แล้วไปเที่ยวต่อ ถึงแหลมศอก เดินทางต่อไปยังชุมชนท่องเที่ยวบ้านน้ำเชี่ยว ชมทัศนียภาพมุมสูงที่สะพานวัดใจ / ชิมข้าวเกรียบยาหน้า ซื้อของที่ระลึก เดินทางกลับกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ราคาแพ็คเกจ 5,900 บาท/ท่าน ราคานี้เริ่มต้นที่ 8 คนขึ้นไป (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน) รวมบริการหลัก ๆ คือ ค่ากิจกรรม + ค่าล่องเรือ ค่าอาหาร 5 มื้อ ค่าเข้าชมทุกสถานที่
ความสุข สนุกสนาน อย่างมีสีสัน กับประสบการณ์อันลึกซึ้ง มีให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับ More Fun ทั่วทุกพื้นที่ในภาคตะวันออกได้ทุกวัน ทุกเวลา ตลอดทั้งปี
@เลิกกินอาหารตามใจปากแล้วจะสุขภาพแข็งแรง
หลาย ๆ คนอาจจะเคยมีความคิดที่จะควบคุมอาหาร ลดความอ้วน แต่เมื่อเห็นของอร่อยที่ชอบแล้วเกิดอาการหน้ามืดตามัว ต่อไปนี้ลองเปลี่ยนเป้าหมายระยะสั้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ที่ทำได้ไม่ยากและสามารถทำได้ในชีวิตประจำวันกัน
1.อาหารตามสั่ง ให้เลือกเมนูที่มีผักเยอะ ๆ ใช้น้ำมันน้อย ๆ เช่น สุกี้น้ำ ที่ใส่น้ำจิ้มน้อยหน่อย ราดหน้าก็เพิ่มคะน้าอีกสักนิด พวกผัดผักให้ตักแบบไม่เอาน้ำที่มัน ๆ หรือจะเลือกเพิ่มผักในเมนูต่าง ๆ
2.ก๋วยเตี๋ยว เส้นประมาณ 1 ทัพพี ลูกชิ้นไม่เกิน 5-6 ลูก หรือถ้าเป็นหมูสับ ก็ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ พูดง่าย ๆ ก็คือเส้นน้อย ๆ เน้นผักบุ้ง ถั่วงอกเยอะ ๆ สำคัญตรงที่อย่าลืมบอกคนขายว่างดใส่น้ำมันกระเทียมเจียวด้วย แล้วไม่ต้องปรุงเพิ่ม
3.ข้าวแกง ข้าวไม่เกิน 2-3 ทัพพี แล้วเลือกกับข้าวประเภทที่มีผัก และปรุงโดยใช้น้ำมันน้อย หลีกเลี่ยงเมนูที่มีน้ำราด ประเภทข้น ๆ หวาน ๆ เหนียว ๆ หรือสั่งรายการนั้นโดย “ไม่เอาน้ำราด” และเน้น “ขอผักเพิ่มด้วยจ้า”
4.ปรุงอาหารในบ้าน เลือกผักมาเป็นส่วนประกอบหลักในการทำอาหารเมนูต่าง ๆ หรือจัดเตรียมให้มีผักสด ผักต้มเพิ่มบนโต๊ะอาหาร เน้นปรุงอาหารด้วยวิธีนึ่ง ยำ ลวก ต้ม ตุ๋น แทนเมนูทอด เมนูแกงกะทิ หรือเมนูที่ใช้น้ำมันมาก ๆ
5.อาหารจานเดียว ถ้าชอบข้าวขาหมูก็ลดข้าวลง เลือกเอาเนื้อล้วนไม่ติดมัน ราดน้ำน้อย ๆ คะน้าเยอะ ๆ สำหรับข้าวมันไก่ก็ไม่เอาหนัง และจะดีกว่ามาก ถ้าเปลี่ยนข้าวมันเป็นข้าวสวยธรรมดาหรือข้าวกล้อง ขอแตงกวามากหน่อย
6.เครื่องดื่ม ถ้าชอบดื่มเครื่องดื่มหวาน ๆ ต้องค่อย ๆ ปรับพฤติกรรม เริ่มจาก “ขอหวานน้อย” เปลี่ยนครีมเทียม เป็นนมพร่องมันเนย นมขาดมันเนย นมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียม แล้วค่อย ๆ ลดความถี่ต่อสัปดาห์ลง เช่น จากวันละ 1-2 แก้ว เป็นสัปดาห์ละ 1-2 แก้ว สุดท้ายดื่มแต่น้ำเปล่าให้ได้วันละ 6-8 แก้ว 7.ของว่าง ค่อย ๆ เปลี่ยนจากขนมหวาน เบเกอรี่ ไอศครีม เป็นผลไม้หวานน้อย
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “บางกอกแอร์-TCEBจัดแคมเปญดูดไมซ์CLMVเข้าไทยโตไม่ยั้ง”
นายวรงค์ อิศรเสนา ณ อยุธยา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอก แอร์เวย์ส เปิดเผยว่า ได้จับมือสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” หรือทีเส็บ เปิดตัวแคมเปญ ‘Fly and Meet Double Bonus - Redefined’ เจาะตลาดนักเดินทางไมซ์จาก กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม (CLMV) เล็ง 2 กลุ่มหลักคือ องค์กรธุรกิจ (corporate) กับกลุ่มเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (incentive) โดยจะต้องมาเป็นหมู่คณะครั้งละอย่างต่ำ 30 คน แล้วจะได้รับสิทธิประโยชน์เป็นงบสนับสนุนและอื่น ๆ จากทางไทย
นางสาวนุช หอมรสสุคนธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการประชุมองค์กรและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล กล่าวว่า “นักเดินทางกลุ่มไมซ์จากกลุ่มประเทศ CLMV เติบโตติดอันดับสูงสุด โดยมียอดเดินทางเข้าไทยปี 2561 เพิ่มขึ้น 206 % จากปัจจัยหลักเศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่อง จึงได้ปรับสิทธิประโยชน์ในแคมเปญ ‘Fly and Meet Double Bonus - Redefined’ มีการมอบสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกมาไทยมากขึ้น
เช่น สนับสนุนงบประมาณการจัดงาน การให้บริการ Fast-track ณ สนามบินสุวรรณภูมิ แจกบัตรโดยสารฟรี 1 ใบ ต่อการจอง 30 ที่นั่ง สิทธิพิเศษขึ้นเครื่องเป็นลำดับแรก เพิ่มน้ำหนักสัมภาระได้มากกว่าปกติ จัดการแสดงศิลปวัฒนธรรมในงานประชุมหรืองานเลี้ยงของกลุ่มนักเดินทางเมื่อเดินทางถึงไทย
ข่าวที่สอง “จองตั๋วบางกอกแอร์รับฟรีบริการGrab200บาท”
สายการบินบางกอกแอร์วย์ส รายงานว่า ได้จัดมหกรรมมอบสิทธิประโยชน์พิเศษให้ผู้โดยสารโดยมอบส่วนลด 200 บาท เพื่อนำไปใช้บริการผ่านแอพลิเคชั่นของ Grab เลือกได้ทั้ง แกร็บไบค์ แกร็บคาร์ แกร็บแท็กซี่ แกร็บคาร์พลัส เมื่อจองตั๋วโดยสารผ่านเว็บไซต์ www.bangkokair.com หรือ บางกอกแอร์เวย์สโมบายแอพพลิเคชั่น แล้วนำไปใช้เดินทางตั้งแต่วันนี้– 31 มีนาคม 2562
ตามขั้นตอนผู้โดยสารจะต้องลงทะเบียนรับรหัสส่วนลด 200 บาท เพื่อใช้บริการแกร็บได้ที่ http://www.bangkokair.com/regisflypgfreeridejan19 ตั้งแต่วันนี้ - 4 กุมภาพันธ์ 2562 สอบถามได้ที่ศูนย์บริการบางกอกแอร์เวย์ส โทร 1771 ตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวที่สาม “วีระศักดิ์ส่งผลงานรับตั้งใหม่รายได้ไทยติดอัน4โลก”
ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในการขับเคลื่อนนโยบายการท่องเที่ยวตลอดปี 2561 เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงพร้อมจะส่งมอบผลงานหลังมีประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว เพราะการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมเสาหลักเศรษฐกิจที่ทำเงินเข้าประเทศสูงมาก แต่ควรขับเคลื่อนอย่างระมัดระวังเน้นการสร้างมาตรฐาน ความสะอาด ปลอดภัย ยั่งยืน ขานรับกับสิ่งที่ประเทศไทยทำไว้ในปี 2561 มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 38.27 ล้านคน ก่อให้เกิดรายได้ 2.01 ล้านล้านบาท และนักท่องเที่ยวไทย 164.24 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 1,068.18 พันล้านบาท ทำสถิติให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเติบโตแบบก้าวกระโดด ปัจจุบันไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นอันดับ 4 ของโลก
โดยเฉพาะเมืองรองที่นักท่องเที่ยวมีการขยายตัวสูงสุด 2 อันดับแรก คือ ราชบุรี และชัยนาท และยังพบมีในอีก 18 เมืองรอง มีรายได้จากการท่องเที่ยวขยายตัวสูงกว่าภาพรวมของเมืองรองทั้งหมด โดยเฉพาะบุรีรัมย์มีผู้มาเยือนเติบโตขสูงสุด 21% จากการจัดแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกหรือ MotoGP-รายการพีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018 สนามที่ 15 ซึ่ง ถือเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาที่ประสบความสำเร็จดีมาก เพราะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาชมการแข่งขันกว่า 205,000 คน สร้างรายได้แก่เข้าสู่บุรีรัมย์และจังหวัดในพื้นที่ใกล้เคียงรวมกว่า 3,100 ล้านบาท
ปี 2562 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ประเมินแนวโน้มจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 41.1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.5% สร้างรายได้ 2.21 ล้านล้านบาท เพิ่ม 10% แบ่งเป็นตลาดหลัก จากจีน 11.69 ล้านคน เพิ่ม 11% จากประเทศกลุ่มอาเซียน 11.31 ล้านคน เพิ่ม 10% และยุโรป 6.90 ล้านคน เพิ่ม 2%
ข่าวที่สี่ “มูลนิธิEDFชวนวิ่งเสมือนจริง4ระยะนำเงินช่วยเด็กยากไร้”
มูลนิธิ EDF (มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา) ร่วมส่งเสริมการมีสุขภาพดี ชวนวิ่ง “โครงการ CHILDRITYRUN (Virtual Run)” สมัครได้ทันทีทาง www.childrityrun.com ภายใน 28 กุมภาพันธ์ 2562 พร้อมชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ บัญชีเลขที่ 319-290169-9 ชื่อบัญชี มูลนิธิ EDF เพื่อโครงการพิเศษ สาขา (0319) งามวงศ์วาน แล้วสามารถวิ่งสะสมระยะทางได้ภายใน 43 วัน ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์-15 มีนาคม 2562 เพื่อนำรายได้ไปมอบโอกาสการศึกษาให้นักเรียนไทยที่ยากจนและขาดแคลนในประเทศไทย
สำหรับโครงการ CHILDRITYRUN (Virtual Run) มีระยะวิ่งโดยไม่จำกัดเพศ อายุ หรือสถานที่ในการวิ่งให้เลือก ได้แก่ 1.ระยะทาง 5 กิโลเมตร ค่าสมัครคนละ 499 บาท ได้รับเสื้อและเหรียญรางวัล 2. ระยะ 10 กิโลเมตร ค่าสมัครคนละ 599 บาท ได้รับเสื้อและเหรียญรางวัล 3.ระยะ 21 กิโลเมตร ค่าสมัคร 699 บาท ได้รับเสื้อและเหรียญรางวัล 4.ระยะพิเศษ 349 บาท ไม่วิ่งแต่รับเสื้อและบริจาคสมทบทุนการศึกษา ทั้งนี้มูลนิธิจะส่งใบเสร็จรับเงินค่าสมัครวิ่งให้ผู้สมัครวิ่งทางออนไลน์หลังจากที่ได้รับเงินโอนและตรวจสอบการสมัครเรียบร้อยแล้ว โดยใบเสร็จรับเงินสามารถนำไปใช้ลดหย่อนหักภาษีปี 2562 ได้ตามกฎหมาย
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น. ทาง สวท.97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น